๔๓
สำราญ มีแจ้ง (๒๕๕๖ : บทคัดย่อ) ได้จัดทำรายงานวิจัย เรื่องรายงานการวิจัยและพัฒนารูปแบบ
การพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษาแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานในโรงเรียนขนาดเล็ก ระยะที่ ๒ : จังหวัด
พษิ ณโุ ลก ไดด้ ำเนินการวิจัยและพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศกึ ษาแบบใช้โรงเรียนเป็นฐาน
ในโรงเรียนขนาดเล็ก พบว่าผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนของครูและการบริหารโรงเรียนครู
ทมุ่ เทความสามารถอยา่ งเต็มที่ เพ่ือใหก้ ารจดั การเรียนร้ทู ่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญให้ประสบความสำเร็จ เพราะครู
ได้รับความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอน การนำเสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาครูและ
ผู้บริหารสถานศึกษาแบบใช้โรงเรียนเป็นฐาน พบว่าโรงเรียนได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ของตนเอง โดยการ
วเิ คราะหจ์ ดุ แข็ง จดุ อ่อน โอกาสและอุปสรรค นำมาสกู่ ารจัดทำแผนยุทธศาสตร์ทต่ี รงประเด็นผลการสร้างและ
พัฒนารูปแบบการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษาแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานในโรงเรียนขนาดเล็กมี
กระบวนการพัฒนาครูและผู้บริหาร เริ่มจากวิเคราะห์บริบทของโรงเรียน แล้วนำมาจัดทำแผนพัฒนาครูและ
ผู้บริหาร โดยแผนนั้นมีการเรียนรูจ้ ากภายในโรงเรียนเป็นสว่ นใหญ่และการเรียนรู้จากภายนอก และผลการใช้
รูปแบบการพัฒนาครู และผู้บริหารสถานศึกษาออกแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานพบว่าคณะวิจัยและโรงเรียนได้มี
การดำเนินการพัฒนาครูและผู้บริหารตามแผนที่กำหนดไว้ ภายหลังการอบรมครูได้มีการนำสาระที่ได้จาก
การอบรมไปใช้เพื่อการพัฒนาการเรียนการสอนผลการศึกษาความคิดเห็นผู้บริหารและครูเกี่ยวกับการพัฒนา
ครูและผู้บริหารสถานศึกษาแบบโรงเรียนเป็นฐานฯ พบว่าผู้บริหารและครูมีความพึงพอใจต่อ
กระบวนการพัฒนาในระดับมากที่สุดผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนหลังเข้าร่วมกิจกรรม พบว่านักเรียนมีการ
เปล่ยี นแปลงดา้ นพฤตกิ รรม มีความกระตอื รอื ร้น ความขยนั ความรับผิดชอบ รว่ มมือกันทำงาน มจี ติ สาธารณะ
ใฝ่เรียนรู้ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น และความคิดเห็นที่มีต่อโครงการพัฒนาครูและผู้บริหารครูและ
ผู้บริหารสถานศึกษามีวิธีและกระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้หลากหลาย ทำให้นักเรียน
เกิดความสนใจและตั้งใจมากขึ้นวันเวลาที่เข้าร่วมโครงการ ภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของครูและผู้บริหาร
สถานศึกษามากขึ้น มีงานอื่นแทรกเข้ามาในระหว่างการอบรม ทำให้นำความรู้จากโครงการมาปฏิบัติได้ไม่ดี
เท่าที่ควรสิ่งที่ได้รับจากการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้การดำเนินงานใน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีวิธีการที่หลากหลายมากขึ้นและข้อเสนอแนะสำหรับการนำไปใช้ขยายผล
โครงการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษาในระยะที่ ๓ พบว่า ต้องให้โรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการทราบ
วิธีการและกระบวนการในการทำงานเพราะต้องอาศัยความตระหนักและความตั้งใจในการทำงานเป็นอย่าง
มากจึงจะทำใหก้ ารทำงานเปน็ ไปตามวัตถุประสงค์
วสันต์ ปานทอง และคณะ (๒๕๕๖ : บทคัดย่อ) ได้จัดทำวิจัยเรื่องรูปแบบการพัฒนาครูเพื่อศิษย์ใน
สถานศกึ ษา สังกดั สํานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษามีจุดม่งุ หมายเพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูเพื่อ
ศิษย์ในสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา มีขั้นตอนการวิจัย ๓ ขั้นตอน ขั้นตอนที่
๑ การศึกษาคุณลักษณะและวิธีการพัฒนาครูเพื่อศิษย์ในสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษา ใช้วิธีวิเคราะห์เอกสารและสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน ๑๒ คน ขั้นตอนที่ ๒ สร้างรูปแบบ
การพฒั นาครเู พอื่ ศิษย์ในสถานศกึ ษา สังกัดสาํ นักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา โดยนําผลการศึกษาจาก
ขนั้ ตอนท่ี ๑ มาใช้แลว้ ตรวจสอบความเหมาะสม โดยการประชมุ ระดมความคดิ ของผู้ทรงคุณวุฒิจาํ นวน ๙ คน
ข้นั ตอนที่ ๓ ประเมินความเปน็ ไปได้และความมปี ระโยชน์ของรปู แบบการพฒั นาครูเพื่อศษิ ย์ที่สร้างข้ึน โดยจัด
ประชุมสัมมนาผู้บรหิ ารการศึกษา ผู้อํานวยการกลุ่ม ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน จํานวน ๔๐ คน แล้ว
วเิ คราะหข์ อ้ มลโดยค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ผลการวจิ ยั ปรากฏ ดังนี้
๑. คุณลักษณะครูเพื่อศิษย์ในสถานศึกษาสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ประกอบด้วยคณุ สมบัติท่ีสาํ คญั ๕ ด้าน ไดแ้ ก่ ดา้ นคณุ ธรรม มคี ุณลกั ษณะ ๑๒ ประการ ด้านการจดั การเรียนรู้
๔๔
มีคณุ ลกั ษณะ ๑๕ ประการ ด้านความรู้และทักษะ มคี ณุ ลกั ษณะ ๑๒ ประการ ด้านเครือขา่ ยการจัดการเรียนรู้
มีคณุ ลกั ษณะ ๕ ประการ และดา้ นการมขี อ้ มูลเกีย่ วกับคุณลักษณะและทักษะผเู้ รียน มคี ณุ ลกั ษณะ ๔ ประการ
กระบวนการพัฒนาครูเพื่อศิษย์ในสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษามกี ระบวนการ
๕ ขั้นตอน คือ วินิจฉัยความต้องการจําเป็น กําหนดจุดประสงค์และขอบข่ายการพัฒนา กําหนดวิธีการพัฒนา
ดาํ เนนิ การพฒั นา และประเมนิ ผลการพฒั นา
๒. รูปแบบการพัฒนาครูเพื่อศิษย์ในสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาท่ี
ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีองค์ประกอบสําคัญ๓ ส่วนคือ องค์ประกอบเชิงระบบ กระบวนการพัฒนา และระดับการ
พัฒนาในองค์ประกอบเชิงระบบนั้น มุ่งสู่ผลผลิตซึง่ เน้นคุณลกั ษณะครูเพื่อศิษย์ ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านการปฏิบัติ
ตน ด้านความรู้และทักษะ และด้านการปฏิบัติงาน ที่ส่งผลไปยังคุณลักษณะและทักษะผู้เรียน ส่วน
กระบวนการพฒั นาครูเพื่อศิษย์มี ๕ ขัน้ ตอน คอื วินิจฉยั ความต้องการจาํ เป็น กําหนดจุดประสงค์และขอบข่าย
กําหนดวิธีการพัฒนา ดําเนินการพัฒนา ประเมินผลการพัฒนา และระดับการพัฒนาครูเพ่ื อศิษย์ ๓ ระดับ
ไดแ้ กร่ ะดับบคุ คล ระดับกลุม่ และระดับองค์การ
๓. ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาครูเพื่อศิษย์ในสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษา พบว่ามคี วามเป็นไปได้ในการนาํ ไปปฏบิ ัตอิ ยใู่ นระดบั มาก และมีประโยชนอ์ ยูใ่ นระดับมากท่ีสุด
๘.๒ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนเิ ทศแบบชี้แนะสอนงาน
และการเปน็ พ่ีเลย้ี ง
วชิรา เครือคำอ้าย และ ชวลิต ขอดศิริ (๒๕๖๒ : บทคัดย่อ) ได้จัดทำวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบ
การนิเทศโดยใช้กระบวนการชี้แนะและระบบพี่เลี้ยงเพื่อส่งเสริมศักยภาพการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ๑. ความ
ต้องการจำเปน็ ของการพัฒนารูปแบบการนิเทศฯ ๒. การพฒั นารูปแบบการนเิ ทศฯ ๓. การทดลองรปู แบบการ
นิเทศฯ๔. การประเมินรูปแบบการนิเทศโดยใช้กระบวนการชี้แนะและระบบพี่เลีย้ ง เพื่อส่งเสริมศักยภาพการ
จัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดเชียงใหม่ เม่ือ
รูปแบบการนเิ ทศผ่านผเู้ ชย่ี วชาญไดน้ ำมาทดลองใช้กบั สถานศกึ ษาขนาดเลก็ ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ทจี่ าก
การสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) กลุ่มตัวอย่างรวม จำนวน ๖๐ คน ประกอบด้วย
ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นิเทศก์ และผู้รับการนิเทศ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบบันทึกผลการ
วิเคราะห์เอกสารแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบประเมินแผนการจัดการ
เรียนรู้ แบบบันทึกผลการชี้แนะและระบบพี่เลี้ยง แบบบันทึกการรับการนิเทศ แบบตรวจสอบพฤติกรรมการ
ชี้แนะและระบบพี่เลี้ยง และแบบประเมินรูปแบบการนิเทศฯ นำผลมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการ
วิเคราะห์เนื้อหาและพรรณนาความ และวเิ คราะหข์ อ้ มูลเชงิ ปรมิ าณ โดยใช้สถติ ิ ไดแ้ ก่ ค่ารอ้ ยละ คา่ เฉล่ีย และ
สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ไดร้ ูปแบบการนิเทศ ชอ่ื ว่า “ดบั เบล้ิ พแี อลซเี อ พลสั (PPLCA Plus)
ประกอบด้วย ๓ ส่วน คือ หลักการ เงื่อนไขสำคัญ และองค์ประกอบของรูปแบบมี ๕ องค์ประกอบ คือ ๑. ขั้น
เตรียมความรู้ก่อนการนิเทศ ๒. ขั้นวางแผนและออกแบบการนิเทศ ๓. ขั้นเรียนรู้และแลกเปลี่ยนในการ
ปฏบิ ัตกิ ารนเิ ทศ ๔. ขั้นการนิเทศดว้ ยกระบวนการช้ีแนะและระบบพ่เี ล้ียง (Coaching and Mentoring: C) ๕.
ขั้นสะทอ้ นคิดหลังการนิเทศ (After Action Review: A) และเกดิ ขอ้ ค้นพบ (Body of Knowledge)
วารุณี ลัภนโชคดี (๒๕๖๐) ได้จัดทำวิจัยเรื่องรูปแบบการพัฒนาครูกลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยโดย
ใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring)มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์รูปแบบการ
พัฒนาครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring)
แหล่งข้อมูลในการวิจัยประกอบด้วย ๑. รายงานการวิจัยประเมินโครงการการพัฒนาครูโดยใช้ กระบวนการ
๔๕
สรา้ งระบบพ่ีเล้ียง (Coaching and Mentoring) จำนวน ๙ เล่มของสำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา
๙ แหง่ และ ๒) ผทู้ รงคุณวฒุ ิจำนวน ๕ คน ประกอบด้วย ศกึ ษานเิ ทศกท์ เี่ ก่ียวข้องกบั การพฒั นาครู ๒ คน และ
ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยที่มีความเชี่ยวชาญในการสอนและการวิจัย ๓ คน การวิเคราะห์ข้อมูลใน
การวจิ ยั ประกอบด้วยการวเิ คราะหค์ วามถี่ รอ้ ยละ และการวเิ คราะหเ์ น้อื หาผลการวิจยั ท่ีสำคัญ มดี ังนี้
๑. รูปแบบการพัฒนาครกู ลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยฯ ประกอบด้วยการดำเนินงาน องค์ประกอบ
ได้แก่ องค์ประกอบที่หนึ่ง องค์ประกอบด้านการเตรียมการก่อนการพัฒนาครู ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย ๕
กิจกรรม ได้แก่ การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นในการพัฒนาครู การศึกษาความพร้อมในการ
เป็นสถาบันอุดมศึกษา คูพ่ ฒั นาของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตรก์ ารคัดเลือกสถานศึกษาและ
ครูเพื่อเข้าร่วมกระบวนการพัฒนา การจัดทำแผนพัฒนาครู และการจัดทำเอกสารประกอบการพัฒนาครู
องค์ประกอบที่ ๒ องค์ประกอบด้านกระบวนการพัฒนาครู ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย ๒ กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมฝึกอบรม (Training) และกิจกรรมพี่เลี้ยงและการชี้แนะ (Coaching and Mentoring) และ
องค์ประกอบที่ ๓ องค์ประกอบด้านกลไกการพัฒนาครู ประกอบด้วยกลไกหลัก ๘ กลไก ได้แก่ การร่วมมือ
รวมพลังกันทำงานเป็นทีม การมีเป้าหมายและการสร้างความเข้าใจร่วมกันการเห็นความสำคัญและการ
สนับสนุนของผู้บริหารโรงเรียน การสร้างแรงบันดาลใจและความเชื่อมั่น การรู้จักและยอมรับซึ่งกันและกัน
การเรียนรู้ ร่วมกันแบบกัลยาณมิตร การวิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขปัญหาในการพัฒนาครู และการให้ข้อ มูล
ป้อนกลับ ครูภาษาไทยที่เข้าร่วมการพัฒนาและผ่านเกณฑ์ทั้ง ๑๕๐ คน ผ่านการประเมินผลสัมฤทธิ์การเข้า
รว่ ม การพฒั นาทกุ คน
๒. รูปแบบการพัฒนาครูทำให้เกิดผลกระทบ ๖ ด้าน ได้แก่ ๑. การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยมิติ
ความร่วมมือจากสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาและสถาบันอุดมศึกษา ๒. การค้นพบครูต้นแบบ การจัดการ
เรียนการสอน ๓. สังคม ชุมชน เครือข่ายการเรียนรู้ ระหว่างครูตา่ งโรงเรียน ๔. ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และ
ศึกษานิเทศก์ ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถ ที่ตรงกับสายงาน ๕. ครูผู้สอนได้พัฒนา การจัดการเรียนรู้และ
การวิจัยในชั้นเรียน และ ๖. นักเรียนได้รับการพัฒนาผลการเรียนรู้ทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะและ
กระบวนการ และ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๓. รูปแบบการพฒั นาครฯู มีประสทิ ธิภาพ เนอ่ื งจากองค์ประกอบ กจิ กรรมยอ่ ยในแต่ละองค์ประกอบ
และความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบในรูปแบบฯ มีความครบถ้วน ครอบคลุม และสอดคล้องกับการ
ดำเนินงานพัฒนาครู โดยบรรลุมาตรฐานทั้ง ๓ ด้าน ได้แก่ ความเป็นประโยชน์ ความเหมาะสม และ ความ
เป็นไปได้
วสิ ุทธิ์ วจิ ิตรพชั ราภรณ์ และคณะ (๒๕๕๖ : บทคดั ยอ่ ) ได้รายงานการวิจยั ประเมินโครงการ พฒั นาครู
โดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring การประเมินครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัย
ประเมินโครงการ “การพัฒนาครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ของสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๒ โดยใช้กระบวนการสร้าง ระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring” ในด้าน
บริบท ด้านปัจจัยนําเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลลัพธ์ของโครงการโดยในด้านนี้ได้ทําการประเมินใน ๔
ดา้ น คอื ด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความย่ังยนื และด้านการถา่ ยทอดสง่ ต่อ ประชากรเป้าหมายท่ีใช้
ในการวิจยั ครัง้ นี้ประกอบดว้ ยบุคคล จํานวน ๓ กลุ่ม คือ ๑. กลุ่มครู ผู้บริหารสถานศกึ ษา และศึกษานิเทศก์ท่ี
เข้าร่วมโครงการ จํานวน ๙๙ คน โดยเป็นครูผู้สอนใน ๕ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และสังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม จํานวน ๘๔ คน กลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา จํานวน ๑๐ คน และกลุ่ม ศึกษานิเทศก์ จํานวน ๕ คน
๒. ผู้ประสานงานจากสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๒ จํานวน ๒ คน และ ๓.
