โครงงาน เรื่อง เครื่องออกกำลังก

1 โครงงานวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม เรื่อง เครื่องออกกำลังกาย DIY จัดทำโดย 1. นายบานียามีน หะยีอาแว รหัสนักศึกษา 6423-00029-2 ระดับ ม.ปลาย 2. นายมูหะมะ มาแบ รหัสนักศึกษา 6422-00002-0 ระดับ ม.ต้น 3. นางสาวสูไรดา วาเฮง รหัสนักศึกษา 6412-00049-8 ระดับ ม.ต้น ครูที่ปรึกษา 1. นางสาวศุภาวรรณ ศิริพงศ์ ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย 2. นายอิมรอง ยิมะตะโล๊ะ ตำแหน่ง ครูอาสาฯปอเนาะ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอกาบัง รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม ประเภทนวัตกรรมจากขยะ สำหรับนักศึกษา กศน. ระดับพื้นที่ ประจำปี พ.ศ.2565 ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษายะลา

2 ก บทคัดย่อ ใน ปี 2565 ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged society) มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้น ไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศ และอีก 9 ปีข้างหน้า ในปี 2574 จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุด ยอด (Super-Aged Society) มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่า 28% ของประชากรทั้งประเทศ จาก สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้มีผู้สูงอายุ “กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง” ประมาณ 3% หรือ 4 แสนคน จากผู้สูงอายุที่มี อยู่ประมาณ 13 ล้าน โครงงานเรื่องเครื่องออกกำลังกาย DIY เป็นโครงงานที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายอย่าง เหมาะสมกับสภาพร่างกาย โดยการนำเอากระบอกสูบไฮดรอลิคเก่าที่ยังใช้งานได้มาประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์เนื่องจากระบบกระบอกสูบไฮดรอลิค(Hidraulic Cylinder) ช่วยให้การเคลื่อนไหวขณะออกกำลัง กายด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ ทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างธรรมชาติ ลดแรงกระแทก ลดแรง เสียดทาน ลดแรงบาดเจ็บหรือฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ให้แรงการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล ทำให้ปลอดภัยเหมาะสม การการฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่ต้องการบำบัดฟื้นฟูไม่ต้องเดินสายไฟ ประหยัดพื้นที่ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ดูแลรักษาง่าย มีความทนทาน ดีไซน์สวยงาม ต้นทุนต่ำ ใช้งานได้จริง อีกทั้งยังนำวัสดุ เหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นเครื่องออกกำลังกาย DIY ลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีราคาสูง และช่วยลดสภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย

3 ข กิตติกรรมประกาศ โครงงานนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาจากคุณครูศุภาวรรณ ศิริพงศ์ และคุณครูอิมรอง ยิมะตะโล๊ะ ครูที่ปรึกษาโครงงานที่ได้ให้คำเสนอแนะ ข้อคิด แนวคิด ตลอดจนวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงงาน นี้มาโดยตลอด จนโครงงานเล่มนี้สำเร็จโดยสมบูรณ์ ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง คณะผู้จัดทำ

4 ค สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนำ 1 ความเป็นมาและความสำคัญ 1 วัตถุประสงค์ 1 ขอบเขตการศึกษา 1 ประโยชน์ที่ได้รับ 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3 ความรู้เรื่องการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ 3-4 ความรู้เรื่องขยะ 5 ความรู้เรื่องกระบอกสูบไฮดรอลิค(Hidraulic Cylinder) 5 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ 6 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง/กลุ่มเป้าหมาย 6 การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 6 วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล 7 บทที่ 4 ผลการศึกษาทดลอง 8 การหาประสิทธิภาพของเครื่องออกกำลังกาย DIY 8 ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างในการใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY 8-9 บทที่ 5 สรุปผลการทดลอง อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 10 สรุปผลการทดลอง 10 อภิปรายผล 10 ข้อเสนอแนะ 11 บรรณานุกรม 12 ภาคผนวก (ก) 13 ภาคผนวก (ข) 14-15 ภาคผนวก (ค) 16

