The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้
วิชาคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by janpim.2p, 2022-04-02 04:53:37

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1

แผนการจัดการเรียนรู้
วิชาคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนที่ 2

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้,วิชาคณิตศาสตร์

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวิชาพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เวลา 200 ช่ัวโมง/ปี

ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคดิ คานวณ และฝึกการแกป้ ญั หาในสาระต่อไปน้ี
การใชจ้ านวนบอกปรมิ าณทไ่ี ดจ้ ากการนบั การอา่ น และการเขียนตวั เลขฮินดอู ารบกิ และ
ตวั เลขไทยแสดงจานวนนับไมเ่ กนิ 100 และ 0 การนับทลี ะ 1 และทีละ 10 การบอกอันดับที่ การ
แสดงจานวนนับไม่เกิน 20 ในรูปความสัมพันธ์ของจานวนแบบสว่ นย่อย - สว่ นรวม หลักและค่าของ
เลขโดดในแตล่ ะหลกั การเขียนตวั เลขแสดงจานวนนับในรปู กระจาย การเปรียบเทียบจานวน การใช้
เครื่องหมาย = ≠ > < การเรียงลาดบั จานวนไมเ่ กิน 5 จานวน
ความหมายของการบวก ความหมายของการลบ การหาผลบวก การหาผลลบ ความสมั พันธ์
ของการบวกและการลบ โจทย์ปญั หา
แบบรูปของจานวนทเี่ พมิ่ ขนึ้ หรอื ลดลงทลี ะ 1 และทลี ะ 10 แบบรูปซา้ ของจานวน รปู
เรขาคณิตและรปู อื่น ๆ
การเปรียบเทียบและการวัดความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร การเปรียบเทียบและการวัด
น้าหนกั เป็นกิโลกรัม เปน็ ขดี โจทยป์ ัญหาการบวก และโจทย์ปญั หาการลบเกี่ยวกับความยาว นา้ หนัก
การจาแนกรูปสามเหลยี่ ม รูปส่ีเหล่ียม วงกลม วงรี ทรงสีเ่ หล่ียมมุมฉาก ทรงกลม
ทรงกระบอก และกรวย
การใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู ภาพ เม่ือกาหนดรปู 1 รูปแทน 1 หนว่ ย ในการหาคาตอบของ
โจทยป์ ญั หา
การจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณท์ ใ่ี กล้ตัวใหผ้ ู้เรยี น ได้ศกึ ษาคน้ ควา้ โดยปฏบิ ตั ิ
จรงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพฒั นาทักษะการคดิ คานวณ และทักษะการแกป้ ญั หา การใหเ้ หตผุ ล
การสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนาประสบการณ์ความรู้ ความคดิ ทกั ษะและ
กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรยี นรู้สิ่งตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวนั อย่ างสร้างสรรค์ รวมท้งั เหน็
คุณค่าและมีเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ คณิตศาสตร์สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ รอบคอบ มคี วาม
รบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณและเชือ่ ม่นั ในตนเอง
การวัดผลและประเมนิ ผล ใชว้ ิธีการทีห่ ลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงของเน้ือหาและ
ทักษะทต่ี ้องการวัด

ตวั ชีว้ ัด
ค 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5
ค 1.2 ป.1/1
ค 2.1 ป.1/1, ป.1/2
ค. 2.2 ป.1/1
ค 3.1 ป.1/1

รวม 10 ตัวชี้วัด

โครงสรา้ งเวลาเรยี น ภาคเรียนท่ี 2
กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1

บทท/่ี เร่อื ง เวลา (ชวั่ โมง)
ภาคเรยี นที่ 2
บทท่ี 8 การบอกตาแหน่งและอนั ดบั ท่ี 11
บทท่ี 9 รปู เรขาคณติ 12
บทท่ี 10 จานวนนบั 21 ถงึ 100 17
บทที่ 11 การวัดความยาว 11
บทท่ี 12 การบวกท่ีผลบวกไมเ่ กนิ 100 10
บทท่ี 13 การลบจานวนท่ตี วั ตั้งไม่เกิน 100 18
บทที่ 14 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ 21

รวมภาคเรยี นท่ี 2 100

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1

รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 8 การบอกตาแหนง่ และอันดับที่ เวลาเรียน 11 ช่ัวโมง

เรือ่ ง การบอกตาแหน่งของส่งิ ตา่ ง ๆ เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง

สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชีว้ ัด
-

สาระสาคัญ
การบอกตาแหนง่ ของการเขา้ แถวตอนอาจใช้คาว่า คนแรก คนสุดท้าย ข้างหนา้ ข้างหลงั

และบอกตาแหนง่ ของส่ิงของทีว่ างเรียงแถวหน้ากระดานอาจใช้คาวา่ ตรงกลาง ขา้ งซา้ ย ขา้ งขวา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายตาแหน่งของสงิ่ ตา่ ง ๆ โดยใชค้ าทใ่ี ชใ้ นการบอกตาแหน่งได้ (K)
2. บอกตาแหนง่ ของสงิ่ ต่าง ๆ โดยใชค้ าทใ่ี ช้ในการบอกตาแหน่งได้ (P)
3. นาความรูเ้ ก่ียวกบั การบอกตาแหนง่ ของสิ่งตา่ ง ๆ ไปใชแ้ ก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรียนรู้
การบอกตาแหนง่ ของสิ่งต่าง ๆ

ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครสู นทนากับนักเรียนเกีย่ วกับการเขา้ แถวหนา้ เสาธงของนกั เรยี นตอนเช้าโดยถาม

ว่าใครยื่นเปน็ คนแรก ใครยืนเป็นคนสดุ ท้าย แลว้ แนะนา นกั เรียนวา่ คาว่า คนแรก คนสุดทา้ ย เปน็ คา
ที่ใช้บอกตาแหนง่

ขั้นสอน
2. แบ่งนกั เรียนเป็น 4 ทีม ได้แก่ ทีมสแี ดง ทีมสีเขียว ทมี สเี หลอื ง และทมี สี ฟ้า ให้

นักเรียนทีมสีแดง 5 คน ออกมาเข้าแถวตอนหันหนา้ เข้าหาครู เช่น

จากน้ันถามนักเรยี นด้วยคาถามตอ่ ไปน้ี
- ใครเป็นคนแรกของแถวนบั จากตวั ครู (เก่ง) จากนน้ั ครูเขยี น “เก่งเปน็ คนแรก
ของแถว” บนกระดาน
- ใครเป็นคนสุดทา้ ยของแถวนับจากตัวครู (กัน) จากนนั้ ครเู ขยี น “กันเปน็ คน
สุดทา้ ยของแถว” บนกระดาน
- ใครอยขู่ า้ งหน้าต้นกล้า (เกง่ ) จากน้ันครูเขียน “เกง่ อยู่ขา้ งหนา้ ต้นกลา้ ” บน
กระดาน
- ใครอยู่ข้างหลังนัด (กนั ) จากนนั้ ครเู ขียน “กันอยู่ขา้ งหลงั นดั ” บนกระดาน
- ใครอยูต่ รงกลาง (อ้น) จากนั้นครูเขียน “อ้นอยตู่ รงกลาง” บนกระดาน
ให้นกั เรียนทีมสีแดงกลับไปนง่ั ทข่ี องตนเอง ให้ทมี ทีเ่ หลือออกมาเข้าแถวตอนใน
ลกั ษณะเดิม แล้วถามแบบเดียวกัน
3. ครูนาลูกฟุตบอล ลกู บาสเกตบอล ลูกวอลเลยบ์ อล วางเรียงแถวหนา้ กระดานบนโตะ๊
หน้าช้ันเรียน ดังน้ี

นักเรียนรว่ มกันตอบคาถามต่อไปนี้
- ส่ิงใดอยตู่ รงกลาง (ลกู บาสเกตบอล)
- ส่งิ ใดอยู่ข้างซ้ายของลกู บาสเกตบอล (ลกู ฟุตบอล)
- ส่ิงใดอยูข่ า้ งขวาของลกู บาสเกตบอล (ลูกวอลเลย์บอล)
ครูสลับท่ีตาแหนง่ ของลกู ฟุตบอล ลกู บาสเกตบอล ลูกวอลเลยบ์ อล ดงั น้ี

นักเรียนร่วมกนั ตอบคาถามต่อไปน้ี
- สิ่งใดอย่ตู รงกลาง (ลกู วอลเลย์บอล)
- ส่ิงใดอยู่ข้างซ้ายของลกู วอลเลย์บอล (ลกู บาสเกตบอล)
- สิ่งใดอยูข่ ้างขวาของลกู วอลเลย์บอล (ลกู ฟตุ บอล)
4. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 1 การบอกตาแหน่งของส่ิงต่าง ๆ เมอื่ เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี น
ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 1
ขนั้ สรุป
5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้ร่วมกัน ดงั นี้ การบอกตาแหนง่ ของการเข้า
แถวตอนอาจใชค้ าว่า คนแรก คนสุดท้าย ขา้ งหน้า ขา้ งหลงั และบอกตาแหนง่ ของสิ่งของท่ีวางเรียง
แถวหน้ากระดานอาจใช้คาว่า ตรงกลาง ข้างซ้าย ขา้ งขวา

