หนังสือ 12TENSE FOR MATTHAYOM

ENGLISH BOOK

Present tense
Past tense
Future tense

Name……………….…………………………………
Class………/…….… No……….…

Teacher…………………………….…….……………
School…………………………….…………………

1

Unit 1 Present Simple tense

โครงสรา้ งของ Present Simple Tense
Present Simple Tense (ปัจจุบันกาล) คอื tense ทีพ่ ดู ถงึ เหตุการณ์ ทเี่ กิดข้นึ

ในปจั จบุ นั แต่ไม่ไดร้ ะบุวา่ การกระทาน้ันๆ สมบูรณ์แลว้ หรอื ยงั โดยมีโครงสรา้ งดังนี้

Subject + Verb 1

( ประธาน ) + ( กริยาชอ่ งที่ 1 )

Present Simple Tense ใชก้ ับกรยิ าชอ่ งที่ 1 เท่านนั้ โดยนากรยิ าชอ่ งที่ 1 ไปเติม
ลงในโครงสรา้ งตอ่ จากประธาน โดยมขี อ้ ระวัง คอื ถ้าประธานเปน็ เอกพจน์ กริยาช่องที่
1 ของ present simple tense ตอ้ งเตมิ –s หรือ –es แตถ่ ้าประธานเป็นพหูพจน์
กริยาเป็นชอ่ งที่ 1 ไม่เตมิ อะไรเลย

ตวั ยา่ ง เชน่
-Ann works in the office.
แอนทางานในสานักงาน
(เติม –s ที่ work เพราะประธานเป็นเอกพจน)์
-Sona goes to school every day.
โซน่าไปโรงเรยี นทกุ วัน
(Sona เปน็ ประธานเอกพจน์กริยาลงท้ายด้วย o เติม -es)
-We go to Chiang Mai every Sunday.
พวกเราไปเชยี งใหมท่ ุกวนั อาทิตย์
(go ไมเ่ ตมิ –s, -es เพราะประธาน we เป็นพหูพจน์)
-I want a breath of fresh air.
ผมต้องการสูดหายใจเอาอากาศบรสิ ุทธิ์
(want ไม่เตมิ –s, -es เพราะประธานเป็น I)

หลกั การเตมิ –s และ – es 2

(เติมเฉพาะกรยิ าของประธานเอกพจน์ present simple tense)

1. โดยปกตถิ า้ ประธานเป็นเอกพจน์ กริยาใหเ้ ตมิ –s โดยเฉพาะกรยิ าทไ่ี มล่ งทา้ ยดว้ ย –s,

-ss, -sh, -ch, -x และ -o

ตวั อย่าง

-She eats mango every day.

หลอ่ นกนิ มะม่วงทุกวัน

-My dad speaks English with me.

พ่อพูดภาษาอังกฤษกบั ผม

-Tom works in a department store.

ทอมทางานในห้างสรรพสนิ ค้าแห่งหนง่ึ

-He gets up at 6.00 every morning.

เขาตื่นนอนเวลา 6 โมงเช้าทกุ วนั

-Ann knows that you read an English newspaper every day.

แอนรวู้ า่ คณุ อา่ นหนังสอื พิมพ์ภาษาองั กฤษทุกวัน

2. กรยิ าทล่ี งทา้ ยด้วย –s, -ss, -sh, -ch, -x และ –o ใหเ้ ติม –es ทีก่ รยิ านนั้ ๆ
ตวั อย่าง

-This fighter boxes without wearing padded gloves.
นักมวยคนนช้ี กมวยโดยไมส่ วมนวม

-The postman washes his hands and dries them on a towel.
บรุ ษุ ไปรษณยี ล์ า้ งมือของเขาแล้วเชด็ ทผี่ ้าเชด็ ตวั

-Marry teaches me English.
แมรสี่ อนภาษาอังกฤษให้ผม

-Apisit passes the shops on his way to work.
อภสิ ทิ ธผิ์ ่านรา้ นคา้ ตา่ งๆ ขณะเดินทางไปทางาน

ข้อยกเวน้ : ถ้าหนา้ –o เปน็ สระ (a, e, i, o, u) ให้เติม –s ท่ที า้ ยกริยา
ตวั อยา่ ง

-He always woos the daughter of the king.
เขามักจะตามจีบลูกสาวพระราชาอย่เู สมอ

3

3. กรยิ าท่ีลงทา้ ยดว้ ย –y และหน้า –y เปน็ พยญั ชนะ ให้เปลีย่ น –y เป็น i กอ่ นเตมิ
–es (= ies)
ตวั อยา่ ง

-He hurries to go to the airport to meet his mother.
เขารบี ไปสนามบินเพอื่ พบคณุ แม่ของเขา
-His mother studies English every Sunday.
แมข่ องเขาเรยี นภาษาองั กฤษทุกวนั อาทิตย์
-She cries when she hears of the old man’s death.
หลอ่ นรอ้ งไห้เมือ่ ไดฟ้ งั ข่าวการตายของชายแก่
-She tries washing her hair with a new shampoo.
หล่อนพยายามสระผมดว้ ยแชมพูยี่ห้อใหม่
-The pilot flies (the plane) across the sea.
กัปตนั เคร่ืองบิน กาลงั บนิ ข้ามทะเล (บนิ โดยเครือ่ งบนิ )

ขอ้ ยกเว้น : ถา้ กริยาที่ลงท้ายดว้ ย –y และหน้า –y เปน็ สระ (a, e, i, o, u) ให้
เตมิ –s ท่ีท้าย –y ไดเ้ ลย
ตัวอยา่ ง

-In the summer, Tom usually plays tennis twice a week.
ในหน้าร้อนทอมมกั จะเลน่ เทนนิสสองครัง้ ต่อสัปดาห์
-This poison destroys rats.
ยาพิษนฆ้ี ่าหนูได้
-The Bible says love of money is the root of all evil.
คัมภีรไ์ บเบิลกล่าววา่ ความหลงในเงินทองคอื รากเหงา้ ของความชวั่ ทัง้ มวล
-Miss Suchada often buys a new hat on Monday.
คุณสชุ าดามักจะซ้อื หมวกใบใหมใ่ นวันอาทติ ย์

การสรา้ งประโยคของ Present Simple Tenseรสรา้ งประโยคคาถาม 4

Present Simple Tense ใชก้ รยิ า 2 จาพวกคอื กริยา primary auxiliary verbs
และ principle verbs กริยา primary auxiliary verbs คอื กริยาจาพวก verb to be (is,
am, are) verb to do (do, does) verb to have (have, has) ซึ่งเปน็ กรยิ าแทก้ ไ็ ด้ เปน็
กริยาช่วยกไ็ ด้

กรยิ า principal verbs คอื กริยาแทท้ ว่ั ๆไป ทสี่ ามารถผนั ตัวเองได้ 3 ชอ่ ง ท่ีรู้จกั
กันในนามกริยา 3 ช่อง รวมทงั้ กรยิ าที่เป็น regular verbs (คอื verbs ทีเ่ ตมิ –ed เมอ่ื ทาเปน็
ช่อง 2 และ 3) ซึง่ กริยา principal verbs นี้จะทาเปน็ กรยิ าชว่ ยไมไ่ ด้

กฎการสร้างคาถาม
1. ประโยคบอกเล่า present simple tense ที่มีกรยิ า verb to be (is, am,

are) และ verb to have (have, has) เป็นกรยิ าแท้ในประโยค สรา้ งเปน็ ประโยคคาถาม
ได้ โดยนาเอากริยาเหลา่ นีม้ าวางไวต้ ้นประโยค (หนา้ ประธาน) โดยเขยี นดว้ ยอกั ษรตวั ใหญท่ ี่
ตวั อักษรแรกแลว้ เตมิ ? ท่ที ้ายประโยค

ตัวอย่าง บอกเลา่ : Sombat is a lawyer. สมบัตเิ ปน็ นักกฎหมาย

คาถาม : Is Sombat a lawyer? สมบัตเิ ปน็ นักกฎหมายใชไ่ หม

บอกเล่า : I am your father’s friend. ผมเปน็ เพื่อนพอ่ ของคณุ

คาถาม : Am I your friend? ผมเปน็ เพื่อนคุณหรือเปลา่

บอกเลา่ : You have a car. คณุ มรี ถยนต์คันหน่งึ

คาถาม : Have you a car? คณุ มรี ถยนตใ์ ช่ไหม

-(ใช้ Do you have a car? ก็ได้)

