E - B o o k Meteorological Information and Utilization
บทนำ การพยากรณ์อากาศมีการใช้ข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศเพื่อ นำ ไปคาดการณ์สภาพลมฟ้าอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เป็นแผนที่แสดงระบบความกดอากาศซึ่งเกิดจากการหมุนเวียนของอากาศบนพื้น โลกที่ได้มาจากการวิเคราะห์ค่าความกดอากาศ(hPa)ที่หักแก้หาระดับน้ำ ทะเล ปานกลาง ของสถานีตรวจอากาศต่างๆตามภูมิภาคของโลก ในแผนที่อากาศ ประกอบด้วยเส้นความกดอากาศเท่า(Isobar)ที่ลากผ่านบริเวณต่างๆซึ่งบาง บริเวณมีลักษณะเป็นระเบียบ ห่างหรือชิดกันและบางบริเวณมีลักษณะเป็นแนว โค้งของTrough หรือ Ridge รวมทั้งปัจจัยที่ก่อให้เกิดสภาพอากาศ เช่น บริเวณ ความกดอากาศสูง หย่อมความกดอากาศต่ำ เป็นต้น ข้อมูลและสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา นักอุตุนิยมวิทยารวบรวมข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศจากสถานีตรวจ อากาศทั่วโลกมาแสดงผลในรูปแบบของสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาเพื่อ ให้ง่ายต่อการนำ ไปใช้พยากรณ์อากาศ เช่น แผนที่อากาศชนิดต่างๆ ภาพ ดาวเทียม โดยสารสนเทศแต่ละประเภทแสดงข้อมูลและองค์ประกอบลม ฟ้าอากาศที่แตกต่างกันดังนี้ แผนที่อากาศผิวพื้น เตัวอย่างแผนที่อากาศผิวพื้น(Synoptic Surface Chart or Top Chart)
ความหมายและสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศในแผนที่
วงกลม แสดงปริมาณเมฆปกคลุมเหนือสถานี สีขาว: ไม่มีเมฆ สีดำ : เมฆมาก ลูกศร แสดงทิศทางลมที่พัดเข้าหาสถานี ขีดฉากที่ปลายลูกศรแสดง ความเร็วลม ขีดยิ่งมาก ลมยิ่งแรง ความกดอากาศที่ระดับน้ำ ทะเล แสดงด้วยตัวเลขขวามือด้านบน เป็น ตัวเลขสามหลัก หมายถึง ตัวเลขท้ายสองหลักและทศนิยมหนึ่งหลัก (107 หมายถึง 1010.7 hPa) แนวโน้มของความกดอากาศเปรียบเทียบกับ 3 ชั่วโมงที่แล้ว แสดง ด้วยตัวเลขทางด้านขวามือมีหน่วยเป็น hPa ค่า + หมายถึงความกด อากาศสูงขึ้น, ค่า - หมายถึงความกดอากาศต่ำ ลง อุณหภูมิจุดน้ำ ค้าง แสดงด้วยตัวเลขซ้ายมือด้านล่าง ลักษณะอากาศ แสดงด้่วยสัญลักษณ์อุตุนิยมวิทยาทางด้านขวามือ อุณหภูมิอากาศ แสดงด้วยตัวเลขด้านซ้ายบน 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.
ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา เป็นภาพที่ได้จากการตรวจวัด คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในหลายช่วงคลื่นของดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคลื่นอินฟาเรด เป็นภาพที่ได้จากการตรวจวัดปริมาณของรังสีอินฟาเรดที่แผ่ออกมาจากวัตถุ สามารถตรวจจับได้ทุกช่วงเวลา ภาพที่ได้จะมีเฉดสีเทาไล่ระดับสีแตกต่างกันตาม อุณหภูมิของพื้นผิววัตถุ ดังนั้นภาพถ่ายดาวเทียมช่วงคลื่นอินฟาเรดของเมฆจึงมีสี แตกต่างกันตามอุณหภูมิของเมฆชนิดต่างๆ เมฆที่อยู่สูงหรือมียอดสูงมีอุณหภูมิต่ำ เช่น เมฆชั้นสูง เมฆฝนฟ้าคะนอง จะปรากฏภาพสีขาว เมฆที่อยู่ในระดับต่ำ ลงมา ใกล้พื้นผิวโลก มีอุณหภูมิสูงขึ้นตามระดับความสูงที่ลดลง จะปรากฏเฉดสีเทา ส่วน พื้นดินและพื้นน้ำ ซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่าเมฆขะปรากฏสีเทาเข้มถึงดำ
ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคลื่นแสง เป็นภาพที่ได้จากการสะท้อนรังสีของวัตถุ การใช้ประโยชน์จากภาพถ่าย ดาวเทียมในช่วงคลื่นแสงจะใช้เฉพาะภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงเวลาที่มีแสง ภาพที่ได้จะเป็นเฉดสีเทาไล่ระดับสีตามอัตราส่วนรังสีสะท้อนของวัตถุซึ่งจะ สัมพันธ์กับความหนาของเมฆ ถ้าเมฆมีความหนามากจะมีอัตราส่วนรังสี สะท้อนสูงกว่าเมฆที่มีความหนาน้อย ภาพถ่ายดาวเทียมช่วงคลื่นแสงจึง แสดงเฉดสีของเมฆที่แตกต่างกันไปโดยไล่ระดับเฉดสีจากสีขาวไปจนถึงสี เทาอ่อนตามความหนาเมฆที่ลดลง เมฆที่มีความหนาน้อยมากจะมีสีเทา เข้มถึงค่อนข้างดำ
เรดาร์ เรดาร์ (อังกฤษ: radar) เป็นระบบที่ใช้คช้ลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็น เครื่องมือในการระบุระยะ (range) , ความสูง (altitude) รวม ถึงทิศทางหรือความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุ เดิมทีตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1941 คำ ว่า "เรดาร์" ในภาษาอังกฤษสะกดด้วยอักษร ตัวพิมพ์ใหญ่ คือ RADAR และย่อมาจากคำ ว่า Radio Detection and Ranging อย่างไรก็ตามในระยะหลัง คำ นี้ได้ กลายเป็นคำ ทั่วไปในภาษาอังกฤษ เราจึงพบเห็นการสะกด ด้วยตัวพิมพ์เล็กแทน สำ หรับในสหราชอาณาจักร คำ ว่าเรดาร์ แต่เดิมถูกเรียกว่า RDF (radio direction finder)
ประโยชน์ 1.วางแผนการประกอบอาชีพ 2.การท่องเที่ยว 3.วางแผนเตรียมความพร้อมกับภัยพิบัติทาง ธรรมชาติ 4.วางแผนการบริหารจัดการน้ำ 5.วางแผนการคมนาคม 6.วางแผนการปฏิบัติการนอกชายฝั่ง 7..วางแผนการท้ากิจกรรมประจำ วัน fun enjoy
ผู้จัดทำ กฤษาลักษณ์ จำ ปาทอง ม.5.1 เลขที่ 9 พงษ์พัฒน์ พุฒิกานนท์ ม5.1 เลขที่22