The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jantayotee.ole, 2022-12-16 23:48:30

ilovepdf_merged

ilovepdf_merged

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้

12.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

1. นักเรียนจำนวน..................คน

ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ .....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................

ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ..................

นักเรยี นน่ีไมผ่ า่ น มีดังนี้

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

2. นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ (K)

............................................................................................................................. .........................

............................................................................................................................. .........................

3. นักเรียนมีความรเู้ กิดทกั ษะ (P)

......................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .........................

4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A)

............................................................................................................................. .........................

.......................................................................................................... ............................................

12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12.3 ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอ่ื ..................................................
(.................................................)
ตำแหน่ง.....................................


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 นำไปใชไ้ ด้จรงิ
 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ..................................................
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 33

สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว15101

ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรื่อง สารละลาย เวลา 1 ชวั่ โมง

วนั ที.่ ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครูผู้สอน............................................................

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสาร

กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี

2. ตวั ชี้วัดช้นั ปี
อธิบายการละลายของสารในน้ำ โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์ (ว 2.1 ป. 5/2)

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ระบุสว่ นประกอบของสารละลายได้ (K)
2. จำแนกตวั ทำละลายและตัวละลายได้ (K)
3. มคี วามสนใจใฝ่รหู้ รืออยากรู้อยากเห็น (A)
4. พอใจในประสบการณ์การเรียนรู้ที่เกีย่ วกับวทิ ยาศาสตร์ (A)
5. ทำงานร่วมกบั ผ้อู ื่นอย่างสร้างสรรค์ (A)
6. สอ่ื สารและนำความรเู้ รื่องสารละลายไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ (P)

4. สาระสำคญั
สารละลายประกอบดว้ ยตัวทำละลายและตัวละลาย

5. สาระการเรียนรู้
การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ
– การละลาย

6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
4. มีจิตวิทยาศาสตร์


แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

7. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

8. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน
สบื ค้นขอ้ มูลการจำแนกตัวทำละลายและตัวละลาย

9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น

1) ครใู หน้ ักเรียนทบทวนความรูเ้ ดมิ ท่ีไดเ้ รยี นร้มู าแลว้ โดยใชค้ ำถามต่อไปน้ี
– สารละลายคอื อะไร (แนวคำตอบ สารผสมท่รี วมเปน็ เน้อื เดียวกนั )
– สารชนดิ ใดละลายในน้ำได้ (แนวคำตอบ นำ้ ตาลทรายและเกลอื )

2) นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถามและแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั คำตอบ เพื่อเชอ่ื มโยงไปสู่การเรียนรู้เร่ือง
สารละลาย

ขน้ั จัดกิจกรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลับดา้ น

ชน้ั เรยี น (flipped classroom) ซึง่ มีข้ันตอนดังน้ี

1) ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement)
(1) ครถู ามคำถามนักเรยี นเพ่อื กระตนุ้ ความสนใจ เชน่
– นำ้ เกลือเป็นสารละลายหรือไม่ และมีสว่ นผสมอะไร (แนวคำตอบ น้ำเกลือเป็นสารละลาย โดย

มีสว่ นผสม คือ น้ำและเกลือ)
– ส่วนผสมของน้ำเกลือท่ีมสี ถานะเดยี วกับน้ำเกลอื คืออะไร (แนวคำตอบ นำ้ )
– ส่วนผสมของนำ้ เกลือทีม่ ีสถานะแตกต่างจากน้ำเกลอื คืออะไร (แนวคำตอบ เกลือ)

(2) นักเรียนรว่ มกันอภปิ รายหาคำตอบเกี่ยวกับคำถามตามความคิดเห็นของแตล่ ะคน

2) ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration)
(1) ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่อง สารละลาย จากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้

นักเรียนเข้าใจว่า สารละลายประกอบด้วยตัวทำละลายและตัวละลาย ซึ่งตัวทำละลายและตัวละลายอาจมี
สถานะเหมือนหรือแตกต่างกันได้ และอาจมปี ริมาณไม่เท่ากัน ดังนน้ั เราจึงใชส้ ถานะและปริมาณในการจำแนก
ตวั ทำละลายและตวั ละลายในสารละลายได้

(2) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรม สืบค้นข้อมูลการจำแนกตัวทำละลายและตัว
ละลาย ตามขนั้ ตอน ดงั นี้


แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

– แต่ละกล่มุ สบื ค้นข้อมลู เกี่ยวกับการจำแนกตวั ทำละลายและตัวละลายในสารละลาย
– จำแนกตัวทำละลายและตัวละลายของสารละลายที่กำหนดให้ ได้แก่ น้ำอัดลม น้ำส้มสายชู
ฟวิ ส์ และน้ำเกลอื พรอ้ มระบวุ ่าใช้อะไรเปน็ เกณฑ์ในการจำแนก บนั ทกึ ผล
(3) ครคู อยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเดนิ ดูรอบๆ ห้องเรยี นและเปิดโอกาส
ให้นักเรียนทกุ คนซักถามเมื่อมปี ัญหา

3) ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
(1) นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมหนา้ หอ้ งเรยี น
(2) ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายผลจากการปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม เชน่
– เกณฑ์ในการจำแนกตัวทำละลายและตัวละลายมีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ สถานะของสารและ

ปริมาณของสาร)
– ชนิดของตัวทำละลายและตัวละลายต้องมีจำนวนเท่ากันหรือไม่ ลักษณะใด (แนวคำตอบ ไม่

ต้องมีจำนวนเท่ากัน โดยตัวทำละลายมีเพียงชนิดเดียว คือ สารที่มีปริมาณมากที่สุดหรือมีสถานะเดียวกับ
สารละลาย ส่วนตัวละลายอาจมีเพียง 1 ชนิดหรือมากกว่าได้ แต่จะมีปริมาณน้อยกว่าตัวทำละลายห รือมี
สถานะเหมอื นหรอื แตกต่างจากสารละลาย)

– สารละลายที่กำหนดใช้เกณฑ์ในการจำแนกตัวทำละลายและตัวละลายเหมือนกันหรือไม่
ลกั ษณะใด (แนวคำตอบ ไม่เหมือนกัน นำ้ อัดลมและนำ้ เกลือใชส้ ถานะของสารเป็นเกณฑ์ ส่วนน้ำส้มสายชูและ
ฟวิ สใ์ ชป้ รมิ าณของสารเปน็ เกณฑ์)

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า สารละลาย
เป็นสารผสมของตัวทำละลายและตัวละลาย โดยการจำแนกตวั ทำละลายและตวั ละลายใช้ สถานะของสารและ
ปรมิ าณของสารเป็นเกณฑ์

4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารละลายในกิจกรรม สืบค้นข้อมูลการจำแนกตัวทำละลายและตัวละลาย

ให้นักเรียนเข้าใจว่า สารละลายบางชนิดอาจมีตัวละลายมากกว่า 1 ชนิด เช่น น้ำอัดลมและฟิวส์ แต่การ
พจิ ารณาวา่ สารใดเปน็ ตัวทำละลายหรือตวั ละลายก็ยังคงใช้สถานะของสารและปริมาณของสารเป็นเกณฑ์

5) ขั้นประเมิน (Evaluation)
(1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่

เข้าใจหรอื ยังมีขอ้ สงสยั ถา้ มี ครชู ว่ ยอธิบายเพม่ิ เติมใหน้ ักเรียนเข้าใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข

อย่างไรบา้ ง
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ

การนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

(4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยการให้ตอบคำถาม เชน่
– สารละลายประกอบด้วยอะไรบา้ ง (แนวคำตอบ ตวั ทำละลายและตัวละลาย)
– น้ำเกลอื มสี ารใดเปน็ ตวั ทำละลายและสารใดเปน็ ตัวละลาย เพราะอะไร (แนวคำตอบ นำ้ เกลือมี

น้ำเป็นตัวทำละลายและเกลือเป็นตัวละลาย เพราะน้ำมีสถานะเดียวกับน้ำเกลือ ส่วนเกลือมีสถานะแตกต่าง
จากนำ้ เกลือ)

ขนั้ สรปุ
ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ เกย่ี วกบั สารละลาย โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนท่คี วามคิดหรือผงั มโนทศั น์

10. ส่ือการเรยี นรู้
1. ใบกจิ กรรม สืบค้นขอ้ มลู การจำแนกตัวทำละลายและตัวละลาย
2. คมู่ อื การสอน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5
3. ส่ือการเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5
4. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5
5. หนังสอื เรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5

11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
จติ วทิ ยาศาสตร์ (A)
1. ซกั ถามความรเู้ รอ่ื ง สารละลาย
2. ตรวจช้นิ งานหรอื ภาระงานของ 1. ประเมนิ เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมินทักษะการคิดโดย

กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหวา่ งเรยี น เป็นรายบคุ คลโดยการสงั เกต การสังเกตการทำงานกล่มุ

และใช้แบบวดั เจตคติทาง 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ

วทิ ยาศาสตร์ ปฏิบัติกจิ กรรมเป็น

2. ประเมินเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ โดย

เป็นรายบุคคลโดยการสังเกต การสังเกตการทำงานกลมุ่

และใช้แบบวดั เจตคตติ อ่

วทิ ยาศาสตร์


แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

12. บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้

12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้

1. นักเรียนจำนวน..................คน

ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................

ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู.้ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................

