2. นกั เรยี นที่มคี วามบกพร่องทางการเรียนรู้
แอลดี ตามเกณฑก์ ารวนิ ิจฉยั DSM-5 ของสมาคมจติ แพทย์อเมริกนั คอื มีความยากลำบากในการ
เรียนรู้ และทกั ษะทใ่ี ช้ในการเรียน อย่างตอ่ เนือ่ งนานกวา่ 6 เดือน แม้วา่ จะได้รบั การแก้ไขมาระยะหนึ่งแล้ว
โดยมีอยา่ งนอ้ ย 1 จาก 6 อาการ ดงั น้ี
1. อ่านชา้ หรอื อา่ นไม่ถกู ตอ้ ง
2. ยากลำบากในการทำความเขา้ ใจความหมายของสิ่งทีอ่ า่ น
3. ยากลำบากในการสะกดคำ
4. ยากลำบากในการเขียน
5. ยากลำบากในการจัดการกับจำนวน ตวั เลข และการคำนวณ
6. ยากลำบากในเหตุผลทางคณิตศาสตร์
ทักษะที่ใช้ในการเรียนเหล่านี้ทำได้ต่ำกว่าระดับอายุ ส่งผลรบกวนต่อการเรียน การประกอบอาชีพ
หรือกิจวัตรประจำวัน ทั้งนี้ต้องไมไ่ ด้เกิดจากความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ข้อจำกัดในการมองเห็น หรือได้ยิน
ความผิดปกติทางจิตใจและระบบประสาท ความด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม ความแตกต่างในด้าน
ภาษา หรอื การศกึ ษาที่ไม่เพียงพอ
แอลดี แบง่ ออกเปน็ 3 ดา้ นหลัก โดยมีความบกพรอ่ งดา้ นใดด้านหน่ึง หรอื หลายด้าน ดังน้ี
1) ดา้ นการอ่าน (reading)
2) ดา้ นการเขยี น (written expression)
3) ดา้ นคณิตศาสตร์ (mathematics)
1) ความบกพรอ่ งทางการอ่าน (impairment in reading) คือ เดก็ ที่อา่ นหนงั สือไมอ่ อกเลย หรือ
อ่านหนังสือได้ไม่เหมาะสมตามวัย เช่น จดจำพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ไม่แม่นยำ แยกแยะพยัญชนะท่ี
คลา้ ยกันไมอ่ อก เช่น ก-ถ-ภ, พ-ฟ, ม-น สะกดไม่ถูก อ่านตกหล่น อ่านทลี ะตัวอักษรไดแ้ ต่ผสมคำไมไ่ ด้ ทงั้ ๆ ท่ี
เดก็ ดมู ีความฉลาดรอบรู้ในด้านอืน่ ๆ ถา้ มีใครเลา่ เร่ืองให้ฟังจะเข้าใจดี จำได้ การเรยี นรจู้ ากการเห็นภาพ และ
การฟังจะทำไดด้ ี แต่ถ้าให้อา่ นเองจะไม่ค่อยรู้เรือ่ ง อ่านตะกุกตะกัก จับใจความไม่ได้ มีข้อจำกดั ในการเรียนรู้
คำศพั ท์ใหม่ ๆ
2) ความบกพร่องทางการเขยี น (impairment in written expression) คือ เด็กที่มีปัญหาใน
ด้านการเขยี นหนงั สอื ตงั้ แต่เขยี นหนังสือไมไ่ ด้เลย เขยี นตกหลน่ สลบั ตำแหนง่ หรอื ผดิ ตำแหน่ง สลับด้านแบบ
สอ่ งกระจก หัวเขา้ หัวออกสบั สน เช่น ด-ค พ-ผ ถ-ภ ผันวรรณยุกต์ไม่ถูก วางสระไมถ่ กู ตำแหน่ง เขียนไม่เป็น
ประโยคที่สมบูรณ์ ใช้คำเชื่อมไม่ถูกต้อง เว้นวรรคตอนหรือย่อหน้าไม่ถูกต้อง จนทำให้ผู้อ่านไม่สามารถเข้าใจ
ความหมายทีผ่ ู้เขียนต้องการสอื่ ได้ถกู ตอ้ งเดก็ มขี ้อจำกัดในการถ่ายทอดความคิดผ่านการเขยี นหนังสือ มกั ทำให้
ความหมายผิดเพย้ี นไปจากส่งิ ท่ีตอ้ งการสอ่ื สาร และไม่สามารถเขียนหนังสอื ได้ถูกตอ้ งตามหลักภาษา
3) ความบกพร่องด้านคณิตศาสตร์ (impairment in mathematics) คือ เด็กมีปัญหาด้าน
คณติ ศาสตร์หลากหลายรปู แบบ และหลายระดบั ความรุนแรง เช่น มคี วามสับสนเก่ยี วกับเร่ืองตวั เลข ไม่เข้าใจ
เรื่อง การบวก ลบ คูณ หาร ไม่สามารถแปลโจทย์ปัญหาเป็นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ มีการคำนวณที่
ผิดพลาด ตกหล่นเกี่ยวกับเรื่องตัวเลขเป็นประจำ มีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนและตัวเลข การใช้สัญลักษณ์ทาง
คณติ ศาสตร์ ทำใหไ้ มส่ ามารถหาคำตอบได้ถกู ตอ้ งตามหลกั เกณฑ์ทางคณิตศาสตรเ์ ดก็ ท่ีเปน็ แอลดีจะมีหน้าตา
เป็นปกติ ไม่มีความแตกต่างจากเพื่อนในรูปลักษณ์ภายนอก การพูดคุยรู้เรื่องดี เข้าใจง่าย จดจำได้ค่อนข้าง
แม่นดว้ ยซำ้ เวลาถามมกั จะตอบได้ แต่เวลาใหเ้ ขยี นอา่ นหรือคำนวณ จะเรมิ่ เหน็ ปญั หา ผลการเรียนจะต่ำกว่า
คู่มอื ระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี นและการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 46
เกณฑ์ มักช้ากว่าเพื่อนวัยเดียวกันประมาณ 2 ชั้นเรียน ปัญหาที่ทำให้ชวนสงสัยว่าเป็นแอลดีหรือไม่ มักมี
อาการแสดงอยู่ 4 ลกั ษณะใหญ่ ๆ คือ
3.1) มปี ัญหาการเรียน เช่น เรียนไม่ทัน สอบตก ทำงานไมเ่ สร็จ ไม่คอ่ ยสง่ งาน อา่ นหนังสือไม่
