The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเรียนการสอนสัปดาห์ที่-9-วิชาภาษาไทย-เรื่องรสในวรรณคดี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การเรียนการสอนสัปดาห์ที่-9-วิชาภาษาไทย-เรื่องรสในวรรณคดี

การเรียนการสอนสัปดาห์ที่-9-วิชาภาษาไทย-เรื่องรสในวรรณคดี

การเรยี นการสอนสปั ดาห์ท่ี 9

นางพิมลธยา แกว้ แดง
ครู กศน.ตาบลบ้านหม้อ
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งเพชรบุรี

การจัดการเรียนการสอนสปั ดาหท์ ่ี 9 ประจาภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
กศน.ตาบลบ้านหม้อ

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองเพชรบุรี
********************************************************************************
คาอธิบาย

1. การจัดการเรยี นการสอนประจาสปั ดาหท์ ี่ 9 เร่อื งรสในวรรณคดี
2. ศึกษาคลิปการสอนเร่ืองรสในวรรณคดี ( ตาม QR CODE ด้านลา่ งน้ี )

แสกน QR CODE เพ่ือชมคลิป

3. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน วชิ าภาษาไทย เร่ืองรสในวรรณคดี โดยแสกน QR CODE ดา้ นล่างนี้

4. ทาแบบฝึกหัดท้ายบท ( วิธีดาเนินการ : ลอกโจทย์ลงในสมุด และถ่ายภาพชิ้นงานส่งครูทาง Line /
ทาง FB )

5. ทาแบบทดสอบหลังเรียน วิชาภาษาไทย เร่ืองหลักการใช้ภาษา โดยแสกน QR CODE ดา้ นลา่ งนี้

การเรยี นการสอนสัปดาห์ท่ี 9
ใบความรทู้ ่ี 1 วชิ าภาษาไทย เร่อื งรสในวรรณคดี

กศน.ตาบลบ้านหม้อ
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งเพชรบรุ ี

รสวรรณคดีของไทย

รสวรรณคดี หมายถึง อารมณ์สัมผัส รับรู้ด้วยใจ เช่น รสเสียง รสถ้อยคา สัมผัสคา ฯลฯ เกิดจาก
จังหวะของวรรคตอนในการอ่านบทประพันธ์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างมโนภาพด้านอารมณ์ ความเคล่ือนไหวของ
ภาพให้ชัดเจน มีชีวิตชีวาย่ิงขึ้น อันยังผลให้เข้าถึงรสภาพอย่างลึกซึ้ง กล่าวคือ เม่ืออ่านหรือฟังคาประพันธ์ใด
แล้ว เกิดความรู้สึกอย่างไร หากคาประพันธ์ใดไม่มีรส ย่อมจืดชืด ไม่เกิดอารมณ์สะเทือนใจแต่อย่างใดแก่
ผู้อ่าน รสในวรรณคดีไทยมี ๔ ชนดิ ไดแ้ ก่

เสาวรจนีย์ (บทชมโฉม)

(เสาว ว. ดี, งาม. + รจนี ก. ตกแตง่ , ประพันธ์; ว. งาม)

คือการเล่าชมความงามของตัวละครในเรื่อง ซ่ึงอาจเป็นตัวละครที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ หรือสัตว์ซึ่งการชมนี้
อาจจะเป็นการชมความเก่งกล้าของกษัตริย์ ความงามของปราสาทราชวังหรือความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง
ดงั เชน่ บทชมนางเงือก ซ่ึงตดิ ตามพอ่ แมม่ าเพ่ือพาพระอภัยมณีหนีนางผีเส้ือสมุทร จากเรื่อง พระอภยั มณี

องค์กษัตริยท์ ัศนานางเงือกน้อย ดแู ช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม

ประไพพักตร์ลักษณ์ล้าลว้ นขาคม ทงั้ เนื้อนมนวลปรางออกเต่งทรวง

ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดังสุรางค์นางนาฏในวังหลวง

พระเพลินพิศคดิ หมายเสียดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนไี ป

(พระอภัยมณี : สุนทรภู่)

นารีปราโมทย์ (บทเกยี้ ว โอ้โลม)
(นารี น. หญงิ + ปราโมทย์ น. ความบันเทิงใจ, ความปลื้มใจ, ปราโมช)