บอกเลา่ : She has a house. หล่อนมบี า้ นหลงั หนง่ึ

คาถาม : Has she a house? หล่อนมีบา้ นหลงั หนงึ่ ใช่ไหม

-(ใช้ Does she have a house? ก็ได้ ใช้ does เพราะประธาน she เปน็

เอกพจน์และเมือ่ ใช้ have เป็น verb แทต้ ้องเปลยี่ นเปน็ ชอ่ งท่ี 1 เสมอ)

2. ประโยคบอกเล่าของ present simple tense ทม่ี กี รยิ าเป็น principal 5
verbs เช่น eat, speak, swim, establish, imagine, wait, sing, go, follow, leave,
sail เปน็ ตน้ เวลาสร้างประโยคคาถามใหป้ ฏิบัตดิ งั น้ี

2.1 นา verb to do (do, does) มาชว่ ยสร้างประโยคคาถามโดยนา do และ
does มาวางไว้หนา้ ประธานของประโยคโดยใช้ do กับประธานพหูพจน์ และใช้ does กบั
ประธานเอกพจน์

* Do you/ they/ I / we + V1…?

* Does he/ she/ it + V1…?

2.2 เม่อื นา do มาใช้สรา้ งคาถามแลว้ กรยิ าแท้ของประโยคตอ้ งเปน็ กรยิ าช่องท่ี 1
(V1) เสมอ ไมเ่ ตมิ –s, -es แม้ประธานจะเปน็ เอกพจน์ก็ตาม

2.3 เขียนอักษรที่ขน้ึ ตน้ ประโยคดว้ ยอักษรตัวใหญ่ (capital letter) และใส่ ? ทที่ ้าย
ประโยค
ตวั อยา่ ง บอกเลา่ : They build houses that cost a lot of money.

พวกเขาได้สรา้ งบา้ นหลายหลงั ที่มีราคาสูงมาก
คาถาม : Do they build houses that cost a lot of money?

พวกเขาสร้างบ้านหลายหลงั ท่มี ีราคาสูงมากใชไ่ หม
(ใช้ do เพราะประธานเป็นพหพู จน)์
บอกเล่า : She speaks English very well.
หล่อนพูดภาษาองั กฤษได้ดมี าก
คาถาม : Does she speak English very well?
หล่อนพูดภาษาอังกฤษได้ดมี ากเลยหรือ

(ใช้ does เพราะประธานเปน็ เอกพจน์ และกริยาแท้ของประโยคคือ speak ก็ไม่
เติม –s เพราะมี does เป็นกริยาช่วย)

การสร้างประโยคปฏเิ สธ 6

การสรา้ งประโยคปฏิเสธใน present simple tense ท้ังประโยคบอกเลา่ และประโยค

คาถามปฏเิ สธ ทาได้โดยการเติม not หลงั กริยาชว่ ยของประโยคคอื เตมิ หลงั is, am, are,

do, does, have และ has

รูปเต็ม รปู ย่อ

is not isn’t
am not am not
are not aren’t
has not hasn’t
have not haven’t
do not don’t
does not doesn’t

1. ตัวอยา่ งประโยคปฏิเสธและประโยคคาถามแบบปฏเิ สธท่ีมกี ริยาชว่ ย ในการ

สรา้ งประโยคคาถามเปน็ is, am, are, has, have

ตวั อยา่ ง บอกเลา่ : Somchai is a doctor. สมชยั เป็นหมอ

ปฏิเสธ : Somchai is not (isn’t) a doctor. สมชัยไมใ่ ชห่ มอ

คาถามปฏเิ สธ : Isn’t Somchai a doctor? สมชยั ไมไ่ ด้เปน็ หมอใช่ไหม

บอกเลา่ : We are the workers of NCC company.

พวกเราเปน็ พนักงานของบริษทั NCC

ปฏิเสธ : We are not (aren’t) the workers of NCC company.

พวกเราไม่ได้เปน็ คนงานของบริษทั NCC

คาถามปฏิเสธ : Aren’t we the workers of NCC company?

พวกเราไมไ่ ด้เป็นคนงานของบริษัท NCC ใชไ่ หม

2. ตวั อย่างประโยคปฏิเสธและประโยคคาถามแบบปฏิเสธทมี่ ีกรยิ าช่วย ในการ
สร้างประโยคคาถามจาพวก do, does, have, has
ตัวอยา่ ง บอกเลา่ : They live in a small house.

พวกเขาอาศัยอยใู่ นบา้ นหลังเลก็ ๆ
ปฏเิ สธ : They do not (don’t) live in a small house.

พวกเขาไม่ไดอ้ าศยั อยูใ่ นบา้ นหลงั เล็กๆ
คาถามปฏิเสธ : Do they not live in a small house?

พวกเขาไม่ไดอ้ าศยั อยู่ในบ้านหลงั เล็กๆ ใชไ่ หม

ADVERBS OF TIME 7

-always เสมอ

-often บอ่ ยๆ

-usually โดยปกติ

-naturally โดยปกติ

-generally โดยปกติ

-sometimes บางคร้ัง

-hardly ever แทบจะไม่

-occasionally บางโอกาส

-rarely แทบจะไม่

-never ไมเ่ คย

-normally โดยปกติ

-seldom แทบจะไม่

-every day ทกุ ๆวัน

-every morning ทกุ ๆเช้า

-every time ทกุ ๆเวลา

-every week ทุกๆสปั ดาห์

-every year ทกุ ๆปี

-every night ทุกๆคืน

-once a week สปั ดาหล์ ะครง้ั

-every month ทกุ ๆเดือน

-every summer ทุกๆหนา้ รอ้ น

-twice a week สัปดาหล์ ะ 2 คร้ัง

Exercise 1 8

1. Directions : Complete the correct verbs for the third singular
subject form.

Example : I come : He comes

1. I drink : SHe ______________________
2. I try : He _______________________
3. I go : He _______________________
4. I get : She ______________________
5. I work : He _______________________
6. I catch : He _______________________
7. I play : She ______________________
8. I cry : He _______________________
9. I wash : She ______________________
10. I like : He _______________________

Exercise 2 9

2. Directions : Fill in the blanks with the present simple tense of the
verbs in parentheses.

Example : John passes the shops on his way to work.

1. James (read)………………………………..newspaper every morning.
2. I (have) ………………………………..my hair cut whenever it goes too long.
3. Mary and her brother (speak) ……………………………….. French very
fluently.
4. The earth (move) ………………………………..round the sun.
5. His family (come) ………………………………..from Australia.
6. We all (study) ………………………………..mathematics every day.
7. She cooks very well but her sister (cook) ………………………………..
much better.
8. They always (play) ………………………………..tennis after school.
9. She never (cross) ………………………………..the street without looking.
10. They usually (relax) ………………………………..after game.

Exercise 3 10

3. Directions : Change these statements to negatives.
Example : My grandfather goes to the church every Sunday.
My grandfather doesn’t go the church every Sunday.

1. My father smokes cigarettes.

2. The boy does his homework in the evening.
3. We eat rice for breakfast every day.
4. The party begins at 8 pm.
5. Jimmy and Mark study in the university.
6. The children like cookies.
7. They always agree with her.
8. My favorite food is Pad Thai.
9. They are students.
10. Manee is 20 years old.

Exercise 4 11

4. Directions : Change these statements to questions.
Example : Susan works in the supermarket.
Does Susan work in the supermarket?

1. The sun sets in the evening.

2. She has a sandwich with milk every morning.

3. Suree usually cleans her car on Sunday.

4. He gets up at 6 o’clock every morning.

5. They often have lunch at school.

6. She always goes to school at 7 o’clock.

7. His favorite food is noodles.

8. Mary and Ann play tennis well.

9. Polla is in Bangkok.

10. James and Max are 15 years old.

Exercise 5 12

5. Directions : Rewrite the complete sentence using the adverb
of frequency or signal word in brackets in its correct position.