ค่อยออก เขยี นผิดๆ ถกู ๆ คิดเลขไม่ค่อยออก เป็นตน้
3.2) มปี ญั หาทางพฤติกรรม เชน่ ไมย่ อมไปโรงเรยี น โดดเรียน แยกตัว ไมค่ อ่ ยสงุ สิงกบั ใคร ก้าวร้าว
เกเร ในบางรายทเ่ี ป็นสมาธสิ ัน้ ร่วมด้วย จะพบวา่ ไม่คอ่ ยมีสมาธิ ซกุ ซน อยู่ไม่นง่ิ รอคอยไมค่ อ่ ยได้ เป็นต้น
3.3) มีปัญหาอารมณ์และการปรับตัว เช่น ซึมเศร้า แยกตัว หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน
ปรบั ตัวเข้ากับเพอ่ื นไม่ได้ เป็นต้น
3.4) มีปญั หาความเจ็บป่วยทางร่างกายแต่หาสาเหตไุ มพ่ บมกั เปน็ อาการทางกายทมี่ ีความสัมพันธ์
กับความเครยี ด เช่น ปวดหัว ปวดทอ้ ง คลนื่ ไส้ ตาพร่า เป็นต้น
เมื่อพบลักษณะดงั กล่าว ควรนำเด็กไปพบแพทย์ เพอื่ ประเมนิ ปัญหาว่าเกิดจากอะไร จะไดห้ า
แนวทางดแู ลชว่ ยเหลือเด็กไดเ้ หมาะสม ดงึ ศักยภาพที่เด็กมีอยู่ออกมาใชอ้ ย่างเต็มท่ี
3. เดก็ ออทิสตกิ
เด็กออทิสติก เป็นกลุ่มโรคที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของโครงสร้างหรือสารเคมีบางอย่างของ
สมอง ทำใหเ้ กดิ ปัญหาด้านพฒั นาการทางภาษาและสงั คม เช่อื วา่ โรคนีเ้ กิดขึ้นตัง้ แต่ในครรภ์มารดา โดยในเด็ก
เล็กบางคนอาจมีลักษณะความผิดปกติให้พ่อแม่เริ่มสังเกตได้ แต่ในบางรายอาจจะยังสังเกตเห็นได้ไม่ชัดเจน
โดยทั่วไปแล้วโรคออทิสติกจะส่งผลให้เกิดปัญหาในเรื่องของพัฒนาการด้านภาษาและสังคม ซึ่งก็คือการมี
ปฏิสัมพนั ธก์ บั คนรอบข้าง คณุ พอ่ คณุ แมส่ ามารถสังเกตพฒั นาการของลกู ได้ ดงั น้ี
• พฒั นาการดา้ นภาษา
o พดู ช้า หรอื ยงั ไมพ่ ดู เม่อื ถงึ วยั ที่สมควร
o พูดคำซ้ำ ๆ
o พูดด้วยภาษาของตัวเองทีค่ นอืน่ ฟงั ไมเ่ ข้าใจ
o พดู ติด ๆ ขัด ๆ
o พูดดว้ ยโทนเสียงทผี่ ดิ ปกติ
o พดู ไมช่ ดั มาก ๆ
• พัฒนาการดา้ นสังคม (การมปี ฏิสัมพันธก์ ับคนรอบข้าง)
o ไม่สบตา ไม่มองหนา้
o ไมส่ ่ือสารแสดงความต้องการของตวั เอง เช่น ไม่ชี้ไปท่ีของที่อยากได้
o ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหนา้ ไม่ยิม้ ไม่หัวเราะ
o ชอบเล่นคนเดยี วหรอื อยู่คนเดยี ว
o ไมส่ นใจทีจ่ ะมีปฏิสัมพนั ธ์กับใคร เชน่ ไม่ทกั ใครกอ่ น ไม่ยมิ้ ให้ ไม่ย้มิ ตอบวง่ิ หนเี มื่อมคี นมาทกั
o ไม่สามารถสนทนากับผู้อ่นื ไดน้ านๆ
o ไมข่ อความชว่ ยเหลอื จากผู้อนื่
o ไม่มเี พ่ือนสนทิ ตามวยั
คมู่ ือระบบการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี นและการจัดการเรยี นรู้ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดโรคโควิด-19 47
• พัฒนาการดา้ นอื่นๆ
o ชอบทำกิจกรรมเดมิ ซำ้ ๆ
o ไมช่ อบการเปล่ียนแปลง รบั การเปลีย่ นแปลงไมค่ อ่ ยได้ เช่น ต้องใสร่ องเทา้ ค่เู ดมิ สเี ดมิ
ถ้าเปล่ยี นรองเทา้ คทู่ ี่ใส่จะรอ้ งไหไ้ ม่ยอมหยดุ
o ชอบเรยี งของให้เปน็ ระเบยี บ เชน่ เรยี งของเลน่ ใหเ้ ปน็ แถวต่อๆ กนั ไป
o สนใจวัตถเุ ฉพาะสว่ น เชน่ รถยนต์ของเลน่ อาจจะสนใจดูแต่สว่ นลอ้ ทห่ี มนุ ๆ พดั ลมท่ีส่าย
ไปมา หรอื รายละเอียดบางอยา่ ง
o ไม่เล่นสมมติตามวัย
หลักการสอนเดก็ ออทสิ ติก
1) สอนเปน็ รายบุคคล และตามระดับความสามารถของเด็ก
2) สอนจากง่ายไปยาก ใกลต้ วั ไปไกลตวั
3) สอนโดยใช้หลกั 3 R
4) สอนใหผ้ ู้เรียนไดฝ้ ึกปฏบิ ตั จิ รงิ
5) เวลาในการทำกจิ กรรมไม่ควรเกนิ 15-20 นาที
6) การเรียนร้แู ละการปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรม
ทง้ั นก้ี ารเรียนรไู้ ดด้ ขี ึน้ อย่กู ับครูผู้สอน พฤตกิ รรมการเรียนรู้ และตัวเดก็ เอง
4. เด็กสมาธิส้นั
โรคสมาธิสั้น เป็นการขาดความสามารถ ตั้งใจ/สนใจ ต่อกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึง่ ที่กำลงั กระทำอยู่
เปน็ ความผิดปกตทิ างพฤติกรรมชนดิ หนึง่ ท่เี ด็กมกั แสดงออกจนเป็นลักษณะเฉพาะตัว ประกอบดว้ ยพฤติกรรม
ไม่เหมาะสมกับวัย หรอื ระดับพัฒนาการ ปกตมิ าตรฐานซนมาก ไม่มรี ะเบยี บ วอกแวก ขาดสมาธิ มักทำอะไร
กอ่ นคิด วู่วาม ก้าวรา้ ว
ลกั ษณะอาการทางคลินิกท่ีพบได้
- กลมุ่ อาการขาดสมาธิ