สอ่ื การเรียนรู้
1. ลกู ฟุตบอล ลูกบาสเกตบอล ลูกวอลเลยบ์ อล
2. ใบงานที่ 1 การบอกตาแหน่งของสง่ิ ตา่ ง ๆ

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั วิธีวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 1 ใบงานที่ 1 ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ด้านทักษะกระบวนการ พอใช้ข้นึ ไป
3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น
ทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึง แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลักษณะ ทกุ รายการขน้ึ ไปถอื วา่ ผา่ น

ทีพ่ งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 1 การบอกตาแหนง่ ของสง่ิ ต่าง ๆ
คาชแ้ี จง เติมคาตอบ

พอ่ ปอ้ ง ปอ แม่

1. คนแรกของแถว คอื
2. คนสดุ ท้ายของแถว คอื
3. ปออยขู่ า้ งหนา้
4. ปออย่ขู ้างหลัง
5. อยขู่ า้ งซา้ ยของปอ้ ง
6. อยูข่ า้ งขวาของปอ้ ง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2

รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 การบอกตาแหนง่ และอนั ดับท่ี เวลาเรยี น 11 ช่วั โมง

เรือ่ ง การบอกตาแหน่งของส่งิ ตา่ ง ๆ เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กดิ ข้ึนจากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั
-

สาระสาคญั
การบอกตาแหน่งของสิง่ ตา่ ง ๆ อาจใชค้ าว่า ขา้ งซา้ ย ขา้ งขวา ถดั จาก ระหวา่ ง ...กบั ... ตั้งแต่

...ถงึ ...

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายตาแหนง่ ของส่ิงต่าง ๆ โดยใช้คาท่ีใชใ้ นการบอกตาแหนง่ ได้ (K)
2. บอกตาแหน่งของสิ่งตา่ ง ๆ โดยใช้คาที่ใช้ในการบอกตาแหนง่ ได้ (P)
3. นาความรู้เกย่ี วกับการบอกตาแหน่งของสิ่งตา่ ง ๆ ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรียนรู้
การบอกตาแหน่งของสิง่ ตา่ ง ๆ

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูทบทวนคาทีใ่ ช้บอกตาแหนง่ ข้างซา้ ย ข้างขวา โดยติดบัตรภาพตอ่ ไปนบี้ น

กระดาน

ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียน ดงั น้ี
- ภาพน้ีเปน็ ภาพเกยี่ วกับอะไร (การแขง่ ขันวิ่ง)
- ในการแขง่ ขนั ว่ิงคร้ังนีม้ ีใครบ้าง (ขุน ดอน พัด และนดั )
- ใครยืนอย่ขู ้างซา้ ยของดอน (ขนุ )
- ใครยนื อยขู่ ้างขวาของพัด (นัด)
- ใครยืนอยขู่ ้างซ้ายของนัด (พัด)
- ใครยนื อย่ขู า้ งขวาของดอน (พดั )
ข้ันสอน
2. ครูถามว่า คาที่ใช้บอกตาแหน่งของนักกีฬาสใี นลู่วงิ่ มีคาว่าอะไรบ้าง (ข้างซ้าย ขา้ ง
ขวา) แล้วครใู ช้คาถามกระต้นุ ใหน้ กั เรยี นคิดวา่ “นอกจากคาว่า ข้างซ้าย ขา้ งขวา แลว้ ยังมคี าที่ใชบ้ อก
ตาแหน่งของนกั กฬี าในลู่วิง่ อีก ใครบอกได้บ้าง ” ครูแนะนาคาวา่ “ถดั จาก” พร้อมยกตวั อยา่ ง เช่น
นกั กีฬาดอนยนื ถดั จากขนุ จากนน้ั ถามดว้ ยคาถามต่อไปนี้ แลว้ เขียนคาตอบของนักเรียนบนกระดาน
- ถัดจากขนุ เป็นใคร (ถดั จากขนุ เป็นดอน)
- ถัดจากดอนเป็นใคร (ถัดจากดอนเปน็ พัด)
3. ครูแนะนาคาวา่ “ระหวา่ ง...กบั ...” พรอ้ มยกตัวอย่าง เชน่ ดอน ยนื อยู่ระหวา่ งขุน
กับพัด จากนัน้ ถามดว้ ยคาถามตอ่ ไปน้ี แล้วเขียนคาตอบของนกั เรยี นบนกระดาน
- ระหวา่ งขุนกับพดั เปน็ ใคร (ระหวา่ งขนุ กับพัดเป็นดอน)
- ระหว่างดอนกบั นัดเปน็ ใคร (ระหว่างดอนกบั นัดเป็นพดั )
- ระหวา่ งขนุ กับพัดเป็นใคร (ระหว่างขุนกับนดั เป็นดอน และพัด)
4. ครูแนะนาคาว่า “ตั้งแต่…..ถงึ …..” พรอ้ มยกตัวอยา่ ง เชน่ ตั้งแต่ขุนถงึ พัดจะเปน็
ขุน ดอน และพดั จากน้นั ถามดว้ ยคาถามต่อไปน้ี แล้วเขียนคาตอบของนักเรียนบนกระดาน
- ตง้ั แตด่ อนถึงนัดเป็นใคร (ตง้ั แต่ดอนถงึ นดั จะเปน็ ดอน พดั และนดั )
- ตง้ั แตข่ ุนถงึ นดั เป็นใคร (ต้งั แต่ขนุ ถงึ นัดเป็นขุน ดอน พดั และนดั )

5. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 2 การบอกตาแหนง่ ของส่ิงต่าง ๆ เมอื่ เสร็จแล้วใหน้ กั เรยี น
ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้ันครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 2

ข้นั สรุป
6. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ สงิ่ ท่ไี ด้เรยี นรรู้ ่วมกัน ดังนี้ การบอกตาแหนง่ ของสงิ่ ตา่ ง

ๆ อาจใชค้ าวา่ ขา้ งซา้ ย ขา้ งขวา ถัดจาก ระหวา่ ง...กับ... ตั้งแต.่ ..ถึง...

สอ่ื การเรียนรู้
1. บัตรภาพ
2. ใบงานที่ 2 การบอกตาแหน่งของสง่ิ ต่าง ๆ

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ส่ิงทตี่ ้องการวัด วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 2 ใบงานที่ 2 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป

2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขนึ้ ไป
ท่พี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะที่พงึ
ประสงค์ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนคุณภาพ 2

ด้านคณุ ลักษณะ ทุกรายการขึน้ ไปถือว่าผา่ น

ทีพ่ งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 2 การบอกตาแหน่งของสง่ิ ตา่ ง ๆ

คาชีแ้ จง ระบายสีลูกโปง่ ตามขอ้ ความท่ีกาหนดและเติมคาตอบ

ลกู โป่งสีฟา้

ลูกโปง่ สฟี า้ อยรู่ ะหวา่ งลกู โปง่ สีฟ้ากบั สเี หลือง
ลูกโปง่ สีม่วงอยรู่ ะหว่างลกู โปง่ สีเหลอื งกบั สเี ขยี ว

1. อยู่ขา้ งซา้ ยของลกู โปง่ สีแดง
2. อยู่ข้างขวาของลูกโปง่ สีแดง
3. ถัดจากลกู โปง่ สีม่วงเปน็
4. ถัดจากลกู โปง่ สฟี ้าเปน็
5. ระหว่างลูกโปง่ สฟี ้ากับลูกโป่งสเี หลือง เป็น
6. ตงั้ แต่ลูกโป่งสฟี า้ ถึงลูกโป่งสเี ขยี ว เปน็

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 การบอกตาแหน่งและอนั ดับที่ เวลาเรียน 11 ช่วั โมง

เรอ่ื ง การบอกตาแหนง่ ของส่ิงต่าง ๆ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง

สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กดิ ขึ้นจากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตวั ช้วี ัด
-

สาระสาคัญ
การบอกตาแหนง่ ของสิง่ ต่าง ๆ อาจใช้คาว่า ขา้ งหนา้ ขา้ งหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา ถดั จาก

ระหว่าง...กบั ... ตง้ั แต่...ถึง...

