The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นิตยสาร MDC Health ฉบับเดือนสิงหาคม ได้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2559 ในทุกปี คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนาได้จัดกิจกรรมทางสุขภาพเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยปีนี้ในวันที่ 12 สิงหาคม ทางคลินิกฯ ได้มีการจัดกิจกรรมในการตรวจสุขภาพทั่วไปและให้คำปรึกษาสุขภาพในด้านต่าง ๆ กิจกรรมทั้งหมดให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย กิจกรรมสุขภาพจัดเป็นประจำทุกปีในวันที่ 12 สิงหาคม และ 5 ธันวาคม ซึ่งกิจกรรมในแต่ละครั้งก็จะแตกต่างกันไป ขอเรียนเชิญผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ณ คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนาได้ในช่วงเช้าของวันดังกล่าว

อนึ่ง MDC Health magazine ในฉบับนี้ซึ่งเป็นเดือนของวันแม่ ความเป็นแม่ย่อมมุ่งหวังที่จะฟูมฟักลูกน้อย อุ้มชูเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมจนเติบใหญ่ การวางรากฐานชีวิตและสุขภาพ รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาการของลูกอย่างเหมาะสม เพื่อการเจริญเติบโตของลูกให้สมบูรณ์ทั้งกายและใจ นิตยสารฉบับนี้จึงได้เลือกสรรบทความที่น่าสนใจจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ในการให้ความรู้ความเข้าใจในการดูแลเด็กในด้านต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น โภชนาการที่เหมาะสมในเด็กแต่ละวัย วัคซีนในเด็ก ภาวะหนุ่ม-สาวก่อนวัย เด็กตาเขตาเหล่ การดูแลฟันในช่วงเด็ก รวมทั้งสิ่งที่ควรรู้ด้านจิตเวชในเด็ก สัตตลักษณ์เด็กเจเนอเรชั่นอัลฟ่าและเมื่อลูกพูดช้า เป็นต้น อันจะเป็นสาระประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย ใน MDC Health magazine ฉบับที่ 2 “รู้เพื่อสุขภาพลูกรัก”

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สาธิต โหตระกิตย์
กรรมการผู้อำนวยการคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

นิตยสาร MDC Health คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา ฉบับที่ 2 เดือนสิงหาคม 2559 : รู้เพื่อสุขภาพลูกรัก

นิตยสาร MDC Health ฉบับเดือนสิงหาคม ได้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2559 ในทุกปี คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนาได้จัดกิจกรรมทางสุขภาพเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยปีนี้ในวันที่ 12 สิงหาคม ทางคลินิกฯ ได้มีการจัดกิจกรรมในการตรวจสุขภาพทั่วไปและให้คำปรึกษาสุขภาพในด้านต่าง ๆ กิจกรรมทั้งหมดให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย กิจกรรมสุขภาพจัดเป็นประจำทุกปีในวันที่ 12 สิงหาคม และ 5 ธันวาคม ซึ่งกิจกรรมในแต่ละครั้งก็จะแตกต่างกันไป ขอเรียนเชิญผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ณ คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนาได้ในช่วงเช้าของวันดังกล่าว

อนึ่ง MDC Health magazine ในฉบับนี้ซึ่งเป็นเดือนของวันแม่ ความเป็นแม่ย่อมมุ่งหวังที่จะฟูมฟักลูกน้อย อุ้มชูเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมจนเติบใหญ่ การวางรากฐานชีวิตและสุขภาพ รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาการของลูกอย่างเหมาะสม เพื่อการเจริญเติบโตของลูกให้สมบูรณ์ทั้งกายและใจ นิตยสารฉบับนี้จึงได้เลือกสรรบทความที่น่าสนใจจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ในการให้ความรู้ความเข้าใจในการดูแลเด็กในด้านต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น โภชนาการที่เหมาะสมในเด็กแต่ละวัย วัคซีนในเด็ก ภาวะหนุ่ม-สาวก่อนวัย เด็กตาเขตาเหล่ การดูแลฟันในช่วงเด็ก รวมทั้งสิ่งที่ควรรู้ด้านจิตเวชในเด็ก สัตตลักษณ์เด็กเจเนอเรชั่นอัลฟ่าและเมื่อลูกพูดช้า เป็นต้น อันจะเป็นสาระประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย ใน MDC Health magazine ฉบับที่ 2 “รู้เพื่อสุขภาพลูกรัก”

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สาธิต โหตระกิตย์
กรรมการผู้อำนวยการคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา

Keywords: สุขภาพลูกรัก,สุขภาพเด็ก

ถ้าเกดิ การอุดกนั้ ทางเดนิ หายใจแบบสมบูรณ์ โดย
อากาศไม่สามารถผ่านเข้าไปในหลอดลมจนเกิดการ
หออยกุดซหเิ าจยนใทจป่ี อเมดื่อไดล้ มไอมอ่สกาซมเิ จานรถในผเา่ ลนอื เดขจา้ ะไลปดแรละกดเบั ปตล�ำ่ ่ยีลนง
การเกิดการหยดุ หายใจบ่อยๆ จะทำ�ใหป้ อดและหัวใจ
อท�อำ งกาซนิเหจนนกั ตข่ำ�น้ึ ลงบคา่่ออยอๆกซเิรจ่านงใกนารยา่ ตงก้อางยปไรมับค่ ตงทัวใ่ี หเ้อมยอ่ื ูค่ในา่
ระยะหลบั ตื้น เพอ่ื ไม่ให้กล้ามเน้อื คลายตวั และท�ำ ให้
ทางเดนิ หายใจแคบลงเหมอื นทเ่ี กดิ ขน้ึ ในระยะหลบั ลกึ
ดังนั้นระยะการนอนหลับจะไม่สามารถเข้าสู่ภาวะ
หลบั ลกึ ได้อย่างราบรน่ื และเตม็ ทเี่ หมอื นเด็กปกติ ซึ่ง
อาจส่งผลต่อการหลั่งของ growth hormone และ
การพัฒนาสมองโดยเฉพาะเรอื่ งเรยี นรู้

ความสำ�คญั ของการนอนหลับ
1. เพอื่ ฟน้ื ฟูหรือซ่อมแซมระบบการ
ทำ�งานของร่างกาย (Restore &
Repair)
2. เพื่อพักระบบการท�ำ งานต่างๆ ของ
ร่างกาย และสะสมพลังงานเพือ่ ไว้ใช ้
ในวันตอ่ ไป (Conserve energy)
3. เพ่ือใหส้ มองได้สะสม หรอื เรยี บเรยี ง
ความคิดขณะหลับ หรือลบขอ้ มูลท ่ี
ไมจ่ ำ�เป็นออกจากสมอง ซง่ึ ในเดก็ จะ
มคี วามสำ�คัญมาก ถา้ การนอนหลบั
ไม่ต่อเนอื่ งจากการหยดุ หายใจอาจสง่
ผลตอ่ การเรียนรู้ได้

กลไกการเกิดนอนกรนและหยดุ หายใจขณะหลับในเด็ก

ในคนปกติเม่ือเรานอนหลบั กล้ามเนอ้ื ในร่างกายจะผอ่ นคลาย ท�ำ ให้เกิดการหย่อนตวั ของกล้ามเนอ้ื ทค่ี อหอย
และล้ิน สง่ ผลให้ล�ำ คอแคบลงแตจ่ ะไมเ่ กดิ การนอนกรนแมม้ กี ารแคบลงของทางเดนิ หายใจสว่ นตน้ กต็ าม แตเ่ มอื่ มี
สาเหตทุ ท่ี �ำ ใหท้ างเดนิ หายใจแคบลงมากกว่าปกติจะเกิดการเสียงดังของลมท่ีวิ่งผ่านทางเดินหายใจที่แคบร่วมกับการ
สั่นสะเทอื นของเนอื้ เย่ือบรเิ วณทางเดินหายใจสว่ นทแ่ี คบน้ัน จนทำ�ใหเ้ กดิ เสยี งกรนเกิดขึน้

49

สาเหตุการนอนกรนและหยดุ หายใจขณะหลับในเดก็

สาเหตกุ ารเกดิ ภาวะหยดุ หายใจขณะหลบั มหี ลายสาเหตุ เชน่ ตอ่ มทอนซลิ โต (Palatine tonsilsper
trophy) และหรอื ตอ่ มแอดดนิ อยส์โต (Adenoid hypertrophy) ภาวะอว้ น (Obesity) ภูมิแพ้ (Allergic
rhinitis) สันจมกู คด (Deviated nasal septum) กระดูกโครงหน้าผิดรปู (Craniofacial anomalies)
หรอื กลุ่มของโรคทส่ี ง่ ผลให้กล้ามเน้ืออ่อนแรง (Down syndrome Muscular dystrophy) เป็นต้น
สาเหตเุ หล่านที้ ำ�ใหท้ างเดินหายใจส่วนต้นแคบลง จนเกิดการนอนกรนและหยดุ หายใจขณะหลบั ใน
เดก็ สาเหตุทพี่ บบ่อย คือ ต่อมทอนซลิ และหรือตอ่ มแอดดนิ อยส์โต ภูมแิ พ้ และภาวะอ้วน ซงึ่ อาจ
รว่ มกันหรอื เกิดจากเพียงสาเหตุเดียว

อาการและอาการแสดง

อาการที่พบบ่อยทสี่ ดุ คือนอนกรนเสยี งดงั
หายใจแรง การหยุดหายใจเป็นช่วงๆ สำ�ลัก
อากาศหายใจ นอนกระสับกระส่าย สะดุ้ง
ตื่นกลางคืน อาจมีฝันร้ายหรือปัสสาวะรด
ที่นอนได้ น้ำ�หนักตัวน้อยไม่เป็นไปตามเกณฑ์
ในช่วงต่ืนนอนตอนเช้าอาจมีอาการปวด
ศีรษะ ปากแห้ง มีปัญหาในการเรียน ความจำ�
ซนมาก ไฮเปอร์ สมาธิสั้น ซึ่งจะแตกต่าง
จากอาการในกลุ่มผู้ ใหญ่ซึ่งมักแสดง
อาการง่วงนอนหรือนอนหลับช่วงกลางวัน

การวนิ ิจฉยั นอนกรนและหยดุ หายใจขณะหลบั ในเดก็

การวนิ จิ ฉยั ทเ่ี ทย่ี งตรงและแมน่ ย�ำ ทส่ี ดุ ในปจั จบุ นั คอื การตรวจการนอนหลบั (Polysomnography)
ซึ่งนอกจากช่วยการวินิจฉัยแล้วยังบอกความรุนแรงของภาวะนี้ได้ด้วย แต่อย่างไรก็ดีปัจจุบันค่า
ใชจ้ า่ ยในการตรวจนย้ี งั คงมรี าคาสงู อยู่ โดยการตรวจการนอนหลบั เดก็ จะตอ้ งมานอนทโ่ี รงพยาบาล
1 คนื และต้องตดิ sensor ตา่ งๆ ไวต้ ามรา่ งกาย เชน่ ศีรษะ จมูก ใต้คาง หน้าอก หน้าทอ้ ง น้วิ มือ
และขา เพ่ือใช้ประมวลผลการตรวจ ดังนั้น เด็กจำ�เป็นต้องให้ความร่วมมือในการติด sensor
เหลา่ น้ี เพอ่ื ให้ไดค้ า่ การตรวจทน่ี า่ เชอ่ื ถอื ทส่ี ดุ ในกรณที เ่ี ดก็ ไม่ใหค้ วามรว่ มมอื และมคี วามจ�ำ เปน็ ตอ้ ง
ตรวจการนอนหลับ อาจต้องให้เด็กหลับก่อนจึงจะติด sensor เหล่านี้ได้ซึ่ง Technician ต้องมี
ความชำ�นาญอย่างมาก
โดยปกตผิ ลการตรวจใช้ดัชนกี ารหยดุ หายใจใน 1 ชั่วโมง (Apnea index : AI) ในการวนิ จิ ฉัย
และประเมนิ ความรนุ แรง ถ้าคา่ AI≥ 1 ถอื วา่ มีความผดิ ปกติ ถา้ ค่า AI>10 จดั ว่าเป็นภาวะ
หยดุ หายใจข้นั รนุ แรง ซ่ึงการแบง่ ค่าระดับความรุนแรงจะแตกต่างจากผู้ใหญ่

A50ugust 2016

การรักษาการนอนกรนและ
หยุดหายใจขณะหลับในเด็ก

การรกั ษาขึ้นอยูก่ ับสาเหตุและความรุนแรง ซึ่งได้จากการซัก
ประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์
ส่องกลอ้ ง หรอื การตรวจการนอนหลับ ถ้าพบว่าสาเหตุที่ทำ�ให้
เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลบั สามารถแก้ไขได้เชน่ ภาวะภูมแิ พ้
แนะน�ำ การรักษาดว้ ยการหลีกเลยี่ งส่ิงทแ่ี พ้ รบั ประทานยาและ
หรอื พน่ ยา เดก็ อว้ นใหล้ ดน�ำ้ หนกั ซง่ึ จะชว่ ยลดการนอนกรนได้
อย่างไรกด็ ี สาเหตุสว่ นใหญม่ ักเกดิ จากตอ่ มทอนซลิ และหรือ
ต่อมแอดดินอยส์โต เมอ่ื พบวา่ ผูป้ ว่ ยมีภาวะนอนกรนหยดุ หายใจ
ในระดบั ไมร่ นุ แรงอาจใชย้ าพน่ จมกู (Nasal steroid) และยา
รับประทานกลุ่ม Ant leukotriene เพ่ือการรักษาและตรวจ
ติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งคนไข้กลุ่มนี้มักตอบสนองดี
กับยารวมทั้งผลข้างเคียงของยานั้นน้อยมาก ส่วนกลุ่มที่อาการ
รนุ แรงหรอื รกั ษาดว้ ยยาแลว้ ไดผ้ ลไมด่ นี กั การผา่ ตดั ตอ่ มทอนซลิ
และหรือต่อมแอดดินอยส์ออก จะช่วยลดการนอนกรนและลด
ภาวะแทรกซ้อนจากโรคนี้ได้ ปัจจบุ นั ความปลอดภัยในการผา่ ตัด
ตอ่ มทอนซลิ และตอ่ มแอดดนิ อยสค์ อ่ นขา้ งสงู แตย่ งั ตอ้ งเฝา้ ระวงั
ความเสีย่ งต่อภาวะแทรกซอ้ นในการผา่ ตัดในเด็กบางกล่มุ เช่น
เด็กอ้วน เด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี และเด็กที่มีการหยุดหายใจ
อยู่ในระดับรุนแรง นอกจากนี้การผ่าตัดต่อมทอนซิลและหรือ
ต่อมแอดดินอยส์นั้นไม่เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือทำ�ให้
ภมู ิคุ้มกันของเด็กต�ำ่ ลง
ดังนั้นเมื่อพบว่าบุตรหลานของท่านมีภาวะนอนกรน จึงควร
พามาพบและปรึกษาแพทย์เพ่ือรับการวินิจฉัยสาเหตุ แนวทาง
การรักษาในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

