โทษของบุุหรี่ จััดทํําโดย นางสาว แทนฤทััย เตืื อสกุุล เลขทีี 33 ม.4/15 นางสาวณััฏฐ์์นิิตา เจริิญทองทิิพย์์ เลขทีี 25 ม.4/15 นางสาว สุุนิิตา สุุวรรณชััย เลขทีี 41 ม.4/15 SAY NO TO CIGS
1. นิโคติน (Nicotine) 2. พอโลเนียม-210 (Polonium-210) 3. ทาร์ หรือน้ำ มันดิน (Tar) 4. อาร์เซนิค หรือสารหนู (Arsenic) 5.คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide) 6. ปรอท (Mercury) 7. ไนโตรเจนไดออกไซด์ (Nitrogen dioxide) 8. ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) 9. แคดเมียม (Cadmium) 10.ฟอร์มาลีน (Formaldehyde) 11.อาร์เซนิค หรือสารหนู (Arsenic) สารเสพติดในบุหรี่
บุหรี่มี ๒ ชนิดคือ บุหรี่ที่มวนเอง และบุหรี่ที่ผลิตโดยเครื่องจักร บุหรี่ที่มวนเอง ทำ โดยใช้ใบตองแห้ง ใบบัว หรือกระดาษ ที่ใช้มวนห่อ ใบยาสูบ บุหรี่ชนิดนี้จะดับง่าย เนื่องจากไม่มีการปรุงแต่งสารเคมี ที่ ช่วยให้ไฟติดทน สำ หรับบุหรี่ที่ผลิตโดยเครื่องจักรมี ๒ ชนิด คือ บุหรี่ที่ไม่มีก้นกรอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุหรี่ราคาถูก และบุหรี่ที่มีก้น กรอง นอกจากนี้ บริษัทบุหรี่ยังผลิตบุหรี่ ชนิดที่เรียกว่า “ไลต์” และ “ไมลด์” โดยระบุไว้ว่า เป็นบุหรี่ชนิดรสอ่อน ที่มีอันตรายต่อสุขภาพ น้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่จากการวิจัยพบว่า บุหรี่ทั้ง ๒ ชนิด มิได้มี อันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดาแต่อย่างใด เพียงแต่ต่างกันที่รสชาติ เท่านั้น และบุหรี่ชนิดที่มีก้นกรอง จะสามารถกรองละอองสาร ที่มี ขนาดใหญ่ได้บางชนิดเท่านั้น โดยสารทาร์และนิโคติน ซึ่งมีขนาดเล็ก ยังคงผ่านเข้าไปได้ ในปริมาณเดียวกับการสูบบุรี่ ที่ไม่มีก้นกรอง ประเภทของบุห บุ รี่ บุหรี่มวน
บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แต่แบ่งได้ 3 รูปแบบคือ 1.Cigalike เป็น บุหรี่ไฟฟ้า ประเภทใช้แล้วทิ้ง (Disposable Ecigarettes) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cigalike มีรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งรูป ทรงและขนาดที่คล้ายกับบุหรี่ปกติทั่วไป แต่จะมีตัวที่ทำ ให้เกิดไอและความ ร้อนเพิ่มเข้ามา 2.eGOS แบบไฟฟ้าประเภทที่2หรือที่รู้จักกันในชื่อ eGos มีลักษณะ คล้ายบุหรี่ปกติทั่วไปเช่นกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่า หรือมีรูปทรงที่แตกต่าง กันออกไป และมีตัวถังที่สามารถถอดออก และเติม E-Liquid หรือ EJuice ที่มีระดับนิโคติน หรือรสและกลิ่นต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง 3.Mods มีลักษณะคล้ายบุหรี่ไฟฟ้าแบบ eGos แต่มีขนาดใหญ่กว่า และสามารถปรับแรงดันไฟฟ้า ขนาดของตัวที่ทำ ให้เกิดไอและความร้อน รวมถึงขนาดและปริมาณของ E-Liquid หรือ E-Juice ได้ตามความ ต้องการของผู้ใช้แต่ละคน บุหรี่ไฟฟ้า
