พ่อ พ่ ขุน ขุ รามคำ แหงมหาราช
พ่อขุนรามคำ แหงมหาราช หรือ รื ขุนราม ราช หรือ รื พระบาทกมรเตงอัญศรีร รี ามราช [1] ทรงเป็น พระมหากษัตริย์ ริ ย์ไทย พระองค์ ที่ 3 แห่ง ราชวงศ์พระร่ว ร่ ง ( อาณาจักร สุโขทัย ) ทรงครองราชย์ประมาณ พ.ศ. 1822 ถึงประมาณ พ.ศ. 1842 พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ ริ ย์ พระองค์แรกของไทยที่ไที่ ด้ รับ รั การยกย่องเป็น "มหาราช" ด้วยทรง บำ เพ็ญพระราชกรณียกิจอันทรงคุณ ประโยชน์แก่แผ่นดิน ทรงรวบรวม อาณาจักรไทยจนเป็นปึก ปึ แผ่นกว้างขวาง ทั้ง ทั้ ยังได้ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้น ขึ้ ทำ ให้ชาติไทยได้สะสมความรู้ท รู้ างศิลปะ วัฒ วั นธรรม และวิช วิ าการต่าง ๆ สืบทอดกัน มากกว่าแปดร้อ ร้ ยปี คำ นำ
สารบัญ เรื่อง หน้า คำ นำ ก สารบัญ ข พระราชประวัติ วั ติ 1-2 พระนาม 3-4 การเสวยราชย์ 5 พระราชกรณียกิจ 6 การเมืองการปกครอง 7-8 เศรษฐกิจและการค้า 9-10 ศาสนาและวัฒ วั นธรรม 11-13
อาณาเขต 14-15 ความสัมพันธ์ ระหว่า ว่ งประเทศ 16-17 ประดิษฐกรรม 18 วรรณกรรม 19 สวรรคต 20 หนังสืออ้างอิง 21
พ่อขุนรามคำ แหงมหาราชเป็นพระ ราชโอรสพระองค์ที่ 3 ของ พ่อขุนศรีอิ รีอิ น ทราทิตย์ กับ นางเสือง โดยพระองค์มี พระเชษฐา 2 พระองค์และพระขนิษฐา 2 พระองค์ พระเชษฐาพระองค์แรก สิ้น สิ้ พระชนม์ตั้ง ตั้ แต่พ่อขุนรามคำ แหงยัง ทรงพระเยาว์ พระเชษฐาพระองค์ที่ส ที่ อง ทรงพระนามตาม ศิลาจารึก รึ ว่า "พระยา บานเมือง" ซึ่ง ซึ่ ได้เสวยราชสมบัติต่อจาก พระบรมชนกนาถ และเมื่อ มื่ พ่อขุนบาน เมือง ได้เสด็จสวรรคตแล้ว พ่อขุน รามคำ แหงจึงเสวยราชสมบัติต่อมา พระราชประวัติ วั ติ 1
ตามพงศาวดารโยนก พ่อขุน รามคำ แหงมหาราชแห่ง กรุงสุโขทัย พญามังราย แห่ง ล้านนา และ พญางำ เมือง แห่ง พะเยา เป็นศิษย์ร่ว ร่ มพระ อาจารย์เดียวกัน ณ สำ นักพระสุกทันต ฤๅษี ที่เ ที่ มือง ละโว้ จึงน่าจะมีอายุรุ่น รุ่ ราว คราวเดียวกัน โดยพญามังรายประสูติ เมื่อ มื่ พ.ศ. 1782 พ่อขุนรามคำ แหงก็น่า จะประสูติในปีใกล้เคียงกันนี้ 2