๔๖
อาจารย์นเิ ทศก์จากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ จํานวน ๘ คน เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในการประเมิน
ประกอบด้วย ๑. แบบสอบถามความต้องการจําเป็นในการพัฒนาครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์
๒. ประเด็นการสนทนากลุ่ม ๓. แบบตรวจสอบรายการการจัดการ เรียนการสอนของครู ๔. แบบตรวจสอบ
รายการของผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ ๕. แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อกระบวนการ
Coaching and Mentoring และ ๖. แบบประเมินคุณภาพงานวจิ ยั และ รายงานตามภาระหน้าที่ของผู้บริหาร
สถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ การวิเคราะห์ข้อมูลทําโดยการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน และการวิเคราะห์เน้อื หา ผลการประเมินพบวา่
๑. ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการ พบว่า ครูส่วนใหญ่มีปัญหาในด้านการจัดการเรียน การ
สอน การพัฒนาสอ่ื และเทคโนโลยี การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และการทําวิจยั ในชั้นเรยี นเพื่อพัฒนาการ
เรียนการสอน และในประเด็นความพร้อมของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในการเป็นคู่
พัฒนา พบว่า คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีความพร้อมในการพัฒนาครู ผู้บริหาร
สถานศกึ ษา และศกึ ษานิเทศก์ตามความต้องการของสํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา ปทมุ ธานี เขต
๒
๒. ผลการประเมินด้านปัจจัยนําเข้าของโครงการ พบว่า ทางสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๒ ได้ดําเนินการพิจารณาคัดเลือกสถานศึกษา ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และ
ศึกษานิเทศก์เข้าร่วมโครงการอย่างเป็นระบบตามหลักเกณฑ์ที่ได้กําหนดขึ้นอย่างเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับ
วัตถุประสงค์ของโครงการ สําหรับแผนพัฒนาครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์โดยใช้กระบวนการ
สร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring พบว่า กําหนดให้มีการพัฒนาใน ๒ ลักษณะคือ ช่วงแรกเป็น
การฝึกอบรม จํานวน ๒ วนั และชว่ งท่สี อง เป็นการ Coaching and Mentoring จาํ นวน ๓ คร้งั
๓. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการ พบว่า การดําเนินงานโครงการเป็นไปตาม
แผนพัฒนาครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ที่ได้กําหนดไว้ สําหรับในประเด็นของปัญหาและ
อุปสรรคที่เกิดขึ้น ขณะดําเนินงานโครงการ พบว่า ครูส่วนใหญ่ยงั ขาดความมั่นใจในการทําวิจัยในช้ันเรียน ใช้
วธิ กี ารสอนและส่อื การเรียนรทู้ ี่ไมห่ ลากหลาย
๔. ผลการประเมนิ ด้านผลลัพธ์ของโครงการ พบว่า ผลที่ไดจ้ ากการดําเนินงานโครงการสว่ นใหญ่เป็นที่
น่าพึงพอใจ โดยผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่เห็นว่า ได้ประโยชน์หรือเกิดผลทางบวกมากกว่าทางลบ สําหรับ
การประเมนิ ในดา้ นประสิทธิผล พบวา่ ครู ผบู้ ริหารสถานศึกษา และศกึ ษานเิ ทศกส์ ว่ นใหญ่เข้ารับการฝึกอบรม
และพัฒนาตามระยะเวลาและมีผลงานเป็นไปตามเกณฑ์ที่กําหนด โดยผลงานส่วนใหญ่มีคุณภาพอยู่ในระดับ
พอใช้ถึงดีเยี่ยม และเพื่อให้การดําเนินงานโครงการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีการถ่ายทอด ส่งต่อและเ กิดความ
ยั่งยืน ทางสํานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาฯ จะนํารูปแบบหรือกระบวนการดําเนินงาน โครงการในแต่ละกลุ่มไป
ดาํ เนนิ การตอ่ กับโรงเรยี นในสงั กัด
สมเกียรติ ทานอก และคณะ (๒๕๕๖ : บทคัดย่อ) ได้พัฒนาครูโดยใชก้ ระบวนการสร้างระบบพีเ่ ล้ยี ง
Coaching and Mentoring สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต ๑ การวจิ ยั ครั้งน้ีเป็น
การวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาผลการพัฒนาครูโดยใช้ กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง
Coaching and Mentoring สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต ๑ และมี
วัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อ ๑. ศึกษาสมรรถนะพื้นฐานด้านความรู้และด้านการปฏิบัติงานของผู้บริหาร
ศึกษานิเทศก์ และครูในโครงการพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring
และ ๒. เพอื่ เปรยี บเทยี บสมรรถนะพนื้ ฐานด้านความรู้และด้านการปฏบิ ัตงิ านของครู กอ่ นและหลังการเข้าร่วม
โครงการพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring ๓. เพื่อศึกษาความรู้
๔๗
ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการ สร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring ของ
ผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู ๔. เพื่อศึกษา ความสามารถในการสอนงาน (Coaching) และให้คำแนะนำ
(Mentoring) ของผู้บริหารศึกษานิเทศก์ และคณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ๕. เพื่อศึกษา
ความสามารถในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ของครู ๖.เพือ่ ศกึ ษาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่
ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ ๗. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อ การพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่
เลี้ยง Coaching and Mentoring ผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน ๖ คน
ศึกษานิเทศก์ จำนวน ๔ คน และครู จำนวน ๙๐ คน ที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
นครราชสมี า เขต ๑ ผลการวจิ ยั ปรากฏผลดังน้ี
๑. หลังเขา้ รว่ มโครงการผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู มสี มรรถนะด้านความรู้อยู่ในระดบั ดี และด้าน
การปฏบิ ตั งิ านผู้บริหาร ศกึ ษานิเทศก์ และครูมสี มรรถนะดา้ นการปฏบิ ตั งิ านอยู่ในระดบั ดี
๒. สมรรถนะพื้นฐานด้านความรู้ของครูหลังเข้าร่วมโครงการสูงกว่าก่อนเข้าร่วมโครงการอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ ส่วนสมรรถนะพื้นฐานด้านการปฏิบัติงานของครูหลังเข้าร่วมโครงการสูงกว่า
ก่อนเข้าร่วมโครงการอย่างมนี ยั สำคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ .๐๑
๓. ผู้บริหารมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง
Coaching and Mentoring อยใู่ นระดบั ต่ำ ศกึ ษานเิ ทศกม์ ีความร้คู วามเข้าใจ อยูใ่ นระดับปานกลาง และ ครูมี
ความรู้ความเข้าใจอยู่ในระดับปานกลาง และโดยภาพรวมผู้ร่วมโครงการพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้าง
ระบบพเ่ี ล้ียง Coaching and Mentoring มีความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับการพัฒนาครู อย่ใู นระดับ ปานกลาง
๔. เมื่อส้นิ สุดโครงการผู้บรหิ ารมีความสามารถเก่ียวกับการสอนงานและให้คำแนะนำโดย ประเมินอยู่
ในระดับดีเยี่ยม ประเมินโดยครอู ยู่ในระดับดี ศึกษานิเทศก์ประเมินความสามารถของตนเอง เกี่ยวกับการสอน
งานและให้คำแนะนำอยู่ในระดบั ดี ประเมนิ โดยครูอยู่ในระดับดี
๕. ครูสว่ นใหญม่ ีความสามารถในการออกแบบการจดั การเรยี นรู้ในระดับดี
๖. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ท่ี ครู
กำหนด และสว่ นใหญ่ผ่านเกณฑท์ ่ีครูกำหนดไว้
๗. ผ้บู ริหาร ศกึ ษานเิ ทศก์ และครมู ีความพงึ พอใจตอ่ โครงการในภาพรวมอย่ใู นระดับมาก
ธรี วี ทองเจอื (๒๕๖๐ : บทคัดยอ่ ) ได้ทำการวจิ ยั เร่ือง การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ยใ์ นศตวรรษที่ ๒๑ มี
ประเด็นที่ควรคำนึงถึงตามพลวัตการเปลี่ยนแปลง คือ มิติด้านร่างกาย คนไทยยุคใหม่ต้องเป็นผู้มีสุขภาพ
ร่างกายทีส่ มบูรณ์แขง็ แรง มกี ารพัฒนาการในด้าน รา่ งกายและสติปัญญาอย่างสมบูรณต์ ามเกณฑ์ในแต่ละช่วง
วยั มติ ดิ า้ นจิตใจ คนยุคใหม่ตอ้ งเป็นผู้ทีร่ ูจ้ ักและ เขา้ ใจตนเอง เข้าใจความรสู้ ึกของผู้อ่ืน เข้าใจสถานการณ์การ
เปลี่ยนแปลงและสภาพแวดล้อมต่างๆ รอบตัว ได้เป็นอย่างดี มิติด้านความรู้ คนยุคใหม่ต้องเป็นผู้มีความรู้ลึก
ในแก่นสาระของวิชา สามารถรู้รอบตัวในเชิง สหวิทยาการ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและแสวงหาความรู้
อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มิติด้านทักษะความ สามารถ คนไทยยุคใหม่ต้องเป็นผู้ที่มีทักษะในด้านการคิด
สร้างสรรค์ มที กั ษะในการส่ือสาร ทักษะภาษาต่าง ประเทศ ทกั ษะการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทักษะทาง
สงั คม ทักษะการอาชีพ ทักษะทางอารมณ์ และ ทกั ษะการจดั การท่ีดี
ศุภวรรณ ศรีเกตุ (๒๕๕๒ : บทคัดย่อ) ได้ทำการวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างระบบพี่เลี้ยงกับการ
ปรับตวั ในการทำงานของพนักงาน ผลการวจิ ัยพบวา่ ๑. พนักงานสว่ นใหญ่มรี ะดับการปรบั ตัวในการทำงานอยู่
ระดับมาก ๒. ระบบพเี่ ลีย้ งในองค์การเป็นแบบเดี่ยว มหี ัวหน้างานเปน็ ผจู้ ับคู่ระหวา่ งพเ่ี ล้ียงกับผู้ได้รับการดูแล
ลักษณะระบบพี่เลี้ยงมีทั้งแบบที่องค์กรมีการกำหนดเป็นนโยบายอย่างชัดเจน และแบบพนักงานอาวุโสให้
คำแนะนำแก่พนักงานใหม่ พนกั งานผู้ได้รับการดแู ลสว่ นใหญ่อยู่ในระบบพ่ีเล้ยี งเป็นเวลา ๗-๑๒ เดือน พเ่ี ลี้ยงมี
๔๘
ทักษะของพี่เลี้ยงอยู่ในระดบั ปานกลาง มีคณุ ลกั ษณะของพ่ีเล้ียงอยู่ในระดับมาก และได้การดูแลมีคุณลักษณะ
ผู้ได้รับการดแู ลอยู่ในระดับมาก ๓. พนักงานที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และลักษณะงานแตกต่างกัน มีการ
ปรบั ตวั ในการทำงานานไม่แตกต่างกัน ๔.ทักษะของพี่เลยี้ ง คุณลักษณะของพ่ีเลี้ยง คณุ ลกั ษณะของผู้ได้รับการ
ดูแล มคี วามสมั พันธ์ทำงานบวกกับการปรับตวั ในการทำงานานของพนกั งานอย่างนยั สำคัญทร่ี ะดบั .๐๑
สุวดี อุปปินใจและคณะ (๒๕๕๓ : บทคัดย่อ) ได้ทำการวิจัยเรื่องรูปแบบการใช้ระบบพี่เลี้ยงและการ
สอนงานสำหรับการเตรียมความพร้อมและการพัฒนาอย่างเข้ม ของครูผู้ช่วยในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดเชียงรายผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการใช้ระบบพี่เลี้ยงและการสอนงาน
สำหรับการเตรียมความพร้อมและการพัฒนาอย่าง เข้มของครูผู้ช่วยในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดเชียงราย คือ GSMTP Model ประกอบด้วย๑) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ ๒)
หลักการของรูปแบบ ๓) ระบบระบบพี่เลี้ยงและการสอนงานองค์ประกอบ ในด้าน (๑) ปัจจัยนำเข้า (๒)
กระบวนการ (๓) ผลผลิต และ (๔) ข้อมูลย้อนกลับ ๔) แนวทางการนำรูปแบบไปใช้และ ๕) เงื่อนไข
ความสำเร็จของการนำรูปแบบไปใช้ การประเมนิ รปู แบบ ในการทดลอง โดยการประเมินสภาพ การดำเนินการ
ตามรูปแบบพบว่า หลังการใช้รูปแบบ ครูผู้ช่วยประสบผลสำเร็จทำให้ครูผู้ช่วยมีมาตรฐานการปฏิบัติตน และ
มาตรฐานการปฏิบัติงานมีผลการประเมินสูงขึ้น ครูผู้ช่วยและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ใน
ระดับมาก ส่วนการประเมินโดยการสัมมนาอิงผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิเห็นว่า มีประสิทธิภาพตาม
มาตรฐานด้านการใช้ ประโยชน์มาตรฐานด้านความเป็นไปได้และการนำไปใช้และมาตรฐานด้านความ
เหมาะสมอยใู่ นระดับมาก
บทที่ ๓
๔๙
วิธกี ารดำเนินการศกึ ษา
รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอปา่ แดด จังหวัดเชยี งราย ผ้ศู ึกษามี
ข้ันตอนในการดำเนนิ การศกึ ษา ดังน้ี
ข้ันตอนการดำเนินการ กระบวนการ (PDCA) ผลทไี่ ดร้ ับ
ข้นั ตอนท่ี ๑ - ศึกษาและวิเคราะห์เอกสาร งานวิจัยท่ี รูปแบบการพฒั นาครูเก่งครูดี โดยใช้
สร้างรูปแบบการพฒั นาครูเก่งครูดี โดย เกี่ยวขอ้ ง กระบวนการนิเทศแบบช้ีแนะสอนงาน
ใช้กระบวนการนิเทศแบบช้ีแนะสอน - สัมภาษณผ์ เู้ ช่ียวชาญ และการเป็ นพี่เล้ียง (Coaching and
งานและการเป็ นพ่ีเล้ียง (Coaching and - ร่างรูปแบบการพฒั นาฯ Mentoring Supervisor)
Mentoring Supervisor) - ตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการ
พฒั นาฯ
ข้นั ตอนท่ี ๒ ดาเ นิ นก ารจัดกิ จก รรมตามรู ปแ บบก าร สมรรถนะครู ท้ังก่อนและหลังการ
พฒั นาครูเก่งครูดีโดยใชก้ ระบวนการ พฒั นาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการ
การทดลองใชร้ ูปแบบการพฒั นาครูเก่ง นิเทศแบบช้ีแนะสอนงานและการเป็ นพ่ี นิเทศแบบช้ีแนะสอนงานและการเป็ น
ครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบ เ ล้ี ย ง (Coaching and Mentoring พ่ี เ ล้ี ย ง (Coaching and Mentoring
ช้ีแนะสอนงานและการเป็ นพี่เล้ียง Supervisor) Supervisor)
(Coaching and Mentoring Supervisor)
ข้นั ตอนที่ ๓ - การประเมินประสิทธิภาพนวัตกรรม - ผลการประเมนิ ประสิทธิภาพ
การศกึ ษาโรงเรียนป่ าแดดวิทยาคม นวัตกรรมการศึกษาโรงเรี ยนป่ าแด
การประเมินรูปแบบการพฒั นาครูเก่งครู - การประเมินคุณภาพนวตั กรรมการศึกษา วิทยาคม
ดี โดยใชก้ ระบวนการนิเทศแบบช้ีแนะ โรงเรียนป่ าแดดวิทยาคม - ผลการประเมินคุณภาพ นวัตกรรม
สอนงานและการเป็นพ่ีเล้ียง (Coaching - การประเมนิ คุณลกั ษณะครูเกง่ ครูดี การศึกษา
and Mentoring Supervisor) - การสารวจผลงานครูเก่งครูดี ก่อนและ - ผลการประเมนิ คุณลกั ษณะครูเกง่ ครูดี
หลงั การพฒั นาครูเกง่ ครูดี - ผลการประเมนิ ผลงานครูเกง่ ครูดี
- การประเมินความพึงพอใจของครูและ - ระดับความพึงพอใจของครู และ
ผบู้ ริหาร ผบู้ ริหาร
แผนภาพที่ ๗ ขน้ั ตอนการดำเนินการศึกษา
๕๐
ขั้นตอนที่ ๑ การดำเนินการสร้างรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอน
งานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่า
แดด จังหวัดเชียงราย ในการสร้างรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอน
งานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่า
แดด จังหวดั เชียงราย ผูศ้ ึกษาไดด้ ำเนินการแบ่งออกเป็น ๔ ขัน้ ตามลำดบั ดังนี้
ขั้นท่ี ๑ ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และ
ผู้ปกครองที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนและการจัดการศึกษา ศึกษาทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อ
นำไปสู่การพฒั นาครูเกง่ ครูดี โดยใชก้ ระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเปน็ พี่เล้ยี ง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชยี งราย
๑.๑ ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของครูและบุคลกร นักเรียน และผู้ปกครองที่มีตอ่
การจัดการเรียนการสอนและการจัดการศึกษาของโรงเรียน และศึกษาและวิเคราะห์สภาพและปญั หาของงาน
วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน วิเคราะห์ผลการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กำหนดจากเอกสารรายงานผลการ
ปฏิบัติงานของ ๔ กลุ่มบริหารงาน รวมทั้งทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ รายงานผลการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
ปีการศึกษา ๒๕๖๒ และปีการศึกษา ๒๕๖๓ รายงานผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้น
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ถึงชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ และภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศึกษา
๒๕๖๓ และผลการประเมินครูเก่งครูดี ผลการสำรวจผลงานของครูและนักเรียนโรงเรียนป่าแดดวิทยาคมและ
ผลงานงานครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรยี นป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวัดเชยี งราย
๑.๒ ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและวิเคราะห์จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กับการปฏิรูป
การศึกษา แนวทางการพัฒนาครูให้เก่งและดี ตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัฒนธรรมองค์กรของโรงเรียนป่าแดด
วทิ ยาคม อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชยี งราย
ขนั้ ท่ี ๒ การสัมภาษณผ์ ู้เช่ยี วชาญเก่ียวกบั การสร้างรปู แบบการพฒั นาครเู ก่งครดู ี ใช้รปู แบบการพฒั นา
ครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring
Supervisor) โรงเรียนปา่ แดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวัดเชียงราย
๒.๑ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จํานวน ๕ คน ซึ่งได้ด้วยการเลือกแบบเจาะจง
(Purposive Sampling) โดยกําหนดเกณฑ์ในการเลือกไว้ดังนี้ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเกี่ยวกับการ
บริหารโรงเรยี น มีประสบการณด์ ้านการบริหารจัดการ การศกึ ษาและมคี วามเตม็ ใจให้ความคิดเหน็ ในเร่ืองท่ีทํา
วิจยั ซึ่งได้แก่
๒.๑.๑ นายทองปอนด์ สาดอ่อน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
เช่ียวชาญสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๓๖
๒.๑.๒ นางสาวจีระพันธ์ อุดมลาภ อดีตผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ โรงเรียนวิทยาศาสตร์
จฬุ าภรณร์ าชวทิ ยาลัย เชยี งราย
๒.๑.๓ ดร.ธวชั ชมุ ชอบ อดีตผ้อู ำนวยการเชีย่ วชาญ โรงเรียนสามคั คีวิทยาคม อ.เมอื ง จ.
