The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดฝึกที่02-ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by d_nayula, 2021-09-25 04:15:29

ชุดฝึกที่02-ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

ชุดฝึกที่02-ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

A

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1



คาํ นาํ

แบบฝกทกั ษะหนว ยที่ 1 เร่ือง ความรูเบ้อื งตนเก่ียวกบั ระบบฐานขอ มลู รายวชิ า ง30204 (การจัดการ
ฐานขอมูล) สาํ หรบั นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 5 กลมุ สาระการงานอาชพี และเทคโนโลยี จัดทาํ ขึ้นโดยมีวตั ถุประสงค
เพือ่ ใชป ระกอบการเรยี นการสอนในหนว ยท่ี 1 เร่ือง ความรเู บอ้ื งตนเกย่ี วกบั ระบบฐานขอมลู มงุ พัฒนาผูเ รียนออ น
และสง เสรมิ ผูเรียนทีเ่ รียนเกง โดยนกั เรียนสามารถเรียนรูและปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามลําดับขน้ั ตอนไดดว ยตนเอง ตาม
ศกั ยภาพและความสามารถของตนเองทาํ ใหเ กดิ การเรียนรูทงี่ ายและรวดเร็ว ประกอบดว ยแบบฝก ทักษะทง้ั หมด 4 ชดุ
ดงั น้ี

ชดุ ที่ 1 รูจักระบบฐานขอมูล (Database System)
ชดุ ท่ี 2 ฐานขอ มลู เชงิ สมั พนั ธ (Relational Model)
ชุดที่ 3 แบบจาํ ลองความสมั พันธระหวางขอ มูล (E-R Model)
ชดุ ท่ี 4 กระบวนการนอรม อลฟอรม (Normalization)
โดยในแตละชดุ มคี วามตอ เนอื่ งของความรู ดังนนั้ ผเู รยี นจึงควรศึกษาตามขนั้ ตอนทลี ะชุด ไมควรขาม
เพราะอาจทําใหเ กดิ ความไมเ ขาใจในเนื้อหา ควรอา นคําแนะนาํ ใหเ ขาใจกอนและปฏิบตั ติ ามดว ยความซอ่ื สัตย เพื่อ
ประสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ลทด่ี ใี นการสรา งองคความรูแกต นเอง
ผจู ัดทําหวงั เปน อยา งย่งิ วา แบบฝก ทักษะชดุ นคี้ งจะเปนประโยชนตอ ผเู รยี น ครูผสู อนและผทู ส่ี นใจ
ขอขอบพระคุณผทู ี่มสี วนสนับสนุน ชว ยเหลือและใหค าํ แนะนาํ ทุกทา นทมี่ สี ว นชว ยใหแ บบฝกทกั ษะ หนวยที่ 1 เรือ่ ง
ความรูเ บื้องตนเก่ียวกับฐานขอมูล สําหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 5 สาํ เร็จลุลว งไปไดด ว ยดี ผจู ัดทาํ
ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

นายูลา ดาเลาะ

[ T y pชeุดทtี่ h2e c oเรmอื่ งpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1



สารบัญ

เรอ่ื ง หนา

1. คาํ ชีแ้ จง.............................................................................................................................. 1
2. คําแนะนําการใชแบบฝก ทกั ษะสาํ หรับครู............................................................................ 2
3. คําแนะนําการใชแบบฝกทกั ษะสาํ หรบั นกั เรียน................................................................... 3
4. ผลการเรียนร/ู จดุ ประสงค.................................................................................................... 4
5. สาระสาํ คญั .......................................................................................................................... 5
6. แบบทดสอบกอนเรียน......................................................................................................... 6
9
กระดาษคาํ ตอบแบบทดสอบกอนเรียน........................................................................... 10
7. ใบความรทู ่ี 2.1 ฐานขอมูลเชิงสมั พนั ธ................................................................................. 12
13
คําถามพเิ ศษท่ี 1 ............................................................................................................. 16
แบบฝกทักษะท่ี 2.1ฐานขอมูลเชงิ สมั พนั ธ....................................................................... 19
8. ใบความรูท่ี 2.2 โครงสรา งฐานขอ มลู เชงิ สัมพันธ. ............................................................... 20
คําถามพิเศษท่ี 2 ............................................................................................................. 22
แบบฝกทกั ษะท่ี 2.2 โครงสรา งฐานขอมูลเชิงสัมพนั ธ. .................................................... 27
9. ใบความรทู ี่ 2.3 คีย............................................................................................................. 28
คําถามพเิ ศษท่ี 3 ............................................................................................................. 31
แบบฝกทักษะที่ 2.3 คีย. .................................................................................................. 35
10. แบบฝกหัดทา ยเลม ......................................................................................................... 38
11. แบบทดสอบหลงั เรยี น....................................................................................................... 39
กระดาษคาํ ตอบแบบทดสอบหลงั เรียน............................................................................. 40
12. บรรณานกุ รม..................................................................................................................... 41
13. ภาคผนวก.......................................................................................................................... 42
เฉลยแบบทดสอบกอ นเรียน............................................................................................ 43
เฉลยคําถามพเิ ศษที่ 1 ...................................................................................................... 45
เฉลยแบบฝกทักษะท่ี 2.1 ................................................................................................. 46
เฉลยคําถามพิเศษที่ 2 ...................................................................................................... 47
เฉลยแบบฝก ทักษะท่ี 2.2 ................................................................................................. 48
เฉลยคําถามพเิ ศษที่ 3 ......................................................................................................
เฉลยแบบฝกทักษะที่ 2.3 .................................................................................................

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1



สารบญั (ตอ )

เรือ่ ง หนา

เฉลยแบบฝก หดั ทา ยเลม .................................................................................................. 50
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น............................................................................................... 54
แบบบันทึกคะแนนแบบฝก ทักษะ ชุดที่ 2 ........................................................................ 55

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

1

คําชแ้ี จง

แบบฝก ทักษะ หนวยที่ 1 เรือ่ ง ความรูเ บอ้ื งตน เก่ยี วกับระบบฐานขอ มลู สําหรับนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษา
ปท ี่ 5 เปนแบบฝกทกั ษะ ทมี่ ุง ใหผูเรยี นไดศึกษาหาความรูไดดว ยตนเอง ประกอบดว ยแบบฝกทกั ษะทงั้ หมด
4 ชดุ ดงั น้ี

ชดุ ที่ 1 รูจกั ระบบฐานขอมลู (Database System)
ชุดท่ี 2 ฐานขอ มูลเชงิ สมั พนั ธ (Relational Database)
ชุดที่ 3 แบบจําลองความสัมพนั ธระหวางขอมลู (E-R Model)
ชุดท่ี 4 กระบวนการนอรมอลฟอรม (Normalization)

แบบฝกทักษะชุดน้ีเปนชุดท่ี 2 เรื่อง ฐานขอ มูลเชงิ สมั พันธ เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง เพอ่ื ใหการเรียน
การสอนสัมฤทธิผ์ ล และไดรบั ความรูอยา งครบถวน จึงควรปฏิบัติตามขัน้ ตอนดงั คาํ แนะนาํ ตอไปนี้

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmอ่ื งpฐaานnขyอ มaลู dเชdิงสr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

2

คําแนะนาํ

การใชแบบฝก ทักษะสาํ หรับครู

แบบฝกทกั ษะ หนวยที่ 1 เรือ่ ง ความรูเ บ้อื งตนเกี่ยวกบั ระบบฐานขอ มูล สําหรบั นักเรียนช้ัน
มัธยมศึกษาปท่ี 5 กลุม สาระการเรยี นรกู ารงานอาชพี และเทคโนโลยชี ุดนี้ ใชประกอบการจัดกจิ กรรมการเรียน
การสอน สําหรับนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 5 ใชเ วลาในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู 2 ชวั่ โมง ในการดาํ เนนิ
กจิ กรรมการเรยี นการสอนครผู ูสอนควรปฏิบตั ิดงั นี้

1. ขน้ั เตรียมการสอน
1.1 ศกึ ษาแผนการจดั การเรียนรูอยางละเอียดและแบบฝกทักษะจนเขาใจเปนอยา งดี
1.2 ตรวจสอบแบบฝกทกั ษะ ส่อื ท่ีใชในการสอนใหอ ยใู นสภาพใชงานได
1.3 ครผู ูส อนควรเตรียมความรู และควรมพี นื้ ฐานในการสรางฐานขอ มลู ดว ย

2. ขนั้ ดําเนนิ กิจกรรมการเรียนการสอน
2.1 ครูแจกแบบฝก ทักษะใหนักเรยี นศกึ ษา
2.2 ครชู แี้ จงการใชแบบฝก ทักษะใหน กั เรยี นทราบกอ นลงมอื ปฏบิ ตั ิ
2.3 ครใู หนักเรยี นทาํ แบบทดสอบกอ นเรยี น เพือ่ ดูความรูพื้นฐานของนักเรียน
2.4 ครูใหน กั เรยี นศึกษาแบบฝกทักษะ หนวยที่ 1 เร่อื ง ความรเู บอื้ งตนเก่ียวกบั ฐานขอมลู
สาํ หรบั นักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 5 กลุมสาระการงานอาชพี และเทคโนโลยี และปฏิบัติ
ตามแบบฝกทักษะแตละชดุ
2.5 ครใู หน กั เรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน เพอื่ ดวู านักเรยี นมีความรูความเขาใจมากนอ ย
เพยี งใด

3. ข้นั การประเมินผล
3.1 ครูผสู อนแจง ใหนกั เรียนทราบถงึ ขอบเขตเนื้อหาทจี่ ะประเมิน
3.2 ครูผสู อนประเมนิ ผลทกุ ครงั้ หลงั ส้ินสุดกจิ กรรมการเรยี นการสอน และแจง ใหนักเรียน
ทราบถงึ ผลการประเมนิ

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอ มaลู dเชdิงสr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

3

คาํ แนะนาํ

การใชแบบฝก ทกั ษะสําหรบั นกั เรยี น

แบบฝก ทักษะ หนว ยท่ี 1 เรอื่ ง ความรูเบอื้ งตน เกี่ยวกบั ระบบฐานขอ มลู สําหรบั นักเรียนชัน้
มัธยมศึกษาปท่ี 5 กลมุ สาระการเรยี นรกู ารงานอาชีพและเทคโนโลยีชดุ น้ี ใชประกอบการจดั กจิ กรรมการ
เรยี นการสอนนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 5 นักเรยี นควรทาํ ความเขาใจเก่ียวกับขั้นตอนการใชแบบฝกทกั ษะ
เพอ่ื ท่ีจะไดปฏบิ ัตไิ ดถกู ตอ ง และเกดิ ประโยชนตามจุดมงุ หมาย โดยขอใหนกั เรยี นปฏิบัติตามดว ยความ
ซือ่ สตั ยและตัง้ ใจตามขั้นตอน ดังนี้

