The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือคู่มือการใช้โปรแกรม MS Project บริหารงานก่อสร้าง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Samart Sukhuprakarn, 2023-04-17 08:55:45

คู่มือบริหารโครงการด้วย MS Project

หนังสือคู่มือการใช้โปรแกรม MS Project บริหารงานก่อสร้าง

Keywords: บริหารโครงการ

1


2 คํานํา หัวใจการทํางานคือการวางแผนที่ดี การวางแผนที่ดีตองใชเครื่องมือที่ดี เครื่องมือที่ดีสําหรับการบริหารงานกอสรางก็ตองเปน Program Microsoft Project ที่ตอบโจทยการทํางานบริหารโครงการทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญไดเปนอยางดี และ ชวยเอื้อตอการทํางาน คูมือนี้เปนหนังสือที่เนนสอนการนําไปใชในงานโดยตรง ภาคสนาม สวนภาคทฤษฎีพื้นฐานสามารถหาอานไดโดยทั่วไป คูมือนี้ผูเขียนได รวบรวมขอใชงานจริงจากประสบการณที่ผานมา 35 ปภาคสนาม เนื้อสวนใหญจะ เปนขั้นตอนการเจาะแบบตรงประเด็นการทํางานหนางาน ครบถวนสําหรับการ บริหารโครงการ ทําใหคนที่เกี่ยวของกับงานรับรูความเปนไปของโครงการ มีทั้ง ลักษณะการรายงานแผน แนวทางการปรับแผน สามารถคาดการณแผนงานได หวัง วาจะเปนประโยชนตอผูอาน อนึ่งหนังสือคูมือเลมนี้จะเวนหนาวางไวสําหรับการจดบันทึกสําหรับผูเขา อบรมที่ฟงแลวจดเพื่อเสริมความเขาใจ สามารถ สุขุประการ


3 ตอนที่ 1 สรางรูปแบบพื้นฐาน 1. ตั้งคา Front 1. Gantt format 2. เลือก Text Style 2. ตั้งเอา Time Line ออก (เพื่อสะดวกในการทํางานในเบื้องตน) 1. View 2. Time Line คลิ๊ก ปลดออก 1 2 2 1


4 3. การตั้งคา Time Scale 1. View 2. Time scale 3. คลิ๊กลูกศร 4. Time scale หรือคลิ๊กขวาที่ชองแสดง Time Scale ไดเชนกันก็จะขึ้น Time scale จากนั้นก็ทํา การปรับแกตามความตองการ ซึ่งจะกลาวตอไป 1 2 3 4


5 4. เลือกลําดับของการแสดงตารางเวลา 1. View 2. Time scale option 1. เลือก Tier ; Top, Middle, Bottom 2. เลือก Year, Month, Week, Day 3. เลือกรูปแบบการแสดงผล 4. ตั้งคา เยื้องซาย-ขวาหรือ กึ่งกลาง 5. ยอ-ขยายขนาด การตั้งคา Time Scale นั้นขึ้นอยูกับระยะเวลาของงานหากงานมีระยะเวลายาวนาน เชน มากกวา 1 ป ตองตั้งเปน Three tiers ( Top, Middle, Bottom) Year, Month, Week หากระยะเวลาเปนเดือนก็ตั้งเปน Month, Week, Day ในบางทีที่ เปนรายงานประจําเดือนอาจตองตั้งเปน 2 Tiers ก็ได เปน Month และ Day ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ก็ขึ้นอยูกับความเหมาะสมที่จะเขียนใหผูที่ดูแผนงานแลวเขาใจไดดี 1 2 3 4 5


6 5. การตั้งวันหยุดและวันทํางาน จากนั้นก็ตั้งคาวันหยุดเปนวันทํางาน เชน วันเสารอาทิตยซึ่งโปรแกรมไดตั้งไววาเปน วันหยุด แตเราสามารถตั้งคาใหมเปนวันทํางานไดโดย 1. Project 2. Change working time 1 2


