The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตร-วิทยาศาสตร์-ป.5 Page

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nuyui_12, 2022-04-10 09:31:54

หลักสูตร-วิทยาศาสตร์-ป.5 Page

หลักสูตร-วิทยาศาสตร์-ป.5 Page

75

งผูเ้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ นำ้ หนกั ( 10 คะแนน )

าร 1. มีวินยั ระหวา่ งเรยี น สอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
10 -
ารคดิ 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
ารใช้

76

แบบบนั ทกึ หน่วยการเรียนรู้

หนว่ ยที่ 6 ช่ือหน่วย ปรากฏการณฺของกลุ่มดาว

รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 ว 15101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 10 ช่ัวโมง โรงเรยี น....................

...............................................................................................................................................................

1. คำอธิบายประจำหน่วย

เปรียบเทียบความแตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์จากแบบจำลอง ใช้แผนท่ีดาวระบุ

ตำแหน่งและเส้นทาง การข้ึนและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า และอธิบายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและ

ตก ของกลมุ่ ดาวฤกษบ์ นท้องฟา้ ในรอบปี

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น
ข้อมูล การทดลองบันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถนำเสนอสอื่ สารส่งิ ที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ

เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จริยธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม

2. ผังมโนทัศนห์ น่วยการเรียนรู้ 77

เนื้อหา คุณลกั ษณะ
- ความแตกต่างของดาวเคราะห์และ 1. มีวนิ ยั
ดาวฤกษ์ 2. ใฝ่เรยี นรู้
- การใช้แผนท่ีดาวระบุตำแหน่งและ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
เส้นทาง การข้ึนและตกของกลุ่มดาว
ฤกษบ์ นทอ้ งฟ้า สมรรถนะ
- แบบรูปเส้นทางการข้นึ และตก ของ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร
กลุม่ ดาวฤกษ์บนท้องฟา้ ในรอบปี 2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

การวัดประเมนิ ผล หนว่ ยที่ 6 กระบวนการ
- การสงั เกต ปรากฏการณข์ องกลุ่มดาว
- การตอบคำถาม - กระบวนการสืบเสาะ
- แบบทดสอบ,สอบถาม ส่ือและแหล่งเรียนรู้ หาความรู้
- ตรวจผลงาน
- การนำเสนอ 1. วัสดแุ ละอปุ กรณ์ตามแบบ - กระบวนการการ
บนั ทึกกจิ กรรม สำรวจตรวจสอบ
2. แบบบันทกึ กิจกรรม
3.แหลง่ การเรียนรูอ้ นิ เทอรเ์ น็ต - กระบวนการการสบื คน้
4.หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ป.5 ขอ้ มลู

- การทดลอง

- การบันทกึ

- การจัดกลมุ่ ขอ้ มลู

- การอภิปราย

78

3. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ

กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ท่ีส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการ
ประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยอี วกาศ

ป.5/1 เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษจ์ ากแบบจำลอง
ป.5/2 ใช้แผนที่ดาวระบุตำแหน่งและเส้นทาง การขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า และ
อธบิ ายแบบรูปเสน้ ทางการขน้ึ และตก ของกลมุ่ ดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟ้าในรอบปี

4. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด
ดาวท่ีมองเห็นบนท้องฟ้ามีทั้งดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ โดยดาวฤกษ์และดาวเคราะห์มีลักษณะท่ี

แตกต่างกัน ดาวส่วนใหญ่บนท้องฟ้าเป็นดาวฤกษ์ มนุษย์ใช้จินตนาการ ทำให้มองเห็นกลุ่มของดาวฤกษ์
เป็นรูปร่างต่าง ๆ กลุ่มดาว เหล่านั้นมีรูปร่างคงท่ีและเส้นทางที่ปรากฏเป็นแบบรูปซ้ำ ๆ กันเป็นวัฏจักร
แผนทดี่ าวเป็นเครอ่ื งมือทใี่ ช้สังเกตตำแหนง่ และการขึน้ และตกของกลมุ่ ดาว

5. สาระการเรยี นรู้ แกนกลาง
- ดาวท่ีมองเห็นบนท้องฟา้ อยู่ในอวกาศซงึ่ เปน็ บริเวณท่อี ย่นู อกบรรยากาศของโลกมที ั้งดาวฤกษ์

และดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์เป็นแหลง่ กำเนิดแสงจงึ สามารถมองเห็นได้ ส่วนดาวเคราะห์ ไมใ่ ช่แหล่งกำเนดิ
แสง แต่สามารถมองเหน็ ได้เนื่องจากแสงจากดวงอาทติ ย์ตกกระทบดาวเคราะห์แล้วสะท้อนเขา้ สู่ตา

- การมองเห็นกล่มุ ดาวฤกษ์มีรปู ร่างต่าง ๆ เกดิ จากจนิ ตนาการของผู้สังเกต กลุ่มดาวฤกษ์ต่าง ๆ ท่ี
ปรากฏในท้องฟา้ แตล่ ะกลุ่มมีดาวฤกษแ์ ตล่ ะดวงเรยี งกนั ทต่ี ำแหน่งคงท่ี และมีเสน้ ทางการขึ้นและตกตาม
เสน้ ทางเดมิ ทุกคนื ซ่ึงจะปรากฏตำแหนง่ เดมิ การสงั เกตตำแหนง่ และการขนึ้ และตกของดาวฤกษแ์ ละกลุ่ม
ดาวฤกษ์สามารถทำไดโ้ ดยใช้แผนท่ีดาว ซึ่งระบุมมุ ทิศและมุมเงยท่ีกลมุ่ ดาวนนั้ ปรากฏ ผู้สงั เกตสามารถใช้
มือในการประมาณคา่ ของมุมเงยเมอ่ื สังเกตดาวในท้องฟ้า

6. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

79

8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน

ระหว่างกจิ กรรม

- กจิ กรรมมองเห็นดาวเคราะห์และดาวฤกษไ์ ด้ อยา่ งไร

- กจิ กรรมเหตุใดจงึ เห็นกล่มุ ดาวเป็นรูปร่างตา่ ง ๆ

- กิจกรรมวัฏจกั รการปรากฏของกลุ่มดาวเป็น อย่างไร

เมื่อสน้ิ สุดกจิ กรรม

- ทดสอบความรู้

- สรปุ ผงั ความคิด

9. การวัดผลประเมนิ ผล

- จากกิจกรรมมองเหน็ ดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ได้ อยา่ งไร

- จากกจิ กรรมเหตุใดจงึ เหน็ กลุ่มดาวเปน็ รูปร่างตา่ ง ๆ

- จากกิจกรรมวัฏจกั รการปรากฏของกลุ่มดาวเป็น อย่างไร

- จากการทำแบบทดสอบความรู้

- จากการทำแบบสรปุ ผังความคิด

10. การประเมนิ ผลระหวา่ งจัดกิจกรรม

ประเด็นการ นำ้ หนัก ระดบั คณุ ภาพ

ประเมิน 10 ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
ทดลองและอธบิ าย
การทำกิจกรรม 4 ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธบิ าย กจิ กรรมมองเหน็ ดาว
เคราะหแ์ ละดาวฤกษ์
มองเห็นดาว กิจกรรมมองเหน็ กจิ กรรมมองเห็น กิจกรรมมองเหน็ ดาว ได้ อยา่ งไร
ไมถ่ ูกต้องและไม่มกี าร
เคราะห์และดาว ดาวเคราะห์และ ดาวเคราะหแ์ ละ เคราะห์และดาวฤกษ์ ปรับปรงุ แก้ไข

ฤกษ์ได้ อย่างไร ดาวฤกษ์ได้ อยา่ งไร ดาวฤกษ์ได้ อยา่ งไร ได้ อยา่ งไร ทดลองและอธิบาย
กิจกรรมเหตุใดจึงเห็น
ถูกต้อง สมบูรณ์ ยังไม่ ค่อยถูกต้อง ยงั ไม่ ค่อยถูกต้อง กลมุ่ ดาวเป็นรูปรา่ งต่าง
ๆ ไม่ถูกตอ้ งและไม่มี
สมบรู ณ์หรือถูกต้อง สมบรู ณ์หรือไม่ การปรบั ปรงุ แกไ้ ข

บา้ งและมีการ ถูกต้องเลยแต่มีการ

ปรบั ปรุงแก้ไข ปรบั ปรงุ แก้ไข

การทำกิจกรรม 4 ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย

เหตุใดจงึ เห็นกลมุ่ กิจกรรมเหตใุ ดจึง กจิ กรรมเหตใุ ดจงึ กิจกรรมเหตุใดจึง

ดาวเปน็ รปู รา่ งต่าง เหน็ กลุ่มดาวเป็น เหน็ กลุ่มดาวเป็น เห็นกล่มุ ดาวเป็น

ๆ รูปรา่ งต่าง ๆ รูปร่างต่าง ๆ ยังไม่ รปู รา่ งตา่ ง ๆยังไม่

ถกู ต้อง สมบรู ณ์ ค่อยถูกต้อง ค่อยถูกต้อง สมบรู ณ์

สมบูรณ์หรอื ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้องเลยแต่

บ้างและมีการ มกี ารปรับปรงุ แก้ไข

ปรับปรุงแก้ไข

80

ประเดน็ การ นำ้ หนกั ระดับคุณภาพ
ประเมิน 10
4 ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
การทำกิจกรรมวฏั ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย
จักรการปรากฏ 4 กิจกรรมวฏั จักรการ ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย กิจกรรมวฏั จักรการ
ของกลุ่มดาวเปน็ 4 ปรากฏของกลุ่ม ปรากฏของกลุ่มดาว
อยา่ งไร ดาวเปน็ อยา่ งไร กิจกรรมวัฏจักรการ กจิ กรรมวัฏจกั รการ เป็น อย่างไร
ถกู ต้อง สมบรู ณ์ ไม่ถูกตอ้ งและไม่มกี าร
การทำกจิ กรรม ปรากฏของกลุ่ม ปรากฏของกลมุ่ ดาว ปรบั ปรุงแก้ไข
แกส๊ มปี รมิ าตร ทดลองและอธิบาย
และรปู รา่ งเปน็ กิจกรรมแกส๊ มี ดาวเป็น อย่างไร เป็น อย่างไร ทดลองและอธบิ าย
อย่างไร ปริมาตรและรปู ร่าง กิจกรรมแกส๊ มีปริมาตร
เปน็ อย่างไรถูกตอ้ ง ยังไม่ คอ่ ยถูกต้อง ยงั ไม่ ค่อยถูกตอ้ ง และรูปรา่ งเป็นอยา่ งไร
การทำ สมบรู ณ์ ไมถ่ ูกต้องและไม่มีการ
แบบทดสอบ สมบูรณ์หรอื ถูกต้อง สมบรู ณห์ รอื ไม่ ปรบั ปรงุ แก้ไข
ความรู้ แบบทดสอบความรู้
การทำแบบสรปุ ถกู ทุกข้อ บา้ งและมีการ ถกู ต้องเลยแต่มีการ แบบทดสอบความร้ถู ูก
ผงั ความคดิ นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 50
ปรับปรงุ แก้ไข ปรับปรุงแก้ไข

ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธบิ าย

กจิ กรรมแก๊สมี กจิ กรรมแกส๊ มี

ปรมิ าตรและรูปรา่ ง ปริมาตรและรปู ร่าง

เป็นอย่างไร ยงั ไม่ เป็นอย่างไรยงั ไม่

คอ่ ยถูกต้อง ค่อยถูกต้อง สมบรู ณ์

สมบรู ณ์หรือถูกต้อง หรือไม่ถูกต้องเลยแต่

บา้ งและมีการ มีการปรบั ปรงุ แกไ้ ข

ปรบั ปรงุ แก้ไข

แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้

ถูกร้อยละ 70-90 ถกู ร้อยละ 50-60.99

สรุปผงั ความคิด ได้ สรปุ ผงั ความคดิ ได้ สรปุ ผังความคดิ ได้ สรุปผงั ความคดิ ได้ไม่
ครบถว้ น สะอาด ไมค่ รบถว้ นแตม่ ี ไม่ครบถว้ น ไม่ค่อย ครบถว้ น ไม่สะอาด สง่
สง่ ตรงเวลา การแก้ไข ไมค่ ่อย สะอาด ส่งไม่ตรง ชา้ กวา่ กำหนด
สะอาด สง่ ตรงเวลา เวลา

เกณฑ์การประเมนิ

ระหว่างจัดกจิ กรรม 100 คะแนน

คะแนน 80-100 หมายถึง ดีมาก
ดี
คะแนน 70-79 หมายถึง พอใช้
ปรบั ปรงุ
คะแนน 65-69 หมายถงึ

คะแนน ต่ำกวา่ 65 หมายถงึ

81

11. กิจกรรมการเรียนรู้
แบง่ กล่มุ นกั เรยี น เพื่อศึกษา
1. เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของดาวเคราะห์และ ดาวฤกษ์จากแบบจำลอง
2. การใชแ้ ผนท่ีดาวระบตุ ำแหน่งและเสน้ ทางการข้นึ และ ตกของกลุม่ ดาวฤกษ์บนท้องฟา้
3. แบบรปู เส้นทางการขน้ึ และตกของ กลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟา้ ในรอบปี
4. อภิปรายผลการทดลอง ส่งิ ท่ไี ด้เรยี นร้แู ละทำตามใบกิจกรรมตามภาระงาน /ช้ินงาน

12. ส่ือการเรียน
1. วสั ดุและอุปกรณ์ตามแบบบนั ทกึ กิจกรรม
2. แบบบนั ทึกกิจกรรม
3. แหล่งการเรยี นรูอ้ ินเทอรเ์ น็ต
4. หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.5

8

ตารางการออกแ

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยท่ี 7 ช่ือหน่วย

มาตรฐาน/ สาระการเรยี นรู้ สาระสำคญั ภาระงาน/ชิ้นง
ตวั ช้วี ัด

ว 3.2 - ปริมาณน้ำในแต่ละ พื้นผิวโลกมีนำ้ ปก ระหว่างกิจกรรม

ป.5/1 แหล่ง และปริมาณน้ำ คลุมเปน็ สว่ นใหญ่ - กิจกรรมนำ้ แต่ล

ป.5/2 ท่ี ม นุ ษ ย์ ส า ม า ร ถ ซง่ึ เกือบทั้งหมด แหล่งบนโลกมอี ย

ป.5/3 นำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เปน็ น้ำเคม็ สว่ นน้ำ เท่าใด

ป.5/4 - คุณค่าของน้ำ และ จืดทน่ี ำมาใช้ไดม้ ี - กิจกรรมทำอยา่

ป.5/5 แน วท าง การใช้น้ ำ ปรมิ าณนอ้ ยมาก จึงจะใช้น้ำอยา่ ง

อย่างประหยัดและการ เราจงึ ต้องใชน้ ำ้ ประหยัด และ

อนุรกั ษน์ ้ำ อยา่ งประหยัด น้ำ อนุรักษ์แหล่งน้ำ

- การหมุนเวียน ของ จากแหล่งนำ้ ต่าง ๆ ท้องถิน่ ได้

นำ้ ในวฏั จักรน้ำ ทัง้ น้ำผวิ ดนิ น้ำใต้ - กิจกรมมเมฆ

- กระบวนการเกิดเมฆ ดนิ น้ำใน หมอก นำ้ ค้าง แล

ห ม อก น้ ำค้ าง แล ะ บรรยากาศ และนำ้ นำ้ ค้างแขง็ เกดิ ข

น้ำค้างแข็ง ในสิง่ มีชีวิต เกดิ การ อยา่ งไร

- กระบวนการเกิดฝน หมุนเวียนระหว่าง - กิจกรรม ฝน ห

หิมะ และลูกเห็บ แหล่งต่าง ๆ อย่าง และลูกเหบ็ เกิดข

ต่อเนอื่ ง ไดอ้ ย่างไร

82

แบบการเรยี นรู้
ย วัฏจกั รของน้ำ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 14 ชั่วโมง 10 คะแนน

