The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตร-วิทยาศาสตร์-ป.5 Page

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nuyui_12, 2022-04-10 09:31:54

หลักสูตร-วิทยาศาสตร์-ป.5 Page

หลักสูตร-วิทยาศาสตร์-ป.5 Page

3

ตารางการออกแ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 2 ช่ือหน่วย ลกั ษณะทาง

มาตรฐาน/ สาระการเรยี นรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน/ช
ตวั ชว้ี ดั
ว 1.3 - ลักษณะทาง ส่งิ มชี ีวติ ทัง้ พชื สตั ว์ ระหว่างกจิ กร
ป.5/1 พนั ธุกรรมท่ีมกี าร และมนุษย์เมอ่ื - กิจกรรมลกั ษ
ป.5/2 ถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ู่ เจริญเติบโต เตม็ ท่ีจะมี ทางพนั ธุกรรม
ลูกของพชื สตั ว์ และ การสบื พนั ธ์เุ พื่อเพ่ิม พืชมีอะไรบา้ ง
มนุษย์ จํานวนและดาํ รงพนั ธ์ุ - กจิ กรรมลักษ
ใหค้ ง อย่ตู ่อไป โดยลกู พนั ธกุ รรมขอ
ท่เี กิดจากการสบื พันธุ์ อะไรบ้าง
ของพ่อและแมจ่ ะ - กิจกรรมลักษ
ได้รบั การถ่ายทอด ทางพันธุกรรม
ลักษณะทางพนั ธกุ รรม คนในครอบค
มาจากพอ่ และ แม่ ซึ่ง เมื่อสน้ิ สุดกิจ
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม - ทดสอบควา
ทีไ่ ด้รบั การถา่ ยทอดมา - สรุปผังความ
นี้เปน็ ลกั ษณะเฉพาะ
ของสง่ิ มีชีวิตแตล่ ะ
ชนิด

39

แบบการเรยี นรู้
งพันธกุ รรม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 8 ชั่วโมง 10 คะแนน

ชนิ้ งาน การวัดและประเมินผล กจิ กรรม/กระบวนการเรยี นรู้ ทกั ษะใน
ศตวรรษที่ 21
รรม - จากกจิ กรรมลักษณะทาง แบง่ กลุม่ นักเรียน เพื่อศึกษา การส่ือสาร
ษณะ พันธกุ รรมของพชื มี ลักษณะทางพันธกุ รมที่มีการ
มของ อะไรบา้ ง ถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ู่ลกู ของ ความรว่ มมอื
ง - จากกจิ กรรมลักษณะ พืช สัตว์ และมนษุ ย์
ษณะ พนั ธกุ รรมของสตั วม์ ี ตามใบกจิ กรรมตามภาระงาน การใช้เทคโนโลยี
องสัตว์มี อะไรบ้าง /ชิน้ งาน สารสนเทศและ
- จากกจิ กรรมลักษณะทาง การสอื่ สาร
ษณะ พันธุกรรมของคนใน
มของ ครอบครัว
ครัว ความรู้
จกรรม - จากการทำแบบสรุปผัง
ามรู้ ความคดิ
มคดิ

4

ตารางการออกแ
กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 2 ช่ือหนว่ ย ลักษณะทาง

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สือ่ การเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญของ

ว 1.3 1. วสั ดแุ ละอุปกรณ์ตามแบบ 1. ความสามารถในกา

ป.5/1 บันทกึ กิจกรรม สื่อสาร

ป.5/2 2. แบบบันทึกกจิ กรรม 2. ความสามารถในกา

3.แหลง่ การเรยี นรู้ 3. ความสามารถในกา

อินเทอร์เนต็ เทคโนโลยี

4.หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์

ป.5

40

แบบการเรียนรู้
งพันธกุ รรม ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 8 ชั่วโมง 10 คะแนน

งผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ น้ำหนัก ( 10 คะแนน )

าร 1. มวี นิ ยั ระหว่างเรยี น สอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
10 -
ารคิด 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
ารใช้

41

แบบบนั ทกึ หน่วยการเรยี นรู้

หน่วยที่ 2 ชอื่ หน่วย ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรรม

รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 ว 15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 8 ชวั่ โมง โรงเรียน....................

...............................................................................................................................................................

1. คำอธิบายประจำหนว่ ย

อธิบายลักษณะทางพันธุกรรมทมี่ ีการถ่ายทอดจากพอ่ แมส่ ู่ลูกของพืช สัตว์ และมนุษย์

แสดงความอยากรู้อยากเห็นโดยการถามคำถามเก่ียวกับลักษณะที่คล้ายคลึงกันของตนเองกับพ่อ

แม่ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล

การทดลองบันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ

นำเสนอส่ือสารสงิ่ ท่ีเรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ

เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จรยิ ธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม

2. ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยการเรยี นรู้ 42

เนอ้ื หา คณุ ลักษณะ
ลักษณะทางพนั ธุกรรมทมี่ กี าร 1. มวี นิ ยั
ถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ่ลู ูกของพืช 2. ใฝเ่ รียนรู้
สตั ว์ และมนุษย์ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

สมรรถนะ
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

การวดั ประเมินผล หนว่ ยท่ี 2 กระบวนการ
- การสังเกต ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
- การตอบคำถาม - กระบวนการสบื เสาะ
- แบบทดสอบ,สอบถาม สือ่ และแหล่งเรียนรู้ หาความรู้
- ตรวจผลงาน
- การนำเสนอ 1. วสั ดุและอุปกรณ์ตามแบบ - กระบวนการการ
บันทึกกิจกรรม สำรวจตรวจสอบ
2. แบบบันทกึ กจิ กรรม
3.แหล่งการเรียนรอู้ ินเทอรเ์ น็ต - กระบวนการการสืบคน้
4.หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 ขอ้ มูล

- การทดลอง

- การบันทึก

- การจดั กลุ่มข้อมลู

- การอภปิ ราย

43

3. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร

พนั ธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพันธุกรรมทม่ี ีผลต่อสิ่งมชี ีวิต ความหลากหลาย ทางชีวภาพและวิวัฒนาการ
ของสง่ิ มชี ีวิต รวมทงั้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ป.5/1 อธบิ ายลักษณะทางพนั ธุกรรมท่มี กี ารถา่ ยทอดจากพ่อแม่สลู่ ูกของพืช สตั ว์ และมนษุ ย์
ป.5/2 แสดงความอยากรู้อยากเห็นโดยการถามคำถามเก่ียวกับลักษณะที่คล้ายคลึงกันของตนเอง
กบั พอ่ แม่

4. สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด
ส่งิ มีชวี ติ ท้งั พืช สตั ว์ และมนษุ ย์เมื่อเจรญิ เตบิ โต เต็มทีจ่ ะมีการสบื พนั ธุเ์ พอ่ื เพิ่มจํานวนและดาํ รงพนั ธุ์

ใหค้ ง อย่ตู ่อไป โดยลูกทเ่ี กดิ จากการสบื พันธุ์ของพ่อและแม่จะ ไดร้ ับการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม
มาจากพอ่ และ แม่ ซ่ึงลักษณะทางพันธกุ รรมทีไ่ ด้รบั การถ่ายทอดมานี้เป็น ลกั ษณะเฉพาะของส่งิ มีชีวติ แต่
ละชนดิ

5. สาระการเรียนรู้ แกนกลาง
- สิง่ มชี วี ิตทั้งพืช สตั ว์ และมนษุ ย์ เม่ือโตเตม็ ทีจ่ ะมีการสบื พันธ์เุ พื่อเพิ่มจำนวนและดำรงพันธ์ุ โดย

ลกู ทเ่ี กิดมาจะได้รบั การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมจากพอ่ แมท่ ำให้มลี ักษณะทางพันธกุ รรมทเี่ ฉพาะ
แตกตา่ งจากส่งิ มีชีวติ ชนดิ อ่นื

- พชื มกี ารถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม เชน่ ลกั ษณะของใบ สดี อก
- สัตวม์ ีการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม เชน่ สขี น ลกั ษณะของขน ลักษณะของหู
- มนุษย์มีการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม เชน่ เชิงผมท่ีหนา้ ผาก ลกั ยิ้ม ลกั ษณะหนังตำ การ
ห่อลิ้น ลกั ษณะของตง่ิ หู

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

44

8. ชิน้ งาน/ภาระงาน
ระหว่างกิจกรรม
- กจิ กรรมลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของพืชมีอะไรบ้าง
- กจิ กรรมลกั ษณะพันธกุ รรมของสัตว์มีอะไรบ้าง
- กิจกรรมลักษณะทางพนั ธกุ รรมของคนในครอบครัว
เมอ่ื สนิ้ สุดกจิ กรรม
- ทดสอบความรู้
- สรปุ ผงั ความคดิ

9. การวัดผลประเมนิ ผล

-จากกจิ กรรมลักษณะทางพนั ธกุ รรมของพืชมีอะไรบา้ ง

- จากกจิ กรรมลกั ษณะพนั ธกุ รรมของสัตวม์ ีอะไรบ้าง

- จากกจิ กรรมลักษณะทางพันธกุ รรมของคนในครอบครัว

- จากการทำแบบทดสอบความรู้

- จากการทำแบบสรปุ ผงั ความคิด

10. การประเมินผลระหว่างจัดกิจกรรม

ประเด็นการประเมนิ น้ำหนกั ระดับคุณภาพ

10 ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)

