บทเรยี นมอดลู ที่ 1
ความหมายและความสาคญั พืชไร่
ช่ือวิชา การผลิตพชื ไร่ รหสั วิชา 20501 – 2202
ผ้จู ดั ทา
นางสาวจนั ทิมา ทองสมั ฤทธ์ิ
ตาแหน่ง : ครพู ิเศษสอน
วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีกระบี่
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
คานา
บทเรียนมอดูลชุดที่ 1 เร่ือง ความหมายและความสาคญั พืชไร่ ฉบบั น้ี ขา้ พเจา้ เรีบเรียงข้ึน
เพ่ือใช้ ประกอบการเรียนรู้รายวิชา การผลิตพืชไร่ รหัสวิชา 20501 – 2202 ช้ันประกาศนียบตั ร
วชิ าชีพช้นั ปี ที่ 2 โดยพยายามเขียนใหน้ กั เรียนเขา้ ใจงา่ ย นกั เรียนสามารถศึกษาไดด้ ว้ ยตนเอง เพือ่ ให้
มี ความรู้พ้ืนฐานก่อนที่จะศึกษาเน้ือหาน้ันจริงๆ และยงั ไดเ้ พ่ิมเติมเน้ือหาบางตอนเพ่ือช่วยเสริม
ความรู้ ความเขา้ ใจแก่นักเรียน นอกจากน้ียงั ไดเ้ พ่ิมใบกิจกรรมเสริมให้นักเรียนมีประสบการณ์
กวา้ งขวาง ยงิ่ ข้ึน บทเรียนมอดูลชุดน้ีมีจุดประสงคเ์ พือ่ ใหน้ กั เรียนไดศ้ ึกษาเก่ียวกบั ความหมายพืชไร่
ความสาคญั และการใชป้ ระโยชน์ดา้ นต่างๆ รวมท้งั ระบบการปลูกพืชไร่ในประเทศไทย ภายใน
บทเรียนมอดูลเล่มน้ีประกอบด้วย คาแนะนาการใช้ บทเรียนมอดูล จุดประสงค์การเรียนรู้
แบบทดสอบภาคความรู้ก่อนเรียน เน้ือหา ใบกิจกรรม แบบทดสอบภาคความรู้หลงั เรียน รวมท้งั
เฉลยกิจกรรมและแบบทดสอบ บทเรียนมอดูลน้ีนักเรียน สามารถศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเองและ
เรียนรู้กันเป็ นกลุ่มเล็กๆ ผูจ้ ดั ทาหวงั เป็ นอย่างยิ่งว่าบทเรียนมอดูลชุดน้ีจะช่วยให้นักเรียนไดร้ ับ
ความรู้ความความหมายพืชไร่ ความสาคญั และการใชป้ ระโยชน์ดา้ นต่างๆ รวมท้งั ระบบการปลูกพืช
ไร่ในประเทศไทย มากยิ่งข้ึนและส่งผลให้ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนสูงข้ึน อยา่ งไรก็
ตามในบทเรียนมอดูลเล่มน้ีอาจมีบางจุดท่ีมีขอ้ บกพร่องผิดพลาด ขอให้ท่านผูอ้ ่านโปรดแจ้งให้
ขา้ พเจา้ ทราบดว้ ยจะขอบพระคุณเป็ นอยา่ งยิง่ ขา้ พเจา้ ยนิ ดีรับฟังความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะจาก
ทา่ น และ พร้อมที่จะนามาแกไ้ ขปรับปรุงบทเรียนมอดูลเลม่ น้ีใหม้ ีความสมบูรณ์และถกู ตอ้ ง
สารบญั
คำชี้แจงในการใชม้ อดลู สำหรบั นกั เรยี น
