โครงงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง เทียนหอมจากsoy wax (1)

โครงงาน เร่อื ง เทยี นหอมจากSoy wax
Soy wax scented candles

จัดทำโดย

นางสาวอนามกิ า แสนวงั ชน้ั ม.5/2 เลขท่ี 35

เสนอ

นางวนดิ า บญุ พิเชฐวงศ์
คณุ ครทู ี่ปรึกษาการศึกษาคน้ คว้า

การศกึ ษานี้เปน็ สว่ นหนงึ่ ของรายวชิ า การสื่อสารและการนำเสนอ (IS2) รหสั วชิ า I30202
โรงเรียนสตรรี าชนิ ูทิศ

ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษาอุดรธานี

โครงงาน เรอ่ื ง เทียนหอมจากSoy wax
Soy wax scented candles

จดั ทำโดย

1.นางสาวเจษราภรณ์ นทู น ชั้น ม.5/2 เลขท่ี 23
ชัน้ ม.5/2 เลขท่ี 27
2.นางสาวธญั ญาภรณ์ เทพสมพร ชนั้ ม.5/2 เลขท่ี 34
ชน้ั ม.5/2 เลขที่ 35
3.นางสาวโศภษิ ฐา แกว้ เพง็

4.นางสาวอนามกิ า แสนวงั

เสนอ

นางวนดิ า บญุ พเิ ชฐวงศ์
คุณครทู ่ีปรกึ ษาการศกึ ษาคน้ ควา้

การศกึ ษาน้เี ปน็ ส่วนหนึง่ ของรายวิชา การสือ่ สารและการนำเสนอ (IS2) รหัสวิชา I30202
โรงเรยี นสตรีราชินูทิศ

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษาอุดรธานี

ก

ชื่อเร่อื ง เทียนหอมจากsoy wax
ผ้ศู กึ ษาคน้ ควา้ Soy wax scented candles
1. นางสาวเจษราภรณ์ นทู น เลขที่ 23
ระดับการศึกษา 2. นางสาวธัญญาภรณ์ เทพสมพร เลขที่ 27
ครทู ี่ปรึกษา 3. นางสาวโศภิษฐา แก้วเพง็ เลขที่ 34
รายวิชา 4. นางสาวอนามิกา แสนวัง เลขที่ 35
ชื่อโรงเรียน ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5/2
ปีการศกึ ษาทคี่ น้ คว้า 1. นางวนดิ า บุญพิเชฐวงศ์
2. นางปริสา วงศ์คำพระ
สอื่ สารและการนำเสนอ ( Independent Study : IS2 )
โรงเรยี นสตรีราชินูทศิ
2564

บทคดั ย่อ

รายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง เทียนหอมจากsoy wax มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนใน
การทาํ เทียนหอมการนําพืชพรรณในชมุ ชมมาสกัดเป็นน้ำหอมเพ่ือใช้ในการทําเทยี นหอม และเพ่อื ให้รถู้ ึง
สรรพคุณของกลิ่นหอมชนิดตา่ งๆและได้ใชพ้ ืชพรรณอย่างมีคณุ คา่ และได้ประโยชน์ วธิ กี ารศกึ ษาค้นคว้า
มดี ังนี้ เลือกเร่ืองที่จะศึกษา กาํ หนดประเดน็ และวเิ คราะห์ หวั ข้อยอ่ ยท่จี ะศกึ ษา ดาํ เนนิ การศึกษา
โดยวิธีการสืบค้น ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและลงมือปฏิบัติ มีวัสดุอุปกรณ์ดังน้ี หม้อ ไม้พาย เตาแก๊ส
แมพ่ มิ พ์ ดอกไมต้ า่ งๆ soy wax ที่ช่งั ตวง จดั ทาํ รายงานการศึกษา ครูผูส้ อนและครูที่ปรึกษาตรวจสอบ
ความถูกต้อง นําเสนอการศึกษานําความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างผลงานและเผยแพร่ผลงานที่เป็น
ประโยชนต์ อ่ ชุมชน กล่มุ ตัวอย่างเป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี5/2 จำนวน 10 คนได้มาโดยการเลือก
แบบเจาะจงจากกลุ่มผศู้ ึกษา เครื่องมอื ทีใ่ ช้ประกอบดว้ ยเทยี นหอมจากsoy wax กลน่ิ ลาเวนเดอร์
กลนิ่ วนลิ าและกลิ่นกุหลาบ แบบสอบถามจำนวน 2 ตอน ตอนท1ี่ เร่อื ง ความรเู้ กย่ี วกับเทียนหอมจาก
soy wax และตอนที่2 เรอื่ ง ความประทับใจในกลนิ่ เทยี นหอมของผู้ใช้ ซึ่งวิเคราะหข์ ้อมลู โดยใช้สถิติหา
ค่าเฉล่ยี และร้อยละประเภทสถิตพิ รรณนา

ผลการศกึ ษาพบว่า ผูใ้ ชเ้ ทียนหอมจากsoy waxมีระดับพึงพอใจอยู่ในระดบั ท่ี 5 คิดเป็นร้อยละ
4.6 จากผูต้ อบแบบสอบถามจำนวน10คน

ข

กิตติกรรมประกาศ

รายงานฉบับนี้สำเร็จและสมบูรณ์เป็นรูปเล่ม ด้วยความกรุณาและเอาใจใส่เป็นอย่างดีจาก
คุณครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์ คุณครูประจำวิชาและคุณครูปริสา วงศ์คำพระ คุณครูปรึกษาที่ได้กรณุ าให้
คำปรกึ ษาและแนะแนวทางการดำเนินการทางรายงานในคร้งั นี้โดยไม่มีข้อบกพร่อง รวมทงั้ ขอ้ เสนอแนะ
และข้อคิดเห็นตา่ งๆตลอดทั้งการตรวจแก้ไขรายงานฉบับนี้ให้สำเร็จสมบูรณ์ยิ่งข้ึนทางคณะผู้จัดทำจึง
ขอขอบพระคุณ เปน็ อยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสนี้

ขอขอบพระคุณคุณครูทุกท่านท่ีได้ประสิทธ์ประสาทวิชา ความรู้ และประสบการณ์ตลอดจน
อำนวยความสำเร็จใหบ้ ังเกดิ

สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่ ที่เป็นกำลังใจ และให้ความช่วยเหลือในการเก็บ
รวบรวมขอ้ มลู และให้คำแนะนำในการทำรายงานครัง้ นี้ให้สำเร็จลลุ ่วงดว้ ยดตี ลอดมา

คณะผู้จดั ทำ
มกราคม พ.ศ. 2565

สารบัญ ค

บทคัดยอ่ หน้า
กติ ตกิ รรมประกาศ ก
สารบัญตาราง ข
สารบญั ภาพ จ
บทที่ 1 บทนำ ฉ

ที่มาและความสำคัญ 1
จุดมงุ่ หมายของการศึกษา 1
สมมตฐิ าน 2
ขอบเขตการศึกษา 2
นยิ ามศัพท์เฉพาะ 2
บทท่ี 2 เอกสารท่เี ก่ยี วข้อง
เทียนและประเภทของเทยี น 3
ไขถ่ัวเหลอื ง 8
กล่นิ หอมระเหย 8
นำ้ มนั หอมระเหย 9
งานวิจัยทเ่ี กยี่ วข้อง 10
บทที่ 3 วิธกี ารดำเนินการศกึ ษาค้นควา้
วัสดุ อุปกรณ์ 11
ระเบียบทใ่ี ช้ในการศกึ ษา 11
วิธกี ารดำเนินการ 12
บทที่ 4 ผลการดำเนนิ การ
ผลการดำเนนิ การ 16
บทที่ 5 สรปุ และอภิปรายผลการศกึ ษา
สรุปและอภปิ รายผลการศกึ ษา 17
ขอ้ เสนอแนะในการศึกษาค้นคว้าครง้ั ต่อไป 18