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายตาแหนง่ ของส่งิ ตา่ ง ๆ โดยใชค้ าทใ่ี ช้ในการบอกตาแหน่งได้ (K)
2. บอกตาแหน่งของสงิ่ ตา่ ง ๆ โดยใชค้ าทีใ่ ชใ้ นการบอกตาแหนง่ ได้ (P)
3. นาความรูเ้ กย่ี วกับการบอกตาแหน่งของส่ิงตา่ ง ๆ ไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรียนรู้
การบอกตาแหนง่ ของสง่ิ ต่าง ๆ

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครทู บทวนคาที่ใชบ้ อกตาแหน่งขา้ งซ้าย ข้างขวา โดยติดบตั รภาพต่อไปนีบ้ น

กระดาน

แถวที่ 3

แถวท่ี 2

แถวที่ 1

ครูสนทนาซกั ถามนักเรยี น ดงั นี้
- ภาพนเ้ี ป็นภาพเกีย่ วกบั อะไร (ภาพอัฒจันทรเ์ ชยี ร์)
- บนอฒั จนั ทรน์ ีม้ ใี ครบ้าง (ปลมื้ นก ต้อง อ้อม เดยี ว รงุ้ ฉาย โอ๋ และว่าน)
- ใครน่ังอยู่ข้างซา้ ยของเดยี ว (อ้อม)
- ใครนัง่ อยู่ขา้ งขวาของโอ๋ (ฉาย)
- ใครยืนอยู่ขา้ งขวาของวา่ น (โอ๋)
- ใครยนื อยขู่ า้ งซา้ ยของโอ๋ (วา่ น)
ข้ันสอน
2. ครตู ดิ บัตรคา “ข้างหนา้ ” “ขา้ งหลงั ” ครูอา่ นแล้วนกั เรยี นอา่ นตาม แลว้ สนทนากับ
นักเรียนเก่ยี วกับภาพ ในภาพมที ่ีน่งั ก่ีแถว อะไรบ้าง (3 แถว คอื แถวท่ี 1 แถวที่ 2 และแถวที่ 3) แถว
ที่ 1 มใี ครบ้าง (ฉาย โอ๋ วา่ น) แถวท่ี 2 มีใครบ้าง (อ้อม เดยี ว ร้งุ ) แถวที่ 3 มใี ครบ้าง (ปล้ืม นก ต้อง)
จากนนั้ ถามนักเรยี นด้วยคาถามต่อไปน้พี รอ้ มทั้งตดิ แถบประโยคขอ้ ความที่เป็นคาตอบ
- ใครน่งั อยขู่ ้างหน้ารุง้ (ว่านนง่ั อยู่ขา้ งหนา้ รงุ้ )
- ใครนั่งอยขู่ ้างหลังว่าน (รุ้งน่ังอยขู่ ้างหลังวา่ น)
- ใครน่ังอยู่ข้างหลงั ฉาย (อ้อมน่งั อยขู่ า้ งหลังฉาย)
- นกนัง่ ระหวา่ งใครกับใคร (นกน่ังระหวา่ งปลอื้ มกบั ต้อง)
- ออ้ มนงั่ ระหวา่ งใครกบั ใคร (ออ้ มนงั่ ระหว่างฉายกกบั ปลื้ม)
- ตั้งแต่ปล้มื ถงึ ตอ้ งมีใครบา้ ง (ตงั้ แต่ปลื้มถึงต้องเป็นปลืม้ นก และตอ้ ง)
- ใครนัง่ ระหวา่ งต้องกับวา่ น (รุ้งนั่งอยู่ระหว่างตอ้ งกับว่าน)

3. ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงานที่ 3 การบอกตาแหนง่ ของสิ่งตา่ ง ๆ เมอื่ เสร็จแลว้ ให้นักเรียน
ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 3

ข้ันสรุป
4. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปสง่ิ ท่ีไดเ้ รียนรูร้ ว่ มกนั ดงั น้ี การบอกตาแหนง่ ของสิ่งตา่ งๆ

อาจใช้คาว่า ขา้ งซา้ ย ขา้ งขวา ขา้ งหน้า ขา้ งหลงั ถัดจาก ระหว่าง...กับ... ต้ังแต.่ ..ถงึ ...

สอ่ื การเรยี นรู้
1. บัตรภาพ
2. ใบงานท่ี 3 การบอกตาแหน่งของส่ิงตา่ ง ๆ

การวัดผลและประเมินผล

ส่งิ ท่ีต้องการวดั วิธีวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 3 ใบงานท่ี 3 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึน้ ไป

2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใช้ขึ้นไป
ท่พี ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ
ประสงค์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนได้คะแนนคณุ ภาพ 2

ด้านคณุ ลกั ษณะ ทกุ รายการข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน

ทพ่ี ึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 3 การบอกตาแหน่งของสิง่ ต่าง ๆ

คาช้ีแจง นาคาทกี่ าหนดให้เติมลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง

ข้างหนา้ ข้างหลงั ขา้ งขวา
ข้างซ้าย
ระหวา่ ง... กับ... ตั้งแต่... ถงึ ...

นิว เจง๋ ดาว
แพร เวฟ
นวิ

เจน

1. นวิ นงั่ แพร
2. เจง๋ นั่ง ดาว
3. เจนนงั่ แพร เวฟ
4. เวฟน่งั เจน
5. นิว
6. แพรน่ัง เป็นนิว เจ๋ง และดาว
นิว

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 8 การบอกตาแหนง่ และอนั ดับท่ี เวลาเรียน 11 ชั่วโมง

เร่ือง การบอกตาแหนง่ ของส่ิงตา่ ง ๆ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

สอนวนั ท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชีว้ ดั
-

สาระสาคัญ
การบอกตาแหน่งของสงิ่ ต่าง ๆ อาจใชค้ าว่า ชน้ั บน ชนั้ กลาง ชนั้ ล่าง ชน้ั บนตรงกลาง ชั้นบน

ขา้ งซ้าย ช้นั บนข้างขวา ช้นั กลางตรงกลาง ชนั้ กลางขา้ งซา้ ย ชัน้ กลางขา้ งขวา ช้นั ลา่ งตรงกลาง ช้นั
ลา่ งข้างซ้าย ชัน้ ล่างขา้ งขวา

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายตาแหน่งของส่ิงต่าง ๆ โดยใช้คาท่ีใช้ในการบอกตาแหนง่ ได้ (K)
2. บอกตาแหนง่ ของส่งิ ตา่ ง ๆ โดยใชค้ าทีใ่ ช้ในการบอกตาแหน่งได้ (P)
3. นาความรเู้ กี่ยวกบั การบอกตาแหนง่ ของสิ่งตา่ ง ๆ ไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรียนรู้
การบอกตาแหนง่ ของสิง่ ต่าง ๆ

ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุง่ ม่ันในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครูทบทวนการใช้คาบอกตาแหน่งโดยวางสิ่งของบนโต๊ะ ดงั น้ี

ครสู นทนาซักถามนกั เรียน ดงั นี้
- อะไรอยู่ตรงกลาง (แจกนั อยตู่ รงกลาง)
- อะไรอย่ขู ้างซ้ายของแกว้ (จานอยขู่ ้างซ้ายของแกว้ )
- อะไรอยู่ข้างขวาของขวด (กระปอ๋ งอยขู่ ้างขวาของขวด)
- อะไรอยู่ระหวา่ งจานกบั ขวด (แกว้ และแจกัน)
- ตั้งแตแ่ จกันถึงกระป๋องเปน็ อะไรบ้าง (ตั้งแตแ่ จกนั ถงึ กระปอ๋ งเปน็ แจกนั ขวด
และกระป๋อง)
ขั้นสอน
2. ครตู ดิ บัตรภาพตู้เก็บอุปกรณ์กฬี าบนกระดาน ดงั นี้

จากนนั้ สนทนากบั นักเรยี นวา่ เปน็ ภาพอะไร (ตเู้ ก็บอุปกรณก์ ีฬา) ตเู้ กบ็ อุปกรณก์ ีฬา
มีกช่ี ้ัน อะไรบา้ ง (มี 3 ชนั้ ไดแ้ ก่ ชน้ั บน ช้นั กลาง ชน้ั ลา่ ง ) ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ จากน้นั
เขียนคาตอบของนักเรยี นบนกระดาน ดงั น้ี

- ลูกขนไก่เก็บอยชู่ น้ั ใด (ลกู ขนไกเ่ ก็บอยูช่ ั้นบนข้างขวา)
- ลูกปงิ ปองเก็บอยชู่ ้นั ใด (ลูกปิงปองเก็บอยชู่ น้ั บนขา้ งซา้ ย)
- ลกู วอลเลยบ์ อลเก็บอยู่ช้นั ใด (ลูกปงิ ปองเกบ็ อยู่ชั้นล่างข้างขวา)
- ลกู บาสเกตบอลเก็บอยชู่ ้ันใด (ลูกบาสเกตบอลเกบ็ อยู่ชนั้ ลา่ งตรงกลาง)
- ลูกแฮนดบ์ อลเกบ็ อยู่ชัน้ ใด (ลกู แฮนด์บอลเกบ็ อยู่ชั้นกลางข้างซ้าย)

