~ ๑ ~ ระเบียบโรงเรียนบ้านแป้งวิทยา ว่าด้วยความประพฤติและการลงโทษนักเรียน พุทธศักราช ๒๕๖๑ *********************************** ด้วย โรงเรียนบ้านแป้งวิทยา สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๕ ส านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เห็นสมควรที่จะก าหนดระเบียบของโรงเรียน ว่าด้วยความประพฤติและและการลงโทษนักเรียน ขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการ ลงโทษนักเรียน พุทธศักราช ๒๕๔๖ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการส่งเสริมให้นักเรียนประพฤติปฏิบัติตนใน แนวทางที่ถูกต้องจนเกิดคุณลักษณะพึงประสงค์และมีค่านิยมหลัก ๑๒ ประการของคนไทย จึงได้ก าหนดระเบียบว่า ด้วยความประพฤติและการลงโทษนักเรียน พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามความดังนี้ หมวดที่ ๑ บททั่วไป ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนบ้านแป้งวิทยาว่าด้วยความประพฤติ และการลงโทษนักเรียน พ.ศ.๒๕๖๑” ข้อ ๒ ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศใช้เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบโรงเรียนบ้านแป้งวิทยาว่าด้วยการพัฒนาพฤติกรรมนักเรียนของโรงเรียน บ้านแป้งวิทยา พ.ศ.๒๕๕๕ และให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ ๔ ระเบียบโรงเรียนบ้านแป้งวิทยาว่าด้วยความประพฤติ และการลงโทษนักเรียน พ.ศ.๒๕๖๑ เป็น ส่วนหนึ่งของการด าเนินการในระบบดูแลช่วยเหลือดูแลนักเรียนของโรงเรียนบ้านแป้งวิทยา โดยมีเป้าหมายให้ นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และใช้แก้ไขปัญหาพฤติกรรมของนักเรียน โดยอาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ และระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียน พ.ศ.๒๕๔๘ การตัดคะแนนพฤติกรรมในระเบียบนี้ เป็นเพียงข้อมูลด้านพฤติกรรมของผู้เรียนส่วนหนึ่ง ที่ครูผู้สอนทุกระดับชั้นในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้จะได้ใช้ประกอบในการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ นักเรียน โดยใช้เป็นข้อมูลร่วมกับพฤติกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนที่คุณครูสังเกตเห็น ตามแนวปฏิบัติการวัดและ ประเมินผลของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.๒๕๕๑ ข้อ ๕ ให้รองผู้อ านวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงานบุคคล หรือผู้ช่วยผู้อ านวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ ข้อ ๖ การแก้ไขแนวปฏิบัติของนักเรียนหรือบทลงโทษตามระเบียบนี้ ให้เป็นอ านาจของผู้อ านวยการ โรงเรียน โดยความเห็นชอบจากเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน คณะครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านแป้งวิทยา
~ ๒ ~ ข้อ ๗ ในระเบียบนี้ “คุณลักษณะอันพึงประสงค์” หมายถึง คุณภาพของผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ก าหนด ขึ้นจากสภาพสังคมและการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งท าให้มีความจ าเป็นต้องมุ่งเน้นและปลูกฝังลักษณะ ดังกล่าวให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนทุกคน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทั้งด้านความรู้และคุณธรรม อันจะน าไปสู่ ความก้าวหน้าและความสงบสุขของสังคม โดยประกอบด้วย ๘ ลักษณะ ตามที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.๒๕๕๑ คือ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. ซื่อสัตย์สุจริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มุ่งมั่นในการท างาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ “พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์” หมายถึง พฤติกรรมที่นักเรียนแสดงออกในทางที่ผิด ฝ่าฝืนต่อ กฎระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน กฎกระทรวงก าหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.๒๕๕๕ และ พฤติกรรมที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงามชองสังคม “คะแนนพฤติกรรม” หมายถึง คะแนนที่โรงเรียนก าหนดขึ้น เพื่อใช้บันทึกพฤติกรรมที่นักเรียน กระท าผิดในระหว่างศึกษาอยู่ในแต่ละปีการศึกษา เพื่อให้ครูผู้สอนได้ใช้เป็นข้อมูลในการประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ของผู้เรียนตามแนวปฏิบัติของการวัดและประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ “คุณครู” หมายถึง ข้าราชการครูหรือบุคลากรของโรงเรียนบ้านแป้งวิทยา ที่ผู้อ านวยการโรงเรียน มอบหมายให้มีอ านาจหน้าที่ในการลงโทษนักเรียน และดูแลนักเรียนภายใต้ระเบียบของโรงเรียน “ผู้อ านวยการโรงเรียน” หมายถึง ผู้ด ารงต าแหน่งผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านแป้งวิทยา หรือผู้รักษา ราชการแทนในต าแหน่ง ในกรณีที่ไม่มีผู้อ านวยการโรงเรียนหรือผู้อ านวยการโรงเรียนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หมวดที่ ๒ การปฏิบัติตนของนักเรียนโรงเรียนบ้านแป้งวิทยา ข้อ ๘ แนวปฏิบัติทั่วไปของนักเรียนโรงเรียนบ้านแป้งวิทยา (๑) ต้องยึดมั่นในสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข (๒) ต้องเป็นผู้ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ต่อการเรียน (๓) ต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด (๔) ต้องรักษาศักดิ์ศรีเกียรติยศชื่อเสียง ของโรงเรียนและตนเอง (๕) ต้องเคารพและมีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ครูผู้มีพระคุณ และโรงเรียน (๖) ต้องมีความสามัคคีกลมเกลียว ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน (๗) ต้องมีความสุภาพเรียบร้อย และมีบุคลิกภาพเหมาะสมกับเป็นผู้ที่มีวัฒนธรรมอันดีงาม
