อดีตตะโกลา 51 ตะกั่วป่าปัจจุบัน สมัยกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าท้ายสระ (พ.ศ. 2252-2275) ปรากฏ หลักฐานว่า ได้มีการแต่งตั้งขุนนางบรรดาศักดิ์ “เจ้าพระยาประสิทธิ สงคราม” มาเป็นเจ้าเมืองตะกั่วป่า เพื่อก ากับดูแลเส้นทางส่งช้างไปขาย ต่างประเทศ ตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาปรากฏเจ้าเมืองตะกั่วป่า ได้แก่ • จอมภักดีเสนาแขก เชื้อสายไทรบุรีเป็นผู้ครองเมือง (พ.ศ. 2280- 2303) • พระวิชิต (หูหนวก) เป็นเจ้าเมืองตะกั่วป่า สมัยรัชการที่ 1 กรุงรัตนโกสินทร์ ปรากฏชื่อผู้เป็นเจ้าเมือง ได้แก่ หลวงตะกั่วป่าจีน หลวงณรงค์ และพระยศภักดี ต่อมาปรากฏต าแหน่งเจ้า เมืองตะกั่วป่า เป็นพระยาตะกั่วป่าหลายท่าน ได้แก่ ม่วง เกษ อู เทศ เป็น ต้น สมัยรัชกาลที่ 3 พระยาเสนานุชิต (นุช) (พ.ศ. 2386-2424) บุตร ของพระยานคร (น้อย) เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ได้มาเป็นเจ้าเมืองตะกั่วป่า โดยมีพระยาวิชิตภักดี รักษาราชการเมืองอยู่ 7 ปี พระยาเสนานุชิต (นุช) ได้ ย้ายเมืองตะกั่วป่า จากบ้านตะกั่วป่า บริเวณต าบลโคกเคียน มาอยู่ที่ถนน อุดมธารา พุทธศักราช 2404 ได้ยกฐานะเมืองตะกั่วป่า เป็นหัวเมืองขึ้นโท ดูแล เมืองถลาง ตะกั่วทุ่ง และบางคลี แทนเมืองพังงา
อดีตตะโกลา 52 ตะกั่วป่าปัจจุบัน พระพลยุทธสงคราม (พลอย ณ นคร) อดีตเจ้าเมืองตะกั่วป่า ต่อมาได้รับต าแหน่งเป็นพระยาคงคาธิบดี ด ารงต าแหน่งเทศาภิบาลมณฑลสุราษฎร์ธานี
อดีตตะโกลา 53 ตะกั่วป่าปัจจุบัน เจ้าเมืองและข้าราชการประจ าเมือง ท าเนียบเจ้าเมืองตะกั่วป่า แต่เดิม พระยาเสนานุชิต (นุช ณ นคร) พ.ศ. 2383 พระยาเสนานุชิต (เอี่ยม ณ นคร) พ.ศ. 2424 พระนรเทพภักดีศรีราช (สิทธิ์ ณ นคร) พ.ศ. 2435 พระพลยุทธสงคราม (พลอย ณ นคร) พ.ศ. 2444 เมื่อเมืองตะกั่วป่าที่มีฐานะเป็นเมืองชั้นโท ได้ก าหนดต าแหน่งข้าราชการไว้ ดังนี้ 1. พระยาเสนานุชิต สิทธิศาสตรามหาสงคราม สยามรัฐภักดีพิริยพาหะ ผู้ส าเร็จราชการเมือง 2. พระวิชิตภักดีศรีสุรสงคราม ปลัด 3. หลวงพรหมภักดี ยกบัตร 4. พระเทพภักดีศรีราชา ยกบัตร 5. พระพลพยุหสงคราม จางวางด่าน 6. พระสุนทรวรนารถภักดี ผู้ช่วยราชการ 7. พระศรีสกลไกรนุชิต ผู้ช่วยราชการ 8. พระเรืองฤทธิ์รักษาราษฎร์ ผู้ช่วยราชการ 9. พระอมรศักดิ์ เสนานุวงษ์บริรักษ์ ผู้ช่วยราชการ 10. พระอิศราธิไชยอุทัยเสนีวงษ์ธรรมราชภูวนารถสวามิภักดิ์ ผู้ช่วยราชการ 11. พระสมบัติยานุรักษ์ จางวางคลัง 12. หลวงบ ารุงจีนประชา นายอ าเภอจีน 13. ขุนรักษาจีนประเทศ นายอ าเภอจีน นายอ าเภอจีนทั้ง 2 ต าแหน่ง แต่งตั้งขึ้นเพื่อควบคุมดูแลคนจีนที่เข้ามา อาศัยท ามาหากินในเมืองตะกั่วป่า จ านวนนายอ าเภอจีนนี้ หากมีคนจีนเข้ามา อยู่อาศัยมาก เพิ่มจ านวนขึ้น เช่น เมืองภูเก็ตมี 4 ต าแหน่ง เมืองตรังมี 1 ต าแหน่ง
อดีตตะโกลา 54 ตะกั่วป่าปัจจุบัน พระวรคีรีรักษ์ (วอน ณ นคร) พ.ศ. 2441 - 2443 นายหนูวงศ์ พ.ศ. 2444 - 2445 นายภู่ พ.ศ. 2446 - 2447 ขุนรักษ์นรา (อวบ) พ.ศ. 2448 - 2449 รองอ ามาตย์เอกหลวงดาราภิรมย์ (เครื่อง) พ.ศ. 2450 - 2459 ขุนช านาญชนานนท์ (เต้) พ.ศ. 2460 - 2463 รองอ ามาตย์โทขุนอินทรคีรี (ช้อย ณ นคร) พ.ศ. 2464 - 2469 อ ามาตย์ตรี พระแผ้ว พลภักดี พ.ศ. 2470 - 2470 นายพิศ ณ นคร พ.ศ. 2470 - 2471 ขุนบริยันต์ เขตตานุรักษ์ พ.ศ. 2471 - 2473
อดีตตะโกลา 55 ตะกั่วป่าปัจจุบัน รองอ ามาตย์เอก ชื่น ไชยศิริ พ.ศ. 2474 - 2478 หลวงอิสราภรณ์ประพันธ์พงศ์ พ.ศ. 2479 - 2480 รองอ ามาตย์ตรี หลวงโยธีพิทักษ์ พ.ศ. 2481 ขุนสัจจาบริรักษ์ (ฉอ้อน เจตนานนท์) พ.ศ. 2482 - 2483 ขุนสิมะสิงห์สวัสดิ์ (ใหญ่ สิมะสิงห์) พ.ศ. 2484 - 2485 ขุนเสถียรประศาสน์ (เยื้อน ณ ตะกั่วทุ่ง) พ.ศ. 2486 - 2487 ขุนนิคมประศาสน์ พ.ศ. 2488 นายจ าลอง อัศวเสนา พ.ศ. 2489 ขุนบริยันต์เขตตานุรักษ์ พ.ศ. 2490 - 2492 นายเฉลิม ยูปานนท์ พ.ศ. 2493 - 2494 นายพร บุญยประสพ พ.ศ. 2494 - 2495 ขุนสมรรถชัยศรี พ.ศ. 2496 - 2503 นายกระจ่าง คีรินทร์นนท์ พ.ศ. 2504 - 2509 ร.ต.ท. สวัสดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง พ.ศ. 2510 - 2514 นายจรัส ปิยกุล พ.ศ. 2514 - 2516 นายฉวาง เสาวพงศ์ พ.ศ. 2516 - 2518 นายวิชิต ทัปนวัชร์ พ.ศ. 2518 - 2519 นายช้อย แก้วนาบอน พ.ศ. 2519 - 2521 ร.อ. เคียงศักดิ์ ธรรมราชรักษ์ พ.ศ. 2521 - 2523
อดีตตะโกลา 56 ตะกั่วป่าปัจจุบัน นายชิต นุ้ยภักดี พ.ศ. 2523 - 2525 นายยศ แก้วมณี พ.ศ. 2525 - 2528 นายอ านวย สงวนนาม พ.ศ. 2528 - 2532 นายมโน มายะการ พ.ศ. 2532 - 2535 นายภานุ บุญรักษา พ.ศ. 2536 - 2540 นายจิรวัชร์ สิงห์ดี พ.ศ. 2540 - 2543 นายประเสริฐ กวดกิจการ พ.ศ. 2543 - 2544 นายสมศักดิ์ แสนยานุภาพ พ.ศ. 2544 - 2545 นายผ่องศักดิ์ สุขสุพันธ์ พ.ศ. 2545 - 2547 นายชลอศักดิ์ วาณิชย์เจริญ พ.ศ. 2547 - 2549 นายภูวนารถ เอกรัตน์ พ.ศ. 2549 - 2553 นายเดชา กังสนันท์ พ.ศ. 2553 - 2554 นายศิริพัฒน์ พัฒกุล พ.ศ. 2554 - 2555 นายมานะ จรุงเกียรติขจร พ.ศ. 2555 - 2556 นายพงศพัศณ์ เรืองระพีพรรณ พ.ศ. 2556 - 2557 นายมานิต เพียรทอง พ.ศ. 2557 - 2559 นายวิโรจน์ สุวรรณวงค์ พ.ศ. 2559 - 2560 นายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล พ.ศ. 2560 - 2561 ว่าที่ร้อยเอก พงศักดิ์ เวทยาวงศ์ พ.ศ. 2561 - 2565 นายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน
อดีตตะโกลา 57 ตะกั่วป่าปัจจุบัน เมื่อเมืองตะกั่วป่าได้เปลี่ยนเป็นจังหวัดตะกั่วป่า เมื่อ พ.ศ. 2437 นั้น มีการแบ่งท้องที่จังหวัดตะกั่วป่าออกเป็น 3 อ าเภอ ได้แก่ อ าเภอตลาดใหญ่ อ าเภอกะปง และกิ่งอ าเภอเกาะคอเขา ที่ตั้งของอ าเภอตลาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ต าบลตลาดใหญ่ บริเวณเนินเขาข้าง โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีตะกั่วป่าในปัจจุบัน ต่อมาได้ย้ายที่ตั้งอ าเภอ มาอยู่ใน เขตต าบลตลาดเหนือบริเวณโรงเรียนเทศบาลบ้านเสนารังสรรค์ในปัจจุบัน และได้ย้ายอีกครั้งหนึ่งมาอยู่ที่ต าบลตะกั่วป่า บริเวณสถานีต ารวจตลาดใหญ่ พ.ศ. 2475 เมื่อจังหวัดตะกั่วป่าถูกยุบลงเป็นอ าเภอตะกั่วป่า จึงย้ายที่ ท าการมายังศาลากลางจังหวัดตะกั่วป่า โดยเปลี่ยนชื่อเป็น “ที่ว่าการอ าเภอ ตะกั่วป่า” พ.ศ. 2543 ได้มีการก่อสร้างอาคารที่ท าการอ าเภอตะกั่วป่าขึ้นใหม่ บริเวณด้านหน้าของอาคารหลังเดิม จึงมีการย้ายมายังที่ท าการอ าเภอตะกั่ว ป่าหลังใหม่ ในปัจจุบัน ได้มีพิธีเปิดใช้อาคารเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2543 โดยมี ฯพณฯ ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ ท าการอ าเภอตะกั่วป่า ส่วนอาคารหลังเดิมได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร เมื่อ พ.ศ. 2530 สมัย นายศิริพัฒ พัฒกุล (นายอ าเภอ) ได้เปิดถนนหน้าที่ว่าการอ าเภอ เชื่อมกับถนนเพชร สมัย นายมานิต เพียรทอง (นายอ าเภอ) ได้มาจัดตั้งตลาดนัดข้างที่ว่า การอ าเภอและของบประมาณปรับปรุงที่ว่าการอ าเภอหลังเก่า
อดีตตะโกลา 58 ตะกั่วป่าปัจจุบัน สมัย นายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล ได้ซ่อมแซมอาคารที่ว่าการอ าเภอ ตะกั่วป่าหลังเก่า อาคารศาลากลางจังหวัดตะกั่วป่า สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 เมื่อ พ.ศ. 2472 ก่อนศาลากลางจังหวัดพังงา 1 ปี ลักษณะอาคารเป็นทรงและรูปแบบ เหมือนกัน เป็นอาคารทรงปั้นหยา ยกพื้นอาคารสูงจากระดับพื้นดินประมาณ 1.5 เมตร เสาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ฝาผนังก่ออิฐถือปูน พื้นอาคารเป็นไม้สัก อย่างดี หลังคามุงด้วยกระเบื้องหินทราย ทรงลูกฝูก ตัวอาคารมีพื้นที่ ประมาณ 360 ตารางเมตร ตรงกลางมีมุขยื่นออกไป เปิดโล่ง มีทางเดินเป็น ระเบียงหน้าห้องตลอดอาคาร มีประตูออกด้านหลัง 2 ด้าน ปลายปีกอาคาร เป็นห้องโถงใหญ่ทั้ง 2 ด้าน ตรงกลางแบ่งเป็นห้องย่อยๆ อีก 7 ห้อง ตั้งอยู่ใน บริเวณเนื้อที่ 22 ไร่ งบประมาณการก่อสร้าง 600,000 บาท ต่อมาได้มีการซ่อมแซมพื้นและหลังคาและได้มีการต่อเติมห้องโถงด้าน ตะวันออก เพื่อใช้เป็นส านักงานคลังอ าเภอตะกั่วป่า ปัจจุบันอาคารหลังนี้ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 มีส่วนราชการขอใช้เป็นส านักงานสรรพากร อ าเภอและส านักงานวัฒนธรรมอ าเภอ ที่ว่าการอ าเภอตะกั่วป่าหลังเก่า พ.ศ. 2472
อดีตตะโกลา 59 ตะกั่วป่าปัจจุบัน
อดีตตะโกลา 60 ตะกั่วป่าปัจจุบัน
อดีตตะโกลา 61 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 1. ศาลจังหวัดตะกั่วป่า ศาลจังหวัดตะกั่วป่า ตั้งขึ้นครั้งแรกเรียกว่า “ศาลเมืองตะกั่วป่า” ใน สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2442 เดิมตั้งอยู่ที่เมืองเก่า ต าบลหน้าเมือง ใหม่ อ าเภอตลาดใหญ่ หลังวัดใหม่ก าแพง (วัดเสนานุชรังสรรค์) เยื้องสวน คุณยายอินทร์ (โรงเรียนสุทธินอนุสรณ์) โดยใช้พลับพลารับเสด็จเป็นที่ท า การศาล อาคารศาลเป็นไม้ หลังคามุงจาก บัลลังก์ท าด้วยเครื่องไม้ไผ่ พ.ศ. 2449 เมื่อศาลากลางจังหวัดย้ายไปอยู่ ต าบลเมืองใหม่ อ าเภอ เมือง (กิ่งอ าเภอเกาะคอเขา) ศาลเมืองตะกั่วป่า จึงย้ายตามไปด้วย ที่ท าการ ศาลชั่วคราว สภาพพื้นเป็นพื้นดิน ฝาไม้กระดาน หลังคามุมจากตั้งอยู่เชิงเขา พระพิชัย ลึกเข้าไปด้านใน