สารบัญ(ตอ่ ) ง

บรรณานุกรม หน้า
ภาคผนวก
ประวัตผิ ู้ศึกษา ซ
19
23

จ

สารบญั ตาราง

ตารางท่ี หน้า

ตารางที่ 1 แสดงผลระดับคะแนนการประเมนิ ความพงึ พอใจในการใช้เทยี นหอมจากsoy wax 16

ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมนิ ความพงึ พอใจในการใชเ้ ทียนหอมจากsoy wax 16

สารบญั ภาพ ฉ

ภาพท่ี หน้า
ภาพท่ี 1 เทียนแทง่ (Taper Candle) 4
ภาพที่ 2 เทยี นก้อนกลม (Pillar Candle) 4
ภาพที่ 3 เทยี นในแกว้ (Container, Jar Candle) 5
ภาพท่ี 4 เทยี นเจล (Gel Candle) 5
ภาพท่ี 5 เทียนทีไลท์ (Tea light Candle) 6
ภาพที่ 6 แบบสอบถามความพึงพอใจ 20

บทที่ 1

บทนำ

ความเปน็ มาของปัญหา

เนื่องจากผู้คนสว่ นใหญ่พบเจอกับเศรษฐกิจที่ทำใหร้ ายได้ทีจ่ ะได้รับน้อยลงและพบ
เจอกับความเครียดตา่ งๆ ทางคณะผูจ้ ดั ทำเลยแลกเปลี่ยนปญั หาประเด็นที่นา่ สนใจเพอื่ ตัง้ หัวข้อ
ชื่อโครงงานสมาชิกในกลุ่มคดิ หัวข้อที่แกไ้ ขปัญหาดังกล่าวโดยการเสนอการทำเทียนหอมและ
ก่อนข้างเปน็ ที่นิยมสำหรับการสรา้ งรายไดจ้ ากเทยี นหอม เม่ือสมาชกิ ทั้งหมดได้เห็นดว้ ยเลย
ไดเ้ ล็งถงึ ปัญหาและกำหนดประเด็นก็ได้เร่มิ ศึกษาวา่ ควรใช้ส่วนผสมอะไรในการทำเทียนหอมซ่ึง
ได้พบกับไขถ่ัวเหลอื งที่เป็นสารท่ไี ด้จากธรรมชาตแิ ละปลอดภัยจงึ มกี ารตกลงกับสมาชิกในกลุ่ม
ว่าให้นำไขถั่วเหลืองมาทำเทียนหอมคณะผู้จัดทำจึงตัดสินใจได้ตั้งชื่อหัวขอ้ โครงงานว่า เทียน
หอมดว้ ยไขถว่ั เหลอื งเทียนหอมเป็นส่ิงทช่ี ่วยให้สมองผอ่ นคลาย ความเครียด ดังน้ันเทียนหอม
สามารถเปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้ขายและผูซ้ อื้ และดว้ ยประโยชน์จากไขถ่วั เหลอื งท่ีนิยมนำมาทำเทียน
หอม ราคาไม่แพงหยิบจับได้งา่ ยไม่ว่าจะวัยเรียนอยู่หรือคนที่งบน้อย จึงสามารถสร้างรายได้
กำไรจากเทียนหอมดว้ ยไขถ่วั เหลอื งได้ จากนน้ั ศึกษาวิธีการทำเทียนหอมจากไขถั่วเหลืองเราทำ
เทียนหอมดว้ ยไขถ่ัวเหลอื งเพ่ือทีจ่ ะตอบสนองความต้องการของตน เช่น ดา้ นจิตใจเพราะกล่ิน
เทียนจะทำให้ผอ่ นคลาย และดา้ นการเงนิ เพราะเราสามารถทำแล้วนำมาสรา้ งรายได้แก่ตนเอง
ไดถ้ งึ แมง้ บจะน้อยแต่ส่งิ ของต่างๆพอสามารถจบั ต้องได้

จดุ ม่งุ หมายของการศึกษา

1. เพ่ือให้สมาชิกกลุ่มมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรอื่ งของการทำเทียนหอมดว้ ยไขถ่วั เหลือง
2. เพ่อื ใหส้ มาชิกกลมุ่ มีทักษะ ประสบการณ์ ในเรอื่ งการนำเทยี นหอมมาสร้างรายไดใ้ หแ้ กต่ น
หรอื สว่ นรวมและสามารถนำไปประกอบอาชพี ได้
3. เพอื่ ให้สมาชกิ กลุ่มมีเจตคตทิ ี่ดี มที ักษะการทำงานกลมุ่ มคี วามรับผดิ ชอบ และสามารถนำ
ความรทู้ ไ่ี ดร้ บั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั ได้อย่างสรา้ งสรรค์

2

สมมติฐานของการวิจัย

เทยี นหอมดว้ ยไขถว่ั เหลอื งสามารถสง่ กลิ่นหอม ทำให้จิตใจคนเราผ่อนคลายจากการเหนื่อยล้า
หรอื ความเครียดลงได้ และเปน็ สินคา้ ท่ตี อ้ งการ ของลกู ค้ากลมุ่ เปา้ หมายข้างตน้ จนสามารถสร้างรายได้

1.ตัวแปรตน้
คนท่มี ีความเครียด เหน่อื ย

2.ตัวแปรตาม
เกิดความสบายใจ ความผอ่ นคลายแก่ผซู้ ้ือและสรา้ งรายได้

3.ตวั แปรควบคมุ
เทียนหอมจากไขถวั่ เหลือง

ขอบเขตของงานวิจยั

1. ขอบเขตด้านเนอ้ื หา
1.1 เรื่องวิธที ำเทียนหอมดว้ ยไขถัว่ เหลอื ง
1.2 ประโยชน์ของการใช้เทยี นหอม
1.3 ประโยชน์ของไขถ่ัวเหลือง
1.4 ประโยชน์ของกลนิ่ วนิลา กุหลาบและลาเวนเดอร์

2. ขอบเขตดา้ นประชากร
นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/2 จำนวน 10 คน

3. ขอบเขตดา้ นระยะเวลา
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ

ไขถั่วเหลือง หมายถึง ไขพชื ผลิตจากน้ำมันของถ่วั เหลอื งที่เหมาะสมสำหรับการทำเทยี น
ธรรมชาติ

เทยี นหอม หมายถงึ ผลติ ภัณฑท์ ไ่ี ด้จากการนำพาราฟนิ หรอื ไขผงึ้ ไขถ่วั เหลืองมาหลอมละลาย
รวมกนั อาจจะเตมิ ย้ำมนั หอมระเหยเพือ่ ใหก้ ลน่ิ มเี อกลกั ษณ์มากขึ้น