1) ไม่สามารถจดจำรายละเอียดของงานได้มักจะทำผิดเนอื่ งจากขาดความรอบคอบ
2) ไมม่ ีสมาธใิ นการทำงาน หรือเลน่
3) ไม่สนใจฟงั คำพดู ของคนอืน่
4) ไม่สามารถต้งั ใจฟัง และเก็บรายละเอยี ดของคำสั่งได้
5) ทำงานไมเ่ ปน็ ระเบยี บ
6) ไม่เต็มใจ หรอื เลี่ยงการทำงานที่ต้องใช้ความคิด
7) ทำของใชส้ ว่ นตัวทีจ่ ำเปน็ ต้องใช้ในการเรยี นหรือการทำงานหายบ่อย ๆ
8) วอกแวกง่ายๆ
9) ข้ีลืมบอ่ ย ๆ ในกิจวตั รประจำวันของงานท่ีทำ
คู่มอื ระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรยี นและการจัดการเรียนรใู้ นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดโรคโควิด-19 48
- กลุ่มอาการซน หุนหันพลันแลน่
1) ยุกยิก อยไู่ ม่เปน็ สุข ชอบขยบั มือ ขยบั เท้าไปมา
2) ชอบลกุ จากท่นี งั่ เวลาเรยี น หรอื สถานท่ีที่จำกัดให้ต้องนัง่ เฉย ๆ
3) ชอบวงิ่ หรอื ปีนป่ายสิ่งตา่ งๆ (ในวยั รุ่นอาจจะแค่กระวนกระวายใจเทา่ น้ัน)
4) ไมส่ ามารถเลน่ หรอื นัง่ นงิ่ อยู่เงียบๆ ได้
5) ต้องเคลอ่ื นไหวตลอดเวลาเหมอื นมีเคร่ืองยนต์ตดิ ตวั
6) พดู มาก พูดไม่หยดุ
7) ชอบโพลง่ คำตอบเวลาครหู รอื พอ่ แม่ถาม โดยที่ฟงั คำถามยงั ไมจ่ บ
8) มคี วามลำบากในการเข้าควิ หรือการรอคอย
9) ชอบขัดจงั หวะ หรือสอดแทรกเวลาผ้อู ่ืนคยุ กนั หรือแย่งเพอ่ื นเลน่
การรักษามีอะไรบ้าง
การรักษาโดยการใชย้ า
การปรับพฤติกรรม ทัง้ ท่บี ้านและที่โรงเรียน
การปรับสิ่งแวดล้อมและวธิ ีการสอนในห้องเรยี น
ตอ้ งใช้หลายวิธรี ่วมกัน
ขอ้ แนะนำสำหรบั ครใู นการช่วยเหลือเด็กสมาธิสนั้
จดั ใหเ้ ดก็ น่ังหน้าช้ัน หรอื ใกล้ครูให้มากท่ีสุดในขณะสอน
จัดใหเ้ ด็กนง่ั อยูก่ ลางหอ้ ง หรือให้ไกลจากประตู หนา้ ตา่ ง
เขยี นการบ้าน หรอื งานทีเ่ ดก็ ตอ้ งทำในช้นั เรียนใหช้ ัดเจนบนกระดานดำ
ตรวจสมดุ จดงานของเด็ก เพ่อื ให้แนใ่ จว่าเด็กจดงานได้ครบ
อยา่ สง่ั งานใหเ้ ดก็ ทำ (ดว้ ยวาจา) พรอ้ มกนั ทีเดียวหลาย ๆ คำส่ัง ควรใหเ้ วลาใหเ้ ดก็ ทำเสรจ็
ทีละอยา่ ง ก่อนใหค้ ำสั่งตอ่ ไป
คิดรปู แบบวิธเี ตอื น หรือเรียกใหเ้ ด็กกลบั มาสนใจบทเรียน โดยไม่ใหเ้ ด็กเสียหน้า
จดั ใหเ้ ดก็ ทีอ่ ยูไ่ ม่สุข มีโอกาสใชพ้ ลังงานในทางสรา้ งสรรค์ เช่น มอบหมายหน้าที่ใหช้ ว่ ยครู
เดนิ แจก สมุดให้เพอ่ื น ๆ ในห้อง เป็นต้น
ใหค้ ำชมเชย หรือรางวลั เมอ่ื เดก็ ปฏบิ ัติตัวดี หรือทำสิง่ ทเี่ ปน็ ประโยชน์
หลกี เลยี่ งการใชว้ าจาตำหนิ วา่ กลา่ วรุนแรง หรือทำให้เดก็ อับอายขายหน้า
หลกี เลีย่ งการตี หรอื การลงโทษทางร่างกาย เมอื่ เด็กกระทำผดิ
ใชก้ ารตัดคะแนน งดเวลาพัก ทำเวร หรืออยู่ตอ่ หลังเลิกเรียน (เพ่อื ทำงานทีค่ า้ งอยใู่ หเ้ สร็จ)
เมือ่ เดก็ ทำ ความผิด
ให้เวลากบั เด็กนานขนึ้ กว่าเด็กปกติระหว่างการสอน
คมู่ อื ระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรียนร้ใู นสถานการณก์ ารแพร่ระบาดโรคโควิด-19 49
ขอ้ แนะนำสำหรับการปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรมและการช่วยให้เด็กมองตัวเองในแงด่ ี
1. รักษากฎของหอ้ งและคอยตรวจตราดูแล
ท่าทีท่ใี ช้ตอ้ งสงบ อยา่ ชวนทะเลาะหรือตวาดใสเ่ ดก็
มีการเตือนถึงผลทจ่ี ะตามมาหลังพฤตกิ รรมท่ีไมด่ ี
ถ้าต้องทำโทษ ท าทันทีและตรวจดูพฤติกรรมที่ดแี ละชน่ื ชมบอ่ ย ๆ
กฎภายในหอ้ งเรยี นไม่ควรมมี าก ปฏิบัติตามได้ชดั และสมำ่ เสมอ
การลงโทษตอ้ งอยูใ่ นเกณฑท์ ่พี อเหมาะ ไม่ประจานความคิด
หลกี เล่ียงการวจิ ารณ์ เยาะเยย้ ถากถาง เนอ่ื งจากเดก็ สมาธิสั้น จะมีความลำบาก
ที่จะอยใู่ น กฎเกณฑ์
2 สนบั สนุนและส่งเสริม
รางวลั ควรมากกว่าการลงโทษ เพือ่ สง่ เสริมความร้สู ึกที่ดขี องตวั เด็ก
รางวลั ควรไดร้ ับโดยไม่ช้า หลังจากท่ีเด็กมพี ฤติกรรมทีด่ ี
ถ้ารางวลั ไมไ่ ดผ้ ล อาจเปลยี่ นลกั ษณะของรางวัล เพ่ือเพ่มิ แรงจงู ใจ
หาทางหลาย ๆ ทาง ที่จะกระตุน้ ให้เด็กสนใจ
กระตนุ้ ให้เดก็ มองตวั เองในแงท่ ีด่ ี และชืน่ ชมตัวเอง เชน่ “วันนีน้ ง่ั อยกู่ บั ทีไ่ ด้นานข้ึน
ดจี รงิ ๆ และ ถามว่าเดก็ ร้สู กึ อย่างไร ?
