Amaraporn 015

ก

รูปแบบการเรยี นวทิ ยาการคำนวณ

แบบบรู ณาการเพือ่ พัฒนาทักษะในการคดิ แกป้ ัญหา

กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3

เลม่ ที่ 5 เร่อื ง การรวบรวมข้อมูลเพ่ือการประมวลผล

นางสาวอมราพร ซีโ่ ฮ่

ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ

โรงเรยี นเทศบาล 8 (อนบุ าลฝนั ทเ่ี ปน็ จริง)
สังกดั เทศบาลนครตรงั จังหวัดตรัง

ก

คำนำ

รปู แบบการเรียนวิทยาการคำนวณ แบบบูรณาการเพ่ือพฒั นาทักษะใน
การคดิ แก้ปญั หา กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถม
ศึกษาปีที่ 3 ได้จัดทำตามตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551ในการนี้ได้กำหนดให้รายวิชาพื้นฐาน
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ซงึ่ มเี ปา้ หมายพฒั นาผ้เู รียนให้ใช้
ทกั ษะการคิดเชิงคำนวณสามารถคิด วิเคราะห์ แกป้ ัญหา อยา่ งเป็นข้ันตอนและ
เป็นระบบ สามารถค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศ และนำสารสนเทศไปใช้ใน
การแก้ปัญหาประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริงอย่างสร้างสรรค์
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างปลอดภัย รู้เท่าทัน มีความ
รับผิดชอบ มีจรยิ ธรรม

ผจู้ ดั ทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารูปแบบการเรียนวิทยาการคำนวณ แบบบูรณา
การเพื่อพัฒนาทักษะในการคิดแก้ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จะเป็นแนวทางให้แก่ครูผู้สอนวิชา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนผู้สนใจทั่วไปในการพัฒนาคุณภาพการ
เรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ดยี ิ่งขน้ึ

นางสาวอมราพร ซี่โฮ่

สารบญั ข

คำนำ ก
สารบัญ ข
คำชี้แจง ค
คำแนะนำการใช้ ง
สาระ/มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด จ
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1
แบบทดสอบกอ่ นเรียน 2
ใบความรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง การรวบรวมข้อมลู 5
ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่ือง ขอ้ มูลจากประสาทสมั ผสั ของฉัน 8
ใบความร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง การประมวณผล 9
ชุดกจิ กรรมที่ 2 เร่อื ง เกณฑก์ ารเรยี งลำดบั 10
ใบความร้ทู ่ี 3 เร่อื ง การนำเสนอขอ้ มูล 12
ชุดกจิ กรรมที่ 3 เรอ่ื ง การนำเสนอข้อมลู 14
แบบทดสอบหลังเรยี น 15
บรรณานุกรม 18
ภาคผนวก 19
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลงั เรยี น 20
เฉลยชดุ กจิ กรรมที่ 1-3 21

ค

คำชแี้ จง

รูปแบบการเรียนวิทยาการคำนวณ แบบบูรณาการเพอื่ พฒั นาทักษะใน
การคิดแกป้ ญั หา กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถม
ศึกษาปีที่ 3 มีทั้งหมด 6 เล่ม ดังน้ี

เล่มที่ 1 เรื่อง การใช้อลั กอริทึมในการแก้ไขปัญหา
เลม่ ที่ 2 เร่ือง หลักการเขยี นโปรแกรมและตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด
เล่มที่ 3 เร่ือง การเขียนโปรแกรมเขาวงกต
เลม่ ที่ 4 เรื่อง การเขียนโปรแกรมวาดภาพ
เลม่ ท่ี 5 เร่ือง การรวบรวมขอ้ มูลเพือ่ การประมวลผล
เลม่ ที่ 6 เร่ือง การใช้งานอนิ เตอร์เนต็ และสารสนเทศ

ง

คำแนะนำการใช้

รปู แบบการเรียนวิทยาการคำนวณ แบบบูรณาการเพ่ือพัฒนาทักษะ
ในการคิดแก้ปญั หา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถม
ศึกษาปที ี่ 3 เล่มที่ 5 เรื่อง การรวบรวมข้อมูลเพ่ือการประมวลผล มี
รายละเอยี ด ดังน้ี
ลกั ษณะของแบบฝึกทักษะ

รูปแบบการเรียนวิทยาการคำนวณ แบบบูรณาการเพ่ือพัฒนาทกั ษะ
ในการคดิ แก้ปญั หา กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถม
ศกึ ษาปที ี่ 3 เล่มที่ 5 เรื่อง การรวบรวมขอ้ มูลเพอื่ การประมวลผล ประกอบ
ด้วย