51

รบั มือกับไข้หวดั ใหญ่

นายแพทยส์ มบูรณ์ จนั ทร์สกุลพร

กมุ ารแพทยผ์ เู้ ชย่ี วชาญด้านโรคภมู ิแพ้และภูมคิ ุ้มกันวิทยา

A52ugust 2016

ในทกุ ๆ ปีของประเทศไทยเมอื่ เข้าสู่ฤดฝู นมกั จะมีการระบาดของโรคตดิ ต่อหลายชนดิ หนึ่งในนน้ั คือ การ
ระบาดของโรคไขห้ วดั ใหญ่ตามฤดกู าลซ่ึงมกั จะมาพร้อมๆ กับฤดูฝนเชน่ กัน ซึง่ เช้ือท่ีเปน็ สาเหตุของการระบาด
คือ เชื้อไข้หวดั ใหญช่ นิดเอ (H1N1 และ H3N2) และชนดิ บี โดยทัว่ โลกพบผปู้ ่วยโรคไข้หวดั ใหญท่ มี่ ีอาการ
รุนแรงประมาณ 3 – 5 ล้านรายต่อปี ในจำ�นวนนี้เสยี ชวี ติ ถงึ ประมาณ 250,000 – 500,000 ราย สำ�หรับ
ประเทศไทยขอ้ มูลการเฝา้ ระวงั โรคไข้หวัดใหญท่ างระบาดวทิ ยาต้ังแต่วันที่ 1 ม.ค. – 13 มิ.ย. 2559 พบผูป้ ว่ ย
จ�ำ นวน 51,672 ราย จาก 77 จังหวดั คดิ เปน็ อัตราผ้ปู ่วย 79 รายตอ่ ประชากรแสนรายและเสียชีวติ จำ�นวน 3
ราย โดยกลุ่มอายทุ ี่พบว่าปว่ ยด้วยโรคไขห้ วดั ใหญม่ ากทสี่ ุดถงึ ร้อยละ 23 ได้แก่ กลุ่มผปู้ ว่ ยเด็กอายุ 7 – 14 ปี
และพบทเ่ี ขตภาคกลาง จงั หวดั กรุงเทพมหานครมากท่ีสดุ ถงึ 280 รายต่อประชากรแสนราย ซึ่งมจี ำ�นวนผู้ป่วย
มากข้นึ เร่ือยๆ เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมลู ย้อนหลังในปีทผ่ี ่านๆ มา

เป็นท่ีทราบกันดีอยู่แล้วว่าโรคไข้หวัดใหญ่
เปน็ โรคของระบบทางเดนิ หายใจ ท่เี กิดจาก
การตดิ เชอื้ ไวรสั ไขห้ วดั ใหญอ่ ย่างเฉียบพลนั ผู้
ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศรี ษะ ปวดกลา้ มเน้อื
อ่อนเพลีย เย่ือบโุ พรงจมกู อกั เสบ เจบ็ คอ และมี
อาการไอแหง้ ๆ โดยอาการไอมักจะรนุ แรงและเปน็
ไดน้ านถงึ 2 สปั ดาหข์ น้ึ ไป สว่ นไขแ้ ละอาการอน่ื ๆ
มักจะหายไดเ้ องภายใน 5 – 7 วนั ในเดก็ อาจ
พบมีอาการผิดปกตขิ องระบบทางเดินอาหาร เชน่
คลืน่ ไส้ อาเจียน และท้องรว่ งรว่ มดว้ ยได้ ซงึ่ ไม่
คอ่ ยพบในผู้ใหญ่ การวนิ จิ ฉยั โรคไขห้ วัดใหญ่น้นั
นอกเหนือจากการซักประวัติและอาการของผู้ป่วย
เปน็ หลกั แล้ว การตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการแบบ
รวดเร็ว ณ จดุ คดั กรองผ้ปู ่วยจะช่วยในการวินิจฉยั
และมีประโยชน์มากในการยืนยันโรคอย่างรวดเร็ว
เม่อื มกี ารระบาด ซ่ึงเป็นการตรวจสารแอนตเิ จน
ของเชอ้ื ไวรสั โดยตรง ในเซลลจ์ ากโพรงจมกู และ
สารคดั หลั่งจากโพรงจมูก

53

รปู ท่ี 1 ภาพเช้อื ไวรสั ไข้หวดั ใหญ่ H1N1 เชอ้ื ไวรัสไขห้ วัดใหญ่ หรอื Influenza virus ที่เปน็ สาเหตุของ
โรคไข้หวดั ใหญ่น้ันมอี ยู่ 3 ชนิดใหญ่ๆ ไดแ้ ก่ ชนดิ เอ บี และซี
แต่มเี พียงเช้อื ไวรสั ไข้หวดั ใหญ่ชนดิ เอและบีเทา่ นัน้ ทีเ่ ปน็ สาเหตุของ
การระบาดตามฤดกู าล สว่ นไวรัสไขห้ วดั ใหญ่ชนิดซี พบเปน็ สาเหตุ
เพยี งประปรายและเกิดการระบาดในวงจ�ำ กดั เพยี งเลก็ นอ้ ยเทา่ นน้ั
ซง่ึ เชอ้ื ไวรสั ไข้หวดั ใหญ่ชนิดเอนัน้ มีสายพันธุย์ ่อยๆ จำ�นวนมากหลาก
หลาย แตม่ เี พยี ง 2 สายพนั ธเ์ุ ทา่ นน้ั คอื ชนดิ เอ (H1N1) (รปู ท่ี 1)
และชนดิ เอ (H3N2) (รปู ท่ี 2) เทา่ น้ันทเ่ี ปน็ สาเหตุของการก่อโรคใน
มนุษย์ อย่างไรก็ดีเช้อื ไวรสั ไข้หวัดใหญ่ชนดิ เอสามารถเกิดการกลาย
พันธ์อุ ยา่ งต่อเนอ่ื งในชว่ งระหวา่ งกระบวนการเพิม่ จ�ำ นวนของไวรสั ได้
ทำ�ให้ตอ้ งมีปรบั สว่ นประกอบของวคั ซีนปอ้ งกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี
การแพร่กระจายของเช้อื ไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้นมี 2 วิธี คือ การแพร่
กระจายในอากาศผา่ นทางฝอยละอองขนาดใหญ่
โดยการไอหรือจามของผ้ปู ่วยซึ่งเปน็ วิธกี ารแพร่กระจายหลักของโรค
อีกวิธีหนึ่งก็คือ การติดต่อโดยการสัมผัสใกล้ชิดทั้งทางตรงและทาง
อ้อม ซ่ึงการแพร่เช้ือของไวรัสอยทู่ ป่ี ระมาณ 3 - 5 วนั ในผู้ใหญ่ แต่
ในเดก็ เลก็ อาจแพร่กระจายได้นานถงึ 7 – 10 วัน

รปู ท่ี 2 แบบจ�ำ ลองโครงสร้างของเช้อื ไวรัสไข้หวดั ใหญ่ ชนดิ เอ

ในการรับมือกับไข้หวัดใหญ่นั้น นอกเหนือจากการวินิจฉัยที่ถูกต้องโดยแพทย์แล้ว การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่โดยการ
ใช้ยาต้านไวรัสนั้น ควรพิจารณาใช้เฉพาะในผู้ป่วยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ผู้ป่วยไข้หวัด
ใหญท่ ี่เขา้ รับการรักษาในโรงพยาบาล และใช้เฉพาะในช่วงระยะเวลาทม่ี ีการระบาดเทา่ น้นั ยาตา้ นไวรสั ไข้หวัดใหญด่ ังกล่าวมี
2 กลุ่ม ได้แก่
1. ยากล่มุ ยับยง้ั เอนไซม์นิวรามินิเดส (neuraminidase inhibitors) คอื ยาโอเซลทามเิ วียร์ (oseltamivir) ชนดิ กนิ และ
ยาซานามเิ วียร์ (zanamivir) ชนิดผงส�ำ หรับพน่ เขา้ ทางจมูก ซึ่งมีความปลอดภยั และมปี ระสิทธิภาพทัง้ ในการปอ้ งกนั และรักษา
โรคไขห้ วัดใหญ่ชนดิ เอ และบี
2. ยากลุม่ อะดาแมนตาเนส (adamantanes) คอื ยาอะแมนตาดนี (amantadine) และยาไรแมนตาดนี (rimantadine)
ซง่ึ มปี ระสทิ ธิภาพในการป้องกันและรักษาโรคไข้หวัดใหญช่ นดิ เอ แตไ่ มม่ ีผลกบั ชนดิ บี และพบวา่ ผู้ปว่ ยร้อยละ 15 – 30 มกี าร
ดอื้ ต่อยาอะดาแมนตาเนส (adamantanes) ดังน้นั จึงไมแ่ นะน�ำ ให้ใช้ยานี้ในการรกั ษา
ในกรณที จี่ ำ�เปน็ ตอ้ งใชย้ าต้านไวรัสสำ�หรับการรกั ษานน้ั ให้รับประทานวนั ละ 2 ครงั้ ต่อเนอื่ งตดิ ตอ่ กันนาน 5 วนั และ
ส�ำ หรบั การป้องกันหลังสมั ผัสโรคให้รบั ประทานวนั ละ 1 ครง้ั นานตดิ ตอ่ กัน 7 – 10 วนั หลังการสัมผสั และสำ�หรับการปอ้ งกนั
โรคนั้น ทีมแพทย์ พยาบาล และเจา้ หน้าท่ีสาธารณสขุ จะตอ้ งให้ข้อมลู ดา้ นสุขศกึ ษาแก่ประชาชน และบคุ ลากรสาธารณสขุ
เกี่ยวกับการดูแลสขุ อนามยั ส่วนบคุ คล โดยเฉพาะการล้างมือ และมารยาทในการไอ จาม ซึง่ จะท�ำ ให้เกิดการแพร่กระจายเชอื้
ผา่ นการไอและจามโดยท่ีไมไ่ ดป้ อ้ งกัน และการแพร่ผา่ นจากมือทเี่ ปอื้ นเช้ือไวรัสไปสเู่ ยอ่ื บผุ วิ ในโพรงจมูกและปากได้
A54ugust 2016

การรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่อีกวิธีหนึ่งที่สำ�คัญคือ การฉีด

วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ซึ่งชนิดของวัคซีนที่นำ�มาใช้มีทั้งที่เป็น
ชนิดเชื้อตาย (inactivated influenza vaccines) และชนิดเชื้อเป็น
(live vaccines) ซึ่งหากส่วนประกอบของเชื้อไวรัสที่นำ�มาผลิตวัคซีน
ตรงกับสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่ระบาดอยู่จะสามารถป้องกันการติด
เชื้อได้สูงถึงร้อยละ 70 – 90 ซึ่งวัคซีนชนิดเชื้อตายสามารถช่วยลด
ความรุนแรงของโรคและการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ร้อยละ 50 – 60
รวมทั้งลดการเสียชีวิตได้ประมาณร้อยละ 80

โดยการใหว้ คั ซีนเข็มเดยี วน้ันเพยี งพอส�ำ หรบั การปอ้ งกนั การติดเชอื้ ไวรัสไข้หวัดใหญช่ นดิ เอ และบี แต่ในเด็กทอ่ี ายุ
น้อยกว่า 9 ปี ที่ไมเ่ คยไดร้ บั วคั ซนี ป้องกนั โรคไข้หวัดใหญ่มาก่อนนน้ั มคี วามจ�ำ เปน็ ตอ้ งไดร้ บั วัคซนี 2 เข็มห่างกัน 1 เดือน และ
ควรใหว้ คั ซนี ในชว่ งเวลากอ่ นท่ีไขห้ วดั ใหญ่จะเกิดการระบาดขึน้ ในแตล่ ะปีจงึ จะเหมาะสมท่สี ุด
ในกรณที ี่เกิดการระบาดของโรคไข้หวดั ใหญ่ในพ้ืนท่ีใดๆ ก็ตาม นอกเหนือจากการรักษาและการลดการแพรก่ ระจายเช้ือ
ท่ีกล่าวมาขา้ งต้นแล้วน้ัน สิ่งทต่ี อ้ งปฏิบัตเิ พ่ิมเติมคอื ควรจ�ำ กัดพ้ืนทข่ี องผปู้ ว่ ยซึง่ ถา้ เป็นผู้ใหญ่ควรใหห้ ยุดงานและถา้ เป็น
เดก็ วัยเรยี นกค็ วรใหห้ ยดุ เรยี นเชน่ กัน หรือปิดโรงเรียนหากจ�ำ เปน็ ถึงแมย้ ังไม่ได้มีการพิสจู นว์ ่าเป็นมาตรการควบคมุ โรคทีม่ ี
ประสิทธิภาพที่จะลดผลกระทบท่ีเกดิ ในพน้ื ทรี่ ะบาดของโรคไข้หวดั ใหญต่ ามฤดูกาลได้ แตก่ เ็ ป็นมาตรการควบคุมการระบาดท่ี
แนะน�ำ ให้ใชเ้ มือ่ มีการแพร่ระบาดของโรค และควรมีการสนบั สนุนยาตา้ นไวรสั อยา่ งเพยี งพอตามความต้องการ เพอ่ื การรักษา
ผ้ปู ่วยโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีความเส่ียงสูง

55

ใชย้ าทุกครัง้ ตอ้ งใชอ้ ย่างสมเหตผุ ล โดยเฉพาะในเดก็

ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยน์ ายแพทยพ์ ิสนธิ์ จงตระกลู

อายรุ แพทย์ วฒุ บิ ตั รกมุ ารเวชศาสตร์

A56ugust 2016

คำ�แนะน�ำ ทแ่ี พทยใ์ ห้กบั ผปู้ กครอง 1. ยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์และทำ�ให้เกิดผลข้างเคียง
นอกจากน้ันยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการดื้อยาของแบคทีเรีย
องค์การอนามัยโลกระบุว่า “มากกว่าครึ่งหนึ่งของ ในชุมชน ซงึ่ จะส่งผลเสียต่อการรักษาโรคอ่นื ๆ ทจ่ี ำ�เป็น
การใช้ยาเปน็ ไปอยา่ งไมส่ มเหตุผล” ลองมาพจิ ารณากนั ดวู า่ ต้องใช้ยาปฏิชวี นะ
ขอ้ ความขา้ งตน้ เปน็ จรงิ หรอื ไมใ่ นประเทศไทย โดยพจิ ารณา 2. ดื่มน้ำ�ให้เพียงพอ แต่ไม่มากเกินไป เพราะจะทำ�ให้
จากตวั อยา่ งของเดก็ ทเ่ี ปน็ โรคหวดั (common cold รหสั ระดับโซเดียมในเลือดต่ำ�เกินไป
ICD-10 J00) 3. เดก็ อาจเบื่ออาหารในชว่ งนี้ ใหก้ นิ เท่าท่เี ดก็ ตอ้ งการเมือ่
เดก็ ชายหรือเดก็ หญงิ อายุ 4 ขวบ มีอาการเจบ็ เดก็ หวิ
คอ น�ำ้ มกู ไหล จาม คดั จมกู เสียงแหบ ไอ และมีไขว้ ัดได้ 4. ให้เด็กพักผ่อนอย่างพอเพียง แต่ไม่จำ�เป็นต้องจำ�กัด
38ºC อาการทงั้ หมดเพง่ิ เปน็ มาได้ 1 วนั หลงั การตรวจ activity ปกติของเด็ก
ร่างกายไม่พบลักษณะที่เข้าข่ายการติดเชื้อแบคทีเรีย 5. อาจบรรเทาอาการตา่ งๆ ดว้ ยวธิ กี ารดงั ต่อไปนี้ เช่น
(Group A Streptococcus) ทค่ี อหอยและตอ่ มทอนซลิ การสูดหายใจไอน้ำ�ร้อนเข้าทางจมูกอาจช่วยบรรเทาอาการ
การอกั เสบของหสู ว่ นกลาง หรอื ปอดบวม จงึ ใหก้ ารวนิ จิ ฉยั คคัดือกจมารูกนั่งแในตหต่ ้อ้องงนร้ำ�ะแวังลโ้วดเนปนิด้ำ�นร้ำ�้อรน้อลนวใกห้ไหวลิธจีหานก่ึงกท๊อ่ปี กลนอำ้�ดร้อภนัย
วา่ เปน็ โรคหวดั หรอื ฝักบัว ใช้ข้ผี ้งึ เช่น vapour rub ทาทีห่ นา้ อก อาจชว่ ย
ยาที่เด็กชายหรือเด็กหญิง มักได้รับในประเทศไทย บรรเทาอาการให้กับเด็กเล็กและเด็กทารก แต่ไม่ควร
ประกอบด้วย ทาที่จมูกโดยตรง ถ้าเด็กทำ�เป็นให้ลองกลั้วคอด้วยน้ำ�
1. ยาปฏชิ วี นะ เกลืออาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอหรืออาการแน่นจมูก
2. ยาตา้ นฮิสตามีน
3. ยาบรรเทาอาการคดั จมูก 57
4. ยาแก้ไอ ละลายเสมหะ
5. ไวตามนิ ซี
6. ยาลดไข้
หากเดก็ รายนบ้ี งั เอญิ ไปปว่ ยทล่ี อนดอน ประเทศองั กฤษ
คุณพอ่ และคณุ แม่ พาไปพบแพทย์ GP ที่ Surgery
(ทอ่ี งั กฤษแพทยร์ ายแรกที่จะพบไดค้ ือแพทย์ GP ไม่ใช่
กุมารแพทย์ และคลินิกรักษาโรคที่อังกฤษเขาเรียกว่า
surgery) ตอ่ ไปนค้ี อื ค�ำ แนะน�ำ และการรกั ษาทเ่ี ดก็ จะไดร้ บั
(อา้ งองิ จาก NICE guidance, Common Cold. July 2015.
http://cks.nice.org.uk/common-cold#!management)