งาน การวดั และประเมนิ ผล กิจกรรม/กระบวนการเรียนรู้ ทกั ษะใน
ศตวรรษท่ี 21
ม - จากกิจกรรมนำ้ แตล่ ะแหล่ง แบง่ กลุ่มนักเรียน เพื่อศึกษา การสือ่ สาร
ละ บนโลกมอี ย่เู ทา่ ใด 1. เปรียบเทยี บปริมาณนำ้ ใน
ยู่ - จากกจิ กรรมทำอยา่ งไรจงึ จะ แต่ละแหลง่ และระบุ ปรมิ าณ การคิดอยา่ งมี
นำ้ ทมี่ นษุ ย์สามารถนำมาใช้ วจิ ารณญาณ
ใชน้ ำ้ อยา่ งประหยัด และ ประโยชน์
างไร อนรุ ักษ์แหล่งนำ้ ในท้องถิ่นได้ 2. นำเสนอแนวทางการใชน้ ำ้ การใช้เทคโนโลยี
อย่างประหยดั และ การ สารสนเทศและ
- จากกจิ กรมมเมฆ หมอก อนุรกั ษ์น้ำ การส่ือสาร
นำ้ ค้าง และนำ้ ค้างแข็ง 3. เปรยี บเทยี บกระบวนการ
ำใน เกิดข้ึนไดอ้ ย่างไร เกดิ เมฆ หมอก น้ำคา้ ง และ
- จากกจิ กรรม ฝน หมิ ะ และ น้ำคา้ งแขง็
ลกู เห็บ เกดิ ขึ้นได้อย่างไร 4. เปรียบเทียบกระบวนการ
ละ - จากกจิ กรรมวฏั จักรน้ำเปน็ เกดิ ฝน หิมะ และ ลกู เหบ็
ข้ึนได้ อย่างไร 5. สร้างแบบจำลองการ
- จากการทำแบบทดสอบ หมุนเวียนของนำ้ ใน วัฏจกั ร
หมิ ะ ความรู้ น้ำ
ขน้ึ - จากการทำแบบสรุปผงั
ความคิด

8

มาตรฐาน/ สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน/ชนิ้ ง
ตวั ช้ีวดั

กระบวนการเกดิ - กิจกรรมวฏั จกั ร
เมฆ หมอก นำ้ ค้าง เป็นอยา่ งไร
น้ำคา้ งแขง็ ฝน เมอ่ื สิ้นสุดกจิ กรร
หมิ ะ และลูกเห็บ - ทดสอบความร
เป็นปรากฏการณ์ท่ี - สรุปผังความคิด
ทำให้เกิดการ
หมนุ เวียน ของนำ้
เปน็ วัฏจักร

83

งาน การวดั และประเมินผล กจิ กรรม/กระบวนการเรยี นรู้ ทกั ษะใน
ศตวรรษท่ี 21

รน้ำ 6. นำเสนอและอภปิ ราย

เก่ียวกับแบบจำลอง ตาม

รม กจิ กรรมตามภาระงาน /

รู้ ชนิ้ งาน



8

ตารางการออกแ
กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 7 ชื่อหนว่ ย

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด ส่ือการเรียนรู้ สมรรถนะสำคญั ของ

ว 3.2 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ความสามารถในกา

ป.5/1 2. วัสดุและอปุ กรณ์ตามแบบ ส่อื สาร

ป.5/2 บันทึกกจิ กรรม 2. ความสามารถในกา

ป.5/3 3. แบบบันทึกกิจกรรม 3. ความสามารถในกา

ป.5/4 4.แหล่งการเรยี นรู้ เทคโนโลยี

ป.5/5 อินเทอรเ์ น็ต

5.หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์

ป.5

84

แบบการเรยี นรู้
ย วัฏจักรของนำ้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 14 ช่ัวโมง 10 คะแนน

งผู้เรียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ นำ้ หนัก ( 5 คะแนน )

าร 1. มีวนิ ัย ระหว่างเรียน สอบ
2. ใฝ่เรยี นรู้
5-
ารคดิ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน
ารใช้

85

แบบบันทกึ หน่วยการเรยี นรู้

หนว่ ยที่ 7 ชอื่ หน่วย วฏั จักรของนำ้

รายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5 ว 15101 กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 14 ชั่วโมง โรงเรยี น....................

...............................................................................................................................................................