1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง การรวบรวมข้อมูล
3. ชดุ กิจกรรมที่ 1 เรอ่ื ง ข้อมูลจากประสาทสัมผัสของฉัน
4. ใบความรู้ท่ี 2 เรื่อง การประมวณผล
5. ชุดกิจกรรมท่ี 2 เรื่อง เกณฑ์การเรียงลำดับ
6. ใบความรู้ท่ี 3 เร่ือง การนำเสนอขอ้ มูล
7. ชุดกิจกรรมท่ี 3 เรอ่ื ง การนำเสนอข้อมูล
8. แบบทดสอบหลงั เรยี น
ขั้นตอนการใช้
1. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ข้อ
2. ศึกษาใบความรู้ 1-3
3. ทำชุดกิจกรรมท่ี 1-3
4. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น จำนวน 10 ข้อ

จ

สาระ/มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบ

ในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รูเ้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม

ตัวชี้วดั ว 4.2 3/4 รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมูล โดยใช้
ซอฟต์แวร์ตามวัตถุประสงค์

สาระสำคัญ
การรวบรวมข้อมูล ทำได้โดยกำหนดหัวขอ้ ทต่ี อ้ งการ เตรยี มอปุ กรณ์

ในการจดบันทกึ เม่อื รวบรวม ข้อมูลแล้วสามารถนำมาประมวลผลอย่าง
ง่าย เชน่ เปรยี บเทียบ จัดกลุม่ เรยี งลำดับ

1

จุดประสงค์การเรยี นรู้

เมื่อนักเรียนทำ รูปแบบการเรียนวิทยาการคำนวณ แบบบูรณาการเพือ่
พัฒนาทักษะในการคิดแก้ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เล่มที่ 5 เรื่อง การรวบรวมข้อมูลเพื่อการ
ประมวลผล จบแล้วนักเรยี นสามารถ

1. การรวบรวมข้อมูลและการประมวลผลอยา่ งงา่ ย
2. รวบรวมข้อมูลได้ถกู ต้อง
3. ประมวลผลข้อมูลได้ถกู ต้อง

2

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรื่อง การรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือการประมวลผล
คำชีแ้ จง ทำเครอ่ื งหมาย × ทับตัวอักษร ก ข ค ง ตรงอกั ษรท่ถี ูกที่สดุ

1. ข้อใดหมายถงึ ข้อมูล
ก.สิง่ ตา่ งๆทเี่ รารับรไู้ ด้
ข. สง่ิ ทถี่ กู ตอ้ งและเชอ่ื ถอื ได้
ค. ข้อเทจ็ จริงทแี่ สดงในหนังสอื เรียน
ง. ขอ้ เทจ็ จรงิ ที่ไดร้ ับการยืนยันว่าถกู ต้องแล้ว

2. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะของข้อมลู ทดี่ ี
ก. มคี วามถูกต้อง
ข. มีความทันสมัย
ค. มีความสวยงาม
ง. มีความน่าเชอื่ ถือ

3. ข้อใดคือประเภทของขอ้ มูลท่แี บ่งตามแหลง่ ข้อมูลท่ีได้รับ
ก. ขอ้ มูลท่ีได้จากส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์
ข. ข้อมูลปฐมภูมแิ ละข้อมลู ทตุ ิยภูมิ
ค. ข้อมูลตวั อกั ษรและข้อมลู รปู ภาพ
ง. ขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากประสารทสมั ผัสทัง้ 5

4. ขอ้ ใดคือขอ้ มูล
ก. น้ำหนักตวั
ข. คะแนนสะสม
ค. กราฟแสดงคะแนนขอ้ สอบ
ง. แผนภมู ิแสดงพัฒนาการของนกั เรียน

3

5. ขอ้ ใดกลา่ วถึงขอ้ มูลทุตยิ ภมู ิไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ตรงตอ่ ความต้องการมากทีส่ ุด
ข. เปน็ ขอ้ มูลทผี่ อู้ ืน่ รวบรวมแลว้ บันทกึ ไว้
ค. เปน็ การแบง่ ข้อมูลตามระบบคอมพวิ เตอร์
ง. สามารถรวบรวมได้โดยการบนั ทกึ จากแหล่งขอ้ มูลนน้ั โดยตรง

6. ข้อใดคือข้อดีของขอ้ มลู ปฐมภูมิ
ก. มคี วามน่าเชอ่ื ถอื สูง
ข. ผา่ นการประมวลผลแลว้
ค. รปู แบบการนำเสนอรวบรวม
ง. ใชเ้ วลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลนอ้ ย

7. บัตรประจำตวั ประชาชนจดั เปน็ ขอ้ มูลประเภทใด
ก. ข้อมูลภาพ
ข. ข้อมูลเสยี ง
ค. ขอ้ มลู ตวั เลข
ง. ข้อมูลตัวอกั ษร

8. ถา้ ตอ้ งการข้อมลู เรอ่ื ง พืชผกั สวนครัว ควรหาข้อมูล
จากแหลง่ ขอ้ มูลใด จึงจะเหมาะสมที่สดุ
ก. เพอื่ น
ข. ห้องสมดุ
ค. ผู้ใหญบ่ า้ น
ง. เกษตรตำบล

9. ขอ้ ใดเปน็ การรวบรวมข้อมูลที่ต้องใชใ้ นการอ่าน
ก. การสังเกตการณ์
ข. การค้นคว้าจากเอกสาร
ค. การสอบถามจากผูเ้ ช่ียวชาญ
ง. การสมั ภาษณ์ผมู้ ปี ระสบการณ์เรื่องนั้นๆ

