บุคคลสำ คัญในสมัย มั อยุธยา
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์ริแ ย์ ห่งกรุง ศรีอ รี ยุธยา พระราชโอรสในพระเจ้า จ้ปราสาท พระราชสมภพ เมื่อ มื่ วัน วั จัน จั ทร์ที่ ร์ ที่ 16 กุม กุ ภาพัน พั ธ์ พ.ศ. 2175 ครองราชย์ ระหว่า ว่ ง พ.ศ. 2199 – 2231 ขยายพระราชอาณาจัก จั ร โดยทำ ศึกกับพม่า ม่ เพื่อ พื่ ชิงชิ เมือ มื งเชีย ชี งใหม่ ทำ สงครามเพื่อ พื่ ชิงชิเมือ มื งทวาย เมือ มื ง เมาะตะมะกลับมาเป็น ป็ ของกรุงศรีอ รี ยุธยา ทรงส่ง ส่ เสริมริด้านการค้าขายกับนานาชาติ จนทำ ให้กรุง ศรีอ รี ยุธยาเป็น ป็ อีกหนึ่งศูนย์ก ย์ ลางแลกเปลี่ยนการค้า ระดับนานาชาติ สร้า ร้ งพระราชวัง วั เมือ มื งละโว้ห ว้ รือ รื ลพบุรี เมื่อ มื่ พ.ศ. 2209 เพื่อ พื่ ใช้สำ ช้ สำหรับ รั ว่า ว่ ราชการ ต้อนรับ รั แขกเมือ มื ง และทรง ประทับอยู่ที่ ยู่ ที่ เมือ มื งลพบุรี 8-9 เดือนต่อปี สร้า ร้ งความเจริญริรุ่ง รุ่ เรือ รื งทางด้านการทูต ทู สมเด็จด็ พระนารายณ์มหาราช สมเด็จด็ พระนารายณ์มหาราช
สมเด็จด็ พระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จด็ พระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เป็น ป็ พระราชโอรสของสมเด็จ พระบรมราชาธิบธิดีที่ 2 (เจ้า จ้ สามพระยา) กับพระราชธิดธิา ของพระมหาธรรมราชาที่ 2 แห่งสุโ สุ ขทัย เมื่อ มื่ พ.ศ.๒๐๐๖ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้เสด็จ ไปประทับที่พิษพิณุโลกและถือว่า ว่ อาณาจัก จั รสุโ สุ ขทัยถูก ถู รวมเข้า ข้ กับอาณาจัก จั รอยุธยานับตั้งแต่นั้น นั้ เป็น ป็ ต้นมา มีพ มี ระประสงค์ที่จะดึงอำ นาจเข้า ข้ สู่ศูสู่ ศู นย์ก ย์ ลางหรือ รื ราชธานี จึง จึ ลดบทบาทของเจ้า จ้ นายลงและเพิ่มพิ่อำ นาจ ให้ขุนนาง เพื่อ พื่ ป้องกันการแย่ง ย่ ชิงชิอำ นาจจากเชื้อ ชื้ พระ วงศ์ เช่น ช่ ลดฐานะเมือ มื งลูก ลู หลวง เมือ มื งหลานหลวงลง เป็น ป็ เมือ มื งชั้น ชั้ จัต จั วาและส่ง ส่ ขุนนางไปปกครองแทนเจ้า จ้ นาย มีก มี ารแยกฝ่ายทหารและพลเรือ รื นโดยใช้ขุ ช้ ขุ นนาง ตำ แหน่งสมุหพระกลาโหมดูแ ดู ลกิจการฝ่าย ทหาร สมุหนายกดูแ ดู ลกิจการฝ่ายพลเรือ รื นทั่วราชอาณาจัก จั ร