1. คำอธิบายประจำหน่วย

เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง และระบุปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ สร้างแบบจำลองที่อธิบายการหมุนเวียน ของน้ำในวัฏจักรน้ำ เปรียบเทียบ

กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง จากแบบจำลอง เปรียบเทียบกระบวนการเกิดฝน

หมิ ะ และลกู เห็บ จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น

ข้อมูล การทดลองบันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ

สามารถนำเสนอสื่อสารสง่ิ ท่ีเรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ

ตระหนักถึงคุณค่าของน้ำโดยนำเสนอแนวทาง การใช้น้ำอย่างประหยัดและการอนุรักษ์น้ำ เห็น
คุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และ
ค่านยิ มทเี่ หมาะสม

86

2. ผงั มโนทศั น์หน่วยการเรยี นรู้

เนอื้ หา คณุ ลกั ษณะ
1. มีวินยั
- ปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง และปริมาณน้ำ 2. ใฝ่เรยี นรู้
ท่มี นุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
- คุณค่าของน้ำ และแนวทาง การใช้น้ำ
อยา่ งประหยัดและการอนุรักษ์นำ้ สมรรถนะ
- การหมนุ เวยี น ของน้ำในวฏั จักรนำ้ 1. ความสามารถในการส่อื สาร
- กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และ 2. ความสามารถในการคดิ
น้ำค้างแขง็
- กระบวนการเกิดฝน หมิ ะ และลูกเห็บ 3. ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

การวดั ประเมินผล หนว่ ยท่ี 7 กระบวนการ
- การสงั เกต วัฏจักรของนำ้
- การตอบคำถาม - กระบวนการสืบเสาะ
- แบบทดสอบ,สอบถาม สื่อและแหล่งเรยี นรู้ หาความรู้
- ตรวจผลงาน
- การนำเสนอ 1. วัสดุและอุปกรณ์ตามแบบ - กระบวนการการ
บันทกึ กจิ กรรม สำรวจตรวจสอบ
2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม
3.แหล่งการเรยี นรอู้ ินเทอรเ์ น็ต - กระบวนการการสบื คน้
4.หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 ข้อมลู

- การทดลอง

- การบันทึก

- การจดั กลมุ่ ข้อมูล

- การอภปิ ราย

87

3. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลง

ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลง ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมท้ัง
ผลตอ่ ส่งิ มีชีวติ และส่งิ แวดล้อม

ป.5/1 เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง และระบุปริมาณน้ำท่ีมนุษย์สามารถนำมาใช้
ประโยชน์ได้ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้

ป.5/2 ตระหนกั ถงึ คณุ คา่ ของนำ้ โดยนำเสนอแนวทาง การใชน้ ้ำอย่างประหยัดและการอนรุ ักษน์ ้ำ
ป.5/3 สรา้ งแบบจำลองทอ่ี ธิบายการหมุนเวียน ของนำ้ ในวฏั จกั รนำ้
ป.5/4 เปรียบเทียบกระบวนการเกดิ เมฆ หมอก น้ำคา้ ง และนำ้ คา้ งแข็ง จากแบบจำลอง
ป.5/5 เปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดฝน หมิ ะ และลูกเห็บ จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้

4. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด
พนื้ ผิวโลกมีนำ้ ปกคลุมเปน็ ส่วนใหญ่ ซึ่งเกือบท้ังหมด เป็นน้ำเค็ม ส่วนน้ำจืดท่ีนำมาใชไ้ ด้มีปริมาณ

น้อยมาก เราจึงต้องใช้น้ำอย่างประหยัด น้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ ท้ัง น้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน น้ำในบรรยากาศ
และน้ำในสิ่งมีชีวิต เกิดการหมุนเวียนระหว่างแหล่งต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง กระบวนการเกิดเมฆ หมอก
นำ้ ค้าง น้ำค้างแขง็ ฝน หมิ ะ และลูกเหบ็ เป็นปรากฏการณท์ ี่ทำใหเ้ กิดการหมนุ เวยี น ของน้ำเปน็ วัฏจกั ร

5. สาระการเรยี นรู้ แกนกลาง
- โลกมที ้ังน้ำจดื และนำ้ เค็มซึ่งอยใู่ นแหล่งนำ้ ตา่ ง ๆ ทม่ี ีทั้งแหล่งนำ้ ผิวดิน เช่น ทะเล มหาสมุทร บึง

แม่น้ำ และแหล่งน้ำใต้ดิน เช่น น้ำในดิน และน้ำบาดาล น้ำทั้งหมดของโลกแบ่งเป็นน้ำเค็มประมาณ รอ้ ย
ละ 97.5ซ่ึงอยู่ในมหาสมุทรและแหล่งน้ำอ่ืน ๆ และที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 2.5 เป็นน้ำจืด ถ้ำ
เรยี งลำดับปริมาณนำ้ จืดจากมากไปน้อยจะอยู่ที่ ธารน้ำแขง็ และพดื นำ้ แข็ง น้ำใต้ดนิ ช้นั ดินเยือกแข็งคงตัว
และนำ้ แข็งใตด้ ิน ทะเลสาบ ความช้ืนในดิน ความชืน้ ในบรรยากาศ บึง แม่น้ำ และน้ำในส่ิงมชี ีวิต