4

10. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของข้อมลู
ก. ชว่ ยในการวางแผน
ข. ช่วยในการตัดสินใจ
ค. ชว่ ยให้ตดิ ตอ่ ส่ือสารกันงา่ ยขึ้น
ง. ช่วยใหท้ ราบขอ้ มลู ท่ีแทจ้ รงิ

5

ใบความรู้ท่ี 1 เรอื่ ง การรวบรวมขอ้ มูล

ข้อมูล คือ ปริมาณรายละเอียดของเหตุการณ์หรือความจริงที่เกิด
ขึ้นในชีวิตประจำวันรอบๆ ตัวเรา เช่น ข้อมูลบุคคล ข้อมูลสินค้า ข้อมูล
คนไข้ ในชีวิตประจำวัน สามารถรับรู้ได้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่
การฟงั การมองเห็น การสัมผสั การรบั ร้กู ลน่ิ และการรบั รู้รสชาติ

1. ประเภทของขอ้ มลู แบ่งตามลักษณะ
ของข้อมลู ได้ 5 ประเภท ดังนี้

ข้อมูลตัวเลขบอกราคาผลไม้ 1. ขอ้ มูลตัวเลข ข้อมูลทเี่ ป็น
ตัวเลขและสามารถใช้คำนวณได้
เช่น คะแนนสอบ จำนวนเงิน

2. ข้อมูลอักษร ขอ้ มูลที่เป็น ข้อมูลอกั ษร หมายเลขบ้าน
ตัวอักษรทางภาษาหรอื ตวั เลขท่ไี ม่
สามารถคำนวณได้ เช่น ทะเบยี นรถ
ขอ้ ความตา่ งๆ

3. ขอ้ มลู ภาพ ข้อมูลทม่ี ี
ลกั ษณะเป็นภาพ เช่น ภาพวาด
ภาพถ่าย

ขอ้ มูลภาพจากภาพวาด

4. ขอ้ มลู เสยี ง ข้อมูลท่ีสามารถ
ได้ยินดว้ ยหู เชน่ เสยี งดนตรี เสยี งพดู

ขอ้ มลู เสียงจากเสียงดนตรี

ขอ้ มูลกลนิ่ จากอาหาร 6

5.ขอ้ มลู อืน่ ๆ ขอ้ มูลนอก
เหนือจากข้อมลู 4 ประเภท
ขา้ งต้น เชน่ ข้อมลู กล่ิน ข้อมลู
รสชาติ

2. แหลง่ ขอ้ มลู เปน็ ต้นกำเนิดของข้อมูล
ต่างๆ มีท้ังส่ิงมชี ีวิต เช่น คน สตั ว์ และส่งไม่มี
ชวี ติ เช่น หนงั สือ สถานท่ี ซ่งึ แหล่งข้อมลู แบ่ง
ออกเปน็ 2 ประเภท ดังน้ี

1. แหล่งขอ้ มลู ปฐมภมู ิ 2. แหล่งข้อมลู ทตุ ยิ ภมู ิ
แหลง่ ข้อมูลท่ีใหข้ ้อมลู กับ แหล่งข้อมลู ทไ่ี ด้จากการ
ผูร้ วบรวมโดยตรงอาจไดร้ ับข้อมลู เรยี บเรียงข้อมูลของผอู้ ื่น โดยไมไ่ ด้
จากการพบเหน็ สงิ่ ต่างๆ หรอื การ ลงมือสอบถาม สงั เกตหรือสำรวจ
มสี ่วนรว่ มในเหตุการณ์ ด้วยตนเอง

ขอ้ มูลจากการพบเหน็ สิง่ ตา่ งๆ ขอ้ มูลจากการเรียบเรยี ง
ข้อมูลของผู้อ่ืน

7

3. ขน้ั ตอนการรวบรวมข้อมลู คือ การนำ
ขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มลู มารวมกนั ไวใ้ นรูปแบบที่
เหมาะสมด้วยวิธีการตา่ งๆ ซ่งึ มีขน้ั ตอนต่อไปนี้

1. เลอื กหัวข้อทตี่ อ้ งการ 2. เลือกแหลง่ ขอ้ มลู ท่ี
รวบรวมข้อมลู เพ่อื ท่ีจะกำหนด ต้องการรวบรวมขอ้ มลู เชน่
เปา้ หมายของการรวบรวมขอ้ มูล บคุ คล ห้องสมดุ อนิ เทอรเ์ นต็

3. เลอื กวธิ กี ารในการ 4. เลือกอุปกรณท์ ตี่ อ้ งการ
รวบรวมขอ้ มลู เชน่ การสงั เกต ใชใ้ นการรวบรวมข้อมลู เช่น
การสัมภาษณ์ การสอบถาม ดินสอ กล้องถ่ายรูป สมดุ จด
บนั ทึก

