The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by padcharapan.kpru, 2020-11-01 01:34:56

S2-Teacher-M3

S2-Teacher-M3

ดาราศาสตร์
กับ

สถาปัตยกรรม

ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 3 ช่ัวโมง

สาระส�ำคัญ

ตำ� แหนง่ ทดี่ วงอาทติ ยข์ นึ้ และตกทบี่ รเิ วณขอบฟา้ ในแตล่ ะวนั ทงั้ ปจี ะไมข่ น้ึ และตกในตำ� แหนง่ เดมิ แตม่ กี าร
เปลี่ยนแปลงต�ำแหน่งเล็กน้อยในแต่ละวันและเมื่อครบหนึ่งปีก็จะมีต�ำแหน่งการข้ึนและตกของดวงอาทิตย์กลับ
มาต�ำแหน่งเดิมอีกเป็นวัฏจักร ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดข้ึนเนื่องจากโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์โดยท่ีแกนโลก
เอยี งเปน็ มุม 23.5 องศากบั เสน้ ตั้งฉากของระนาบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ย์ ซึ่งส่งผลตอ่ พลงั งานท่ีโลกได้
รับจากดวงอาทติ ย์ในแตล่ ะวัน เกดิ เป็นฤดกู าลขน้ึ
ในการออกแบบเพอื่ สรา้ งบา้ นเรอื นหรอื ทพ่ี กั อาศยั ตอ้ งอาศยั ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ทศิ ทาง ตำ� แหนง่
การขนึ้ ตกของดวงอาทติ ย์ สภาพภมู อิ ากาศ และสภาพภมู ปิ ระเทศของตำ� แหนง่ นนั้ เพอ่ื สรา้ งทพ่ี กั ใหต้ รงกบั ความ
ตอ้ งการของผู้อยอู่ าศัยและสอดคลอ้ งกับสภาพแวดลอ้ มดว้ ย

ตวั ชว้ี ดั ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน

วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี
-
1. สร้างแบบจำ� ลองเพอื่ อธบิ าย 1. เข้าใจและใช้ความร้ทู างสถิติใน
การเปลี่ยนแปลงเสน้ ทางการ การน�ำเสนอ วเิ คราะห ์ และ
เคล่ือนทป่ี รากฏของดวงอาทติ ย์ แปลความหมายผลลัพธ์
ในรอบปี

48 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

สาระการเรียนรู้

วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี
- การใชโ้ ปรแกรมแสดงข้อมูล
- โลกโคจรรอบดวงอาทิตยใ์ น - การแปลความหมายผลลัพธ ์
ลักษณะท่ีแกนโลกเอียงกบั (Interpreting Result) ทีต่ ้องการจากเวบ็ ไซต์
แนวต้งั ฉากของระนาบทาง - การนา� สถิตไิ ปใชใ้ นชวี ติ จรงิ โดยใช้
โคจรทา� ใหเ้ กิดกลางวนั กลาง เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสม
คืนยาวไม่เท่ากันและต�าแหนง่ - การตงั้ ค�าถามทางสถติ ิ
การข้ึนตกของดวงอาทิตย์ที่ (Formulation Question)
ขอบฟ้าและเส้นทางการขึ้น - การเกบ็ รวบรวมข้อมลู (Collecting
ตกของดวงอาทติ ย์เปลยี่ น Data)
ไปในรอบป ี ซง่ึ ส่งผลตอ่ การ - การนา� เสนอขอ้ มลู
ด�ารงชวี ิต - การวเิ คราะห์ข้อมูลทน่ี า� เสนอในรูป
แผนภูมริ ปู วงกลม ตาราง แผนภูมิ
แท่ง แผนภมู ริ ูปภาพ แผนภมู ิจุด
(dotplots) กราฟเส้น
- หนา้ ตัดของรปู เรขาคณิตสามมิติ
- ภาพทไ่ี ด้จากการมองด้านหนา้
ดา้ นขา้ ง ดา้ นบนของรปู เรขาคณติ
สามมติ ิทป่ี ระกอบขึ้นจากลกู บาศก์

กรอบแนวคิด

S: วทิ ยาศาสตร*์ T: เทคโนโลยี
• การเปล่ยี นต�าแหน่งการขึน้ ตกและเส้นทาง • การใช้โปรแกรมแสดงเสน้ ทางปรากฏของ

เดินปรากฏของดวงอาทิตยใ์ นรอบปี ดวงอาทติ ย์ในแตล่ ะประเทศจากเวบ็ ไซต์

ดาราศาสตร์กับสถาปัตยกรรม

E: วศิ วกรรมศาสตร์ M: คณิตศาสตร์
• กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม • เข้าใจและใชค้ วามรูท้ างสถิติ
(ออกแบบผังบา้ นใหร้ บั แสงมากทสี่ ุดหรือ • ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งรูปเรขาคณิตสองมติ ิ

น้อยที่สุดจากสถานการณท์ ี่กา� หนดให)้ และสามมิติ

*เปน็ วชิ าหลักในการนา� กจิ กรรมน้ี

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย ี (สสวท.) 49
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

จุดประสงค์ของกจิ กรรม

1. อธบิ ายตำ� แหนง่ การข้นึ -ตกของดวงอาทติ ยใ์ นรอบปี
2. อธบิ ายแนวการเคลือ่ นที่ปรากฏของดวงอาทิตย์ของพน้ื ที่ที่ศกึ ษา
3. อธิบายความสมั พันธข์ องแนวการเคลอ่ื นทป่ี รากฏของดวงอาทติ ย์และละติจูดของพ้ืนทนี่ ้นั ๆ
4. สร้างแบบจ�ำลองเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยข์ องพน้ื ทท่ี ีศ่ ึกษา
5. วางแปลนบ้านใหเ้ หมาะสมกับ ภูมิอากาศ ภูมปิ ระเทศและสภาพแวดล้อมโดยมีเหตุผลสนบั สนนุ

วสั ดุอุปกรณ์

ท่ี รายการ จำ� นวน ที่ รายการ จำ� นวน
ต่อกล่มุ ต่อกลุ่ม

1 พืน้ ทส่ี ร้างบ้าน เส้นผ่าน 1 แผ่น 6 แผน่ พลาสตกิ ลกู ฟูก ขนาด 20 1 แผน่
ศูนยก์ ลาง 16 เซนตเิ มตร เซนตเิ มตร x 30 เซนติเมตร
1 อนั
2 ดนิ น�ำ้ มัน 1 ก้อน 7 คัตเตอร ์ 1 เลม่
1 มว้ น
3 ปากกาเขยี นซีดี หรือ ปากกาเคมี 1 ดา้ ม 8 กรรไกร
1 อนั
4 ลวดยาว 55 เซนติเมตร 3 เสน้ 9 เทปใส

5 ฝาครอบแก้วพลาสตกิ หรอื 2 ใบ 10 โปรแทรกเตอร/์ คร่งึ วงกลม
ฝาแก้วกาแฟ วัดมุม

ชดุ อปุ กรณ์ของหอ้ ง จำ� นวน
1 อนั
ท่ี รายการ
1 ลกู โลกจ�ำลอง 2-5 เครอ่ื ง
2 คอมพิวเตอรพ์ ร้อมการเช่ือมตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ต

แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขน้ั ระบุปัญหา
1. กอ่ นท่ีจะทำ� กจิ กรรมหลกั ในเรือ่ งน้ี ครคู วรใหน้ ักเรียนท�ำใบกจิ กรรมที่ 1 สำ� รวจบา้ นตนเอง เป็นการ

ศึกษาแบบบ้านที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจ�ำวันของนักเรียนเอง โดยให้นักเรียนเขียนแปลนบ้าน
หรอื ทพี่ กั อาศยั ของนักเรียนครา่ ว ๆ โดยระบุตำ� แหนง่ ของห้อง หนา้ ตา่ ง ในต�ำแหนง่ ต่าง ๆ ของบา้ น
เทยี บกบั ทศิ ทางใหถ้ กู ตอ้ ง รวมทงั้ ระบตุ ำ� แหนง่ ของตน้ ไมข้ นาดใหญร่ อบ ๆ บรเิ วณบา้ น เพอื่ ใชใ้ นการ
อภปิ รายถึงการออกแบบและการวางแปลนบ้านหรือท่ีอยู่อาศัยของนักเรยี น

50 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธกิ าร

หมายเหตุ
• ถ้าบา้ นของนกั เรียนมีมากกว่า 2 ชน้ั ใหน้ ักเรยี นเลอื กเขยี นแปลนบ้านช้นั ล่าง หรอื ช้ันท่มี ีห้อง

นอนของนกั เรยี นเอง
• ถา้ นกั เรยี นไมส่ ามารถระบทุ ศิ ทางของบา้ นนกั เรยี นได้ ใหค้ รใู ชค้ ำ� ถามกระตนุ้ การคดิ ของนกั เรยี น

