สื่อประกอบการสอนวิชานาฏศิลป์ โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย การแต่งกายชุดยืนเครื่อง
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
สารบัญ
การแต่งกายชุดยืนเครื่อง
พัตราภรณ์
ศิราภรณ์
ถนิมพิมพาภรณ์
การแต่งกายชุดยืนเครื่อง การแสดงโขนนิยมนำเรื่องรามเกียรติ์มาใช้
ในการแสดง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีตัวแสดง
เอกเป็น กษัตริย์ หรือเทวดา จึงได้มีการ
สร้างเครื่องแต่งกายละครโดยการเลียน
แบบจากเครื่องต้นอันเป็นเครื่องทรงของ
พระมหากษัตริย์ ซึ่งเรียกว่า “ยืนเครื่อง”
ซึ่งคล้ายกับการแต่งกายของละครใน แต่
แตกต่างที่ผู้แต่งกายตัวโขน มีหัวโขนเข้ามา
ประกอบในการสวมใส่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์
ของการแสดงโขนอย่างหนึ่ง โดยมีรูปแบบ
การแต่งกายยืนเครื่องแตกต่างไปตาม
ประเภทของตัวโขน ซึ่งองค์ประกอบของชุด
ยืนเครื่อง ที่สำคัญ มี ๓ ส่วนคือ
ศิราภรณ์
ศิราภรณ์หรือเครื่องประดับ มาจากคำว่า "ศีรษะ" และ
"อาภรณ์" หมายความถึงเครื่องประดับสำหรับใช้สวมใส่
ศีรษะเช่น ชฎามงกุฎ ซึ่งเป็นชื่อเรียกเครื่องประดับศีรษะละ
ครตัวพระ ที่มีวิวัฒนาการมาจากการโพกผ้าของพวกชฏิล
ชฏาที่ใช้ในการแสดงโขนละครในปัจจุบัน ช่างผู้
ชำนาญงานมักจะนิยมทำเป็นแบบมีเกี้ยว 2 ชั้น มีกรอบ
หน้า กรรเจียกจร ติดดอกไม้ทัด ดอกไม้ร้าน ประดับตามชั้น
เชิงบาตร
ตัวอย่างศิราภรณ์
ชฎา
มงกุฎ
ตัวอย่างศิราภรณ์
รัดเกล้ายอด
กระบังหน้า
พัตรภรณ์
พัสตราภรณ์หรือเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเช่น เสื้อ
หรือฉลององค์ ในสมัยโบราณการแสดงโขนจะใช้เสื้อ
คอกลมผ่าด้านหน้าตลอด มีการต่อแขนเสื้อแบบต่อตรง
และเสริมเป้าสี่เหลี่ยมตรงบริเวณใต้รักแร้ แต่ปั จจุบัน
ได้มีการปรับเปลี่ยนให้ทันตามยุคสมัย เป็นเสื้อคอกลม
สำเร็จรูป มี 2 แบบคือแบบเสื้อแขนสั้นและแขนยาว
เว้าวงแขน สีเสื้อและสีแขนเสื้อแตกต่างกัน ปั ก
ลวดลาย
ตัวอย่างพัตราภรณ์
กรองคอ
ห้อยหน้า-ห้อยข้าง
ตัวอย่างพัตราภรณ์
ฉลององค์
ห่มนาง
ถนิมพิมพาภรณ์
ถนิมพิมพาภรณ์หรือเครื่องประดับต่าง ๆ ตาม
แต่ฐานะของตัวละคร คำว่าถนิมพิมพาภรณ์ มาจากคำ
ว่า "พิมพา" และ "อาภรณ์" หมายถึงเครื่องประดับ
ตกแต่งตามร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับที่ถม
และลงยาเช่น ทับทรวง ซึ่งเป็นโลหะประกอบกัน 3 ชิ้น
ชุบเงิน ประดับเพชรตรงกลาง ฝังพลอยสีแดง ลักษณะ
ของสายเป็นเพชรจำนวน 2 แถว มีความยาวประมาณ
28 นิ้ว เข็มขัดหรือปั้นเหน่ง สังวาล ตาบหน้า ตาบทิศ
ตาบหลัง สะอิ้ง พาหุรัด กำไลเท้า เป็นต้น
ตัวอย่างถนิมพิมพาภรณ์
