ใบความรู้
เรื่องอารยธรรมอิ นเดี ยและจี น
รายวิชาประวัติศาสตร์
ชั้นประถมศึ กษาปี ที่ 5
ผู้สอน นางสาวสุ นิ สา แก้วพรม
อารยธรรมอินเดียและจีน
ภาพ เส้นทางสายไหม
ดินแดนเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ มีอารยธรรมดั้งเดิมของตนมาตั้งแต่อดีต
ต่อมาเมื่อติดต่อกับชาวอินเดียและจีน จึงรับเอาอารยธรรมของอินเดียและจีน
มาปรับใช้ และได้กลายเป็ นส่ วนหนึ่ งของวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมของ
ชาติต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
การติดต่อค้าขาย การเผยแผ่ศาสนา
(Trade Contact) (Evangelism)
การเข้ามาของอารยธรรมอินเดียและจีน
ในดินเเดนไทยเเละเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การเข้ามาตั้งถิ่นฐาน การติดต่อทางการทูต
(Settlement) (Diplomatic relations)
การเข้ามาของอารยธรรมอินเดียและจีน
ในดินเเดนไทยเเละเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การติดต่อค้าขาย
(TRADE CONTACT)
สิ นค้าที่พ่อค้าชาวอินเดียนำมาขายในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ ได้แก่ ผ้า พรม
หินสี เครื่องเงิน และเครื่องเทศ
สิ นค้าที่พ่อค้าชาวจีนนำมาขายในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ ได้แก่ ผ้าไหม ใบชา
กระดาษ และสิ่ งประดิษฐ์ต่าง ๆ
พรม เครื่องเทศ ใบชา กระดาษ
การเผยแผ่ศาสนา
(EVANGELISM)
อินเดียเเละศรีลังกาเผยเเผ่ศาสนาพราหมณ์ -ฮิ นดูเเละพระพุทธศาสนาเข้ามา
ในดินเเดนเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
จีนเผยเเผ่พระพุทธศาสนานิ กายมหายานผ่านเวียดนามเเละเข้ามาในดินเเดน
เอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
นอกจากนี้ ยังได้รับอิทธิพลด้านศิ ลปะที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาจากอินเดียเเละจีน
อีกมากมาย
การเข้ ามาตั้ งถิ่ นฐาน
(SETTLEMENT)
ชาวอินเดียและชาวจีนจำนวนหนึ่ งที่เดินทางเข้ามาค้าขายและแสวงโชคใน
เอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ ได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในภูมิภาคนี้ โดยได้แต่งงานกับ
คนพื้นเมือง ทำให้มีการถ่ายทอดทางวัฒนธรรมต่างๆ มากมาย
การเเต่งงานของคนไทยเชื้อสายจีน
การติดต่อทางการทูต
(DIPLOMATIC RELATIONS)
ส่ วนใหญ่ทูตชาวจีนเดินทางมายังดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
และรัฐในดินเเดนเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ ได้ส่ งทูตไปราชสำนั กจีน
อย่างสม่ำเสมอเพราะเป็ นส่ วนหนึ่ งของการค้าระหว่างประเทศที่เรียก
ว่า การค้าในระบบบรรณาการ
ความสัมพันธ์ทางการทูตอันดีระหว่างไทยเเละจีน
อิทธิพลของอารยธรรมอินเดียและจีน
ในดินแดนไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ในปั จจุบัน ได้รับ
อิทธิพลจากอารยธรรมอินเดียและจีนมาตั้งแต่อดีต เช่น ด้านอักษรศาสตร์
ด้านกฏหมาย ด้านการปกครอง ด้านศิ ลปวิทยาการ ด้านวิถีชีวิต ด้านศาสนา
ด้านการค้าขายและการเดินเรือ เป็ นต้น
ด้านอักษรศาสตร์ ด้านกฎหมาย
(Literature) (Legal)
ด้านศาสนา
(Religious)
อิทธิพลของอารยธรรมอินเดียเเละจีน
ในดินเเดนไทยเเละเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้านการปกครอง ด้านศิ ลปวิทยาการ
(Administration) (Arts and Sciences)
ด้านวิถีชีวิต ด้านการค้าขายและการเดินเรือ
(Way of Life) (Trading and Maritime)
อิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย
ด้านอักษรศาสตร์
(Literature)
ภาษาขอมได้รับอิทธิพลมาจากภาษาของอินเดีย รวมทั้งภาษาไทยที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใน
สมัยสุโขทัยก็ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาขอม นอกจากนี้ ยังได้รับภาษาบาลี-สันสกฤตมาจาก
หลายทาง ทั้งผ่านพระพุทธศาสนา ผ่านพราหมณ์ที่มาจากอินเดียและเขมร
ปั จจุบันภาษาบาลี-สันสกฤต ยังมีอิทธิพลอยู่ซึ่งเห็นได้จากชื่อของคนไทย คนอินโดนี เซีย
คนกัมพูชา และคำไทยบางคำมีรากศั พท์มาจากภาษาภาษาบาลี-สันสกฤต เช่น บิดา มารดา
บรรพชา เป็ นต้น และบทสวดมนต์ในพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนายังคงใช้เป็ นภาษาบาลี
เช่น นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ รวมทั้งได้รับวรรณคดี เช่น
รามเกียรติ์ ชาดกทางพระพุทธศาสนา
บิดา
มารดา
บรรพชา
อักษรขอมไทย คำไทยที่มีรากศัพท์มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต รามเกียรติ์
ด้านกฎหมาย
(Legal)
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับอิทธิพลกฎหมายของอินเดีย คือ คัมภีร์พระธรรมศาสตร์
ซึ่งเป็ นหลักของกฎหมายเขมร กฎหมายพม่า กฎหมายมอญ และกฎหมายไทยในสมัย
อยุธยามาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ก่อนที่จะมีการปฏิรู ประบบกฎหมายแบบตะวันตกใน
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5)
ด้านศาสนา
(Religious)
การรับอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเเละพระพุทธศาสนาจากอินเดีย จะเห็นได้จาก
ปราสาทนครวัด นครธม ในกัมพูชา ปราสาทหินแบบขอมในภาคตะวันออกเฉียงเหนื อของ
ไทยและในลาว โบโรบูดูร์ ที่เกาะชวาในอินโดนี เซีย เจดีย์ในวัดจำนวนมากในเมียนมา
ไทย ลาว และกัมพูชา เเละพิธีกรรมในสังคมไทยที่มีการพัฒนามาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
เเละพระพุทธศาสนา เช่น พระราชพิธีราชาภิเษก พิธีพืชมงคลจรดพระนั งคัลแรกนาขวัญ
พิธีบายศรีสู่ขวัญ เป็ นต้น
ปราสาทนครธม กัมพูชา โบโรบูดูร์ อินโดนีเซีย พิธีบายศรีสู่ขวัญ
ด้านการปกครอง
(Administration)
ดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับรู ปแบบการปกครองมาจากอินเดีย เช่น
การปกครองโดยกษัตริย์ ซึ่งการรับอิทธิพลศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ทำให้มีความเชื่อ
เรื่องกษัตริย์เป็ นสมมติเทพหรือกึ่งเทพเจ้า การใช้คำราชาศั พท์ ตลอดจนพิธีกรรม
ต่างๆ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เเละการรับอิทธิพลพระพุทธศาสนา ทำให้
กษัตริย์ปกครองตามแนวคติธรรมราชา เป็ นต้น
พระพักตร์
หมายถึง ใบหน้ า
ตัวอย่างคำราชาศัพท์ ความเชื่อเรื่องกษัตริย์เป็นสมมติเทพหรือกึ่งเทพเจ้า
ด้านศิ ลปวิทยาการ
(Arts and Sciences)
อิทธิพลของพระพุทธศาสนา ทำให้มีงานด้านศิ ลปะด้านสถาปั ตยกรรม เช่น เจดีย์ทรง
ปรางค์ที่รับมาจากเขมร เจดีย์ทรงดอกบัวตูมที่เป็ นเอกลักษณ์ของศิ ลปะสุโขทัย งานด้าน
ประติมากรรม เช่น พระพุทธรู ป ส่วนอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ทำให้มีสิ่ ง
ก่อสร้าง เช่น ปราสาทหินและเทวรู ปเทพเจ้าในศาสนาฮินดู ในหลายพื้นที่ เช่น ไทย
กัมพูชา อินโดนี เซีย เป็ นต้น
เจดีย์ทรงปรางค์ ปราสาทนครวัด กัมพูชา พระพุทธรูปสมัยทราวดี ปางปฐมเทศนา (อินเดียใต้)
ด้านวิถีชีวิต
(Way of Life)
วิถีชีวิตที่ทั้งชาวไทยและชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับจากอินเดีย เช่น การเคี้ยว
หมากพลู การประกอบอาหารที่ใส่เครื่องแกง เครื่องเทศ เช่น ข้าวหมกไก่ แกงมัสมั่น
แกงกะหรี่ โรตี เป็ นต้น
หมากพลู ข้าวหมกไก่ โรตี
การแต่งกาย โดยรับการนุ่ งโจงกระเบนแบบชาวอินเดีย การนุ่ มผ้าถุง การนุ่ งผ้า
ปาเต๊ะ เป็ นต้น
ผ้าปาเต๊ะ การนุ่งผ้าปาเต๊ะ
อิทธิพลของอารยธรรมจีน
ด้านอักษรศาสตร์
(Literature)