คมู่ อื ระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรียนรู้ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดโรคโควิด-19 50
การสอนสำหรับเด็กที่มคี วามต้องการพเิ ศษในสถานการณ์การแพรร่ ะบาด COVID-19
ข้นั ตอนการดำเนินการของคุณครู
1. วิเคราะห์ข้อมูลของนกั เรียน ได้แก่ ประเภทความพิการ ระดับความพิการ ความรู้ความสามารถ
ของนกั เรียน ณ ปจั จุบนั
2. จดั ทำแผนการสอนเฉพาะบคุ คล (IEP) คือ เปน็ แผนการศึกษาสำหรับเด็กท่มี ีความตอ้ งการพเิ ศษ
เป็นรายบคุ คล โดยปกติจะเปน็ แผนระยะ 1 ปี เพอ่ื ใหน้ ักเรียนไดร้ บั การพฒั นาตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้ง
การกำหนดสือ่ สิ่งอำนวยความสะดวก บรกิ าร และความช่วยเหลืออน่ื ใดทางการศกึ ษาท่ีสอดคลอ้ งเหมาะสม
กบั การเรยี นรู้ และกับความต้องการจำเปน็ พิเศษ (SPECIAL NEEDS) ของผู้เรยี นแต่ละคน
3. จัดทำแผนการสอนเฉพาะบคุ คล (Individual Implementation Plan : IIP) เป็นการจดั ทำ
แผนการสอนรายชั่วโมงเพ่อื ให้บรรลจุ ดุ ประสงค์ และเป้าหมายทีก่ ำหนดไว้ใน จัดทำแผนการสอนเฉพาะบคุ คล
4. สรา้ งความเขา้ ใจกบั ผู้ปกครองเก่ียวกับแนวทาง/วธิ กี าร ในการจดั การเรียนการสอน และการขอ
ความร่วมมอื กับผปู้ กครองในเรอื่ งของการรว่ มกนั ในการจดั การเรียนการสอน
5. ดำเนนิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน โดย
5.1 ครพู ีเ่ ล้ยี งเด็กพกิ าร ควรจัดตารางเวลาในการให้บริการแกเ่ ด็กพเิ ศษอยา่ งชดั เจน
5.2 การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ครพู เ่ี ลีย้ งเด็กพิเศษจำเป็นตอ้ งใชเ้ ทคนิค รูปแบบ และ
วธิ กี ารท่หี ลากหลายมากกว่าเดก็ ปกติ รวมถึงจะต้องมปี ฏสิ มั พันธอ์ นั ดีกบั ผูป้ กครองและนักเรียนดว้ ยตวั อย่าง
รูปแบบท่ีสามารถจัดการเรยี นการสอนได้ เช่น
- ในกรณีที่นักเรียนเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษในระดับที่ไม่มากนัก เช่น เรียนช้า
บกพร่องทางการเรียนรู้ หรือบกพรอ่ งทางดา้ นอืน่ ๆ แตส่ ามารถเรียนท่ีโรงเรยี นได้ ครูอาจจะจดั ตารางเวลาใน
การมาเรยี น และนัดมาเรียนทีโ่ รงเรียนตามตารางทีก่ ำหนดให้ และสลับกับการเดินทางไปสอนนักเรียนที่บา้ น
เพื่อเป็นการติดตามพฤติกรรม และดูความก้าวหน้าของนักเรียนขณะที่อยู่ทีบ่ ้าน มีการจดบันทึกพัฒนาการ
ของผู้เรียนเป็นระยะ และสร้างความสัมพนั ธ์อันดรี ะหวา่ งครู ผ้ปู กครอง และนกั เรยี น
- ในกรณีที่นักเรียนมีความบกพรอ่ งท่ีช่วยตวั เองไมไ่ ด้ หรือมีความบกพร่องทางรา่ งกายและ
การเคลื่อนไหว มคี วามยากลำบากในการดูแลตวั เอง ไม่สามารถเดินทางมาทโี่ รงเรยี นได้ หรือเดนิ ทางมาลำบาก
คุณครูเดนิ ทางไปจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนบางเวลาทบ่ี ้านของนกั เรยี นตามตารางที่กำหนดไว้ ให้คำแนะนำ
ในการดูแล และการส่งเสรมิ พัฒนาการของผูเ้ รียน
- จัดหา/จัดทำสอ่ื การเรยี นการสอนทีส่ ่งเสรมิ ต่อการเรียนรู้ สิง่ อำนวยความสะดวก การ
ช่วยเหลือต่าง ๆ ตามความเหมาะสมความจำเป็น
- หากนักเรียนมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ควรมีหาแนวทางในการปรับพฤติกรรม
นักเรียนร่วมกับผู้ปกครอง หากมีแนวโน้มว่าพฤติกรรมมีความรุนแรงขึน้ ควรสร้างเครือข่ายในการแกป้ ัญหา
เช่น ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ แพทย์ เปน็ ตน้
รูปแบบการจัดการเรียนการสอนของเด็กพเิ ศษ จำเปน็ ต้องมีความยดื หยุน่ และปรับเปล่ยี น
เพ่อื ให้เหมาะสมกับนักเรียนแตล่ ะคน
คู่มอื ระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรียนและการจัดการเรียนรูใ้ นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควิด-19 51
ตัวอยา่ งท่ี 1 มคี วามพิการแต่แรกเกิด
ลักษณะความพิการ
เดก็ ชาย A มคี วามพิการแต่แรกเกิด มีการเจริญเติบโตชา้ กว่าวัยจรงิ เน่ืองจากแรกเกิด มีศีรษะโต
และเข้ารบั การรักษา แตย่ ังมอี าการผิดปกติ ไมส่ ามารถเรียนไดเ้ หมือนเด็กปกติ
ประเภทความพิการ
- ความบกพรอ่ งทางสตปิ ญั ญา
- ความบกพรอ่ งทางร่างกายและสุขภาพ
- มีปญั หาทางพฤติกรรมและอารมณ์
- มปี ัญหาทางการเรียนรู้
- เดก็ พกิ ารซอ้ น
ดำเนนิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1. วิเคราะห์ขอ้ มลู ของนกั เรียน ได้แก่ ระเภทความพกิ าร ระดับความพิการ ความรู้ความสามารถ
ของนกั เรยี น ณ ปจั จุบนั
2. จดั ทำแผนการสอนเฉพาะบุคคล (IEP) คือ เป็นแผนการศึกษาสำหรบั เดก็ ทม่ี ีความตอ้ งการพิเศษ
เป็นรายบคุ คล โดยปกตจิ ะเป็นแผนระยะ 1 ปี เพ่ือให้นกั เรยี นไดร้ บั การพฒั นาตามเป้าหมายท่กี ำหนด รวมทั้ง
การกำหนดส่ือ ส่ิงอำนวยความสะดวก บริการ และความชว่ ยเหลอื อ่นื ใดทางการศึกษาท่ีสอดคล้องเหมาะสม
กับการเรียนรู้ และกับความต้องการจำเปน็ พิเศษ (SPECIAL NEEDS) ของผ้เู รียนแต่ละคน
3. จดั ทำแผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual Implementation Plan : IIP) เปน็ การจดั ทำ
แผนการสอนรายชั่วโมงเพือ่ ใหบ้ รรลุจุดประสงค์ และเป้าหมายที่กำหนดไว้ใน จัดทำแผนการสอนเฉพาะบคุ คล
