ความรู้พื้นฐานใน
การอ่านวรรณคดี
เขาพระสุเมรุ นรก/สวรรค์
สัตว์หิมพานต์ ทวีปทั้ง ๔
ทวีปทั้ง๔
ชมพูทวีป อปรโคยานทวีป อุตตรกุรุทวีป และปุพพวิเทหทวีป
ชมพูทวีปนั้นเปรียบได้กับดินแดนมนุษย์ หรือโลกของเรา ส่วนอีก 3 ทวีปที่เหลือเป็นดินแดนของ
‘มนุษย์ต่างดาว’ หรือดินแดนอื่นที่มีสิ่งมีชีวิตคล้ายๆ กับชมพูทวีป
เขาพระสุเมรุ กลางสวรรค์ ชั้นที่หนึ่ง
เป็นที่ซึ่ง เทพยดา อยู่สลอน
มีคนธรรพ์, กุมภัณฑ์ นาคมากอมร
ทิศอุดร ยักษ์อยู่ อย่างรู้กัน
แบ่งทวีป เวียงวัง ทั้งสี่ทิศ
เนรมิต บ้านเมือง เรืองลดหลั่น
มีนคร ใหญ่น้อย หลายร้อยพัน
เฉกประชัน เมืองมนุษย์ มโนรมย์
(ไตรภูมิิพระร่วง)
1. อุตตรทวีป
ภูมิประเทศและสังคม อุตตรกุรุทวีป มีขนาดพื้นที่ประมาณ 8,000 โยชน์ มีต้นกัลปพฤษก์เป็นไม้ประจำทวีปนี้
อากาศของทวีปนี้ดีมาก ไม่มีมลภาวะที่เป็นพิษ น้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ ภูมิประเทศสะอาดไร้สิ่งสกปรก ไม่มีกลิ่น
เหม็น ไม่มีสัตว์ร้ายสัตว์พิษ
รูรปูปลัรก่าษงณใ์หญม่นโุตษกย์วที่่าอชาาศัวยชอมยูพ่ใูนททวี
วปีป3นี้เทม่ีาลักษณะใบหน้ารูปท
รงสี่เหลี่ยม ร่างกายไม่พิการ ไม่มีโรคหรือเจ็บป่วย
2. ปุพพวิเทหทวีป
ภูมิประเทศเเละสังคม ปุพพวิเทหทวีป มีพื้นที่ขนาด 7,000 โยชน์มีต้นซึก (สีรีสกะ) เป็นไม้ประจำทวีปนี้ มนุษย์
ทวีปนี้ มีสีผิวหลากสี คือ ขาว ดำ สีผสม สีทอง สีด่าง มีอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับคล้าย
ชาวชมพู ทวีป
3. อปรโคยานทวีป
ภูมิประเทศเเละสังคม อมรโคยานทวีพื้นที่ขนาด 7,000 โยชน์ ทวีปนี้มีต้นกทัมพะ (ไม้กระทุ่ม)
เป็นไม้ประจำทวีปนี้ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีลักษณะใบหน้ากลม คล้ายวงพระจันทร์
4. ชมพูทวีป
ภูมิประเทศเเละสังคม
ชมพูทวีป มีพื้นที่ขนาด 10,000 โยชน์ต้นชมพูหรือไม้หว้าชื่อ นคะ เป็นไม้ประจำชมพูทวีป มนุษย์ที่
อาศัยอยู่ในทวีปนี้มีลักษณะใบหน้าเป็นรูปไข่ กำหนดอายุขัยไม่แน่นอน โดยความยิ่งหย่อนใน
คุณธรรม
เขาพระสุเมรุ
เขาพระสุเมรุ คือภูเขาที่เป็นหลักของโลก ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของโลกหรือจักรวาล เป็นที่อยู่
ของสิ่งมีวิญญาณในภพและภูมิต่างๆ นับแต่สัตว์นรกสัตว์เดรัจฉานไปถึงมนุษย์นาค ครุฑ
ยักษ์มาร คนธรรพ์ฤๅษีและเทวดา โดยมีปลาอานนท์หนุนอยู่รอบๆ เขาพระสุเมรุ
มีภูเขารองรับ 3 ลูก โดยส่วนฐานคือ ตรีกูฏ (สามเส้าหรือสามยอด)
มีภูเขาล้อมรอบ 7 ทิว เรียกว่า สัณบริภัณฑคีรี คือ ทิวเขา ยุคนธร กรวิก อิสินธร สุทัศ
เนมินธร วินตกและอัสกัณ มีเทวดาจตุมหาราชิก และบริวารสถิตอยู่
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง
เขาพระสุเมรุ
สัตว์ในป่าหิมพาน
สัตว์หิมพานต์
