The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือสนุกคิดวิทย์สร้างสรรค์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pimkeylovecover, 2021-04-09 03:12:46

สนุกคิด วิทย์สร้างสรรค์

หนังสือสนุกคิดวิทย์สร้างสรรค์

3. บทบำทของครตู ่อกำรส่งเสรมิ ทกั ษะกระบวนกำร
ทำงวิทยำศำสตรข์ น้ั พนื้ ฐำนสำหรบั เดก็ ปฐมวยั

ดำรำรัตน์ อุทยั พยคั ฆ์ (2558 : หน้ำ 1) ได้กล่ำวถึง ครปู ฐมวยั มี
ควำมสำคญั เป็นอยำ่ งยงิ่ ในกำรฝึกทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
ข้ันพ้นื ฐำนใหก้ ับเด็ก จำเป็นต้องมบี ทบำทในกำรดำเนนิ กำรจัด
ประสบกำรณ์ ดังนี้
• เตรียมประสบกำรณ์ทำงวิทยำศำสตร์และเลือกสรรกิจกรรมท่ี

เหมำะสมกับเดก็ ปฐมวัย เดก็ สำมำรถเรียนรู้จำกกำรปฏิบัติได้เตม็ ท่ี
• ส่งเสริมให้เด็กได้สำรวจ ค้นคว้ำ เพื่อนำไปสู่กำรค้นพบสิ่งใหม่ๆ

โดยกำรกระตุ้นให้เด็กได้คิด ทดลอง ได้มีจนิ ตนำกำร เปน็ ต้น
• จัดสภำพแวดล้อมในห้องเรียน มีกำรจัดเป็นมุมวิทยำศำสตร์และ

ส่งเสริมให้เด็กได้เข้ำไปปฏิบัติกิจกรรม ซ่ึงครูจะต้องคอยเปลี่ยน
วัสดุและส่อื ต่ำงๆ
• เดก็ จะต้องไดร้ บั กำรฝึกทกั ษะต่ำงๆ ในทำงวิทยำศำสตร์จำกกำรทำ
กิจกรรมหรือประสบกำรณ์ท่ีครูจัดให้ เช่น ทักษะกำรสังเกต
กำรวัด กำรจำแนก กำรพยำกรณ์ เปน็ ต้น
• ครคู อยแนะนำวสั ดุ อปุ กรณ์ วิทยำศำสตร์เพื่อให้เดก็ สนใจและ
อยำกทำกจิ กรรม พร้อมท้ังครจู ะต้องสงั เกตพฤตกิ รรมของเดก็
อย่ำงใกลช้ ดิ

43

สรุปทำ้ ยบท

กำรจัดสภำพแวดล้อมในสถำนศกึ ษำ บทบำทของครู ผู้ปกครอง มีผล
ต่ อ ก ำ ร ส่ ง เ ส ริ ม ทั ก ษ ะ ก ร ะ บ ว น ก ำ ร วิ ท ย ำ ศ ำ ส ต ร์ ข อ ง เ ด็ ก ป ฐ ม วั ย
กำรส่งเสริมทักษะกระบวนกำรวิทยำศำสตร์เด็กปฐมวัยได้น้ัน ต้องมีกำร
จั ด เ ต รี ย ม สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม อ ย่ ำ ง เ ห ม ำ ะ ส ม ต ำ ม ค ว ำ ม ต้ อ ง ก ำ ร ข อ ง เ ด็ ก
จำเป็นต้องจัดสภำพแวดล้อมและสื่อเพื่อกำรจัดประสบกำรณ์ทำง
วิทยำศำสตร์ในสถำนศึกษำให้สอดคล้องกับสภำพและควำมต้องกำรของ
หลกั สูตร เพือ่ ส่งผลใหบ้ รรลุในกำรพัฒนำเด็ก โดยแบ่งเป็น สภำพแวดล้อม
ภำยในห้องเรียนที่มีพื้นที่อำนวยควำมสะดวกเพื่อเด็กและครู มีพื้นที่ปฏิบัติ
กิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นที่จัดมุมเล่นหรือมุมประสบกำรณ์ และ
สภำพแวดล้อมนอกห้องเรียนเพื่อเอื้อต่อกำรเรียนรู้ สนำมเด็กเล่น พื้นที่
สำหรับวิ่งเพียงพอ โต๊ะม้ำหินอ่อน มีธรรมชำติสำหรับปลูกดอกไม้และ
พืชผัก บทบำทของพ่อแม่ผู้ปกครองมีบทบำทสำคัญช่วยให้เด็กได้เรียนรู้
ได้สังเกตสิ่งแวดล้อมต่ำงๆ ที่อยู่รอบตัวหรืออำจเป็นสิ่งที่ปฏิบัติอยู่ใน
ชีวิตประจำวันพ่อแม่ต้องสังเกตควำมสนใจของเด็กและส่งเสริมให้เด็กได้
ค้นคว้ำทดลองเพื่อเพิ่มประสบกำรณ์ทำงวิทยำศำสตร์ให้เด็กปฐมวัย
บทบำทของครู คือ จัดห้องเรียนให้อบอุ่นมีควำมเหมำะสมแก่กำรส่งเสริม
กำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์