การใชบ้ ทเรียนมอดูลใหเ้ กิดประสิทธิภาพต่อการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งสูงสุด
นกั เรียนควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี
1. การเตรียมตวั ของนักเรียน
1.1 ศึกษาบทเรียนมอดูลลว่ งหนา้ ก่อนท่ีจะปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั
จุดประสงคข์ อ้ ควรปฏิบตั ิ
1.2 วางแผน และจดั เตรียมอุปกรณ์ที่ใชป้ ระกอบการเรียนรู้ของตนเองใหพ้ ร้อมสาหรับ การปฏิบตั ิ
กิจกรรมตามที่ไดร้ ับมอบหมาย
2. ดาเนนิ การจัดกจิ กรรมในแต่ละคร้ัง นักเรียนควรปฏิบตั ิ ดังนี้
2.1 ศึกษาแนวทางในการปฏิบตั ิกิจกรรมใหม้ ีความเขา้ ใจอยา่ งถ่องแท้ หากพบปัญหาหรือ ไม่เขา้ ใจให้
สอบถามขอ้ มูลเพิม่ เติมจากครู
2.2 ปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามลาดบั ข้นั ตอนท่ีกาหนด ดงั น้ี
2.2.1 นกั เรียนทาแบบทดสอบภาคความรู้ก่อนเรียน
2.2.2 นกั เรียนศึกษาและปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ตามแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ตามลาดบั ข้นั ตอนที่กาหนด
2.2.3 นกั เรียนส่งผลงานหรือชิ้นงานในการปฏิบตั ิกิจกรรม มีส่วนร่วมในการนาเสนอผลงานหรือ
อภิปรายความรู้
2.2.4 นกั เรียนทาแบบทดสอบภาคความรู้หลงั เรียน
สมรรถนะการเรยี นรู้
1 แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความหมายและความสาคญั ของพชื ไร่
2 แสดงความรกู้ ารใชป้ ระโยชน์พชื ไรด่ า้ นต่างๆ
3 แสดงความรแู้ หล่งปลูกพชื ไร่และพชื ไรเ่ ศรษฐกจิ ในประเทศไทย
จุดประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้
1อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของพชื ไร่
2 อธิบายการใชป้ ระโยชนพ์ ืชไร่ดา้ นตา่ งๆ
3 อธิบายแหลง่ ปลกู พืชไร่และพชื ไร่เศรษฐกิจในประเทศไทย
ดา้ นทักษะ
-
ดา้ นจติ พสิ ยั /คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
1 มีความรับผิดชอบ
2 มีความขยนั และใฝ่เรียนรู้
แบบทดสอบก่อนเรียน
1. ข้อใดคือความหมายของพืชไร่
ก. พชื ท่ีปลกู ในบริเวณพ้นื ท่ีกวา้ งมาก ไม่พิถีพิถนั ในการปลกู ไมต่ อ้ งการการเอาใจใส่ดูแลอยา่ งใกลช้ ิด
ข. พชื ท่ีปลูกเพ่อื ส่งออกไปยงั ต่างประเทศ เช่น ทุเรียน มะม่วง เป็นตน้