~ ๓ ~ (๘) ต้องเป็นผู้อนุรักษ์ไว้ซึ่งประเพณีอันดีงาม และธรรมชาติสิ่งแวดล้อม (๙) ต้องมีความเสียสละต่อส่วนรวม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว (๑๐) ต้องไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งเสพติดและอบายมุขทั้งปวง ข้อ ๙ การปฏิบัติตนของนักเรียนในการมาโรงเรียน (๑) แต่งกายให้เรียบร้อย ถูกต้องตามระเบียบโรงเรียน (๒) จัดเตรียมสมุด หนังสือ และอุปกรณ์การเรียนมาตามตารางเรียนประจ าวัน (๓) ท าความเคารพผู้ปกครองก่อนออกจากบ้าน (๔) โดยสารหรือขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร (๕) มาโรงเรียนก่อนเวลา ๐๗.๔๕ น. (๖) ไหว้พระ ท าความเคารพครู ดูแลท าความสะอาดห้องเรียนและพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย (๗) เริ่มเข้าแถวเพื่อท ากิจกรรมหน้าเสาธงเวลา ๐๗.๕๐ น. (๘) ออกจากโรงเรียนเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเท่านั้น ภายหลังจากครูเวรประจ าวันสรุปกิจกรรมประจ าวัน และแจ้งเรื่องส าคัญที่นักเรียนควรทราบ และนักเรียนสวดมนต์ก่อนกลับบ้านพร้อมกัน (๙) เมื่อมีความจ าเป็นต้องออกนอกบริเวณโรงเรียนหรือ กลับบ้านก่อนเวลาต้องขออนุญาตที่ กลุ่มบริหารงานบุคคล เท่านั้น และต้องเขียนใบขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนทุกครั้ง (๑๐) ผู้ปกครองที่มาขอพบนักเรียนระหว่างวัน ให้ติดต่อที่กลุ่มบริหารงานบุคคล (๑๑) ผู้ปกครองที่ติดต่อขอรับนักเรียนออกนอกบริเวนโรงเรียนหรือกลับบ้านก่อนเวลาต้องแสดงบัตร ประชาชนแก่กลุ่มบริหารงานบุคคล ข้อ ๑๐ การปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในห้องเรียน (๑) ต้องเข้าเรียนตรงต่อเวลา (๒) ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เคารพเชื่อฟังครูผู้สอน (๓) รักษากิริยามารยาท และรักษาระเบียบในห้องเรียน (๔) ร่วมกันดูแลรักษาความสะอาดของห้องเรียน และอุปกรณ์ประกอบการเรียน ไม่ท าลาย หรือ เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ในห้องเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต (๕) การเข้าและออกจากห้องเรียนระหว่างคาบเรียน ต้องขออนุญาตครูผู้สอนก่อน (๖) ไม่น าอาหาร เครื่องดื่มใด ๆ เข้ามารับประทานในห้องเรียน (๗) เมื่อเปลี่ยนห้องหรือสถานที่เรียนต้องเดินแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่ส่งเสียงดัง (๘) ไม่สวมใส่รองเท้าบนอาคารเรียน ไม่เหยียบส้นรองเท้า และต้องถอดรองเท้าไว้หน้าห้องเรียนหรือที่ชั้น วางรองเท้าให้เรียบร้อย เป็นระเบียบ ข้อ ๑๑ สิ่งที่นักเรียนต้องไม่น าเข้ามาในโรงเรียน (๑) อาวุธ สิ่งเทียมอาวุธ วัตถุระเบิด วัตถุอันตรายอื่น ๆ (๒) สื่อลามกอนาจาร (๓) สิ่งเสพติดให้โทษ (๔) อุปกรณ์เกี่ยวกับการพนันทุกประเภท (๕) เครื่องเล่นเพื่อความบันเทิงต่าง ๆ ยกเว้นสิ่งที่โรงเรียนส่งเสริม (๖) สิ่งของฟุ่มเฟือย เครื่องประดับ ของมีค่า ซึ่งไม่มีความจ าเป็นต่อการเรียน (๗) อุปกรณ์สิ่งพิมพ์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการจ าหน่ายสินค้า (๘) บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ผู้ปกครอง หรือคนในครอบครัว
~ ๔ ~ (๙) สัตว์เลี้ยง (๑๐) สิ่งที่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง ระเบียบ ประกาศ แนวปฏิบัติใด ๆ ของราชการ ข้อ ๑๒ การแสดงความเคารพ ก. ในห้องเรียน (๑) ครูเข้าสอน หรือเลิกการสอน ให้หัวหน้าห้องบอก “นักเรียนท าความเคารพ” (๒) เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยือนหรือมาให้ความรู้ให้ครูผู้สอนแนะน าให้นักเรียนรู้จัก ให้หัวหน้าห้องบอกท าความ เคารพเช่นเดียวกับการเคารพครู ข. นอกห้องเรียน (๑) แสดงความเคารพครูและผู้อาวุโส ด้วยการหยุดเดิน ยืนตรง ท าความเคารพด้วยการไหว้หรือโค้ง ค านับ พร้อมกล่าวค าว่า “สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ” (๒) กรณีที่นักเรียนไม่สามารถยกมือไหว้ได้เนื่องจากถือสัมภาระสิ่งของอยู่ ให้นักเรียนหยุด ยืนตรง พร้อม กล่าวค าว่า “สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ” (๓) การเดินผ่านครูหรือผู้อาวุโสกว่า นักเรียนต้องขออนุญาตและน้อมตัวลงเล็กน้อย เมื่อเดินผ่านไป ข้อ ๑๓ การปฏิบัติตนต่อเพื่อนนักเรียน (๑) มีความสามัคคีกลมเกลียวกัน (๒) ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพื่อนนักเรียนในทางที่ถูกที่ควร (๓) ยกย่อง ให้เกียรติแก่เพื่อนนักเรียนด้วยกัน (๔) พูด และแสดงกริยามารยาทสุภาพ ต่อนักเรียนทุกคน (๕) เคารพนักเรียนรุ่นพี่ หรือผู้อาวุโสกว่า (๖) ไม่ชักชวน ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ไม่เหมาะสม (๗) เคารพและปฏิบัติตาม มติแนวปฏิบัติของสภานักเรียน ข้อ ๑๔ การปฏิบัติตนในการสอบ (๑) นักเรียนต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียนและตัดผมให้ถูกต้องตามระเบียบโรงเรียน (๒) ดูตารางสอบล่วงหน้าและเตรียมอุปกรณ์การท าข้อสอบให้พร้อม (๓) ไปถึงสถานที่สอบก่อนเวลาพอสมควร (๔) ไม่เข้าห้องสอบก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ควบคุมห้องสอบ (๕) ไม่น าเอกสาร อุปกรณ์ใด ๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าในห้องสอบ (๖) นั่งประจ าที่นั่งสอบตามที่ก าหนด แสดงบัตรประจ าตัวสอบ (๗) กรอกข้อมูลประจ าตัวผู้สอบ วิชาที่สอบ วันเวลาสอบ ให้ครบถ้วน (๘) ปฏิบัติตามค าชี้แจงในการสอบอย่างเคร่งครัด (๙) ไม่ทุจริต คัดลอก หรือให้ผู้อื่นคัดลอกค าตอบ โดยเด็ดขาด (๑๐) ปฏิบัติตนสุภาพ ไม่พูดคุยกับผู้อื่นในขณะสอบ (๑๑) ไม่ออกห้องสอบก่อนเวลาที่ก าหนด (๑๒) เมื่อส่งข้อสอบและออกจากห้องสอบแล้วไม่ส่งเสียงหรือท ากริยารบกวนผู้อื่น ข้อ ๑๕ การร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียน ในการจัดการศึกษาของทางโรงเรียน จ าเป็นต้องจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในและนอกหลักสูตร เพื่อ ส่งเสริมให้นักเรียนได้รับความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ดังนั้นเมื่อโรงเรียนก าหนดหรือแจ้งให้นักเรียนเข้า
