หลกั เศรษฐศาสตรเ์ กษตร
320501 - 2007 ใบความรู้
หน่วยท่ี
เรียบเรยี งโดย
นายวุฒนิ นั ต์ แสงอ้าย
หนว่ ยท่ี 3 ความยดื หยนุ่ ของอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน
ความหมายของความยืดหยุ่น
ความยืดหยนุ่ (Elasticity) หมายถึง เปน็ ค่าทใ่ี ชว้ ดั ความมากนอ้ ยของการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรตาม
ต่อการเปลยี่ นแปลงของตัวแปรนำการพจิ ารณาคา่ ความยืดหยุ่นพจิ ารณาจากตวั เลข โดยการเปลย่ี นแปลงมีคา่
มาก แสดงว่ามีความยดื หยนุ่ มาก และการเปลี่ยนแปลงมีคา่ น้อย แสดงวา่ มีความยืดหยนุ่ น้อย เครอ่ื งหมายของ
ความยดื หย่นุ แสดงถึงทศิ ทางการเปลยี่ นแปลงของตวั แปรนำและตวั แปรตาม โดย เครือ่ งหมาย + แสดงถึงการ
เปลี่ยนแปลงในทิศทางเดยี วกัน เครื่องหมาย - แสดงถงึ การเปลีย่ นแปลงในทิศทางตรงขา้ มกัน
ความยดื หย่นุ ของอปุ สงค์
ความยืดหยุ่นเป็นค่าที่ชใี้ หเ้ ห็นว่าปริมาณเสนอซ้ือหรอื ปริมาณเสนอขายมคี วามเปลี่ยนแปลงมากน้อย
เพยี งใด เมื่อมีการเปลยี่ นแปลงปจั จยั ทกี่ ำหนดอุปสงคห์ รืออุปทาน ถ้ามีความเปลยี่ นแปลงมากเรยี กวา่ มีความ
ยืดหยุ่นมาก ถ้ามีความเปลย่ี นแปลงนอ้ ยเรยี กวา่ มคี วามยืดหย่นุ น้อย ถา้ ไม่เปลีย่ นแปลงแสดงวา่ ไมม่ ีความ
ยดื หยนุ่ เลย
ความยดื หยนุ่ ของอุปสงค์ หมายถึง เปอรเ์ ซนต์การเปล่ียนแปลงของปริมาณเสนอซื้อในขณะใด
ขณะหนึ่ง เมอื่ ตัวแปรอนื่ ๆทีเ่ ปน็ ตวั กำหนดปริมาณเสนอซ้ือนั้นเปลีย่ นแปลงไป 1 เปอรเ์ ซนต์ ซง่ึ เราจะศึกษากัน
3 ตัวคอื
- ความยดื หยุน่ ของอุปสงค์ต่อราคา
- ความยืดหยุ่นของอุปสงคต์ ่อรายได้
- ความยืดหยุ่นของอุปสงคต์ ่อราคาสินคา้ ชนดิ อืน่
คา่ ความยดื หย่นุ ของอปุ สงค์ต่อราคาและลักษณะของเสน้ อุปสงค์
เราไดศึกษาแล้ววา่ ปริมาณการเสนอซอื้ (Qd) และปรมิ าณการเสนอขาย (QS) ถูกกำหนดมาได้อย่างไร
และสามารถเปลย่ี นแปลงไปได้เมื่อปัจจัยที่มอี ิทธิพลกำหนด Qd & QS มกี าร เปลยี่ นแปลงอย่างไรกด็ ีเมื่อราคา
สินคา้ เปลี่ยนแปลงไป ปรมิ าณการเสนอซื้อหรือปริมาณการเสนอขายในสินค้าแต่ละชนิดจะมีการเปล่ยี นแปลง
ไม่เทา่ กนั จงึ ไมอ่ าจจะนำเอามาเปรยี บเทียบกันไดว้ ่าสินคา้ ใดมีปรมิ าณการเสนอซ้ือหรือปริมาณการเสนอขายที่
เปล่ียนแปลงไปมากกว่ากันเน่ืองจากขนาดของราคาและปริมาณ ตลอดจนหน่วยของสินค้าแตกตา่ งกัน แมว้ ่า
เราจะมคี ่า slope ซ่ึงชี้ให้เห็นการเปล่ยี นแปลงของ P & Q ก็ตาม แต่จากปญั หาที่กล่าวมาจึงไมส่ ามารถนำค่า