7 Chang Working Time (โปรแกรมจะตั้งวันเสารอาทิตยเปนวันหยุดมาตรฐาน) แกไข โดย 1. Week work 2. Detail ประโยชนของการปรับวันทํางานและวันหยุดเพื่อจะไดทําแผนงานใหตรงตามที่ ทํางานจริง เพราะบางครั้งในชวงเวลาเราเรงงานเนื่องจากงานมีความลาชาตอง ทํางานทุกวันไมมีวันหยุดแมอาทิตย (ตามจริงงานในประเทศไทยไซตงานก็ไมไดหยุด งาน) 1 2


8 เลือกวันทํางาน 1. เลือกวัน “เสาร” 2. คลิ๊ก Set day to these specific working times 3. กําหนดเวลาทํางาน 4. OK 1 2 3 4


9 การตั้งวันหยุดพิเศษ 1. Exceptions 2. Name (ชื่อวันหยุด เชนวันสงกรานต) 3. Start 4. Finish การตั้งวันหยุดพิเศษ จะใชในเหตุการณสําคัญที่เปนวันหยุดเทศกาล ในกรณีที่มี เหตุการณหยุดงานเฉพาะกิจ เชนมีภัยพิบัติ เชนนํ้าทวม จะกําหนดลงในแผนงานเปน Bar Chart จะดีกวาเพราะสามารถแสดงลงในแผนงานเพื่อใหทุกคนเขาใจรวมกันวามี เหตุการณไมคาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งมีผลตอสัญญางาน สวนที่เปนวันหยุดตามนักขัตฤกษ 1 2 3 4


10 จะไมถือเอาเปนวันชดเชยได เพราะผูรับเหมายอมทราบดีอยูแลวตามปกติทุกปก็เปน แบบนั้น การเริ่มโครการ (Startup) การใส TASK ประกอบดวย (1) ชื่องาน, Task (2) ระยะเวลา, Duration (3) วันเริ่ม, Start (4) วันเสร็จ, Finish 1 2 3 4


11 การสรางงานหลักและงานยอย การสรางงานยอย Task-ครอบงานยอย-Indent (ในทางกลับกันก็ใช Outdent เมื่อ ตองการกลับออกไปจากการเปนงานยอย) ผูเขียนแผนตองรูวางานนั้นมีงานยอยอะไร และระยะเวลา (Duration) ไมจําเปนตองใสในงานหลัก เมื่อ Indent Task แลวระยะ รวมจะไปปรากฏโดยอัตโนมัติ 1) ครอบงานที่เปนงานยอย 2) คลิ๊ก Indent Task


12 การเพิ่ม-ลด Column การซอน Column ที่ไมจําเปนตองใชในตอนนี้ เพื่อจะไดทํางานสะดวก: Task – Hide Column หากเพิ่ม Column ก็ใชคําสั่ง Insert Column ในแถบการแกไข Column นี้จะมีคําสั่งใหทํา ไดหลายคําสั่ง หากคลิ๊ก Insert Column ก็จะ เพิ่ม Column ที่มีจํานวนมากเราสามารถใส เขามาได 1 2


13 การทําแผนงาน 1. ใส Duration จํานวนวันที่ Task นั้นทําแลวเสร็จ (ไมตองใสในTaskที่เปนหัว เพราะจํานวนวันรวมจะขึ้นมาตาม Taskยอย) Bar chart ยังเสมอกันอยู ตั้งวันเริ่มโครงการ: Project-Project information-Start date-เลือกวันที่เริ่ม 1 2 จะอยู่ในแนวเดียวกัน


14 เราสามารถสรางปฏิทินของเราเองได ไดแก วันหยุดประจําป วัดหยุดที่ตองรูวาเปน ประเพณีปฏิบัติในโดยพฤตินัย ซึ่งจะหยุดมากกวาปกติ เชน วันสงกรานตปกติหยุดแค 3-4 วัน แตตามจริงไมตํ่ากวา 7 วัน วันปใหมตามปกติ 2 วัน ตามจริง 4-5 วัน วันบุญ ออกพรรษาบางทีก็ไมหยุดให แตความจริงคนงานกลับบานหยุดกันหลายวัน เปนตน งานกอสรางตองรูปจจัยขอมูลพื้นฐานเปนอยางดี เพียงพอที่จะทําใหการวางแผนนั้น สมตามเจตนาของโครงการมากที่สุด 1 สามารถสร้างปฏิทินพิเศษของเราเองได้