วา่ นกั เรยี นเคยสงั เกตหรอื ไมว่ า่ ในตอนเชา้ ดวงอาทติ ยข์ นึ้ ทางทศิ ใดของบา้ น หรอื นกั เรยี นสงั เกต
เหน็ ดวงอาทิตย์อยูท่ างทิศใดเวลานักเรยี นเดินกลบั บา้ นในตอนเย็น
2. ครใู หน้ กั เรยี นแลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ผนผงั ทพ่ี กั อาศยั ของนกั เรยี นจากใบกจิ กรรมท่ี 1 สำ� รวจบา้ นตนเอง
โดยเปรียบเทยี บแผนผงั กบั เพอ่ื นที่นง่ั ขา้ ง ๆ
3. ครนู ำ� อภปิ รายหนา้ ชนั้ เรยี นถงึ หลกั การออกแบบบา้ นและทพ่ี กั อาศยั ของนกั เรยี นโดยอาจใชค้ ำ� ถามดงั น้ี
3.1 หน้าบ้านของนักเรยี นหนั ไปทางทิศใด นักเรยี นคิดวา่ เพราะเหตุใดจงึ เป็นเช่นนัน้
(แนวค�ำตอบ เช่น หน้าบ้านหันหน้าไปทางทิศเหนือ เพราะ มีถนนด้านหน้าสะดวกต่อการ
เข้า-ออก หรอื หนา้ บา้ นหนั หนา้ ไปทางทศิ ตะวนั ออก เพราะ สภาพพ้นื ทีบ่ ังคบั หรอื หน้าบ้าน
หนั หน้าไปทางทิศตะวนั ตก เพราะตอ้ งการหลกี เลี่ยงแสงตอนเชา้ )
3.2 หน้าต่างห้องนอนของนักเรียนอยู่ทางทิศใด ทิศทางของหน้าต่างห้องนอนมีผลต่อการรับแสง
อาทติ ยแ์ ละการอยูอ่ าศัยของนักเรยี นหรอื ไม่ อย่างไร
(แนวค�ำตอบ เช่น หน้าต่างห้องนอนหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่งผลให้ได้รับแสงตอนเช้า
อยา่ งเตม็ ท่ี ซึง่ ทำ� ใหน้ อนตื่นสายไมไ่ ด้ หรอื หนา้ ต่างห้องนอนอยูท่ างทิศตะวันตก ท�ำให้ได้รับ
แสงอาทิตย์ตอนบ่าย ส่งผลใหห้ อ้ งนอนมีอุณหภูมสิ ูงโดยเฉพาะตอนบา่ ย)
3.3 ในบรเิ วณบา้ นของนกั เรยี นปลกู ตน้ ไมใ้ หญไ่ วท้ ศิ ทางใด สง่ ผลตอ่ รม่ เงาตอ่ ทพี่ กั อาศยั ของนกั เรยี นอยา่ งไร
(แนวค�ำตอบ เช่น ปลูกตน้ ไมใ้ หญไ่ วท้ างทศิ ตะวนั ตก ช่วยใหร้ ม่ เงาโดยเฉพาะตอนบ่าย ไม่ให้
บา้ นรอ้ นเกนิ ไป ทำ� ใหบ้ า้ นมอี ณุ ภมู ไิ มส่ งู มาก สง่ ผลใหป้ ระหยดั คา่ ไฟฟา้ ของเครอื่ งทำ� ความเยน็ )
4. ครูใช้ค�ำถามเพ่ือน�ำอภิปรายและให้ครูและนักเรียนลงข้อสรุปร่วมกันว่าแสงอาทิตย์มีผลต่อการอยู่
อาศยั หรอื ไม่ และมกี ารออกแบบบา้ นใหส้ อดคลอ้ งกบั ทศิ ทางของแสงอาทติ ยอ์ ยา่ งไร ซง่ึ ควรสรปุ ไดว้ า่
ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนช้ืน มีอุณหภูมิเฉลี่ยค่อนข้างสูงตลอดท้ังปีทิศทางท่ีบ้านรับแสงอาทิตย์
อยา่ งเตม็ ทค่ี อื ทศิ ตะวนั ออก-ตะวนั ตก ดงั นน้ั หอ้ งทอ่ี ยดู่ า้ นนจ้ี งึ มอี ณุ หภมู สิ งู ซง่ึ อาจสง่ ทง้ั ผลดแี ละผล
เสยี ตอ่ บา้ น เช่น สง่ ผลดีตอ่ หอ้ งนำ้� ทำ� ใหห้ ้องนำ้� แหง้ เร็ว ไมช่ ืน้ แต่อาจส่งผลเสียต่อหอ้ งนอน เพราะ
ทำ� ใหห้ อ้ งรอ้ นไมเ่ หมาะสมกบั การอยอู่ าศยั ซงึ่ อาจแกไ้ ขไดโ้ ดยการปลกู ตน้ ไมช้ ว่ ยบงั แสง ซง่ึ จะสง่ ผล
ตอ่ การประหยดั ค่าใช้จา่ ยอีกดว้ ย
5. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรทู้ ี่ 1.1 ลอนดอน ประเทศองั กฤษ และ ใบความรทู้ ี่ 1.2 กรงุ เทพมหานคร
ประเทศไทย แลว้ ถามคำ� ถามเพอื่ นำ� อภปิ รายวา่ การออกแบบบา้ นในประเทศไทยต้องให้บ้านสะสม
ความร้อนให้น้อยที่สุดและมีการระบายความร้อนท่ีดี ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะออกแบบบ้าน
โดยให้ห้องนอนและห้องน่ังเล่นรับแสงน้อยท่ีสุดและออกแบบให้ห้องน้�ำและห้องซักล้างรับแสงมาก
จากข้อมูลที่ได้จากใบความรู้ที่ 1.1 นักเรียนคิดว่าในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะมีหลักการ
ออกแบบบ้านเพ่ือหลีกเล่ียงแสงอาทิตย์เช่นเดียวกับในประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร (ครูควรเน้นย้�ำ

สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 51
กระทรวงศึกษาธิการ

ให้นกั เรยี นระบหุ ลกั ฐานจากใบความร้เู พอื่ นำ� มาสนบั สนนุ แนวคดิ ให้ชัดเจน)
(แนวค�ำตอบ
• ใชห้ ลกั การในการออกแบบทแี่ ตกตา่ งไป ในกรงุ ลอนดอนควรจะออกแบบบา้ นใหร้ บั แสงอาทติ ย์
มาก เพราะจำ� นวนชวั่ โมงทรี่ บั แสงอาทติ ยเ์ ฉลย่ี ตอ่ ปมี คี า่ นอ้ ยเมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั กรงุ เทพ จงึ ควร
เพ่มิ แสงสว่างให้กบั บา้ นดว้ ยแสงอาทติ ย์
• ใชห้ ลกั การในการออกแบบทแี่ ตกตา่ งไป ในกรงุ ลอนดอนควรจะออกแบบบา้ นใหร้ บั แสงอาทติ ย์
มาก เพราะอุณหภมู เิ ฉล่ยี รายปีน้อยเมื่อเปรียบเทยี บกับกรุงเทพ จงึ ควรเพิ่มอณุ หภมู ขิ องบา้ น
ด้วยแสงอาทติ ย์
• ใช้หลักการในการออกแบบที่แตกต่างไป ในลอนดอนควรจะออกแบบบ้านให้รับแสงอาทิตย์
มากโดยเฉพาะในเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยน้อยเม่ือเปรียบเทียบกับ
กรุงเทพ จึงควรเพมิ่ อณุ หภมู ิบ้านด้วยแสงอาทติ ย์)
6. ครใู หข้ ้อมูลเพ่มิ เตมิ ว่า ดวงอาทติ ยป์ รากฎทางขอบฟา้ ทางทิศตะวันออกและหายไปทางทศิ ตะวนั ตก
และดวงอาทติ ยไ์ มไ่ ดป้ รากฏทางขอบฟา้ ในตำ� แหนง่ เดมิ ตลอดทงั้ ปี แตจ่ ะแตกตา่ งกนั เลก็ นอ้ ยในแตล่ ะ
วัน ซึง่ ถ้านกั เรียนท่มี หี นา้ ต่างห้องนอนทางทิศตะวนั ออกสังเกตต�ำแหน่งการปรากฏของดวงอาทติ ย์
ในแตล่ ะวนั ตำ� แหนง่ จะเปลยี่ นไป เชน่ บางเดอื นดวงอาทติ ยข์ น้ึ อยมู่ มุ หนา้ ตา่ ง บางเดอื นดวงอาทติ ย์
ขน้ึ ต�ำแหนง่ กลางหนา้ ต่าง
7. ครถู ามเพม่ิ เตมิ วา่ การทตี่ ำ� แหนง่ การปรากฏของดวงอาทติ ยใ์ นแตล่ ะวนั ทเ่ี ปลยี่ นไปสง่ ผลอยา่ งไรตอ่
ชวี ติ ประจ�ำวนั
(แนวค�ำตอบ
• กลางวัน-กลางคนื (ซ่ึงเป็นคำ� ตอบทีไ่ มถ่ กู ตอ้ งท่ีนักเรยี นมักตอบบอ่ ย ๆ ปรากฏการณก์ ลางวัน-
กลางคืนเกิดจากการทโี่ ลกหมุนรอบตัวเอง)
• เวลากลางวัน-กลางคนื ทส่ี ัน้ ยาวเปลีย่ นไปในแต่ละฤดู
• อุณหภมู ทิ ีเ่ ปล่ียนไปในแต่ละฤดู
• เกดิ ฤดกู าล)
8. ครสู รา้ งสถานการณส์ มมตวิ า่ ถ้าสมมติให้นกั เรยี นอาศัยอยู่ในเมืองส�ำคัญต่าง ๆ ทวั่ โลก นกั เรยี น
จะเลือกแปลนบา้ นให้เหมาะสมกับแต่ละเมอื งน้ันอยา่ งไร โดยมเี ง่ือนไขว่า นกั เรียนตอ้ งค�ำนงึ ถงึ
ปจั จยั ดังน้ี
➢ การรบั แสงอาทิตยท์ เี่ ปลี่ยนไปในแตล่ ะวนั ➢ ฤดกู าล
➢ ภูมิอากาศ ➢ พ้ืนที่ทจี่ ะสร้างบ้าน