5. รวบรวมข้อมลู ทำการรวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ ตามที่วางแผนไว้
พรอ้ มกบั ใช้อุปกรณ์ท่ีเตรียมสำหรบั การบันทกึ ขอ้ มลู

8

ชุดกิจกรรมที่ 1 เรอ่ื ง ข้อมลู จากประสาทสัมผัสของฉัน
แก้ปัญหา (อัลกอริทึม)
คำชี้แจง ให้นักเรียนบันทึกข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ใน
ชวี ิตประจำวนั 2 กจิ กรรม โดยระบปุ ระเภทของประสาทสมั ผัสและข้อมูล
ท่ไี ดร้ ับให้ถกู ต้อง

กิจกรรมที่ 1
1. ช่อื กิจกรรม...................................................................................................................
2. ประเภทของประสาทสมั ผัส......................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
3. ข้อมูลทีไ่ ด้รบั ...............................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................

กจิ กรรมท่ี 2
1. ช่อื กิจกรรม...................................................................................................................
2. ประเภทของประสาทสมั ผัส......................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
3. ขอ้ มูลทไี่ ด้รับ...............................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................

9

ใบความร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง การประมวณผล

การประมวลผลขอ้ ขม้อลู มลู
เป็นการนำขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้มากระทำดว้ ยวธิ ตี ่างๆ เพ่ือให้ได้

สารสนเทศ หรือความรทู้ ่ีจะนำไปใช้ประโยชนต์ อ่ ไปวิธีการประมวลผลมี
หลายวิธี เชน่

1. การเปรยี บเทยี บ 2. การจัดกลุ่ม
โดยการเปรียบเทียบความ พิจารณาคณุ สมบัตทิ เ่ี หมือนกนั

เหมือนกันหรือความแตกตา่ งกนั หรือแตกตา่ งกนั ของข้อมูล เพื่อจัดกล่มุ
ของขอ้ มูล เพ่อื ตัดสินใจ ขอ้ มูลใหง้ า่ ยต่อการคน้ หา

การประมวลผขอ้ มลู โดยการ การประมวลผลข้อมูลโดยการจดั
เปรียบเทียบการเลอื กของใช้ กลุ่มการจัดชนั้ ของเลน่

3. การเรยี งลำดับ
โดยเรียงลำดบั ขอ้ มูลตาม ลำดับ

ตัวอักษรหรือตัวเลข เพอ่ื ให้เหน็ ลำดบั
หรือความสำคญั ไดอ้ ย่างชัดเจน เช่น
การการประมาณผลขอ้ มูล โดยการ
เรียงลำดบั ตามความสงู ของนักเรียน

10

ชุดกิจกรรมที่ 2 เรอ่ื ง เกณฑก์ ารเรียงลำดับ
แกป้ ัญหา (อลั กอริทึม)
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นพิจารณาข้อมูลและจัดการประมวลผลข้อมลู พร้อม
ตอบคําถามต่อไปน้ี

เพชร มเี งนิ อยู่ 25 บาท สงู 148 ซม. หนัก 32 กก. ใช้เงินซ้อื น้ำ 5 บาท
มนิ มีเงนิ น้อยกวา่ เพชร 10 บาท สงู 150 ซม. หนัก 37 กก. ใช้เงนิ ซือ้
ขนมไป 7 บาท แก้ว มเี งนิ มากกว่า เพชร อยู่ 20 บาท สูงมากกว่า เพชร
อยู่ 10 ซม. หนัก 45 กก. ใช้เงินซอื้ ขนมไป 15 บาท ปองสูง 150 ซม.
หนกั 38 กก. มีเงนิ มากกว่า เพชร 12 บาท ซือ้ น้ำอัดลมไป 10 บาท
ฝน มเี งินนอ้ ย กวา่ แกว้ 3 บาท ความสูงน้อยกวา่ ปองอยู่ 10 ซม. หนกั
มากกวา่ เพชร 10 กก. ซอ้ื อาหารไป 15

1. ประมวลผลข้อมูลลงในตารางให้ถกู ต้องเหมาะสม (เติมตัวเลขในตาราง)

ชอื่ มเี งนิ (บาท) ความสูง น้ำหนกั ช้อื ของ เหลือเงนิ
เพชร
มนิ
แกว้
ปอง
ฝน

2. ให้เรยี งลำดบั ชือ่ คนท่มี เี งนิ เหลอื มากทส่ี ุดไปหาน้อยทส่ี ดุ

.....................................................................................................................

11

3. มนิ กบั ฝนใครสงู กว่ากัน แลว้ สูงเท่าไร
.....................................................................................................................
4. ใครใชเ้ งนิ ชอ้ื ของนอ้ ยทีส่ ุด
.....................................................................................................................
5. ใครมนี ้ำหนกั มากท่สี ดุ
.....................................................................................................................