~ ๕ ~ ร่วมกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม นักเรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมอย่างตั้งใจ ตามวัน เวลา และสถานที่ที่จัดนั้นอย่างเคร่งครัด ยกเว้นมีเหตุจ าเป็นให้มีหนังสือจากผู้ปกครองมาขออนุญาตก่อนเสมอ ข้อ ๑๖ การร่วมกิจกรรมนอกโรงเรียน นักเรียนมีความประสงค์จะไปร่วมกิจกรรมอื่น ๆ กับหน่วยงาน องศ์กร ชุมชนภายนอก ในเวลาเรียนซึ่ง ไม่ใช่กิจกรรมที่โรงเรียนจัดขึ้น หรือเป็นกิจกรรมที่ขัดต่อระเบียบของโรงเรียนนักเรียนต้องแจ้งให้หน่วยงานที่จะน า นักเรียนไปร่วมกิจกรรมมีหนังสือขออนุญาตมายังโรงเรียน หรือมีผู้ปกครองมาท าเรื่องขออนุญาตกับทางโรงเรียน เมื่อได้รับอนุญาตจึงสามารถไปร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้ ข้อ ๑๗ การขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน เมื่อนักเรียนมีความจ าเป็นต้องออกนอกบริเวณโรงเรียนในเวลาเรียน ให้นักเรียนถือปฏิบัติตามระเบียบ และขั้นตอนวิธีการ ที่โรงเรียนก าหนดไว้อย่างเคร่งครัด และต้องมีคุณสมบัติดังนี้ (๑) มีผู้ปกครองมาเป็นผู้ขอรับออกจากบริเวณโรงเรียนโดยมีเหตุผลความจ าเป็นที่เหมาะสม (๒) มีครูที่ปรึกษาเป็นผู้รับรองว่ามีเหตุผลความจ าเป็นต้องออกนอกบริเวณโรงเรียน การขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ (๑) ผู้ปกครองหรือครูน านักเรียนมาแจ้งเหตุผลความจ าเป็นและช่วงเวลาที่ต้องขออนุญาตน านักเรียนออก นอกบริเวณโรงเรียน โดยท าบันทึกขออนุญาตตามแบบที่กลุ่มบริหารงานบุคคลก าหนด (๒) นักเรียนน าแบบบันทึกไปแจ้งครูที่ปรึกษาเพื่อลงนามรับทราบ (๓) ให้ผู้อ านวยการโรงเรียนหรือผู้ช่วยผู้อ านวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล เป็นผู้ลงนามอนุญาตในแบบ บันทึก (๔) นักเรียนรับใบอนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน เพื่อน าไปแสดงต่อ ครูเวรหรือยาม ก่อนออกจาก โรงเรียน (๕) เมื่อนักเรียนกลับเข้ามาในโรงเรียนตามเวลาที่ก าหนด ให้แสดงตัวต่อครูเวรประจ าวัน ครูที่ปรึกษา หรือครูกลุ่มบริหารงานบุคคล และเข้าห้องเรียนตามคาบเรียนปกติ ข้อ ๑๘ การใช้ยานพาหนะในโรงเรียน (๑) ห้ามนักเรียนน ารถยนต์มาโรงเรียน และขับขี่จักรยานยนต์จักรยาน หรือยานพาหนะใด ๆ ที่ก่อให้เกิด ความไม่สงบเรียบร้อย และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับวินัยจราจร บริเวณโรงเรียน ในวันและเวลาราชการ โดยเด็ดขาด (๒) ให้นักเรียนหยุดรถ ดับเครื่องยนต์แล้วจูงจักรยานยนต์จักรยาน เมื่อมาถึงหน้าประตูโรงเรียนเพื่อท า ความเคารพครูน ารถไปจอดไว้ในที่ที่จัดให้จอดพร้อมล็อคหรือใส่กุญแจเพื่อความปลอดภัยทุกครั้งโดยที่ผู้ขับขี่ต้อง สวมหมวกกันน็อคทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารซ้อนท้าย ไม่เกิน ๑ คน (๓) นักเรียนที่โดยสารมากับรถยนต์รับส่งนักเรียน หรือรถประจ าทาง ให้ลงที่หน้าโรงเรียนแล้วเดินเป็น แถวเข้าโรงเรียน ท าความเคารพครูอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ส าหรับการขึ้นรถกลับบ้านหลังเลิกเรียน ให้นักเรียน ขึ้นตามจุดที่โรงเรียนก าหนดเท่านั้น ข้อ ๑๙ การใช้อาคารเรียน สถานที่ ห้องปฏิบัติการ และห้องพิเศษ (๑) ห้ามเข้าห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตจากครูผู้สอนประจ าห้องนั้น ๆ (๒) ปฏิบัติตามระเบียบการใช้อาคาร ห้องปฏิบัติการ ห้องพิเศษต่าง ๆ ตามระเบียบการใช้ห้อง (๓) ไม่เคลื่อนย้าย หรือเปลี่ยนแปลงวัสดุอุปกรณ์ใด ๆ ในห้องโดยเด็ดขาด หมวดที่ ๓
~ ๖ ~ เครื่องแบบและการแต่งกายของนักเรียน ข้อ ๒๐ เครื่องแบบและการแต่งกายชุดนักเรียนปกติของนักเรียน ๒๐.๑ นักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (๑) เสื้อ เป็นแบบเชิ้ต คอตั้ง ผ้าขาวเกลี้ยง เนื้อหนา ผ่าอกตลอด มีสาบที่อก เสื้อกว้าง ๓.๕ – ๔.๐ ซ.ม. กระดุมสีขาวแบบศูนย์กลาง ๑ ซ.ม. จานวน ๕ เม็ด แขนยาวเพียงข้อศอก มีกระเป๋าติดแนวราวนม เบื้องซ้าย ๑ กระเป๋า ขนาดกว้างตั้งแต่ ๘ – ๑๒ ซ.ม. ลึก ๑๐ ซ.ม. พอเหมาะกับขนาดของเสื้อ เมื่อสวมใส่ให้ชายเสื้อ อยู่ภายในกางเกง มองเห็นเข็มขัดชัดโดยรอบ (๒) กางเกง เป็นกางเกงไทยใช้ผ้าสีกากีหรือสีน้ าตาล ชนิดผ้าโทเลหรือผ้ามัน ห้ามใช้ผ้าฝ้าย หรือเวสปอส์ย มีจีบหน้า ๒ จีบ มีหูเข็มขัด ๖ – ๗ หูขาสั้นเหนือสะบ้าหัวเข่าไม่เกิน ๕ ซ.ม. ความกว้างของปลายขา พับเข้าในกว้าง ๕ ซ.ม. ผ่ากลางส่วนหน้าติดซิป มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บข้าง ข้างละ ๑ กระเป๋า ไม่มีกระเป๋าหลัง กางเกงต้องสวมทับชายเสื้อไว้ให้เรียบร้อย ห้ามเปลี่ยนแปลงสีของกางเกง (๓) เข็มขัด ให้ใช้เข็มขัดหนังสีน้ าตาล ขนาดกว้างตั้งแต่ ๒.๕ -๔ ซ.ม. ตามลักษณะรูปร่าง ของนักเรียน หัวเข็มขัดเป็นโลหะสีทอง รูปสี่เหลียม ชนิดหัวกลัดรูเดียวมีปลอกสีน้ าตาล ๑ ปลอก ส าหรับสอดปลาย เข็มขัด ห้ามเสริมแต่งเข็มขัดในลักษณะอื่นใด นักเรียนที่เป็นลูกเสือให้ใช้เข้มขัดของลูกเสือในวันที่แต่งเครื่องแบบ (๔) รองเท้า ให้ใช้รองเท้าชนิดหุ้มส้นชนิดผูกเชือก ผ้าใบสีน้ าตาล ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน โดยสอดเชือกผูกรองเท้าทุกรูของรองเท้า (๕) ถุงเท้า ให้ใช้ถุงเท้ายาวสีน้ าตาล ยาวเหนือตาตุ่มตั้งแต่ ๑๕-๒๐ ซ.ม. ขึ้นไปแต่ไม่เกิน กลางหน้าแข้ง ไม่พับหรือไม่ม้วนถุงเท้า ถุงเท้าไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน (๖) ทรงผม ด้านหน้าสั้นยาวไม่เกิน ๓ ซ.ม.ด้านบนสั้นไม่เกิน ๒ ซ.