slope มาวดั ขนาดการเปลยี่ นแปลงของ Qd & QS ของสินค้าแตล่ ะชนิดมาเปรยี บเทียบกันได้เครอ่ื งมอื ที่จะใช้
วดั การเปลยี่ นแปลงของ Qd & QS ในสินคา้ แตล่ ะชนดิ คอื ความยืดหยุ่น (Elasticity) ซ่งึ ใช้วัดไดท้ งั้ ด้านอุปสงค์
และอปุ ทาน อันเปน็ แนวความคดิ ของนักเศรษฐศาสตร์ช่ือ Alfred Marshall ความยืดหยุ่นจะเปน็ การแสดง
ความสัมพนั ธ์ระหว่างปรากฏการณ์ 2 อย่างว่ามคี วามเก่ียวข้องกนั อยา่ งไรและมีค่ามากน้อยเพียงใดค่าความ
ยดื หยุ่นจะบอกว่าถ้าหากปรากฏการณ์ของเหตุมกี ารเปลี่ยนแปลงไป 1% ปรากฏการณ์ของผลจะเปลี่ยนแปลง
ไปก่%ี
ค่าความยืดหยุ่นของอปุ ทาน
โมเดลของอปุ สงค์และอปุ ทาน อธบิ ายวา่ ตลาดมีแนวโน้มท่ีจะเข้าส่ดู ุลยภาพ (equilibrium) ซง่ึ
ปริมาณอุปสงคแ์ ละปรมิ าณอุปทานจะเท่ากัน เรยี กราคาท่ีภาวะดุลยภาพวา่ ราคาดุลยภาพ และปริมาณสินคา้
ทภ่ี าวะนวี้ ่า ปรมิ าณดลุ ยภาพ หากปรมิ าณอุปสงค์มากกว่าปรมิ าณอุปทาน ซึ่งเกิดเม่ือราคาสนิ คา้ ตำ่ กวา่ ราคา
ดลุ ยภาพของสินค้านั้น จะเกดิ การขาดแคลนสนิ ค้า หรอื เรยี กว่ามอี ปุ สงค์สว่ นเกิน ในขณะทเี่ มอ่ื ปริมาณอุปทาน
มากกว่าปริมาณอุปสงค์ คือเมื่อราคาสนิ ค้าสูงกว่าราคาดลุ ยภาพ จะเกิดสนิ คา้ ลน้ ตลาด หรืออุปทานสว่ นเกนิ
โดยเม่ือเกิดกรณีเหล่าน้ี ผู้ซื้อและผ้ขู ายในตลาดจะตอบสนองจนกระท่ังตลาดเขา้ สู่ดุลยภาพต่อเนอ่ื งกนั
ส่ิงทสี่ ำคัญอย่างหนงึ่ ในหลกั การของอปุ สงค์และอปุ ทานได้แกค่ วามยดื หยุน่ (elasticity) ในทฤษฏีของอุปสงค์
และอปุ ทาน ความยดื หยนุ่ คือการวดั การเปล่ียนแปลงของปริมาณอปุ สงคห์ รืออปุ ทานต่อปัจจัยท่กี ำหนดอุป
สงคห์ รอื อุปทาน การศึกษาความยดื หย่นุ ทมี่ ักนำมาพจิ ารณาคือความยดื หย่นุ ต่อราคา ซ่งึ เปน็ การเปลยี่ นแปลง
ของปริมาณอุปสงคห์ รืออุปทานทเ่ี กดิ จากความเปล่ียนแปลงของราคา
ปจั จัยท่ีกำหนดค่าความยดื หยนุ่ ของอุปทาน
อุปทานของสินค้าเกษตรหรือปรมิ าณความต้องการขาย ข้นึ กบั ปัจจยั หลายประการ ท้งั นี้หากปัจจัย
เหลา่ น้ีเปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลให้อุปทานเปลี่ยนไปดว้ ย ตวั อย่างปจั จัยสำคญั ท่ี กำหนดอุปทาน เชน่ สภาพดนิ
ฟา้ อากาศและฤดกู าล สภาพอากาศมีผลต่อปริมาณผลผลติ ของสินค้าเกษตร เช่น หาก สภาพอากาศ
เออ้ื อำนวย ผลผลิตการเกษตรทีอ่ อกมาจะมีมาก นอกจากน้ี สนิ ค้าเกษตรหลายชนิดออกเปน็ ฤดูกาล
(Seasonality) ซง่ึ จะมผี ลต่ออุปทานสินค้าเกษตรในช่วงนั้นๆ เชน่ ผลผลิตข้าวนาปี จะออกมามากในชว่ ง
