KINGDOM FUNGAI
MEANS?
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังใจเป็นเซลล์ยูคาริโอต สร้างอาหารเองไม่ได้
(Heterotroph) ส่วนใหญ่ดำรงชีวิตแบบภาวะย่อยสลาย (Saprophytism)
โดยการปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิตแล้วดูดซึมเข้าไป
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักร ผนังเซลล์มีสารพวก ไค มีลักษณะสำคัญดังนี้
ฟังไจเรียกกันสั้นๆว่า ติดหรือไคตินรวมอยู่กับ เส้นใยมีผนังกั้น คือ
"เห็ดรา" มีลักษณะเป็น เซลลูโลส มีการสืบพันธุ์ เส้นใยที่มีผนังกั้นทำให้
เซลล์แบบยูคาริโอต ไม่มี ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่ มองดูเป็นห้องที่มีไซโท
คลอโรฟิลล์ อาศัยเพศ พลาซึมและนิวเคลียส
ลักษณะรู ปร่างและการ
ดำรงชีวิตของฟั งไจ
ประกอบด้วยหลายเซลล์เรียงต่อกัน เส้นใยของรา แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
เป็นเส้นใย เรียกว่า ไฮฟา (hypha)
กลุ่มของเส้นใย เรียกว่า ไมซีเลียม 1.เส้นใยไม่มีผนังกัน (Non Septate Hypha) เส้นใยมีลักษณะเป็นท่อ
(Mycelium) ทำหน้าที่ยึดเกาะ ทะลุถึงกันหมดโดยไม่มีผนัง (Septum) กั้นซึ่งเกิดจากการแบ่ง
อาหารและส่งเอนไซม์ไปย่อยสลาย นิวเคลียสโดยไม่แบ่งไซโทพลาซึม ทำให้ไซโทพลาซึมและนิวเคลียส
อาหารภายนอกเซลล์และดูดซึมสาร ติดต่อกันได้หมด
อาหารที่ย่อยได้บางชนิดจะเจริญ
เป็นส่วนที่โผล่พ้นดินออกมา เรียกว่า 2.เส้นใยแบบที่มีผนังกั้น (Septate Hypha) มีผนังกั้นแบ่งแต่ละเซลล์
ฟรุตติงบอดี (Fruiting body) เพื่อ โดยภายในเซลล์อาจมีนิวเคลียสอันเดียว หรือมีหลายอัน ผนังที่กั้น
ทำหน้าที่สร้างสปอร์ ระหว่างเซลล์เป็นผนังที่ไม่สมบูรณ์ เพราะมีรูอยู่ที่ผนัง อาจมีรูเดียว
หรือหลายรู ทำให้ไรโบโซม ไมโทคอนเดรีย หรือนิวเคลียสไหลจาก
เซลล์หนึ่งไปอีกเซลล์หนึ่งได้
เส้นใยของฟั งใจ
เส้นใยของฟังใจ แบ่งเป็น 2 ชนิด เส้นใยของฟังไจอาจเปลี่ยนแปลงรูป
ตามหน้าที่ คือ ร่างเพื่อทำหน้าที่พิเศษ ได้แก่ ไรซอยด์
(Rhizoid) มีลักษณะคล้ายรากพืชยื่น
1.เส้นใยที่ยึดเกาะอาหาร มีหน้าที่ดูดซึมอาหารที่ย่อยแล้ว ออกจากไมซีเลียมเพื่อยึดให้ติดกับผิว
2.เส้นใยที่ยื่นไปในอากาศ ทำหน้าที่สร้างสปอร์เพื่อสืบพันธุ์ อาหารและช่วยดูดซึมอาหารด้วย เช่น
ราขนมปัง ส่วนฮอสทอเรียม
(Haustorium) หรือ อาร์บาสคิว
(Arbuscules) เป็นเส้นใยที่ยื่นเข้าเซลล์
โฮสต์ เพื่อดูดซึมอาหารจากโฮสต์ พบใน
ราที่เป็นปรสิต
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักร
ไฟลัมไซโกไมโคตา
(Phylum Zygomycota)
ลักษณะ
เซลล์เดี่ยวเจริญอยู่ในน้ำ บนบก และซ
ากพืชซากสัตว์
เส้นใยชนิดไม่มีผนังกั้น
ต้องการความชื้น
ดำรงชีวิตแบบปรสิต และผู้ย่อยสลาย
การสืบพันธุ์
แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์ sporangiospore
แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ zygospore
ไฟลัมแอสโคไมโคตา
(Phylum Ascomycota)
ลักษณะ
เซลล์เดียว ได้แก่ ยีสต์ นอกนั้นเป็นพ
วกมีเส้นใยมี