1. อา นคําชี้แจงและคาํ แนะนาํ สาํ หรบั นักเรียนใหเ ขา ใจกอ นลงมอื ศกึ ษาแบบฝกทกั ษะ
2. ทาํ แบบทดสอบกอ นเรียน เพ่ือประเมนิ ความรูเดมิ ของนกั เรยี น
3. นกั เรยี นศกึ ษาแบบฝกทักษะและปฏิบัตติ ามแบบฝก ทกั ษะอยางต้งั ใจและเต็มความสามารถ
4. ทําแบบทดสอบหลังเรียน

** ผา นเกณฑร อยละ 80 ศึกษาชุดตอ ไป
ขอสังเกต

** ไมผ านเกณฑร อ ยละ 80 ใหศ ึกษาใบความรแู ละทําแบบฝก ทักษะใหม โดยครจู ะเขา
มาดูแลนกั เรยี น ใหค ําแนะนําหรือใหอ งคค วามรูต ามแบบฝกทกั ษะ

นักเรียนตองมคี วามซอื่ สัตยต อตนเอง ไมเ ปดดู
เฉลยกอน เพราะนักเรยี นจะไมป ระสบผลสาํ เรจ็

ในการเรียนตามแบบฝกทกั ษะ

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmือ่ งpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

4

ผลการเรยี นรู

ผูเ รยี นมคี วามรคู วามเขาใจเกีย่ วกบั ระบบฐานขอมูลเบือ้ งตน ได

จดุ ประสงคก ารเรยี นรู

1. สามารถบอกความหมายของฐานขอ มูลเชงิ สัมพันธไ ด
2. สามารถบอกขอดีของฐานขอ มลู เชิงสมั พนั ธได
3. สามารถบอกความหมายของศัพทพ ื้นฐานได
4. สามารถบอกความหมายของรเี ลช่นั ได
5. สามารถบอกโครงสรางของรีเลชั่นได
6. สามารถบอกคณุ สมบัติของรเี ลชัน่ ได
7. สามารถบอกประเภทของรเี ลชั่นได
8. สามารถบอกและจาํ แนกประเภทของคียได

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอมaูลdเชdิงสr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

5

สาระสาํ คญั

ฐานขอมลู แบบเชงิ สัมพนั ธ ( Relational Database) เปนแบบจาํ ลองที่ E.F. Codd แนะนาํ ให
ใชในป ค.ศ. 1970 ซ่ึงเปนแบบจาํ ลองทใ่ี ชหลักการการสรางความสัมพันธระหวา งระเบียนใน
แฟม ขอ มลู แตละระเบยี นจะใชแอททรีบวิ ทท เี่ หมอื นกันในแตล ะแฟม ขอ มูลมาสรา งความสมั พนั ธ ซ่งึ
ตางจากฐานขอมูลแบบลําดับขั้น และแบบเครอื ขา ย จะนาํ ตาํ แหนง ( Pointer) ท่อี ยูจ ริงของขอมูลใน
แตละระเบียนมาสรางความสัมพนั ธก นั ฐานขอมูลแบบลาํ ดบั ขนั้ และแบบเครอื ขายจะมีขอจาํ กดั คือ
ผูจ ัดการฐานขอ มลู จะตองเปน ผูที่มีความรคู วามสามารถทางดา นคอมพวิ เตอร แตส าํ หรบั ฐานขอมูล
แบบเชิงสมั พันธผ ูใชทวั่ ไปก็สามารถจดั การกบั ฐานขอ มลู ได เพราะฐานขอ มลู แบบนี้มีความเปน อิสระ
กันของขอ มูล

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmอ่ื งpฐaานnขyอมaูลdเชdิงสr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

6

แบบทดสอบกอนเรยี น

แบบฝกทกั ษะ ชุดที่ 2

ฐานขอ มลู เชงิ สัมพนั ธ

คําชี้แจง
1. แบบทดสอบเปนแบบเลอื กตอบ มี 4 ตวั เลอื ก จาํ นวน 10 ขอ เวลา 10 นาที
2. เลือกคําตอบทถี่ ูกทีส่ ดุ เพียงขอ เดียว โดยใหท ําเคร่อื งหมาย  ตรงกบั คาํ ตอบทถี่ ูกตอ งลงใน
กระดาษคําตอบ

1. ฐานขอ มูลเชิงสมั พันธ หมายถงึ ขอใด?

ก. ความสมั พันธของตาราง 2 มติ ิ
ข. การสรา งความสัมพนั ธระหวา งขอ มูล
ค. การนําขอมลู ในฐานขอมลู มาแปลงให
ง. การรวบรวมรเี ลชัน่ ท่มี ีความสมั พันธกันไวด ว ยกัน

2. ขอ ใดเปนองคป ระกอบของฐานขอ มูลเชิงสมั พนั ธ ?
ก. เอนทติ ้ี แอททรบิ ิวต สมาชกิ ของเอนทติ ้ี
ข. สวนระบบจัดการฐานขอมลู สว นจัดเกบ็ ขอมลู สวนเรียกใชขอ มูล
ค. สว นแฟม ขอ มูล สว นระบบจดั การฐานขอมลู สวนการเรียกใชขอมลู
ง. สวนโครงสรา งขอมูล สวนจดั การขอ มลู สวนควบคุมความคงสภาพของขอมูล

3. ขอใดเปนขอดีของฐานขอมูลเชงิ สมั พันธ ?
ก. เขา ใจงา ย
ข. สามารถใชขอมูลรว มกันได
ค. มีพอยทเ ตอรในการเช่ือมโยงขอมลู
ง. ทําใหก ารออกแบบฐานขอมูลมปี ระสิทธภิ าพมากขึ้น

4. รีเลชน่ั หมายถงึ ขอใด ?
ก. ตาราง 2 มติ ิ
ข. ความสมั พนั ธระหวางขอมูล
ค. คียหลกั ที่มีขอ มูลไมซ้าํ กนั เปนคา เอกลกั ษณ
ง. คา ทีใ่ หแกแ อททรบิ วิ ตใ นกรณที ย่ี งั ไมพรอมท่ีจะใสข อ มูล

[ T y pชeุดทtี่ h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

7

5. กลุมของแอททริบวิ ตท่มี สี ิทธิ์ถูกเลือกใหเปน คยี หลกั ของรเี ลชน่ั คอื ขอ ใด ?
ก. คยี ห ลกั
ข. คยี น อก
ค. คยี รว ม
ง. คยี คแู ขงขนั

6. การจัดเก็บขอ มูลในรเี ลชัน่ มีลกั ษณะอยางไร ?
ก. เปนการจดั เกบ็ ในรปู แบบแฟมขอ มลู
ข. เปนรปู แบบของฐานขอ มลู ท่ีมีระบบจัดการฐานขอ มูล
ค. เปน รูปแบบของตาราง 2 มติ ปิ ระกอบดว ยคอลัมน และแถว
ง. เปน รูปแบบความสมั พนั ธข องขอมลู ประกอบดวยสมาชกิ ของเอนทิต้ี

7. รเี ลช่ันมีกป่ี ระเภท ประกอบดว ยอะไรบาง ?
ก. 2 ประเภท คอลัมน และแถว
ข. 2 ประเภท รเี ลชั่นหลัก และวิว
ค. 3 ประเภท รีเลชั่น แอททริบวิ ต เอนทติ ี้
ง. 3 ประเภท รีเลช่ันหลกั รเี ลชั่นสาํ รองและรีเลชน่ั รวม

8. คียท ี่ทกุ ๆ แถวของตารางจะตองไมม ีขอ มลู ของแอททรบิ วิ ตทซ่ี ้าํ กนั หมายถึงขอใด ?
ก. คยี หลกั
ข. คียนอก
ค. คียร ว ม
ง. คยี ค แู ขงขนั

9. ขอ ใดตอ ไปนเ้ี ปนหมายถึงคียค ูแขง (Composite Key) ?
ก. แอททรบิ ิวตหรือกลุมของแอททริบิวตท ม่ี คี ุณสมบัตเิ ปน คียหลกั แตไมไดทาํ หนา ท่ีเปน
คยี ห ลกั
ข. แอททริบิวตทีม่ ีคาเปนเอกลักษณหรอื มีคา ไมซ าํ้ ซอนกนั ทาํ ใหส ามารถระบคุ า ของ
แอททริบิวตอ่ืนใน ทัพเพลิ หนึ่ง ๆ ได
ค. แอททริบิวตใ นรีเลชน่ั หนึง่ ทสี่ ามารถเช่ือมโยงอา งอิงถึงแอททรบิ วิ ตท ่เี ปนคียห ลกั ในอีก
รเี ลชั่นหนงึ่ ท่ีมคี วามสมั พนั ธกันได
ง. กลุมของแอททริบวิ ตที่นาํ มาประกอบกันเพือ่ ใหม ีคา เปนเอกลกั ษณ ทําใหส ามารถระบุ
คา ของแอททรบิ วิ ตอน่ื ในทัพเพลิ หนง่ึ ๆ ได

[ T y pชeุดทtี่ h2e c oเรmอื่ งpฐaานnขyอ มaลู dเชdิงสr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

8

10. ขอใดเปน แอททรบิ ิวตท ี่ใชใ นการอางองิ ถึงแอททริบิวตเดียวกนั ในอกี รีเลชน่ั หนึ่ง?
ก. คียห ลัก
ข. คียน อก
ค. คยี รวม
ง. คียคูแ ขงขนั

คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนทไ่ี ด คือ .....................................................คะแนน

เกณฑก ารใหคะแนน แบบทดสอบกอนเรียน

พจิ ารณาการใหค ะแนน จากการตอบคาํ ถามแตล ะขอ ขอ ละ 1 คะแนน
ตอบถกู ให 1 คะแนน
ตอบผดิ ให 0 คะแนน
ไมตอบให 0 คะแนน

ตอบมากกวา 1 ตัวเลือกให 0 คะแนน

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmือ่ งpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

9

กระดาษคําตอบแบบทดสอบกอนเรยี น

แบบฝก ทักษะ หนว ยท่ี 1 เรื่อง ความรูเบ้ืองตน เกย่ี วกับระบบฐานขอมลู
ชดุ ท่ี 2 ฐานขอมูลเชงิ สมั พันธ

รายวิชา ง30204 การจดั การฐานขอ มูล ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 5

ชอ่ื ............................................................................... ช้นั ................... เลขที่ .................

