The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานการศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โครงงานการศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น

โครงงานการศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น

รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง เรื่อง การศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น Study of the Effectiveness of Fragrant Stick as an Insect Repellent from Zanthoxylum Limonella Alston (Makhwaen) โดย เด็กชายเนตรติพงษ์ แก้วมุกดา นายกฤษฎา ศรีพรม นายกิตติ์กวิน รกไพร ครูที่ปรึกษา นายสุวัชชัย เทใหม่ นางสาวธัญญ์นารี ปัญญาศิษฐ์สกุล โรงเรียนสกาดพัฒนา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา น่าน เขต 2 รายงานฉบับนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 เนื่องในงานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนักเรียน ปีการศึกษา 2566 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566


เรื่อง การศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น Study of the Effectiveness of Fragrant Stick as an Insect Repellent from Zanthoxylum Limonella Alston (Makhwaen) โดย 1. เด็กชายเนตรติพงษ์ แก้วมุกดา 2. นายกฤษฎา ศรีพรม 3. นายกิตติ์กวิน รกไพร ครูที่ปรึกษา 1. นางสาวธัญญ์นารี ปัญญาศิษฐ์สกุล 2. นายสุวัชชัย เทใหม่


ชื่อโครงงาน การศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น ชื่อผู้จัดทำโครงงาน เด็กชายเนตรติพงษ์ แก้วมุกดา นายกฤษฎา ศรีพรม นายกิตติ์กวิน รกไพร ชื่อครูที่ปรึกษา นางสาวธัญญ์นารี ปัญญาศิษฐ์สกุล นายสุวัชชัย เทใหม่ อีเมลล์ครูที่ปรึกษา [email protected], [email protected] โรงเรียน โรงเรียนสกาดพัฒนา อำเภอปัว จังหวัดน่าน ปีการศึกษา 2566 บทคัดย่อ โครงงานนี้ มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการไล่แมลงของก้านหอมไล่แมลงจาก มะแข่น 2. เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการไล่แมลงของก้านไม้หอมไล่แมลงในแต่ละสูตร ศึกษา ค้นคว้าโดยการทดลองการสกัดด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ (steam distillation) ทดสอบประสิทธิภาพ ก้านไม้หอมกับตัวทดสอบ คือ ยุงและมด ดำเนินการทดลองโดยใช้ก้านหอมทั้ง 3 สูตร ได้แก่ สูตรที่ 1 (มะแข่น 1 ส่วน มะกรูด 1 ส่วน ตะไคร้หอม 1 ส่วน) สูตรที่ 2 (มะแข่น 2 ส่วน มะกรูด 1 ส่วน ตะไคร้ หอม 1 ส่วน) สูตรที่3 (มะแข่น 3 ส่วน มะกรูด 1 ส่วน ตะไคร้หอม 1 ส่วน) วางก้านไม้หอมไล่แมลง ในพื้นที่ทดลองประสิทธิภาพก้านไม้หอมสมุนไพรไล่แมลง จากตารางพบว่า สูตรที่ 1 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 1 : 1 : 1 ) สามารถ ไล่ยุงให้ออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร แต่ไม่สามารถไล่มดได้ ในการทดสอบทั้งสามครั้ง สูตรที่ 2 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 ) ครั้งที่ 1 สามารถไล่ยุงให้ออกห่าง บริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร แต่ไม่สามารถไล่มดได้ ครั้งที่ 2 สามารถไล่ยุงและมดให้ออกห่าง บริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร ครั้งที่ 3 สามารถไล่ยุงและมดให้ออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร สูตรที่ 3 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 3 : 1 : 1 ) ครั้งที่ 1 สามารถไล่ยุงและ มดออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร ครั้งที่ 2 สามารถไล่ยุงและมดออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 2 เมตร ครั้งที่ 3 สามารถไล่ยุงและมดออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 2 เมตร ในการทดสอบทั้งสามสูตร สูตรละ 3 ครั้ง พบว่า สูตรที่ 1 สามารถไล่ยุงได้แต่ไม่สามารถไล่มด ได้ สูตรที่ 2 สามารถไล่มดและยุงได้ ในระยะ 1 เมตร สูตรที่ 3 สามารถไล่ยุงและมดได้ไกลที่สุด คือ ระยะ 2 เมตร คำสำคัญ สมุนไพรไล่ยุง การกลั่นด้วยไอน้ำ (steam distillation) ก