12

ใบความรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง การนำเสนอข้อมูล

การนำเสนอขข้ออ้ มมลู ูล คือ การนำข้อมูลท่ีผ่านการรวบรวมขอ้ มูลและ
ประมวลผลแล้ว นำมาเผยแพร่ใหผ้ ู้อ่นื ได้รับร้แู ละนำไปใชป้ ระโยชน์ต่อไป
โดยการนำเสนอขอ้ มูล สามารถทำได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสม
เชน่ การบอกเล่า การทำเอกสารรายงาน การทำป้ายประกาศ

1. การบอกเล่า เปน็ การนำเสนอข้อมลู โดยการพูดเพอื่ ถา่ ยทอด
ข้อมลู ให้กับผฟู้ ัง เช่น การนำเสนอรายงานหนา้ ช้ันเรยี น

การนำเสนอ ลักษณะการบอกเลา่ ทีด่ ี มีดงั นี้
รายงานหนา้ 1. ใช้ภาษาท่เี ขา้ ใจงา่ ย
2. พดู เสยี งดงั ฟังชัด
ชั้นเรยี น 3. มีระดับการพูดอย่างเปน็ ระบบ
4. มีจงั หวะและนำ้ เสยี งทช่ี ดั เจน

2. การทำเอกสารรายงาน เปน็ การนำเสนอข้อมลู โดยใช้ข้อความ
ตาราง แผนภมู ิ หรือภาพ และเผยแพร่ขอ้ มลู ในรปู แบบกระดาษรายงาน
หรอื เลม่ รายงาน เชน่ การทำรายงาน การทำแผ่นพับ

ลักษณะการทำเอกสารรายงานทดี่ ี มีดงั น้ี การทำรายงานในรูปแบบ
1. ใช้ข้อความทกี่ ระชบั ชัดเจน กระดาษรายงาน
2. สะกดคำถกู ต้อง มกี ารเว้นวรรคตอน
3. ลำดบั ความได้อย่างต่อเน่อื ง
4. ใช้รปู แบบขอ้ ความที่อ่านไดง้ า่ ย

ตวั อักษร ไม่เล็กไม่ใหญ่เกนิ ไป
5. ใช้ตาราง แผนภูมิ หรือรูปภาพใน

เนื้อหาเพือ่ ใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจงา่ ยข้นึ

13

3. การทำป้ายประกาศ เปน็ การนำเสนอขอ้ มลู โดยใชข้ อ้ ความ หรือ

รปู ภาพ เพอ่ื แจ้งใหผ้ อู้ ่ืนทราบหรอื กำหนดใหท้ ำตามเง่ือนไข และเผยแพร่

ข้อมูลโดยการติดปา้ ยประกาศในจุดตา่ งๆท่ีต้องการนำเสนอข้อมลู เช่น

ปา้ ยประกาศงานวนั สำคญั ขอ้ มูลที่
ป้ายประกาศ กฎการใชห้ ้องสมุด ชัดเจน

ลักษณะป้ายประกาศทด่ี ี มีดังน้ี อา่ นงา่ ย
1. ใหข้ อ้ มูลทช่ี ัดเจน

2. ใชข้ อ้ ความที่กระชบั

3. ใช้ขอ้ ความที่อา่ นงา่ ย ข้อความท่ี
กระชับ
4 .ดึงดดู สายตาผู้ทผี่ ่านไปมา

14

ชดุ กิจกรรมที่ 3 เรือ่ ง การนำเสนอขอ้ มูล
แกป้ ัญหา (อัลกอรทิ มึ )
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นสถานณท์ ่กี ำหนดให้ แลว้ พิจารณาว่าควรนำ
เสนอขอ้ มลู ดว้ ยวิธใี ดจงึ จะเหมาะสม

1. แจงต้องการเลา่ ประสบการณ์ แจงควรนำเสนอ
การไปเทย่ี วจงั หวัดต่างๆ ในช่วง ขอ้ มูลดว้ ยการ
ปดิ ภาคเรยี น
.................................
2. ภตู ้องการแจ้งใหเ้ พ่อื นๆ ใน . ภูควรนำเสนอ
โรงเรยี นทราบเกีย่ วกับขอ้ ตกลง
ในการใช้หอ้ งคอมพวิ เตอร์ ข้อมลู ดว้ ยการ

3. ปยุ้ ต้องการสังเกตการเจริญ .................................
เติบโตของต้นกุหลาบ โดยปุย้ ได้ . ปยุ้ ควรนำเสนอ
วัดและบันทกึ คา่ ความสูงของต้น
กหุ ลาบทกุ วนั ขอ้ มลู ด้วยการ

.................................

4. ปนิ่ ต้องการเผยแพร่ข้อมลู ปน่ิ ควรนำเสนอ
เกี่ยวกบั โรคระบาค ข้อมูลด้วยการ

.................................

5. จ๋าเปิดรับสมัครสมาชิกชมรม จา๋ ควรนำเสนอ
รอ้ งเพลง โดยเพ่ือน ๆ ที่สนใจมา ข้อมูลดว้ ยการ
สมัครภายในวนั ทก่ี ำหนด
.................................