15 การสรางความสัมพันธระหวาง Task Link 1. Project 2. Predecessor 3. ใสหมายเลขหนา Task ที่เกิดกอนหนา Task นี้


16 ในกรณีที่งานที่ตอเนื่อง Task นั้นแตยังไมสามารถเริ่มงานไดก็ใหใส S (Start) และ F (Finish) + จํานวนวันที่จะเริ่มได หมายเหตุ เรื่องการใชสัญลักษณกํากับ 1. 4SS + 5 days : หลังขอ 4 Start แลว 5 วัน งานที่ตามจึง Star 2. 4FS + 5 days : หลังจาก 4 Finish แลว 5 วัน งานที่ตามจึง Start 3. 4FF + 5 days : หลังจาก 4 Finish แลว 5 วัน งานที่ตามถึง Finish ให้ระบบโปรแกรมมัน ทำงานโยงสัมพันธ์


17 ทํา Manual schedule to Auto Schedule: 1. Task 2. คลิ๊กมุมซายบนชีต 3. Auto Schedule Bar Chart จะเปนการทํางานแบบอัตโนมัติโดยที่โปรแกรมจะคําณวนคาทั้งหมดที่ โปรแกรมตั้งคาไว เชน การคําณวน % Complete, Actual Finish, Finish Variance เปนตน 1 2 3


18 การสราง Grid line Gantt row: Gantt chart format-Grid line-Grant row-line (ชนิดเสน)-Color (เลือกสี) และในทํานองเดียวกันก็สามารถสราง Grid line ที่ Column ไดโดยทําแบบ เดียวกัน 1 2 3 Grid line Row & Column


19 การเปลี่ยนชื่อหัวชีต: คลิ๊ก Task-คลิ๊กขวา-Field setting-Title – พิมพชื่องาน 1 2 สามารถทํากับ Column อื่นเชนเดียวกัน


20 การแกไข Bar Chart การใสขอมูลหนาหลัง Task: Gantt chart format-Bar format -Bar เลือกวันที่: Bar text-Left (Start) และ Right (Finish) 1 2 3


21 การจัดรูปแบบมาตรฐานที่จะบริหารโครงการควรมีColumn ตามนี้ 1. ระยะเวลา 2. งบประมาณ 3. เริ่ม 4. เสร็จ ตามรูปนี้จะใสวันที่เริ่ม-เสร็จไวที่ Bar Chart Gantt เลย เพื่อใหชองในชีต ไมใหชอง ชีตมากเกินไป และสามารถดูวันที่เริ่ม-เสร็จไดงายใน Bar Chart ซึ่งเหมาะกับการ นําเสนอใหคนทั่วไปอานไดสะดวกไมมีตัวเลขมาก


22 ตอนที่ 2 การบริหารโครงการ ในการบริหารโครงการใหสําเร็จไดดี ตองมีขอมูลพื้นฐานอยางนอยดังนี้ 1. งานตามแผน (Base line) 2. เริ่มจริง (Actual Start) 3. เสร็จจริง (Actual Finish) 4. เปอรเซ็นตงาน (% progress by cost) 5. ผลงานที่ไดรับ ( Actual cost) 6. จํานวนวันที่เร็วหรือลาชาจากแผน (Finish Variance) ขั้นที่ 1 สรางงานตามแผน (Base Line) การสราง Base Line เพื่อทําใหแผนงานที่ทําไวนั้นจัดเปนแผนงานหลักที่เอาไว สําหรับเปรียบเทียบกับงานที่ทําจริง วามีความลาชาหรือเร็วกวาที่ไดวางแผนไวใน ชวงแรก ซึ่งเปนแผนที่ใชทําสัญญางาน การสราง Base Line มีวิธีการดังนี้ 1. Project 2. Set Base Line 3. OK