Example : They go to the movies. (often)
They often go to the movies.

1. She listens to classical music. (rarely)

2. I eat meat. (once a week)

3. Sara smiles. (never)

4. She complains about her husband. (always)

5. She helps her daughter with her homework. (every day)

6. Frank is ill. (often)

7. He feels terrible (usually)

8. I go jogging in the morning. (four times a week)

9. I drink coffee. (sometimes)

10. He reads the newspaper. (sometimes)

13

Unit 2 Present continuous tense

โครงสรา้ ง : Subject + is, am, are + Verb 1 ing.
(ประธาน + is, am, are + กรยิ าชอ่ ง 1 เตมิ ing.)

หลักการใช้ Present Continuous Tense
1.ใช้กับการกระทาทกี่ าลงั เกิดข้นึ ในขณะที่พูด

- I am studying English. ( ฉันกาลังเรียนภาษาองั กฤษ )
- Somchai is sleeping. ( สมชายกาลังนอนหลับ )
- Somchai is sleeping. ( สมชายกาลงั นอนหลับ )
- I am playing football. ( ฉันกาลังเลน่ ฟตุ บอล )
- They are watching TV. ( พวกเขากาลังดูโทรทศั น์ )
- Somchai is sleeping. ( สมชายกาลังนอนหลบั )
- They are watching TV. ( พวกเขากาลังดูโทรทศั น์)

หลกั การเตมิ ing ทา้ ยคากริยา
1. คากรยิ าธรรมดา ใหเ้ ตมิ ing ได้เลย เช่น

speak ( พูด ) - speaking
eat ( กิน ) - eating

2. คากรยิ าท่ีมพี ยางค์เดียว มีตัวสะกดตัวเดียว ให้เพ่ิมตวั สะกดอกี 1 ตวั แล้ว

เตมิ ing เช่น

sit ( น่งั ) - sitting

run ( วิง่ ) - running

14

3. คากริยาท่ลี งท้ายด้วย e เพียงตัวเดยี วให้ตัด e ทิ้งแล้วเตมิ ing เชน่
come ( มา ) – coming
drive ( ขับรถ ) - driving

4. คากรยิ าทล่ี งท้ายด้วย ie ให้เปลีย่ น ie เปน็ y แล้วเตมิ ing เชน่
die ( ตาย ) - dying
lie ( นอน ) - lying

เม่ือต้องการแตง่ ประโยค Present Continuous Tense ใหม้ คี วามหมาย
เชิงปฏเิ สธใหน้ า not มาเติมหลัง Verb to be ซง่ึ มโี ครงสรา้ งดังนี้

โครงสรา้ ง : Subject + is, am, are + not + Verb 1 ing.
(ประธาน + is, am, are + not + กริยาชอ่ ง 1 เติม ing.)

ตวั อย่างเชน่

- Somchai is not ( isn’t ) sleeping. ( สมชายไมไ่ ด้กาลงั นอนหลับ )

- I am not playing football. ( ฉันไมไ่ ด้ กาลังเลน่ ฟตุ บอล )

- They are not ( aren’t ) watching TV. ( พวกเขาไมไ่ ด้กาลงั ดโู ทรทัศน์ )

2. ใช้แสดงเหตกุ ารณ์หรอื การกระทาทก่ี าลงั ดาเนนิ อยู่ ในขณะทพ่ี ูดซงึ่ จะมีคา
Adverb of time ตอ่ ไปน้ี

> now at present
> at this moment
> at the present time
> just now
> at the moment
> right now
> in a minute
ตัวอยา่ งเช่น
- Nick is listening to the radio now.
- At present, he is doing his homework.

15

3. ใช้แสดงเหตกุ ารณ์ หรือการกระทาทีเ่ ริ่มเกดิ ข้ึนกอ่ นพูดเปน็ เวลานาน ซ่ึงเปน็
เหตกุ ารณท์ าอยู่ในชว่ งเวลานั้น

- Dr. Pronto is teaching a course in English this semester.
- Dang is working for an examination.
- Manut is working for a publishing company.

4. ใช้แทน future tense เพอ่ื แสดงวา่ การกระทานน้ั จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตอนั ใกล้
ตามปกตจิ ะมคี าam, is, are going to + V.ing กรยิ าท่ีใชม้ กั เปน็ verb of
emotion ( กรยิ าที่แสดงการเคลื่อนไหว เชน่ leave, come, arrive )

- He is leaving on Monday.
- I am seeing him tomorrow.

5. ใชห้ ลังตวั เชอื่ ม ( conjunction ) while และ as
- He come in while I am reading a newspaper.
- While Debbie was driving a car, his telephone rang.

ประโยค Present Continuous Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อตอ้ งการแตง่ ประโยค Present Continuous Tense ให้มีความหมาย
เชงิ ปฏิเสธให้นา not มาเตมิ หลัง Verb to be ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้

โครงสรา้ ง : Subject + is, am, are + not + Verb 1 ing.
(ประธาน + is, am, are + not + กรยิ าชอ่ ง 1 เติม ing.)

ตวั อย่าง

- Somchai is not ( isn’t ) sleeping. ( สมชายไม่ได้กาลงั นอนหลบั )

- I am not playing football. ( ฉนั ไมไ่ ด้ กาลังเล่น ฟตุ บอล )

- They are not ( aren’t ) watching TV. ( พวกเขาไมไ่ ดก้ าลงั ดโู ทรทศั น์ )

16

ประโยค Present Continuous Tense เชงิ คาถามและการตอบ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Continuous Tense ใหม้ คี วามหมาย
เชงิ คาถามใหน้ า Verb to be มาวางไว้หน้าประโยคและตอบดว้ ย Yes หรือ No ซง่ึ
มีโครงสร้างดงั นี้

โครงสรา้ ง : Is, Am, Are + Subject + Verb 1 ing. ?
(Is, Am, Are +ประธาน + กรยิ าชอ่ ง 1 เตมิ ing.?)

ตัวอย่าง
- Is Somchai sleeping ? ( สมชายกาลงั นอนหลบั ใชห่ รอื ไม่ )
Yes, he is . ( ใช่ เขากาลังนอนหลบั )
No, he isn’t. ( ไมเ่ ขาไมไ่ ดก้ าลงั นอนหลบั )

- Are they studying English ? (พวกเขากาลังเรียนภาษาองั กฤษใช่หรอื ไม)่
Yes, they are. ( ใช่พวกเขากาลังเรยี น )
No, they aren’t. ( ไม่พวกเขาไม่ได้กาลงั เรียน )

- Am I playing football ? ( ฉันกาลังเล่น ฟตุ บอลใช่หรอื ไม่ )
Yes, you are. ( ใช่คุณกาลังเล่นฟุตบอล )
No, you aren’t . ( ไมค่ ณุ ไมไ่ ด้กาลังเล่นฟุตบอล )

Exercise 1 17

1. Direction : Add -ing เติม ing

กรยิ า

eat
sleep
sit
read
write
smile
cook
do
drive
sing
swim
take
watch
buy
cry
fly
ride
play
come
go

Exercise 2 18

2. Direction : Use verb to be and complete the sentence.
1. I …………………… washing the dishes in the kitchen now.
2. My mother and I …………………… watching TV now.
3. Tyrun and Dino ……………………. studying English now.
4. The boys ........…………....... playing football.
5. The dog and the cat ……………………. running into the house now.
6. A boy ……………………….. crying now.
7. The birds …………………………. singing outside my bedroom now.
8. My brother …………………………… sleeping now.
9. We ………………………… going to school now.
10. I ………………………… taking a shower now.