ค. พชื ท่ีปลูกในพ้ืนที่ภาคใตข้ องประเทศไทยเทา่ น้นั
ง. พชื ที่ปลกู ในบริเวณพ้นื ท่ีไม่มาก พถิ ีพถิ นั ในการปลูก ตอ้ งการการเอาใจใส่ดูแลอยา่ งใกลช้ ิด ระยะ
การเก็บเก่ียวหลายปี
2. พืชไร่ชนิดใดนามาสกดั นา้ มันได้
ก. มะม่วง ข. ถวั่ เขียว
ค. ฝ้าย ง. ถว่ั เหลือง
3. พืชไร่ชนดิ ไหนมคี วามสาคัญด้าน อตุ สาหกรรมน้าตาล
ก. ออ้ ย ข. ถวั่ ลิสง
ค. ฝ้าย ง. ถว่ั เหลือง
4. ปอ มีความสาคญั กบั อตุ สาหกรรมชนิดไหนมากที่สุด
ก. อตุ สาหกรรมอาหารสัตว์ ข. อตุ สาหกรรมน้าตาล
ค. อุตสาหกรรมสิ่งทอ ง. อตุ สาหกรรมสกดั น้ามนั
5. ข้อใดเป็ นการ ใช้ประโยชน์พืชไร่ โดยผ่านกระบวนการแปรรปู
ก. นายแดงนาออ้ ยไปควน่ั เพ่ือรับประทาน
ข. นายนาโชคนาขา้ วโพดไปใหไ้ ก่
ค. นางสาวฝ้าย นาขา้ วไปผลิตเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ง. นายถวั่ เหลือง นามนั สาปะหลงั ไปตม้ เพือ่ รับประทาน
6. ข้อใดจดั เป็ น การใช้ประโยชน์พืชไรจ่ ากผลพลอยได้
ก. นายแดงนาออ้ ยไปควนั่ เพ่ือรับประทาน
ข. นายงาดา นาชานออ้ ยเป็นวสั ดเุ ชอ้ื เพลงิ ในการผลติ ไอน้า
ค. นางสาวฝ้าย นาขา้ วไปผลิตเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ง. นายถวั่ เหลือง นามนั สาปะหลงั ไปตม้ เพื่อรับประทาน
7.พืชไร่ ข้อใดจัดเป็ นพืชเศรษฐกจิ ทสี่ ่งออกมากท่สี ุดของประเทศไทย
ก. ขา้ วหอมมะลิ ข. ถวั่ ลิสง
ค. ฝ้าย ง. ถวั่ เหลือง
8. ระบบการปลูกพชื ไร่ในประเทศไทยแบง่ เป็น กี่รปู แบบ
ก. 8 รูปแบบ ข. 3 รูปแบบ
ค. 2 รูปแบบ ง. 1 รูปแบบ
9. พืชไร่ชนดิ ไหน มีความสาคญั ด้านวฒั นธรรม โดยในพิธีกรรมต่าง ๆ จะใช้พืชไร่เขา้ ไปมีส่วนร่วมใน
พิธีกรรม
ก. ออ้ ย ข. ถวั่ เหลอื ง
ค. กลว้ ย ง. ฝ้าย
10. แหล่งปลกู ยาสูบของประเทศไทยอย่ภู าคไหนมากท่ีสุด
ก. ใต้ ข. กลาง
ค. ตะวนั ออก ง. เหนือ
เฉลย
ข้อที่ ข้อที่ถกู ต้อง
1ก
2ง
3ก
4ค
5ค
6ข
7ก
8ค
9ก
10 ง
เอกสารประกอบการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 เร่ือง ความหมาย และความสาคญั ของพชื ไร่
1. ความหมายของพืชไร่
พชื ไร่ หมายถงึ พชื ทป่ี ลกู ในบรเิ วณพน้ื ทก่ี วา้ งมาก ไม่พถิ พี ถิ นั ในการปลูก ไม่ตอ้ งการการเอาใจใสด่ แู ลอย่าง
ใกลช้ ดิ และขนั้ ตอนในการปลูกน้อย ซ่งึ ปลูกไดง้ า่ ยกว่าพชื สวน ส่วนใหญ่จะเป็นพชื ลม้ ลกุ มอี ายุในการ เกบ็
