สถานทเี่ ทยี่ วรอบๆจังหวัดน่าน
บา้ นสะปัน
บา้ นสะปัน ทตี่ งั้ อยูใ่ นอาเภอบอ่ เกลอื จงั หวดั นา่ น หา่ งจากบอ่ เกลอื
ภูเขาประมาณ 9 กโิ ลเมตร บา้ นสะปัน เป็นชมุ ชนเลก็ ๆ แสนสงบ ทตี่ งั้
อยูท่ า่ มกลางธรรมชาตขิ องขนุ เขา มลี าธารไหลผา่ น และในชว่ งหนา้ ฝน
ฤดูทานา ยงั สามารถชมววิ ทวิ ทศั นข์ องนาขา้ วเขยี วขจีไดอ้ กี ดว้ ย เรยี กได้
วา่ หากแวะมาเทยี่ วบ่อเกลอื ภูเขาขบั รถเลยไปอกี เพยี งไม่กนี่ าทกี จ็ ะถงึ
หมู่บา้ นสะปัน หรอื บางคนกเ็ ลอื กทจี่ ะพกั คา้ งคนื ทหี่ มู่บา้ น เพราะสะปัน
เป็นทตี่ งั้ ของ อนุ่ ไอมาง ณ สะปัน ทพี่ กั ชอื่ ดงั รมิ ธาร ในบรรยากาศแสน
ธรรมชาติ
วดั ศรมี งคล
Section
ตงั้ อยูท่ ตี่ าบลยมอาเภอทา่ วงั ผาจงั หวดั นา่ นเป็นวดั เกา่ แกท่ ไี่ ดร้ บั
พระราชทานวสิ งุ คามสมี าตงั้ แตป่ ีพ.ศ. 2395 พระสงฆท์ มี่ ชี อื่ ทสี่ ดุ ของ
วดั นคี้ อื หลวงป่ กู ง๋ ดา้ นหลงั วดั มลี านชมววิ ซ่ึงมที ศั นยี ภาพทงี่ ดงาม
มองเหน็ ทงุ่ นาเขยี วขจีและทวิ เขาของดอยภูคาเรยี งรายสลบั ซบั ซอ้ น
บรเิ วณนาขา้ วมที พี่ กั และรา้ นกาแฟฮกั นนา่ นมสี ะพานไมไ้ ผเ่ ชอื่ มจาก
ตวั วดั สามารถลงไปเดนิ เลน่ ถา่ ยภาพไดโ้ ดยบรเิ วณลานชมววิ ทางวดั
ไดจ้ ดั ทาเป็นซมุ้ และจดุ ชมววิ ใหถ้ า่ ยภาพหลายจดุ รวมถงึ รา้ นกาแฟ
บรรยากาศไทยๆ
เข้าเมืองชมวัด ไหว้พระในตัวเมอื ง
วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง
พระบรมธาตแุ ชแ่ หง้ ตงั้ อยูท่ บี่ า้ นหนองเตา่ ก่งิ อาเภอภูเพยี ง
จงั หวดั นา่ นพระธาตคุ ูบ่ า้ นคูเ่ มอื งและปชู นยี สถานทสี่ าคญั
ของเมอื งนา่ นมอี ายกุ วา่ 600 ปีแสดงใหเ้ หน็ ถงึ แบบอยา่ ง
สถาปตั ยกรรมและศลิ ปกรรมสกลุ ชา่ งนา่ นอนั งดงามหา่ งจาก
ตวั เมืองราว 2กม. บนเสน้ ทางสายนา่ น-แมจ่ ริมสนั นษิ ฐานวา่
มีอายรุ าว 600 ปีพญาการเมอื งโปรดใหส้ รา้ งขนึ้ เมอื่ ปีพ.ศ.