1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ ใน ปี 2565 ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged society) มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้น ไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศ และอีก 9 ปีข้างหน้า ในปี 2574 จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุด ยอด (Super-Aged Society) มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่า 28% ของประชากรทั้งประเทศ จาก สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้มีผู้สูงอายุ “กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง” ประมาณ 3% หรือ 4 แสนคน จากผู้สูงอายุที่มี อยู่ประมาณ 13 ล้าน การออกกำลังกายของผู้สูงอายุ ช่วยชะลอความเสื่อมของระบบต่าง ๆ ทั้งยังช่วยเพิ่มความ แข็งแรงทนทานให้กับกล้ามเนื้อ ควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ให้มีความสมดุล ในบางครั้งยังช่วย ให้ผู้สูงอายุได้เข้าสังคม กรณีออกกำลังกายนอกบ้าน จึงเป็นผลดีต่อสภาพจิตใจโดยตรง ประโยชน์ของ การออกกำลังกายมีอยู่หลากหลาย สำหรับการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ มีข้อควรระวังมากกว่าวัยอื่น เนื่องจากเป็นวัยที่กล้ามเนื้ออ่อนแอกว่าวัยอื่น การทรงตัวอาจทำได้ไม่ดีเท่ากับวัยอื่น และที่สำคัญ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายโดยตรง ดังนั้น คณะผู้จัดทำจึงได้ช่วยกันคิดค้นเครื่องออกกำลังกาย DIY ซึ่งเป็นโครงงานที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมกับสภาพร่างกาย โดยการนำเอากระบอกสูบไฮดรอลิคเก่าที่ยังใช้งาน ได้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เนื่องจากระบบกระบอกสูบไฮดรอลิค(Hidraulic Cylinder) ช่วยให้การ เคลื่อนไหวขณะออกกำลังกายด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ ทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเป็นไปอย่าง ธรรมชาติ ลดแรงกระแทก ลดแรงเสียดทาน ลดแรงบาดเจ็บหรือฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ให้แรงการเคลื่อนไหวที่ นุ่มนวล ทำให้ปลอดภัยเหมาะสมการการฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่ต้องการบำบัดฟื้นฟูไม่ต้อง เดินสายไฟ ประหยัดพื้นที่ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ดูแลรักษาง่าย มีความทนทาน ดีไซน์สวยงาม ต้นทุนต่ำ ใช้งานได้จริง อีกทั้งยังนำวัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นเครื่องออกกำลังกาย DIY ลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ อุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีราคาสูงและช่วยลดสภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย 1.2 วัตถุประสงค์ 1.2.1 เพื่อประดิษฐ์เครื่องออกกำลังกาย DIY 1.2.2 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเครื่องออกกำลังกาย DIY 1.2.3 เพื่อทราบถึงความพึงพอใจต่อการใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY

2 1.3 ขอบเขตการศึกษา 1.3.1 ขอบเขตด้านประชากร คือ ประชาชนทั่วไปในเขตอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา จำนวน 20 ราย 1.3.2 ขอบเขตด้านเวลา ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 1.4 ประโยชน์ที่ได้รับ 1.4.1 นักศึกษา กศน.อำเภอกาบัง ได้ใช้ทักษะความรู้ความคิดด้วยกระบวนการ STEM มาร่วมกัน คิด วิเคราะห์ ออกแบบ เพื่อสร้างโครงงานเรื่อง เครื่องออกกำลังกาย DIY จำนวน 1 เครื่อง 1.4.2 นักศึกษา กศน.อำเภอกาบัง ได้ทราบถึงประสิทธิภาพของโครงงานเรื่อง เครื่องออกกำลังกาย DIY 1.4.3 ชุมชน/หมู่บ้าน/วัด/มัสยิด ได้เครื่องออกกำลังกาย DIY เพื่อใช้ในการออกกำลังกาย 1.4.4 ผู้สูงอายุได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพจิตที่แจ่มใส 1.4.5 ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมกับสภาพร่างกาย 1.4.6 ผู้สูงอายุได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย 1.4.7 ผู้สูงอายุได้ลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีราคาสูง

3 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาและทำโครงงาน เรื่อง เครื่องออกกำลังกาย DIY คณะผู้จัดทำได้ค้นคว้าและรวบรวม ข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 2.1 ความรู้การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ 2.2 ความรู้เรื่องขยะ 2.3 ความรู้เรื่องกระบอกสูบไฮดรอลิค(Hidraulic Cylinder) 2.1.1 ความรู้เรื่องการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ หลักการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ 1. ความหนักของการออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายที่ความหนักร้อยละ 60 ของอัตราการเต้นหัวใจ สูงสุดของแต่ละบุคคล และไม่ควรเกินร้อยละ 85 ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดแต่ละบุคคล 2. ความบ่อย หรือความถี่ในการออกกำลังกาย ในช่วงต้นของการออกกำลังกายควรปฏิบัติอย่างน้อย สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งทำวันเว้นวันเพื่อให้กล้ามเนื้อได้รับการผักผ่อน เมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวได้แล้วก็ สามารถเพิ่มเป็น 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ไม่ควรเกิน 5ครั้งต่อสัปดาห์ 3. ระยะเวลาในการออกกำลังกาย การออกกำลังกายควรอยู่ในช่วง 20-30 นาทีโดยแบ่งเป็นช่วงอบอุ่น ร่างกาย ซึ่งรวมถึงการเหยียด ยืดกล้ามเนื้อประมาณ 5-10 นาที ช่วงออกกำลังกายไม่ต่ำกว่า 12 นาที และช่วงฟื้นร่างกายสู่สภาพปกติประมาณ 5-10 นาที เวลาในแต่ละช่วงต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามความเหมาะสม 4. ความก้าวหน้าในการออกกำลังกาย เริ่มด้วยจำนวนน้อยก่อนแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มขนาด หรือความหนัก ของการออกกำลังกาย ในช่วงแรกควรเริ่มด้วยการออกกำลังกายที่ความหนักร้อยละ 55 ของอัตราการ เต้นหัวใจสูงสุด จากนั้นค่อยๆ เพิ่มเป็นร้อยละ 60 ร้อยละ 65 ร้อยละ 70 ไปตามลำดับ 5. ชนิดของการออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬา ต้องหลีกเลี่ยงกีฬาที่ต้องใช้แรงปะทะ หรือกีฬาที่ต้องใช้ ความสัมพันธ์ของประสาทสูง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ หากเป็นโรคความดันโลหิต ไม่ควรออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนัก เพราะจะทำให้เกิดอันตรายต่อหลอดเลือดได้ เนื่องจากการ ออกกำลังกายชนิดนี้ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นไปอีก การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. การออกกำลังกายเฉพาะส่วน เช่น การบริหารข้อไหล่ในผู้ป่วยโรคไหล่ติด การบริหารกล้ามเนื้อหลัง ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง และการบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าในกรณีข้อเข่าเสื่อม 2. การออกกำลังกายโดยทั่วไป ซึ่งจะมีผลทำให้จิตใจแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง และมีผลดีโดยอ้อมคือ ทำให้ผู้สูงอายุมีการทรงตัวที่ดีขึ้น ลดอุบัติการณ์การลื่นล้ม ซึ่งเป็นสาเหตุของกระดูกหักรวมทั้งการเกิด ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอื่น ๆ เช่นภาวะปอดบวม ภาวะติดเชื้อ เป็นต้น