เชียงราย
๒.๑.๔ ดร.ทวีป วงศช์ าลีกลุ ผอู้ ำนวยการเชยี่ วชาญ โรงเรยี นแม่เจดีย์วิทยาคม อ.เวียง
ป่าเปา้ จ.เชยี งราย
๒.๑.๕ ดร.สมนึก นาห้วยทราย รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๔
๕๑
๒.๒ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยผู้ศึกษาได้นําผลการศึกษาและสังเคราะห์
เอกสาร ได้แก่ แบบประเมินประสิทธิภาพนวัตกรรมการศึกษาโรงเรยี นป่าแดดวิทยาคม แบบประเมินคุณภาพ
นวัตกรรม การศึกษาโรงเรยี นป่าแดดวิทยาคม โดยใชก้ ระบวนการนเิ ทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย มา
กําหนดเป็นกรอบในการสร้างแบบสัมภาษณผ์ ูเ้ ชยี่ วชาญ
๒.๓ การเก็บรวบรวมข้อมูลผลการประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี ทั้งรูปแบบการประเมิน
คุณลักษณะครูเก่งครูดี แบบสำรวจผลงานครูเก่งครูดีก่อนและหลังการพัฒนาครูเก่งครูดี แบบประเมินผลงาน
ครูและแบบประเมินความพึงพอใจของครูและผู้บริหาร ผู้ศึกษาได้ทําหนังสือถึงผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอความ
อนุเคราะห์เก็บรวบรวมข้อมลู ตามประเดน็ การสนทนาของผ้เู ชย่ี วชาญ จาํ นวน ๕ คน
๒.๔ การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ศึกษาดําเนินการสังเคราะห์ผลแบบการสัมภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญเพอื่
สรุปเปน็ ประเด็น
ขนั้ ท่ี ๓ การยกรา่ งรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบช้ีแนะสอนงานและการ
เป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัด
เชียงราย ผู้ศึกษานําผลการศึกษาและสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยนําผลการสัมภ าษณ์
ผเู้ ชี่ยวชาญเกยี่ วกบั การพฒั นาศักยภาพทางวิชาการของนักเรียนใหเ้ ก่ง ดี กล้า มากําหนดเป็นกรอบในการร่าง
รูปแบบการสร้างรูปแบบการพฒั นาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชแ้ี นะสอนงานและการเป็นพี่เล้ียง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย โดย
จัดทําเป็นรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี นป่าแดดวิทยาคม
อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชียงราย
ขั้นที่ ๔ การตรวจสอบความตรงของรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบ
ชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอปา่ แดด จังหวดั เชียงราย
๔.๑ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญจํานวน ๕ คน และ ครู จํานวน ๓๑ คน รวม
ทั้งสิน้ จํานวน ๓๖ คน การได้มาของกลมุ่ ผูใ้ หข้ อ้ มูลได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
๔.๒ เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ได้แก่
๔.๒.๑ แบบประเมินประสิทธิภาพนวัตกรรมการศึกษาโรงเรียนป่าแดดวิทยาคม โดยใช้
กระบวนการนิเทศแบบชแ้ี นะสอนงานและการเป็นพ่ีเลย้ี ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี น
ป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชยี งราย
๔.๒.๒ แบบประเมินคุณภาพนวัตกรรมการศึกษาโรงเรียนป่าแดดวิทยาคมโดยใช้
กระบวนการนเิ ทศแบบชีแ้ นะสอนงานและการเป็นพเ่ี ลีย้ ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี น
ปา่ แดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชยี งราย
๔.๒.๓ แบบการประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดีแบบสำรวจผลงานครูเก่งครูดีก่อนและ
หลังการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง(Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชยี งราย
๔.๒.๔ แบบประเมินความพึงพอใจของครูและผู้บริหารโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบ
ชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชียงราย
๕๒
๔.๓ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ในการเก็บรวบรวมข้อมลู จากการประชาพิจารณ์ ดาํ เนนิ การดงั นี้
๔.๓.๑ ผู้ศึกษาได้ส่งหนังสือเชิญผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้าร่วมออกแบบแบบประเมินดังน้ี
แบบประเมินประสิทธิภาพนวัตกรรมการศึกษา แบบประเมินคุณภาพนวัตกรรมการศึกษา แบบการประเมิน
คุณลักษณะครูเก่งครูดี แบบประเมินความพึงพอใจของครูและผู้บริหารที่มีต่อการพัฒนาครูเก่งครูดี และแบบ
ประเมินความพึงพอใจโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและ
การเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัด
เชยี งราย
๔.๓.๒ นําเสนอร่างรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ซึ่งพิจารณาทีละประเด็น แล้วจดบันทึกรายการ
ขอ้ เสนอแนะและเหตผุ ลในประเดน็ ตา่ ง ๆ เพือ่ นําไปใช้ในการปรับปรุง แก้ไข
๔.๓.๓ นําเสนอร่างแบบประเมินประสิทธิภาพนวัตกรรมการศึกษาโรงเรียนป่าแดด
วิทยาคมโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย บันทึก
รายการข้อเสนอแนะและเหตุผลปรบั ปรงุ แก้ไข
๔.๓.๔ นําเสนอร่างแบบประเมินคุณภาพนวัตกรรมการศึกษาโรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย บันทึก
รายการขอ้ เสนอแนะและเหตผุ ลปรับปรงุ แก้ไข
๔.๔ การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ศึกษาดําเนินการโดยการวิเคราะห์ข้อความและสรุปเป็นประเด็น
เพื่อนําข้อมูลมาปรับปรุงรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการ
เปน็ พเ่ี ลย้ี ง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรยี นปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชยี งราย
ขั้นตอนที่ ๒ การทดลองใช้แบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี แบบสำรวจผลงานครูเก่งครูดี ก่อนและ
หลังการพฒั นาครเู ก่งครดู ี แบบประเมนิ ประสทิ ธิภาพนวตั กรรมการศึกษาโรงเรยี นป่าแดดวิทยาคม
และทดลองใช้แบบประเมินความพึงพอใจโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศ
แบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดด
วิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย การดําเนินการวิจัย โดยได้จัดทําแผนพัฒนาและคู่มือครูเก่งครูดี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรยี นป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวัดเชียงราย และได้ดําเนนิ การตามลําดบั ดังนี้
๒.๑ กลุ่มผใู้ ห้ข้อมูล ผู้ศึกษาไดน้ ํารูปแบบการพัฒนาครเู ก่งครดู ี ตามรปู แบบการพฒั นาครเู กง่ ครดู ี โดย
ใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ไปทดลองใช้ในโรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่า
แดด จังหวัดเชยี งราย โดยกลุ่มผ้ใู หข้ ้อมูลประกอบดว้ ย ผบู้ ริหารของโรงเรียนจำนวน ๒ คน ครจู ำนวน ๒๕ คน
และหัวหน้ากลุ่มงานจำนวน ๔ คน รวมทั้งสิ้นจำนวน ๓๑ คน ซึ่งเป็นผู้กำกับและรับผดิ ชอบ ในการทดลองใช้
รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching
and Mentoring Supervisor) โรงเรียนปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชยี งราย
๕๓
๒.๒ เครือ่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ประกอบดว้ ย
๒.๒.๑ แบบการประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี แบบสำรวจผลงานครูเก่งครูดีก่อนและหลังการ
พัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรยี นปา่ แดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวดั เชียงราย
๒.๒.๒ แบบประเมินความพึงพอใจของครูและผู้บริหารโดยใชก้ ระบวนการนเิ ทศแบบชี้แนะสอน
งานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด
จังหวดั เชียงราย
๒.๓ การเก็บรวบรวมข้อมูลการทดลองใช้แบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการ
พัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวัดเชยี งราย
๒.๓.๑ ผู้ศึกษาดําเนินการชี้แจงกับคณะผู้บริหารของโรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด
จังหวัดเชียงราย หัวหน้ากลุ่มงานที่รับผิดชอบในรายละเอียดของการดําเนินงานตามรูปแบบ โดยใช้แผนและ
ค่มู ือที่ผู้ศกึ ษาจดั ทำขน้ึ
๒.๓.๒ โรงเรยี นดาํ เนินการจดั กจิ กรรมตามกลยุทธ์ในแบบประเมินคุณลักษณะครเู ก่งครูดี โดยใช้
รูปแบบการพฒั นาครูเก่งครดู ีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพเี่ ลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ในภาคเรียนที่ ๒ ปี
การศึกษา ๒๕๖๒ และภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓
๒.๓.๓ ผู้ศึกษาเชิญคณะผู้บริหารของโรงเรียน หัวหน้ากลุ่มงาน และครูมาประชุม เพื่อสรุปผล
การทดลองใช้แบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการ
นิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดด
วิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย จากนั้นเปิดอภิปรายเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับข้อค้นพบที่ได้จากการทดลองใช้แบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบ
ชแ้ี นะสอนงานและการเปน็ พี่เลี้ยง(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอ
ปา่ แดด จงั หวดั เชียงราย และใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ เก่ยี วกบั การนาํ แบบประเมินคณุ ลักษณะครูเก่งครดู ีไปใช้
๒.๓.๔ ขอ้ มูลเกีย่ วกับผลงาน เกบ็ รวบรวมข้อมูลผลการปฏิบัติงานทเ่ี ป็นเลศิ จากหัวหน้ากลุ่มงาน
ครู และนกั เรียน
๒.๔ การวิเคราะห์ข้อมูลข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมผู้เกี่ยวข้องกับการทดลองใช้แบบประเมิน
คุณลักษณะครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและ
การเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัด
เชยี งราย วิเคราะหข์ อ้ มูลผลการประเมินครูเกง่ ครูดี ด้วยคา่ รอ้ ยละ ค่าเฉล่ยี และ สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน
ขั้นตอนที่ ๓ การประเมินความพึงพอใจของครูและผู้บริหาร ที่มีต่อแบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี
โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor)โรงเรียนปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จังหวดั เชยี งราย
๓.๑ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ผู้บริหารของโรงเรียน จํานวน ๒
คน ครู จำนวน ๒๕ คน และหวั หนา้ กลุ่มงาน จาํ นวน ๔ คน รวมทงั้ ส้ิน จาํ นวน ๓๑ คน
๓.๒ เคร่ืองมือท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ไดแ้ ก่
๕๔
๓.๒.๑ แบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดีก่อนและหลังการพัฒนาโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครู
เก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี นปา่ แดดวิทยาคม อำเภอปา่ แดด จังหวดั เชยี งราย
๓.๒.๑.๑ วิเคราะห์สิ่งที่จะประเมิน เลือกรูปแบบเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน และ
กาํ หนดเกณฑใ์ นการให้คะแนน ลักษณะของแบบประเมินครูเก่งครูดี เปน็ แบบมาตราส่วนประมาณคา่ (Rating
Scale) มี ๕ ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน ดงั นี้
ระดบั ท่ี ๕ หมายถึง เห็นด้วยอยูใ่ นระดับมากท่ีสุด
ระดับที่ ๔ หมายถงึ เหน็ ด้วยอยใู่ นระดับมาก
ระดบั ที่ ๓ หมายถึง เห็นดว้ ยอย่ใู นระดบั ปานกลาง
ระดับที่ ๒ หมายถงึ เหน็ ด้วยอยใู่ นระดบั นอ้ ย
ระดับท่ี ๑ หมายถึง เหน็ ดว้ ยอยู่ในระดับน้อยท่สี ดุ
๓.๒.๒ แบบสำรวจผลงานครเู ก่งครดู กี อ่ นและหลังการพฒั นาครูเกง่ ครดู ี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย มีเกณฑ์การพิจารณาด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ
สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของจำนวนท้ังหมด
๓.๒.๓ แบบประเมินประสิทธิภาพ แบบประเมินความพึงพอใจ โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบ
ชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอป่าแดด จงั หวดั เชยี งราย โดยมแี นวทางการสร้างและหาคณุ ภาพ ดังน้ี
๓.๒.๓.๑ นําแบบประเมินทผ่ี วู้ ิจัยสร้างขน้ึ ไปใหผ้ เู้ ชยี่ วชาญดา้ นการศกึ ษาและดา้ นวดั ผล
การศึกษาจํานวน ๕ คน ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ว่าข้อคําถามแต่ละข้อ สร้างได้
สอดคล้องกับเน้ือหาหรอื ไม่ โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ ดังนี้
+ ๑ หมายถงึ แนใ่ จว่าสิง่ ท่ีประเมินสอดคล้องกบั เนอ้ื หา
๐ หมายถงึ ไม่แน่ใจวา่ สิ่งทปี่ ระเมินสอดคล้องกับเนอ้ื หา
- ๑ หมายถึง แนใ่ จวา่ สิ่งทปี่ ระเมินไม่สอดคลอ้ งกับเนอื้ หา
แล้วนำไปคํานวณหาค่า IOC และคัดเลือกข้อคําถามที่มีค่า IOC ตั้งแต่ ๐.๕๐ ขึ้นไป พบว่า มีข้อ
คำถามทใ่ี ช้ได้จำนวน ๑๑ ข้อ และปรบั ปรงุ แกไ้ ขตามคําแนะนําของผเู้ ชย่ี วชาญ ได้คา่ IOC อยู่ระหวา่ ง ๐.๖๐ –
๑.๐๐ จัดพิมพ์แบบประเมินความพงึ พอใจฉบับใหม่
๓.๒.๔ แบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศ
แบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ลักษณะของแบบประเมินเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) มี
๕ ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดังนี้
ระดบั ท่ี ๕ หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจมากท่สี ุด
ระดับท่ี ๔ หมายถงึ มคี วามพึงพอใจมาก
ระดบั ท่ี ๓ หมายถึง มีความพึงพอใจปานกลาง
ระดบั ที่ ๒ หมายถึง มีความพงึ พอใจน้อย
ระดับท่ี ๑ หมายถึง มีความพึงพอใจนอ้ ยที่สุด
๓.๒.๔.๑ นำแบบประเมินความพึงพอใจไปทดลองใช้ (Try Out) กับคณะครูโรงเรียนดง
เจนวทิ ยาคม อำเภอภูกามยาว จังหวดั พะเยา ท่ีไมใ่ ช่กล่มุ ตัวอยา่ ง จำนวน ๑๕ คน
๕๕
๓.๓ การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ศึกษานําแบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย เก็บข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ครูผู้สอน จาก
เปา้ หมายการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล จาํ นวน ๓๑ ฉบับ ไดร้ ับคืนจาํ นวน ๓๑ ฉบับ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
๓.๔ การวเิ คราะหข์ อ้ มูล
๓.๔.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะ
สอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อ.ป่าแดด
จ.เชียงราย โดยภาพรวมและจาํ แนกเป็นรายข้อ โดยนําแบบสอบถามมาวิเคราะห์ด้วยการหาค่าเฉลี่ย (Mean)
และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยค่าเฉลี่ย (Mean) มีการแปลผลคะแนนที่อาศัย
เทยี บเคยี งในการใช้เกณฑก์ ารประเมินคา่ (บญุ ชมุ ศรสี ะอาด, ๒๕๔๓ : ๘๔) ดงั ตอ่ ไปน้ี
คะแนนเฉลย่ี ๔.๕๐ - ๕.๐๐ หมายถงึ เห็นด้วยอยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ
คะแนนเฉลย่ี ๓.๕๐ - ๔.๔๙ หมายถึง เหน็ ด้วยอยใู่ นระดับมาก
คะแนนเฉลย่ี ๒.๕๐ - ๓.๔๙ หมายถึง เห็นดว้ ยอยู่ในระดบั ปานกลาง