เกย่ี วไม่นาน เม่อื ใหผ้ ลผลติ แลว้ มกั จะตาย
➢ ข้อแตกต่างระหว่างพชื ไรแ่ ละพชื สวน
1. พชื ไร่มพี น้ื ทป่ี ลูกบรเิ วณพน้ื ทก่ี วา้ งมาก ไม่พถิ พี ถิ นั ในการปลูก ไม่ตอ้ งการการเอาใจใส่ดูแล
อย่าง ใกลช้ ดิ แตพ่ ชื สวนเป็นพชื ทต่ี อ้ งดแู ลอย่าพถิ พี ถิ นั ตอ้ งดแู ลเอาใจใสอยา่ งใกลช้ ดิ มขี อบเขตในการปลูก
ทแ่ี น่นอน
2. พชื ไรม่ ขี นั้ ตอนในการปลกู น้อย ซ่งึ ปลูกไดง้ า่ ยกว่าพชื สวน
3. พชื ไร่อายุการเก็บเก่ยี วไม่ยาวนาน ส่วนใหญ่เม่ือให้ผลผลิตแล้วก็จะตายไป ส่วนพชื สวน
สว่ นมาก อายุยนื สามารถเกบ็ เกย่ี วไดเ้ ป็นเวลาหลายปี
2. ความสาคญั ของพืชไร่
2.1 ความสาคญั ต่อชีวติ ประจาวนั ของมนุษย์ โดยเป็นแหล่งอาหารหลกั ของประชากรในหลายๆ
ประเทศ นอกจากน้เี ป็นเครอ่ื งใช้ เคร่อื งนุ่งห่ม ในชวี ติ ประจาวนั ตา่ ง ๆ
2.2 ความสาคญั ดา้ นอาหารสตั ว์ ปัจจุบนั การเล้ยี งสตั วต์ อ้ งอาศยั พชื ไร่เป็นอาหารหลกั เพอ่ื ใหส้ ตั ว์
กนิ เป็นอาหาร
2.3 ความสาคัญด้านอุตสาหกรรม เพ่ือเป็นวัตถุดิบสู่โรงงงานอุตสาหกรรม เพ่ือแปรรูปเป็น
ผลติ ภณั ฑท์ ม่ี รี าคาสงู
➢ อตุ สาหกรรมสกดั น้ามนั เชน่ ถวั่ เหลอื ง ถวั่ ลสิ ง
➢ อตุ สาหกรรมน้าตาล เช่น ออ้ ย
➢ อุตสาหกรรมอาหารสตั ว์ เช่น ขา้ วโพด มนั สาปะหลงั
➢ อตุ สาหกรรมสง่ิ ทอง เชน่ ฝ้าย ปอ
2.4 มคี วามสาคญั ทางเศรษฐกจิ ของประเทศ
2.5 ความสาคญั ดา้ นวฒั นธรรม โดยในพธิ ีกรรมต่าง ๆ จะใชพ้ ชื ไร่เขา้ ไปมสี ว่ นร่วมในพธิ กี รรม เช่น
พธิ พี ชื มงคล จะใชเ้ มลด็ ขา้ ว ถวั่ งา เป็นตน้ พธิ แี ต่งงาน จะใชอ้ อ้ ยร่วมในพธิ ี
2.6 ความสาคญั ดา้ นอ่นื ๆ เช่น ทาใหป้ ระชากรมอี าชพี มงี านทาตลอดทงั้ ปี ทาใหก้ ารใชท้ ่ดี นิ เพ่อื
ทา การเกษตรคุม้ ค่า ทาใหป้ ระชากรใชแ้ รงงานมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ
3. การใช้ประโยชน์ของพชื ไร่
3.1 ใชป้ ระโยชน์โดยตรง เป็นการนาสว่ นของพชื ไรม่ าใชบ้ รโิ ภคโดยตรง
3.2. ใชป้ ระโยชน์โดยผา่ นกระบวนการแปรรปู
3.2.1 การแปรรปู เพอ่ื การบรโิ ภค
➢ การสกดั น้ามนั เพอ่ื ใชป้ ระระกอบอาหาร
➢ การผลติ น้าตาลทรายจากออ้ ย
➢ การผลติ แป้ง
➢ การผลติ เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์
➢ การผลติ อาหารสาเรจ็ รปู