1891เพอื่ บรรจพุ ระบรมสารรี กิ ธาตุทไี่ ดม้ าจากกรุงสโุ ขทยั บุ
ดว้ ยทองเหลอื งทงั้ องคเ์ ป็นโบราณสถานทงี่ ดงามทสี่ ดุ แหง่
หน่งึ ของลา้ นนา
วัดพระธาตุเขาน้อย
ตงั้ อยูใ่ นอาเภอเมอื ง จงั หวดั นา่ น บนยอดดอยเขานอ้ ย
องคพ์ ระธาตเุ ป็นเจดยี ก์ อ่ อฐิ ถอื ปนู ศลิ ปะพม่าผสมลา้ นนา
ภายในบรรจพุ ระเกศาธาตขุ องพระพทุ ธเจา้ เป็นปชู นยี สถานที่
สาคญั แลเก่าแก่อกี แหง่ หน่งึ ของนา่ นสนั นษิ ฐานวา่ มอี ายรุ ุน่ ราว
คราวเดยี วกบั พระธาตแุ ชแ่ หง้ ตวั วดั ตงั้ อยูบ่ นเขาสูงจึงเป็นจดุ ชม
ทวิ ทศั นท์ สี่ วยงามสามารถมองเหน็ ทวิ ทศั นโ์ ดยรอบของตวั เมอื ง
นา่ นปัจจุบนั บรเิ วณลานชมทวิ ทศั นป์ ระดษิ ฐานพระพทุ ธมหา
อดุ มมงคลนนั ทบรุ ศี รนี า่ นซ่งึ เป็นพระพทุ ธรูปปางประทานพรบน
ฐานดอกบวั สงู 9 เมตรยอดพระเกศาทาจากทองคาหนกั 27 บาท
ตงั้ อยู่ในอาเภอเมือง จังหวัดน่าน บนยอดดอยเขาน้อย
Venus Mars
วัดภมู ินทร์
วดั ภูมนิ ทรไ์ ดร้ บั การบูรณะครงั้ ใหญ่ในสมยั เจา้ อนนั ตวรฤทธิเดชเมอื่
พ.ศ.2410 ใชร้ ะยะเวลารวมเกอื บ 7 ปีซ่ึงสนั นษิ ฐานวา่ ในการบูรณะครงั้ นี
ไดท้ รงมรี บั สง่ั ใหว้ าดภาพจติ รกรรมฝาผนงั (คาเมอื ง: ฮูบแตม้ ) ภายใน
พระอโุ บสถจตรุ มขุ ซ่ึงรวมทงั้ ภาพทมี่ ชี อื่ เสยี งเชน่ ป่ มู า่ นยา่ ม่านหรอื
กระซบิ รกั บนั ลอื โลก
อกี หน่งึ สถานทที่ อ่ งเทยี่ วทเี่ มอื่ มาถงึ นา่ นแลว้ ไม่ไดแ้ วะกจ็ ะ
เรยี กวา่ มาไมถ่ งึ เชน่ กนั ณ วดั ภูมนิ ทร์วดั ชอื่ ดงั ซ่งึ เป็นมภี าพวาดฝา
ผนงั ป่ มู ่านยา่ ม่านกระซบิ รกั บรรลอื โลกเป็นภาพวาดทกี่ ลายเป็น
สญั ลกั ษณข์ องเมอื งนา่ นความสวยแปลกของวดั ภูมนิ ทรท์ ไี่ ม่
เหมอื นใครและไมม่ ใี ครเหมอื นเป็นหน่งึ เดยี วในประเทศไทยอกี
หน่งึ อยา่ งคอื พระอโุ บสถทรงจตรุ มขุ ทมี่ บี นั ไดนาคทงั้ สที่ ศิ ขา้ งใน
ประดษิ ฐานพระประธานจตรุ พกั ตร์ 4 ดา้ นไมว่ า่ จะเดนิ ขนึ้ บนั ได
ทศิ ไหนกจ็ ะพบพระพกั ตรข์ องพระพทุ ธรูปทกุ ดา้ น
ซุ้มลีลาวดี พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตนิ า่ นอยูต่ รงขา้ มวดั ภูมนิ ทรเ์ ดมิ เป็นที่