คือการกล่าวข้อความแสดงความรัก ทั้งที่เป็นการพบกันในระยะแรกๆ และในโอ้โลมปฏิโลมกอ่ นจะถึงบท
สังวาสน้ันด้วย

ถึงม้วยดินส้ินฟา้ มหาสมุทร ไมส่ ้ินสุดความรักสมัครสมาน

แม้นเกิดในใต้ฟา้ สุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา

แม้นเนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พ่ีขอพบศรีสวัสด์ิเป็นมัจฉา

แม้นเป็นบัวตวั พี่เป็นภมุ รา เชยผกาโกสุมปทุมทอง

เจ้าเป็นถ้าไพขอให้พี่ เป็นราชสีหส์ มส่เู ป็นคู่ครอง

จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป

(สุนทรภู่)

พิโรธวาทัง (บทตดั พ้อ)

(พิโรธ ก. โกรธเกรี้ยว ไมส่ บอารามณ์ + วาทงั น. วาทะ คาพดู )

คือการกล่าวข้อความแสดงอารมณ์ไม่พอใจ ตั้งแต่น้อยไปจนมาก จึงเริ่มตั้งแต่ ไม่พอใจ โกรธ ตัดพอ้ ประชด

ประชัน กระทบกระเทยี บเปรียบเปรย เสียดสี เกลยี ด เจบ็ ใจ และด่าวา่ อยา่ งรุนแรง

บทตัดพ้อที่แทรกอารมณ์ขันของ จากบทกวี ปากกับใจ

เมื่อรักกันไม่ได้กไ็ ม่รัก ไม่เห็นจักเกรงการสถานไหน

ไม่รักเราเราจักไม่รักใคร เอ๊ะนา้ ตาเราไหลทาไมฤา

(สจุ ติ ต์ วงษ์เทศ)

บทตัดพ้อท่แี สดงท้ังอารมณ์รักและแค้นของ อังคาร กัลยาณพงศ์ จากบทกวี เสียเจา้

จะเจ็บจาไปถึงปรโลก ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย

จะเกดิ ก่ีฟ้ามาตรมตาย อยา่ หมายว่าจะให้หวั ใจหวั ใจ

(อังคาร กัลยาณพงศ์)

สลั ลาปังคพิไสย (บทโศก)

(สลั ล น. ความโศกโศกาเศร้าร่าน้าตานอง, ความเจบ็ ปวดแปลบ ๆ แลบแล่นในเนื้อใจ, การครวญครา่
ราพันราพงึ / สัลลาป น. การพดู จากัน + องค์ น. บท, ชิ้น อัน, ตัว + พิไสย น. ความสามารถ ฤาจะแผลง

มาจาก วสิ ัย ซ่ึงแปลว่า ธรรมชาตขิ องสิ่งน้ัน ๆ ฤาสันดาน )

คือการกล่าวข้อความแสดงอารมณ์โศกเศร้า อาลัยรัก บทโศกของนางวันทอง ซึ่งคร่าครวญอาลยั รกั ต้นไม่ในบาง
ขนุ ช้าง อันแสดงให้เห็นวา่ นางไม่ต้องการตามขุนแผนไป แต่ที่ต้องไปเพราะขุนแผนร่ายมนต์สะกด ก่อนลานาง
ได้ร่าลาต้นไมก้ ่อนจากไป จากเร่ืองขุนช้างขุนแผน ตอนขุนแผนพานางวันทองหนี

ลาดวนเอยจะด่วนไปก่อนแล้ว ทัง้ เกดแก้วพิกุลย่ีสนุ่ สี

จะโรยร้างหา่ งกลิ่นมาลี จาปีเอ๋ยกี่ปีจะมาพบ

(พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)

สุนทรภู่ครา่ ครวญถึงรัชกาลท่ี ๒ ซ่ึงสวรรคตแล้ว เป็นเหตุให้สุนทรภู่ตอ้ งตกระกาลาบาก เพราะไม่เป็นท่ีโปรด
ปรานของรัชกาลท่ี ๓ ต้องระเหด็ เตร็ดเตร่ไปอาศัยในท่ีตา่ งๆขณะล่องเรือผา่ นพระราชวัง สุนทรภู่ซึ่งราลึก
ความหลังก็ครา่ ครวญอาลัยถึงอดีตท่ีเคยรุ่งเรอื งจากนิราศภูเขาทอง