พระนาม เมื่อ มื่ พ่อขุนรามคำ แหงมหาราชมีพระ ชนมายุ 19 พรรษา ได้ทรงทำ ยุทธหัตถี มีชัยต่อขุนสามชน เจ้า เมืองฉอด (อยู่ใน บริเ ริ วณแม่สอดใกล้ จังหวัดตาก แต่อาจ จะอยู่ในเขต ประเทศพม่า ในปัจจุบัน) พระบรมชนกนาถจึงทรงขนานพระนาม ว่า ว่ "พระรามคำ แหง" ซึ่งแป ซึ่ ลว่า "พระรามผู้กล้าหาญ" ภายหลังเมื่อ มื่ พระบรมชนกนาถได้เสด็จสวรรคต และ พ่อขุนบานเมือง พระเชษฐาธิราช ได้ เสวยราชสมบัติต่อมา พ่อขุนรามคำ แหง จึงได้ไปเป็นเจ้าเมืองครองเมือง ศรีสั รีสั ชนาลัย 3
ราชบัณฑิตยสถานสันนิษฐานว่า ว่ พระนามเดิมของพระองค์คือ เจ้าราม เพราะปรากฏพระนามเมื่อ มื่ เสวยราชย์แล้ว ว่า ว่ "พ่อขุนรามราช" อนึ่ง นึ่ สมัยนั้น นั้ นิยม นำ ชื่อ ชื่ ปู่ม ปู่ าตั้ง ตั้ เป็นชื่อ ชื่ หลาน ซึ่งต ซึ่ ามพระ ราชนัดดาของพระองค์มีพระนามว่า "พระยาพระราม" และในชั้น ชั้ พระราช นัดดาของพระราชนัดดา ในเหตุการณ์ การแย่งชิงราชสมบัติก ติ รุงศรีอ รี ยุธยา พ.ศ. 1962 ตามพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ ริ อักษรนิติ์ ปรากฏเจ้า เมืองพระนามว่า ว่ "พระยาบาลเมือง" และ "พระยาราม" 4
นายตรี อมาตยกุล ได้เสนอว่า พ่อขุน รามคำ แหงมหาราชน่าจะเสวยราชย์ พ.ศ. 1820 เพราะเป็นปีที่ ปี ที่ ท ที่ รงปลูกต้นตาลที่ สุโขทัย ศาสตราจารย์ปย์ ระเสริฐ ริ ณ นคร ราชบัณฑิต จึงได้หาหลักฐานมาประกอบพบว่า กษัตริย์ ริ ย์ ไทยอาหมถือประเพณีทรงปลูกต้นไทรตอน ขึ้น ขึ้ เสวยราชย์อย่างน้อยเจ็ดรัช รั กาลด้วยกัน ทั้ง ทั้ นี้ เพื่อ พื่ สร้า ร้ งโชคชัยว่ารัช รั กาลจะอยู่ยืนยง เหมือนต้นไทร อนึ่ง นึ่ ต้นตาลและต้นไทรเป็น ไม้ศักดิ์สิ ดิ์ สิ ทธิ์ข ธิ์ องลังกา การเสวยราชย์ 5
รัช รั สมัยของพ่อขุนรามคำ แหงมหาราชเป็น ยุคที่ก ที่ รุงสุโขทัยเฟื่อ ฟื่ งฟูแ ฟู ละเจริญ ริ ขึ้น ขึ้ กว่าเดิม เป็นอันมาก ระบบการปกครองภายในก่อให้ เกิดความสงบเรีย รี บร้อ ร้ ยอย่างมี ประสิทธิภาพ มีการติดต่อสัมพันธ์กับต่าง ประเทศทั้ง ทั้ ในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ประชาชนอยู่ดีกินดี สภาพบ้านเมือง ก้าวหน้าทั้ง ทั้ ทางเกษตร การชลประทาน การ อุตสาหกรรม และการศาสนา อาณาเขตของ กรุงสุโขทัยได้ขยายออกไปกว้างใหญ่ไพศาล พระราชกรณียกิจ 6