4 การออกกำลังกายในผู้สูงอายุควรเป็นการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ เช่น การวิ่งเหยาะๆ ใน กรณีที่ไม่มีอาการข้อเข่าเสื่อม การเดิน การเต้นแอโรบิก การรำมวยจีน การรำไม้พลอง เป็นต้น ภาวะที่ ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย 1. อาการเจ็บแน่นหน้าอก ที่ยังควบคุมไม่ได้ 2. มีความดันโลหิตสูงขณะออกกำลังกาย 3. การเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ 4. อาการเวียนศีรษะ 5. สภาพแวดล้อม และภูมิอากาศไม่เหมาะสม 6. หลังรับประทานอาหารมื้อหลัก การออกกำลังกายในผู้สูงอายุแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ 1. เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เพิ่มการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด (แอโรบิค) 2. เพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อ ข้อต่อส่วนต่าง ๆ เป็นการออกกำลังกายฝืนแรงต้าน 3. เหยียดยืดข้อต่อส่วนต่าง ๆ ป้องกันอาการข้อยืดติด 4.ฝึกการทรงตัว การออกกำลังกายของผู้สูงอายุ ช่วยชะลอความเสื่อมของระบบต่าง ๆ ทั้งยังช่วยเพิ่มความ แข็งแรงทนทานให้กับกล้ามเนื้อ ควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ให้มีความสมดุล ในบางครั้งยังช่วย ให้ผู้สูงอายุได้เข้าสังคม กรณีออกกำลังกายนอกบ้าน จึงเป็นผลดีต่อสภาพจิตใจโดยตรง ประโยชน์ของ การออกกำลังกายมีอยู่หลากหลาย สรุปได้ดังนี้ 2.2 ความรู้เรื่องขยะ ความหมายของขยะ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า “มูลฝอย” หมายถึง เศษสิ่งของที่ทิ้ง แล้ว หยาก เยื่อ และคำว่า “ขยะ” หมายถึง หยาก เยื่อมูลฝอย จะเห็นว่าคำทั้งสองคำนี้มี ความหมาย เหมือนกัน ใช้แทนกันได้ และบางทีจึงเห็นใช้ควบกันเป็นขยะมูลฝอย พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2484 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่3 พ.ศ.2497 ได้ให้คำจำกัด ความและ ความหมายของคำว่า “มูลฝอย” หมายถึง เศษกระดาษ เศษผ้า เศษอาหารเศษสินค้า เถ้า มูลสัตว์ และซาก สัตว์ รวมถึงวัตถุอื่นใด ซึ่งเก็บกวาดจากถนน ตลาดที่เลี้ยงสัตว์ หรือที่อื่นๆ ความหมายของขยะมูลฝอยในเชิงวิชาการ ขยะหรือขยะมูลฝอย ( Refuse or Solid Waste ) หมายถึง ของเสียที่อยู่ในรูปของแข็ง ซึ่ง อาจจะมี ความชื้นปะปนมาด้วยจำนวนหนึ่ง ขยะที่เกิดขึ้นจากอาคารที่พักอาศัย สถานที่ทำการ โรงงานอุตสาหกรรม หรือตลาดสดก็ตามจะมีปริมาณและลักษณะแตกต่างกันออกไป โดยปกติแล้ววัตถุต่างๆ ที่ถูกทิ้งมาในรูปของ ขยะนั้น จะมีทั้งอินทรีย์สารและอนินทรีย์สาร สารวัตถุต่างๆ เหล่านี้บางชนิดก็สามารถย่อยสลายได้ด้วย