กิตติกรรมประกาศ โครงงานทดลองฉบับนี้ เป็นการศึกษาประสิทธิภาพในการไล่แมลงของก้านไม้หอมไล่แมลงจาก สารสกัดมะแข่น เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการไล่แมลงของก้านไม้หอมไล่แมลงในแต่ละสูตร ศึกษาค้นคว้าโดยการทดลองการสกัดด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ (steam distillation) ในการจัดทำโครงงานการทดลอง การศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัด มะแข่น ในครั้งนี้ ขอขอบคุณ นายทิวากร จิตอารี ผู้อำนวยการโรงเรียนสกาดพัฒนา ที่ได้ให้การ สนับสนุนด้านการศึกษาเป็นอย่างดี นางสาวธัญญ์นารี ปัญญาศิษฐ์สกุล และ นายสุวัชชัย เทใหม่ ครูที่ปรึกษาโครงงานที่ได้ตรวจสอบและให้คำแนะนำในการจัดทำผลงาน รวมทั้งครอบครัวที่กำลังใจ เสมอมา ตลอดจนเพื่อนๆ และชุมชนที่ให้การสนับสนุนทางด้านวัสดุที่นำมาทดลอง ส่งผลให้รายงาน ฉบับนี้สำเร็จไปด้วยดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน หากมีข้อผิดพลาดประการใด คณะผู้จัดทำขอน้อมรับเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาในโอกาสต่อไป เด็กชายเนตรติพงษ์ แก้วมุกดา นายกฤษฎา ศรีพรม นายกิตติ์กวิน รกไพร คณะผู้จัดทำโครงงาน ข


สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบัญตาราง ง สารบัญรูปภาพ จ บทที่ 1 บทนำ 1 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3 บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีการดำเนินงาน 7 บทที่ 4 ผลการดำเนินการ 9 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 10 บรรณานุกรม ภาคผนวก ค


สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1. ตารางแสดงสูตรสมุนไพรก้านไม้หอมทั้ง 3 สูตร 8 2 ตารางบันทึกผลการทดลองเมื่อวางก้านไม้หอมไล่แมลง ที่บริเวณทดสอบ 9 ง


บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา โรงเรียนสกาดพัฒนาเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง ล้อมรอบไปด้วยป่าดิบชื้น ซึ่งเป็นป่าที่มีทั้ง แมลงและสัตว์หลากหลายชนิด โดยในช่วงฤดูฝนคนในพื้นที่รวมถึงนักเรียนโรงเรียนสกาดพัฒนาได้พบ เจอกับปัญหาที่เกิดจากแมลงที่เป็นพาหะในการเกิดโรคชนิดต่างๆ เช่นโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากยุง และโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหารที่มีสาเหตุมาจากมดเป็นตัวพาหะ จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรค ทางระบาดวิทยา (506) กองระบาดวิทยา ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2566 พบ ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก สะสม 79,475 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 120.25 ต่อแสนประชากร ผู้เสียชีวิต 73 รายคิดเป็น อัตราตาย 0.09 ต่อแสนประชากร ซึ่งโรคไข้เลือดออกไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในพื้นที่โรงเรียนหรือชุมชนสกาดแต่ยังแพร่ ระบาดออกไปได้เป็นวงกว้าง รวมไปถึงมดซึ่งเป็นแมลงที่ก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร แม้ไม่ได้ก่อโรคโดยตรงแต่ถือว่าเป็นแมลงที่ก่อความวุ่นวายรบกวนการใช้ชีวิตของคนในชุมชน เช่น มด ที่มาตอมอาหารซึ่งอาจนำพาเชื้อโรคต่างๆ มาสู่มนุษย์ได้ หรือแม้กระทั่งการโดนมดกัดทำให้เกิดความ เจ็บปวดและอาจแพ้พิษของมดจนเกิดเป็นผื่นคัน การซื้อยาฆ่าแมลงตามท้องตลาดมักมีราคาสูงและมีสารเคมีที่ทำให้เกิดต่อสิ่งแวดล้อม ใน ครอบที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ในชุมชนสกาดมีพื้นที่เป็นพืชท้องถิ่นที่ รู้จักกันแพร่หลายและมีคุณสมบัติในการไล่แมลง คือ มะแข่น รวมไปถึงยังมีสมุนไพรชนิดอื่นไม่ว่าจะ เป็นตะไคร้หอม มะกรูด เป็นต้น ซึ่งเป็นสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่น และยังปลอดภัยไม่ทำให้เกิด อันตรายต่อเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงของคนในชุมชน จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นคณะผู้จัดทำจึงสนใจศึกษาค้นความเรื่องการศึกษาประสิทธิภาพ ของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาแมลงที่ ก่อโรคในชุมชน โดยการนำพืชในชุมชนมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยด้วยวิธีการสกัดโดยการกลั่นด้วย ไอน้ำ (steam distillation) เพื่อนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ก้านหอมสมุนไพรไล่แมลง นอกจากนี้ยัง สามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของชุมชนเพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน 1.2 วัตถุประสงค์ 1.2.1 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการไล่แมลงของก้านไม้หอมไล่แมลงจากมะแข่น 1.2.2 เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการไล่แมลงของก้านไม้หอมไล่แมลงในแต่ละสูตร 1.3 สมมติฐาน ถ้าก้านหอมสมุนไพรมีอัตราส่วนของมะแข่นต่างกัน ประสิทธิภาพการไล่แมลงจะแตกต่างกัน 1.4 ขอบเขตของการวิจัย 1.4.1 สถานที่ทดลอง ห้องเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสกาดพัฒนา 1.4.2 วัสดุที่ใช้ในการทดลอง มะแข่น มะกรูด ตะไคร้หอม 1.4.3 ระยะเวลาในการทดลอง 10 กันยายน - 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566