การเมืองการปกครอง เมื่อ มื่ พ่อขุนศรีอิ รีอิ นทราทิตย์ทรงขจัด อิทธิพลของเขมรออกไปจากกรุงสุโขทัย ได้ในปลาย พุทธศตวรรษที่ 18 การ ปกครองของกษัตริย์ ริ ย์ สุโขทัยได้ใช้ระบบ ปิตุราชาธิปไตย หรือ รื "พ่อปกครองลูก" ดังข้อความใน ศิลาจารึก รึ พ่อขุน รามคำ แหง ว่า คำ พูด"....เมื่อ มื่ ชั่ว ชั่ พ่อกู กู บำ เรอแก่พ่อกู กูได้ตัวเนื้อ นื้ ตัวปลา กูเอา มาแก่พ่อกู กูได้หมากส้มหมากหวาน อัน ใดกินอร่อ ร่ ยดี กูเอามาแก่พ่อกู กูไปตีหนัง วัง วั ช้างได้ กูเอามาแก่พ่อกู กูไปท่อบ้าน ท่อเมือง ได้ช้างได้งวง ได้ปั่วได้นาง ได้ เงือนได้ทอง กูเอามาเวนแก่พ่อกู.." 7
ปรากฏข้อความในศิลาจารึก รึ พ่อขุน รามคำ แหงว่า ว่ พ่อขุนรามคำ แหงมหาราชทรง ใช้พระราชอำ นาจในการยุติธรรมและ นิติบัญญัติไว้ดั ว้ ดั งต่อไปนี้ 1) ราษฎรสามารถค้าขายได้โดยเสรี เจ้าเมือง ไม่เรีย รี กเก็บจังกอบหรือ รื ภาษีผ่านทาง 2) ผู้ใดล้มตายลง ทรัพ รั ย์มรดกก็ตกแก่บุตร 3) หากผู้ใดไม่ได้รับ รั ความเป็นธรรมในกรณี พิพาท ก็มีสิทธิไปสั่น สั่ กระดิ่ง ดิ่ ที่แข ที่ วนไว้หน้า ประตูวัง วั เพื่อ พื่ ถวายฎีกาต่อพระมหากษัตริย์ ริ ย์ได้ พระองค์ก็จะทรงตัดสินด้วยพระองค์เอง นอกจากนี้ พ่อขุนรามคำ แหงมหาราชยังทรง ใช้พุ ช้ พุ ทธศาสนาเป็นเครื่อ รื่ งช่วยในการปกครอง โดยได้ทรงสร้า ร้ ง "พระแท่นมนังคศิลาบาตร" ขึ้น ขึ้ ไว้ก ว้ ลางดงตาล เพื่อ พื่ ให้พระเถรานุเถระ แสดงพระธรรมเทศนาแก่ประชาชนในวันพระ ส่วนวัน วั ธรรมดาพระองค์จะเสด็จประทับเป็น ประธานให้เจ้านายและข้าราชการปรึก รึ ษา ราชการร่ว ร่ มกัน 8
เศรษฐกิจและการค้า ทรงส่งเสริม ริ การค้าขายอย่างเสรีภ รี ายใน ราชอาณาจักรด้วยการไม่เก็บภาษีผ่านด่าน หรือ รื “จกอบ” (จังกอบ) จากบรรดาพ่อค้าที่ เข้ามาค้าขายในกรุงสุโขทัย ดังคำ จารึก รึ บน ศิลาจารึก รึ ว่า ว่ "เจ้าเมือง บ่เอาจกอบในไพร่ ลู่ทาง" นอกจากนี้ยั นี้ ยั งมีหลักฐานที่ป ที่ รากฏว่า พ่อขุนรามคำ แหงมหาราชทรงส่งเสริม ริ ให้ ชาวสุโขทัยนิยมการค้าขายนั้น นั้ ปรากฏตาม ศิลาจารึก รึ ตอนหนึ่ง นึ่ ว่า "เพื่อ พื่ นจูงวัวไปค้า ขี่ ม้าไปขาย ใครจะใคร่ค้ ร่ ค้ าช้างค้า ใครจักใคร่ ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้ ร่ ค้ าเงือนค้าทองค้า" อัน เป็นการแสดงให้เห็นว่า ทรงเปิดเสรีทุ รี ทุ ก ประการในการค้าขายทำ ให้การค้าขาย ขยายออกไปอย่างกว้างขวางจนปรากฏ แหล่งการค้าสำ คัญในสุโขทัยได้แก่ "ตลาด ปสาน" จากศิลาจารึก รึ กล่าวว่า "เบื้อ บื้ งตีน นอนเมืองสุโขทัย มีตลาดปสาน" 9