ผนังกั้นและราคล้ายถ้วย
ดำรงชีวิตบนบก
การสืบพันธุ์
แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์ conidia ที่ปลาย
ไฮฟา ส่วนยีสต์จะแตกหน่อ
แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ ascospore อยู่ในถุง
ascus
ไฟลัมเบสิติโอไมโคตา
(Phylum Basidiomycota)
ลักษณะ
เส้นใยมีผนังกั้นและรวมตัวอัดแน่นเป็นแท่งคล้าย
ลำต้น เช่น ดอกเห็ด
การสืบพันธุ์
แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์ codiospore ใน
conidia
แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ที่อาศัยเพศ สร้างบน
อวัยวะคล้ายกระบองหรือเบสิเดียม (basidium) เรียกว่า
แบสิดิโอสปอร์ (basidiospore)
ไฟลัมดิวเทดโรไมโคตา
(Phylum Deuteromycota)
ลักษณะ
เส้นใยมีผนังกั้น
สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยสร้างสปอร์ โคนิเดีย
(conidia) จึงเรียกราในกลุ่มนี้ว่า Fungai
Imperfecti
แต่หากเมื่อใดมีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศจะไปอยู่
ใน Ascomycetes และ Basidiomycete
บทบาทของฟั งใจ
1.ดำรงชีวิตเป็นผู้ย่อยสลายซึ่งทำให้เกิดการหมุนเวียนของธาตุคาร์บอน ไนโตรเจน
และสารอื่นๆในระบบนิเวศ
2. ใช้ย่อยสลายขยะมูลฝอยและซากอินทรีย์
3.ใช้ในด้านอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ยีสต์ Saccharomycescerevisiae ใช้ทำ
ขนมปังและผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Aspergillus niger ใช้ผลิตกรดซิตริก
Penicillium notatum ใช้ผลิตยาปฏิชีวนะเพนิซิลลิน
4.ใช้ประกอบอาหาร เช่น เห็ดหอม เห็ดหูหนู เห็ดฟาง เห็ดออริจิ เห็ดเข็มทอง เป็นต้น
5.ก่อให้เกิดโรคในพืช เช่น โรคราน้ำค้างในองุ่น โรคราสนิมโรคใบไหม้ในฝรั่ง
6.สร้างสารพิษ เช่น Aspergillus flavas สร้างสารพิษอะฟลาทอกซิน (aflatoxin)
ที่เป็นสารก่อมะเร็งในตับ
การสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟั งไจ
1. Fragmentation 3. Fission การแบ่งตัวออกเป็น 2
เกิดจากเส้นใยหักเป็น ส่วน แต่ละเซลล์จะคอดเว้าตรงกลาง
ส่วนๆแต่ละส่วนเรียก และหลุดออกจากกัน เป็น 2 เซลล์ พบ
oidia สามารถเจริญ ในยีสต ์ บางชนิดเท่าน้ัน
เป็นเส้นใย ใหม่ได้
2. Budding การแตกหน่อ เป็นการที่เซลล์แบ่งออกเป็นหน่อขนาด
เล็กและนิวเคลียสของเซลล์แม่แบ่งออกเป็น 2 นิวเคลียส อันหนึ่ง
จะเคลื่อนย้ายไปเป็นนิวเคลียสของหน่อ เมื่อหน่อเจริญเต็มที่จะ
คอดเว้าขาดจากกัน หน่อที่หลุดออกมาจะเจริญต่อไปได้ เรียกหน่อ
ที่ได้นี้ว่า Blastospore พบการสืบพนัธุ์ แบบน้ีในยีสต์ ทั่วไป
4. การสร้างสปอร์แบบไม่อาศัยเพศ condiospore หรือ conidia เป็นสปอร์ที่ไม่มี
เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่มีเพศที่พบ สิ่งหุ้ม เกิดที่ปลายเส้นใยที่ทำหน้าที่ชูสปอร์
มากที่สุด สปอร์แต่ละ ชนิดจะมีชื่อ (conidiophore) ที่ปลายของเส้นใยจะมีเซลล์
และวิธีสร้างที่แตกต่างกันไป เช่น ที่เรียกว่า sterigma ทำหน้าที่สร้าง conidia
เช่น Aspergillus sp.