44

บทที่ 5
ตัวอย่ำงกิจกรรม
ที่ส่งเสริมทกั ษะกระบวนกำร
ทำงวิทยำศำสตร์
ข้นั พื้นฐำนสำหรับเดก็ ปฐมวยั

ตวั อย่ำงกจิ กรรมที่ 1
“ของเล่นสมดุล”

1 จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

1. เดก็ สำมำรถสังเกตและเปรียบเทียบน้ำหนักของผกั -ผลไม้ทีน่ ำมำใช้ในกำรทดลองได้
2. เดก็ สำมำรถจำแนกควำมแตกต่ำงขนำดของผัก-ผลไม้ทีน่ ำมำใช้ในกำรทดลองได้
3. เดก็ สำมำรถสร้ำงสรรค์ผลงำนตำมจนิ ตนำกำรได้

46

ประสบกำรณส์ ำคัญ

ด้ำนร่ำงกำย
- กำรเขียนภำพและกำรเล่นกบั สี
- กำรหยิบจับ กำรใชก้ รรไกร

ด้ำนอำรมณ-์ จติ ใจ
- กำรทำกิจกรรมศิลปะตำ่ งๆ
- กำรสรำ้ งสรรคส์ ิง่ ที่สวยงำม

ด้ำนสังคม

- กำรทำงำนที่ได้รบั มอบหมำยจนสำเรจ็
ด้วยตนเอง

ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- กำรเปรียบเทียบและเรียงลำดบั จำนวน
ของสง่ิ ตำ่ งๆ
- กำรคำดเดำหรอื คำดคะเนสิ่งทีอ่ ำจจะเกิดขึ้น
อย่ำงมีเหตุผล

47

อุปกรณ์

1. ผัก ผลไม้ตำมทมี่ ี

2. สี 3. ดินสอ 4. กรรไกร

5. กำว 2 หน้ำแบบำง 6. กระดำษ A4

7. ไม้เสียบแบบยำว 8. ไม้เสียบแบบยำว
ขนำด 5 เซนติเมตร 2 ชิน้ ขนำด 3 เซนติเมตร 1 ชิน้

48

ข้ันตอนกำรจดั กจิ กรรม
1 เด็กๆ วำดภำพตัวกำร์ตูนที่ตนเองชอบคนละ 1 ภำพ

ตกแต่งระบำยสีตำมจนิ ตนำกำร

2 เมอ่ื ได้ภำพทีต่ นเองชอบแล้วใหน้ ำภำพ

มำตดั เปน็ รปู ร่ำง

3 นำภำพวำดกำร์ตูนที่ตัดเสร็จแล้ว

มำวำดบนกระดำษเปล่ำตำมโครงร่ำง
ขอบตัวกำร์ตนู และตัดออกมำ

49

ขั้นตอขนั้นกตำอรนจกดั ำกรจิจดักกรจริ มกรรม

4 ใช้เทปกำวติดด้ำนหลงั ตัวกำร์ตูน

5 จ ำ ก นั้ น น ำ ไ ม้ เ สี ย บ ที่ เ ต รี ย ม ไ ว้ คื อ ไ ม้ เ สี ย บ แ บ บ ย ำ ว ข น ำ ด

5 เซนติเมตร 2 ชิ้น และไม้เสียบแบบสั้น ขนำด 3 เซนติเมตร 1 ชิ้น
จำกนั้นใช้ไม้เสียบแบบยำวไปติดที่กำวสองหน้ำชิ้นละฝ่ัง (จุดA,จุด B)
ปลำยด้ำนบนของไม้จะเอียงเข้ำหำกันตรงกลำงตัวกำร์ตูน และใช้ไม้แบบ
ส้ันตดิ ลงทีจ่ ดุ กึ่งกลำงของตวั กำรต์ นู

50 A B

ขั้นตอนกำรจดั กจิ กรรม

6 นำกระดำษที่ตดั ตำมโครงร่ำงของตัวกำร์ตนู มำติดประกบกบั
ตุ๊กตำทีม่ กี ำว 2 หนำ้ อยู่ จำกน้ันนำตุ๊กตำที่ทำเสรจ็ แล้วมำลอง
วำงบนน้วิ มือ (ให้เด็กได้สงั เกต)

7 เด็กเริ่มทดลองโดยกำรเลือกผลไม้ที่มอี ยู่แตล่ ะชนิดไปถ่วงน้ำหนัก
ให้ขำตกุ๊ ตำทีจ่ ุด A และ จดุ B เดก็ ๆ ลองทำกำรทดลองว่ำ ผัก-ผลไม้
คู่ไหนทำให้ตกุ๊ ตำสมดุลต้ังตรงได้บ้ำง

B
A BA

51

สรุปกำรทดลอง

ตุ๊กตำทีเ่ รำออกแบบมำเล่นเป็นตุ๊กตำสมดุลที่มจี ดุ สำคัญทีท่ ำให้ตุ๊กตำ
เกิดควำมสำคญั อยู่ 2 จุด คือ

1. ขำตรงกลำงซึง่ เป็นจุดรวมนำ้ หนกั ของวตั ถเุ รำเรียกจดุ นีว้ ่ำ
จุดศนู ยถ์ ว่ ง