นำ้ มันหอมระเหย หมายถึง เปน็ ผลติ ผลที่ไดจ้ ากการสกัดพชื สมนุ ไพรนานาชนิดซึง่ อาจสกัด
มาจากสว่ นใดส่วนหน่ึงของพชื แตล่ ะชนิด

บทที2่

เอกสารและงานวิจยั ทเี่ กย่ี วข้อง

ในการศึกษาเร่อื ง เทียนหอม คณะผจู้ ัดทาํ ไดศ้ ึกษาและคน้ ควา้ หาขอ้ มูลเอกสารต่างๆทเ่ี กยี่ วกบั
เทยี นหอมตงั้ แตน่ ําเสนอ ดงั น้ี

2.1 เทยี น(Candle)
2.2 เทียนหอม(Aroma Candle)
2.3 ไขถั่วเหลอื ง(Soy Wax)
2.4 วนิลา(Vanilla)
2.5 ลาเวนเดอร(์ Lavender)
2.6 กหุ ลาบ(Rose)
2.7 นํ้ามนั หอมระเหย
2.8 งานวจิ ยั ทเ่ี กี่ยวข้อง

2.1 เทียน (Candle)

เทียน หมายถึง สิ่งทีช่ ว่ ยเพม่ิ แสงสวา่ งโดยมสี ่วนผสมหลักจากไขถัว่ เหลอื งหรือจากพาราฟินท่ีได้
จากการสกดั นำ้ มันและทําให้เกดิ เป็นเชอ้ื เพลิงท่ีจะทาํ ให้ไฟตดิ ขนึ้ โดยมไี ส้ในเปน็ เชอื กช่วยใหส้ ามารถ
จุดไฟให้ติดไดง้ ่ายขึ้น

ในสมัยกอ่ นไฟนั้นมคี วามจาํ เป็นกบั มนษุ ย์อยา่ งมากทจ่ี ะช่วยในการประกอบอาหารใหส้ ุกและ
ช่วยเพ่มิ แสงสวา่ ง เนื่องจากในอดีตนัน้ ไมม่ ีไฟฟ้าใชเ้ หมอื นในปัจจุบนั จงึ จาํ เป็นต้องใช้ไฟทเี่ กดิ จากการ
นําวัสดธุ รรมชาติมาเสยี ดสกี นั ใหเ้ กดิ ประกายไฟหรือการนาํ ไขมนั ของสัตวม์ าใช้เปน็ เชอ้ื เพลงิ ในการจดุ ไฟ
ข้ึนหลังจากนั้นจงึ ไดม้ กี ารคดิ คน้ การนาํ ไขมนั ทไ่ี ด้จากสัตว์และจากพชื มาใช้เปน็ พลังงานทดแทนในการ
ทาํ น้ำมนั อย่างในปัจจบุ นั และเทยี นในปจั จบุ นั นนั่ มรี ูปแบบและวิวัฒนาการเปล่ยี นไปอย่างมากไมว่ า่ จะ
เป็นเทยี นไลย่ ุง เทียนหอม หรือจะเป็นเทียนลายดอกไม้อบแหง้ หรือการนาํ เทียนไปใชใ้ นพธิ ีกรรมสําคัญ
ตา่ งๆการจดุ เทยี นในงานแต่งมีความหมายวา่ "แสงแห่งเปลวเทียนจะนําทางไปสคู่ วามสวา่ งไสวในชวี ิตคู่"
และเทียนแต่ละชนิดในปัจจบุ ันก็มีหลากหลายรูปทรงแตกต่างกันไปแลว้ แต่ประเภทของการนําไปใช้งาน

4

2.1.1 ประเภทของเทียน
2.1.1.1 เทียนแท่ง (Taper Candle)
เทียนหอมแทง่ รูปทรงเรียวยาวส่วนมากจะยาว 6 - 18 นว้ิ สว่ นใหญ่นยิ มใช้ในงานท่เี ปน็ พธิ กี าร

หรือท่ีต้องการ ให้สถานที่ดหู รหู รา เชน่ ในพธิ ที างศาสนา พธิ แี ต่งงานปกั บนเชิงเทียนวางบนโต๊ะอาหาร
เทยี นชนดิ นตี้ อ้ งตัง้ บนเชิงเทยี นเวลาจุด

รปู ท่ี 2.1 เทียนแทง่
ท่มี า : http://th.allincandle.com
2.1.1.2 เทยี นกอ้ นกลม (Pillar Candle)
เปน็ เทียนที่สามารถวางได้โดยไม่ต้องใช้เชงิ เทียน เปน็ ทรงกลม ขนาดที่ได้รับความนยิ ม
คือขนาด เสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 3 นิ้ว และมคี วามสูงต่างกนั ไปตง้ั แต่ 3 4 5 6 นิ้ว นอกจากรูปทรง
กลมเทยี นชนดิ น้ีอาจมรี ปู ทรงสเ่ี หล่ยี มหรอื หกเหลีย่ ม

รูปที่ 2.2 เทียนกอ้ นกลม
ทม่ี า : http://www.mellowshopping.com

5

2.1.1.3 เทียนในแกว้ (Container, Jar Candle)
เป็นเทยี นหอมทบ่ี รรจุในภาชนะส่วนใหญ่เป็นแกว้ ใส กล่องอะลูมิเนียมหรือเซรามิก

เทยี นชนิดนีส้ ามารถจุดที่ ไหนกไ็ ด้สามารถเคลอ่ื นยา้ ยจดั เกบ็ ให้สะดวก เทียนในแก้วเปน็ เทียน
ทีส่ ามารถจดุ ไดน้ านท่สี ุด เพราะไมม่ นี ้ำตาเทยี นไหลจากเทยี นเหมอื นเทียนชนดิ อนื่ ๆจงึ ทาํ ให้
เทยี นชนิดนเี้ ป็นทน่ี ิยมมากในรา้ นอาหารท่ีตอ้ งการสรา้ งบรรยากาศของร้านใหด้ ูดมี ากขึน้

รปู ที่ 2.3 เทียนในแก้ว
ท่มี า : https://www.baanlaesuan.com
2.1.1.4 เทยี นเจล (Gel Candle)
เป็นเทียนชนดิ โปรง่ ใสทําจากน้ำมนั สงั เคราะห์ หรอื สารสังเคราะหจ์ ากไฮโดรคารบ์ อน
โดยทัว่ ไปเทียนเจลจะตอ้ งอยใู่ นภาชนะ โปรง่ ใสทสี่ ามารถเหน็ รายละเอยี ดลวดลาย การจดั วาง
ได้ชดั ซึง่ เปน็ จดุ เด่นของเทยี นชนดิ เจล

รปู ท่2ี .4 เทยี นเจล
ทมี่ า : http://chankapor.weloveshopping.com

6

2.1.1.5 เทียนทไี ลท์ (Tea light Candle)
เป็นเทียนในถ้วยอะลูมเิ นียมขนาดเลก็ ส่วนมากมขี นาด 1.5 น้วิ สงู ประมาณ 0.5 น้ิว

นยิ มใช้จุดในโอกาสทั่วไปเพราะใชง้ า่ ยและสามารถจดุ ได้ทกุ ท่ี

รูปท2ี่ .5 เทยี นทีไลท์
ท่ีมา : http://www.mellowshopping.com

7

2.2 เทียนหอม (Aroma Candle)
เทยี นหอมหมายถึงผลิตภณั ฑท์ ไ่ี ด้จากการนําพาราฟนิ (paraffin)และไขผึ้งมาหลอม

