The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อมูลวัดในตำบลป่ามะคาบ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Phurin Sriudomphong, 2023-07-29 23:54:03

ข้อมูลวัดในตำบลป่ามะคาบ

ข้อมูลวัดในตำบลป่ามะคาบ

สารบัญ เรื่อง หน้า วัดป่ามะคาบ ๑ วัดโพธิ์งาม ๘ วัดแหลมยาง ๑๓ วัดหนองถ ้า ๑๙ วัดสระสาลี ๒๕ วัดท่ามะไฟ ๓0 วัดเนินสมอ ๓๖ รายนามผู้ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล ๔๑


วัดป่ามะคาบ ตั้งอยู่เลขที่ ๙0 หมู่ที่ 3 ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๒ งาน ๕0 ตารางวา ทิศเหนือติดต่อกับโรงเรียนป่ามะคาบ ทิศใต้ติดต่อกับ ล าคลองป่ามะคาบ ทิศตะวันออกติดต่อกับที่ดินของนายแสวง แสงงาม ทิศตะวันตกติดต่อกับทางสาธารณประโยชน์ พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม อาคารเสนาสนะต่าง ประกอบไปด้วย อุโบสถกว้าง ๘.๕0 เมตร ยาว ๑๓ เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๔๖๕ ศาลาการเปรียญกว้าง ๒๔ เมตร ยาว ๓0 เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๔๘๖ หอสวดมนต์กว้าง ๘.๕0 เมตร ยาว ๑0 เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๔๙๙ กุฏิสงฆ์ วัดป่ามะคาบ ชื่อเดิมว่า “วัดป่ามะค่า” เนื่องจากเกิดโดรคระบาด ประชาชนล้มตายเป็นอันมาก จึงคิดว่า ป่ามะค่าไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนชื่อเป็น ป่ามะคาบ รวมทั้งชื่อวัดว่า “วัดป่ามะคาบ” สร้างมาแต่ พ.ศ. ๒๔๙0 ได้รับ พระราชทานวิสงคามสีมา วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๑ ข้อมูลบุคคลากรวัดป่ามะคาบ พระภิกษุ ๖ รูป สามเณร - ไวยาวัจกร นายทองอยู่ ปานโต นายชัย จิตณรงค์ มีเสนาสนะ ดังนี ๑. อุโบสถ 1 หลัง ๒. ศาลาอเนกประสงค์ 1 หลัง ๓. วิหารหลวงพ่อธรรมจักร หลวงพ่อพวง ๔. วิหารเจ้าแม่กวนอิม ๕. รูปหล่อพระปรางอุ้มบาตร ๖. กุฏิสงฆ์ ๗ หลัง ๗. เมรุ ๑ หลัง ๑ วัดป่ามะคาบ


วัดป่ามะคาบมีปูชนียวัตถุที่ส าคัญ เป็นที่เคารพบูชาของประชาชนคือ พระพุทธรูปประธานในวิหาร “หลวงพ่อพวง” หน้าตักกว้าง 30 นิ้ว เป็นเนื้อปูนปั้นปางมารวิชัย และ “หลวงพ่อธรรมจักร” เป็นพระพุทธรูปยืน ปางห้ามญาติ สูงประมาณ 50 นิ้วเศษ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ เป็นวัดที่ประชาชนคนทั่วไปนิยมมาขอพรในด้าน โชคลาภ ความส าเร็จ การงาน ค้าขาย ความนิยมในการแก้บน หลวงพ่อพวง หลวงพ่อธรรมจักร คือการแก้บนด้วย คณะลิเก หัวหมู และไข่ต้ม ตัววิหารเดิมทีเมื่อก่อนเป็นวิหารไม้ แต่ปัจจุบันได้มีการบรูณะสร้างใหม่ใช้เป็นหินศิลาแลง ตัววิหารเป็นแบบ มหาอุตม์คือมีประตูทางเข้า ออก ประตูเดียว ภายในวิหาร เป็นเสาไม้ลายไทย แสดงให้เห็นถึงความความอ่อนช้อยสวยงามวิจิตร บรรจง สะสม สร้างสรรค์ จากวัฒนธรรมสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ลายไทยเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย คงคุณค่า รักษาไว้ซึ่งความ ภาคภูมิใจ สืบสานต่อตราบชั่วนิรันทร์ ๒


ด้านในอุโบสถ ด้านในโบสถ์เป็นเพดานไม้สีแดง แสดงถึงความเรียบง่าย สง่างาม ฝาผนังโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องราวพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของชาติที่เกิดขึ้นจากการบันทึกเหตุการณ์และสิ่งต่างๆในอดีตไว้ในภาพเขียน โดยสามารถศึกษาลักษณะของบ้านเมือง สภาพแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ สังคม วัฒนธรรม วรรณกรรม โบราณคดีจากภาพ ที่วาด ถือว่าเป็นหลักฐานส าคัญที่ใช้เทคนิคการบันทึกด้วยการเขียนภาพแทนการบันทึกด้วยตัวอักษร ท าให้คน สมัยก่อนที่อ่านหนังสือไม่ออก สามารถเข้าใจในการบันทึกค าสอนด้วยภาพเขียนจิตกรรมฝาผนังได้ พระพุทธรูปพระประธานในอุโบสถ ได้แก่ พระพุทธศรีมงคล หน้าตักกว้าง ๖0 นิ้ว ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ พระพุทธรูปที่ทรง พุทธานุภาพศักดิ์สิทธิ์เมื่อใครมีเรื่องเดือดเนื้อ ร้อนใจ ทุกข์ยาก จะมากราบไหว้ขอพร ๓


พระปรางอุ้มบาตร บูชาวัตถุ ขนาดสูงประมาณ ๙ เมตร ภายใน พระปรางอุ้มบาตรบรรจุ พระสมัยสุโขทัยปางมารวิชัยไว้ ๒ องค์ และ ทองค าแท่ง ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๕ บริเวณรอบพระปรางอุ้ม บาตรมีการจ าลอง พญานคราช โขตหินน้ าตก ท้ า ว เ ว สสุ ว ร ร ณ ใ น ภ า ษ า พ ร า ห ม ณ์ เ รี ย ก ท้ า ว กุ เ ว ร ในพระพุทธศาสนาเรียกว่า ท้าวไพสพ เป็นเจ้าแห่งอสูร ภูตผีปีศาจ มีอานุภาพมาก โดยความเชื่อว่า ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเจ้าแห่งอสูร ยักษ์ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้ง๔ ที่ปกป้องคุ้มครองดูแลโลก มนุษย์ ทรงประทับอยู่ทางทิศเหนือตามต านานพระพุทธศาสนา พระครูพิมณฑ์ ปัญฺญาภิวัต (หลวงตามิ่ง) ในอดีตเคยจ าพรรษาอยู่ ที่วัดสระสาลี แล้วย้ายมาจ าพรรษาที่วัดป่ามะคาบ ได้รับสมณศักดิ์ เป็นเจ้าคณะต าบล หลวงตามิ่ง เป็นผู้ตั้งใจอุทิศตน เพื่อกิจพระ ศาสนาและบ้านเมืองเต็มสติก าลัง มีความพากเพียรพยายาม ฝึกอบรมตนให้มีความรู้ทั้งปริยัติ และปฏิบัติให้การศึกษาอบรมแก่ สหธรรมิกบริษัทและสัทธิวิหาริกอันเตวาสิกตลอดถึงประชาชนทั่วไป เป็นนิตย์ ๔


วิหารเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร องค์สีทองอร่าม ตั้งอยู่บนดอกบัวเหนือหลังมังกร ภายในงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน ผู้คนมักไป ขอพรให้ช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพแข็งแรง โชคดีมีสุข ซุ้มประตูวัด เป็นเสาปูนลายไทย แสดงให้เห็นถึงความความอ่อน ช้อยสวยงามวิจิตร บรรจง สะสม สร้างสรรค์ ลายไทยเป็น เอกลักษณ์ของความเป็นไทย คงคุณค่า รักษาไว้ซึ่งความภาคภูมิใจ บริเวณจั๋วทั้งสี่ทิศของซุ้มประตูวัดเป็นตราสัญลักษณ์พระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อาคารอเนกประสงค์ มีลักษณะคล้ายเรือนหลังใหญ่ 2 ชั้น ยกพื้นสูงเสมอศีรษะคนยืน มีเฉลียงโดยรอบ กั้น ฝาแต่ละด้านเป็นฝาโปร่ง ๆ ด้านหนึ่งท ายกพื้นเป็น อาสน์สงฆ์ ส าหรับพระสงฆ์ขึ้นนั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตรง หัวอาสน์สงฆ์ด้านหนึ่ง เป็นที่ตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชา เมรุลักษณะทรงยอดพุ่ม สีเทา มีบันไดทางขึ้น ๓ ทิศ ใช้เป็นระบบไฟฟ้าและระบบน้ ามัน ๕


ประวัติเจ้าอาวาสปกครองวัด พระอธิการบุญรอด พ.ศ. ๒๔๗0 – ๒๔๗๓ พระอธิการส าราญ ชุตินธโร พ.ศ. ๒๕0๙ – ๒๕๑๗ พระอธิการมิ่ง สุขสะอาด พ.ศ. ๒๔๗๔ – ๒๔๗๗ พระอธิการเฉลิม พ.ศ. ๒๕๑๘ – ๒๕๒0 พระอธิการครอบ ฐิติโก พ.ศ. ๒๔๗๘ – ๒๔๘0 พระครูพิมณฑ์ ปัญฺญาภิวัต พ.ศ. ๒๕๒๑ – ๒๕๕๘ พระอธิการบาง ปภาโส พ.ศ. ๒๔๘๑ – ๒๔๘๘ พระสมุห์พนม มงฺคลิโก พ.ศ.๒๕๕๙ – ปัจจุบัน พระอธิการโพธิ์ ชาคโร พ.ศ. ๒๔๘๙ – ๒๕0๘ เจดีย์โบราณ ลักษณะเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็น สถาปัตยกรรมเอกลักษณ์ของศิลปะสุโขทัย ลักษณะเฉพาะ ของศิลปะสุโขทัยสร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิ หรือเพื่อประดิษฐาน พระพุทธรูป ทั้งนี้อาจเป็นเพราะในสมัยหลังลงมาคงมีการ สร้างสถานที่เพื่อบรรจุอัฐิธาตุ และเพื่อเคารพบูชาระลึกถึง พร้อมกันไปด้วย ๖


ประวัติ พระสมุห์พนม มงฺคลิโก ปัจจุบันด้ารงต้าแหน่ง เจ้าอาวาสวัดป่ามะคาบ ฉายา มงฺคลิโก อายุ๖๒ ปี เกิดเมื่อ วันที่ 2๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕0๔ บ้านเลขที่ ๑3 หมู่ ๓ ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เบอร์โทรศัพท์ 095 - 5487731 ประวัติพระสมุห์พนม มงฺคลิโก เจ้าอาวาสวัดป่ามะคาบ ๗


วัดโพธิ์งาม ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๘ หมู่ที่ ๔ ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๔๘ ไร่ ๒ งาน ๔๑ ตารางวา ทิศเหนือติดต่อกับที่ดิน นายมาก นางจ าเนียร ทิศใต้ ติดต่อกับที่ดินของนายผิว ทิศตะวันออกติดต่อกับล าคลองตาสี ทิศตะวันตกติดต่อกับถนนป่ามะคาบ โดยมีคุณตาแซ่ม คุณยายชุ่ม ยรรยงค์ ผู้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินให้เพื่อการสร้างวัด พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม อาคารเสนาสนะต่าง ประกอบไปด้วย อุโบสถกว้าง ๖ เมตร ยาว ๒0 เมตร สร้าง ขึ้น พ.ศ.๒๕09 ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๑๘ เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๕00 กุฏิสงฆ์ มีจ านวน 6 หลัง วัดโพธิ์งาม เหตุที่ชื่อวัดโพธิ์งามนั้น เป็นเพราะมีต้นโพธิ์ใหญ่อายุประมาณ 100 ปีขึ้นไปแต่ปัจจุบันนี้ตายไป แล้วยังมีต้นเล็กๆขึ้นแทน เพราะฉะนั้นวัดโพธิ์งามจึงได้มีชื่อนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยประกาศตั้งเป็นวัดวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕0๙ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑0 ปูชนียวัตถุ คือ พระพุทธรูป “พระสัมมาสัมพุทธมหามุนี” และ หลวงพ่อเพชรจ าลอง พระประธาน ข้อมูลบุคลากรวัดโพธิ์งาม พระภิกษุ 8 รูป สามเณร - ไวยาวัจกร นายลักษณ์ อินทรรักษา มีเสนาสนะ ดังนี้ ๑. อุโบสถ 1 หลัง ๒. ศาลาการเปรียญ 1 หลัง ๓. วิหาร 1 หลัง ๔. กุฏิสงฆ์ 6 หลัง ๕. เมรุ 1 หลัง ๖. ศาลารวมใจ 1 หลัง ๗. หอระฆัง 1 หลัง ๘. รูปหล่อพระพุทธมงคลชัยบารมี ๙. ๘ วัดโพธิ์งาม


พระพุทธมงคลชัยบารมี โดยได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณ “พระเทพวิสุทธิเมธี” เจ้าคณะ ๑๑ วัดระฆังโฆสิตาราม น าพิมพ์พระ พระพุทธมงคลชัยบารมีมาท าการหล่อพระประธานใหญ่ อยู่ที่สนามหน้ากุฏิสงฆ์ วัดโพธิ์งาม โดยองค์พระมีหน้าตักกว้าง ๑0 ศอก ๙ นิ้ว ล้อมรอบไปด้วยพระพุทธรูปเกจิชื่อดัง หลวงพ่อโลกอุดร หลวง พ่อเกษม สมเด็จโต หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเดิม หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเขียน ได้ท าการสร้างเสร็จ และจัดการฉลองแล้วเบิกเนตร ในวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๕0 พระพุทธรูปพระประธานในอุโบสถ ได้แก่ หลวงพ่อเพชรจ าลอง ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ ศอก ๑ คืบ 5 นิ้ว สูง ๓ ศอก 2 นิ้ว ที่ที่ประทับนั่ง นบฐานที่มีรูปบัวคว่ าบัวหงายรอบรับ หล่อด้วยโลหะส าริด ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร เป็นองค์ที่มีความใกล้เคียง ที่สุดในจังหวัดพิจิตร หลวงพ่อเพชรเป็นพระพุทธรูปทรงอานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อใครมีเรื่องเดือดร้อน เช่น ของหาย หรือมีความทุกข์ยากที่จะบนบานศาลกล่าวขออ านาจหลวงพ่อเพชรให้ช่วยปกป้องรักษา หรือปัดเป่า ความทุกข์ยากให้หมดไป ๙


อุโบสถ บริเวณภายนอกอุโบสถ มีการตกแต่งแบบ ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ กรอบหน้าต่างมีการใช้ลวดลายไทย งานประดิษฐ์กรรมในเชิงศิลปะชั้นสูงและสืบเนื่องมาแต่ครั้งโบราณกาลของไทย งานศิลปะที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของ ความเป็นไทยบ่งบอกถึงภูมิปัญญาของคนไทยหรือช่างไทย ใช้จินตนาการในเชิงสร้างสรรค์มีแบบอย่างเฉพาะตัว นับได้ว่าเป็นศิลปะและวัฒนธรรมอันมีค่าของชาติด้านในโบสถ์เป็นเพดาน ฝาผนัง บานประตู หน้าต่าง สีขาว แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่าย วิหาร บริเวณภายนอกวิหาร มีการตกแต่งโดยใช้ลวดลายไทย ลายกนก สะท้อนถึงศิลปะและวัฒนธรรมที่มีมา ตั้งแต่โบราณ ลวดลายงดงามอ่อนช้อย และบริเวณด้านบนตัววิหารยังมีภาพวาดเกี่ยวกับพระประวัติของ พระพุทธเจ้า ถือว่าเป็นหลักฐานส าคัญที่ใช้เทคนิคการบันทึกด้วยการเขียนภาพแทนการบันทึกด้วยตัวอักษร ท าให้ คนสมัยก่อนที่อ่านหนังสือไม่ออก สามารถเข้าใจในการบันทึกค าสอนด้วยภาพเขียนจิตกรรมฝาผนังได้ ๑0