การทำกจิ กรรม 4 อธิบายกิจกรรม อธบิ ายกิจกรรม อธิบายกจิ กรรม อธิบายกิจกรรม

ลักษณะทาง ลกั ษณะทาง ลักษณะทาง ลักษณะทาง ลักษณะทาง

พันธกุ รรมของพชื มี พนั ธุกรรมของพืชมี พนั ธกุ รรมของพืชมี พนั ธกุ รรมของพืชมี พันธกุ รรมของพชื มี

อะไรบา้ ง อะไรบา้ งถูกต้อง อะไรบ้าง ยังไม่ อะไรบ้างค่อย อะไรบา้ งถูกต้อง

สมบรู ณ์ คอ่ ยถูกต้อง ถกู ต้อง สมบรู ณ์ และไมม่ กี าร

สมบรู ณห์ รอื ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้องเลย ปรบั ปรุงแก้ไข

บ้างและมีการ แต่มีการปรับปรุง

ปรบั ปรงุ แก้ไข แก้ไข

การทำกจิ กรรม 4 อธิบายกิจกรรม อธบิ ายกิจกรรม อธิบายกิจกรรม อธบิ ายกิจกรรม

ลกั ษณะพันธกุ รรม ลกั ษณะพนั ธุกรรม ลักษณะพันธุกรรม ลกั ษณะพันธกุ รรม ลกั ษณะพนั ธกุ รรม

ของสัตวม์ ีอะไรบ้าง ของสตั ว์มีอะไรบา้ ง ของสตั ว์มีอะไรบา้ ง ของสัตวม์ ีอะไรบา้ ง ของสตั วม์ ีอะไรบา้ ง

ถกู ต้อง สมบูรณ์ ยงั ไม่ ค่อยถูกต้อง ยงั ไม่ ค่อยถูกตอ้ ง ไม่ถูกตอ้ งและไม่มี

สมบรู ณห์ รือถูกต้อง สมบรู ณห์ รอื ไม่ การปรับปรุงแก้ไข

บา้ งและมีการ ถูกต้องเลยแต่มีการ

ปรบั ปรงุ แก้ไข ปรับปรุงแก้ไข

45

ประเด็นการประเมิน น้ำหนกั ระดบั คณุ ภาพ

10 ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

การทำกจิ กรรม 4 อธบิ ายกจิ กรรม อธบิ ายกจิ กรรม อธบิ ายกิจกรรม อธบิ ายกิจกรรม

ลักษณะทาง ลกั ษณะทาง ลกั ษณะทาง ลกั ษณะทาง ลกั ษณะทาง

พนั ธุกรรมของคนใน พันธกุ รรมของคน พนั ธกุ รรมของคน พนั ธุกรรมของคน พันธกุ รรมของคน

ครอบครัว ในครอบครวั ในครอบครวั ยังไม่ ในครอบครัว ในครอบครัวถกู ต้อง

ถกู ต้อง สมบูรณ์ ค่อยถูกต้อง ยังไม่ ค่อยถูกตอ้ ง และไมม่ กี าร

สมบรู ณ์หรอื ถูกต้อง สมบรู ณ์หรอื ไม่ ปรับปรงุ แก้ไข

บ้างและมีการ ถกู ต้องเลยแตม่ ีการ

ปรบั ปรุงแก้ไข ปรับปรุงแก้ไข

การทำแบบทดสอบ 4 แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้

ความรู้ ถูกทุกข้อ ถูกร้อยละ 70-90 ถูกรอ้ ยละ 50- ถูกนอ้ ยกว่ารอ้ ยละ

60.99 50

การทำแบบสรุปผงั 4 สรปุ ผังความคดิ ได้ สรุปผังความคิด ได้ สรุปผงั ความคิด ได้ สรปุ ผงั ความคิด ได้

ความคดิ ครบถ้วน สะอาด ไม่ครบถ้วนแต่มี ไมค่ รบถว้ น ไม่ค่อย ไมค่ รบถ้วน ไม่

ส่งตรงเวลา การแก้ไข ไม่ค่อย สะอาด สง่ ไม่ตรง สะอาด สง่ ช้ากว่า

สะอาด ส่งตรงเวลา เวลา กำหนด

เกณฑ์การประเมนิ

ระหว่างจัดกิจกรรม 100 คะแนน

คะแนน 80-100 หมายถึง ดีมาก

คะแนน 70-79 หมายถึง ดี

คะแนน 65-69 หมายถึง พอใช้

คะแนน ตำ่ กว่า 65 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

11. กิจกรรมการเรยี นรู้

แบ่งกลมุ่ นักเรียน เพ่ือศึกษาลักษณะทางพนั ธกุ รมท่ีมีการถ่ายทอดจากพ่อแม่ส่ลู ูก ของพชื สัตว์ และ

มนษุ ย์ ตามใบกจิ กรรมตามภาระงาน /ชิ้นงาน

12. สื่อการเรียน
1. วัสดแุ ละอุปกรณ์ตามแบบบันทึกกิจกรรม
2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม
3. แหล่งการเรยี นรู้อินเทอร์เน็ต
4. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.5

4

ตารางการออกแ
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 3 ช่ือหนว่ ย การเปลย่ี นแ

มาตรฐาน/ สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน/
ตัวชว้ี ดั
ว 2.1 - การเปลย่ี นสถานะ สสารเปลีย่ นจากสถานะ ระหว่างกิจก
ป.5/1 ของสสาร หนง่ึ ไปเปน็ อีกสถานะ - กจิ กรรมก
ป.5/2 - การละลายของสาร หนง่ึ เมื่อได้รบั หรือ สถานะของส
ป.5/3 ในน้ำ สญู เสียความร้อน การ - กิจกรรมก
ป.5/4 - การเปลยี่ นแปลง เปล่ยี นแปลงนี้ เรียกว่า เป็นอยา่ งไร
ของ เม่ือเกิดการ การเปล่ียนสถานะ สาร - กิจกรรมก
เปล่ียนแปลงทางเคมี หลายชนิดเมอ่ื ใสล่ งใน สถานะทางก
- การเปลยี่ นแปลงท่ี น้ำ จะเกิดการ -กจิ กรรมกา
ผนั กลับได้และการ เปลย่ี นแปลงโดยแตก เปลีย่ นแปล
เปล่ยี นแปลงทผ่ี นั กลับ ออกเป็นอนภุ าคเล็ก ๆ เม่อื สิ้นสดุ ก
ไมไ่ ด้ และรวมเป็นเน้อื เดียวกนั - ทดสอบคว
กับน้ำ การเปล่ียนแปลง - สรปุ ผังคว
นี้ เรียกวา่ การละลาย
สารทเ่ี ปล่ยี นสถานะและ
สารทีล่ ะลายอยูใ่ นน้ำ
ยงั คงเป็นสารเดมิ ไม่

46

แบบการเรียนรู้
แปลงของสาร ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 12 ช่ัวโมง 10 คะแนน

/ช้ินงาน การวัดและประเมินผล กจิ กรรม/กระบวนการเรยี นรู้ ทกั ษะใน
ศตวรรษที่ 21
กรรม - จากกิจกรรมกรเปล่ยี น แบ่งกลุ่มนักเรียน เพื่อศึกษา การสอ่ื สาร
กรเปลี่ยน สถานะของสสาร 1. การเปล่ยี นสถานะของ
สสาร - จากกจิ กรรมการละลาย สสาร การละลายของสารใน ความร่วมมือ
การละลาย เปน็ อยา่ งไร น้ำ
ร - จากกิจกรรมการเปลี่ยน 2. การเปล่ียนแปลงทาง การใชเ้ ทคโนโลยี
การเปลย่ี น สถานะทางกายภาพ กายภาพ ของสสาร สารสนเทศและ
กายภาพ -จากกิจกรรมการ 3. วิเคราะห์การเปลยี่ นแปลง การส่ือสาร
าร เปลย่ี นแปลงทางเคมี ของสารและระบุการ
ลงทางเคมี - จากจากการทำ เปลยี่ นแปลงทาง เคมีของ
กิจกรรม แบบทดสอบความรู้ สารจาก หลักฐานเชงิ
วามรู้ - จากการทำแบบสรุปผงั ประจักษ์ ตามใบกจิ กรรมตาม
วามคดิ ความคดิ ภาระงาน /ชิ้นงาน

4

มาตรฐาน/ สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน/
ตวั ช้ีวดั
เปลย่ี นเป็นสารใหม่ การ
เปล่ียน สถานะและการ
ละลายจึงเป็นการ
เปลยี่ นแปลงทาง
กายภาพ
การเปล่ยี นแปลงของ
สารทีม่ ีสารใหม่เกิดข้ึน
เป็นการ เปล่ยี นแปลง
ทางเคมี อาจสังเกตได้
จากการทีส่ ารมีสมี ีกลนิ่
แตกต่างจาก สารเดมิ มี
ฟองแก๊ส มีตะกอน
เกดิ ขนึ้ หรอื มอี ุณหภูมิ
เพิ่มขึ้น หรือลดลง

47

/ช้นิ งาน การวดั และประเมนิ ผล กจิ กรรม/กระบวนการเรยี นรู้ ทักษะใน
ศตวรรษท่ี 21

4

ตารางการออกแ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3 ชื่อหน่วย การเปลยี่ นแ

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สือ่ การเรียนรู้ สมรรถนะสำคญั ของ

ว 2.1 1. วสั ดุและอุปกรณ์ตามแบบ 1. ความสามารถในกา

ป.5/1 บันทึกกิจกรรม ส่ือสาร

ป.5/2 2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม 2. ความสามารถในกา

ป.5/3 3.แหล่งการเรยี นรู้ 3. ความสามารถในกา

ป.5/4 อนิ เทอร์เน็ต เทคโนโลยี

4.หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์

ป.5

48

แบบการเรยี นรู้
แปลงของสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 12 ชั่วโมง 10 คะแนน

งผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นำ้ หนัก ( 10 คะแนน )

าร 1. มีวนิ ยั ระหว่างเรียน สอบ
2. ใฝเ่ รยี นรู้
10 -
ารคดิ 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน
ารใช้

49

แบบบนั ทึกหน่วยการเรยี นรู้

หนว่ ยท่ี 3 ชื่อหน่วย การเปลยี่ นแปลงของสาร

รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 ว 15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 12 ชวั่ โมง โรงเรยี น....................