ม. ส่วนด้านข้าง ด้านหลัง ตัดเกรียนติดหนังศีรษะ ผมห้ามใส่เยล น้ามันสเปรย์ครีมแต่งผม ห้ามยอมหรือกัดสีผมหรืออื่น ๆ ในลักษณะเป็นการ เสริมสวย ๒๐.๒ นักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (๑) เสื้อ เป็นแบบเชิ้ต คอตั้ง ผ้าขาวเกลี้ยง เนื้อหนา ผ่าอกตลอด มีสาบที่อก เสื้อกว้าง ๓.๕ – ๔.๐ ซ.ม. กระดุมสีขาวแบบศูนย์กลาง ๑ ซ.ม. จานวน ๕ เม็ด แขนยาวเพียงข้อศอก มีกระเป๋าติดแนวราวนมเบื้อง ซ้าย ๑ กระเป๋า ขนาดกว้างตั้งแต่ ๘ – ๑๒ ซ.ม. ลึก ๑๐ ซ.ม. พอเหมาะกับขนาดของเสื้อ เมื่อสวมใส่ให้ชายเสื้ออยู่ ภายในกางเกง มองเห็นเข็มขัดชัดโดยรอบ (แบบเดียวกันกับนักเรียนชายระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น) (๒) กางเกงให้ใช้ผ้าสีด า ชนิดผ้าโทเลหรือผ้ามัน ห้ามใช้ผ้าฝ้ายหรือ ผ้าเวสปอยส์รูปแบบ กางเกงใช้แบบเดียวกันกับรูปแบบกางเกงนักเรียนชายระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (๓) เข็มขัด ให้ใช้เข็มขัดหนังสีด า ขนาดกว้างตั้งแต่ ๒.๕ - ๔ ซ.ม. ตามลักษณะรูปร่างของ นักเรียน หัวเข็มขัดเป็นโลหะสีเงิน รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ชนิดหัวกลัด สายของเข็มขัดต้องไม่มีลวดลายใด ๆ (๔) รองเท้าให้ใช้รองเท้าชนิดหุ้มส้นชนิดผูก เป็นรองเท้าหนังหรือผ้าใบสีด า ไม่มีลวดสาย หรือสีอื่นปน (๕) ถุงเท้า ให้ใช้ถุงเท้ายาวสีขาว เนื้อเรียบ ยาวเหนือตาตุ่มตั้งแต่ ๑๕-๒๐ ซ.ม.ขึ้นไป แต่ไม่เกินครึ่งน่องหรือเสมอหน้าแข้ง ไม่พับถุงเท้าและถุงเท้าต้องไม่มีสวดลายใด ๆ เช่น ตัวหนังสือหรือรูปภาพ เป็น ต้น (๖) ทรงผม ให้ตัดผมหรือไว้ผมแบบรองทรงสูงหรือรองทรงสั้นด้านข้างและด้านหลังตัดสั้น ไล่สูงขึ้นไปให้มองเห็นเป็นขอบหรือเป็นชั้น ผมด้านหน้ายาวไม่เกิน ๔ ซ.ม. ด้านบนไม่เกิน ๓ ซ.ม.ห้ามไว้จอน ไว้
~ ๗ ~ หนวด ไว้เครา ทรงผมห้ามใส่เยล น้ามัน สเปรย์หรือโฟมแต่งผม ห้ามย้อมหรือกัดสีผมและอื่น ๆ ในลักษณะการเสริม สวย ๒๐.๓ นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (๑) ให้ใช้ผ้าขาวเกลี้ยง ไม่บางเกินไป ให้ใช้คอเสื้อแบบกลาสีแขนสั้นจับจีบพอง และต้อง สวมเสื้อซับในสีขาวก่อนสวมเครื่องแบบ ห้ามใส่เสื้อยืดคอกลมชนิดติดคอ กระเป๋าเสื้อให้ติดริมขอบเสื้อด้านล่างข้าง ขวาขนาด ๘ × ๑๐ ซ.ม.ขอบชายเสื้อด้านล่างพับเข้าด้านในเข้า ๑ นิ้ว ความยาวของชายเสื้อติดตรงบริเวณข้อมือเมื่อ ยืดตรง ให้ใช้ผ้าผูกคอสีกลมท่า ชายสามเหลี่ยมผูกเงื่อนกลาสีแยกชายออกข้างประมาณ ๒.๕ นิ้ว (๒) กระโปรง ใช้ผ้าสีกลมท่าเนื้อเกลี้ยงไม่มีลวดลายและไม่บาง เอวกระโปรงมีขอบกว้าง ๓ - ๔ ซ.ม. แบบกระโปรงใช้แบธรรมดา ด้านหน้าและด้านหลังพับเป็นจีบข้างละ ๓ จีบ จีบกระโปรงหันออกด้านนอก เย็บทับจีบกระโปรง จากขอบเอวลงมาไม่เกิน ๑๐ ซ.ม. แต่ไม่เกินครึ่งน่อง ชายกระโปรงหน้าล่างพับเข้าด้านในกว้าง ๒.๕ –๔ ซ.ม.ชายกระโปรงจะต้องคลุมเข่าไม่เห็นสะบ้า (๓) ถุงเท้า ให้ใช้ถุงเท้าสีขาวไม่มีลวดลาย เวลาสวมใส่ให้พับขอบลงมาแล้ว วัดจากกึ่งกลางขึ้น ไปสูงไม่น้อยกว่า ๓ นิ้ว แต่ไม่เกิน ๕ ซ.ม. ถ้าใช้ถุงเท้าที่ไม่พับขอบบนถุงเท้าต้องสูงจากตาตุ่มไม่น้อยกว่า ๓ นิ้ว แต่ไม่ เกิน ๕ ซ.ม. (๔) รองเท้า ให้ใช้รองเท้าหนังสีด า ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน แบบรองเท้าใช้แบบหุ้มส้นสีด า ส้นสูงไม่เกิน ๓ ซ.ม. หัวมน มีสายรัดหลังเท้า รองเท้าผ้าใบให้ใช้สีขาวล้วน ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน (๕) ผม หรือ ทรงผม ให้ไว้ทรงบ๊อบ ซึ่งปลายผมเท่ากันทุกด้านระดับเสมอปลายคาง ห้ามดัดผม ซอยผม ย้อมผม กัดสีผม และห้ามตกแต่งผมโดยเยล น้ ามัน สเปรย์หรือเครื่องส าอางอื่นใด ให้ใช้กิ๊บหนีบผมสีด าขนาด พอเหมาะ ไม่ให้ใช้หวีสับ หวีติดหรือเสียบไว้ที่ผม นักเรียนที่มีผมหยิกงอให้ท าบันทึกขอไว้ผมยาว (๖) การตกแต่งใบหน้า ห้ามใช้เครื่องส าอางใด ๆ ตกแต่งบริเวณใบหน้าหรือส่วนอื่นใดของ ร่างกายที่ไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน อนุญาตให้ใช้แป้งฝุ่นได้ ๒๐.๔ นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (๑) เสื้อ ให้ใช้ผ้าสีขาวเกลี้ยงไม่บางเกินควร แบบเสื้อเป็นแบบคอเชิ้ตแขนสั้นปลายแขนรัด ผ่าอกตลอด ที่อกเสื้อท าฉากตลบข้างในกว้าง ๓ ซ.ม. ติดกระดุมสีขาว ๕ เม็ด ตัวเสื้อไม่รัดรูปและสวมทับเสื้อทับในสีขาว อีกชั้นหนึ่ง ให้ชายเสื้ออยู่ในขอบกระโปรง เมื่อมองดูให้เห็นเข็มขัดโดยรอบ (๒) กระโปรง ให้ใช้แบบเดียวกันกับนักเรียนหญิงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (๓) ถุงเท้าและรองเท้า ให้ใช้แบบเดียวกันกับนักเรียนหญิงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (๔) เข็มขัด ให้ใช้เข็มขัดหนังสีด ากว้างประมาณ ๓ -๔ ซ.ม. หัวเข็มขัดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าชนิดหัว กลัด สีเดียวกับสายเข็มขัด มีปลอกและตัวหนีบเข็มขัด ซึ่งต้องเป็นสีเดียวกับเข็มขัดต้องไม่มีลวดลายหรือการตกแต่งใด ๆ (๕) ผมและทรงผม ให้ไว้ผมยาวไม่เกินกึ่งกลางหลัง โดยรวบผมและผูกผมด้วยริบบิ้นสีขาว และ ต้องรวบผมด้านหน้าขึ้นและหนีบด้วยกิ๊บด า ห้ามดัดผม ห้ามซอยผม ห้ามย้อมผมหรือกัดสีผม และห้ามตกแต่งทรงผม ด้วยน้ามัน เยล สเปรย์หรือเครื่องส าอางใด ๆ นักเรียนนาฏศิลป์ที่ต้องแสดงออกสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน และ นักเรียนที่มีผมหยิกงอให้ท าบันทึกขอไว้ผมยาว (๖) การตกแต่งใบหน้า ห้ามใช้เครื่องส าอางใด ๆ ตกแต่งบริเวณใบหน้าหรือส่วนอื่นใดของ ร่างกายที่ไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน อนุญาตให้ใช้แป้งฝุ่นได้ ๒๐.๕ การปักชื่อและอักษรย่อของโรงเรียน (๑) ให้ปักอักษรย่อ บ.ป.และเลขประจ าตัวนักเรียน ที่อกเสื้อเบื้องขวา ด้วยด้ายสีน้ าเงิน ปักทึบ กว้าง ๑ ซ.ม. สูง ๑.๕ ซ.ม.