ข้นั รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดทเี่ กีย่ วขอ้ งกับปญั หา
9. จากสถานการณ์ข้างต้น ครูให้นักเรียนวิเคราะห์ข้อมูลที่จ�ำเป็นว่านักเรียนต้องทราบข้อมูลอะไรบ้าง

เพ่อื ชว่ ยในการออกแบบบ้านใหต้ รงตามเงื่อนไข เขยี นค�ำตอบเหล่านีบ้ นกระดาน หรือแผ่นกระดาษ
ขนาดใหญ่ เพ่ือใช้ในการอา้ งอิงตลอดกจิ กรรม ซึง่ ควรสรุปไดด้ งั นี้

52 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธกิ าร

ขอ้ มลู ที่จำ� เป็น
9.1 ประเทศทน่ี ักเรยี นอาศัย
9.2 พ้ืนที่ทีจ่ ะต้ังบา้ น
9.3 ภูมิอากาศของประเทศนนั้ ๆ
9.4 ฤดกู าลของประเทศนน้ั ๆ
9.5 ทิศทางการรับแสงอาทติ ย์ทเี่ ปลีย่ นไป
10. ครแู บง่ นกั เรยี นออกเปน็ 6 กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-7 คน โดยกำ� หนดพน้ื ทที่ จี่ ะสรา้ งบา้ นและประเทศทน่ี กั เรยี น

อาศยั พรอ้ มทงั้ แจกใบความรทู้ ่ี 1.2-1.7 ทส่ี อดคลอ้ งกบั ประเทศทนี่ กั เรยี นอาศยั ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ (อาจให้
นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เลอื กพนื้ ทที่ จี่ ะสรา้ งบา้ นและประเทศทน่ี กั เรยี นอาศยั เอง)
หมายเหตุ ครูยังไม่ต้องบอกข้อมูลว่าแต่ละประเทศท่ีนักเรียนจะท�ำการศึกษาอยู่ในกลุ่มใด ควรให้
นักเรยี นจัดหมวดหมู่และหาความสัมพนั ธ์เองในภายหลงั

กลมุ่ ประเทศซกี โลกเหนอื ตวั อยา่ งพื้นที่ท่จี ะสร้างบ้าน
• ใบความรู้ 1.2 กรุงเทพ ประเทศไทย
• ใบความรู้ 1.3 โซล ประเทศเกาหลีใต้
กลมุ่ ประเทศในเขตเส้นศูนย์สตู ร
• ใบความรู้ 1.4 จาการต์ า ประเทศอินโดนีเซยี
• ใบความรู้ 1.5 อันตานานาริโว ประเทศมาดากสั การ์
กล่มุ ประเทศซกี โลกใต้
• ใบความรู้ 1.6 บวั โนส ไอเรส ประเทศอารเ์ จนตนิ า
• ใบความรู้ 1.7 เมลเบริ ์น ประเทศออสเตรเลยี

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 53
กระทรวงศึกษาธิการ

ตัวอย่างใบความรูท้ ่ี 1.2 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

Bangkok Thailand

กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

กรุงเทพมหานคร เป็นเมอื งหลวงและนครทม่ี ีประชากรมากท่ีสุดของประเทศ กรงุ เทพมหานคร ตง้ั อยใู่ นเขตรอ้ น มีภูมิอากาศร้อนแบบทุ่งหญ้าสะวันนา ได้รับ
ไทย เป็นศนู ยก์ ลางการปกครอง การศกึ ษา การคมนาคมขนส่ง การเงนิ การ อิทธิพลจากลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ และลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ท�ำใหม้ ี
Key Fact ธนาคาร การพาณิชย์ การสอ่ื สารและความเจริญของประเทศ ตง้ั อยบู่ นสามเหลี่ยม ฝนตกในชว่ งบ่ายถงึ ค�่ำอย่างสมำ�่ เสมอ กรุงเทพมหานครตั้งอยูบ่ นพืน้ ท่บี รเิ วณ
ปากแมน่ ำ�้ เจา้ พระยา มีแมน่ ้ำ� เจ้าพระยาซ่ึงทอดตัวยาว 372 กิโลเมตร พาดผา่ น ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่นำ้� มรี ะดบั ความสูงจากระดบั นำ้� ทะเลปานกลาง
พิกดั ภูมิศาสตร์ : 13045’0”N แบง่ เมืองออกเป็น 2 ฝงั่ คือ ฝ่ังพระนครและฝงั่ ธนบรุ ี ประมาณ 1.50-2 เมตร ท�ำใหเ้ กดิ ปญั หาน�ำ้ ทว่ มบอ่ ยคร้งั ในชว่ งฤดมู รสุม
100031’1.20”E

เนอ้ื ท่ี : 1,568.737 กม.2 Month สภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ประชากร : 5,692,284 คน อณุ หภมู ิสูงสดุ เฉลย่ี 0C ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย พ.ค. ม.ิ ย ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รายปี
ความหนาแน่น : 3,600 คน/กม.2 32.5 33.3 34.3 35.4 34.4 33.6 33.2 32.9 32.8 32.6 32.4 31.7 33.3
กอ่ ต้ัง : 21 เมษายน พ.ศ. 2325 (F) (90.5) (91.9) (93.7) (95.7) (93.9) (92.5) (91.8) (91.2) (91) (90.7) (90.3) (89.1) (91.9)

อุณหภมู เิ ฉล่ยี รายวัน 0C 27.6 28.9 30.1 31.2 30.5 29.9 29.5 29.2 28.9 28.7 28.1 26.9 29.13
(F) (81.7) (84) (86.2) (88.2) (86.9) (85.5) (85.1) (84.6) (84) (83.7) (82.6) (80.4) (84.43)
22.6 24.4 25.9 26.9 26.3 26.1 25.7 25.5 25.0 24.8 23.9 22.0 24.9
อุณหภมู ิต�่ำสดุ เฉลี่ย 0C (72.7) (75.9) 78.6 (80.4) (79.3) (79) (78.3) (77.9) (77) (76.6) (75) (71.6) (76.8)
(F)

รายไดห้ ลัก : จดั เกบ็ ภาษมี ลู คา่ เพมิ่ ปรมิ าณนำ�้ ฟ้าเฉลี่ย mm 13.3 20.0 42.1 91.4 247.7 157.1 175.1 219.3 334.3 292.1 49.5 6.3 1,648.2
(inches) (0.52) (0.78) (1.61) (3.59) (9.75) (6.18) (6.894) (8.63) (13.16) (11.5) (1.94) (0.24) (64.88)

en.wikipedia.org/wiki/Bangkok ความช้นื สมั พทั ธ์เฉลีย่ (%) 68 72 72 72 75 74 75 76 79 78 70 66 73
จำ� นวนชว่ั โมงทร่ี บั แสงอาทติ ยเ์ ฉลย่ี 9.09 8.35 8.99 8.6 7.23 5.90 5.68 5.37 5.20 6.61 7.88 8.78 7.30

11. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลทั่วไป สภาพภูมิอากาศ และจ�ำนวนชั่วโมงท่ีรับแสงอาทิตย์เฉลี่ยของ
แตล่ ะประเทศจากใบความรู้ท่ี 1.2-1.7 โดยทกุ กลุ่มจะได้รับแจกใบความรทู้ ่ี 1.2 กรุงเทพมหานคร
ประเทศไทย เพ่ือเปน็ ข้อมลู เปรยี บเทยี บด้วย จากนนั้ ตอบคำ� ถามในใบกิจกรรมท่ี 2