1.5 ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้น: อัตราส่วนของมะแข่น ตัวแปรตาม: ประสิทธิภาพในการไล่แมลง ตัวแปรควบคุม: อัตราส่วนน้ำมันหอมระเหยของมะกรูด และตะไคร้หอม ชนิดของแมลงที่ เป็นตัวทดสอบ วิธีการสกัดน้ำมันหอมระเหย 1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.6.1 ได้เรียนรู้วิธีการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพร 1.6.2 ได้เรียนรู้คุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรแต่ละชนิด 1.6.3 สามารถนำไปปรับใช้และพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของชุมชน 1.6.4 ได้เรียนรู้กระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ 1.5 นิยามศัพท์ น้ำมันหอมระเหย หมายถึง น้ำมันหอมระเหยเป็นสารอินทรีย์ที่พืชผลิตขึ้นตามธรรมชาติ เก็บไว้ ตามส่วนต่าง ๆ เช่น กลีบดอก ผิวของผล เกสร ราก เปลือกของลำต้น หรือยางที่ออกมาจากเปลือก มี องค์ประกอบทางเคมีที่สลับซับซ้อนและแตกต่างกันนับสิบร้อยชนิด น้ำมันมีลักษณะเป็นของเหลว ไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนน้ำมันพืช มีกลิ่นหอมระเหยง่าย เวลาที่ได้รับความร้อนอนุภาคเล็ก ๆ ของ น้ำมันหอมระเหยจะระเหยออกมาเป็นไอทำให้เราได้กลิ่นหอม กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยในส่วนของ ดอกไม้มีบทบาทสำคัญในการช่วยดึงดูดแมลงมาผสมเกสร ปกป้องการรุกรานจากศัตรู และรักษา ความชุ่มชื้นแก่พืช สำหรับประโยชน์ต่อมนุษย์ น้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค บรรเทา อาการอักเสบ หรือลดบวม คลายเครียด หรือกระตุ้นให้สดชื่น ทั้งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของ น้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด ประสิทธิภาพในการไล่แมลง หมายถึง ความสามารถของน้ำมันหอมระเหยที่มีผลทำให้แมลง ไม่เข้าใกล้ก้านหอมไล่แมลงจากสมุนไพร ซึ่งสามารถไล่แมลง (มด ยุง) ในบริเวณรอบ ๆ ก้านหอมให้ ออกห่างจากบริเวณนั้น ๆ สมุนไพรไล่แมลง หมายถึง สารสกัดน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากพืชที่มีคุณสมบัติในการไล่แมลง (มะแข่น มะกรูด ตะไคร้หอม) การกลั่นด้วยไอน้ำ (steam distillation) หมายถึง เป็นวิธีการสกัดสารออกจากของผสมโดยใช้ ไอน้ำเป็นตัวทำละลาย วิธีนี้ใช้สำหรับแยกสารที่ระเหยง่าย ไม่ละลายน้ำ และไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำ ออกจากสารที่ระเหยยาก 2


บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง จากโครงงานเรื่อง การศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่นมี วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการไล่แมลงของก้านไม้หอมไล่แมลงจากมะแข่น และ เปรียบเทียบประสิทธิภาพการไล่แมลงของก้านไม้หอมไล่แมลงในแต่ละสูตร โดยมีเอกสารและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 2.1 มะแข่น มะแข่น ชื่อวิทยาศาสตร์ Zanthoxylum limonella (Dennst.) Alston. ผลมะแข่นแห้งนิยม ใช้เป็นเครื่องเทศประกอบอาหารหลายชนิด เช่น ลาบ แกง และผัด เช่น แกง อ่อม และผัดเผ็ด เป็น ต้น เพิ่มกลิ่นหอม ดับกลิ่นคาวและเพิ่มรสอาหารให้เผ็ดร้อน ท ำให้อาหารอร่อย และ น่า รับประทานมากขึ้น ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักคู่กับอาหารจำพวก ลาบ ซุปหน่อไม้ผลและเมล็ด นิยมนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยสำหรับใช้ในด้านความสวยความงามหรือสำหรับทานวดกล้ามเนื้อ และ ใช้ฉีดพ่นป้องกันยุงลาย (เมย์วิสาข์ 2564) 2.2 มะกรูด มะกรูด ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus hystrix DC. น้ำมันหอมระเหยผสมจากมะกรูด 5% ป้องกัน ยุงลาย ยุงก้นปล่อง และยุงรำคาญได้นาน 3 ชั่วโมง ใน ห้องปฏิบัติการ ในความเข้มข้นเดียวกัน สามารถ ป้องกันยุงลาย และยุงเสือ ได้ 3 ชั่วโมง และยุงรำคาญ ได้นานถึง 4 ชั่วโมง ในภาคสนาม (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข 2562) 2.3 ตะไคร้หอม ตะไคร้หอม ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon nardus Rendle มีการศึกษาฤทธิ์ไล่ยุงของตำรับ น้ำมันตะไคร้หอม (citronella oil) ที่มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ citronella, geraniol และ citronellol ในรูปแบบ ของครีม พบว่าตำรับที่มีน้ำมันตะไคร้หอม 17% ป้องกันยุงลายได้นาน ประมาณ 3 ชั่วโมง ครีมที่มีน้ำมันตะไคร้หอม 14% ลดจำนวนยุงรำคาญที่มาเกาะภายใน 1 ชั่วโมง หลังทาครีม นอกจากนี้สารสกัดเอทานอลของตะไคร้หอมผสมกับ น้ำมันมะกอกสามารถไล่ยุงลาย และยุงรำคาญได้นาน 2 ชั่วโมง ครีมที่มีน้ำมันหอมระเหยจากใบ ตะไคร้หอมที่ความเข้มข้น 1.25%, 2.5% และ 5.0% ป้องกันยุงก้นปล่องได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ขณะที่ ความเข้มข้น 10% ให้ผลได้นาน กว่า 4 ชั่วโมง (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข 2562) 2.4 ยุง ยุง คือแมลงเป็นสัตว์ที่มีปริมาณมากที่สุดในโลก มีทั้งแมลงที่สวยงามมีประโยชน์ เช่น ผีเสื้อ แมลงปอ และแมลงที่เป็นอาหาร เช่น ตั๊กแตน จิ้งหรีด แมลงดานา แต่แมลงที่ทุกคนรู้จักกันดีและเป็น สัตว์ปีกที่พบได้ทุกหนทุกแห่ง คือยุง 3