อดีตตะโกลา 62 ตะกั่วป่าปัจจุบัน พ.ศ. 2454 ผู้ว่าราชการเมืองตะกั่วป่าเห็นว่า ท าเลที่ตั้งเมืองเป็นเกาะ ไม่เหมาะสม จึงย้ายที่ตั้งเมืองมาอยู่ที่ต าบลย่านยาว แขวงเมืองตะกั่วป่า ศาล เมืองตะกั่วป่าจึงย้ายตามมาด้วย มีการสร้างที่ท าการศาลชั่วคราวขึ้น โดยพื้น เป็นปูนซีเมนต์ ฝาสานด้วยไม้ไผ่ หลังคามุงจาก บัลลังก์ตั้งอยู่บนพื้นดิน ที่ท า การศาลนี้ ตั้งอยู่บริเวณหลังร้านหลกอัน หรือร้านประทีปพานิช ตรงข้าม ธนาคารกสิกรไทย พ.ศ. 2457 ผู้ว่าราชการเมืองตะกั่วป่า ประสงค์จะให้พ่อค้าและราษฎร ปลูกบ้านเรือนตามแนวถนนศรีเมือง ที่ตั้งศาลชั่วคราวตั้งอยู่ด้านหลังเรือน แถว อาคารเล็กคับแคบ ราษฎรเข้าออกไม่สะดวก พ.ศ. 2459 อธิบดีผู้พิพากษาศาลมณฑลภูเก็ต ได้ของบประมาณ จ านวน 7,000 บาท จากกระทรวงยุติธรรม มาสร้างที่ท าการศาลหลังใหม่ บริเวณด้านตะวันออกของศาลาว่าการเมืองตะกั่วป่า และเปลี่ยนชื่อ ศาลเมือง ตะกั่วป่า เป็นศาลจังหวัดตะกั่วป่า ตามชื่อจังหวัดตะกั่วป่า อาคารศาลจังหวัด ตะกั่วป่าหลังใหม่นี้ เป็นอาคารไม้ ยกเสาสูงจากพื้นดิน พื้นอาคารปูไม้ กระดาน ใต้ถุนลาดซีเมนต์ ฝากั้นไม้กระดาน หลังคามุงจากมีเพดานด้วยไม้ เปิดท าการเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2460 ต่อมาผู้พิพากษาศาลจังหวัด ตะกั่วป่า เห็นว่าการใช้จากมุงหลังคา ต้องซ่อมแซมอยู่เสมอ ไม่มั่นคงแข็งแรง ด้วยเป็นไม้เหลี่ยม จึงได้เปลี่ยนหลังคาให้มุงด้วยกระเบื้องซีเมนต์ พ.ศ. 2474 สมัยรัชกาลที่ 7 ได้มีประกาศยุบรวมศาลจังหวัดตะกั่ว ป่า ไปรวมกับศาลจังหวัดพังงา บรรดาคดีที่ค้างการพิจารณาอยู่ ก็ให้โอนให้ อยู่ในอ านาจของศาลจังหวัดพังงา ส่วนอาคารที่ท าการศาลจังหวัดตะกั่วป่า ก็ให้อยู่ในความดูแลของอ าเภอตะกั่วป่า
อดีตตะโกลา 63 ตะกั่วป่าปัจจุบัน พ.ศ. 2478 ได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงส าหรับหัวเมืองขึ้น โดยให้ศาลแขวงตะกั่วป่า มีเขตตลอด อ าเภอตะกั่วป่า อ าเภอกะปง และ อ าเภอเกาะคอเขา เปิดท าการพิพากษาอรรถคดีมาตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2479 พ.ศ. 2480 กระทรวงยุติธรรม ได้ยกฐานะศาลแขวง ขึ้นเป็นศาล จังหวัดตะกั่วป่า เช่นเดียวกับศาลจังหวัดแม่สอด แม่เสรียง และหลังสวน พ.ศ. 2481 ได้มีพระราชกฤษฎีกา เปิดศาลจังหวัดตะกั่วป่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2481 อาคารศาลจังหวัดตะกั่ว เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ยก พื้นใต้ถุนโล่ง ฝาไม้กระดาน หลังคามุงกระเบื้องเป็นอาคารแบบเก่าล้าสมัย หัน หน้าไปทางทิศตะวันตก แต่ไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับที่ท าการอ าเภอตะกั่วป่า ต่อมาอาคารช ารุดทรุดโทรม ไม่สามารถซ่อมแซมให้คงสภาพใช้การให้ดีได้ พ.ศ. 2507 จึงได้รับงบมาก่อสร้างอาคารหลังใหม่ เป็นอาคาร คอนกรีต 2 ชั้น หลังคาทรงไทย หันหน้าไปทางทิศตะวันตก บนถนนวัฒนา สร้างแนวเดียวกับที่ท าการอ าเภอตะกั่วป่า พ.ศ. 2546 ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารด้านหลัง หันหน้าไปทาง ทิศตะวันออก ปัจจุบันใช้เป็นที่ท าการของศาลคดีเด็กและเยาวชน
อดีตตะโกลา 64 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 2. ส านักงานอัยการจังหวัดตะกั่วป่า เดิมส านักงานอัยการจังหวัดตะกั่วป่า ตั้งอยู่บนที่ท าการอ าเภอตะกั่วป่า หลังเก่า ต่อมาได้ย้ายมาสร้างอาคารหลังใหม่ บนถนนวัฒนา หันหน้าไป ทางทิศตะวันตก อยู่ระหว่างที่ท าการศาลจังหวัดตะกั่วป่า กับสโมสร ข้าราชการ อาคารนี้เป็นอาคารชั้นเดียว ก่ออิฐถือปูน พ.ศ. 2550 ได้รับงบประมาณจ านวน 40,870 บาท สร้างอาคารหลัง ใหม่บริเวณเดิม แต่ขยายมาถึงถนนเพชรเกษม ในเขตสโมสรข้าราชการ และ สนามเทนนิส บริเวณพื้นที่ทั้งหมด 5 ไร่ 3 งาน หันหน้าไปทางทิศใต้ ส านักงานอัยการจังหวัดตะกั่วป่า แต่เดิมนั้นสังกัด กรมอัยการ กระทรวงมหาดไทย ต่อมาได้ก าหนดเป็นหน่วยงานอิสระ เป็นส านักงาน อัยการสูงสุด สังกัดส านักนายกรัฐมนตรี อาคารส านักงานอัยการจังหวัดตะกั่วป่า ปัจจุบันใช้เป็นส านักงาน อัยการจังหวัดตะกั่วป่าแล้ว ยังใช้เป็นส านักงานอัยการคดีเยาวชนและ ครอบครัว สาขาตะกั่วป่า ส านักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทาง กฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดพังงาด้วย ส านักงานอัยการจังหวัดตะกั่วป่า
อดีตตะโกลา 65 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 3. เรือนจ าตะกั่วป่า สมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการจัดตั้งกรมราชทัณฑ์ขึ้น ในกระทรวงนครบาล พ.ศ. 2465 ได้โอนกรมราชทัณฑ์ไปขึ้นกับกระทรวงยุติธรรม ในรัชกาลที่ 7 กรมราชทัณฑ์ถูกยุบลงเป็นแผนกราชทัณฑ์ สังกัดส านัก ปลัดบัญชาการกระทรวงยุติธรรม ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงให้มาสังกัดกรม พลัมภัง (กรมมหาศักย) ในกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2476 จึงมีการยกฐานะขึ้นเป็น กรมราชทัณฑ์ สังกัด กระทรวงมหาดไทย (ครั้งที่ 2) พ.ศ. 2545 มีการปฏิรูประบบราชการ มีการย้ายกรมราชทัณฑ์จาก กระทรวงมหาดไทย ไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม (ครั้งที่ 2) เรือนจ าตะกั่วป่า ตั้งขึ้นพร้อมๆ กับศาลจังหวัดตะกั่วป่า เดิมตั้งอยู่ บริเวณศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย อ าเภอตะกั่วป่า