2. ขำด้ำนข้ำง 2 ขำเป็น จดุ ถ่วงนำ้ หนัก
หำกเรำใส่ของที่มีน้ำหนักเท่ำกันที่จุดถ่วงน้ำหนักตุ๊กตำของเรำซึ่ง
มีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ตรงกลำงจะต้ังตรงเน่ืองจำกเกิดควำมสมดุลของน้ำหนัก
ทั้ง 2 ข้ำง แต่ถ้ำหำกเรำใส่ของที่มีน้ำหนักต่ำงกันที่จุดถ่วงน้ำหนัก
(กรณีที่เรำไม่ขยับจุดศนู ย์ถ่วง) จะมีควำมเปน็ ไปได้ 2 กรณี คอื
1. ของที่น้ำหนักไม่ต่ำงกันมำกตุ๊กตำสมดุลจำกเตียงไปทำงด้ำนที่มี
น้ำหนักมำกกว่ำ
2. ของที่มีน้ำหนักต่ำงกันมำกๆ ตุ๊กตำสมดุลจะไม่สำมำรถรักษำสภำพ
สมดลุ ไว้ได้จะเกิดกำรหมุนและตกลงมำจำกจุดทีว่ ำงไว้

ทำไม... ผัก-ผลไมท้ เี่ รำเอำมำตดิ กบั ขำตกุ๊ ตำถึง
ทำให้ตวั ตกุ๊ ตำตง้ั ตรงหรอื เอยี งไดน้ ะ...?

52

ตวั อย่ำงกจิ กรรมที่ 2
“แม่เหลก็ หรรษำ”

จุดประสงค์กำรเรยี นรู้

1. เดก็ สำมำรถสังเกตกำรเคลื่อนไหวของทิศทำงแมเ่ หล็กได้
2. เดก็ สำมำรถสร้ำงสรรค์ผลงำนตำมจนิ ตนำกำรได้

53

ประสบกำรณส์ ำคญั

ด้ำนร่ำงกำย

- กำรเขียนภำพและกำรเล่นกบั สี

- กำรหยิบจับ กำรใชก้ รรไกร

ด้ำนอำรมณ-์ จติ ใจ
- กำรทำกิจกรรมศิลปะตำ่ งๆ
- กำรสรำ้ งสรรคส์ ิ่งทีส่ วยงำม

ด้ำนสังคม

- กำรทำงำนทีไ่ ด้รับมอบหมำยจนสำเร็จ
ด้วยตนเอง

ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- กำรคำดเดำหรอื คำดคะเนส่ิงทีอ่ ำจจะเกิดขนึ้
อย่ำงมเี หตุผล

54

อปุ กรณ์

1. แม่เหลก็ 2.ไม้ไอศกรมี 3. กรรไกร

4. เทปกำว 2 หน้ำแบบำง 5. โฟมทรงกลม 2 ขนำด

6. ปำกกำสี 7. กระดำษสี 8. ลวดกำมะหยี่

9. ฝำกล่องกระดำษ 10. ต้นสนสำหรบั ตกแต่ง 11. สำลีก้อน

55

ขั้นตอนกำรจัดกจิ กรรม
1 ใช้กำว 2 หนำ้ แบบบำงตดิ โฟมทรงกลม 2 ขนำดเข้ำด้วยกัน

2 ใช้ปำกกำสีวำดรูปหนำ้ ตำ

และชุดของมนษุ ย์หิมะ

56

ข้ันตอนกำขร้ันจตดั อกนจิกกำรรจรดัมกจิ กรรม

3 ใชล้ วดกำมะหยี่ดดั ตกแต่งเปน็ แขน

และจมกู

4 ตดั กระดำษสี ประกอบเปน็ หมวก และใชค้ ตั เตอร์กรีดบริเวณหัวตำมรอย

และเสียบหมวกกระดำษ

57

ขั้นตอนกำขรั้นจตดัอกนจิกกำรรจรัดมกจิ กรรม

5 ติดแม่เหลก็ ก้อนแรกทีใ่ ต้ตวั มนษุ ย์หิมะ

6 ติดแม่เหลก็ ก้อนที่ 2 บนไม้ไอศกรีม

58

ข้ันตอนกำขรั้นจตดัอกนจิกกำรรจรัดมกจิ กรรม

7 ตกแต่งฝำกล่องกระดำษให้ดูคล้ำยดินแดนหิมะ

8 วำงมนุษย์หิมะทีด่ ำ้ นบนฝำกล่อง แล้วสอดไม้ไอศกรีมที่ด้ำนล่ำง

จำกน้ันเริ่มขยับเคลื่อนที่ไม้ไอศกรีมแล้วสังเกตกำรเคลื่อนไหวของ
ตุ๊กตำหิมะ

59

สรุปกำรทดลอง

“มนษุ ย์หิมะเคลื่อนที่เพรำะ แมเ่ หลก็ นั่นเอง”
แมเ่ หลก็ (Magnet) คือวตั ถุชนดิ หนง่ึ ทีม่ คี ณุ สมบตั ิดึงดูดเหลก็ ได้
แมเ่ หล็กมี 2 ขั้ว คือ

1. ข้ัวเหนอื (N)
2. ข้ัวใต้ (S)
• ถ้ำหนั ขั้วแม่เหลก็ ข้ัวเดียวกันเข้ำหำกัน แมเ่ หล็กท้ังสองจะผลักออก
จำกกนั
• ถ้ำหนั ข้ัวแมเ่ หลก็ ที่ต่ำงกันเข้ำหำกัน แม่เหล็กท้ังสองจะดูดเข้ำหำกัน

ทำไม...มนษุ ยห์ มิ ะถงึ เคลอื่ นทไี่ ดน้ ะ..?