23 Set Baseline จะแสดงวันที่ Save Baseline แลวคลิ๊ก Entire Project (ทั้งโครงการ) บางประเด็นที่ตองการจะนําเสนอเปนชวง ๆ ก็จะใช Selected tasks หลังจากนี้ Bar Chart ที่ทํามาทั้งหมดจะเปน Base Line หรือเรียกวา Planning หรือแผนงาน สวนBar chart จะขึ้นเปนการ Update Schedule 1 2 1 2


24 ขั้นที่ 2 สราง Track Gantt เพื่อเปรียบเทียบแผนงาน (Base Line) ที่ได Save เอาไวในขั้นที่ 1 กับแผนงานให ติดตามมี Bar chart ที่เปน Critical และ ที่ไม Critical แผนงานตามแผนกับแผนทํา จริงจึงสามารถนํามาเปรียบเทียบกัน 1. Task 2. Gantt chart 3. Tracking Gantt 1 2 Tracking Gantt เริ่มตนดี มีชัยไปกวาคอน


25 รูปแบบ Tracking Gantt เปนรูปแบบ Schedule เปรียบเทียบใหเห็นชัดระหวาง แผนงานเดิมที่วางไวกับแผนงานทําจริง ซึ่งตอไปก็จะใส % Complete จะไดเห็น 2 Bar Chart จากนั้นก็ใหปรับแก Time scale ใหเปนรูปแบบเหมือนเดิม ตามรูป Bar chart แผนเดิม (Base line) สีดํา สวน Bar chart สีแดง(critical) และสี ฟา (Actual) สวน Durationจะกลายเปน Actual Duration เราสามารถเปลี่ยนสีของ Bar Chart ไดดวยเชนกัน ในครั้งแรก 2 Bar จะอยูคูกัน เมื่อ เราใสวันที่เริ่มงานจริง (Actual Start) แผนงานใหมจะขยับ การบริหารจะตองตาม คือ (1). Actual Start (2). Actual Duration Baseline (แผนงานเดิม) Critical (แผนงานวิกฤติ) Not critical (แผนงานปกติ)


26 การ Update งาน การ Update งานขอมูลที่สําคัญที่ตองใสในData Sheet คือ 1) Actual start column วันที่เริ่มจริง 2) Actual Finish: วันแลวเสร็จจริง 3) % Complete: % งานที่ทําไดจริงในกรณีที่งานยังไมเสร็จ ผูทําแผนจะตองใสวันที่เริ่มงานจริงและเสร็จจริง ในกรณีที่งานนั้นแลวเสร็จ หากยังไม เสร็จก็ใหใส % Complete ที่แสดงความกาวหนาของงาน เมื่อใสวันที่ทําจริงแลวจะ เห็นความแตกตางระหวางแผนที่วางไว(Base line-Planning) กับงานที่เริ่มทําไดจริง


27 (Actual Start – Actual Finish) ในสวนที่เปน Base line ไมสามารถเลื่อนไปมาได จะทําไดเฉพาะActual เทานั้น ซึ่งตองใสตามความจริงที่ทํางาน จากภาพงานเสาเข็มเมื่อใสวันที่แลวเสร็จ % Complete ขึ้นมาเปน 100% สวนงาน ฐานรากไดเริ่มแตยังไมแลวเสร็จก็ใส % Complete ที่ทําไดในวันที่ Update ซึ่งทํา ได 40% เมื่อตรวจสอบงาน ณ ปจจุบันพบวาแผนงานที่เริ่มตนเขางานชากวาแผน 15 วัน แตเมื่อทํางานแลวและเรงงานทําใหลดเวลาลาชาเหลือ 13 วัน การนําเสนอ % ความกาวหนาที่สัมพันธกับราคางาน ในทางเทคนิคการนําเสนอ % ความกาวหนาจะแสดง % งานที่ทําไดเกี่ยวของกับ ราคางาน ซึ่งตามโปรแกรมที่เปน % Complete เปนการคําณวนใชฐานของ ระยะเวลาในการทํางาน ไมสอดคลองกับ % งานตามราคาโดยรวม วิธีการทําใหได % โดยใชราคาเปนฐานโดยใชสูตรการคําณวนจาก Custom Field ดังนี้