Exercise 3 19

2. Direction : Complete the sentence.

Example : John / sleep / now John is sleeping now.
Sentence
1. The teacher/ teach/in the
hall/now
2. I / go to school / now
3. Tyrun and Mapu / play /
tennis / now
4. Students / write/ letters/ now
5. The police / train / the dogs /
now
6. My sister / watch TV / in the
living room
7. My father / wash / his car
8. Sorrus / run / in the soccer
field
9. Jerry and Tom / eat /lunch
10. The parents / come / to our
class

Unit 3 Present perfect tense 20

โครงสรา้ ง : Subject + has/have + Verb3

He, She, It, A cat has eaten
I, You, We, They, Cats have eaten

หลักการใช้ Present Perfect Tense

1. ใช้กับเหตกุ ารณท์ ี่ เกิดขน้ึ ในอดีต และดาเนินตอ่ เนือ่ งมายงั ปจั จุบนั และมแี นว
โนน้ ทีจ่ ะดาเนนิ ตอ่ ไปได้อกี ในอนาคต เชน่

-I have had a lot of toys.
ฉันมขี องเล่นมากมาย
(และอาจจะมขี องเล่นเพ่มิ ข้ึนอกี ในอนาคต)

2. ใชก้ ับเหตุการณ์ในอดีตที่ เกิดขนึ้ และส้ินสดุ ลงแลว้ แต่ยงั สง่ ผลมายังปัจจุบนั
เชน่

-It has stopped raining.
ฝนหยดุ ตกแล้ว (แตถ่ นนยังเปยี กอยู่)

3. ใช้พดู ถงึ เหตกุ ารณห์ รอื การกระทาที่เกิดข้นึ ซา้ ๆกนั ในชว่ งเวลาหน่งึ ระหวา่ งอดีต
และปจั จุบัน โดยมกั ใชค้ าว่า many/several times, a lot of times, …times,
again and again, over and over และอ่ืนๆ เช่น

-I’ve read this book more than 3 times.
(ฉนั อ่านหนังสือเล่มน้ีมามากกว่าสามรอบแลว้ )

4. ใช้กบั เหตกุ ารณ์ท่ี เพ่ิงสิน้ สดุ ลง โดยไมร่ ะบุเวลา ซ่งึ มกั ใชก้ บั just, already และ yet 21
• yet มกั ใช้ในประโยคปฏิเสธ สว่ น just และ already นน้ั มกั จะใชก้ ันในประโยคบอกเลา่

โดยวางไวอ้ ยหู่ นา้ กรยิ าหลัก เช่น
-I haven’t finished my homework yet. (ฉนั ยังทาการบา้ นของฉันไมเ่ สร็จเลย)
-I have just finished my home work. (ฉนั เพงิ่ ทาการบ้านของฉันเสร็จ)
-I’ve already finished my homework. (ฉันทาการบ้านของฉนั เสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว)
• หากเราระบุเวลาลงไป ประโยคจะต้องใช้ Past Simple Tense เทา่ นั้น ไมส่ ามารถใช้

Present Perfect Tense ได้ เช่น
-I finished my homework at 7 o’clock. (ฉันทาการบ้านเสรจ็ แลว้ ตอนเจด็ โมงเชา้ )

5. ใชเ้ พอ่ื บอกเลา่ ถึงเหตุการณท์ ่เี พงิ่ เกิดขน้ึ เร็วๆนี้ ซงึ่ มักใชก้ บั just,recently, lately และอน่ื ๆ
-The meeting has just started. (การประชุมเพ่งิ จะเริม่ ขึ้น)
-Have you seen him lately? (คณุ ไดเ้ จอเขาเมื่อเร็วๆนบ้ี ้างไหม)

6. ใช้กับ since (ตงั้ แต)่ และ for (เปน็ เวลา)
-I have been here since I was about 15 years old.
(ฉันอยู่ที่นีม่ าตัง้ แตอ่ ายุ 15 (ปจั จบุ นั ฉนั ก็ยงั คงอยู่ทนี่ )ี่
-We’ve walked for five hours.
(เราเดิน(แล้ว)เปน็ เวลา 5 ชว่ั โมง
-They have built the house since last year.
(พวกเขาสรา้ ง(แลว้ )บา้ นตัง้ แตป่ ีทแี่ ล้ว)

(ตอนน้ีก็ยังสรา้ งอยู่ และน่าจะสร้างตอ่ ไปอีกหลายเดือนคงเสร็จ)

คาถามที่ใชก้ ับตัวอยา่ งดา้ นบนสว่ นมากจะขน้ึ ตน้ ดว้ ย How long……. (นานแคไ่ หน)
-How long has she studied English? (หลอ่ นเรยี นอังกฤษนานแค่ไหนแลว้ )
-How long has he worked in the garden? (เขาทางานในสวนนานแค่ไหนแลว้ )
-How long has it rained? (ฝนตกนานแคไ่ หนแลว้ )
-How long has a boy played football? (เด็กชายเลน่ ฟุตบอลนานแค่ไหนแลว้ )
-How long have you lived here? (ถาม you ตอบ I) (คณุ อยู่ทีน่ นี่ านแคไ่ หนแลว้ )
-How long have I watched TV? (ถาม I ตอบ You) (ผมดทู วี ีนานแคไ่ หนแลว้ )
-How long have we walked? (เราเดินนานแคไ่ หนแล้ว)

ประโยคปฏิเสธ 22
ประโยคปฏิเสธเอา not มาตอ่ ทา้ ย have / has
have not ยอ่ เปน็ hasn’t
has not ยอ่ เป็น hasn’t
-She has not studied English since July.
(หลอ่ นไม่ได้เรียนภาษาองั กฤษ ตั้งแตเ่ ดอื นกรกฎาคม)
-He hasn’t worked in the garden since 8 o’clock.
(เขาไม่ไดท้ างานในสวนตัง้ แต่ 8 โมงเชา้ )
-I have not lived here for ten years.
(ฉนั ไม่ไดอ้ าศัยอยทู่ ่นี ่ี เปน็ เวลา 10 ป)ี

ประโยคคาถาม
ให้เอา have, has มาวางหน้าประธานของประโยค
-Has she studied English since July?
(หล่อนเรยี นภาษาอังกฤษ ตงั้ แตเ่ ดือนกรกฎาคมใชไ่ หม)
Yes, she has./ No, she hasn’t.
-Has he worked in the garden since 8 o’clock?
(เขาทางานในสวนตงั้ แต่ 8 โมงเชา้ ใชไ่ หม)
Yes, he has./ No, he hasn’t.
-Have you lived here for ten years?
(คุณอาศัยอย่ทู น่ี ่ี เป็นเวลา 10 ปีใช่ไหม)
Yes, I have./ No, I havn’t.

ประโยคคาถามเชงิ ปฏเิ สธ
-Has she gone yet? (หลอ่ นไปหรอื ยัง)
-Has he already finished his homework? (เขาทาการบา้ นเสรจ็ แลว้ ใชไ่ หม)
-Have you drunk milk yet? (คณุ ดืม่ นมหรอื ยัง)
-Have we already eaten rice? (พวกเรากนิ ข้าวแล้วใช่ไหม)
-Have they washed the car yet? (พวกเขาลา้ งรถหรอื ยงั )

Exercise 1 23

1. Direction : Conjugate the Verbs.
1. Sheila _____ (not live) in this country for a very long time. She _____
(have) problems with the language since she arrived.

2. How long _____ they _____ (employ) Peter in his position? He _____
(not be) with the company for a very long time.

3._____ he ever _____ (fly) in a rocket to the moon? Of course he
_______ never ______ (be) on a rocket! He’s not an astronaut.

4. I’m afraid I ______ already _____ (eat) lunch, but I’m tired. ______ you
_____ (have) a cup of coffee yet?

5. My father _____ (wear) that jacket for more than twenty years.
He ______ (not take) it off since last week!

6. Alice _______(be invite) to the party yet.______ you ______ (ask) her?

7. The policeman _____ (ride) his horse for over ten years. They _____ (be)
together for a very long time.

8. I ______ just ______ (go) to the bank, so I have some money.
______ they _____ (eat) yet?

9. Peter _____ (not study) Russian for very long. I don’t think
he ______ (speak) a word of the language outside the classroom.

10. Either my brother or I _______ (leave) the computer at home,
or _____ you _____ (see) it?

Exercise 2 24

Direction : Put the following words into the correct order and write
sentences or questions using the present perfect tense. You may
need to provide a few words to complete the sentences.

1. long / be able / Greek / you / how / speak ?

2. 2010 / not / write / mother / letter / she / since

3. never / they / vacation / go / Hawaii

4. just / eat / Tom / breakfast / be / not / hungry / so

5. want / you / ever / move / country / foreign / begin / and / again /?