60

ตวั อย่ำงกจิ กรรมที่ 3
“ภำพสลบั ด้ำน”

ประสบกำรณส์ ำคญั

จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

1. เด็กสำมำรถเรียนรเู้ ลนส์นูนและเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นจำกกำรหักเหของแสง
จำกผลกำรทดลองได้

2. เดก็ สำมำรถสังเกตกำรเปลี่ยนแปลงของภำพที่เกิดขึน้ จำกกำรทดลองได้
3. เด็กสำมำรถเปรียบเทียบขนำดของภำพทีเ่ กิดขึน้ จำกกำรทดลองได้

61

ประสบกำรณส์ ำคัญ

ด้ำนร่ำงกำย
- กำรเขียนภำพและกำรเล่นกับสี
- กำรหยิบจับ กำรใชก้ รรไกร

ด้ำนอำรมณ์-จติ ใจ
- กำรทำกิจกรรมศลิ ปะต่ำงๆ
- กำรสรำ้ งสรรคส์ ิง่ ที่สวยงำม

ด้ำนสงั คม
- กำรทำงำนที่ได้รับมอบหมำยจนสำเรจ็ ด้วยตนเอง

ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- กำรทำซ้ำ กำรตอ่ เติม และกำรสรำ้ งแบบรูป
- กำรเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนของสิ่งต่ำงๆ
- กำรคำดเดำหรือคำดคะเนสิ่งทีอ่ ำจจะเกิดขึ้นอย่ำงมีเหตุผล
- กำรตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนกำรแก้ปญั หำ

62

อุปกรณ์

1. แก้วนำ้ ใสทรงกระบอก 2. แก้วน้ำใสทรงสีเ่ หลยี่ ม

3. ภำพกำร์ตนู 4. น้ำ

5. สี 6. กรรไกร

7. เทปกำวใส

63

ขั้นตอนกำรจดั กจิ กรรม

1 เดก็ ๆ เลือกภำพตัวกำร์ตนู ทีต่ นเองชอบคนละ 1 ภำพ

เมื่อได้ภำพที่ตนเองชอบ แล้วระบำยสีใหส้ วยงำม จำกนั้น
นำภำพมำตดั เป็นรูปร่ำง

2 ตดิ เทปกำวใสหลังภำพ แลว้ นำภำพไป

ติดที่ปลำยดินสอ

64

ข้ันตอนกำรจัดกจิ กรรม

3 เด็กๆ ทำกำรทดลองโดยนำภำพของตนเอง

เคลือ่ นผำ่ นด้ำนหลัง แก้วน้ำทรงกระบอก
ที่ไม่มีนำ้ แล้วให้เดก็ ๆ สังเกตกำรทดลองที่
เกิดข้ึน

4 เดก็ ๆ เทน้ำเปล่ำลงไปในแก้วทรงกระบอกให้

เต็มแก้ว แลว้ ทำกำรทดลองโดยนำภำพของ
ตนเองเคลื่อนผ่ำนด้ำนหลงั แก้วน้ำทีม่ นี ้ำ
แล้วให้เด็กๆ ช่วยกันสังเกตกำรทดลองทีเ่ กิดขึน้

5 เด็กๆ ทำกำรทดลองโดยนำภำพของ

ตนเองเคล่ือนผ่ำนด้ำนหลังแก้วน้ำทรง
สี่เหลีย่ มที่มีน้ำแล้วให้เด็กๆ ช่วยกันสังเกต
และเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของกำร
ทดลองทีเ่ กิดข้ึนในแตล่ ะครงั้

65

สรปุ กำรทดลอง

เม่ือเรำเติมน้ำลงไปในแก้วน้ำทรงกระบอก ซึ่งมีควำมโค้งจะทำให้เกิด
เลนส์นูนขึ้นจึงทำให้เม่ือเรำมองภำพผ่ำนแก้วน้ำ จะเกิดกำรหักเหของแสง
ผำ่ นแก้วน้ำทรงกระบอก ซึ่งทำให้เรำเห็นภำพจริงหัวกลับ (สลับด้ำนซ้ำย - ขวำ)
นอกจำกน้ัน ยิง่ เรำขยับภำพเข้ำใกล้แก้วน้ำ เรำก็จะเห็นภำพมีลักษณะยืดใหญ่ขึ้น
เมือ่ ขยบั ห่ำงออกไปกจ็ ะทำให้ภำพของเรำเลก็ ลงอีกด้วย

เกิดอะไรขนึ้ เมื่อเรำเติมนำ้ ลงไปในแกว้
ทำไม...เจำ้ นำงเหงือก จึงว่ำยนำ้ สลบั ดำ้ นนะ... ?