5 จุลินทรีย์ในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะพวกเศษอาหาร เศษพืชผัก แต่บางชนิดก็ไม่อาจจะย่อยสลายได้เลย เช่น พลาสติก เศษแก้ว เป็น ประเภทและสีของถังขยะ ถังขยะทั้งหมดมีอยู่ 4 ประเภท แต่ละประเภทนั้นก็รับขยะต่างกัน แต่ในปัจจุบันนั้น คนส่วนใหญ่มักจะ ทิ้งขยะลงถังไม่ถูกประเภทกัน เช่น กล่องโฟมทิ้งถังขยะสีเขียวบ้าง ถังขยะสีแดงบ้าง ซึ่งคนแบบนี้มักจะเป็นคน ที่มักง่าย ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เป็นคนเห็นแก่ตัว คิดว่าใกล้ถังขยะประเภทไหนก็ทิ้งลงถังนั้น ดังนั้นเรา ควรทิ้งขยะให้ถูกต้อง ตามสีและประเภทของถังขยะ เพื่อง่ายต่อการแยกขยะ ดังนี้ 1. ถังขยะ สีเขียว คือ ถังขยะที่ย่อยสลายได้ เช่น เศษอาหาร กิ่งไม้ ใบไม้ ผัก และขยะอีกมากมายที่ สามารถย่อยสลายได้ 2. ถังขยะ สีเหลือง คือ ถังขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ เช่น กระดาษ ขวดน้ำ แก้วน้ำ เศษเหล็ก 3. ถังขยะ สีน้ำเงิน คือ ถังขยะที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ เช่น โฟม ถุงขนม พลาสติก 4. ถังขยะ สีแดง คือ ถังขยะที่เป็นพิษ เช่น กระป๋องสี สีสเปรย์ แบตเตอรี่ ยาฆ่าแมลงและอื่นๆที่เป็นพิษ 2.3 ความรู้เรื่องกระบอกสูบไฮดรอลิค(Hidraulic Cylinder) เครื่องออกกำลังกายระบบไฮดรอลิค HYDRAULIC FITNESS คืออะไร • เครื่องออกกำลังกายระบบไฮดรอลิค มีความเร็วที่สม่ำเสมอ ทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเป็นไป อย่างธรรมชาติ ลดแรงกระแทก ลดการบาดเจ็บหรือฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ข้อและกระดูก การออกกำลังกาย ด้วยเครื่องออกกำลังกายระบบไฮดรอลิคทำได้ง่าย เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการ ฟื้นฟูร่างกาย เครื่องออกกำลังกายระบบไฮดรอลิค ถูกนำมาใช้ในการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย โดยเริ่มใช้ครั้งแรกใน ต่างประเทศเมื่อ 30 ปีที่แล้ว อุปกรณ์ออกกำลังกายระบบไฮดรอลิคนี้สามารถช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ได้รับการ บาดเจ็บ หรือมีปัญหา และในขณะเดียวก็ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ลดการบาดเจ็บ การฉีกขาดของกล้ามเนื้อขณะการออกกำลังกายได้ อุปกรณ์ระบบ ไฮดรอลิคได้รับการออกแบบตามหลักการทำงานของกล้ามเนื้อที่ปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

6 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ การวิจัยเรื่องเครื่องออกกำลังกาย DIY ในการดำเนินการวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองเพื่อศึกษา ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องออกกำลังกาย DIY ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการวิจัยเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ผู้วิจัยจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยใช้หลัก PDCA ดังต่อไปนี้ 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง/กลุ่มเป้าหมาย 3.2 การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3.3 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.5 วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนการประดิษฐ์ 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง/กลุ่มเป้าหมาย ประชากรที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ คือ ประชาชนทั่วไป ในเขตอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา จำนวน 20 ราย 3.2 การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ผู้วิจัยได้ดำเนินการสร้างเครื่องมือเพื่อเก็บข้อมูล ดังนี้ 1. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากเอกสารตำราแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเครื่อง ออกกำลังกาย DIY และการออกแบบจัดสร้างอะไหล่ชิ้นส่วนงานเครื่องกล แล้วนำมาสร้างแบบสอบถามความ พึงพอใจ 2. สร้างแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY โดยการสอบถามความพึง พอใจของกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วไป 3.2.1 เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือเพื่อดำเนินการวิจัยใน 2 ลักษณะ คือการ ทดลองโดยการเก็บผลจากการทดลองและใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ตอนที่ 1 การทดลองประสิทธิภาพของเครื่องออกกำลังกาย DIY และเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ผลการ ทดลองว่าได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่อย่างไร ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างต่อการใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY ที่ทำขึ้น โดยใช้แบบสอบถาม 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามข้อมูลทั่วไป และตอนที่ 2 มีจำนวน 10 ข้อ มีลักษณะเป็นแบบประเมินค่า คิดเป็นร้อยละกับจำนวนคนแสดงความคิดเห็นด้วยความพึงพอใจ ระดับคะแนน 5 หมายถึง มีความพึงพอใจมากที่สุด ระดับคะแนน 4 หมายถึง มีความพึงพอใจมาก ระดับคะแนน 3 หมายถึง มีความพึงพอใจปานกลาง