(IEP)
4. สรา้ งความเข้าใจกับผู้ปกครองเก่ยี วกบั แนวทาง/วิธีการ ในการจัดการเรียนการสอนและ การขอ
ความรว่ มมอื กับผู้ปกครองในเร่ืองของการร่วมกันในการจัดการเรียนการสอน
5. การจดั การเรยี นรู้ของครูพ่ีเลีย้ งเด็กพกิ าร
คู่มือระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นและการจดั การเรียนรูใ้ นสถานการณก์ ารแพร่ระบาดโรคโควิด-19 52
ปญั หา
- นักเรียนไม่สามารถอา่ นได้ตนเองได้ แตส่ ามารถเรียนรู้และตอบคำถามได้
แนวทางแกไ้ ข
1) คุณครูนัดมาเรยี นทโ่ี รงเรยี นและเดนิ ทางไปสอนท่ีบ้านสลับกัน ในวนั ทมี่ ีการจดั การเรยี นรู้
ท่ีโรงเรียนจะมกี ารเลอื กบรเิ วณและจัดจัดสภาพแวดล้อมทเ่ี อือ้ ตอ่ การเคลื่อนไหวของนักเรียน เพราะนกั เรยี น
เดินสา่ ยศีรษะไปมา
2) ขอความร่วมมอื จากผูป้ กครองและพใ่ี นการจัดการเรียนรู้
และสง่ ผลงานนกั เรียนกลับมายังครูผูส้ อน ทัง้ ในรูปแบบของใบงาน รปู ภาพ
คลปิ วดิ โี อในขณะทน่ี กั เรียนทำกจิ กรรม
3) จดั ทำสือ่ การสอนให้เหมาะสมกับนกั เรียนและเน้อื หา
4) ใหค้ ำปรกึ ษาเกยี่ วกับการดแู ล การสง่ เสริมพัฒนาการ
รวมถึงโภชนาการด้านอาหารเพราะนักเรียนมีปญั หาในเรอื่ งของสุขภาพดว้ ย
5) จัดหาอาหาร และอาหารเสรมิ นมใหก้ ับนักเรยี น
6) สง่ เสริมให้นกั เรยี นได้รับการตรวจสขุ ภาพอย่างต่อเนือ่ ง
7) การวัดผลประเมนิ ผลที่หลากหลาย เชน่ ใชว้ ธิ กี ารถาม – ตอบ การตรวจสอบผลงาน
เพอ่ื เปน็ การวดั ระดับความกา้ วหน้าของนกั เรียน
คมู่ อื ระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียนและการจดั การเรียนร้ใู นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 53
ตวั อยา่ งที่ 2 ปัญหาทางพฤตกิ รรมและอารมณ์
ลกั ษณะความพกิ าร
เดก็ ชาย B ขณะท่อี ยโู่ รงเรยี นได้แสดงพฤตกิ รรมกา้ วร้าวกบั คุณครู นกั เรยี นอย่เู สมอ และแสดงอาการ
โกรธ โดยการตะโกนเสียงดังขฆู่ ่านักเรยี น และขฆู่ ่าตัวตายบอ่ ยมาก
ประเภทความพกิ าร ปญั หาทางพฤตกิ รรมและอารมณ์
ดำเนนิ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
- การจดั การเรยี นร้ขู องครูพี่เล้ยี งเดก็ พกิ าร
ปัญหา
จากปัญหาข้างตน้ นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยข้ึน และอาระวาดรุนแรงขนึ้
แนวทางแกไ้ ข
1. คุณครจู ากปญั หาข้างต้น ผู้บรหิ ารและคณะครใู นโรงเรียน ครูพี่เลี้ยงเดก็ พิการ ร่วมกันวเิ คราะห์
สถานการณ์ และมีความเหน็ วา่ นกั เรียนน่าจะมปี ญั หาในด้านพฤตกิ รรม
2. ทำการคัดกรองเบ้ืองตน้
3. ประสานกับผู้ปกครองเพอื่ ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับพฤตกิ รรมของนักเรียนทแี่ สดงออกมา และ
รว่ มกันหาแนวทางแกไ้ ขร่วมกนั โดยจดั ทำบนั ทึกขอ้ ตกลงขอความร่วมมือ โดยมีเนอ้ื หา ดงั น้ี
3.1 ผปู้ กครองเสนอขอนำนักเรียนไปพบแพทยเ์ พอ่ื ให้ได้รบั การรกั ษาเยยี วยาที่
โรงพยาบาลจังหวัดนครสวรรค์ และขอเบิกเงนิ ทนุ การศึกษาจำนวน 3,300 บาท
จากครูประจำชนั้ เพอ่ื เป็นค่าใช้จ่าย และทางโรงเรียนตกลงใหเ้ บกิ ได้
3.2 ทางโรงเรยี นเสนอให้นักเรียนไดม้ ีโอกาสได้เรียนร้แู บบ DLTV ทบ่ี ้านควบคู่กับ
ใบงานทคี่ ุณครูประจำชน้ั ให้ โดยแต่งตัง้ นกั จิตวทิ ยาและครูประจำชนั้ ประจำวชิ า
หมุนเวียนกนั ไปใหค้ วามรู้ ความรว่ มมอื ช่วยเหลอื ดแู ลที่บ้านอย่างนอ้ ยสปั ดาห์ละ
1 คร้งั เม่อื นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมท่ีดีข้นึ จะไดก้ ลับไปเรียนในห้องเรียนปกติ
ผปู้ กครองตกลง
3.3 ทางโรงเรียนเสนอใหผ้ ู้ปกครองอยใู่ กล้ชิดนักเรียน หากจะต้องเดินทางไปใหนก็
ให้เอาไปดว้ ย อย่าท้ิงเด็กไวอ้ ยูล่ ำพงั คนเดียวเพอ่ื ปอ้ งกนั อนั ตรายจากการฆา่ ตวั ตาย
และภัยอันตรายอ่นื ๆ ท่ีอาจเกิดข้นึ ได้ ผูป้ กครองตกลง
คมู่ อื ระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นรใู้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควดิ -19 54
1) ดำเนินการตามทท่ี ำบันทกึ ไว้ขอ้ ตกลงขอความรว่ มมือ และมกี ารจดบนั ทึกการให้ความรู้
ความร่วมมอื ชว่ ยเหลือดูแลท่ีบ้าน
2) ติดตามผลการดำเนนิ การ และรายงานผลการดำเนนิ งานตอ่ ผ้บู รหิ าร
คู่มือระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรียนและการจัดการเรยี นรใู้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควดิ -19 55
3) จัดทำแฟม้ สรปุ ขอ้ มลู การจัดการเรียนรูแ้ ละการให้การชว่ ยเหลือนกั เรียน
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียนและการจัดการเรยี นรใู้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควดิ -19 56
ตัวอยา่ งรูปแบบการจัดการเรยี นการสอน ยุคโควิด บรู ณาการ ON ตา่ ง ๆ
โรงเรียนวัดไดอีเผอื ก Mobile D E P Teachers
เริ่มสถานการณ์จากการปิดเรียนแบบ On-site มาเป็น On-hand และ Online มีการแจกใบงาน
ใบความรู้ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม อยู่ระยะหนึง่ เมื่อเกิดปญั หา ที่เด็กขาดความสนใจ เข้าเรียนลดลง จึงได้มีการ