6. drive / not / Annie / car / ten years / for

7. Alex / often / Rome / be / how / ?

8. already / you / finish / homework / ?

9. she / examine / not / yet / subject

10. over / for / wear / shoes / ten / they / years

25

Unit 4 Present perfect continuous tense

S + HAVE,HAS + BEEN + VING

(ประธาน + HAVE, HAS + BEEN + กริยาเตมิ ING)

หลักการใช้
• ใช้เหมือนกบั present perfect tense ขอ้ ที่ 1 เทา่ น้นั

(เหตการณท์ ีเ่ กิดในอดีต ดาเนินมาถึงปัจจุบัน และตอ่ เนอ่ื งไปในอนาคต)
ทุกประการ แตเ่ ปน็ การเน้นว่าทาตอ่ เนื่อง

• กริยาท่ีนามาเตมิ ing ให้อ้างอิง present continuous tense ทุกประการ
เหมอื นกนั

ตัวอยา่ งเปรียบเทียบระหวา่ ง present perfect กับ
present perfect continuous เพ่ือใหเ้ หน็ ความแตกตา่ ง

-He’s worked in the garden since 8 o’clock.
เขาทางานในสวนตง้ั แต่ 8 โมงเชา้
(อาจจะทาบา้ ง น่งั พักบา้ ง แต่วา่ เรมิ่ ทาต้งั แต่ 8 โมง)
-He’s been working in the garden since 8 o’clock.
เขาทางานในสวนต้งั แต่ 8 โมงเช้า
(ทาแบบไมห่ ยุดพักเลย ตงั้ แต่ 8 โมงเร่อื ยมา)

-A boy has played football since 3 o’clock.
เดก็ ชายเลน่ ฟตุ บอลตงั้ แต่ 3 โมง (เล่นไป พักไปถา้ เหนื่อย)
-A boy has been playing football since 3 o’clock.
เดก็ ชายเล่นฟุตบอลตงั้ แต่ 3 โมง (วิง่ อยู่ในสนามตลอด)

สรปุ ว่าเหตกุ ารณ์ท่ีเร่ิมตง้ั แตอ่ ดตี และดาเนินมาจาถึงปจั จบุ ัน(อย่างตอ่ เนื่อง) และคาดว่า 26
จะดาเนนิ ต่อไปในอนาคต ให้ใชโ้ ครงสรา้ ง

ประธาน +have, has + been+กรยิ าชอ่ งท่ี 1 เตมิ ing

ประโยคบอกเล่า
-I’ve been walking for two hours.
ผมเดนิ (ไมพ่ ักเลย) เปน็ เวลาสองช่วั โมงแล้ว
-You’ve been watching TV since 9 o’clock.
คุณดทู ีวี (ไมท่ าอย่างอนื่ เลย) ตัง้ แต่ 9 โมงเชา้ (น่มี ันเทีย่ งแล้ว)
-She’s been dancing for 3 hours.
หล่อนเตน้ ราเปน็ เวลา 3 ชว่ั โมงรวด (แบบว่าหางเครื่องนอ้ ย ตอ้ งเต้นตลอด)

ประโยคปฏิเสธ
-I haven’t been walking for two hours.
ผมไมไ่ ด้เดนิ เป็นเวลาสองชั่วโมงรวดนะ (เหน่ือยผมกพ็ ัก)
-They haven’t been watching TV since 9 o’clock.
พวกเขาไมไดด้ ทู วี ี (ไม่ทาอย่างอื่นเลย) ตัง้ แต่ 9 โมงเช้านะ (ดเุ มื่อกี้เอง)
-He‘s not been swimming for 30 minutes.
เขาไม่ไดว้ ่ายนา้ เปน็ เวลา 30 นาทีรวดหรอก (ว่ายถงึ ฝั่งโนน้ ก็พกั เอาแรงกอ่ น)

ประโยคคาถาม
-What have you been doing for two hours.
ทาอะไรอยตู่ งั สองชวั่ โมงเธอ (ไมเ่ ห็นออกจากบา้ นเลย)
I’ve been reading books. ฉันอ่านหนงั สือ

-How long have you been waiting for me? คณุ คอยผมนานแคไ่ หน
I’ve been waiting for you for 3 hours. ฉันคอยคณุ 3 ชว่ั โมง

-Has a boy been playing games for 4 hours?
เดก็ ชายเลน่ เกม 4 ชั่วโมงรวดเลยเหรอ
Yes, he’s been playing games for 4 hours.
ใชแ่ ลว้ เขาเลน่ 4 ชั่วโมงรวดเลย

Exercise 1 27

Directions : It's Saturday morning. What have Tim and his school
friends been doing since they got up?

Tim - decorate his bedroom

Patrick - work on his biology project

Sam and Matt - practice rugby

Joe and Peter - watch Sam and Matt

Raymond - do nothing

Sue and Jane - shop

Melanie - help with housework

Maria and Julie - chat on the Internet

Fiona and Eve - do community work

Kate - read a book

Tim ........................................................................................................................

Patrick .......................................................................................................................

Sam and Matt ......................................................................................................................

Joe and Peter ......................................................................................................................

Raymond ......................................................................................................................

Sue nad Jane ......................................................................................................................

Melanie .....................................................................................................................

Maria and Julie ....................................................................................................................

Fiona and Eve .....................................................................................................................

Kate .......................................................................................................................

Exercise 2 28

Directions : Respond to the following situations.
1. Why are you so tired?
Because I ................................................................ the wheels on my car. (replace)

2. Your French is perfect.
Really? I .................................................................. French for ten years. (learn)

3. Look at Jane. She's so nervous.
No wonder. She ....................................................... for her boyfriend for ages. (wait)

4. Bill is sunburnt.
Yes, he really is. He ............................................................... since the morning. (sunbathe)

5. Your parents look relaxed.
They ............................................................................. all the weekend. (relax)

6. All the footballers are so wet.
They .................................................................... in the rain since the match started. (play)

7. Have you talked to Richard yet?
Not yet. But I ............................................................ to phone him since you told me. (try)

8. Is Grace your neighbour?
Yes, she is. She .............................................................. next door for six years now. (live)

9. Why are Patt and Matt so dirty?
They ..................................................................... their bedroom. (paint)

10. Shall I wake Doris up?
Yes, please. She ............................................................ all day long. (sleep)

Exercise 3 29

Directions : Complete the lines with one of the options.

1. I've been reading that book you lent me. ...................................................................
Do you need it? It was great.

2. George has been going to a restaurant to have dinner. ..............................................
He'll be back soon. He likes it there.

3. I've been cooking all day. ..........................................................................................
I'm finished. I'm exhausted.

4. Sarah has been living with me ...................................................................................
until she moves to a new place but she moved to a new place.

5. We've been writing ........................................ since the morning.a lot of letters.

6. They've been renovating their house. ........................................................................
They hope to finish it soon. It's ready to use again.

7. I've been travelling to Africa................................................three times for three years.

8. My dad became a salesman and he's been moving around the country
................................................once more ever since.

9. Somebody has been drinking my coke. .....................................................................
The glass is nearly empty. The glass is empty.

10. I've been texting my friends....................................................repeatedly all day long.

Exercise 4 30

Directions : Make present perfect continuous questions.
1. How long ........................................................... for me? (you | wait)

2. What ............................................................ since he returned? (John | do)

3. Why ............................................................................ meat lately? (you | not eat)

4. There's so much snow on the road. .................................................. all night?
(it | snow)

5. Why ................................................................................ for such a long time? (Sam
and Mary | argue)

6........................................................................... my shampoo? There's not much left.
(you | use)

7. How long ......................................................................... glasses? (Jill | not wear)

8. ................................................................... since you decided to take the exam?
(you | revise)

9. Where .............................................................................. lately? (your dad | work)

10. Your hands are covered with chocolate.
................................................................ a cake? (you | make)

Exercise 5 31

Directions : Complete the conversations with positive and negative forms
of the present perfect continuous.

A: George, how long .................you ......................................... Japanese? (learn)
B: Japanese? Wait a minute. For about five years.