~ ๘ ~ (๒) การปักชื่อและชื่อสกุลของนักเรียนให้ปักทึบหรือเดินตัวเส้นพิมพ์ธรรมดา สูง ๑ ซ.ม. ที่อกเบื้องซ้ายในระดับเดียวกับการปักอักษรย่อ บ.ป. ๒๐.๖ กระเป๋านักเรียน ให้ใช้กระเป๋าเป้สีด า ปักตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนที่ด้านหน้า มีชื่อโรงเรียนที่สายกระเป๋า ตามแบบที่ทางโรงเรียนก าหนด ข้อ ๒๑ เครื่องแบบชุดพลศึกษา (๑) ให้ใช้เสื้อและกางเกงใบแบบที่โรงเรียนก าหนด (๒) ให้ปักชื่อและชื่อสกุล ที่อกเสื้อด้านซ้ายเป็นภาษาไทยเหนือกระเป๋าด้วยสีน้ าเงิน ตัวพิมพ์ขนาด ธรรมดา สูง ๑ ซ.ม. (๓) นักเรียนหญิงทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ให้ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาวล้วน ไม่มี แถบสีอื่นหรือลวดลายสลับ นักเรียนชายระดับมัธยมศึกษาตอนต้นใช้รองเท้าผ้าใบสีน้ าตาล นักเรียนชายระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายใช้รองเท้าผ้าใบสีด า ไม่มีแถบสีอื่นหรือลวดลายสลับ ข้อ ๒๒ เครื่องแบบลูกเสือและเนตรนารี (๑) นักเรียนชายระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สวมเครื่องแบบลูกเสือเหล่าเสนา ตามรูปแบบที่ ส านักงานลูกเสือแห่งชาติก าหนด ลูกเสือสวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นสีกากีความยาวแตะหัวเข่า หมวกเบเล่สี แดงติดตราเฟอเดอรี ประดับอินทรธนู ลญ.ที่บ่าเสื้อ ๒ ข้าง สวมผ้าผูกคอสีแดงขอบน้ าเงินปักตราของจังหวัดสิงห์บุรี ด้านหลัง ใช้วอคเกิ้ลที่ท าจากไม้หรือโลหะทองเหลืองมีตราเฟอเดอรี เข็มขัดหนังสีน้ าตาล หัวเข็มขัดทองเหลืองมีตรา เฟอเดอรี ถุงเท้าสีกากีความยาวใกล้หัวเข่า สวมคาร์เตอร์สีแดงให้พ้นถุงเท้าออกมา ๑ ซ.ม. สวมรองเท้าผ้าใบหรือ รองเท้าหนังผูกเชือกสีน้ าตาล (๒) นักเรียนหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สวมเครื่องแบบเนตรนารี เสื้อแขนสั้นสีเชียว กระโปรง สีเดียวกันความยาวเกินหัวเข่าประมาณ ๒ นิ้ว สวมผ้าผูกคอสีแดงปักตราของจังหวัดสิงห์บุรีด้านหลัง ใช้วอคเกิ้ลที่ท า จากโลหะทองเหลืองมีตราสัญลักษณ์เนตรนารี สวมหมวกทรงอ่อนพับปีกข้างติดตราเนตรนารีที่กึ่งกลางหน้าหมวก สวมเข็มขัดหนังสีด าหัวเข็มขัดทองเหลืองมีตราสัญลักษณ์เนตรนารี สวมถุงเท้าสีขาวล้วนพับทบสูงกว่าระดับตาตุ่ม ๒ นิ้ว รองเท้าผ้าใบสีขาวล้วน ไม่มีแถบสีหรือลวดลายสลับ ข้อ ๒๓ เครื่องแบบชุดขาววิถีพุทธ ให้นักเรียนใช้เสื้อขาวล้วน ปักตราสัญลักษณ์ตามแบบที่ทางโรงเรียนก าหนด สวมกางเกงหรือ กระโปรงนักเรียน รองเท้านักเรียน ข้อ ๒๔ เครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหาร ให้ใช้ระเบียบการเครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหารตามที่กรมการรักษาดินแดน กระทรวงกลาโหม ก าหนด ข้อ ๒๕ ห้ามนักเรียนสวมสร้อย แหวน ต่างหู ก าไล เครื่องประดับมีค่าตามร่างกาย ยกเว้นให้เฉพาะ พระเครื่อง และไม้กางเขน ที่ใช้สายสร้อยท าจากหนัง ผ้า เชือก โลหะสแตนเลส เท่านั้น โดยสวมใส่ไม่พ้นขึ้นมาจาก คอเสื้อ ข้อ ๒๖ ห้ามนักเรียนแต่งหน้า เขียนคิ้ว ดัดขนตา ย้อมสีผมที่มิใช่สีด า แต่งเล็บหรือไว้เล็บยาว ข้อ ๒๗ ห้ามนักเรียนสักยันต์ รูปสัญลักษณ์ใดๆ บนร่างกาย ข้อ ๒๘ ห้ามนักเรียนชายเจาะหู ห้ามนักเรียนหญิงเจาะหูเกินกว่าข้างละ ๑ รู และขนาดเส้นผ่าน ศูนย์กลางของการเจาะต้องไม่เกิน ๒ ม.ม.
~ ๙ ~ ข้อ ๒๙ ไม่อนุญาตให้นักเรียนน าของมีค่ามาโรงเรียน โดยหากมีความเสียหายเกิดขึ้นหรือสูญหาย ถือเป็น ความรับผิดชอบของตัวนักเรียนเอง โรงเรียนมิได้มีหน้าที่รับผิดชอบหรือดูแลให้ หมวดที่ ๔ การลงโทษนักเรียน นักเรียนที่กระท าความผิด โรงเรียนบ้านแป้งวิทยาจะพิจารณาลงโทษภายใต้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ มีรายละเอียดตามความ ดังนี้ “กระท าความผิด” หมายความว่า การที่นักเรียนหรือนักศึกษาประพฤติผ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับ ของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา “การลงโทษ” หมายความว่าการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระท าความผิด โดยมีความ มุ่งหมายเพื่อการอบรมสั่งสอน โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระท าความผิด มี๔ สถาน ดังนี้ (๑) ว่ากล่าวตักเตือน (๒) ท าทัณฑ์บน (๓) ตัดคะแนนความประพฤติ (๔) ท ากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของ นักเรียนให้รู้ส านึกในความผิด และกลับพฤติกรรมตนในทางที่ดีต่อไป ต้องไม่มีลงโทษนักเรียนด้วยวิธีรุนแรง หรือ แบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษ ด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท โดยค านึงถึงอายุของนักเรียน และความร้ายแรง ของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วย ข้อ ๓๐ เมื่อเริ่มเข้าศึกษาในโรงเรียนหรือเมื่อเข้าสู่ปีการศึกษาใหม่ นักเรียนทุกคนจะมีคะแนนพฤติกรรม ของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทั้ง ๘ ด้าน เริ่มต้น ๑๐๐ คะแนนเต็ม ทุกลักษณะ ส่วนในกรณีนักเรียนถูกท าทัณฑ์ บนในปีการศึกษาที่ผ่านมา ทัณฑ์บนนั้นจะยังคงมีผลอยู่จนกว่านักเรียนจะจบช่วงชั้นการศึกษานั้น เมื่อนักเรียนแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์และท าผิดตามกรณีความผิดที่ระบุไว้ในระเบียบนี้ จะถูกตัดคะแนนพฤติกรรมตามที่ก าหนดไว้ ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาระดับคะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ใน ภาพรวมของแต่ละด้าน ทั้งนี้ ในความผิดบางกรณีซึ่งถือเป็นความผิดเล็กน้อยส าหรับนักเรียน นักเรียนสามารถจะขอ ด าเนินการแก้ไขพฤติกรรมความผิดของตนเองเพื่อทดแทนบทลงโทษได้ตามที่ก าหนดไว้เช่นกัน โดยกรณีความผิด และการแก้ไขพฤติกรรมเพื่อทดแทนบทลงโทษ มีรายละเอียดแยกตามหมวด ดังนี้ หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรมเพื่อ ทดแทนบทลงโทษ ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑. ไม่ร่วมกิจกรรมหน้าเสาธง ตอนเช้า (ร้องเพลงชาติ สวดมนต์ กล่าวค าปฏิญาณ ตนของนักเรียน) ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านรัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ครั้งละ ๑ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ าซาก เกินกว่า ๕ ครั้ง ในภาคเรียน ท ากิจกรรมหน้าเสาธง นอกเวลาปกติ โดยการ ควบคุมของคุณครูและ นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน
~ ๑๐ ~ เดียวกัน ตัดครั้งละ ๒ คะแนน ๒. ไม่ร่วมในกิจกรรมทาง ศาสนาของตนเอง ตามที่ โรงเรียนก าหนด โดยไม่มี เหตุอันสมควร ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านรัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ครั้งละ ๑๐ คะแนน - ๓. แสดงพฤติกรรมอันเป็นการ บ่อนท าลายชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือระบอบการปกครอง แบบประชาธิไทยโดยมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านรัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๓๐ คะแนน กรณีแสดงพฤติกรรมซ้ า ให้ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับ ผู้อ านวยการโรงเรียน -