PLC ระหว่างครู คณะกรรมการ และผู้บริหาร ปรับเปลี่ยนวิธี เพิ่มจุดการเรียนการสอนเป็น 9 จุด เช่น
บา้ นเด็กที่มีพืน้ ที่กวา้ งๆ บา้ นผนู้ ำหม่บู ้าน วัด โดยครูและผูบ้ รหิ ารจะใหค้ วามสำคญั ในการแกไ้ ขปัญหา
1. การตดิ ตามนักเรียนใหเ้ ขา้ เรียนอย่างใกลช้ ดิ
2. การแกป้ ญั หารายวชิ าทน่ี กั เรียนไม่สามารถเรยี นด้วยตนเองได้ เชน่ วิชาภาษาอังกฤษ คณติ ศาสตร์
3. การแก้ไขปญั หาการอา่ นหนังสอื ไมไ่ ด้ ในช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 และการคิดคำนวณไม่ได้
ระยะที่ 1 การจัดการเรียนการสอนแบบใหม่ใช้ชื่อว่า Mobile D E P Tecachers เป็นการจัด
การเรียนการสอนโดยครูเป็นผู้ลงในพน้ื ท่ี แบง่ กลุ่มหรอื จดุ การเรยี นรู้ออกเปน็ 9 กลมุ่ โดยนัดผู้เรียนทุกวันพุธ
จะมกี ารแจกงบประมาณอาหารกลางวัน อาหารเสริมนม และใบงาน นอกจากนี้จะเก็บรวบรวมงานเด็กพร้อม
ตรวจแกไ้ ข (การดำเนินการน้จี ะอยู่ภายใต้การตดิ ตามจากผูป้ กครองด้านความปลอดภัยจากโรค)
ระยะที่ 2 มีการปรับตารางเรียน โดยเน้นวิชาหลัก เช่น วันจันทร์ ให้เรียนวิชาภาษาไทย วันอังคาร
ให้เรียนคณิตศาสตร์ วันพุธให้เรียนวิทยาศาสตร์ ในการเรียนแตล่ ะวิชาจะมีการสอดแทรกเนื้อหาทักษะชีวิต
สอดแทรกทักษะงานอาชีพ งานในชีวติ ประจำวัน จะนำไปประเมินการสอบในแตล่ ะเทอมไดด้ ้วย
คมู่ ือระบบการดูแลช่วยเหลือนกั เรยี นและการจัดการเรยี นรใู้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 57
โรงเรยี นวดั ทับหมัน blended learning
จะใช้การเรยี นการสอนแบบผสมผสาน ดำเนนิ การสอนรปู แบบ On- Demand , On-line On-hand
ซึ่งครูมีการเตรียมการสอนในรูปแบบคลิปวิดีโอบรรยายภาพกิจกรรมการเรียนรู้จากหนังสือที่ใช้เรียนในเวลา
ปกติ มีการนำคลิปการสอนของครูมืออาชีพในยูทูปที่มีเนื้อหาตรงกับรายวิชาที่ กำลังเรียนอยู่
มีการจัดการเรียนการสอนใน Facebook Page ใช้ google form google drive เพ่ือติดตามงาน
และประเมินการเรยี นการสอน
ครจู ะเกบ็ งานหลังจากทีน่ กั เรียนได้เรยี นแลว้ ในแต่ละวนั ลงในระบบคอมพิวเตอร์ เกบ็ เปน็ ไฟล์
ของเดก็ นักเรียนแตล่ ะคน
โรงเรียนวัดเขารวก
โรงเรียนใช้ระบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน แต่มุ่งเน้นกลุ่มนักเรียนที่มีปัญหาเรื่องการอ่าน
ได้แก่นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเด็กกลุ่มที่มีปัญหาการอ่านไม่ได้เขียนไม่คล่อง ครูจะนำเด็กกลุ่มนี้
มาจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนทุกวันจันทร์ และเสาร์ ในระดับมัธยมครูที่ปรึกษาจะพบกลุ่มเด็ก
เป็นรายบุคคล ซึ่งจะแยกระดับชั้น ในแต่ละวัน เช่น วันจันทร์พบนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 วันอังคารพบ
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 และวันพุธพบนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั้งนี้การพบกลุ่มแต่ละชั้นขึ้นอยู่กับ
ข้อตกลงของครูที่ปรกึ ษากับผูป้ กครอง
คู่มือระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี นและการจัดการเรียนรใู้ นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดโรคโควิด-19 58
โรงเรยี นวดั โพธิ์ทองชุมชนปกาสิตวิทยา
โรงเรียนมีการจัดการเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในรูปแบบ On-line และแบบ
On-hand ในระดับอนุบาล ซึ่งครูจะเข้าพบเด็กที่บ้านสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง มีการรับส่งใบงานเอกสาร
ที่เกย่ี วขอ้ งกบั การเรียนการสอน ซึง่ ถือวา่ เปน็ การเย่ยี มบ้านนกั เรยี นเพอื่ ใหก้ ารชว่ ยเหลอื
นอกจากนี้จะมีการสำรวจความสำเร็จและปัญหาจากการจัดการเรียนการสอน โดยครูวิชาการและ
ผู้บริหารเพื่อนำผลการจัดการเรียนการสอนมาประมวลผลเพื่อให้การช่วยเหลือ โรงเรียนมีการช่วยเหลือ
นกั เรยี นที่ไม่สามารถมารับใบงานได้ในกรณที อี่ ยูก่ ับผู้ปกครองต่างจังหวดั ครูจะส่งเอกสารทางไปรษณยี ์ไปให้
มอบใบงานใหก้ บั นักเรยี น ตวั อย่างชนิ้ งานและผลงาน
คู่มอื ระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียนและการจดั การเรียนร้ใู นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 59
โรงเรยี นบา้ นคีรเี ทพนิมิต และโรงเรยี นบา้ นเขาโลน้
โรงเรียนมกี ารจดั การเรยี นการสอนแบบ ผสมผสาน blended learning มีการใชร้ ูปแบบ on hand
และ online โดย
1.ครูจัดทำตารางงาน on hand รายสัปดาห์ 5 รายวิชาหลัก ได้แก่ วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ สงั คมศกึ ษา และภาษาอังกฤษ ซึ่งเน้นตัวช้วี ัดทนี่ ักเรียนตอ้ งรู้ และ สอน on line สำหรับนักเรยี น
ทม่ี คี วามพรอ้ ม
2.ครทู ำสรุปผลการเรียน นบั เวลาเรยี น สรุปปญั หาทเ่ี กดิ ขึน้ ระหว่างเรียน เชน่ นกั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจเนื้อหา
นักเรียนไม่เข้าเรียน หรือขาดอุปกรณ์ และบอกแนวทางแก้ไขที่สามารถช่วยเหลือได้เบื้องต้น ส่งเป็นราย
สปั ดาห์ ถึงผู้อำนวยการ (เปน็ การนเิ ทศตดิ ตาม)
3.ครูตดิ ตามการเรยี นของนักเรยี น โดย
3.1 เชค็ ชอ่ื ขณะสอนสอน on line สำหรบั นักเรียนทมี่ คี วามพรอ้ ม