...............................................................................................................................................................

1. คำอธบิ ายประจำหนว่ ย

อธิบาย วิเคราะห์ การเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทำให้สสารร้อนข้ึนหรือเย็นลง การละลายของ

สารในน้ำ การเปล่ียนแปลงของ เม่ือเกิดการเปล่ียนแปลงทางเคมี การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และการ

เปล่ยี นแปลงท่ีผนั กลบั ไมไ่ ด้ โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์

ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น

ข้อมูล การทดลองบันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ

สามารถนำเสนอส่อื สารสง่ิ ทเ่ี รียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ

เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จริยธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม

2. ผงั มโนทัศน์หนว่ ยการเรยี นรู้ 50

เนอ้ื หา คุณลกั ษณะ
- การเปลี่ยนสถานะของสสาร 1. มวี ินัย
- การละลายของสารในน้ำ 2. ใฝ่เรียนรู้
- การเปล่ียนแปลงของ เมื่อเกิดการ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
เปล่ยี นแปลงทางเคมี
- การเปลยี่ นแปลงที่ผันกลบั ได้และการ สมรรถนะ
เปล่ียนแปลงท่ผี นั กลบั ไมไ่ ด้ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

การวัดประเมนิ ผล หนว่ ยที่ 3 กระบวนการ
- การสังเกต การเปลี่ยนแปลงของสาร
- การตอบคำถาม - กระบวนการสืบเสาะ
- แบบทดสอบ,สอบถาม ส่อื และแหล่งเรียนรู้ หาความรู้
- ตรวจผลงาน
- การนำเสนอ 1. วัสดแุ ละอุปกรณ์ตามแบบ - กระบวนการการ
บันทกึ กิจกรรม สำรวจตรวจสอบ
2. แบบบนั ทึกกิจกรรม
3.แหลง่ การเรยี นรอู้ ินเทอรเ์ น็ต - กระบวนการการสบื คน้
4.หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 ข้อมลู

- การทดลอง

- การบันทกึ

- การจัดกลมุ่ ขอ้ มลู

- การอภิปราย

51

3. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของ

สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการเปล่ียนแปลงสถานะของ
สสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี

ป.5/1 อธิบายการเปล่ียนสถานะของสสาร เมื่อทำให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลง โดยใช้หลักฐานเชิง
ประจกั ษ์

ป.5/2 อธิบายการละลายของสารในนำ้ โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจกั ษ์
ป.5/3 วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงของ เมื่อเกิดการเปล่ียนแปลงทางเคมี โดยใช้หลักฐานเชิง
ประจักษ์
ป.5/4 วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยใช้หลักฐานเชิง
ประจักษ์

4. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด
สสารเปลี่ยนจากสถานะหน่ึงไปเป็นอีกสถานะ หนึ่งเมื่อได้รับหรือสูญเสียความร้อน การ

เปล่ียนแปลงนี้ เรียกว่า การเปล่ียนสถานะ สารหลายชนิดเมื่อใส่ลงในน้ำ จะเกิดการเปล่ยี นแปลงโดยแตก
ออกเป็นอนุภาคเล็ก ๆ และรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำ การเปล่ียนแปลงน้ี เรียกว่า การละลาย สารที่
เปลี่ยนสถานะและสารท่ีละลายอยู่ในน้ำ ยังคงเป็นสารเดิมไม่เปล่ียนเป็นสารใหม่ การเปล่ียน สถานะและ
การละลายจงึ เป็นการเปลย่ี นแปลงทาง กายภาพ

การเปลี่ยนแปลงของสารทม่ี ีสารใหมเ่ กดิ ขึน้ เป็นการ เปล่ียนแปลงทางเคมี อาจสังเกตไดจ้ ากการทส่ี าร
มสี ีมกี ลน่ิ แตกต่างจาก สารเดิม มีฟองแกส๊ มตี ะกอนเกิดขน้ึ หรอื มีอุณหภมู เิ พ่ิมขึน้ หรอื ลดลง

5. สาระการเรียนรู้ แกนกลาง
- การเปลย่ี นสถานะของสสารเปน็ การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ เม่อื เพม่ิ ความร้อนให้กบั สสารถึง

ระดับหนง่ึ จะทำให้สสารทเ่ี ป็นของแข็งเปลีย่ นสถานะเป็นของเหลว เรยี กว่า การหลอมเหลว และเมื่อเพมิ่
ความร้อนต่อไปจนถึงอีกระดับหนงึ่ ของเหลวจะเปล่ยี นเปน็ แกส๊ เรียกวา่ การกลายเปน็ ไอ แต่เมื่อลดความ
ร้อนลงถงึ ระดับหน่งึ แก๊สจะเปลย่ี นสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น และถ้าลดความรอ้ นต่อไป
อกี จนถึงระดบั หน่ึงของเหลวจะเปลีย่ นสถานะเปน็ ของแขง็ เรียกว่า การแข็งตัว สสารบางชนิดสามารถ
เปล่ียนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเปน็ ของเหลว เรียกว่า การระเหดิ สว่ นแก๊สบางชนดิ
สามารถเปลี่ยนสถานะเปน็ ของแขง็ โดยไมผ่ า่ น การเป็นของเหลว เรยี กวา่ การะเหดิ กลับ

- เมื่อใสส่ ารลงในนำ้ แล้วสารน้ันรวมเป็นเน้อื เดยี วกนั กับนำ้ ท่ัวทกุ ส่วน แสดงว่าสารเกดิ การละลาย
เรียกสารผสมท่ีได้วา่ สารละลาย

52

- เม่อื ผสมสาร 2 ชนิดขน้ึ ไปแล้วมีสารใหม่เกิดขนึ้ ซ่ึงมสี มบัติจากสารเดิม หรอื เม่ือสารชนิดเดียว
เกิดการเปล่ียนแปลงแล้วมีสารใหม่เกดิ ข้ึน การเปลี่ยนแปลงน้ีเรยี กว่า การเปลย่ี นแปลงทางเคมี ซึง่ สังเกต
ไดจ้ ากมีสี หรือกลนิ่ ต่างจากสารเดิม หรอื มีฟองแก๊ส หรือมีตะกอนเกดิ ขึน้ หรือมีการเพ่มิ ขนึ้ หรือลดลง
ของอณุ หภูมิ

- เมอ่ื สารเกิดการเปลีย่ นแปลงแลว้ สารามารถเปล่ยี นกลับเปน็ สารเดิมได้ เปน็ การเปล่ียนแปลงท่ี
ผันกลบั ได้ เชน่ การหลอมเหลว การกลายเป็นไอ การละลาย แตส่ ารบางอยา่ งเกิดการเปลี่ยนแปลง แลว้
ไม่สามารถเปลย่ี นกลับเปน็ สารเดิมได้ เปน็ การเปลยี่ นแปลงทผี่ ันกลบั ไม่ได้ เช่น การเผาไหม้ การเกดิ สนิม

6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งม่ันในการทำงาน

8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ระหวา่ งกจิ กรรม
- กิจกรรมกรเปล่ียนสถานะของสสาร
- กจิ กรรมการละลายเป็นอย่างไร
- กจิ กรรมการเปลี่ยนสถานะทางกายภาพ
-กจิ กรรมการเปล่ียนแปลงทางเคมี
เม่อื สน้ิ สดุ กจิ กรรม
- ทดสอบความรู้
- สรปุ ผงั ความคิด

9. การวัดผลประเมนิ ผล
- จากกิจกรรมกรเปล่ยี นสถานะของสสาร
- จากกจิ กรรมการละลายเปน็ อยา่ งไร
- จากกิจกรรมการเปลยี่ นสถานะทางกายภาพ
-จากกิจกรรมการเปล่ยี นแปลงทางเคมี
- จากจากการทำแบบทดสอบความรู้
- จากการทำแบบสรปุ ผังความคิด

53

10. การประเมนิ ผลระหว่างจดั กจิ กรรม

ประเด็นการประเมิน น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ

10 ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

การทำกิจกรรมกร 4 ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย

เปล่ยี นสถานะของ กจิ กรรมกรเปล่ียน กจิ กรรมกรเปลี่ยน กจิ กรรมกรเปล่ยี น กิจกรรมกรเปลย่ี น

สสาร สถานะของสสาร สถานะของสสาร สถานะของสสาร สถานะของสสาร

ถกู ต้อง สมบูรณ์ ยังไม่ ค่อยถูกตอ้ ง ไมค่ ่อยถูกต้อง ไมถ่ ูกตอ้ งและไม่มี

สมบูรณห์ รือถูกต้อง สมบรู ณ์หรอื ไม่ การปรบั ปรุงแก้ไข

บา้ งและมีการ ถกู ต้องเลยแตม่ ีการ

ปรับปรงุ แก้ไข ปรบั ปรุงแก้ไข

การทำกิจกรรมมวล 4 ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย

และนำ้ หนักสมั พนั ธ์ กิจกรรมการละลาย กจิ กรรมการละลาย กิจกรรมการละลาย การละลายเป็น