ในโลกมียุงกว่า 4,000 ชนิด จัดอยู่ในอันดับ Diptera วงศ์ Culicidac ยุงบางชนิดเป็นพาหะ นำโรคมาสู่คนและสัตว์ เช่น ยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) ยุงลายสวน (Aedes. Albopictus) นำ โรคไข้เลือดออก(Dengue haemorrhagic fever) ยุง Culex tritaeniorhynchus นำโรคไข้สมอง อักเสบ (Japanese encephalitis) ยุงก้นปล่องนำโรคมาลาเรีย (Malaria) และยุงเสือนำโรคฟิลา เรีย (Filariasis) หรือโรคเท้าช้าง โรคที่กล่าวมานี้เกิดในคน ส่วนในสัตว์นั้นยุงก็มีความสำคัญมาก เช่นกัน เนื่องจากเป็นตัวนำโรคต่างๆ หลายชนิดในสัตว์ เช่น ยุงรำคาญ (Culex quinquefasciatus) นำโรคพยาธิหัวใจสุนัขและโรคมาลาเรียในนก ยุงบางชนิดชอบกัดวัวทำให้ น้ำหนักลดผลิตนมได้น้อยลง ยุงนอกจากเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลือดอุ่นแล้วยังเป็นอันตรายต่อ สัตว์เลือดเย็นอีกด้วย (พลอยประกาย 2563) 2.5 มด มดพบบ่อยในสถานที่ผลิตอาหาร โดยเฉพาะบริเวณห้องเก็บเครื่องปรุงที่มีน้ำตาล อาจพบใน บริเวณผลิตได้เนื่องจากมดมีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ดีมากโดยปกติมดทํารังบริเวณใต้ดิน หรือ ภายในซอกอาคารผลิต นอกจากเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ สามารถพบได้ในอาหาร แล้วยังเป็นสาเหตุ ก่อให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้(สำนักงานคณธกรรมการอาหารและยา 2564) 2.6 การกลั่นแบบสกัดด้วยไอน้ำ ( Steam distillation ) การกลั่นแบบสกัดด้วยไอน้ำ ( Steam distillation ) นิยมใช้ในการสกัดสารที่ระเหยเป็นไอได้ ง่ายและไม่รวมตัวกับน้ำ เช่น สกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืชชนิดต่าง ๆ โดยใช้ไอน้ำในการพาน้ำมัน หอมระเหยออกมา และเมื่อไอนั้นเคลื่อนที่ไปยังส่วนที่ควบแน่น น้ำมันและไอน้ำจะควบแน่นกลายเป็น ของเหลว และแยกชั้นกัน จากนั้นเราสามารถแยกน้ำมันหอมระเหยออกจากน้ำด้วยวิธีการทิ้งให้แยก ชั้น หรือใช้วิธีสกัดด้วยสารละลายต่อไป (ปิยะวัฒน์ และคณะ 2561) 2.7 น้ำมันหอมระเหย น้ำมันหอมระเหยเป็นสารอินทรีย์ที่พืชผลิตขึ้นตามธรรมชาติ เก็บไว้ตามส่วนต่าง ๆ เช่น กลีบดอก ผิวของผล เกสร ราก เปลือกของลำต้น หรือยางที่ออกมาจากเปลือก มีองค์ประกอบทางเคมี ที่สลับซับซ้อนและแตกต่างกันนับสิบร้อยชนิด น้ำมันมีลักษณะเป็นของเหลวไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมือนน้ำมันพืช มีกลิ่นหอมระเหยง่าย เวลาที่ได้รับความร้อนอนุภาคเล็ก ๆ ของน้ำมันหอมระเหยจะ ระเหยออกมาเป็นไอทำให้เราได้กลิ่นหอม กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยในส่วนของดอกไม้มีบทบาท สำคัญในการช่วยดึงดูดแมลงมาผสมเกสร ปกป้องการรุกรานจากศัตรู และรักษาความชุ่มชื้นแก่พืช สำหรับประโยชน์ต่อมนุษย์ น้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค บรรเทาอาการอักเสบ หรือ ลดบวม คลายเครียด หรือกระตุ้นให้สดชื่น ทั้งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหย แต่ละชนิดน้ำมันหอมระเหยมีผลต่อร่างกายต่าง ๆ มากมาย แตกต่างกันตามแต่ละชนิด ดังนี้ • มีผลกระตุ้นการไหลเวียนของระบบเลือด ช่วยให้ร่างกายสามารถขจัดของเสียได้มากขึ้น • ช่วยเสริมภูมิต้านทานร่างกายและชะลอการเหี่ยวย่นของผิว 4