โทษของบุหรี่ ในควันบุหรี่ เต็มไปด้วยสารอันตรายต่าง ๆ ได้แก่ นิโคติน ซึ่งจัดเป็นสาร เสพติด และยังมีสารเคมีอีกมากถึง 7,000 ชนิด สารพิษอีกมากกว่า 250 ชนิด และสารก่อมะเร็งอีกมากกว่า 70 ชนิด ซึ่งถ้าหากได้ข้อสรุปอย่างง่าย คือ การสูบบุหรี่ 1 มวน จะทำ ให้อายุสั้นลงถึง 7 นาที เมื่อสูบบุหรี่เข้าไปในร่างกายแล้ว บุหรี่ก็เข้าไปทำ ลายร่างกายแทบจะทุก ส่วน เริ่มตั้งแต่หลอดเลือดสมอง ทางเดินอาหาร หัวใจ กระดูกและกล้าม เนื้อ จนทำ ให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทาง เดนิปัสสาวะ รวมถึงเกืดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มีความเสี่ยงแท้ง ของหญิงตั้งครรภ์ และมีโอกาสตาบอดถาวร โทษของบุหรี่ โทษของบุหรี่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อาจจะทำ ให้เกิดการเผยแพร่ ต่อเพื่อให้เกิดแรงจูงใจให้มีการเลิกบุหรี่ได้ ซึ่งการเลิกบุหรี่ให้ สำ เร็จสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพียงแค่ยึดหลักการ ตั้งใจ มี เป้าหมาย ไม่รอช้า ไม่หวั่นไหว ไม่ยอมแพ้
โรคร้ายแรง ที่เกิด จากบุหรี่ 1. มะเร็ง จากสถิติในประเทศไทย มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้ชาย อันดับ 4 ในผู้หญิง และเป็นมะเร็งที่มีอัตราการเสียชีวิตเป็น อันดับ 1 เนื่องจากมักพบเมื่อเป็นระยะกระจายไปตามอวัยวะต่างๆ แล้ว โดยสาเหตุสำ คัญของการเกิดมะเร็งปอด คือการสูบบุหรี่
2. ถุงลมโป่งพอง ภายในปอดของคนเราประกอบด้วยถุงลมเล็กๆ จำ นวนมากมาย ทำ หน้าที่ฟอกเลือด และถ่ายออกซิเจนให้เลือดดำ หากสูบบุหรี่จำ นวน มากเป็นระยะเวลานาน ควันที่มีสารพิษจะไปทำ ลายผนังถุงลม ส่ง ผลให้เกิดภาวะถุงลมบวมอักเสบ และฉีกขาด ไม่สามารถฟอกเลือด ได้ตามปกติ เมื่อไม่สามารถรับออกซิเจนได้เพียงพอ จะทำ ให้มี อาการหอบเหนื่อย 3. ปอดบวม โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ คือ ภาวะติดเชื้อในปอด จาก 2 สาเหตุ คือ ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อรา และปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เกิดจากการ หายใจเอาสารที่ทำ ให้ระบบทางเดินหายใจระคายเคือง เช่น ฝุ่น สาร เคมี โดยเฉพาะควันบุหรี่ มีอาการหายใจลำ บาก ไม่สบายตัว บาง กรณีอาจมีไข้ หรืออาการคล้ายเป็นหวัด เช่น ปวดศีรษะ หนาวสั่น ไอ และเจ็บคอ หากอาการรุนแรงอาจเจ็บหน้าอก อาเจียน และมีเสมหะ ปนเลือด โรคปอดบวมมักพบในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีภูมิต้านทานต่ำ หากการติดเชื้อรุนแรงอาจทำ ให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ผู้ที่อยู่ในกลุ่ม เสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมถึงได้รับควันบุหรี่จากผู้อื่น 4. โรคหัวใจและหลอดเลือด แม้สูบบุหรี่เพียงไม่กี่มวนต่อวัน ก็ส่งผลให้หัวใจและหลอดเลือดเสีย หาย จากการศึกษาพบว่าผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจประมาณ 20% มี ความเชื่อมโยงกับการสูบบุหรี่โดยตรง โดยเฉพาะผู้ที่ทานยาคุม กำ เนิดหรือเป็นโรคเบาหวาน หากสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรค กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน 5. โรคเบาหวาน บุหรี่และควันบุหรี่มีผลต่อน้ำ ตาลในเลือดและโรคเบาหวาน เนื่องจากสารพิษในบุหรี่ สามารถเข้าไปสะสมอยู่ที่ตับอ่อน ทำ ให้ตับ อ่อนทำ งานได้น้อยลง จนเกิดเป็นโรคเบาหวาน
ปัญหาบุหรี่ในโรงเรียน ปจจุบันปญหาการสูบบุหรี่ไดแพรระบาดในกลุมเยาวชนทั่วไป เนื่องจากบุหรี่เปนยาเสพติดที่หาซื้อไดงาย เสพติดงายแตเลิกยากนั่นเอง ผูที่สูบบุหรี่แทบทั้งหมดเริ่ม ติดบุหรี่ตั้งแตวัยรุน สาเหตุสําคัญคือ อยาก ทดลอง เอาอยางเพื่อน เอาอยางผูปกครองหรือผูมีชื่อเสียง ในสังคม อยากแสดงวาตัวเอง เปนผูใหญแลว ไดรับอิทธิพลจากการโฆษณาหรือการสงเสริมการขาย วัยรุนจํานวนมากที่ลองแลวจึง ติดทั้งๆ ที่รูวาเปนอันตรายตอสุขภาพ แตเมื่อติดแลวก็ยากที่จะเลิกสูบ ได แมวาอยากที่จะเลิก จึง กลายเปนผูติดบุหรี่ไปในที่สุด และสวนมากจะติดไปตลอดชีวิต นักเรียน ระดับมัธยมศึกษาจึงจัดเปน เยาวชนกลุมหนึ่งที่มีการสูบบุหรี่เปนจํานวนมาก ซึ่งเปนปญหาสําคัญใน ปจจุบันนี้ โดยอายุที่เริ่มทดลอง สูบบุหรี่ คือ 13-14 ป และอายุเฉลี่ยการเสพติดบุหรี่ของคนไทย คือ 18 ป ดังนั้น กลุมเยาวชนจึง เปนกลุมเปาหมายที่สําคัญของบริษัทบุหรี่
เคล็ด ล็ ลับ ลั การเลิก ลิ บุหรี่ เคล็ด ล็ ลับ ลั การเลิก ลิ บุหรี่
ในทุกคนไทย 1 คนที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ จะมีผู้สูบ บุหรี่ไทยที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรงจากการสูบบุหรี่ที่ยังมี ชีวิตอยู่ 20 คน เทียบกับกรณีของสหรัฐอเมริกาที่ สัดส่วนเดียวกันเท่ากับ 1 ต่อ 30 คน เนื่องจาก ประชากรวัยสูบบุหรี่ของอเมริกามีอายุมากกว่าและอายุ ยืนกว่าผู้สูบบุหรี่ไทย และจากข้อมูลการเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 5 หมื่น คนเศษ ทำ ให้ประมาณการได้ว่า มีคนไทยอย่างน้อย 1 ล้านคนที่ยังมีชีวิตอยู่และป่วยหรือพิการด้วยโรคเรื้อ รื้ รัง ร้ายแรงจากการสูบบุหรี่ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง โรคถุงลมโป่งพอง และโรค เรื้อ รื้ รังอื่น ๆ สถิติผู้ป่วยจากการใช้บุหรี่