กันอย่างไร เป็นอย่างไร เป็นอย่างไร ยังไม่ เป็นอยา่ งไรไม่ คอ่ ย อย่างไรถูกต้องและ

ถกู ต้อง สมบูรณ์ คอ่ ยถูกต้อง ถกู ต้อง สมบรู ณ์ ไม่มีการปรับปรงุ

สมบูรณ์หรือถูกต้อง หรอื ไม่ถูกต้องเลย แกไ้ ข

บา้ งและมีการ แต่มีการปรับปรุง

ปรับปรงุ แก้ไข แก้ไข

การทำกิจกรรมการ 4 ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย

เปลีย่ นสถานะทาง กิจกรรมการเปลีย่ น กจิ กรรมการเปลย่ี น กิจกรรมการเปล่ียน กิจกรรมการเปลี่ยน

กายภาพ สถานะทาง สถานะทาง สถานะทาง สถานะทาง

กายภาพ กายภาพ กายภาพ กายภาพไมถ่ ูกตอ้ ง

ถูกต้อง สมบูรณ์ ยงั ไม่ คอ่ ยถูกต้อง ยังไม่ ค่อยถูกตอ้ ง และไมม่ กี าร

สมบรู ณ์หรือถูกต้อง สมบรู ณ์หรือไม่ ปรบั ปรุงแก้ไข

บา้ งและมีการ ถกู ต้องเลยแต่มีการ

ปรบั ปรงุ แก้ไข ปรบั ปรุงแก้ไข

การทำกิจกรรมการ 4 ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย

เปล่ยี นแปลงทางเคมี กจิ กรรมการ กจิ กรรมการ กิจกรรมการ กจิ กรรมการ

เปลยี่ นแปลงทาง เปลย่ี นแปลงทาง เปลย่ี นแปลงทาง เปล่ยี นแปลงทาง

เคมี เคมี เคมี เคมีไม่ถูกต้องและ

ถกู ต้อง สมบรู ณ์ ยงั ไม่ คอ่ ยถกู ต้อง ยงั ไม่ ค่อยถูกต้อง ไม่มีการปรับปรงุ

สมบรู ณห์ รือถูกต้อง สมบูรณ์หรอื ไม่ แก้ไข

บา้ งและมีการ ถกู ต้องเลยแตม่ ีการ

ปรบั ปรงุ แก้ไข ปรับปรงุ แก้ไข

54

ประเด็นการประเมิน นำ้ หนัก ระดับคุณภาพ

10 ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)

การทำแบบทดสอบ 4 แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้

ความรู้ ถูกทุกข้อ ถูกรอ้ ยละ 70-90 ถกู ร้อยละ 50- ถูกนอ้ ยกวา่ ร้อยละ

60.99 50

การทำแบบสรุปผัง 4 สรุปผงั ความคดิ ได้ สรปุ ผังความคดิ ได้ สรุปผงั ความคดิ ได้ สรุปผงั ความคิด ได้

ความคดิ ครบถ้วน สะอาด ไมค่ รบถ้วนแต่มี ไม่ครบถว้ น ไมค่ ่อย ไม่ครบถ้วน ไม่

ส่งตรงเวลา การแก้ไข ไมค่ ่อย สะอาด ส่งไม่ตรง สะอาด สง่ ช้ากว่า

สะอาด สง่ ตรงเวลา เวลา กำหนด

เกณฑ์การประเมนิ

ระหวา่ งจดั กิจกรรม 100 คะแนน

คะแนน 80-100 หมายถงึ ดมี าก

คะแนน 70-79 หมายถึง ดี

คะแนน 65-69 หมายถึง พอใช้

คะแนน ตำ่ กวา่ 65 หมายถึง ปรับปรุง

11. กิจกรรมการเรียนรู้
แบง่ กลมุ่ นักเรยี น เพ่ือศึกษา

1. การเปลีย่ นสถานะของสสาร การละลายของสารในน้ำ
2. การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ ของสสาร
3. วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงของสารและระบุการเปลี่ยนแปลงทาง เคมีของสารจาก หลักฐานเชงิ
ประจกั ษ์ ตามใบกิจกรรมตามภาระงาน /ช้นิ งาน

12. สื่อการเรยี น
1. วสั ดุและอปุ กรณ์ตามแบบบันทกึ กจิ กรรม
2. แบบบันทกึ กจิ กรรม
3. แหลง่ การเรยี นร้อู นิ เทอรเ์ น็ต
4. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.5

5

ตารางการออกแ
กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยท่ี 4 ชื่อหน่วย แรงและพลัง

มาตรฐาน/ สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน/ชน้ิ ง
ตัวช้วี ดั
ว 2.2 - แรงลัพธ์ของแรง เมอ่ื มีแรงหลายแรง ระหว่างกจิ กรรม
ป.5/1 หลายแรงในแนว มากระทำต่อวตั ถุ - กิจกรรมการหา
ป.5/2 เดยี วกันทีก่ ระทำต่อ หนงึ่ ๆ ผลรวมของ ลัพธท์ กี่ ระทำต่อ
ป.5/3 วตั ถใุ นกรณีทว่ี ตั ถอุ ยู่ แรงเหล่านน้ั คือ ไดอ้ ย่างไร
ป.5/4 นิ่ง แรงลพั ธท์ ่กี ระทำ - เขยี นแผนภาพ
ป.5/5 - แผนภาพแสดงแรงท่ี ตอ่ วัตถุ การหาแรง แสดงขนาดและ
กระทำตอ่ วัตถุทีอ่ ยู่ใน ลัพธต์ ้องพจิ ารณา ทศิ ทางของแรงท
แนวเดยี วกนั และแรง ทง้ั ขนาดและ กระทำตอ่ วตั ถุใน
ลัพธท์ ่ีกระทำต่อวัตถุ ทิศทางของ แรง เดยี วกัน
- ผลของแรงเสยี ดทาน ท้ังหมดที่กระทำต่อ - กิจกรรมแรงเส
ที่มีต่อ การ วตั ถนุ นั้ ถา้ แรงลัพธ์ ทานมีผลตอ่ วัตถ
เปลย่ี นแปลงการ ที่กระทำต่อ วตั ถทุ ี่ อยา่ งไร
เคล่ือนที่ของวัตถุ อยู่นงิ่ มีคา่ เป็นศูนย์ เมอ่ื สิ้นสดุ กิจกรร
- แผนภาพแสดงแรง วัตถุกจ็ ะอยู่นง่ิ ต่อไป - ทดสอบความร
เสยี ดทานและแรง ท่ี ถา้ มแี รง มากระทำ - สรุปผงั ความคิด
อย่ใู นแนวเดยี วกันท่ี ต่อวตั ถเุ พื่อใหว้ ตั ถุ

55

แบบการเรียนรู้
งงาน ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 10 ช่วั โมง 10 คะแนน

งาน การวดั และประเมินผล กิจกรรม/กระบวนการเรียนรู้ ทักษะใน
ศตวรรษท่ี 21
ม - จากกจิ กรรมการหาแรงลัพธ์ แบ่งกลุม่ นักเรยี น เพื่อศึกษา การสื่อสาร

าแรง ทก่ี ระทำต่อวัตถไุ ด้อย่างไร 1.การหาแรงลัพธ์ของแรง ความร่วมมอื

อวัตถุ - จากการเขยี นแผนภาพแสดง หลายแรงในแนว เดยี วกันที่

ขนาดและ ทิศทางของแรงที่ กระทำตอ่ วัตถุในกรณีท่ีวตั ถุ
พ กระทำตอ่ วตั ถุในแนวเดยี วกนั อยู่น่ิง
2. เขยี นแผนภาพแสดงขนาด
- จากกจิ กรรมแรงเสยี ดทานมี และ ทศิ ทางของแรงทกี่ ระทำ
ที่ ผลตอ่ วัตถอุ ยา่ งไร
นแนว - จากการทำแบบทดสอบ

ความรู้ ตอ่ วัตถใุ นแนวเดียวกนั

สียด - จากการทำแบบสรุปผัง 3. การวดั ขนาดของแรงท่ี

ถุ ความคิด กระทำตอ่ วตั ถุโดยใช้เครื่องชงั่

รม สปรงิ
รู้
4. แรงเสยี ดทานทมี่ ผี ลต่อการ

ด เปล่ียนแปลง การเคล่ือนท่ีของ
วัตถุ

5

มาตรฐาน/ สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน/ชิ้นง
ตัวชว้ี ดั กระทำต่อวตั ถุ
เคลอ่ื นที่ โดยวตั ถุ
น้ันสัมผสั กับ
ผิวสัมผัสของวัตถุ
อ่นื จะเกิดแรงเสียด
ทานต้านการ
เคล่อื นที่ของวตั ถุใน
บรเิ วณผิวสมั ผัส
ของวตั ถุนน้ั และ
สำหรับวตั ถุทกี่ ำลัง
เคลอื่ นท่ี กจ็ ะมีแรง
เสียดทาน ตา้ นการ
เคลอ่ื นท่ีของวัตถุ
เชน่ กัน

56

งาน การวดั และประเมนิ ผล กจิ กรรม/กระบวนการเรยี นรู้ ทกั ษะใน
ศตวรรษท่ี 21

จาก หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์

ตามใบกิจกรรมตามภาระงาน

/ชิน้ งาน

5

ตารางการออกแ
กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยที่ 4 ชื่อหน่วย แรงและพลัง

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ส่อื การเรียนรู้ สมรรถนะสำคญั ของ

ว 2.2 1. วัสดุและอปุ กรณ์ตามแบบ 1. ความสามารถในกา

ป.5/1 บันทึกกิจกรรม สอื่ สาร

ป.5/2 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม 2. ความสามารถในกา

ป.5/3 3.แหลง่ การเรียนรู้

ป.5/4 อนิ เทอร์เน็ต

ป.5/5 4.หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์

ป.5

57

แบบการเรียนรู้
งงาน ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 10 ช่ัวโมง 10 คะแนน

งผูเ้ รียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ น้ำหนกั ( 10 คะแนน )

าร 1. มวี ินัย ระหวา่ งเรียน สอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
10 -
ารคดิ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

58

แบบบันทกึ หน่วยการเรียนรู้

หน่วยที่ 4 ชื่อหน่วย แรงและพลงั งาน

รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 ว 15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 10 ชั่วโมง โรงเรียน....................