รัดองค์
เข็มขัด-ปั้ นเหน่ง
ตัวอย่างถนิมพิมพาภรณ์
ธำมรงค์
ตราบทิศ
การแต่งกายโขนตัวพระ
การแต่งกายยืนเครื่องโขนตัวพระ
ตัวพระ สวมเสื้อแขนยาวปั กดิ้น และเลื่อม มีอินทรธนูที่ไหล่ส่วนล่างสวม
สนับเพลาไว้ข้างในนุ่งผ้ายกจีบโจงไว้หางหงส์ทับสนับเพลา ด้านหน้ามี
ชายไหวชายแครงห้อยอยู่ ศีรษะสวมชฎาสวมเครื่องประดับต่างๆ เช่น
กรองคอ ทับทรวง ตาบทิศ ปั้ นเหน่ง ทองกร กำไลเท้าเป็นต้น แต่เดิม
ตัวพระจะสวมหัวโขน แต่ภายหลัง ไม่นิยม เพียงแต่แต่งหน้าและสวม
ชฎาแบบละครในเท่านั้น ทั้งเทวดาและมนุษย์ แต่งกายเหมือนกันหมดคือ
แต่งยืนเครื่องอย่างพระผิดกันแต่สีเสื้อเปลี่ยนไปตามสีกายประจำตัว
ละคร เช่น พระอินทร์สีเขียวพระพรหมสีขาว ท้าวมาลีวราชสีขาว
พระราม สีเขียว พระลักษมณ์สีทอง พระพรตสีแดงชาดและพระสัตรุดสี
ม่วงอ่อน เป็นต้น เข้าใจว่าในสมัยโบราณตัวพระจะสวมหน้าด้วยเครื่อง
ประดับศีรษะจึงมีหลายลักษณะ ของเทวดาเป็นมงกุฎยอดต่างๆ เช่น
พระอินทร์เป็นมงกุฎเดินหนท้าวมาลีวราชเป็นมงกุฎยอดชัย หรือมงกุฎน้ำ
เต้าของมนุษย์เป็นมงกุฎชัย หรือชฎาพระ
การแต่งกายโขนตัวนาง
การแต่งกายยืนเครื่องโขนตัวนาง
ผู้แสดงตัวนางจะสวมเสื้อในนางแขนสั้นเป็นชั้นใน แล้วห่ม
สไบทับ ทิ้งชายไปด้านหลังยาวลงไปถึงน่อง ประดับด้วยปะ
วะหล่ำ สวมกรองศอ สะอิ้งและจี้นาง ส่วนล่างนุ่งผ้านุ่งยก
จีบหน้า คาดปั้ นเหน่ง ศีรษะสวมมงกุฎ รัดเกล้ายอด
รัดเกล้าเปลวหรือกระบังหน้าตามแต่ฐานะของตัวละคร
ประดับด้วยดอกไม้ทัดที่ด้านซ้าย ดอกไม้ทัดที่ด้านขวา มี
อุบะ ตามตัวสวมเครื่องประดับต่าง ๆ ประกอ
บด้วยธำมงรค์ กำไลเท้า แหวนรอบ กำไลตะขาบ กรรเจียก
และทองกร แต่เดิมตัวนางที่เป็นตัวยักษ์เช่น นางสำมนักขา
นางกากนาสูร จะสวมหัวโขน แต่ภายหลังมีการแต่งหน้าไป
ตามลักษณะของตัวละครนั้น ๆ โดยไม่สวมหัวโขน
การแต่งกายโขนตัวยักษ์
การแต่งกายยืนเครื่องโขนตัวยักษ์
ผู้แสดงตัวยักษ์นั้น เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่คล้ายกับตัวพระ จะ
แตกต่างกันที่การนุ่งผ้าเท่านั้น ตัวยักษ์จะนุ่งผ้าไม่มีหางหงส์แต่
มีผ้าปิดก้นลงมาจากเอว ส่วนศีรษะสวมหัวโขนตามลักษณะของ
ตัวละครซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยชนิด การแต่งกายของตัวยักษ์คือ
ทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นพญายักษ์ตัวสำคัญที่สุดในการแสดงโขน สวม
เสื้อแขนยาวปั กดิ้นและเลื่อม ซึ่งในวรรณคดีสมมุติเป็นเกราะ
ประดับด้วยแหวนรอบ ปะวะหล่ำ มีอินธนูที่ไหล่ สวมกรองศอทับ
ด้วยทับทรวง พวงประคำคอ สังวาลและตาบทิศ ส่วนล่างสวม
สนับเพลาไว้ข้างใน นุ่งผ้านุ่งยก ด้านหน้ามีชายไหวและชาย