ประทบั ของเจา้ ผคู้ รองนครนา่ นเรยี กวา่ “หอคา” ภายในจดั แสดง
ศลิ ปะโบราณวตั ถใุ นประวตั ศิ าสตรข์ องนา่ นและชวี ติ ความเป็นอยู่
ของชาวพนื้ เมอื งภาคเหนอื และชาวเขาเผา่ ตา่ งๆส่งิ สาคญั ทสี่ ดุ คอื
งาชา้ งดาถอื เป็นของคูบ่ า้ นคูเ่ มอื งของจงั หวดั นา่ นนอนจากนบี้ รเิ วณ
ดา้ นหนา้ พพิ ธิ ภณั ฑย์ งั มีซมุ้ ตน้ ลลี าวดที ขี่ นึ้ เป็นแถวเรยี งรายแผ่
ขยายก่งิ กา้ นโคง้ เขา้ หากนั กลายเป็นอโุ มงคต์ น้ ไมท้ อดยาวสวยงาม
บรรยากาศของการเดนิ อยูใ่ ตต้ น้ ลลี าวดแี หง่ นถี้ ูกยอมรบั วา่ สวยงาม
และร่มรนื่ และเป็นหน่งึ จดุ ถา่ ยรูปทนี่ กั ทอ่ งเทยี่ วตอ้ งไมพ่ ลาดเกบ็
ความภาพประทบั ใจอกี ดว้ ย
Awesome Words
วัดพระธาตุช้างคา้ วรวิหาร
วดั พระธาตชุ า้ งคา้ วรวหิ าร เดมิ มชี อื่ เรียกวา่ “วดั หลวง” หรอื “วดั หลวง
กลางเวยี ง” ตงั้ อยูต่ รงขา้ มพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตนิ า่ น นบั เป็นปชู นยี
สถานสาคญั ของเมอื งนา่ น ภายในวดั ประดษิ ฐาน เจดยี ช์ า้ งคา้ ภาย
เจดยี ป์ ระดษิ ฐานพระบรมสารรี กิ ธาตุ รอบฐานองคพ์ ระเจดยี ก์ ่ออฐิ ถอื ปนู
มรี ูปปัน้ ชา้ งคร่งึ ตวั ดา้ นละ 5 เชอื ก และทมี่ มุ ทงั้ สอี่ กี 4 เชอื ก ลกั ษณะ
คลา้ ยวดั ชา้ งลอ้ ม จงั หวดั สโุ ขทยั สว่ นพระวหิ ารศลิ ปะแบบลา้ นนาและ
ภายในวหิ ารประดษิ ฐานพระพทุ ธรูปสารดิ ยนื ปางประทานอภยั อายรุ าว
คร่งึ หลงั พทุ ธศตวรรษที่ 19 มลี กั ษณะคลา้ ยพระพทุ ธรูปปางประทานอภยั
ทวี่ ดั ราชธานี จงั หวดั สโุ ขทยั
ลกั ษณะโครงสรา้ งสถาปัตยกรรมมลี กั ษณะอยา่ งเดยี วกบั
วหิ ารและโบสถต์ งั้ อยูด่ า้ นหนา้ คูก่ บั พระวหิ ารหลวงอาคาร
ก่ออฐิ โบกปนู ยกพนื้ สูงit
วัดม่ิงเมือง
วดั ม่งิ เมอื งตงั้ อยูท่ ถี่ นนสรุ ยิ พงศต์ วั เมอื งนา่ นเป็นทปี่ ระดษิ ฐานเสา
หลกั เมอื งของจงั หวดั นา่ นลกั ษณะเดน่ คอื ลายปนู ปัน้ ทผี่ นงั ดา้ น
นอกของพระอโุ บสถมคี วามสวยงามวจิ ิตรบรรจงเป็นฝีมอื ตระกูล
ชา่ งเชยี งแสนมคี วามวจิ ิตรงดงามภายในมภี าพจิตรกรรมฝาผนงั
แสดงใหเ้ หน็ วถิ ชี วี ติ ของชาวเมอื งนา่ นฝีมอื ชา่ งทอ้ งถ่นิ ยคุ ปัจจบุ นั