- น้ำจืดทมี่ นษุ ยน์ ำมาใชไ้ ด้มปี ริมาณนอ้ ยมาก จึงควรใชน้ ้ำอย่างประหยดั และร่วมกันอนรุ กั ษ์น้ำ
- วัฏจกั รนำ้ เปน็ การหมนุ เวียนของนำ้ ท่มี ีแบบรูป ซ้ำเดิม และตอ่ เน่ืองระหวา่ งน้ำในบรรยากาศ น้ำผวิ
ดนิ และนำ้ ใตด้ ิน โดยพฤตกิ รรมการดำรงชีวติ ของพืชและสัตวส์ ง่ ผลต่อวฏั จกั รนำ้
- ไอน้ำในอากาศจะควบแน่นเป็นละอองน้ำเล็ก ๆ โดยมีละอองลอย เช่น เกลือ ฝุ่นละออง เกสร
ดอกไม้ เป็นอนุภาคแกนกลาง เมื่อละอองน้ำจำนวนมากเกาะกลุ่มรวมกันลอยอยู่สูงจากพ้ืนดินมาก
เรียกว่า เมฆ แต่ละอองน้ำท่ีเกาะกลุ่มรวมกันอยู่ใกล้พ้ืนดิน เรียกว่า หมอก ส่วนไอน้ำท่ีควบแน่นเป็น
ละอองน้ำเกาะอยู่บนพ้ืนผิววัตถุใกล้พ้ืนดิน เรียกว่า น้ำค้าง ถ้ำอุณหภูมิ ใกล้พื้นดินต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
นำ้ คา้ งกจ็ ะกลายเป็นนำ้ ค้างแข็ง
- ฝน หิมะ ลูกเห็บ เป็นหยาดน้ำฟ้าซึ่งเป็นน้ำท่ีมีสถานะต่าง ๆ ที่ตกจากฟ้าถึงพ้ืนดิน ฝน เกิดจาก
ละอองนำ้ ในเมฆท่รี วมตวั กนั จนอากาศไม่สามารถ

88

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

8. ชิน้ งาน/ภาระงาน
ระหวา่ งกิจกรรม
- กจิ กรรมนำ้ แตล่ ะแหล่งบนโลกมอี ยเู่ ท่าใด
- กจิ กรรมทำอยา่ งไรจงึ จะใชน้ ้ำอย่างประหยัด และอนรุ ักษ์แหล่งน้ำในท้องถน่ิ ได้
- กจิ กรมมเมฆ หมอก นำ้ ค้าง และน้ำคา้ งแขง็ เกดิ ขึ้นไดอ้ ย่างไร
- กจิ กรรม ฝน หิมะ และลูกเหบ็ เกดิ ข้ึนได้อย่างไร
- กิจกรรมวฏั จกั รน้ำเปน็ อย่างไร
เม่ือสน้ิ สดุ กิจกรรม
- ทดสอบความรู้
- สรุปผงั ความคดิ

9. การวดั ผลประเมนิ ผล
- จากกจิ กรรมนำ้ แต่ละแหล่งบนโลกมอี ยเู่ ทา่ ใด
- จากกิจกรรมทำอย่างไรจึงจะใชน้ ้ำอย่างประหยัด และอนุรกั ษแ์ หล่งนำ้ ในทอ้ งถิน่ ได้
- จากกจิ กรมมเมฆ หมอก น้ำค้าง และนำ้ คา้ งแข็ง เกิดขนึ้ ได้อยา่ งไร
- จากกิจกรรม ฝน หิมะ และลูกเหบ็ เกดิ ขนึ้ ได้อย่างไร
- จากกิจกรรมวฏั จกั รนำ้ เปน็ อยา่ งไร
- จากการทำแบบทดสอบความรู้
- จากการทำแบบสรปุ ผังความคิด

89

10. การประเมนิ ผลระหว่างจดั กิจกรรม

ประเด็นการประเมนิ น้ำหนัก ระดับคุณภาพ

10 ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)

การทำกิจกรรมนำ้ 4 ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย

แตล่ ะแหล่งบนโลกมี กิจกรรมน้ำแตล่ ะ กิจกรรมน้ำแตล่ ะ กิจกรรมนำ้ แต่ละ กจิ กรรมนำ้ แตล่ ะ

อยเู่ ท่าใด แหลง่ บนโลกมีอยู่ แหล่งบนโลกมอี ยู่ แหล่งบนโลกมอี ยู่ แหล่งบนโลกมีอยู่

เท่าใด เท่าใด เท่าใด เท่าใดไม่ถูกตอ้ ง

ถกู ต้อง สมบูรณ์ ยังไม่ ค่อยถูกต้อง ยังไม่ ค่อยถูกตอ้ ง และไมม่ ีการ

สมบรู ณ์หรอื ถูกต้อง สมบรู ณ์หรือไม่ ปรบั ปรงุ แก้ไข

บ้างและมีการ ถกู ต้องเลยแต่มีการ

ปรบั ปรงุ แก้ไข ปรบั ปรงุ แก้ไข

การทำกิจกรรมทำ 4 ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย

อยา่ งไรจึงจะใช้นำ้ กจิ กรรมทำอย่างไร กจิ กรรมทำอยา่ งไร กจิ กรรมทำอยา่ งไร กิจกรรมทำอยา่ งไร

อยา่ งประหยดั และ จงึ จะใชน้ ำ้ อย่าง จงึ จะใชน้ ้ำอย่าง จงึ จะใชน้ ้ำอยา่ ง จึงจะใชน้ ้ำอย่าง