66

ตัวอย่ำงกจิ กรรมที่ 4
“ไข่ล้มลกุ ”

จุดประสงค์กำรเรยี นรู้

1. เด็กสำมำรถสังเกตกำรล้มลุกและกำรโยกของไข่ได้
2. เด็กสำมำรถสังเกตและจำแนกลักษณะของไข่ได้
3. เดก็ สำมำรถเปรียบเทียบขนำดของไข่ และปริมำณวสั ดุที่เกิดขึน้ จำกกำรทดลองได้
4. เดก็ สำมำรถสร้ำงสรรค์ผลงำนตำมจนิ ตนำกำรได้

67

ประสบกำรณส์ ำคัญ

ด้ำนร่ำงกำย
- กำรเขยี นภำพและกำรเล่นกบั สี
- กำรหยิบจบั กำรใชก้ รรไกร กำรฉีก กำรตดั กำรปะ

ด้ำนอำรมณ-์ จติ ใจ
- กำรทำกิจกรรมศลิ ปะต่ำงๆ
- กำรสรำ้ งสรรคส์ ิ่งทีส่ วยงำม
- กำรพูดสะท้อนควำมรู้สกึ ของตนเองและผู้อืน่
- กำรทำงำนศลิ ปะ

ด้ำนสงั คม
- กำรร่วมกำหนดข้อตกลงของหอ้ งเรียน
- กำรเล่นหรือทำกจิ กรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน

หล6ำก8หลำย ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- กำรทำซำ้ กำรต่อเติม และกำรสร้ำงแบบรปู
- กำรเปรียบเทียบและเรยี งลำดบั จำนวนของสงิ่ ตำ่ งๆ
- กำรจับคู่ กำรเปรียบเทียบ และกำรเรยี งลำดบั สงิ่ ตำ่ งๆ
ตำมลกั ษณะควำมยำว/ควำมสูง น้ำหนัก ปรมิ ำตร
- กำรตดั สินใจและมสี ่วนร่วมในกระบวนกำรแก้ปัญหำ
- กำรสร้ำงสรรค์ชิน้ งำนโดยใชร้ ูปรำ่ งรปู ทรงจำกวสั ดทุ ่ี

อุปกรณ์

1. ไข่ไก่ 2. ไข่เปด็
(ที่เจำะรนู ำเนอื้ ไขอ่ อกแล้ว) (ทเี่ จำะรนู ำเนอื้ ไขอ่ อกแล้ว)

3. กระดำษสี 4. ดินน้ำมนั

5. กำว 6. ข้ำวเปลอื ก

7. ทรำย 69

ข้ันตอนกำรจดั กจิ กรรม

1 เด็กๆ เลือกไข่ที่ตนเองสนใจคนละ 1 ฟอง

ได้แก่ ไข่ไก่ และไข่เปด็

2 ให้เด็กๆ หยดกำวลงไปในไข่เล็กน้อย

จ ำ ก น้ั น เ ลื อ ก วั ส ดุ อ ย่ ำ ง ใ ด
อย่ำงหน่ึงที่จัดเตรียมไว้ให้ ได้แก่ ทรำย
เมลด็ ข้ำวเปลือก และดนิ น้ำมนั ใส่ลงไป
ในไข่ และตกแต่งให้สวยงำม

3 เมื่อทำกำรตกแตง่ เสรจ็ แล้ว ให้ทำกำรทดลองโดย

นำไข่วำงไว้บนโต๊ะแลว้ สงั เกต กำรลม้ ลุกและกำร
โยกของไข่

70

สรปุ กำรทดลอง

ถ้ำไม่มีวัสดุอยู่ในฐำนของไข่ จุดศูนย์ถ่วงก็จะอยู่ที่กลำงลำตัว ควำมถ่วง
ทีก่ ระทำต่อส่วนหัวและฐำนจะเท่ำกัน ดงั นั้น ไข่จงึ ล้มนอนลง แต่เมื่อเรำใส่วัสดุลง
ในไข่ จุดศูนย์ถ่วงและควำมถ่วงจะอยู่ที่ฐำนของไข่จึงทำให้ไข่ตั้งขึ้น ถ้ำเรำลอง
ผลักไข่ ควำมถ่วงยงั คงอยู่ที่ส่วนฐำนของไข่ ดังนนั้ ส่วนฐำนจึงอยู่กับที่และส่วนหัว
จะดีดตัวขนึ้ มำเสมอ

ทำไม...ไขถ่ งึ ล้มลกุ ไดน้ ะ... ?