• มีผลต่อระบบการทำงานของน้ำเหลือง เม็ดเลือดขาว ที่ขจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างการ ช่วยรักษา อาการอักเสบ • ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อย และกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ • มีผลต่อระบบย่อยอาหาร กล้ามเนื้อในระบบย่อยอาหาร ช่วยขับลม ลดแก๊ส • มีผลต่อระบบประสาท กระตุ้นความจำ อารมณ์ ช่วยผ่อนคลายหรือกระตุ้นความรู้สึก • มีผลต่อระบบสืบพันธ์ ฮอร์โมนเพศ เช่นรักษาสมดุลของรอบเดือน หรือกระตุ้นความรู้สึกทาง เพศ • มีผลต่อโครงสร้างร่างกาย รักษาแผล สร้างเซลล์ใหม่ • มีผลต่อการรักษาผิว ลดเลือนรอยแผลเป็นหรือใช้สมานแผลเพื่อป้องกันรอยแผลเป็น (ฐาปนีย์ 2559) 2.8 โรคไข้เลือดออก ไข้เลือดออก (Dengue fever) คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) โดยมี ยุงลายเป็นพาหะนำโรคสู่คนผ่านการกัดของยุงลายที่เคยกัดคนที่ติดเชื้อไวรัสเดงกี 1 ใน 4 สายพันธุ์ (DENV-1—DENV-4) ที่ทำให้เป็นโรคไข้เลือดออก ผู้ที่เป็นไข้เลือดออกอาจไม่มีอาการใด ๆ ไปจนถึงมี ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกเล็ก ๆ ตามผิวหนัง ไข้เลือดออกรุนแรงอาจทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ช็อก และเสียชีวิต ควรรีบพบแพทย์ โดยเร็ว ไข้เลือดออก (Dengue fever) มีสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus: DENV) 1 ใน 4 สายพันธุ์ ได้แก่ DENV-1, DENV-2, DENV-3 หรือ DENV-4 ผ่านการกัดของยุงลาย บ้าน หรือยุงไข้เหลืองเพศเมีย (Aedes aegypti) สัตว์พาหะนำโรคที่ชอบออกหากินในเวลากลางวัน เมื่อยุงลายพาหะกัดและดูดเลือดผู้ที่มีเชื้อไวรัสเดงกีในระยะที่มีไข้หรือในระยะไวรัสแพร่กระจายใน กระแสเลือด ไวรัสเดงกีจะเข้าไปฝังตัวภายในเซลล์ผนังกระเพาะอาหารและต่อมน้ำลายของยุงลาย พาหะ และจะเข้าสู่ระยะฟักตัวและเพิ่มจำนวนใน 8 - 12 วัน จากนั้นเมื่อยุงลายพาหะไปกัดผู้อื่น เชื้อ ไวรัสเดงกีจะแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ที่ถูกกัดจนทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้มีอาการ ของโรคไข้เลือดออกภายใน 3 - 15 วัน (พอพล 2566) 2.7 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง Trongtokit et. al (2005) ทำการทดสอบสารสกัดมะแข่นที่ความเข้มข้นร้อยละ 10 50 และ 100 พบว่าป้องกันยุงลายบ้านได้ 30 นาที 80 นาที และ 120 นาที ตามลำดับเมื่อทดสอบป้องกันยุง รำคาญพบว่าสามารถป้องกันได้ 50 นาที 100 นาที และ 170 นาที ตามลำดับ นฎาภัสส์. (2563) ได้ทำการทดสอบฤทธิ์ของการไล่ยุงจากน้ำมันหอมระเหยที่สกัดด้วยวิธีการ กลั่นด้วยไอน้ำ จากมะกรูด ขมิ้น ตะไคร้หอม และโหระพา ต่อยุง 3 ชนิด ได้แก่ Aedes aegypti, Anopheles dirusและ Culex quinquefasciatus โดยพบว่า ทั้ง 3 ชนิด เมื่อเติม 5% วานิลลิน สามารถป้องกันยุงได้นานกว่า 3- 8 ชั่วโมงภายใต้การทดลองในกรง วลัยพร. (2563) ศึกษาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์กันยุงจากสารสกัดธรรมชาติ 5 ชนิด พบว่า การ ใช้ตัวทำละลายเป็นเอทานอล 95% ร่วมกับวิธี Soxhlet จะได้สารสกัดที่มีความสามารถในการไล่ยุงที่ 5