ขอ ก ข ค ง คะแนนเต็ม 10
คะแนนที่ได .............
1
2 ผลการประเมนิ
3
4 o ดีมาก
5 o ดี
6 o พอใช
7 o ปรับปรงุ
8
9
10

เกณฑก ารประเมิน อยใู นเกณฑ ดมี าก
คะแนนระหวา ง 9 – 10 อยใู นเกณฑ ดี
คะแนนระหวา ง 7 – 8 อยใู นเกณฑ พอใช
คะแนนระหวา ง 5 – 6 อยใู นเกณฑ ปรบั ปรุง
คะแนนระหวาง 0 – 4

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

10

ใบความรูที่ 2.1
ฐานขอมูลเชิงสมั พันธ

1. ความหมายของฐานขอมูลเชิงสมั พนั ธ

ฐานขอมลู เชงิ สัมพนั ธ คือ การรวบรวมรีเลชน่ั ตา งๆ ทม่ี คี วามสัมพนั ธ (Relationship) ระหวางกนั เขา
ดว ยกนั

2. องคประกอบของฐานขอมลู เชงิ สัมพนั ธ

ฐานขอมลู เชงิ สัมพนั ธประกอบดวยองคประกอบ 3 สวน ดังนี้
1) สวนโครงสรางของขอ มลู (Data Structure) เปน สว นการจัดเก็บขอมลู ในรูปแบบของตารางที่
ประกอบดว ยคอลัมนแ ละแถว
2) สว นจดั การขอ มูล (Data Manipulation) เปนสวนของคําส่ังทใี่ ชจ ดั การขอมลู ทถี่ ูกเก็บอยูใน
ฐานขอ มูล (อยูใ นรูปแบบของภาษา SQL)
3) สวนควบคุมความคงสภาพของขอ มูล (Data Integrity) เปนขอกําหนดหรือกฎเกณฑท ี่ถูกสรา ง
ข้ึนมาเพือ่ ใชค วบคมุ ความคงสภาพของขอมูล

3. ขอ ดขี องฐานขอมลู เชงิ สมั พนั ธ

ฐานขอ มูลเชงิ สมั พนั ธเ ปนรูปแบบของฐานขอ มลู ที่เขาใจงา ยสาํ หรับผูใช ซงึ่ มขี อดี ดงั น้ี
1) เปน รูปแบบของฐานขอ มูลท่ีเขา ใจงา ย ฐานขอ มลู เชงิ สัมพนั ธเปนกลุม ของรเี ลช่นั หรือตารางทขี่ อมลู ถูก

จดั เก็บเปนแถวและคอลมั น ซ่ึงทาํ ใหผ ใู ชเ ห็นภาพของขอมลู ไดงา ย
2) มเี คร่อื งมือทช่ี วยใหผ ูใ ชส ามารถจดั การกบั ขอมลู ไดด ว ยคําส่งั งา ยๆ โดยผใู ชไ มตองรวู า มรี ายละเอียดของ
การจดั เกบ็ ขอ มูลอยางไร
3) สามารถใชภ าษาทงี่ า ยในการเรยี กดูขอ มูล เชน ภาษา SQL เปนภาษาท่มี ีลกั ษณะคลายภาษาอังกฤษ
และไมจาํ เปนตอ งเขยี นเปนลาํ ดับข้ันตอนของคําสัง่ อยางในภาษาอนื่ ๆ

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmือ่ งpฐaานnขyอมaูลdเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

11

4) การเรียกใชหรือเช่อื มโยงขอมลู ทําไดงาย โดยการใช Operator ทางคณติ ศาสตรโ ดยไมจําเปน ตอ งใช
พอยทเตอร (Pointer)

4. คําศัพทพ้ืนฐานท่ีใชในฐานขอ มูลเชิงสมั พนั ธ

คําศัพท ความหมาย

รเี ลช่ัน (Relation) ตารางสองมติ ิท่ปี ระกอบดว ยแถวและคอลัมน

แอททรบิ ิวต (Attribute) คอลัมน(Column) ในรีเลชัน่

ทพั เพลิ (Tuple) แถว (Row) หรือ เรคคอรด (Record) หรอื ระเบียน ในรีเลช่นั

ดีกรี (Degree) จํานวนแอททรบิ ิวทใ นรีเลช่ัน

คารดนิ าลิตี้ (Cardinality) จาํ นวนแถวขอมูลในรีเลชั่น

โดเมน (Domain) กลุม ของขอ มูลทั้งหมดทเี่ ปนไปไดข องแอททริบิวตห นง่ึ ๆ

คาวาง (Null Value) คา ที่ใหแกแอททรบิ ิวตหนึ่งๆ ในกรณที ย่ี งั ไมพ รอมทจ่ี ะใสขอ มลู หรือการไม

ทราบคา ขอมูลของแอททรบิ วิ ตน้ันๆ

คยี ห ลัก (Primary Key) คียคแู ขงที่ถกู เลือกข้ึนมาเปนคียหลกั ของรเี ลชั่นหรอื คยี ท ใ่ี ชเปนตวั แทน

ของเรคอรดในฐานขอ มูล

คียร ว ม (Composite Key) คยี หลกั ทป่ี ระกอบดวยแอททริบวิ ตมากกวา หนึ่งแอททรบิ ิวต

คยี ค แู ขง (Candidate Key) กลุม ของแอททริบิวตท มี่ ีสิทธถ์ิ กู เลอื กใหเ ปนคยี ห ลักของรเี ลช่นั

คียน อก (Foreign Key) กลมุ ของแอททริบวิ ตในรเี ลช่นั หนึง่ ๆ ท่ีมีคา ขอมูลไปปรากฏ

เปน คียห ลักของอกี รีเลชัน่ (หรอื อาจเปน รีเลชนั่ เดยี วกัน)

[ T y pชeุดทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

12

คาํ ถามพเิ ศษที่ 1

ฐานขอ มูลเชงิ สัมพนั ธคืออะไร
และมกี ่ีองคป ระกอบ อะไรบา ง

2 คะแนน

ตอบ .......................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmอ่ื งpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

13

แบบฝกทักษะที่ 2.1
ฐานขอมูลเชงิ สัมพนั ธ

แบบฝกทกั ษะมที ้งั หมด 2 ตอน
- ตอนที่ 1 ตอบคําถาม จํานวน 3 ขอ
- ตอนที่ 2 จบั คขู อ ที่มีความสัมพันธ จํานวน 5 ขอ

ชอื่ ...............................................นามสกลุ ..............................................เลขท.่ี .....................ช้นั ม. 5/......

ตอนท่ี 1 ใหนักเรยี นตอบคาํ ถามตอไปนี้ใหถ กู ตอง (ขอละ 2 คะแนน)

1. ฐานขอ มลู เชิงสมั พันธ หมายถงึ ...................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

2. องคป ระกอบของฐานขอมูลเชิงสมั พันธม ีกี่สวน อะไรบาง……………..…………………………………………………….
.....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

3. จงบอกขอดขี องฐานขอ มูลเชงิ สัมพนั ธ ………………..…………………………………………………………………………….
.....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

คะแนนเตม็ 6 คะแนน คะแนนทีไ่ ด คือ .........................คะแนน

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอมaลู dเชdิงสr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

14

ตอนที่ 2 จงเลอื กคาํ จากรายการทางขวามอื ท่มี ีความสัมพันธก นั มากท่สี ุดกบั ขอความทางซายมือ

แลวนําตวั อกั ษรหนา คาํ ทางขวามือเขียนลงในชอ งวางทางซายมือ ( ขอ ละ 1 คะแนน )

.......... 1. จํานวนของคอลัมนในรเี ลช่ัน ก. รีเลชัน่ (Relation)

.......... 2. แถวในรีเลชนั่ ข. ทัพเพิล (Tuple)

.......... 3. ตารางสองมิติท่ีประกอบดวยแถวและคอลัมน ค. แอททรบิ ิวท (Attribute)

.......... 4. จํานวนแถวขอ มูลในรีเลชนั่ ง. คารด นิ ลั ลติ ิ้ (Cardinality)

.......... 5. คอลัมนในรเี ลชัน่ จ. ดีกรี (Degree)

ฉ. โดเมน (Domain)

ช. คียหลัก (Primary key)

คะแนนเตม็ 5 คะแนน คะแนนทไี่ ด คอื .........................คะแนน

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmือ่ งpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

15

แบบบันทึกคะแนน

แบบฝก ทักษะที่ 2.1 คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด รอยละ
ตอนที่ 1 6
ตอนที่ 2 5
รวม 11

เกณฑก ารใหคะแนนการทาํ แบบฝกทกั ษะท่ี 2.1

ตอนที่ 1
พิจารณาการใหคะแนน จากการตอบคาํ ถามแตล ะขอ ขอ ละ 2 คะแนน

ตอบไดถูกตองครบถวน ได 2 คะแนน
ตอบไดถ กู ตอ งบางสว น ได 1 คะแนน
ตอบไมถูกตอ งเลย ได 0 คะแนน

ตอนท่ี 2
พิจารณาการใหคะแนน จากการตอบคาํ ถาม ขอ ละ 1 คะแนน

ตอบถูก ได 1 คะแนน
ตอบไมถ ูกตอง ได 0 คะแนน
ไมตอบคาํ ถาม ได 0 คะแนน

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอมaลู dเชdิงสr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

16

ใบความรทู ี่ 2.2

โครงสรางฐานขอมลู เชงิ สัมพนั ธ

โครงสรางฐานขอ มูลเชงิ สมั พนั ธ

ฐานขอมูลเชิงสมั พันธ มกี ารใชโ ครงสรา งขอมูลในเชงิ ตรรกะเพียงรูปแบบเดยี วเทา น้ัน คอื รเี ลช่ัน โดยที่
รีเลชัน่ จะถูกมองเหน็ ในลกั ษณะของตาราง (table)