3.2.2 การแปรรปู เพอ่ื เป็นอาหารสตั ว์
3.2.3 การแปรรปู เพอ่ื เป็นวตั ถุดบิ ในอุตสาหกรรม
➢ อตุ สาหกรรมสงิ่ ทอ
➢ อตุ สาหกรรมเยอ่ื กระดาษ
➢ อุตสาหกรรมพลาสตกิ
➢ อตุ สาหกรรมผลติ แผน่ ยางดบิ
3.3 การใชป้ ระโยชน์จากผลพลอยได้
3.3.1 การทาเฟอรน์ ิเจอร์
3.3.2 การใชช้ านออ้ ยเป็นวสั ดเุ ชอ้ื เพลงิ ในการผลติ ไอน้า
3.4 การใชป้ ระโยชน์ในลกั ษณะอน่ื ๆ
3.4.1 ออ้ ย เป็นยาขบั ปัสสาวะ แกไ้ ตพกิ าร
3.4.2 ทานตะวนั ช่วยแกโ้ รคบดิ มกู เลอื ด ขบั หนองใน
3.4.3 ถวั่ เหลอื ง นาเมลด็ มาตม้ เป็นยายาระบาย ขบั ปัสสาวะ
4. พชื เศรษฐกิจที่สาคญั ของไทย
พชื เศรษฐกจิ ท่สี าคญั ของประเทศไทยมหี ลายอย่าง แต่ท่ีประเทศเราสง่ ออกและมรี ายไดเ้ ขา้ ประเทศ
อย่างเป็นกอบเป็นกา ไดแ้ ก่ ขา้ ว มนั สาปะหลงั ขา้ วโพด ออ้ ย ถวั่ เหลอื ง เป็นตน้
4.1 ขา้ ว เป็นพชื เศรษฐกจิ ทส่ี าคญั ของไทย ในปีหน่ึงประเทศไทยสามารถส่งออกขา้ วไดเ้ ป็นจานวน
มาก คดิ เป็นรายไดเ้ ขา้ ประเทศนับแสนลา้ นบาท และมแี นวโน้มท่จี ะสง่ ออกเพม่ิ ขน้ึ ทกุ ปี ประเทศทเ่ี ราสง่ ออก
ขา้ วมากทส่ี ุด ไดแ้ ก่ จนี ฮ่องกง มาเลเซยี แคนนาดา อหิ รา่ น อริ กั ฯลฯ โดยขา้ วทส่ี ง่ ออกมี ขา้ วหอมมะลิ ทม่ี ี
ชอ่ื เสยี งโด่งดงั ไปทวั่ โลก ขา้ วเจา้ ขา้ วเหนยี ว รวมถงึ ขา้ วเปลอื กดว้ ย
4.2 มนั สาปะหลงั เป็น พชื เศรษฐกิจท่ปี ลูกง่าย ทนทานต่อ สภาพดนิ ฟ้าอากาศ และเป็นอาหารท่ี
สาคญั ของประเทศในเขตร้อน เช่น ประเทศในทวปี แอปรกิ า และทวปี อเมรกิ าใต้ รวมถงึ ทวปี เอเชยี ด้วย
การสง่ ออก มนั สาปะหลงั จงึ สามารถสรา้ งรายไดเ้ ขา้ ประเทศเป็นจานวนมากในแต่ละปี นับเป็นพชื เศรษฐกจิ
ทส่ี าคญั ไม่แพข้ า้ ว
4.3 ขา้ วโพด โดยเฉพาะขา้ ว โพดหวานเป็น พชื เศรษฐกจิ ท่ี น่าจบั ตามอง ในช่วงระยะเวลาประมาณ
5 ปี การสง่ ออกขา้ วโพดหวานของไทยมอี ตั ราเตบิ โตอย่างต่อเน่อื ง สามารถแขง่ ขนั ในดา้ นคณุ ภาพและราคา
กบั ต่างประเทศได้ จนขณะน้ีไทย เป็นอนั ดบั 3 ของโลก ในการส่งออกข้าวโพดหวาน โดยอนั ดบั 1 คอื
ฮงั การี และ อนั ดบั 2 คอื สหรฐั ฯ
5. แหลง่ ปลูกพชื ไรท่ีสาคญั ของประเทศไทย
การปลู กพืชไร่สามารถปลู กได้ทุกภาคของประเ ทศ ไทย โดยเฉพาะจังหวัดในภาค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ เป็นแหล่งปลูกทส่ี าคญั เพราะมสี ภาพภูมปิ ระเทศและสภาพ