...............................................................................................................................................................

1. คำอธิบายประจำหน่วย

อธิบายวิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดยี วกันทีก่ ระทำตอ่ วตั ถุในกรณีทว่ี ัตถุอย่นู ่ิง โดย

ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพแสดงแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุที่อยูใ่ นแนวเดียวกันและแรงลัพธ์ท่ีกระทำ

ต่อวัตถุ ระบุผลของแรงเสียดทานท่ีมีต่อ การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนท่ีของวัตถุ เขียนแผนภาพแสดงแรง

เสียดทานและแรง ทีอ่ ยู่ในแนวเดียวกันทกี่ ระทำตอ่ วตั ถุ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น

ข้อมูล การทดลองบันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ

สามารถนำเสนอสอื่ สารสิ่งทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ

เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จริยธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม

2. ผงั มโนทศั นห์ น่วยการเรียนรู้ 59

เน้อื หา คุณลกั ษณะ
- จำแนกวตั ถเุ ป็นตวั กลางโปร่งใส 1. มวี ินัย
ตัวกลางโปรง่ แสง และวัตถุทึบแสง 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน

สมรรถนะ
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด

การวัดประเมนิ ผล หนว่ ยท่ี 4 กระบวนการ
- การสังเกต ตัวกลางแสง
- การตอบคำถาม - กระบวนการสบื เสาะ
- แบบทดสอบ,สอบถาม ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ หาความรู้
- ตรวจผลงาน
- การนำเสนอ 1. วัสดุและอปุ กรณ์ตามแบบ - กระบวนการการ
บนั ทึกกิจกรรม สำรวจตรวจสอบ
2. แบบบนั ทึกกิจกรรม
3.แหล่งการเรยี นร้อู นิ เทอร์เน็ต - กระบวนการการสืบค้น
4.หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 ขอ้ มูล

- การทดลอง

- การบันทกึ

- การจัดกลุ่มขอ้ มลู

- การอภปิ ราย

60

3. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ ลักษณะ

การเคลอ่ื นที่แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
ป.5/1 อธิบายวิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุในกรณีที่วัตถุ

อยู่นิง่ จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์
ป.5/2 เขยี นแผนภาพแสดงแรงทีก่ ระทำตอ่ วัตถทุ อี่ ยใู่ นแนวเดยี วกนั และแรงลพั ธ์ที่กระทำตอ่ วัตถุ
ป.5/3 ใช้เคร่อื งชัง่ สปริงในการวัดแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุ
ป.5/4 ระบุผลของแรงเสียดทานท่ีมีต่อ การเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชิง

ประจกั ษ์
ป.5/5 เขียนแผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรง ทอี่ ยู่ในแนวเดยี วกนั ทก่ี ระทำต่อวัตถุ

4. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด
เมื่อมีแรงหลายแรงมากระทำต่อวัตถหุ นงึ่ ๆ ผลรวมของแรงเหล่าน้ัน คือ แรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุ

การหาแรงลัพธต์ ้องพจิ ารณาทงั้ ขนาดและทิศทางของ แรงทัง้ หมดท่ีกระทำต่อวตั ถนุ ้ัน ถ้าแรงลพั ธ์ท่ีกระทำ
ตอ่ วตั ถทุ ่อี ยูน่ ิ่งมคี ่าเปน็ ศนู ย์ วัตถุก็จะอยนู่ ิ่งต่อไป ถ้ามีแรง มากระทำต่อวัตถุเพ่ือใหว้ ตั ถุเคล่อื นท่ี โดยวัตถุ
นัน้ สัมผัส กบั ผิวสัมผัสของวตั ถุอ่นื จะเกิดแรงเสียดทานตา้ นการ เคล่อื นท่ีของวัตถุในบริเวณผวิ สัมผสั ของ
วัตถนุ น้ั และ สำหรบั วัตถทุ ก่ี ำลงั เคลือ่ นท่ี ก็จะมีแรงเสยี ดทาน ตา้ นการเคล่ือนที่ของวัตถเุ ช่นกนั

5. สาระการเรยี นรู้ แกนกลาง
- แรงลัพธ์เปน็ ผลรวมของแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถุ โดยแรงลัพธ์ของแรง 2 แรงที่กระทำต่อวตั ถุ

เดียวกันจะมีขนาดเทา่ กับผลรวมของ
- แรงทั้งสองเมอื่ แรงท้งั สอง อยู่ในแนวเดียวกนั และมีทศิ ทางเดยี วกนั แตจ่ ะมีขนาดเทา่ กับผลตา่ ง

ของแรงทง้ั สองเม่ือแรงท้ังสอง อยใู่ นแนวเดียวกนั แต่มีทศิ ทางตรงขา้ มกนั สำหรับวตั ถุที่อยู่นิง่ แรงลัพธท์ ่ี
กระทำต่อวัตถุมคี ่าเป็นศนู ย์- การเขยี นแผนภาพของแรงท่ีกระทำต่อวตั ถุสามารถเขยี นได้โดยใช้ลูกศร โดย
หวั ลูกศรแสดงทิศทางของแรง และความยาวของลูกศรแสดงขนาดของแรงท่กี ระทำต่อวัตถุ

- แรงเสยี ดทานเป็นแรงที่เกดิ ข้ึนระหวา่ งผิวสัมผัสของวตั ถุ เพือ่ ต้านการเคลือ่ นที่ของวัตถุน้นั โดย
ถ้าออกแรงกระทำต่อวตั ถทุ ่ีอยู่นง่ิ บนพืน้ ผิวหนง่ึ ใหเ้ คลื่อนที่ แรงเสยี ดทานจากพ้ืนผวิ นัน้ ก็จะตา้ นการ
เคลอ่ื นที่ของวตั ถุ แต่ถ้าวัตถุกำลังเคลือ่ นท่ี แรงเสียดทานก็จะทำใหว้ ตั ถนุ น้ั เคลื่อนทีช่ า้ ลง หรือหยดุ น่ิง

61

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ

7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ระหวา่ งกจิ กรรม
- กจิ กรรมการหาแรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวตั ถไุ ด้อย่างไร
- เขียนแผนภาพแสดงขนาดและ ทศิ ทางของแรงที่กระทำต่อวัตถใุ นแนวเดยี วกัน
- กจิ กรรมแรงเสยี ดทานมผี ลต่อวตั ถุอยา่ งไร
เม่ือสิ้นสดุ กิจกรรม
- ทดสอบความรู้
- สรปุ ผังความคิด

9. การวัดผลประเมนิ ผล
- จากกิจกรรมการหาแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุได้อย่างไร
- จากการเขียนแผนภาพแสดงขนาดและ ทศิ ทางของแรงท่ีกระทำต่อวตั ถุในแนวเดียวกัน
- จากกิจกรรมแรงเสียดทานมีผลตอ่ วตั ถุอย่างไร
- จากการทำแบบทดสอบความรู้
- จากการทำแบบสรปุ ผังความคดิ

10. การประเมนิ ผลระหวา่ งจัดกิจกรรม

ประเดน็ การประเมนิ น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ

10 ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)

การทำกิจกรรมการ 4 ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธบิ าย

หาแรงลพั ธ์ทีก่ ระทำ กิจกรรมการหาแรง กจิ กรรมการหาแรง กิจกรรมการหาแรง กิจกรรมการหาแรง

ต่อวตั ถุได้อยา่ งไร ลัพธ์ที่กระทำต่อ ลพั ธท์ ่ีกระทำต่อ ลพั ธท์ ่ีกระทำต่อ ลพั ธ์ทก่ี ระทำต่อ

วตั ถุได้อย่างไร วตั ถไุ ดอ้ ย่างไรยงั ไม่ วัตถุไดอ้ ย่างไรไม่ วัตถุได้อย่างไรไม่

ถูกต้อง สมบรู ณ์ คอ่ ยถูกต้อง ค่อยถูกต้อง ถูกต้องและไม่มกี าร

62

ประเดน็ การประเมิน นำ้ หนกั ระดบั คณุ ภาพ

10 ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)