1. รีเลชนั่

รเี ลช่นั (Relation) หรือ ตาราง (Table) เปน ความสัมพันธข องขอ มลู ในรปู แบบตาราง 2 มติ ิ
ประกอบดวยคอลัมนและแถว ดงั น้ี

- คอลัมน แสดงถงึ คุณลกั ษณะของรเี ลช่ัน ซง่ึ หมายถงึ เขตขอมลู (Field) หรอื แอททรบิ ิวต
ของรเี ลชน่ั

- แถว มคี วามหมายเหมือนระเบยี นขอมูล (Record) ซง่ึ เรยี กอกี อยางหน่ึงวา ทัพเพิล (Tuple)

ตารางท่ี 2.2 โครงสรางของรีเลช่นั

ฐานขอ มูลเชงิ สมั พนั ธ แบบจําลองแบบ E-R โปรแกรมเมอร ผใู ชงานท่ัวไป
รเี ลชน่ั เอนทิตี้ แฟม ขอมลู ตาราง
เขตขอมูล คอลัมน
แอททริบิวต แอททริบิวต ระเบยี น แถว
ทัพเพลิ หรอื เรคอรด สมาชกิ ของเอนทติ ี้

เพอื่ ใหเ กิดความเขา ใจโครงสรา งของรีเลชน่ั ท่ชี ัดเจนยง่ิ ข้นึ ขอยกตัวอยา งรเี ลชั่น “นักเรียน”
ซึ่งเปน รีเลชน่ั หนง่ึ ของฐานขอมลู เชงิ สมั พันธของขอ มูลนกั เรียน แสดงดังรปู ภาพที่ 2.1

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmือ่ งpฐaานnขyอ มaูลdเชdิงสr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

17

ชอื่ รีเลชน่ั

นักเรียน ช่ือ นามสกุล หมโู ลหติ วัน เดือน ปเกดิ ทพั เ
กญั ญา สายบุญ A 25 ก.พ. 2543 พิล
เลขประจําตวั จาริณี กอบกลุ B 12 เม.ย. 2544 หรือ
35001 สายฝน อักษรถงึ B 4 ส.ค. 2543
35002 อดศิ ักดิ์ จตุรพิรยี  O 10 ต.ค. 2544
35003
35004

แอทริบิวต หรือ คอลัมภ ชองขอ มูลหรือ Cell

ภาพที่ 2.1 แสดงรเี ลชน่ั นักเรียน

จากรูปที่ 2.1 แสดงรเี ลชนั่ หรอื ตารางนกั เรียน ในโรงเรยี นแหงหน่งึ ประกอบดวย
- แอทรบิ ิวต หรอื คอลัมภ คอื เลขประจาํ ตวั ชอ่ื สกลุ หมโู ลหติ และ วันเดอื นป
- ทพั เพลิ หรือ แถว ของตารางแตละแถว แสดงถึงสมาชิกของตาราง ซงึ่ ไดแ ก ขอ มลู ของนักเรียน

แตละคน ทีม่ ีชือ่ แอททริบิวตเ หมอื นกันแตข อมูลภายในแอททริบิวตแ ตกตา งกัน

2. คุณสมบตั ิของรีเลช่ัน

1. ชอ ง (Cell) แตล ะชอ งของตารางจะเกบ็ ขอ มูลไดเพยี งคาเดียว (Single Value)
2. ชนิดขอ มูล ชนิดขอมูลทอ่ี ยูใ นคอลัมนเ ดียวกนั จะตอ งมีชนิดขอ มูล (Data Type) เปน แบบเดียวกนั
เชน แอททรบิ ิวต วนั เดือนปเ กดิ ของทุกแถวจะตองมขี อมลู ทีเ่ ปน วันที่ เทาน้ัน
3. ช่อื คอลมั น ชอื่ คอลมั นแ ตละคอลัมนข องรีเลช่นั หนึ่งๆ จะตอ งมชี อื่ คอลัมนท ไ่ี มซา้ํ กนั สวนลาํ ดับ
ของคอลัมนกอนและหลังไมถ อื วาสําคญั
4. แถวขอมลู แถวขอมลู แตล ะแถวของทกุ คอลัมนในรเี ลช่ันหน่งึ ๆ ตองไมซ ้ํากัน (ทกุ คอลมั น) สวนการ
เรยี งลาํ ดับของแถวไมถอื วาสําคัญ

จาํ นวนแอททรบิ วิ ตในรีเลช่นั เรยี กวา ดกี รี (Degree) ของรเี ลชนั่ สวนจาํ นวนทพั เพิลท่ีมีอยูใน
รเี ลชัน่ หน่ึง เรยี กวา คารด ินาลิตี้ (Cardinality) หรือจํานวนแถวของขอมลู ในรีเลชั่นนน่ั เอง

ดังนน้ั จากตวั อยาง รเี ลชั่น “นกั เรยี น” ขา งตน สรปุ ไดดงั นี้
- ดีกรี เทา กบั 5 เนอื่ งจากมจี าํ นวนแอททริบวิ ต 5 แอททรบิ วิ ต
- คารดินาลติ ้ี เทากบั 4 เพราะมีสมาชิกของตารางอยู 4 แถว

[ T y pชeุดทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอมaลู dเชdิงสr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

18

- โดเมน (Domain) คือ ขอบเขตของคา ของขอ มูลท่คี วรจะเปนในแตละแอททรบิ วิ ต ซึง่ เซตของ
คาทเ่ี ปน ไปไดในแอตทรบิ ิวตน้นั แตล ะโดเมนจะถกู กําหนดดว ย ชื่อ, ชนดิ ขอมลู (data type) และ รปู แบบ
(Format) ซึง่ เปน การกําหนดขอบเขตคา ขอ มูลและชนดิ ขอมลู ของแตละ Attribute ทส่ี ามารถเปน ไปได จาก
ตัวอยา งรเี ลชน่ั นักเรยี น ในภาพประกอบ 2.1 แอตทริบิวตข อง หมโู ลหติ คอื หมูโลหิตทเ่ี ปน ไปได คอื A B
AB และ O เทา นน้ั

3. รปู แบบของรีเลช่นั

จากรปู แบบรเี ลชนั่ ในรปู ภาพที่ 2.1 สามารถเขยี นฐานขอมูลเชงิ สมั พันธสําหรบั รเี ลชั่น “นกั เรียน”
ไดด ังตารางท่ี 2.1

ตารางที่ 2.1 แสดงรีเลชัน่ นักเรียน

นักเรียน ชอ่ื สกุล หมูโลหติ วัน เดือน ปเ กิด
เลขประจําตัว

หรอื อาจเขยี นแทนดวยขอความส้ันๆ ทป่ี ระกอบดวย ชือ่ รีเลช่นั แลว ตามดวยวงเลบ็ ซึ่งภายใน
ประกอบดว ยช่อื ของแอททริบิวตต างๆ ดังน้ี

นกั เรยี น (เลขประจําตัว, ชอ่ื , สกุล, หมูโลหิต, วนั เดอื นปเ กดิ )

4. ประเภทของรเี ลชั่น

ในระบบจดั การฐานขอ มูลท่ัว ๆ ไป รเี ลชน่ั จาํ แนกออกไดเปน 2 ประเภท ดังนค้ี อื

1) รเี ลชน่ั หลัก (Base Relation) เปนรีเลช่นั ที่ถูกกําหนดข้ึนเพื่อเก็บขอมูลและเพื่อนาํ ขอมูลไปใชเมอื่

มกี ารสรางรีเลชั่น โดยใช Data Definition Language เชน ใน SQL คาํ ส่ัง CREATE TABLE เปน การสราง
รีเลชนั่ หลกั หลังจากนนั้ ก็จะทาํ การเก็บขอมูลเพอ่ื การเรียกใชขอ มูลในภายหลัง รีเลช่นั หลกั จะเปนตารางท่ีจดั เกบ็
ขอ มลู จรงิ ไว

2) วิว (View) หรืออาจเรยี กอกี อยางหน่งึ วา รีเลชน่ั สมมตุ ิ (Virtual Relation) เปน Relation ท่ีถูกสราง
ข้นึ ตามความตอ งการใชขอ มูลของผใู ชแ ตละคน เน่ืองจาก ผูใชแ ตล ะคนอาจตอ งการใชขอ มูลในลกั ษณะที่
แตกตา งกัน จึงทําการกําหนดวิวของตวั เองขึน้ มาจากรีเลชัน่ หลกั เพือ่ ความสะดวกในการใชขอมูล และชวยให
การรักษาความปลอดภยั ของฐานขอมลู ทําไดง า ยข้ึน รเี ลชัน่ ที่ถูกสมมตขิ ึน้ มาน้จี ะไมมกี ารเก็บขอ มูลจริง ๆ ใน
ระบบฐานขอมูล

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmอื่ งpฐaานnขyอมaูลdเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

19

คาํ ถามพิเศษที่ 2

รเี ลช่ัน หมายถึงอะไร ประกอบดว ยอะไรบา งและมีคุณสมบตั ิอยา งไร

3 คะแนน

ตอบ .......................................................................................................................................

.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmอ่ื งpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

20

แบบฝก ทกั ษะท่ี 2.2

โครงสรา งฐานขอ มลู เชงิ สัมพันธ

ชอื่ ....................................................นามสกลุ ..............................................เลขท.่ี .....................ช้นั 5/......
คําชแ้ี จง ใหนักเรียนตอบคําถามตอ ไปน้ี (ขอละ 2 คะแนน)

1. รเี ลชัน่ หมายถึง ..................................................................................................................................
2. รีเลชน่ั ประกอบดว ย ..........................................................................................................................
3. ทัพเพิล หมายถงึ ...................................................................................................................................
4. แอททริบวิ ต หมายถึง .........................................................................................................................
5. ดีกรี หมายถึง.......................................................................................................................................
6. คารด ินาลิตี้ หมายถึง.........................................................................................................................