องคพ์ ระประธาน เป็นพระพทุ ธรูปปัน้ ลงรกั ปิดทองทงั้ องค์
เป็นศลิ ปะเชยี งแสนสงิ ห์ 1 ซ่ึงไดท้ าการซ่อมแซมมาถงึ 4 ครงั้
มอี ายถุ งึ 400 กวา่ ปี เดมิ เป็นศลิ ปะไทยใหญ่ ซ่ึงครงั้ หลงั สดุ
ชา่ งทกี่ ่อสรา้ งไดเ้ พ่มิ ขนาดขององคพ์ ระใหใ้ หญ่ขนึ้ โดยมหี นา้
ตกั กวา้ งขนาด 80 นวิ้ มนี ามวา่ “หลวงพอ่ พระศรมี ่งิ เมอื ง” ทมี่ ี
พทุ ธลกั ษณะทงี่ ดงามตามพทุ ธศลิ ป์ แบบเชยี งแสนสงิ ห์ 1 ยคุ
ตน้ โดยเฉพาะทยี่ อดพระเกตโุ มฬเี ป็นรูปดอกบวั ตูมแกะสลกั
จากหนิ แกว้ จยุ เจียหรอื แกว้ โป่ งข่าม ซ่งึ เป็นหนิ ทเี่ กดิ ขนึ้ ใน
ดนิ แดนลา้ นนาเทา่ นนั้
วัดศรีพันต้น
วดั ศรพี นั ตน้ มวี หิ ารทสี่ วยงามตงั้ เดน่ เป็นสงา่ สที องระยบิ ระยบั
เป็นอกี วดั หน่งึ ในจงั หวดั นา่ นทมี่ จี ิตรกรรมปนู ปัน้ ทสี่ วยงาม
โดยเฉพาะพญานาคเจ็ดเศยี รเฝา้ บนั ไดดูออ่ นโยนมชี วี ติ ชวี า ซ่ึงปัน้
แตง่ โดยชา่ งชาวนา่ น ภายในวหิ ารไดม้ กี ารเขยี นภาพลายเสน้ ประวตั ิ
ของพระพทุ ธเจา้ และประวตั ิ การกาเนดิ เมอื งนา่ น โดยชา่ งชาวนา่ น
เป็นภาพเขยี นลายเสน้ ลงสธี รรมชาตสิ วยงามและทรงคณุ คา่ อยา่ งย่งิ
วัดหัวข่วง
วดั หวั ขว่ งตงั้ อยูบ่ นถนนมหาพรหมอาเภอเมอื งนา่ นใกล้
พพิ ธิ ภณั ฑส์ ถานแหง่ ชาตนิ า่ นเป็นวดั เก่าแก่ทสี่ วยงามอกี
วดั หน่งึ ของนา่ นทงั้ วหิ ารและเจดยี ม์ ลี กั ษณะศลิ ปกรรม
แบบทอ้ งถ่นิ ลา้ นนาสกลุ ชา่ งเมอื งนา่ นฝีมอื ประณตี งดงาม
นอกจากนยี้ งั มหี อไตรเกา่ แกต่ งั้ โดดเดน่ อยูบ่ รเิ วณกลางวดั
ลกั ษณะคลา้ ยวหิ ารแตม่ ขี นาดเลก็ และทรงสงู หนา้ บนั และ
ฝาชนั้ บนประดบั ลายแกะสลกั สวยงาม
ลกั ษณะคลา้ ยวหิ ารแตม่ ขี นาด
เลก็ และทรงสงู หนา้ บนั และฝา
ชนั้ บน ประดบั ลายแกะสลกั
สวยงาม
โฮงเจ้าฟองคา
ตงั้ อยูท่ ถี่ นนสมุ นเทวราชซอย 2
อาเภอเมอื งนา่ นสรา้ งจากไมส้ กั
หลงั ใหญ่สไตลล์ า้ นนาบา้ นเก่า
อายเุ กอื บ200ปี
. โฮงเจา้ ฟองคาเป็นบา้ นไมส้ กั ยกใตถ้ นุ สงู รูปแบบลา้ นนาโบราณ
หลงั คาทรงจ่วั มงุ ดว้ ยกระเบอื้ งดนิ ขอ ประกอบดว้ ยเรอื น 4 หลงั