~ ๑๑ ~ หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรม เพื่อทดแทนบทลงโทษ ด้านความ ซื่อสัตย์สุจริต ๑. พูดจาโกหก หลอกลวง หรือสร้างความแตกแยก ให้แก่เพื่อนนักเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ ซื่อสัตย์สุจริต ๑๐ คะแนน กรณีเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรง ให้ ท าทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการ โรงเรียน - ๒. ปิดบังข้อมูล ไม่น าข่าวสาร จดหมายจากทางโรงเรียน หรือใบแจ้งผลการเรียนให้ ผู้ปกครองทราบ ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ ซื่อสัตย์สุจริต ๑๐ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดคะแนน พฤติกรรมด้านความซื่อสัตย์สุจริต ครั้งละ ๒๐ คะแนน - ๓. ปลอมแปลงลายมือชื่อ ผู้ปกครอง หรือปลอมแปลง เอกสารของทางโรงเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ ซื่อสัตย์สุจริต ๓๐ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ให้ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการโรงเรียน - ๔. ลักทรัพย์ ขโมยของบุคคล อื่น หรือมีส่วนร่วมในการ กระท าความผิด ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ ซื่อสัตย์สุจริต ๕๐ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ให้ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการโรงเรียน **(นักเรียนอาจถูกด าเนินคดีอาญา ตามกฎหมาย กรณีผู้เสียหาย ประสงค์เอาผิด) - ด้านความมีวินัย ๑. เข้าห้องเรียนช้า ออกจาก ห้องเรียนโดยไม่สมควร ตักเตือนในครั้งแรก ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความมี วินัย ครั้งละ ๒ คะแนน นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน ๒. แต่งกายผิดระเบียบที่ โรงเรียนก าหนด ตักเตือนในครั้งแรกที่พบ กรณีท าซ้ า ตัดคะแนนพฤติกรรม ด้านความมีวินัย ๒ คะแนน ในทุก ครั้งที่พบพฤติกรรม -
~ ๑๒ ~ หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรม เพื่อทดแทนบทลงโทษ ด้านความมีวินัย ๓. ส่งเสียงรบกวน หรือพูดคุย เสียงดังในห้องเรียน ตักเตือน กรณีมีพฤติกรรมซ้ าซากไม่ฟังค า เตือน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้าน ความมีวินัย ๒ คะแนนต่อครั้ง นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน ๔. ใช้โทรศัพท์ในห้องเรียน ตักเตือนในครั้งแรก ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความมี วินัย ๑ คะแนนต่อครั้ง กรณีมีพฤติกรรมซ้ าซากไม่ฟังค า เตือน ตัดครั้งละ ๒ คะแนน นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน ๕. รับประทานอาหารบน อาคารเรียนหรือใน ห้องเรียน ตักเตือนในครั้งแรก ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความมี วินัย ๒ คะแนน ในทุกครั้งที่พบ นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน หรือบ าเพ็ญประโยชน์ ด้านความสะอาดตามที่ คุณครูมอบหมาย ๖. ไม่สวมหมวกกันน็อก หรือ ซ้อนท้ายเกินกว่า ๑ คน ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ / ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะนั่ง รถยนต์ ตักเตือนในครั้งแรก ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความมี วินัย ๒ คะแนน ในทุกครั้งที่พบ นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน ๗. แสดงพฤติกรรมอันตราย บนท้องถนน - ห้อยโหนนอกตัวรถ - ขับขี่รถเร็วอันตราย - ขับขี่ผาดโผนหรือแข่งรถ ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความมี วินัย ๑๕ คะแนน ทุกครั้งที่พบเห็น หรือได้รับแจ้งจากแหล่งข้อมูลที่ เชื่อถือได้ - ๘. ฝ่าฝืนค าสั่งหรือข้อห้าม ของคุณครู ฝ่ายบริหาร ที่ สั่งการโดยชอบ ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความมี วินัย ๕ คะแนน ในครั้งแรก กรณีละเมิดซ้ า ตัด ๑๐ คะแนนต่อ ครั้ง -
~ ๑๓ ~ หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรม เพื่อทดแทนบทลงโทษ ด้านความมีวินัย ๙. ก่อความไม่สงบหรือชักน า บุคคลภายนอกเข้ามาสร้าง ความวุ่นวายในโรงเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความมี วินัย ๓๐ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ให้ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการโรงเรียน - ด้านความใฝ่ เรียนรู้ ๑. ไม่ร่วมกิจกรรมในชั่วโมง เรียนตามที่ครูผู้สอนให้ ปฏิบัติ ตักเตือน กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดคะแนน พฤติกรรมด้านความใฝ่เรียนรู้๑ คะแนน นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน ๒. ไม่เข้าร่วมหรือไม่ให้ความ ร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ ที่ โรงเรียนก าหนด ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความใฝ่ เรียนรู้ ๕ คะแนนต่อกิจกรรม - ๓. หนีเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความใฝ่ เรียนรู้๓ คะแนนต่อคาบเรียน - ด้านการอยู่อย่าง พอเพียง ๑. น าทรัพย์สินมีค่ามา โรงเรียน โดยไม่มีความ จ าเป็น ตักเตือนในครั้งแรก กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านการอยู่อย่า พอเพียง ๒ คะแนน ต่อครั้ง และต้อง ส่งมอบทรัพย์ให้โรงเรียนรักษา จนกว่าผู้ปกครองจะมาติดต่อขอรับ คืนด้วยตนเอง นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน ๒. ใช้เงิน ทรัพย์สิน หรือ บังคับให้ผู้อื่นท างานหรือ หน้าที่ต่างๆ แทนตนเอง ตักเตือนในครั้งแรก กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดคะแนน พฤติกรรมด้านการอยู่อย่างพอเพียง ๕ คะแนน ต่อครั้ง - ๓. มีพฤติกรรมใช้จ่ายเงิน สุรุ่ยสุร่าย จนเกิดความ เดือดร้อนต่อตนเองหรือ ครอบครัว ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านการอยู่ อย่างพอเพียง ๑๐ คะแนน ในทุก ครั้งที่พบ -
~ ๑๔ ~ หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรม เพื่อทดแทนบทลงโทษ ด้านความมุ่งมั่น ในการท างาน ๑. ไม่ท าชิ้นงานหรือภาระงาน ที่ครูมอบหมายให้ใน ห้องเรียน ตักเตือน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มุ่งมั่นในการท างาน ๑ คะแนน ในกรณีที่ครูผู้สอนเล็งเห็นว่ามี พฤติกรรมซ้ าซากและส่งผลต่อการ เรียนรู้ ส่งชิ้นงานหรือภาระ งานต่อครูผู้สอน ภายหลัง ๒. แสดงพฤติกรรมเกียจคร้าน ไม่สนใจเรียน ตักเตือน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มุ่งมั่นในการท างาน ๒ คะแนน ในกรณีที่ครูผู้สอนเล็งเห็นว่ามี พฤติกรรมซ้ าซากและส่งผลต่อการ เรียนรู้ นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน ๓. คัดลอกการบ้านหรือ รายงานของเพื่อน ตักเตือน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มุ่งมั่นในการท างาน ๓ คะแนน ในกรณีที่ครูผู้สอนเล็งเห็นว่ามี พฤติกรรมซ้ าซากและส่งผลต่อการ เรียนรู้ - ด้านการรักความ เป็นไทย ๑. พูดค าหยาบคาย หรือ แสดงความไม่สุภาพต่อ บุคคลอื่น ตักเตือน กรณีแสดงพฤติกรรมซ้ าซากตัด คะแนนพฤติกรรมด้านการรักความ เป็นไทย ๑ คะแนน นั่งสมาธิ ๑๕ นาที หลังเลิกเรียน ต่อ ๑ คะแนน ๒. แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อ ผู้ใหญ่ ตักเตือน กรณีแสดงพฤติกรรมซ้ าซาก ตัด คะแนนพฤติกรรมด้านการรักความ เป็นไทย ๑๐ คะแนน ๓. แสดงพฤติกรรมเชิงชู้สาว ในที่สาธารณะ ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านการรัก ความเป็นไทย ๒๐ คะแนน กรณีแสดงพฤติกรรมซ้ าซากให้ ท ำ ทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการโรงเรียน - หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรม เพื่อทดแทนบทลงโทษ ด้านการรักความ เป็นไทย ๔. มีความสัมพันธ์ทางเพศใน วัยเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านการรัก ความเป็นไทย ๓๐ คะแนน -