ขอ มูลบรษิ ทั แหงหน่งึ ประกอบดว ยตาราง รีเลชนั่ พนกั งาน ดงั ตอไปนี้

พนกั งาน นามสกุล ตาํ แหนง ฝาย
รหสั พนกั งาน ชื่อ รกั ดี หวั หนา แผนกบัญชกี ารเงนิ ธรุ การ
จริงใจ หวั หนาแผนกบุคลากร ธุรการ
711001 กอบกลุ ซื่อสตั ย หวั หนา แผนกประชาสัมพันธ ธุรการ
711002 สัญญา สุดยอด หวั หนา แผนกการตลาด การตลาด
711003 สจุ ิน
711004 วิชยั

จากตาราง รีเลชัน่ พนักงาน ใหต อบคําถามขอท่ี 7-9 ตอไปน้ี

7 . ตาราง รเี ลชน่ั พนักงานมกี ี่แอททริบิวต ประกอบดวยแอทรบิ ิวตอะไรบาง
…………………………………………......……………………………………………………………………………………

8. ตาราง รเี ลช่นั พนกั งานมกี ่ีทัพเพลิ
……………………........…………………………………………………………………………………………………………

9. จากตาราง รเี ลช่ันพนักงาน สามารถเขยี นรีเลชัน่ ในรปู แบบขอความไดอยางไร
……………………........…………………………………………………………………………………………………………

คะแนนเตม็ 18 คะแนน คะแนนทีไ่ ด คอื .........................คะแนน

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmอื่ งpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

21

แบบบนั ทึกคะแนน

แบบฝก ทกั ษะท่ี 2.2 คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด รอ ยละ
รวม 18

เกณฑก ารใหค ะแนนการทําแบบฝก ทักษะท่ี 2.2

พจิ ารณาการใหคะแนน จากการตอบคําถามแตล ะขอ ขอละ 2 คะแนน
ตอบไดถกู ตอ งครบถวน ได 2 คะแนน
ตอบไดถ ูกตอ งบางสว น ได 1 คะแนน
ตอบไมถ กู ตอ งเลย ได 0 คะแนน

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmอื่ งpฐaานnขyอ มaูลdเชdิงสr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

22

ใบความรูที่ 2.3

คยี (Key)

คีย 1. ความหมายของคยี (Key)

คีย (key) คอื แอตทรบิ วิ ต ทสี่ ามารถใชบ ง บอกความแตกตางของแตล ะทัพเพลิ ไดใ นรีเลชั่น

อาจเปน แอตทริบวิ ตเด่ยี วๆ หรอื กลุมของแอตทรบิ ิวต กไ็ ด

2. ประเภทของคยี 
2.1 ซุปเปอรค ีย (Super key) คือ แอตทริบวิ ตห รอื กลมุ ของแอตทริบวิ ต ที่สามารถบง บอกความ

แตกตางของแตละทพั เพิลได

ตารางที่ 2.2 ขอมลู ในรเี ลช่นั นักศึกษา

นักศึกษา ชอื่ นามสกุล เลขทบ่ี ัตรประชาชน
รหสั นักศกึ ษา สามารถ ประเสรฐิ กุล 3120100475991
56001 วชิ า ปญญาเลิศ 3120100475992
56002 นา ทพิ ย วิเศษศริ ิ 3120100475993
56003

จากตารางที่ 2.2 ประกอบไปดวยซุปเปอรค ียดงั ตอ ไปนี้
- รหสั นกั ศึกษา
- รหัสนักศกึ ษา, ช่อื
- รหสั นกั ศกึ ษา, ช่ือ, นามสกลุ
- เลขทบ่ี ัตรประชาชน

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmือ่ งpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

23

2.2 คียห ลัก (Primary key) คอื คียค ูแ ขงท่ีถกู เลอื ก เพือ่ ใชบอกความแตกตางของแตละทพั เพลิ ใน

รเี ลชน่ั และไมมีคาเปนวาง(Null) จากตารางที่ 2.2 มีคียห ลกั ได 2 ตัว คอื รหัสนักศกึ ษา และ เลขทีบ่ ัตร
ประชาชน แตในรีเลช่นั หน่งึ จะมีคียห ลกั ได 1 ตวั เทา นน้ั ดงั นน้ั ควรเลอื กอยา งใดอยา งหน่ึง

คณุ สมบตั ขิ องคยี หลกั

1) คยี หลกั ซาํ้ กนั ไมได
2) คยี หลักอาจเปน แคห นง่ึ แอตทรบิ ิวตห รอื กลมุ ของแอตทรบิ วิ ตก ไ็ ด

ตวั อยางเชน ในตารางที่ 2.2 มีแอตทรบิ ิวตเดียวท่ีเปนคียหลัก ซง่ึ อาจจะเปน “รหสั นักศึกษา” หรอื
“เลขทีบ่ ัตรประชาชน” ก็ได แตข อ มูลบางตารางอาจตองอาศัยแอตทรบิ ิวตต้งั แต 2 ตัวขึ้นไปมาประกอบกนั เปน
คยี หลัก เพอื่ ใหเ กิดความแตกตา งระหวา งทพั เพิล ดงั เชน ในตารางท่ี 2.3

ตารางที่ 2.3 ขอ มูลในรเี ลชัน่ การลงทะเบยี นเรยี นของนักศึกษา ปก ารศึกษา 1/56

รหสั นกั ศึกษา ชื่อ รหสั วิชา ช่ือวชิ า ปการศกึ ษา
5620249001 ปรีชา 111 คอมพิวเตอร 1/56
5620249001 ปรชี า 222 ภาษาไทย 1/56
5620249002 เกรียงไกร 111 คอมพวิ เตอร 1/56
5620249003 ฉตั รชยั 333 ภาษาอังกฤษ 1/56
5620249003 ฉัตรชยั 222 ภาษาไทย 1/56
5620249003 ฉัตรชัย 444 สง่ิ แวดลอม 1/56

จากตารางท่ี 2.3 ไมส ามารถใหแอตทรบิ ิวต รหสั นักศึกษา เปน คยี หลกั เพียงแอตทริบิวตเ ดียวได เพราะ
จะเหน็ วา รหสั นกั ศกึ ษา 5620249001 ของทัพเพิลหรือแถวท่ี 1 จะไปซํา้ กับแถวที่ 2 แตถา ใหแอตทรบิ วิ ต
“รหัสนักศึกษา” และ “รหัสวิชา” เปน คยี หลกั แลวพจิ ารณาขอ มลู ของ 2 แอตทริบวิ ตน ี้ จะเหน็ วา ขอ มลู ไมซ ํ้า
กันแลว ดังนน้ั ตารางที่ 2.3 จึงมีคียหลักซ่ึงประกอบดวยแอตทริบิวต 2 ตัวประกอบกนั คือ
“รหสั นักศึกษา” และ “รหสั วชิ า”

3) คียหลักจะเปน คา วา ง (null) ไมไ ด เพราะฉะนนั้ ในการกรอกขอ มลู ตา งๆ ลงในตาราง แอตทรบิ วิ ตใด
ทเ่ี รากําหนดใหเ ปน คยี หลักตองกรอกขอ มูลใหครบ คือ จะไมมคี าไมไ ด แตแอตทริบวิ ตอ ืน่ อาจจะปลอ ยเวนวา งไว
กไ็ ดถ า ไมท ราบคา

จากรีเลชน่ั “การลงทะเบยี นเรียนของนกั ศกึ ษา” ขางตนหากจะพิจารณาวาแอททริบวิ ตใดเปน คียห ลัก
จะพบวา แอททรบิ ิวตท มี่ ีขอมูลไมซ ้ํากันเลย คอื แอททริบิวต รหสั นักศึกษา เพราะสามารถเจาะจงถึงแถวขอมลู
นักศึกษาคนใดคนหน่งึ ได ดังน้ัน คียห ลักสาํ หรบั รเี ลช่นั “การลงทะเบียนเรียนของนกั ศึกษา” คือ รหสั นักศึกษา

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรm่อื งpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

24

แอททรบิ ิวตทเ่ี ปนคียห ลักของรีเลชัน่ จะแทนไดด วยการขดี เสนใตแ อททริบวิ ต ดงั กลาว ดงั แสดงใน
ขอความสญั ลักษณต อไปนี้

การลงทะเบยี นเรยี น (รหสั นักศึกษา, ช่ือ,รหสั วิชา, ช่ือวชิ า, ปการศกึ ษา)

2.3 คยี ร วม (Composite Key) คอื คยี หลักทีป่ ระกอบดว ยแอททรบิ วิ ตมากกวาหนึง่ แอททรบิ วิ ตข ึน้ ไป

2.4 คยี คูแขง (Candidate Key) สาํ หรบั รีเลชน่ั บางรเี ลช่นั อาจมีแอททริบิวตหลายแอททริบวิ ตทม่ี ี

คณุ สมบัติเปนคียห ลกั ได จะเรยี กกลมุ ของแอททรบิ วิ ตทสี่ ามารถเปนคยี ห ลกั ไดว า คยี ค ูแขง (Candidate Key)

2.5 คยี นอก(Foreign key) คอื แอตทริบวิ ตท ใี่ ชใ นการเชอ่ื มตอกบั เอนทิตี อนื่ ๆ เพอื่ แสดง

ความสมั พันธ

คณุ สมบัติของคยี น อก คอื

- คียนอกสามารถมคี าซาํ้ กันได
- คยี นอกสามารถเปน คา วางได
- คยี น อกทีไ่ มเ ปน คา วางจะเปนคา ทช่ี ี้ไปยงั คียหลกั ของเอนทติ ที สี่ มั พันธกัน

รหสั นักศึกษา ชอื่ นกั ศกึ ษา GPA
5600555 กรรณิการ สกุลศรี 2.50
5600999 สายสมร ปญญาเลศิ 3.75

คีย์นอก

รหัสนกั ศกึ ษา รหสั วิชา เกรด
5600555 40001 B
5600555 40005 C
5600999 40001 A

รหัสวิชา ช่อื วิชา หนว ยกิต
40001 ภาษาไทย 2
40005 คณิตศาสตร 3

ภาพท่ี 2.2 แสดงตัวอยางคียนอก

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmือ่ งpฐaานnขyอ มaลู dเชdิงสr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

25

2.6 คียร อง (Secondary key) คอื แอตทริบิวตทไ่ี มเปน คยี ห ลกั แตส ามารถใชในการคนหา

ขอมูลน้ันๆ ได โดยคียร องจะมคี า ซา้ํ กนั ได เรียกอีกชอ่ื วา “Index Key” ทาํ หนา ท่ีชว ยในการสืบคนขอมูล

ตัวอยางเชน ในตารางที่ 2.4 มี รหสั นกั ศกึ ษา เปนคียห ลัก แตห ากตอ งการคน หาขอ มูลจากชื่อ
นักศกึ ษา แอตทรบิ วิ ต ชื่อ ก็จะเปน คียร อง หรือถาตอ งการคน หาขอมูลจาก นามสกลุ นักศึกษา แอตทริบิวต
นามสกุล กจ็ ะเปน คียรอง เปน ตน