- ลกู รักบเ้ี ก็บอยู่ช้ันใด (ลูกรักบี้เก็บอยูช่ ้นั กลางตรงกลาง)
3. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 4 การบอกตาแหนง่ ของส่งิ ต่าง ๆ เม่ือเสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี น
ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 4
ขั้นสรุป
4. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงทไี่ ดเ้ รียนรู้รว่ มกนั ดังนี้ การบอกตาแหน่งของสิ่งต่างๆ
อาจใช้คาว่า ชัน้ บน ชนั้ กลาง ชั้นล่าง ชน้ั บนตรงกลาง ชัน้ บนขา้ งซา้ ย ชน้ั บนขา้ งขวา ช้ันกลางตรง
กลาง ชน้ั กลางข้างซ้าย ชนั้ กลางข้างขวา ชน้ั ลา่ งตรงกลาง ชน้ั ล่างข้างซ้าย ช้นั ลา่ งขา้ งขวา

สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานท่ี 4 การบอกตาแหนง่ ของสง่ิ ตา่ ง ๆ

การวดั ผลและประเมินผล

สิง่ ทีต่ ้องการวดั วิธีวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้
ตรวจใบงานที่ 4 ใบงานท่ี 4 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึน้ ไป
2. ดา้ นทกั ษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ ด้านทักษะกระบวนการ พอใช้ขึ้นไป
ทพี่ ึงประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น
คุณลักษณะท่ีพึง แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคุณลักษณะ ทกุ รายการขึน้ ไปถอื วา่ ผา่ น

ท่ีพึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 4 การบอกตาแหนง่ ของส่งิ ตา่ ง ๆ

คาชี้แจง จงเติมคาตอบลงในช่องวา่ ง กรรไกร

ชอ้ นปลกู ส้อมพรวน

ชั้นบน

ถุงมอื บัวรดนา้ กระถาง

ชน้ั กลาง

สายยาง คราด ปุ๋ย

ช้ันลา่ ง

1. บัวรดน้าเก็บอยู่
2. กระถางเกบ็ อยู่
3. สายยางเกบ็ อยู่
4. คราดเกบ็ อยู่
5. ชอ้ นปลูกเก็บอยู่
6. กรรไกรเก็บอยู่
7. ส้อมพรวนเกบ็ อยู่
8. ถุงมอื เก็บอยู่
9. ปุ๋ยเกบ็ อยู่

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 5

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 การบอกตาแหนง่ และอันดบั ท่ี เวลาเรยี น 11 ช่ัวโมง

เรอื่ ง การบอกอนั ดับท่ีของส่งิ ตา่ ง ๆ เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง

สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวช้วี ัด
-

สาระสาคญั
การบอกอันดับที่ของสิ่งต่าง ๆ อาจใชค้ าวา่ อนั ดับท่ี

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการบอกอนั ดบั ทโี่ ดยใชค้ าวา่ อนั ดบั ท่ีได้ (K)
2. บอกอันดับท่โี ดยใชค้ าวา่ อันดับท่ไี ด้ (P)
3. นาความร้เู ก่ยี วกับการบอกอันดบั ทีข่ องสง่ิ ต่าง ๆ ไปใช้แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การบอกอนั ดับท่ีของสง่ิ ต่าง ๆ

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้ โต้ง
ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครตู ดิ บตั รภาพบนกระดาน ดงั นี้

ตน้

ต้อม

1 3
2

แลว้ สนทนากับนักเรียนวา่ ภาพน้เี ป็นภาพอะไร (การรบั เหรียญรางวัล ) ใครไดอ้ นั ดบั
ท่ี 1 (ตน้ ) ใครได้อนั ดับที่ 2 (ตอ้ ม) ใครได้อนั ดับที่ 3 (โต้ง) กอ่ นที่ทง้ั 3 คนจะขนึ้ มายนื รับเหรยี ญ
รางวลั ท้งั 3 คน ต้องทากจิ กรรมอะไรมา (แขง่ ขัน........ฯลฯ)

ขน้ั สอน
2. ครตู ดิ บตั รภาพการแข่งขนั โยนบอลลงตะกรา้ บนกระดาน ดังนี้

จากน้ันให้นักเรียนเรียงลาดบั จานวนลกู บอลทแ่ี ต่ละทมี โยนลงตะกรา้ จากมากไป
นอ้ ย ดังนี้ 17 16 15 14 จากนนั้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกันจัดอันดับท่ีพร้อมทั้งบอกเหตผุ ลโดยใช้คาถาม
ดงั นี้

- สใี ดไดอ้ นั ดับที่ 1 เพราะอะไร (สเี ขียวได้อนั ดับท่ี 1 เพราะโยนลูกบอลลงตะกร้า
ได้มากที่สุด 17 ลกู )

- สใี ดได้อบั ดบั ที่ 2 เพราะอะไร (สีเหลอื งไดอ้ นั ดับที่ 2 เพราะโยนลูกบอลลง
ตะกร้าได้นอ้ ยกวา่ สเี ขยี ว)

- สใี ดได้อันดบั ที่ 3 เพราะอะไร (สฟี ้าได้อันดับที่ 3 เพราะโยนลกู บอลลงตะกรา้ ได้
น้อยกวา่ สีเหลอื ง)

- สใี ดได้อันดับท่ี 4 เพราะอะไร (สีแดงไดอ้ ันดบั ที่ 4 เพราะโยนลกู บอลได้คะแนน
นอ้ ยทส่ี ดุ )

3. ครูให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 5 การบอกอันดับที่ของสง่ิ ต่าง ๆ เมือ่ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียน
ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 5

ขน้ั สรปุ
4. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ทไ่ี ดเ้ รียนรูร้ ว่ มกนั ดังน้ี การบอกอันดบั ทขี่ องสิง่ ต่าง ๆ

อาจใช้คาว่า อนั ดับที่

สอ่ื การเรยี นรู้
1. บัตรภาพ
2. ใบงานที่ 5 การบอกอนั ดับทข่ี องส่ิงต่าง ๆ

การวัดผลและประเมินผล

สง่ิ ทตี่ ้องการวดั วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 5 ใบงานท่ี 5 ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใชข้ นึ้ ไป
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น
ทพี่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทพี่ ึง แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลักษณะ ทกุ รายการขน้ึ ไปถือว่าผ่าน

ทพ่ี งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 5 การบอกอนั ดับที่ของสิง่ ตา่ ง ๆ

คาช้ีแจง จัดอันดับทข่ี องการแข่งขนั โยนลกู บอลลงห่วง

แตม้
15

แต้ม
17
แตม้
16
แต้ม
19

1. สฟี ้า ได้อันดบั ที่
2. สแี ดง ไดอ้ นั ดบั ที่
3. สีเขียว ได้อันดบั ที่
4. สีเหลือง ได้อนั ดบั ที่

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 6

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 การบอกตาแหน่งและอันดับท่ี เวลาเรียน 11 ชว่ั โมง

เรอื่ ง การบอกอนั ดับท่ีของส่งิ ต่าง ๆ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง

สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวช้วี ัด
-

สาระสาคญั
การบอกอันดับที่ของสิง่ ตา่ ง ๆ อาจใช้คาว่า คนที่

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการบอกอนั ดับทีโ่ ดยใช้คาวา่ คนท่ีได้ (K)
2. บอกอันดับท่โี ดยใช้คาวา่ คนท่ไี ด้ (P)
3. นาความร้เู ก่ยี วกับการบอกอันดบั ที่ของสง่ิ ตา่ ง ๆ ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การบอกอนั ดับท่ีของสิ่งตา่ ง ๆ

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนการบอกอันดับทโ่ี ดยตดิ บัตรภาพการวง่ิ เข้าเสน้ ชัยของนักเรยี นบน

กระดาน ดงั น้ี

แลว้ สนทนากบั นกั เรียนว่าภาพนเี้ ปน็ ภาพอะไร (การว่ิงแขง่ ขัน) ใครว่งิ มาอนั ดับท่ี 1
(แป้ง) ใครว่งิ มาอันดับที่ 2 (ตาล) ใครว่งิ มาอันดับที่ 3 (เภา) ใครว่งิ มาอันดับที่ 4 (ออ้ ม)

ขัน้ สอน
2. ครตู ิดบัตรภาพการยนื โยนลูกบอลบนกระดาน ดงั น้ี

จากน้ันถามนักเรยี นดว้ ยคาถามต่อไปนี้
- แก้วตาโยนลกู บอลเปน็ คนทเ่ี ท่าไร (คนท่ี 1)
- ป๋อโยนลกู บอลเป็นคนทเี่ ทา่ ไร (คนท่ี 2)
- ก้องโยนลูกบอลเปน็ คนทเ่ี ทา่ ไร (คนท่ี 3)
- ฟ้าโยนลูกบอลเป็นคนท่เี ทา่ ไร (คนที่ 4)
- แพรโยนลกู บอลเป็นคนที่เท่าไร (คนที่ 5)
- ใครจะโยนลูกบอลเป็นคนที่ 6 (แก้วตา)
- ใครจะโยนลูกบอลเปน็ คนที่ 7 (ป๋อ)