สูงกว่าการใช้วิธีแช่หมัก และการใช้ตัวทำละลายเป็นน้ำ โดยสารสกัดมะแข่น ที่ความเข้มข้น 1.0 x 105 ppm ซึ่งสกัดด้วยวิธี Soxhlet และใช้ตัวทำละลายเป็นเอทานอล มีความสามารถในการไล่ยุงสูง ที่สุด โดยพบว่ามีค่าเท่ากับ 86.04 % เมื่อเทียบกับสารละลาย DEET ที่ความเข้มข้น 1.5 x 105 ppm ซึ่งมีความสามารถในการไล่ยุง อยู่ในช่วง 90.48 – 95.00 % รองลงมาได้แก่ สารสกัดเมล็ด สะเดาช้าง มะกรูด โหระพาและดอกมะลิ โดยพบว่าที่ความเข้มข้น 1.0 x 105 ppm มีความสามารถ ในการไล่ยุงได้เท่ากับ 79.11 %, 68.87%, 65.15% และ 62.77 % ตามลำดับ และเมื่อนำไปพัฒนา เป็นโลชั่น พบว่ามีความสามารถในการป้องกันยุงเป็นระยะเวลา 60 นาที 6


บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีการดำเนินการ 3.1 วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ 3.1.1 บีกเกอร์ 3.1.2 คนโทก้นกล้มขนาด 500 ml. 3.1.3 ข้อต่อสามาทาง 3.1.4 ตัวเสียบและเทอร์โมมิเตอร์ 3.1.5 คอนเดนเซอร์ไส้ตรง 3.1.6 ข้อต่อปลายคอนเดนเซอร์ 3.1.7 ขวดรูปชมพู่ 3.1.8 ขาตั้งชุดใหญ่ 3.1.9 บอสเฮดและแคลมป์จับ 3.1.10 ปั๊มน้ำพร้อมสายยาง 3.1.11 จุกยางพร้อมหลอดนำก๊าซ 3.1.12 ชุดตะเกียงแอลกอฮอล์ 3.1.13 ดรอปเปอร์ 3.1.14 กระบอกตวง 3.1.15 ช้อนตักสาร 3.1.16 แท่งแก้วคนสาร 3.1.17 มะแข่น 3.1.18 มะกรูด 3.1.19 ตะไคร้หอม 3.1.20 น้ำ 3.1.21 เลือดหมู 3.1.22 น้ำหวาน 3.2 การดำเนินการทดลอง 3.2.1 เตรียมวัสดุอุปกรณ์/พืชตัวอย่าง 3.2.1.1 เตรียมพืชสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดโดยการปลอกเปลือกมะกรูดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นตะไคร้หอมเป็นชิ้นเล็กๆ และเด็ดผลมะแข่นแยกเป็นผลเดี่ยว 3.2.1.2 เตรียมอุปกรณ์ในการสกัดสมุนไพรด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ (steam distillation) ดังภาพที่ 1


รูปภาพที่ 1 ภาพอุปกรณ์ชุดการกลั่นด้วยไอน้ำ 3.2.2 การสกัดน้ำมันหอมระเหยด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ (steam distillation) 3.2.2.1 นำพืชสมุนไพรแต่ละชนิดมาสกัดน้ำมันหอมระเหยด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ (steam distillation) โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. นำพืชสมุนไพรใส่เข้าไปในขวดก้นกลม จากนั้นเติมน้ำในขวดรูปก้นกลมแล้วจุด ตะเกียงแอลกอฮอล์ เพื่อให้ความร้อนเปลี่ยนสถานะของน้ำจากของเหลวให้กลายเป็นไอน้ำ ไอน้ำจะ ลอยผ่านจุดเชื่อมต่อเข้าสู่หลอดทดลอง ซึ่งใส่สารที่ต้องการสกัดด้วยไอน้ำเอาไว้ ไอน้ำที่ลอยเข้ามามี อุณหภูมิ100 °C จะทำให้น้ำมันหอมระเหยจากพืช ซึ่งมีจุดต่ำกว่าประมาณ 60-70 °C เดือดตาม ไอน้ำ และลอยผ่านท่อ เข้าสู่เครื่องควบแน่นพร้อมกัน หลังจากควบแน่นแล้ว จะได้ของเหลวแยกเป็น 2 ชั้น ชั้นของน้ำเปล่า และน้ำมันหอมระเหย สามารถแยกกันได้ โดยใช้กรวยแยก 2. นำน้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้ไปบรรจุภัณฑ์แล้วนำไปทดสอบประสิทธิภาพ 3.2.3 ทดสอบประสิทธิภาพก้านไม้หอมสมุนไพรไล่แมลง 3.2.3.1 เตรียมก้านไม้หอมสมุนไพรไล่แมลงทั้งหมด 3 สูตร ดังนี้ ตารางที่ 1 ตารางแสดงสูตรสมุนไพรก้านไม้หอมทั้ง 3 สูตร มะแข่น มะกรูด ตะไคร้หอม 1 1 1 2 1 1 3 1 1 3.2.3.2 เตรียมตัวทดสอบคือเลือดหมูและน้ำหวาน เพื่อใช้ล่อยุ่งและมด จากนั้นทดสอบ โดยการวางก้านไม้หอม ไว้บริเวณทดสอบทีละสูตร 3.2.3.3 ทำการทดลองเหมือนดังหัวข้อที่ 3.2.3.2 ให้ครบทั้ง 3 สูตร 3.2.4 สังเกตและบันทึกผลการทดลอง 3.2.4.1 สังเกตการเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังการทดลองทุก 10 นาที เป็นเวลา 60 นาที ให้ครบทั้ง 3 สูตร พร้อมบันทึกผลการทดลอง 8