หยดน้ำ�เกลือ normal saline ลงในรูจมูกขา้ งละ 1-2 หยด กนิ หมอทอ่ี งั กฤษกจ็ ะตอบวา่ ท�ำ ไมจงึ ขอ ในเมอื่ ลกู ไมไ่ ดเ้ ปน็
อาจชว่ ยบรรเทาอาการแน่นจมูก โดยเฉพาะในเด็กทารก โรคภมู แิ พ้ ยาเหลา่ น้ีไมเ่ คยขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในโรคหวัด
อาจชว่ ยใหด้ ูดนมไดด้ ขี นึ้ เพราะไมม่ ปี ระสทิ ธผิ ลใด ๆ (Non-sedating antihistamines
6. ไมม่ กี ารรักษาใดที่ช่วยรกั ษาโรคหวัดใหห้ ายเร็วข้นึ are completely ineffective.)
7. ยาส่วนใหญ่ไม่ช่วยบรรเทาอาการให้เด็กเล็กและอาจ หมายเหตุ : คำ�แนะนำ�เกี่ยวกับยาบรรเทาอาการหวัด-
เป็นอันตราย ดังนั้นแพทย์จะไม่แนะนำ�ให้ใช้ยาต่อไปนี้ ไอ ข้างต้นสอดคล้องกับคำ�แนะนำ�จากราชวิทยาลัยกุมาร
เนอื่ งจากในประเทศองั กฤษ (และแคนาดา ออสเตรเลยี แพทย์แห่งประเทศไทย www.thaipediatrics.org/cpg_
นิวซแี ลนด์) ยกเลิกการใช้ยาเหล่านี้แล้วในเด็กอายุน้อย file/CPG.doc
กว่า 6 ขวบ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2009 https:// 8. ไวตามินซี ไม่เป็นประโยชน์เม่ือเป็นหวัดแล้ว อาจช่วย
www.gov.uk/drug-safety-update/over-the-counter- ป้องกันโรคหวัดได้บ้างหากใช้ ในขนาดสูงติดต่อกันเป็น
cough-and-cold-medicines-for-children เวลานานกบั บคุ คลบางจ�ำ พวก เชน่ นกั เล่นสกี ทงั้ น้ยี งั ไม่
7.1 ยาแก้ไอ เช่น dextromethorphan ควรใหเ้ ด็กอมเล่นเพราะจะท�ำ ให้ฟันผุ
7.2 ยาขบั เสมหะ เชน่ guaifenesin
7.3 ยาบรรเทาอาการคัดจมูก เช่น ephedrine,
oxymetazoline, phenylephrine, pseudoephedrine
และ xylometazoline
7.4 ยาต้านฮิสตามีน เช่น brompheniramine,
chlorphenamine (chlorpheni-ramine) และ
diphenhydramine ซึ่งหากคุณพ่อและคุณแม่บอกหมอ
ว่าอยากได้ยาแก้แพ้ชนิดง่วงน้อย เช่น cetirizine ให้ลูก

A58ugust 2016

ยาที่แพทย์ให้กับผู้ปกครอง อยา่ งยาวแทนการใหย้ าหลายขนานกบั เด็กหรอื ไม่
การใชย้ าน้อยทส่ี ุดเทา่ ทจ่ี ำ�เป็น เปน็ หัวใจสำ�คัญของการใช้
จะมีขนานเดียวคือ ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล หรือใน ยาอย่างสมเหตุผล เด็กต้องได้รับการปกป้องจากอันตราย
บางกรณีอาจแนะนำ�ให้ใช้ร่วมกับ ไอบูโพรเฟน ของยา จากการสะสมเชื้อดื้อยาไว้ในร่างกาย https://
กรณีข้างต้นที่กล่าวมา เม่ือเด็กป่วยเป็นหวัดและ www.youtube.com/watch?v=EMxuoKdVT58 และจาก
ไปพบแพทย์ที่ประเทศอังกฤษ ผู้ปกครองจะได้รับแนะนำ� ความไมส่ ะดวก ความวนุ่ วาย ทพ่ี อ่ แมต่ อ้ งน�ำ ยาหลายขนาน
อย่างยาว และได้ยาเพียง 1 ขนาน คอื ยาลดไข้ เนอื่ งจาก ท่ีไมจ่ �ำ เปน็ ไปปอ้ นใหก้ บั เดก็
ยาอ่ืน ๆ ไม่เปน็ ประโยชนต์ อ่ อาการของเด็ก ไม่ชว่ ยใหห้ าย มากกว่า 7 ปแี ล้วทเี่ ดก็ เลก็ อายุตำ�่ กวา่ 6 ขวบใน
เรว็ ข้นึ ไมป่ ้องกนั โรคแทรกซ้อน แตก่ อ่ ใหเ้ กดิ อันตรายจาก องั กฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซแี ลนด์ ได้รับการ
ผลขา้ งเคยี งและสะสมเชอ้ื ดอ้ื ยาไว้ในรา่ งกายของเด็ก ซ่ึง ปกปอ้ งจากยาท่ีใชบ้ รรเทาอาการหวดั -ไอ ถงึ เวลาหรอื ยงั ท่ี
แพรก่ ระจายสูบ่ ุคคลรอบขา้ งและชมุ ชนได้ นอกจากน้ันยัง เราจะประกาศเจตนารมณร์ ว่ มกนั วา่ “การใชย้ าทกุ ครง้ั ตอ้ ง
ทำ�ใหเ้ สยี คา่ ใช้จา่ ยเพม่ิ ข้ึนจ�ำ นวนมากโดยไม่จำ�เป็นอกี ดว้ ย ใชอ้ ยา่ งสมเหตผุ ล โดยเฉพาะในเดก็ ”
ในประเทศไทย แม้ผู้ปกครองสว่ นใหญ่จะเคยไดร้ บั ยา
หลายขนานในการรกั ษาโรคหวัด ไอ เจ็บคอ รวมทง้ั ได้รับ 59
ยาปฏชิ ีวนะอยา่ งสมำ�่ เสมอมากอ่ น แต่เมื่อไดร้ บั คำ�แนะน�ำ
ตามแนวทางที่กลา่ วมาข้างต้น (ซ่ึงเปน็ แนวทางทีอ่ า้ งอิง
จากหลักฐานเชิงประจกั ษ)์ ผู้ปกครองเหลา่ นนั้ กม็ ักจะเขา้ ใจ
และไม่ได้เรยี กรอ้ งยาหลายขนาน แม้จะมขี ้อสงสยั วา่ จรงิ
หรือที่ลูกจะหายได้จากการไม่ใช้ยาเลยหรือใช้ยาเพียง
1 ขนานเพื่อบรรเทาอาการไข้ แต่จากการนัดมาติดตาม
อาการก็จะพึงพอใจที่ลูกอาการดีขึ้นหรือหายได้ด้วยการ
ใช้ยาน้อยขนาน
เด็ก เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัวและบุคคลรอบ
ข้างที่ได้พบเห็น ความรักที่พ่อแม่แสดงออกคือการนำ�ไป
พบแพทย์แทบจะในทันทที ีเ่ ด็กปว่ ย ดว้ ยความหวังวา่ ลูกจะ
ได้รับการรักษาทดี่ ที ่ีสุด เราควรพจิ ารณาร่วมกนั ว่า การใช้
ยาหลายขนานที่ไม่มีประโยชน์จริงต่อโรค เปน็ การรักษาท่ี
“ดที ่ีสุด” ทเี่ ดก็ ควรได้รบั หรือไม่ พอ่ แมค่ วรไดร้ บั ค�ำ อธบิ าย

การปอ้ งกนั โรคภูมิแพ้

รองศาสตราจารย์แพทยห์ ญิงชลีรัตน์ ดิเรกวัฒนชยั

กมุ ารแพทยผ์ ู้เชี่ยวชาญดา้ นโรคภูมิแพ้

โรคภมู แิ พ้ เป็นโรคท่มี ีปัญหาด้านสุขภาพ มผี ลตอ่
คุณภาพชวี ติ การเรยี นรู้ และการด�ำ เนนิ ชวี ติ ของผปู้ ว่ ย
และครอบครัว มีคา่ ใชจ้ า่ ยในการดูแลรกั ษาสงู ทั่วโลก เชน่
สหรัฐอเมรกิ า แคนาดา และออสเตรีย โดยแต่ละประเทศ
ใหค้ วามสนใจในการป้องกันการเกดิ โรคน้ี ซึ่งมแี นวโน้ม
พบสูงขน้ึ มาโดยตลอด ในช่วง 20 ปี ที่ผา่ นมา รวมท้งั
ประเทศไทย ตัวอยา่ งการพบอบุ ัติการณท์ ีส่ งู ขนึ้ ของโรคหืด
ในเดก็ ท่ปี ระเทศสหรัฐอเมรกิ า พบวา่ สูงขนึ้ กว่า 2 เทา่ ใน
ชว่ ง 10 ปี (พ.ศ. 2523 – 2533) ในประเทศออสเตรยี ก็
พบว่าทารกมอี าการแพ้อาหารสูงถงึ 10% การเพ่ิมขน้ึ ของ
โรคนี้ มแี นวโนม้ ที่จะสูงข้นึ ไปอีก การปอ้ งกนั โรคจึงเปน็
เรอ่ื งส�ำ คญั
โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่ร่างกายมีการตอบสนองต่อส่ิง
กระตุ้นมากเกนิ ไป ในขณะทคี่ นปกติ ไม่มปี ฏกิ ิริยาใด ๆ เช่น
ทารกท่ีแพ้น้�ำ นมววั จะมอี าการผนื่ คันตามใบหนา้ ขอ้ พับ
และตามร่างกาย หรอื มีอาการเปน็ ผืน่ ลมพษิ บางรายอาจ
มีอาการหายใจครืดคราด หายใจแรง หรือมอี าการอาเจยี น
ทอ้ งเสยี หรือถา่ ยอุจจาระมมี กู บางรายอาจมเี ลอื ดปน มกั มี
การเจริญเติบโตช้า บางรายอาจมีอาการหายใจหอบ และมี
อาการทรี่ ุนแรงขึน้ ทีเ่ รียกวา่ Anaphylaxis นอกจากนีเ้ มอ่ื
ผู้ปว่ ยเตบิ โตขนึ้ พบว่าจะมีความเส่ียงทจี่ ะแพ้อาหารอ่นื ๆ
ตามมา เชน่ ไข่ แปง้ สาลี ถวั่ อาหารทะเล และอาจมอี าการ
ของโรคแพอ้ ากาศ หรอื โรคหดื

A60ugust 2016

โรคภมู แิ พ้ เกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร ปัจจุบนั การเล้ียงดูบตุ ร มกั จะตอ้ งนำ�ไปฝากเล้ียง หรอื
เข้าโรงเรียนตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งภูมิคุ้มกันโรคของทาง
เดนิ หายใจยงั ไมส่ มบูรณ์ ท�ำ ให้มโี อกาสติดเชอื้ ของทางเดิน
พันธุกรรมเปน็ ปัจจยั หลกั ทจ่ี ะทำ�ให้เกิดโรค เมือ่ มีสง่ิ หายใจได้ เชน่ เชอ้ื อารเ์ อสวี (RSV) เชอ้ื ไรห์โนไวรสั (Rhino
แวดล้อมมากระตุ้น สภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ใน virus) โดยเชอื้ ท้งั 2 ชนิด ท�ำ ใหม้ คี วามเสี่ยงในการเกิดโรค
ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป การด�ำ เนินชีวิตทมี่ ีสขุ อนามยั ท่ีดี หืด ถงึ 2 เท่าและ 9 เท่าตามลำ�ดบั
ขนึ้ เช่น การมนี �้ำ ด่มื สะอาด ลกั ษณะของสังคมเกษตรกรรม โดยสรปุ สาเหตกุ ารเกดิ โรคภมู แิ พม้ กั มเี รอื่ งพนั ธกุ รรม
เปลย่ี นเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทอ่ี ยูอ่ าศยั สะอาดขึน้ และ เปน็ หลกั และมสี ง่ิ แวดลอ้ มทม่ี าเกย่ี วขอ้ ง คอื
แยกจากท่เี ลย้ี งสตั ว์ มีการคน้ พบยาปฏชิ วี นะ และวคั ซนี 1. การเสียสมดลุ ของเชื้อจลุ ินทรยี ์ในลำ�ไส้
ท�ำ ให้โอกาสทเ่ี ดก็ จะสมั ผัสกบั เชอ้ื โรคนอ้ ยลง มผี ลตอ่ การ 2. การทีถ่ ูกกระตุน้ ดว้ ยสารก่อภมู ิแพ้ ซ่ึงในระยะ 2 ขวบปี
ควบคุมระบบภมู ิค้มุ กนั ของรา่ งกาย ซ่ึงอยู่ในสมดุลระหว่าง แรก มักมีสาเหตุจากอาหาร เช่น น้�ำ นมววั ไข่ แป้งสาลี ถัว่
การกระตุ้นด้วยเชื้อโรคและถูกกระตุ้นด้วยสารก่อภูมิแพ้ เหลอื ง และอาหารทะเล และหากผ้ปู ว่ ยอยู่ในสง่ิ แวดล้อมที่
เมื่อการกระตุ้นด้วยเชื้อโรคน้อยลง ด้านที่ควบคุมด้วย มีไรฝนุ่ เช้ือรา แมลงสาบ หรอื แมว จะมีโอกาสแพ้สิ่งเหล่า
การกระตุน้ จากสารก่อภูมแิ พจ้ ะเด่นขึ้น ซ่ึงเรียกทฤษฎนี ีว้ ่า น้ี ตามมาได้
Hygiene hypothesis 3. การตดิ เชอื้ ของทางเดินหายใจ ส่วนมลภาวะ เช่น ควัน
นอกจากน้ี การทำ�คลอดโดยการผ่าตดั ทีม่ ากข้ึน ท�ำ ให้ บหุ รี่ เปน็ ปัจจัยเสริม
ลดโอกาสท่ีทารกจะได้สัมผัสกับเชื้อจุลินทรีย์ในช่องคลอด
มารดา อาจเปน็ อีกปัจจยั หนง่ึ ที่ทำ�ใหเ้ ดก็ ถูกกระตนุ้ จากสาร 61
ก่อภมู แิ พ้ได้ง่าย การใช้ชวี ติ ในบ้านมากขึ้น ทำ�ให้โอกาส
สมั ผสั กบั ไรฝ่นุ เชื้อรา แมลงสาบ และแมว ท�ำ ให้เดก็ ท่ีมี
ความเสีย่ ง ถกู กระตุน้ ได้งา่ ย หรอื การสมั ผสั กบั ควนั บุหร่ี
หรือมลภาวะ จะย่ิงเสริมความเสยี่ งให้เพิ่มข้ึน