อดีตตะโกลา 66 ตะกั่วป่าปัจจุบัน รั้วเรือนจ าเป็นสังกะสี มีผู้พบเศษอิฐ และกระดูกมนุษย์ ในบริเวณดังกล่าว เมื่อ พ.ศ. 2474 จังหวัดตะกั่วป่าถูกยุบเป็นอ าเภอ เรือนจ าตะกั่วป่า ต้องโอนไปขึ้นกับเรือนจ าจังหวัดพังงา และก าหนดให้มี เรือนจ าศาลแขวง อยู่ ในความปกครองของสถานีต ารวจภูธร อ าเภอตะกั่วป่า พ.ศ. 2481 ได้มีประกาศจัดตั้ง เรือนจ าอ าเภอตะกั่วป่าขึ้น และได้รับ งบประมาณจ านวน 12,000 บาท มาสร้างเรือนจ าในที่ดินราชพัสดุ ด้าน ตะวันตกของที่ท าการอ าเภอตะกั่วป่า บนเนื้อที่ 299 ไร่เศษ ใช้เป็นบริเวณ เรือนจ า 6 ไร่ ส านักงานเรือนจ าหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ด้านถนนราษฎร์ บ ารุง ตรงกับศาลจังหวัดตะกั่วป่า พ.ศ. 2484 มีการสร้างเรือนจ าชั่วคราวขึ้น รั้วเรือนจ าใช้ไม้กลมท าเสา กั้นสังกะสีโดยรอบ ทั้ง 4 ด้าน ที่ท าการเรือนจ า เป็นอาคารชั้นเดียวสร้างแบบ ทรงไทย หลังคามุงกระเบื้อง ฝากั้นไม้กระดาน ประตูใน ประตูนอกไม่มี และ มีการรื้อจวนผู้ว่าราชการจังหวัดตะกั่วป่า มาสร้างเป็นบ้านพักพัศดี เมื่อมีการ ตัดถนน เชื่อมระหว่างถนนเพชรเกษมไปยังที่ท าการ อบต. บางนายสี จึงมี การปรับพื้นที่ด้านทิศใต้ และก่อสร้างอาคารที่ท าการ ใหม่หันหน้าไปทางทิศใต้
อดีตตะโกลา 67 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 4. สถานีต ารวจภูธร อ าเภอตะกั่วป่า แต่เดิมเป็นสถานีต ารวจภูธร อ าเภอตลาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณสถานี ต ารวจภูธรตลาดใหญ่ ปัจจุบันตรงกันข้ามกับธนาคารออมสิน สาขาตะกั่วป่า ต่อมา ได้ย้าย มาอยู่ที่ต าบลย่านยาว ตั้งอยู่ระหว่างที่ท าการอ าเภอตะกั่วป่า กับเรือนจ า ตะกั่วป่า ตัวอาคารสร้างเมื่อ พ.ศ. 2472 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนโล่ง เสาคอนกรีต มุงสังกะสี มีหน้ามุขยื่นออกไปตอนกลางอาคาร และมีบันไดขึ้น 2 ข้าง หันหน้าไปทางทิศใต้ ด้านถนนเพชรเกษม พ.ศ. 2538 ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารหลังใหม่ เป็นอาคาร คอนกรีต 2 ชั้น สร้างด้านตะวันออกของอาคารหลังเดิมสถานีต ารวจภูธร อ าเภอตะกั่วป่า แต่เดิมสังกัดกรมต ารวจ ต่อมาได้ย้ายมาสังกัดส านักงาน ต ารวจแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. 2545 สถานีต ารวจภูธร อ าเภอตะกั่วป่า
อดีตตะโกลา 68 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 5. เทศบาลเมืองตะกั่วป่า เทศบาลเมืองตะกั่วป่า ตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2480 สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ก าหนดให้บางส่วน ของต าบลตลาดเหนือ ตลาดใต้ และต าบลย่านยาว เนื้อที่ 8 ตารางกิโลเมตร มี สถานะเป็นเทศบาลเมือง อาคารที่ท าการหลังเดิม ตั้งอยู่ที่บริเวณสวนพระนารายณ์ปัจจุบัน สภาพเป็น อาคารไม้ 2 ชั้น ทาสีเขียว ด้านหลังเป็นอาคารที่ท าการสุขศาลา ด้านหลังเป็น อาคารบ้านพักปลัดเทศบาลและที่พักพนักงาน พ.ศ. 2495 ได้รับการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ ด้านหลังฝั่งตรงข้าม ซึ่งเดิม เป็นที่ตั้งของจวนเจ้าเมืองหลังเก่า อาคารเทศบาลเมืองตะกั่วป่า อาคารคอนกรีต 2 ชั้น หลังคาทรงไทยยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร หันหน้าไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณปากทางจะเข้าเขตเทศบาลมีกล้วยแพปลูกอยู่ก่อน แล้ว คาดว่าคงมีอายุเกิน 100 ปี พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จมา ประทับเพื่อเสวยกระยาหารกลางวัน บนอาคารหลังนี้ เมื่อคราวเสด็จประพาส ภาคใต้ และต่อมาได้มีการก่อสร้างศาลาที่ระลึกการเสด็จไว้ เป็นอนุสรณ์สถานใน วโรกาสทรงมีพระชนม์มายุ 80 พรรษา ไว้เมื่อ พ.ศ.2550 ไว้ทางด้านตะวันออก ของอาคารเทศบาล พ.ศ. 2524 ได้มีการก าหนดให้ใช้รูปพระนารายณ์เป็นตราประจ าเทศบาล เมืองตะกั่วป่า พ.ศ. 2525 ได้มีการสร้างอุทยานพระนารายณ์ ฝ่ายตรงข้ามกับเทศบาล โดยจ าลองเทวรูป พระนารายณ์และเทพบริวาร ที่เคยประทับที่ต าบลเหล อ าเภอ กะปง มาไว้เป็นที่สักการะบูชาประจ าเมือง ในเขตเทศบาลเมืองตะกั่วป่า เคยประสบอัคคีภัยมาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ พ.ศ. 2510 บริเวณฝั่งซ้ายของตลาดเก่า ถนนศรีตะกั่วป่า พ.ศ. 2516 บริเวณฝั่งขวาของตลาดย่านยาว ถนนศรีเมือง
อดีตตะโกลา 69 ตะกั่วป่าปัจจุบัน รายนามนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองตะกั่วป่า นายจิ้นเบ๋ง ทัพพะปุรณะ 2481 นายถาวร ธรรมโอภาส 2483 ขุนวันวิทย์ปรีชา 2492 นายช้อย ณ นคร 2496 ขุนสมรรถชัยศรี 2499 (ชั่วคราว) นายจุติ บุญสูง 2499 (2 สมัย) นายนิรัชน์ บุญสูง 2506 (7 สมัย) นายวิสุทธิ์ นาวาล่อง 2533 (7 สมัย) นายชัยณรงค์ มหาแร่ 2555 (3 สมัย) นายสันติสุข ณ ถลาง 2564
อดีตตะโกลา 70 ตะกั่วป่าปัจจุบัน