A: What a lovely smell!
B: My mum ..................................................... some cakes. (bake)

A: Why are your hands so dirty?
B: I ............................................................... my car. (clean)

A: You look so tired. You should have a rest.
B: Should I? But I .............................................................. so hard. (not work)

A: Why .................... Sarah ............................................. out lately? (not go)
B: She broke her leg while she was skiing.

A: Peter, why are you so noisy? I want to sleep!
B: Do you mean it? I .................................................any noise since I got up. (not make)

A: ................. you ............................................. for a long time? (cough)
B: Not really. It started the day before yesterday.

A: Mr. Gregson, how long .................... you ..............................................English? (not teach)
B: To tell the truth I've never taught English. But I'd like to try it.

32

Unit 5 Past simple tense

โครงสรา้ งประโยค Past Simple Tense

Subject + Verb 2

การใช้ Past Simple Tense
1. ใชก้ บั เหตุการณห์ รือการกระทาทีเ่ กิดขึน้ และจบลงไปแล้วในอดีต

ปกตจิ ะมีคาระบุเวลาในอดีตดว้ ย เชน่ last night, yesterday, three
hours ago, in 2013

Examples : - I walked to school yesterday.
- She lived there last year.

2. ใช้สาหรับเหตกุ ารณ์หรอื การกระทาทีเ่ กิดขน้ึ ตามลาดับในอดีต
Examples :

- Yesterday, when I got up, I went to the bathroom,
took off my clothes and brushed my teeth.

- He drank coffee, then he went out.

Note

1. Regular Verbs เป็นคากริยาท่ีไมม่ กี ารเปลย่ี นรปู จะเตมิ เฉพาะ ed เท่านั้น เช่น
walk – walked
play - played

2. Irregular Verbs คอื คากรยิ าไม่ปกติ เปน็ คากรยิ าที่จะมีการเปล่ียนรปู เม่ือ
เปล่ียนไปเปน็ คากรยิ าชอ่ งท่ี 2 และช่องที่ 3 เช่น

go - went
see – saw

33

3.หลักการเตมิ ed ใน Regular Verb

3.1 กริยาส่วนใหญเ่ ตมิ ed เชน่

work – worked help – helped

3.2 กริยาลงทา้ ยดว้ ย e เตมิ d เชน่

l ike – liked hope – hoped

3.3 กริยาลงท้ายดว้ ย y และหนา้ y เปน็ สระ (a, e, i, o, u) เตมิ ed เช่น

play – played enjoy - enjoyed

3.4 กริยาลงทา้ ยด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลย่ี น y เปน็ i แลว้

เติม ed เช่น try – tried reply – replied

3.5 กรยิ าท่มี ี 1 พยางค์ มสี ระและตัวสะกด 1 ตวั ให้เพิม่ ตวั สะกดอกี 1 ตวั

แล้วเตมิ ed เช่น plan – planned rob – robbed

Past Simple Tense “Negative and Interrogative Forms”

โครงสรา้ งรปู ประโยคปฏิเสธ
Subject + did+ not+ Verb 1

Examples : I did not see you.
He did not go to school.
They did not play football.

Note

1. หลกั การทารปู ประโยค Past Simple Tense ให้เปน็ ประโยคปฏิเสธทาได้
โดยการนา Verb to do ที่เปน็ ชอ่ งท่ี 2 มาชว่ ย และกริยาหลักใหเ้ ปล่ยี นมาเป็น
คากริยาชอ่ งท่ี 1 ที่ไม่มีการเปลีย่ นรปู

2. รปู ยอ่ ของ did not คือ didn’t

34

โครงสรา้ งรปู ประโยคคาถาม
Did + Subject + Verb 1 +?

Examples : -Did you understand the lesson yesterday?
Yes, I did. /No, I didn’t.

-Did Tom like our party last night?
Yes, he did. / No, he didn’t.

-Did they start the trip this morning?
Yes, they did. No, they didn’t.

Note

หลักการทารูปประโยค Past Simple Tense ให้เป็นประโยคคาถามทาได้
โดยการนา Verb to do ที่เปน็ ช่องท่ี 2 มาวางไวข้ ้างหนา้ ประธาน และกริยาหลักให้
เปลี่ยนมาเปน็ คากรยิ าชอ่ งที่ 1 ทไี่ ม่มีการเปล่ียนรูป

ตารางเปรียบเทียบโครงสรา้ งประโยค

Affirmative Forms Negative Forms Interrogative Forms

I went to school. I did not go to school. Did I go to school?
You went to school
You did not go to Did you go to school?
We went to school.
They went to school. school.

He went to school. We did not go to school. Did we go to school?
She went to school.
They did not go to Did they go to school?
It went to school.
school.

He did not go to school. Did he go to school?

She did not go to Did she go to school?

school.

It did not go to school. Did it go to school?

Past Simple Tense “Verb to be” 35

โครงสรา้ ง Verb to be ใน Past Simple Tense
Subject + was/were + Complement

Examples : I was born in Bangkok.
He was sick last Friday.
They were busy last week.

Note

Verb to be ใน Past Simple Tense มอี ยู่ 2 รปู ด้วยกนั คือ Was และ
Were โดย Was ใชก้ บั ประธานเอกพจน์ และ Were ใชก้ บั ประธานพหพู จนร์ วมไปถงึ
You
Examples : I was born in Bangkok.

You were born in Bangkok.
We were born in Bangkok.
They were born in Bangkok.
He was born in Bangkok.
She was born in Bangkok.
It was born in Bangkok.

การใช้ Was หรือ Were
1. ใชก้ บั คานาม
Examples : She was a student.
It was a cat.
They were computers.
2. ใชก้ ับคาบอกลกั ษณะ
Examples : It was difficult.
She was beautiful.
We were tired.

3. ใช้บอกสถานท่ี 36
Examples :
I was at home.
The pens were on the table.
We were under the tree.

โครงสรา้ งรปู ประโยคปฏเิ สธของ Was, Were
Subject + was/were + not + Complement

Examples : I was not at school yesterday.
She was not six years old.
They were not from Japan.

Note
1. การสรา้ ง Verb to be ใน Past Simple Tense ให้เป็นประโยคปฏิเสธทา

ไดโ้ ดยการเตมิ not หลงั was และ were
2. รปู ยอ่ ของ Was not คอื Wasn’t รปู ยอ่ ของ Were not คือ Weren’t

Examples : I wasn’t Peter.
He wasn’t a lazy girl.

โครงสรา้ งรปู ประโยคคาถามของ Was, Were
Was/Were + Subject + Complement +?

Examples : A: Were you hungry?
B: Yes, I was/ No, I wasn’t.
A: Was she a teacher?
B: Yes, she was / No, she wasn’t.

Note
การสรา้ ง Verb to be ใน Past Simple Tense ให้เป็นประโยคคาถามทาได้

โดยการสลับที่กันระหวา่ งประธานกับ was และ were

Exercise 1 37

Directions : Match the sentences to the appropriate verbs and
make them the past simple tense.

No The sentences The Verb

Ex. She became famous in 1990. a. put

1 He ………………..……. door yesterday. b. sit

2 She …………………….... a good job last night. c. stop

3 I ……………………….…. tired last Friday. d. ask

4 The teacher …………………………..…. me some e. do
questions this afternoon.

5 Britney …………………….. her hair this morning. f. keep

6 He ………………..……working a few hour ago. g. play

7 The boy ……………………….. football yesterday h. dry
afternoon.

8 Jerry …………..….. at the chair one hour ago. i. feel

9 The old lady ………………………. her ring in that j. close
box last two years.

10 The girl ………………..…… her bag on that table k. become
thirty minutes ago.

Exercise 2 38

Directions: Rewrite the following sentences by using the given verbs.
Examples : I my homework last night. (do)
I did my homework last night.

1. She French in 2014. (study)
………………………………………………………………………………………………………………….
2. He the program last night. (like)
………………………………………………………………………………………………………………….
3. She a headache last Friday. (have)
………………………………………………………………………………………………………………….
4. The director five minutes ago. (leave)
………………………………………………………………………………………………………………….
5. They me some books yesterday. (give)
………………………………………………………………………………………………………………….