ครใู ช้คาถามเดียวกันจนถงึ คนที่ 15 แล้วแนะนานกั เรียนวา่ “คนท่ี” เป็นคาท่ใี ช้บอก
อนั ดบั ที่

3. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบงานที่ 6 การบอกอนั ดบั ทขี่ องสิง่ ตา่ ง ๆ เมอ่ื เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี น
ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนั้นครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 6

ขนั้ สรปุ
4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงทีไ่ ด้เรยี นรรู้ ว่ มกนั ดังนี้ การบอกอนั ดบั ทีข่ องสิ่งตา่ ง ๆ

อาจใช้คาวา่ คนท่ี

สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานที่ 6 การบอกอนั ดบั ทข่ี องสง่ิ ต่าง ๆ

การวัดผลและประเมินผล

ส่งิ ทต่ี อ้ งการวัด วิธวี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 6 ใบงานที่ 6 ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ดา้ นทักษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใชข้ น้ึ ไป
ทพ่ี ึงประสงค์ สังเกตพฤติกรรมด้าน
คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึง แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคุณลกั ษณะ ทุกรายการขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน

ที่พึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานท่ี 6 การบอกอนั ดบั ท่ีของส่ิงตา่ ง ๆ

คาช้แี จง เตมิ คาตอบในชอ่ งว่าง

แอน ซนั ปอ
ฟ้า แจน แคน

1. ฟา้ ซอ้ื อาหารเปน็ คนที่
2. ปอซือ้ อาหารเปน็ คนที่
3. แจนซื้ออาหารเป็นคนที่
4. แคนซื้ออาหารเปน็ คนที่
5. แอนซือ้ อาหารเปน็ คนที่
6. ซนั ซือ้ อาหารเป็นคนท่ี

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 7

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 การบอกตาแหน่งและอันดบั ท่ี เวลาเรยี น 11 ชว่ั โมง

เรอื่ ง การบอกอนั ดับท่ีของส่งิ ต่าง ๆ เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง

สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวช้วี ัด
-

สาระสาคญั
การบอกอันดับที่ของสิง่ ตา่ ง ๆ อาจใชค้ าว่า ชัน้ ท่ี

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการบอกอนั ดับท่โี ดยใช้คาวา่ ชน้ั ท่ีได้ (K)
2. บอกอันดับท่โี ดยใช้คาวา่ ชน้ั ท่ไี ด้ (P)
3. นาความร้เู ก่ยี วกับการบอกอนั ดบั ท่ขี องสิ่งต่าง ๆ ไปใชแ้ กป้ ญั หาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรยี นรู้
การบอกอนั ดับท่ีของสิ่งตา่ ง ๆ

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการสือ่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครทู บทวนการบอกอนั ดบั ท่โี ดยใช้คาว่าคนที่ โดยติดบัตรภาพการวิ่งเขา้ เส้นชัยของ

นกั เรยี นบนกระดาน ดงั นี้

แล้วสนทนาซักถามนกั เรยี น ดงั น้ี
- นกั ฟตุ บอลหมายเลขใดยงิ ลกู โทษเปน็ คนท่ี 1 (หมายเลข 5)
- นกั ฟุตบอลหมายเลขใดยิงลูกโทษเปน็ คนที่ 3 (หมายเลข 4)
- นักฟตุ บอลหมายเลขใดยิงลูกโทษเป็นคนที่ 5 (หมายเลข 3)
ขั้นสอน
2. ครตู ิดบัตรภาพชั้นเกบ็ อุปกรณ์กฬี าบนกระดาน และแนะนาว่าชัน้ ลา่ งสดุ เป็นช้นั ท่ี 1
ดงั นี้

จากนั้นถามนักเรยี นด้วยคาถามตอ่ ไปนี้
- ลกู ปิงปองเก็บอยู่ช้นั ใด (ชนั้ ท่ี 1)
- ลกู ตะกรอ้ เก็บอยชู่ ัน้ ใด (ชัน้ ที่ 4)
- ลกู เทนนิสเกบ็ อย่ชู นั้ ใด (ช้ันที่ 2)
- ลูกวอลเลยบ์ อลเกบ็ อย่ชู ั้นใด (ช้นั ท่ี 3)
- ลกู ฟตุ บอลเก็บอยชู่ ้นั ใด (ชนั้ ที่ 5)

แนะนานักเรยี นว่า “ช้ันท่ี” เป็นคาที่ใช้บอกอนั ดบั ท่ี
3. ครใู ห้นักเรยี นทาใบงานที่ 7 การบอกอันดับทข่ี องส่ิงต่าง ๆ เม่ือเสรจ็ แล้วให้นักเรียน
ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 7
ขน้ั สรปุ
4. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ทไี่ ด้เรยี นรู้รว่ มกนั ดงั น้ี การบอกอันดบั ทข่ี องสง่ิ ต่าง ๆ
อาจใชค้ าว่า ช้ันที่

สอ่ื การเรยี นรู้
1. บัตรภาพ
2. ใบงานที่ 7 การบอกอนั ดบั ท่ขี องสงิ่ ต่าง ๆ

การวัดผลและประเมนิ ผล

สิง่ ทตี่ อ้ งการวดั วิธีวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การประเมิน

1. ด้านความรู้ ตรวจใบงานท่ี 7 ใบงานที่ 7 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป

2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ด้านทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขนึ้ ไป
3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น
ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนคณุ ภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลกั ษณะ ทกุ รายการขนึ้ ไปถอื ว่าผ่าน

ท่ีพึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 7 การบอกอันดบั ทข่ี องสิ่งต่าง ๆ

คาชี้แจง เติมคาตอบในช่องวา่ ง

คณติ ศาสตร์
ภาษาไทย

ภาษาอังกฤษ

สังคมศึกษา
วทิ ยาศาสตร์

1. หนงั สือวทิ ยาศาสตร์อยู่
2. หนังสอื ภาษาองั กฤษอยู่
3. หนงั สือคณิตศาสตร์อยู่
4. หนังสือภาษาไทยอยู่
5. หนงั สอื สงั คมศึกษาอยู่

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 8

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 การบอกตาแหนง่ และอันดับที่ เวลาเรยี น 11 ชวั่ โมง

เร่อื ง การแสดงส่งิ ตา่ ง ๆ ตามตาแหน่ง เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง

สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดขึน้ จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการ

ดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตวั ช้วี ัด
-

สาระสาคญั
การบอกตาแหนง่ และอนั ดบั ท่ขี องสิง่ ต่าง ๆ ทาให้เข้าใจตรงกันว่าอยู่ทใี่ ด หรือกล่าวถงึ สงิ่ ใด

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการแสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามตาแหนง่ ทีก่ าหนดได้ (K)
2. แสดงส่งิ ตา่ ง ๆ ตามตาแหนง่ ทก่ี าหนดได้ (P)
3. นาความรเู้ กยี่ วกับการแสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามตาแหน่ง ไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้

(A)

สาระการเรยี นรู้
การแสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามตาแหน่ง

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรียน
1. ครตู ดิ บัตรภาพบนกระดาน ดงั นี้

ช้นั บน

ช้นั กลาง

ชน้ั ล่าง

แล้วครสู นทนากับนักเรยี นวา่ ไมบ้ ล็อกเกบ็ อยชู่ ้ันใด (ช้นั บนข้างซ้าย) ลูกแก้วเกบ็ อยู่
ชน้ั ใด (ชัน้ บนตรงกลาง) รถไขลานเก็บอยู่ชั้นใด (ชั้นบนขา้ งขวา) เกมเกบ็ อยชู่ ัน้ ใด (ชั้นกลางขา้ งซ้าย )
รถไฟเก็บอยูช่ ้นั ใด (ชน้ั กลางตรงกลาง) เครอ่ื งบนิ เก็บอยูช่ ้ันใด (ชั้นกลางข้างขวา) หุ่นยนต์เกบ็ อยู่ช้ันใด
(ชัน้ ล่างขางซ้าย) ตัวต่อเก็บอยูช่ นั้ ใด (ชน้ั ล่างตรงกลาง) ต๊กุ ตาหมเี ก็บอยูช่ ัน้ ใด (ชั้นล่างข้างขวา)

ขน้ั สอน
2. ครตู ิดบัตรภาพตู้เก็บอปุ กรณก์ ฬี าบนกระดาน ดังน้ี

ครสู ่มุ ตัวแทนนกั เรยี นออกมาชต้ี าแหน่งของชั้นท่ี 2 ตรงกลาง ช้นั ที่ 2 ข้างซ้าย ชั้นที่
3 ขา้ งขวา ชนั้ ท่ี 3 ตรงกลาง

3. ครใู ห้นักเรียนนาภาพอปุ กรณก์ ีฬาต่อไปนี้ไปตดิ ในภาพตูเ้ กบ็ อุปกรณก์ ฬี าตาม
ตาแหน่งและอันดับที่ทค่ี รกู าหนด เชน่