คือสัตว์ในจินตนาการที่กวี หรือจิตรกร พรรณนาถึง อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์
หรือเขาไกรลาส ดังที่ปรากฏในวรรณคดีไตรภูมิพระร่วง และรามเกียรติ์ โดยมี
ลักษณะของสัตว์หลายชนิดมาประกอบกันในตัวเดียว จำแนกออกเป็น 3
ประเภท คือ สัตว์ทวิบาท (มีสองขา) สัตว์จตุบาท (มีสี่ขา) และจำพวกปลา
พญานาค
นาค หรือ พญานาค เป็นความเชื่อในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเรียก
ชื่อต่าง ๆ กัน แต่มีลักษณะร่วมกัน คือ เป็นงูขนาดใหญ่มีหงอน เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่ง
ใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสู่จักรวาลอีกด้วย
ต้นกำเนิดความเชื่อเรื่องพญานาคน่าจะมาจากอินเดีย ด้วยมีปกรณัมหลายเรื่องเล่าถึง
พญานาค โดยเฉพาะในมหากาพย์มหาภารตะ นาคถือเป็นปรปักษ์ของครุฑ ส่วนในตำนาน
พุทธประวัติก็เล่าถึงญพานาคไว้หลายครั้งด้วยกัน
กรงนาคมังกรเกี้ยวกล เจ็ดเศียรเสียดสน
อนันตนาคบปาน
มีเทพประนมมือมาลย คือเห็จเหินทะยาน
มาดูดำกลเรียงรัน
(อนิรุทธค ำฉันท์)
ภาพจิตรกรรมพญานาค
พญาครุฑ
ครุฑ เป็นสัตว์กึ่งเทพในปกรณัมอินเดียและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหากาพย์
มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคและทะเลาะกันจนเป็นศัตรู
ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนก และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ปกติอาศัยอยู่ที่
วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้
แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่ง
เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ"
ครุฑเป็นสัตว์ใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญาเฉียบ
แหลม อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ
ครุฑเอยครุฑทรง
เทียบพงศ์ทั่วภพไม่มีสอง
คู่นารายณ์เคยณรงค์รณคะนอง
เผ่นทะยานผ่านผยองโพยมบน
(บทละครเรื่อง อุณรุท)
ภาพจิตรกรรมพญาครุฑ
สวรรค์และนรก
สวรรค์
สวรรค์ในความเชื่อทางศาสนาพุทธ แปลว่า ภูมิหรือดินแดนที่มีอารมณ์เลิศด้วยดี
เป็นที่อยู่ของเทวดา เหตุที่ทำให้มาเกิดเป็นเทวดาเพราะได้ สร้างบุญกุศลไว้
เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ วิมานคือที่อยู่อาศัยของเทวดา ล้วนมีความวิจิตรงดงาม
มีขนาดแตกต่างกัน จำเเนกเป็นชั้นๆ มีลำดับดังนี้
จาตุมหาราชิกาเทวภูมิ- สวรรค์ชั้นที่ ๑ จะมีสมบัติ ทิพย์อันอำนวยความสุขนานาประการแล้ว
ยังมีสระ โบกขรณีซึ่งมีน้ำใสยิ่งกว่าแก้ว
ตาวติงสเทวภูมิ- สวรรค์ชั้นที่ ๒ เป็นแดนที่อยู่อันแสนจะสนุกเป็นสุขสำราญ รื่นรมย์น่าชม
น่าเที่ยวน่าทอดทัศนา จึงเป็นที่อยู่ของ โยคี ฤๅษี
ยามาเทวภูมิ- สวรรค์ชั้นที่ ๓ มีปราสาทเงินและปราสาททอง เป็นปราสาท พิมานที่สถิตอยู่ของ