คะแนนเฉลี่ย ๑.๕๐ - ๒.๔๙ หมายถึง เหน็ ดว้ ยอยู่ในระดบั น้อย
คะแนนเฉลยี่ ๑.๐๐ - ๑.๔๙ หมายถงึ เห็นด้วยอยู่ในระดับน้อยที่สุด
๓.๔.๒ แบบประเมินคุณภาพนวัตกรรมรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศ
แบบชแี้ นะสอนงานและการเป็นพ่เี ลยี้ ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย แบบประเมินนี้ประเมินในด้านความถูกต้อง (Accuracy Standards) ความ
เหมาะสม (Propriety Standards) ความเป็นไปได้ (Feasibility Standards) และความเป็นประโยชน์ (Utility
Standards) ให้ผู้ตอบแบบสอบถาม ทุกท่านพิจารณาว่าแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศ
แบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย มีความถูกต้อง (Accuracy Standards) ความเหมาะสม (Propriety
Standards) ความเป็นไปได้ (Feasibility Standards) และความเป็นประโยชน์ (Utility Standards)ในแต่ละ
ขอ้ รายการมากนอ้ ยเพยี งใดแลว้ ทําเครื่องหมาย ✓ ในแตล่ ะขอ้ ทีท่ า่ นคดิ ว่าตรงกบั ความเปน็ จริงมากทสี่ ดุ โดย
แบง่ ออกเป็น ๕ ระดบั ตามเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี
ระดบั ๕ หมายถึง มีความถูกต้อง/ความเหมาะสม/ความเป็นไปได้/ ความเป็น
ประโยชน์ อยใู่ นระดับมากทสี่ ดุ
ระดบั ๔ หมายถึง มีความถูกต้อง/ความเหมาะสม/ความเป็นไปได้/ ความเป็น
ประโยชน์ อย่ใู นระดับมาก
ระดับ ๓ หมายถงึ มีความถูกต้อง/ความเหมาะสม/ความเป็นไปได้/ ความเป็น
ประโยชน์ อยู่ในระดบั ปานกลาง
ระดบั ๒ หมายถึง มีความถูกต้อง/ความเหมาะสม/ความเป็นไปได้/ความเป็น
ประโยชน์ อยู่ในระดบั น้อย
ระดับ ๑ หมายถงึ มีความถูกต้อง/ความเหมาะสม/ความเป็นไปได้/ความเป็น
ประโยชน์ อยใู่ นระดบั นอ้ ยท่สี ดุ
๓.๔.๓ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ความพงึ พอใจ จากการใช้รปู แบบการพฒั นาครูเกง่ ครูดี โดยใชก้ ระบวนการ
นิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดด
วิทยาคม อ.ป่าแดด จ.เชียงราย โดยภาพรวมและจําแนกเป็นรายข้อ วิเคราะห์ด้วยการหาค่าเฉลี่ย (Mean)
๕๖
และคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน ในการแปลความหมายของค่าเฉลยี่ กาํ หนดเกณฑ์ ดงั นี้ (บุญชม ศรสี ะอาด, ๒๕๔๕ :
๑๐๓)
คา่ เฉล่ียระหวา่ ง ๔.๕๑ – ๕.๐๐ หมายถึง มคี วามพึงพอใจมากทสี่ ุด
คา่ เฉลย่ี ระหวา่ ง ๓.๕๑ – ๔.๕๐ หมายถงึ มคี วามพึงพอใจมาก
ค่าเฉล่ียระหว่าง ๒.๕๑ – ๓.๕๐ หมายถึง มีความพงึ พอใจปานกลาง
ค่าเฉลี่ยระหว่าง ๑.๕๑ – ๒.๕๐ หมายถึง มคี วามพึงพอใจนอ้ ย
คา่ เฉลย่ี ระหวา่ ง ๑.๐๐ – ๑.๕๐ หมายถึง มีความพงึ พอใจน้อยทีส่ ดุ
บทท่ี ๔
ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู
๕๗
การศึกษารูปแบบการพัฒนาครเู ก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบช้ีแนะสอนงานและการเปน็
พี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย
คือ ๑.เพื่อสรา้ งรูปแบบการพัฒนาครูเกง่ ครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชีแ้ นะสอนงานและการเป็นพ่เี ลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ๒.เพ่ือ
ศึกษาผลงานครูเก่งครูดี ก่อนและหลังการพัฒนาครเู ก่งครดู ี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชีแ้ นะสอนงานและ
การเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัด
เชียงราย ๓.เพ่อื ศึกษาความพงึ พอใจของครูและผู้บรหิ ารที่มีตอ่ การพฒั นาครเู ก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศ
แบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอ ป่าแดด จังหวดั เชยี งราย โดยนำเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลตามลำดบั ดงั น้ี
ขนั้ ตอนท่ี ๑ การสรา้ งรปู แบบการพฒั นาครูเก่งครดู ี โดยใช้กระบวนการนเิ ทศแบบช้ีแนะสอนงานและ
การเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัด
เชียงราย
ขั้นตอนที่ ๒ การทดลองใช้แบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอปา่ แดด จังหวดั เชียงราย และทำการสำรวจผลงานครเู กง่ ครูดีกอ่ นและหลังการ
พัฒนาครูเก่งครูดโี ดยใชร้ ูปแบบการพัฒนาครูเกง่ ครดู ี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงาน และ การ
เป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัด
เชียงราย
ขนั้ ตอนที่ ๓ การประเมนิ ความพึงพอใจของผบู้ รหิ ารและครูที่มตี ่อแบบประเมินคณุ ลักษณะครูเก่งครูดี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนปา่ แดดวิทยาคม อำเภอปา่ แดด จงั หวัดเชยี งราย
ขั้นตอนที่ ๑ การสร้างรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการ
เป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัด
เชยี งราย โดยมรี ายละเอยี ดใน รปู แบบแผนภมู ิตอ่ ไปนี้
๕๘
ตารางท่ี ๑ ตารางแสดงคา่ ความตรง (Validity) ของประสทิ ธิภาพรปู แบบการพัฒนาครเู กง่ ครูดี โดยใช้รูปแบบ
การพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรยี นป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวดั เชยี งราย มรี ายละเอียด ดังน้ี
องค์ประกอบ รายการ IOC แปลผล
๕๙
๑. ด้านคณุ ลกั ษณะ ๑. ความเป็นนวัตกรรมเป็นผลงาน วิธีการ ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
ความเปน็ นวัตกรรม กระบวนการใหม่ หรือองค์ความรู้ใหม่ที่ไม่เคยมี ๑.๐๐ ใช้ได้
หรอื ทมี่ ีอยูแ่ ล้วแต่นำมาปรบั ปรุงหรอื พัฒนา ๑.๐๐ ใช้ได้
๒. ด้านกระบวนการ ๑.๐๐ ใช้ได้
พัฒนานวตั กรรม ๒. รูปแบบนวัตกรรมถูกต้อง ครบถ้วนสอดคล้อง
กบั ความร้คู วามสามารถของการปฏิบตั ิหน้าท่ี ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
๑. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการพัฒนา ๐.๘๐ ใชไ้ ด้
นวัตกรรมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความ ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
ตอ้ งการ มีความเปน็ ไปไดแ้ ละสามารถวดั ได้ ๑.๐๐ ใช้ได้
ใช้ได้
๒. การใช้หลักการแนวคิด ทฤษฎีในการพัฒนา ใชไ้ ด้
นวัตกรรม มีการสังเคราะห์ หลักการ แนวคิด
ทฤษฎี มาประยุกตใ์ ชไ้ ดส้ อดคล้องกับสภาพ ปญั หา ใชไ้ ด้
หรอื ความต้องการพฒั นา ใชไ้ ด้
๓. การออกแบบนวัตกรรม มีการออกแบบการ
พัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา หรือ
ความต้องการ บริบท หลักการ แนวคิด ทฤษฎี
ครอบคลุมกระบวนการ พัฒนา และมีความเป็นไป
ได้
๔. กระบวนการพัฒนา นวัตกรรมดำเนินการ
พฒั นานวตั กรรมตามทอ่ี อกแบบไวค้ รบทกุ ขัน้ ตอน
และ/หรอื มกี ารปรับปรงุ พัฒนาอย่าง ตอ่ เนอื่ ง
๕. การมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรม ผู้ท่ี
เกี่ยวข้องทั้งในและนอกโรงเรียนมีส่วนร่วมใน การ
วางแผน การดำเนินการประเมนิ และ สรปุ ผล
๖. ความสำเร็จของการพัฒนานวัตกรรมการ
พัฒนานวัตกรรมได้ดำเนินการเสร็จสิ้นมีการ
เผยแพรแ่ ละสร้างเครือข่าย
๓. ด้านคุณค่าของ ๑. แกป้ ัญหาหรือพัฒนาคุณภาพผู้เรียน หรอื ครู หรือ ๑.๐๐
นวตั กรรม สถานศึกษา ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ เป้าหมายเกิด ๑.๐๐
ประโยชน์อยา่ งกว้างขวาง
๑.๐๐
๒. การใช้ทรัพยากรในการพัฒนานวัตกรรม ๐.๘๐
ประยุกต์ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการพัฒนานวัตกรรม
ได้เหมาะสมคุ้มค่า และสอดคล้องกับบริบทของ
สถานศึกษา
๓. กระบวนการพัฒนานวัตกรรมก่อให้เกิด
ประสบการณ์และการเรยี นรู้รว่ มกนั ท้ังสถานศกึ ษา
๔. นวตั กรรม/กระบวนการพัฒนานวัตกรรม สง่ เสริม
กระตุ้น ให้ผู้พัฒนา/ผู้เกี่ยวข้องศึกษา ค้นคว้าและ
๖๐
แสวงหาความรู้เพิ่มเติมจนสามารถสร้างนวัตกรรม ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
ใหมไ่ ด้ ๐.๖๐ ใช้ได้
๕. เป็นที่ยอมรับของผู้เกี่ยวข้องทั้งในและนอก ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
สถานศกึ ษา
๐.๙๕ ใชไ้ ด้
๖. มขี ัน้ ตอนการใชไ้ ม่ซับซอ้ นสามารถนำไปใช้ ได้ดี
๗. ประโยชน์ของนวัตกรรม ผลงานนวัตกรรมเกิด
ประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา
สถานศกึ ษาวงการวิชาชพี ครู และชุมชน
ค่าเฉลีย่ ค่าความตรง (Validity)
จากตารางที่ ๑ ตารางแสดงคา่ ความตรง (Validity) ของประสิทธภิ าพรปู แบบการพัฒนาครเู ก่งครดู ี
โดยใชร้ ูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบช้ีแนะสอนงานและการเปน็ พีเ่ ล้ยี ง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนปา่ แดดวิทยาคม อำเภอปา่ แดด จังหวัดเชียงราย พบวา่
คา่ เฉลย่ี ของคา่ ความตรง (Validity) ทง้ั หมดเทา่ กบั ๐.๙๕ อยใู่ นระดับ ใชไ้ ด้
ตารางที่ ๒ ตารางแสดงค่าความตรง (Validity) ของคุณภาพรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการ
พัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรยี นปา่ แดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวัดเชยี งราย มรี ายละเอยี ด ดังน้ี
ขอ้ รายการประเมนิ IOC แปรผล
๑. ดา้ นปจั จยั
๑.๑ ผู้อำนวยการ : กำหนดนโยบาย แผนงาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ ๑.๐๐ ใช้ได้
วัฒนธรรมองค์กร
๑.๒ ผู้ชี้แนะสอนงานและพี่เลี้ยง : ทีมฝ่ายบริหารโรงเรียน ทีม ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
บรหิ ารงานกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ
๒. ดา้ นกระบวนการ
๒.๑ ขั้นการเตรียมการ : การสร้างความร่วมมือ ความสัมพันธ์ ข้อตกลง ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
รว่ มกนั ประชมุ ชแ้ี จงจัดทำ ID Plan และ MOU
๒.๒ ขัน้ การเตรยี มการ : การตั้งเปา้ หมายและการวางแผน แผนพฒั นาครู ๑.๐๐ ใช้ได้
เกง่ ครดู ี
๒.๓ ขั้นการชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง:กระบวนการทำงาน ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
ปฏิบัติร่วมกัน ชี้แนะ บอก ถาม โดยผ่าน การประชุมก่อนเปิดภาค ๐.๘๐ ใช้ได้
เรยี นประชมุ ประจำเดอื น ประชมุ กลุ่มย่อย การนิเทศ เย่ยี มชัน้ เรียน
๒.๔ ขั้นการชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง : การพัฒนาและการ
จดั การความสัมพันธ์ พจิ ารณาผลงาน ประเมินผลงานต่ออดโดยผ่าน
กระบวน PLC อบรมสมั มนา ศกึ ษาดูงานแหลง่ เรียนรู้
๖๑
๒.๕ การสรุปผล : การประเมินผลและติดตามยอมรับความสามารถ ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
สรุปผลชี้แนะให้โอกาสแก้ไขด้วยตนเองให้ข้อแนะนำโดยผ่านการ
คัดเลือกครเู กง่ ครูดใี ห้ขวัญกำลังใจ ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
๑.๐๐ ใช้ได้
๓. ด้านผลผลิต ผลลัพธ์ ผลกระทบ ๑.๐๐ ใช้ได้
๓.๑ ผลผลติ : คุณภาพครู ครู เกง่ ครดู ี ๐.๙๘ ใชไ้ ด้
๓.๒ ผลลัพธ์ : คณุ ภาพนักเรยี น ดี เกง่ กล้า
๓.๓ ผลกระทบ : คณุ ภาพโรงเรยี นเป็นที่ยอมรับของชมุ ชน
ค่าเฉล่ียคา่ ความตรง (Validity)
จากตารางที่ ๒ ตารางแสดงค่าความตรง (Validity) ของคุณภาพรปู แบบการพัฒนาครูเกง่ ครดู ี โดยใช้
รปู แบบการพัฒนาครูเกง่ ครูดี โดยใชก้ ระบวนการนิเทศแบบช้แี นะสอนงานและการเป็นพีเ่ ลย้ี ง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรยี นปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จังหวดั เชียงราย พบวา่ คา่ เฉลี่ยค่าของความ
ตรง (Validity) ทั้งหมดเทา่ กับ ๐.๙๘ อยใู่ นระดับ ใช้ได้
ตารางที่ ๓ ตารางแสดงผลการประเมินคุณภาพของรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศ
แบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชยี งราย มรี ายละเอยี ดดังน้ี
ข้อ รายการประเมนิ ประเด็นความถกู ต้อง ความเหมาะสม รวม
ความเปน็ ไปได้ ความเปน็ ประโยชน์
๕๔๓๒๑
๑. ด้านปัจจยั
๑.๑ ผู้อำนวยการ:กำหนดนโยบาย ๔.๓๑ ๐.๕๖ ๐ ๐ ๐ ๔.๘๗
แผนงาน วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ
วฒั นธรรมองคก์ ร
๑.๒ ผู้ช้ีแนะสอนงานและพเี่ ลี้ยง :ทีม ๓.๗๕ ๑ ๐ ๐ ๐ ๔.๗๕
ฝ่ายบริหารโรงเรยี น ทีม
บรหิ ารงานกลุ่มบริหารงาน
วชิ าการ
๒. ดา้ นกระบวนการ
๒.๑ ข้นั การเตรยี มการ : การสรา้ ง ๔.๐๓ ๐.๗๘ ๐ ๐ ๐ ๔.๘๑
ความรว่ มมือ ความสัมพันธ์
ขอ้ ตกลงร่วมกนั ประชุมชี้แจง
จดั ทำ ID Plan และ MOU
๒.๒ ขั้นการเตรยี มการ : การ ๔.๑๗ ๐.๖๗ ๐ ๐ ๐ ๔.๘๔
ต้งั เป้าหมายและการวางแผน
แผนพัฒนาครเู กง่ ครดู ี
๖๒
๒.๓ ข้นั การช้แี นะสอนงานและการ ๔.๘๖ ๐.๑๑ ๐ ๐ ๐ ๔.๙๗
เปน็ พ่ีเลย้ี ง : กระบวนการ
ทำงาน ปฏบิ ตั ริ ว่ มกัน ช้ีแนะ
บอก ถาม โดยผา่ น การประชุม
กอ่ นเปิดภาคเรียนประชุม
ประจำเดอื น ประชมุ กลุ่มย่อย
การนิเทศ เย่ยี มชั้นเรียน
๒.๔ ขั้นการช้แี นะสอนงานและการ ๔.๑๗ ๐.๖๗ ๐ ๐ ๐ ๔.๘๔
เป็นพเี่ ล้ียง : การพฒั นาและ
การจัดการความสมั พนั ธ์
พจิ ารณาผลงาน ประเมนิ ผล
งานต่ออดโดยผา่ นกระบวน
PLC อบรมสัมมนา ศึกษาดูงาน
แหล่งเรยี นรู้
๒.๕ การสรปุ ผล : การประเมนิ ผล ๓.๘๙ ๐.๘๙ ๐ ๐ ๐ ๔.๗๘
และตดิ ตามยอมรบั
ความสามารถ สรปุ ผลช้ีแนะให้
โอกาสแก้ไขดว้ ยตนเองให้
ข้อแนะนำโดยผา่ นการคดั เลอื ก
ครเู ก่งครูดีให้ขวัญกำลังใจ
๓. ด้านผลผลิต ผลลพั ธ์ ผลกระทบ
๓.๑ ผลผลิต : คุณภาพครคู รู เกง่ ครู ๔.๓๑ ๐.๕๖ ๐ ๐ ๐ ๔.๘๗
ดี
๓.๒ ผลลพั ธ์ : คณุ ภาพนักเรียน ดี ๔.๐๓ ๐.๗๘ ๐ ๐ ๐ ๔.๘๑
เกง่ กลา้
๓.๓ ผลกระทบ : คณุ ภาพโรงเรยี น ๔.๑๗ ๐.๖๗ ๐ ๐ ๐ ๔.๘๔
เป็นทีย่ อมรับของชุมชน
จากตารางที่ ๓ ตารางแสดงผลการประเมินคุณภาพของรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้
กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพ่เี ลยี้ ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียน
ปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชยี งราย พบวา่ ทัง้ ๓ ด้าน มีผลทไ่ี ดด้ งั นี้ ๑.ด้านปัจจัยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
๔.๘๗ และ ๔.๗๕ ตามลำดับ ๒.ด้านกระบวนการมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๘๑, ๔.๘๔, ๔.๙๗, ๔.๘๔ และ ๔.๗๘
ตามลำดับ ๓.ดา้ นผลผลติ ผลลัพธ์ และผลกระทบ มีคา่ เฉลย่ี เท่ากับ ๔.๘๗, ๔.๘๑ และ ๔.๘๔ ตามลำดบั
ขั้นตอนที่ ๒ ผลการศึกษาการทดลองใช้แบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดีโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครู
เก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring
Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จังหวดั เชยี งราย ดงั ตารางต่อไปนี้
๖๓
ตารางที่ ๔ ตารางแสดงผลสรุปการประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี การใช้รปู แบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้
กระบวนการนเิ ทศแบบชีแ้ นะสอนงานและการเปน็ พ่เี ลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี น
ป่าแดดวิทยาคม อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชยี งราย
ข้อ รายการประเมิน ก่อนการใช้ หลังการใช้ ผลต่าง
̅ S.D. ̅ S.D. ̅ S.D.