นักเรียนน่ีไม่ผา่ น มีดงั นี้

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

แนวทางแก้ไขนักเรยี นท่ีไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

............................................................................................................................. .........................

............................................................................................................................... .......................

2. นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K)

......................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .........................

3. นักเรียนมีความรู้เกิดทกั ษะ (P)

............................................................................................................................. .........................

................................................................................................... ...................................................

4. นักเรยี นมีเจตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A)

............................................................................................................................. .........................

................................................................................................................................. .....................

12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12.3 ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ..................................................
(.................................................)
ตำแหน่ง.....................................


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรบั ปรุง
2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 นำไปใช้ได้จรงิ
 ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ..................................................
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................


แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 34

สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว15101

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง การจำแนกตวั ทำละลายและตวั ละลาย เวลา 1 ชวั่ โมง

วนั ท่ี............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครผู ู้สอน............................................................

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบตั ิของสสาร

กับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี

2. ตัวช้ีวัดช้ันปี
อธบิ ายการละลายของสารในนำ้ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (ว 2.1 ป. 5/2)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ระบุเกณฑใ์ นการจำแนกตัวทำละลายและตวั ละลายได้ (K)
2. มีความสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรูอ้ ยากเหน็ (A)
3. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรทู้ ่เี กยี่ วกบั วทิ ยาศาสตร์ (A)
4. ทำงานร่วมกับผ้อู ่นื อยา่ งสร้างสรรค์ (A)
5. สือ่ สารและนำความรูเ้ รื่องการจำแนกตัวทำละลายและตวั ละลายไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ (P)

4. สาระสำคญั
เกณฑ์ที่ใช้ในการจำแนกตัวทำละลายและตัวละลายมี 2 เกณฑ์ คือ สถานะของสารและปริมาณของ

สาร

5. สาระการเรียนรู้
การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ
– การละลาย

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุง่ มั่นในการทำงาน
4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

8. ช้ินงานหรอื ภาระงาน
สำรวจสารละลาย

9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรยี น

1) ครูให้นกั เรียนทบทวนความรเู้ ดมิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้มาแล้ว โดยใช้คำถามตอ่ ไปนี้
– น้ำอัดลมประกอบด้วยสารใด และมีสถานะใด (แนวคำตอบ น้ำมีสถานะเป็นของเหลว น้ำตาล

ทรายมีสถานะเป็นของแขง็ และแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์มสี ถานะเป็นแกส๊ )
– จำแนกตัวทำละลายและตัวละลายในน้ำอัดลม (แนวคำตอบ น้ำเป็นตัวทำละลาย ส่วนน้ำตาล

และแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดเ์ ปน็ ตัวละลาย)
2) นักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถามและแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับคำตอบ เพื่อเชอื่ มโยงไปสูก่ ารเรยี นรู้เรื่อง

การจำแนกตวั ทำละลายและตวั ละลาย

ขน้ั จัดกิจกรรมการเรียนรู้
จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลบั ดา้ น

ช้นั เรยี น (flipped classroom) ซึง่ มขี น้ั ตอนดังน้ี

1) ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement)
(1) ครใู ห้นักเรียนดูสผี สมอาหารสีใดสีหน่ึงทีเ่ ป็นแบบผงและแบบของเหลว จากนั้นครถู ามนักเรียนว่าสี

ผสมอาหาร 2 แบบน้มี สี ง่ิ ใดท่ีแตกต่างกัน (แนวคำตอบ สถานะของสีผสมอาหาร)
(2) ครูผสมสีผสมอาหารแต่ละแบบลงในน้ำแต่ละแก้วแล้วให้นักเรียนสังเกตการเปลี่ยนแปลง จากน้ัน

ถามคำถามนักเรียนว่า สารละลายที่ได้มสี ารใดเป็นตัวทำละลายและสารใดเป็นตวั ละลาย (แนวคำตอบ น้ำเปน็
ตวั ทำละลายและสีผสมอาหารทั้งแบบผงและแบบของเหลวเป็นตัวละลาย)

(3) นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายหาคำตอบเกี่ยวกับคำถามตามความคดิ เห็นของแตล่ ะคน

2) ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration)
(1) ครใู หน้ ักเรียนศกึ ษาเรอื่ ง เกณฑท์ ี่ใชใ้ นการจำแนกตวั ทำละลายและตัวละลาย จากใบความรู้หรือใน

หนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า เกณฑ์ที่ใช้ในการจำแนกตัวทำละลายและตัวละลายมี 2
เกณฑ์ คอื สถานะของสารและปรมิ าณของสาร


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

(2) ครูแบ่งนกั เรยี นกลมุ่ ละ 5 – 6 คน สำรวจสารละลายบรเิ วณโรงเรียน แล้วจำแนกตวั ทำละลายและ
ตัวละลายในสารละลายแต่ละชนิด พร้อมระบุเกณฑ์ที่ใช้ในการจำแนก จากนั้นนำผลการสำรวจมาอภิปราย
ร่วมกันในห้องเรยี น

(3) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ บริเวณที่สำรวจและเปิด
โอกาสให้นักเรียนทกุ คนซกั ถามเมอ่ื มีปัญหา

3) ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
(1) นกั เรียนแต่ละกลุม่ นำเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหน้าห้องเรยี น
(2) ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายผลจากการปฏิบัติกจิ กรรม โดยใช้แนวคำถาม เช่น
– สารละลายสว่ นมากมีสถานะใด (แนวคำตอบ ของเหลว)
– สารละลายสว่ นมากมีสารใดเปน็ ตัวทำละลาย (แนวคำตอบ นำ้ )
– เกณฑ์ที่นกั เรียนใช้ในการจำแนกตัวทำละลายและตวั ละลายของสารละลายท่ีสำรวจได้คืออะไร

(แนวคำตอบ ใชท้ ง้ั สถานะของสารและปริมาณของสารเปน็ เกณฑ)์
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า สารละลาย

รอบตัวมีหลายชนิด แต่เมื่อใช้สถานะของสารและปริมาณของสารเป็นเกณฑ์ก็สามารถจำแนกส่วนประกอบใน
สารละลายเปน็ ตัวทำละลายและตวั ละลายได้

4) ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
(1) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน เล่นเกมเกี่ยวกับสารละลาย โดยครูเตรียมบัตรภาพแสดง

ส่วนประกอบของสารละลาย แลว้ ใหน้ ักเรยี นระบุว่า สารใดเป็นตวั ทำละลายและสารใดเปน็ ตัวละลาย
กลุม่ ใดตอบถกู มากที่สุดเปน็ ฝา่ ยชนะ

(2) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับการจำแนกตัวทำละลายและตัวละลายจาก
หนังสอื เรียนภาษาตา่ งประเทศหรืออินเทอรเ์ น็ต และนำเสนอใหเ้ พื่อนฟัง คัดคำศัพท์พร้อมท้ังคำแปลลงสมุดส่ง
ครู

5) ข้นั ประเมิน (Evaluation)
(1) ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหวั ขอ้ ทเ่ี รียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่

เขา้ ใจหรือยงั มขี อ้ สงสยั ถ้ามี ครชู ว่ ยอธบิ ายเพ่ิมเติมใหน้ ักเรียนเข้าใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข

อยา่ งไรบา้ ง
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ

การนำความรู้ทไี่ ด้ไปใชป้ ระโยชน์
(4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยการให้ตอบคำถาม เชน่


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

– เมื่อนำของแข็งสีแดง A ผสมกับของเหลวใส B ได้สารละลาย C ที่เป็นของเหลวสีแดง นักเรียน
จะระบุวา่ สารใดเป็นตวั ทำละลายและสารใดเป็นตัวละลาย เพราะอะไร (แนวคำตอบ ของเหลวใส B เป็นตัวทำ
ละลาย เพราะมีสถานะเดียวกับสารละลาย และของแข็งสีแดง A เป็นตัวละลาย เพราะมีสถานะแตกต่างจาก
สารละลาย)

ข้นั สรปุ
ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ เก่ียวกับการจำแนกตวั ทำละลายและตวั ละลาย โดยร่วมกนั เขยี นเป็นแผนท่ี

ความคิดหรอื ผงั มโนทศั น์

10. ส่ือการเรียนรู้
1. สีผสมอาหารแบบผงและแบบของเหลว
2. ช้อนตกั สาร
3. นำ้
4. แก้วน้ำ
5. แทง่ แก้วคนสาร
6. บตั รภาพแสดงสว่ นประกอบของสารละลาย
7. หนงั สอื เรยี นภาษาต่างประเทศหรอื อนิ เทอรเ์ นต็
8. คูม่ ือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5
9. ส่อื การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5
10. แบบฝึกทกั ษะรายวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5
11. หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5

11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
จิตวทิ ยาศาสตร์ (A)

1. ซักถามความรู้เรื่อง การจำแนกตัว 1. ประเมนิ เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมินทักษะการคิดโดย

ทำละลายและตวั ละลาย เปน็ รายบุคคลโดยการสังเกต การสังเกตการทำงานกลุ่ม

2. ตรวจช้นิ งานหรอื ภาระงานของ และใช้แบบวัดเจตคติทาง 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ

กิจกรรมฝกึ ทักษะระหวา่ งเรยี น วทิ ยาศาสตร์ ปฏิบตั กิ จิ กรรมเป็น

2. ประเมนิ เจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์ รายบคุ คลหรือรายกล่มุ โดย

เปน็ รายบคุ คลโดยการสงั เกต การสงั เกตการทำงานกลุ่ม

และใช้แบบวัดเจตคตติ ่อ

วิทยาศาสตร์


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

12. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

12.1 สรปุ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. นักเรยี นจำนวน..................คน

ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู.้ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ..................

ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................

นักเรยี นนไี่ มผ่ ่าน มีดังน้ี

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้

........................................................................................... ...........................................................

............................................................................................................................. .........................

2. นกั เรียนมีความร้คู วามเข้าใจ (K)

........................................................................................................................................ ..............

..................................................................................................................... .................................

3. นกั เรยี นมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P)

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

4. นักเรียนมเี จตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A)

............................................................................................. .........................................................

............................................................................................................................. .........................

12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12.3 ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ..................................................
(.................................................)
ตำแหน่ง.....................................


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 นำไปใชไ้ ด้จรงิ
 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ..................................................
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 35

สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว15101

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่ือง การเปลย่ี นแปลงที่ผันกลับได้ของสารละลาย เวลา 1 ชว่ั โมง

วนั ท่ี............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครผู สู้ อน............................................................

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบตั ิของสสาร

กับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ
เกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี

2. ตวั ชี้วดั ชัน้ ปี
1. อธบิ ายการละลายของสารในน้ำ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ (ว 2.1 ป. 5/2)
2. วเิ คราะหแ์ ละระบกุ ารเปลี่ยนแปลงท่ีผันกลบั ได้และการเปลย่ี นแปลงท่ผี ันกลับไม่ได้ (ว 2.1 ป. 5/3)

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการละลายของสารในน้ำได้ (K)
2. สังเกตการเปลี่ยนแปลงทีผ่ นั กลับได้ของสารละลายได้ (K)
3. มีความสนใจใฝร่ หู้ รอื อยากรู้อยากเหน็ (A)
4. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรู้ท่เี ก่ียวกับวิทยาศาสตร์ (A)
5. ทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ อยา่ งสร้างสรรค์ (A)
6. สื่อสารและนำความรู้เรื่องการเปล่ียนแปลงที่ผันกลบั ได้ของสารละลายไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ (P)

4. สาระสำคญั
การละลายเปน็ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ ดังนนั้ การละลายจงึ เปน็ การเปล่ยี นแปลงท่ผี นั กลับได้

5. สาระการเรียนรู้
การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ
– การละลาย

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

4. มจี ิตวิทยาศาสตร์

7. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนินชีวติ

8. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน
สังเกตการเปล่ียนแปลงทผี่ ันกลบั ไดข้ องสารละลาย

9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น

1) ครใู หน้ ักเรยี นทบทวนความร้เู ดมิ ที่ไดเ้ รียนรู้มาแลว้ โดยใช้คำถามต่อไปน้ี
– การเปลยี่ นแปลงทผ่ี ันกลบั ได้คืออะไร (แนวคำตอบ การเปลยี่ นแปลงท่ีไม่เกิดสารใหม่ และสาร

สามารถเปลย่ี นกลบั ไปเหมือนกอ่ นเกดิ การเปลยี่ นแปลงได)้
– ยกตัวอยา่ งการเปลี่ยนแปลงทผี่ นั กลับได้ (แนวคำตอบ การหลอมเหลวและการแขง็ ตัว)

2) นักเรียนร่วมกนั ตอบคำถามและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั คำตอบ เพอื่ เชอ่ื มโยงไปสกู่ ารเรียนรู้เร่ือง
การเปลีย่ นแปลงที่ผันกลบั ได้ของสารละลาย

ขนั้ จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลบั ดา้ น

ชัน้ เรียน (flipped classroom) ซึ่งมีขัน้ ตอนดังน้ี

1) ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement)
(1) ครถู ามคำถามนักเรยี นเพอ่ื กระตุน้ ความสนใจ เช่น
– ถ้านำเกลือใสล่ งในน้ำแล้วคนใหเ้ ขา้ กันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใด (แนวคำตอบ เกลือละลายใน

น้ำ)
– น้ำเกลอื สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นน้ำและเกลอื เหมือนเดิมได้หรือไม่ (แนวคำตอบ ได้)

(2) นกั เรียนร่วมกันอภิปรายหาคำตอบเก่ยี วกับคำถามตามความคดิ เหน็ ของแตล่ ะคน

2) ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration)
(1) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรม สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้ของ

สารละลาย ตามขน้ั ตอน ดงั นี้


แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

– สังเกตลักษณะของเกลือ จากนั้นตักเกลือ 1 ช้อนลงในน้ำจำนวน 10 ลูกบาศก์เซนติเมตร ใช้
แทง่ แกว้ คนสารคนให้เกลอื ละลาย สงั เกตการเปลี่ยนแปลง

– พยากรณ์วา่ เมือ่ น้ำเกลือไดร้ บั ความร้อนจะเกดิ การเปลี่ยนแปลงลักษณะใด
– ใชห้ ลอดหยดดดู นำ้ เกลือแล้วหยดลงในจานหลุมโลหะ จากน้นั นำไปตม้ ด้วยตะเกียงแอลกอฮอล์
จนแห้ง สังเกตการเปลย่ี นแปลงทีเ่ กิดขนึ้ พร้อมท้งั บันทึกผล
(2) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ ห้องเรยี นและเปิดโอกาส
ให้นกั เรียนทกุ คนซักถามเมอ่ื มีปญั หา

3) ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
(1) นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหนา้ หอ้ งเรียน
(2) ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏิบัติกจิ กรรม โดยใชแ้ นวคำถาม เชน่
– น้ำเกลือจัดเป็นสารละลายหรือไม่ สังเกตจากอะไร (แนวคำตอบ น้ำเกลือจัดเป็นสารละลาย

โดยสังเกตจากเมื่อน้ำเกลือได้รับความร้อน น้ำระเหยไปหมด เหลือแต่เกลือในจานหลุมโลหะ และไม่มีสารใหม่
เกิดขึ้นจากการที่น้ำเกลือได้รับความร้อน แสดงว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ โดยเกลือละลายเป็นเน้ือ
เดยี วกบั นำ้ )

– เมื่อให้ความร้อนกับน้ำเกลือแล้วมีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้น (แนวคำตอบ น้ำระเหยไปหมด
เหลอื แต่เกลือในจานหลมุ โลหะ)

– การละลายเป็นการเปลีย่ นแปลงที่ผันกลับได้หรือไม่ สังเกตจากอะไร (แนวคำตอบ การละลาย
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้ โดยสังเกตจากเมื่อน้ำเกลือที่เป็นสารละลายของเกลือในน้ำได้รับความร้อน
น้ำที่เป็นตัวทำละลายระเหยเป็นไอน้ำไปหมด เหลือแต่เกลือในจานหลุมโลหะ ซึ่งไอน้ำและเกลือยังคงเป็น
สารเดมิ ไมม่ สี ารใหม่เกิดขึน้ )

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า การละลาย
เปน็ การเปลย่ี นแปลงท่ผี นั กลับได้

4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อตัวละลายที่เป็นของแข็งละลายในตัวทำละลายที่เป็น

ของเหลว ตัวละลายไม่ได้หายไปหรือเปลี่ยนไปเป็นสารใหม่ แต่ตัวละลายมีขนาดเล็กลงจนมองไม่เห็นด้วยตา
เปล่าและผสมเปน็ เนือ้ เดยี วกับตัวทำละลาย

5) ข้นั ประเมิน (Evaluation)
(1) ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนพจิ ารณาว่า จากหัวขอ้ ทีเ่ รยี นมาและการปฏิบัติกจิ กรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่

เข้าใจหรอื ยงั มีข้อสงสัย ถ้ามี ครชู ่วยอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ให้นกั เรียนเขา้ ใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข

อยา่ งไรบา้ ง


แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ
การนำความรทู้ ่ไี ดไ้ ปใช้ประโยชน์

(4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยการใหต้ อบคำถาม เช่น
– การละลายจัดเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้ เพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะการละลาย

ไม่เกดิ สารใหม่ และสารละลายสามารถเปลี่ยนกลับไปเปน็ เหมอื นก่อนเกิดการละลายได้)
– เรามองไม่เหน็ เกลือที่อยู่ในน้ำเกลือเพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะเกลือมีขนาดเล็กลงมากจน

มองไมเ่ หน็ ดว้ ยตาเปลา่ )

ขน้ั สรุป
ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปเก่ียวกบั การเปลี่ยนแปลงท่ีผนั กลับได้ของสารละลาย โดยร่วมกันเขียนเป็น

แผนท่คี วามคดิ หรอื ผังมโนทศั น์

10. ส่ือการเรียนรู้
1. ใบกิจกรรม สงั เกตการเปล่ียนแปลงท่ผี ันกลับได้ของสารละลาย
2. คูม่ ือการสอน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5
3. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
4. หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5

11. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
จติ วิทยาศาสตร์ (A)
1. ซกั ถามความรู้เรอ่ื ง การ
เปลีย่ นแปลงที่ผันกลบั ได้ของ 1. ประเมนิ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 1. ประเมนิ ทักษะกระบวนการ
สารละลาย
เป็นรายบุคคลโดยการสังเกต ทางวทิ ยาศาสตร์โดยใช้แบบ
2. ตรวจช้นิ งานหรือภาระงานของ
กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรยี น และใชแ้ บบวดั เจตคติทาง วัดทกั ษะกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์

2. ประเมนิ เจตคติตอ่ วิทยาศาสตร์ 2. ประเมินทักษะการคิดโดย

เป็นรายบุคคลโดยการสงั เกต การสงั เกตการทำงานกลุ่ม

และใชแ้ บบวัดเจตคตติ อ่ 3. ประเมนิ ทกั ษะการ

วิทยาศาสตร์ แกป้ ญั หาโดยการสังเกตการ

ทำงานกลมุ่

4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ

ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเป็น

รายบคุ คลหรอื รายกลุม่ โดย

การสงั เกตการทำงานกล่มุ


แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

12. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

12.1 สรุปผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1. นกั เรียนจำนวน..................คน

ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................