การป้องกันโรคภูมแิ พ้

สามารถจดั เปน็ 3 ระยะ คือ
ก. การปอ้ งกันมิให้เกดิ โรคภมู แิ พ้ (Primary prevention)
ข. การป้องกนั มิให้เกดิ โรคด�ำ เนินตอ่ ไป จนมีอาการเรอื้ รงั
หรือรุนแรง หรือช่วยให้ผู้ป่วยเลิกแพ้ได้ (Secondary
prevention)
ค. การรกั ษาเพอื่ ควบคมุ อาการของโรค (Tertiary prevention)
ก. การปอ้ งกนั มิให้เกดิ โรคภูมิแพ้
การป้องกันมิให้เกิดโรคภูมิแพ้เป็นเรื่องที่ท่ัวโลกสนใจ
มกี ารวิจัยและให้คำ�แนะนำ� โดยสงิ่ แรกทต่ี ้องทราบคอื ใคร
บา้ งที่เส่ยี งต่อโรคภมู ิแพ้ และโรคภมู แิ พจ้ ะมอี าการอยา่ งไร
ซึง่ ผู้มคี วามเสี่ยงทีจ่ ะเกดิ โรคภูมิแพ้ คอื ผ้ปู ่วยท่ีเกดิ จาก
พอ่ แม่ หรือ พี่ ๆ ทเ่ี ป็นโรคภูมแิ พ้ ถา้ พ่อหรือแมเ่ ปน็ โรค
ภูมิแพ้ ลกู จะมโี อกาส 30% ทจี่ ะเปน็ โรคภมู ิแพ้ และจะมี
เพียง 10% ท่ีเป็นโรคภมู ิแพ้โดยท่ีไมพ่ บประวตั ิภูมิแพ้ใน
ครอบครัว

อาการของโรคเกิดไดก้ บั ทกุ ระบบ ไดแ้ ก่

1.) ระบบผวิ หนงั

- ผื่นแพ้ (Atopic dermatitis)
- ลมพิษ (Urticaria)

2.) ระบบทางเดนิ หายใจ

- แพอ้ ากาศ (Allergic rhinitis)
- โรคหืด (Asthma)

3.) ระบบทางเดินอาหาร

- ผู้ปว่ ยที่มีอาการอาเจียน ทอ้ งเสีย ถ่ายเป็นมกู เลือด
4.) ระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งอาจรุนแรงจนถึงขึ้น
ช็อคได้ (Anaphylaxis)

A62ugust 2016

โรคภูมิแพ้ในทารกมักมีอาการ หรืออาหารทะเล (ในข้อนี้ผ้เู ขียนมีความเห็นวา่ ในครอบครวั
ทางผวิ หนัง เป็นผ่นื บริเวณ หนา้ ทม่ี คี วามเสย่ี งสงู คณุ แมน่ า่ จะเลอื กแหลง่ โปรตนี จากอาหารอื่นๆ
แขน ขา ข้อพบั และตามตวั บาง เช่น ไก่ หมู ปลาน้ำ�จืดร่วมกับอาหารหลากหลายอ่ืนๆ
รายมอี าการลมพษิ บางรายอาจมี เนื่องจากสารอาหารโดยทั่วไปจะต้องผ่านรก และน้ำ�นม
อาการหายใจเสียงดงั ครืดคราด มี มารดา จึงอาจมีโอกาสกระตุ้นให้สร้างภูมิแพ้ได้)
เสมหะ อาจมอี าการอาเจียน หลงั 2. ใหน้ มแมแ่ กท่ ารกเพยี งอยา่ งเดยี ว นา่ จะใหผ้ ลในแงข่ อง
ดูดนม หรือมีอาการถ่ายเหลว และมี การปอ้ งกนั โรค ไดด้ กี วา่ การใหน้ มแมเ่ พยี ง 6 เดอื น
มูกเลือดปน 3. ในรายงานบางฉบบั รายงานวา่ กรณที ม่ี ารดาไมส่ ามารถ
ใหน้ มบตุ รได้ การใหท้ ารกทานน�ำ้ นมววั ทผ่ี า่ นการยอ่ ยโปรตนี
ข. การป้องกันมิให้เกิดโรคดำ�เนินต่อไป ให้ผลในแง่ของการป้องกันโรคผ่ืนภูมิแพ้ได้ดีกว่าน้ำ�นมวัวที่
จนมอี าการเรอ้ื รงั หรอื รนุ แรง หรอื ชว่ ยให้ ไมผ่ ่านการย่อยโปรตนี และการใช้ผลติ ภณั ฑน์ มจากการยอ่ ย
ผปู้ ว่ ยเลกิ แพไ้ ด้ (Secondary prevention) เคซีนอย่างสมบูรณ์ (Extensive casein hydrolysate
เป็นการรกั ษาโรคโดยการใช้ยา เชน่ เปน็ โรคภูมแิ พ้ formula) น่าจะให้ผลในการป้องกันโรคภูมิแพ้ผื่นผิวหนัง
จมูก หรอื โรคหืด ก็รักษาดว้ ยยาต้านการอักเสบ ชนดิ พน่ เขา้ ในทารกดีกว่าผลิตภัณฑ์นมซึ่งได้จากการย่อยโปรตีนเวย์
จมกู หรือสดู หายใจเข้าปอด ซ่ึงต้องใช้อย่างตอ่ เนอ่ื ง และ (Partial hydrolysate whey formula) เพอ่ื ปอ้ งกันโรค
ใช้ยาได้ถูกต้องตามท่ีแพทย์แนะนำ�ร่วมกับหลีกเลี่ยงส่ิงท่ี ภูมิแพ้ ผ่นื ผิวหนังในทารก จากการศกึ ษาจากประเทศ
แพ้ หากการใชย้ าพน่ หรอื สูด ไมส่ ามารถควบคมุ อาการได้ เยอรมัน ท่ีติดตามทารกไปจนถึงอายุ 15 ปี ก็สนบั สนุนวา่
อาจตอ้ งใช้ยาฉดี (Anti-IgE) หรือการฉีดสารสกัดจากสงิ่ ที่ Extensive casein hydrolysate formula ใหผ้ ลการปอ้ งกนั
ผปู้ ่วยแพ้ เพอ่ื สร้างสมดลุ ของภูมิแพ้ (Immunotherapy) ผน่ื ภูมแิ พ้ไดด้ ีท่ีสุด
ตอ้ งฉดี เปน็ ระยะเวลา 3 – 5 ปี นอกจากนี้ ความสมดลุ 4. การใหอ้ าหารเสรมิ ควรเรม่ิ ได้ ตง้ั แตท่ ารกอายหุ ลงั 6 เดอื น
ของจุลินทรีย์ในลำ�ไส้ มีบทบาทสำ�คัญในการควบคุมการ ขน้ึ ไป
อตาอหบาสรนขอองงจขุลอินงทภรมู ยี คิ ์ ุม้ (กPนั rebกiาoรtใicช)จ้ ุลจนิ ะทชร่วยี ย์ ใ(หP้เrดoก็bทio่ีแtiพc)น้ ำ้�หนรมือ โดยสรปุ การปอ้ งกนั โรคภมู แิ พ้ไมใ่ หเ้ กดิ ในเดก็ มคี วามเสย่ี ง
วัวเลกิ แพ้ได้เรว็ ขน้ึ ต่อโรคที่โดยเฉพาะอย่างย่ิง เด็กทีม่ ีพ่อ แม่ หรือพีๆ่ เปน็
โรคภมู ิแพ้ ตอ้ งพยายามให้น�ำ้ นมแมอ่ ยา่ งนอ้ ย 6 เดอื น
ค. การรักษาอาการของโรค (Tertiary โดยแม่ไม่ต้องงดสารอาหารใดๆ และเร่ิมอาหารเสริมได้
prevention) ตั้งแต่อายุ 6 เดอื น ในกรณีทแี่ มไ่ ม่สามารถใหน้ มลูกได้ ควร
เปน็ การรกั ษาโดยใชย้ าระงบั อาการ เพอื่ ลดความรนุ แรง ใช้นมสตู รทยี่ ่อยโปรตีน โดยเฉพาะอย่างย่งิ Extensive
ของอาการ เชน่ การใชย้ าขยายหลอดลมในผู้ปว่ ยโรคหดื casein hydrolysate formula ในกรณีที่แพน้ ้ำ�นมววั การใช้
รว่ มกับการใช้ยาตา้ นการอักเสบ Probiotic และ Prebiotic กจ็ ะช่วยใหเ้ ลกิ แพ้ได้เรว็ ขน้ึ
นอกจากน้ียังต้องดูแลเร่ืองส่ิงแวดล้อมและการติดเชื้อทาง
ประเทศแคนาดาได้มีขอ้ แนะน�ำ เพ่ือป้องกนั การเกิด เดนิ หายใจ การควบคุมอาการของโรคภูมิแพท้ างเดนิ หายใจ
โรคท่ีน่านำ�มาพจิ ารณาปฏิบตั ิ (2557) สำ�หรบั ทารกที่มีความ ดว้ ยยาต้านการอักเสบ โดยการพน่ จมกู หรอื สูดหายใจ
เสย่ี งตอ่ การเกดิ โรคภมู แิ พ้ ดังนี้ เข้าปอด หรือการใช้ยา Anti-IgE หรือฉีดสารสกดั ทีแ่ พ้
(Immunotherapy)
1. แนะนำ�ให้มารดา ขณะตั้งครรภ์ หรือขณะให้นมบุตร
งดอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำ�นมวัว ไข่ ถั่วลิสง หรือ 63
อาหารอื่นๆ ท่มี ีโอกาสแพ้ได้ง่าย เช่น แป้งสาลี ถัว่ เหลือง

มารจู้ กั ผื่น Atopic กนั เถอะ
แพทย์หญงิ เติมแสง ศรสี วุ รรณภรณ์
กมุ ารแพทยผ์ ู้เช่ียวชาญดา้ นโรคผิวหนงั

โรคผิวหนัง Atopic (Atopic dermatitis หรือ Atopic eczema) คือ โรคผ่ืนภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ เป็นโรคเรื้อรังที่พบ
บ่อยในวัยเด็ก มีอาการที่สำ�คัญ คือ ผิวแห้งอักเสบคันเป็นเรื้อรังเป็นๆ หายๆ ทำ�ให้มีผลกระทบต่อชีวิตประจำ�วันของผู้ป่วย
และเป็นปัญหาแก่ผู้ปกครองในการดูแลรักษา
โรค Atopic (Atopic dermatitis : AD) เก่ียวข้องกบั
การตอบสนองของ T-cell Dendritic antigen-presenting
cell (e.g. Langer-hans cell(LCs), macrophages),
Immune globulinE(IgE) molecules , Eosinophil ,Mast
cell, cytokines(TNF-α , IL-1 )ที่มาจาก cell ผิวหนัง
(keratrinocytes ,mast cells, dendritic cell) จะ bind
to receptor ท่ี vascular endothelium เกิดปฏิกริ ยิ าตอ่ ให้
มกี ารอกั เสบขยายเป็นลกู โซ่ โดยสารทก่ี อ่ ให้เกิดปฏิกริ ยิ านี้
สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ชนดิ คือ
1. ชนดิ ทเ่ี กดิ จากภายใน (intrinxic หรอื non IgE associate)
2. ชนิดที่เกิดจากปัจจัยภายนอก (Extrixic หรือ IgE
associated)
ผ้ปู กครองอาจสังเกตไดจ้ ากภาวะทีเ่ กิดอาการผื่นข้ึนในภาวะเหตกุ ารณซ์ �ำ้ ๆ เชน่ เม่อื อากาศร้อนที่อบั ชื้นหรือหนาว เมือ่
เด็กกนิ นมวัว ไข่ อาหารทะเล แปง้ สาลีทีห่ มักยีสต์ หรือไปสนามหญ้า เด็กท่ีเลน่ เหง่อื ออกมาเป้ือนส่ิงสกปรก ถูกสารเคมีใน
เสอ้ื ผา้ เคร่ืองเฟอร์นเิ จอร์ หรือเด็กไปเล่นสุนขั แมว กระต่าย หรอื ภาวะที่เด็กมคี วามเครยี ด เชน่ นอนน้อย การบ้านมากเกิน
ทำ�งานไมท่ นั เพอ่ื น
ภาวะ AD สามารถถา่ ยทอดทางกรรมพนั ธ์ุได้ โดยเฉพาะฝ่ายมารดาจะมีผลมากกวา่ ทางบิดา ผิวหนงั ของกลมุ่ เดก็ ทเี่ ปน็
AD จะเพมิ่ ความสูญเสียในการเกบ็ น้ำ� (คือ increase trans epidermal water loss) เสยี function ของ skin barrier (down
regulation ของ filaggrin), increased entry of Allergens, Antigens, และChemicalจาก Environment เขา้ สูผ่ วิ หนงั
เกดิ การอกั เสบได้งา่ ยขน้ึ ดังกลา่ วแล้วขา้ งต้น
A64ugust 2016

อาการแสดงของ AD
คือ ผวิ หนังอกั เสบ เปน็ ได้ทงั้ เฉยี บพลนั และเรื้อรงั
(คอ่ ยๆเป็น) ผวิ แห้ง (Xerosis, Hyperlinear palms
and soles) โดยมากเป็นทั้ง 2 ข้างของรา่ งกายและจะ
มีอาการคนั มาก เปน็ ไดต้ ง้ั แตเ่ ดก็ เลก็ และเด็กโต
ในกรณีที่ให้การรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
แลว้ อาการไมด่ ีขน้ึ อาจพจิ ารณาเลอื กตรวจทางหอ้ ง lab
เพม่ิ เตมิ ตามความเหมาะสมในผ้ปู ่วย เพื่อหาปจั จยั กระตุ้นที่
อาจทำ�ให้โรคก�ำ เริบ ไดแ้ ก่

- การทดสอบทางผวิ หนัง skin prick test หรอื path
test (มกั จะทำ�ในเดก็ ทีโ่ ตแล้ว อายมุ ากกว่า 6 ปขี นึ้ ไป
เนือ่ งจากต้องได้รบั ความรว่ มมอื จากเด็ก)
- การเจาะเลือด ตรวจ specific IgE ต่อสารกอ่ ภูมิแพ้
ชนิดต่างๆ
- การทดสอบการแพ้อาหาร โดยการรับประทาน (oral
challenge test)

แนวทางการรักษาผู้ปว่ ย AD 65
1. ใหค้ วามรูแ้ ก่ผู้ปว่ ยและครอบครัว
2. ประเมินความรุนแรงของโรค
3. หลกี เล่ียงปัจจัยกระตุ้น เช่น อาหารที่แพ้ สง่ิ แวดลอ้ มทแ่ี พ้ ความเครยี ด
4. การให้ยารบั ประทาน และยาทาภายนอก โดยความดแู ลของแพทย์ เพอ่ื ปรับตามความรุนแรงของโรคเป็นระยะๆ
5. วางแผนปอ้ งกันการเกดิ ซำ้� โดยการปรบั พฤติกรรม และของใชส้ ่วนตัว ของใชภ้ ายในบ้าน

ในรายท่รี ุนแรง อาจพิจารณาให้ยากดภูมิ (Sytemic immunomodulators) และฉายแสง (Narrow-band UVB)

สรุป

โรคผวิ หนงั อกั เสบ Atopic (Atopic dermatitis :AD)
พบบ่อยในวยั เด็ก ซึง่ เป็นโรคเร้อื รงั เปน็ ๆหายๆ และ
อ า จ กำ � เ ริ บ ม า ก จ น ผู้ ป่ ว ย ข า ด ส ม า ธิ ใ น ก า ร เ รี ย น
คุณภาพของชีวิตและการเรียนต่ำ�ลง จึงจำ�เป็นที่ผู้
ปกครองควรตระหนักและให้ความสำ�คัญในการดูแล
รักษาและป้องกัน หลีกเลี่ยงปัจจยั ตัวกระตนุ้ สารก่อ
ภูมิแพ้ สารกอ่ การระคายเคอื ง ให้อาการโรคสงบลง
จนกวา่ โรคจะหายไป

ภาวะโลหติ จางในเดก็ (Childhood Anemia)