15

แบบทดสอบหลงั เรยี น
เรอื่ ง การรวบรวมขอ้ มูลเพ่อื การประมวลผล
คำชีแ้ จง ทำเครือ่ งหมาย × ทบั ตัวอักษร ก ข ค ง ตรงอกั ษรท่ถี ูกทส่ี ดุ

1. ขอ้ ใดคอื ประเภทของขอ้ มูลท่ีแบง่ ตามแหลง่ ขอ้ มลู ท่ไี ดร้ ับ
ก. ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากสื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
ข. ขอ้ มูลปฐมภูมแิ ละข้อมูลทตุ ยิ ภมู ิ
ค. ขอ้ มูลตวั อักษรและขอ้ มลู รูปภาพ
ง. ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากประสารทสัมผัสทงั้ 5

2. ข้อใดคือขอ้ มูล
ก. นำ้ หนักตวั
ข. คะแนนสะสม
ค. กราฟแสดงคะแนนขอ้ สอบ
ง. แผนภมู ิแสดงพฒั นาการของนกั เรยี น

3. ขอ้ ใดหมายถึงขอ้ มลู
ก.สง่ิ ตา่ งๆท่ีเรารบั รูไ้ ด้
ข. สง่ิ ทถี่ กู ตอ้ งและเช่ือถือได้
ค. ขอ้ เทจ็ จริงทีแ่ สดงในหนังสือเรียน
ง. ข้อเทจ็ จรงิ ท่ีไดร้ ับการยนื ยนั วา่ ถูกต้องแล้ว

4. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ ักษณะของข้อมูลท่ีดี
ก. มีความถกู ต้อง
ข. มคี วามทนั สมยั
ค. มคี วามสวยงาม
ง. มีความน่าเชือ่ ถอื

16

5. บัตรประจำตัวประชาชนจดั เป็นข้อมูลประเภทใด
ก. ขอ้ มูลภาพ
ข. ขอ้ มูลเสียง
ค. ขอ้ มลู ตวั เลข
ง. ข้อมลู ตัวอกั ษร

6. ถ้าต้องการขอ้ มลู เร่อื ง พืชผกั สวนครัว ควรหาข้อมูล
จากแหลง่ ข้อมูลใด จึงจะเหมาะสมที่สุด
ก. เพอื่ น
ข. หอ้ งสมดุ
ค. ผู้ใหญบ่ า้ น
ง. เกษตรตำบล

7. ขอ้ ใดกล่าวถึงขอ้ มลู ทตุ ิยภมู ไิ ดถ้ ูกต้อง
ก. ตรงตอ่ ความต้องการมากท่ีสุด
ข. เปน็ ขอ้ มูลท่ผี ู้อ่นื รวบรวมแลว้ บันทกึ ไว้
ค. เปน็ การแบ่งข้อมูลตามระบบคอมพวิ เตอร์
ง. สามารถรวบรวมไดโ้ ดยการบนั ทกึ จากแหล่งขอ้ มูลน้นั โดยตรง

8. ขอ้ ใดคอื ขอ้ ดีของข้อมูลปฐมภูมิ
ก. มีความนา่ เชือ่ ถือสูง
ข. ผา่ นการประมวลผลแลว้
ค. รปู แบบการนำเสนอรวบรวม
ง. ใช้เวลาในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู น้อย

9. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระโยชนข์ องขอ้ มลู
ก. ชว่ ยในการวางแผน
ข. ช่วยในการตดั สินใจ
ค. ชว่ ยใหต้ ดิ ต่อสื่อสารกนั งา่ ยข้ึน
ง. ชว่ ยให้ทราบข้อมลู ท่แี ทจ้ รงิ

17

10. ขอ้ ใดเปน็ การรวบรวมข้อมูลท่ตี อ้ งใช้ในการอ่าน
ก. การสงั เกตการณ์
ข. การคน้ ควา้ จากเอกสาร
ค. การสอบถามจากผเู้ ช่ียวชาญ
ง. การสมั ภาษณ์ผูม้ ปี ระสบการณเ์ รื่องนั้นๆ

18

บรรณานุกรม

กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2560). ตัวช้วี ดั และหลักสตู รแกนกลาง กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พชมุ นมุ สหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย จาํ กดั .

ชนกิ ารต์ นุ่มมีชัย. (2562). หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3.
สำนกั พิมพ์ วพ.

นพพล วราไพบลู ย์. (2559). สดุ ยอดอัลกอริทมึ พลกิ โฉมโลก. กรงุ เทพฯ : ซเี อด็ ยเู คชนั่ จำกัด.
ประยงค์ อปู่ ระสิทธ์ิวงศ์. (2560). พนื้ ฐานการเขียนโปรแกรมและอัลกอริทมึ ภาษา C. กรงุ เทพฯ

: ซีเอด็ ยูเคชน่ั จำกัด.
มงคล ทะกอง. (2562). หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี : เทคโนโลยี

(วทิ ยาการคำนวณ) ป.3. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกดั .
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2562). หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ป.3. กรุงเทพฯ : สถาบนั สง่ เสรมิ การสอน
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.).
วษิ ณุ ชา้ งเนยี ม. (2559). คู่มอื เรียนโครงสร้างข้อมลู และอัลกอรทิ มึ (Data Structure and
Algorithm). กรงุ เทพฯ : ซเี อด็ ยเู คชน่ั จำกดั .
สมชาย ประสทิ ธิจ์ ตู ระกูล. (2558). การออกแบบและวิเคราะห์อลั กอรทิ ึม กรุงเทพฯ :
ซเี อด็ ยูเคช่นั จำกัด.