เคยหมอบใกล้ได้กล่นิ สุคนธต์ ลบ ละอองอบรสรื่นชื่นนาสา

สิน้ แผ่นดินสนิ้ รสสุคนธา วาสนาเรากส็ ้ินเหมือนกลิ่นสุคนธ์

(สุนทรภู่)

การเรียนการสอนสัปดาห์ท่ี 9
ใบงานที่ 1 วชิ าภาษาไทย เรือ่ ง รสในวรรณคดี

กศน.ตาบลบ้านหม้อ
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งเพชรบรุ ี

ช่ือ – สกลุ .................................................................. ระดับชั้น...............................................
รหัสประจาตัวนกั ศกึ ษา ...................................................... วัน/เดือน/ป.ี ................................
*************************************************************************

ตอนที่ 1 : ให้นักศึกษาอธิบายความหมายตามหัวข้อตา่ ง ๆ ต่อไปนี้

1. เสาวรจนี ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. นารปี ราโมทย์ ………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. พิโรธวาทัง ……………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. สัลลาปงั คพไิ สย ……………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

การเรยี นการสอนสัปดาห์ท่ี 9
ใบงานที่ 2 วิชาภาษาไทย เรื่อง รสในวรรณคดี

กศน.ตาบลบ้านหมอ้
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองเพชรบรุ ี

ชื่อ – สกลุ .................................................................. ระดบั ช้ัน...............................................
รหัสประจาตัวนกั ศึกษา ...................................................... วนั /เดอื น/ปี.................................
*************************************************************************

คาชี้แจง : ให้นกั ศึกษานาคาตอบใส่ลงในช่องวา่ งให้ถกู ต้องสมั พันธ์กบั ข้อความที่ใหม้ า
เสาวรจนี / นารีปราโมทย์ / พโิ รธวาทงั / สัลลาปงั คพิไสย

..................................๑. มนั รา่ รวยด้วยภาษจี ากพี่น้อง ความจนของชาติไทยจึงไม่สิ้น
ขอสาปแช่งประณามหนามแผน่ ดิน สตั ว์ร้อยลนิ้ ประเภทนี้อัปรีย์เอย

..................................๒. นิว้ เรยี วยาวขาวนวลชวนจมุ พิต มเิ พ้ยี นผดิ เนียนข้ีผึ้งกลึงกลมสวย
แลริกริกพลิกเพลินเชิญงงงวย เจยี นใจป่วยไหวหวามตามตามกัน

..................................๓. อยากลบรอยเท้าเป้อื นพ้ืนเรือนหอ ลบภาพคู่เคลียคลอกันต่อหนา้
ยง่ิ อยากลบยิ่งกระจ่างไม่รา้ งรา เหน็ ตาตาตาจึงจาไว้ตาใจ

..................................๔. “รูปทรงสง่ ศรีไม่มแี ม้น อรชรออ้ นแอ้นประหน่ึงเหลา
ผมสลวยสวยขาดาเงา ให้ชอื่ เจา้ ว่าพิมพิลาไลย”

..................................๕. “ลูกก็แลดแู มแ่ ม่ดูลกู ตา่ งพนั ผกู เพยี งว่าเลือดตาไหล
สะอนื้ ร่าอาลาดว้ ยอาลัย แล้วแขง็ ใจจากนางตามทางมา
แม่ก็เห็นลูกน้อยละห้อยหา
เหลียวหลังยังเห็นแม่แลเขม้น โอ้เปลา่ ตาต่างสะอ้ืนยืนตะลึง”
แต่เหลียวเหลียวเลย้ี วลบั วนั วิญญาณ์

..................................๖. เถอะคะหม่อมเท่าน้ันก็งามหน้า หาปรารถนาจะเอาไหวข้ องใครไม่

ลงมาตั้งหนา้ เมื่อไร ซึ้งได้ชู้เมยี ก็ไม่รู้

มาบอกผัวด้วยตัวน้ันเกิดความ หรอื มาลวงหยาบหยามให้เคืองหู

วิ่งมาวุ่นวายนา้ ลายพรู หรอื ฟังดูเห็นชอบเป็นขอบคัน”