แพทย์หญิงประไพศรี วงษศ์ ิริ

กุมารแพทย์ผเู้ ชย่ี วชาญด้านโลหิตวทิ ยา

ภาวะโลหติ จางเป็นปัญหาทางกุมารเวชศาสตร์ท่ีพบไดบ้ อ่ ย เชน่ ธาลสั ซีเมยี ภาวะขาดธาตเุ หลก็ อาจพบไดท้ ั้งในเดก็
และผู้ใหญ่ ภาวะโลหิตจางหมายถงึ การลดลงอยา่ งผิดปกติของจำ�นวนเมด็ เลอื ดแดงในกระแสเลือด โดยการลดลงดังกลา่ ว
ตำ่�กวา่ คา่ ปกตใิ นแต่ละกล่มุ อายุ
ตารางที่ 1 ค่าปกติทางโลหติ วิทยาในเด็กไทย อายุ 1 วันถงึ 18 ปี

อายุ Hb (g/dL) Hct (%) MCV (fl) MCH (pg)
ค่าเฉลีย่ ค่าต�่ำ สดุ ค่าเฉลีย่ ค่าต�่ำ สุด ค่าเฉลย่ี คา่ ต่ำ�สุด คา่ เฉลยี่ ค่าต่�ำ สดุ
1-3 วัน 17.9 13.4 51.5 34.0 108.0 95.0 34.0 31.0
1 เดือน 12.5 9.4 34.3 26.0 104.0 85.0 34.0 28.0
2 เดอื น 10.5 8.7 29.9 25.5 96.0 77.0 30.0 26.0
3-6 เดือน 10.5 7.4 33.0 25.0 91.0 74.0 30.0 25.0
6 เดอื น-2 ปี 12.8 10.3 38.6 30.4 80.6 75.2 26.7 24.6
2-6 ปี 12.6 11.0 38.7 31.9 81.6 75.4 26.7 24.9
6-12 ปี 12.9 11.0 39.0 31.5 83.1 75.1 27.4 24.5
12-18 ปี 13.4 11.0 40.5 31.3 84.4 76.3 28.9 24.9
6A6ugust 2016

มขี ้อสังเกตว่า ระดับของ Hb (Hemoglobin) และ ภาวะโลหติ จางเกดิ จาก
Hct (Hematocrit) ค่อนข้างสูงในทารกแรกเกดิ หลงั จาก
นั้นจะคอ่ ยๆลดลง จนถึงระดับตำ�่ สุด ประมาณ 7 สัปดาห์ สาเหตหุ ลัก 3 ประการ คือ
ในทารกคลอดกอ่ นกำ�หนด และประมาณ 2-3 เดือน ใน การเสยี เลอื ด
ทารกทค่ี ลอดครบกำ�หนด สภาวะดังกลา่ ว เรยี กว่า ภาวะ เมด็ เลอื ดแดงแตกท�ำ ลาย
โลหติ จางทางสรรี ะวทิ ยา (Physiologic Anemia of Infancy) และการสรา้ งเมด็ เลอื ดแดง
หลังจากน้ัน ระดับ Hb และ Hct จะเพม่ิ ข้ึนชา้ ๆ จนมีระดับ ลดลงในเวลารวดเร็ว
เท่าผู้ใหญ่ เม่อื เด็กเขา้ สู่วัยเจริญพันธุ์ (Puberty)
เมด็ เลือดแดงปกติ มีอายุ 100-120 วันในกระแส
โลหิต ในสภาวะปกติ เม็ดเลือดแดงท่ีหมดอายจุ ะถกู ท�ำ ลาย
ไปในแต่ละวนั โดยม้ามและไขกระดูก และถูกชดเชยดว้ ย
เม็ดเลือดแดงสร้างใหม่จากไขกระดูก การรบกวนสมดุล
ดังกล่าว ทำ�ให้เกดิ ภาวะซดี ได้ เชน่ ไขกระดูกไม่สามารถ
ผลิตเมด็ เลอื ดได้ตามปกติ หรือ มีการท�ำ ลายเมด็ เลือดแดง
มากกว่าปกติ ในการสรา้ งเม็ดเลือดแดงมาทดแทน จ�ำ เปน็
ต้องอาศัยวัตถุดิบที่จำ�เป็นในการสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่
เชน่ โปรตีน ธาตุเหลก็ โฟเลท (folate) เป็นตน้ ถ้าขาดสาร
เหล่าน้จี ะท�ำ ให้เกดิ ภาวะโลหติ จางได้
ภาวะโลหิตจางเกดิ จากสาเหตหุ ลกั 3 ประการ คือ
การเสียเลอื ด เม็ดเลอื ดแดงแตกทำ�ลาย และการสรา้ งเมด็
เลอื ดแดงลดลงในเวลารวดเรว็

อาการและการแสดง แดงมากข้นึ โดยที่ไมช่ อ็ ค แตจ่ ะท�ำ ใหเ้ กิดภาวะโลหติ จาง
Hct ลดลง
ผู้ป่วยที่มีอาการซีดจากทุกสาเหตุ จะมีอาการ 2. การสรา้ งเมด็ เลอื ดแดงลดลง
และการแสดงออกโดยรวมคล้ายกัน เช่น กระสับกระส่าย 2.1 การขาดสารอาหารทเ่ี ปน็ ปจั จยั ส�ำ คญั ในการสรา้ ง
อ่อนเพลีย เหน่ือยง่ายเวลาออกกำ�ลัง ใจสั่น บวม ปวด เมด็ เลือด เช่น ธาตุเหล็ก โฟเลท วิตามิน B6, B12, C,
หัวเป็นลม ไม่มีสมาธิ อาการเหล่านี้ เกิดจากการที่มีระดับ E และสังกะสี (Zn) สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการได้รับ
ออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเย่ือและ อวัยวะต่างๆลดลง หาก ธาตุเหล็กในสารอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเด็กที่ไม่
มีอาการซีดเรื้อรัง จะมีผลต่อระดับสติปัญญาได้ สำ�หรับ ได้รับอาหารเสรมิ อกี กลมุ่ ท่ีพบได้บ่อย คอื เด็กหญงิ ในวัย
อาการเฉพาะในแต่ละสาเหตุ สามารถสรุปได้ดังนี้ เจรญิ พนั ธท์ุ ี่มีประจ�ำ เดือนมามาก ท�ำ ใหเ้ สยี เลอื ด และขาด
ธาตุเหลก็ เร้ือรงั
1. การเสยี เลอื ด อาการและการแสดงขน้ึ กบั 2.2 ภาวะกดการท�ำ งานของไขกระดกู หรอื ไขกระดกู
ปริมาณและความรวดเร็วของการเสียเลือด สร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อย อาการและอาการแสดงท่ี
ผู้ป่วยท่ีเสียเลือดมากอย่างรวดเร็วจะเกิดอาการ พบจะเป็นอาการจากภาวะโลหติ จางโดยทว่ั ไป และอาการ
ของปรมิ าณเลอื ดต�ำ่ (Hypervolumic) กอ่ นทจ่ี ะ อืน่ ๆ ท่สี ัมพนั ธ์กบั โลกที่เปน็ สาเหตุของการสรา้ งเม็ดเลอื ด
มอี าการซดี ท�ำ ใหร้ ะบบไหลเวยี นลม้ เหลว ชอ็ ค แดงลดลง เชน่ มะเร็งเมด็ เลือดขาว มะเร็งตอ่ มน้�ำ เหลอื ง
และถงึ แกค่ วามตายได้ แมร้ ะดบั Hct ยงั ปกติ ใน จะพบวา่ มี ตบั ม้าม และ ตอ่ มน�้ำ เหลืองโต มเี ลอื ดออก
กรณขี องการเสยี เลอื ดนอ้ ยแบบเรอ้ื รงั เชน่ การ ผิดปกติ เน่อื งจากมเี มด็ เลอื ดท่ีผิดปกติแทรกในไขกระดูก
ขาดสารอาหารทจ่ี �ำ เปน็ ในการสรา้ งเมด็ เลอื ด หรอื ท�ำ ใหค้ วามสามรถในการสรา้ งเมด็ เลอื ด และเกรด็ เลอื ดลดลง
เมด็ เลอื ดแดงถกู ท�ำ ลาย ในผปู้ ว่ ยธาลสั ซเี มยี มผี ล
ท�ำ ให้ Hct ต�ำ่ รา่ งกายจะพยายามปรบั ตวั กระตนุ้ 67
ให้ไขกระดูกทำ�งานมากขึ้น เพื่อสร้างเม็ดเลือด

รปู ท่ี 1 แสดงความชกุ ของยีนพาหะโรคโลหิตจาง ธาลัสซเี มยี แฝง
ท่ีมา: มูลนธิ ิโรคโลหิตจางธาลัสซเี มียแหง่ ประเทศไทย

3. การแตกสลายของเม็ดเลือดแดง สาเหตุท่สี ำ�คญั คอื พบวา่ มีประชากรอยา่ งนอ้ ยร้อยละ 35 ของประเทศเป็น
โรคโลหิตจางธาลัสซีเมยี และฮโี มโกลบนิ ผดิ ปกติ ความผดิ พาหะของโรคนี้ ทำ�ให้ในแตล่ ะปีมีผปู้ ่วยโรคนเี้ กดิ ใหม่ปลี ะ
ปกติของเอนไซม์ในเม็ดเลอื ดแดง ทพ่ี บบอ่ ย คอื G6PD ไมต่ ่ำ�กวา่ หนึง่ หมนื่ ราย และในจ�ำ นวนน้ี ผปู้ ว่ ย สองหมนื่
Deficiency ราย เป็นผปู้ ่วยท่มี อี าการรนุ แรง มีภาวะซีดเรอ้ื รงั และผล
3.1 โรคเม็ดเลือดแดงแตกทำ�ลายมากเน่ืองจาก ท่ตี ามมาคือ มกี ารเจริญเติบโตไมส่ มอายุ มกี ารท�ำ งานผิด
ภาวะพรอ่ งเอน็ ไซม์ในเมด็ เลอื ดแดง (G6PD Deficiency) ปกตขิ องตอ่ มไรท้ อ่ รวมไปถึงสภาวะเหลก็ เกนิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จาก
โรคนถี้ า่ ยทอดทางพันธกุ รรมแบบ X-Linked recessive จึง ตัวโรคโลหิตจางธาลัสซเี มียเอง และจากการรักษาด้วยการ
พบในเดก็ ชายมากกวา่ เดก็ หญิง ผทู้ มี่ ีภาวะพร่อง G6PD ใหเ้ ลอื ด
นน้ั ในภาวะปกตจิ ะสบายดที กุ อย่าง โดยไมม่ ีการเปลย่ี นแป ส�ำ หรบั ในประเทศไทย จากรายงานของมลู นธิ โิ รคโลหติ
ลงใดๆ ทางโลหติ วิทยา นอกจากมเี หตุปัจจัยภายนอกมา จากธาลสั ซีเมียพบผทู้ ีม่ กี รรมพันธุ์ หรอื ยีน (Gene) ธาลัส
กระตุ้น ได้แก่ การติดเชื้อต่างๆ เช่น ไข้หวัด ตับอักเสบ ซเี มียมากกวา่ 20 ล้านคน และพบพันธกุ รรมแฝงได้ในทุก
ไข้เลอื ดออก มาลาเรีย เป็นต้น การไดร้ บั ยาปฏชิ ีวนะใน ภมู ิภาคของประเทศ
กลมุ่ ซัลฟา แอสไพรนิ ยารกั ษามาลาเรยี พวก Primaquine
และสารเคมี เช่น ลูกเหม็น (Naphthalene) อาหาร
ประเภทถั่วปากอา้ เปน็ ตัวชักนำ�ให้เกดิ การแตกท�ำ ลายของ
เม็ดเลอื ดแดง ทำ�ใหซ้ ีดมาก และ เหลืองได้
3.2 โรคโลหิตจางธาลัสซีเมียและ Hct ผิดปกติ
เป็นโรคทางพันธกุ รรมทพ่ี บบ่อยทสี่ ดุ ในประเทศไทย และ
ประเทศในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ จากการศึกษา
A68ugust 2016

รปู ท่ี 3 ภาพผปู้ ว่ ยโรคธาลสั ซีเมียทมี่ ีอาการแสดงทางคลนี กิ ทีร่ นุ แรง

รปู ท่ี 2 ภาพผู้ป่วยโรคฮโี มโกลบนิ บารท์ไฮดดรอป์ ทเี่ สียชวี ติ แรกคลอด

เน่ืองจากโรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมียและฮีโมโกลบิน รปู ท่ี 4 ภาพผ้ปู ่วยโรคธาลสั ซีเมียที่มี
ผิดปกติถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบยีนด้อย (Autosomal อาการแสดงทางคลีนิกท่ีรุนแรง
Recessive Disorder) ผทู้ ม่ี ยี นี ธาลสั ซเี มยี จงึ มที ง้ั ผทู้ เ่ี ปน็
โรค เนอื่ งจากไดพ้ นั ธกุ รรมทผ่ี ดิ ปกตจิ ากทง้ั พอ่ และแม่ และ
ไมเ่ ปน็ โรคหรอื เป็นพาหะ (Trait) เน่ืองจากได้พันธุกรรม
ทีผ่ ดิ ปกตจิ ากพอ่ หรือแม่ ผ้ทู ีป่ ่วยเป็นโรคโลหิตจางธาลสั
ซเี มยี จะมอี าการแตกตา่ งกัน ตั้งแตม่ โี ลหิตจางเลก็ นอ้ ย
จนถึงมีโลหิตจางมาก จนก่อให้เกิดพยาธิสภาพแทบทุก
อวัยวะท่วั ท้งั ร่างกาย และรนุ แรงมาก จนเสียชีวิต ตงั้ แต่
อยู่ในครรภ์ หรือ หลังคลอดไมน่ าน ชนดิ ของโลหติ จาง
ธาลัสซเี มียที่พบบอ่ ยในประเทศไทย ไดแ้ ก่

• โรคฮโี มโกลบนิ บารท์ไฮดรอป์ (Hb Bart’s hydrops fetalis) ในประเทศไทยพบว่ามีผู้ท่ีเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิด
• โรคโมโกลบนิ เอช (Hb H disease) ต่างๆ รวมกนั สดั ส่วนประมาณ รอ้ ยละหนง่ึ ของประชากร
• โรคเบตา้ ธาลัสซเี มยี (Beta- thalassemia disease) ชาวไทย ดว้ ยประชากร 65 ล้านคน จะมจี �ำ นวนผปู้ ว่ ยธาลัส
ซเี มียไม่น้อยกวา่ 600,000 คนทว่ั ประเทศไทย โดยผปู้ ว่ ย
ส่วนใหญ่เปน็ โรคฮีโมโกลบินเอช รองลงมาคือ เบตา้ ธาลัส
โรคธาลสั ซีเมียท่มี ีอาการรุนแรงจะมีภาวะซีด เหลอื ง ซเี มยี ฮโี มโกลบนิ อี และโรคเบตา้ ธาลสั ซเี มยี เมเจอร์ ตามล�ำ ดบั
(ดีซา่ น) ตัวเลก็ ไมส่ มอายุ กระดูกใบหนา้ ผดิ รปู คือ หน้า
ผากใหญ่ โหนกแกม้ สูง จมูกแบน เรยี กวา่ “Thalassemic
facie” ท้องโต เพราะ ตับมา้ มโต ซง่ึ อาจคลำ�ได้กอ้ นแขง็
อ่อนเพลยี ไม่มีแรง เพราะ โลหติ จาง เป็นไข้บ่อย เพราะ
ตดิ เชือ้ ง่าย กระดูกเปราะ อาจมีประวัติกระดกู หกั หลายครง้ั
หากไมไ่ ด้รับการรกั ษาทเ่ี หมาะสมจะเสียชีวิตเร็ว ภายใน 10
ปแี รกของชีวติ ผปู้ ว่ ยกลมุ่ น้ีจำ�เป็นตอ้ งได้รบั เลอื ดอย่าง
สม่�ำ เสมอ

69

ตารางที่ 2 ประมาณการจำ�นวนผู้ป่วยด้วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียในประเทศไทย

ชนิด ค่เู ส่ยี งในแต่ละปี ผปู้ ่วยใหม่ในแตล่ ะปี ผู้ป่วยสะสม
เบตา้ เมเจอร์ 2,500 625 6,250
บารท์ไฮดรอป์ 5,000 1,250 0
เบตา้ ธาลัสซเี มีย ฮโี มโกลบิ อี 13,000 3,250 97,500
ฮโี มโกลบิน เอช 28,000 7,000 420,000
จำ�นวนรวม 48,500 12,125 523,750

ที่มา: มูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย

ตารางที่ 3 แนวทางการแบ่งระดับความรุนแรงของโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย

ระดบั ความรุนแรง อาการทางคลินกิ ระดับฮีโมโกลบินพื่นฐาน
รุนแรงมาก (Severe)
• ซดี ภายในอายุ 2 ปี Hb ≤ 7 g/dL
อาการปานกลาง (Moderate) • ได้รับเลอื ดคร้งั แรกอายุ 4 ปี
อาการเบา (Mild) • นำ�้ หนักส่วนสงู ต�ำ่ กว่าเกณฑ์
ไมม่ อี าการ (Asymptomatic) • รูปหนา้ เปล่ยี นแปลง
• ม้ามโตกวา่ ระดบั สะดอื

ซีด เหลอื ง ตับโต ม้ามโต แตไ่ มถ่ ึงระดบั รุนแรงมาก Hb > 7-9 g/dL

ซีด มา้ มโตเล็กนอ้ ย Hb > 9 g/dL

ไม่ซีด หรือ ซีดเลก็ นอ้ ย ไม่มอี าการทางคลนิ ิก Normal Hb for age or
low normal

7A0ugust 2016

หลกั การรกั ษา
1. การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพแบบประคบั ประคอง (Supportive and Symptomatic Care) ใหว้ ติ ามนิ รวม และยาเมด็ โฟเลท
2. การรักษาดว้ ยการปลกู ถ่ายตน้ ก�ำ เนดิ เมด็ เลือดแดง (Stem Cell Transplantation) ในปัจจบุ ันเป็นวิธีการรักษา
เพยี งวิธเี ดียวที่ท�ำ ใหผ้ ปู้ ว่ ยหายขาดได้ ในประเทศไทยมเี พยี ง 5 สถาบนั คือ รพ.ศิริราช รพ.รามาธบิ ดี รพ.จฬุ าลงกรณ์
รพ.พระมงกุฎเกล้า และ รพ.สงขลานครินทร์ ที่ให้การรักษาดงั กลา่ วได้
3. การรักษาดว้ ยการตัดม้าม (Splenectomy)
4. การรักษาดว้ ยการให้เลือด (Blood Transfusion)
5. การรักษาภาวะเหลก็ เกนิ (Iron Chelation Therapy) โดยให้ยาขบั เหล็ก
สรปุ
เนอ่ื งจากเด็กเป็นทรัพยากรทม่ี คี ุณค่า และเปน็ อนาคตของชาตทิ ีค่ วรได้รับการดูแลทม่ี ีคณุ ภาพ มพี ัฒนาการท่ีสมดลุ ทง้ั
ทางร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสงั คม แต่ในขณะน้พี บวา่ ในแต่ละปจี ะมีเดก็ เกดิ ใหม่ ปว่ ยด้วยโรคธาลสั ซีเมีย
ประมาณปลี ะ 12,125 ราย ซ่ึงปญั หาดังกล่าวจะส่งผลใหเ้ ดก็ ไทยทป่ี ว่ ยดว้ ยโรคโลหติ จางธาลัสซเี มยี มพี ัฒนาการที่ไมส่ มวัย
เกิดภาวะแทรกซ้อน และเปน็ ภาระของครอบครัวทจี่ ะต้องดแู ล และให้การรักษาตลอดอายขุ ัย ดงั นนั้ การใหก้ ารรกั ษาตาม
มาตรฐานโดยวธิ บี ูรณาการ ท้งั การดแู ลรกั ษาทีจ่ ำ�เพาะ ได้แก่ การรกั ษาดว้ ยการปลกู ถา่ ยเซลลต์ ้นกำ�เนดิ และการรกั ษาด้วย
การให้เลอื ดและยาขบั ธาตุเหล็กทีเ่ หมาะสม จึงเปน็ แนวทางสำ�คัญในการรกั ษาผู้ปว่ ยโรคโลหติ จางธาลัสซีเมีย และครอบครวั
เพ่อื สรา้ งทรัพยากรบุคคลท่ีมคี ุณภาพ อันจะยงั เปน็ ประโยชน์ให้กับสงั คม และประเทศชาติในอนาคต
บรรณานุกรม
1. วปิ ร วประกษติ . แนวทางในการวนิ ิจฉยั ภาวะโลหติ จางในเด็ก (Approach to Childhoo Anemia). โลหติ วิทยาและ
เวชศาสตรว์ รกิ ารโลหติ (Journal of Hematology and Transfusion Medicine). Vol. 24, No.4, October-December 2014.
2. วิปร วประกษิต. “ธาลัสซีเมีย”: การดูแลรักษาโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแบบบูรณาการ (Comprehensive
Management for Thalssemia). โลหิตวิทยาและเวชศาสตร์วริการโลหิต (Journal of Hematology and Transfusion
Medicine). Vol. 23, No.4, October-December 2013.

71

เดก็ กบั โรคระบบทางเดินหายใจ

รองศาสตราจารยแ์ พทย์หญิงนวลจันทร์ ปราบพาล

กุมารแพทยผ์ ู้เชีย่ วชาญดา้ นโรคระบบหายใจ

ท�ำ ไมเด็กเล็กๆ จึงปว่ ยเป็นโรคหรอื มปี ัญหา
ทางระบบหายใจไดบ้ อ่ ย

เด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี มักเป็นโรคติดเชื้อทาง
เดินหายใจ เช่น โรคหวัด หลอดลมอักเสบ และปอดบวม
ไดบ้ อ่ ยกวา่ เดก็ โต อาจปว่ ยเปน็ หวดั ไอ ไดบ้ อ่ ยถงึ 8 - 10
ครง้ั ตอ่ ปี เนอื่ งจากทางเดนิ หายใจมขี นาดเลก็ ภมู ติ า้ นทาน
ของร่างกายบางสว่ นยงั ทำ�หน้าที่ได้ไม่เตม็ ที่ เด็กเล็กทอี่ ยู่
ในสถานรับเลี้ยงเด็กกลางวันหรือโรงเรียนอนุบาล หรือมี
เด็กอยู่รวมกันในบา้ นหลายๆ คน มีโอกาสไดร้ ับเชือ้ โรคเข้า
ทางเดินหายใจได้ง่าย นอกจากนี้ถ้าเด็กได้รับสารกอ่ การ
ระคายเคอื งในทางเดนิ หายใจ เชน่ ควนั บหุ ร่ี ควนั ไฟ ต้ังแต่
เล็กๆ และต่อเน่อื ง จะท�ำ ใหท้ างเดินหายใจมีโอกาสตดิ เชอ้ื
ได้ง่าย จงึ ทำ�ให้เดก็ เล็กปว่ ยเปน็ หวัด ไอ ไดบ้ ่อยและอาจ
จะรนุ แรงกว่าเดก็ วยั อน่ื

A72ugust 2016

โรคทางเดนิ หายใจทพ่ี บบอ่ ยในเดก็ มอี ะไรบา้ ง โรคภูมิแพท้ างเดนิ หายใจ ไดแ้ ก่ โรคทเ่ี กดิ จาก

โรคหรือปัญหาทางระบบหายใจท่ีพบบ่อยในเด็ก ปฏกิ ริ ยิ าภมู แิ พ้ในทางเดนิ หายใจ เชน่ โรคเยอ่ื บจุ มกู อักเสบ
ไดแ้ ก่ โรคหวัดและภาวะแทรกซ้อนของโรคหวัด ภมู แิ พ้ จากภูมิแพ้ (allergic rhinitis) โรคหืด (asthma หรือ
ทางเดินหายใจ และการนอนกรน reactive airway disease) เป็นตน้ เดก็ ทเ่ี ป็นโรคในกลมุ่
นี้มักมีประวัติครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อหรือคุณ
โรคหวัด เกดิ จากการตดิ เชอ้ื ไวรสั เขา้ ไปในทางเดนิ หายใจ แม่เปน็ ภมู แิ พ้ด้วย

ส่วนบน ทำ�ให้เกิดการอักเสบของเย่ือบุบริเวณจมูกและ เด็กที่เป็นโรคเย่ือบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
คอ มีอาการนำ�้ มกู ไหล จาม ไอ อาจมีไข้ต�ำ่ ๆ อาการจะ
หายไดเ้ องภายใน 5 - 7 วนั แตถ่ า้ มอี าการนานเกนิ 1 - 2 จะมีน้ำ�มกู ไหลเรอ้ื รัง จามบ่อยๆ คันจมกู เอามือถจู มูกบอ่ ยๆ
สปั ดาห์ หรอื มไี ขส้ งู เจบ็ คอมาก เจบ็ หู น�ำ้ มกู ไหลเรอ้ื รงั ไอ (รูปท่ี 1) แน่นหรอื คดั จมูก ถ้ามอี าการเปน็ เวลานานๆ จะ
มาก หรอื หายใจเรว็ หายใจหอบ ตอ้ งไดร้ บั การตรวจรา่ งกาย มีการค่ังของหลอดเลือดทำ�ให้เห็นรอยคล้ำ�บริเวณขอบตา
เพม่ิ เตมิ เพราะอาการดงั กลา่ วบง่ วา่ นา่ จะมภี าวะแทรกซอ้ น ล่างท่ีเรยี กวา่ allergic shiner (รปู ท่ี 2) อาจมอี าการไอจาก
เชน่ ตดิ เชอ้ื แบคทเี รยี แทรกซอ้ น หสู ว่ นกลางอกั เสบ ไซนสั น้ำ�มูกไหลลงคอ บางรายมีผื่นคันตามผวิ หนัง หรืออาการ
อกั เสบ หลอดลมอกั เสบ หลอดลมฝอยอกั เสบ ปอดอกั เสบ คันตาร่วมด้วย อาการเหล่านี้มกั ลดลงหรอื หายไปหลงั ได้
หรอื ปอดบวม เปน็ ตน้ ถา้ มกี ารตดิ เชอ้ื ทางเดนิ หายใจสว่ น รบั ยาตา้ นแอนตีฮสี ตามนี หรือยาสเตยี รอยด์พ่นจมกู แต่
ล่างตามหลังอาการของโรคหวัดจากไวรัสบางชนิด เช่น อาการจะมากขนึ้ เวลาได้รับสารก่อภมู ิแพ้ สารกอ่ การระคาย
ไวรสั อารเ์ อสวี (RSV infection) หรอื ตดิ เชอ้ื ไมโคพลาสมา เคอื ง หรอื อากาศทีเ่ ปลยี่ นแปลง ถา้ เปน็ มากหรอื ไมไ่ ด้รับ
(mycoplasma infection) อาจท�ำ ใหม้ ภี าวะหลอดลมไวเกนิ การรกั ษาจะเกิดภาวะแทรกซอ้ น เช่น ไซนสั อักเสบเรื้อรงั
(airway hyper-responsiveness) คอื มอี าการไอเรอ้ื รงั จาก ลหดูสล่วนงไกดล้ างออาักจเทสำ�บให้ตซ่อึ่งมถน้า้ำ�เเปห็นลเือรงื้อบรังริกเว็จณะททำ�าใงหเด้กินารหไาดย้ยใินจ
การตบี แคบของหลอดลมซง่ึ ตอบสนองตอ่ ยาขยายหลอดลม บริเวณใกล้เคียง คือ ต่อมอะดีนอยด์โต (adenoid
บางรายมอี าการหายใจหอบรว่ มดว้ ย hypertrophy) อุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบนได้

รูปที่ 1 : คันจมูก เอามอื ถจู มูกในเดก็ ทเ่ี ปน็ allergic rhinitis

รูปท่ี 2 : allergic shiner

73

เด็กท่เี ป็นโรคหืด จะมีอาการไอมาก ไอเรื้อรัง หรือ ของ OSA ในเดก็ ได้แก่ โรคอว้ น ส�ำ หรบั โรคเยอ่ื บจุ มูก
อักเสบจากภูมิแพ้ซ่ึงทำ�ให้มีอาการแน่นคัดจมูกจะทำ�ให้
หอบร่วมกับได้ยินเสียงหายใจดังหวีดจากการตีบแคบของ นอนกรนได้ แต่มักไม่รุนแรงจนเกดิ ภาวะ OSA นอกจาก
หลอดลม มักไอกลางคืนมากกว่ากลางวนั มอี าการตามหลัง มตี ่อมอะดีนอยด์โตร่วมดว้ ย อย่างไรกต็ ามโรคเยอ่ื บจุ มกู
การติดเช้ือทางเดนิ หายใจสว่ นบน การออกกำ�ลังกายมาก ๆ อกั เสบจากภมู แิ พก้ ท็ �ำ ใหอ้ าการของ OSA เป็นมากขน้ึ ได้
หรือในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง หรือได้รับสารกระตุ้น อาการทีบ่ ง่ วา่ เด็กท่ีนอนกรนอาจจะมีภาวะ OSA
ภมู ิแพ้ หรือมอี าการข้นึ มาเองจากภาวะเครยี ด อาการไอ ร่วมดว้ ย ได้แก่
หอบนจ้ี ะดีข้ึนหลังได้รบั ยาขยายหลอดลม เด็กบางรายมี - กรนเสียงดังและกรนเปน็ ประจำ�
อาการและอาการแสดงของโรคเยื่อบุอักเสบจากภูมิแพ้ - หยุดหายใจขณะหลับเปน็ เวลาส้ันๆ ตามด้วย
หรือภูมิแพ้ผิวหนังร่วมด้วย และมักจะมีประวัติภูมิแพ้ใน เสยี งหายใจเฮือก และกลับมาหายใจได้ใหม่
บิดามารดาด้วยเช่นกัน การวินิจฉัยโรคอาจจำ�เป็นต้อง - นอนดน้ิ มาก นอนหลับในทา่ ทางที่ผิดปกติ
ทำ�การตรวจสมรรถภาพปอดร่วมด้วย โรคหืดจัดเป็นโรค นอนกระสบั กระสา่ ย อาจมเี หงอ่ื ออกมากขณะหลบั
เร้ือรังของทางเดนิ หายใจ บางรายจำ�เป็นตอ้ งได้ยาควบคุม - ปลุกตนื่ ยาก หลังต่ืนนอนแลว้ อยากนอนหลับ
อาการในระยะยาว เพ่ือไม่ใหเ้ ปน็ โรคทางเดินหายใจเรือ้ รัง ต่อ ปวดศีรษะหลังตื่นนอน
ต่อไปเม่ือเตบิ โตเปน็ ผู้ใหญ่ - มีปัญหาการเรียนและพฤติกรรม อารมณ์
หงุดหงิด โมโหง่าย
การนอนกรนในเด็ก เปน็ ภาวะทพี่ บมากขึน้ ในปัจจุบนั - สมาธิสน้ั และซนกวา่ ปกติ หรือหลบั ขณะเรยี น
หนงั สือ
เด็กทน่ี อนกรนจะหายใจเสียงดังขณะหลบั มกั เกิดจากการ - ปสั สาวะรดทีน่ อน
อุดก้ันของทางเดินหายใจจากกล้ามเนื้อรอบทางเดินหายใจ เดก็ ท่มี ภี าวะ OSA จะมีภาวะขาดออกซเิ จนใน
บริเวณคอหย่อนเวลานอนหลับ ถ้าไม่มอี าการหรือความ ช่วงนอนหลับและหยุดหายใจ หรือหลับไม่สนทิ ถา้ ไม่ได้รับ
ผิดปกตอิ ่นื รว่ มด้วย กเ็ ปน็ การนอนกรนธรรมดา (primary การรักษา นอกจากจะมอี าการดังกล่าวขา้ งตน้ แลว้ จะท�ำ ให้
snoring) ไมเ่ ปน็ อันตรายตอ่ เดก็ แต่ถ้าการอุดกั้นทางเดิน มปี ญั หาหรอื ภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ปัญหาการ
หายใจนั้นเป็นมาก จากสาเหตตุ ่างๆ ท่ีทำ�ให้ชอ่ งคอแคบ เจรญิ เตบิ โต ความดันในปอดสูง หัวใจล้มเหลว เป็นต้น
มาก เชน่ ตอ่ มทอนซลิ และต่อมอะดนี อยด์โต ลกั ษณะ การวนิ ิจฉยั ภาวะ OSA นอกจากประวตั ิ และการ
โครงสร้างของใบหนา้ และคางทผี่ ิดปกติ ความผดิ ปกติท่ีมี ตรวจร่างกายท่ีพบความผิดปกติที่อาจจะเป็นสาเหตุของ
ผลต่อการทำ�งานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ท�ำ ให้ OSA แล้ว การตรวจการนอนหลบั (sleep test) ท่ีเปน็
ทางเดินหายใจบริเวณช่องคออุดตันหรือปิดขณะหลับ มาตรฐานคือ polysomnography (PSG) ซง่ึ ตรวจในชว่ ง
มีการหยุดหายใจร่วมด้วย จัดเป็นความผิดปกติที่รุนแรง กลางคนื ขณะทห่ี ลบั มกี ารตดิ อปุ กรณบ์ นศรี ษะและล�ำ ตวั แขน
เรยี กว่า obstructive sleep apnea (OSA) สาเหตุอ่ืนๆ ขา เพอื่ ตดิ ตามดลู กั ษณะการนอน คลน่ื สมอง การเคลอื่ นไหว
A74ugust 2016 ของแขนขา การทำ�งานของหวั ใจ และการหายใจ ในเด็กเลก็