28 1) Insert “Number” จะเห็นวามี Number มาก ซึ่งเขาทําไวสํารอง เผื่อใหเราประยุกตใชงานในแงอื่น ผูเขียนสามารถเปลี่ยนชื่อได โดยใชหัวขอ Field Setting เพื่อบอกจุดประสงคของผล ที่ไดมา เชน % Progress


29 1) การใสสูตรคําณวนใน Column: 1) คลิ๊กขวาที่ Number Column 2) Custom Field ทําเหมือนกับ EXCEL เลย 1 2


30 Custom attributes -> กดที่ Formular จะปรากฏสูตรที่ใชสําหรับเขียน คําสั่ง ใหใชโหมด Cost เพราะวาเราตองการหาคา % ความสัมพันธของ Cost ในหลักการนี้สามารถใชไดกับทุกรายการในการหาคาเหมือนกับการ ทํางานแบบExcel Sheet “คลิ๊ก”


31 คาที่ไดจะเปน % ของราคาที่เปนผลงานที่ทําได หลังจากที่เราไดใส % complete ซึ่งมีความสัมพันธกับ Duration และ Actual cost ในรายการยอย เราจะเห็นความ แตกตางไดชัดใน % ทั้ง 2 มิติ gเมื่อจะใหทําการแสดงผลใหคลิ๊กที่ Use Formular 1 2 Actual cost/cost *100 3 4


32 ยอดรวมของ % จะไมเทากัน เพราะมาจากคนละฐาน ในการนี้เราใชฐานของการเงิน เปนการUpdate ความกาวหนา สวน % complete จะใชเปนตัว Run งาน จากนั้ก็ เปลี่ยนชื่อ Number เปน % Progress


33 Number มีหลาย Column ที่โปรแกรมสามารถใหเรานําไปใชงานได เหมือนการ ทํางานของ Excel ที่ตั้งคาสูตรและสมการได มีประโยชนมาก สําหรับการหาคาตาง ๆ เชน อัตราคาแรงงาน อัตราคาวัสดุ การประเมินสต็อกสินคา หรืองานที่ทําได เพื่อ % ความกาวหนาของงาน จากนั้นก็ใหใชสูตรหา % งานโดย Cost ดวยวิธี 1. คลิ๊กขวาที่ชอง Number 2. Custom Field 3. ไปที่แถว Formular 4. เลื่อนลงมาอีกแถว Use Formular


34 เลือก “USE FORMULAR” ใหไปที่ Calculation for task and group summary rows คือ ในชอง Number Column จะถูกตั้งคาใหมีการคําณวน % ของงานที่ทําได เปน % ความกาวหนาของงาน ขอเพิ่มเติม การหาคา Actual Cost เปนคาที่ไดมาจากความสัมพันธของ % Complete ระยะเวลาการกอสราง เมื่อเราเอา Actual Cost มาใชงานก็จะได % งานตามฐานของเงินที่ทําได กดเพื่อให้คําสั่งมีผลทั้ง Column


35 จากรูปเราจะเห็น % Complete – 15 และ Number – 10 ซึ่งมีความสอดคลองกับ % ของราคางานที่ทําได และใหเปลี่ยนชื่อ Column Number เปน % Progress แลวยาย % Complete ไปที่ทาย เพื่อเปน Back up data ในการใส % ให Actual cost ตอไปแตจะไมโชวในการนําเสนอ หากตองการรูวาโครงการนี้ชาหรือเร็วกวาแผนเทาไหรก็สามารถทําไดโดยใช “Finish Variance”


36 จากรูปงานนี้ชาประมาณ 12.25 วัน ก็ใหถือวาเปน 13 วันทํางาน ที่เปนจุดทศนิยม เกิดจากการคําณวนของโปรแกรม 2) การใส Progress line Progress Line เปนเสนตรวจเชค Task ไหนที่มีความลาชาตอแผนงานทั้งงานที่ทํา จริงและงานตามแผน วิธีการใสเสน Progress