• อณุ หภมู สิ งู สดุ และตำ�่ สดุ เปน็ อยา่ งไรเมอื่ เปรยี บเทยี บกบั กรงุ เทพมหานคร สง่ ผลอยา่ งไรตอ่ การ
ออกแบบบ้าน

• เมอื งทนี่ ักเรยี นอาศัยอยู่มีภูมิอากาศแบบใดเมอ่ื เปรยี บเทียบกบั กรุงเทพมหานคร สง่ ผลอยา่ งไร
ตอ่ การออกแบบบา้ น

• ปริมาณแสงอาทติ ย์ที่ได้รบั ในแตล่ ะวนั เป็นอยา่ งไรเม่ือเปรียบเทยี บกบั กรุงเทพมหานคร สง่ ผล
อย่างไรต่อการออกแบบบ้าน

• นกั เรยี นตอ้ งการออกแบบบา้ นใหร้ บั แสงมากขนึ้ หรอื นอ้ ยลง เมอื่ เปรยี บเทยี บกบั การออกแบบ
บ้านในกรุงเทพมหานคร เพราะเหตใุ ด

นักเรียนจะต้องตกลงร่วมกันภายในกลุ่มเพื่อก�ำหนดเงื่อนไขและจุดมุ่งหมายของการ
ออกแบบว่า กลุ่มของนักเรียนต้องการออกแบบผังบ้านให้รับแสงมากท่ีสุดหรือน้อยที่สุด โดย
เฉพาะในเดือนใด

54 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ

12. ครแู นะนำ� นกั เรียนว่าตอนน้ีทุกกลมุ่ ได้จดุ มุ่งหมายและความตอ้ งการรว่ มกนั แล้ววา่ กลุ่มของนักเรยี น
ต้องการออกแบบผังบ้านใหร้ ับแสงมากทีส่ ดุ หรือนอ้ ยท่สี ุด โดยเฉพาะในเดือนใด เพราะฉะนัน้ ขอ้ มูล
ท่ีจ�ำเป็นที่ส�ำคัญอีกอันหนึ่งท่ีเหลือคือ ดวงอาทิตย์ปรากฏบนท้องฟ้าในทิศทางใด และเปลี่ยนไป
อยา่ งไรในแตล่ ะเดอื น ซงึ่ นกั เรยี นจะไดศ้ กึ ษาเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยข์ องเมอื งตา่ ง ๆ โดย
ให้นักเรียนทำ� ใบกจิ กรรมที่ 3 แบบจำ� ลองเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ย ์ ดงั น้ี

13. ครใู ชค้ ำ� ถามเพอ่ื กระตนุ้ ความคดิ ของนกั เรยี นวา่ นกั เรยี นคงทราบแลว้ วา่ ดวงอาทติ ยป์ รากฏทางขอบ
ฟา้ ทางทศิ ตะวนั ออกและหายไปทางทศิ ตะวนั ตก แตใ่ นความเปน็ จรงิ แลว้ ดวงอาทติ ยไ์ มไ่ ดป้ รากฏทาง
ขอบฟา้ ในตำ� แหนง่ เดมิ ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะแตกตา่ งกนั เลก็ นอ้ ยในแตล่ ะวนั เพราะเหตใุ ดจงึ เปน็ เชน่ นน้ั

(แนวค�ำตอบ เกดิ จากการทโ่ี ลกหมนุ รอบดวงอาทิตย์ด้วยแกนโลกที่เอยี ง 23.5 องศา)
14. ครูให้นักเรียนคนหน่ึงยืนตรงกลางห้องเพื่อแทนต�ำแหน่งของดวงอาทิตย์ และให้ตัวแทนนักเรียน

อธบิ ายการหมนุ รอบดวงอาทติ ย์ของโลก โดยใช้ลกู โลกจ�ำลอง
15 ครอู ธบิ ายวา่ โลกหมนุ รอบตวั เองโดยหมนุ รอบแกนโลกซง่ึ เอยี ง 23.5 องศา ในขณะทโ่ี ลกหมนุ รอบตวั

เองกจ็ ะหมนุ รอบดวงอาทติ ย์เชน่ กัน โดยแกนโลกจะชไี้ ปทศิ ทางเดียวไมว่ ่าโลกจะเคล่ือนไปตำ� แหน่ง
ใดกต็ าม (ตามภาพ) ซึง่ ส่งผลตอ่ ความผนั แปรของระยะเวลากลางวันกลางคืน และฤดกู าล

16. ครูให้นักเรียนศึกษาเส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตย์ในแต่ละประเทศจาก www.suncalc.net
แลว้ นำ� ขอ้ มลู ทไ่ี ดม้ าสรา้ งเปน็ แบบจำ� ลองเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยต์ ามใบกจิ กรรมที่ 3 โดย
ครูทำ� แบบจำ� ลองเส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตยข์ องประเทศอังกฤษให้เปน็ ตวั อยา่ ง

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 55
กระทรวงศึกษาธกิ าร

ตัวอยา่ งเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทิตย์ของประเทศอังกฤษในวันที่ 21 มีนาคม 2558 จาก
www.suncalc.net

16.1 จาก www.suncalc.net เลอื กเมือง London ประเทศ UK และ เลอื กศึกษาการข้ึนตกของ
ดวงอาทิตยว์ นั ที่ 21 มนี าคม 2558

16.2 ใชฝ้ าครอบแกว้ พลาสตกิ ทรงครงึ่ วงกลมซง่ึ แทนทอ้ งฟา้ ทเี่ รามองเหน็ วางทบั วงกลมบนจอภาพ
ใหจ้ ดุ ศูนยก์ ลางของวงกลมตรงกับจดุ ศูนยก์ ลางของฝาครอบแก้วพลาสตกิ

16.3 ก�ำหนดจดุ ท่ดี วงอาทิตย์ปรากฏในตอนเช้า และลับขอบฟ้าในตอนเย็น จากน้นั ลากเส้นโดยใช้
ปากกาเคมีเช่ือมจุดสองจุดให้มีความโค้งตามเส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตย์ระหว่างวัน
นักเรียนจะไดเ้ ส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทติ ย์ของวันท่ี 21 มนี าคม 2558 ทีอ่ ยู่ในรปู ของ
สามมติ ิ

วางทบั วงกลมบนจอภาพ ก�ำหนด ทศิ ทางแนวปรากฏของอาทิตยร์ ะหว่างวนั ใน
ทิศทางปรากฏและลับขอบฟา้ ของดวง รูปแบบ 3 มิติ
อาทิตย์แล้วลากเส้นโคง้ เชอื่ ม

56 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธิการ

16.4 ทำ� ขอ้ 16.1-16.3 ซำ�้ อกี ครง้ั โดยเปลยี่ นวนั ทที่ ตี่ อ้ งการศกึ ษาไปเปน็ วนั ท่ี 21 มถิ นุ ายน 2558 จะ
ไดเ้ สน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยบ์ นฝาครอบแกว้ พลาสตกิ ทรงครง่ึ วงกลมสองเสน้ ทขี่ นานกนั

16.5 จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นทำ� แบบจำ� ลองเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยข์ องวนั ที่ 21 มนี าคม 2558
บนแผ่นพลาสติกลูกฟกู โดยติดแผนท่ตี ้ังบา้ นบนแผ่นพลาสตกิ ลูกฟูก

16.6 ใชด้ นิ นำ�้ มนั แปะตดิ กับแผน่ พลาสตกิ ลูกฟูกใหต้ รงกบั ตำ� แหน่งทดี่ วงอาทติ ยป์ รากฏลบั ขอบฟา้
ทีไ่ ดจ้ าก www.suncalc.net

16.7 ตดั เสน้ ลวดใหม้ คี วามยาวพอเหมาะ ดดั ลวดใหโ้ คง้ ตดิ ปลายทงั้ สองเขา้ กบั ดนิ นำ�้ มนั ทง้ั สองกอ้ น
ปรับความโค้งและองศาการเอียงให้สอดคล้องกับเส้นทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทิตย์ระหว่าง
วันทป่ี รากฏบนฝาครอบแกว้ พลาสตกิ ทรงคร่ึงวงกลม

เส้นทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทิตยข์ องกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ของวนั ที่ 21 มีนาคม 2558
16.8 ทำ� 16.6-16.7 ซำ้� อกี ครง้ั เพอื่ ทำ� เสน้ โคง้ จำ� ลองเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยข์ องวนั ที่ 21

มถิ ุนายน 2558
17. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการท�ำแบบจ�ำลองเส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตย์ของเมืองลอนดอน