ตารางท่ี 2.4 คียร องทีใ่ ชในการคนหาขอ มลู

นกั ศึกษา ช่ือ นามสกลุ เบอรโทรศพั ท
สามารถ ประเสรฐิ กลุ 0-1111-1111
รหัสนักศกึ ษา วิชา ปญ ญาเลศิ 0-2222-2222
56111 นา้ํ ทิพย วิเศษศริ ิ 0-5555-5555
56112 สมจติ ร สมสกุลวงศ 0-6666-6666
56113 วชิ า รกั ศกั ดศ์ิ รี 0-9999-9999
56114
56115

ศึกษาสงั เกต

1. รีเลชัน่ ใดท่มี คี ียน อกอยดู วย แสดงวา รีเลชั่นนัน้ มคี วามสัมพนั ธกบั รีเลชน่ั อน่ื ใน
ลกั ษณะแม- ลกู (parent-child) นัน่ คือ รีเลชน่ั ทีม่ ีคียน อกถือวาเปน รเี ลช่ันลกู และอีก
รเี ลชน่ั หนง่ึ เปน รีเลชน่ั แม ความสําคญั ระหวา งรเี ลชน่ั แม- ลกู เก่ยี วของกบั การรักษา
ความคงสภาพของขอ มูล

2. จํานวนคยี นอกของรีเลช่นั ใดรเี ลชนั่ หน่งึ จะเปนตัวบง บอกถึงจํานวนความสมั พนั ธ
ทรี่ เี ลชนั่ นั้นมกี บั รเี ลชนั่ อ่นื

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอมaลู dเชdงิ สr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

26

คาํ ถามพเิ ศษที่ 3

คยี ( Key) หมายถงึ อะไร และมคี ียอ ะไรบา ง

2 คะแนน

ตอบ .......................................................................................................................................

.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอ มaูลdเชdงิ สr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

27

แบบฝกทกั ษะท่ี 2.3

คยี (Key)

แบบฝก ทกั ษะมที ง้ั หมด 2 ตอน
- ตอนท่ี 1 ตอบคําถาม จํานวน 4 ขอ
- ตอนที่ 2 ตอบคาํ ถามจากตาราง ฐานขอ มลู จํานวน 5 ขอ

ชื่อ....................................................นามสกุล..............................................เลขท่ี......................ชัน้ 5/......
ตอนท่ี 1 ใหน กั เรียนตอบคาํ ถามตอ ไปน้ี (ขอ ละ 2 คะแนน)

1. คยี  หมายถงึ ..........................................................................................................................................
………………………………………………………………………………....………………………………………………………….

2. คยี หลกั หมายถงึ ....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

3. คยี นอก หมายถงึ ...................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

4. จงบอกคณุ สมบตั ิของคยี น อก .................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................

คะแนนเตม็ 8 คะแนน คะแนนที่ได คอื .........................คะแนน

ตอนท่ี 2 โรงเรยี นแหงหน่งึ มีการเกบ็ ฐานขอมูลการลงทะเบียนเรยี นกิจกรรมชุมนุม แสดงตาราง รีเลชน่ั ดงั น้ี

นกั เรยี น นามสกลุ เลขประจาํ ตวั ประชาชน
เลขประจําตัว ชอ่ื ยากะจิ 4174884561213
มรรคาเขต 4174884561417
45002 สุกญั ญา ทองสีสัน 4174884561845
45006 สมหมาย ยาประจัน 4174884561849
45008 สมชาย
45009 สมหมาย

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอมaูลdเชdงิ สr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

28

ชมุ นุม หอ งเรยี น ครทู ี่ปรึกษาชุมนมุ
รหัสชมุ นุม ชื่อชมุ นุม 123 รหัสครู ชื่อครู
412 001 วิทยา มิหอมมิ
601 คอมพวิ เตอร 214 002 อนวัช เขยี วแกว
602 ลลี าศ 138 003 ลยี านา ประทีบวฒั นพนั ธ
603 คณติ คิดเร็ว 004 ตรีนุช ทิศเมอื ง
604 ตนไมพดู ได

การลงทะเบียนชุมนมุ รหสั ครู
เลขประจาํ ตัว รหสั ชมุ นุม 001
45002 601 002
45006 602 003
45008 603 004
45009 604

จาก รเี ลชน่ั ท่ีสรางข้ึนมา จงตอบคําถาม ขอ 5-9

5. จาก รเี ลชน่ั นักเรียน คยี ห ลัก คือ ......................................................................................................
6. จาก รีเลช่ัน นกั เรยี น คยี ค แู ขง คือ .....................................................................................................
7. จาก รีเลชัน่ ท้ังหมด คยี น อก คอื ...........................................................................................................

.............................................................................................................................................................
8. จาก รเี ลช่ัน นกั เรียน คยี ร อง คือ ........................................................................................................
9. จาก รเี ลชั่น ชุมนุม สามารถเขียนขอ ความสัญลกั ษณไ ดอ ยา งไร..........................................................

.............................................................................................................................................................

คะแนนเตม็ 5 คะแนน คะแนนท่ีได คือ .........................คะแนน

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmอื่ งpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

29

แบบบันทึกคะแนน

แบบฝกทักษะท่ี 2.3 คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด รอ ยละ
ตอนท่ี 1 8
ตอนท่ี 2 5
รวม 13

เกณฑก ารใหคะแนนการทาํ แบบฝก ทักษะท่ี 2.3

ตอนที่ 1
พิจารณาการใหคะแนน จากการตอบคาํ ถามแตละขอ ขอ ละ 2 คะแนน

ตอบไดถ กู ตองครบถวน ได 2 คะแนน
ตอบไดถกู ตอ งบางสว น ได 1 คะแนน
ตอบไมถกตองเลย ได 0 คะแนน

ตอนท่ี 2
พจิ ารณาการใหค ะแนน จากการตอบคาํ ถาม ขอละ 1 คะแนน

ตอบถกู ได 1 คะแนน
ตอบไมถ ูกตอง ได 0 คะแนน
ไมตอบคําถาม ได 0 คะแนน

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรm่อื งpฐaานnขyอมaูลdเชdิงสr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

30

แบบฝกหดั ทา ยเลม

ตอนที่ 1 ใหนกั เรียนตอบคําถามตอ ไปน้ี
1. จงบอกความหมายของฐานขอมูลเชงิ สมั พันธ (ขอ ละ 2 คะแนน)
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
2. จงบอกองคป ระกอบของฐานขอมลู เชงิ สมั พนั ธ (ขอละ 2 คะแนน)
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
3. จงบอกขอดขี องฐานขอ มูลเชิงสัมพนั ธ (ขอ ละ 2 คะแนน)
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
4. จงบอกความหมายของคาํ ศพั ทต อไปนี้ (ขอ ละ 2 คะแนน)

4.1 รเี ลช่ัน
…………………………………………….............................……………………………………………………………………………

4.2 แอททรบิ วิ ต
…..............................................………………………………………………………………………………………………………

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmอ่ื งpฐaานnขyอมaลู dเชdิงสr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

31

4.3 ทัพเพลิ
….....................……………………………………………………………………………………………………………………………

4.4 คยี หลัก
....................…..……………………………………………………………………………………………………………………………

4.5 คียคแู ขง
.......................………………………………………………………………………………………………………………………………

4.6 คยี น อก
….......................……………………………………………………………………………………………………………………………

5. จงบอกองคป ระกอบของฐานขอ มูลเชิงสัมพันธ (ขอละ 2 คะแนน)
..............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
6. รเี ลช่ันมีก่ีประเภทอะไรบาง (ขอ ละ 2 คะแนน)
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

คะแนนเต็ม 22 คะแนน คะแนนทไี่ ด คือ .........................คะแนน

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอ มaูลdเชdิงสr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

32

ตอนที่ 2 ขอ มลู รา นคา แหงหนึ่ง ประกอบดวยรีเลชน่ั ลกู คา และรเี ลชนั่ การสงั่ ซอ้ื ดังรายละเอยี ดตอ ไปน้ี

ลกู คา ชือ่ สกุล ท่อี ยู เบอรโทรศัพท
รหสั ลกู คา อุไร แซอ อง 45 ม.6 ต.คลองขดุ อ.เมอื ง จ.สตลู 0850028857
45001 วารุณี รักงาม 62 ม.1 ต.พิมาน อ.เมอื ง จ.สตูล 0810029978
45002 สมุ าลี แสนสวย 74 ม.5 ต.แประใต อ.ทา แพ จ.สตลู 0852286612
45003

การสง่ั ซอ้ื รหสั ลูกคา วนั ทีส่ ัง่ สินคา วันที่สงสนิ คา
รหสั การสง่ั ซือ้ 45001 10/01/59 11/01/59
45002 20/01/59 20/01/59
99001 45003 15/02/59 16/02/59
99002 45001 19/02/59 20/02/59
99003
99004

จากรเี ลชั่นลูกคา และรีเลชัน่ การสง่ั ซือ้ ใหต อบคําถามขอ ที่ 1 –7 (ขอ ละ 1 คะแนน)

1. รเี ลชน่ั ลกู คามีกี่แอททริบิวต ประกอบดวยแอททรบิ วิ ตอะไรบา ง
……………………………………………………………………………………………………………….................................………………
2. รีเลช่นั ลกู คามีกท่ี พั เพิล
………………………………………………………………………………………………………….………………................................……
3. จากรีเลชน่ั ลูกคา สามารถเขียนขอ ความสญั ลกั ษณไดอ ยางไร

..........................................................................................................................................................................
4. รเี ลชั่นการสัง่ ซอ้ื มกี ี่แอททริบวิ ต ประกอบดว ยแอททรบิ ิวตอะไรบาง
……………………………………………………………………………………………………………..................................…………………
5. รเี ลชน่ั การสั่งซอ้ื มกี ท่ี พั เพลิ
………………………………………………………………………………………………………………………..................................………
6. คยี หลักของรเี ลชนั่ ลูกคา คือ
………………………………………………………………………………………………………………………...................................………
7. คยี ห ลักของรเี ลชน่ั การสั่งซอ้ื คือ
………………………………………………………………………………………………………………………...................................………
8. จากรเี ลชัน่ การสงั่ ซอ้ื สามารถเขยี นขอ ความสญั ลักษณไดอยา งไร