เทพเจ้าชาวสวรรค์ชั้นยามาทั้งหลายปราสาทวิมานเหล่านั้นสวยงามวิจิตรตระการยิ่งกว่า
ปราสาทวิมานในสวรรค์ชั้นไตรตรึงษ์ มีสวนอุทยาน และสระโบกขรณีอันเป็นทิพย์อยู่หลากหลาย
ตุสิตาเทวภูมิ- สวรรค์ชั้นที่ ๔ เป็นปราสาทสวยสดงดงาม มีความวิจิตรตระการตา สำหรับปวง
เทพเจ้าผู้สถิตอยู่ในดุสิตสวรรค์นี้ แต่ละองค์ย่อมฏมีรูปทรงสวยงาม มีความสง่ากว่า เหล่าเทพยดา
ชั้นต่ำๆ มีน้ำใจรู้บุญรู้ธรรมเป็นอย่างดี
นิมมานรดีเทวภูมิ- สวรรค์ชั้นที่ ๕ ภายในเทพนครมีปราสาทเงิน ปราสาททอง และปราสาทแก้ว ทั้งมี
กำแพงแก้วกำแพงทองอันเป็น ของทิพย์ เป็นวิมานที่อยู่ของเหล่าเทวดา
ปรนิมมิตวสวัสตีเทวภูมิ- สวรรค์ชั้นที่ ๖ เป็นที่สถิตย์อยู่แห่งปวงเทพเจ้าผู้เสวยกามคุณารมณ์ที่
เทวดาอื่นรู้ความต้องการของตน แล้วเนรมิตให้ เป็นที่อยู่อันประเสริฐด้วยสุขสมบัติยิ่งกว่า สวรรค์
ชั้นฟ้าทั้งหลาย
ตัวอย่างภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับสวรรค์ตามความเชื่อของศาสนา
นรกภูมิ
นรกภูมิ เป็นที่ตั้งของสัตว์ที่ทำบาป ต้องไปรับทัณฑ์ทรมาน
นานาประการ แบ่งออกเป็นขุมใหญ่ ๆ ได้ ๘ ขุมด้วยกัน
สัญชีพนรก มีอายุ ๕๐๐ ปี สัตว์นรกขุมนี้โดนลงโทษด้วยการใช้ มีด หอก ดาบฟันแทงร่างกายให้
ทรมานจนตายแล้วเกิดมาโดนลงโทษซ้ำๆอย่างไม่รู้จบรู้สิ้น
- กาฬสุตมหานรก มีอายุ 1000ปี
โดนลงโทษด้วยการใช้เลื่อยเหล็กร้อนตัดที่มือทั้งสองจนตาย คนที่มีเป็นคนโลภมาก ชอบลักขโมย
จะมาตกในนรกขุ มนี้
สังฆาฏมหานรก มีอายุ 2000ปี
นรกขุมนี้จะถูกลงโทษด้วยการเอามีดตัดหรือแทงเข้าไปในอวัยวะเพศจนตาย คนที่เจ้าชู้ มักมากในกาม
โรรุวมหานรก มีอายุ 4000ปี
ถูกลงโทษด้วยการใช้คีมเหล็กร้อนกระชากลิ้นออกมาตัดแล้วเฆี่ยนตีด้วยแส้เหล็กร้อนจนตายคนที่ชอบ
พู ดโกหก
มหาโรรุวมหานรก มีอายุ 8000ปี
การนำน้ำกรดร้อนมากรอกใส่ปาก จนท้องต้องรับกับน้ำกรดทุรนทุรายตายในที่สุด คนที่ชอบดื่มเหล้า
ตาปนมหานรก มีอายุ16,000ปี
จะถูกลงโทษ เหล็กร้อน ของมีความคม ตกลงมาเป็นฝนใส่ร่างจนตายอันเป็นผลมาจากตอนเป็น
มนุษย์ ติดการเล่นการพนัน
มหาตาปนมหานรก สัตว์นรกในนรกขุมนี้จะถูกลงโทษใช้หอกไล่แทงจนต้องปีนขึ้นไปบนภูเขาไฟ
นรก คนที่ชอบเที่ยวกลางคืนมัวเมาในอบายมุขจะต้องรับโทษเป็นเวลาครึ่งกัลป์
อเวจีมหานรก จะถูกลงโทษด้วยการเข้าไปเผาในห้องเหล็กร้อนที่มีเหล็กแหลมพุ่งมาจาก
กำแพงหกด้านให้เหมือนตายทั้งเป็น แต่จะทุรนทุรายไม่ตาย คนที่ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระ จะมาตกใน
นรกขุ มนี้หนึ่งกัลป์
สมาชิก
นางสาวพรพิมล ผ่องศรี รหัสนักศึกษา 201
นางสาวพรฑิตา เเสวงผล รหัสนักศึกษา 212
นางสาวอักขิราภรณ์ รักอยู่ รหัสนักศึกษา 218
นางสาวกัลยาณี หมั่นรอด รหัสนักศึกษา 219
นางสาวศุภรดา มีอ่วม รหัสนักศึกษา 221