๑. ลักษณะครเู ก่ง ด้านการพฒั นาตนเอง
๑ ใฝ่หาความรู้ ชอบเรียนร้สู ่ิงใหม่ๆ เสมอ ๓.๖๐ ๐.๔๙ ๔.๓๗ ๐.๖๖ ๐.๗๗ ๐.๑๗
๒ พัฒนาตนเองศึกษาหาความรู้อยู่ ๓.๒๐ ๐.๔๐ ๔.๔๐ ๐.๖๑ ๑.๒ ๐.๒๑
ตลอดเวลา
๓ มกี ารประเมนิ ตนเองตลอดเวลา ๓.๘๓ ๐.๕๒ ๔.๒๐ ๐.๗๐ ๐.๓๗ ๐.๑๘
๔ เป็นผูน้ ำดา้ นวิชาการ ๓.๓๗ ๐.๕๕ ๓.๙๗ ๐.๖๖ ๐.๖ ๐.๑๑
๕ ตดิ ตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนือ่ ง ๓.๗๗ ๐.๖๗ ๔.๒๗ ๐.๗๗ ๐.๕ ๐.๑
๖ ยอมรับการเปลีย่ นแปลงส่ิงใหมๆ่ ๓.๘๗ ๐.๕๐ ๔.๔๗ ๐.๖๗ ๐.๖ ๐.๑๗
๒. ลกั ษณะครเู กง่ ดา้ นความสามารถในการสรา้ ง การพัฒนา หลักสตู ร และ ส่ือการสอน
๗ มคี วามสามารถในการศึกษาข้อมูล ๓.๓๗ ๐.๖๖ ๔.๐๓ ๐.๗๑ ๐.๖๖ ๐.๐๕
พน้ื ฐานเพ่ือสรา้ งหรอื พัฒนาหลกั สตู ร
๘ มีความสามารถในการเขียนหลักสูตร ๓.๒๓ ๐.๗๒ ๓.๐๘ ๐.๗๙ -๐.๑๕ ๐.๐๗
๙ มคี วามสามารถในการประเมิน ๓.๔๐ ๓.๔๐ ๓.๙๓ ๐.๗๗ ๐.๕๓ -๒.๖๓
ประสทิ ธิผลของหลกั สูตร
๑๐ มคี วามสามารถในการปรับปรุง ๓.๕๓ ๓.๕๓ ๓.๙๐ ๐.๗๕ ๐.๓๗ -๒.๗๘
หลกั สูตร
๑๑ มีความสามารถในการผลติ สอื่ การสอน ๓.๓๐ ๐.๔๖ ๔.๐๐ ๐.๗๗ ๐.๗ ๐.๓๑
๑๒ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ในการผลิตสอื่ ๓.๓๐ ๐.๖๔ ๓.๙๓ ๐.๗๗ ๐.๖๓ ๐.๑๓
การสอน
๓. ลักษณะครเู กง่ ดา้ นความสามารถในการสอน
๑๓ ให้ความสำคญั กับนกั เรยี นเป็น ๔.๒๗ ๐.๗๓ ๔.๕๐ ๐.๖๒ ๐.๒๓ -๐.๑๑
รายบุคคล
๑๔ มคี วามร้คู วามสามารถในเน้ือหาทส่ี อน ๓.๙๗ ๐.๕๕ ๔.๔๓ ๐.๖๗ ๐.๔๖ ๐.๑๒
เปน็ อย่างดี
๑๕ สอนเดก็ ใหเ้ ก่งได้ และมเี ทคนิคการ ๓.๖๓ ๐.๖๖ ๔.๐๓ ๐.๗๕ ๐.๔ ๐.๐๙
สอนดี
๑๖ มีความสามารถในการใชส้ ่ือการสอน ๓.๘๐ ๐.๕๔ ๔.๑๐ ๐.๗๐ ๐.๓ ๐.๑๖
๑๗ มีความสามารถในการใชส้ ่อื การสอนที่ ๓.๗๓ ๐.๖๓ ๔.๑๐ ๐.๗๐ ๐.๓๗ ๐.๐๗
หลากหลายและเหมาะสม
๑๘ มคี วามคิดสร้างสรรคใ์ นการสอน ๓.๔๓ ๐.๕๖ ๔.๑๐ ๐.๗๐ ๐.๖๗ ๐.๑๔
๑๙ มคี วามสามารถในการปรับตัวใหเ้ ขา้ กับ ๓.๙๓ ๐.๖๘ ๔.๓๗ ๐.๖๐ ๐.๔๔ -๐.๐๘
ผเู้ รียนได้
๖๔
๒๐ มคี วามสามารถสอนให้ผู้เรียนร้วู ธิ กี าร ๓.๘๐ ๐.๕๔ ๔.๓๓ ๐.๖๐ ๐.๕๓ ๐.๐๖
เรียนรู้
๒๑ มีการพฒั นาคณุ ภาพของผูเ้ รียนอยา่ ง ๓.๔๗ ๐.๕๖ ๔.๓๗ ๐.๖๖ ๐.๙ ๐.๑
เปน็ ระบบโดยการวางแผนการสอน
๒๒ รูจ้ ักใชแ้ หลง่ เรียนรตู้ า่ งๆ เพื่อส่งเสรมิ ๓.๘๓ ๐.๖๔ ๔.๓๐ ๐.๗๔ ๐.๔๗ ๐.๑
การเรียนรู้ของผู้เรยี น
๒๓ สามารถปฏบิ ตั กิ ารสอนดว้ ยวิธีท่ี ๓.๘๓ ๐.๕๘ ๔.๓๓ ๐.๕๔ ๐.๕ -๐.๐๔
หลากหลาย
๒๔ สามารถจัดการเรยี นการสอนไดต้ าม ๓.๘๗ ๐.๕๖ ๔.๔๐ ๐.๖๖ ๐.๕๓ ๐.๑
ศกั ยภาพของผเู้ รียน
๒๕ สง่ เสริมใหผ้ ้เู รยี นเกดิ การพัฒนาในด้าน ๓.๙๗ ๐.๕๕ ๔.๒๗ ๐.๖๘ ๐.๓ ๐.๑๓
ต่างๆ
๒๖ สามารถใช้ประสบการณใ์ นการ ๓.๘๗ ๐.๖๒ ๔.๓๐ ๐.๖๙ ๐.๔๓ ๐.๐๗
สรา้ งสรรค์ส่งเสรมิ การเรยี นรใู้ หเ้ กดิ
ประโยชนส์ ูงสดุ
๒๗ มีการพฒั นาคณุ ภาพของผเู้ รยี นอย่าง ๓.๗๓ ๐.๖๓ ๔.๒๐ ๐.๗๐ ๐.๔๗ ๐.๐๗
เป็นระบบโดยการดำเนินการสอน
๔. ลักษณะครเู กง่ ดา้ นความสามารถในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
๒๘ มีความสามารถในการวิเคราะห์ตัวชี้วดั ๓.๕๐ ๐.๕๐ ๔.๑๗ ๐.๕๘ ๐.๖๗ ๐.๐๘
เพ่ือกำหนดเป็นเน้ือหาและพฤตกิ รรม
ทจ่ี ะวัด
๒๙ มีความสามารถในการเลือกใช้ ๓.๖๗ ๐.๖๕ ๔.๓๓ ๐.๖๕ ๐.๖๖ ๐
เคร่อื งมือวดั ผลไดต้ รงตามสภาพจริง
๓๐ มีความสามารถในการตรวจสอบ ๓.๖๓ ๐.๖๖ ๔.๑๓ ๐.๗๒ ๐.๕ ๐.๐๖
คณุ ภาพของเคร่ืองมือวดั
๓๑ มีความสามารถในวธิ ีดำเนนิ การ ๔.๒๐ ๐.๕๔ ๔.๔๐ ๐.๖๑ ๐.๒ ๐.๐๗
ทดสอบ
๓๒ มคี วามสามารถในการแปลความหมาย ๓.๘๓ ๐.๖๙ ๔.๒๐ ๐.๗๐ ๐.๓๗ ๐.๐๑
ของคะแนน
๓๓ มีการนำคะแนนทไี่ ด้มาพฒั นาผลการ ๓.๘๓ ๐.๖๔ ๔.๒๗ ๐.๖๘ ๐.๔๔ ๐.๐๔
เรียนรู้ของผเู้ รยี น
๕. ลกั ษณะครูเก่ง ด้านความสามารถในการแกป้ ัญหา
๓๔ มคี วามสามารถในการให้คำปรึกษาได้ ๔.๐๗ ๐.๖๘ ๔.๔๗ ๐.๖๗ ๐.๔ -๐.๐๑
ทกุ เร่ือง
๓๕ มีความสามารถแกป้ ัญหาในการทำงาน ๔.๐๐ ๐.๖๘ ๔.๓๗ ๐.๖๖ ๐.๓๗ -๐.๐๒
ไดด้ ี
๓๖ มีความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการแกป้ ัญหา ๓.๘๗ ๐.๖๗ ๔.๒๗ ๐.๖๓ ๐.๔ -๐.๐๔
๖๕
๓๗ มีความสามารถในการ แก้ปญั หา ๓.๒๓ ๐.๔๒ ๔.๒๓ ๐.๖๗ ๑ ๐.๒๕
พฤติกรรมผเู้ รียนเพ่ือการพัฒนา
คุณภาพของผู้เรียนอยา่ งเป็นระบบ ๓.๔๗ ๐.๕๐ ๔.๒๗ ๐.๗๓ ๐.๘ ๐.๒๓
๔.๔๗ ๐.๕๐ ๔.๕๓ ๐.๕๐ ๐.๐๖ ๐
๖. ลักษณะครดู ี ด้านการครองตน ๔.๕๓ ๐.๕๐ ๔.๖๓ ๐.๕๕ ๐.๑ ๐.๐๕
๓๘ มีความใจดี ใจเยน็ ๔.๗๓ ๐.๔๔ ๔.๘๐ ๐.๔๐ ๐.๐๗ -๐.๐๔
๓๙ มีความเมตตา ๔.๗ ๐.๕๓ ๔.๗๓ ๐.๕๑ ๐.๐๓ -๐.๐๒
๔๐ มธี รรมมะอยใู่ นจิตใจอยา่ งมัน่ คง ๔.๖๐ ๐.๕๕ ๔.๗๓ ๐.๕๑ ๐.๑๓ -๐.๐๔
๔๑ มีความซ่ือสัตย์ สุจริต ยุตธิ รรม ๓.๙๓ ๐.๒๕ ๔.๖๐ ๐.๖๑ ๐.๖๗ ๐.๓๖
๔๒ มีความรกั ความศรัทธาในอาชีพครู ๔.๖๓ ๐.๕๕ ๔.๖๗ ๐.๕๔ ๐.๐๔ -๐.๐๑
๔๓ มีความกตัญญูเคารพผู้อาวโุ ส
๔๔ มีความเสียสละ ๓.๘๓ ๐.๓๗ ๔.๕๓ ๐.๕๖ ๐.๗ ๐.๑๙
๔๕ มีความเป็นกลั ยาณมิตรต่อผูอ้ ื่น ๐.๔ ๐.๔
๔๖ มคี วามเช่ือม่นั ในตนเอง กล้าคิด กลา้ ๓.๙๓ ๐.๒๕ ๔.๓๓ ๐.๖๕ ๐.๐๔ ๐
๔.๕๓ ๐.๖๗ ๔.๕๗ ๐.๖๗
ทำ ๔.๕๐ ๐.๗๒ ๔.๕๐ ๐.๗๒ ๐๐
๔๗ สามารถควบคุมอารมณต์ นเองได้ ๔.๓๓ ๐.๖๕ ๔.๓๓ ๐.๖๕ ๐๐
๔๘ มีเหตุผล ๔.๗๐ ๐.๔๖ ๔.๗๐ ๐.๔๖ ๐๐
๔๙ ย้ิมแย้มแจ่มใส ๔.๕๓ ๐.๕๖ ๔.๕๓ ๐.๕๖ ๐๐
๕๐ พูดจาไพเราะ ๔.๕๗ ๐.๕๖ ๔.๓๗ ๐.๘๔ -๐.๒ ๐.๒๘
๕๑ มีความรบั ผดิ ชอบ ๔.๕๓ ๐.๕๐ ๔.๔๓ ๐.๖๗ -๐.๑ ๐.๑๗
๕๒ มีระเบยี บวนิ ยั ๔.๕๓ ๐.๖๗ ๔.๕๓ ๐.๖๗ ๐๐
๕๓ มสี ขุ ภาพร่างกายแข็งแรง ๔.๗๗ ๐.๔๒ ๔.๗๗ ๐.๔๒ ๐๐
๕๔ มีความพอเพยี ง ประหยัด ๔.๗๐ ๐.๕๓ ๔.๗๐ ๐.๕๓ ๐๐
๕๕ มีมนุษยสัมพันธ์ทด่ี ี ๔.๖๓ ๐.๕๕ ๔.๖๗ ๐.๕๔ ๐.๐๔ -๐.๐๑
๕๖ ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน ๔.๖๗ ๐.๔๗ ๔.๗๐ ๐.๔๖ ๐.๐๓ -๐.๐๑
๕๗ ให้เกียรตผิ อู้ น่ื ๓.๙๗ ๐.๑๘ ๔.๖๐ ๐.๕๕ ๐.๖๓ ๐.๓๗
๔.๐๓ ๐.๘๐ ๔.๐๗ ๐.๘๑ ๐.๐๔ ๐.๐๑
๕๘ แตง่ กายสภุ าพ ๔.๗๗ ๐.๔๒ ๔.๗๗ ๐.๔๒ ๐๐
๕๙ เป็นแบบอยา่ งท่ดี ใี ห้กบั นกั เรียนได้ ๔.๕๓ ๐.๖๗ ๔.๕๓ ๐.๖๗ ๐๐
๖๐ มีความกระตือรอื รน้
๖๑ เป็นท่รี ักของผู้อื่น ๔.๖๗ ๐.๕๔ ๔.๗๐ ๐.๕๓ ๐.๐๓ -๐.๐๑
๖๒ เห็นคณุ ค่าของตนเองและผู้อ่ืน ๔.๖๗ ๐.๔๗ ๔.๖๗ ๐.๔๗ ๐๐
๖๓ ตรงต่อเวลา ๓.๗๓ ๐.๔๔ ๔.๖๓ ๐.๕๕ ๐.๙ ๐.๑๑
๗. ลกั ษณะครดู ี ด้านการครองงาน ๔.๕๓ ๐.๖๒ ๔.๕๗ ๐.๖๒
๖๔ ครทู เ่ี อาใจใสน่ ักเรียนทุกคน ๔.๖๓ ๐.๕๕ ๔.๖๓ ๐.๕๕ ๐.๐๔ ๐
๖๕ อุทิศตนเพ่ือการสอน ๐๐
๖๖ มุ่งม่นั ในการทำงาน
๖๗ ช่วยเหลอื ผู้อนื่ ในการทำงาน
๖๘ มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อการทำงาน
๖๖
๖๙ ต้ังใจทำงานอยา่ งเตม็ ท่ี ๔.๗๗ ๐.๔๒ ๔.๗๗ ๐.๔๒ ๐ ๐
๗๐ วางแผนการสอนอยา่ งต่อเน่อื ง ๔.๓๓ ๐.๔๗ ๔.๕๗ ๐.๕๐ ๐.๒๔ ๐.๐๓
๗๑ ไม่แสวงหาผลประโยชนใ์ นหน้าที่ ๔.๘๓ ๐.๔๕ ๔.๘๓ ๐.๔๕ ๐ ๐
๗๒ รกั ษาศลิ ปะ วัฒนธรรมของชาติ ๔.๖๗ ๐.๕๔ ๔.๖๗ ๐.๕๔ ๐ ๐
๗๓ เสรมิ สร้างคา่ นิยมที่เหมาะสมใหก้ ับ ๔.๗๓ ๐.๔๔ ๔.๗๓ ๐.๔๔ ๐ ๐
นักเรียน ๓.๕๐ ๐.๕๐ ๔.๖๓ ๐.๔๘ ๑.๑๓ -๐.๐๒
๗๔ มคี วามคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ๓.๓๓ ๐.๔๗ ๔.๓๐ ๐.๖๙ ๐.๙๗ ๐.๒๒
๗๕ เปน็ ผู้นำการเปลยี่ นแปลง ๓.๗๐ ๐.๖๔ ๔.๒๐ ๐.๗๕ ๐.๕ ๐.๑๑
๗๖ เป็นตน้ แบบให้เพื่อนครูได้ ๔.๐๕ ๐.๕๕ ๔.๔๐ ๐.๖๓ ๐.๓๖ ๐.๐๘
เฉลีย่
จากตารางที่ ๔ ตารางแสดงผลประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี การใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ผลการประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี มี
ค่าเฉลยี่ กอ่ นการศึกษาเทา่ กับ ๔.๐๕ จัดอยู่ในระดับปานกลางและมคี า่ เฉลย่ี หลงั การศึกษาเทา่ กับ ๔.๔๐ จัดอยู่
ในระดบั ปานกลาง โดยผลตา่ งคา่ เฉลี่ยหลงั การศึกษาสูงกวา่ ก่อนการศึกษาเทา่ กับ ๐.๓๖ และค่าส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐานคุณลักษณะครูเก่งครูดีก่อนการศึกษาและหลังการศึกษาเท่ากับ ๐.๕๕ และ ๐.๖๓ ตามลำดับ และ
ผลต่างคา่ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานเท่ากบั ๐.๐๘
ตารางที่ ๕ ตารางแสดงผลการศึกษา ผลการประเมินผลงานครเู ก่งครดู ีก่อนและหลงั การพัฒนาโดยใช้รูปแบบ
การพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรียนปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชยี งราย
รายการประเมิน จำนวนผลงานครู ร้อยละก่อน ร้อยละหลงั ผลต่าง
ก่อน หลงั
๑. การจัดทำแผนการจัดการ ๒๗ ๒๙ ๙๓.๑๐ ๑๐๐ ๖.๙
เรยี นรู้
๒. มีการจดั ทำวจิ ยั ในชัน้ เรียน ๒๔ ๒๙ ๘๒.๗๖ ๑๐๐ ๑๗.๒๔
๓. มกี ารผลิตสือ่ และนวตั กรรม ๒๖ ๒๙ ๘๙.๖๖ ๑๐๐ ๑๐.๓๔
การเรยี นการสอน
๔. มีการสง่ ผลงานเพอื่ มแี ละ ๑๐ ๑๙ ๓๔.๔๘ ๖๕.๕๒ ๓๑.๐๔
เลื่อนวทิ ยฐานะ
๕. ไดร้ ับการยกยอ่ งชมเชย ๑๕ ๒๓ ๕๑.๗๒ ๗๙.๓๑ ๒๗.๕๙
๖. การเปน็ วทิ ยากร ๑๐ ๑๘ ๓๔.๔๘ ๖๒.๐๗ ๒๗.๕๙
๗. การเขา้ ร่วมอบรมและ ๒๐ ๒๙ ๖๘.๙๗ ๑๐๐ ๓๑.๐๓
พัฒนาตนเอง
๘. การศกึ ษาดูงาน ๑๘ ๒๙ ๖๒.๐๗ ๑๐๐ ๓๗.๙๓
๖๗
๙. การเผยแพร่ผลงานหรือการ ๒๙ ๒๙ ๑๐๐ ๑๐๐ ๐
ให้ความร่วมมือทางวชิ าการ
๑๐. การเป็นคณะกรรมการ ๑๕ ๒๗ ๕๑.๗๒ ๙๓.๑ ๔๑.๓๘
เจ้าหน้าที่หรือคณะทำงานกับ
หนว่ ยงานต่างๆ
จำนวนผลงานท้ังหมด ๑๙๔ ๒๖๑ - - ๖๗
จากข้อมลู ตารางที่ ๕ ตารางแสดงผลการศึกษาผลการประเมินผลงานครเู กง่ ครูดกี ่อนและหลังการ
พัฒนาโดยใชร้ ูปแบบการพัฒนาครูเกง่ ครูดีโดยใชก้ ระบวนการนเิ ทศแบบชแ้ี นะสอนงานและการเป็นพ่ีเล้ยี ง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชยี งราย พบวา่ ผล
การประเมนิ ผลงานครเู ก่งครูดีก่อนและหลงั การพฒั นาโดยใชร้ ปู แบบการพัฒนาครูเกง่ ครูดโี ดยใชก้ ระบวนการ
นเิ ทศแบบชี้แนะสอนงานและการเปน็ พเ่ี ลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนปา่ แดด
วทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวดั เชียงราย มีคา่ รอ้ ยละก่อนการพัฒนาผลงานครูเก่งครดู ี โดยในรายการประเมนิ
ที่ ๑ ถงึ รายการประเมินที่ ๑๐ ดังนี้ ๙๓.๑๐, ๘๒.๗๖, ๘๙.๖๖, ๓๔.๔๘, ๕๑.๗๒, ๓๔.๔๘, ๖๘.๙๗, ๖๒.๐๗,
๑๐๐ และ ๕๑.๗๒ ตามลำดับ และค่าร้อยละหลงั การพฒั นาผลงานครเู กง่ ครดู ีรายการประเมนิ ที่ ๑ ถึงรายการ
ประเมินท่ี ๑๐ ดังนี้ ๑๐๐, ๑๐๐, ๑๐๐, ๖๕.๕๒, ๗๙.๓๑, ๖๒.๐๗, ๑๐๐, ๑๐๐, ๑๐๐ และ ๙๓.๑ ตามลำดับ
โดยค่าร้อยละเพิม่ ขน้ึ ๙ รายการ ไดแ้ ก่ รายการประเมินท่ี ๑-๘ มีคา่ ร้อยละเพม่ิ ข้นึ เทา่ กับ ๖.๙, ๑๗.๒๔,
๑๐.๓๔, ๓๑.๐๔, ๒๗.๕๙, ๒๗.๕๙, ๓๑.๐๓, ๓๗.๙๓ และ ๔๑.๓๘ ตามลำดบั ซ่งึ รายการประเมินท่ี ๙ มีคา่ เท่า
เดมิ คือ เต็มรอ้ ยเปอร์เซ็นต์ทั้งก่อนและหลงั การการพัฒนาผลงาน โดยจำนวนผลงานทั้งหมดก่อนการพัฒนา
ผลงานครเู กง่ ครดู ีเทา่ กบั ๑๙๔ และ หลังการพฒั นาผลงานครูเกง่ ครูดีเท่ากับ ๒๖๑
ข้นั ตอนท่ี ๓ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้บริหาร และครูที่มตี ่อแบบประเมนิ คณุ ลักษณะครูเก่งครูดี
โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี นป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ดัง
ตารางตอ่ ไปนี้
ตารางที่ ๖ ตารางแสดงผลการประเมินความพึงพอใจของครูและผู้บริหารโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเกง่ ครดู ี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนปา่ แดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวัดเชียงราย
ขอ้ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจหลังการวิจัย จำนวน (คน) ̅ S.D.
๑ ความพึงพอใจของครูโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครู ๒๙ ๔.๐๙ ๐.๖๗
เก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอน
ง า น แ ล ะ ก า ร เ ป ็ น พ ี ่ เ ล ี ้ ย ง (Coaching and
Mentoring Supervisor)
๖๘
๒ ความพึงพอใจของผู้บริหารโดยใช้รูปแบบการ ๒ ๕.๐๐ ๐.๖๗
พัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบ ๓๑ ๔.๕๕ ๐.๖๗
ชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching
and Mentoring Supervisor)
ความพงึ พอใจของครูและผู้บริหาร
จากตารางที่ ๖ ตารางแสดงผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ครูและผู้บริหารโดยใช้รูปแบบการ
พัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ผลการประเมิน
ระดบั ความพึงพอใจของครูและผ้บู ริหาร มคี ่าเฉลย่ี เทา่ กบั ๔.๐๙ อยู่ในระดับความพึงพอใจมากและ ๕.๐๐ จัด
อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด โดยมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของครูและผู้บรหิ ารเท่ากัน
คือ ๐.๖๗
ผลสรุปการประเมินความพึงพอใจของผู้ครูและผู้บริหารโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้
กระบวนการนิเทศแบบชแี้ นะสอนงานและการเปน็ พเี่ ลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียน
ป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ผลการประเมินระดับความพึงพอใจของครูและ
ผู้บริหาร มีค่าเฉลยี่ ทัง้ หมด เทา่ กับ ๔.๕๕ อยใู่ นระดับความพึงพอใจมาก และคา่ ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานเท่ากับ
๐.๖๗
๖๙
บทที่ ๕
สรปุ ผล อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ
การศึกษารูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่
เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงรายคือ
๑.เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและก ารเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) ๒.เพื่อศึกษาผลงานครูเก่งครูดีก่อนและหลังการพัฒนาครูเก่งครูดี
และศึกษาความพึงพอใจของครูและผู้บริหารที่มีต่อการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะ
สอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคมอำเภอป่า
แดด จังหวัดเชียงราย ๓.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูและผู้บริหารที่มีต่อการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้
กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเปน็ พ่ีเล้ยี ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี น
ปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอ ป่าแดด จงั หวดั เชยี งราย สรปุ ผลการศึกษาและอภิปรายผลไดด้ ังตอ่ ไปน้ี
สรุปผลการศึกษา
ขั้นตอนที่ ๑ การสร้างรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้
กระบวนการนิเทศแบบชแ้ี นะสอนงานและการเปน็ พเ่ี ลีย้ ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี น
ปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอปา่ แดด จังหวัดเชียงราย ให้มคี ุณภาพสามารถนำไปใช้ในการบรหิ ารจัดการโรงเรียนได้
อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มีรายละเอียดดังน้ี
๑. ผลค่าความตรง (Validity) ของประสิทธิภาพรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้รูปแบบการ
พัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ค่าเฉลี่ยของค่า
ความตรง (Validity) ทั้งหมดเท่ากับ ๐.๙๕ อยู่ในระดับ ใช้ได้ และผลค่าความตรง (Validity) ของคุณภาพ
รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอน
งานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด
จงั หวัดเชยี งราย พบว่า ค่าเฉล่ียของค่าความตรง (Validity) ทัง้ หมดเท่ากบั ๐.๙๘ อยใู่ นระดับ ใช้ได้
๒. ผลการประเมินคณุ ภาพของรปู แบบการพฒั นาครเู กง่ ครดู ีโดยใช้กระบวนการนเิ ทศแบบช้ีแนะสอน
งานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด
จังหวัดเชียงราย พบว่าทั้ง ๓ ด้าน มีผลที่ได้ดังนี้ ๑.ด้านปัจจัยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๘๗ และ ๔.๗๕ ตามลำดับ
๒. ด้านกระบวนการมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๘๑, ๔.๘๔, ๔.๙๗, ๔.๘๔ และ ๔.๗๘ ตามลำดับ ๓. ด้านผลผลิต
ผลลัพธ์ และผลกระทบ มคี า่ เฉลยี่ เท่ากับ ๔.๘๗, ๔.๘๑และ ๔.๘๔ ตามลำดบั สอดคล้องกับภัทรภรณ์ น้อยกอ
(๒๕๖๑) ได้กล่าวว่า รูปแบบการนิเทศโรงเรียนสองภาษาระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน การวิจัยขั้นตอนการประเมินรูปแบบการนิเทศโรงเรียนสองภาษาระดับประถมศึกษา
สงั กดั สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน เกบ็ ข้อมลู จากผบู้ รหิ ารและศกึ ษานเิ ทศก์ เครอื่ งมือทใี่ ช้ คือ
แบบประเมินรูปแบบด้านความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ ในลักษณะ
มาตรส่วนประมาณค่า ๕ ระดับ สถิติที่ใช้ คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผล
การศกึ ษา พบวา่ รูปแบบการนเิ ทศโรงเรยี นสองภาษา มีคา่ เฉลยี่ ความถกู ต้องเท่ากบั ๔.๕๐ อย่ใู นระดับมาก มี
๗๐
ค่าเฉลย่ี ความเหมาะสมเทา่ กับ ๔.๕๒ อยูใ่ นระดับมากทีส่ ุด มีค่าเฉล่ียความเปน็ ไปได้เท่ากบั ๔.๓๘ อยู่ในระดับ
มาก และมคี า่ เฉล่ยี ความเป็นประโยชน์เทา่ กบั ๔.๕๘ อยูใ่ นระดับมากทส่ี ุด และมีแสดงผลการประเมินคุณภาพ
ของรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใชก้ ระบวนการนเิ ทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เล้ียง (Coaching
and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่าทั้ง ๓ ด้าน มี
ผลที่ได้ดังนี้ ๑.ด้านปัจจัยมีค่าเฉล่ียเทา่ กับ ๔.๘๗ และ ๔.๗๕ ตามลำดับ ๒.ด้านกระบวนการมีค่าเฉลีย่ เท่ากับ
๔.๘๑, ๔.๘๔, ๔.๙๗, ๔.๘๔ และ ๔.๗๘ ตามลำดับ ๓.ด้านผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
๔.๘๗, ๔.๘๑ และ ๔.๘๔ ตามลำดบั
ขั้นตอนที่ ๒ การทดลองใช้แบบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรียนปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวัดเชยี งราย
๑. ผลประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี การใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศ
แบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอป่าแดด จังหวัดเชยี งราย พบว่า ผลการประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดี มีค่าเฉลี่ยก่อนการศึกษาเท่ากับ
๔.๐๕ จดั อยใู่ นระดบั ปานกลางและมีคา่ เฉลยี่ หลังการศึกษาเทา่ กับ ๔.๔๐ จดั อยใู่ นระดบั ปานกลาง โดยผลต่าง
ค่าเฉล่ียหลังการศึกษาสูงกว่าก่อนการศึกษาเทา่ กบั ๐.๓๖ และคา่ ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานคุณลกั ษณะครูเก่งครู
ดีก่อนการศึกษาและหลังการศึกษาเท่ากับ ๐.๕๕ และ ๐.๖๓ ตามลำดบั และผลตา่ งค่าสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน
เทา่ กับ ๐.๐๘
๒. แสดงผลการศึกษาผลการประเมินผลงานครูเก่งครูดีก่อนและหลังการพัฒนาโดยใช้รูปแบบการ
พัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and
Mentoring Supervisor) โรงเรียนปา่ แดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ผลการประเมินผล
งานครเู กง่ ครูดีก่อนและหลงั การพัฒนาโดยใชร้ ปู แบบการพัฒนาครูเก่งครดู โี ดยใช้กระบวนการนเิ ทศแบบชี้แนะ
สอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่า
แดด จังหวัดเชียงราย มีค่าร้อยละก่อนการพัฒนาผลงานครูเก่งครูดี โดยในรายการประเมินที่ ๑ ถึงรายการ
ประเมินที่ ๑๐ ดังนี้ ๙๓.๑๐, ๘๒.๗๖, ๘๙.๖๖, ๓๔.๔๘, ๕๑.๗๒, ๓๔.๔๘, ๖๘.๙๗, ๖๒.๐๗, ๑๐๐ และ
๕๑.๗๒ ตามลำดับ และค่าร้อยละหลังการพัฒนาผลงานครูเก่งครูดีรายการประเมินที่ ๑ ถึงรายการประเมินที่
๑๐ ดังนี้ ๑๐๐, ๑๐๐, ๑๐๐, ๖๕.๕๒, ๗๙.๓๑, ๖๒.๐๗, ๑๐๐, ๑๐๐, ๑๐๐ และ ๙๓.๑ ตามลำดับ โดยค่า
ร้อยละเพิ่มขึ้น ๙ รายการ ได้แก่ รายการประเมินที่ ๑-๘ มีค่าร้อยละเพิ่มขึ้นเท่ากับ ๖.๙, ๑๗.๒๔, ๑๐.๓๔,
๓๑.๐๔, ๒๗.๕๙, ๒๗.๕๙, ๓๑.๐๓, ๓๗.๙๓ และ ๔๑.๓๘ ตามลำดบั ซ่งึ รายการประเมนิ ท่ี ๙ มีคา่ เทา่ เดมิ คือ
เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งก่อนและหลังการการพัฒนาผลงาน โดยจำนวนผลงานทั้งหมดก่อนการพัฒนาผลงานครู
เก่งครูดเี ท่ากบั ๑๙๔ และ หลังการพัฒนาผลงานครูเก่งครูดีเท่ากับ ๒๖๑
ขั้นตอนที่ ๓ ผลการประเมินความพึงพอใจของครูและผู้บริหาร มีต่อแบบประเมินคุณลักษณะครูเก่ง
ครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี นป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวดั เชียงราย
๑. ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ครูและผู้บริหารโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้
กระบวนการนเิ ทศแบบชีแ้ นะสอนงานและการเป็นพเี่ ล้ยี ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียน
ป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ผลการประเมินระดับความพึงพอใจของครูและ
๗๑
ผู้บริหาร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๐๙ อยู่ในระดับความพึงพอใจมากและ ๕.๐๐ จัดอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
ทส่ี ดุ โดยมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของครแู ละผบู้ รหิ ารเท่ากนั คอื ๐.๖๗ ผลสรุปการประเมิน
ความพึงพอใจของผู้ครูและผู้บริหารโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะ
สอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่า
แดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ผลการประเมินระดับความพึงพอใจของครูและผู้บริหาร มีค่าเฉลี่ยทั้งหมด
เท่ากับ ๔.๕๕ อย่ใู นระดับความพงึ พอใจมาก และค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานเทา่ กับ ๐.๖๗
อภิปรายผล
ขั้นตอนที่ ๑ การสร้างรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้
กระบวนการนเิ ทศแบบช้แี นะสอนงานและการเปน็ พเ่ี ลย้ี ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียน
ปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอปา่ แดด จงั หวัดเชียงราย
ผลการสร้างรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้กระบวนการนิเทศ
แบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอน
งานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด
จังหวัดเชียงราย มีคุณภาพสามารถนำไปใช้ในการบริหารจัดการโรงเรยี นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้อง
กบั มณนภิ า ชตุ บิ ุตร (๒๕๕๓) ได้กลา่ วว่ารปู แบบการพฒั นาคุณภาพครูดว้ ยวิธีเสริมพลัง โดยรูปแบบการพัฒนา
มี ๔ องค์ประกอบ คอื ๑.อบรม ๒.การเป็นพ่ีเลีย้ ง ๓.การชีแ้ นะ ๔.การนิเทศ อีกท้งั ยงั สอดคล้องกบั วิสุทธิ เวยี ง
สมุทร (๒๕๕๓) ได้กลา่ ววา่ การพฒั นารูปแบบการพัฒนาครูในการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่วง
ชนั้ ท่ี ๑-๒ แบบพฒั นาครปู ระกอบด้วย กระบวนการ ๗ ขน้ั ตอน ได้แก่ ๑.ศึกษาสภาพปญั หาปจั จบุ นั ๒.นําพาสู่
แนวทางแก้ไข ๓.ก้าวไกลเพิ่มพูนความรู้ของครู ๔.ลงสู่การปฏิบัติจริง ๕.พากเพียร นิเทศ ติดตามประเมินผล
๖.บุคลากรทุกคนร่วมชื่นชม ๗.เน้นการสร้างเครือข่ายร่วมใจพัฒนา และยังสอดคล้องกับชัชวาล เจริญบุญ
(๒๕๕๓) ได้กล่าวว่า รูปแบบการพัฒนาครู เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญของ
ครูผู้สอนในจังหวัดมหาสารคาม ใช้ ๓ กิจกรรมเป็นรูปแบบการพัฒนาครู ได้แก่ การอบรมเชิงปฏิบัติการผลิต
สื่อนวัตกรรม การศึกษาดูงานและการประชุมทบทวนความรู้ และยังสอดคล้องกับไอสัน และ บอนเวล
(๑๙๙๓) ได้กล่าวถึงรูปแบบที่ประสบผลสําเร็จของผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาครูโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา
รูปแบบที่ดีที่สุดของการพัฒนาครู เป็นรูปแบบที่มีการสนับสนุนให้ครูทํางานอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีการ
วางแผนดว้ ยตนเอง มีความสาํ เร็จตามรูปแบบ ซึง่ มอี งค์ประกอบ ดงั ต่อไปน้ี ๑.ศึกษาผลการปฏิบัติงานท่ีดีท่ีสุด
๒.เข้าใจความสัมพันธ์แนวปฏิบัติของตนเองกับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด ๓.กําหนดแผนปฏิบัติการของตนเอง ๔.
ดําเนินการตามแผน ๕.ประเมินผลด้วยตนเอง ๖.แสดงผลหรือแก้ไขผลการดําเนินงาน ๗.ประชุมแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ร่วมกัน พบว่า ครูมีการพัฒนาตนเอง หลังจากศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด สมาชิกแต่ละกลุ่มทราบ
ความก้าวหน้าของตนเองผ่านรูปแบบที่ประสบผลสําเร็จเป็นระยะๆ มากกว่ารับทราบทางเอกสารผลการวิจัย
ทําให้ทีมพัฒนาครูได้ตระหนักถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครูกระบวนการสะท้อนผลการปฏิบัติงานของ
ตนเอง และยังสอดคลอ้ งกับ วชิรา เครอื คำอา้ ยและชวลติ ขอดศิริ (๒๕๖๒) ได้กล่าวถึงการพฒั นารปู แบบการ
นิเทศโดยใช้กระบวนการชี้แนะและระบบพี่เลี้ยงเพื่อส่งเสริมศักยภาพ การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน จังหวัดเชียงใหม่ ผลการวิจัยพบวา่ ได้รูปแบบการนิเทศ
ชื่อว่า “ดับเบิ้ลพีแอลซีเอ พลัส (PPLCA Plus) ประกอบด้วย ๓ ส่วน คือ หลักการ เงื่อนไขสำคัญ และ
องค์ประกอบเกิดข้อค้นพบ (Body of Knowledge) และยังสอดคล้องกับศรีวรรณ แก้วทองดีและคณะ
๗๒
(๒๕๖๑) ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาตนเองของครูในสถานศึกษา สหวิทยาเขตบึงสามพัน สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๔๐ พบว่า ด้านที่มีความต้องการพัฒนาตนเองของครูมากที่สุด คือ ด้าน
การศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ ติดตามองค์ความรู้ใหม่ๆ ทางวิชาการและวิชาชีพ รองลงมาคือ ด้านการสร้างองค์
ความรแู้ ละนวัตกรรมในการพฒั นาองค์กรและวชิ าชพี สว่ นความต้องการพฒั นาตนเองของครูต่ำสุด ได้แก่ ด้าน
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสรา้ งเครือข่าย แนวทางการพัฒนาตนเองของครูในสถานศกึ ษา สหวิทยาเขต
บึงสามพัน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๔๐ คือ ๑)ควรวางแผนกำหนดแนวทางการ
พัฒนาตนเองของครูในการปฏิบตั ิงาน ๒)ควรสนบั สนุนงบประมาณ และใหโ้ อกาสครูพฒั นาตนเองทางวิชาการ
และวชิ าชพี ๓)ควรสง่ เสรมิ ใหค้ รสู ร้างนวตั กรรมแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นและสร้างเครือขา่ ย โดยใช้วิธีการท่ี
หลากหลาย และยังสอดคล้องกับมานิตย์ อาษานอกและชวลิต ชูกำแพง (๒๕๖๐) ได้กล่าวถึงการศึกษา
รปู แบบการพฒั นาครมู ืออาชีพตามแนวคดิ วิธีการสอนงานและให้คำปรึกษาโดยใช้วีดิทศั น์ ที่ส่งเสริมสมรรถนะ
การสอนครูในโรงเรียน โดยได้ศึกษาทำการประเมินผลการจัดกิจกรรมการพัฒนาในรูปแบบจากการสํารวจ
ความเห็นของครูในโรงเรยี นท่ีเข้าร่วมโครงการ ผลการศึกษาพบวา่ รูปแบบที่ใช้ในการพัฒนาครู ประกอบด้วย
ขั้นตอนการพัฒนา ๓ ขั้น ๔ ระยะ คือ ๑)ชั้นวางแผน (Plan) ๒)ขั้นดําเนินการพัฒนา (Process for
Development) มี ๔ ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ ๑ กิจกรรม Training for Coaching and Mentoring
ระยะที่ ๒ กิจกรรม Sharing and Learning Together ระยะที่ ๓ กิจกรรม Coaching and Mentoring
ระยะที่ ๓ กิจกรรม Coaching and Mentoring และระยะที่ ๔ กิจกรรม Showcase ๓)ขั้นสรุปและสะท้อน
ผล (Post and Reflection)
ผลการพัฒนาสมรรถนะการสอนของครู พบว่า ครูมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาหลังการฝึกอบรม
ระยะที่ ๑ คิดเป็นร้อยละ ๕๔.๒๖ และในระยะที่ ๒ ครูยังขาดความมั่นใจในการสร้างระบบ Coaching and
Mentoring การสร้างชุมชนการเรียนรู้ครู (PLC) มีความกังวลในการสร้างวีดิทัศน์ เนื่องจากขาดทักษะการใช้
ไอซีที และมีความต้องการในการฝึกอบรม พบว่า ครูมีความมั่นใจ และเจตคติทางบวกในการปฏิบัติมากข้ึน มี
เจตคตทิ ีด่ ีต่อการสร้างชุมชนการเรยี นรคู้ รู และสามารถวางแผนในการนาํ ระบบการสอนงานและให้คําปรึกษา
ไปใช้ในห้องเรียนได้ ในระยะที่ ๔ พบว่า สมรรถนะการสอน ของครูมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ทั้ง ๔
มิติ ทั้งมิติการจัดการห้องเรียน มิติด้านความรู้ มิติด้านวิธีสอน และมิติด้านการวินิจฉัย และยังสอดคล้องกับ
วาสนา มะณีเรืองและคณะ (๒๕๕๙) ได้กล่าวถึง รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
Model of Smart Teacher Development in Basic Education มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาคุณลักษณะครู
เก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และ
เพื่อประเมินรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบ
แบบกลุ่มตัวอย่างเดยี ว ผลการวจิ ยั สรุปได้ ดังนี้ ๑.ครูเก่ง มคี ณุ ลกั ษณะ ๕ ประการ ได้แก่ การพัฒนาตนเองอยู่