ปลายปี เปน็ ตน้ จำนวนพ้ืนทเี่ พาะปลูก การเพมิ่ /ลดพน้ื ท่ีเพาะปลกู จะส่งผลตอ่ ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น/ลดลง
ผลผลิตตอ่ ไร่ (Yield) ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีการปรับปรงุ พันธพุ์ ืช ช่วยให้สามารถผลิต สนิ คา้ เกษตรได้
เพิ่มข้ึน โดยใช้พ้ืนท่เี ทา่ เดมิ หรือมีตน้ ทนุ ต่ำลง ราคาผลผลติ ชนิดอ่ืน การเปลีย่ นแปลงราคาสนิ คา้ ชนิดหนง่ึ อาจ
มผี ลกระทบต่อปรมิ าณผลผลติ หรืออปุ ทานของสนิ คา้ อีกชนิดหน่ึงได้ เช่น หากราคายางพาราสงู ขนึ้ มาก อาจ
จงู ใจให้เกษตรกร ท่ีปลูกสนิ ค้าอืน่ เชน่ ข้าวโพด หันมาปลกู ยางพาราแทน ส่งผลให้ผลผลติ ยางพาราเพ่มิ ขน้ึ
ขณะท่ีผลผลติ ขา้ วโพดลดลง เปน็ ตน้
เสน้ อุปทานที่กล่าวมาแลว้ เป็นความสัมพันธร์ ะหวา่ งปริมาณความต้องการขายกับราคาของสินค้าหรือ
บริการนัน้ โดยกำหนดใหป้ จั จัยอน่ื ๆคงท่ี หากเรานำปจั จยั ตัวอ่นื เข้ามาพจิ ารณา จะเห็นว่าปริมาณความ
ต้องการขายสินคา้ หรือปริมาณอปุ ทานมิไดข้ น้ึ อยูก่ บั ราคาของสนิ ค้าหรือบริการนัน้ แตเ่ พียงอย่างเดียว แต่ยัง
ขึน้ อยู่กับปัจจยั ตวั อ่นื ๆซ่ึงไดแ้ ก่
- ต้นทนุ การผลติ เปน็ ท่ียอมรับกนั ท่วั ไปว่าปรมิ าณความต้องการเสนอขายหรืออุปทานจะ
เปลย่ี นแปลงไปในทิศทางกลับกันกับตน้ ทนุ การผลติ ของผลผลติ หรอื สนิ คา้ หรอื บรกิ ารนั้นๆ กล่าวคือ ภายใต้
ต้นทนุ การผลติ ระดับหนึง่ ถา้ ต้นทนุ การผลติ ตอ่ หนว่ ยของสนิ คา้ หรอื บริการสูงขึ้น ความสามารถในการเสนอ
ขายหรอื อปุ ทานจะมีปรมิ าณน้อยลง ถ้าต้นทนุ การผลิตต่อหน่วยลดลงปรมิ าณอุปทานจะมมี ากขึน้
- ราคาปจั จยั การผลิต เนือ่ งจากราคาปัจจยั การผลิตเป็นตัวกำหนดตน้ ทนุ การผลติ ของสนิ ค้า
หรอื บริการ ซงึ่ การเปลี่ยนแปลงของราคาปจั จยั การผลิตทำใหต้ ้นทนุ การผลิตเปล่ียนแปลงในทิศทางเดียวกนั
เชน่ ถา้ คา่ จา้ งแรงงานสูงขึน้ จะทำให้ต้นทนุ การผลติ สนิ ค้าโดยทัว่ ไปสงู ขน้ึ สง่ ผลใหป้ รมิ าณความต้องการเสนอ
ขายหรอื อุปทานลดลงได้ และถ้ากลับกนั ก็จะใหผ้ ลในทางตรงกนั ขา้ ม
- ราคาสนิ คา้ ชนิดอนื่ การเปล่ียนแปลงของราคาสินค้าชนิดหน่ึงอาจมีผลกระทบต่อปริมาณ
ความตอ้ งการเสนอขายหรืออุปทานของสนิ ค้าชนิดหน่ึงได้ เชน่ ถ้าราคาส้มลดลง ชาวสวนอาจหนั ไปปลูก
มะนาวแทน ทำใหป้ ริมาณความตอ้ งการขายส้มลดลง ส่วนของมะนาวเพิ่มขึน้ เนื่องจากผ้ผู ลิตรายดังกลา่ วคาด
วา่ ตนจะได้รับกำไรเพม่ิ ขน้ึ จากการปลกู มะนาวแทนสม้
- เทคโนโลยีการผลิต ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีมผี ลทำให้ต้นทนุ การผลิตต่อหน่วยลดลง