สมเด็จด็ พระนเรศวรมหาราช สมเด็จด็ พระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ รื สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ญ์ ที่2 มี พระนามเดิมว่า ว่ พระองค์ดำ พระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรม ราชาและพระวิสุวิท สุ ธิกธิษัตรีย์ รี ย์ ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวัง วั จัน จั ทน์ เมื่อ มื่ปี พ.ศ. 2098 พระองค์ทรงมีพ มี ระเชษฐภคินีและพระ อนุช นุ า คือ พระสุพ สุ รรณกัลยา และสมเด็จพระเอกาทศรถ ในขณะที่ พระองค์ทรงพระเยาว์ พระเจ้า จ้ บุเรงนอง กษัตริย์ริพ ย์ ม่า ม่ ได้ยกทัพมาตี เมือ มื งพิษพิณุโ ณุ ลก และทรงขอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปเลี้ยงเป็น ป็ พระราชบุตรบุญธรรมเพื่อ พื่ เป็น ป็ ตัวประกันที่หงสาวดี จนพระชนมายุ ได้ 15 พรรษา พระองค์จึง จึ เสด็จกลับกรุงศรีอ รี ยุธยา และได้รับ รั โปรด เกล้าฯ ให้เป็น ป็ พระมหาอุปราชปกครองเมือ มื งพิษพิณุโ ณุ ลก ในปี พ.ศ. 2098 ทรงหลั่ง ลั่ น้ำ ทักษิโณทก ณ เมือ มื งแครง ประกาศอิสรภาพ ของชาติไทยโดยไม่ขึ้ ม่ น ขึ้ กับพม่า ม่ อีกต่อไป และทรงขึ้น ขึ้ ครองราชย์เ ย์ป็น ป็ พระมหากษัตริย์ริค ย์ รองกรุงศรีอ รี ยุธยา เมื่อ มื่ วัน วั ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ทรงเป็น ป็ กษัตริย์ริอ ย์ งค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สุโ สุ ขทัย ในรัช รั สมัย มั ของพระองค์ทรงกระทำ สงครามขยายพระราช อาณาจัก จั รไทยให้แผ่ไผ่ พศาลไปในจตุร ตุ ทิศ ทรงเป็น ป็ กษัตริย์รินั ย์ ก นั รบผู้ ยิ่งยิ่ใหญ่แ ญ่ ละกล้าหาญ โดยพระองค์ได้กู้คื กู้ คื นอิสรภาพของไทยจาก การเสีย สี กรุงศรีอ รี ยุธยา ช่ว ช่ ยกอบกู้เ กู้ อกราชของชาติ
สมเด็จด็ พระรามาธิบ ธิ ดีที่ ดี ที่ สม 1 เด็จด็ พระรามาธิบ ธิ ดีที่ ดี ที่ 1 จดหมายเหตุโ ตุ หรระบุว่า ว่ พระเจ้า จ้ อู่ทองรามาธิบธิดีเสด็จพระ ราชสมภพวัน วั จัน จั ทร์ ขึ้น ขึ้ 8 ค่ำ เดือน 5 ปีข ปี าล จ.ศ. 676 (ตรง กับปี พ.ศ. 1857) ได้ทรงสถาปนาเมือ มื งหลวงขึ้น ขึ้ ในบริเริวณที่ หนองโสนเมื่อ มื่ จ.ศ. 712 ปีข ปี าล โทศก วัน วั ศุกร์ขึ้ ร์ น ขึ้ 6 ค่ำ เดือน 5 เวลา 3 นาฬิกา 9 บาท ตรงกับวัน วั ศุกร์ที่ ร์ ที่ 4 มีน มี าคม พ.ศ. 1893 เมื่อ มื่ ครองราชย์ไย์ ด้รับ รั เฉลิมพระปรมาภิไธยว่า ว่ สมเด็จพระรามาธิบธิดีศรีสุ รี น สุ ทรบรมบพิตพิรพระพุทธเจ้า จ้ อยู่หั ยู่ หั ว ถึงปีร ปี ะกา พ.ศ. 1912 เสด็จสวรรคต อยู่ใยู่ นราชสมบัติ บั ติ 20 ปี ทรงสถาปนากรุงศรีอ รี ยุธยาเป็น ป็ ราชธานีเมื่อ มื่ วัน วั ศุกร์ ขึ้น ขึ้ 6 ค่ำ เดือน 5 ปีข ปี าล จุลศักราช 712 ตรงกับวัน วั ที่ 4 มีน มี าคม พ.ศ. 1893