ประเทศอังกฤษแล้ว ครูแจกอุปกรณ์ให้นักเรียนลงมือสร้างแบบจ�ำลองเส้นทางเดนิ ปรากฏของดวง
อาทติ ยข์ องเมอื งทกี่ ลมุ่ ตนเองอาศยั อยู่ โดยใหน้ กั เรยี นสรา้ งแบบจำ� ลองแนวการเคลอื่ นทป่ี รากฏของ
ดวงอาทิตย์บนท้องฟา้ ของเมอื งท่ีตนศึกษาในวนั ที่
1) 21 มนี าคม 2) 21 มถิ ุนายน 3) 23 กันยายน และ 4) 22 ธนั วาคม
ขอ้ สงั เกต
• ใหน้ กั เรยี นสงั เกตทศิ ทางเดนิ ทปี่ รากฏบนแผนทต่ี งั้ บา้ น เพอื่ นกั เรยี นจะสามารถสรา้ งแบบจำ� ลอง

ไดถ้ กู ต้อง
• เส้นลวดท่ีจ�ำลองเส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าควรมีลักษณะเป็นครึ่งทรงกลม

คล้ายกบั เสน้ ทางทีว่ าดบนฝาครอบแกว้ พลาสตกิ ครึง่ ทรงกลม
18. ใหน้ กั เรยี นเขยี นชอื่ เมอื ง ประเทศทน่ี กั เรยี นศกึ ษา ระบวุ นั ทขี่ องเสน้ ลวดจำ� ลองแนวการเคลอ่ื นทข่ี อง

ดวงอาทติ ยบ์ นท้องฟา้ รวมทงั้ ระบฤุ ดกู าลจากข้อมลู อุณหภูมิเฉลย่ี ในใบความรทู้ ่ี 1.2-1.7

สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 57
กระทรวงศึกษาธกิ าร

แบบจา� ลองเส้นทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยข์ องกรุงลอนดอน ประเทศองั กฤษ

19. ให้นักเรียนน�าแบบจ�าลองแนวการเคล่ือนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าของแต่ละกลุ่มมาวาง
รวมกันหน้าห้องเรียน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสังเกตแบบจ�าลองทั้งหมดแล้วให้นักเรียนพยายาม
ระบคุ วามสมั พนั ธ ์ หรอื จดั หมวดหมแู่ บบจา� ลอง โดยครพู ยายามกระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทยี บความ
เหมอื นและความแตกตา่ งของแนวการเคลอ่ื นทป่ี รากฏของดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟา้ ของแตล่ ะประเทศ
โดยครกู �าหนดเวลาใหแ้ ต่ละกลมุ่ 3-5 นาที
20. เม่ือนักเรียนทุกกลุ่มได้เปรียบเทียบแบบจ�าลองแนวการเคล่ือนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า
ของแตล่ ะกลมุ่ ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นา� เสนอความสมั พนั ธท์ คี่ น้ พบ และรว่ มกนั สรปุ ความสมั พนั ธ ์
ซงึ่ ควรสรุปได้วา่
20.1 แนวการเคลอ่ื นทปี่ รากฏของดวงอาทติ ยจ์ ะมเี พยี ง 3 เสน้ เนอื่ งจาก เสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวง
อาทติ ยใ์ นวนั ท ่ี 21 มนี าคม จะซอ้ นทบั กบั วนั ท ี่ 21 กนั ยายน
20.2 แนวทางการเคลอ่ื นทปี่ รากฏของดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟา้ จะเรมิ่ ทางทศิ ตะวนั ออก และสนิ้ สดุ ทาง
ทศิ ตะวนั ตกเสมอ
20.3 ในประเทศซกี โลกเหนอื จะมฤี ดกู าลตรงขา้ มกบั ประเทศในซกี โลกใต้
20.4 แนวการเคลอื่ นทปี่ รากฏของดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟา้ แตล่ ะพน้ื ทขี่ น้ึ กบั ตา� แหนง่ ละตจิ ดู ของพน้ื ท่ี
นนั้ ๆ
20.5 แนวการเคล่ือนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์บน
ท้องฟ้าของประเทศในเขตศูนย์สูตรแนวการ
เคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์จะท�ามุม 90
E

องศากับขอบฟา้ NS

W
เสน ขอบฟา

58 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย ี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธิการ

20.6 แนวการเคลอ่ื นทป่ี รากฏของดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟา้ E S
ของประเทศในซีกโลกเหนือจะเอยี งไปทางใต้ W

N เสนขอบฟา

20.7 แนวการเคลอ่ื นทปี่ รากฏของดวงอาทติ ย์ N E S
บนท้องฟ้าของประเทศในซีกโลกใต้จะ W
เอยี งไปทางเหนอื
เสน ขอบฟา

21. ครอู าจถามนักเรยี นเพ่มิ เติมว่า เคยได้ยินค�าว่าพระอาทติ ย์เที่ยงคืน หรือไม ่ เป็นปรากฏการณ์อะไร
นา่ จะเกิดขน้ึ ในฤดูใด ในประเทศใด
(แนวค�าตอบ เป็นปรากฏการณ์ที่ยังสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเท่ียงคืนแล้ว
กต็ าม เกดิ ในประเทศฟนิ แลนด ์ และประเทศอน่ื ๆ ท่ตี ั้งอย่ใู กลก้ บั ขัว้ โลกเหนือ ซ่งึ น่าจะเกดิ ในฤดูร้อน ประมาณ
เดือนมิถุนายน ส่วนประเทศท่ีอยู่ใกล้ข้ัวโลกใต้จะเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวเช่นเดียวกันซึ่งจะเกิดในฤดูร้อน
ประมาณเดือนธันวาคม)
22. ครูแสดงการข้ึนตกของดวง
อาทติ ยใ์ นประเทศฟนิ แลนด ์ (หรอื ประเทศ
ใดกไ็ ดท้ อ่ี ยใู่ กลก้ บั ขว้ั โลกเหนอื ) ในวนั ท ี่ 21
มถิ นุ ายน แลว้ ให้นกั เรียนสงั เกต พบว่า มี
ชว่ งเวลาทีเ่ ป็นกลางวนั นานถึง 24 ช่วั โมง

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 59
กระทรวงศึกษาธิการ

ขั้นออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หา
23. ครยู ำ้� เตอื นสถานการณท์ น่ี กั เรยี นตอ้ งแกป้ ญั หาวา่ ถา้ สมมตใิ หน้ กั เรยี นอาศยั อยใู่ นประเทศตา่ ง ๆ ทวั่

โลก นักเรียนจะเลือกแปลนบ้านให้เหมาะสมกับการรับแสงอาทิตย์ท่ีเปลี่ยนไปในแต่ละวัน ฤดูกาล
ภมู อิ ากาศ และพน้ื ทที่ จ่ี ะสรา้ งบา้ นของแตล่ ะประเทศนนั้ อยา่ งไร โดยทกุ กลมุ่ ไดร้ ะบจุ ดุ มงุ่ หมายและ
ความต้องการร่วมกันแล้วว่ากลุ่มของนักเรียนต้องการออกแบบผังบ้านให้รับแสงมากที่สุดหรือน้อย
ที่สุด โดยเฉพาะในเดือนใด
จากแบบจ�ำลองเส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตย์ที่เปล่ียนไปในช่วงต่าง ๆ รอบปี นักเรียนจะ
ออกแบบบา้ นอยา่ งไร
➢ นักเรยี นต้องการวางบา้ นหันหนา้ ไปทางด้านใด เพราะเหตใุ ด
➢ นกั เรียนตอ้ งการวางห้องนอนไว้ทางทิศใด เพราะเหตใุ ด
➢ นกั เรียนตอ้ งการวางหอ้ งนำ�้ ไวท้ างทิศใด เพราะเหตใุ ด
➢ นกั เรียนต้องการวางหอ้ งนงั่ เลน่ ไวท้ างทศิ ใด เพราะเหตใุ ด
➢ พ้นื ท่ที ่นี กั เรยี นต้องการสรา้ งบ้านมขี ้อจ�ำกัดหรือไม่ อยา่ งไร
ข้นั วางแผนและด�ำเนนิ การแก้ปัญหา
24. เมอ่ื นกั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทจี่ ำ� เปน็ ทงั้ หมดทสี่ ง่ ผลตอ่ การออกแบบบา้ นใหเ้ หมาะสมกบั ประเทศตา่ ง ๆ
แลว้ ใหน้ กั เรยี นเลอื กแปลนบา้ นทคี่ รเู ตรยี มไวใ้ หส้ อดคลอ้ งกบั ผลการวเิ คราะหข์ องกลมุ่ แลว้ นำ� แปลน
บ้านท่เี ลอื กไปวางไว้บนพื้นที่ท่ีจะสรา้ งบ้าน

ข้ันทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรงุ แก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชน้ิ งาน
25. ให้แต่ละกลุ่มตรวจสอบชิ้นงานของตัวเองว่าสอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของกลุ่มตนหรือ