- นาลูกฟุตบอลไปเกบ็ ทชี่ ัน้ ที่ 1 ขา้ งขวา
- นาลกู บาสเกตบอลไปเกบ็ ท่ชี ั้นท่ี 2 ตรงกลาง
- นาลูกวอลเลย์บอลไปเก็บที่ชั้นที่ 3 ข้างขวา
- นาลกู แบดมนิ ตนั ไปเก็บทีช่ ้นั ท่ี 3 ตรงกลาง

- นาลูกปงิ ปองไปเกบ็ ท่ีช้ันที่ 2 ขา้ งขวา
- นาลูกกอล์ฟไปเกบ็ ที่ชน้ั ที่ 3 ขา้ งซา้ ย
- นาลกู รักบไ้ี ปเก็บที่ชัน้ ท่ี 1 ตรงกลาง
- นาลูกตะกร้อไปเก็บทชี่ น้ั ท่ี 2 ข้างซ้าย
- นาลูกแฮนดบ์ อลไปเกบ็ ท่ีชัน้ ที่ 1 ขา้ งซ้าย
4. ครูให้นกั เรียนทา ใบงานท่ี 8 การแสดงสิ่ งต่าง ๆ ตามตาแหนง่ เมอื่ เสรจ็ แลว้ ให้
นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 8
ขน้ั สรปุ
5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรรู้ ว่ มกนั ดังน้ี การบอกตาแหน่งและอันดบั ท่ี
ของสิง่ ตา่ ง ๆ ทาให้เข้าใจตรงกนั ว่าอยทู่ ่ใี ด หรือกล่าวถึงส่ิงใด

สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานที่ 8 การแสดงสงิ่ ต่าง ๆ ตามตาแหน่ง

การวดั ผลและประเมนิ ผล

สงิ่ ทีต่ ้องการวัด วิธวี ัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานท่ี 8 ใบงานที่ 8 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ข้ึนไป
2. ดา้ นทักษะ
กระบวนการ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
ทกั ษะกระบวนการ
3. ด้านคณุ ลักษณะ ด้านทักษะกระบวนการ พอใช้ขน้ึ ไป
ท่พี งึ ประสงค์ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น
คุณลักษณะท่ีพงึ แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นไดค้ ะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ด้านคณุ ลักษณะ ทกุ รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน

ทีพ่ งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 8 การแสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามตาแหน่ง

คาช้ีแจง เตมิ คาตอบ

123

456

789

1. หุ่นมอื เกบ็ ชน้ั ท่ี 1 ขา้ งซา้ ย คือ ชอ่ งหมายเลข
2. ลกู บาสเกตบอลเกบ็ ช้นั ที่ 2 ตรงกลาง คอื ชอ่ งหมายเลข
3. รถบังคบั เก็บชั้นท่ี 3 ข้างขวา คือ ช่องหมายเลข
4. เคร่อื งบนิ บังคับเกบ็ ชน้ั ท่ี 1 ขา้ งขวา คือ ช่องหมายเลข
5. หุ่นจาลองเกบ็ ช้นั ที่ 3 ข้างขวา คอื ช่องหมายเลข
6. ตกุ๊ ตาหมีเก็บชนั้ ที่ 3 ตรงกลาง คอื ชอ่ งหมายเลข
7. รถลากเก็บชั้นท่ี 2 ขา้ งซ้าย คือ ชอ่ งหมายเลข
8. ลูกขา่ งเก็บชนั้ ท่ี 1 ตรงกลาง คือ ชอ่ งหมายเลข
9. ตัวตอ่ เกบ็ ชนั้ ที่ 2 ขา้ งขวา คือ ชอ่ งหมายเลข

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 9

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 การบอกตาแหนง่ และอันดับที่ เวลาเรยี น 11 ชวั่ โมง

เร่อื ง การแสดงส่งิ ตา่ ง ๆ ตามตาแหน่ง เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง

สอนวนั ที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดขึน้ จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการ

ดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตวั ช้วี ัด
-

สาระสาคญั
การบอกตาแหนง่ และอนั ดบั ท่ขี องสิง่ ต่าง ๆ ทาให้เข้าใจตรงกันว่าอยู่ทใี่ ด หรือกล่าวถงึ สงิ่ ใด

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการแสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามตาแหนง่ ทีก่ าหนดได้ (K)
2. แสดงส่งิ ตา่ ง ๆ ตามตาแหนง่ ทก่ี าหนดได้ (P)
3. นาความรเู้ กยี่ วกับการแสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามตาแหน่ง ไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้

(A)

สาระการเรยี นรู้
การแสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามตาแหน่ง

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการส่อื สารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครตู ดิ บตั รภาพท่ีนงั่ ในหอ้ งเรยี นบนกระดาน ดังนี้

แถว A
แถว B
แถว C

และสนทนากบั นกั เรียนวา่ เป็นภาพเกย่ี วกับอะไร (ห้องเรียน) ที่นัง่ มีกี่แถว อะไรบ้าง
(มี 3 แถว ไดแ้ ก่ แถว A แถว B แถว C ) จากนั้นใหน้ กั เรียนออกมาชีต้ าแหนง่ ของท่นี ่งั แถว A ขา้ งซา้ ย
ท่ีน่งั แถว A ข้างขวาท่นี ั่งแถว B ข้างซ้าย ทน่ี ง่ั แถว B ขา้ งขวา ทน่ี ่งั แถว C ขา้ งซา้ ย ท่ีน่งั แถว C ขา้ ง
ขวา ท่ีนง่ั แถว A ตรงกลางทน่ี ่งั แถว B ตรงกลาง ท่นี ่ังแถว C ตรงกลาง

ข้ันสอน
2. ครตู ิดบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้

แถว C

แถว B

แถว A
คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 คนที่ 4

และสนทนากบั นกั เรยี นวา่ อัฒจนั ทร์มที ี่นัง่ แถวอะไรบ้าง (แถว A แถว B แถว C)
แล้วให้นักเรียนออกมาชต้ี าแหนง่ ของทีน่ ัง่ แถว A ขา้ งซา้ ย ทน่ี ัง่ แถว A ข้างขวา ทีน่ ่งั แถว B ขา้ งซา้ ย ที่
นั่งแถว B ขา้ งขวา ทน่ี ง่ั แถว C ขา้ งซ้าย ท่นี ่งั แถว C ข้างขวา

จากนนั้ ครแู นะนาวา่ เมื่อทนี่ ง่ั ระหวา่ งทน่ี ง่ั ข้างซ้ายและขา้ งขวาในแถวมีหลายทที่ าให้
เกิดปญั หาวา่ หมายถงึ ท่นี ่ังใดจึงจาเปน็ ตอ้ งมีคาทใ่ี ชบ้ อกอันดับทใ่ี นแตล่ ะแถว เช่น คนที่ 1 คนท่ี 2 คน
ท่ี 3 คนท่ี 4

3. ครใู หน้ ั กเรียน ช่วยกนั จดั เกา้ อ้ีเปน็ 3 แถว แถวละ 4 ตัวเหมือนกับภาพท่ีติดบน
กระดาน แล้ววางบตั รคาบนพืน้ เหมือนภาพทต่ี ดิ บนกระดานและเตรยี มสลากสาหรบั กจิ กรรม จากนั้น
ดาเนินการจัดกิจกรรมดงั น้ี

- แบง่ นักเรียนเปน็ กลุม่ ละ 12 คน
- นกั เรยี นจบั สลากคนละ 1 ใบ แลว้ ไปนัง่ ตามตาแหนง่ ท่นี งั่ ท่ีตนเองจดั ได้
- นกั เรยี นอา่ นขอ้ ความในสลากใหเ้ พือ่ น ๆ ฟงั เพอื่ น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบ
ความถูกต้อง
4. ครใู หน้ ักเรียนทา ใบงานท่ี 9 การแสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามตาแหนง่ เมื่อเสรจ็ แล้วให้
นักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 9
ขน้ั สรปุ
5. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่งิ ที่ได้เรยี นรูร้ ่วมกนั ดังน้ี การบอกตาแหนง่ และอนั ดบั ที่
ของส่ิงตา่ ง ๆ ทาใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั วา่ อยทู่ ใี่ ด หรือกลา่ วถึงส่ิงใด

สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานที่ 9 การแสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามตาแหน่ง

การวัดผลและประเมนิ ผล

สิง่ ทีต่ ้องการวดั วธิ วี ดั เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน

1. ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานท่ี 9 ใบงานที่ 9 ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป

2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ
ดา้ นทักษะกระบวนการ พอใช้ข้ึนไป
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
ท่พี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพงึ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคุณลักษณะ ทุกรายการข้นึ ไปถือว่าผ่าน

ทีพ่ งึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 9 การแสดงสงิ่ ต่าง ๆ ตามตาแหน่ง