ซุ้มประตูวัด เป็นเสาปูนลายไทย ลายเทพพนมสีเหลืองทอง แสดง ให้เห็นถึงความความอ่อนช้อยสวยงามวิจิตร บรรจง สะสม สร้างสรรค์ ลายไทยเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย คงคุณค่า รักษาไว้ซึ่งความภาคภูมิใจ อาคารอเนกประสงค์ มีลักษณะคล้ายเรือนหลังใหญ่ 2 ชั้น ยกพื้นสูงเสมอศีรษะคนยืน มีเฉลียงโดยรอบ กั้นฝาแต่ละด้าน เป็นฝาโปร่ง ๆ ด้านหนึ่งท ายกพื้นเป็นอาสน์สงฆ์ ส าหรับ พระสงฆ์ขึ้นนั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตรงหัวอาสน์สงฆ์ด้านหนึ่ง เป็น ที่ตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชา หอระฆัง หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทยทรงระฆังคว่ าอิฐแดง ด้านบนมีจั่วทั้ง 4 ทิศ ใช้เป็นอาคารส าหรับแขวนระฆังเพื่อใช้ ตีบอกสัญญาณ เวลาแก่พระสงฆ์ในการลงท าวัตรและ ประกอบกิจของสงฆ์ เมรุลักษณะทรงจั่ว หลังคาสีแดงเลือดหมู ตัวเมรุ สีเหลืองอ่อน มีบันไดทางขึ้น ๔ ทิศ ใข้ระบบน้ ามัน ศาลารวมใจ ลักษณะเป็นอาคารมุงหลังคา พื้นที่กว้างไว้เพื่อตั้งศพบ าเพ็ญกุศล ๑๑


ประวัติเจ้าอาวาสปกครองวัด พระอธิการทองม้วน มงฺคลเสวี พ.ศ. ๒๔๙๕ – ๒๕0๔ เจ้าอธิการส าราญ จาควโต พ.ศ. ๒๕0๕ – ๒๕๒0 พระอธิการเสาร์ เตชธมฺโม พ.ศ. ๒๕๒๑ – ๒๕๓๓ พระอธิการจ าเนียร อินทโชโต พ.ศ. ๒๕๓๓ – ๒๕๖0 พระชัยชาญ ชุติปญฺโญ พ.ศ. ๒๕๖๑ – ปัจจุบัน ประวัติพระชัยชาญ ชุติปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ งาม ประวัติพระชัยชาญ ชุติปญฺโญ ปัจจุบันด้ารงต้าแหน่ง เจ้าอาวาสวัดโพธิ์งาม ฉายา ชุติปญฺโญ อายุ 49 ปี 27 พรรษา เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.๒๕17 บ้านเลขที่ 128 หมู่ 4 ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เบอร์โทรศัพท์ 084 819 6428 เดิมชื่อ ชัยชาญ แสงศรี เกิดที่ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัด เมื่อปี 2560 อุปสมบทตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 ได้รับฉายา ทางพระพุทธศาสนาว่า “ชุติปญฺโญ” ๑๒


วัดแหลมยาง ตั้งอยู่เลขที่ 119 หมู่ที่ 14 ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 31 ไร่ 3 งาน 70 ตารางวา ทิศเหนือติดต่อกับที่ดิน นายมะลิ เสเนาะจ านงค์ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตกติดต่อกับล าครองท่าหลวงทั้ง ๓ ด้าน พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม อาคารเสนาสนะต่าง ประกอบไปด้วย อุโบสถกว้าง 6 เมตร ยาว ๑6.30 เมตร ทรงไทย สร้างขึ้น พ.ศ.๒๔๘๕ ศาลาการเปรียญกว้าง 9.70 เมตร ยาว 44.90 เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๕๒0 วัดแหลมยางประกาศตั้งวัดวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๕ โดยมี นายศรีนวล บริจาคที่ดินให้เป็นที่สร้างวัด เนื้อที่ประมาณ ๔0 ไร่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๔ ปูชนียวัตถุ คือ พระพุทธรูปประทาน หน้าตักกว้าง 80 นิ้ว ข้อมูลบุคลากรวัดแหลมยาง พระภิกษุ 7 รูป สามเณร - รูป ไวยาวัจกร นายแย้ม เอี่ยมสกุล มีเสนาสนะ ดังนี้ ๑. อุโบสถ 1 หลัง ๒. ศาลาการเปรียญ 1 หลัง ๓. วิหารหลวงพ่อโสธร ๔. วิหารหลวงพ่อโก๊ะ ๕. หอสวดมนธรรมคต ๖. หอระฆัง 1 หลัง ๗. กุฏิสงฆ์ 5 หลัง ๘. เมรุ 1 หลัง ๑๓ วัดท่ามะไฟ


พระพุทธรูปพระประธานในอุโบสถ ได้แก่ พระพุทธรูปประธาน หน้าตักกว้าง 80 นิ้ว ประดิษฐานในอุโบสถ พระพุทธรูปที่ทรงพุทธานุภาพ ศักดิ์สิทธิ์เมื่อใครมีเรื่องเดือดเนื้อ ร้อนใจ ทุกข์ยาก จะมากราบไหว้ขอพร อุโบสถ บริเวณภายนอกอุโบสถ มีการตกแต่งแบบ ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ กรอบหน้าต่างมีลักษณะเหมือนใบโพธิ์ มีการใช้ลวดลายไทยงานประดิษฐ์กรรมในเชิงศิลปะชั้นสูงและสืบเนื่องมาแต่ครั้งโบราณกาลของไทย งานศิลปะที่ แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยบ่งบอกถึงภูมิปัญญาของคนไทยหรือช่างไทย ใช้จินตนาการในเชิงสร้างสรรค์มี แบบอย่างเฉพาะตัว นับได้ว่าเป็นศิลปะและวัฒนธรรมอันมีค่าของชาติด้านในโบสถ์เป็นเพดาน บานประตู หน้าต่างสีแดง ฝาผนังมีภาพวาดเรื่องราวประวัติของพระพุทธเจ้าจ านวน 2 รูป ๑๔


วิหารหลวงพ่อโก๊ะ บริเวณภายนอกวิหาร มีการตกแต่งแบบ มกรคายนาค มกรเป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์เชิงเขาพระสุเมรุลักษณะ ภายนอกจะผสมระหว่างจระเข้กับพญานาค กล่าวคือ มีล าตัวยาวเหยียดคล้ายพญานาค แต่มีขายื่นออกมาจาก ล าตัว และส่วนหัวที่คายพญานาคออกมานั้นเป็นปากจระเข้คนโบราณจึงมักน ามกรไปเฝ้าอยู่ตามเชิงบันไดวัด ฝาผนัง วิหารมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของชาติที่เกิดขึ้นจากการบันทึกเหตุการณ์ และสิ่งต่างๆในอดีตไว้ในภาพปูนปั้น โดยสามารถศึกษาลักษณะของบ้านเมือง สภาพแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ สังคม วัฒนธรรม วรรณกรรม โบราณคดีจากภาพที่วาด ถือว่าเป็นหลักฐานส าคัญที่ใช้เทคนิคการบันทึกด้วยการเขียนภาพแทน การบันทึกด้วยตัวอักษร ท าให้คนสมัยก่อนที่อ่านหนังสือไม่ออก สามารถเข้าใจในการบันทึกค าสอนด้วยภาพปูนปั้น วิหารหลวงพ่อโสธร บริเวณภายนอกวิหาร มีการตกแต่งโดยใช้ลวดลายไทย ลายกนก สะท้อนถึงศิลปะและวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่ โบราณ ลวดลายงดงามอ่อนช้อย และบริเวณด้านบนตัววิหารมีสัญลักษณ์ธรรมจักร ซึ่งแปลว่า วงล้อธรรม ให้เป็น สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา และมีตราสัญลักษณ์8 รอบสมเด็จพระสังฆราช ฝาผนังโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราว พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของชาติที่เกิดขึ้นจากการบันทึกเหตุการณ์และสิ่งต่างๆในอดีตไว้ในภาพเขียน โดยสามารถศึกษาลักษณะของบ้านเมือง สภาพแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ สังคม วัฒนธรรม วรรณกรรม โบราณคดีจาก ภาพที่วาด ถือว่าเป็นหลักฐานส าคัญที่ใช้เทคนิคการบันทึกด้วยการเขียนภาพแทนการบันทึกด้วยตัวอักษร ท าให้คน สมัยก่อนที่อ่านหนังสือไม่ออก สามารถเข้าใจในการบันทึกค าสอนด้วยภาพเขียนจิตกรรมฝาผนังได้ ๑๕