ภูมอิ ากาศมคี วาม เหมาะสม ส่วนในภาคใต้แทบจะไม่มกี ารปลูกพืชไร่เป็น อาชีพหลกั มกี ารปลูกเพียง
เลก็ น้อย แหล่งปลูกพชื ไรท่ ส่ี าคญั มดี งั น้ี
➢ ภาคกลาง เป็นแหล่งปลูก ขา้ วโพด ถวั เขยี ว ละหุ่ง ถวั่ เหลอื ง
➢ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งปลูกขา้ ว ขา้ วโพด ออ้ ย มนั สาปะหลงั ปอแก้ว ละหุ่ง
ถวั่ เขยี ว
➢ ภาคเหนอื เป็นแหล่ง ปลูกขา้ ว ถงั่ เหลอื ง ถวั ลสิ ง ยาสบู ถวั่ เขยี ว ขา้ วโพด
➢ ภาคใต้ เป็นแหล่งปลูก ขา้ ว ขา้ วโพด ถวั่ ลสิ ง สบั ปะรด
6. ระบบการทาไร่ในประเทศไทย
ระบบการปลูกพชื ไรใ่ นประเทศไทยแบ่งเป็น 2 รปู แบบ ดงั น้ี
6.1 ระบบการปลูกพชื ไร่เชงิ เด่ยี ว หรอื ระบบเกษตรกรรมพชื เดย่ี ว เป็นรูปแบบการเกษตรท่ีสงั คม
เกษตรกรรมของไทยทากนั อย่างแพร่หลาย ซ่งึ เป็นวธิ กี ารเพาะปลูกท่จี ดั การง่าย สะดวกสามารถดูแลเป็น
บริเวณกว้าง อีกทงั้ การเกษตรรูปแบบน้ีเกษตรกรมกั จะใช้สารเคมเี ป็นตวั ควบคุมการผลิต ทงั้ เร่งการ
เจรญิ เตบิ โต กาจดั ศตั รูพชื เพ่อื ใหผ้ ลผลติ ท่ี ไดอ้ อกมานัน้ สวยงามและไดร้ าคาท่ีดี แต่ผลเสยี ท่สี าคญั ของ
เกษตรเชิงเด่ยี ว คอื เม่อื ปลูกพชื ชนิดเดียวกนั ไปเร่อื ย ๆ ผลผลิตท่ีได้ออกมานัน้ ล้นตลาด ส่งผลให้ราคา
ตกต่า เกษตรกรบางรายต้อง ยอมขายในราคาทข่ี าดทุนเน่ืองจากหากเกบ็ ไวน้ านผลผลติ จะเน่าและเสยี หาย
อกี ทงั้ การทาเกษตรเชงิ เดย่ี วยงั สง่ ผลให้ ความหลากหลายทางชวี ภาพในระบบนิเวศเส่ือมโทรมลง เช่น พชื
สตั ว์ แมลง และจลุ นิ ทรยี ต์ ่าง ๆ
6.2 ระบบไร่นาสวนผสม เป็นระบบการเกษตรทม่ี กี จิ กรรมการผลติ หลาย ๆ กจิ กรรมเพ่อื ตอบสนอง
ตอ่ การบรโิ ภคหรอื ลดความเสย่ี ง จากราคา ผลติ ผลทม่ี คี วามไม่แน่นอนเท่านนั้ โดยไม่ไดม้ กี ารจดั การให้ การ
ผลติ เหล่านัน้ มกี ารผสมผสานเก้ือกูลกนั เพ่อื ลดต้นทุนการผลติ และคานึงถงึ สภาพแวดล้อมเหมือนเกษตร
ผสมผสาน การทาไร่นาสวนผสมอาจมกี ารเก้อื กูลนนั้ จากกจิ กรรมการผลติ บา้ ง แต่กลไกการเกดิ ขน้ึ นนั้ เป็น
แบบ “เป็นไปเอง” มใิ ช่เกดิ จาก “ความรู้ ความเขา้ ใจ” อย่างไร กต็ ามไร่นาสวนผสม สามารถพฒั นาความรู้