6. We time in Bangkok last month. (spend)
………………………………………………………………………………………………………………….
7. I you to do the report last week. (ask)
………………………………………………………………………………………………………………….
8. Someone my shoes away this morning. (take)
………………………………………………………………………………………………………………….
9. The police him in the street two days ago. (arrest)
…………………………………………………………………………………………………………………
10. Columbus America more than 400 years ago. (discover)
…………………………………………………………………………………………………………………

Exercise 3 39

Directions: Complete the sentences with affirmative or negative
verbs.

Examples : I /work/ last week/not yesterday
I worked last week. I didn’t work yesterday.

1. We/eat/ the vegetables /not the meat
……………………………………………………………………………………………………………….
2. She/ listen / to everything/ not remember it
……………………………………………………………………………………………………………….
3. He / bring / some flowers / any chocolate
……………………………………………………………………………………………………………….
4. I /answer / the first question / not the second question
…………………………………………………………………………………………………………………...
5. They / play / football / not play well
…………………………………………………………………………………………………………………...
6. Mike / speak English / not German
…………………………………………………………………………………………………………………...
7. He / phone her / not go to her house
…………………………………………………………………………………………………………………...
8. You / pay Andy / not Tom
…………………………………………………………………………………………………………………..
9. They /collect the postcards / not the stamps
…………………………………………………………………………………………………………………..
10. You / like the book / not the film
…………………………………………………………………………………………………………………...

Exercise 4 40

Directions : Write the correct forms of verb to be:
(was or were).

Examples: I was in a post office yesterday.

1. Sarah ……………………………very beautiful last night.
2. You and I ……………………………..friends when we were young.
3. The town …………………….………dirty ten years ago.
4. A fish in the water ………………………dead.
5. Mike and Dan……………..………………….at the airport this
morning.
6. The homework …………………………….very difficult.
7. It ……………………………………my mistake.
8. My parents ………………………….in the kitchen two hours ago.
9. We ………………………………….afraid of wars twenty years go.
10 The villagers …………………………very happy last year.

Exercise 5 41

Part A
Directions : Rearrange the sentences with the correct form of to
be in the past (was, were).
1. I / be / at / this morning / not / the office
……………………………………………………………………………………………..
2. he / a student / be / bad /not
…………………………………………………………………………………............
3 tall / she/ be/ very /at / not /that time
……………………………………………………………………………………………
4. be/ my bag / yesterday /my books / not / in
……………………………………………………………………………………………
5. answer / the question / be / not /easy to
……………………………………………………………………………………………
Part B
Directions : Put the correct forms of was or were.

1. A: .............................you at school yesterday?
B: No, ......................................................................
2. A: ..............................she a singer last ten years?
B: Yes, .....................................................................
3. A: .............................Tim ill last Sunday?
B: No, ......................................................................
4. A: .............................those boys at the cinema last night?
B: No, ........................................................................
5. A: ..............................the books yours?
B: Yes, ........................................................................

42

Unit 6 Past continuous tense

Past Continuous Tense คอื อดตี กาลทีก่ าลังดาเนินอยูอ่ ยา่ งต่อเนอ่ื ง ใชก้ ล่าวถงึ
เหตกุ ารณ์ทกี่ าลงั กระทาหรอื ดาเนินอยู่ในชว่ งเวลาใดเวลาหนงึ่ ในอดตี โดยมีโครงสร้างของ
ประโยค ดังนี้

บอกเลา่ Subject+was,were+V1ing

คาถาม Was,Were+subject+V1ing

ปฏเิ สธ Subject+was,were+not+V1ing

was ใช้กับประธานเอกพจน์ (he, she, it, Jane, I)
were ใช้กบั ประธานพหูพนจ์ (we, they, birds)

(รูปแบบอยา่ งย่อ was not/wasn’t และ were not/weren’t)

หมายเหตุ : was/were ในโครงสรา้ ง Continuous Tense น้ี ทาหนา้ ท่ีเปน็ กรยิ าชว่ ย
(Auxiliary หรือ helping verbs) สว่ น Infinitive หรือ Verb1 ในโครงสร้าง Continuous Tense น้นั
มหี ลกั การเติม ing และมีคากรยิ าบางคาทีไ่ ม่สามารถนามาใช้เติม ing ในรูปของ Continuous Tense ได้
ซงึ่ เราเรยี กคากริยากลุ่มนี้วา่ stative verbs คากริยาแสดงสภาวะ

คากริยาแท้ Verb1 (infinitive) ในโครงสร้าง Continuous Tense น้นั

มหี ลักการเติม -ing ดังน้ี

1. คากรยิ าโดยทั่วไปเตมิ -ing ทา้ ยคากรยิ าไดเ้ ลย

• cook-cooking (ทาอาหาร) • draw-drawing (วาด)

• do-doing (ทา) • eat-eating (กิน)

• pour-pouring (ริน) • speak-speaking (พูด)

• start-starting (เร่มิ ) • visit-visiting (เยี่ยมเยียน)

• answer-answering (ตอบ) • listen-listening (ฟงั )

• treat-treating (เลยี้ ง, รกั ษา, ปฏบิ ตั ิตอ่ )

2. คากรยิ าทล่ี งทา้ ยด้วย e ให้ตดั e ออกแล้วเติม –ing 43
• hope-hoping (หวงั )
• ride-riding (ขี่)
• make-making (ทา)
• write-writing (เขียน)
• bake-baking (อบ)
• smile-smiling (ย้ิม)

3. คากรยิ าท่ีลงท้ายด้วย ee, ye และ oe ใหเ้ ติม –ing ไดเ้ ลย
• agree-agreeing (เห็นดว้ ย)
• see-seeing (เห็น)
• flee-fleeing (หนี)
• dye-dyeing (ยอ้ มสี)
• tiptoe-tiptoeing (เดนิ ย่อง, เดนิ ด้วยปลายเท้า)

4. คากรยิ าท่ีลงทา้ ยดว้ ย ie ให้เปลี่ยน ie เปน็ y แล้วเตมิ –ing
• die-dying (ตาย)
• tie-tying (ผูก, มัดให้แน่น)
• lie-lying (โกหก)

5. คากรยิ าท่มี พี ยางคเ์ ดียว มีสระเสยี งสัน้ ตัวเดียว ตวั สะกดตัวเดียว ให้เพม่ิ
ตวั สะกดตัวท้ายอกี หนง่ึ ตัว แล้วเตมิ –ing

• stop-stopping (หยุด)
• plan-planning (วางแผน)
• fit-fitting (พอดี,ติดตงั้ )
• beg-begging (ขอ)
• swim-swimming (ว่ายนา้ )
• shut-shutting (ปดิ )
• cut-cutting (ตดั )
• sit-sitting (น่งั )
• run-running (วง่ิ )
• jog-jogging (วง่ิ เหยาะๆ)

6. คากริยา 2 พยางค์ทล่ี งทา้ ยดว้ ยสระตัวเดียว และออกเสียงเนน้ หนกั พยางค์ 44

หลงั ใหเ้ พิ่มตวั สะกดตัวท้ายอกี หนึ่งตวั แลว้ เติม –ing

• prefer-preferring (ชอบมากกวา่ )

• refer-referring (อา้ งอิง)

• admit-admitting (ยอมรบั , รับเข้าไว้)

• commit-committing (ทาความผิด, มอบหมายให)้

• permit-permitting (อนุญาต)

• occur-occurring (เกิดขึ้น)

• begin-beginning (เริม่ ตน้ )

** แตถ่ า้ ออกเสียงเน้นหนกั พยางค์หน้า ไม่ต้องเพ่มิ ตวั สะกดตวั ท้าย ให้เตมิ -ing ได้เลย**

• inherit-inheriting (รบั มรดก)

• target-targeting (ต้งั เปา้ หมาย)

• cover-covering (คลุม, ปิดบัง)

• open-opening (เปดิ )

หลกั การใช้ Past Continuous Tense มดี งั น้ี

1. ใช้กล่าวถึงเหตกุ ารณท์ กี่ าลังเกิดขน้ึ ในอดีต โดยระบุเวลาเฉพาะเจาะจงไวอ้ ยา่ ง
ชดั เจน เช่น
•At 6 o’clock on Sunday morning yesterday we were going to the airport.
(ตอน 6 โมงเช้าวันอาทติ ยเ์ มอ่ื วานเรากาลงั ไปสนามบนิ )