สวนพักผ่อนหย่อนใจ ศิลปกรรมหลากหลายทั้งแนวใหม่ และแนวไทยดั้งเดิม รวมทั้งรูปปั้นทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิเช่น พระสีวลีเถระ พระพิฆเนศ พระแม่ธรณี พระญานาคราช นางกวัก มีสวนหย่อมและสระน้ าทีผสมผสานศิลปหลายอย่าง หอสวดมนต์ธรรมคต หอสวดมนต์ธรรมคต เป็นชื่อที่มาจาก พระครูสิริธรรมคต (หลวงพ่อเชื้อ สิริคุตโต) ภายในหอสวดมนต์ ธรรมคตมีรูปปั้นของหลวงพ่อมหาเม่า เจ้าอาวาสวัดแหลมยางรูปแรก หลวงพ่อมหาเม่า เป็นผู้ตั้งใจอุทิศตน เพื่อกิจ พระศาสนาและบ้านเมืองเต็มสติก าลัง มีความพากเพียรพยายามฝึกอบรมตนให้มีความรู้ทั้งปริยัติ และปฏิบัติให้ การศึกษาอบรมแก่สหธรรมิกบริษัทและสัทธิวิหาริกอันเตวาสิกตลอดถึงประชาชนทั่วไปเป็นนิตย์ โดยหอสวดมนต์ ธรรมคตใช้ในกิจของสงฆ์และสาธารณประโยชน์ ๑๖


ศาลาการเปรียญ มีลักษณะคล้ายเรือนไม้หลังใหญ่ 2 ชั้น ยกใต้ ถุนพื้นสูง กั้นฝาแต่ละด้านเป็นฝาโปร่ง ๆ ด้านหนึ่งท ายกพื้นเป็น อาสน์สงฆ์ ส าหรับพระสงฆ์ขึ้นนั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตรงหัว อาสน์สงฆ์ด้านหนึ่ง เป็นที่ตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชา เมรุลักษณะทรงจั่ว หลังคาสีแดงเลือดหมู ตัวเมรุ สีขาว มีบันไดทางขึ้น ๓ ทิศ ใข้ระบบน้ ามัน โอ่งน ้า 12 นักษัตร เป็นการน าเอาสิ่งของที่ไม่ได้ใช้งานมา ประยุกต์ให้เกิดความสวยงาม โดยตกแต่งลวดลายบริเวณ รอบโอ่งน้ าเป็นเทวดาประจ าวันเกิด ด้านบนวางรูปปั้น 12 นักษัตร ๑๗


ประวัติพระอธิการจ าลอง ฐานทตฺโต ปัจจุบันด้ารงต้าแหน่ง เจ้าอาวาสวัดแหลมยาง ฉายา ฐานทตฺโต อายุ ๖๓ ปี 27 พรรษา เกิดเมื่อวันที่ พ.ศ.๒๕0๓ บ้านเลขที่ 1๑๙ หมู่ ๑4 ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เบอร์โทรศัพท์098 - 9340213 เดิมชื่อ จ าลอง เอี่ยมอุไร เกิดที่บ้านเนินสมอ ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดตั้งแต่ ๓0 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับฉายา ทางพระพุทธศาสนาว่า “ฐานทตฺโต” ประวัติเจ้าอาวาสปกครองวัด พระมหาเม่า พ.ศ. ๒๔๘0 – ๒๕๙๕ พระอธิการสนิท พ.ศ. ๒๕๙๖ – ๒๕00 พระอธิการบุญมี คตตยโส พ.ศ. ๒๕0๑ – ๒๕0๓ พระอธิการนิตย์ อนุราจี พ.ศ. ๒๕0๕ – ๒๕0๘ พระอธิการเพชร พ.ศ. ๒๕0๙ – ๒๕๑0 พระอธิการเชื้อ สิริคฺตโต พ.ศ. ๒๕๑0 – ๒๕๕๒ พระอธิการจ าลอง ฐานทตฺโต พ.ศ. ๒๕๕๒ – ปัจจุบัน ประวัติพระอธิการจ้าลอง ฐานทตฺโต เจ้าอาวาสวัดแหลมยาง ๑๘


วัดหนองถ้ า ตั้งอยู่เลขที่ ๙ หมู่ที่ ๒ ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๘ ไร่ ๓ งาน ๙๑ ตารางวา ทิศเหนือติดต่อกับทางสาธารณะ ทิศใต้ติดต่อกับที่ดินของนางทองดี ทิศตะวันออกติดต่อกับที่ดินนายวัง และนองทองดีทิศตะวันตกติดต่อกับพื้นที่สาธารณะ พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม อาคารเสนาสนะต่าง ประกอบไปด้วย อุโบสถกว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๖ เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๕09 ศาลาการเปรียญกว้าง ๘ เมตร ยาว ๔0 เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๕๑๓ วัดหนองถ้ าสร้างขึ้น พ.ศ. ๒๔๖0 ได้รับพระราชทานวิสงคามสีมา วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๓ เขตวิสงคามสีมากว้าง ๘0 เมตร ยาว ๑๒0 เมตร ปูชนียวัตถุ คือ พระพุทธรูป หลวงพ่อโต (พ่ออินแปง) หน้าตักกว้าง ๘0 นิ้ว เป็นพระประธานในอุโบสถ และพระพุทธรูปหลวงพ่อเชียงแสนเชียงรุ้ง และมีรอยพระพุทธบาทจ าลองกว้าง ๒๕ เซนติเมตร ยาว ๑ เมตร ข้อมูลบุคลากรวัดหนองถ ้า พระภิกษุ 7 รูป สามเณร - รูป ไวยาวัจกร นายผูก ค ามูล นายสว่าง แสงงาม นายศักดิ์ สุวรรณ นายฉลวย อินทร์ใย นายวิเชียร จินตนา นายส าราญ ปัญจนา นายปาน พายเพรท มีเสนาสนะ ดังนี้ ๑. อุโบสถ 1 หลัง ๒. ศาลาการเปรียญ 1 หลัง ๓. กุฏิสงฆ์ ๖ หลัง ๔. เมรุ ๑ หลัง ๕. ศาลาธรรมสังเวช ๑ หลัง ๖. ศาลาร่วมใจ ๑ หลัง ๗. อาสมไอ้ไข่ ๑ หลัง ๘. วิหารหลวงพ่อโต ๙. พระพุทธรูปหลวงพ่อทันใจ ๑๐.รอยพระพุทธบาทจ าลอง ๑๙ วัดหนองถ ้า