คาชแี้ จง เขยี นชือ่ ตามตาแหน่งท่กี าหนดให้

แถว C

แถว B

แถว A
คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 คนท่ี 4

1. บนี งั่ แถว A คนท่ี 1
2. ตน้ น่ังแถว A คนท่ี 4
3. นกนง่ั แถว B คนท่ี 4
4. นอ้ ยน่ังแถว B คนท่ี 3
5. เก๋นง่ั แถว C คนที่ 2
6. เจา้ น่ังแถว A คนที่ 3
7. ไก่นั่งแถว C คนท่ี 1
8. หนุ่ยนั่งแถว B คนท่ี 2

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 10

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 การบอกตาแหน่งและอันดับท่ี เวลาเรียน 11 ช่วั โมง

เรอ่ื ง การแสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามอันดับที่ เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง

สอนวันท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชี้วดั
-

สาระสาคัญ
การบอกตาแหนง่ และอนั ดับทีข่ องส่งิ ตา่ ง ๆ ทาให้เข้าใจตรงกันวา่ อยู่ที่ใด หรือกล่าวถึงส่ิงใด

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายการแสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามอันดับที่กาหนดได้ (K)
2. แสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามอันดับทก่ี าหนดได้ (P)
3. นาความรเู้ กยี่ วกบั การแสดงสงิ่ ต่าง ๆ ตามอันดับท่ี ไปใช้แก้ปัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A)

สาระการเรียนรู้
การแสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามอนั ดับท่ี

ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตุผล

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูติดบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้

แถว C
แถว B
แถว A

คนที่ 1 คนท่ี 2 คนท่ี 3 คนท่ี 4
จากน้นั ให้ตัวแทนนกั เรยี นเขยี นชอ่ื บนอฒั จนั ทร์ตามตาแหนง่ ทกี่ าหนด ดงั นี้
- สม้ โอนง่ั แถว A คนท่ี 4
- ปอนั่งแถว C คนท่ี 2
- ต้องน่งั แถว B คนท่ี 1
- กกุ๊ นงั่ แถว A คนท่ี 3
ขน้ั สอน
2. ครตู ดิ บัตรภาพการว่ิงแขง่ ขนั บนกระดาน ดังน้ี

ครใู ห้นักเรียนพิจารณาภาพการแข่งขันวง่ิ แลว้ สนทนาซักถามนกั เรยี น ดงั นี้
- ภาพน้เี ป็นภาพเกี่ยวกับอะไร (การแขง่ ขันว่งิ )
- มีผู้แขง่ ขนั กี่คน (5 คน)

- ลวู่ ง่ิ มที ้ังหมดก่ลี ู่ (5 ลู่)
- แปง้ วง่ิ ในลู่ 4 วิง่ มาเปน็ อันดบั ท่ีเทา่ ไร (อันดบั ท่ี 1) นกั เรยี นชีท้ ีร่ ูปแปง้
- ตาลว่ิงในลู่ 1 วง่ิ มาเปน็ อนั ดบั ทเ่ี ทา่ ไร (อันดับที่ 3) นักเรยี นชท้ี รี่ ปู ตาล
- เภาวงิ่ ในลู่ 3 ว่ิงมาเปน็ อันดับทเี่ ทา่ ไร (อันดับที่ 4) นักเรยี นชี้ทร่ี ปู เภา
- อ้อมวิ่งในลู่ 2 ว่งิ มาเปน็ อนั ดบั ท่เี ท่าไร (อนั ดบั ท่ี 5) นกั เรียนชีท้ ีร่ ปู อ้อม
- พลอยวง่ิ ในลู่ 5 ว่ิงมาเป็นอันดบั ที่เท่าไร (อันดบั ท่ี 2) นักเรียนชที้ ร่ี ปู พลอย
จากนั้นให้นักเรียนนาบตั รคาเปน็ ช่ือนกั ว่งิ แตล่ ละคนตดิ บนภาพล่วู ิ่งตามอันดบั ทท่ี ค่ี รู

กาหนด ดงั น้ี

อ้อม
เภา

ตาล

พลอย
แปง้

3. ครูใหน้ กั เรียนทา ใบงานที่ 10 การแสดงสิ่งตา่ ง ๆ ตามอันดับที่ เมือ่ เสรจ็ แล้วให้
นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 10

ข้นั สรุป
4. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การบอกตาแหนง่ และอนั ดับที่

ของสิง่ ตา่ ง ๆ ทาให้เขา้ ใจตรงกันว่าอยูท่ ่ใี ด หรอื กล่าวถงึ ส่ิงใด

สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานท่ี 10 การแสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามอันดบั ท่ี

การวัดผลและประเมินผล

ส่งิ ทตี่ อ้ งการวัด วธิ ีวัด เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้
ตรวจใบงานที่ 10 ใบงานที่ 10 ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. ดา้ นทักษะ
กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ด้านทักษะกระบวนการ พอใช้ขึ้นไป
ทพ่ี ึงประสงค์ สังเกตพฤติกรรมดา้ น
คณุ ลกั ษณะที่พงึ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนคณุ ภาพ 2
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะ ทุกรายการข้ึนไปถอื ว่าผา่ น

ที่พึงประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 10 การแสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามอนั ดบั ท่ี
คาชีแ้ จง นับและบอกจานวนส่งิ ของ

12345

รินวงิ่ ในลู่ 1 วิง่ มาเป็นอันดบั ท่ี
ปอนด์วิง่ ในล่ทู ี่ 5 ว่งิ มาเป็นอันดบั ท่ี
จอหน์ ว่ิงในลู่ท่ี 2 ว่ิงมาเปน็ อันดับที่
ภูผาวง่ิ ในลทู่ ่ี 4 ว่งิ มาเป็นอันดบั ท่ี
อารม์ ว่ิงในลู่ท่ี 3 วิ่งมาเปน็ อนั ดบั ที่

d

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 การบอกตาแหน่งและอันดับที่ เวลาเรยี น 11 ช่วั โมง

เรอ่ื ง การนาตาแหนง่ และอันดับทไี่ ปใช้ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง

สอนวันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ

ดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ

ดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชี้วัด
-

สาระสาคัญ
การจัดอนั ดบั ทข่ี ้ึนอยกู่ ับเง่อื นไขหรือกตกิ าที่กาหนด เชน่ คะแนนมากทส่ี ดุ ได้อันดบั ท่ี 1

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการนาความรเู้ รอ่ื งตาแหนง่ และอนั ดับทไ่ี ปใช้ได้ (K)
2. นาความรู้เรือ่ งตาแหน่งและอันดับทไ่ี ปใชใ้ นสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้ (P)
3. นาความรู้เกีย่ วกบั การนาตาแหนง่ และอนั ดบั ทีไ่ ปใช้ ไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้

(A)

สาระการเรยี นรู้
การนาตาแหนง่ และอันดบั ทไ่ี ปใช้

ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการแก้ปญั หา
2. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูตดิ ตารางคะแนนการแข่งขนั โยนลูกบอลตอ่ ไปนี้บนกระดาน

คะแนนการแข่งขันโยนบอล

สีแดง สีเขยี ว สฟี า้ สเี หลอื ง

14 12 16 15

จากนัน้ สนทนากับนักเรยี นว่าตารางน้ีเป็นตารางเกย่ี วกับอะไร (คะแนนการแข่งขัน
โยนลกู บอล) สแี ดงโยนลูกบอลไดก้ คี่ ะแนน (14 คะแนน) สเี ขยี วโยนลกู บอลไดก้ คี่ ะแนน (12 คะแนน)
สฟี า้ โยนลกู บอลไดก้ คี่ ะแนน (16 คะแนน) สีเหลอื งโยนลูกบอลได้กี่คะแนน (15 คะแนน)

ขนั้ สอน
2. ครูแนะนานกั เรยี นวา่ ถา้ จะมอบเหรียญทองใหก้ ับสีทีไ่ ด้คะแนนการโยนลกู บอลเป็น

อันดบั ที่ 1 มอบเหรยี ญเงินให้สที ีไ่ ด้คะแนนการโยนลกู บอลเป็นอนั ดบั ที่ 2 และมอบเหรยี ญทองแดง
ใหก้ บั สีทไ่ี ด้คะแนนการโยนลูกบอลเป็นอนั ดับที่ 3 และใชค้ าถามถามนกั เรยี น ดังนี้

- สีใดไดเ้ หรียญทอง (สฟี ้าได้เหรี ยญทองเพราะได้คะแนนเปน็ อันดบั ที่ 1 มาก
ทสี่ ดุ )

- สใี ดไดเ้ หรยี ญเงิน (สเี หลอื งไดเ้ หรียญเงิน เพราะได้คะแนนเป็นอนั ดบั ท่ี 2)
- สีใดไดเ้ หรียญทองแดง (สแี ดงได้เหรยี ญทองแดง เพราะไดค้ ะแนนเปน็ อันดับท่ี
3)
- สเี ขยี วไมไ่ ดเ้ หรียญเพราะอะไร (เพราะไดค้ ะแนนเป็นอนั ดับท่ี 4 นอ้ ยท่สี ดุ )
จากน้ันครูบอกนกั เรียนวา่ วันน้จี ะมเี กมให้นกั เรยี นแขง่ ขนั กัน สใี ดไดอ้ นั ดบั ที่ 1 จะได้
เหรียญทองสที ไ่ี ด้อนั ดับท่ี 2 จะไดเ้ หรยี ญเงนิ และสีท่ไี ด้อนั ดับท่ี 3 จะได้เหรียญทองแดง