อนรุ กั ษ์แหลง่ น้ำใน ประหยดั และ ประหยดั และ ประหยัด และ ประหยัด และ

ท้องถิ่นได้ อนรุ ักษ์แหลง่ นำ้ ใน อนรุ ักษ์แหลง่ น้ำใน อนรุ กั ษ์แหล่งน้ำใน อนรุ กั ษ์แหลง่ น้ำใน

ท้องถ่นิ ได้ถูกต้อง ทอ้ งถน่ิ ได้ ทอ้ งถนิ่ ได้ ท้องถ่ินได้ไม่ถูกต้อง

สมบรู ณ์ ยงั ไม่ คอ่ ยถกู ต้อง ยงั ไม่ ค่อยถูกต้อง และไมม่ ีการ

สมบรู ณ์หรือถูกต้อง สมบรู ณห์ รอื ไม่ ปรับปรุงแก้ไข

บา้ งและมีการ ถูกต้องเลยแตม่ ีการ

ปรบั ปรุงแก้ไข ปรับปรงุ แก้ไข

การทำกิจกรรมเมฆ 4 ทดลองและอธบิ าย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย

หมอก น้ำคา้ ง และ กิจกรรมเมฆ หมอก กิจกรรมเมฆ หมอก กจิ กรรมเมฆ หมอก กิจกรรมเมฆ หมอก

น้ำคา้ งแขง็ เกดิ ขน้ึ ได้ น้ำคา้ ง และนำ้ คา้ ง น้ำค้าง และนำ้ ค้าง นำ้ ค้าง และนำ้ คา้ ง นำ้ คา้ ง และนำ้ ค้าง

อย่างไร แข็ง เกิดขึน้ ได้ แข็ง เกดิ ขึ้นได้ แขง็ เกดิ ข้ึนได้ แขง็ เกดิ ขึน้ ได้

อยา่ งไรถกู ต้อง อย่างไร อยา่ งไร อย่างไรไม่ถูกต้อง

สมบรู ณ์ ยังไม่ คอ่ ยถกู ต้อง ยงั ไม่ ค่อยถูกตอ้ ง และไม่มีการ

สมบูรณห์ รอื ถูกต้อง สมบูรณ์หรอื ไม่ ปรับปรงุ แก้ไข

บา้ งและมีการ ถูกต้องเลยแต่มีการ

ปรบั ปรงุ แก้ไข ปรบั ปรงุ แก้ไข

90

ประเดน็ การประเมนิ น้ำหนัก ระดับคุณภาพ

10 ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

การทำกจิ กรรม ฝน 4 ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย

หิมะ และลูกเหบ็ กจิ กรรม ฝน หมิ ะ กิจกรรม ฝน หิมะ กิจกรรม ฝน หมิ ะ กจิ กรรม ฝน หิมะ

เกิดขนึ้ ได้อย่างไร และลูกเหบ็ เกิดข้นึ และลูกเหบ็ เกิดขน้ึ และลูกเหบ็ เกดิ ขน้ึ และลูกเหบ็ เกิดขึน้

ไดอ้ ยา่ งไรถูกต้อง ได้อยา่ งไร ได้อย่างไร ได้อยา่ งไรไมถ่ ูกต้อง

สมบูรณ์ ยงั ไม่ ค่อยถูกต้อง ยังไม่ ค่อยถูกต้อง และไม่มีการ

สมบูรณ์หรือถูกต้อง สมบรู ณ์หรือไม่ ปรบั ปรงุ แก้ไข

บ้างและมีการ ถูกต้องเลยแตม่ ีการ

ปรับปรุงแก้ไข ปรบั ปรุงแก้ไข

การทำกิจกรรมวัฏ 4 ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธิบาย ทดลองและอธบิ าย

จกั รน้ำเป็นอยา่ งไร กิจกรรมวฏั จกั รนำ้ กิจกรรมวฏั จกั รนำ้ กจิ กรรมวัฏจักรน้ำ กิจกรรมวฏั จักรนำ้

เป็นอยา่ งไรถูกตอ้ ง เป็นอยา่ งไร เปน็ อย่างไร เป็นอย่างไรไม่

สมบรู ณ์ ยังไม่ คอ่ ยถกู ต้อง ยังไม่ ค่อยถูกตอ้ ง ถูกต้องและไม่มีการ

สมบรู ณห์ รอื ถูกต้อง สมบรู ณ์หรอื ไม่ ปรับปรงุ แก้ไข

บ้างและมีการ ถูกต้องเลยแตม่ ีการ

ปรับปรงุ แก้ไข ปรบั ปรงุ แก้ไข

การทำแบบทดสอบ 4 แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้ แบบทดสอบความรู้

ความรู้ ถกู ทุกข้อ ถกู รอ้ ยละ 70-90 ถกู รอ้ ยละ 50- ถกู น้อยกว่าร้อยละ

60.99 50

การทำแบบสรปุ ผัง 4 สรปุ ผงั ความคดิ ได้ สรุปผังความคิด ได้ สรปุ ผังความคดิ ได้ สรุปผงั ความคิด ได้