เสมอ ความสามารถในการสรา้ ง การพฒั นา หลกั สูตรและส่อื การสอน ความสามารถในการสอน ความสามารถ
ในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรบั ครูดี มคี ณุ ลักษณะ ๒ ประการ
ไดแ้ ก่ การครองตน และการครองงาน ๒.รปู แบบที่สามารถพฒั นาครูเก่งครดู ีของสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานได้มาก
ที่สุด คือ การสร้างระบบพี่เลีย้ ง รองลงมา คือ การฝึกอบรม และการนิเทศแบบคลินิก ตามลำดับ โดยรูปแบบ
ทั้งสามสามารถพัฒนาครูเก่งครูดีได้ ร้อยละ ๖๕.๑ รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ได้แก่ การสร้างระบบพี่เลีย้ ง การฝึกอบรม และการนิเทศแบบคลินกิ มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้สูง
กว่าเกณฑ์อยา่ งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดบั .๐๑ สรปุ ได้ว่ารปู แบบทีส่ ามารถพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐานได้มากที่สุด คือ การสร้างระบบพี่เลี้ยง รองลงมา คือ การฝึกอบรม และการนิเทศแบบคลินิก
ตามลำดบั
๗๓
สอดคล้องกับวรรณภร ศิริพละ (๒๕๕๙) ได้กล่าวถึงรูปแบบพัฒนาครูของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
ผลการวิจัยพบวา่ ๑.สภาพปัญหาการพัฒนาครูของมหาวิทยาลยั ราชภฏั คือ รปู แบบการพฒั นาครู ไดแ้ ก่ ปัจจยั
นำเข้าประกอบด้วย หลักสูตร บุคลากร งบประมาณ อุปกรณ์ เทคโนโลยีและการบริหารงานกระบวนการ
ประกอบด้วย วางแผน ลงมือปฏิบัติ ประเมินผลและตรวจสอบ ผลผลิต ประกอบด้วยวุฒิการศึกษาหรือวิทย
ฐานะเพิ่มขึ้นเทคนิคการจัดการเรียนรู้และวิจัยในชั้นเรียน ผลสะท้อนกลับประกอบด้วย ความร่วมมือระหว่าง
มหาวิทยาลัยราชภัฏกับสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกปัจจัยมีผลการดำเนินงานระดับมาก ด้วย
ค่าเฉล่ยี ๓.๘๖, ๓.๘๑, ๓.๘๖ และ ๓.๘๗ ตามลำดับ ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน ๐.๙๑, ๐.๙๐, ๐.๘๖ และ ๐.๘๕
ตามลำดบั
ขั้นตอนท่ี ๒ ผลการศึกษา การทดลองใชแ้ บบประเมินคุณลักษณะครูเก่งครูดโี ดยใชร้ ูปแบบการพัฒนา
ครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring
Supervisor) โรงเรยี นป่าแดดวิทยาคม อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชียงราย
ผลประเมินคุณลักษณะครเู ก่งครูดี การใช้รปู แบบการพัฒนาครเู ก่งครดู ี โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบ
ชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม
อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ผลการประเมินคุณลักษณะครูเก่งครดู ี มีค่าเฉลี่ยก่อนการศึกษาเท่ากบั
๔.๐๕ จดั อยูใ่ นระดับปานกลางและมีคา่ เฉล่ยี หลังการศึกษาเทา่ กับ ๔.๔๐ จัดอยูใ่ นระดบั ปานกลาง โดยผลต่าง
คา่ เฉลย่ี หลงั การศึกษาสูงกว่าก่อนการศึกษาเท่ากบั ๐.๓๖ และคา่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานคุณลกั ษณะครูเก่งครู
ดีก่อนการศึกษาเทา่ กับ ๐.๕๕ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคุณลักษณะหลังการศึกษาเท่ากับ ๐.๖๓ และผลต่าง
คา่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานเทา่ กบั ๐.๐๘
สอดคล้องกับวารุณี ลัภนโชคดี (๒๕๖๐) ได้กล่าวถึงรูปแบบการพัฒนาครู กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทยโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) องค์ประกอบด้าน
กระบวนการพัฒนาครู ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย ๒ กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมฝึกอบรม (Training) และ
กิจกรรมพี่เลี้ยงและการชี้แนะ (Coaching and Mentoring) และกลไกหลัก ๘ กลไก ได้แก่ การร่วมมือรวม
พลังกันทำงานเป็นทีม การมีเป้าหมายและการสร้างความเข้าใจรว่ มกันการเห็นความสำคัญและการสนับสนุน
ของผู้บริหารโรงเรียน การสร้างแรงบันดาลใจและความเชื่อมั่น การรู้จักและยอมรับซึ่งกันและกัน การเรียนรู้
ร่วมกันแบบกัลยาณมิตร การวิเคราะหป์ ัญหาและแกไ้ ขปญั หาในการพัฒนาครู รูปแบบการพฒั นาครูฯ อย่างมี
ประสิทธิภาพ เนื่องจากองค์ประกอบกิจกรรมย่อยในแต่ละองค์ประกอบการดำเนินงานพัฒนาครูมี ๓ ด้าน
ได้แก่ ความเปน็ ประโยชน์ ความเหมาะสม และความเป็นไปได้
สอดคล้องกบั วิสุทธิ์ วจิ ติ ร พัชราภรณ์และคณะ (๒๕๕๖) ไดก้ ล่าวถึงการพฒั นาครู โดยใชก้ ระบวนการ
สร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring ในด้านบริบท ด้านปัจจัยนําเข้า ด้านกระบวนการ และด้าน
ผลลพั ธ์ โดยได้ทําการประเมินใน ๔ ดา้ น คอื ด้านผลกระทบ ดา้ นประสทิ ธิผล ดา้ นความยง่ั ยืน และดา้ นการ
ถ่ายทอดส่งต่อ ซึ่งสอดคล้องกับคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้กล่าวถึงความพร้อมในการ
พัฒนาครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ตามความต้องการของสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษา ปทมุ ธานี โดยใชก้ ระบวนการสร้างระบบพี่เล้ยี ง Coaching and Mentoring พบวา่ กําหนดให้มี
การพฒั นาใน ๒ ลักษณะ คือ ชว่ งแรก เป็นการฝึกอบรมจาํ นวน ๒ วัน และชว่ งท่สี อง เปน็ การ Coaching and
Mentoring จาํ นวน ๓ ครง้ั
สอดคล้องกับมานิตย์ อาษานอกและชวลิต ชูกำแพง (๒๕๖๐) ได้กล่าวถึงผลการศึกษารูปแบบการ
พัฒนาครูมืออาชีพตามแนวคิดวธิ ีการสอนงานและใหค้ ำปรึกษาโดยใช้วีดิทศั น์ ที่ส่งเสริมสมรรถนะการสอนครู
๗๔
ในโรงเรียน จากการสํารวจความเห็นของครูในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษามหาสารคาม เขต ๑ จํานวน ๑๐๐ คน ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบที่ใช้ในการพัฒนาครู
ประกอบด้วยขั้นตอนการพัฒนา ๓ ขั้น ๔ ระยะ คือ ๑)ชั้นวางแผน (Plan) ๒)ขั้นดําเนินการพัฒนา (Process
for Development) มี ๔ ระยะ ประกอบด้วยระยะที่ ๑ กิจกรรม Training for Coaching and Mentoring,
ระยะที่ ๒ กิจกรรม Sharing and Learning Together, ระยะที่ ๓ กิจกรรม Coaching and Mentoring,
ระยะที่ ๔ กิจกรรม Showcase ๓) ขั้นสรุปและสะท้อนผล (Post and Refection) ผลการพัฒนาสมรรถนะ
การสอนครู พบวา่ ครูมีความรู้ความเขา้ ใจในเนื้อหาหลังการฝึกอบรมระยะท่ี ๑ คิดเปน็ ร้อยละ ๕๔.๒๖ และใน
ระยะที่ ๒ ครูยังขาดความมั่นใจในการสร้างระบบ Coaching and Mentoring การสร้างชุมชนการ เรียนรู้ครู
(PLC) มีความกังวลในการสร้างวีดิทัศน์ เนื่องจากขาดทักษะการใช้ไอซีที และมีความต้องการในการฝึกอบรม
ในระยะที่ ๔ พบว่าสมรรถนะการสอนของครูมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ทั้ง ๔ มิติ มิติด้านความรู้ มิติ
การจดั การห้องเรียน มิตดิ า้ นวิธีสอนและด้านการวนิ ิจฉัย สอดคลอ้ งกบั วาสนา มะณเี รอื งและคณะ (๒๕๕๙) ได้
กล่าวถึงรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (Model of Smart Teacher
Development in Basic Education) คือ หลักสูตรและสื่อการสอน ความสามารถในการสอน ความสามารถ
ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และความสามารถในการแกป้ ัญหาสำหรบั ครูดี มีคุณลักษณะ ๒ ประการ
ได้แก่ การครองตน และการครองงาน รูปแบบที่สามารถพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้มาก
ที่สุด คือ การสร้างระบบพีเ่ ลี้ยง รองลงมา คือ การฝึกอบรม และการนิเทศแบบคลินิก ตามลำดับ โดยรูปแบบ
ทั้งสามสามารถพัฒนาครูเก่งครูดีได้ ร้อยละ ๖๕.๑ รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ไดแ้ ก่ การสร้างระบบพี่เลีย้ ง การฝึกอบรม และการนเิ ทศแบบคลินิก มคี วามเหมาะสมและมีความเป็นไปได้สูง
กว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ สรุปรูปแบบที่สามารถพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาข้ัน
พน้ื ฐานไดม้ ากท่สี ุด คือ การสรา้ งระบบพเี่ ลี้ยง รองลงมา คอื การฝกึ อบรม และการนิเทศแบบคลนิ กิ ตามลำดบั
โดยรูปแบบทัง้ สามสามารถพัฒนาครเู กง่ ครดู ไี ด้เพยี งร้อยละ ๖๕.๑ เทา่ น้ัน
สอดคล้องกับ ธรินธร นามวรรณ (๒๕๖๑) ได้กล่าวถึงการพัฒนาครูโดยใช้นวัตกรรมการนิเทศ
การศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน พบว่า ผลการประเมินความพึงพอใจของครูต่อกระบวนการปฏิบัตินวัตกรรมการนิเทศการศึกษาใน
ระดบั มากทส่ี ดุ โดยรวมมีคา่ เฉลีย่ เท่ากบั ๔.๕๘ และคา่ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานเท่ากับ ๐.๔๘
สอดคล้องกับ ธานินทร์ ปัญญาวัฒนากุลและ สมศักดิ์ เอี่ยมคงสี (๒๕๖๐) ได้กล่าวถึงการพัฒนาครู
ด้านทักษะการจัดการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ โดยใชโ้ รงเรียนเปน็ ฐาน ในโรงเรยี นขนาดเลก็ ของอำเภอบางคล้า
จังหวัดฉะเชิงเทรา ผสมผสานรูปแบบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ ผลการศึกษาพบว่า
การศกึ ษาสภาพปญั หาและความต้องการในการพฒั นาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ โดยใช้
โรงเรียนเป็นฐาน ในโรงเรียนขนาดเล็กของอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา การพัฒนาครูด้านการจัดการ
เรียนรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ อยใู่ นระดบั มาก ความต้องการในการพฒั นาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษ
ที่ ๒๑ ในโรงเรยี นขนาดเล็กของอำเภอบางคล้า จงั หวัดฉะเชงิ เทรา มีความต้องการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
โดยเรียงลำดับความต้องการพัฒนาจากมากไปน้อยได้แก่การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีโครงการเป็นฐาน
การพัฒนาความสามารถในการพัฒนาเกณฑ์เพื่อการประเมินผลงานที่มีลักษณะจำเพาะชิ้นงานการพัฒนา
ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเข้าถึงข้อมลู อย่างรวดเร็วการพฒั นาหลักสูตรฝึกอบรมด้านทักษะการ
จัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในโรงเรียนขนาดเล็ก ของอำเภอบางคล้า จังหวัด
ฉะเชิงเทรา มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก การพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ โดยใช้
โรงเรียนเป็นฐาน ในโรงเรียนขนาดเล็ก อำเภอบางคลา้ จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา ให้มีความสามารถใน ๓ ด้าน พบว่า
๗๕
ทักษะการจัดการเรยี นรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบโครงงานด้านการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้มีคุณภาพอยู่
ในระดับดี ด้านการปฏบิ ตั ิการสอนมีคุณภาพอยู่ในระดับดี และทักษะการใช้เทคโนโลยีในการเขา้ ถงึ ข้อมูลอย่าง
รวดเร็วและถกู ต้อง มีคุณภาพอยู่ในระดบั ดี และทกั ษะการพัฒนาเกณฑเ์ พ่ือประเมินผลงานท่ีมีลกั ษณะจำเพาะ
ช้ินงานพบว่า มีคณุ ภาพอยูใ่ นระดับดี สอดคลอ้ งกบั ธรนิ ธร นามวรรณ (๒๕๖๑) ได้กล่าวถงึ การพฒั นาครูโดยใช้
นวัตกรรมการนิเทศการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
ขั้นตอนที่ ๓ ผลการประเมินความพึงพอใจของครูและผู้บริหาร มีต่อแบบประเมินคุณลักษณะครูเก่ง
ครูดี โดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง
(Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี นป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวัดเชยี งราย
ผลสรุปการประเมินความพึงพอใจของผู้ครูและผู้บริหารโดยใช้รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใช้
กระบวนการนิเทศแบบช้แี นะสอนงานและการเปน็ พเี่ ลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียน
ป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย พบว่า ผลการประเมินระดับความพึงพอใจของครูและ
ผบู้ ริหาร มคี า่ เฉล่ียทงั้ หมด เทา่ กบั ๔.๕๕ อย่ใู นระดบั ความพึงพอใจมาก และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ
๐.๖๗
สอดคล้องกับ สุวดี อุปปินใจและคณะ (๒๕๕๓ : บทคัดย่อ) ได้ทำการวิจยั เรื่องรูปแบบการใชร้ ะบบพี่
เลี้ยงและการสอนงานสำหรับการเตรียมความพร้อมและการพัฒนาอย่างเข้ม ของครูผู้ช่วยในโรงเรียนสังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดเชียงรายผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการใช้ระบบพี่เลี้ยงและ
การสอนงานสำหรับการเตรียมความพร้อมและการพัฒนาอย่าง เข้มของครูผู้ช่วยในโรงเรียนสังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดเชียงราย คือ GSMTP Model ประกอบด้วย ๑)วัตถุประสงค์ของ
รูปแบบ ๒)หลักการของรูปแบบ ๓) ระบบระบบพ่ีเล้ียงและการสอนงานองค์ประกอบ ในด้าน (๑)ปัจจัยนำเข้า
(๒)กระบวนการ (๓)ผลผลิต และ(๔)ข้อมูลย้อนกลับ ๔)แนวทางการนำรปู แบบไปใชแ้ ละ ๕)เง่ือนไขความสำเร็จ
ของการนำรูปแบบไปใช้ การประเมินรูปแบบ ในการทดลอง โดยการประเมินสภาพ การดำเนินการตาม
รูปแบบพบว่า หลังการใช้รูปแบบ ครูผู้ช่วยประสบผลสำเร็จทำให้ครูผู้ช่วยมีมาตรฐานการปฏิบัติตน และ
มาตรฐานการปฏิบัติงานมีผลการประเมินสูงขึ้น ครูผู้ช่วยและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ใน
ระดับมาก ส่วนการประเมินโดยการสัมมนาอิงผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิเห็นว่า มีประสิทธิภาพตาม
มาตรฐานด้านการใช้ประโยชน์มาตรฐานด้านความเปน็ ไปไดแ้ ละการนำไปใชแ้ ละมาตรฐานด้านความเหมาะสม
อยใู่ นระดับมาก
ขอ้ เสนอแนะ
๑. ขอ้ เสนอแนะในการนาํ ผลการวจิ ัยไปใช้
๑.๑ ควรเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง
นักเรียน นักเรียน และหน่วยงานอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นทีค่ วามรับผิดชอบของโรงเรียนให้ครอบคลุม และเพื่อให้เกดิ
การกระจายข้อมลู ส่ชู ุมชนในดา้ นการพัฒนาการจัดการศึกษาอยา่ งย่ังยนื
๑.๒ ควรจัดสรรทรัพยากรทั้งสื่อเทคโนโลยีและงบประมาณในการดําเนินการตามการพัฒนาครู
สง่ เสรมิ พัฒนาทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยแี ละนวัตกรรมทางการศึกษาอนื่ ๆมาประยุกตใ์ ช้ในกระบวนการพัฒนาครู
เก่งครูดีกระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอนงานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor)
โรงเรยี นปา่ แดดวิทยาคม อำเภอปา่ แดด จังหวดั เชียงราย
๒. ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ัยคร้ังตอ่ ไป
๗๖
๒.๑ การศกึ ษาการพฒั นาสมรรถนะครูและคุณลักษณะของครมู อื อาชพี
๒.๒ รูปแบบการพฒั นาครูทส่ี ง่ ผลตอ่ การพฒั นาศักยภาพทางวชิ าการของนักเรียน
บรรณานกุ รม
กรรณิการ์ ก้อนกลีบ. (2550). การพัฒนาการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นทักษะฟัง-พูด โดยใช้สื่อโฆษณา
สำหรบั นักเรยี นชว่ งชนั้ ที่ 4 (มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4) วทิ ยานพิ นธ์ ค.ม. อุตรดิตถ์ : มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ
อตุ รดติ ถ.์
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2553). พระราชบัญญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการ
ศึกษา (ฉบบั ที่ 3) พุทธศักราช 2553.กรงุ เทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.
________. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ. พ.ศ. 2542 และที่แกไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี
2) พ.ศ. 2545. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพรา้ ว.
________. สำนักคณะกรรมการข้าราชการครู. (2543). คุณธรรมและจิตสำนึกของข้าราชการครู. พิมพ์ครั้ง
ที่ 4. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพก์ ารศาสนา.
กิติมา ปรดี ดี ลิ ก. (2549). ทฤษฎีการบริหารองค์การ. กรงเทพมหานคร : ธนะการพิมพ์.
คณะกรรมการการศกึ ษาแหง่ ชาติ, สำนักงาน. (2553). คณุ ภาพของครสู ู่คุณภาพแห่งการเรียนรู้.
กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาแหง่ ชาติ.
คณะกรรมการขา้ ราชการครู, สำนกั งาน. (2552). สู่เสน้ ทางวิชาชพี ครู.กรงุ เทพมหานคร: คุรุสภาลาดพร้าว.
คณะกรรมการการประถมศึกษาแหง่ ชาติ,สำนักงาน. (2540). การนิเทศ ติดตาม ควบคุม กำกับ ประเมินผล
และรายงานผล. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพร้าว.
________. (2534). คูมือผู้บริหารโรงเรียน : การดําเนินงานการนิเทศ ภายในโรงเรียนประถมศึกษา.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพคุรสุ ภา ลาดพราว.
________. (2533). สภาพและความต้องการการนิเทศภายในของครูโรงเรียนประถมศึกษา .
กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว.
จิราพร นลิ กำเนดิ . (2547). การพัฒนาแผนการเรยี นรู้วิชาคณติ ศาสตร์ เรื่องบทประยกุ ต์ ช้นั ประถมศึกษาปี
ที่ 5 โดยการเรียนแบบร่วมมือ. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม.
เฉลิมชัย พันธ์เลิศ. (2549). การพัฒนากระบวนการเสริมสมรรถภาพการชี้แนะของนักวิชาการพี่เลี้ยง
โดยใช้การเรียนรู้แบบเนน้ ประสบการณ์ในการอบรม โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน. กรุงเทพมหานคร :
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.