อดีตตะโกลา 71 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 1. นายมณี ธรรมทัตโต อายุ 94 ปี (พ.ศ. 2470) อดีตผู้ช่วยป่าไม้ จังหวัดพังงา เกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ. 2531 การศึกษา เรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านย่านยาว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนตะกั่วป่าเสนานุกูล และมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย เริ่มแรกเป็นลูกจ้างกรมป่าไม้ ต่อมาเป็นเจ้าหน้าที่พนักงานต ารวจ และ บรรจุเป็นพนักงานกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2495 เคย ปฏิบัติงานบนที่ว่าการอ าเภอตะกั่วป่า 18 ปี เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยป่าไม้ จังหวัดพังงา จึงออกไปปฏิบัติงานที่ส านักงานป่าไม้ จังหวัดพังงา บริเวณ หน่วยป้อมกันไฟป่า ปัจจุบันใกล้กับตลาดสดย่านยาว นายมณี เล่าให้ฟังว่า สมัยที่รับราชการอยู่ที่ท าการอ าเภอตะกั่วป่า ท างานอยู่ห้องเดียวกับสรรพสามิตอ าเภอ ส่วนราชการอื่นๆ ที่ท างานบนที่ว่า การอ าเภอ ได้แก่ โลหกิจ อัยการ คลัง ศึกษาธิการ สรรพากร เกษตร ที่ดิน คลังและปกครอง ส่วนส านักงานป่าไม้จังหวัด แต่เดิมอยู่บริเวณด่านศุลกากร หัวท่าย่านยาว ต่อมาจึงย้ายมาอยู่บริเวณใกล้กับตลาดสดย่านยาว นายมณี เล่าอีกว่า เคยเห็นเรือนจ าตะกั่วป่าครั้งแรก ตั้งอยู่บริเวณ ส านักงานการศึกษานอกโรงเรียน ก าแพงเรือนจ าท าด้วยสังกะสี นายกระจ่าง ศิรินทร์นนต์ นายอ าเภอตะกั่วป่า เป็นผู้จัดสร้างศาลา ประชาชนตะกั่วป่าขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2514 สนามหน้าที่ว่าการอ าเภอตะกั่วป่ามี บริเวณกว้างขวางที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้คุณแม่ (ยายเปิ้น) เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งมีการยุบจังหวัดลง เป็นอ าเภอนั้น ในขณะที่มีการขนย้ายครุภัณฑ์ และอุปกรณ์ไปใช้ที่ส านักงานใน ศาลากลางจังหวัดพังงา ประชาชนที่มาเฝ้าดู มีน้ าตาคลอเบ้าตาและบางคน ร้องไห้ด้วยความอาลัย
อดีตตะโกลา 72 ตะกั่วป่าปัจจุบัน นายมณี เคยเห็นอาคารที่เป็นจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่า บริเวณที่ท าการ เทศบาลเมืองตะกั่วป่าในปัจจุบัน เป็นอาคารครึ่งไม้ 2 ชั้น ถูกทิ้งร้างไว้ ต่อมา ได้ใช้เป็นที่อาศัยของเจ้าหน้าที่ต ารวจที่ย้ายมาจากภาคอีสาน ด้านข้างจวนเจ้า เมืองมีกล้วยแพกอใหญ่มีอายุมาก นับ 100 ปี
อดีตตะโกลา 73 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 2. นางสาวประณีต พุทธรักษ์ อายุ 86 ปี (พ.ศ. 2477) อดีต ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ เคยรับราชการเป็นครูโรงเรียนเทศบาลบ้าน ย่านยาว และโรงเรียนบ้านโคกยาง ต่อมาได้เข้ามาท างานบนที่ท าการอ าเภอ ตะกั่วป่า เมื่อ พ.ศ. 2506 ในต าแหน่งครูช่วยราชการฝ่ายการเงินของ ส านักงานศึกษาธิการอ าเภอ รวมระยะเวลาที่ท างานบนที่ว่าการอ าเภอตะกั่ว ป่าเป็นเวลา 31 ปี เกษียณราชการเมื่อ พ.ศ. 2537 การศึกษา เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านย่าน ยาวและเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนตะกั่วป่าเสนา “นุกูล” คุณประณีต เล่าให้ฟังว่า สมัยที่รับราชการอยู่นั้นมีส่วนราชการที่ ท างานบนที่ว่าการอ าเภอได้แก่ โลหะกิจ อัยการ ศึกษาธิการ ป่าไม้ สรรพสามิต สัสดี อนามัย คลัง เกษตร และปกครอง มีนายประจวบ แสง อินทร์ เป็นศึกษาธิการอ าเภอ (อดีตรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ) ในสมัยเป็นเด็กนักเรียน มารดาท าขนมให้ไปขายตามบ้านเรือนและ สถานที่ราชการ ได้เคยไปขายขนมให้แก่เจ้าหน้าที่ต ารวจที่พักอาศัยอยู่ใน อาคารจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่า บริเวณเทศบาลเมืองตะกั่วป่าในปัจจุบัน เป็น อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ด้านข้างช ารุดส่วนฝั่งตรงกันข้ามเป็นที่ตั้งของสุขศาลา บริเวณสวนพระนารายณ์ในปัจจุบัน สมัยนายอ าเภอ รอ.เคียงศักดิ์ ธรรมราชรักษ์ ได้มีการปลูกต้นมะขาม บริเวณหน้าที่ว่าการอ าเภอในสมัยนั้น อาคารศาลตะกั่วป่าเป็นอาคารไม้ชั้น เดียวยกพื้นสูง พื้นไม้ หลังคามุงสังกะสี ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของที่ว่าการ อ าเภอตะกั่วป่า ส่วนด้านตะวันตกเป็นที่ตั้งของสถานีต ารวจ เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ด้านหน้ามีมุขยื่นออกมามีบันใดขึ้นทั้ง 2 ข้าง เลยสถานีต ารวจ ออกไป ทางตะวันตกเป็นเรือนจ าตะกั่วป่า หันหน้าไปทางทิศตะวันออกตรงกันข้ามกับ ศาลจังหวัดตะกั่วป่า คุณประณีตเคยได้ไปรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินี บริเวณหน้าเทศบาลเมืองตะกั่วป่า เมื่อ พ.ศ. 2502