สมบูรณห์ รอื ถูกต้อง สมบรู ณ์หรอื ไม่ ปรบั ปรุงแก้ไข

บ้างและมีการ ถกู ต้องเลยแตม่ ีการ

ปรับปรงุ แก้ไข ปรับปรงุ แก้ไข

เขียนแผนภาพแสดง เขยี นแผนภาพ เขยี นแผนภาพ เขยี นแผนภาพ เขยี นแผนภาพ

ขนาดและ ทิศทาง แสดงขนาดและ แสดงขนาดและ แสดงขนาดและ แสดงขนาดและ

ของแรงท่กี ระทำตอ่ ทศิ ทางของแรงท่ี ทศิ ทางของแรงที่ ทศิ ทางของแรงที่ ทิศทางของแรงท่ี

วัตถุในแนวเดียวกนั กระทำต่อวตั ถุใน กระทำต่อวตั ถุใน กระทำตอ่ วัตถุใน กระทำต่อวัตถุใน

แนวเดียวกัน แนวเดียวกัน แนวเดียวกัน แนวเดยี วกนั

ถกู ต้อง สมบูรณ์ ยงั ไมค่ ่อยถูกต้อง ยังไมค่ ่อยถูกต้อง ไมถ่ ูกต้องและไม่มี

สมบูรณห์ รือถูกต้อง สมบรู ณ์หรือไม่ การปรบั ปรงุ แก้ไข

บา้ งและมีการ ถูกต้องเลยแต่มีการ

ปรับปรุงแก้ไข ปรับปรุงแก้ไข

ทำกจิ กรรมแรงเสยี ด ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย

ทานมีผลต่อวัตถุ กจิ กรรมแรงเสียด กิจกรรมแรงเสียด กิจกรรมแรงเสียด กิจกรรมแรงเสยี ด

อย่างไร ทานมผี ลตอ่ วัตถุ ทานมผี ลตอ่ วตั ถุ ทานมผี ลตอ่ วัตถุ ทานมผี ลตอ่ วัตถุ

อยา่ งไรถูกต้อง อยา่ งไรค่อยถูกต้อง อย่างไรไม่ค่อย อยา่ งไรไม่ถกู ต้อง

สมบูรณ์ สมบรู ณห์ รือถูกต้อง ถูกต้อง สมบูรณ์ และไมม่ กี าร

บา้ งและมีการ หรือไม่ถูกต้องเลย ปรบั ปรุงแก้ไข

ปรบั ปรุงแก้ไข แต่มีการปรับปรุง

แกไ้ ข

การทำแบบทดสอบ 4 แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้

ความรู้ ถูกทุกข้อ ถูกร้อยละ 70-90 ถูกร้อยละ 50- ถกู น้อยกว่าร้อยละ

60.99 50

การทำแบบสรุปผัง 4 สรปุ ผังความคดิ ได้ สรปุ ผังความคิด ได้ สรปุ ผงั ความคดิ ได้ สรปุ ผังความคิด ได้

ความคิด ครบถว้ น สะอาด ไม่ครบถ้วนแตม่ ี ไมค่ รบถว้ น ไม่ค่อย ไม่ครบถ้วน ไม่

ส่งตรงเวลา การแก้ไข ไมค่ ่อย สะอาด ส่งไมต่ รง สะอาด สง่ ช้ากว่า

สะอาด สง่ ตรงเวลา เวลา กำหนด

63

เกณฑก์ ารประเมิน

ระหว่างจัดกจิ กรรม 100 คะแนน

คะแนน 80-100 หมายถึง ดีมาก
ดี
คะแนน 70-79 หมายถึง พอใช้
ปรับปรุง
คะแนน 65-69 หมายถงึ

คะแนน ตำ่ กวา่ 65 หมายถึง

11. กิจกรรมการเรียนรู้
แบ่งกลุม่ นักเรียน เพ่ือศึกษา
1.การหาแรงลพั ธข์ องแรงหลายแรงในแนว เดยี วกนั ที่กระทำตอ่ วัตถใุ นกรณีทีว่ ตั ถอุ ยนู่ ิ่ง
2. เขียนแผนภาพแสดงขนาดและ ทิศทางของแรงท่ีกระทำต่อวัตถใุ นแนวเดียวกนั
3. การวดั ขนาดของแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถโุ ดยใชเ้ ครอ่ื งชั่ง สปรงิ
4. แรงเสียดทานทีม่ ผี ลต่อการเปล่ยี นแปลง การเคล่ือนท่ขี องวัตถุ จาก หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ตามใบ
กจิ กรรมตามภาระงาน /ชิ้นงาน

12. ส่ือการเรยี น
1. วสั ดุและอุปกรณ์ตามแบบบนั ทึกกิจกรรม
2. แบบบันทกึ กจิ กรรม
3. แหลง่ การเรียนรอู้ นิ เทอร์เน็ต
4. หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.ถ

6

ตารางการออกแ
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยท่ี 5 ชื่อห

มาตรฐาน/ สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน/ช
ตวั ชี้วดั
ว 2.3 - การได้ยินเสียงผ่าน เสียงเปน็ พลังงานที่เกดิ ระหวา่ งกจิ กร
ป.5/1 ตวั กลาง จากการสัน่ ของ - กิจกรรม เส
ป.5/2 - ลักษณะและการเกิด แหลง่ กำเนิดเสียง เสียง เคล่ือนท่ีได้อย
ป.5/3 เสียงสูง เสียงต่ำ เคล่อื นทจ่ี าก - กจิ กรรม เส
ป.5/4 - ลักษณะและการเกิด แหล่งกำเนดิ เสยี ง โดย เสียงตำ่ เกิดไ
ป.5/5 เสียงดัง เสยี งคอ่ ย อาศัยตัวกลางจนถงึ หู อย่างไร
- การวัดระดบั เสียง ผูฟ้ งั เสยี งท่ไี ดย้ ินมที ้งั - กจิ กรรม เส
- แนวทางในการ เสียงสูง เสียงต่ำ เสียง เสยี งค่อย ข้นึ
ห ลี ก เลี่ ย ง แ ล ะ ล ด ดงั เสียงคอ่ ย โดยเสยี ง อะไร
มลพษิ ทางเสยี ง สูง เสยี งตำ่ ขึน้ กบั - กจิ กรรม มล
ความถีใ่ นการส่นั ของ ทางเสียงเป็นอ
แหลง่ กำเนิดเสียง สว่ น เมอื่ สน้ิ สุดกิจ
เสยี งดัง เสยี งค่อย - ทดสอบควา
ข้นึ กับพลงั งานในการ - สรุปผังความ
ส่ันของแหลง่ กำเนดิ
เสยี ง และระยะห่าง

64

แบบการเรยี นรู้
หน่วย เสยี ง ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 14 ช่ัวโมง 10 คะแนน

ชน้ิ งาน การวดั และประเมินผล กิจกรรม/กระบวนการเรยี นรู้ ทักษะใน
ศตวรรษที่ 21
รรม - จากกิจกรรม เสียง แบง่ กลุม่ นักเรียน เพื่อศึกษา การสื่อสาร
สียง เคลื่อนท่ีไดอ้ ย่างไร 1. การเคล่ือนท่ีของเสยี งจาก
ย่างไร - จากกิจกรรม เสยี งสูง แหล่งกำเนิดเสยี งจนถึง หู ความร่วมมอื
สียงสงู เสยี งตำ่ เกดิ ได้อยา่ งไร ผู้ฟัง
ได้ - จากกจิ กรรม เสยี งดงั เสยี ง 2. การเกิดเสยี งสูง เสยี งต่ำ การใช้เทคโนโลยี
ค่อย ขึ้นอยกู่ ับอะไร 3. การเกดิ เสียงดัง เสยี งค่อย สารสนเทศและ
สยี งดงั - จากกิจกรรม มลพิษทาง 4. วัดระดบั เสยี งโดยใช้ การสือ่ สาร
นอยู่กับ เสียงเปน็ อย่างไร เครือ่ งมอื วัดระดบั เสียง
- ทำแบบทดสอบความรู้ 5. เสนอแนะแนวทางในการ
ลพิษ - จากการทำแบบสรปุ ผงั หลีกเลีย่ งและลดมลพษิ ทาง
อย่างไร ความคดิ เสยี ง
จกรรม 6. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามภาระ
ามรู้ งาน /ชนิ้ งาน
มคดิ

6

มาตรฐาน/ สาระการเรียนรู้ สาระสำคญั ภาระงาน/ช
ตัวชี้วดั
จากแหลง่ กำเนิดเสียง
ถึงหผู ู้ฟงั ความดงั ของ
เสียงวัดไดด้ ว้ ย
เคร่อื งมือวดั ระดับเสยี ง
มีหน่วยเป็น เดซิเบล
เสยี งดังมาก ๆ ที่เป็น
อนั ตรายต่อการไดย้ ิน
และ เสียงตา่ ง ๆ ที่
กอ่ ใหเ้ กดิ ความรำคาญ
จดั เปน็ มลพษิ ทาง
เสียง

65

ช้นิ งาน การวดั และประเมนิ ผล กจิ กรรม/กระบวนการเรียนรู้ ทักษะใน
ศตวรรษท่ี 21

6

ตารางการออกแ
กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยที่ 5 ชื่อห

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สื่อการเรียนรู้ สมรรถนะสำคญั ของ

ว 2.3 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ความสามารถในกา

ป.5/1 2. วสั ดแุ ละอุปกรณ์ตามแบบ สอ่ื สาร

ป.5/2 บันทึกกจิ กรรม 2. ความสามารถในกา

ป.5/3 3. แบบบันทึกกิจกรรม 3. ความสามารถในกา

ป.5/4 4.แหล่งการเรยี นรู้ เทคโนโลยี

ป.5/5 อนิ เทอร์เนต็

5.หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์

ป.5

66

แบบการเรยี นรู้
หน่วย เสยี ง ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 14 ชั่วโมง 10 คะแนน

งผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นำ้ หนกั ( 5 คะแนน )

าร 1. มีวินัย ระหวา่ งเรยี น สอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
10 -
ารคดิ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
ารใช้

67

แบบบันทึกหน่วยการเรยี นรู้

หนว่ ยที่ 5 ชอ่ื หน่วย เสียง

รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 ว 15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 14 ชวั่ โมง โรงเรยี น....................