พระพุทธรูปพระประธานในอุโบสถ ได้แก่ พระพุทธชินราชองค์จ าลอง ประดิษฐานในอุโบสถตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔0 พระพุทธชินราชได้รับการ ยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจ าลองกันมากที่สุดใน ประเทศไทย พระเกศรัศมียาวเป็นเปลวเพลิง พระเกศาขดเป็นก้นหอยขนาดใหญ่ วงพระพักตร์ค่อนข้างกลมไม่ยาวรี เหมือนผลมะตูมเช่นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยหมวดใหญ่ มีพระอุณาโลมผลิกอยู่ระหว่างพระขนง พระวรกายอวบอ้วน มีสังฆายาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบฝังด้วยแก้ว นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน และภายในอุโบสถยังมีสมเด็จ องค์ประปฐม องค์เงิน องค์ทอง อุโบสถ บริเวณภายนอกอุโบสถ มีการตกแต่งได้อย่างวิจิตร ซุ้มหน้าต่างยอดทรงมงกุฎ ประดับด้วยกระเบื้องสี การใช้ ลวดลายไทยงานประดิษฐ์กรรมในเชิงศิลปะชั้นสูงและสืบเนื่องมาแต่ครั้งโบราณกาลของไทยงานศิลปะที่แสดงถึง เอกลักษณ์ของความเป็นไทยบ่งบอกถึงภูมิปัญญาของคนไทยหรือช่างไทย ใช้จินตนาการในเชิงสร้างสรรค์มีแบบอย่าง เฉพาะตัว นับได้ว่าเป็นศิลปะและวัฒนธรรมอันมีค่าของชาติด้านในโบสถ์ฝาผนังมีจิตรกรรม ฝาผนังเรื่องราว พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของชาติที่เกิดขึ้นจากการบันทึกเหตุการณ์และสิ่งต่างๆในอดีตไว้ใน ภาพเขียน ๒0


วิหารหลวงพ่อโต (พ่ออินแปง) พระพุทธรูปหลวงพ่อโต (พ่ออินแปง) ประดิษฐานอยู่ในวิหาร จากค าบอกเล่าในอดีตมีช่างปั้นจากจังหวัดล าพูน พายเรือมาค้าขายผ่านเส้นทางคลองท่าหลวงและได้มาแวะยังบริเวณวัดหนองถ้ า ขนาดหน้าตักประมาณ 3 เมตร ปาง มารวิชัย มีลักษณะศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะล้านช้าง และศิลปะอยุธยาตอนปลาย หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่ มีลักษณะงดงามใหญ่โตและเก่าแก่ อีกทั้งภายในวิหารยังมีการใช้เสาไม้ตะเคียนที่มีอายุประมาณ 100 ปี อาคารรอยพระพุทธบาท รอยพระพุทธบาท จากค าบอกเล่ารอยพระพุทธบาทมีมาพร้อมกับวัดหนองถ้ า เป็นปูน 2 ชั้น เป็นการจ าลองมา ทั้งลักษณะรูปแบบของรอยพระพุทธบาท แสดงให้เห็นถึงการเน้นย้ าว่ารอยพระพุทธบาทมีความส าคัญ อันประดิษฐาน อยู่บนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คือเขาสุมนกูฏดังเช่นที่ประเทศศรีลังกา อีกทั้งยังแสดงถึงการรับคติพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ อันสัมพันธ์กับหลักฐานการรับพุทธศาสนาประเภทอื่น ๆ ๒๑


พระบรมสารีริกธาตุ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานไว้ ณ วัดหนองถ้ า ณ วันที่ ๑0 มิถุนายน ๒ ๕ ๕ ๕ เ พื่ อ เ ป็ น ที่ สั ก ก า ร บู ช า เ ป็ น ที่ ตั้ง มั่ น แ ห่ง พระพุทธศาสนา เป็นสิริมงคล และขวัญก าลังใจ ศาลาร่วมใจ มีลักษณะคล้ายเรือนไม้หลังใหญ่ 2 ชั้น ยกใต้ ถุนพื้นสูง กั้นฝาแต่ละด้านเป็นฝาโปร่ง ๆ ด้านหนึ่งท ายกพื้น เป็นอาสน์สงฆ์ ส าหรับพระสงฆ์ขึ้นนั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตรงหัวอาสน์สงฆ์ด้านหนึ่ง เป็นที่ตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชา ศาลาการเปรียญ อาคารปูนหลังใหญ่ 2 ชั้น บันไดทางขึ้น ทั้งข้างซ้าย ข้างขวามีรูปปั้นพญานาค ยกใต้ถุนพื้นสูง กั้นฝา แต่ละด้านเป็นฝาโปร่ง ๆ ด้านหนึ่งท ายกพื้นเป็นอาสน์สงฆ์ ส าหรับพระสงฆ์ขึ้นนั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตรงหัวอาสน์สงฆ์ ด้านหนึ่ง เป็นที่ตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชา หอระฆัง หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย ๒ ชั้น ใช้เป็น อาคารส าหรับแขวนระฆังเพื่อใช้ตีบอกสัญญาณ เวลาแก่ พระสงฆ์ในการลงท าวัตรและประกอบกิจของสงฆ์ ๒๒


ศาลาธรรมสังเวช เป็นลักษณะพื้นที่ลานกว้างมุงหลังคาสูง ไว้เพื่อตั้งศพบ าเพ็ญกุศล หลวงพ่อทันใจ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ท่านบันดาลให้ ผู้ที่ไปขอพร จะมีโชคลาภ เงินทอง ตามต านานเล่าขานว่า องค์หลวงพ่อทันใจนี้ ท่านมีญาณวิเศษเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ แม้กระทั่งเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาต หากไปอธิษฐานขอพร จากหลวงพ่อทันใจแล้ว หลังจากกลับมาจะหายขาดทันที เมรุลักษณะทรงจั่ว หลังคาสีแดงเลือดหมู ตัวเมรุ สีครีม มีบันไดทางขึ้น ๓ ทิศ การตกแต่งลายไม้สีน้ าตาล อาสมไอ้ไข่ มหาโชค มหาลาภ มหารวย รูปปั้นจ าลองไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ด้วยอภินิหารต่าง ๆ ที่ชาวบ้านท้องถิ่นเล่าขานกัน มาเรื่อย ๆ โดยมีความเชื่อว่า “ขอได้ไหว้รับ” โดยเฉพาะ โชคลาภ และการค้าขาย จะน าความโชคดีมาสู่คนที่เอาของ มามอบให้ ๒๓


ประวัติเจ้าอาวาสปกครองวัดหนองถ ้า พระอาจารย์ทองค า พ.ศ. ๒๔๖0 – ๒๔๗๓ พระอาจารย์สมพร พ.ศ. ๒๔๗๔ – ๒๔๙๒ พระอธิการสังวาลย์ เตชธมโม พ.ศ. ๒๔๙๓ – ๒๔๙๗ พระอธิการสอน พ.ศ. ๒๔๙๗ – ๒๔๙๙ พระอธิการวิเชียร สนติกโร พ.ศ. ๒๕00 – ๒๕๑๗ พระอธิการสุรินทร์ ถิรญาโณ พ.ศ. ๒๕๑๘ – ๒๕๒๕ พระอธิการวุฒิ ยสวโส พ.ศ.๒๕๒๖ พระครูพิทักษ์ธีรวงศ์ ปัจจุบัน ประวัติพระครูพิทักษ์ธีรวงศ์ ปัจจุบันด้ารงต้าแหน่ง เจ้าอาวาสวัดหนองถ้ า เดิมชื่อ บุญล้อม ดารายิ้มฤทธิ์ อายุ ๕๘ เกิดเมื่อวันที่ 1๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕0๘ บ้านเลขที่ ๗๗ หมู่ 4 ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เบอร์โทรศัพท์ 089-6429588 ปัจจุบันด ารงต าแหน่งพระอุปัชฌาย์ในเขตที่ตนปกครอง มีหน้าที่เป็นประธานและรับผิดชอบในการให้บรรพชาอุปสมบท และมีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 17 (พ.ศ.2536) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ ประวัติพระครูพิทักษ์ธีรวงศ์เจ้าอาวาสวัดหนองถ ้า ๒๔