ไม ่ โดยผสู้ อนต้ังคำ� ถามเพ่อื ชว่ ยผ้เู รียนแตล่ ะกล่มุ ในการตรวจสอบ เช่น

60 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ

- ในฤดูร้อนห้องใดในบ้านท่ีได้รับแสงอาทิตย์มากที่สุดหรือน้อยที่สุด เหมาะสมกับสภาพอากาศ
ของพ้นื ที่นนั้ หรือไม่ อยา่ งไร

- ในฤดหู นาวหอ้ งใดในบา้ นทไี่ ดร้ บั แสงอาทติ ยม์ ากทส่ี ดุ หรอื นอ้ ยทส่ี ดุ เหมาะสมกบั สภาพอากาศ
ของพืน้ ทีน่ ้นั หรือไม่ อยา่ งไร

26 ใหน้ กั เรยี นปรบั ปรงุ ชนิ้ งานของตนใหส้ อดคลอ้ งกบั ปญั หาและความตอ้ งการของกลมุ่ มากขนึ้ ถา้ แปลน
บา้ นทม่ี ใี หเ้ ลอื กไมส่ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการทง้ั หมดของกลมุ่ ใหเ้ ลอื กแปลนทเี่ หมาะสมทสี่ ดุ พรอ้ ม
ทั้งระบวุ ิธกี ารแกป้ ัญหาอืน่ ๆ เช่น การปลูกต้นไม้ การทำ� หน้าตา่ งเพ่มิ หรอื การใส่ผ้ามา่ นบงั แสง

ขนั้ น�ำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหา หรอื ชนิ้ งาน
27. ครูให้นักเรียนน�ำเสนอรูปแบบการวางตัวของแปลนบ้าน หรือท่ีพักอาศัยที่นักเรียนได้ออกแบบไว้

พร้อมทั้งระบุเหตุผล ครูควรกระตุ้นให้นักเรียนกลุ่มอื่น ๆ แสดงความเห็นต่อผลงานของกลุ่มท่ีน�ำ
เสนอ เชน่ ถ้านักเรยี นเปน็ ผูท้ ่ีตอ้ งการซ้อื ทอ่ี ย่อู าศัย นักเรียนจะซ้ือบ้านหลงั นั้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
28. ให้นกั เรยี นนำ� ความร้ทู ่ไี ดท้ ง้ั หมดจากกจิ กรรมดาราศาสตรก์ บั สถาปัตยกรรม ไปวิเคราะหก์ จิ กรรมที่
1 สำ� รวจแบบบา้ นตวั เอง วา่ บา้ นของนกั เรยี นออกแบบใหส้ อดคลอ้ งกบั การรบั แสงอาทติ ยท์ เี่ ปลย่ี นไป
ในแตล่ ะวัน ฤดกู าล ภมู อิ ากาศ และ พืน้ ทที่ ีจ่ ะสร้างบ้าน หรือไม่ อยา่ งไร ถ้านกั เรียนจะปรับเปล่ียน
แปลนบ้าน หรือ จัดสภาพแวดล้อมเช่นการปลูก/ตัดต้นไม้ การท�ำผ้าม่านบังแสง ให้เหมาะสมกับ
ปัจจยั เหลา่ น้ีย่ิงข้นึ นักเรยี นจะท�ำอย่างไร
29. ครถู ามคำ� ถามเพม่ิ เตมิ วา่ นอกจากปจั จยั การรบั แสงอาทติ ยท์ เี่ ปลยี่ นไปในแตล่ ะวนั ฤดกู าล ภมู อิ ากาศ
และพื้นทท่ี ี่จะสรา้ งบา้ นแลว้ นกั เรยี นคิดวา่ มีปัจจยั อน่ื ๆ อกี หรือไมท่ ่ีมอี ทิ ธิผลตอ่ การออกแบบบา้ น
(แนวค�ำตอบ เช่น ทศิ ทางลม ค่าใช้จา่ ย รสนิยมสว่ นตัว ฮวงจุ้ย)

ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติมในการจดั กิจกรรม

1. ในกจิ กรรมขา้ งตน้ นกั เรยี นไดศ้ กึ ษาเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยเ์ ปลย่ี นแปลงในรอบปขี องเมอื ง
ตา่ ง ๆ ใน 7 ประเทศรอบโลก โดยครไู ดเ้ ตรยี มใบความรเู้ กย่ี วกบั เมอื งนน้ั ๆ ใหส้ ำ� หรบั นกั เรยี น สำ� หรบั
โรงเรยี นทมี่ คี วามพรอ้ ม หรอื หอ้ งเรยี นทม่ี คี วามยดื หยนุ่ ในเวลาการจดั กจิ กรรม ครอู าจใหน้ กั เรยี นแตล่ ะ
กลมุ่ เลอื กประเทศทนี่ กั เรยี นศกึ ษาอยา่ งอสิ ระ และใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู ทจ่ี ำ� เปน็ ทางอนิ เทอรเ์ นต็
ดว้ ยตวั เอง เพอื่ เปน็ การฝกึ ทกั ษะการสบื คน้ การคดั กรองและการแปลความหมายขอ้ มลู

2. สำ� หรบั โรงเรียนที่มีความพร้อม ใหน้ ักเรียนลองออกแบบบ้านและศึกษาผลของแสงอาทติ ยท์ ีเ่ ปลีย่ น
ไป โดยใช้โปรแกรม simulation sketch up, solid work หรือ google sketchup

กจิ กรรมเสนอแนะ

ให้นักเรียนเสนอโครงการกับทางโรงเรียนในการสร้างแหล่งเรียนรู้ทางดาราศาสตร์ โดยการสร้างแบบ
จำ� ลองขนาดใหญเ่ สน้ ทางการเคลอื่ นทป่ี รากฏของดวงอาทติ ย์ ณ ตำ� แหนง่ ของโรงเรยี น เพอื่ ประโยชนใ์ นการเรยี น
รู้ฤดูกาล การดูดาว นาฬกิ าแดด และสามารถให้เปน็ อุปกรณอ์ อกก�ำลังกายอกี ด้วย

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 61
กระทรวงศึกษาธิการ

การวดั ประเมินผล คะแนนเตม็

รายการ 40
1. ความถูกตอ้ งของแบบจำ� ลองเสน้ ทางเดนิ ปรากฏดวงอาทติ ยข์ องพื้นทีท่ ศ่ี ึกษา
• ใช้ลวดเพียงสามเสน้ แสดงเส้นทางเดินปรากฏดวงอาทิตย์ เน่ืองจาก เส้นทางเดนิ 20
10
ปรากฏดวงอาทติ ยข์ องวนั ท่ี 21 มนี าคม ซอ้ นทับกับวันที่ 23 กนั ยายน 10
• แนวการเคล่อื นท่ีปรากฏของดวงอาทติ ยบ์ นท้องฟา้ ของประเทศในซีกโลกใต้จะเอยี ง 10
10
ไปทางเหนอื ส่วนซีกโลกเหนอื จะเอยี งไปทางใต้ 100
• ความเอียงของเสน้ ลวด โดยประเทศทอี่ ย่ใู กลข้ ้วั โลกจะมคี วามเอียงของเสน้ ลวด

มากกว่าประเทศทอ่ี ยู่ใกล้เส้นศนู ยส์ ตู ร
2. การให้เหตผุ ลสนับสนุนในการวางแปลนบ้านใหเ้ หมาะสมกับ ภูมิอากาศ ภมู ปิ ระเทศ

และสภาพแวดล้อมของแผนท่ีสร้างบ้าน
3. การเชอ่ื มโยงแนวการเคลือ่ นทป่ี รากฏของดวงอาทิตย์กับฤดกู าล
4. ความคิดสรา้ งสรรค์ในการแกป้ ญั หา
5. การน�ำเสนอชิ้นงาน ถูกตอ้ ง น่าสนใจ
6. การท�ำงานร่วมกนั เป็นกล่มุ

รวม

สื่อและแหลง่ เรยี นรู้

1. บทความ ดาราศาสตรก์ ับสถาปตั ยกรรม
จาก www.narit.or.th/index.php/2012-11-15-06-31-44/250-2013-02-04-03-49-52
2. ใบความรทู้ ี่ 1.1-1.7
3. โปรแกรมทอ้ งฟ้าจ�ำลอง Stellarium