ละลายรวมกันโดยอาจจะมีการเตมิ สีสนั หรอื เติมน้ำมันหอมระเหยลงไปด้วยนําไปหลอ่ แบบขน้ึ
รูปหรือกดจากแมพ่ มิ พ์ให้มีรูปทรงตามตอ้ งการ อาจประกอบด้วยวัสดุอื่นเพื่อให้เกิดความ
สวยงามเช่นดอกไม้แห้งหรอื น้ำมนั หอมระเหยมีไส้เทียนสาํ หรบั จุดไฟเป็นแกนกลางและเมอ่ื จุด
ไฟจะทาํ ให้มีกล่นิ หอมของนำ้ มันหอมระเหยชว่ ยในการบำบดั กลนิ่ ไมพ่ ึงประสงคห์ รอื ชว่ ยในการ
บาํ บัดทาํ ให้จิตใจสงบข้นึ ชว่ ย ปรบั ระดบั ฮอร์โมนให้คนื สสู่ มดุลผ่อนคลายความลดความตงึ
เครียดแตก่ ม็ ีข้อท่คี วรพงึ ระวงั ในการจดุ เทยี นหอมประเภทอโรมาเธอราพ(ี Aromatherapy) ใน
สถานทท่ี ไี่ ม่มอี ากาศถ่ายเทหรอื ในห้องนอนทไ่ี มม่ ที รี่ ะบายอากาศเพราะจะทําให้ในห้องนน่ั ขาด
ออกซเิ จน (Oxygen) และทาํ ให้การเผาไหมข้ องเทยี นหอมนนั้ ไมส่ ามารถผาไหม้ได้อยา่ งเต็มท่ี
และด้วยเหตนุ ี้จงึ อาจจะทําใหเ้ กิดกา๊ ซคาร์บอนมอนอกไซต(์ CarbonMonoxide)ขึ้นมาซึง่ ก๊าซ
คาร์บอนมอนอกไซดน์ ี้จะไปสกดั กั้นการแลกเปลยี่ นของกา๊ ซออกซิเจนในปอดจนอาจทําให้
เสียชวี ิตไดภ้ ายในเวลาไม่ถึง 1 ช่ัวโมงและเทียนหอมท่ีพบทวั่ ๆไปในทอ้ งตลาดมมี ากมายหลาย
แบบ นอกจากเทียนหอมจะแยกตาม สี ตามกลิน่ แล้ว เทยี นหอมยังสามารถแยกเป็นชนิดต่างๆ
ตามลกั ษณะของเทียนหอม ชนดิ ของทไ่ี ด้รับความนยิ มเป็นอนั ดบั ตน้ ๆในตลาดต่างประเทศและ
ในประเทศไทยเองกม็ ีหลากหลายชนดิ

8

2.3 ไขถว่ั เหลอื ง (Soy Wax)
ไขถั่วเหลือง (Soy wax) เปน็ ไขทส่ี กดั จากพืชทผี่ ลิตจากนำ้ มันของถว่ั เหลืองโดยขั้นตอนการผลติ
เริ่มตน้ ตั้งแต่การเก็บเกีย่ วทาํ ความสะอาดเมล็ดถัว่ เหลืองบีบอัดให้แตกแล้วรีดเมลด็ เพอ่ื ให้ไดน้ ้ำมันจาก
เมลด็ ถวั่ เหลอื งจากนั้นจงึ นาํ นำ้ มนั ถว่ั เหลอื งเข้าเครอ่ื งไฮโดรเจนเพื่อแยกประเภทไขมนั ใหเ้ หลอื แตไ่ ขมัน
ทส่ี ามารถแขง็ ตวั ไดใ้ นอุณหภูมิหอ้ งไขถว่ั เหลอื งทีผ่ ลติ มาจากน้ำมนั ของถ่วั เหลอื ง (Soy oil) ทเ่ี หมาะสม
สําหรับการทาํ เทยี นธรรมชาตเิ ทียนท่ผี ลิตจากไขถ่วั เหลอื งเปน็ ทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มเปน็ อยา่ งมากเพราะเป็น
มิตรตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มและมนุษย์
เทยี นหอมไขถ่วั เหลืองมจี ุดหลอมเหลวทีต่ ่ำกวา่ และสามารถเผาไหมไ้ ดน้ านกวา่ เทียนไขพาราฟิน
ประมาณ 35 - 50 % ซ่งึ หมายความวา่ ไมจ่ ําเป็นตอ้ งซ้ือเทยี นใหมบ่ อ่ ย นอกจากนี้ในดา้ นความปลอดภยั
เทยี นหอมไขถว่ั เหลืองเปน็ ทางเลอื กทีด่ ีกวา่ เนอ่ื งจากทม่ี จี ุดหลอมเหลวที่ตำ่ ทาํ ให้นำ้ ตาเทยี นทหี่ ยดลงผิว
ของเราไมไ่ ด้มีความรอ้ นทสี่ ูงนกั บางสถานทน่ี ้ำเทยี นหอมไขถัว่ เหลอื งไปทาํ ผลิตภณั ฑ์สาํ หรับสปา
เพื่อนาํ ไปนวด ตวั แทนน้ำมนั ประโยชน์ของไขถ่วั เหลืองมีเยอะมากแบรนดต์ ่างๆจงึ นยิ มไปทําผลติ ภัณฑ์ท่ี
ใชก้ ับรา่ งกายมนษุ ย์ ได้โดยตรง
2.4 วนลิ า(Vanilla)
วนิลา เป็นกลิน่ ท่ีไดจ้ ากฝักของกลว้ ยไม้สกุล Vanilla ตน้ กาํ เนิดจากเม็กชโิ ก ชื่อวานิลลามาจาก
คําใน ภาษาสเปนว่า "ไบย์นียา"(vanilla) ซึ่งแปลวา่ ฝักเลก็ ๆ วานิลลามักถูกนาํ มาใชแ้ ตง่ กลน่ิ กลน่ิ หอม
จากวานลิ ลา ซ่งึ เหมาะกับคุณผู้หญิงทชี่ อบความหวานและกลิ่นหอมทีอ่ อ่ นๆแสนโรแมนตกิ กลิ่นน้จี ะช่วย
เพ่ิมความผอ่ นคลาย ทาํ ใหร้ สู้ กึ สบายและสงบใจอย่างมาก นอกจากนยี้ ังทาํ ให้อารมณ์ดียิ้มร่าเรงิ ไดท้ ้ังวัน
อกี ด้วย
2.5 ลาเวนเดอร์(Lavender)
กลน่ิ จากดอกลาเวนเดอรท์ ีม่ าพรอ้ มความสดช่ืน โดยมกี ลิ่นหอมที่ช่วยทําให้รูส้ กึ ผ่อนคลาย
บรรเทาความเครยี ดและอาการซึมเศร้าได้ นอกจากนี้ใครที่มปี ญั หาเรอ่ื งการนอนหลับกล่นิ ลาเวนเดอร์
จะช่วยเตมิ เต็มการพักผ่อนให้สมบูรณ์แบบมากย่ิงขึน้
2.6 กหุ ลาบ(Rose)
กลน่ิ กุหลาบ ทจ่ี ะชว่ ยเพิม่ ความโรแมนตกิ และชว่ ยใหเ้ กดิ ความรู้สกึ ผอ่ นคลายอกี ทั้งยังช่วยลด
ความตึงเครียดด้วยกลนิ่ หอมๆ จากดอกกุหลาบ นอกจากน้ยี ังช่วยกระตนุ้ อารมณท์ างเพศเพราะกุหลาบ
มักถกู นาํ มาสกัดเปน็ สารทช่ี ว่ ยกระต้นุ ความรสู้ กึ ทางเพศใหก้ ับผู้ชายท่ีมปี ัญหาเส่ือมสมรรถภาพทางเพศ