เนอ่ื งจากปัจจัยการผลติ จำนวนเท่าเดิมผู้ผลิตสามารถผลิตสินคา้ ไดป้ ริมาณมากขึ้น น่นั คอื ความสามารถในการ
เสนอขายหรอื อุปทานของสนิ ค้าของผผู้ ลิตมีเพ่ิมขึ้น
- ภาษี จำนวนภาษที ่ีรฐั บาลจดั เกบ็ จากการขายสนิ ค้าและบรกิ ารเปน็ ปจั จยั หนง่ึ ทเี่ ปน็
ตัวกำหนดตน้ ทนุ การผลติ ของสนิ ค้าและบริการ ถา้ รัฐบาลเก็บภาษใี นอัตราสงู จะทำให้ต้นทนุ การผลติ สินค้า
สูงข้ึน ทำให้อุปทานลดลง แต่ถ้ารัฐบาลเกบ็ ภาษีในอตั ราลดลง ทำให้ต้นทุนการผลติ สนิ ค้าลดลง และอปุ ทานจะ
เพ่มิ ขึ้น
- การคาดการณร์ าคาสนิ คา้ ในอนาคต ถ้าผผู้ ลติ คาดการณ์วา่ ราคาสินค้าในอนาคตจะสงู ข้ึน
ผ้ผู ลติ จะชะลอปริมาณการเสนอขายในปจั จุบนั ลง เพื่อจะเก็บไว้รอขายในอนาคต (อุปทานลดลง) ในทาง
กลบั กนั ถ้าคาดการณ์วา่ ราคาสินค้าในอนาคตจะลดลง ผูผ้ ลิตจะเพ่ิมปริมาณการเสนอขายในปัจจบุ ันมากขนึ้
(อุปทานเพม่ิ ข้นึ )
- สภาพดนิ ฟา้ อากาศ ส่วนใหญจ่ ะมีอทิ ธิพลต่อผลผลติ ทางการเกษตร ถ้าฝนฟา้ ตกต้องตาม
ฤดกู าลผลผลิตก็จะมีมากและอดุ มสมบรู ณ์ แต่ถา้ สภาพดินฟ้าอากาศไม่ดีปรมิ าณผลผลิตก็จะมีน้อย
กลา่ วโดยสรุป จะเหน็ ได้ว่ามปี ัจจยั ต่างๆมากมายท่ีเป็นตัวกำหนดหรือมีอิทธพิ ลต่อปรมิ าณความ
ตอ้ งการเสนอขายหรืออปุ ทานของสนิ ค้าและบริการตา่ งๆ ซ่ึงในท่นี ้จี ะขอกลา่ วแตเ่ พียงเท่าน้ี
ประโยชนจ์ ากการศึกษาเรื่องความยืดหยุ่นของอปุ สงค์และอุปทาน
ประโยชน์ของความยืดหยุ่นความร้เู กีย่ วกับความยืดหยุ่นนบั เปน็ หวั ใจสำคญั ในการศึกษาหลัก
เศรษฐศาสตร์ ผู้ทจ่ี ะสามารถเขา้ ใจปญั หาทางเศรษฐกิจต่างๆ ได้ จำเปน็ ตอ้ งมีความร้ใู นเร่ืองของความยืดหยนุ่
เปน็ อย่างดี ชนิดของความยืดหย่นุ ทีส่ ำคญั และมีประโยชน์มากก็คอื ความยืดหยนุ่ ต่อราคา (price elasticity)
ความยดื หย่นุ ตอ่ ราคาใช้วเิ คราะหป์ ัญหาเศรษฐกิจตา่ งๆ ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปนี้
1. ในการวเิ คราะห์ปัญหาการเกบ็ ภาษแี ละการผลักภาระภาษี เชน่ การเก็บภาษีการค้าจากสนิ ค้าที่
ผลติ ภายในประเทศ ซ่ึงมคี า่ ความยดื หยนุ่ ของอุปสงคเ์ ปน็ แบบ elastic ผลของราคาสนิ ค้าท่สี งู ขึ้นอาจทำให้ผู้
ซื้อลดการซื้อสนิ ค้าสนิ ค้าชนิดนน้ั ลงอย่างมาก ทำใหร้ ายรับรวมของผู้ขายลดลงขณะเดยี วกันรัฐบาลเก็บภาษีได้
นอ้ ย กรณีเชน่ น้ีภาระภาษีสว่ นใหญ่จะตกอยู่กับผูข้ าย ตรงกันข้ามถ้าอุปสงค์ของสินค้ามีค่าความยนื หยนุ่ ตำ่
(inelastic) ภาระภาษสี ว่ นใหญจ่ ะตกอย่กู บั ผบู้ รโิ ภค เพราะในกรณีนร้ี าคาสนิ คา้ ท่เี พ่มิ ข้นึ เน่ืองจากการเก็บภาษี