ไมผ่ ่านจุดประสงคก์ ารเรียนร.ู้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................

นักเรยี นนี่ไม่ผ่าน มีดังน้ี

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้

...................................................................................................................... ................................

............................................................................................................................. .........................

2. นกั เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ (K)

......................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .........................

3. นกั เรียนมีความรูเ้ กดิ ทกั ษะ (P)

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A)

........................................................................................................................ ..............................

............................................................................................................................. .........................

12.2 ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12.3 ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอ่ื ..................................................
(.................................................)
ตำแหน่ง.....................................


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรบั ปรุง
2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 นำไปใช้ได้จรงิ
 ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ..................................................
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................


แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 36

สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว15101

ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่อื ง สารละลายอิม่ ตวั เวลา 1 ชว่ั โมง

วันที่............เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู ู้สอน............................................................

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสาร

กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี

2. ตัวชี้วดั ชั้นปี
อธิบายการละลายของสารในน้ำ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ (ว 2.1 ป. 5/2)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ระบลุ กั ษณะของสารละลายอม่ิ ตัวได้ (K)
2. สังเกตการเกิดสารละลายอ่ิมตัวได้ (K)
3. มีความสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรอู้ ยากเหน็ (A)
4. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรู้ท่ีเก่ียวกับวทิ ยาศาสตร์ (A)
5. ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ อยา่ งสร้างสรรค์ (A)
6. ส่ือสารและนำความรู้เร่ืองสารละลายอมิ่ ตวั ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ (P)

4. สาระสำคัญ
สารละลายอ่ิมตัว คอื สารละลายทม่ี ตี วั ละลายอยใู่ นปริมาณทีม่ ากพอแลว้ และตวั ทำละลายไม่สามารถ

ละลายตัวละลายไดอ้ ีก

5. สาระการเรยี นรู้
การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ
– การละลาย

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน


แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

4. มีจิตวทิ ยาศาสตร์

7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนินชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

8. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
1. สงั เกตสารละลายอ่ิมตัว
2. ออกแบบไอศกรีมผลไม้

9. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1) ครูถามคำถามเกย่ี วกับประสบการณเ์ ดิมของนกั เรยี น เช่น
– นกั เรยี นเคยชงเครือ่ งดม่ื หรือไม่ (แนวคำตอบ เคย)
– ถ้าเราใสน่ ้ำตาลทรายลงในเคร่อื งดมื่ จะมีรสอย่างไร (แนวคำตอบ หวาน)
– ปริมาณน้ำตาลทรายที่ใส่ลงในเครื่องดื่มมีผลต่อรสอย่างไร (แนวคำตอบ ถ้าเติมน้ำตาลทราย

มากข้นึ เครื่องด่ืมจะหวานมากข้ึน)
– ถ้าเราเติมน้ำตาลทรายลงในเครื่องดื่มมาก ๆ จะเกิดอะไรขึ้น (แนวคำตอบ เครื่องดื่มจะหวาน

มากและมีน้ำตาลทรายบางสว่ นไมล่ ะลาย)
2) นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคำถามและแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั คำตอบ เพ่อื เชือ่ มโยงไปสูก่ ารเรียนรู้เร่ือง

สารละลายอิม่ ตวั

ขั้นจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลบั ดา้ น

ช้ันเรยี น (flipped classroom) ซง่ึ มีข้นั ตอนดงั นี้

1) ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement)
(1) ครเู ขยี นคำว่า สารละลายอม่ิ ตัว ลงบนกระดานดำ แล้วใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภิปราย ดงั น้ี
– สารละลายอิ่มตัวคืออะไร (แนวคำตอบ สารละลายที่มีตัวละลายอยู่ในปริมาณที่มากพอแล้ว

และตวั ทำละลายไมส่ ามารถละลายตวั ละลายได้อกี )
– สารละลายอิ่มตัวสังเกตได้จากอะไร (แนวคำตอบ สังเกตได้จากเมื่อใส่ตัวละลายลงในตัวทำ

ละลายแลว้ ตัวทำละลายไมส่ ามารถละลายตวั ละลายไดอ้ กี )


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

(2) นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายหาคำตอบเกี่ยวกบั คำถามตามความคิดเห็นของแต่ละคน

2) ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
(1) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ สารละลายอิ่มตัว ตามขั้นตอน

ดงั นี้
– ใสน่ ำ้ กลั่น 3 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร ลงในหลอดทดลองขนาดเลก็
– ตักน้ำตาลทรายครั้งละ 1 ช้อน ลงในหลอดทดลองขนาดเลก็ เขย่าให้นำ้ ตาลทรายละลายในนำ้

จนหมด สงั เกตลักษณะของสารละลายในแตล่ ะครง้ั ทท่ี ำการละลายนำ้ ตาลทราย
– ตกั น้ำตาลทรายลงในหลอดทดลองขนาดเล็กจนกวา่ นำ้ ตาลทรายไมล่ ะลายในนำ้

(2) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนกั เรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบ ๆ หอ้ งเรียนและเปิดโอกาส
ให้นกั เรยี นทุกคนซักถามเม่ือมปี ัญหา

3) ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation)
(1) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมหนา้ หอ้ งเรียน
(2) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายผลจากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม โดยใช้แนวคำถาม เช่น
– เมื่อตักน้ำตาลทรายลงในหลอดทดลองขนาดเล็กเกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะใด (แนวคำตอบ

น้ำตาลทรายละลายเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ จนกระทั่งตักน้ำตาลทรายครั้งที่ 4 ลงในหลอดทดลองขนาดเล็ก เริ่มมี
นำ้ ตาลทรายบางสว่ นไมล่ ะลายในน้ำ)

– จากกิจกรรม สารละลายอิ่มตัวเกิดขึ้นเมื่อใด (แนวคำตอบ สารละลายอิ่มตัวเกิดขึ้นเมื่อตัก
นำ้ ตาลทรายครง้ั ที่ 4 ลงในหลอดทดลองขนาดเลก็ )

– จากกิจกรรมสรุปได้ว่าอะไร (แนวคำตอบ สารละลายที่เกิดจากการเติมตัวละลายลงในตัวทำ
ละลาย จนกระทัง่ ตัวละลายไม่ละลายในตัวทำละลาย หรือจนกระทั่งสารละลายมตี ัวละลายมากที่สุดที่สามารถ
ละลายได้ เรียกวา่ สารละลายอม่ิ ตวั )

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อตัวท ำ
ละลายไม่สามารถละลายตวั ละลายไดอ้ ีก แสดงวา่ สารละลายนนั้ คือ สารละลายอิ่มตัว

4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
(1) ครูแบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ออกแบบและทดลองทำไอศกรมี แบบแทง่ ขนาดความ

สูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร (รวมไม้ไอศกรีม) โดยใช้น้ำผลไม้หรือนมรสที่ชอบและสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิด
ข้นึ กับน้ำผลไมแ้ ละนม จากน้ันนำเสนอผลงานหน้าห้องเรียน

(2) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับสารละลายอิ่มตัว จากหนังสือเรียน
ภาษาตา่ งประเทศหรอื อินเทอรเ์ นต็ และนำเสนอใหเ้ พื่อนฟัง คดั คำศพั ท์พร้อมทงั้ คำแปลลงสมุดสง่ ครู


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

5) ขนั้ ประเมิน (Evaluation)
(1) ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนพจิ ารณาว่า จากหวั ขอ้ ท่เี รยี นมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่

เขา้ ใจหรือยังมขี อ้ สงสยั ถ้ามี ครูชว่ ยอธบิ ายเพม่ิ เติมใหน้ กั เรยี นเข้าใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข

อยา่ งไรบา้ ง
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ

การนำความรูท้ ่ีไดไ้ ปใช้ประโยชน์
(4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยการให้ตอบคำถาม เชน่
– สารละลายเกิดการอิ่มตัวเพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะตัวทำละลายไม่สามารถละลายตัว

ละลายไดอ้ กี )
– การเกิดสารละลายอิ่มตัวของน้ำเกลือสังเกตได้จากอะไร (แนวคำตอบ มีเกลือที่ไม่ละลาย

เหลอื อยูใ่ นน้ำเกลอื )

ขน้ั สรุป
1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับสารละลายอิ่มตัว โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนที่ความคิดหรือผัง

มโนทศั น์
2) ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศึกษาค้นคว้าเน้ือหาของบทเรียนช่ัวโมงหนา้ เพ่ือจดั การเรียนรู้ครั้งต่อไป

โดยใหน้ กั เรียนศึกษาคน้ คว้าลว่ งหน้าในหวั ขอ้ การเปลยี่ นแปลงทางเคมี
3) ครใู หน้ ักเรียนเตรียมประเด็นคำถามท่ีสงสัยมาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพอ่ื นำมาอภิปรายร่วมกัน

ในหอ้ งเรียนครั้งต่อไป

10. สื่อการเรียนรู้
1. ใบกจิ กรรมเสริมการเรียนรู้ สารละลายอมิ่ ตวั
2. ไมไ้ อศกรีมและแม่พิมพ์
3. นำ้ ผลไม้
4. นม
5. แกว้
6. ช้อน
7. หนงั สือเรียนภาษาตา่ งประเทศหรืออนิ เทอร์เนต็
8. คู่มอื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5
9. ส่อื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
10. แบบฝกึ ทกั ษะรายวชิ าพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5
11. หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
จติ วทิ ยาศาสตร์ (A)
1. ซกั ถามความร้เู ร่อื ง สารละลาย
อม่ิ ตวั 1. ประเมนิ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 1. ประเมินทกั ษะกระบวนการ

2. ตรวจช้ินงานหรือภาระงานของ เป็นรายบคุ คลโดยการสงั เกต ทางวิทยาศาสตรโ์ ดยใชแ้ บบ
กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะระหวา่ งเรยี น
และใชแ้ บบวัดเจตคติทาง วัดทักษะกระบวนการทาง

วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์

2. ประเมนิ เจตคติต่อวทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมินทกั ษะการคิดโดย

เป็นรายบคุ คลโดยการสังเกต การสังเกตการทำงานกลมุ่

และใชแ้ บบวัดเจตคตติ อ่ 3. ประเมินทักษะการ

วทิ ยาศาสตร์ แกป้ ัญหาโดยการสงั เกตการ

ทำงานกลุ่ม

4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ

ปฏิบตั ิกิจกรรมเป็น

รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ โดย

การสงั เกตการทำงานกลุ่ม


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

12. บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้

12.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

1. นกั เรียนจำนวน..................คน

ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร้.ู .....................คน คิดเป็นร้อยละ..................

ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู.้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ..................

นกั เรียนนีไ่ ม่ผ่าน มีดังนี้

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

2. นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K)

............................................................................................................................. .........................

............................................................................................................................. .........................

3. นักเรยี นมีความรู้เกดิ ทกั ษะ (P)

......................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .........................

4. นกั เรียนมีเจตคติ ค่านยิ ม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A)

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

12.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12.3 ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ..................................................
(.................................................)
ตำแหนง่ .....................................


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 นำไปใชไ้ ด้จรงิ
 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ..................................................
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 37

สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว15101

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เร่อื ง การเปลี่ยนแปลงทางเคมี เวลา 1 ชวั่ โมง

วันที่............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผู้สอน......................... ...................................

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสาร

กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี

2. ตวั ช้ีวัดชั้นปี
1. วิเคราะหก์ ารเปลี่ยนแปลงของสารเม่ือเกดิ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ (ว

2.1 ป. 5/3)
2. วเิ คราะหแ์ ละระบุการเปลี่ยนแปลงท่ผี ันกลบั ไดแ้ ละการเปล่ียนแปลงทีผ่ ันกลับไม่ได้ (ว 2.1 ป. 5/4)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางเคมีได้ (K)
2. ระบุการเปล่ียนแปลงทางเคมเี ปน็ การเปลีย่ นแปลงทีผ่ ันกลับไม่ได้ (K)
3. มคี วามสนใจใฝร่ หู้ รืออยากรอู้ ยากเหน็ (A)
4. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นร้ทู ่เี ก่ยี วกบั วิทยาศาสตร์ (A)
5. ทำงานร่วมกบั ผู้อ่นื อย่างสร้างสรรค์ (A)
6. สือ่ สารและนำความรูเ้ ร่ืองการเปล่ยี นแปลงทางเคมีไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ (P)

4. สาระสำคัญ
เมอ่ื ผสมสาร 2 ชนิดข้นึ ไปแล้วมีสารใหม่เกิดข้ึน ซ่ึงมสี มบตั ติ า่ งจากสารเดิม หรือเม่ือสารชนิดเดียวเกิด

การเปลย่ี นแปลงแล้วมีสารใหม่เกิดขนึ้ การเปลี่ยนแปลงนเ้ี รยี กว่า การเปล่ียนแปลงทางเคมี ซง่ึ การเปลีย่ นแปลง
ทางเคมีบางปฏกิ ริ ยิ าเป็นการเปลีย่ นแปลงทผ่ี ันกลับไม่ได้

5. สาระการเรยี นรู้
การเปลย่ี นแปลงทางเคมี


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
4. มจี ิตวิทยาศาสตร์

7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนนิ ชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

8. ชิ้นงานหรือภาระงาน
สังเกตการเปลีย่ นแปลงทางเคมี

9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1) ครถู ามคำถามเก่ยี วกับประสบการณ์เดิมของนักเรยี น เช่น
– นักเรียนเคยจดุ ธูปหรือไม่ เมื่อจดุ ธูปแล้วเกิดการเปลย่ี นแปลงอยา่ งไร (แนวคำตอบ เคย เม่ือจุด

ธูปแล้วธปู คอ่ ยๆ ไหม้ พรอ้ มกับมีควนั และกลิ่น)
– ธปู มีการเปล่ยี นแปลงทางเคมีหรอื ไม่ (แนวคำตอบ ม)ี

2) นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั คำตอบ เพ่ือเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้การ
เปลี่ยนแปลงทางเคมี

ขนั้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลบั ดา้ น

ช้ันเรียน (flipped classroom) ซง่ึ มขี ้ันตอนดังน้ี

1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement)
(1) ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนแล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนในกลุม่ นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทาง

เคมี ทีค่ รูมอบหมายให้ไปเรยี นรลู้ ว่ งหน้าให้เพ่ือนๆ ในกลมุ่ ฟงั จากนั้นใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมานำเสนอข้อมูล
หนา้ หอ้ งเรยี น

(2) ครูตรวจสอบว่านักเรียนทำภาระงานที่ได้รับมอบหมายไปหรือไม่ โดยตรวจสอบจากการจดบันทึก
ของนักเรยี น และถามคำถามเกย่ี วกบั ภาระงาน ดังน้ี


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

– การเปลี่ยนแปลงทางเคมีแตกต่างกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่างไร (แนวคำตอบ การ
เปล่ยี นแปลงทางเคมมี สี ารใหมเ่ กดิ ขึน้ ส่วนการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพไมม่ สี ารใหม่เกดิ ข้นึ )

– การเปลี่ยนแปลงทางเคมีเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้หรือไม่ (แนวคำตอบ การ
เปล่ยี นแปลงทางเคมเี ป็นการเปลี่ยนแปลงท่ีผนั กลบั ไม่ได้)

(3) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตัง้ ประเดน็ คำถามที่นกั เรียนสงสัยจากการทำภาระงานอยา่ งน้อยคนละ 1
คำถาม ซงึ่ ครูใหน้ ักเรียนเตรยี มมาลว่ งหนา้ และใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตอบและแสดงความคดิ เห็น

(4) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับภาระงาน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การ
เปลี่ยนแปลงทางเคมีบางปฏิกิริยาเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดสารใหม่ สารใหม่ที่ได้มีสมบัติเปลี่ยนไปโดยไม่
สามารถกลับมามสี มบัติเหมอื นเดมิ ไดอ้ ีก หรือเรียกการเปลี่ยนแปลงทางเคมีวา่ การเปลยี่ นแปลงท่ผี นั กลับไม่ได้

2) ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
(1) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรม สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ตามขั้นตอน

ดังนี้
– ตักเกลือและน้ำตาลทรายจำนวนเล็กนอ้ ยลงในจานหลุมโลหะชนิดละ 2 หลมุ
– พยากรณว์ า่ ถ้าเผาเกลอื และน้ำตาลทรายจะเกิดการเปลย่ี นแปลงลักษณะใด
– นำจานหลุมโลหะไปเผาด้วยตะเกียงแอลกอฮอล์ประมาณ 5 นาที สังเกตการเปลี่ยนแปลงท่ี

เกิดขึน้ พรอ้ มทงั้ บันทึกผล
(2) ครูคอยแนะนำชว่ ยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบตั กิ จิ กรรม โดยครเู ดนิ ดูรอบ ๆ หอ้ งเรียนและเปิดโอกาส

ให้นกั เรยี นทุกคนซักถามเม่ือมปี ัญหา

3) ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)
(1) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหน้าห้องเรยี น
(2) ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม เช่น
– เม่ือเผาน้ำตาลทรายเกดิ การเปลย่ี นแปลงลักษณะใด (แนวคำตอบ นำ้ ตาลทรายหลอมเหลวเป็น

สนี ำ้ ตาลเข้ม และคอ่ ยๆ กลายเปน็ ของแข็งสีดำพร้อมกบั มีกลิ่นไหม้)
– เม่อื เผาเกลือเกดิ การเปลยี่ นแปลงลักษณะใด (แนวคำตอบ เกลอื ไม่เกดิ การเปล่ยี นแปลง)
– สารใดเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี สังเกตจากอะไร (แนวคำตอบ น้ำตาลทรายเกิดการ

เปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยสังเกตจากเม่ือนำ้ ตาลทรายไดร้ บั ความร้อน นำ้ ตาลทรายหลอมเหลวเปน็ สีน้ำตาลเข้ม
และค่อยๆ กลายเป็นของแข็งสดี ำพร้อมกับมกี ล่ินไหม้ แสดงวา่ มีสารใหมเ่ กดิ ขน้ึ )

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า การ
เปล่ยี นแปลงทางเคมีจะเกิดสารใหม่ทีไ่ ม่สามารถกลับไปเป็นสารเดิมก่อนเกิดการเปล่ยี นแปลงได้


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
(1) ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่า การเปลยี่ นแปลงทางเคมที ีเ่ ปน็ การเปล่ียนแปลงท่ผี ันกลับไม่ได้

ในชีวติ ประจำวนั มีหลายชนิด เช่น การเกดิ สนมิ และการสุกของอาหาร
(2) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเคมี จากหนังสือเรียน

ภาษาตา่ งประเทศหรืออนิ เทอร์เนต็ และนำเสนอให้เพ่ือนในห้องฟัง คดั คำศพั ท์พร้อมทง้ั คำแปลลงสมุดส่งครู

5) ขัน้ ประเมิน (Evaluation)
(1) ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนพจิ ารณาว่า จากหัวข้อที่เรยี นมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่

เขา้ ใจหรือยังมขี ้อสงสยั ถา้ มี ครชู ่วยอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ให้นักเรียนเขา้ ใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข

อยา่ งไรบ้าง
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ

การนำความรู้ทไ่ี ดไ้ ปใช้ประโยชน์
(4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยการใหต้ อบคำถาม เช่น
– การเกิดสนิมเป็นการเปลย่ี นแปลงท่ีผันกลับไม่ได้เพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะสนิมท่ีเกิดข้ึน

เป็นสารใหม่ จงึ เปล่ียนกลับไปเปน็ สารเดิมไม่ได)้
– ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงทางเคมีมา 2 กรณี (แนวคำตอบ การเกิดสนิมและการสุกของ

อาหาร)

ข้นั สรปุ
ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ เก่ียวกับการเปล่ยี นแปลงทางเคมี โดยร่วมกันเขยี นเป็นแผนท่ีความคิดหรือ

ผังมโนทัศน์

10. สื่อการเรียนรู้
1. ใบกิจกรรม สงั เกตการเปล่ียนแปลงทางเคมี
2. หนงั สอื เรียนภาษาต่างประเทศหรืออินเทอรเ์ น็ต
3. ค่มู อื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5
4. สอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5
5. แบบฝึกทักษะรายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5
6. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
จติ วิทยาศาสตร์ (A)
1. ซักถามความรู้เร่ือง การ
เปลยี่ นแปลงทางเคมี 1. ประเมินเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมินทักษะกระบวนการ

2. ตรวจชนิ้ งานหรือภาระงานของ เปน็ รายบคุ คลโดยการสงั เกต ทางวทิ ยาศาสตร์โดยใชแ้ บบ
กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหวา่ งเรยี น
และใชแ้ บบวดั เจตคติทาง วัดทกั ษะกระบวนการทาง

วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์

2. ประเมินเจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมินทักษะการคิดโดย

เป็นรายบุคคลโดยการสงั เกต การสงั เกตการทำงานกลมุ่

และใช้แบบวัดเจตคตติ ่อ 3. ประเมินทักษะการ

วิทยาศาสตร์ แกป้ ญั หาโดยการสงั เกตการ

ทำงานกลุ่ม

4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ

ปฏิบตั กิ ิจกรรมเป็น

รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ โดย

การสงั เกตการทำงานกลุ่ม


แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

12. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

12.1 สรุปผลหลังการจดั การเรียนรู้

1. นกั เรียนจำนวน..................คน

ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................

ไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................

นักเรยี นนีไ่ มผ่ า่ น มีดงั นี้

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

............................................................................................................................. .........................

.......................................................................................................... ............................................

2. นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K)

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

3. นกั เรยี นมีความรูเ้ กดิ ทกั ษะ (P)

................................................................................................. .....................................................

............................................................................................................................. .........................

4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A)

............................................................................................................................. .........................

.......................................................................................................... ............................................

12.2 ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12.3 ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ..................................................
(.................................................)
ตำแหนง่ .....................................


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 นำไปใชไ้ ด้จรงิ
 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ..................................................
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 38

สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว15101

ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง ลกั ษณะของการเปล่ยี นแปลงทางเคมี (1) เวลา 1 ชวั่ โมง

วันท่ี............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผูส้ อน............................................................

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสาร

กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การ
เกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี

2. ตัวช้ีวดั ช้ันปี
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสารเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์

(ว 2.1 ป. 5/3)

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. สังเกตการเปลย่ี นแปลงทางเคมีได้ (K)
2. สงั เกตลกั ษณะที่แสดงถงึ การเปล่ียนแปลงทางเคมไี ด้ (K)
3. มีความสนใจใฝร่ ้หู รอื อยากร้อู ยากเหน็ (A)
4. พอใจในประสบการณ์การเรยี นรู้ที่เกยี่ วกับวทิ ยาศาสตร์ (A)
5. ทำงานร่วมกับผอู้ ่นื อย่างสร้างสรรค์ (A)
6. สอื่ สารและนำความรู้เรื่องลักษณะของการเปล่ยี นแปลงทางเคมีไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ (P)

4. สาระสำคญั
การเปลยี่ นแปลงทางเคมีสามารถสังเกตได้จากลกั ษณะบางประการที่แตกต่างไปจากเดิม

5. สาระการเรยี นรู้
การเปลีย่ นแปลงทางเคมี

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนนิ ชวี ิต

8. ช้ินงานหรือภาระงาน
สงั เกตลกั ษณะของการเปล่ยี นแปลงทางเคมี

9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน

1) ครูถามนกั เรยี นถงึ สงิ่ ตา่ งๆ ทพ่ี บในชวี ิตประจำวัน เช่น
– การเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่นักเรียนพบมีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ รว้ั บ้านข้ึนสนิมและไม้ขีดไฟติด

ไฟ)
– การเปลีย่ นแปลงเหลา่ นน้ั เป็นการเปลย่ี นแปลงทผี่ ันกลับได้หรอื ไม่ (แนวคำตอบ ไม่ได)้

2) นักเรียนรว่ มกันตอบคำถามและแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับคำตอบ เพอื่ เชื่อมโยงไปสกู่ ารเรียนรู้เรื่อง
ลักษณะของการเปลย่ี นแปลงทางเคมี

ข้ันจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลบั ดา้ น

ช้ันเรียน (flipped classroom) ซ่ึงมขี ัน้ ตอนดงั น้ี

1) ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement)
(1) ครูให้นักเรียนสังเกตไม้ขีดไฟ จากนั้นครูจุดไม้ขีดไฟแล้วให้นักเรียนสังเกตอีกครั้ง พร้อมกับถาม

คำถามนกั เรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น
– ไม้ขีดไฟมีลักษณะใด (แนวคำตอบ เป็นแท่งไม้สีน้ำตาลอ่อนขนาดเล็กและมีสารสีแดงที่ปลาย

แทง่ ไม้)
– เมื่อจุดไม้ขีดไฟแล้วมีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้น (แนวคำตอบ สารสีแดงที่ปลายแท่งไม้ติดไฟ

และแทง่ ไม้คอ่ ยๆ ไหม้กลายเปน็ สดี ำ)
(2) นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายหาคำตอบเกี่ยวกับคำถามตามความคิดเหน็ ของแต่ละคน

2) ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration)
(1) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรม สังเกตลักษณะของการเปลี่ยนแปลงทางเคมี

ตามข้นั ตอน ดงั น้ี
– ลกั ษณะของสารละลายน้ำปนู ใส สารละลายผงฟู และสารละลายน้ำปูนใสผสมกบั สารละลายผงฟู


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

• สังเกตลักษณะของสารละลายน้ำปูนใสและสารละลายผงฟูจากการดู การดม และการใช้มือสัมผัส
ภาชนะที่ใส่สาร บนั ทกึ ผล

• ผสมสารละลายนำ้ ปนู ใสและสารละลายผงฟูอยา่ งละ 5 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตรในหลอดทดลอง ใชแ้ ท่ง
แก้วคนสารคนสารผสมให้เข้ากัน สังเกตลักษณะของสารผสม บนั ทึกผล

– ลักษณะของน้ำส้มสายชู ผงฟู และนำ้ ส้มสายชูผสมกับผงฟู
• สังเกตลักษณะของน้ำส้มสายชูและผงฟูจากการดู การดม และการใช้มือสัมผัสภาชนะที่ใส่สาร
บนั ทกึ ผล
• เทน้ำส้มสายชูลงในขวดแกว้ ประมาณ 1 ใน 3 ของขวด จากน้นั ตักผงฟู 2 ช้อนใสใ่ นลูกโป่ง
• นำปากลูกโป่งครอบปากขวดแก้ว ยกปลายลูกโป่งให้ผงฟูตกลงในขวดแก้ว สังเกตลักษณะของสาร
ผสม บันทึกผล
– ลักษณะของแอมโมเนยี มคลอไรด์ ปูนขาว และแอมโมเนยี มคลอไรด์ผสมกับปูนขาว
• สังเกตลักษณะของแอมโมเนียมคลอไรด์และปูนขาวจากการดู การดม และการใช้มือสัมผัสภาชนะ
ท่ใี สส่ าร บันทึกผล
• ตักสารทั้ง 2 ชนิดใส่ลงในบีกเกอร์ หยดน้ำลงในสารผสมเล็กน้อย จากนั้นคนให้เข้ากัน สังเกต
ลักษณะของสารผสม บนั ทึกผล
(2) ครคู อยแนะนำชว่ ยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครเู ดนิ ดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส
ใหน้ ักเรยี นทุกคนซักถามเมอื่ มีปญั หา