แบ่งเป็นหอ้ งตา่ งๆ ทงั้ นอน หอ้ งรบั แขก หอ้ งครวั ทงั้ หมดเชอื่ มตอ่
กนั ดว้ ยนอกชานและทางเดนิ บนั ไดทางขนึ้ บา้ นอยูด่ า้ นหนา้ มี
หลงั คาคลมุ สาหรบั ไมส้ กั ทใี่ ชส้ รา้ งบา้ นนนั้ ใชว้ ธิ ีการผา่ และซอ้ ม
ถากดว้ ยขวานและมดี การประกอบตวั บา้ นจึงไม่ไดใ้ ชต้ ะปู แตจ่ ะใช้
วธิ ีเจาะไมแ้ ละเขา้ ไมโ้ ดยใชส้ ลกั ไม้ บรเิ วณหนา้ บา้ นมบี ่อนา้
โดยรอบบา้ นร่มรนื่ ดว้ ยตน้ ไมน้ านาชนดิ
ตกึ รังษีเกษม
ตงั้ อยูท่ ี่ ถนนสมุ นเทวราช อาเภอเมอื งนา่ น ในพนื้ ทขี่ องโรงเรยี น
นา่ นครสิ เตยี นศกึ ษา เป็นอาคารเก่าแก่สไตลต์ ะวนั ตกยคุ โค
โลเนยี ลทมี่ อี ายมุ ากกวา่ 100 ปี ก่อตงั้ ขนึ้ ราวๆ ปีพ.ศ. 2458 โดย
คณะมชิ ชนั นารเี พอื่ เปิดเป็นโรงเรยี นสาหรบั สอนหนงั สอื ตะวนั ตก
แหง่ แรกของเมอื งนา่ น เดมิ มีชอื่ วา่ โรงเรยี น “เมรเิ อรสิ มทิ
บราวส”์ ตอ่ มาสมเดจ็ พระราชปิตลุ าบรมพงศาภมิ ขุ เจา้ ฟา้ ภาณุ
รงั ษีสวา่ งวงศ์ ไดพ้ ระราชทานนามโรงเรยี นใหมว่ า่ โรงเรียนรงั ษี
เกษม และกลายเป็นชอื่ ตกึ รงั สเี กษมในปัจจุบนั ในอดตี ตกึ รงั ษี
เกษมใชเ้ ป็นหอ้ งประชมุ หอ้ งเรยี นสาหรบั เดก็ และเป็นที่
ประกอบศาสนพธิ ีทสี่ าคญั นอกเหนอื จากการเรยี นการสอน เชน่
พธิ ีแตง่ งาน การประชมุ ใหญ่ พธิ ีแตง่ ตงั้ สถาปนา เป็นตน้
หอศลิ ป์ ริมน่าน
หอแสดงงานศลิ ปะขนาดใหญบ่ นพนื้ ที่
กวา่ 13 ไร่ตงั้ อยูร่ มิ แม่นา้ นา่ นเป็น
แหลง่ รวมศลิ ปะและวฒั นธรรมของ
จงั หวดั นา่ นก่อตงั้ และดาเนนิ การโดย
ศลิ ปินชาวนา่ นวนิ ยั ปราบรปิ ศู ลิ ปินชาว
นา่ นชอื่ ดงั ทรี่ กั ในศลิ ปะทตี่ อ้ งการสรา้ ง
หอศลิ ป์ เพอื่ รวบรวมงาน
ศลิ ปะจากมนั สมองของศลิ ปินไทยร่วมสมยั ทมี่ ผี ลงาน
การสรา้ งสรรคแ์ ละมเี อกลกั ษณโ์ ดดเดน่ เป็นทยี่ อมรบั
โดยทว่ั ไปอกี ทงั้ ยงั มกี ารแสดงผลงานจติ รกรรมและ
ประตมิ ากรรมของคณุ วนิ ยั ในรูปแบบก่งึ นทิ รรศการถาวร
ใหไ้ ดช้ มเกอื บตลอดปีขนึ้ ในสภาพภูมปิ ระเทศทเี่ ป็น
ธรรมชาตเิ พอื่ ใหค้ นทมี่ าเสพศลิ ปะนนั้ ไดค้ วามรูส้ กึ สบาย
ใจและพกั ผอ่ นไปดว้ ย
29 Base
รา้ นกาแฟสดุ แนวเหน็ ววิ ภูเขาอนั งดงามของเมอื ง