9

2.7 นำ้ มันหอมระเหย
นำ้ มนั หอมระเหยเป็นสารอนิ ทรยี ท์ พี่ ืชผลิตขนึ้ ตามธรรมชาติ เกบ็ ไวต้ ามสว่ นต่างๆ เชน่ กลบี
ดอก ผิวของผล เกสร ราก เปลอื กของลําตน้ หรอื ยางท่ีออกมาจากเปลอื กยกตัวอย่างเชน่ สเปยี รม์ ินต์
(Spearmint)
กระดงั งา (Cananga Odorata) ตะไครห้ อม (Citronella) เป็นตน้ มีองค์ประกอบทางเคมีท่ี
สลบั ซับซอ้ นและแตกต่างกนั นบั สบิ ชนิดน้ำมนั มลี ักษณะเปน็ ของเหลวไมเ่ หนียวเหนอะหนะเหมอื นนำ้ มนั
พืชมีกล่ินหอมระเหยง่ายเวลาทไี่ ด้รับความรอ้ นอนภุ าคเลก็ ๆของนำ้ มนั หอมระเหยจะระเหยออกมาเป็น
ไอทําให้เราไดก้ ล่ินหอมน้ำมนั หอมระเหยมีคณุ สมบตั ิในการฆา่ เชือ้ โรคบรรเทาอาการอกั เสบหรือลด
อาการบวมคลายเครียดหรือกระต้นุ ใหส้ ดช่ืนท้งั นขี้ ้ึนอยกู่ บั องค์ประกอบทางเคมขี องนำ้ มนั หอมระเหย
แต่ละชนิด
การใช้ประโยชนข์ องนำ้ มันหอมระเหยมมี าตง้ั แตส่ มัย 5,000 ปกี ่อนและชาวอียปิ ต์เปน็ ชนชาติ
แรกท่ีไดท้ ําการคดิ ค้นการสกดั น้ำมันหอมระเหยมาใชเ้ ป็นสว่ นผสมในเคร่อื งสาํ อางและโดยท่วั ไป
น้ำมนั หอมระเหยสามารถเขา้ สรู่ ่างกายได้โดยการสดู ดมและการซึมผ่านผวิ หนังแต่ละชนดิ มีฤทธิต์ ่อ
ระบบตา่ งๆของร่างกายที่แตกต่างกันขน้ึ อยกู่ บั สรรพคุณและคณุ สมบัติของพชื ชนดิ น้ันๆนำ้ มันหอม
ระเหยจงึ เปน็ ทางเลือกททท่ี างการแพทย์นาํ มาใช้ประกอบใบการรักษาและบําบดั โรคหรืออาการท่ี
เจบ็ ป่วยไมร่ า้ ยแรงรักษาได้ทั้งทางรง่ กายและทางจติ ใจโดยท่วั ไปนำ้ มนั หอมระเหยจะถูกสกัดไดห้ ลาย
รปู แบบ เชน่ การกลั่น (Distillation) การสกดั โดยใชไ้ ขมนั (Effleurage) การสกัดดว้ ยตวั ทาํ ละลาย
(Solvent Extraction) การบีบอัด (Expression) การใชค้ าร์บอนไดออกไซด์เหลวภายใตค้ วามดนั สงู
(SupercriticalFluidExtraction)ซงึ่ การกลัน่ หลายประเภทน้ีถกู นาํ มาใช้ในอตุ สาหกรรมน้ำหอม
เคร่อื งสาํ อาง สบู่ รูปและผลติ ภณั ฑ์อน่ื ๆน้ำมันหอมระเหยมีลกั ษณะเป็นนำ้ มนั ของเหลวสใี ส
ซึ่งมีกลน่ิ หอมสามารถระเหยไดท้ ่อี ณุ หภูมหิ อ้ งสามารถสกดั จากพืชหอมพชื เหลา่ น้ีจะมีต่อมหรือท่อทีเ่ กบ็
สะสมนำ้ มนั หอมระเหยไว้

10

2.8 งานวจิ ยั ท่ีเกยี่ วขอ้ ง
สุภาพร หุ่นชืน่ และอฉั รากรณ์ เจริญวยั และปภาคา เชิดมี (2560) ได้จดั ทาํ โครงงานการวิจัยเรือ่ ง
เทยี นหอมไลย่ ุงผลการวิจัยสรุปไดว้ ่าเทียนหอมไล่ยุงสามารถลดปัญหาจากการรบกวนจากยงุ และแมลงท่ี
รบกวนแขกที่ใช้บรกิ ารห้องอาหารภายในโรงแรมและยงั สามารถนําของเหลอื ใชม้ าท่ไี ด้มาจากแผนกครัว
และแผนกบรกิ ารอาหารและเครือ่ งดื่มเพือ่ นาํ มาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนส์ อดคลอ้ งกบั แนวทางความคิดที่
เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ช้ชีวิตประจาํ วันรวมถงึ ไดศ้ ึกษาขั้นตอนการทําเทียนหอมไลย่ ุง
ต้งั แต่ขัน้ ตอนในการออกแบบจนถงึ วิธีการทาํ ตัวเทยี นหอมจนเกดิ ความรคู้ วามคิดสร้างสรรคซ์ งึ่ ความรู้
เหลา่ น้ีสามารถนาํ ไปเปน็ รายไดส้ ามารถสร้างอาชีพได้
สังเวย เสวกวิหรี (2554)ไดจ้ ัดทําโครงงานการวิจัยเรอื่ งผลิตภัณฑ์กําจดั กล่นิ จากเปลอื กเมล็ด
มะมว่ งหิมพานต์ผลการวจิ ัยสรปุ ได้ว่าเปลือกเมล็ดมะม่วงหมิ พานตส์ ามารถสามารถนาํ มาเผาเปน็ ถา่ น
สามารถดูดซบั กลิ่นได้ดีและความสามารถในการดูดซบั กลน่ิ ของผลิตภัณฑ์ถ่านเมลด็ มะม่างหิมพานต์
เม่ือทดลองใสใ่ นต้ทู มี่ ี กล่นิ อับใช้เวลา 3 -5 วัน ซึ่งผลการวิจยั ก็สามารถดดู ซบั กลนิ่ อับในตู้ได้ดแี ละ
การทผี่ วู้ ิจัยได้นําเมลด็ มะมว่ งหิมพานตม์ าใช้เปน็ วตั ถุดบิ เป็นวธิ ีการที่ช่วยลดการใช้สารเคมใี นการกําจัด
กลิ่นอบั ไดแ้ ละเป็นการลดปัญหาผลกระทบทีเ่ กิดจากสารเคมแี ละช่วยลดปัญหาโลกร้อนจากการใช้
ผลติ ภณั ฑท์ ยี่ ่อยสลายยากจาํ พวกกระป๋องสเปรย์SIAM UNIVER