3) ข้นั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
(1) นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมหนา้ ห้องเรยี น
(2) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายผลจากการปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยใช้แนวคำถาม เชน่
– สารผสมระหว่างสารละลายน้ำปูนใสกับสารละลายผงฟูเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีหรือไม่

สังเกตจากอะไร (แนวคำตอบ เกดิ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี สังเกตจากกอ่ นนำสารมาผสมกนั สารละลายน้ำปูน
ใสและสารละลายผงฟูเป็นของเหลวใส และไม่มีสี แต่เมื่อนำมาผสมกัน มีตะกอนสีขาวเกิดขึ้น แสดงว่ามีสาร
ใหมเ่ กิดข้ึน)

– สารผสมระหวา่ งน้ำส้มสายชูกบั ผงฟเู กิดการเปล่ียนแปลงทางเคมีหรือไม่ สงั เกตจากอะไร (แนว
คำตอบ เกดิ การเปล่ยี นแปลงทางเคมี สังเกตจากกอ่ นนำสารมาผสมกัน น้ำส้มสายชูเปน็ ของเหลวใส และมีกลิ่น
ฉุน ส่วนผงฟูเป็นผงสีขาว ไม่มีกลิ่น แต่เมื่อนำมาผสมกัน มีฟองแก๊สเกิดขึ้น และมีกลิ่นน้ำส้มสายชู แสดงว่ามี
สารใหม่เกดิ ขน้ึ )

– สารผสมระหว่างแอมโมเนียมคลอไรด์กับปูนขาวเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีหรือไม่ สังเกต
จากอะไร (แนวคำตอบ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี สังเกตจากก่อนนำสารมาผสมกัน แอมโมเนียมคลอไรด์
เป็นเกล็ดสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่น และผิวภาชนะมีอุณหภูมิปกติ ส่วนปูนขาวเป็นผงสีขาวอมเทา ไม่มีกลิ่น และผิว


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ภาชนะมีอุณหภูมิปกติ แต่เมื่อนำมาผสมกัน เกิดก้อนของแข็งสีขาว มีละอองน้ำเกาะบนผิวภาชนะที่ใส่สาร มี
กล่นิ ฉนุ แสบจมกู และผวิ ภาชนะมอี ุณหภูมิลดลง แสดงวา่ มสี ารใหมเ่ กิดข้นึ )

– ลักษณะใดท่ีระบุได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเกิดข้นึ เม่อื นำสารมาผสมกนั (แนวคำตอบ การ
เกดิ ฟองแกส๊ การเปลี่ยนสี การเกดิ ตะกอน การเกดิ ฟองแกส๊ การเกิดกลิ่น และการเปล่ยี นแปลงของอุณหภูม)ิ

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า การ
เปลี่ยนแปลงทางเคมีสามารถสังเกตได้จากลักษณะบางประการของสารใหม่ที่เปลี่ยนไป เช่น การเกิดตะกอน
การเกดิ ฟองแกส๊ การเปลี่ยนสี การเกิดกลน่ิ และการเปล่ียนแปลงของอณุ หภมู ิ

4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
ครูอธิบายเรื่องน่ารู้ เรื่องการฟูของขนม ให้นักเรียนเข้าใจว่า ในส่วนผสมของขนมเค้กหรือขนมถ้วยฟู

จะมีสารที่เมื่อนำไปให้ความร้อนจะเกิดปฏิกิริยาได้สารใหม่ คือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซดจ์ ะแทรกตามเนื้อเค้กหรือขนมถว้ ยฟทู ำให้เนอ้ื เคก้ และขนมฟูขึ้น

5) ขั้นประเมนิ (Evaluation)
(1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพจิ ารณาวา่ จากหัวขอ้ ที่เรยี นมาและการปฏิบัติกจิ กรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่

เขา้ ใจหรอื ยงั มขี อ้ สงสัย ถา้ มี ครูชว่ ยอธิบายเพิ่มเตมิ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข

อย่างไรบ้าง
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ

การนำความรทู้ ่ไี ด้ไปใช้ประโยชน์
(4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการใหต้ อบคำถาม เชน่
– เมื่อผสมผงฟูกบั น้ำส้มสายชจู ะเกดิ การเปลยี่ นแปลงทางเคมีข้ึนหรือไม่ ลกั ษณะใด (แนวคำตอบ

เกดิ การเปลีย่ นแปลงทางเคมีเกดิ ขึน้ โดยมฟี องแก๊สเกดิ ข้นึ )
– ถ้าต้องการทราบว่า เมอื่ นำสาร 2 ชนิดมาผสมกนั แล้วเกิดการเปล่ยี นแปลงทางเคมหี รือไม่ ควร

สังเกตจากสิ่งใด (แนวคำตอบ สังเกตจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยสังเกตว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่าง
ไปจากเดิมหรือไม่ เช่น การเกิดตะกอน การเกิดฟองแก๊ส การเปลี่ยนสี การเกิดกลิ่น และการเปลี่ยนแปลงของ
อุณหภมู )ิ

ขัน้ สรปุ
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับลกั ษณะของการเปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนท่ี

ความคดิ หรือผงั มโนทศั น์


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

10. ส่ือการเรียนรู้
1. ไมข้ ดี ไฟ
2. ใบกิจกรรม สงั เกตลักษณะของการเปลย่ี นแปลงทางเคมี
3. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5
4. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5
5. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5
6. หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5

11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
จติ วิทยาศาสตร์ (A)
1. ซักถามความรู้เรอื่ ง ลักษณะของ
การเปลยี่ นแปลงทางเคมี 1. ประเมนิ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 1. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ

2. ตรวจชน้ิ งานหรอื ภาระงานของ เป็นรายบคุ คลโดยการสังเกต ทางวิทยาศาสตรโ์ ดยใช้แบบ
กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรยี น
และใช้แบบวดั เจตคติทาง วัดทักษะกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์

2. ประเมินเจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมินทกั ษะการคิดโดย

เปน็ รายบคุ คลโดยการสงั เกต การสังเกตการทำงานกล่มุ

และใช้แบบวดั เจตคติตอ่ 3. ประเมนิ ทกั ษะการ

วิทยาศาสตร์ แกป้ ัญหาโดยการสงั เกตการ

ทำงานกลมุ่

4. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ

ปฏิบตั ิกจิ กรรมเปน็

รายบคุ คลหรือรายกลุ่มโดย

การสงั เกตการทำงานกลมุ่


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

12. บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้

12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้

1. นกั เรียนจำนวน..................คน

ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นร้อยละ..................

ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................

นักเรยี นน่ีไม่ผา่ น มีดงั นี้

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนรู้

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

2. นักเรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ (K)

........................................................................................................................... ...........................

............................................................................................................................. .........................

3. นกั เรียนมีความร้เู กิดทกั ษะ (P)

......................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .........................

4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A)

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12.3 ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ..................................................
(.................................................)
ตำแหน่ง.....................................


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรบั ปรุง
2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 นำไปใช้ได้จรงิ
 ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ..................................................
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 39

สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว15101

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เร่ือง ลักษณะของการเปลยี่ นแปลงทางเคมี (2) เวลา 1 ชวั่ โมง

วนั ท่ี............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครผู ้สู อน............................................................

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสาร

กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี

2. ตัวช้ีวัดช้ันปี
1. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสารเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์

(ว 2.1 ป. 5/3)
2. วิเคราะหแ์ ละระบกุ ารเปล่ียนแปลงทผ่ี นั กลับไดแ้ ละการเปลีย่ นแปลงที่ผันกลับไม่ได้ (ว 2.1 ป. 5/4)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ระบลุ ักษณะของการเปล่ียนแปลงทางเคมีได้ (K)
2. มคี วามสนใจใฝร่ ูห้ รืออยากรอู้ ยากเหน็ (A)
3. พอใจในประสบการณ์การเรยี นรูท้ ี่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ (A)
4. ทำงานรว่ มกบั ผู้อนื่ อยา่ งสร้างสรรค์ (A)
5. สอื่ สารและนำความรู้เร่ืองลักษณะของการเปลีย่ นแปลงทางเคมีไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ (P)

4. สาระสำคญั
การเปลี่ยนแปลงทางเคมีสังเกตได้จากการเกิดฟองแก๊ส การเปลี่ยนสี การเกิดตะกอน การเกิดกล่ิน