ในด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พ่อขุน รามคำ แหงมหาราชทรงเจริญ ริ สัมพันธไมตรีกั รี กั บมหาอำ นาจอย่าง "จีน" โดยนอกจากการเพิ่ม พิ่ พูนสัมพันธไมตรี ตามปกติแล้ว ยังโปรดให้นำ ช่างจากชาว จีนมาเพื่อ พื่ ก่อตั้ง ตั้ โรงงานตั้งเ ตั้ ตาทำ ถ้วยชาม ทั้ง ทั้ เพื่อ พื่ ใช้ในประเทศ และสามารถส่งออก ไปยังประเทศใกล้เคียงได้ด้วย ถ้วยชามที่ ผลิตในยุคนี้เ นี้ รีย รี กว่า "ชามสังคโลก" 10
ศาสนาและวัฒ วั นธรรม ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้น ขึ้ ใช้แทนตัว อักษรขอมที่เ ที่ คยใช้กันมาแต่เดิม เมื่อ มื่ พ.ศ. 1826 เรีย รี กว่า “ลายสือไทย” และได้มีการ พัฒนาการมาเป็นลำ ดับจนถึงอักษรไทยใน ยุคปัจจุบัน ทำ ให้คนไทยมีอักษรไทยใช้มา จนถึงทุกวันนี้ โปรดให้จารึก รึ เรื่อ รื่ งราวบางส่วนที่เ ที่ กิดใน สมัยของพระองค์ โดยปรากฏอยู่ในศิลา จารึก รึ สุโขทัยหลักที่ 1 ทำ ให้คนไทยยุคหลัง ได้ทราบ และนักประวัติ วั ติ ศาสตร์ไร์ ด้ใช้ศิลา จารึก รึ ดังกล่าวเป็นข้อมูลหลักฐานในการ ศึกษาค้นคว้าเรื่อ รื่ งราวประวัติศาสตร์สุ ร์ สุ โขทัย 11
ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้น ขึ้ ใช้แทนตัว อักษรขอมที่เ ที่ คยใช้กันมาแต่เดิม เมื่อ มื่ พ.ศ. 1826 เรีย รี กว่า ว่ “ลายสือไทย” และได้มีการ พัฒนาการมาเป็นลำ ดับจนถึงอักษรไทย ในยุคปัจจุบัน ทำ ให้คนไทยมีอักษรไทยใช้ มาจนถึงทุกวัน วั นี้ โปรดให้จารึก รึ เรื่อ รื่ งราวบางส่วนที่เ ที่ กิดใน สมัยของพระองค์ โดยปรากฏอยู่ในศิลา จารึก รึ สุโขทัยหลักที่ 1 ทำ ให้คนไทยยุคหลัง ได้ทราบ และนักประวัติ วั ติ ศาสตร์ไร์ ด้ใช้ศิลา จารึก รึ ดังกล่าวเป็นข้อมูลหลักฐานในการ ศึกษาค้นคว้า ว้ เรื่อ รื่ งราวประวัติ วั ติ ศาสตร์ สุโขทัย 12
เมื่อ มื่ พระพุทธศาสนาได้มาตั้ง ตั้ มั่น มั่ ที่ นครศรีธ รี รรมราช พ่อขุนรามคำ แหงมหาราช ทรงเลื่อ ลื่ มใสศรัท รั ธาในพระพุทธศาสนาจึงให้ นิมนต์พระเถระชั้น ชั้ ผู้ใหญ่จากเมือง นครศรีธ รี รรมราชไปตั้งเ ตั้ ผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่ก ที่ รุงสุโขทัยด้วย และนับเป็นการเริ่ม ริ่ การเจริญ ริ สัมพันธไมตรีกั รี กั บลังกา อีกทั้ง ทั้ ทรงได้สดับ กิตติศัพท์ของ " พระพุทธสิหิงค์ " ซึ่ง ซึ่ เป็น พระพุทธรูปที่เ ที่ จ้าราชวงศ์ลังกาสร้า ร้ งขึ้น ขึ้ ด้วย พระพุทธลักษณะที่ง ที่ ดงาม และมีความ ศักดิ์สิ ดิ์ สิ ทธิ์ จึงทรงให้พระยานครศรีธ รี รรมราช เจ้าประเทศราชแต่งสาส์นให้ทูตถือไปยังลังกา เพื่อ พื่ ขอเป็นไมตรีแล รี ะขอพระราชทานพระพุทธสิ หิงค์มาเพื่อ พื่ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองไทยสืบไป 13