บทที่ 4 ผลการทดลอง จากการศึกษาเรื่อง การศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น ซึ่งดำเนินการทดลองโดยใช้ก้านไม้หอมทั้ง 3 สูตร ได้แก่ สูตรที่ 1 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ใน อัตราส่วน 1 : 1 : 1 ) สูตรที่ 2 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 ) สูตรที่ 3 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 3 : 1 : 1 ) วางก้านไม้หอมไล่แมลง ในพื้นที่ ทดลองประสิทธิภาพก้านไม้หอมสมุนไพรไล่แมลง ได้ผลการศึกษาดังนี้ ตารางที่ 2 ตารางบันทึกผลการทดลองเมื่อวางก้านไม้หอมไล่แมลง ที่บริเวณทดสอบ สูตร ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ยุง มด ยุง มด ยุง มด 1 ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร พบมดอยู่ บริเวณ ทดสอบ ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร พบมดอยู่ บริเวณ ทดสอบ ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร พบมดอยู่ บริเวณ ทดสอบ 2 ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร พบมดอยู่ บริเวณ ทดสอบ ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร 3 ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 1 เมตร ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 2 เมตร ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 2 เมตร ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 2 เมตร ออกห่าง บริเวณ ทดสอบ เป็น ระยะ 2 เมตร จากตารางพบว่า สูตรที่ 1 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 1 : 1 : 1 ) สามารถ ไล่ยุงให้ออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร แต่ไม่สามารถไล่มดได้ ในการทดสอบทั้งสามครั้ง สูตรที่ 2 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 ) ครั้งที่ 1 สามารถไล่ยุงให้ออกห่าง บริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร แต่ไม่สามารถไล่มดได้ ครั้งที่ 2 สามารถไล่ยุงและมดให้ออกห่าง บริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร ครั้งที่ 3 สามารถไล่ยุงและมดให้ออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร สูตรที่ 3 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 3 : 1 : 1 ) ครั้งที่ 1 สามารถไล่ยุง และมดออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร ครั้งที่ 2 สามารถไล่ยุงและมดออกห่างบริเวณ ทดสอบ เป็นระยะ 2 เมตร ครั้งที่ 3 สามารถไล่ยุงและมดออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 2 เมตร


บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ จากการศึกษาเรื่อง การศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น ซึ่งดำเนินการทดลองโดยใช้ก้านไม้หอมทั้ง 3 สูตร ได้แก่ สูตรที่ 1 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ใน อัตราส่วน 1 : 1 : 1 ) สูตรที่ 2 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 ) สูตรที่ 3 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 3 : 1 : 1 ) วางก้านไม้หอมไล่แมลง ในพื้นที่ ทดลองประสิทธิภาพก้านไม้หอมสมุนไพรไล่แมลง ได้ผลการศึกษาดังนี้ สรุปผลการทดลอง จากการศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น ทั้ง 3 สูตร พบว่า สูตรที่ 1 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 1 : 1 : 1 ) สามารถไล่ยุงให้ออกห่างบริเวณ ทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร แต่ไม่สามารถไล่มดได้ ในการทดสอบทั้ง 3 ครั้ง สามารถไล่ยุงได้แต่ ไม่สามารถไล่มดได้ สูตรที่ 2 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 ) ครั้งที่ 1 สามารถไล่ยุงให้ออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร แต่ไม่สามารถไล่มดได้ ครั้งที่ 2 สามารถไล่ยุงและมดให้ออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร สามารถไล่ยุงได้ และมด ได้ ครั้งที่ 3 สามารถไล่ยุงและมดให้ออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร สูตรที่ 3 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 3 : 1 : 1 ) ครั้งที่ 1 สามารถไล่ยุงและมดออกห่าง บริเวณทดสอบ เป็นระยะ 1 เมตร ครั้งที่ 2 สามารถไล่ยุงและมดออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 2 เมตร ครั้งที่ 3 สามารถไล่ยุงและมดออกห่างบริเวณทดสอบ เป็นระยะ 2 เมตร สามารถ ไล่ยุงได้ และมดได้ อภิปรายผลการทดลอง จากการศึกษาประสิทธิภาพของก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น ทั้ง 3 สูตร ในการ ทดสอบทั้งสามสูตร สูตรละ 3 ครั้ง พบว่า สูตรที่ 1 สามารถไล่ยุงได้แต่ไม่สามารถไล่มดได้ สูตรที่ 2 สามารถไล่มดและยุงได้ ในระยะ 1 เมตร สูตรที่ 3 สามารถไล่ยุงและมดได้ไกลที่สุด คือ ระยะ 2 เมตร ข้อเสนอแนะ 1. สามารถนำไปปรับแต่งกลิ่นให้ไม่ฉุนตามความพึงพอใจได้ 2. มะแข่นที่ใช้ในการสกัด ควรเป็นมะแข่นสด