อดีตตะโกลา 74 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 3. นายสุโข สิทธิธนากุล อายุ 84 ปี (พ.ศ. 2479) อดีตเจ้าพนักงาน สรรพากรอ าเภอ เกิดที่ตลาดตะกั่วป่าสมัยเด็กๆ เรียนหนังสือ ชั้น ป.1–ป.2 ที่วัดหัวสะพาน ชั้น ป.3 โรงเรียนบางไทร ชั้น ป.4 โรงเรียนวิชัยนิตินารถ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนตั้งอยู่ที่ตลาดเหนือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เรียนที่ โรงเรียนตะกั่วป่า “เสนานุกูล” เคยเป็นครูสอนที่โรงเรียนเต้าหมิง 6 เดือน มี ครูสอนภาษาจีน 2 คน เคยเป็นเสมียนสรรพากรที่อ าเภอกะปง 3 ปี การ เดินทางไปอ าเภอกะปงด้วยวิธีเดินเท้า 3 ชั่วโมง ผ่านคลอง 3-4 คลอง แล้ว ขึ้นรถรางของบริษัทเรือขุดแร่จุติไปอ าเภอกะปง พ.ศ. 2502 ย้ายมาท างานที่อ าเภอตะกั่วป่า สมัยขุนสมรรถชัยศรี เมื่อ รัชกาลที่ 9 เสด็จประพาสตะกั่วป่า ได้ไปรับเสด็จที่เทศบาลเมืองตะกั่วป่า ซึ่ง มีนายจุติ บุญสูง เป็นนายกเทศมนตรี เคยย้ายไปรับราชการที่อ าเภอท้าย เมือง กะปง เกาะยาว บ้านนาเดิม ท่าฉาง พ.ศ. 2532 คอมมิวนิสต์บุกยิงที่ ท าการอ าเภอกะปง บริเวณรอบสนามที่ท าการอ าเภอตะกั่วป่า มีการปลูกต้นสนโดยรอบ สมัยนายอ าเภอสวัสดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง มีการปลูกมะพร้าว นายอ าเภอเคียงศักดิ์ ปลูกต้นมะขามหน้าที่ว่าอ าเภอ สมัยนั้นมีเรือขุดแร่รอบๆ เมืองตะกั่วป่า 4 ล า ได้แก่ บริษัทเรือขุดแร่ จุติ บริษัทเรือขุดแร่ของนายไชยา บริษัทสตูปูโล และบริษัท เซ้าท์เทิร์น รอบๆ เมืองตะกั่วป่ามีเหมืองแร่ 98 เหมือง โรงร าวง มี 3 โรง ได้แก่ จันทร์แจ่มฟ้า หน้าตลาดสด ศรีตะกั่วป่า บริเวณธนาคารกรุงไทยและแม่จ๋า บริเวณหน้าวัดลุ่ม สมัยนายอ าเภอกระจ่าง คีรินทร์นนท์ เป็นนายอ าเภอมือปราบบุกจับ นายฮวน ที่ฆ่าข่มขืนเด็กหญิง น าคนร้ายแห่รอบตลาดตะกั่วป่า และมีการใช้ ภาษีบ ารุงท้องที่ จ านวน 200,000 บาท มาสร้างศาลาประชาคม
อดีตตะโกลา 75 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 4. นายนิรัช บุญสูง อายุ 91 ปี (พ.ศ. 2472) เป็นบุตรเถ้าแก่ พ่อแดง น้องชายนายจุติ บุญสูง เกิดที่เหมืองเก่าบ้านบางหลุด ต าบลบางม่วง เคย เป็นอดีตนายยกเทศมนตรีเมืองตะกั่วป่า 7 สมัย การเล่าเรียน ป.1 - ป.3 โรงเรียนตะกั่วป่า “เสนานุกูล” ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7 - 8 เรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาอัสสัมชัญพานิช ต่อมาเดินทางไปเรียนที่ประเทศอังกฤษเกี่ยวกับการธนาคารที่ City of London Collage ได้รับประกาศนียบัตรด้านเศรษฐกิจ เคยท างานที่ธนาคารนคร หลวงไทย กรุงเทพฯ อายุ 26 ปี มาท างานที่บริษัทเรือขุดแร่จุติ บุญสูงที่โคก ขนุน ต าแหน่งสมุห์บัญชี ครั้งสุดท้ายต าแหน่งรองผู้จัดการบริษัท พ.ศ. 2502 ได้เป็นช่างภาพรับเสด็จในหลวงรัชการที่ 9 เคยตามเสด็จ สมเด็จย่า กับสมเด็จพระเทพฯ เคยเสนอขอขยายเขตเทศบาลเมืองตะกั่วป่า ออกไปยังต าบลต่างๆ โดยรอบ นายนิรัช (อยู่อุ๋ย) เคยด ารงต าแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองตะกั่วป่า เป็นเวลาเกือบ 30 ปี เป็นผู้ก าหนดให้มีการสร้างอุทยานพระนารายณ์ตะกั่ว ป่า เมื่อ พ.ศ. 2524
อดีตตะโกลา 76 ตะกั่วป่าปัจจุบัน จากการพิจารณาผังเมืองของอ าเภอตะกั่วป่าและการใช้ที่ดินของส่วน ราชการ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของส่วนราชการได้ดังนี้ เมื่อตะกั่วป่าเปลี่ยนจากเมืองมาเป็นจังหวัด ได้มีการก าหนดผังเมือง บริเวณต าบลย่านยาวให้เป็นเมืองราชการ มีการประกาศเป็นเขตที่ดินราช พัสดุ ตามแนวถนนศรีเมืองและถนนเพชรเกษม จากที่ท าการไปรษณีย์ตลอด แนวถนนไปถึงเทศบาลเมืองตะกั่วป่าด้านถนนเพชรเกษม จากที่ท าการอัยการ จังหวัดไปจนถึงโรงเรียนตะกั่วป่า “เสนานุกูล” เป็นที่ราชพัสดุแปลงใหญ่ ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ใช้เป็นที่ตั้งของส่วนราชการจังหวัด ด้วยเหตุ ดังกล่าวท าให้บริเวณตลาดย่านยาวมีที่ดินเป็นของเอกชนน้อย ตลาดจึงขยาย ออกได้ไม่มาก เมื่อบริเวณย่านยาวเป็นศูนย์กลางของราชการ บริหารราชการ ตลาด ย่านการค้า ธุรกิจบันเทิง ขึ้นไปอยู่ที่บริเวณตลาดใหญ่ ซึ่งห่างออกไป 7 กิโลเมตร หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มาจนถึงประมาณ พ.ศ. 2520 ตลาด ใหญ่เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ มีโรงแรม โรงภาพยนตร์ ธนาคาร สถาน บันเทิงจ านวนมาก บริเวณรอบเมืองมีการท าเหมืองแร่ดีบุก และเรือขุดแร่ ของบริษัทต่างๆ ส่วนราชการส่วนใหญ่ จะอยู่บนที่ว่าการอ าเภอตะกั่วป่า ที่ส าคัญ ได้แก่ โลหะกิจจังหวัด ซึ่งต่อมาได้ย้ายออกไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเทศบาลเมือง ตะกั่วป่า บริเวณส่วนใหญ่จึงเป็นบ้านพักของข้าราชการ เช่น คลังจังหวัด สรรพสามิต อนามัย ศึกษาธิการ อัยการ ศาล ส่วนศุลกากรจะตั้งอยู่บริเวณ หัวท่าย่านยาวและมีคลังเก็บสินค้าริมแม่น้ าตะกั่วป่า
อดีตตะโกลา 77 ตะกั่วป่าปัจจุบัน
อดีตตะโกลา 78 ตะกั่วป่าปัจจุบัน เมื่อส่วนราชการขยายงานมากขึ้น ได้ออกไปตั้งอาคารในบริเวณที่เป็นอยู่ เดิม ตามแผนผังที่เห็นอยู่ปัจจุบัน ได้แก่ อัยการจังหวัด สรรพากร สรรพสามิต สาธารณสุข เกษตร หมวดการศึกษา ที่ดินอ าเภอ ส่วนราชการที่สร้างขึ้นในภายหลัง ได้แก่ โรงพยาบาลตะกั่วป่า โรงเรียนตะกั่วป่า “เสนานุกูล” กองร้อย ตชด. ที่ 25 วิทยาลัยชุมชน และ การศึกษานอกโรงเรียน ส่วนราชการที่ยุบเลิกเปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ กรมทรัพยากรธรณีตะกั่วป่า มาเป็นศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ส านักงานป่าไม้ จ. พังงา มาเป็นศูนย์ควบคุมไฟป่า เมื่อมีการขยายเมืองออกไป ด้านหมู่ที่ 2 ต าบลบางนายสี บริเวณบ้าน โคกยาง จึงได้มีสถานีขนส่ง ส านักงานขนส่ง ส านักงานบังคับคดี มีตลาดสด และชุมชนบริเวณรอบๆ สถานีขนส่งและผู้คนบางส่วนได้ย้ายจากตลาดใหญ่มา ตั้งถิ่นฐานเพิ่มมากขึ้น ศูนย์กลางเศรษฐกิจจึงขยายออกมาอยู่ในบริเวณนี้