ออกญาเสนาภิมุภิข มุ (ยามาดะ นางามาซะ) ออกญาเสนาภิมุภิข มุ (ยามาดะ นางามาซะ) ยามาดะ นางามาซะ เมื่อ มื่ ครั้ง รั้ อดีตที่อยู่ญี่ ยู่ ญี่ปุ่น เคยมีอ มี าชีพ ชี ที่ ต่ำ ต้อย ขนาดหามเสลี่ยงให้กับ “โอคุโ คุ บะ จิเจิอมอง”เจ้า จ้ แห่ง แคว้น ว้ “ซุนชู” ยามาดะเดินทางออกจากญี่ปุ่นเพื่อ พื่ ที่จะแสวง โชคเอาข้า ข้ งหน้า โดยเข้า ข้ มาค้าขายในกรุงศรีอ รี ยุธยาก่อนที่จะ สมัค มั รเข้า ข้ไปเป็น ป็ ทหารอาสาในเวลาต่อมา ในรัช รั สมัย มั พระเจ้า จ้ ทรงธรรรม ยามาดะได้รับ รั การแต่งตั้งให้ เป็น ป็ หัวหน้าหมู่บ้ มู่ า บ้ นญี่ปุ่น และยัง ยั เป็น ป็ พ่อ พ่ ค้าคนกลางกับชาว ต่างชาติอีกด้วย เพราะว่า ว่ ได้ประโยชน์ทางการค้าเป็น ป็ อย่า ย่ ง มาก หลังจากยามาดะรับ รั ราชการกับกรุงศรีอ รี ยุธยาแล้วมี ความดีความชอบจนได้รับ รั ตำ แหน่งถึง “ออกญาเสนาภิมุข” มีท มี หารในบัง บั คับบัญ บั ชาประมาณ 800 คน และยัง ยั ช่ว ช่ ย ราชการปราบกบฎอยู่ห ยู่ ลายครั้ง รั้
สมเด็จด็ พระสุริสุ โริ ยทัย ทั สมเด็จด็ พระสุริสุ โริ ยทัย ทั สัน สั นิษฐานว่า ว่ สืบ สื เชื้อ ชื้ สายมาจากราชวงศ์สุโ สุ ขทัยดำ รง ตำ แหน่งพระอัครมเหสีใสี นสมเด็จพระมหาจัก จั รพรรดิ ในขณะที่สมเด็จพระมหาจัก จั รพรรดิ ขึ้น ขึ้ ครองราชสมบัติ บั ติกรุง ศรีอ รี ยุธยาได้เพีย พี ง ๗ เดือน เมื่อ มื่ พ.ศ.๒๐๙๑ พระเจ้า จ้ ตะเบ็ง บ็ ชะเวตี้และพระมหาอุปราชาบุเรงนองยกกองทัพพม่า ม่ - รามัญ มั เข้า ข้ มาล้อมกรุงศรีอ รี ยุธยาครั้ง รั้ แรกตั้งค่ายล้อม พระนคร การศึกครั้ง รั้ นั้น นั้ เป็น ป็ ที่เลื่องลือถึงวีร วี กรรมของ สมเด็จพระศรีสุ รี ริ สุ โริยทัย ซึ่ง ซึ่ ไสช้า ช้ งพระที่นั่ง นั่ เข้า ข้ ขวางพระเจ้า จ้ แปรด้วยเกรงว่า ว่ สมเด็จพระมหาจัก จั รพรรดิ พระราชสวามี จะเป็น ป็ อันตราย จนถูก ถู พระแสงของ้าวฟัน ฟั พระอังสาขาด สะพายแล่งสิ้นสิ้พระชนม์อ ม์ ยู่บ ยู่ นคอช้า ช้ ง เพื่อ พื่ปกป้องพระราช สวามีไมี ว้ เมื่อ มื่ สงครามยุติลง สมเด็จพระมหาจัก จั รพรรดิได้ ทรงปลงพระศพของพระนางและสถาปนาสถานที่ปลงพระ ศพขึ้น ขึ้ เป็น ป็ วัด วั ขนาน นามว่า ว่ "วัด วั สบสวรรค์" (หรือ รื วัด วั สวนหลวงสบสวรรค์)