วัดสระสาลีตั้งอยู่เลขที่ ๓๙ หมู่ที่ ๑๑ ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๑ ไร่ ๓ งาน ๗0 ตารางวา ทิศเหนือติดต่อกับทางสาธารณะ ทิศใต้ติดต่อกับที่ดินของ นายวันชัย ดอนไพรธรรม ทิศตะวันออกติดต่อกับที่ดินนายท้วม นายวัน ทิศตะวันตกติดต่อกับโรงเรียนวัดสระสาลีถือว่าเป็นวัดที่ เล็กที่สุดในต าบลป่ามะคาบ พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม แต่บางตอนเป็นที่ราบสูงบ้าง อาคารเสนาสนะต่าง ประกอบไปด้วย ศาลาการ เปรียญกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒0 เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๕0๔ วัดสระสาลี ประกาศตั้งวัดวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๗ ตามประวัติเคยเป็นที่ตั้งวัดร้างมาเก่าแก่กว่า ๑00 ปี มีซากอิฐ หินปรักหักพังอยู่มากมาย ต่อมาประมาณ พ.ศ. ๒๔๗0 ได้มี นายแหนง และ นางจั๋น บุญคง สองพี่น้อง ได้มาตั้งบ้านเรือนอยู่แถวนี้ ได้ชักชวนชาวบ้านจัดสร้างวัดขึ้น ในอดีตหลวงปู่เขียน วัดส านักขุนเณร เคยมาอยู่วัดสระ สาลี มาก่อสร้างหลวงพ่อพลู เมื่อก่อนสร้างบนจอมปลวก กลางแจ้ง จะไม่อยู่ในหลังคา เพราะไม่สามารถอยู่ในที่ ร่มได้ ชาวบ้านจะสร้างหลังคาก็จะเกิดปาฎิหารย์ฟ้าผ่า ปูชนียวัตถุ คือ พระพุทธรูป “หลวงพ่อพลู” ประดิษฐานในอุโบสถ ข้อมูลบุคลากรวัดสระสาลี พระภิกษุ 4 รูป สามเณร - รูป ไวยาวักจกร นายสวิง แสวงสุข มีเสนาสนะ ดังนี้ ๑. อุโบสถ 1 หลัง ๒. ศาลาการเปรียญ 1 หลัง ๓. วิหารหลวงพ่อพลู ๔. กุฏิสงฆ์ ๕ หลัง ๕. เมรุ ๑ หลัง ๖. ศาลาธรรมสังเวช ๑ หลัง ๗. หอระฆัง ๑ หลัง ๒๕ วัดสระสาลี


พระพุทธรูปพระประธานในอุโบสถ ได้แก่ พระพุทธรูปจ าลองหลวงพ่อพลู หน้าตักกว้าง ๖0 นิ้ว อุโบสถก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๗ เป็นพระพุทธรูปที่ทรงพุทธานุภาพศักดิ์สิทธิ์เมื่อใครมีเรื่องเดือดเนื้อ ร้อนใจ ทุกข์ยาก จะมากราบไหว้ขอพร เมื่อก่อนสร้างบนจอมปลวก กลางแจ้ง จะไม่อยู่ในหลังคา เพราะไม่สามารถอยู่ในที่ ร่มได้ ชาวบ้านจะสร้าง หลังคาก็จะเกิดปาฎิหารย์ฟ้าผ่า ด้านในอุโบสถ ด้านในโบสถ์เป็นเพดานไม้สีแดงผสมลายไทย แสดงถึงความเรียบง่าย สง่างาม ความอ่อนช้อยสวยงาม วิจิตร บรรจง สะสม สร้างสรรค์ บริเวณด้านบนมีรูปวาดเทวดาอยู่ทางด้านซ้าย ด้านขวา ฝาผนังโบสถ์มีจิตรกรรม ฝาผนังเรื่องราวพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของชาติที่เกิดขึ้นจากการบันทึกเหตุการณ์และสิ่งต่างๆในอดีตไว้ใน ภาพเขียน โดยสามารถศึกษาลักษณะของบ้านเมือง สภาพแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ สังคม วัฒนธรรม วรรณกรรม โบราณคดี จากภาพที่วาด ถือว่าเป็นหลักฐานส าคัญที่ใช้เทคนิคการบันทึกด้วยการเขียนภาพแทนการบันทึกด้วยตัวอักษร ท าให้คนสมัยก่อนที่อ่านหนังสือไม่ออก สามารถเข้าใจในการบันทึกค าสอนด้วยภาพเขียนจิตกรรมฝาผนังได้ และ ภายในโบสถ์เป็นลักษณะ มหาอุตม์คือมีประตูทางเข้าออกแค่ทางเดียว ๒๖


พระพุทธรูปจ้าลองหลวงพ่อพลูขนาดหน้าตัก ๖0 นิ้ว อัญเชิญมาประดิษฐานเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ไว้ที่วัดเพื่อให้ ชาวบ้าน คนที่เคารพนับถือ หรือคนที่มีความเลื่อมใส ศรัทธา มากราบไหว้ขอพร ธรรมมาส เทศน์อายุราวๆ ๑00 ปี เดิมทีเป็นไม้สักและ ได้รับกา รบูรณะใหม่ ใช้ในการประกอบศาสนกิจพิธี โดยเฉพาะการแสดงพระธรรมเทศนาต่อพุทธศาสนิกชน หรือ ไว้ส าหรับพระภิกษุสงฆ์องค์ประธานของพิธีกรรมต่างๆ หอระฆัง หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย ใช้เป็นอาคารส าหรับ แขวนระฆังเพื่อใช้ตีบอกสัญญาณ เวลาแก่พระสงฆ์ในการ ลงท าวัตรและประกอบกิจของสงฆ์ บ่อน ้าเค็ม สมัยก่อนหลวงปู่เขียนได้ลงไปรักษาตัวในบ่อ น้ าเค็ม โดยเชื่อกันว่า ผู้ใดที่จะลงไปในบ่อน้ าเค็มห้ามสกปรก ถ้าหากสกปรกจะเกิดอาพาตได้ โดยการน าน้ าจากบ่อน้ าเค็ม จะช่วยรักษาในโรคผิวหนังได้เป็นอย่างดี ๒๗


ประวัติเจ้าอาวาสปกครองวัด พระแจ้ง พ.ศ. ๒๔๘๗ – ๒๔๙๓ พระบาง พ.ศ. ๒๔๙๔ – ๒๔๙๖ พระอธิการสัมฤทธิ์ พ.ศ. ๒๔๙๖ – ๒๕03 พระอธิการมิ่ง ภูริปัญฺโญ พ.ศ. ๒๕0๔ – ๒๕๒๑ พระประเสริฐ เขมกาโม พ.ศ. ๒๕๒๒ พระประทุม ชุตินฺธโร ศาลาการเปรียญ มีลักษณะคล้ายเรือนหลังใหญ่ 1 ชั้น ยกพื้นสูงเสมอศีรษะคนยืน ด้านหนึ่งท ายกพื้นเป็น อาสน์สงฆ์ ส าหรับพระสงฆ์ขึ้นนั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตรง หัวอาสน์สงฆ์ด้านหนึ่ง เป็นที่ตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชา ศาลาธร รมสังเวช ลักษณะเป็นอาคา รมุงหลังค า พื้นที่กว้างไว้เพื่อตั้งศพบ าเพ็ญกุศล เมรุ ลักษณะหลังคาทรงจั่ว ตัวเมรุสีขาว บริเวณจั่ว ด้านหน้าล้อมรอบไปด้วยลายกนก มีบันไดทางขึ้น ๓ ทิศ ใช้เป็นระบบน้ ามัน ๒๘


ประวัติพระประทุม ชุตินฺธโร ปัจจุบันด้ารงต้าแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสระสาลี เดิมชื่อ แก้วก าเนิด อายุ 76 พรรษาที่ 25 พรรษา เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์พ.ศ.๒490 เบอร์โทรศัพท์ 064 - 8848828 ประวัติพระประทุม ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดสระสาลี ๒๙