19

ภาคผนวก

20

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลงั เรยี น
เรือ่ ง การรวบรวมข้อมูลเพื่อการประมวลผล

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น

1. ง 1. ข
2. ค 2. ก
3. ข 3. ง
4. ก 4. ค
5. ข 5. ง
6. ก 6. ง
7. ง 7. ข
8. ง 8. ก
9. ข 9. ค
10. ค 10. ข

21

เฉลยชดุ กิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง ขอ้ มูลจากประสาทสัมผัสของฉนั
แก้ปัญหา (อลั กอรทิ มึ )
คำชี้แจง ให้นักเรียนบันทึกข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ใน
ชวี ิตประจำวัน 2 กิจกรรม โดยระบปุ ระเภทของประสาทสมั ผสั และข้อมูล
ท่ีได้รบั ให้ถูกตอ้ ง

กิจกรรมที่ 1
1. ชือ่ กิจกรรม.......ด...ูก...า..ร..์ต...ูน...ท...า..ง..โ..ท...ร..ท...ัศ...น...์.....................................................................
2. ประเภทของประสาทสัมผสั ....ป...ร..ะ...ส..า..ท...ส...มั...ผ...ัส...ท...า..ง..ต..า....–....ก...า..ร..เ.ห...น็...ภ...า...พ..................
....ก...า..ร..เ..ค..ล...่ือ...น...ไ.ห...ว....เ.ห....็น...ส..ีต...า่...ง..ๆ........ป...ร..ะ...ส..า..ท...ส...มั...ผ...สั ...ท...า..ง..ห...ู .–....ก...า..ร..ไ..ด...้ย...ิน...เ.ส...ยี ..ง................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
3. ข้อมลู ทีไ่ ด้รับ..ภ...า..พ...แ..ล...ะ...เ.ส...ีย..ง..จ...า..ก...ก..า...ร..ต์...ูน...ท...ี่ไ..ด...ด้ ...ู .....................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................

กิจกรรมท่ี 2
1. ชอ่ื กิจกรรม......ช...่ว..ย..ค...ุณ....แ...ม...่ท...ำ..ก...บั...ข...้า..ว.........................................................................
2. ประเภทของประสาทสัมผสั ......................................................................................
.ป...ร...ะ..ส...า..ท...ส...มั ...ผ..ัส...ท...า..ง..ต...า....–....ก..า..ร...เ.ห...็น...ข...ั้น...ต...อ..น...ต...่า..ง..ๆ....ใ..น...ก...า..ร..ท...ำ..ก...ับ...ข...้า..ว...........................
.ป...ร...ะ..ส...า..ท...ส...มั...ผ..ัส...ท...า..ง..ห....ู .–....ก...า..ร..ไ.ด...้ย...ิน...เ..ส..ีย...ง..แ...ม...่บ...อ..ก...ข...้ัน...ต..อ...น...ต...า่..ง..ๆ....ใ..น...ก...า..ร..ท...ำ..ก...ับ...ข...้า..ว...
.ป...ร...ะ..ส...า..ท...ส...มั...ผ..ัส...ท...า..ง..ล...้ิน.....–...ก...า..ร..ช...ิม...ร..ส...ช...า..ต...ขิ ..อ...ง..ก...บั...ข...า้..ว..................................................
...ป...ร..ะ..ส...า..ท...ส...มั ...ผ...ัส..ท...า...ง..จ..ม...กู....–....ก...า..ร..ไ..ด...ก้ ...ล..่ิน...ห...อ...ม...ข..อ...ง..ก...ับ...ข...้า..ว...........................................
3. ขอ้ มลู ที่ได้รับ...ภ..า...พ...จ..า..ก...ก...า..ร..ด...ู..เ.ส...ีย..ง..จ...า..ก...ก..า...ร..ไ.ด...้ย...ิน....ร...ส..ช...า..ต...ิจ...า..ก..ก...า..ร...ช..ิม...อ...า..ห...า..ร....
....ส...มั ..ผ...ัส...จ..า..ก...ก...า..ร..ห...ย...ิบ...จ...ับ...ส...ง่ิ ..ต...่า..ง..ๆ....................................................................................
.....แ...ล..ะ...ก..า...ร..ไ.ด...้ก...ล...่ิน...ข..อ...ง..ก...ับ...ข...้า..ว..จ...า..ก...ก..า...ร..ด..ม......................................................................