อาณาเขต พ่อขุนรามคำ แหงมหาราชได้ทรงขยาย อาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางไพศาล คือ ทิศตะวัน วั ออก ทรงปราบได้เมืองสรหลวงสอง แคว (พิษณุโลก), ลุมบาจาย, สะค้า (สองเมือง หลังนี้อ นี้ าจอยู่แถวลุ่มแม่น้ำ น่านหรือ รื แควป่าสัก ก็ได้), ข้ามฝั่งแม่น้ำ โขงไปถึงเวีย วี งจันทน์และ เวีย วี งคำ ในประเทศลาว ทิศใต้ ทรงปราบได้คนที (บ้านโคน จังหวัด กำ แพงเพชร), พระบาง (นครสวรรค์), แพรก (ชัยนาท), สุพรรณภูมิ, ราชบุรี, รี เพชรบุรี, รี และ นครศรีธ รี รรมราช โดยมีฝั่งทะเลสมุทร (มหาสมุทร) เป็นเขตแดนไทย 14
ทิศตะวัน วั ตก ทรงปราบได้เมืองฉอด,มี สมุทรเป็นเขตแดนไทย ทิศเหนือ ทรงปราบได้เมืองแพร่, ร่ เมือง น่าน, เมืองพลัว (อำ เภอปัว น่าน), ข้ามฝั่ง โขงไปถึงเมืองชวา (หลวงพระบาง) เป็น เขตแดนไทย 15
ความสัมพันธ์ระหว่า ว่ งประเทศ ทรงทำ พระราชไมตรีกั รี กั บพญามังรายมหาราชแห่ง ล้านนา และพญางำ เมืองแห่งพะเยา โดยทรง ยินยอมให้พญามังรายมหาราชขยายอาณาเขตล้าน นาทางน้ำ แม่กก แม่น้ำ ปิง และแม่น้ำ วัง วั ได้อย่าง สะดวก เพื่อ พื่ ให้เป็นกันชนระหว่า ว่ งจีนกับสุโขทัย กับ ทั้ง ทั้ ยังได้เสด็จไปทรงช่วยเหลือพญามังรายมหาราช หาชัยภูมิสร้า ร้ งเมืองเชียงใหม่เ ม่ มื่อ มื่ พ.ศ. 1839 ด้วย ทางอาณาจักรมอญ มีพ่อค้าชื่อ ชื่ "มะกะโท" เข้ารับ รั ราชการอยู่ในราชสำ นักของพ่อขุนรามคำ แหง มหาราช มะกะโทได้ผูกสมัครรัก รั ใคร่กั ร่ กั บ "เจ้า เทพธิดาสร้อ ร้ ยดาว" พระธิดาของพ่อขุนรามคำ แหง มหาราช แล้วพากันหนีไปอยู่เยู่ มืองเมาะตะมะ แล้วจึง ขออภัยโทษต่อพ่อขุนรามคำ แหงมหาราช ขอ พระราชทานนาม และขอยินยอมเป็นประเทศราช ของกรุงสุโขทัย ซึ่ง ซึ่ พ่อขุนรามคำ แหงได้ พระราชทานนามว่า ว่ "พระเจ้าฟ้ารั่ว รั่ " 16
ส่วนด้านเมืองละโว้นั้น นั้ ทรงปล่อยให้ เป็นเอกราชอยู่ เพราะปรากฏว่ายังส่ง เครื่อ รื่ งบรรณาการไปจีนอยู่ระหว่าง พ.ศ. 1834 ถึง พ.ศ. 1840 ทั้ง ทั้ นี้ พ่อขุน รามคำ แหงมหาราชก็คงจะได้ทรงผูก ไมตรีกั รี กั บเมืองละโว้ไว้ นอกจากนี้ พ่อขุน รามคำ แหงมหาราชเองก็ทรงส่งราชทูต ไปจีนสามครั้ง รั้ เพื่อ พื่ เจริญ ริ สัมพันธไมตรี 17