37 คลิ๊กขวาที่บริเวณ Gridline สวนใดก็ได เลือก Progress Line ตองการตรวจสอบแผนงานเดิม ตองการตรวจสอบแผนงานตามจริง ตั้งวันที่ตรวจสอบ


38 แสดงความลาชาของแผนเดิมเมื่อเราคลิ๊กที่ Baseline Plan แสดงความลาชาของแผนเดิมเมื่อเราคลิ๊กที่ Actual Plan


39 การปรับแกแผนงาน หลังจากที่ได Update งานแลวปรากฏวางานที่ความลาชาจากแผนงานเดิม จึงตองมี การปรับแกแผนงานเพื่อไมใหเสียคาปรับ ในกรณีสงมอบงานดวยความลาชา สิ่งที่ ตองใสเพื่อปรับแกไขงาน 1. วันที่ทําจริง ณ วันที่เริ่มปรับแผน (Actual Start) 2. ลดระยะเวลาของงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 3. ปรับการเชื่อมตอกับ Task กอนหนานั้น เชน ตามเดิม Link การตอกเข็มแลว เสร็จกอนถึงจะเริ่มงานฐานราก ก็ปรับเปนเมื่อตอกเข็มตอกไปแลว % ก็ เริ่มทําฐานรากได (แตใหดูระยะการสั่นสะเทือนจากการตอกเข็มในระหวางเท คอนกรีตดวย) ทําแบบนี้หลาย ๆ Task ก็สามารถตามทันแผนงานเดิมได


40 หลังจากปรับระยะเวลาและปรับ Link การตามงานกันก็สามารถปรับแผนงานใหมให ทันแผนงานเดิมที่ตั้งเอาไวแตแรก ซึ่งระยะเวลาที่เร็วขึ้นอาจจะตองแลกมาดวย คาใชจาย เชน เครื่องจักรที่เพิ่มขึ้น วัสดุการทํางานเชรนั่งรานไมแบบ และคนงาน หากไมสามารถเพิ่มคนงานไดทันอาจตองทํา Overtime ทั้งหมดที่กลาวมานี้เปน คาใชจายเพื่อเรงการทํางาน แผนงานที่ลาชา ปรับแกโดยลดระยะใหนอยลง


41 เทคนิคการใชคําสั่งพิมพ เตรื่อง Print คําสั่งพิมพตั้งแตวันที่ ถึง วันที่ ขนาดกระดาษ แนวตั้ง/แนวนอน


42 การจัดทายกระดาษ การจัดหัวกระดาษ การตั้งระขอบ การจัดหนากระดาษ การอธิยายรูปแบบTask การแสดงเนื้อหาที่ตองการแสดง


43 การตั้งหัวและทายกระดาษทําเหมือนโปรแกรม Excel เชน การจัด Front การแทรก ภาพโลโกบริษัท, เลขที่หนา, จํานวนหนา ไฟล หัวกระดาษ ทายกระดาษ การตั้งหัวกระดาษและทายกระดาษ


44 การใส Legend คืออธิบายสัญลักษณของเครื่องหมายใน Bar Chart ซึ่งมีเปนจํานวนมาก เราสามารถ Cut Row ที่ไมเกี่ยวของออกไปได หากเราไม Cut row ออกไป เครื่องหมายจะมาทั้ง Package ดังนั้นเราจึงตองเขาไปที่ Bar Style แลว Cut row ตามความตองการของเรา ใส Legend ทุกแผน แยกเฉพาะแผน Legend ไมใสLegend


45 วิธีการ Cut Row: Bar style – cut row


46 เก็บตก การนําเสนอรูปแบบที่สวยงามสื่อสารใหผูอานเขาใจงายเปนสิ่งที่ตองทํา อยางมี มาตรฐาน ดวยเหตุนี้อาจตองจัดรูปแบบเสริมไดเชนกัน 1. การใสขอความหนา Task 2. การตั้งความกวางของ Bar Chart 3. การจัด Time scale 4. การใสชองานและชองที่ควรนําเสนอ


Click to View FlipBook Version