อดีตตะโกลา 79 ตะกั่วป่าปัจจุบัน
อดีตตะโกลา 80 ตะกั่วป่าปัจจุบัน จากการค้นคว้าหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเมือง “ตะโกลา” และเมืองตะกั่ว ป่า เรื่องราวของเมืองโบราณและเมืองปัจจุบันระยะเวลากว่า 2,000 ปี ไม่ ต่อเนื่องกัน จึงมีข้อสังเกต ดังนี้ จากแผนที่สมัยโบราณที่ปรากฏ และค ากล่าวที่อ้างถึงเมืองโบราณ “ตะโกลา” ของนักเดินทางชาวจีน อินเดีย อาหรับ ซึ่งเดินทางเข้ามาและพัก แลกเปลี่ยนสินค้าและอารยธรรม วัฒนธรรมระหว่างกัน จะยืนยันความเป็น เมือง “ตะโกลา” ได้ นอกจากนี้ในพระไตรปิฎกก็ยังกล่าวถึงเมือง “ตะไล ตะโกลัม” ว่าน่าจะอยู่บริเวณนี้ด้วย ได้สันนิษฐานลักษณะความสัมพันธ์ของภูมิ ประเทศของแม่น้ าตาปีและบริเวณรอบอ่าวบ้านดอนกับแม่น้ าตะกั่วป่าที่ไหลลง ทะเลอันดามันว่า ที่อ่าวบ้านดอนมีแม่น้ าตาปีลึกเข้าไปทางตะกั่วป่าก็มีแม่น้ า ตะกั่วป่าเข้ามา การขนถ่ายสินค้าทางบกใกล้กันมาก ในสมัยโบราณแม่น้ า เหล่านี้ใช้การได้ดีอยู่ เชื่อว่าการขนถ่ายทางบกที่จะท าระหว่างปลายแม่น้ าทั้ง สองนั้นห่างกันเพียง 5-6 ไมล์ เท่านั้น การหายไปของเมือง “ตะโกลา” มีข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากคลื่น ยักษ์สึนามิ ท าลายเมืองริมทะเล บริเวณเหมืองทองทุ่งตึกและบริเวณรอบๆ เขาพระเหนอ มีผู้ที่ท าการศึกษาเรื่อง สึนามิพบว่าบริเวณชายฝั่งทะเลจะ เกิดสึนามิในระยะเวลา 800-1,000 ปี จะเกิด 1 ครั้ง ดังนี้บริเวณชายฝั่งเมือง “ตะโกลา” จะถูกคลื่นยักษ์ท าลายมาแล้ว 2-3 ครั้ง หลักฐานทางธรณีวิทยา และโบราณคดีจึงหายไปเกือบหมด
อดีตตะโกลา 81 ตะกั่วป่าปัจจุบัน เส้นทางเดินเรือตามแม่น้ าตะกั่วป่า ไปถึงคลองที่เป็นสาขาในอ าเภอกะปง บริเวณเขาเวียง เขาพระนารายณ์นั้น น่าจะเป็นล าน้ ากว้างกว่าปัจจุบันและลึก เข้ามาถึงบริเวณนี้ มีการตรวจสอบทางโบราณคดีและธรณีวิทยาพบว่า น้ า ทะเลสมัยโบราณสูงกว่าระดับน้ าทะเลปัจจุบันถึง 10 เมตร การท าเหมืองแร่บนภูเขา ต้นน้ าของล าคลองสาขาของแม่น้ าตะกั่วป่า ได้แก่ คลองรมณีย์ คลองเหล คลองกะปง และคลองปลายวา รวมทั้งการท า เหมืองสูบและการขุดแร่โดยใช้เรือขุดแร่ 2 ฝั่งล าน้ าตลอดสาย ได้ท าลาย หลักฐานทางโบราณคดีและธรณีวิทยาให้หายไป โดยเฉพาะตัวเมืองตะโกลา บริเวณทุ่งตึก เขาพระเหนอ เขาเวียง และเมืองตะกั่วป่า บริเวณต าตัวและโคก เคียน เพราะการท าเหมืองแร่จะต้องขุดดินลึกลงไปถึงชั้นดินดานกว่า 10 เมตร ได้ท าลายหน้าดินเป็นตะกอนไปตามแม่น้ าสู่ทะเลและทิ้งหินทรายไว้ตามที่ราบ ลุ่มตลอด 2 ฝั่งล าน้ า การรุกรานของชนต่างชาติ ต่างศาสนา ที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้ท าให้ข้อมูล หลักฐานบางส่วนหายไป ได้แก่ - การรุกรานของชาวอาหรับและศรีลังกา อพยพเข้ามาทางภาคใต้ฝั่ง ตะวันตก - การรุกรานของกษัตริย์ราชวงศ์โจฬะ ผู้น าทางศาสนาอิสลาม เข้ามา รุกรานผู้น าทางศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ใน บริเวณเมือง “ตะโกลา” จากข้อสันนิษฐานข้างต้นเชื่อว่าข้อมูลหลักฐานทางโบราณคดี และทาง ธรณีวิทยาบริเวณนี้จะขาดหายไป ไม่ต่อเนื่องกันนับพันปีจากสมัยพุทธกาล จนถึงสมัยสุโขทัย
อดีตตะโกลา 82 ตะกั่วป่าปัจจุบัน เช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เวลาประมาณ 7.58 น. ได้ เกิดแผ่นดินไหวระดับ 9 ริกเตอร์ ในทะเลอันดามัน บริเวณด้านตะวันตกเฉียง เหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ท าให้เกิดคลื่นยักษ์หรือ “สึนามิ” ในมหาสมุทรอินเดีย ก่อให้เกิดความเสียหายหลายประเทศที่อยู่โดยรอบ โดยเฉพาะชายฝั่งอันดามัน ท าให้ผู้คนเสียชีวิตมากกว่า 250,000 คน และไร้ ที่อยู่อาศัยมากว่า 2 ล้านคน ในประเทศไทย จังหวัดที่ผลกระทบมากที่สุด 6 จังหวัด รอบๆ ฝั่งอัน ดามัน มีประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตมากกว่า 5,291 คน และ บาดเจ็บ 8,457 คน จังหวัดพังงา ได้รับความเสียหาย 6 อ าเภอ มีผู้เสียชีวิต 4,225 คน เป็นคนไทย 1,389 คน ชาวต่างชาติ 4,119 คน ไม่สามารถระบุได้ 722 คน บาดเจ็บ 5,597 คน เป็นคนไทย 4,344 คน คนต่างชาติ 1,253 คน ไม่ สามารถระบุได้ 1,655 คน บ้านเรือนเสียหาย 2,508 หลัง ในเขตอ าเภอตะกั่วป่า ได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ ต าบลเกาะ คอเขา ต าบลบางม่วง และต าบลคึกคัก รวม 17 หมู่บ้าน หมู่บ้านที่ได้รับ ความเสียหายมากที่สุด คือ บ้านน้ าเค็ม ต าบลบางม่วง และบ้านบางเนียง ต าบลคึกคัก ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1,749 ครัวเรือน จ านวน 8,916 คน มีสูญหาย 1,655 คน ชาวไทย 1,352 คน ชาวต่างชาติ 303 คน บุคคล ส าคัญที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้คือ คุณพุ่ม เจนเซ่น โอรสในทูลกระหม่อม หญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี รวมทั้ง คุณบรม ตันเถียร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิกของจังหวัดพังงา
อดีตตะโกลา 83 ตะกั่วป่าปัจจุบัน เหตุการณ์การเกิดสึนามิที่บ้านน้ าเค็ม บริเวณหมู่ที่ 2 ต าบลบางม่วง โดย นางเบญจวรรณ นวลปลอด เล่าให้ฟัง ดังนี้ เวลา 09.35 น. น้ าทะเลลดลงจากหน้าหาด ลดลงไปประมาณ 100 เมตร เวลา 09.40 น. คลื่นสูงประมาณ 7 เมตร เคลื่อนเข้ากระทบฝั่งประมาณ 2-3 นาที เวลา 09.45 น. น้ าทะเลลดลงไปประมาณ 5 นาที เวลา 09.55 น. คลื่นสูงประมาณ 5 เมตร เคลื่อนเข้ากระทบชายฝั่งอีกครั้ง เวลา 11.00 น. ระดับน้ าทะเลลดลงอยู่ในระดับปกติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชด าเนินแทน พระองค์ เพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร และพระราชทานพระพุทธรวราชบพิตร ให้กับ จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2548 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และพระราชวงศ์ ได้ เสด็จเยี่ยมผู้ประสบภัยทุกพระองค์
อดีตตะโกลา 84 ตะกั่วป่าปัจจุบัน อนุสรณ์สถานสึนามิ ส่วนราชการและองค์กรต่างๆ ได้จัดสร้างอนุสรณ์สถาน เพื่อระลึกถึงภัยพิบัติ ครั้งนี้ขึ้นในอ าเภอตะกั่วป่า 4 แห่ง ได้แก่ 1. อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือตรวจการณ์ หมายเลข 813 (บุเรศผดุงกิจ) บ้านบาง เนียง ต าบลคึกคัก 2. สวนอนุสรณ์สึนามิ บ้านน้ าเค็ม ต าบลบางม่วง
อดีตตะโกลา 85 ตะกั่วป่าปัจจุบัน 3. สุสานผู้ประสบภัยสึนามิ บ้านบางม่วง ต าบลบางม่วง 4. พิพิธภัณฑ์สึนามิ บ้านน้ าเค็ม ต าบลบางม่วง
อดีตตะโกลา 86 ตะกั่วป่าปัจจุบัน
อดีตตะโกลา 87 ตะกั่วป่าปัจจุบัน
อดีตตะโกลา 88 ตะกั่วป่าปัจจุบัน จาก https://board.postjung.com/936302
อดีตตะโกลา 89 ตะกั่วป่าปัจจุบัน ช้างพร้อมหน่วยพยาบาลก าลังหาศพผู้เสียชีวิตในอ าเภอตะกั่วป่า ภาพโดย: MGR Online จาก https://board.postjung.com/936302
อดีตตะโกลา 90 ตะกั่วป่าปัจจุบัน บรรณานุกรม ก่อแก้ว วีระประจักษ์ ศิลาจารึกเทพพระนารายณ์ ตะกั่วป่า สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ เล่มที่ 15 กรุงเทพฯ มูลนิธิสารานุกรทวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ 2542 เขมชาติ เทพไชย แหลมโพธิ์ แหล่งโบราณคดี สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ เล่มที่ 16 สถาบันคดีศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรจน์ สงขลา 2529 ชาดา นนทวัฒน์ สงคราม 9 ทัพ กับการสงครามสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ 2561 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประพาสหัวเมืองภาคใต้ ร.ศ.128 องค์การค้าคุรุสภา 2506 จังหวัดพังงา ร่วมกับกรมศิลปากร ทุ่งตึกจุดเชื่อมโยงเส้นทางสายไหมทาง ทะเล 2552 สุนัย ราชภัณฑารักษ์ ภูเก็ต เอกสารเย็บเล่ม 2532 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ สาส์นสมเด็จ เล่ม 8 องค์การค้าของคุรุสภา 2546 มูลนิธิสมเด็จฯ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ กับงานเหมืองแร่และธรณีวิทยา 2542 สัมพันธ์ ก้องสมุทร จดหมายเหตุทะเลบรรณ ราชอาณาจักรศรีวิชัยเดิม ตามพรลิงค์กับหัวเมืองแหลมมลายู 2562 สุจิตต์ วงษ์เทศ สุวรรณภูมิ ต้นกระแสปรวัติศาสตร์ไทย 2542 ประสิทธิ์ ชิณการณ์ ประวัติศาสตร์ถลาง ภูเก็จ ภูเก็ต 2532 คณะกรรมการอ านวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษก 2542
อดีตตะโกลา 91 ตะกั่วป่าปัจจุบัน สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ เล่มที่ 6 ตองแห้ง พืช ทะเลสองห้อง 2542 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จดหมายเหตุประพาสหัวเมืองปักใต้ 2511 สมเด็จฯ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ เทศาภิบาล กรุงเทพ ส านักพิมพ์มติชน 2545 หน้า 185-187 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส านักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 1 ปี สึนามิ กับการฟื้นคืนทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ สนพ. ส านักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2548 กรมศิลปากร ทุ่งตึก : เมืองท่าบนเส้นทางการค้าโบราณ รายงานสรุปผลการ ด าเนินงาน โครงการส ารวจและขุดค้นแหล่งโบราณคดีทุ่งตึก ส านักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต จัดพิมพ์โดย ส านักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา สุนัย ราชภัณฑารักษ์ ภูเก็ต กรุงเทพฯ บรรณกิจ 2517 อินทปัญญาจารย์. พระครู (พุทธทาส อินทรปญโญ) แนวคิดสังเขปของ โบราณคดี รอบอ่าวบ้านดอน พิมพ์ครั้งแรก 2493 สรัสวดี-สมโชติ อ๋องสกุล เมืองตะกั่วป่า และเมืองข้างเคียงในบริบททาง ประวัติศาสตร์ บ้านเกิด และเครือญาติ พิมพ์ครั้งที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 แสงเพชร ประวัติศาสตร์สงคราม 9 ทัพ