...........................................................................................................................................................................
9. คียนอกของรเี ลชัน่ การสง่ั ซือ้ คอื
……………………………………………………………………………………………………………………...................................…………

คะแนนเตม็ 9 คะแนน คะแนนทีไ่ ด คือ .........................คะแนน

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอ มaูลdเชdงิ สr ัมeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

33

แบบบันทึกคะแนน

แบบฝก หัดทา ยบท คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด รอยละ
ตอนที่ 1 22
ตอนท่ี 2 9
รวม 31

เกณฑการใหคะแนนการทาํ แบบฝก หดั ทายเลม

ตอนที่ 1

พจิ ารณาการใหคะแนน จากการตอบคาํ ถามแตละขอ ขอ ละ 2 คะแนน

ตอบไดถกู ตอ งครบถวน ได 2 คะแนน
ตอบไดถ กู ตองบางสวน ได 1 คะแนน
ตอบไมถ ูกตองเลย ได 0 คะแนน
ไมต อบคําถาม ได 0 คะแนน

ตอนท่ี 2

พิจารณาการใหค ะแนน จากการตอบคําถามแตล ะขอ ขอ ละ 1 คะแนน

ตอบไดถูกตอ ง ได 1 คะแนน
ตอบไมถ กู ตอ ง ได 0 คะแนน
ไมต อบคาํ ถาม ได 0 คะแนน

[ T y pชeุดทtี่ h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอมaูลdเชdิงสr ัมeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

34

แบบทดสอบหลังเรยี น
แบบฝก ทกั ษะ ชดุ ท่ี 2
ฐานขอมลู เชิงสัมพนั ธ

คาํ ชีแ้ จง 1. แบบทดสอบเปน แบบเลือกตอบ มี 4 ตวั เลอื ก จาํ นวน 10 ขอ เวลา 10 นาที
2. เลือกคาํ ตอบท่ถี กู ทส่ี ดุ เพยี งขอเดียว โดยใหท ําเครื่องหมาย  ตรงกับคําตอบทถ่ี กู ตอ งลงใน
กระดาษคาํ ตอบ

1. ขอใดเปน องคป ระกอบของฐานขอ มูลเชงิ สัมพนั ธ ?
ก. เอนทิต้ี แอททริบิวต สมาชิกของเอนทิตี้
ข. สว นระบบจดั การฐานขอ มลู สวนจัดเก็บขอ มลู สวนเรยี กใชข อ มูล
ค. สว นแฟม ขอมลู สว นระบบจัดการฐานขอ มลู สว นการเรยี กใชข อ มูล
ง. สวนโครงสรา งขอ มลู สว นจดั การขอ มูล สว นควบคมุ ความคงสภาพของขอ มลู

2. ฐานขอมลู เชิงสมั พันธ หมายถึงขอ ใด?

ก. ความสมั พนั ธข องตาราง 2 มิติ
ข. การสรา งความสมั พันธระหวางขอ มูล
ค. การนาํ ขอมลู ในฐานขอมูลมาแปลงให
ง. การรวบรวมรีเลชนั่ ท่ีมคี วามสมั พนั ธก ันไวด ว ยกนั
3. รีเลชั่น หมายถึงขอ ใด ?
ก. ตาราง 2 มติ ิ
ข. ความสัมพันธร ะหวา งขอมลู
ค. คยี หลกั ทีม่ ขี อมูลไมซ ํา้ กนั เปน คาเอกลักษณ
ง. คาทีใ่ หแ กแ อททริบวิ ตใ นกรณที ่ียงั ไมพรอ มทีจ่ ะใสขอมลู
4. ขอ ใดเปน ขอดีของฐานขอมูลเชงิ สมั พนั ธ ?
ก. เขาใจงาย
ข. สามารถใชขอ มูลรวมกันได
ค. มีพอยทเ ตอรในการเช่ือมโยงขอ มูล
ง. ทาํ ใหการออกแบบฐานขอ มลู มปี ระสทิ ธิภาพมากขึน้

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

35

5. การจดั เก็บขอมูลในรีเลช่ันมีลกั ษณะอยา งไร ?
ก. เปน การจดั เก็บในรปู แบบแฟม ขอมลู
ข. เปน รูปแบบของฐานขอ มลู ทีม่ รี ะบบจัดการฐานขอมลู
ค. เปนรปู แบบของตาราง 2 มิตปิ ระกอบดวยคอลมั น และแถว
ง. เปนรปู แบบความสัมพนั ธข องขอ มลู ประกอบดว ยสมาชิกของเอนทติ ้ี

6. กลมุ ของแอททริบวิ ตท ี่มีสิทธิ์ถกู เลือกใหเปนคียหลกั ของรีเลชั่น คือขอใด ?
ก. คียห ลกั
ข. คยี นอก
ค. คยี ร วม
ง. คยี คูแ ขง ขัน

7. รเี ลช่นั มีก่ปี ระเภท ประกอบดว ยอะไรบาง ?
ก. 2 ประเภท คอลัมน และแถว
ข. 2 ประเภท รีเลช่นั หลกั และววิ
ค. 3 ประเภท รีเลชนั่ แอททรบิ วิ ต เอนทติ ี้
ง. 3 ประเภท รเี ลชนั่ หลกั รเี ลชน่ั สํารองและรีเลชนั่ รวม

8. คยี ท ่ีทุกๆ แถวของตารางจะตองไมมขี อมลู ของแอททริบวิ ตท ี่ซาํ้ กัน หมายถึงขอใด ?
ก. คียหลัก
ข. คยี นอก
ค. คียรวม
ง. คียคูแขง ขัน

9. ขอ ใดเปน แอททริบิวตทใี่ ชใ นการอา งอิงถึงแอททรบิ ิวตเดยี วกนั ในอีกรเี ลชนั่ หน่งึ ?
ก. คียห ลกั
ข. คยี น อก
ค. คยี รวม
ง. คยี ค แู ขง ขัน

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmอื่ งpฐaานnขyอมaูลdเชdิงสr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

36

10. ขอใดตอไปน้ีเปนหมายถึงคียคูแขง(Composite Key) ?
ก. แอททรบิ วิ ตหรอื กลมุ ของแอททรบิ ิวตท ่มี คี ณุ สมบตั เิ ปนคียหลัก แตไมไ ดท ําหนา ที่เปน
คยี หลกั
ข. แอททริบวิ ตท ม่ี ีคาเปนเอกลักษณหรอื มคี า ไมซ้าํ ซอ นกนั ทาํ ใหสามารถระบคุ าของ
แอททรบิ ิวตอน่ื ใน ทัพเพลิ หนง่ึ ๆ ได
ค. แอททริบิวตใ นรเี ลชั่นหนงึ่ ทสี่ ามารถเชอ่ื มโยงอางองิ ถงึ แอททริบวิ ตท ่ีเปนคยี หลักในอีก
รีเลชัน่ หน่งึ ทม่ี คี วามสมั พนั ธกนั ได
ง. กลมุ ของแอททริบิวตท ีน่ าํ มาประกอบกนั เพอ่ื ใหมีคา เปนเอกลกั ษณ ทําใหส ามารถระบุ
คาของแอททรบิ ิวตอ นื่ ในทัพเพิลหน่งึ ๆ ได

คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนทไี่ ด คอื .....................................................คะแนน

เกณฑการใหค ะแนน แบบทดสอบหลังเรียน

พิจารณาการใหค ะแนน จากการตอบคําถามแตละขอ ขอละ 1 คะแนน
ตอบถูกให 1 คะแนน
ตอบผิดให 0 คะแนน
ไมต อบให 0 คะแนน

ตอบมากกวา 1 ตัวเลอื กให 0 คะแนน

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmอ่ื งpฐaานnขyอมaูลdเชdิงสr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

37

กระดาษคําตอบแบบทดสอบกอ นเรยี น

แบบฝก ทักษะ หนว ยท่ี 1 เร่ือง ความรเู บ้ืองตนเกยี่ วกับระบบฐานขอมูล
ชดุ ท่ี 2 ฐานขอมูลเชงิ สัมพนั ธ

รายวชิ า ง30204 การจัดการฐานขอ มลู ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 5

ชอื่ ............................................................................... ชน้ั ................... เลขท่ี .................

ขอ ก ข ค ง คะแนนเตม็ 10
คะแนนท่ไี ด .............
1
2 ผลการประเมนิ
3
4 o ดีมาก
5 o ดี
6 o พอใช
7 o ปรับปรุง
8
9
10

เกณฑก ารประเมิน อยูในเกณฑ ดีมาก
คะแนนระหวา ง 9 – 10 อยใู นเกณฑ ดี
คะแนนระหวาง 7 – 8 อยูในเกณฑ พอใช
คะแนนระหวาง 5 – 6 อยูในเกณฑ ปรับปรงุ
คะแนนระหวาง 0 – 4

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอมaูลdเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

38

บรรณานุกรม

ครรชิต มาลยั วงศ. (2545). “แนวคิดเก่ยี วกับขอมูล,” ใน เอกสารการสอนชุดวิชา การจดั การระบบฐานขอมูล
หนวยท่ี 1. หนา 1-43. นนทบุร:ี มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช.

ณัฐพร เหน็ เจริญเลิศ. (2546) “การใชโปรแกรมสาเร็จเพ่อื จดั การฐานขอมลู ,” ใน เอกสารการสอนชดุ วชิ า
คอมพิวเตอรเ บื้องตน หนว ยที่ 8-15. หนา 107-160. นนทบรุ :ี มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช.

ดวงแกว สวามภิ กั ดิ.์ (2543). ระบบฐานขอมูล. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยเู คช่ัน.
ทักษณิ า สวนานนท. (2544). พจนานกุ รมศัพทคอมพิวเตอร : ฉบับนสิ ติ นักศกึ ษา และบคุ คลทัว่ ไป.

กรุงเทพฯ: ดวงกมลสมัย.

ทักษิณา สวนานนท และ ฐานศิ รา เกียรติบารม.ี (2546). พจนานกุ รมศพั ทคอมพวิ เตอรแ ละอนิ เทอรเ นต็ .
กรุงเทพฯ: วี.ท.ี ซ.ี คอมมวิ นเิ คช่นั .