3.2 สำหรบั นักเรียนทไี่ ม่มีความพร้อมออนไลน์ ครจู ะนัดพบนักเรียนทุกคนเพ่ือแจกใบงาน
ใบความรู้ ให้คำอธบิ าย รับ-ส่งงาน /ตรวจงาน /ชแ้ี จงตารางงานใหม่ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 คร้ัง
4.ผปู้ กครองมสี ว่ นร่วมในการจดั การเรียนการสอนและตดิ ตามการส่งงาน ผ่านไลน์กลุ่มผ้ปู กครองและ
พบครปู ระจำชัน้ ตามวนั ท่ีนัดหมายส่งงาน
คู่มอื ระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี นและการจัดการเรยี นรู้ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควิด-19 60
โรงเรียนวัดใหมว่ ังหวา้
เป็นโรงเรียนขนาดเล็กท่ีมีการจัดการเรยี นการสอนในรปู แบบผสมผสาน blended learning ระดับ
อนุบาลจัดการสอนแบบ On hand โดยครูจัดทำใบงานให้กับนักเรียน ตามกลุ่มประสบการณ์ ส่งเสริม
พฒั นาการของอนุบาลดว้ ยการลงมือกระทำบูรณาการผา่ นการเล่นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็กด้วยการ
ส่งเอกสารที่บ้าน On hand ประสานผู้ปกครอง ทำความเข้าใจ ในบทบาท เสริมกิจกรรมทักษะชีวิต
แต่บางกิจกรรมใช้การบูรณาการร่วมกันกับครูในการจัดกิจรรมการเรียนรู้ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
โดยมีผู้ปกครองช่วยการสอน ติดตามการสอนโดยผู้ปกครองถ่ายภาพ ถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะเรียนที่บ้านหรือ
การรับประทานอาหารกลางวันและนมทท่ี างโรงเรียนจัดให้
ระดับประถมศึกษาใช้ รูปแบบผสมผสาน blended learning ขึ้นอยู่กับบริบทของนักเรียน
ดำเนินการโดยครูจะใช้การศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม DLTV ผสมผสานกบั การสอนของครู ครจู ะจัดต้ังกลุ่ม
ไลน์ผู้ปกครอง ไลน์ห้องเรียนของแต่ละชั้น ทุกเช้าครูประจำวิชาจะส่งลิงค์การเรียนตามตารางในแต่ละวัน
ให้เด็กทกุ ชั้น ซ่งึ ในกลมุ่ ไลนเ์ ด็กจะมผี ปู้ กครองอยู่ดว้ ยเพอ่ื ติดตามการเรียนในแต่ละวนั ของเด็กๆ
การสง่ งานหรอื การบา้ น จะสง่ หลงั จากท่เี รยี นจบในแตล่ ะวันผา่ นทางไลน์ ถา้ มกี ารปฏบิ ตั ิจะมกี าร
อดั คลิปงานส่งให้ทางไลน์เชน่ กัน นกั เรยี นทกุ คนจะมีหอ้ งเกบ็ การบา้ น และใบงาน
ในกลมุ่ นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1และนักเรียนที่อา่ นไม่คล่อง นักเรียนทไ่ี มส่ ามารถเรยี นได้
เพราะขาดอปุ กรณห์ รอื เครอ่ื งมือ ได้แกโ่ ทรศพั ทม์ ือถือ โทรทศั น์ ผ้ปู กครองไม่สามารถดูแลได้ หรอื กลุ่มท่ี
เป็นเด็กพเิ ศษ ประเภทเรยี นร้ชู า้ สมาธิสน้ั ครูจะให้มาเรียนทโี่ รงเรียน โดยใช้การเรยี นแบบ On air ครจู ะเป็น
ผ้ใู ห้การแนะนำและชว่ ยเหลือ
นอกจากนี้ทางโรงเรียนมกี ารประกอบอาหารกลางวันและอาหารเสริมนมใหก้ บั นักเรยี นทุกวนั
เพื่อแบง่ เบาภาระใหก้ บั ผู้ปกครอง
คู่มอื ระบบการดูแลช่วยเหลือนกั เรียนและการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 61
โรงเรียนหว้ ยพกุ วทิ ยา
โรงเรียนขนาดเล็กท่มี กี ารจัดแบบผสมผสาน blended learning หลากหลายวธิ ีรู้ โดยใชม้ าตรฐาน
ตวั ชี้วดั เปน็ วิชาที่ควรรู้และต้องรู้ มีการแจกใบงาน ใบความรู้
ระยะที่ 1 ครมู ีการกระตนุ้ การเรียนของนักเรยี นโดยมอบแสตมป์ให้กบั นักเรยี นผ้รู ว่ มกจิ กรรม และ
นักเรยี นทีส่ ง่ ใบงานเยอะท่สี ดุ และแจกรางวลั ระยะที่ 2 จะเป็นการสะสมในเล่มไดจ้ ำนวน 5 เล่ม จะได้จับ
ฉลากเปน็ รางวัลใหญ่
บางวชิ าทีเ่ ปน็ ทักษะจะบรู ณาการวิธกี ารสอน เรยี นรจู้ ากใบความรู้ ครูอธบิ าย On line และใหเ้ ด็ก
ลงมอื ปฏิบตั กิ จิ กรรมและถ่ายภาพวิดีโอ บนั ทกึ เป็นคลิปสนั้ ๆสง่ ครูในไลน์ห้อง นกั เรยี นท่ีมีความตง้ั ใจจะได้
รบั รางวัล มบี ันทึกการสง่ งาน สง่ ในไลนก์ ลุ่ม บันทกึ การตรวจงาน การให้ใบความร้จู ะสแกนควิ อาร์โคด้
ดา้ นในจะอธบิ ายความรู้คู่ใบงาน
การสร้างแรงจงู ใจการเรียนออน์ไลน์
การตรวจงานและการรายงานการจดั การเรยี น
การสอน
คมู่ ือระบบการดูแลช่วยเหลือนกั เรียนและการจัดการเรียนรูใ้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 62
แนวทางการเย่ียมบา้ นนกั เรยี นในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดโรคโควดิ -19
การเย่ยี มบ้านนักเรียนในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 ให้คุณครูเยี่ยมบ้านหลากหลาย
รปู แบบ โดยคำนึงถงึ ความปลอดภยั ท้งั ผู้ไปเยยี่ มและผ้รู ับการเยีย่ มบา้ นนกั เรียน
รูปแบบที่ 1 เยีย่ มโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เชน่ Online Line Facebook Google Meet
Zoom เป็นตน้
รปู แบบท่ี 2 การเย่ยี มแบบปกตโิ ดยครเู ย่ียมท่บี า้ นนกั เรียน
รปู แบบที่ 3 รูปแบบอ่นื ๆ เชน่ การนดั พบตามจุดทกี่ ำหนด เป็นตน้
คูม่ อื ระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี นและการจัดการเรียนร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 63
บรรณานุกรม
กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ . คู่มือดแู ลสุขภาพจิตเด็กวยั เรยี น. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ ร.ส.พ.
