สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัด ปราจีนบุรี อำ เภอ นาคี-บ้าบ้นสร้าร้ง
เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน (Verona at Tublan) ตั้งอยู่ในอำ เภอนาดี จังหวัดวั ปราจีนบุรี เป็นแหล่งช้อปปิ้ง จุดพักรถและพักผ่อน่ของจังหวัดวั ปราจีนบุรี โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก เมืองเวโรน่า แห่งแคว้นว้เวเนตโต้ ประเทศอิตาลี ต้นกำ เนิดนวนิยาย โรมิโอ&จูเลียต อันเลื่อง ชื่อของโลก จึงก่อกำ เนิดดินแดนแห่งรักในเมืองไทย กับเดอะเวโรน่าแอททับลาน ท่ามกลาง บรรยากาศขุนเขา ที่มีอากาศ บริสุริสุทธิ์อันดับ7 ของโลก ให้ความรู้สึกโรแมนติกแบบสุดๆ พร้อมสถาปัตยกรรมที่จำ ลองสะพาน Castelvecchio ทะเลสาบ Garda ลานกลางแจ้ง แบบ Arena หอคอย Lamberti หอนาฬิกา หอระฆัง จัตุรัสเออร์เบที่ให้ได้เข้าถึงความ เป็น เวโรน่าแบบสุดๆ พร้อมกับกิจกรรมล่องเรือรืคอนโดล่า ชมตำ นานรักแห่งบ้านจูเลียต นั่งรถม้า สไตล์อิตาลีพร้อมชมฟาร์มสไตล์คันทรี ได้ไกล้ชิดและ ให้อาหารสัตว์นว์านาชนิด สนุกไปกับ เครื่อรื่งเล่น และสันทนาการต่างๆมากมาย พร้อมบริกริารรถ ATV ให้ได้ Adventure แบบ มันส์ๆ ยังไม่หมดแค่นี้ ที่นี่ยังมีสินค้าทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์นอกถึง 120 ร้านค้า ให้คุณได้ ชม ชิม ช๊อป แชะ พร้อมความสนุก อีกมากมาย ที่รอคุณได้สัมผัสไปกับคนที่คุณรัก เพียงแค่อยู่ เมื่องไทยก็เหมือนได้ไปอิตาลี เดอะ เวโรน่า แอท
ทุ่งดอกหงอนนาค ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ ไร่ศักดิ์สุภารีสรีอร์ท ตำ บลสะพานหิน อำ เภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ที่นี่เป็นไร่ดอกไม้สีม่วงของ ดอกหงอนนาค แปลงใหญ่กว้างขวาง มี เนื้อที่ถึง 10 ไร่เลยทีเดียวค่ะ โดยที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมดอกไม้ และถ่ายรูปกันได้ ตั้งแต่ในช่วงเดือนสิงหาคม ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี หรือรืตาม ช่วงเวลาบานของดอกไม้ ดอกหงอนนาค นี้ ขึ้นชื่อว่าเป็น ดอกไม้น้ำ ค้างกลางเที่ยง เพราะจะออกดอกบาน สวยงาม แค่ในช่วงตอนเช้า ประมาณ 7 โมง ไปจนถึงเที่ยงๆ ก่อนจะเริ่มริ่หุบลงในช่วง บ่ายๆ เวลาไม่เกินบ่ายสามโมงค่ะ คือถ้าอยากได้รูปดอกไม้บานสวย ก็ต้องไปแต่เช้าเท่านั้น ค่ะ ถึงจะได้ภาพสวยๆ และไปไม่เสียเที่ยวค่ะ ถ้าไปในตอนบ่ายก็จะอดได้ภาพสวยๆ กลับมา ช่วงปลายฝน ต้นหนาว จะเป็นช่วงยอดฮิตของที่นี่เลย เพราะจะเป็นช่วงที่ดอกไม้บาน เต็มที่ และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมากันในช่วงนี้ค่ะ และด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจาก กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำ ไมที่นี่ถึงฮอตฮิตได้ ขนาดนี้ ทุ่งดอกหงอนนาค
วัดรัตนเนตตาราม หรือรืวัดล้านหอย ตั้งอยู่ในอำ เภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ที่สิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัด นำ เปลือกหอยทะเลนำ มาตบแต่ง ประดับประดาจนสวยงามเป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นความวิจิวิจิตรบรรจง ของงานพุทธศิลป์จากเปลือกหอยหนึ่งเดียวในประเทศไทย ทำ ให้วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งวัดอันซีนที่ทั้ง สวยงาม และยังแสดงถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนในพื้นที่เมื่อเดินเข้ามาภายในวัดจะเจอ พระนอนขนาดใหญ่ และสถาปัตยกรรมต่างๆ ทั้งวิหวิาร มณฑป หอระฆัง ตกแต่งด้วยเปลือกหอยทะเล