7 ระดับคะแนน 2 หมายถึง มีความพึงพอใจน้อย ระดับคะแนน 1 หมายถึง มีความพึงพอใจน้อยที่สุด 3.2.2 การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยดำเนินการเก็บข้อมูลที่ได้จากการทดลองจากกลุ่มตัวอย่างและ แบบทดสอบมาทำการวิเคราะห์หาค่า ด้วยการคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ร้อยละ ในการแสดงความคิดเห็นความพึง พอใจ ทั้งนี้ได้ดำเนินการ ดังนี้ 1. ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของผลการทดลองในแบบสอบถามที่ได้รับคืนมา 2. นำข้อมูลจากผลการทดลองและแบบสอบถามที่สมบูรณ์มาวิเคราะห์ดังนี้ 1) วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็น ซึ่งเป็นการวัดความพึงพอใจในการใช้ เครื่องออกกำลังกาย DIY โดยหาค่าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ร้อยละตามตารางในแบบสอบถามเป็นรายข้อ รายด้านและนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบคำบรรยาย 3.3 วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล - แจกแบบสอบถามความพึงพอใจ - ชี้แจงวิธีการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ - เก็บรวบรวมแบบสอบถามความพึงพอใจ - วิเคราะห์ข้อมูล 3.4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ - ค่าร้อยละ (%) 3.5 วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนการประดิษฐ์ 3.5.1 วัสดุอุปกรณ์ 1) โครงรถจักรยานเก่า จำนวน 1 คัน 2) เศษเหล็กเก่า ขนาด 1x2 นิ้ว จำนวน 1 เส้น 3) เก้าอี้เก่า จำนวน 1 ตัว 4) กระบอกสูบไฮดรอลิค(Hidraulic Cylinder)เก่า 1 ตัว 3.5.2 ขั้นตอนการประดิษฐ์ 1) ออกแบบชิ้นงาน และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ 2) ตัดเศษเหล็กเก่า ขนาด 1x2 นิ้ว เพื่อทำเป็นโครงฐานของเครื่องออกกำลังกาย เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า 3) เชื่อมเก้าอี้เก่าติดกับโครงฐานของเครื่องออกกำลังกาย เพื่อทำเป็นที่นั่ง 4) ติดตั้งชุดล้อรถจักรยานเก่าติดกับโครงฐานของเครื่องออกกำลังกาย เพื่อทำเป็นที่ปั่นขา 5) ติดตั้งคันโยกมือพร้อมกระบอกสูบไฮโดรลิค เพื่อทำเป็นคันโยกมือ

8 บทที่ 4 ผลการศึกษาทดลอง ในการวิจัยจัดสร้างเครื่องออกกำลังกาย DIYนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของเครื่องและ ทราบถึงความพึงพอใจในการใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY โดยคณะผู้จัดทำได้นำข้อมูลในรูปแบบตาราง ประกอบความเรียง โดยนำเสนอออกมาเป็น 2 ตอน ดังนี้ 4.1 การหาประสิทธิภาพของเครื่องออกกำลังกาย DIY 4.2 ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างในการใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY 4.1 การหาประสิทธิภาพของเครื่องออกกำลังกาย DIY ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของเครื่องออกกำลังกาย DIY ประสิทธิภาพของเครื่องออกกำลังกาย DIY สามารถปั่นได้จำนวนโดยเฉลี่ย 40 รอบ ในเวลา 1 นาที และสามารถโยกมือได้ จำนวนโดยเฉลี่ย 20 รอบ ในเวลา 1 นาที 4.2 ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างในการใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY ตอนที่ 2 ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างในการใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY ตารางที่ 1 แสดงจำนวนค่าร้อยละของกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งานเครื่องออกกำลังกาย DIY แบบสอบถาม จำนวน (ชุด) ร้อยละ จำนวนแบบสอบถามความพึงพอใจ 20 100 จำนวนแบบสอบถามที่ได้รับ 20 100 รวม 100 100 จากตาราง 1 พบว่าจากจำนวนผู้ทดลองใช้เครื่องออกกำลังกาย DIY ทั้งหมดมีจำนวน 20 คน ได้รับ แบบสอบถาม จำนวน 20 ชุด คิดเป็นร้อยละ 100 ของประชากรกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ตาราง 2 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจในการใช้งานเครื่องออกกำลังกาย DIY ประเด็นความคิดเห็น ระดับความพึงพอใจ ( คน ) มากที่สุด (5) มาก (4) ปานกลาง (3) น้อย (2) น้อยที่สุด (1) 1. มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้จริง 20 - - - - 2. มีความปลอดภัยในการใช้งาน 18 2 - - - 3. การใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน 16 3 1 - - 4. มีความแข็งแรงของวัสดุอุปกรณ์ 17 3 - - - 5. มีขนาดที่เหมาะสมแก่การใช้งาน 16 2 2 - - 6. มีความสะดวกในการเคลื่อนย้าย 15 5 - - -