ความสามารถของเกษตรกรผดู้ าเนนิ การใหเ้ ป็นการดาเนิน การในลกั ษณะ ของระบบเกษตรผสมผสานได้
ใบงานที่ 1 (หน่วยที่ 1 ความหมายและความสาคญั ของพชื ไร่)
คาสงั่ : ตอนที่ 1 ให้นักศึกษาตอบคาถามให้ถกู ต้อง
1. ความหมาย ของพชื ไร่ (1 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
2. ความสาคญั ของพืชไร่มอี ะไรบ้าง ? (6 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
3. ยกตวั อยา่ ง การใช้ประโยชน์พืชไร่มีอะไรบา้ ง คนละ 2 ข้อ (2 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
4. ยกตวั อย่าง พชื ไร่ที่นิยมปลูกในประเทศไทย 2 ชนิด (2 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
คาสงั่ : ตอนท่ี 2 คาถามถกู ผิด
5. ให้นักศกึ ษา ใส่เครอื่ งหมาย ถกู หน้าข้อความท่ีถกู และใส่เครื่องหมาย กากบาท หน้าข้อความที่
ผิด และ แก้ไขประโยคข้อความท่ีผิดให้ถกู ต้อง (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
5.1 ………….. ออ้ ยจดั เป็นพชื ไร่
……………………………………………………………………………………………………………
5.2………….. ฝรงั่ จดั เป็นพชื ไร่
……………………………………………………………………………………………………………
5.3…………... ถวั่ เหลอื งมคี วามสาคญั ดา้ นอุตสาหกรรมการสกดั น้ามนั พชื
……………………………………………………………………………………………………………
5.4…………… ออ้ ย สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ดา้ นอตุ สาหกรรมสง่ิ ทอ
……………………………………………………………………………………………………………
5.5…………… พชื ไร่ สามารถ นามาผลติ เครอ่ื งด่มื แอลกอฮอลไ์ ด้
……………………………………………………………………………………………………………
5.6…………… ประเทศไทย ไมไ่ ดผ้ ลติ ขา้ วสง่ ออก แตน่ าเขา้ มาจากประเทศจนี
……………………………………………………………………………………………………………
5.7…………… มะละกอ จดั เป็นพชื ไรช่ นดิ หน่งึ เพราะปลูกในพน้ื ทม่ี าก การดแู ลรกั ษาไม่ยงุ้ ยาก
……………………………………………………………………………………………………………
5.8…………… น้าตาลทราย ผลติ มาจาก มนั สาปะหลงั
……………………………………………………………………………………………………………
5.9……………. พชื ไร่ทส่ี ามารถนาไปผลติ แปรรปู เป็นแป้งได้ เช่น มนั สาปะหลงั , ขา้ วโพด
……………………………………………………………………………………………………………
5.10………….. การนาพชื ไร่ เขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มในพธิ กี รรม ต่าง ๆ เช่น พธิ พี ชื มงคล จะใชเ้ มลด็