มณโี ชติ สมานไทย. (2546). คมู อื การออกแบบฐานขอ มลู และภาษา SQL ฉบบั ผเู ร่มิ ตน. นนทบุร:ี อนิ โฟเพรส.
วราภรณ โกวทิ วรางกูร, (2543). ระบบฐานขอมูลและการออกแบบ, กรุงเทพฯ :ศูนยหนังสอื จุฬาลงกรณ

มหาวทิ ยาลยั .

วาสนา สขุ กระสานต.ิ (2545). โลกของคอมพิวเตอร สารสนเทศ และอินเตอรเนต็ . กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ
มหาวิทยาลยั .

สมจติ ร อาจอินทร และ งามนจิ อาจอินทร. (2543). ระบบฐานขอมลู . ขอนแกน : ภาควชิ าวิทยาการ
คอมพวิ เตอร คณะวิทยาศาสตร มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน.

โอภาส เอีย่ มสิรวิ งศ. (2546). การออกแบบและจดั การฐานขอมลู . กรุงเทพฯ: ซีเอด็ ยูเคชั่น.

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรmอื่ งpฐaานnขyอ มaลู dเชdิงสr ัมeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

39

ภาคผนวก

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอ มaูลdเชdงิ สr ัมeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

40

เฉลยแบบทดสอบกอนเรยี น

เฉลย ชุดท่ี 2 ฐานขอ มลู เชงิ สมั พนั ธ

ขอ้ ก ข ค ง

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10 

[ T y pชeุดทtี่ h2e c oเรm่ืองpฐaานnขyอ มaูลdเชdิงสr ัมeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

41

คําถามพเิ ศษท่ี 1

ฐานขอ มลู เชิงสัมพันธค อื อะไร
และมกี ี่องคป ระกอบ อะไรบาง

2 คะแนน

แนวคาํ ตอบ ฐานขอมูลเชิงสัมพนั ธ คือ การรวบรวมรีเลช่นั ตา งๆ ท่ีมคี วามสมั พันธ

(Relationship) ระหวา งกนั เขา ดว ยกัน และมีองคประกอบอยู 3 สว นดวยกนั คอื 1) สว นโครงสรา ง
ของขอมลู (Data Structure) 2) สว นจัดการขอมลู (Data Manipulation) และ 3) สว นควบคุม
ความคงสภาพของขอ มลู (Data Integrity)

[ T y pชeุดทt่ี h2e c oเรm่อื งpฐaานnขyอ มaูลdเชdิงสr ัมeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

42

แบบฝกทักษะท่ี 2.1
ฐานขอมลู เชิงสมั พนั ธ

แบบฝก ทกั ษะมที ้งั หมด 2 ตอน
- ตอนท่ี 1 ตอบคาํ ถามจาํ นวน 3 ขอ
- ตอนที่ 2 จับคขู อที่มีความสมั พันธ จํานวน 5 ขอ

ชอื่ .....................................................นามสกลุ ........................................เลขท่.ี .....................ชัน้ ม. 5/......
ตอนที่ 1 ใหน กั เรยี นตอบคําถามตอ ไปน้ใี ห (ขอ ละ 2 คะแนน)
1. ฐานขอ มูลเชงิ สัมพนั ธ หมายถงึ .....................................................................................................................

แนวตอบ การรวบรวมรีเลช่ันตา งๆ ท่มี คี วามสมั พนั ธ (Relationship) ระหวางกันเขา ดว ยกัน
2. องคป ระกอบของฐานขอมลู เชงิ สมั พันธมีก่ีสว น อะไรบาง.................................................................................

แนวตอบ มี 3 สวน คือ 1) สว นโครงสรางของขอ มูล 2) สว นจดั การขอมูล 3) สวนควบคุมความคงสภาพของ
ขอ มลู
3. จงบอกขอ ดีของฐานขอ มลู เชงิ สัมพนั ธ

แนวตอบ ขอ ดีของฐานขอ มูลเชิงสมั พนั ธ ดงั น้ี
1) เปน รปู แบบของฐานขอ มลู ทเี่ ขาใจงาย
2) มเี ครือ่ งมือทชี่ วยใหผ ูใ ชส ามารถจัดการกบั ขอมลู ไดด วยคําสัง่ งา ยๆ
3) สามารถใชภ าษาทง่ี ายในการเรียกดขู อ มูล
4) การเรียกใชห รือเชื่อมโยงขอ มลู ทําไดง า ย

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmอ่ื งpฐaานnขyอ มaูลdเชdงิ สr มัeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

43

ตอนท่ี 2 จงเลือกคาํ จากรายการทางขวามือทม่ี คี วามสมั พนั ธก นั มากท่ีสดุ กับขอความทางซา ยมอื

แลว นําตัวอักษรหนา คาํ ทางขวามอื เขียนลงในชองวา งทางซายมอื (ขอละ 1 คะแนน )

จ 1. จํานวนของคอลัมนใ นรเี ลชน่ั ก. รเี ลชน่ั (Relation)

ข 2. แถวในรเี ลชนั่ ข. ทพั เพลิ (Tuple)

ก 3. ตารางสองมิตทิ ป่ี ระกอบดวยแถวและคอลัมน ค. แอททรบิ วิ ท (Attribute)

ง 4. จํานวนแถวขอมลู ในรีเลชน่ั ง. คารดินลั ลิติ้ (Cardinality)

ค 5. คอลัมนใ นรีเลชน่ั จ. ดีกรี (Degree)
ฉ. โดเมน (Domain)

ช.คยี ห ลกั (Primary key)

[ T y pชeดุ ทtี่ h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอ มaลู dเชdิงสr ัมeพsันsธ] Page=6fmuj 1

44

คําถามพิเศษที่ 2

รเี ลชั่น หมายถงึ อะไร ประกอบดว ยอะไรบา ง
และมีคุณสมบัตอิ ยา งไร
2 คะแนน

แนวตอบ รเี ลชน่ั หมายถึง ความสมั พนั ธของขอ มูลในรปู แบบตาราง 2 มิติ ประกอบดว ยคอลมั นและ

แถว ซ่งึ มคี ุณสมบัตดิ ังน้ี คอื 1) ชอง(Cell) แตละชอ งของตารางจะเก็บขอมูลไดเพียงคา เดียว 2) ชนดิ
ขอ มลู ทอ่ี ยูในคอลัมนเดยี วกันจะตอ งมีชนิดขอมลู เปน แบบเดียวกนั 3) ชอื่ คอลมั นของรีเลชนั่ หน่งึ ๆ
จะตองมชี อ่ื ทีไ่ มซํ้ากัน และ 4) แถวขอมูลแตล ะแถวของทุกคอลมั นใ นรเี ลช่ันหน่ึงๆ ตอ งไมซา้ํ กนั

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรmื่องpฐaานnขyอ มaลู dเชdงิ สr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1

45

แบบฝก ทกั ษะท่ี 2.2

โครงสรา งฐานขอ มูลเชิงสมั พนั ธ

ช่อื .....................................................นามสกุล.............................................เลขท่.ี .....................ช้ัน 5/......

ใหน ักเรยี นตอบคําถามตอ ไปนใี้ หถ กู ตอ ง (10 คะแนน)

1. รีเลชนั่ หมายถึง ......................................................................................................................................
แนวตอบ ความสัมพนั ธของขอ มลู ในรปู แบบตาราง 2 มิติ

2. รเี ลชัน่ ประกอบดวยอะไรบา ง
แนวตอบ ประกอบดว ย แถวและคอลมั น

3. ดกี รหี มายถงึ อะไร
แนวตอบ จาํ นวนแอททรบิ ิวตใ นรีเลช่นั

4. คารดินาลติ ้ี หมายถงึ อะไร
แนวตอบ จํานวนแถวหรือทพั เพลิ ของขอ มูลในรเี ลช่นั

ขอมูลบรษิ ัทแหง หน่ึง ประกอบดวยตาราง รีเลชนั่ พนกั งาน ดงั ตอ ไปนี้

พนกั งาน นามสกลุ ตําแหนง ฝา ย
รหัสพนกั งาน ช่ือ รักดี หัวหนาแผนกบญั ชกี ารเงิน ธุรการ
จรงิ ใจ หัวหนาแผนกบคุ ลากร ธุรการ
711001 กอบกุล ซอื่ สตั ย หัวหนาแผนกประชาสัมพนั ธ ธุรการ
711002 สัญญา สุดยอด หวั หนาแผนกการตลาด การตลาด
711003 สจุ ิน
711004 วิชัย

จากตาราง รเี ลชน่ั พนักงาน ใหตอบคาํ ถามขอท่ี 5-7 ตอ ไปนี้
5 . ตาราง รเี ลชน่ั พนักงานมกี แี่ อททริบวิ ต ประกอบดวยแอทริบวิ ตอ ะไรบาง

แนวตอบ มี 5 แอทริบวิ ต ประกอบดว ยแอทรบิ ิวต รหสั พนักงาน ชือ่ นามสกุล ตาํ แหนง ฝา ย
6. ตาราง รเี ลช่นั พนกั งานมีกีท่ พั เพลิ

แนวตอบ มี 4 ทัพเพลิ
7. จากตาราง รีเลชัน่ พนักงาน สามารถเขยี นรเี ลชัน่ ในรูปแบบขอ ความไดอ ยา งไร

แนวตอบ พนกั งาน(รหัสพนกั งาน,ชอ่ื , สกุล, ตําแหนง , ฝาย)

[ T y pชeุดทtี่ h2e c oเรm่อื งpฐaานnขyอ มaลู dเชdิงสr ัมeพsนั sธ] Page=6fmuj 1

46

คาํ ถามพิเศษท่ี 3

คยี ค อื อะไร มกี ป่ี ระเภท อะไรบา ง
2 คะแนน

คียคืออะไร มกี ป่ี ระเภท อะไรบา ง
แนวตอบ คยี  คือ แอตทรบิ วิ ต ที่สามารถใชบ ง บอกความแตกตางของแตละทพั เพิลไดใ นรเี ลชนั่ อาจเปน
แอตทริบวิ ตเด่ียวๆ หรือ กลุมของแอตทริบิวต กไ็ ด มที ้ังหมด 6 ประเภท คือ 1) ซุปเปอรคยี  2) คยี หลกั
3) คยี ร วม 4) คียคแู ขง 5) คียส ํารอง และ 6)คยี น อก

[ T y pชeดุ ทt่ี h2e c oเรm่อื งpฐaานnขyอมaลู dเชdิงสr มัeพsันsธ] Page=6fmuj 1


Click to View FlipBook Version