62 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธิการ

ใบความร้สู �ำหรบั ครู

ค�ำอธบิ ายเว็บไซต์ www.suncalc.net

1. ช่อื เมือง ประเทศ: พมิ พช์ ่อื เมอื ง และ/หรอื ประเทศ เพื่อแสดงแผนท่ีเมอื ง/ประเทศที่ต้องการ
2. วนั ที:่ เลอื กวันท่ีที่ต้องการศึกษา
3. ทศิ ทางดวงอาทติ ยล์ ับขอบฟา้ : เสน้ สีสม้ เข้มแสดงทศิ ทางท่ดี วงอาทติ ยล์ บั ขอบฟา้ ตอนเย็น
4. จดุ ศนู ยก์ ลาง: แสดงต�ำแหน่งของผู้สังเกต อยูศ่ นู ย์กลางของวงกลม
5. ทศิ ทางดวงอาทติ ย์ปรากฏ: เส้นสเี หลอื งแสดงทศิ ทางท่ดี วงอาทิตย์ปรากฏทข่ี อบฟ้าตอนเช้า
6. ทิศทางดวงอาทิตยป์ รากฏระหวา่ งวนั : เสน้ โคง้ สสี ม้ อ่อนแสดงทิศทางดวงอาทติ ยป์ รากฏระหว่างวนั
7. เวลากลางวนั : แถบสีเหลืองแสดงเวลากลางวนั
8. เวลากลางคืน: แถบสนี ้ำ� เงนิ แสดงเวลากลางคืน
จากภาพข้างตน้ แปลความหมายไดว้ ่า ในวนั ที่ 21 มนี าคม 2558 ผู้สังเกต
ทอ่ี ยทู่ ก่ี รงุ ลอนดอน ประเทศองั กฤษ จะสงั เกตเหน็ ดวงอาทติ ยป์ รากฏทางขอบฟา้
ในทิศตะวันออก และลับหายไปจากขอบฟ้าในทางทิศตะวันตก แต่เราจะสังเกต
เหน็ ดวงอาทติ ย์ปรากฏอ้อมไปทางทิศใต้ โดยไมไ่ ด้ผา่ นเหนือศรี ษะของผู้สงั เกต

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 63
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ตวั อย่างแปลนบา้ น

ˌͧ¹Í¹ 1 ˌͧ¹Í¹ 1 ËÍŒ §¹éÓ ËŒÍ§¹éÓ ËÍŒ §¹Í¹ 2 ÅÒ¹«¡Ñ ÅÒŒ § ÅÒ¹«¡Ñ ÅÒŒ §
ˌͧ¹Í¹ 2 ˌͧ¹Í¹ 2 ˌͧ¹Í¹ 3 ËÍŒ §¹Í¹ 3 ˌͧ¹Í¹ 1 ËÍŒ §¤ÃÇÑ
ËÍŒ §¹Í¹ 2
ˌͧ¤ÃÇÑ

ËÍŒ §¹Í¹ 1

3.00 3.00 3.00 3.00 3.00 3.00

«¡Ñ ÅÒŒ § «¡Ñ ÅÒŒ §

¤ÃÑÇ ¤ÃÑÇ
¹Óé ¹éÓ

¹Í¹ 2 â¶§ ¹Í¹ 3 ¹Í¹ 2 â¶§ ¹Í¹ 3

ÃºÑ á¢¡ ÃѺᢡ

¨Í´Ã¶ ¨Í´Ã¶

64 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ตวั อย่างพ้นื ท่สี ร้างบา้ น

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 65
กระทรวงศึกษาธิการ

ตวั อย่างพ้นื ท่สี รา้ งบ้าน

66 สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธิการ

ตวั อย่างพ้นื ท่สี ร้างบา้ น

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 67
กระทรวงศึกษาธิการ

ตวั อย่างพ้นื ท่สี รา้ งบ้าน

68 สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธิการ

ตวั อย่างพ้นื ท่สี ร้างบา้ น

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 69
กระทรวงศึกษาธิการ

ตวั อย่างพ้นื ท่สี รา้ งบ้าน

70 สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธิการ

ตวั อย่างพ้นื ท่สี ร้างบา้ น

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 71
กระทรวงศึกษาธิการ

แนวค�ำตอบ ใบกิจกรรมท่ี 1

ส�ำรวจบา้ นตนเอง

ใหน้ ักเรียนวาดแปลนบ้านหรือที่พักอาศยั ของนักเรยี นครา่ ว ๆ โดยระบุตำ� แหนง่ ของห้อง หน้าตา่ ง ในตำ� แหนง่ ตา่ ง ๆ
ใหถ้ ูกตอ้ งตามทิศทาง พร้อมทั้งระบุตำ� แหน่งของตน้ ไมข้ นาดใหญร่ อบ ๆ บรเิ วณบ้าน
หมายเหตุ ถ้าบา้ นของนกั เรียนมมี ากกวา่ 2 ชั้น ใหน้ กั เรียนเลือกเขียนแปลนบ้านชั้นลา่ ง หรอื ชั้นท่มี หี ้องนอนของนักเรียนเอง

ตวั อยา่ งค�ำตอบ

72 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ

แนวค�ำตอบ ใบกจิ กรรมท่ี 2

เป้าหมายการออกแบบ

กลมุ่ ท.่ี ....................................................................................ชนั้ ……………………………………………………………….......................
สมาชกิ กลมุ่ …………………………………………………………………………………………………………………………………..............................
………………………………………………………………………………………………………………………………….............................

ที่อยอู่ าศยั เมอื ง…….....ลอนดอน.....................ประเทศ...................องั กฤษ ............................
จากใบความรู้ที่ 1.2 กรงุ เทพมหานครและขอ้ มลู เมืองทน่ี ักเรียนอาศยั จงตอบคำ� ถามต่อไปนี้
1. เมืองท่ีนักเรียนอาศยั มอี ณุ หภมู ิสูงสุดและต่ำ� สุดเปน็ เทา่ ไหร่ เมอ่ื เปรยี บเทียบกับกรุงเทพมหานคร สง่ ผลอย่างไร

ตอ่ การออกแบบบ้าน
แนวคำ� ตอบ อณุ หภมู ิสูงสดุ และต่ำ� สดุ ต่ำ� กวา่ กรงุ เทพมหานครคอ่ นข้างมาก แสดงวา่ อากาศค่อนขา้ งหนาวเมื่อ

เปรยี บเทยี บกับกรุงเทพมหานคร การออกแบบบ้านน่าจะออกแบบให้ไดร้ ับแสงมากทำ� ให้ บา้ นอบอนุ่
2. เมอื งทนี่ กั เรยี นอาศยั มภี มู อิ ากาศแบบใดเมอื่ เปรยี บเทยี บกบั กรงุ เทพมหานคร สง่ ผลอยา่ งไรตอ่ การออกแบบบา้ น
แนวคำ� ตอบ ภมู ิอากาศค่อนขา้ งหนาวเมือ่ เปรยี บเทยี บกบั กรงุ เทพมหานคร การออกแบบบ้านน่าจะออกแบบ

ใหไ้ ด้รบั แสงมากทำ� ให้บ้านอบอุน่
3. ปริมาณแสงอาทิตย์ที่ได้รับในแต่ละวันเป็นอย่างไรเม่ือเปรียบเทียบกับกรุงเทพมหานคร ส่งผลอย่างไรต่อการ

ออกแบบบ้าน
แนวคำ� ตอบ ปรมิ าณแสงทไ่ี ดร้ บั คอ่ นขา้ งนอ้ ย โดยเฉพาะในฤดหู นาว การออกแบบบา้ นนา่ จะออกแบบใหไ้ ดร้ บั

แสงมากโดยเฉพาะฤดูหนาว ทำ� ให้บา้ นอบอนุ่ ขน้ึ
4. นักเรียนต้องการออกแบบบ้านให้รับแสงมากขึ้น หรือ น้อยลง เม่ือเปรียบเทียบกับการออกแบบบ้านใน

กรุงเทพมหานคร เพราะเหตุใด
แนวค�ำตอบ ออกแบบบ้านให้รับแสงอาทิตย์มากขึ้น เพราะอากาศหนาวและได้ปริมาณแสงเฉลี่ยน้อยกว่า

กรุงเทพมหานคร
5. กล่มุ ของนกั เรียนตอ้ งการออกแบบผงั บา้ นให้รบั แสงมากท่สี ุดหรอื น้อยที่สุด โดยเฉพาะในเดอื นใด
แนวค�ำตอบ เดือนมกราคมเพราะมีอากาศหนาวท่ีสดุ ในรอบปี

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 73
กระทรวงศึกษาธิการ

แนวค�ำตอบ แบบบันทกึ กิจกรรม

ตอนท่ี 1 ศึกษาเส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทติ ย์ในรอบปี
1. ขอ้ มูลทว่ั ไป
เมอื งและประเทศทตี่ อ้ งการศกึ ษา....................................................................................................
ต�ำแหนง่ บนโลก: ละตจิ ดู .............................................ลองตจิ ูด.......................................................
2. ใหน้ กั เรยี นวาดภาพแสดงเส้นทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทิตยบ์ นทอ้ งฟา้ ในวนั ท่ี 21 มีนาคม 21 มิถนุ ายน 23 กนั ยายน