ชาวบ้บ้า บ้บ้ นบางระจัจัน จัจั พม่า ม่ ได้พยายามเข้า ข้ มาตีชาวบ้า บ้ นบางระจัน จั ถึง 7 ครั้ง รั้ แต่ไม่สำ ม่ สำเร็จ ร็ จนในครั้ง รั้ สุด สุ ท้ายสุกี้ สุ กี้ ชาวมอญ ซึ่ง ซึ่ เป็น ป็ นายกองใหญ่ข ญ่ องพม่า ม่ ได้ เคยอยู่ใยู่ นเมือ มื งไทยเป็น ป็ เวลานาน และรู้ว่ รู้ า ว่ ชาวบ้า บ้ นบางระจัน จั ถนัด นั รบ ในที่แจ้ง จ้ จึง จึ อาสามาปราบชาวบ้า บ้ นบางระจัน จั โดยสั่ง สั่ ให้ยิงยิปืน ปื ใหญ่ เข้า ข้ไปในค่ายแทนการสู้รสู้ บกันกลางแจ้ง จ้ ทำ ให้คนไทยต้องเสีย สี ชีวิ ชี ตวิ เป็น ป็ จำ นวนมาก นายทองเหม็น ม็ ได้ขี่ก ขี่ ระบือ บื บุกเข้า ข้ ค่ายพม่า ม่ แต่ถูก ถู พม่า ม่ รุมทำ ร้า ร้ ยจนตาย ส่ว ส่ นฝ่า ฝ่ ยไทยไม่มี ม่ ปืมี น ปื ใหญ่ยิ ญ่ งยิตอบโต้ ครั้ง รั้ เมื่อ มื่ ขอไปทางกรุง ศรีอ รี ยุธยาก็ไม่ใม่ ห้ โดยอ้างว่า ว่ เกรงจะถูก ถู ข้า ข้ ศึกแย่ง ย่ ไประหว่า ว่ งทาง ชาวบ้า บ้ นจึง จึ ช่ว ช่ ยกันหล่อปืน ปื ใหญ่เ ญ่ อง โดยบริจริาคของใช้ทุ ช้ ก ทุ อย่า ย่ งที่ทำ ด้วยทองเหลืองมาหล่อปืน ปื ได้สองกระบอก แต่พอทดลองยิงยิ กระบอกปืน ปื ก็แตกจนใช้ก ช้ ารไม่ไม่ ด้ ในที่สุด สุ ชาวบ้า บ้ นบางระจัน จั ก็พ่า พ่ ย แพ้แ พ้ ก่พม่า ม่ โดยการต่อสู้กัสู้ กั นมานานถึง 5 เดือน วีร วี กรรมของชาว บ้า บ้ นบางระจัน จั ได้รับ รั การยกย่อ ย่ งว่า ว่ เป็น ป็ เกียรติภูมิ ภู ขมิองคนไทยอันมี ค่ายิ่งยิ่และถือเป็น ป็ ตัวอย่า ย่ งอันดีของอนุช นุ นรุ่น รุ่ หลัง
ออกญาโกษาธิบ ธิ ดี (ปาน) ออกญาโกษาธิบ ธิ ดี (ปาน) ออกญาโกษาธิบธิดี (ปาน) เดิมชื่อ ชื่ "ปาน" เป็น ป็ น้องชายของ เจ้า จ้ พระยาคลัง หรือ รื เจ้า จ้ พระยาโกษาธิบธิดี (เหล็ก) ในสมัย มั สมเด็จพรนารายณ์มหาราช เมื่อ มื่ อายุ 20 ปี ได้เข้า ข้ รับ รั ราชการกับพี่ช พี่ าย หลังจากนั้น นั้ อีก 15 ปีต่ ปี ต่ อมา ได้รับ รั แต่งตั้ง ให้เป็น ป็ ออกพระวิสุวิท สุ ธสุน สุ ทร (ปาน) และได้เป็น ป็ หัวหน้าคณะ ฑูต ฑู เดินทางไปเจริญริสัม สั พัน พั ธไมตรีกั รี กั บฝรั่ง รั่ เศส เมื่อ มื่ พ.ศ. 2229 เป็น ป็ ขุนนางที่สร้า ร้ งชื่อ ชื่ เสีย สี งและเกียรติภูมิ ภู ใมิห้กับชาติบ้า บ้ น เมือ มื งในสมัย มั อยุธยา ช่ว ช่ ยสร้า ร้ งความสัม สั พัน พั ธ์ร ธ์ ะหว่า ว่ งอยุธยา กับฝรั่ง รั่ เศสให้มีค มี วามใกล้ชิดชิและมีค มี วามเข้า ข้ใจต่อกันมากยิ่งยิ่ ขึ้น ขึ้ ทำ ให้อยุธยาสามารถดึงฝรั่ง รั่ เศสมาถ่วงดุล ดุ อำ นาจกับ ฮอลันดาได้ตามวิเวิทโศบายที่ทางอยุธยาวางเอาไว้
นาย ศุภกิตติ์ จินจิ ดา ม.3/7 เลขที่ 9