3. ครตู ดิ บัตรภาพการแขง่ ขนั ปากกระปอ๋ ง ดังน้ี

เหตผุ ล นกั เรียนจดั อนั ดับผลการแข่งขนั โดยครูให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้พี ร้อมทง้ั บอก
กระปอ๋ ง) - ทมี สีใดไดอ้ ันดบั ท่ี 1 (ทมี สีฟ้าไดอ้ นั ดับท่ี 1 เพราะเหลอื กระป๋องน้อยที่สุด 1
- ทีมสีใดได้อนั ดบั ที่ 2 (ทีมสเี ขียวไดอ้ นั ดับท่ี 2 เพราะเหลอื 2 กระปอ๋ ง)

- ทีมสีใดได้อันดบั ที่ 3 (ทีมสแี ดงและทีมสเี หลืองได้อนั ดับท่ี 3 เพราะเหลอื
กระป๋องมากทส่ี ุด 3 กระป๋อง)

4. ครใู หน้ ักเรยี นทา ใบงานที่ 11 การนาตาแหนง่ และอนั ดับท่ีไปใช้ เมือ่ เสร็จแล้วให้
นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 11

ขั้นสรปุ
5. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรูร้ ่วมกัน ดังนี้ การจัดอันดับทีข่ ้นึ อยกู่ บั

เงอ่ื นไข หรอื กติกาที่กาหนด เชน่ คะแนนมากท่ีสดุ ไดอ้ ันดบั ที่ 1

สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. ใบงานที่ 11 การนาตาแหน่งและอนั ดับทไ่ี ปใช้

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ส่งิ ท่ตี อ้ งการวดั วธิ ีวดั เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้
ตรวจใบงานที่ 11 ใบงานท่ี 11 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึ้นไป
2. ด้านทกั ษะ
กระบวนการ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
ทักษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ พอใช้ขึน้ ไป
ท่ีพึงประสงค์ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
คณุ ลักษณะท่ีพงึ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนคุณภาพ 2
ประสงค์
ดา้ นคณุ ลักษณะ ทกุ รายการขึน้ ไปถือว่าผ่าน

ท่ีพงึ ประสงค์ เกณฑ์

ใบงานที่ 11 การนาตาแหนง่ และอันดับที่ไปใช้
คาชี้แจง เตมิ คาตอบ

การแข่งขนั ปาเปา้ ทีมที่ได้คะแนนมากท่สี ดุ จะไดอ้ นั ดับท่ี 1

ทีมสีแดง 5
ทีมสีฟ้า
ทีมสเี หลือง 1150
ทมี สเี ขียว
20

1. อันดบั ที่ ทมี สี ไดค้ ะแนนมากท่สี ดุ คะแนน
คะแนน
2. อันดับท่ี ทมี สี ได้ คะแนน

3. อันดับที่ ทีมสี ได้ คะแนน

4. อันดับท่ี ทีมสี ได้คะแนนน้อยท่ีสดุ

5. เรยี งลาดบั สีทไี่ ดค้ ะแนนจากมากไปน้อย

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 12

รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 9 รูปเรขาคณติ เวลาเรียน 12 ชัว่ โมง

เรอื่ ง ทรงสเี่ หลยี่ มมุมฉาก เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

สอนวันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. .........

.......................................................................................................................................................... ...

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 2.2 : เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต

ความสัมพนั ธร์ ะหว่างรูปเรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และ

นาไปใช้

ตวั ชว้ี ัด
ค 2.2 ป.1/1 : จาแนกรปู สามเหลย่ี ม รปู ส่เี หล่ียม วงกลม วงรี ทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก ทรง
กลม ทรงกระบอก และกรวย

สาระสาคญั
ทรงสเ่ี หลยี่ มมุมฉากเปน็ รูปเรขาคณิตสามมิตชิ นดิ หนึง่ ท่ีหน้าทง้ั หกหน้าเป็นรปู ส่ีเหล่ยี มมุม

ฉาก มีลักษณะเรยี บแบน กลิง้ ไมไ่ ด้ แตว่ างซ้อนกนั ได้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายเกย่ี วกบั รปู เรขาคณติ ทรงสีเ่ หลยี่ มมมุ ฉากได้ (K)
2. สามารถจาแนกรูปเรขาคณติ สามมิตทิ ม่ี ีลักษณะเป็นทรงส่เี หลยี่ มมุมฉากได้ (P)
3. นาความรู้เกีย่ วกับทรงสเี่ หลย่ี มมุมฉากไปใชแ้ ก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A)

สาระการเรยี นรู้
ทรงสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก

ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครนู าสิ่งของต่ าง ๆ ท่พี บเหน็ ในชีวติ ประจาวันทมี่ ีรูปร่ างลกั ษณะแตกต่ างกนั เชน่

กลอ่ งยาสีฟัน ลกู ฟตุ บอล ลูกรักบี้ กรวยกรอกนา้ แกว้ น้า หลอดดูด ฯลฯ ว างบนโต๊ะ แลว้ นาสนทน า
ถงึ รูปร่างลักษณะของสงิ่ ต่ าง ๆ ทพี่ บในชวี ติ ประจาวนั แล้วใหน้ กั เรียนทดลองจบั ว าง ต้งั กลิ้ง หรอื
ซอ้ นกนั แล้วร่วมกนั อภปิ รายถงึ ลักษณะของส่งิ ต่ าง ๆ เหล่าน้นั ซงึ่ จะไดว้ ่ า บางชนิดมบี างสว่ นเรียบ
แบน บางชนิดวางซ้อนกันได้ บางชนดิ กลง้ิ ได้

ขั้นสอน
2. ครตู ิดบัตรภาพรูปเรขาคณิตทรงส่เี หล่ียมมุมฉากบนกระดานให้นกั เรยี นศึกษา ดังนี้

3. แบง่ นักเรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 – 4 คน ครูแจกส่งิ ของต่าง ๆ ที่มลี ักษณะเปน็ ทรง
สี่เหล่ียมมมุ ฉากขนาดตา่ ง ๆ กัน เชน่ กลอ่ งสบู่ กล่องยาสีฟนั กล่องบรรจยุ า กล่องนม ลูกเตา๋ ฯลฯ
กลุ่มละ 3 – 4 ชิ้น ใหช้ ว่ ยกนั ทาการสารวจลกั ษณะของสิ่งของทไี่ ดร้ บั และบอกผลการสา รวจ ซึ่งควร
จะไดว้ า่ สิง่ ที่ไดส้ ารวจทุกชิน้ มี 6 หนา้ แต่ละหนา้ มลี กั ษณะเรียบแบน สามารถนา มาวางซ้อนกนั ได้ แต่
กลงิ้ ไมไ่ ด้ ครูแนะนาวา่ สงิ่ ต่าง ๆ เหลา่ น้ี มลี ักษณะเปน็ รปู สเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก ซึ่งเป็นรปู เรขาคณิตสามมติ ิ
ชนดิ หนงึ่

4. ครูนาสิ่งของอื่น ๆ ที่มีลกั ษณะเป็นทรงสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก และไม่เปน็ ทรงสี่เหลย่ี มมุม
ฉาก ใหน้ ั กเรียนดแู ละสมั ผสั แล้วให้แตล่ ะกลมุ่ ตอบว่า ส่ิงของตา่ ง ๆ เหลา่ นัน้ มีลักษณะเป็นทรง
สีเ่ หลี่ยมมมุ ฉาก หรอื ไม่เป็นทรงส่เี หลย่ี มมุมฉาก เพราะเหตุใด

5. ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มยกตัวอย่างสงิ่ ตา่ ง ๆ ทอี่ ยู่รอบตวั ที่มีลกั ษณะเปน็ ทรงส่ีเหล่ียม
มุมฉากหรอื คลา้ ยทรงส่เี หล่ยี มมุมฉาก กลมุ่ ละ 2 ชนิด

6. ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงานท่ี 1 ทรงส่เี หลยี่ มมมุ ฉาก เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนชว่ ยกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 1

ข้นั สรปุ
7. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ สิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรรู้ ว่ มกนั ดังน้ี ลกั ษณะของทรงสเี่ หลย่ี มมุม

ฉากเป็นรูปเรขาคณติ สามมิติชนดิ หน่ึง ทหี่ นา้ ท้งั หกหน้าทีม่ ลี ักษณะเรียบแบน สามารถวางซ้อนกันได้
กลงิ่ ไมไ่ ด้


Click to View FlipBook Version