นา่ นตงั้ ตระหงา่ นอยูเ่ บอื้ งหนา้ รา้ นตงั้ อยูร่ มิ ถนนบน
เสน้ ทางลอยฟา้ 1081 ไปอาเภอบ่อเกลอื โดยใชเ้ สน้
สนั ตสิ ขุ บรเิ วณกโิ ลเมตรที่ 29 จึงทมี่ าของชอื่ 29
Base
มเี ฮอื นกาแฟ ขายเมนเู ครอื่ งดมื่ หลากหลาย ทงั้
กาแฟดรปิ โกโก้ ชาเขยี วเยน็ บรรยากาศโดยรอบ
รา้ นสดชนื่ มที นี่ ง่ั พกั ผอ่ นหลายมมุ ทงั้ แบบโต๊ะไมน้ ง่ั
ชมววิ รวมถงึ กระทอ่ มนง่ั เลน่ ทอี่ ยูด่ า้ นลา่ งทา่ มกลาง
ววิ ภูเขาสดุ อลงั การ
ตวั เลอื กของบรกิ าร: นง่ั รบั ประทานที่
รา้ น · สง่ั กลบั บา้ น · ไม่มบี รกิ ารสง่
อาเภอนาน้อย
ดอยเสมอดาว
เรามกั จะพดู กนั เสมอวา่ ถา้ มาจงั หวดั นนั้ จงั หวดั นแี้ ลว้
ไมไ่ ดแ้ วะทนี่ ี่ กเ็ หมอื นมาไม่ถงึ นา่ นกเ็ ชน่ กนั ถา้ เราไมไ่ ด้
แวะมาเทยี่ วดอยเสมอดาวเพอื่ มาชมความงดงามของจดุ
ชมววิ ทะเลหมอกกเ็ หมอื นมาไม่ถงึ ดอยเสมอดาว ตงั้ อยู่
ใน อาเภอนานอ้ ย ในเขตอทุ ยานแหง่ ชาตศิ รนี า่ น เป็นพนื้ ที่
ทมี่ ลี านกวา้ งไปเหมาะสาหรบั การพกั ผอ่ นชมพระอาทติ ย์
ขนึ้ และพระอาทติ ยต์ กในเวลาเดยี วกนั และยงั สามารถชม
ทะเลหมอกในยามเชา้ เป็นจดุ ชมววิ ทสี่ ามารถมองเหน็
ทวิ ทศั น์ ได้ 360 องศา ในเวลากลางคนื กส็ ามารถชมดาว
เตม็ ทอ้ งฟา้ ไดอ้ ยา่ งสวยงาม
ส่งิ มหศั จรรยท์ สี่ รา้ งสรรคโ์ ดยธรรมชาติ
เสาดนิ นานอ้ ยและคอกเสอื ตงั้ อยูท่ ตี่ าบลเชยี งของทางดา้ น
ทศิ ตะวนั ตกของอทุ ยานแหง่ ชาตศิ รนี า่ นมรี ะยะทางหา่ ง
จากทที่ าการอทุ ยานแหง่ ชาตปิ ระมาณ 24 กโิ ลเมตรทงั้ สอง
แหง่ ตงั้ อยูไ่ มไ่ กลกนั เป็นปรากฎการณธ์ รรมชาตทิ สี่ วยงาม
ทเี่ กดิ จากการทบั ถมของดนิ และเกดิ นา้ กดั เซาะจน
กลายเป็นรวิ้ รายทแี่ ปลกตา
สนั นษิ ฐานวา่ เสาดนิ นานอ้ ยมี อายปุ ระมาณ 30,000-
10,000 ปีและเคยเป็นกน้ ทะเลมากอ่ น นอกจากนยี้ งั
คน้ พบกาไลหนิ และขวานโบราณทนี่ ี่
เสาดินนาน้อย คอกเสือ
อุทยานแห่งชาตขิ ุนสถาน
ดูหมอกทดี่ อยเสมอดาวไปแลว้ ในอาเภอนานอ้ ยยงั มอี กี
หน่งึ สถานทที่ อ่ งเทยี่ วทงี่ ดงามบรสิ ทุ ธิอ์ กี หน่งึ แหง่ อทุ ยาน
แหง่ ชาติ ขนุ สถาน สาหรบั คนทชี่ อบทอ่ งเทยี่ วในแนวนี้ อช.