ความคิด ครบถ้วน สะอาด ไม่ครบถ้วนแต่มี ไมค่ รบถ้วน ไมค่ ่อย ไมค่ รบถ้วน ไม่

สง่ ตรงเวลา การแก้ไข ไม่ค่อย สะอาด สง่ ไม่ตรง สะอาด ส่งช้ากวา่

สะอาด สง่ ตรงเวลา เวลา กำหนด

เกณฑก์ ารประเมิน

ระหว่างจัดกิจกรรม 100 คะแนน

คะแนน 80-100 หมายถึง ดมี าก
ดี
คะแนน 70-79 หมายถงึ พอใช้
ปรับปรงุ
คะแนน 65-69 หมายถงึ

คะแนน ต่ำกว่า 65 หมายถึง

91

11. กจิ กรรมการเรียนรู้
แบง่ กลุ่มนักเรยี น เพือ่ ศกึ ษา
1. เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแต่ละแหลง่ และระบุ ปริมาณน้ำท่มี นุษย์สามารถนำมาใชป้ ระโยชน์
2. นำเสนอแนวทางการใช้น้ำอย่างประหยดั และ การอนุรักษน์ ้ำ
3. เปรียบเทยี บกระบวนการเกดิ เมฆ หมอก นำ้ คา้ ง และน้ำคา้ งแข็ง
4. เปรยี บเทียบกระบวนการเกิดฝน หิมะ และ ลกู เหบ็
5. สร้างแบบจำลองการหมนุ เวียนของนำ้ ใน วฏั จกั รน้ำ
6. นำเสนอและอภิปรายเกีย่ วกบั แบบจำลอง ตามกิจกรรมตามภาระงาน /ช้ินงาน

12. ส่ือการเรยี น
1. วสั ดแุ ละอุปกรณ์ตามแบบบนั ทึกกจิ กรรม
2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม
3. แหลง่ การเรียนรอู้ ินเทอร์เน็ต
4. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.5

92

ประกาศโรงเรียน...........
เรอ่ื ง ใหใ้ ช้หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียน..............พุทธศกั ราช 2561
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐)

สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการมีประกาศเรื่องการบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาข้ัน
พืน้ ฐานหลักสูตรสถานศึกษาเม่ือวันท่ี 11 กรกฎาคม 2560 รวมทงั้ คำสัง่ สพฐ. ท่ี1239/2560 ลงวันที่ 7
สิงหาคม 2560 เร่ือง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิ ตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบบั ปรับปรุง
พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยให้เร่ิมใช้ปีการศึกษา
2561 ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 และให้ครบทุกระดับช้ันในปี
การศึกษา ๒๕๖๓ ดังน้นั เพ่ือให้หลักสูตรสถานศกึ ษามคี วามสอดคล้องสัมพันธ์กบั แนวทางการดำเนินงาน
ดังกล่าวข้างต้นและนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถ ทักษะ
กระบวนการ คุณลักษณะ คุณธรรมและค่านิยม บรรลมุ าตรฐานและตัวช้ีวดั ท่ีกำหนด โรงเรียน.......... จึง
ดำเนินการปรับหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 256๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

ทั้งนี้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียน............. เล่มนี้ได้ปรับปรุง ตามคำสั่งของ สพฐ. และปรับตามบริบท
ของสถานศึกษา และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน คราวประชุมครั้งที่ ๑
เม่ือวันที่ .......เดือน ............. พ.ศ. ....... จึงประกาศให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษาเล่มนี้ ตั้งแต่ปีการศึกษา

........ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันท่ี ..... เดอื น ............... พ.ศ. ...........

ลงชอื่ .......................................... ลงชือ่ .......................................
(..................................) (............................................)
ผู้อำนวยการโรงเรียน...............
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน
โรงเรยี น.................

93

คำส่ังโรงเรยี น.................

ที่ ........ / ..........

เร่ือง แต่งตงั้ คณะกรรมการพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา..................

-----------------------------

เพ่อื ให้การบริหารงานวิชาการ การบรหิ ารงานงานกลุ่มสาระการเรียนรู้ กระบวนการพัฒนาการเรียนการสอน

ของโรงเรียน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ

บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและ

บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 จึงแต่งต้ังคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา .......... ประกอบด้วย

บุคคลดังตอ่ ไปน้ี

1. นางก กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

2. นางค กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์

3. นางสาวจ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

4. นางสาวว กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม

5. นายม กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
6. นางอ กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

7. นางสาวด กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี
8. นางสาวจ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
9. นางสาวป กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

10. นายศ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ดนตรี
11. นายว กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาการคำนวณ

12. นางสาวอ กล่มุ สาระการเรยี นรปู้ ฐมวัย

ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งดำเนินการตามขอบข่ายหน้าที่ความรับผิดชอบ พัฒนาบริหารจัดการงานกลุ่ม

สาระการเรียนรู้ พัฒนากระบวนการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ และปฏิบัติภารกิจของกลุ่มสาระ

การเรียนร้เู พื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรยี นให้มคี ุณภาพสงู ยง่ิ ๆ ขน้ึ ไป

ท้งั นีต้ ้ังแตบ่ ัดนี้เป็นต้นไป
สง่ั ณ วนั ท่ี ...... เดือน ...................... พ.ศ. .................

ลงช่ือ
(................................................)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น......................

94


Click to View FlipBook Version