วัดท่ามะไฟ ตั้งอยู่เลขที่ ๖๙ หมู่ที่ ๙ ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๒0 ไร่ ๒ งาน ๕๘ ตารางวา ทิศเหนือติดต่อกับนายแหวน ทิศใต้ติดต่อกับที่ดินของนางละมูล ทิศตะวันออกติดต่อกับที่ดินนายอิฐ ทิศตะวันตกติดต่อกับถนนป่ามะคาบและล าคลอง พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม อาคารเสนาสนะต่าง ประกอบไปด้วย อุโบสถกว้าง ๖.๒๕ เมตร ยาว ๑๓.๒๕ เมตร สร้าง พ.ศ.๒๕00 ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๘ เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๕0๕ วัดท่ามะไฟ ประกาศตั้งวัดวันที่ ๑0 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๑๗ โดยมีนายอิ่ม นางพ่วง นายพัน นางพุธ นางละมูล เกตุนาค บริจาคที่ดินให้เป็นที่สร้างวัด ได้รับพระราชทานวิสงคามสีมาวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๙ ปูชนียวัตถุ คือ พระพุทธรูป “พระเกตุกิ่งประทุม” เป็นพระประธานในอุโบสถหน้าตักกว้าง ๔๘ นิ้ว ท่อน พระเศียรเป็นหิน ส่วนท่อนองค์เป็นปูน ข้อมูลบุคลากรวัดสระสาลี พระภิกษุ ๕ รูป สามเณร - รูป ไวยาวักจกร นายสมหวัง ยอดนุ่ม มีเสนาสนะ ดังนี้ ๑. อุโบสถ 1 หลัง ๒. ศาลาการเปรียญ 1 หลัง ๓. วิหารพระเกตุกิ่งประทุม ๑ หลัง ๔. กุฏิสงฆ์ ๗ หลัง ๕. หอระฆัง ๑ หลัง ๖. ศาลาธรรมสังเวช ๑ หลัง ๗. เมรุ ๑ หลัง ๓0 วัดท่ามะไฟ


พระพุทธรูปพระประธานในอุโบสถ ได้แก่ พระเหมินห์ชัยสิทธิ์ อุโบสถก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๗ เป็นพระพุทธรูปที่ทรงพุทธานุ ภาพศักดิ์สิทธิ์เมื่อใครมีเรื่องเดือดเนื้อ ร้อนใจ ทุกข์ยาก จะมากราบไหว้ขอพร อุโบสถ อุโบสถ ประกาศ ณ เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๘ โดยก าหนดเขตอุโบสถ มีความกว้าง ๒๔ เมตร ยาว ๔๒ เมตร ด้านในโบสถ์เป็นเพดานไม้สีแดง แสดงถึงความเรียบง่าย สง่างาม ความอ่อนช้อยสวยงามวิจิตร บรรจง สะสม สร้างสรรค์ ฝาผนังโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของ ชาติที่เกิดขึ้นจากการบันทึกเหตุการณ์และสิ่งต่างๆในอดีตไว้ในภาพเขียน โดยสามารถศึกษาลักษณะของบ้านเมือง สภาพแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ สังคม วัฒนธรรม วรรณกรรม โบราณคดีจากภาพที่วาด ถือว่าเป็นหลักฐานส าคัญ ที่ใช้เทคนิคการบันทึกด้วยการเขียนภาพแทนการบันทึกด้วยตัวอักษร ท าให้คนสมัยก่อนที่อ่านหนังสือไม่ออก สามารถเข้าใจในการบันทึกค าสอนด้วยภาพเขียนจิตกรรมฝาผนังได้ ๓๑


วิหารพระเกตุกิ่งประทุม วิหารพระเกตุกิ่งประทุม ก่อด้วยศิลาแลงเป็นวัสดุในธรรมชาติอย่างหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกับหิน สีแดง ส้ม หรือน้ าตาลเข้ม มีรูพรุนทั่วไป หลังคาวิหารสีแดงเลือดนก ภายในวิหารมีปูชนียะวัตถุ พระพุทธรูป นาม “พระเกตุกิ่งประทุม” หน้าตักกว้าง ๔๘ นิ้ว ท่อนพระเศียรเป็นหิน ส่วนท่ององค์เป็นปูน ศาลาการเปรียญ มีลักษณะคล้ายเรือนหลังใหญ่ ๒ ชั้น ยกพื้นสูง ทาง ขึ้น ลง ทางเดียว ด้านหนึ่งท ายกพื้นเป็น อาสน์สงฆ์ ส าหรับพระสงฆ์ขึ้นนั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตรง หัวอาสน์สงฆ์ด้านหนึ่ง เป็นที่ตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชา หอระฆัง หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย ใช้เป็นอาคาร ส าหรับแขวนระฆังเพื่อใช้ตีบอกสัญญาณ เวลาแก่ พระสงฆ์ในการลงท าวัตรและประกอบกิจของสงฆ์ ๓๒


อาคารหวงพ่อสมใจนึก ก่อสร้างขึ้นเมื่อ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๘ น าโดย พระอธิการมานะ จนทฺสาโร ภายในอาคารประกอบไป ด้วย หล วงพ่อสมใจนึก หล วงพ่อป าน วัดบ างนมโค สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมร สี) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมร สี) หลวงพ่อปาฏิหาริย์ พระช้าระหนี สงฆ์ ซุ้มประตูวัด เป็นเสาปูนลายคล้ายดอกบุญนาค แสดงให้เห็นถึงความ ความอ่อนช้อยสวยงามวิจิตร บรรจง สะสม สร้างสรรค์ ลายไทยเป็น เอกลักษณ์ของความเป็นไทย คงคุณค่า รักษาไว้ซึ่งความภาคภูมิใจ และยังมีการปั้นพญานาคทั้ง ๒ ข้างทางเข้าออกซุ้มประตูวัด ๓๓


ประวัติเจ้าอาวาสปกครองวัด พระอธิการพัน พ.ศ. ๒๕00 – ๒๕0๔ พระอธิการฟื้น พ.ศ. ๒๕0๕ – ๒๕0๗ พระอธิการบุญยัง พ.ศ. ๒๕0๘ – ๒๕๑๒ พระกรณ์ พ.ศ. ๒๕๑๓ – ๒๕๑๕ พระอธิการต่อม อิฏฐวณฺโณ พ.ศ. ๒๕๑๕ พระครูวิมลโชติคุณ จนฺทสาโร ปัจจุบัน ศาลาธร รมสังเวช ลักษณะเป็นอาคา รมุงหลังค า พื้นที่กว้างไว้เพื่อตั้งศพบ าเพ็ญกุศล เมรุ ลักษณะหลังคาทรงจั่ว ตัวเมรุสีขาว บริเวณจั่ว ด้านหน้าล้อมรอบไปด้วยลายกนก มีบันไดทางขึ้น ๓ ทิศ ใช้เป็นระบบน้ ามัน ๓๔


ประวัติพระครูวิมลโชติคุณ จนฺทสาโร ปัจจุบันด้ารงต้าแหน่ง เจ้าอาวาสวัดท่ามะไฟ ฉายา จนฺทสาโร อายุ ๖๑ เกิดเมื่อวันที่ 1๗ เมษายน พ.ศ.๒๕0๕ บ้านเลขที่ หมู่ ๑0 ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เบอร์โทรศัพท์ 0๘๖ – ๙๓๑๗๘๒๔ ประวัติพระครูวิมลโชติคุณ จนฺทสาโร เจ้าอาวาสวัดท่ามะไฟ ๓๕


วัดเนินสมอ ตั้งอยู่เลขที่ ๑0๔ หมู่ที่ ๘ ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๓๓ ตารางวา ทิศเหนือติดต่อกับพื้นที่นายสงวน นายทอง ทิศใต้ติดต่อกับที่ดิน ของนายเสงี่ยม กรวยทวิมล ทิศตะวันออกติดต่อกับที่ดินของนายจันทร์ นายหงิม ทิศตะวันตกติดต่อกับที่ดินสาธารณะ พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม อาคารเสนาสนะต่าง ประกอบไปด้วย อุโบสถกว้าง ๗ เมตร ยาว ๑๗ เมตร สร้าง พ.ศ.๒๔๙๓ ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๔ เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.๒๕0๖ วัดเนินสมอ เดิมเรียกชื่อว่า “วัดบ้านดง” ประกาศตั้งวัดวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๖ ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมาวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๙ ปูชนียวัตถุ คือ พระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง ๗0 นิ้ว ข้อมูลบุคลากรวัดเนินสมอ พระภิกษุ๖ รูป สามเณร – รูป ไวยาวัจกร นายสุรินทร์ บุญยงค์ มีเสนาสนะ ดังนี้ ๑. อุโบสถ 1 หลัง ๒. ศาลาการเปรียญ 1 หลัง ๓. วิหารหลวงพ่อทองดี ๑ หลัง ๔. รูปหล่อพระสีวลี ๕. กุฏิสงฆ์ ๗ หลัง ๖. หอระฆัง 1 หลัง ๗. ศาลาธรรมสังเวช ๑ หลัง ๘. เมรุ ๑ หลัง วัดเนินสมอ ๓๖