9 7. มีความเหมาะสมของน้ำหนักชิ้นงาน 16 2 2 - - 8. ดูแลรักษาง่าย 18 2 - - - 9. มีความทันสมัย 16 3 1 - - 10. การออกแบบสวยงาม 15 3 2 - - รวม 167 25 8 0 0 คิดเป็นร้อยละ 83.50 12.50 4 0 0 จากตาราง 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม มีความพึงพอใจด้านประสิทธิภาพ ใช้งานได้จริง อยู่ในระดับ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 100 ด้านความปลอดภัยในการใช้งาน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็น ร้อยละ 90 ด้านการใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 ด้านความ แข็งแรงของวัสดุอุปกรณ์ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 85 ด้านขนาดที่เหมาะสมแก่การ ใช้งาน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 ด้านความสะดวกในการเคลื่อนย้าย มีความพึง พอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 75 ด้านความเหมาะสมของน้ำหนักชิ้นงาน มีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 ด้านการดูแลรักษาง่าย มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 90 ด้านความทันสมัย มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 ด้านการออกแบบสวยงาม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 75 โดยเฉลี่ยมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 83.50

10 บทที่ 5 สรุปผลการทดลอง อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1สรุปผลการทดลอง จากการวิเคราะห์ข้อมูลได้ผลสรุป ดังนี้ 1. ในการวิจัยจัดสร้างเครื่องออกกำลังกาย DIY ในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเครื่องออก กำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เพราะการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ จะมีข้อควรระวังมากกว่า วัยอื่น เนื่องจากเป็นวัยที่กล้ามเนื้ออ่อนแอกว่าวัยอื่น การทรงตัวอาจทำได้ไม่ดีเท่ากับวัยอื่น และที่สำคัญผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายโดยตรง จากการทดลองจึงสรุปการหาประสิทธิภาพของเครื่องได้เครื่องออกกำลังกาย DIY นี้สามารถ ช่วยให้การเคลื่อนไหวขณะออกกำลังกายด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ ทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เป็นไปอย่างธรรมชาติ ลดแรงกระแทก ลดแรงเสียดทาน ลดแรงบาดเจ็บหรือฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ให้แรงการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล ทำให้ปลอดภัยเหมาะสมการการฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้สูงอายุ หรือ ผู้ป่วยที่ต้องการบำบัดฟื้นฟูไม่ต้องเดินสายไฟ ประหยัดพื้นที่ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ดูแลรักษาง่าย มีความทนทาน ดีไซน์สวยงาม ต้นทุนต่ำ ใช้งานได้จริง อีกทั้งยังนำวัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นเครื่อง ออกกำลังกาย DIY ลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีราคาสูงและช่วยลดสภาวะโลก ร้อนได้อีกด้วย 2. ผลการศึกษาความคิดเห็นความพึงพอใจในการใช้งานเครื่องออกกำลังกาย DIY หลังจากสร้าง อุปกรณ์เสร็จ เพื่อทดลองหาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องออกกำลังกาย DIY พบว่า มีประสิทธิภาพการทำงานได้ครบถ้วนสมบูรณ์และมีระดับความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้ เครื่องออกกำลังกาย DIY แสดงความคิดเห็นการใช้งานของอุปกรณ์ในภาพรวมของทุกประเด็น พิจารณาของกลุ่มตัวอย่างหรือผู้ทดลองใช้มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 83.50 มีความพึงพอใจในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 12.50 มีความพึงพอใจในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 4.00 มีความพึงพอใจในระดับน้อย คิดเป็นร้อยละ 0 และมีความพึงพอใจในระดับน้อยที่สุด คิดเป็นร้อยละ 0 5.2 อภิปรายผล 1. เครื่องออกกำลังกาย DIY ที่คณะผู้วิจัยจัดทำขึ้นมานั้น เมื่อนำไปทดลองใช้งานจริงกับกลุ่มผู้ ทดลองใช้งานและเก็บรวบรวมข้อมูล พบว่าประสิทธิภาพของเครื่องออกกำลังกาย DIY สามารถปั่นได้