และ 22 ธันวาคม

21 มีนาคม 23 กนั ยายน

21 มถิ ุนายน 22 ธันวาคม

74 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

3. ให้นกั เรยี นวาดภาพแสดงเสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทิตยบ์ นทอ้ งฟา้ ในวันท่ี 21 ของทกุ เดอื นในรอบปี

21 มกราคม 21 พฤษภาคม 21 กนั ยายน

21 กุมภาพนั ธ์ 21 มถิ นุ ายน 21 ตุลาคม

21 มนี าคม 21 กรกฏาคม 21 พฤศจกิ ายน

21 เมษายน 21 สิงหาคม 21 ธันวาคม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 75
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

4. จากเส้นทางปรากฏของดวงอาทิตยบ์ นทอ้ งฟา้ ขา้ งตน้ จงตอบค�าถามตอ่ ไปนี้
4.1 เสน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟา้ ในวนั ท ี่ 21 มนี าคม เรมิ่ ตน้ ทศิ ทางใดและสน้ิ สดุ ทศิ ทางใด และแนว

ปรากฏระหว่างวันเป็นเช่นไร
แนวค�าตอบ ปรากฏบนขอบฟ้าทางทศิ ตะวันออกและลับหายไปทางทิศตะวันตก ระหว่างวนั ดวงอาทติ ย์ปรากฏ
บนทองฟ้าทางทิศใต้
4.2 เส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตยบ์ นทอ้ งฟ้าในวันที่ 21 มิถุนายน เร่ิมต้นทศิ ทางใดและส้นิ สดุ ทิศทางใด และ
แนวปรากฏระหว่างวนั เป็นเช่นไร
แนวคา� ตอบ ปรากฏบนขอบฟา้ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและลบั หายไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนอื ระหวา่ ง
วันดวงอาทิตย์ปรากฏบนทองฟ้าทางทิศใต้
4.3 เส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟา้ ในวันท ี่ 23 กันยายน เรม่ิ ตน้ ทิศทางใดและสน้ิ สดุ ทศิ ทางใด และ
แนวปรากฏระหวา่ งวันเป็นเช่นไร
แนวค�าตอบ ปรากฏบนขอบฟา้ ทางทิศตะวันออกและลบั หายไปทางทศิ ตะวันตก ระหว่างวันดวงอาทิตยป์ รากฏ
บนทองฟา้ ทางทิศใต้
4.4 เสน้ ทางเดินปรากฏของดวงอาทิตยบ์ นทอ้ งฟ้าในวนั ท ่ี 22 ธนั วาคม เริ่มตน้ ทศิ ทางใดและส้นิ สุดทิศทางใด และ
แนวปรากฏระหว่างวันเปน็ เช่นไร
แนวค�าตอบ ปรากฏบนขอบฟา้ ทางทิศตะวันออกเฉยี งใต้และลบั หายไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต ้ ระหวา่ งวันดวง
อาทิตย์ปรากฏบนทองฟา้ ทางทศิ ใต้
5. ให้นักเรียนวาดภาพแสดงเส้นทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ย์บนทอ้ งฟ้าในวนั ท่ ี 21 มนี าคม 21 มิถนุ ายน 23 กนั ยายน
และ 22 ธนั วาคม ของกลุ่มอน่ื ๆ โดยเลือกประเทศทอ่ี ย่ใู นกลุ่มขวั้ โลกเหนือ เส้นศูนย์สูตร และขัว้ โลกใต้ ตามล�าดบั
5.1 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มซีกโลกเหนอื ได้แก ่ ......กรุงเทพ ประเทศไทยและ โซล ประเทศเกาหลใี ต…้ ..….

N E
W S

76 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย ี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ

5.2 ประเทศที่อยู่ในกลุ่ม เส้นศูนย์สูตรได้แก่ .....จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียและอันตานานาริโว ประเทศ
มาดากสั การ์ ..........

N E
W S

5.3 ประเทศท่ีอยู่ในกลุ่มซีกโลกใต้ได้แก่ .....บัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินาและ เมลเบิร์น ประเทศ
ออสเตรเลีย……….

E
NS

W

6. เส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าของกลุ่มตนเหมือนหรือแตกต่างจากกลุ่มอื่นอย่างไร จงอธิบาย
แนวค�าตอบ

• แนวทางการเคลอื่ นทป่ี รากฏของดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟา้ จะเรม่ิ ทางทศิ ตะวนั ออก และสน้ิ สดุ ทางทศิ ตะวนั ตกเสมอ
• แนวการข้ึน-ตกของดวงอาทติ ย์จะเปล่ยี นไปในแตล่ ะวัน แต่จะหมุนวนเป็นวัฏจกั รในรอบปี
• ในประเทศซีกโลกเหนอื จะมีฤดูกาลตรงขา้ มกับประเทศในซกี โลกใต้
• แนวการเคลอ่ื นที่ปรากฏของดวงอาทิตย์บนท้องฟา้ แต่ละพน้ื ที่ขนึ้ กับต�าแหนง่ ละติจูดของพื้นที่นนั้ ๆ
• แนวการเคลอ่ื นทปี่ รากฏของดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟา้ ของประเทศในเขตศนู ยส์ ตู รแนวการเคลอื่ นทปี่ รากฏของดวง

อาทติ ย์จะท�ามมุ 90 องศากบั ขอบฟา้
• แนวการเคล่อื นทปี่ รากฏของดวงอาทิตยบ์ นทอ้ งฟ้าของประเทศในซีกโลกเหนือจะเอียงไปทางใต้
• แนวการเคล่ือนท่ปี รากฏของดวงอาทติ ย์บนท้องฟ้าของประเทศในซีกโลกใต้จะเอียงไปทางเหนือ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย ี (สสวท.) 77
กระทรวงศกึ ษาธิการ

แนวค�ำตอบ ใบกจิ กรรมท่ี 4

วางแปลนบ้านจำ� ลอง

ให้นักเรียนวางแปลนบ้านตามความเหมาะสมของภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสภาพแวดล้อม พร้อมท้ังระบุเหตุผล
สนบั สนนุ แนวคดิ ของนักเรยี นอย่างละเอียด

สถานการณ์
ถ้าสมมติให้นักเรียนอาศัยอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก นักเรียนจะเลือกแปลนบ้านให้เหมาะสมกับการรับแสง

อาทิตย์ทีเ่ ปล่ียนไปในแตล่ ะวัน ฤดูกาล ภมู อิ ากาศ และพ้ืนท่ีที่จะสร้างบา้ นของแต่ละประเทศนั้นอย่างไร โดยทุก
กลมุ่ ไดร้ ะบจุ ดุ มงุ่ หมายและความตอ้ งการรว่ มกนั แลว้ วา่ กลมุ่ ของนกั เรยี นตอ้ งการออกแบบผงั บา้ นใหร้ บั แสงมาก
ทสี่ ดุ หรือน้อยท่สี ุด โดยเฉพาะในเดือนใด

ขอ้ มลู เบ้อื งต้น

สถานท่ี : ......กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ…….
สภาพอากาศ : .....อากาศคอ่ นขา้ งหนาว มหี มิ ะในฤดหู นาว.....
สภาพภูมปิ ระเทศ : …..มีภเู ขาทางดา้ นซ้าย…..
เหตผุ ลในการตัดสินใจ :
.....เนอ่ื งจากกรงุ ลอนดอน ประเทศองั กฤษมอี ณุ ภมู เิ ฉลยี่ สงู สดุ ในเดอื นตลุ าคม ทป่ี ระมาณ 20 องศาเซลเซยี สและ
ต�่ำสุด 2.1 องศาเซลเซียสในเดือนกมุ ภาพนั ธ์ ทำ� ใหส้ ภาพอากาศโดยรวมมีความหนาวเยน็ กวา่ ประเทศไทย จงึ ควรออกแบบ
บา้ นใหร้ บั แสงมากขน้ึ เพอื่ ทำ� ใหบ้ า้ นอบอนุ่ ประหยดั คา่ ไฟในการทำ� ความรอ้ น โดยเฉพาะฤดหู นาว จงึ ควรหนั กระจกหนา้ ตา่ ง
ในแนวตะวันออก-ตะวันตก และให้เฉยี งไปทางใต้ เพราะดวงอาทติ ย์จะปรากฏเฉยี งไปทางทศิ ใต้ โดยเฉพาะในฤดหู นาว......

78 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนผังพ้นื ที่สรา้ งบ้านและการวางแปลนบา้ น

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 79
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ใบความ ้รูท่ี 1.1

80 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ

ใบความ ้รูท่ี 1.2

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 81
กระทรวงศกึ ษาธิการ

ใบความ ้รูท่ี 1.3

82 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ

ใบความ ้รูท่ี 1.4

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 83
กระทรวงศกึ ษาธิการ

ใบความ ้รูท่ี 1.5

84 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ

ใบความ ้รูท่ี 1.6

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) 85
กระทรวงศกึ ษาธิการ

ใบความ ้รูท่ี 1.7

86 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ


Click to View FlipBook Version