ขา้ ว ถวั่ งา จดั เป็นความสาคญั ดา้ นเศรษฐกจิ
……………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบหลังเรยี น
1. ข้อใดคือความหมายของพืชไร่
ก. พืชที่ปลกู ในบริเวณพ้ืนท่ีกวา้ งมาก ไม่พิถีพิถนั ในการปลูก ไมต่ อ้ งการการเอาใจใส่ดูแลอยา่ งใกลช้ ิด
ข. พชื ที่ปลกู เพอ่ื ส่งออกไปยงั ตา่ งประเทศ เช่น ทเุ รียน มะม่วง เป็นตน้
ค. พชื ที่ปลกู ในพ้ืนท่ีภาคใตข้ องประเทศไทยเท่าน้นั
ง. พชื ท่ีปลกู ในบริเวณพ้ืนท่ีไม่มาก พถิ ีพิถนั ในการปลูก ตอ้ งการการเอาใจใส่ดูแลอยา่ งใกลช้ ิด ระยะ
การเกบ็ เกี่ยวหลายปี
2. พืชไร่ชนิดใดนามาสกดั น้ามนั ได้
ก. มะมว่ ง ข. ถว่ั เขยี ว
ค. ฝ้าย ง. ถวั่ เหลือง
3. พืชไร่ชนิดไหนมคี วามสาคญั ด้าน อตุ สาหกรรมน้าตาล
ก. ออ้ ย ข. ถว่ั ลิสง
ค. ฝ้าย ง. ถวั่ เหลือง
4. ปอ มคี วามสาคญั กบั อตุ สาหกรรมชนิดไหนมากท่ีสุด
ก. อตุ สาหกรรมอาหารสตั ว์ ข. อุตสาหกรรมน้าตาล
ค. อตุ สาหกรรมส่ิงทอ ง. อุตสาหกรรมสกดั น้ามนั
5. ข้อใดเป็ นการ ใช้ประโยชน์พชื ไร่ โดยผ่านกระบวนการแปรรปู
ก. นายแดงนาออ้ ยไปควนั่ เพื่อรับประทาน
ข. นายนาโชคนาขา้ วโพดไปใหไ้ ก่
ค. นางสาวฝ้าย นาขา้ วไปผลิตเป็นเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์
ง. นายถว่ั เหลือง นามนั สาปะหลงั ไปตม้ เพ่อื รับประทาน
6. ข้อใดจดั เป็ น การใช้ประโยชน์พืชไรจ่ ากผลพลอยได้
ก. นายแดงนาออ้ ยไปควนั่ เพ่ือรับประทาน
ข. นายงาดา นาชานออ้ ยเป็นวสั ดเุ ชอ้ื เพลงิ ในการผลติ ไอน้า
ค. นางสาวฝ้าย นาขา้ วไปผลิตเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ง. นายถวั่ เหลือง นามนั สาปะหลงั ไปตม้ เพื่อรับประทาน
7.พืชไร่ ข้อใดจัดเป็ นพืชเศรษฐกจิ ทสี่ ่งออกมากท่สี ุดของประเทศไทย
ก. ขา้ วหอมมะลิ ข. ถวั่ ลิสง
ค. ฝ้าย ง. ถวั่ เหลือง
8. ระบบการปลูกพชื ไร่ในประเทศไทยแบง่ เป็น กี่รปู แบบ
ก. 8 รูปแบบ ข. 3 รูปแบบ
ค. 2 รูปแบบ ง. 1 รูปแบบ
9. พืชไร่ชนดิ ไหน มีความสาคญั ด้านวฒั นธรรม โดยในพิธีกรรมต่าง ๆ จะใช้พืชไร่เขา้ ไปมีส่วนร่วมใน
พิธีกรรม
ก. ออ้ ย ข. ถวั่ เหลอื ง
ค. กลว้ ย ง. ฝ้าย
10. แหล่งปลกู ยาสูบของประเทศไทยอย่ภู าคไหนมากท่ีสุด
ก. ใต้ ข. กลาง
ค. ตะวนั ออก ง. เหนือ
เฉลย
ข้อที่ ข้อทีถ่ กู ต้อง
1ก
2ง
3ก
4ค
5ค
6ข
7ก
8ค
9ก
10 ง