~ ๑๕ ~ และ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการ โรงเรียน ๕. มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับ การค้าประเวณี หรือค้า มนุษย์ ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านการรัก ความเป็นไทย ๕๐ คะแนน และ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการ โรงเรียน - ด้านความ รับผิดชอบต่อ ส่วนรวมและ สาธารณะ ๑ ไม่ทิ้งขยะลงในถังขยะ หรือสร้างความสกปรก ภายในพื้นที่โรงเรียนและ พื้นที่สาธารณะ ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ รับผิดชอบต่อส่วนรวมและสาธารณะ ครั้งละ ๒ คะแนน บ าเพ็ญประโยชน์ สาธารณะตามที่คุณครู ก าหนด ๑ งาน ๒. ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น โดยไม่มีเหตุอันสมควรในที่ สาธารณะ ตักเตือนในครั้งแรก กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดคะแนน พฤติกรรมด้านความรับผิดชอบต่อ ส่วนรวมและสาธารณะ ครั้งละ ๒ คะแนน นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีหลัง เลิกเรียนต่อ ๑ คะแนน ๓. ไม่รับผิดชอบหน้าที่ดูแล ความสะอาดห้องเรียนหรือ เขตพื้นที่ที่โรงเรียน มอบหมายให้รับผิดชอบ ตักเตือนในครั้งแรก เมื่อมีครั้งต่อไป ตัดคะแนน พฤติกรรมด้านความรับผิดชอบต่อ ส่วนรวมและสาธารณะ ครั้งละ ๑ คะแนน ท าความสะอาดและ เก็บขยะในพื้นที่ที่ โรงเรียนก าหนด ๑ งาน ๔. เสียบสายชาร์จ โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ ไฟฟ้าภายในบริเวณ โรงเรียน ตักเตือนในครั้งแรก กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดคะแนน พฤติกรรมด้านความรับผิดชอบต่อ ส่วนรวมและสาธารณะ ๑ คะแนน - ๕. ไม่ปิดไฟฟ้า น้ าประปา หลังการใช้งาน หรือเปิดทิ้ง ไว้โดยไม่มีความจ าเป็น ตักเตือนในครั้งแรก กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดคะแนน พฤติกรรมด้านความรับผิดชอบต่อ ส่วนรวมและสาธารณะ ๑ คะแนน นั่งสมาธิ ๑๕ นาทีต่อ ๑ คะแนน หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรม เพื่อทดแทนบทลงโทษ ด้านความ รับผิดชอบต่อ ส่วนรวมและ สาธารณะ ๖. มาสาย หรือไม่มา เมื่อ คุณครูนัดหมายไปแข่งขัน หรือท ากิจกรรมนอก โรงเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ รับผิดชอบต่อส่วนรวมและสาธารณะ ๕ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดครั้งละ ๑๐ คะแนน - ๗. น าสัตว์เลี้ยงเข้ามาใน โรงเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ รับผิดชอบต่อส่วนรวมและสาธารณะ ๕ คะแนน -
~ ๑๖ ~ กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดครั้งละ ๑๐ คะแนน ๘. ท าลายทรัพย์สินของ โรงเรียนหรือสาธารณะโดย เจตนา ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ รับผิดชอบต่อส่วนรวมและสาธารณะ ๒๐ คะแนน และชดใช้มูลค่าความ เสียหายต่อทรัพย์ให้แก่เจ้าของทรัพย์ กรณีกระท าซ้ าซากโดยความจงใจให้ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการ โรงเรียน และเข้ำร่วมค่ำย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตำมที่โรงเรียน ก ำหนด - ๙. กระท าการอันเป็นเหตุให้ เสื่อมเสียชื่อเสียงของ ตนเองและโรงเรียนอย่าง ร้ายแรง ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ รับผิดชอบต่อส่วนรวมและสาธารณะ ๓๐ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ าให้ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการโรงเรียน และเข้ำ ร่วมค่ำยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตำมที่ โรงเรียนก ำหนด -
~ ๑๗ ~ หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรม เพื่อทดแทนบทลงโทษ ด้านความรุนแรง และการละเมิด สิทธิ์ผู้อื่น ๑. กลั่นแกล้งหรือรังแกเพื่อน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มีวินัย ครั้งละ ๑๐ คะแนน กรณีกระท าซ้ าซาก ท ำทัณฑ์บน ไว้ กับผู้อ านวยการโรงเรียน - ๒. รีดไถ ขู่กรรโชกทรัพย์ผู้อื่น ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มีวินัย ครั้งละ ๒๐ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ าให้ ท ำทัณฑ์บน ไว้กับผู้อ านวยการโรงเรียน - ๓. ยั่วยุหรือเป็นตัวการให้เกิด การทะเลาะวิวาท ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มีวินัย ครั้งละ ๓๐ คะแนน กรณีกระท าซ้ าซาก ท ำทัณฑ์บน ไว้ กับผู้อ านวยการโรงเรียน - ๔. ก่อการทะเลาะวิวาทกับ เพื่อนร่วมสถาบันหรือต่าง สถาบัน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มีวินัย ครั้งละ ๔๐ คะแนน กรณีกระท าซ้ าซาก ท ำทัณฑ์บน ไว้ กับผู้อ านวยการโรงเรียน และ เข้ำ ร่วมค่ำยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตำมที่ โรงเรียนก ำหนด ๕. มีพฤติกรรมคุกคามทาง เพศผู้อื่น ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านการรัก ความเป็นไทย ๓๐ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ท ำทัณฑ์บน ไว้ กับผู้อ านวยการโรงเรียน และ เข้ำ ร่วมค่ำยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตำมที่ โรงเรียนก ำหนด - ๖. เผยแพร่ภาพ ข้อความ อัน เป็นการให้ร้ายผู้อื่น หรือ เผยแพร่ภาพอนาจารของ ตนเองหรือผู้อื่นในสื่อต่างๆ ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านการรัก ความเป็นไทย ๒๕ คะแนน กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ท ำทัณฑ์บน ไว้ กับผู้อ านวยการโรงเรียน และ เข้ำ ร่วมค่ำยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตำมที่ โรงเรียนก ำหนด - หมวดความผิด กรณีความผิด การลงโทษ การแก้ไขพฤติกรรม เพื่อทดแทนบทลงโทษ ด้านสิ่งเสพติด และอบายมุข ๑. เล่นการพนัน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มีวินัย ๒๐ คะแนน -