บรรณานุกรม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข. (2563). ตะไคร้หอม. สืบค้น 20 ตุลาคม 2566, จาก www.thaicam.go.th. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. (2562). มะกรูด. สืบค้น 20 ตุลาคม 2566, จาก www.thaicrudedrug.com. ฐาปนีย์ หงส์รัตนาวรกิจ. (2559). น้ำมันหอมระเหยและการใช้สุคนธบำบัด. สืบค้น 20 ตุลาคม 2566, จาก วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ. นฎาภัสส์คุ้มกลาง. (2563). การสกัดด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ. สืบค้น 21 ตุลาคม 2566, จาก โครงการวิจัยจากเงินกองทุนส่งเสริมงานวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณ ภูมิ. ปิยะวัฒน์ มีทรัพย์ และคณะ. (2561). Principle of Chemistry. สืบค้น 20 ตุลาคม 2566, จาก www.digitalschool.club/digitalschool/science1_2_2/science15/index15.php. พลอยประกาย ฉลาดล้น. (2563). การพัฒนารูปแบบการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ในตำบลสวนกล้วย จังหวัดราชบุรี. สืบค้น 22 ตุลาคม 2566, จาก, วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ ปีที่ 5 ฉบับที่ 12. พอพล โรจนพันธ์. (2566). ไข้เลือดออก. สืบค้น 21 ตุลาคม 2566, จาก https://www. medparkhospital.com. เมย์วิสาข์อำรุง. (2564). มะแข่น. สืบค้น 17 ตุลาคม 2566, จาก www.disthai.com. รวิศ ทัศคร (2565). เรื่องของมด. สืบค้น 23 ตุลาคม 2566, จาก นิตยสารสาระวิทย์ โดย สำนักงาน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. วลัยพร สินสวัสดิ์. (2563). ศึกษาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์กันยุงจากสารสกัดธรรมชาติ 5 ชนิด. สืบค้น 22 ตุลาคม 2566, จาก โครงการวิจัยจากเงินกองทุนส่งเสริมงานวิจัย มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ. Trongtokit, Y., Y. Rongsriyam, N. Komalamisra, C. Apiwathanasorn. 2005. Comparative repellency of 38 Essential oils against mosquito bites. Phytotherapy Research. 19(4): 303-309.


ภาคผนวก


เตรียมพืชสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดโดยการปลอกเปลือกมะกรูดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นตะไคร้หอมเป็นชิ้น เล็กๆ และเด็ดผลมะแข่นแยกเป็นผลเดี่ยว ชั่งสาร 60 กรัม เพื่อนำไปใส่ในขวดก้นกลม เตรียมกลั่นด้วยไอน้ำ


เตรียมอุปกรณ์ในการสกัดสมุนไพรด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ (steam distillation) นำพืชสมุนไพรใส่เข้าไปในขวดก้นกลม จากนั้นเติมน้ำในขวดรูปก้นกลมจากนั้นจุดตะเกียงแอลกอฮอล์


เมื่อได้ของเหลวที่กลั่นออกมา จะได้ ของเหลวแยกเป็น 2 ชั้น ชั้นของน้ำเปล่า และน้ำมันหอมระเหย สามารถแยกกันได้ โดยใช้กรวยแยก ออกแบบแพ็คเกจผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในการบรรจุน้ำมันหอมระเหย โดยใช้โปรแกรม Canva


นำน้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้ไปบรรจุภัณฑ์แล้วนำไปทดสอบประสิทธิภาพ ทดลองโดยใช้ก้านไม้หอมทั้ง 3 สูตร ได้แก่ สูตรที่ 1 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 1 : 1 : 1 ) สูตรที่ 2 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 ) สูตรที่ 3 ( มะแข่น : มะกรูด : ตะไคร้หอม ในอัตราส่วน 3 : 1 : 1 )


ทดสอบโดยวางก้านไม้หอมไว้ที่บริเวณทดสอบ ผลิตภัณฑ์ก้านไม้หอมไล่แมลงจากสารสกัดมะแข่น


Click to View FlipBook Version