ที่ไมส่ ามารถท�ำ PSG ได้ อาจใช้การตรวจวดั ออกซิเจนใน ถ้าเป็นรุนแรงก็จะทำ�ให้เย่ือบุทางเดินหายใจมีการอักเสบ
เลือดโดยใช้อปุ กรณ์ตดิ ท่ปี ลายนิ้วตลอดทง้ั คนื (overnight มาก สารก่อภูมิแพ้จะผ่านเข้าไปในร่างกายทางเยื่อบุที่มี
pulse oximetry) ซงึ่ เปน็ การตรวจอยา่ งคร่าวๆ ได้ การ การอกั เสบน้ีได้ง่ายขึ้น ทำ�ใหเ้ กดิ ปฏิกริ ยิ าภมู ิแพ้ในรา่ งกาย
ตรวจการนอนหลับนี้ช่วยในการวินิจฉัยความรุนแรงของ ตามมาได้ เด็กที่มีภาวะภูมิแพ้ถ้าติดเชื้อทางเดินหายใจก็
ภาวะ OSA และช่วยในการวางแผนการรกั ษาดว้ ย ยังมอี าการมากและนานกว่าเดก็ ท่วั ๆ ไป ดังน้นั การป้องกนั
เดก็ ทน่ี อนกรน โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในรายทม่ี อี าการ ไม่ให้เดก็ มอี าการหวัดไอบอ่ ยๆ หรอื ป้องกนั โรคภมู แิ พ้ทาง
ทบ่ี ง่ วา่ นา่ จะมภี าวะหยดุ หายใจจากการอดุ กน้ั ทางเดินหายใจ เดินหายใจ ตอ้ งค�ำ นงึ ถึงปัจจัย 3 อยา่ ง คือ ตวั เดก็ เอง
ขณะหลับ หรือ OSA ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดย (ประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว) การตดิ เชื้อ และส่งิ แวดลอ้ ม
แพทย์ เพ่ือจะได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่ระยะ เดก็ ควรไดร้ บั การเล้ยี งดูทเี่ หมาะสม ควรได้รับนม
แรกๆ เพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนที่ แม่ต้ังแต่แรกเกิดและตอ่ เนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน
รุนแรงตามมา เนื่องจากในนมแมม่ ีสารภูมิตา้ นทานต่อเช้ือโรค และมีการ
ศึกษาวิจัยยืนยันว่านมแม่ช่วยป้องกันทั้งการติดเช้ือทาง
เดินหายใจและภูมิแพ้ในเด็กได้ การใหเ้ ด็กได้รบั อาหารท่ีมี

ประโยชนต์ ามวัย และนอนหลับพกั ผ่อนได้
เต็มท่ีก็เป็นการช่วยสร้างภูมิต้านทานให้เด็ก
ดว้ ย เด็กที่มีประวัตภิ ูมแิ พ้ในครอบครวั ควร
หลกี เล่ียงการได้รับเชือ้ โรคทางเดินหายใจตง้ั
แต่เลก็ ๆ โดยไม่พาไปในสถานทแ่ี ออดั ซึ่ง
อาจมคี นป่วยทางเดินหายใจ ใหเ้ ด็กไดร้ บั
วัคซีนป้องกันโรคตามวัยเพ่ือป้องกันการติด
เชื้อ ในเด็กที่โตขึ้นก็ควรให้ออกกำ�ลงั กาย
อย่างเหมาะสมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงไม่ติด
เช้ือโรคได้งา่ ย
สำ�หรับสิ่งแวดล้อมที่สำ�คัญและมีการ
ศึกษาวิจัยท่ียืนยันว่าทำ�ให้เด็กติดเช้ือทาง
เดนิ หายใจงา่ ยขน้ึ และมอี าการของโรคภมู แิ พ้
ก�ำ เรบิ ขน้ึ คอื ควนั บหุ ร่ี ควนั ไฟ ดงั นน้ั จงึ ไม่
ควรมคี นสูบบหุ ร่ีในบา้ น และไม่ให้เด็กได้รับ
ควันเหล่านี้ นอกจากนตี้ อ้ งหลกี เลย่ี งสารก่อ
ภมู แิ พ้ และสารกอ่ การระคายเคือง เช่น ขน
สตั ว์ ฝุน่ ละอองต่าง ๆ ดว้ ย

จะปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ ดก็ เป็นหวดั บอ่ ย ๆ และโรค
ภมู ิแพท้ างเดินหายใจได้อยา่ งไร

โรคหวดั โรคติดเชอื้ ทางเดินหายใจ และโรค
ภมู ิแพ้ทางเดินหายใจในเด็ก มคี วามเกี่ยวข้องสัมพันธ์
กนั กล่าวคือ การตดิ เชื้อทางเดนิ หายใจจากไวรัสหรือ
เชอ้ื โรคบางชนดิ ในขณะอายนุ อ้ ยๆ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ถา้
ติดเช้ือในช่วงอายุ 1 - 2 ปีแรก จะกระต้นุ ใหเ้ กดิ ปฏิกริ ยิ า
ภูมิแพ้ในรา่ งกายของเด็กทีม่ ีแนวโนม้ หรือมพี ันธกุ รรมที่
จะเป็นภูมแิ พ้อย่แู ล้ว ทำ�ใหม้ อี าการของโรคภมู ิแพท้ างเดนิ
หายใจแสดงออกมา หรือมีอาการมากขนึ้ นอกจากน้กี าร
ติดเชื้อทางเดินหายใจไม่ว่าจะเป็นจากเชื้อโรคชนิดใดก็ตาม

75

สร้างเสริมสขุ ภาพ และพัฒนาการของเด็กแรกเกิด – 5 ปี ในชุมชน

กิติมา ทรงประกอบ

พยาบาลหัวหน้าแผนกสร้างเสรมิ สขุ ภาพชุมชน

เดก็ เปน็ ทรพั ยากรบคุ คลทม่ี คี ณุ คา่ และเปน็ อนาคตที่สำ�คัญของชาติ หลายประเทศล้วนมุ่งเน้นการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งจะต้องเริ่มต้นจากเด็ก โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิด – 5 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการพัฒนาในด้าน
ต่างๆ อย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจ และสังคม เด็กในวัยนี้ ถ้าได้รับการเลี้ยงดูที่
เหมาะสม มีการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน และมีการส่งเสริมพัฒนาการที่ดีในแต่ละด้าน ก็จะทำ�ให้เด็กนั้น
เติบโตเป็นผู้ ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
ซงึ่ พฒั นาการเดก็ เกดิ จากการเปลี่ยนแปลงหลายด้านผสมผสานกนั โดยพฒั นาการทกุ ด้าน ไม่วา่ จะเป็นดา้ น
ร่างกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ จติ ใจ และสังคม ลว้ นมีความส�ำ คญั และเก่ยี วขอ้ งสมั พันธ์กนั หมด การเปลี่ยนแปลงของ
พัฒนาการด้านหนึ่ง ย่อมมีผลให้พัฒนาการอีกด้านหนึ่งเปลย่ี นแปลงไปด้วย เช่น เด็กท่ีมรี ่างกายแขง็ แรงสมบูรณ์
มักเคล่ือนไหวคล่องแคล่ว สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ มีอารมณ์แจ่มใส รจู้ กั ควบคมุ อารมณ์ เขา้ กบั ผอู้ น่ื ไดด้ ี และ
มคี วามสนใจเรยี นรู้สิง่ รอบตัว ในทางตรงกันข้ามเด็กที่มีสุขภาพไม่ดี มักประสบปัญญาด้านการเจริญเติบโตของ
ร่างกายล่าชา้ หรือหยุดชะงกั ชัว่ ขณะ อารมณห์ งุดหงดิ ง่าย มอี าการเศรา้ ซึม ปรบั ตัวเข้ากบั ผูอ้ น่ื ไดย้ าก และขาดสมาธิ
ในการเรียนรูส้ ่ิงตา่ ง ๆ อวัยวะทีเ่ จริญมากทีส่ ดุ คือ สมอง ฉะนั้นถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อการ
เจริญเติบโตและสติปัญญา ซึ่งสามารถแก้ไขได้น้อยหรือไม่ได้เลยในระยะตอ่ มา
A76ugust 2016

เด็กในช่วงแรกเกิด – 5 ปี เป็นวัยที่มี คนมองโลกในแงด่ ี เปน็ มติ รกบั ทกุ คน จงึ มคี วามจ�ำ เปน็ อยา่ ง
ความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อมากกว่าวัยอื่นๆ เนื่องจาก ยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งเตรยี มความพรอ้ ม ทง้ั ดา้ นรา่ งกาย สตปิ ญั ญา
ร่างกายยังไม่สามารถสรา้ งภูมคิ ุม้ กันโรคได้ดี และ อารมณ์ และสงั คม ของเดก็ วยั นอี้ ยา่ งใกล้ชิดและตอ่ เนื่อง
ภูมิคุ้มกันโรคบางอย่างไม่สามารถถ่ายทอดมาจากแม่ เด็กจึงควรได้รบั การอบรมเลย้ี งดู และอยใู่ นสภาพแวดลอ้ ม
ได้ เป็นวัยที่เริ่มมีการพัฒนาทางบุคลิกภาพที่สำ�คัญ ท่ใี หม้ พี ฒั นาการอยา่ งเปน็ องคร์ วม หมายถงึ พฒั นาการ
อันเป็นรากฐานของบุคลิกภาพที่ดีต่อไปในอนาคต รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม จากพอ่ แม่ ผเู้ ลย้ี งดเู ดก็ และผู้
เดก็ ทม่ี คี วามสมั พนั ธท์ ด่ี ตี อ่ พอ่ แม่ ไดร้ บั ความรกั ความ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
อบอนุ่ และการดแู ลเอาใจใสเ่ ปน็ อยา่ งดี จะท�ำ ใหเ้ ปน็

77

นอกจากนจ้ี ากการส�ำ รวจ และศกึ ษาถงึ สถานการณ์ มีความซับซ้อนมากยง่ิ ข้ึนด้วย การท่เี ด็กมีภาวะโภชนาการ
สขุ ภาพเดก็ ปฐมวยั (เดก็ แรกเกดิ - 5 ป)ี ยงั พบประเดน็ เกนิ และเป็นโรคอว้ น สง่ ผลให้พบปญั หาโรคไม่ตดิ ต่อเรอื้ รัง
ปัญหาทสี่ ำ�คญั ดังน้ี ทารกแรกเกดิ น้ำ�หนกั น้อย คอื มีน�้ำ หนกั เพิม่ ขึ้นท้ังในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นการบั่นทอนคุณภาพ
แรกเกดิ น้อยกว่า 2,500 กรัม โดยแบง่ เป็น 2 กลุม่ ไดแ้ ก่ ของทรัพยากรมนุษย์ของประเทศในอนาคต
ทารกแรกเกิดน�้ำ หนกั น้อยจากการคลอดกอ่ นกำ�หนด และ ทั้งนีป้ ัญหาต่างๆ ดงั ที่ไดก้ ลา่ วมา สอดคล้อง
จากปัจจัยของการตั้งครรภ์โดยสาเหตุสำ�คัญได้แก่ ภาวะ กับปญั หาของเดก็ ทีม่ อี ายุระหว่าง 0 – 5 ปี ในชุมชน ทั้ง
โภชนาการของมารดา การไมฝ่ ากครรภห์ รือฝากครรภน์ ้อย 13 ชุมชน ทอ่ี ยู่ในพนื้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบของคลินิกศนู ย์
กวา่ 4 ครง้ั มารดาใชส้ ารเสพติด มภี าวะแทรกซ้อนระหวา่ ง แพทย์พฒั นา ซง่ึ มีจ�ำ นวนทั้งสน้ิ 372 คน จากการสำ�รวจ
ตั้งครรภ์ เช่น เลอื ดออกทางชอ่ งคลอด ระดบั ความดนั โลหติ พบว่า เด็กทสี่ งสยั ดา้ นพัฒนาการลา่ ชา้ รอ้ ยละ 2.42 หรือ
สงู ขณะตง้ั ครรภ์ หรอื น�ำ้ หนกั แมเ่ พม่ิ ขน้ึ นอ้ ยกวา่ 10 กโิ ลกรมั ประมาณ 9 คน มีภาวะโภชนาการต่�ำ กว่าเกณฑม์ าตรฐาน
โดยขอ้ มลู จากกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ พบว่ามี ผอมถงึ ค่อนข้างผอม จำ�นวน 20 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.38
ทารกนำ�้ หนักแรกเกดิ นอ้ ยกวา่ 2,500 กรัม ค่อนขา้ งคงที่ และมีภาวะโภชนาการเกินเกณฑ์มาตรฐาน ตั้งแต่ท้วมถึง
เปน็ รอ้ ยละ 8.5 – 8.9 ซงึ่ สูงกวา่ เป้าหมายของแผนพัฒนา อ้วน จำ�นวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 5.38 และผลการ
สุขภาพแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 11 พ.ศ. 2555 – 2559 ท่กี �ำ หนด ส�ำ รวจพบว่ารอ้ ยละ 89.25 ของพอ่ แม่ หรือผู้ดแู ลเดก็ มี
เป็นร้อยละ 7 การขาดสารอาหารโปรตีนและพลังงานใน ส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และการเตรียม
เด็กแรกเกิด - 5 ปี ปญั หาโภชนาการของประเทศที่กำ�ลงั ความพร้อมก่อนเขา้ โรงเรยี นของเดก็ ดังน้ันเพื่อเปน็ การ
พัฒนารวมทัง้ ประเทศไทย มีความสอดคล้องกนั คือ การ แก้ไขปัญหาให้เดก็ ท่มี ีอายุระหว่าง 0 – 5 ปี ในชุมชน ได้
มีภาวะโภชนาการขาดในพื้นที่ยากจน หรือท้องที่ห่างไกล มีพัฒนาการทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม ให้
และปัญหาภาวะโภชนาการเกินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย เป็นไปตามมาตรฐาน ทางแผนกสร้างเสรมิ สุขภาพชุมชน
เฉพาะในสังคมเมือง ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คลนิ ิกศนู ยแ์ พทย์พฒั นา จงึ ไดจ้ ดั ดำ�เนนิ โครงการ “สรา้ ง
หรือมีปัญหาท้งั สองภาวะ ทเี่ รยี กวา่ Double burden of เสริมสขุ ภาพ และพฒั นาการของเดก็ แรกเกิด – 5 ปี ใน
malnutrition ปัจจุบันนี้การขาดสารอาหารลดลงอย่างมี ชมุ ชน” ครอบคลมุ ทง้ั 13 ชมุ ชนโดยรอบ ภายในระยะเวลา
นยั ส�ำ คญั แต่ในขณะเดยี วกนั ภาวะโภชนาการเกนิ กลบั มี 2 ปี (ต้ังแตป่ ี 2559 – 2560) เพอ่ื เปน็ การเฉลมิ พระเกยี รติ
แนวโนม้ สงู ขึ้น และมีปัจจัยต่าง ๆ ท่สี ่งผลใหป้ ัญหาเหล่านี้ สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เน่อื งในโอกาส
A78ugust 2016

มหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา วนั ในครง้ั น้ี มุ่งหวังจะพฒั นาคุณภาพของบดิ า มารดา ใน
ท่ี 12 สงิ หาคม 2559 โดยในปี 2559 จะด�ำ เนนิ โครงการ การดูแลบุตร มงุ่ หวังจะให้เด็กมพี ฒั นาการทด่ี ี สมกับวยั ที่
ในชมุ ชนน�ำ รอ่ ง จ�ำ นวน 7 ชมุ ชน ซง่ึ มเี ดก็ ทม่ี อี ายรุ ะหวา่ ง ควรจะมีพฒั นาการใหม้ ากทสี่ ดุ พัฒนาคุณภาพชวี ิต ดา้ น
0 – 5 ปี จำ�นวน 218 คน ได้แก่ ชุมชนหมู่บ้านพลบั พลา โภชนาการ ด้านการเล้ียงดู ปญั หาดา้ นสขุ ภาพ สิ่งแวดล้อม
(30 ไร่) ชมุ ชนคลองพลบั พลา (46 ไร่) ชุมชนทรัพย์สินเกา่ และการติดตามเดก็ ให้ไดร้ บั วัคซีนครบถว้ นตามเกณฑ์ ทัง้ นี้
ชมุ ชนรงุ่ มณีพัฒนา ชมุ ชนทรพั ย์สนิ ใหม่ ชมุ ชนบึงพระราม จะต้องมบี ิดา มารดา มีสว่ นร่วมในการสง่ เสริมพัฒนาการ
9 พัฒนา และชมุ ชนบึงพระราม 9 บอ่ 3 และในปี 2560 ให้แกเ่ ด็ก เพือ่ ให้เดก็ มพี ฒั นาการทีส่ มวยั เตบิ โตอย่างมี
จ�ำ นวน 6 ชุมชน จำ�นวน 154 คน ไดแ้ ก่ ชมุ ชนรว่ มสามคั คี คณุ ภาพ มีความฉลาดท้ังดา้ นสตปิ ัญญา อารมณ์ สังคม
ชุมชนนอ้ มเกลา้ ชมุ ชนเทพลลี า ชมุ ชนเก้าพัฒนา ชุมชน พรอ้ มที่จะเป็นกำ�ลังในการพัฒนาชุมชน และประเทศชาติ
รมิ คลองลาดพร้าว (ประชาอุทศิ ) และชุมชนรมิ คลอง ต่อไปในอนาคต
ลาดพรา้ ว โดยมีการตรวจสขุ อนามัยส่วนบุคคล และคัด
กรองโรคเบื้องต้นใหก้ ับเด็ก ส�ำ หรบั เดก็ ทม่ี ปี ัญหาสุขภาพ 79
ทางคลนิ ิกศนู ยแ์ พทย์พฒั นาจะให้ความชว่ ยเหลอื หรอื ส่ง
ตอ่ เพ่ือรบั การรักษาตามความเหมาะสม และจัดอบรมให้
ความรู้แกบ่ ดิ า มารดา ผปู้ กครอง เพ่อื เพิ่มทกั ษะในการ
สงั เกต ส่งเสริมพฒั นาการของเดก็ สรา้ งความม่นั ใจในการ
บันทกึ พฒั นาการของเด็กในชว่ งวัย ส่งเสรมิ ดา้ นโภชนาการ
ดา้ นการเลย้ี งดู ปญั หาดา้ นสุขภาพ ส่ิงแวดล้อม และ
การติดตามเด็กให้ได้รบั วคั ซนี ครบถ้วนตามเกณฑ์ โดยจะ
ดำ�เนินการจัดอบรมให้ความรู้การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ และ
พัฒนาการของเดก็ แรกเกิด – 5 ปี ส�ำ หรับบดิ า มารดา ผู้
ปกครอง ในวนั อาทิตย์ท่ี 21 สงิ หาคม 2559 ระหว่างเวลา
08.00 - 12.00 น. ณ คลนิ กิ ศนู ย์แพทยพ์ ัฒนา บรริ กั ษ์
อาคาร ห้องประชมุ สัมมนา ชั้น 3 ซ่ึงการจัดท�ำ โครงการ

ภาพกิจกรรมคลนิ กิ ศนู ยแ์ พทยพ์ ัฒนา

วันท่ี 12 มิถุนายน 2559 วนั ท่ี 30 กรกฎาคม 2559

กรรมการผอู้ �ำ นวยการเปน็ ประธาน ในพิธีเปดิ กรรมการผูอ้ �ำ นวยการเปน็ ประธาน ในพิธปี ิด
การแข่งขันกีฬา “ชุมชนสัมพนั ธ์คพั ครั้งที่ 5” การแข่งขันกีฬา “ชุมชนสัมพันธค์ ัพ คร้งั ท่ี 5”
ณ ลานกฬี า ชมุ ชนหมู่บา้ นพลับพลา 30 ไร่ ณ ลานกฬี า ชมุ ชนหม่บู ้านพลบั พลา 30 ไร่
A80ugust 2016

วนั ที่ 17 มถิ นุ ายน 2559

คลนิ กิ ศนู ยแ์ พทยพ์ ฒั นา รว่ มท�ำ บญุ บรจิ าค
สงิ่ ของถวายวัดพระบาทน�ำ้ พุ พระอุดม
ประชาทน (ทา่ นเจา้ คณุ อลงกต) จงั หวดั ลพบรุ ี

วนั ที่ 26 มิถุนายน 2559

คณะกรรมการราชวทิ ยาลยั อายุรแพทย์
แหง่ ประเทศไทย เข้าเยี่ยมสำ�รวจ
เพื่อรองรับมาตรฐาน การรักษาโดย
การฟอกเลอื ดด้วยเคร่อื งไตเทยี ม

81

วันท่ี 4 กรกฎาคม 2559

กรรมการผู้อำ�นวยการร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากองพัน
ทหาร ราบท่ี 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรกั ษาพระองค์ฯ

วนั ท่ี 11 กรกฎาคม 2559

กรรมการผอู้ �ำ นวยการรว่ มงานประเพณีหลอ่ เทียนพรรษา ประจำ�ปี 2559 ของส�ำ นกั งานเขตวังทองหลาง
ณ ศนู ยก์ ารคา้ อมิ เรียลเวลิ ด์ลาดพร้าว

A82ugust 2016

วนั ที่ 29 กรกฎาคม 2559

ส�ำ นกั ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดโครงการสัมมนา ปนั นำ�้ ใจ สรา้ งสุขในสังคม ตามแนวพระราชด�ำ ริ “บวร”
โดย คลนิ ิกศนู ย์แพทยพ์ ัฒนาไดเ้ ข้าร่วมจัดซมุ้ นทิ รรศการ ตรวจสุขภาพ

83

ความภาคภมู ใิ จของคลนิ กิ ศูนยแ์ พทย์พฒั นา

พ.ศ.2553 - ผา่ นการรับรองคณุ ภาพมาตรฐาน (HA) ข้นั ที่ 1
พ.ศ.2554 - ผา่ นการรบั รองคณุ ภาพมาตรฐาน (HA) ข้นั ท่ี 2
- ผ่านการประเมนิ มาตรฐานการรักษา โดยการฟอกเลอื ดดว้ ยเคร่ืองไตเทยี ม
พ.ศ.2555 - ประเมนิ มาตรฐานงานหอ้ งปฏบิ ัติการเทคนิคการแพทย์
- ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน (HA) ขั้นที่ 3
พ.ศ.2556 - ผ่านการประเมินมาตรฐานระบบคณุ ภาพ ISO9001:2008
พ.ศ.2557 - ผา่ นการประเมนิ Reaccreditation HA ครัง้ ท1่ี
พ.ศ.2558 - ประเมินมาตรฐานงานห้องปฏบิ ตั กิ ารเทคนิคการแพทย์
พ.ศ.2559 - ผ่านการประเมินมาตรฐานระบบคุณภาพ ISO9001:2008

A84ugust 2016

ข่าวสารคลินกิ ศูนยแ์ พทยพ์ ัฒนา

คลนิ กิ ศูนยแ์ พทย์พฒั นา ให้ แผนกส่ือสารองค์กร
บริการตรวจสุขภาพแบบครอบคลุม โทรศพั ท์ : 02-1050345, 02-3087600 กด 9 ต่อ 2391-2394
สำ�หรบั บุคคลทั่วไป และบรษิ ทั หรือหนว่ ย โทรสาร : 02-1050349 E-mail : [email protected]
งาน ท้ังก่อนเขา้ งานและตรวจสุขภาพ
ประจ�ำ ปี โดยทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากร
และเครื่องมอื ท่ที นั สมัย มาตรฐานระดบั
สากล รวมถึงให้บริการส�ำ หรบั บริษทั คู่
สัญญาด้านการรักษาพยาบาลแบบเงิน
เชอ่ื
แจ้งความประสงค์ขอเข้า
ร่วมตรวจสุขภาพหรือเป็นบริษัทคู่สัญญา
กบั ทางคลินิกศนู ยแ์ พทย์พฒั นา และ
สอบถามรายละเอียดเพมิ่ เตมิ ไดท้ ี่

85

สมัครสมาชิก ชอ่ื /นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกดิ
เพ่อื รับนิตยสารปี 2559 หมายเลขบัตรประชาชน การศกึ ษา
อาชีพ
ฟรี! สถานทจ่ี ัดสง่ MDC Health magazine บ้าน บรษิ ัท
ทีอ่ ยู่
Cรเู้hพil่ือdrสeขุ nภ’sาพHลeaกู lรthกั Issue
โทรศพั ท ์ โทรสาร E-mail
ฉบบั ท่ี 2 ปท ่ี 1 เดอื นสงิ หาคม 2559 ISSN 2465-4841
รเู พอ่ื สขุ ภาพลกู รกั Children’s Health Issue *กรุณากรอกรายละเอยี ดน�ำ ใสซ่ องติดแสตมป์สง่ กลบั มาตามท่อี ยูน่ ี้

ฉบบั ท่ี 2 ปท ่ี 1 เดอื นสงิ หาคม 2559 แผนกสอ่ื สารองคก์ ร MDC Health magazine
บริษทั บ้านบึงเวชกจิ จ�ำ กดั (คลินกิ ศูนย์แพทย์พัฒนา)
ISSN 2465-4841 159 ถ.ประดษิ ฐ์มนธู รรม เขตวงั ทองหลาง กรงุ เทพมหานคร 10310
โทรศพั ท์ 02-3087600, 02-1050345 กด 9 ตอ่ 2391-2393

E-mail: [email protected]



เเงงไไ�นน� ดดฝฝรŒŒราาับับกกกกขขาาออรรงงคคปปŒมมŒุุ รรคคะะชชรรออาาชชงงนน

TTRRUUSSTT &&
CCOONNFFIIDDEENNCCEEบทบาทหนาŒ ท่ขี องสถาบนั คŒมุ ครองเง�นฝาก

321บ123......ทรชชรใดดเซเใพพนนบับบัำำ่ึงแแูู กกร่่อ��อลลรรผผาวรระะสสแแิดิดทบบลลมณณะะชชัญัญสสะะถหบบออทีีทมมงึ ชชรรนบบส่สี่ีผไไสีีสวว��หหใใถถฝูŒานนเเถถาาปปาาากกทรราาบบนนกเเบบาางงนัันีข่กกเรรัันนน��นงกกออจจอ�นกกททาาาางงใงาาเี่เ่ีรรททนยยรรรรเเสุนุนคคสย�ย�งงเเงงน��นสสวกกืนนืถ��นนนถถำำเเเเกกงงททาหหทกกูู ��นน็็บบถถี่่ีบรรี่มเเใใพพจจกูกูับบัหหีเันงาาเเ��กกกกแแ พพน�กกกกคถถาาฝสสก�ก�ผผรรออŒมุถถาถถจจููฝฝนนกาาาาออคาาใใยยบบเบบนนกกกรเเันันออใใภภงงนิบบกกนนอน�น� าาวออาาญญุุคคยยงงนนรรเนืนืใใงเนนาาเญุญุเงงงน�ใใตตหหรร�น�นน�คาาะะกกททยยตตมุ ฝบัับีอีอ่่ะะคเเเเผผยยววพพารูฝฝูลลภููภอ�่อ�อ่กาาาาาางนนแแกกยยดำำลลใใวเเตตะะงงยวว�น�นกกงงมมฎฎเเงงาาหหน�น� ชชมมททำำาากก่ี่ีรรยยฎฎะะคคคคหหืนืนมุมุ มมเเคคจจาารรยยาา ออหหกกงงนนำำเเงงหหีข้ีข้ นน��ออนนฝฝงงดดสสาาถถกกาาบบันนั กกาารรเเงงน�น� แแหหงงนน้ั้นนั

ซงึ่ รวมถงึ ผูฝ ากเงน� ในสวนท่ีมเี ง�นฝากเกินวงเง�นคุม ครองดว ย

อนุ่ ใจ... มนั่ ใจ... ม่ันคง...
อุ่นใจ...เง�นฝากของทานไดรับความคมุ ครอง มั่นใจ...ไดร บั เงน� คืนอยางรวดเรว็ ม่นั คง...ระบบสถาบันการเง�นมีความมัน่ คง

ทเภทงนนััา�นยททฝใีเเีาตมมกค่ืือ่อขวฝฝอาาางมกกทคเเางงมุ น�นน� คไกกดรัับบรอสสบังถถคาาวบบาัันนมกกคาามุ รรคเเงงร��นนอง หคคใหไบดาาววอร กกาาับนมมสสเญุ คคงถถ�นุุมมาาาคบบคคตนืันันรรอออกกยงงาาถถรราเเงูกูกงงรเเ�น�นพพวภภด�ก�กาาเถถรยยว็ออใใตตนน รจแแคจลละาาวบะะกกาธธบกกมนนสาามาาถรรนั่คคททาคาาบำำรรงงงนั ทแแาาหหกานนงงางรรปปรกววเรรางมมะะร�นเเกกททเมงบัับศศน�ีคกกไไขวททรรอายยะะงมททภภปมรราารววนั่ ยยะงงเคใใทกกตตงศาา โโรรคคคครรลลงงงังัขขาา ยย
ภายใตความคุมครอง ใบอนญุ าต ความม่ันคงทางการเง�นของประเทศ
สถาบนั คŒมุ ครองเงน� ฝาก
อาคารเอสเจ วนั บสี ซิเนสคอมเพลก็ ซ ชั้น 25-27 เลขที่ 349 ถนนว�ภาวดรี งั สติ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรงุ เทพฯ 10900
สโทถราศบพั ันทค 0Œุม-2ค2ร7อ2ง-0เง3น� 0ฝ0าCกall center 1158 โทรสาร 0-2272-0448 www.dpa.or.rh
อาคารเอสเจ วนั บสี ซเิ นสคอมเพลก็ ซ ช้นั 25-27 เลขที่ 349 ถนนวภ� าวดรี ังสิต แขวงจอมพล เขตจตจุ กั ร กรงุ เทพฯ 10900
โทรศพั ท 0-2272-0300 Call center 1158 โทรสาร 0-2272-0448 www.dpa.or.rh




Click to View FlipBook Version