..................................๗. เมื่อน้ัน ซมพลาเห็นสมปรารถนา
จึงเปลื้องพวงนาคพตท่ีผกู มา ให้กัลยาสวมไว้ได้กันงู
แลว้ ปลอบเปล้ืองมะกลา่ กาไล ทนี่ างสวมใส่ข้อมืออยู่
ขอไปชมพลางต่างโฉมตรู คดิ ถึงเจ้าจะได้ชูชื่นชมเชย

..................................๘.เม่ือนั้น ตอบยิบฮอยเงาะกใ็ จหาย
เสน่หาอาลยั มิไดว้ าย แสนเสียดายบุตรีที่รัก
จาเปน็ ลาไปใจจะขาด น้าตาหยาดหยดพรูสหู้ า้ มหัก
อาลยั นักแข็งใจไคลคลา
จากลูกเหลยี วหลังเฝ้ายั้งพัก

..................................๙. ดวงสวาท งามสิริวิลาสเฉลิมศรี
อาจโผอนจิตชายชาตรี ให้ส้ินรักชวี ีเพราะหวังชม
ควรวางวายดกี ว่าอยู่คลาดสู่สม
แม้นมาดพลาดมือไม่เหมือนหมาย เกลยี วกลมกอดประทบั หลับไปเอย
นแี่ ลน้าจิตท่ีพี่นยิ ม

..................................๑๐. เม่ือนั้น นวลนางลาหบั โฉมฉาย ให้ข้อคดิ เห็น [H1]:
ฟงั คาร่าเล่าบรรยาย ใจหายประหวน่ั พรั่นนกั ให้ข้อคดิ เห็น [H2R1]:
จึงวา่ ถ้าเจ้าอันตราย เมียจะตายตามจงประจักษ์
ซบลงเหนือตกั แล้วโศกา
มขิ ออยู่สู้โศกซึ่งพรากรัก

..................................๑๑.เม่ือน้ัน ฮเนานิ่งฟังชังน้าหนา้
เอาดีต่อตอบคาจานรรจา ซ่ึงกรุณาน้องรับนบั พระคุณ
จะเดอื ดดาลวนุ่ วายไมห่ ายฉุน
แต่แค้นใจแม้นมิได้ตามลา้ งผลาญ พอสิ้นวุ่นวายใจให้ละวาง
ทีจ่ ะหาให้ใหม่ได้การญุ
(เงาะป่า)

..................................๑๒. พงศ์กษัตรยิ ์ทัศนานางเงือกน้อย ดูแชม่ ช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม

ประไพพักตร์ลักษณ์ลา้ ลว้ นขาคม ทงั้ เนื้อนมนวลเปล่งออกเต่งทรวง

ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดังสุรางค์นางนาฏในวังหลวง

พระเพลินพิศคิดหมายเสยี ดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกทจ่ี ะหนีไป

(พระอภัยมณี)

..................................๑๓. เมื่อนั้น ฮเนาขัดใจมิใช่ชั่ว

รอ้ งว่าใครหนอไมก่ ลัว กจู ะไปเอาหวั เสยี เดย๋ี วนี้

ว่าพลางทางส่ังนางลาหบั เจ้าจงยบั ยั้งอยู่น่ี

แลว้ ออกจากรม่ ไม้ทันที เทยี วหาผู้ที่มาลอบปา

(เงาะปา่ )

..................................๑๔. เหลือบเห็นกวางขาดาขลับ งามสรรพสะพรั่งดังเลขา

งามเขาเป็นกิ่งกาญจนา งามตานิลรัตน์รูจี

คอก่งเป็นวงราววาด รูปสะอาดราวนางสาอางศรี

เหลยี วหนา้ มาดูภมู ี งามดังนารีชาเลอื งอาย

ยามวิ่งล่วิ ล้าดังลมส่ง ตัดตรงทุม่ พลันผันผาย

(พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อย่หู วั )

..................................๑๕. จะเจบ็ จาไปถึงปรโลก ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟา้ มาตรมตาย อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ

(อังคาร กลั ยาณพงษ์)


Click to View FlipBook Version