~ ๑๘ ~ กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ท ำทัณฑ์บน ไว้ กับผู้อ านวยการโรงเรียน และ เข้ำ ร่วมค่ำยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตำมที่ โรงเรียนก ำหนด ๒. น าสื่อลามกอนาจารมา โรงเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านการรัก ความเป็นไทย ๒๐ คะแนน และท าลายสื่อ - ๓. สูบบุหรี่ในโรงเรียน ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านความ มีวินัย ๑๐ คะแนน ในครั้งแรก กรณีมีพฤติกรรมซ้ า ตัดครั้งละ ๑๕ คะแนน และ ปรับ ๕,๐๐๐ บำท ตำมควำมในมำตรำ ๔๒ มำตรำ ๖๗ และมำตรำ ๗๙ แห่งพระรำชบัญญัติ ควบคุมผลิตภัณฑ์ยำสูบ พ.ศ.๒๕๖๐ บ าเพ็ญประโยชน์ให้กับ วัดหรือหน่วยงาน ราชการที่ทางโรงเรียน ก าหนดเป็นเวลา ๒๐ ชั่วโมงต่อความผิด ๑ ครั้ง ๔. มีสุรา หรือสารเสพติด ไว้ ในครอบครอง และ/หรือ ใช้สารเสพติดให้โทษ ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๓๐ คะแนน และต้อง เข้าร่วมการบ าบัดสารเสพติดตามที่ โรงเรียนก าหนด - ๕. เป็นผู้ค้า หรือจ่ายแจกสาร เสพติดให้แก่ผู้อื่น ตัดคะแนนพฤติกรรมด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๕๐ คะแนน และส่งด าเนินคดีตามกฎหมาย หาก มีความผิดจริงอาจต้องโทษอาญา และส่งผลให้พ้นสภาพจากความเป็น นักเรียน - ข้อ ๓๑ การลงโทษนักเรียน ให้คุณครูเป็นผู้มีอ านาจหน้าที่ในการลงโทษนักเรียน โดยต้องท าเอกสารเป็น หลักฐานประกอบการลงโทษไว้ด้วยทุกครั้ง และให้กลุ่มบริหารงานบุคคล เป็นผู้ก าหนดแบบฟอร์มการตักเตือน การตัดคะแนนพฤติกรรม การท าทัณฑ์บน การท ากิจกรรมปรับปรุงพฤติกรรม รวมถึงด าเนินการรวบรวม บันทึกการ ตัดคะแนนและการด าเนินการแก้ไขพฤติกรรม น าเสนอให้ผู้อ านวยการโรงเรียนทราบเป็นระยะ และเมื่อจบภาค การศึกษา พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลในผู้ปกครองนักเรียนทราบด้วย ข้อ ๓๒ การตัดคะแนนพฤติกรรมในคุณลักษณะอันพึงประสงค์แต่ละด้าน สามารถเทียบระดับเพื่อประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในภาพรวมได้ ดังนี้ ระดับคะแนนพฤติกรรม ระดับคุณลักษณะ ๘๐ – ๑๐๐ ดีเยี่ยม ๖๕ – ๗๙ ดี
~ ๑๙ ~ ๕๐ – ๖๔ ผ่าน ต่ ากว่า ๕๐ ไมผ่าน หากนักเรียนถูกตัดคะแนนพฤติกรรมจนมีคะแนนต่ ากว่า ๕๐ คะแนน หรืออยู่ในระดับ “ไม่ผ่าน” ในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จะส่งผลให้นักเรียน ไม่สามารถผ่านเลื่อนชั้น หรือ จบการศึกษาตามหลักสูตรสถานศึกษาในปีการศึกษานั้นได้ ข้อ ๓๓ การแก้ไขผลการประเมินคะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่อยู่ในระดับ “ไม่ผ่าน” นั้น นักเรียน จะต้องเข้าร่วมการท ากิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้ วิธีการแก้ไข ระยะเวลาการท ากิจกรรม ผลเมื่อผ่านการร่วมกิจกรรม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ๑. บ าเพ็ญประโยชน์สาธารณะต่อ หน่วยงานราชการหรือวัด ตามที่ โรงเรียนก าหนด ๔๐ ชั่วโมง แก้ไขระดับการประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ เป็น “ผ่าน” ๑ ด้าน ๒. เข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกับ หน่วยงานที่ทางโรงเรียนก าหนด ๓ - ๕ วัน แก้ไขระดับการประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ เป็น “ผ่าน” ๑ ด้าน ๓. บวชสามเณร (ส าหรับนักเรียน ชาย) หรือถือศีลอุบาสิกา (ส าหรับนักเรียนหญิง) ในวัดที่ ทางโรงเรียนก าหนด ๑๕ วัน แก้ไขระดับการประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ เป็น “ผ่าน” ๒ ด้าน ข้อ ๓๔ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท าความดีและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีให้แก่นักเรียน โรงเรียนจึงก าหนดการ เพิ่มคะแนนพฤติกรรมไว้ให้ส าหรับนักเรียนที่มีพฤติกรรมอันเป็นคุณงามความดีดังต่อไปนี้ รายการพฤติกรรม ระดับคะแนนพฤติกรรมที่ได้รับเพิ่ม ๑. เป็นตัวแทนของโรงเรียนในการเข้าร่วม การแข่งขันต่างๆ และได้รับรางวัล ระดับโรงเรียน ๑ คะแนนต่อรายการ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ๒ คะแนน ต่อรายการ ระดับจังหวัด ๓ คะแนนต่อรายการ ระดับภูมิภาค ๔ คะแนนต่อรายการ ระดับชาติ ๕ คะแนนต่อรายการ ๒. เก็บทรัพย์สินที่มีมูลค่า และน าส่งคืน เจ้าของได้ เพิ่มคะแนนพฤติกรรม ๕ คะแนน กรณีทรัพย์สินมีมูลค่าสูง เพิ่มคะแนน พฤติกรรม ๑๐ คะแนน ๓. สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียน เป็นที่ยอมรับ ของชุมชนและสังคม เพิ่มคะแนนพฤติกรรม ๑๐ คะแนน ๔. เข้าร่วมเป็นคณะท างานในการจัดกิจกรรม เพิ่มคะแนนพฤติกรรมรายการละ
~ ๒๐ ~ ต่างๆ ของชุมชน ๓ คะแนน ๕. ช่วยเหลือการท างาน เป็นประโยชน์แก่ หน่วยงานราชการ จนได้รับเกียรติบัตร หรือหนังสือชมเชย เพิ่มคะแนนพฤติกรรมรายการละ ๑๐ คะแนน ๖. สอบผ่านธรรมศึกษา ระดับธรรมศึกษา ชั้นตรี ๒ คะแนน ระดับธรรมศึกษา ชั้นโท ๓ คะแนน ระดับธรรมศึกษา ชั้นเอก ๕ คะแนน ทั้งนี้ นักเรียนสามารถสะสมคะแนนพฤติกรรมไว้ได้มากกว่า ๑๐๐ คะแนน ในทุกคุณลักษณะ โดยทางโรงเรียนจะมอบเกียรติคุณบัตร และทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีคะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มากที่สุด ในทุกๆปีการศึกษา และการเพิ่มคะแนนพฤติกรรมนี้ สามารถเพิ่มคะแนนให้แก่คุณลักษณะใดก็ได้ หรือจะ แบ่งสัดส่วนให้แก่หลายคุณลักษณะก็ได้ ข้อ ๓๕ การท าทัณฑ์บน จะพิจารณาด าเนินการส าหรับนักเรียนที่แสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์หรือ กระท าความผิดที่รุนแรง ซึ่งหากมิได้มีการห้ามปรามอย่างเด็ดขาดไว้ อาจก่อให้เกิดโทษทางกฎหมายอาญาหรืออาจ พ้นสภาพจากความเป็นนักเรียนต่อไป การท าทัณฑ์บนนั้นจะท าแยกเป็นรายกรณีความผิดและไม่เกี่ยวเนื่องกับ ความผิดกรณีอื่นๆ การท าทัณฑ์บนทุกครั้ง ให้ท าเป็นเอกสารหลักฐานตามแบบที่โรงเรียนก าหนดและให้กลุ่ม บริหารงานบุคคลเก็บรักษาไว้ โดยการรับรู้ของผู้อ านวยการโรงเรียนและผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องลงนามรับทราบข้อ ทัณฑ์บนร่วมกัน ผู้ปกครองนักเรียนมีหน้าที่ที่จะต้องควบคุมพฤติกรรมนักเรียนอย่างเข้มงวด เพื่อมิให้เกิดการ ละเมิดทัณฑ์บนนั้นอย่างเด็ดขาด หากพบว่ามีการละเมิดทัณฑ์บนเกิดขึ้นในภายหลังโรงเรียนจ าเป็นจะต้องเพิ่ม บทลงโทษแก่นักเรียน โดยให้เข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นพิเศษซึ่งผู้ปกครองจะต้องมีส่วนรับผิดชอบใน ค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการอบรมและสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ชั่วคราวให้เกิดการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนจนพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์นั้นหมดไป และหากยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมนักเรียนได้ โรงเรียนและผู้ปกครองจะต้องหารือร่วมกันที่จะปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางการเรียนใหม่ โดยไม่กีดกันการได้รับการศึกษาของนักเรียน บทเฉพาะกาล ข้อ ๓๖ กรณีรองผู้อ านวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงานบุคคล ผู้ช่วยผู้อ านวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงาน บุคคล หรือคุณครูซึ่งเป็นผู้มีอ านาจในการลงโทษตามระเบียบนี้ ไม่สามารถด าเนินการให้เป็นไปตามระเบียบได้ อันเนื่องด้วยเหตุผลความจ าเป็น หรือมีเหตุแห่งการกระท าความผิดของนักเรียนที่สมควรยกเว้นการลงโทษ ให้ท า รายงานเสนอผู้อ านวยการโรงเรียนเพื่อพิจารณาเป็นรายกรณีความผิดไป ข้อ ๓๗ ความใดตามระเบียบนี้ หากขัดแย้งต่อข้อกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องในระดับชั้นพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา พระราชก าหนด กฎกระทรวง ระเบียบกระทรวง แนวปฏิบัติของกระทรวงศึกษาธิการที่มีอยู่แล้ว หรือที่อาจตราขึ้น หรือที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงต่อไปในอนาคต ให้ยึดการปฏิบัติโดยปรับเปลี่ยนตามกฎหมาย เหล่านั้นเป็นหลัก มิให้เกิดข้อความที่ขัดแย้งกันจนปฏิบัติผิดกฎหมาย
~ ๒๑ ~ ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑ ลงชื่อ (นายวิศรุต แท้ประสาทสิทธิ์) ผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านแป้งวิทยา