พระพุทธรูปพระประธานในอุโบสถ พระพุทธรูป ขนาดหน้าตักกว้าง ๗0 นิ้ว ที่ทรงพุทธานุภาพศักดิ์สิทธิ์เมื่อใครมีเรื่องเดือดเนื้อ ร้อนใจ ทุกข์ยาก จะมากราบไหว้ขอพร อุโบสถ อุโบสถ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๙ ด้านในโบสถ์เป็นเพดานสีขาว แสดงถึงความเรียบง่าย สง่างาม ความอ่อนช้อยสวยงามวิจิตร บรรจง สะสม สร้างสรรค์ ฝาผนังโบสถ์มีจิตรกรรมฝา ผนังเรื่องราวพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของชาติที่เกิดขึ้นจากการบันทึกเหตุการณ์และสิ่งต่างๆใน อดีตไว้ในภาพเขียน โดยสามารถศึกษาลักษณะของบ้านเมือง สภาพแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ สังคม วัฒนธรรม วรรณกรรม โบราณคดีจากภาพที่วาด ถือว่าเป็นหลักฐานส าคัญที่ใช้เทคนิคการบันทึกด้วยการเขียนภาพแทนการ บันทึกด้วยตัวอักษร ท าให้คนสมัยก่อนที่อ่านหนังสือไม่ออก สามารถเข้าใจในการบันทึกค าสอนด้วยภาพเขียนจิต กรรมฝาผนังได้ ๓๗


พระครูพินิจธรรมภาส “ทองดี เขียนแม้น” ท่านพระครูพินิจธรรมภาส นามเดิม ทองดี เขียนแม้น นามฉายาว่า “ คุตตยะโส” เกิดเมื่อวันจันทร์ แรม ๗ ค่ า เดือน ๓ ปีฉลู ได้อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๒ ปี ณ วัดท่าหลวง อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้มาจ าพรรษาอยู่ที่วัดเนินสมอ ๓ ปีแล้วย้ายไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่บ้านเดิม คือ วัดกุ่มหัก หนองแค จังหวัด สระบุรี ๓ ปี ต่อมาได้ย้ายไปศึกษาเป็นนักเทศน์ธรรม ที่วัด หนองโน จังหวัดสระบุรี ปี พ.ศ.๒๔๘๓ ได้ย้ายมาจ า พรรษาที่วัดเนินสมอ ต าบลป่ามะคาบ จังหวัดพิจิตร พระครูพินิจธรรมภาส เป็นผู้ตั้งใจอุทิศจน เพื่อกิจพระศาสนา และบ้านเมืองเต็มสติก าลัง มีความพรากเพียรพยายาม ฝึกฝนอบรมให้มีความรอบรู้ทั้งปริยัติ และปฏิบัติ ให้การศึกษาอบรมแก่สหธรรมิกบริษัทและสัทธิวิหาริกอันเตวาสิก ตลอดถึงประชาชนทั่วไปเป็นนิตย์ ในด้านการ ก่อสร้างก็ได้เพียรพยายามสร้างความเจริญให้เกิดมีขึ้นเป็นอย่างดีทั้งภายในวัดเนินสมอและในเขตใกล้เคียง และเมื่อ หลวงพ่อทองดีมรณภาพไปศิษยานุศิษย์ได้มีการสร้างวิหารหลวงพ่อทองดีขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนคนทั่วไปได้กราบไหว้ ศาลาการเปรียญ มีลักษณะคล้ายเรือนหลังใหญ่ ๒ ชั้น ยกพื้นสูง ทาง ขึ้น ลง ทางเดียว ด้านหนึ่งท ายกพื้นเป็น อาสน์สงฆ์ ส าหรับพระสงฆ์ขึ้นนั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตรง หัวอาสน์สงฆ์ด้านหนึ่ง เป็นที่ตั้งพระพุทธรูป และเครื่องบูชา ๓๘


หอระฆัง มีทั้งหมด ๓ ชั้น หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย ใช้เป็นอาคารส าหรับแขวนระฆังเพื่อใช้ตีบอกสัญญาณ เวลา แก่พระสงฆ์ในการลงท าวัตรและประกอบกิจของสงฆ์ พระสีวลีเถระ เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์ส าคัญในพระพุทธศาสนา ในสมัยพุทธกาล ท่านเป็นผู้มีลาภสักการะมากด้วยกุศลกรรมที่ท า มาแต่อดีต ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ให้ เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง ผู้มีลาภมาก ศาลาธร รมสังเวช ลักษณะเป็นอาคา รมุงหลังค า พื้นที่กว้างไว้เพื่อตั้งศพบ าเพ็ญกุศล เมรุ ลักษณะหลังคาทรงจั่ว ตัวเมรุสีครีม บริเวณจั่ว ด้านหน้าล้อมรอบไปด้วยลายกนก มีบันไดทางขึ้น ๓ ทิศ ใช้เป็นระบบน้ ามัน ๓๙


ประวัติพระครูวิสิฐปัญญาภรณ์ ปัจจุบันด้ารงต้าแหน่ง เจ้าอาวาสวัดเนินสมอ เดิมชื่อ ประสิทธิ์ ศรีโชติ อายุ ๖0 ปี เกิดเมื่อวันที่ 1๓ เมษายน พ.ศ.๒๕0๕ บ้านเลขที่ หมู่ ๔ ต าบลป่ามะคาบ อ าเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เบอร์โทรศัพท์ 0๘๓ – ๔๑๒๒๙๒๕ ประวัติเจ้าอาวาสปกครองวัด พระครูพินิจธรรมภาส พ.ศ. ๒๔๘0 – ๒๕0๘ พระอธิการจันทร์ คนธโก พ.ศ. ๒๕0๙ – ๒๕๑๓ พระอธิการสุด ญาณธโช พ.ศ. ๒๕๑๔ – ๒๕๒๑ พระอธิการสุรินทร์ ชาตเมโธ พ.ศ. ๒๕๒๒ – ๒๕๒๕ พระถาวร อนาลโย พ.ศ. ๒๕๒๖ พระครูวิสิฐปัญญาภรณ์ ปัจจุบัน ประวัติพระครูวิสิฐปัญญาภรณ์เจ้าอาวาสวัดเนินสมอ ๔0


๔๑ พระครูพิทักษ์ธีรวงศ์ เจ้าอาวาสวัดหนองถ ้า พระสมุห์พนม มงฺคลิโก เจ้าอาวาสวัดป่ามะคาบ พระชัยชาญ ชุติปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ พระอธิการจ้าลอง ฐานทตฺโต เจ้าอาวาสวัดแหลมยาง พระประทุม ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดสระสาลี พระครูวิมลโชติคุณ จนฺทสาโร เจ้าอาวาสวัดท่ามะไฟ พระครูวิสิฐปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเนินสมอ พระจินตพัฒน์ เขมจิตฺโต เลขานุการเจ้าคณะต้าบลป่ามะคาบ นายลักษณ์ อินทรรักษา ไวยาวัจกรวัดโพธิ์งาม นายศักดิ์ สุวรรณ ไวยาวัจกรวัดหนองถ ้า นายสุรินทร์ บุญยงค์ ไวยาวัจกรวัดเนินสมอ นายสมชาย สุรรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่๒ นายบุรันทร์ มีเทียม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่๑๑ รายนามผู้ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล


Click to View FlipBook Version