บทท่ี 3

วิธีดำเนินการ

ในการศกึ ษาครง้ั นผ้ี ศู้ ึกษาไดท้ ำการศึกษา เรอ่ื งเทยี นหอมจากSoy wax ซ่ึงมแี ผนการ
ดำเนินงานดงั น้ี เคร่อื งมือและวัสดุและวสั ดุอุปกรณท์ ใี่ ช้ในการศกึ ษา

3.1 วสั ดุ
3.1.1 ไขถัว่ เหลือง จำนวน 2 กโิ ลกรัม
3.1.2 นำ้ มนั หอมระเหย จำนวน อัตราส่วน 1:10 กับนำ้ หนักเทยี น
3.1.3 ไส้เทยี น จำนวน 10 ช้นิ
3.1.4 สีผสมเทยี น

3.2 เครื่องมือและอปุ กรณ์
3.2.1 ถ้วยแกว้ จำนวน 1 ใบ
3.2.2 ถ้วยทีไลท์ จำนวน 10 ถว้ ย
3.2.3 ตาชง่ั จำนวน 1 เครือ่ ง
3.2.4 หมอ้ จำนวน 1 หม้อ
3.2.5 ไม้พาย จำนวน 1 อัน

ระเบียบวิธีทใี่ ช้ในการศึกษา
ในการศกึ ษาใช้รปู แบบการสำรวจ สบื คน้ ขอ้ มลู จากหนงั สือ อนิ เตอร์เนต็ และตอบ

แบบสอบถาม
ประชากรท่ใี ชใ้ นการศึกษา

1. ประชากร
ประชากรท่ใี ช้ในการศึกษาคร้ังน้ี เปน็ นกั เรยี นระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/2

โรงเรยี นสตรีราชินทู ิศ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 1 หอ้ งเรียนเป็นนักเรียนทัง้ สิ้น 10 คน
2. กล่มุ ตวั อย่าง
กล่มุ ตัวอย่างทีใ่ ช้ในการศึกษาครัง้ นไ้ี ด้แกน่ กั เรียนระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5/ 2

โรงเรยี นสตรรี าชนิ ทู ศิ ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 เปน็ นกั เรยี นทัง้ สน้ิ 10 คน ได้มาโดยการ
เลือกแบบเจาะจง จำนวน 1 หอ้ งเรียน เพอ่ื ตอบแบบสอบถามท่สี รา้ งขึ้น

3. ระยะเวลาท่ใี ช้ในการศึกษา
ระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการศกึ ษา ในภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

12

วิธีดำเนนิ การศึกษา
ผู้ศึกษาได้ดำเนินการตามขนั้ ตอนดังนี้
1. กำหนดเร่อื งทีจ่ ะศึกษา โดยสมาชกิ ท้ัง 4 คน ประชมุ ร่วมกัน และรว่ มกันคิดและวางแผน
ว่าจะศึกษาเรือ่ งใด
2. สำรวจปัญหาทพ่ี บในโรงเรยี น ซึ่งมที ง้ั ปญั หาดา้ นผูเ้ รยี น ครผู ูส้ อน อาคาร สถานท่ี
สิง่ แวดล้อมในโรงเรยี น ฯลฯ
3. เลอื กเร่ืองที่จะศกึ ษา โดยเลอื กเรอ่ื งทส่ี มาชกิ มคี วามสนใจมากท่สี ุด เพ่ือเป็นแรงจงู ใจในการ
ค้นหาคำตอบ
4. ศกึ ษาแนวคิดในการแกป้ ญั หา ศึกษาเพยี งเพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ เรือ่ ง
กระบวนการวิจยั เทา่ นน้ั
5. ตัง้ ช่อื เร่อื ง
6. สมาชกิ ทงั้ 4 คนของกลุ่ม พบครูผู้สอนเพ่ือปรกึ ษา วางแผนและรับฟังความคดิ เห็น
ปรบั ปรงุ แก้ไข
7. เขยี นความสำคญั ความเป็นมาของปัญหา วตั ถุประสงค์ สมมตุ ฐิ าน ขอบเขตการวจิ ัยและ
ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รบั โดยศกึ ษาข้อมลู จากหนงั สอื วิทยานพิ นธ์และสบื คน้ ขอ้ มลู
จากอินเตอรเ์ นต็ และจดบนั ทกึ ในโครงร่างรายงานเชงิ วิชาการ
8. สรา้ งเครอื่ งมอื ท่ีเปน็ แบบสอบถาม จำนวน 4 ขอ้
9. นำเครื่องมือทปี่ รับปรุงแล้วไปใชก้ บั กลมุ่ ตัวอยา่ ง
10. รวบรวมขอ้ มูล
11. วิเคราะห์ข้อมูล
12. สรุปการศึกษา

13

ข้ันตอนวธิ ีดำเนนิ การศึกษา
ขน้ั ตอนการใส่ไส้เทยี น วิธีทำดงั นี้
1.ตดั เชอื กให้มคี วามยาวกวา่ ภาชนะท่ีจะใช้บรรจุ และผูกปลายเชือกกับไม้ ละลายไขถวั่ เหลือง

ดว้ ยความร้อน โดยใส่ในภาชนะทนไฟอาจเปน็ โถแก้วหรอื โถเซรามิกเคลือบสีขาว
2.จุ่มเชือกฝ้ายลงในนำ้ ไขถวั่ เหลอื ง ล็อคไสเ้ ทยี นดว้ ยกระดมุ โลหะเพื่อใชเ้ ป็นฐานยึดตดิ กับเน้อื

เทียนไมใ่ ห้ลอยข้ึนขณะเนอ้ื เทยี นละลาย
ขั้นตอนการทำเทยี น วิธที ำดงั น้ี
1.ชง่ั ไขถ่ัวเหลอื งให้ได้น้ำหนกั ตามสูตรคือ 80 กรัม ( คำนวณนำ้ หนกั ตามจำนวนทจี่ ะทำ) นำไป

ใส่ภาชนะทนไฟ ใช้ไมค้ นใหล้ ะลายเป็นเนื้อเดียวกนั
2.ยกภาชนะลง ตั้งพกั ใหอ้ นุ่ คือมคี วามรอ้ นไมเ่ กิน 40 องศาเซลเซยี ส เพอื่ ไมใ่ ห้มผี ลต่อน้ำมัน

หอมระเหย วธิ กี ารทดสอบอยา่ งงา่ ยๆคือให้ใช้น้ิว สมั ผัสกับภาชนะและนบั 1ถงึ 10 หากทนได้ แสดงว่า
ใช้ได้แล้ว

3.หยดนำ้ มนั หอมละเหยลงไป จำนวน 5 หยด (คำนวณตามจำนวนทีจ่ ะทำ) แล้วคนใหเ้ ขา้ กนั
4.เทสว่ นผสมทงั้ หมด ลงในขวดบรรจทุ ี่เตรยี มไว้ ควรใช้ขวดสีชา ป้องกนั การสลายของน้ำมัน
หอมระเหย เนื่องจากน้ำมันชนดิ นไ้ี วต่อแสง มฝี าล็อค 2 ชน้ั
5.หยอ่ นไสเ้ ทียนไขท่ีเตรียมไว้กอ่ นน้ลี งไป ให้ไสเ้ ทียนอยตู่ รงกลางขวด โดยใช้ไมต้ ะเกียบช่วย
พยงุ ไว้ จนกระทัง่ เนื้อเทยี นแขง็ ตัว หลงั จากเนอ้ื เทียนแข็งตัวดแี ลว้ ใหใ้ ช้กรรไกตดั ไสเ้ ทียนไขให้ต่ำกว่า
ปากขวด และเชด็ ทำความสะอาดปากขวดท่ีอาจเลอะขผ้ี งึ้ ด้วยกระดาษทิชชูแหง้ อย่างระมดั ระวัง และ
ปิดฝาให้แนน่
6. ตดิ ฉลากบอกกลิ่นทข่ี ้างขวด ซ่ึงฉลากน้สี ามารถออกแบบให้สวยงามและนา่ ใชต้ ามไอเดียแต่
ละคน