ประดิษฐกรรม พ่อขุนรามคำ แหงมหาราชทรงประดิษฐ์ อักษรไทยขึ้น ขึ้ ใช้เมื่อ มื่ พ.ศ. 1826 พระองค์ได้ทรงประดิษฐ์พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ เพิ่ม พิ่ ขึ้น ขึ้ ให้สามารถเขียน แทนเสียงพูดของคำ ในภาษาไทยได้ทุก คำ กับทั้ง ทั้ ได้นำ สระและพยัญชนะมาอยู่ ในบรรทัดเดียวกันโดยไม่ต้องใช้ พยัญชนะซ้อนกัน ทำ ให้เขียนและอ่าน หนังสือไทยได้สะดวกมากขึ้น ขึ้ 18
วรรณกรรม นับเป็นวรรณคดีเริ่ม ริ่ แรกของกรุงสุโขทัย ซึ่ง ซึ่ ตกทอดมาถึงปัจจุบัน โดยอย่างไรก็ดี ในช่วงตั้ง ตั้ แต่ พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา มีข้อ สงสัยทางวิชาการว่าศิลาจารึก รึ ดังกล่าวจะ มิได้ทำ ขึ้น ขึ้ ในสมัยพ่อขุนรามคำ แหง มหาราช และมีผู้เสนอว่า ว่ พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพบศิลานั้น นั้ เมื่อ มื่ เสด็จจาริก ริ ธุดงค์ เป็นผู้ทรงทำ ศิลานั้น นั้ ขึ้น ขึ้ เพื่อ พื่ เหตุผลทางการเมืองในการสร้า ร้ ง ประวัติศาสตร์ช ร์ าติไทยให้ชาติตะวันตก เห็นว่า ว่ มีและรุ่ง รุ่ เรือ รื งมาอย่างยาวนาน เป็นการป้องปัดภัยการล่าอาณานิคมใน สมัยนั้น นั้ ทั้ง ทั้ นี้ข้ นี้ ข้ อสงสัยนี้กำ นี้ กำลังเป็นที่ถ ที่ ก เถียงกันอยู่ 19
สวรรคต ตามบันทึกประวัติ วั ติ ศาสตร์ห ร์ ยวนของ จีน ได้บันทึกไว้ว่ ว้ า ว่ พ่อขุนรามคำ แหง ได้เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 1842 และ พระยาเลอไทย พระราชโอรสของ พระองค์ จึงเสวยราชสมบัติต่อมา 20
https://th.wikipedia.org/wiki/% E0%B8%9E%E0%B9%88%E0% B8%AD%E0%B8%82%E0%B8% B8%E0%B8%99%E0%B8%A3% E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0% B8%84%E0%B8%B3%E0%B9% 81%E0%B8%AB%E0%B8%87% E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0 %B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8 %B2%E0%B8%8A หนังสืออ้างอิง 21
สมาชิก น.ส.ฑิตยา อินทร์ใร์ ย เลขที่ 24 น.ส.ธัญญารัต รั น์ ขึ้น ขึ้ ทันตา เลขที่ 18 น.ส.อาทิตยา ประชุม เลขที่ 29 น.ส.พรรณธษา ม่วงเพชร เลขที่ 30 ชั้น ชั้ มัธยมศึกษาปีที่ ปี ที่5 ห้อง 5/6 - 5/7