ขนุ สถาน คอื อกี หน่งึ แหง่ ทไี่ มค่ วรพลาด กบั เสนห่ แ์ หง่
ขนุ เขาสดุ อลงั การเคลา้ สายหมอกในฤดูฝนทมี่ ใี หช้ มตลอด
ทงั้ สองเสน้ ทางจนถงึ ทที าการอทุ ยานทที่ าใหเ้ รามคี วามสขุ
และเพลดิ เพลนิ ไปกบั การมองววิ ไม่นอ้ ยเลยทเี ดยี ว
ฤดูทเี่ หมาะสมในการทอ่ งเทยี่ ว ฤดูฝน – หนาว ตงั้ แตเ่ ดอื น ก.ย. –
ก.พ. โดยเฉพาะฤดูฝนทนี่ จี่ ะมคี วามงดงามเป็นพเิ ศษ
วัดบ่อแก้ว
อาเภอนาหมืน่
ตัง้ อยู่ทบี่ ้านบ่อแก้ว ตาบลบ่อแก้ว อาเภอนาหมืน่ ความโดด
เด่น คือ เป็ นวัดทสี่ ร้างด้วยศิลปะแบบล้านนา พระอุโบถมีสี
ขาวทงั้ หลังงดงามวจิ ิตรด้วยลวดลายแกะสลักปนู ปั้นประดับ
กระจกสีต่างๆ ด้านหลังวัดสามารถมองเหน็ ววิ ของท่งุ นา
เขียวขจีบริเวณทางเข้ามีเสาสีขาวเรียงรายไปตลอดทัง้ สอง
ฝ่ัง ปลายเสาเป็ นรูปปั้นหงส์ติดโคมไฟไว้สาหรับเปิ ดยามค่า
คืน
ดอยสกาด
อำเภอปัว
ดอยสกาด ดอยทเี่ ป็นทอี่ ยูอ่ าศยั ของชาวไทยภูเขาชนเผา่ ลว๊ั ะ มี
ชอื่ เสยี งในเรอื่ งของการปลูกเมยี่ ง และมะแข่นของดเี มอื งนา่ น
และทสี่ าคญั ดอยแหง่ นยี้ งั คงมคี วามบรสิ ทุ ธิข์ องธรรมชาติ
บรรยากาศเงยี บสงบ เหมาะสาหรบั มาพกั ผอ่ นชารต์ แบตรเี ฟรซ
รา่ งกายใหห้ ายจากความเหนอื่ ยลา้ ดอยสกาด มที พี่ กั แบบ
โฮมสเตยป์ ระมาณ 3 แหง่ แตท่ พี่ กั ทเี่ รยี กไดว้ า่ เปิดตวั ดอยสกาด
ใหเ้ ป็นทรี่ ูจ้ ขั องนกั ทอ่ งเทยี่ ว คอื สกาดดโี ฮมสเตย์ ทพี่ กั แบบ
บา้ นไมเ้ รยี บงา่ ยทตี่ งั้ อยูบ่ นทสี่ ูงสามารถมองเหน็ ววิ ของเทอื กเขา
ดอยภูคาไดแ้ บบพาโนรามา จากระเบยี งหนา้ บา้ น นอกจากเปิด
เป็นทพี่ กั แลว้ ยงั เปิดใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วไดแ้ วะเวยี นเขา้ มาเยยี่ มชม
จบิ ชา ดรฟิ กาแฟ ชมววิ ถา่ ยภาพสวยๆ ไดต้ ลอดทงั้ วนั
เหน็ ชอื่ แลว้ อาจจะแปลกใจกนั เลก็ นอ้ ยวา่ ชอื่ วดั นา่ จะอยูใ่ น
จงั หวดั ภูเกต็ มากกวา่ ซ่ึงตามจรงิ แลว้ วดั ภูเกต็ ตงั้ ชอื่ ตาม
หมูบ่ า้ นทชี่ อื่ วา่ หมูบา้ นเกต็ แตด่ ว้ ยวดั ตงั้ อยู่บนเนนิ เขา ซ่งึ
ทางเหนอื เรียกวา่ “ดอย” หรอื “ภู” จงึ ตงั้ ชอื่ วา่ “วดั ภูเก็ต”
หมายถงึ วดั บา้ นเก็ตทอี่ ยูบ่ นภู หรือ ดอย วดั ภูเกต็ เป็นวดั
ทมี่ ภี ูมทิ ศั นแ์ ละววิ ทสี่ วยงามโดยจดุ เดน่ ของวดั คอื มรี ะเบยี ง
ชมววิ ดา้ นหลงั วดั ตดิ กบั ทงุ่ นาทกี่ วา้ งไกลพรอ้ มดว้ ยฉากหลงั
เป็นภูเขาของวนอทุ ยานดอยภูคาในยามเชา้ เป็นจดุ ชมววิ พระ
อาทติ ยข์ นึ้ ทงี่ ดงามอกี แหง่ หน่งึ
วัดภเู กต็
วดั ภูเกต็ ตงั้ อยูใ่ นตาบลวรนคร อาเภอ
ปัว จงั หวดั นา่ น
จบงาน