71

ตัวอย่ำงกจิ กรรมที่ 5
“สำรสใี นใบไม”้

จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

1. เดก็ สำมำรถสังเกตกำรดูดซึมของสีจำกกำรทดลองได้
2. เด็กสำมำรถจำแนกสีของใบไม้แตล่ ะชนิดได้
3. เด็กสำมำรถเปรียบเทียบกำรดดู ซึมของสำรสีบนกระดำษกรองของใบไม้

แตล่ ะชนิดได้

72

ประสบกำรณส์ ำคญั

ด้ำนร่ำงกำย
- กำรหยิบจับ กำรใชก้ รรไกร กำรตัด

ด้ำนอำรมณ์ – จิตใจ
- กำรปฏิบัติกิจกรรมตำ่ งๆ ตำมควำมสำมำรถของตน

ด้ำนสังคม
- กำรเล่นหรือทำกจิ กรรมร่วมกบั กลุ่มเพือ่ น

ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- กำรสงั เกตลักษณะ ส่วนประกอบ กำรเปลี่ยนแปลง และควำมสมั พันธ์

ของสง่ิ ตำ่ งๆ โดยใช้ประสำทสัมผสั อย่ำงเหมำะสม
- กำรคัดแยก กำรจดั กลุ่มและกำรจำแนกสิ่งต่ำงๆ ตำมลกั ษณะและ

รปู ร่ำงรูปทรง
- กำรชงั่ ตวง วัดสิง่ ตำ่ งๆ โดยใช้เคร่ืองมอื และหนว่ ยที่ไม่ใชห่ นว่ ย

มำตรฐำน

73

อุปกรณ์

1. ใบไมส้ ตี ่ำงๆ 2. เหรียญสบิ บำท 3. กระดำษกรอง

4. แก้วทรงกระบอก 5. ตะเกียบ 6. แอลกอฮอล์ 95 %

7. ไม้บรรทดั 8. ดินสอ 9. เทปกำวใส

74

ข้ันตอนกำรจดั กจิ กรรม

1 ให้เด็กจำแนกใบไม้แต่ชนิด โดยจำแนกตำมสีของ
ใ บ ไ ม้ จ ำ ก นั้ น ใ ห้ น ำ ก ร ะ ด ำ ษ ก ร อ ง ข น ำ ด
สี่เหลี่ยมผืนผ้ำ ขนำด 10 x 2 เซนติเมตร ที่เตรียม
ไว้มำขีดเส้นตรงในแนวขวำงห่ำงจำกจุดเริ่มต้น
2 เซนติเมตร เพื่อให้เปน็ เส้นตรงอ้ำงอิงตำแหน่งขีด
ใบไม้

2 ตดั กระดำษกรองขนำดสี่เหลีย่ มผนื ผ้ำ
ขนำด 10 X 2 เซนติเมตร ขดี เส้นในแนวขวำง
หำ่ งจำกจดุ เริ่มต้น 2 เซนติเมตร

3 ให้เด็กๆ เลือกใบไม้ที่ตนเองสนใจคนละ 1 ใบ
แล้วนำใบไม้มำวำงไว้บนกระดำษให้ตรงกับ
ตำแหน่งที่ขีดเส้นไว้ แล้วใช้เหรียญสิบขีดทับตรง
ใบไม้ให้เป็นเส้นตรง ขีดทับตรงจุดเดิมอย่ำงน้อย
5 คร้ัง

75

ขั้นตอนกำรจดั กจิ กรรม

4 นำกระดำษกรองที่ขีดแล้วเกิดสีนำปลำยอีก
ด้ำนไปพันกับตะเกียบโดยใช้เทปกำวใสยึดไว้
ไม่ให้หลุด

5 เติมแอลกอฮอล์ลงในถ้วยพลำสตกิ ใส
สูงจำกก้นถ้วยประมำณ
1.5 เซนติเมตร

6 จำกนั้นให้เดก็ ๆ นำกระดำษกรองจมุ่
ลงในถ้วยแอลกอฮอล์ ต้ังทิง้ ไว้
ประมำณ 10 – 15 นำที

76

ข้ันตอนกำรจัดกจิ กรรม

7 จำกนั้นใหเ้ ด็กๆ นำกระดำษ
กรองจมุ่ ลงในถ้วยแอลกอฮอล์ ตั้งทิง้ ไว้
ประมำณ 10 – 15 นำที

8 ให้เด็กๆ สังเกตกำรเปลี่ยนแปลง
ของสที ี่เกิดขึน้ บนกระดำษกรองและเปรียบเทียบ
สีทีเ่ กิดข้ึนบนกระดำษกรองของใบไม้แตล่ ะชนิด

77

สรปุ กำรทดลอง

ใบไม้ที่มีได้หลำยสีที่เห็นในธรรมชำติ ส่วนใหญ่ที่เห็นน่ำจะเป็นใบไม้
เป็นสีเขียว เพรำะว่ำในใบไม้มสี ำรสีเขียว ซึ่งช่วยทำหน้ำที่สร้ำงให้กับพืช แต่ก็มี
ใบพืชหลำยชนิดที่ไม่ได้มีสีเขียวอย่ำงเดียวและมีได้หลำยสีซึ่งใบไม้เหล่ำนั้น
ก็สำมำรถสร้ำงอำหำรได้เช่นกัน แถบสีที่ปรำกฏบนกระดำษกรองก็คือ สำรสี
ทีอ่ ยู่ในพืชซึง่ เรำสำมำรถสกัดออกมำด้วยแอลกอฮอล์ สำรสีแต่ละชนิดในใบไม้
สำมำรถเคลื่อนที่ไปบนกระดำษกรองได้มำกน้อยแตกต่ำงกัน และช้ำเร็ว
แตกต่ำงกันด้วย สำรสีที่ละลำยในตัวทำละลำยได้ดีและถูกดูดซับน้อย
จะเคลือ่ นทีอ่ อกมำก่อนและเคลือ่ นที่ไปได้ไกล ส่วนสำรที่ละลำยได้น้อยและถูก
ดูดซับได้ดีจะออกมำทีหลังและเคลื่อนที่ออกไปไม่ไกล ใบไม้ส่วนใหญ่มีสำรสี
มำกกว่ำ 1 สี ดังจะเห็นเป็นแถบสีหลำยแถบแตกต่ำงกัน ใบไม้ที่เห็นเป็นสีเขียว
จะปรำกฏแถบสีเขียวขึ้นชัดเจน ส่วนใบไม้ที่มีหลำยสีจะปรำกฏแถบสีหลำย
แถบชดั เจนเชน่ กนั