...............................................................................................................................................................

1. คำอธบิ ายประจำหนว่ ย

อธิบายการได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุตัวแปร ทดลองและอธิบาย

ลักษณะและการเกิดเสียงสูง เสียงต่ำ ออกแบบกำรทดลองและอธิบาย ลักษณะและการเกิดเสียงดัง เสียง

คอ่ ย วัดระดบั เสยี งโดยใช้เครอ่ื งมอื วัดระดบั เสียง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื ค้น
ข้อมูล การทดลองบันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถนำเสนอส่อื สารสง่ิ ที่เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ

ตระหนักในคณุ ค่าของความรู้เรอื่ งระดับเสียงโดยเสนอแนะแนวทางในการหลกี เล่ียงและลดมลพิษ
ทางเสียง เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จริยธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม

68

2. ผงั มโนทัศนห์ นว่ ยการเรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ
1. มีวนิ ัย
เน้อื หา 2. ใฝ่เรยี นรู้
- การได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
- ลักษณะและการเกดิ เสียงสูง เสยี งตำ่
- ลักษณะและการเกิดเสียงดัง เสียง สมรรถนะ
ค่อย 1. ความสามารถในการส่ือสาร
- การวดั ระดบั เสียง 2. ความสามารถในการคิด
- แนวทางในการหลกี เลยี่ งและลดมลพิษ
ทางเสียง 3. ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

การวดั ประเมินผล หนว่ ยท่ี 5 กระบวนการ
- การสงั เกต เสยี ง
- การตอบคำถาม - กระบวนการสบื เสาะ
- แบบทดสอบ,สอบถาม สื่อและแหล่งเรยี นรู้ หาความรู้
- ตรวจผลงาน
- การนำเสนอ 1. วัสดุและอุปกรณ์ตามแบบ - กระบวนการการ
บนั ทกึ กิจกรรม สำรวจตรวจสอบ
2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
3.แหล่งการเรยี นรอู้ ินเทอรเ์ น็ต - กระบวนการการสืบค้น
4.หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 ขอ้ มลู

- การทดลอง

- การบันทกึ

- การจัดกลมุ่ ข้อมลู

- การอภิปราย

69

3. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติ ของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี
เกี่ยวขอ้ งกับเสียง แสง และคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ รวมทั้งนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ป.5/1 อธบิ ายการไดย้ ินเสยี งผ่านตัวกลาง จากหลักฐานเชิงประจักษ์
ป.5/2 ระบุตวั แปร ทดลองและอธบิ าย ลักษณะและการเกิดเสยี งสูง เสยี งต่ำ
ป.5/3 ออกแบบกำรทดลองและอธบิ าย ลกั ษณะและการเกดิ เสยี งดงั เสยี งค่อย
ป.5/4 วัดระดบั เสยี งโดยใชเ้ ครอ่ื งมือวดั ระดบั เสยี ง
ป.5/5 ตระหนักในคณุ ค่าของความร้เู ร่ืองระดับเสยี งโดยเสนอแนะแนวทางในการหลกี เลยี่ งและลด
มลพิษทางเสียง

4. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด
เสียงเป็นพลังงานทเี่ กิดจากการสัน่ ของ แหล่งกำเนิดเสยี ง เสียงเคลอื่ นทจ่ี ากแหลง่ กำเนดิ เสียง โดย

อาศัยตวั กลางจนถงึ หูผู้ฟัง เสียงท่ไี ด้ยนิ มที ัง้ เสียงสูง เสียงต่ำ เสียงดงั เสยี งคอ่ ย โดยเสยี งสงู เสียงตำ่ ขึ้นกบั
ความถ่ีในการสัน่ ของแหล่งกำเนดิ เสยี ง ส่วนเสยี งดัง เสยี งค่อยขนึ้ กับพลังงานในการส่ันของแหล่งกำเนิด
เสียง และระยะห่างจากแหลง่ กำเนิดเสยี งถงึ หูผู้ฟัง ความดัง ของเสยี งวัดได้ดว้ ยเคร่อื งมือวัดระดับเสียง มี
หนว่ ยเปน็ เดซิเบล เสยี งดงั มาก ๆ ทเี่ ปน็ อนั ตรายต่อการได้ยนิ และ เสยี งตา่ ง ๆ ทก่ี ่อให้เกิดความรำคาญ
จดั เป็นมลพิษ ทางเสียง

5. สาระการเรยี นรู้ แกนกลาง
- การได้ยนิ เสียงน้ันต้องอาศยั ตวั กลางโดยอาจเป็นของแขง็ ของเหลว หรืออากาศ เสียงจะสง่ ผา่ น

ตวั กลางมายงั หู
- เสียงทีไ่ ด้ยนิ มรี ะดับสูงตำ่ ของเสียงต่างกนั ข้ึนกบั ความถ่ีของการส่นั ของแหลง่ กำเนดิ เสยี ง โดยเมื่อ

แหล่งกำเนิดเสียงส่นั ด้วยความถี่ต่ำจะเกิดเสียงต่ำ แต่ถ้าสั่นด้วยความถี่สูงจะเกิดเสียงสูง ส่วนเสียงดังค่อย
ทไี่ ด้ยินข้ึนกับพลังงานการสั่นของแหล่งกำเนิดเสียง โดยเมื่อแหล่งกำเนิดเสียงสั่นพลังงานมากจะเกิดเสียง
ดัง แต่ถ้าแหล่งกำเนิดเสียงส่นั ด้วยพลงั งานน้อยจะเกิดเสียงคอ่ ย- เสียงดังมาก ๆ เป็นอันตรายต่อการไดย้ ิน
และเสียงทก่ี ่อให้เกดิ ความรำคาญเป็นมลพิษทางเสยี ง เดซเิ บลเปน็ หน่วยทบ่ี อกถงึ ความดังของเสียง

70

6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

8. ชิ้นงาน/ภาระงาน
ระหวา่ งกิจกรรม
- กจิ กรรม เสียงเคลอ่ื นทไ่ี ด้อยา่ งไร
- กจิ กรรม เสยี งสูง เสียงตำ่ เกดิ ได้อยา่ งไร
- กิจกรรม เสยี งดัง เสียงค่อย ข้นึ อย่กู ับอะไร
- กิจกรรม มลพิษทางเสยี งเป็นอยา่ งไร
เม่อื สนิ้ สุดกจิ กรรม
- ทดสอบความรู้
- สรุปผังความคดิ

9. การวัดผลประเมนิ ผล
- จากกิจกรรม เสยี งเคล่อื นท่ีได้อย่างไร
- จากกจิ กรรม เสยี งสูง เสียงต่ำ เกดิ ได้อยา่ งไร
- จากกจิ กรรม เสยี งดัง เสยี งคอ่ ย ขน้ึ อย่กู บั อะไร
- จากกิจกรรม มลพษิ ทางเสยี งเปน็ อย่างไร
- ทำแบบทดสอบความรู้
- จากการทำแบบสรุปผงั ความคดิ

71

10. การประเมนิ ผลระหว่างจดั กจิ กรรม

ประเดน็ การประเมนิ น้ำหนกั ระดับคณุ ภาพ

10 ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

การทำกจิ กรรม เสยี ง 4 ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย

เคลอื่ นท่ีไดอ้ ย่างไร กิจกรรม เสยี ง กิจกรรม เสยี ง กิจกรรม เสยี ง กิจกรรม เสยี ง

เคลอ่ื นที่ไดอ้ ย่างไร เคลือ่ นท่ีไดอ้ ย่างไร เคล่ือนท่ีได้อย่างไร เคลอื่ นที่ไดอ้ ย่างไร

ถกู ต้อง สมบรู ณ์ ยงั ไม่ ค่อยถูกตอ้ ง ยงั ไม่ ค่อยถูกตอ้ ง ไม่ถูกต้องและไม่มี

สมบรู ณ์หรือถูกต้อง สมบรู ณ์หรือไม่ การปรบั ปรงุ แก้ไข

บา้ งและมีการ ถกู ต้องเลยแต่มีการ

ปรับปรงุ แก้ไข ปรับปรงุ แก้ไข

การทำกจิ กรรม เสียง 4 ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย

สงู เสยี งตำ่ เกดิ ได้ กิจกรรม เสยี งสงู กจิ กรรม เสยี งสงู กจิ กรรม เสียงสงู กจิ กรรม เสยี งสูง

อยา่ งไร เสียงต่ำ เกิดได้ เสยี งตำ่ เกดิ ได้ เสยี งต่ำ เกดิ ได้ เสียงตำ่ เกดิ ได้