22

เฉลยชดุ กจิ กรรมที่ 2 เรือ่ ง เกณฑ์การเรียงลำดบั
แก้ปัญหา (อัลกอริทมึ )
คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นพิจารณาขอ้ มูลและจดั การประมวลผลข้อมูล พร้อม
ตอบคําถามต่อไปน้ี

เพชร มีเงนิ อยู่ 25 บาท สูง 148 ซม. หนัก 32 กก. ใช้เงนิ ซือ้ น้ำ 5 บาท
มิน มเี งนิ นอ้ ยกวา่ เพชร 10 บาท สงู 150 ซม. หนกั 37 กก. ใช้เงนิ ซ้อื
ขนมไป 7 บาท แก้ว มีเงินมากกวา่ เพชร อยู่ 20 บาท สูงมากกวา่ เพชร
อยู่ 10 ซม. หนัก 45 กก. ใช้เงนิ ซือ้ ขนมไป 15 บาท ปองสงู 150 ซม.
หนกั 38 กก. มีเงินมากกวา่ เพชร 12 บาท ซอื้ น้ำอดั ลมไป 10 บาท
ฝน มีเงนิ นอ้ ย กว่าแก้ว 3 บาท ความสูงนอ้ ยกว่า ปองอยู่ 10 ซม. หนัก
มากกว่าเพชร 10 กก. ซือ้ อาหารไป 15

1. ประมวลผลข้อมูลลงในตารางให้ถกู ต้องเหมาะสม (เตมิ ตวั เลขในตาราง)

ชือ่ มเี งิน(บาท) ความสูง น้ำหนัก ชื้อของ เหลือเงิน
เพชร 25 บาท 148 ซม. 32 กก. 5 บาท 20 บาท
มิน 15 บาท 150 ซม. 37 กก. 7 บาท 8 บาท
แก้ว 45 บาท 158 ซม. 45 กก. 15 บาท 30 บาท
ปอง 37 บาท 150 ซม. 38 กก. 10 บาท 27 บาท
ฝน 34 บาท 160 ซม. 42 กก. 15 บาท 19 บาท

2. ให้เรยี งลำดับช่อื คนที่มเี งนิ เหลอื มากท่ีสุดไปหาน้อยที่สุด
.....แ..ก...้ว......ป..อ...ง......ฝ..น.......เ.พ...ช..ร......ม..ิน...................................................................

23

3. มินกบั ฝนใครสูงกว่ากัน แลว้ สงู เท่าไร
.....ฝ..น...ส..ูง..ก..ว..า่..ม...ิน....ส..งู ..ก..ว..่า....1..0...ซ...ม... ...................................................................
4. ใครใช้เงนิ ชื้อของนอ้ ยท่ีสดุ
.......เ.พ...ช...ร..ใ.ช..้เ..ง.นิ...ช..้อื...ข..อ..ง..น...อ้..ย...ท..ี่ส...ดุ ....................................................................
5. ใครมนี ้ำหนักมากท่สี ดุ
........แ...ก..ว้ ..ม..ีน...ำ้ ..ห...น..กั ...ม..า..ก..ท...่ีส..ดุ............................................................................

24

เฉลยชดุ กิจกรรมที่ 3 เรอื่ ง การนำเสนอข้อมูล
แก้ปัญหา (อัลกอริทึม)
คำช้แี จง ให้นกั เรียนอา่ นสถานณท์ ก่ี ำหนดให้ แล้วพิจารณาว่าควรนำ
เสนอข้อมลู ด้วยวิธีใดจึงจะเหมาะสม

1. แจงต้องการเล่าประสบการณ์ แจงควรนำเสนอ
การไปเที่ยวจังหวดั ตา่ งๆ ในช่วง ข้อมูลด้วยการ
ปดิ ภาคเรยี น
........ก..า..ร..บ...อ..ก...เ.ล..่า........
2. ภูต้องการแจ้งใหเ้ พ่อื นๆ ใน . ภูควรนำเสนอ
โรงเรียนทราบเกี่ยวกบั ข้อตกลง
ในการใช้ห้องคอมพวิ เตอร์ ขอ้ มูลด้วยการ

3. ป้ยุ ตอ้ งการสงั เกตการเจริญ ......ท..ำ..ป...า้ ..ย..ป...ร..ะ..ก..า..ศ.....
เติบโตของตน้ กหุ ลาบ โดยปยุ้ ได้ . ปุ้ยควรนำเสนอ
วัดและบนั ทกึ คา่ ความสงู ของตน้
กุหลาบทุกวัน ข้อมูลด้วยการ

..ท...ำ..เ.อ..ก...ส..า..ร..ร..า..ย..ง..า..น....

4. ปน่ิ ต้องการเผยแพรข่ อ้ มลู ปิ่นควรนำเสนอ
เก่ยี วกบั โรคระบาค ขอ้ มูลด้วยการ

.ท...ำ..เ.อ...ก..ส..า..ร..ร..า..ย..ง..า..น.....

5. จ๋าเปิดรับสมัครสมาชกิ ชมรม จา๋ ควรนำเสนอ
ร้องเพลง โดยเพื่อน ๆ ทีส่ นใจมา ขอ้ มลู ดว้ ยการ
สมคั รภายในวันทีก่ ำหนด
.....ท...ำ..ป..า้..ย...ป..ร..ะ..ก...า..ศ.....

25