ทำไม...สขี องใบไมท้ อี่ ยบู่ นกระดำษ
ถึงเคลือ่ นทไี่ ดน้ ะ...?

78

ตัวอย่ำงกจิ กรร”มที่ 6
“ดอกไมบ้ ำน

จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้

1. เด็กสำมำรถสงั เกตและจำแนกชนิดของกระดำษที่สง่ ผลตอ่ กำรบำนของ
กระดำษดอกไม้ได้

2. เดก็ สำมำรถวดั ขนำดของกระดำษดอกไม้ที่สง่ ผลต่อกำรบำนของกระดำษ
ดอกไมไ้ ด้

3. เด็กสำมำรถสร้ำงสรรค์ผลงำนในกำรทดลองได้

79

ประสบกำรณส์ ำคญั

ด้ำนร่ำงกำย
- กำรหยิบจับ กำรใชก้ รรไกร กำรตัด

ด้ำนอำรมณ์ – จิตใจ
-กำรทำกิจกรรมศิลปะตำ่ งๆ
- กำรสร้ำงสรรค์ส่งิ ที่สวยงำม
- กำรพดู สะท้อนควำมรู้สกึ ของตนเองและผู้อืน่

ด้ำนสงั คม
- กำรรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงของห้องเรียน
- กำรเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพ่ือน

ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- กำรเปรียบเทียบและเรียงลำดบั จำนวนของส่ิงต่ำงๆ
- กำรคำดเดำหรอื คำดคะเนสิ่งที่อำจจะเกิดขนึ้ อย่ำงมีเหตุผล
- กำรตดั สินใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนกำรแก้ปญั หำ

80

อุปกรณ์

1. กระดำษแกว้ 2. กะละมัง

3. กระดำษฟลอยด์ 4. กำว

5. กระดำษสี 6. กรรไกร

81

ข้ันตอนกำรจัดกจิ กรรม

1. ตัดดอกไม้จำกกระดำษสี กระดำษฟลอยด์ และกระดำษแก้วเป็นรูป
สี่เหลี่ยม จำกนั้นพับเป็นรูปสำมเหลี่ยม แล้วตัดเป็นกลีบดดอกไม้ คลำย
ออกแล้วพบั กลีบดอกไม้เข้ำหำกนั

2. เด็กทำกำรทดลองโดยนำดอกไมท้ ี่ตนเองประดิษฐ์ลงไปใส่ในกะละมังที่ใส่นำ้ ไว้
แล้วสังเกตกำรเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดขึน้ จำกกำรทดลอง

82

สรปุ กำรทดลอง

ดอกไม้แตล่ ะดอกทำไมใช้ระยะเวลำในกำรบำนต่ำงกันวัสดุแต่ละชนิดมี
คณุ สมบัติกำรดูดซับน้ำแตกต่ำงกัน ในกำรทดลองน้ี กระดำษมีคุณสมบัติใน
กำรดูดซับน้ำได้ดี(absorbent) เนือ่ งจำกภำยในเนื้อของกระดำษมีช่องว่ำงของ
เส้นใยที่ทำให้น้ำสำมำรถผ่ำนได้ง่ำยและรวดเร็ว เม่ือน้ำเคลื่อนที่ไปบริเวณ
รอยพับกระดำษ รอยพบั จะคลำยออก ทำให้ดูคล้ำยดอกไม้บำน

ทำไม...ดอกไมแ้ ต่ละดอก ถึงใช้เวลำบำน
แตกต่ำงกนั นะ...?

83

ตัวอย่ำงกจิ กรรมที่ 7
“หลอดดำน้ำ”

จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

1. เด็กสำมำรถสังเกตกำรจม-กำรลอยของหลอดดำน้ำได้
2. เดก็ สำมำรถสร้ำงสรรค์ผลงำนในกำรทดลอง

84

ประสบกำรณส์ ำคัญ

ด้ำนร่ำงกำย
- กำรปั้น
- กำรหยิบจับ กำรใชก้ รรไกร

ด้ำนอำรมณ์ – จิตใจ
- กำรทำกิจกรรมศิลปะตำ่ งๆ
- กำรสรำ้ งสรรคส์ ิ่งทีส่ วยงำม
- กำรพูดสะท้อนควำมรสู้ ึกของตนเองและผู้อน่ื