วรรณกรรมจีนที่แพร่หลายในดินแดนนี้ เช่น สามก๊ก ไซอิ๋ว เป็ นต้น มีการใช้ภาษาจีน
ปะปนในภาษาไทยและบางคำได้ใช้คำทับศั พท์ภาษาจีนตัวอย่าง เช่น จุ่นจู๊ เเปลว่า นาย
สำเภา จิ้มก้อง แปลว่า ของถวาย ต้นหน เเปลว่า ผู้นำร่อง ล้าต้า เเปลว่า พนั กงานบัญชี
ไต้ก๋ง แปลว่า นายท้าย อากึ่ง แปลว่า ช่างไม้สำเภา เท่าเต้ง แปลว่า คนทอดสมอ จับกะเถา
แปลว่า คนกวาดสำเภา เเละคำไทยบางคำมีรากศั พท์มาจากภาษาจีน เช่น ก๋วยเตี๋ยว เต้าหู้
ใต้ฝุ่ น หุ้น ห้าง เป็ นต้น
วรรณกรรมจีน : สามก๊ก
จุ่นจู๊ ล้าต้า ใต้ฝุ่ น
เเปลว่า เเปลว่า
นายสำเภา พนั กงานบัญชี
หุ้น
คำไทยที่มีรากศัพท์มาจากภาษาจีน คำไทยที่มีรากศัพท์มาจากภาษาจีน
ห้าง
คำทับศัพท์ภาษาจีน
ด้านการค้าขายและการเดินเรือ
(Trading and Maritime)
ชาวจีนมีความสามารถทางการค้าและการเดินเรือ ประกอบกับประเทศในเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ มีความต้องการค้าขายกับจีน จึงพยายามปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของจีน เพื่อผล
ประโยชน์ ด้านการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้ นตั้งแต่สมัยอยุธยา ไทยและประเทศในดิน
แดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้อาศั ยชาวจีนทำหน้ าที่เดินเรือ ใช้วิธีการเดินเรือแบบจีน
ว่าจ้างพ่อค้าชาวจีนเข้ามารับราชการในราชสำนั ก เพื่อทำหน้ าที่ดูแลการค้า รับระบบมาตรา
ชั่ง วัด ตวง และการนำลูกคิดจากจีนมาใช้เพื่อประโยชน์ ทางเศรษฐกิจ
การค้าขายของคนไทยเเละจีนในอดีต
เรือสำเภาจีน ตาชั่งโบราณ ลูกคิด
ด้านศาสนา
(Religious)
พระพุทธศาสนานิ กายมหายานแบบจีนและวัฒนธรรมจีนได้มีการเผยแผ่เข้ามาใน
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านชาวจีนที่มาค้าขายและอพยพมาตั้งถิ่นฐาน ซึ่งส่งผลให้มีการ
ผสมผสานกันระหว่างศาสนาและความเชื่อของไทยและจีน จึงเกิดประเพณีการไหว้เจ้า
ไหว้บรรพบุรุ ษ ไหว้พระจันทร์ วันตรุ ษจีน บูชาเจ้าแม่กวนอิม กินเจ เชิดสิงโต แห่มังกร
เเละแสดงงิ้ว เป็ นต้น
ไหว้พระจันทร์ เจ้าแม่กวนอิม การเชิดสิงโต
ด้านศิ ลปวิทยาการ
(Arts and Sciences)
เวียดนามรับรู ปแบบสถาปั ตยกรรม ศิ ลปกรรมจากจีน ส่วนไทยได้รับอิทธิพลงานจิตรกรรม
และการทำเครื่องปั้ นดินเผาจากจีน เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนั งที่วัดราชบูรณะ การนำมังกรมา
ประดับอาคารและหลังคา มีงานปูนปั้ นลายดอกไม้ประดับมาประดับโบสถ์หรือวิหาร เช่น วัด
ราชโอรสาราม วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม มีภาพเขียนรู ปแบบศิ ลปิ นหรือนั กรบ แต่งหน้ า
แต่งกายแบบชาวจีน มีอักษรภาษาจีนเขียนกำกับไว้ด้วย เป็ นต้น
เครื่องปั้นดินเผาจากจีน ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดราชบูรณะ การเเต่งหน้าเเบบชาวจีน
ด้านวิถีชีวิต
(Way of Life)
วัฒนธรรมที่ มีความเกี่ยวข้องกับชี วิตประจำวันที่ ไทยและชาวเอเชี ยตะวันออกเฉี ยงใต้
รับมาจากจีน เช่น การทำอาหารแบบผัด การใช้กระทะ การใช้น้ำมัน การใช้ตะเกียบ
การดื่มน้ำชา การใช้โต๊ะ เก้าอี้ เตียง การใช้กระดาษ
การใช้กระทะ การใช้ตะเกียบ การดื่มน้ำชา
อาหารจีนส่วนใหญ่จะเน้ นการย่าง ผัด ต้ม เป็ นอาหารที่ทำจากเส้น เช่น ติ่มซำ ขนมจีบ
ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๋บ ลักซาที่เป็ นอาหารยอดนิ ยมของชาวสิงคโปร์ การเเต่งกายที่พบเห็นกัน
โดยทั่วไป คือ การสวมใส่ชุดสีแดงเพื่อเป็ นสิริมงคล และการนุ่ งขาว–ห่มขาวเพื่อไว้ทุกข์
ชุดอ่าวหญ่าย ซึ่งเป็ นชุดประจำชาติของชาวเวียดนาม เป็ นต้น
ลักซา (สิงคโปร์) ชุดอ่าวหญ่าย (เวียดนาม)
ลักซา สิงคโปร์ การนุ่งขาว–ห่มขาวเพื่อไว้ทุกข์ (เวียดนาม)
การสวมใส่ชุดสีแดง เพื่อเป็นสิริมงคล