แครงห้อยอยู่ ผ้าปิดก้นอยู่เบื้องหลัง รัดอกด้วยพระอุระ รัดเอว
ด้วยรัดพัสตร์ คาดปั้ นเหน่ง ศีรษะสวมหัวโขนหัวทศกัณฐ์ ตาม
ตัวสวมเครื่องประดับต่าง ๆ ประกอบด้วยกำไลเท้า ธำมงรค์
กรรเจียกและทองกร ถืออาวุธคือคันศร
การแต่งกายโขนตัวลิง
การแต่งกายยืนเครื่องโขนตัวลิง
ผู้แสดงตัวลิง เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่คล้ายกับตัวยักษ์ แต่มี
หางลิงห้อยอยู่ใต้ผ้าปิดก้นอีกที สวมเสื้อตามสีประจำตัวในเรื่อง
รามเกียรติ์ ไม่มีอินธนู ตัวเสื้อปั กลายขดเป็นวงทักษิณาวรรต
สมมุติว่าเป็นขนตามตัวลิง ส่วนศีรษะสวมหัวโขนตามลักษณะ
ของตัวละครซึ่งมีอยู่ประมาณสี่สิบชนิด การแต่งกายของตัวลิง
คือหนุมาน ซึ่งเป็นทหารเอกของพระราม สวมเสื้อแขนยาวปั ก
ดิ้นและเลื่อมลายวงทักษิณาวรรต มีพาหุรัด ประดับด้วยแหวน
รอบ ปะวะหล่ำ สวมกรองศอทับด้วยทับทรวง สังวาลและ
ตาบทิศ ส่วนล่างสวมสนับเพลาไว้ข้างใน นุ่งผ้านุ่งยก ด้านหน้ามี
ชายไหวและชายแครงห้อยอยู่ ผ้าปิดก้นอยู่เบื้องหลัง หางลิง รัด
สะเอว คาดปั้ นเหน่ง ศีรษะสวมหัวโขนหัวหนุมาน ตามตัวสวม
เครื่องประดับต่าง ๆ ประกอบด้วยกำไลเท้า ธำมงรค์ กรรเจียก
และทองกร ถืออาวุธคือตรีเพชร
สรุปเนื้ อหา
การแสดงโขนนิยมนำเรื่องรามเกียรติ์มาใช้ในการแสดง ซึ่ง
เป็นเรื่องราวที่มีตัวแสดงเอกเป็น กษัตริย์ หรือเทวดา จึงได้มีการสร้าง
เครื่องแต่งกายละครโดยการเลียนแบบจากเครื่องต้นอันเป็นเครื่องทรง
ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งเรียกว่า “ยืนเครื่อง” ซึ่งคล้ายกับการแต่งกาย
ของละครใน แต่แตกต่างที่ผู้แต่งกายตัวโขน มีหัวโขนเข้ามาประกอบ
ในการสวมใส่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการแสดงโขนอย่างหนึ่ง โดยมี
รูปแบบการแต่งกายยืนเครื่องแตกต่างไปตามประเภทของตัวโขน ซึ่ง
องค์ประกอบของยืนเครื่อง ที่สำคัญ มี ๓ ส่วนคือ
๑) ศิราภรณ์ หมายถึง หัวโขน และเครื่องประดับศีรษะของตัวโขน
๒) ถนิมพิมพาภรณ์ หมายถึง เครื่องประดับกาย
๓) พัสตราภรณ์ หมายถึง เครื่องนุ่งห่มที่เป็นผ้า ซึ่งรวมถึงการ
อ้างอิงข้อมูลจาก
การแต่งกายโขนตัวพระ
http://www.banramthai.com/html/dress_pra.html
การแต่งกายโขนตัวนาง
http://www.banramthai.com/html/dress_nang.html
การแต่งกายโขนตัวยักษ์
http://www.banramthai.com/html/dress_yak.html
การแต่งกายโขนตัวลิง
http://www.banramthai.com/html/dress_ling.html
สื่อประกอบการสอนวิชานาฏศิลป์ โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย การแต่งกายชุดยืนเครื่อง
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