กระทรวงศกึ ษาธิการ. 2551. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพมหานคร:
โรงพมิ พช์ ุมนมุ สหกรณ การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกัด.
กองบริหารกองทนุ สำนักงานปลัดกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย.์ ม.ป.พ.
พระราชบัญญัตคิ มุ้ ครองเด็ก พ.ศ. 2546. กรงุ เทพมหานคร : กองทนุ คุ้มครองเด็ก.
พนม เกตุมาน. ม.ป.พ. คมู่ ือครปู ัญหาพฤตกิ รรมทีพ่ บบอ่ ยในนกั เรียนและแนวทางการแกไ้ ข. สาขาวิชา
จติ เวชเดก็ และวยั รุน่ ภาควิชาจิตเวชศาสตรค์ ณะแพทยศาสตรศ์ ิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล.
มูลนธิ ศิ นู ยพ์ ทิ กั ษ์สทิ ธิเดก็ . 2550. คู่มือครกู ารจัดระบบความปลอดภยั ในโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร :
ส. เสรมิ มติ รการพิมพ.์
สำนักอำนวยการสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน. 2556. แนวทางการปฏิบัติและมาตรการ
รกั ษาความปลอดภยั ของสถานศกึ ษาฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2556. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์
สำนักงานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ.
สถาบันสุขภาพจิตเดก็ และวัยรุ่นราชนครินทรก์ รมสุขภาพจิต. 2556. พระราชบญั ญัตคิ มุ้ ครองเด็ก พ.ศ.2546.
กรงุ เทพมหานคร: กองทุนคุ้มครองเดก็ .
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ. แนวทางการปฏิบัตงิ านปกป้องค้มุ ครอง
และช่วยเหลอื เด็ก. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่ง ประเทศไทย จำกดั .
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐานกระทรวงศึกษาธกิ าร. แนวนโยบายและการดำเนนิ งานป้องกัน
แก้ไขและดแู ล ปัญหาการตั้งครรภ์ของเยาวชนและประเดน็ อ่นื ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง.
ศนู ยช์ ว่ ยเหลอื สงั คมกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร และกระทรวงการพฒั นาสังคมและความ
มัน่ คงของมนษุ ย์. 2556. ค่มู ือการปฏบิ ตั งิ านOSCC ศนู ย์ช่วยเหลอื สังคม. พิมพ์คร้งั ที่ 1
(พ.ศ. 2556). กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ สำนกั งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
สถาบนั สุขภาพจิตเดก็ และวัยร่นุ ราชนครนิ ทรก์ รมสขุ ภาพจิต. 2556. สรุปแนวทางการดูแลช่วยเหลือนกั เรียน
ค่มู ือระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียนและการจัดการเรยี นรูใ้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 64
ภาคผนวก ก
คำส่งั สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาพิจติ ร เขต 2
ค่มู อื ระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียนและการจัดการเรียนรใู้ นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 65
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 66
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 67
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 68
ภาคผนวก ข
แบบ ฉก.01/1
ค่มู อื ระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นและการจดั การเรยี นรู้ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดโรคโควดิ -19 69
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 70
ภาคผนวก ค
นร.-กสศ.01
ค่มู อื ระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นและการจดั การเรยี นรู้ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดโรคโควดิ -19 71
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 72
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 73
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 74
ภาคผนวก ง
แบบสรปุ ขอ้ มูลการคัดกรองนักเรียน
ค่มู ือระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี นและการจดั การเรยี นรู้ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควิด-19 75
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 76
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 77
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 78
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 79
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 80
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 81
คณะผจู้ ัดทำ
คณะกรรมการที่ปรกึ ษา ผูอ้ ำนวยการสำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2
รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาพจิ ติ ร เขต 2
1. ว่าที่ร้อยเอก สาโรช ยกให้ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาพิจติ ร เขต 2
2. นายประจักษ์ ทองแจ่ม
3. นายธัญสริ วิ ฒุ ิ แคนศิลา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจติ ร เขต 2
ผ้อู ำนวยการกล่มุ ส่งเสริมการจดั การศกึ ษา
4. นายเวียงชัย พิมพ์ศรี
5. นายเชษฐ์ เทียมวไิ ล
คณะทำงาน
1. นายประจกั ษ์ ทองแจ่ม รองผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาพิจติ ร เขต 2
2. ดร.สมปอง ม่วงกร ผอู้ ำนวยการโรงเรียนชุมชนวดั โพธ์ทิ อง “ปกาสิตวทิ ยา”
3. ดร.จริ ัฐติ กิ าล บุญอินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอำเภอบางมูลนาก (วดั ห้วยเขน)
4. ดร.สุนนั ทา ส้มอำ่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั เขารวก
5. ว่าท่ีร.ต.ศรัณยู เมฆอรุณกมล ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นคีรเี ทพนมิ ติ
6. นางสาวนงคน์ ภา อินทร์ใหญ่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวัดวงั เรือน
7. นางสาวสพุ ฒั นต์ รา ปัญญายงค์ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดไดอีเผอื ก
8. นายสุเทพ โฉมศรี ครู คศ.3 โรงเรยี นวดั บ้านหว้ ยยาว
9. นางจฑุ ามาศ ตลับเพชร ครู คศ.3 โรงเรียนวดั ทับหมัน
10. นางสาวอมรรตั น์ อำนาจวรกจิ ครู คศ.3 โรงเรียนวดั ทับหมนั
11. นางวิไลวรรณ แก้วชะเนตร ครู คศ.3 โรงเรยี นวัดใหม่วงั หว้า
12. นายภูรทิ ัต แกว้ ชะเนตร ครู คศ.3 โรงเรียนวัดใหมว่ ังหวา้
13. นางขนษิ ฐา อินจนั ทร์ ครู คศ.3 โรงเรียนห้วยพุกวทิ ยา
14. นางสาวพจนา ศรีโพธิ์ ครู คศ.1 โรงเรยี นชุมชนวัดโพธ์ทิ อง “ปกาสิตวิทยา”
15. นางสาวภสั รา มีรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรยี นชมุ ชนวดั โพธิ์ทอง “ปกาสติ วิทยา”
16. นางสาวนุตประวณี ์ ทศั นสุวรรณ ศกึ ษานเิ ทศกช์ ำนาญการพเิ ศษ
17. นายเชษฐ์ เทยี มวิไล ผูอ้ ำนวยการกลมุ่ สง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษา
18. นางพจนา สินไพศาลสกุล นกั วิชาการศกึ ษาชำนาญการ
บรรณาธกิ ารกิจ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพิจติ ร เขต 2
ผูอ้ ำนวยการกลุ่มส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษา
1. นายประจักษ์ ทองแจ่ม นกั วชิ าการศกึ ษาชำนาญการ
2. นายเชษฐ์ เทียมวิไล
3. นางพจนา สนิ ไพศาลสกุล
คมู่ ือระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรียนและการจัดการเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพร่ระบาดโรคโควิด-19 82
ค่มู ือระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการจดั การเรยี นร้ใู นสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 83