อย่างไรถูกต้อง อยา่ งไร ยงั ไม่ ค่อย อยา่ งไรยังไม่ คอ่ ย อย่างไรไม่ถูกต้อง

สมบรู ณ์ ถกู ต้อง สมบรู ณ์ ถูกต้อง สมบรู ณ์ และไม่มกี าร

หรอื ถูกต้องบ้าง หรือไม่ถูกต้องเลย ปรบั ปรุงแก้ไข

และมกี ารปรบั ปรุง แต่มีการปรับปรุง

แก้ไข แก้ไข

การทำกจิ กรรม 4 ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย

กจิ กรรม เสยี งดงั กิจกรรม เสยี งดัง กจิ กรรม เสียงดัง กจิ กรรม เสียงดงั กจิ กรรม เสียงดงั

เสียงคอ่ ย ข้นึ อย่กู ับ เสียงค่อย ข้ึนอยู่กบั เสยี งค่อย ขึ้นอยู่กบั เสยี งค่อย ขึน้ อยกู่ บั เสียงคอ่ ย ขน้ึ อยู่กบั

อะไร อะไร ถูกต้อง อะไร ยังไม่ ค่อย อะไร ยังไม่ คอ่ ย อะไร ไม่ถูกต้อง

สมบูรณ์ ถูกต้อง สมบูรณ์ ถกู ต้อง สมบรู ณ์ และไมม่ กี าร

หรอื ถกู ต้องบ้าง หรือไม่ถกู ต้องเลย ปรับปรุงแก้ไข

และมีการปรับปรุง แต่มีการปรับปรุง

แก้ไข แกไ้ ข

การทำกิจกรรม 4 ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธบิ าย

มลพษิ ทางเสยี งเปน็ กิจกรรม มลพษิ กจิ กรรม มลพิษ กิจกรรม มลพิษ กจิ กรรม มลพิษ

อยา่ งไร ทางเสียงเปน็ ทางเสยี งเปน็ ทางเสียงเปน็ ทางเสียงเป็น

อย่างไรถกู ต้อง อยา่ งไรยังไม่ ค่อย อย่างไรยังไม่ ค่อย อยา่ งไรไม่ถกู ต้อง

สมบรู ณ์ ถูกต้อง สมบรู ณ์ ถกู ต้อง สมบูรณ์ และไมม่ ีการ

หรอื ถูกต้องบา้ ง หรอื ไม่ถูกต้องเลย ปรบั ปรงุ แก้ไข

และมกี ารปรบั ปรงุ แตม่ ีการปรับปรุง

72

ประเดน็ การประเมนิ น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ

10 ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)

แกไ้ ข แกไ้ ข

การทำแบบทดสอบ 4 แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้

ความรู้ ถกู ทุกข้อ ถกู ร้อยละ 70-90 ถกู รอ้ ยละ 50- ถูกน้อยกว่ารอ้ ยละ

60.99 50

การทำแบบสรปุ ผัง 4 สรุปผงั ความคดิ ได้ สรุปผงั ความคดิ ได้ สรปุ ผงั ความคิด ได้ สรปุ ผงั ความคิด ได้

ความคิด ครบถ้วน สะอาด ไมค่ รบถว้ นแตม่ ี ไม่ครบถ้วน ไมค่ ่อย ไมค่ รบถว้ น ไม่

สง่ ตรงเวลา การแก้ไข ไม่ค่อย สะอาด ส่งไมต่ รง สะอาด ส่งชา้ กว่า

สะอาด ส่งตรงเวลา เวลา กำหนด

เกณฑก์ ารประเมิน

ระหวา่ งจดั กิจกรรม 100 คะแนน

คะแนน 80-100 หมายถงึ ดีมาก
ดี
คะแนน 70-79 หมายถงึ พอใช้
ปรับปรุง
คะแนน 65-69 หมายถึง

คะแนน ตำ่ กวา่ 65 หมายถึง

11. กิจกรรมการเรยี นรู้
แบ่งกลมุ่ นักเรยี น เพ่อื ศกึ ษา
1. การเคล่ือนท่ีของเสยี งจากแหล่งกำเนิดเสยี งจนถึง หูผ้ฟู ัง
2. การเกดิ เสยี งสูง เสยี งต่ำ
3. การเกิดเสยี งดงั เสียงค่อย
4. วดั ระดบั เสียงโดยใช้เคร่ืองมือวัดระดบั เสียง
5. เสนอแนะแนวทางในการหลีกเลีย่ งและลดมลพิษทางเสียง
6. ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามภาระงาน /ช้ินงาน

12. ส่ือการเรยี น
1. วสั ดแุ ละอุปกรณต์ ามแบบบนั ทกึ กิจกรรม
2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
3. แหลง่ การเรียนร้อู นิ เทอรเ์ น็ต
4. หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ สสวท. ป.5

7

ตารางการออกแ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 6 ชื่อหนว่ ย ปราก

มาตรฐาน/ สาระการเรยี นรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน/ชนิ้ ง
ตวั ชีว้ ัด

ว 3.1 - ความแตกต่างของ ดาวที่มองเหน็ บน ระหวา่ งกจิ กรรม

ป.5/1 ดาวเคราะห์และดาว ท้องฟ้ามีทั้งดาว - กจิ กรรมมองเห

ป.5/2 ฤกษ์ ฤกษ์และดาว ดาวเคราะหแ์ ละ

- การใช้แผน ที่ ด าว เคราะห์ โดยดาว ฤกษ์ได้ อยา่ งไร

ร ะ บุ ต ำ แ ห น่ ง แ ล ะ ฤกษ์และดาว - กิจกรรมเหตุใด

เส้นทาง การข้ึนและ เคราะหม์ ีลักษณะที่ เห็นกลมุ่ ดาวเป็น

ตกของกลุ่มดาวฤกษ์ แตกต่างกนั ดาว รปู รา่ งตา่ ง ๆ

บนทอ้ งฟ้า สว่ นใหญบ่ นท้องฟา้ - กจิ กรรมวฏั จกั ร

- แบบรูปเส้นทางการ เปน็ ดาวฤกษ์ มนุษย์ ปรากฏของกลุ่มด

ขนึ้ และตก ของกล่มุ ใช้จินตนาการ ทำให้ เป็น อย่างไร

ดาวฤกษ์บนท้องฟา้ ใน มองเห็นกลุม่ ของ

รอบปี ดาวฤกษ์เปน็ รปู ร่าง เม่อื สิ้นสุดกจิ กรร

ต่าง ๆ กล่มุ ดาว - ทดสอบความร

เหลา่ น้นั มีรปู รา่ ง - สรปุ ผงั ความคิด

คงท่แี ละเส้นทางที่

ปรากฏเปน็ แบบรปู

73

แบบการเรียนรู้

กฏการณฺของกลุ่มดาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 10 ชั่วโมง 10 คะแนน

งาน การวัดและประเมนิ ผล กจิ กรรม/กระบวนการเรียนรู้ ทักษะใน
ศตวรรษที่ 21

ม - จากกิจกรรมมองเหน็ ดาว แบ่งกลุ่มนักเรยี น เพ่ือศึกษา การสอ่ื สาร

ห็น เคราะหแ์ ละดาวฤกษ์ได้ 1. เปรียบเทยี บความแตกต่าง

ะดาว อยา่ งไร ของดาวเคราะหแ์ ละ ดาว ความร่วมมอื

- จากกิจกรรมเหตุใดจงึ เห็น ฤกษจ์ ากแบบจำลอง

ดจึง กลมุ่ ดาวเปน็ รูปรา่ งต่าง ๆ 2. การใช้แผนทดี่ าวระบุ การใชเ้ ทคโนโลยี

น - จากกจิ กรรมวัฏจกั รการ ตำแหนง่ และเสน้ ทางการข้นึ สารสนเทศและ

ปรากฏของกลมุ่ ดาวเป็น และ ตกของกลุ่มดาวฤกษ์บน การสือ่ สาร

รการ อยา่ งไร ท้องฟ้า

ดาว - จากการทำแบบทดสอบ 3. แบบรปู เสน้ ทางการขน้ึ

ความรู้ และตกของ กลุ่มดาวฤกษ์บน

- จากการทำแบบสรุปผัง ทอ้ งฟ้าในรอบปี

รม ความคดิ 4. อภิปรายผลการทดลอง

รู้ สิ่งทไี่ ดเ้ รียนรแู้ ละทำตามใบ

ด กจิ กรรมตามภาระงาน /

ช้นิ งาน

7

มาตรฐาน/ สาระการเรยี นรู้ สาระสำคญั ภาระงาน/ช้ินง
ตัวชี้วดั
ซำ้ ๆ กันเปน็ วฏั
จักร แผนทดี่ าวเป็น
เคร่อื งมือที่ใช้สงั เกต
ตำแหนง่ และการ
ขึ้นและตกของกลุ่ม
ดาว

ตารางการออกแ
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 6 ช่ือหนว่ ย ปราก

74

งาน การวัดและประเมนิ ผล กิจกรรม/กระบวนการเรยี นรู้ ทักษะใน
ศตวรรษท่ี 21

แบบการเรียนรู้
กฏการณฺของกลุ่มดาว ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 10 ชั่วโมง 10 คะแนน

7

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด สื่อการเรียนรู้ สมรรถนะสำคญั ของ

ว 3.1 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ความสามารถในกา
ป.5/1
ป.5/2 2. วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ตามแบบ ส่ือสาร

บนั ทึกกิจกรรม 2. ความสามารถในกา

3. แบบบันทึกกิจกรรม 3. ความสามารถในกา

4.แหลง่ การเรียนรู้ เทคโนโลยี

อินเทอร์เนต็

5.หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์

ป.5


Click to View FlipBook Version