14

เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการศึกษา

เคร่อื งมือทีใ่ ช้ในการศึกษาครั้งนี้ คอื แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 1 ฉบับ
ซง่ึ มีรายละเอยี ดดังน้ี

1.ออกแบบสอบถาม เร่ือง ความพงึ พอใจในการใช้เทียนหอมจากsoy wax โดยขอ

คำแนะนำจากคุณครูวนดิ า บุญพิเชฐวงศ์ โดยเตรียมรา่ งขอ้ คำถาม มลี กั ษณะเปน็ ข้อคำถามจำนวน 5
ข้อ เป็นแบบมาตราสว่ นประมาณ 5 ระดับ คือ

5 หมายถึง มากท่สี ุด
4 หมายถึง มาก
3 หมายถงึ ปานกลาง
2 หมายถึง น้อย
1 หมายถึง น้อยท่ีสุด

การพจิ ารณาค่าเฉลย่ี จะใช้เกณฑด์ งั น้ี
คา่ เฉลีย่ 4.51 – 5.00 หมายถงึ มากท่ีสุด
ค่าเฉล่ยี 3.51 – 4.50 หมายถึง มาก
ค่าเฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถึง ปานกลาง
คา่ เฉลย่ี 1.51 – 2.50 หมายถึง น้อย
ค่าเฉล่ยี 1.00– 1.50 หมายถึง นอ้ ยทสี่ ุด

2.สรา้ งแบบสอบถามเรอ่ื ง ความพึงพอใจในการใชเ้ ทยี นหอมจากsoy waxโดยขอ
คำแนะนำจากคณุ ครูวนดิ า บุญพเิ ชฐวงศ์ จากนั้นนำมาปรับปรุงแกไ้ ข แล้วนำไปตรวจสอบความ
เหมาะสม

3.นำแบบสอบถามเรอ่ื ง ความพงึ พอใจในการใช้เทยี นหอมจากsoy wax ทแ่ี กไ้ ข
ปรับปรงุ แล้วใหก้ ลุม่ ตวั อยา่ งประเมนิ หลังจากนน้ั นำผลทไ่ี ดม้ าหาคา่ เฉล่ีย

15

การเก็บรวบรวมข้อมลู
การศกึ ษาคร้งั น้ีได้ดำเนนิ การโดยนำแบบสอบถามท่สี ร้างขน้ึ ให้นกั เรยี นกลมุ่ ตวั อย่างตอบ
จำนวน 10 คน และเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากนักเรียน ท่เี ปน็ กลุ่มตัวอย่าง โดยผ้ศู กึ ษาทั้ง 4 คน ดำเนนิ การ
เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง
การวิเคราะหข์ ้อมลู

ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ผศู้ ึกษาได้วเิ คราะห์ขอ้ มูลดังนี้
1. นำแบบสอบถามท้งั หมดท่ีตอบโดยนักเรียนกลมุ่ ตัวอยา่ ง มาหาคา่ คะแนนรวม
2. นำผลรวมมาคิดค่าร้อยละ
สถติ ทิ ี่ใชใ้ นการศกึ ษา
สถิติท่ีใช้ในการศึกษาครง้ั น้ี คือ การหาค่าเฉลย่ี คดิ เปน็ ร้อยละ

บทท่ี 4

ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล

การวิเคราะหข์ อ้ มลู เร่อื ง เทยี นหอมจากsoy wax ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5/2

โรงเรยี นสตรรี าชนิ ูทิศ ได้ผลดังนี้

ตารางท่ี 1 แสดงผลระดบั คะแนนการประเมนิ ความพงึ พอใจในการใช้เทียนหอมจาก

soy wax ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/2 โรงเรียนสตรรี าชินทู ศิ จำนวน 10 คน

ระดบั คะแนน

รายการประเมิน 5 4 32 1
0%
1.ท่านพึงพอใจในผลิตภณั ฑ์ 50% 50% 0% 0% 0%
0%
2.ท่านมีความพงึ พอใจในการใชเ้ ทยี นหอมจากsoy wax 60% 40% 0% 0% 0%
0%
3.ทา่ นมีความพงึ พอใจในกล่ินหอมระเหยของเทยี นหอม 30% 70% 0% 0%

4.ความสะดวกในการนำผลิตภัณฑ์มาใชง้ าน 80% 20% 0% 0%

5.ผลติ ภณั ฑเ์ ทียนหอมมีความทนทาน 30% 60% 10% 0%

จากตารางท่ี 1 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจในความสะดวกในการนำผลติ ภณั ฑ์
มาใชง้ าน อยู่ในระดบั 5 คดิ เป็นรอ้ ยละ 80

ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมนิ ความพงึ พอใจในการใช้เทยี นหอมจากsoy wax

รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ค่าเฉลีย่

1.ท่านพงึ พอใจในผลติ ภณั ฑ์ 5 10

2.ท่านมีความพงึ พอใจในการใชเ้ ทียนหอมจากsoy wax 5 12

3.ท่านมีความพึงพอใจในกลิน่ หอมระเหยของเทียนหอม 4 14

4.ความสะดวกในการนำผลิตภณั ฑ์มาใช้งาน 5 16

5.ผลิตภัณฑ์เทยี นหอมมคี วามทนทาน 4 12

ผลรวม 54.4

จากตารางที่ 2 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจในผลติ ภัณฑอ์ ยู่ในระดับคุณภาพมาก
ทีส่ ดุ ค่าเฉลยี่ 4.6

18

บทที่ 5

สรปุ ผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ

จากการศึกษาคร้งั นโ้ี รงเรยี นสตรรี าชนิ ทู ิศ ในภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 ซง่ึ สามารถ
สรุปผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะไดด้ งั น้ี

วัตถปุ ระสงค์ของการศึกษา
เพ่ือให้สมาชิกกล่มุ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในเรือ่ งของการทำเทยี นหอมดว้ ยไขถวั่ เหลอื ง
2. เพอ่ื ให้สมาชกิ กลุ่มมที ักษะ ประสบการณ์ ในเรอ่ื งการนำเทยี นหอมมาสรา้ งรายไดใ้ ห้แก่ตน

หรือสว่ นรวมและสามารถนำไปประกอบอาชพี ได้
3. เพอ่ื ให้สมาชิกกลุ่มมเี จตคตทิ ดี่ ี มีทกั ษะการทำงานกล่มุ มคี วามรับผดิ ชอบ และสามารถนำ

ความรทู้ ไ่ี ดร้ ับไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวันได้อย่างสรา้ งสรรค์

สมมตุ ติฐานของการศกึ ษา
เทยี นหอมดว้ ยไขถ่ัวเหลืองสามารถสง่ กล่นิ หอม ทำใหจ้ ติ ใจคนเราผ่อนคลายจากการเหนอื่ ยล้า