และการเปล่ียนแปลงของอณุ หภมู ิ

5. สาระการเรยี นรู้
การเปลี่ยนแปลงทางเคมี


แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน
4. มีจิตวิทยาศาสตร์

7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

8. ช้นิ งานหรือภาระงาน
สำรวจการเปลี่ยนแปลงทางเคมี

9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน

1) ครูให้นักเรียนทบทวนผลการปฏิบัติกิจกรรมสังเกตลักษณะของการเปลี่ยนแปลงทางเคมีโดยให้
ตัวแทนนักเรียน 2 คนมาอธิบายถึงลักษณะที่สังเกตได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเคมี (แนวคำตอบ สารผสม
ระหว่างสารละลายนำ้ ปนู ใสกับสารละลายผงฟูมีตะกอนสีขาวเกิดขึ้น สารผสมระหวา่ งนำ้ สม้ สายชูกบั ผงฟูมีฟอง
แก๊สเกิดข้ึน และมีกล่ินนำ้ ส้มสายชู และสารผสมระหว่างแอมโมเนียมคลอไรด์กับปูนขาวเกิดก้อนของแข็งสีขาว
มลี ะอองนำ้ เกาะบนผวิ ภาชนะที่ใส่สาร มีกลนิ่ ฉุนแสบจมูก และผิวภาชนะมอี ุณหภูมลิ ดลง)

2) นักเรียนรว่ มกันตอบคำถามและแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับคำตอบ เพ่ือเช่ือมโยงไปสู่การเรยี นรู้เรื่อง
ลกั ษณะของการเปลยี่ นแปลงทางเคมี

ขัน้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลบั ดา้ น

ชั้นเรียน (flipped classroom) ซ่งึ มขี น้ั ตอนดงั น้ี

1) ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement)
(1) ครถู ามคำถามนกั เรยี นเพอ่ื กระตุ้นความสนใจ เชน่
– ถ้าเราทิ้งแกงกะทิไว้นอกตู้เย็น 1 คืน นักเรียนคิดว่าวันต่อมาแกงกะทิจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่

อย่างไร (แนวคำตอบ เปลย่ี นแปลง โดยแกงกะทจิ ะบดู )
– นักเรียนสังเกตการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งใด (แนวคำตอบ แกงกะทิมีฟองแก๊สเกิดขึ้นและมีกล่ิน

เหม็น)


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

(2) นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายหาคำตอบเกี่ยวกบั คำถามตามความคดิ เหน็ ของแต่ละคน

2) ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration)
(1) ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางเคมขี องสาร โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียนเข้าใจวา่

การเปลี่ยนแปลงทางเคมีสังเกตได้จากลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิม ซ่ึงในบางกรณีต้องสังเกตลักษณะต่างๆ
ควบคู่กันไป จึงจะสรปุ ไดว้ ่ามกี ารเปลย่ี นแปลงทางเคมเี กิดข้ึน

(2) ครูให้นักเรียนสำรวจการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในบริเวณโรงเรียน พร้อมกับระบุลักษณะของการ
เปลย่ี นแปลงทางเคมี แลว้ จำแนกเปน็ การเปล่ียนแปลงทางเคมที เ่ี กดิ ประโยชนแ์ ละเกิดโทษ

(3) ครคู อยแนะนำชว่ ยเหลอื นักเรยี นขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยครเู ดนิ ดูรอบ ๆ บริเวณทีน่ ักเรยี นสำรวจ
และเปดิ โอกาสให้นักเรียนทกุ คนซกั ถามเม่ือมีปัญหา

3) ข้นั อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation)
(1) นกั เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมหน้าห้องเรียน
(2) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายผลจากการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม เชน่
– การเปล่ียนแปลงทางเคมลี กั ษณะใดเกิดขึน้ มากทสี่ ุด (แนวคำตอบ การเกิดกลิน่ )
– การเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดประโยชน์มีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ การสุกของอาหารและการ

กำจัดคราบของนำ้ ยาลา้ งห้องนำ้ )
– การเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดโทษมีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ การเกิดสนิมและการบูดของ

อาหาร)
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า การ

เปลี่ยนแปลงทางเคมีสามารถสังเกตได้จากลักษณะต่าง ๆ เช่น การเกิดฟองแก๊ส การเปลี่ยนสี การเกิดตะกอน
การเกดิ กลิน่ และการเปลย่ี นแปลงของอุณหภูมิ

4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
(1) ครใู ห้นกั เรียนเลน่ เกม คน้ หาคำศพั ท์ จากหัวข้อสนุกทำ สนุกคิด กบั วิทยาศาสตร์ ตามทีก่ ำหนด
(2) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับลักษณะของการเปลี่ยนแปลงทางเคมี จาก

หนังสอื เรยี นภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนำเสนอให้เพื่อนในห้องฟัง คดั คำศัพท์พร้อมทั้งคำแปลลง
สมุดส่งครู

5) ขั้นประเมิน (Evaluation)
(1) ครูให้นกั เรยี นแต่ละคนพจิ ารณาว่า จากหวั ขอ้ ทเ่ี รยี นมาและการปฏบิ ัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่

เข้าใจหรอื ยงั มขี ้อสงสัย ถา้ มี ครชู ่วยอธิบายเพิ่มเติมใหน้ ักเรยี นเข้าใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข

อยา่ งไรบา้ ง


แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ
การนำความรูท้ ไี่ ดไ้ ปใชป้ ระโยชน์

(4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยการให้ตอบคำถาม เช่น
– นักเรยี นมวี ิธสี ังเกตอาหารบดู อยา่ งไร (แนวคำตอบ สังเกตว่ามีฟองแก๊สหรอื มกี ล่ินเหมน็ หรือไม่)
– นักเรียนมีวิธีสังเกตน้ำเสียในคลองอย่างไร (แนวคำตอบ สังเกตว่ามีกลิ่นเหม็นหรือสีของน้ำ

เปลย่ี นไปหรอื ไม)่

ข้ันสรปุ
1) ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เกีย่ วกับลักษณะของการเปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยรว่ มกันเขยี นเป็นแผน

ที่ความคิดหรือผังมโนทศั น์
2) ครูดำเนินการทดสอบหลังเรียน โดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความก้าวหน้า/

ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ของนักเรียน
3) ครูเชื่อมโยงเนื้อหาจากบทเรียนนี้กับบทเรียนชั่วโมงหน้า เพื่อให้นักเรียนเตรียมความพร้อมในการ

เรียนช่ัวโมงตอ่ ไป โดยการใช้คำถามกระตุ้น ดังนี้
– น้ำนำมาใช้ประโยชน์ในการทำเป็นตัวทำละลาย นักเรียนคิดว่า เราสามารถนำน้ำจากแหลง่ นำ้

แตล่ ะแหล่งมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้เท่ากันหรือไม่ (แนวคำตอบ ไม่เท่ากัน)
4) ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนไปศกึ ษาคน้ คว้าเน้ือหาของบทเรียนชว่ั โมงหน้า เพอื่ จัดการเรยี นรู้คร้ังต่อไป

โดยให้นักเรยี นศกึ ษาคน้ คว้าล่วงหน้าในหัวขอ้ ความสำคัญของนำ้
5) ครูใหน้ ักเรยี นเตรยี มประเด็นคำถามท่ีสงสัยมาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพอ่ื นำมาอภิปรายร่วมกัน

ในห้องเรียนครั้งตอ่ ไป

10. สื่อการเรยี นรู้
1. แบบทดสอบหลังเรยี น
2. หนังสอื เรียนภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เนต็
3. ค่มู ือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
4. สอื่ การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5
5. แบบฝึกทกั ษะรายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
6. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5


แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป.5

11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

ด้านความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
จิตวทิ ยาศาสตร์ (A)
1. ซักถามความร้เู ร่ือง ลักษณะของ
การเปล่ียนแปลงทางเคมี 1. ประเมินเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมินทักษะการคิดโดย

2. ตรวจช้นิ งานหรือภาระงานของ เป็นรายบุคคลโดยการสงั เกต การสังเกตการทำงานกลมุ่
กิจกรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรียน
และใชแ้ บบวดั เจตคตทิ าง 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ
3. ทดสอบหลังเรยี นโดยใช้
แบบทดสอบหลังเรยี น วิทยาศาสตร์ ปฏิบตั ิกจิ กรรมเป็น

2. ประเมนิ เจตคติตอ่ วิทยาศาสตร์ รายบคุ คลหรือรายกลมุ่ โดย

เป็นรายบคุ คลโดยการสงั เกต การสังเกตการทำงานกลุ่ม

และใชแ้ บบวัดเจตคตติ อ่

วิทยาศาสตร์


แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5

12. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

12.1 สรปุ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. นักเรยี นจำนวน..................คน

ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู.้ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ..................

ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................

นักเรยี นนไี่ มผ่ ่าน มีดังน้ี

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้

........................................................................................... ...........................................................

............................................................................................................................. .........................

2. นกั เรียนมีความร้คู วามเข้าใจ (K)

........................................................................................................................................ ..............

..................................................................................................................... .................................

3. นกั เรยี นมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P)

............................................................................................................................. .........................

......................................................................................................................................................

4. นักเรียนมเี จตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A)

............................................................................................. .........................................................

............................................................................................................................. .........................

12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

12.3 ขอ้ เสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ..................................................
(.................................................)
ตำแหนง่ .....................................


แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แลว้ มีความเห็นดังน้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรบั ปรุง
2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 นำไปใช้ได้จรงิ
 ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ..................................................
(.................................................)

ตำแหนง่ ............................................


แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 40

สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว15101

ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

เร่อื ง การทดสอบกลางปี เวลา 1 ชว่ั โมง

วนั ท่ี............เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครูผู้สอน............................................................

**********************************************************************************

นักเรยี นทำแบบทดสอบการทดสอบกลางภาค


Click to View FlipBook Version