11 จำนวนโดยเฉลี่ย 40 รอบ ในเวลา 1 นาที และสามารถโยกมือได้ จำนวนโดยเฉลี่ย 20 รอบ ในเวลา 1 นาที 2. จากการสอบถามในแบบสอบถามความพึงพอใจ ผู้ตอบแบบสอบถาม มีความพึงพอใจด้าน ประสิทธิภาพ ใช้งานได้จริง อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 100 ด้านความปลอดภัยในการใช้ งาน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็น ร้อยละ 90 ด้านการใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีความ พึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 ด้านความแข็งแรงของวัสดุอุปกรณ์ มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 85 ด้านขนาดที่เหมาะสมแก่การใช้งาน มีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 ด้านความสะดวกในการเคลื่อนย้าย มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 75 ด้านความเหมาะสมของน้ำหนักชิ้นงาน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 ด้านการดูแลรักษาง่าย มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 90 ด้านความทันสมัย มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 ด้านการออกแบบ สวยงาม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 75 โดยเฉลี่ยมีระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 83.50 5.3 ข้อเสนอแนะ 1. เครื่องออกกำลังกาย DIY นี้ควรได้รับการพัฒนาด้านประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง ตามข้อเสนอแนะของผู้ทดลองใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิม 2. ควรประดิษฐ์เครื่องออกกำลังกาย DIY จำนวนหลายๆเครื่อง เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนผู้ใช้งาน ที่มีจำนวนมาก 3. ควรประดิษฐ์เครื่องออกกำลังกาย DIY จำนวนหลายๆเครื่อง เพื่อมอบให้กับชุมชนต่างๆได้นำไปใช้ ประโยชน์

12 บรรณานุกรม บรรเลง ศรนิล และ ประเสริฐ ก๊วยสมบูรณ์. ตารางงานโลหะ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2524. วริทธ์ อึ๊งภากรณ์ และชาญ ถนัดงาน. การออกแบบเครื่องจักรกล เล่ม 2. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2536. อดุมศักดิ์ ธัญญรักษ์. เขียนแบบเครื่องกล 1. กรุงเทพฯ : เอมพันธ์, 2543. วิโรจน์ สุวรรณรัตน์. ชิ้นส่วนเครื่องกล. กรุงเทพฯ : พัฒนาวิชาการ, 2547. เว็บไซต์ที่ค้นคว้า 1. https://shorturl.asia/083sB 2. https://shorturl.asia/ovrny 3. https://shorturl.asia/jFW93 4. https://shorturl.asia/iMOx9 5. https://shorturl.asia/Nm0YX

13 ภาคผนวก (ก) โครงงานเครื่องออกกำลังกาย DIY นักศึกษา กศน.อำเภอกาบัง

14 ภาคผนวก (ข) ขั้นตอนจัดทำโครงงานเครื่องออกกำลังกาย DIY 1) ออกแบบชิ้นงาน และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ 2) ทำเป็นโครงฐานของเครื่องออกกำลังกาย เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า 3) เชื่อมเก้าอี้เก่าติดกับโครงฐานของเครื่องออกกำลังกาย เพื่อทำเป็นที่นั่ง

15 4) ติดตั้งชุดล้อรถจักรยานเก่าติดกับโครงฐานของเครื่องออกกำลังกาย เพื่อทำเป็นที่ปั่นขา 5) ติดตั้งคันโยกมือพร้อมกระบอกสูบไฮดรอลิค เพื่อทำเป็นคันโยกมือ

16 ภาคผนวก (ค) ภาพขณะทำการทดลองประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องออกกำลังกาย DIY