หลากหลายชนิด ลวดลายสวยงาม ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของท่านเจ้าอาวาส และพระลูกวัด ช่วยกันทำ ด้วย ใจ แม้ไม่ได้ร่ำ เรียรีนทางด้านศิลปะมาก่อน ที่หลังจากที่เดินบิณฑบาตร แล้วพบหอยแครงถูกทิ้งขว้าง มากมาย นานหลายเดือนหลายปีก็ยังคงอยู่สภาพเดิมไม่ผุพัง จึงมีแนวคิดนำ มาประดับรอบหอพระอาคาร หอพระแก้วสามฤดู หรือรืมณฑป เป็นอาคารสีส้มอมแดงโดดเด่น ที่ตกแต่งด้วยเปลือกหอยสารพัดชนิด จากท้องทะเล บ้างซ้อนกันเป็นดอกไม้ บ้างเรียรีงออกมาเป็นลวดลายอย่างกลมกลืน แม้แต่พญานาค ที่ บริเริวณทางขึ้น ก็ใช้เปลือกหอยแครงนำ มาเรียรีงเป็นเกล็ด บริเริวณรอบหอแก้ว มีพระพุทธรูปที่ตั้งเรียรีง รายบริเริวณหน้าหอ รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็ประดับด้วยเปลือกหอยเช่นกันส่วนภายในประดับโดยใช้ หอยกาบ หรือรืหายจานตัวใหญ่รวมทั้งหอยสังข์ ที่ลูกศิษย์นำ มาถวายเอามาประดับเรียรีงรายให้เป็นรูป ดอกไม้เล็กใหญ่ ทั้งฝ้าเพดาน เสา และผนังและยังมีการนำ รูปปั้นรูปพระพุทธรูปนูนต่ำ และลอยองค์รวม ทั้งรูปปั้นนกแก้ว นกขุนทองมาเกาะติดเหมือนอยู่ในพงไพร ซึ่งในส่วนนี้ปล่อยไว้เป็นสีธรรมชาติของหอย ไม่มีการแต้มแต่งสีใดๆซึ่งมีความสวยงามตามแบบธรรมชาติถัดจากหอพระแก้ว เป็นอาคารที่มีพระราหู อยู่บริเริวณประตูทางเข้า ซึ่งด้านในมีพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานขนาดใหญ่ เพดานโดยรอยรมถึง ประตูฝั่งด้านข้างประดับด้วยเปลือกหอยหลากสีเป็นรูปดอกไม้ โค้งไปตามรูปอาคาร วิจิวิจิตรงดงามมาก รูปปั้นบันไดพญานาคสีขาวด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นอาคารแบบทรงไทย ประดับด้วยเปลือกหอยสี ธรรมชาติดูสะอาดตาสวยงาม ถัดไป คือ ลานธรรมบรรยากาศร่มรื่นรื่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่และขนาด เล็กอยู่บริเริวณทางเดินด้านหลังวัดเป็นจุดชมวิววิซึ่งจัดทำ เป็นสะพานไม้ไผ่ริมริทุ่งนา และกระท่อมไม่ไผ้ สำ หรับนั่งพักผ่อน วัดรัตนเนตตาราม สวยงามและมีเอกลักษณ์ ควรค่าแก่การมาชมและสักการะ วัด วั รัตนเนตตาราม
อ่างเก็บน้ำ นฤบดินทรจินดาอันเนื่องมาจากพระราชดำ ริ (เขื่อนห้วยโสมง) ช่วย บรรเทาปัญหาน้ำ ท่วม-ภัยแล้ง และรักษาระบบนิเวศในแม่น้ำ ปราจีนบุรี-รีบางปะกง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงสืบสานพัฒนา แหล่งน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำ ริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะโครงการสำ คัญ ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ของลุ่มน้ำ เจ้าพระยาตอนล่าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการระบายน้ำ บริเริวณรอบสนามบิน สุวรรณภูมิอันเนื่องมาจากพระราชดำ ริ จังหวัดวัสมุทรปราการ ที่ทำ หน้าที่ในการ รองรับน้ำ ในช่วงฤดูฝนและช่วงฤดูน้ำ เหนือไหลหลากเพื่อระบายลงสู่ทะเลก่อนที่จะเข้า สู่พื้นที่ ในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ทรงให้มีการติดตามการดำ เนินงานโครงการพัฒนา แหล่งน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำ ริอริย่างต่อเนื่อง เพื่อทรงรับทราบถึงสถานการณ์ และแนวทางการบริหริารจัดการน้ำ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อทรง สืบสาน รักษา ต่อยอด พัฒนาโครงการฯ ให้บังเกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สูงสุดต่อไป อ่างเก็บน้ำ นฤบดินทรจินดา
อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นอุทยานแห่งชาติในภาคอีสานและภาคตะวันวัออก มีพื้นที่ ครอบคลุมท้องที่อำ เภอปักธงชัย อำ เภอวังวัน้ำ เขียว อำ เภอครบุรี อำ เภอเสิงสาง จังหวัดวั นครราชสีมา และอำ เภอนาดี จังหวัดวั ปราจีนบุรี สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์และมีป่า ลานซึ่งหาดูได้ยากที่มีเฉพาะบางท้องที่เท่านั้น มีต้นลานขึ้นตามธรรมชาติ เป็นแหล่ง กำ เนิดของแม่น้ำ ลำ ธารต่าง ๆ และมีธรรมชาติที่สวยงาม เช่น หุบผา หน้าผา น้ำ ตก นับ ว่าว่เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับสองของประเทศไทย รองจากอุทยานแห่ง ชาติแก่งกระจาน เมื่อวันวัที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยาน แห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่ว์ ป่าดงใหญ่ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติโดยยูเนสโก ภาย ใต้ชื่อ "กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่" อุทยานแห่งชาติทับลาน ได้รับรางวัลวัอุทยานแห่ง ชาติสีเขียว ระดับทอง ประจำ ปี 2563
“วัดบางแตน” เป็นวัดเก่าแก่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอรียุธยาตอนปลายถึงปัจจุบันมีอายุเกือบ ๆ 300 ปี วัดนี้ชาวบ้านบางแตนร่วมกันสร้างเพื่อเป็นวัดวั ประจำ ต.บางแตน สำ หรับประกอบ กิจกรรมทางศาสนาพุทธ เดิมมีชื่อว่าว่ “วัดวัสีลาดสัดทาทำ ” ต่อมาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยา วชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจคณะสงฆ์ในเขตมณฑลปราจีนบุรีแรีละเสด็จวัดวัสีลาดสัดทาทำ ทรงตรัส ถามความเป็นมา เมื่อรับทราบความแล้วทรงมีรับสั่งให้เปลี่ยนชื่อตามชื่อตำ บลบางแตน คือ “วัดวับาง แตน”วัดบางแตนส่วนวัดบางแตนยังมีเรื่อรื่งราวเล่าขานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ในวันวัที่ 15 ธันวาคม 2451 ตรงกับ ร.ศ. 127 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จ ประพาสต้นมณฑลปราจีนบุรีโรีดยทางชลมารค (แม่น้ำ บางปะกงหรือรืแม่น้ำ ปราจีนบุรี)รีก่อนถึงวัดวั บางแตน บริเริวณนี้แม่น้ำ เป็นทางอ้อมประมาณ 15 เมตร สมัยนั้นเรือรืแจวเก๋งพระที่นั่งต้องแจวอ้อม เกือบ 1 วัน ดังนั้นชาวบ้านและหน่วยงานภาครัฐได้กราบทูลให้ทรงทราบ ถ้าขุดเป็นร่องน้ำ สำ หรับ เรือรืเก๋งพระที่นั่งผ่านไปได้ใช้เวลาไม่นาน แล้วก็ขุดร่องน้ำ เพื่อเรือรืเก๋งพระที่นั่งผ่านไปได้ ปัจจุบันร่อง น้ำ กลายเป็นเกาะในแม่น้ำ ปราจีนบุรีใรีกล้ ๆ วัดวับางแตนและพระองค์ท่านทรงประทับแรม ณ วัดวับาง แตนวัดบางแตนสำ หรับองค์หลวงพ่อคุ้มพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านบางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี มีเรื่อรื่งราวเล่าขานกันว่าว่พ่อค้าคนหนึ่ง เดินทางมาจาก อ.ท่าวุ้นวุ้ จ.ลพบุรี นำ สินค้ามา ค้าขายในชุมชน ต.บางแตนและได้บรรทุกองค์พระพุทธรูปจากวัดวัเขาสมอคอนมาด้วยกับเกวียวีนของ ตนเอง ครั้งนั้น หลวงตาแก่ท่านเห็นองค์พระพุทธรูปในเกวียวีนพ่อค้า หลวงตาแก่ท่านเอ่ยปาก อัตมา ขอบิณฑบาตพระพุทธรูปองค์นี้ ปรากฏว่าว่พ่อค้าถวายให้หลวงตาแก่ เมื่อได้รับถวายแล้วยกไม่ขึ้น จึง ประกอบพิธีอัญเชิญ ก็มองเห็นร่องรอยการแกะสลักองค์พระพุทธรูปด้วยหินศิลาแลงสามารถยก แยกออกมาได้ 16 ชิ้น แล้วอัญเชิญประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถและชาวบ้านช่วยกัน พอกปูนปูทับองค์พระพุทธรูปไว้สำ หรับชื่อหลวงพ่อคุ้ม ชาวบ้านเรียรีกขานกันมาถึงทุกวันวันี้ วัด วั บางเเตน
THANK YOU น. ส จุฬา ลักษณ์ ส่ อ ง เเ ส ง จันทร์ เ ล ขทีี่2 3 ม. 4 / 1