ด้ำนสังคม
- กำรเล่นหรือทำกจิ กรรมร่วมกบั กลุ่มเพือ่ น

ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- กำรเปรียบเทียบและเรียงลำดบั จำนวนของส่ิงต่ำงๆ
- กำรคำดเดำหรอื คำดคะเนส่ิงทีอ่ ำจจะเกิดขนึ้ อย่ำงมี

เหตุผล
- กำรตัดสินใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนกำรแก้ปญั หำ

85

อุปกรณ์

1. กรรไกร 2. หลอดดดู นำ้

3. คลิปหนบี กระดำษ 4. ดินน้ำมนั

5. ภำพวำดกำรต์ นู 6. ขวดน้ำ

7. สี

86

ขั้นตอนกำรจดั กจิ กรรม

1. เด็กลงมอื ปั้นดินนำ้ มนั เปน็ ก้อนกลม
ขนำดเล็กพอดี

2. หกั ครึง่ หลอดโดยใชค้ ลิปหนีบกระดำษหนีบเช่อื มปลำยหลอด
ท้ัง 2 หลอด นำปลำยคลิปไปเสียบกับดินนำ้ มัน จำกน้ันตกแต่งให้
สวยงำมตำมจนิ ตนำกำร

3. เดก็ นำอุปกรณ์ไปทดลองกับขวดน้ำทีเ่ ติมน้ำไว้
เตม็ ขวด โดยใหเ้ ดก็ สงั เกตกำรจมกำรลอยของ
หลอดดำนำ้ โดยกำรบีบขวดนำ้ และคลำยขวดน้ำ

87

สรปุ กำรทดลอง

จำกกำรทดลองเปน็ เชน่ นเี้ พรำะอำกำศ มีควำมหนำแนน่ น้อยกว่ำน้ำ
กระจำยตวั อยู่ภำยในหลอด หลอดจงึ ลอยน้ำ
1. เมื่อบีบขวด

กำรบีบขวดทำให้แรงดันในขวดมำกขึ้น อำกำศภำยในหลอดรวมตัว น้ำจึง
ไหลเข้ำไปแทนที่ในหลอด น้ำหนักของน้ำในส่วนนี้จึงเพิ่มขึ้นทำให้ควำมหนำแน่น
ของหลอดดำนำ้ เพิ่มขึน้ จนมำกกว่ำน้ำ จงึ จมลงดำ้ นล่ำง
2. เมื่อคลำยมือ

เม่ือคลำยมือทำให้แรงดันในขวดลดลงอำกำศภำยในหลอดขยำยตัว น้ำจึง
ไหลออกจำกหลอดทำให้ควำมหนำแน่นลดลงจนน้อยกว่ำน้ำ หลอดจึงลอยขึ้น
ด้ำนบนอีกครั้ง

* ควำมหนำแน่น คือ อตั รำส่วนของมวลต่อหนึง่ หน่วยปริมำตร

ทำไม...เมอื่ แบบขวด
หลอดดำน้ำถงึ จมนำ้ กนั นะ...?

88

ตวั อย่ำงกจิ กรรมที่ 8
“กำรด์ มำยำกล”

จุดประสงค์กำรเรยี นรู้

1. เดก็ สำมำรถสังเกตกำรเปลี่ยนแปลงของภำพในกำร์ดล่องหนได้
2. เด็กสำมำรถจำแนกตัวกลำงที่ยอมให้แสงผ่ำนได้
3. เพือ่ ส่งเสริมทกั ษะควำมคิดริเริม่ สร้ำงสรรค์

89

ประสบกำรณส์ ำคัญ

ด้ำนร่ำงกำย
- กำรหยิบจบั กำรใชก้ รรไกร กำรตัด ปะ

ด้ำนอำรมณ์ – จิตใจ
- กำรทำกิจกรรมศิลปะตำ่ งๆ
- กำรสรำ้ งสรรคส์ ิง่ ทีส่ วยงำม
- กำรพดู สะท้อนควำมรสู้ ึกของตนเองและผู้อน่ื

ด้ำนสังคม
- กำรเล่นหรือทำกจิ กรรมร่วมกับกลุ่มเพือ่ น

ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- ทำซ้ำ กำรต่อเตมิ และกำรสร้ำงแบบรปู

90

อปุ กรณ์

1. แผ่นใส 2. กระดำษขำว 3. กระดำษสี

4. เทปกำวใส 5. กำว 6. ที่เจำะกระดำษ

7. คัตเตอร์ 8. เชือก 9. ดินสอ

10. ปำกกำแบบ permanent 11. ไม้บรรทดั

91

ขั้นตอนกำรจัดกจิ กรรม

1 ส่วนที่ 1
ให้เดก็ ประดิษฐ์สว่ นที่ 1 ชองใส่กำร์ด โดยมีขั้นตอนดงั นี้

1.1 ตดั กระดำษสีให้ได้ควำม กว้ำง 29.5 ซ.ม ยำว 20 ซ.ม
1.2 พับครึ่งกระดำษ
1.3 จำกน้ันตัดกระดำษสีตำมรูป

1.4 ตดั กระดำษขำวกว้ำง 15.8 ซม. ยำว 20 ซม.
1.5 พบั กระดำษเข้ำข้ำงละ 1 ซม. ตำมรูป

92


Click to View FlipBook Version