จะไม่มผี ลมากนักในการลดจำนวนซ้ือของผู้บรโิ ภค การวิเคราะห์ดงั กล่าวใช้ได้กับการเก็บภาษีทกุ ประเทศ เช่น
ภาษีขาเข้า ภาษสี รรพสามติ ภาษเี งินได้ และภาษบี ริษัทธุรกิจ
2. ในการวเิ คราะหป์ ัญหาเกย่ี วกับการค้าระหว่างประเทศ ความยืดหยุน่ ของอุปสงค์ และอปุ ทาน
จำเปน็ อยา่ งมากในการศึกษาผลของการเพม่ิ หรือลดคา่ ของเงนิ ที่มตี ่อสินคา้ เขา้ สนิ ค้าออก อัตราการค้า และ
ดุลการชำระเงนิ
3. ในการวิเคราะห์ปัญหาเก่ียวกับการกำหนดราคาขัน้ สูง เช่น การกำหนดอตั ราคา่ เช่าขั้นสงู การ
กำหนดอัตราดอกเบย้ี ข้นั สงู เปน็ ต้น ก่อนจะตดั สนิ ใจใชม้ าตรการเหล่านี้ รัฐบาลจะตอ้ งศกึ ษาความยืดหยุน่ ของ
อุปสงค์และอปุ ทานต่อราคา มิฉะน้นั การประกาศใช้มาตรการเหล่านี้อาจไม่บังเกิดผลหรอื อาจเป็นผลเสีย
มากกว่าผลดี
4. ในการวิเคราะห์ปัญหาเก่ียวกับการประกนั ราคาขน้ั ต่ำ ตัวอย่าง ไดแ้ ก่ การประกนั ราคาข้ันตำ่
สำหรับพืชผลทางเกษตร ภาระการประกันราคาขัน้ ต่ำของรัฐบาลจะมากหรือนอ้ ย ข้ึนอยู่กบั ความยืดหยนุ่ ของ
เสน้ อุปสงค์ นอกจากนยี้ ังใชว้ ิเคราะหเ์ กยี่ วกับปญั หาการนัดหยดุ งาน (strike) เพ่ือเรยี กรอ้ งค่าจา้ งแรงงานให้
สงู ขึ้นเราต้องคำนึงถึงผลสืบเนื่อง ค่าจา้ งแรงงานทสี่ งู ขน้ึ อาจทำใหผ้ บู้ รโิ ภคตอ้ งซื้อสินค้าในราคาสงู ข้นึ เนื่องจาก
ตน้ ทนุ และราคาขายสงู ขนึ้ ถ้าอปุ สงค์ของสนิ ค้าน้นั มคี วามยืดหย่นุ สูง (elastic) ปรมิ าณซ้อื อาจลดลงอยา่ งมาก
และในทสี่ ดุ คนงานบางส่วนอาจต้องถูกออกจากงาน
5. ในการวิเคราะห์การกำหนดราคาขายที่แตกตา่ งกนั (price discrimination) การกำหนดราคาขาย
ทแ่ี ตกต่างกนั สำหรบั สินค้าชนิดเดียวกนั ในตลาด 2 แห่ง จะเปน็ ไปได้ต่อเม่อื อปุ สงค์มคี วามยดื หยนุ่ ตา่ งกนั
6. ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ มอี ิทธิพลยิง่ ในการกำหนดราคาสำหรับกิจการสาธารณูปโภค เชน่ การ
ผลติ ไฟฟ้า เป็นต้น อุปสงค์ของไฟฟ้าตามบ้านเรือนจะมีความยดื หยนุ่ ต่ำ เพราะหาสิ่งอื่นใชท้ ดแทนไฟฟ้าได้ยาก
มาก แต่อุปสงค์ของไฟฟา้ ตามวงการธรุ กิจและอตุ สาหกรรมจะมคี วามยืดหย่นุ สูงกว่าครวั เรอื นเพราะอาจใช้
พลงั งานอื่นๆ แทนไฟฟ้าได้ เช่น ถา่ นหิน กำลังน้ำ และน้ำมนั เปน็ ต้น ด้วยเหตุน้ีในบางประเทศจึงมีการเกบ็
ไฟฟ้าจากผใู้ ชต้ ามบา้ นในราคาสงู กว่าทีเ่ ก็บจากธรุ กิจและโรงงานอตุ สาหกรรม
***********************************************************