•In 2017 Paul’s working in Turkey.
(ในปคี .ศ.2017 พอลกาลังทางานในตรุกี)

•Last night at 7 pm. I was having dinner.
(เม่ือคนื น้ีตอน 1 ทมุ่ ผมกาลังทานอาหารเยน็ )

•At midnight last night we were still driving through the desert.
(ตอนเท่ียงคืนเมื่อคนื พวกเรายงั คงกาลงั ขับรถผ่านทะเลทราย)

•Yesterday at this time I was swimming in the pool.
(เม่อื วาน ณ เวลาน้ี ฉนั กาลังว่ายนา้ ในสระนา้ )

หมายเหตุ *ถา้ ไมม่ ีเวลาระบเุ ฉพาะเจาะจงในอดีตวา่ เหตุการณ์นัน้ เกิดข้นึ เม่ือไหร่ ใหใ้ ช้ Past Simple Tense*

2. ใชก้ ล่าวถงึ เหตกุ ารณ์ 2 เหตุการณท์ กี่ าลงั เกิดข้ึนพร้อมกันในอดีต 45
•I was repairing my bike while my mother was cooking dinner.
(ฉันกาลังซ่อมรถจกั รยาน ในขณะทแี่ มข่ องฉนั กาลังทาอาหารเยน็ )

•While Jane’s reading the magazine, Jim’s watching television.
(ในขณะทีเ่ จนกาลงั อา่ นนติ ยสาร จมิ กาลังดูโทรทัศน์)

•Tim was playing the piano while his sister’s singing on the stage.
(ทิมกาลงั เล่นเปยี โน ในขณะท่นี อ้ งสาวของเขากาลงั รอ้ งเพลงอยบู่ นเวท)ี

•While Sarah’s speaking to Fred, Peter’s trying to get her attention.
(ในขณะทีซ่ าร่าหก์ าลังคุยอย่กู บั เฟรด ปีเตอร์กาลงั พยายามดึงความสนใจของเธอ)

•while John was gardening, his wife was cleaning the house.
(ในขณะทีจ่ อหน์ กาลงั ทาสวน ภรรยาของเขากาลงั ทาความสะอาดบ้าน)

3. ใชก้ ล่าวถึงเหตุการณใ์ นอดีตท่กี าลงั ดาเนินอยู่แต่ถกู อีกเหตกุ ารณห์ น่ึงแทรกเขา้ มา
ขัดจังหวะ
•You phoned while I was taking a bath.
(คณุ โทรมาในขณะที่ฉนั กาลงั อาบน้า)

•Many people were shopping in the market when the bomb exploded.
(ผู้คนมากมายกาลังจบั จ่ายซือ้ ของในตลาดตอนทเี่ กดิ ระเบิด)

•While I was washing my car, a boy fell of his bicycle.
(ในขณะท่ีผมกาลังล้างรถ เด็กชายล้มรถจกั รยาน)

•When I woke up this morning, it’s raining.
(เมื่อฉันตน่ื ขน้ึ มาเช้าน้ี ฝนกาลังตก)

หมายเหตุ เหตุการณแ์ รกท่กี าลังดาเนินอยนู่ ้นั เราใช้ Past Continuous Tense จะเป็น
การกระทาทสี่ ามารถกระทาหรือดาเนินอยู่ได้ในเวลานานๆ และอกี เหตกุ ารณ์ทแ่ี ทรกเขา้ มาขดั จงั หวะ
เราใช้ Past Simple Tense จะเปน็ การกระทาท่เี กิดขึน้ ในเวลาอนั สนั้ และสน้ิ สดุ ลงก่อนเหตุการณ์
แรกทีก่ าลังดาเนนิ อยู่

ข้อสังเกต ในกรณีน้ี เราใช้ while, as, และ when มาเปน็ คาเชอื่ มประโยค
• ประโยคทอ่ี ยู่หลงั while และ as (ในขณะท)ี่ จะเป็น Past Con.
• ประโยคท่อี ยหู่ ลงั when (เมอื่ , ตอนท)ี่ จะเปน็ Past Sim.

Exercise 1 46

Directions : Look at Jane's diary. What was she doing at these times?

Monday 4.30 - 5.30 p.m MphylaavydetiaaennrynaipspwoiitnhtmMeinmti at the dentist's
Tuesday 7 - 8 p.m
Wednesday 8 - 10 p.m. watch the Black Widows
Thursday 8.30 - 9.30 p.m. revise for an English test
Friday 5 - 7 p.m. do the shopping with Carrol
Saturday 11.30 - 12.30 a.m. cook lunch
Sunday 9 - 10 a.m. tidy the house with mum

On Monday at 5 p.m. she ...................................... an appointment
at the dentist’s.

On Tuesday between 7 - 8 p.m. Jane and Mimi ......................................
tennis.

On Wednesday at 9 o'clock she ...................................... the Black Widows.

On Thursday from 8.30 to 9.30 she ...................................... for an English
test.

On Friday at 6 o'clock Jane and Carrol ......................................
the shopping.

On Saturday between 11.30 and 12.30 she ...................................... lunch.

On Sunday at 9.30 Jane and her mum ...................................... the house.

But I don't know what she ...................................... at 12 p.m.
on Sunday. Was she sleeping?

Exercise 2 47

Directions : The Thompson family.

What were they doing on Sunday at 7 o'clock?

Mr. Thompson ........................................... (cook) dinner in the kitchen.

Mrs. Thompson ........................................... (clean) their car
in front of their house.

Jack and Eve ........................................... (sit) in the hall near the fireplace.

Jack, their 11 years old son, ........................................... (read) Shakespeare's
sonnets.

Eve, at the age of 16, ........................................... (play) with Barbies.

Their grandma and grandpa ........................................... (have) a good time.

Their grandma ........................................... (exercise) in the gym.

Their grandpa ........................................... (iron) shirts and socks
in the living room.

They also had two pets. And do you know what they
........................................... (do)?

Spot, the puppy, ........................................... (catch) mice in the garden.

And Kitty, the little cute kitten, .........................................(fight) with
neighbour's dog.

Exercise 3 48

Directions : Julie saw Tim and Matt at the swimming pool.
Make past continuous questions to complete the dialogue.

Sue : ...............................................when you saw them? (what | Tim and Matt | do)
Julie : Tim was swimming in the pool, but I didn't see Matt first.
Sue : ................................................... in the pool, too? (you | swim)
Julie : No, I wasn't. I was just looking. But then I saw Matt, too.
Sue : ..........................................................? (what | he | do)
Julie : He was diving in the pool.
Sue : Diving, you say. ................................................. to dive? (he | not | just | try)

He can't dive.
Julie : You're right. He was just trying to do it. And all his friends were

watching it.
Sue : ....................................................................? (they | laugh)
Julie : Of course, they were. Matt was pretty funny. He splashed the water

all over the place.
Sue : ....................................... faces when he came up to the surface of the pool?

(Matt | make)
Julie : Yes, he was. He was grinning and making faces at me.
Sue : At you? Vow! And what about Tim? ............................................. Matt, too?

(he | watch)
Julie : Not really. He was looking at me instead.
Sue : Oh, no! You're kidding. ......................................... your new

swimsuit? (you | wear)
Julie : Yes, I was. Why?
Sue : Now I know why Tim and Matt were watching you, Julie.

Exercise 4 49

Directions : Simon and his girlfriend Sharon were at a restaurant
during their lunch break. Make questi-ons in the past
continuous to ask about them.

Where .................................................................?
At a table by the window.

What ..................................................................?
Coffee with milk and a glass of apple juice.

What .................. Simon ...................................?
The apple juice.

............................................................ anything?
No, nothing. They were not hungry.

What .................... Sharon ..................................?
A white pullover and black jeans.

How .................. she ........................ in her outfit?
She was really pretty.

................... they ......................... anything special?
Not really. They were just talking.

What ........................................................ about?
About their friends from school.

How ................. Simon .................... at the restaurant?
He was quite happy and relaxed.