หรอื ความเครียดลงได้ และเป็นสินค้าทีต่ ้องการ ของลกู ค้ากล่มุ เป้าหมายข้างต้นจนสามารถสรา้ งได้

ขอบเขตของการศึกษา
1. ประชากรที่ใชใ้ นการศกึ ษา
ประชากรทีใ่ ชใ้ นการศึกษาครงั้ นี้ นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 10 คน

กลุ่มตวั อย่างทใี่ ช้ในการศกึ ษา
กล่มุ ตวั อย่างทใี่ ชใ้ นการศึกษา ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการศึกษา
เครื่องมอื ที่ใชใ้ นการศึกษาครั้งน้ี ประกอบดว้ ยแบบสอบถาม จำนวน1ฉบับ เรอ่ื ง ความ

ประทับใจในการใช้เทยี นหอมจากsoy wax ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรยี นสตรีราชินูทิศ
จำนวน 5 ข้อ

18

การวเิ คราะหข์ ้อมลู
ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ผศู้ ึกษาไดว้ ิเคราะห์ข้อมลู ของนกั เรยี นทม่ี ีตอ่ เทยี นหอมจากsoy

waxโดยการคิดคะแนนเฉลย่ี เปน็ ค่าร้อยละ 80

สรปุ ผลการศึกษา
ผลการศกึ ษาทมี่ ตี ่อการศกึ ษาเร่อื ง เทยี นหอมจากsoy wax อยใู่ นระดบั คณุ ภาพ

การอภิปรายผล
จากการศึกษาเรือ่ ง เทยี นหอมจากsoy waxของนกั เรียนระดบั ชั้น ม.5/2 โรงเรียนสตรีราชินทู ศิ

พบวา่ นกั เรยี นทกุ คนมคี วามพงึ พอใจอย่ใู นระดบั 5 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 54.4

ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการศึกษาคร้ังนี้
1. สามารถนำไปศึกษาปญั หาต่างๆที่พบในโรงเรียนได้ แต่ควรมีตวั แปรร่วมดว้ ย เพ่ือให้
การศึกษามคี ณุ ภาพ
2. สามารถนำไปศึกษากบั กลมุ่ ตัวอย่างอน่ื
3. ควรมเี วลาศกึ ษามากขน้ึ

ซ

บรรณานกุ รม

ปนสิ า. (2564). วิธกี ารทำเทยี นหอมจาก soy wax. สืบคน้ เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2564.
จากhttps://www.okmd.or.th/okmd-kratooktomkit/3320/Aromatic-Candle

เสน้ ทางเศรษฐีออนไลน์. (2561). กลน่ิ เทยี นหอม ผ่อนคลาย. สืบค้นเมื่อวนั ที่ 24
พฤศจกิ ายน 2564. จากhttps://www.sentangsedtee.com/exclusive/article_95181

Viralnova. (2560). นำ้ มนั หอมระเหย. สบื คน้ เมือ่ วนั ท่ี 25 พฤศจกิ ายน 2564.
จาก http://www.umsl.edu/~orglab/documents/distillation/dist.htm

ภาคผนวก

20

21

22

23

ประวตั ผิ ูศ้ ึกษา

ช่อื – นามสกุล นางสาว เจษราภรณ์ นทู น
วัน เดือน ปี สถานทเ่ี กดิ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2547
เกิดที่ ตำบลโพธช์ิ ัย อำเภอเมอื ง จังหวัดหนองคาย
ประวตั ิการศึกษา ประถมศึกษาตอนต้น โรงเรียนฮ่วั เคียวกงฮกั ตำบลในเมอื ง
อำเภอเมอื ง จงั หวดั หนองคาย พ.ศ.2556
ประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ ตำบลหมาก
แขง้ อำเภอเมือง จงั หวดั อดุ รธานี พ.ศ.2559
มัธยมศกึ ษาตอนตน้ โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ ตำบลหมากแขง้
อำเภอเมอื ง จงั หวดั อดุ รธานี พ.ศ.2562
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
กำลังศึกษาชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่5ี /2 โรงเรียนสตรีราชินทู ิศ
ตำบลหมากแข้ง จงั หวัดอุดรธานี

24

ประวตั ผิ ู้ศกึ ษา

ชื่อ – นามสกลุ นางสาวธัญญาภรณ์ เทพสมพร
วัน เดอื น ปี สถานท่เี กิด 9 มกราคม พ.ศ.2548
เกดิ ท่ี ตำบลหวั นาคำ อำเภอศรีธาตุ จังหวดั อุดรธานี
ประวัติการศกึ ษา ระดบั ประถมศึกษา โรงเรยี นมหาไถศ่ กึ ษากมุ ภวาปี
ตำบลกุมภวาปี อำเภอกมุ ภวาปี จังหวัดอดุ รธานี พ.ศ.2559
มัธยมศกึ ษาตอนต้น โรงเรียนบา้ นหมากแขง้ ตำบลหมากแขง้
อำเภอเมือง จังหวัดอดุ รธานี พ.ศ.2562
ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
กำลงั ศึกษาชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่5ี /2 โรงเรียนสตรีราชนิ ูทิศ
ตำบลหมากแขง้ จังหวดั อุดรธานี

25

ประวัติผู้ศึกษา

ชื่อ – นามสกุล นางสาวโศภิษฐา แก้วเพง็
วนั เดือน ปี สถานท่ีเกิด 24 มิถุนายน พ.ศ.2547
เกดิ ท่ี ตำบลพรเุ ตียว อำเภอเขาพนม จงั หวดั กระบ่ี
ประวตั กิ ารศึกษา ระดับประถมศกึ ษาปีท1่ี -5 โรงเรยี นสงั ข์ทองวทิ ยา ตำบล
เหนอื คลอง
อำเภอเหนอื งคลอง จังหวัดกระบี่ พ.ศ.2558
ระดับประถมศึกษาปีที6่ โรงเรียนวิสทุ ธิวงศ์ ตำบลโพนสูง
อำเภอบา้ นดุง จังหวัดอดุ รธานี พ.ศ.2559
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ โรงเรยี นบา้ นดุงวทิ ยา
ตำบลศรีสุทโธ อำเภอบา้ นดงุ จงั หวดั อดุ รธานี พ.ศ.2562
ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
กำลงั ศึกษาชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี5/2 โรงเรียนสตรรี าชนิ ูทิศ
ตำบลหมากแขง้ จังหวดั อุดรธานี

26

ประวตั ิผ้ศู ึกษา

ชื่อ – นามสกลุ นางสาว อนามิกา แสนวงั
วัน เดือน ปี สถานท่ีเกิด 1 ตลุ าคม พ.ศ.2547
เกิดท่ี ตำบลนากลาง อำเภอนากลาง จงั หวดั หนองบวั ลำภู
ประวตั ิการศึกษา ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนบ้านกกคอ้ กกโพธิ์
ตำบลนากลาง อำเภอนากลาง จงั หวดั หนองบัวลำภู
พ.ศ.2559
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น โรงเรียนคำแสนวิทยาสรรค์
ตำบลนากลาง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบวั ลำภู
พ.ศ.2562
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
กำลงั ศึกษาชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที 5ี่ /2โรงเรียนสตรรี าชนิ ูทิศ
ตำบลหมากแขง้ จังหวัดอุดรธานี