ชดาพร พิมพิชัย. (2555).รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำครูด้านการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน
ประถมศกึ ษา
ขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร : จงเจริญการ
พมิ พ.์
ชัชวาล เจรญิ บุญ. (2553). รูปแบบการพฒั นาครูเพื่อส่งเสรมิ การจดั การเรยี นการสอนทเ่ี นน้
ผูเ้ รยี นเป็นสาคัญของครูผสู้ อนในจงั หวัดมหาสารคาม ท้งั 3 เขตพื้นที่การศกึ ษา เขต1 เขต 2
และเขต 3. มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
๗๗
ดำริ มุศรีพันธุ์. (2545). ความพึงพอใจและความต้องการการจัดการศึกษาสายอาชีพของศูนย์บริการ
การศึกษานอกโรงเรียน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม.
มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม.
บรรณานุกรม (ตอ่ )
ธรินธร นามวรรณ. (2561, กรกฎาคม-กันยายน) . การพัฒนาครูโดยใช้นวัตกรรมการนิเทศการศึกษาเพ่ือ
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน
พน้ื ฐาน. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม. ปที ่ี 12 ฉบบั ท่ี 3. หนา้ 334.
ธานินทร์ ปัญญาวัฒนากุล และสมศักดิ์ เอี่ยมคงสี. (2560,กรกฎาคม-ธันวาคม). การพัฒนาครูด้านทักษะการ
จัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในโรงเรียนขนาดเล็กของอำเภอบางคล้า
จงั หวัดฉะเชิงเทรา. วารสารราชนครินทร์. หน้า 72.
ธีรวี ทองเจือ ล. (2560). การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 มีประเด็นที่ควรคำนึงถึง
ตามพลวตั การเปล่ยี นแปลง. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ.
ธัญพร ชื่นกลิ่น. (2553) การพัฒนารูปแบบการโค้ช เพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของอาจารย์
พยาบาล ที่ส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาพยาบาลในสังกัดสถาบันพระ
บรมราชชนก กระทรวงสาธารณสขุ . กรงุ เทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร.
บญุ ชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจยั เบ้อื งตน้ . พมิ พ์ครง้ั ที่ 7. กรงุ เทพมหานคร : สุวรี ยิ าสาสน์ .
ปรยี าพร วงศ์อนุตร โรจน์. (2534). จิตวทิ ยาการศึกษา. กรงุ เทพมหานคร : ศูนย์สอื่ เสริมกรุงเทพ.
ภัทรภรณ์ น้อยกอ. (2561). รูปแบบการนิเทศโรงเรียนสองภาษาระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. การศึกษาตามหลกั สูตรครศุ าสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการ
บรหิ ารการศึกษา. นครสวรรค์ : มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์.
มณนภิ า ชุตบิ ตุ ร. (2553). รูปแบบการพฒั นาคุณภาพครูดว้ ยวธิ เี สรมิ พลัง. กล่มุ นเิ ทศติดตาม
และประเมินผลการจดั การศึกษา สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 3
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
กรุงเทพมหานคร เขต 3.
มานิตย์ อาษานอกและชวลิต ชูกำแพง. (2560). รูปแบบการพัฒนาครูมืออาชีพตามแนวคิดวิธีการสอนงาน
และให้คำปรึกษาโดยใช้สื่อวีดีทัศน์ที่ส่งเสริมสมรรถนะการสอนของครูในโรงเรียน. มหาสารคาม :
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ยอดหทัย เทพธรานนท์ (2552). Mentor-mentee-mentoring : ศาสตร์และศิลป์ของการเป็นนักวิจัยพี่
เลย้ี งทด่ี ี. กรุงเทพมหานคร : มูลนธิ บิ ัณฑิตยสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งประเทศไทย.
รัตนา แสงแก่นเพชร. (2543). ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในโรงเรียนเอกชนในจังหวัด
กาฬสินธ์ุ. รายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระ. สาขาวิชาบริหารการศึกษา. มหาสารคาม :
มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม.
รัตนวดี โชตกิ พนชิ . (มปป). จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชพี ครู. ภาควิชาหลกั สูตรและ
การสอน คณะศกึ ษาศาสตร์, มหาวทิ ยาลัยรามคำแหง. กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วรรณวรางค์ ทัพเสนีย์. (2553). การสอนงานกับระบบพี่เลี้ยง (Mentoring System) ความเหมือนที่
แตกตา่ ง. กรุงเทพมหานคร : มติชน.
๗๘
วรรณภร ศริ พิ ละ. (2559). รูปแบบการพัฒนาครขู องมหาวทิ ยาลัยราชภฏั . ปริญญานพิ นธ์ กศ.ด. (การบรหิ าร
การศกึ ษา). กรุงเทพมหานคร : บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม.
บรรณานุกรม (ตอ่ )
วชิรา เครือคำอ้าย และ ชวลิต ขอดศิริ. (2562, มกราคม-เมษายน). การพัฒนารูปแบบการนิเทศก์โดยใช้
กระบวนการชี้แนะและระบบพี่เลี้ยง เพื่อส่งเสริมศักยภาพการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สังกัด
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสมาคมนักวิจัย. ปีที่ 24
ฉบับที่ 1, (121-122).
วรากรณ์ สามโกเศศ. (2558). ครูดีท่ีสังคมถวิลหา.กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลยั ธุรกจิ บัณฑิต.
วสนั ต์ ปานทอง และคณะ. (2556). รปู แบบการพฒั นาครเู พื่อศิษย์ในสถานศึกษา สังกัดสาํ นักงานเขตพื้นท่ี
การศกึ ษาประถมศึกษา. วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร. ปีท่ี 15 ฉบับพเิ ศษ , (หนา้ 1-
2).
วารุณี ลัภนโชคดี. (2560,กรกฎาคม – ธันวาคม). รูปแบบการพัฒนาครูภาษาไทยโดยใช้กระบวนการสร้าง
ระบบพ่เี ลย้ี ง. วารสารวชิ าการมหาวิทยาลยั ราชภัฏภูเก็ต. ปีที่ 13 ฉบับท่ี 2, (หนา้ 150-181)
วาสนา มะณีเรือง. (2559). รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. ปริญญานิพนธ์ กศ.ด.
(การบริหารการศึกษา). กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ.
________. (2559). รูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์
มจร. ปีท่ี 4 ฉบับท่ี 2, (หน้า 1).
วิสุทธิ์ วจิ ิตรพชั รภรณ์. (2559). รูปแบบการนิเทศภายในของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาโดยใช้
กระบวนการสอนแบบพี่เลย้ี ง. The Golden Teak : Humanity and Social Science
Jourmal (GTHA.). Vol.22 No. 2 May-August 2016.
________. (2556). รายงานการวจิ ยั การประเมินโครงการพฒั นาครูโดยใช้ กระบวนการสรา้ งระบบพเ่ี ลี้ยง.
กรงุ เทพมหานคร : มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์.
วิเวก สขุ สวัสดิ์. (2537). แนวคิดการนิเทศการศกึ ษา. กรงุ เทพมหานคร : วัฒนาพานชิ .
________. (2537). การศกึ ษาความคิดเหน็ ของครปู ระถมศึกษาที่มีตอ่ พฤติกรรมการนเิ ทศการศกึ ษาของ
ศกึ ษานิเทศก์ สงั กดั สำนักงานการประถมศึกษาจงั หวัดพังงา ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. สงขลา :
มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ ภาคใต้.
ศรวี รรณ แก้วทองดี และคณะ. (2562). แนวทางการพฒั นาตนเองของครูในสถานศกึ ษา สหวิทยาเขตบงึ
สามพนั สงั กดั สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 40. นครสวรรค์ : มหาวิทยาลยั ราช
ภัฏนครสวรรค์.
ศุภวรรณ ศรเี กตุ. (2552). ความสมั พันธ์ระหว่างระบบพีเ่ ล้ียงกบั การปรับตวั ในการท างานของพนกั งา น
รายงานการวิจัยการพฒั นาครโู ดยใชกร้ ะบวนการสรา้ งระบบพเี่ ลีย้ ง. นครราชสีมา : คณะครุ
ศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
ศภุ วัลย์ ภปู่ ระเสรฐิ . (2552). ผลการใช้บทเรยี นปฏบิ ัตกิ ารโดยใช้โปรแกรม GSP ทเี่ น้นทักษะการเชื่อมโยง
สาระเรขาคณติ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6. ลพบุรี :
มหาวิทยาลยั ราชภฏั เทพสตรี.
๗๙
สมเกยี รติ ทานอก และคณะ. (2556). การพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพเี่ ลี้ยง Coaching and.
Mentoring. นครราชสีมา : คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครราชสมี า.
สงัด อุทรานนั ท์. (2529). การนิเทศการศึกษา : หลักการทฤษฎแี ละปฏิบัติ. กรงุ เทพมหานคร : จุฬาลงกรณ.์
บรรณานกุ รม (ต่อ)
สลิลลา ชาญเชี่ยว. (2547). การพฒั นาแผนจดั กจิ กรรมการเรียนรู้และแบบฝกึ หดั กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตรช์ ัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1. มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.
สวสั ดิ์ สุขโสม. (2551). การจดั กจิกรรมการเรียนเรอื่ งการอ่านและการเขียนสะกดคำไมต่ รงมาตรา
ตวั สะกด โดยใช้แบบฝึกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2. มหาสารคาม :
มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
สาย ภาณุรัตน์. (2517). การนิเทศการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช.
สาธติ จนั ทรวินิจ. (2556-2557, มิถนุ ายน-มีนาคม). การประเมนิ โครงการพฒั นาครู โดยใช กระบวนการ
สรา้ ง ระบบพเ่ี ลี้ยง Coaching & Mentoring สำนักงานเขตพนื้ ท่ี การศึกษาประถมศกึ ษา
นครปฐม เขต 1. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปกร, ปที 1ี่ 1 (ฉบับ 1,2), หน้าที่ 16-21.
สวุ ดี อปุ ปนิ ใจและคณะ. (2551). รูปแบบการใชร้ ะบบพเี่ ลี้ยงและการสอนงานสำหรับการเตรียมความพร้อม
และการพัฒนาอยา่ งเข้ม ของครูผ้ชู ่วยในโรงเรียนสังกัดสำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษา
จงั หวัดเชียงราย. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลยั เซนตจ์ อหน์ .
โสภณ ภเู่ ก้าลว้ น. (2557). ระบบพเี่ ลี้ยงในการทำงานโครงการการเพ่มิ ศักยภาพการบริหารทนุ มนษุ ย์.
กรงุ เทพมหานคร : กรมสง่ เสริมอตุ สาหกรรม สำนักพัฒนาผ้ปู ระกอบการ บริษทั เอม็ ดิกโฮลด้ิงจำกดั
สำนกั งาน ก.ค.ศ. กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2552). คู่มือการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศกึ ษา : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.
สำนกั พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน.(2554). คมู่ อื ประเมินสมรรถนะครู
(ฉบบั ปรบั ปรงุ ). กรงุ เทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน.
สำนกั วจิ ัยและพฒั นาการศึกษา. (2559). ทิศทางและโจทย์วจิ ัยของการศึกษาไทยเพอ่ื บรรลุ
เป้าหมายการพัฒนาทย่ี ั่งยืนของโลก. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั 21 เซน็ จรู ี่ จำกัด.
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา. (2551). รายงานการวจิ ยั สมรรถนะครูและแนวทางการ
พัฒนาครใู นสงั คมท่เี ปลี่ยนแปลง. กรุงเทพมหานคร : สกศ. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
สำราญ มีแจง้ . (2556). รายงานการวจิ ยั และพฒั นารูปแบบการพฒั นาครูและผบู้ ริหารสถานศึกษาแบบ
ใช้โรงเรยี นเปน็ ฐานในโรงเรยี นขนาดเล็ก ระยะท่ี 2 : จังหวดั พิษณโุ ลก. สบื ค้นเมือ่ 20 มกราคม
2564, จาก http://www.thaiedresearch.org/index.php/home/paperview/41/?
อรพรรณ บุตรกตัญญู. (2549). การพัฒนากระบวนการเรียนรู้จากการปฏบิ ตั ผิ สานการชแ้ี นะ เพ่ือ
เสริมสรา้ งการรบั รู้ความสามารถของตนของครูอนบุ าล. กรงุ เทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลยั .
อัญชลี ธรรมะวธิ กี ุล. (2553). เทคนคิ การนเิ ทศ: ระบบพเี่ ล้ยี งและการใหคำปรกึ ษา (Mentoring). สบื ค้น
เมือ่ วันท่ี 15 มกราคม 2564, จาก
http://panchalee.wordpress.com/2009/07/28/mentoring/
๘๐
หทัยกาญจน์ วงษ์แก้ว (2552). การพฒั นาชุดการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร เรอื่ ง My Village โดย
ใชว้ ิธีการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ ประเภทแบ่งกลุ่มสัมฤทธิ์ สำหรบั นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
โรงเรยี นบา้ นหนองเขียววิทยานพิ นธ์ ค.ม. อตุ รดิตถ์ : มหาวิทยาลยั ราชภัฏอตุ รดิตถ์.
Adams, Dennis & Mary Hamm.(1994). New Designs for Teaching and Learning.Jossey-
บรรณานกุ รม (ต่อ)
Anderson, C. W. (1989). The role of education in the academic disciplines in teacher
education.I n A. Woolfolk (Ed.), Research perspective son the graduate
preparation of teachers. Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall
Angelo, T. A., & Cross, K. P. (1993).Classroom assessment techniques: A handbook for
college teachers (Second Ed.). San Francisco: Jossey-Bass.
Border, L. & Van Note Chism, N. (eds.) (1992).Teaching for Diversity.Jossey-Bass
Publishers.
Bray, M. (2003). Comparative Education: Continuing Traditions, New Challenges, and
New Paradigms. London: Kluwer Academic Publishers.
Briggs, T.H. & Justman, J. (1952). Improving Instruction Through Supervision. New York :
Macmillan.
Brookfield, S. D., &Preskill, S. (1999). Discussion as a way of teaching: Tools and
techniques for democratic classrooms. San Francisco: Jossey-Bass.
Fishman, J. J., Marx, R. W., Best, S., & Tal, R. T. (2003).Linking teacher and student
learning to improve professional development in systemic reform. Teaching and
Teacher Education, 19, 643-658.
Franke, M. L., Carpenter, T. P., Levi, L., &Fennema, E. (2001).Cap-Turing teachers'
generative change: A follow-up study of professional development in
mathematics. American Educational Research Journal, 38, 653-689.
Guarino CM, ReckaseMD,Wooldridge JM. (2011). Can value-added measures of teacher
performance be trusted?Work.Pap.18, Educ. Policy Cent., Michigan State Univ.
Mavuso, Michael Abby. (2007). Mentoring as a Knowledge Management Tool in
Organisations. . Thesis (M.Phil.) --Stellenbosch University
McLaughlin, M. W. & Talbert, J. E. (2001).Professional communities and the work of
high school teaching.Chicago, IL: University of Chicago Press.
Putnam, R. & Borko, H. (1997). Teacher learning: Implications of new views of
cognition. The international handbook of teachers and teaching. Dordrecht, The
Netherlands: Kluwer.127Im
Seldin, P. (1991). The teaching portfolio: A practical guide to improved performance
and promotion/tenure decisions. Third Edition. Bolton, MA: Anker.
๘๑
Strauss, George; & Sayles, Leonard R. (1960). Personnel : The Human Problems of
Management. Englewood Cliffs: Prentices-Hall. 146 1466 146
Wright, Andrew. (1995). Storytelling with Children. New York : Oxford University Press.
ภาคผนวก
๙๓
ภาคผนวก ก
๑. รายชอื่ ผ้เู ชี่ยวชาญตรวจสอบคณุ ภาพเคร่ืองมือ
๒. หนังสอื ขอความอนเุ คราะห์เปน็ ผ้เู ชยี่ วชาญตรวจสอบเครอื่ งมือการวิจยั
๙๔
รายช่อื ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคณุ ภาพเครอ่ื งมอื
๑. นายทองปอนด์ สาดอ่อน อดีตผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาเช่ยี วชาญ สำนักงานเขต
พืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๓๖
๒. นางสาวจรี ะพันธ์ อุดมลาภ อดีตผู้อำนวยการเชย่ี วชาญ โรงเรยี นวิทยาศาสตรจ์ ฬุ าภรณราชวทิ ยาลัย
เชยี งราย
๓. ดร.ธวัช ชุมชอบ อดีตผอู้ ำนวยการเชยี่ วชาญ โรงเรยี นสามัคควี ิทยาคม อ.เมือง จ.เชียงราย
๔. ดร.ทวปี วงศ์ชาลกี ลุ ผ้อู ำนวยการเชี่ยวชาญ โรงเรียนแมเ่ จดียว์ ิทยาคม อ.เมือง จ.เชยี งราย
๕. ดร.สมนกึ นาห้วยทราย รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๔
๙๕
หนงั สอื ขอความอนเุ คราะหเ์ ป็นผูเ้ ช่ียวชาญตรวจสอบเคร่ืองมือการวิจัย
๙๖
หนงั สอื ขอความอนเุ คราะหเ์ ป็นผูเ้ ช่ียวชาญตรวจสอบเคร่ืองมือการวิจัย
๙๗
หนงั สอื ขอความอนเุ คราะหเ์ ป็นผูเ้ ช่ียวชาญตรวจสอบเคร่ืองมือการวิจัย
๙๘
หนงั สอื ขอความอนเุ คราะหเ์ ป็นผูเ้ ช่ียวชาญตรวจสอบเคร่ืองมือการวิจัย
๙๙
หนงั สอื ขอความอนเุ คราะหเ์ ป็นผูเ้ ช่ียวชาญตรวจสอบเคร่ืองมือการวิจัย
๑๐๐
ภาคผนวก ข
๑. แบบประเมินประสทิ ธิภาพของนวตั กรรม รปู แบบการพัฒนาครเู ก่งครดู ีโดยใชก้ ระบวนการนิเทศแบบช้ีแนะ
สอนงานและการเป็นพ่เี ลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี นป่าแดดวทิ ยาคม อำเภอปา่
แดด จงั หวัดเชียงราย
๒. แบบประเมินคุณภาพนวัตกรรมรปู แบบการพฒั นาครเู ก่งครูดโี ดยใชก้ ระบวนการนเิ ทศแบบชแี้ นะสอนงาน
และการเป็นพี่เลีย้ ง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรยี นปา่ แดดวทิ ยาคม อำเภอปา่ แดด
จงั หวดั เชยี งราย
๓. แบบประเมินคุณลกั ษณะครเู ก่งครูดี โรงเรียนปา่ แดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวดั เชยี งราย
๔. แบบสำรวจผลการปฏิบัตงิ านของครู โรงเรยี นปา่ แดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จงั หวดั เชยี งราย
๕. แบบประเมนิ ความพึงพอใจรปู แบบการพัฒนาครูเก่งครูดี โดยใชก้ ระบวนการนิเทศแบบช้แี นะสอนงานและ
การเป็นพีเ่ ลีย้ ง (Coaching and Mentoring Supervisor)
๑๐๑
๑. แบบประเมินคุณภาพนวัตกรรมรูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชี้แนะสอน
งานและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring Supervisor) โรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่า
แดด จงั หวัดเชียงราย
๑๐๒