sporangiospore เป็นสปอร์ที่เกิดจากปลายเส้นใยพองออกเป็นกระเปาะ
แล้วต่อมามีผนัง กั้นเกิดขึ้นภายใน กระเปาะจะมีผนังหนาและเจริญเป็นอับ
สปอร ์(sporangium) นิวเคลียสภายใน อับสปอร์ จะมีการแบ่งตัวหลายๆ
ครั้งโดยมีส่วนของโปรโตพลาสซึมและผนังหนามาหุ้ม กลายเป็น
สปอร์ที่เรียกว่า sporangiospore จำนวนมากมาย
5. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ มีการผสมมกันระหว่างเซลล์
สืบพันธุ์และมีการรวมตัวของ นิวเคลียส ซึ่งรวมแล้วเป็น
diploid (2n) และมีการแบ่งตัวในขั้นตอนสุดท้ายแบบ
meiosis เพื่อลด จำนวนโครโมโซมลงเป็น haploid (n)
ตามเดิม
กรรมวิธีในการรวมของนิวเคลียสมี 3 ระยะ
1. plasmogamy เป็น 2. karyogamy เป็นระยะที่นิวเคลียสทั้งสองมารวมกัน ในฟังไจชั้น
ระยะที่ไซโตพลาสซึมของ ต่ำจะเกิดการรวมตัวของนิวเคลียสอย่างรวดเร็วในทันทีที่มี
ทั้งสองเซลล์มารวมกัน นิวเคลียสทั้งสองอันอยู่ในเซลล์เดียวกัน ส่วนในฟังไจชั้นสูงจะเกิด
ทำให้นิวเคลียสในแต่ละ การรวมตัวของนิวเคลียสช้ามาก ทำให้เซลล์ระยะนี้มีสองนิวเคลียส
เซลล์มาอยู่รวมกันด้วย เรียกว่า dikaryon
นิวเคลียสในระยะนี้มี
โครโมโซมเป็น n 3. haploidization หรือไมโอซิส เป็นระยะที่นิวเคลียสซึ่งมีโครโมโซม
เป็น 2n จะแบ่งตัวแบบไมโอซิส เพื่อลดจำนวนโครโมโซมเป็น n
ความสัมพันธ์ระหว่างรากับสิ่งมีชีวิตอื่น
ราบางชนิดดำรงชีวิตโดยอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมกับสาหร่ายสีเขียวเซลล์เดียว แบบ
ในระบบนิเวศ ได้แก่ ไลเคน (Lichen) เป็นความ ภาวะพึ่งพา โดยสาหร่ายจะได้รับความชุ่มชื้นและ
สัมพันธ์ระหว่างราในไฟลัมแอสโคไมโคตาเป็น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากรา ขณะที่ราจะได้รับ
ส่วนใหญ่หรืออาจเป็นพวกเบสิดิโอไมโคตา อาหารจากสาหร่าย
จากการศึกษาพบว่ารูปแบบการอยู่ร่วมกันระหว่างรากับสาหร่ายแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
1. เซลล์สาหร่ายกระจายอยู่ทั่วไปอย่างไม่เป็นระเบียบ และมีไมซีเลียมของราห่อหุ้มไว้เป็นแบบ
ไม่ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ (Unstratified Thallus)
2. เซลล์สาหร่ายเรียงตัวเป็นระเบียบอยู่ด้านบนของแทลลัส โดยมีไมซีเลียมของราห่อหุ้มไว้เป็น
แบบซ้อนกันเป็นชั้น ๆ (Stratified Thallus)
ในปั จจุบันนั กชีววิทยาได้จำแนกไลเคน
ตามลักษณะรู ปร่างออกเป็ น 3 กลุ่ม
ครัสโทส (Crustose Lichen) มีลักษณะเป็นแผ่นแบนบางเกาะติดแน่นอยู่กับก้อน
หินหรือเปลือกไม้สามารถผลิตสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดกัดกร่อนหินให้ผุพังได้
โฟลิโอส (Foliose Lichen) มีลักษณะเป็นแผ่นแบนบางคล้ายใบไม้มีบางส่วนของ
แทลลัลเกาะติดอยู่กับก้อนหินหรือเปลือกไม้จึงทาให้หลุดออกจากที่ยึดเกาะได้ง่าย
ฟรุทิโคส (Fruticose Lichen) หรือ ฝอยลมมีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆ แตกกิ่งก้าน
คล้ายพุ่มไม้เตี้ยๆ เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ห้อยไปมาบางชนิดอาจมียาวมากถึง 6 เมตร
ความสำคัญของฟั งไจต่อมนุษย์
มนุษย์ใช้เห็ดเป็นอาหาร เช่น เห็ดหูหนู เห็ด ไลเคนมีความสำคัญต่อมนุษย์และ
ฟาง เห็ดนางฟ้า แต่เห็ดหลายชนิดที่เห็นอยู่ ระบบนิเวศในหลายด้าน เช่น นำไปใช้
ทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณที่มีซากพืชซากสัตว์ ทำสีย้อม ยารักษาแผลที่ถูกไฟลวก
และมีความชื้นพอเหมาะ อาจเป็นพิษไม่ ใช้เป็นอาหารสัตว์ ใช้ทำน้ำหอม เป็น
สามารถนำมาประกอบอาหารได้ หากกิน เครื่องบ่งชี้มลพิษของอากาศ ทำให้
เข้าไปอาจมีอาการมึนเมา อาเจียน ถึงตายได้ หินเกิดการผุกร่อนแล้วสลายกลาย
เป็นดินเป็นอินดิเคเตอร์วัดความเป็น
รามีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายซากพืช ต่างๆ กรด-เบส ซากของไลเคนที่ตายแล้ว
ให้เป็นดินที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก จะทับถมกันเป็นฮิวมัสปกคลุมดิน
1) ข้อใดไม่ได้จัดอยู่ในอาณาจักรฟังใจ 2) เซลล์สืบพันธุ์ของราในไฟลัมใดที่เคลื่อนที่ได้
1. ราเมือก 2. ราดำ 1. Zygomycota 2. Chytridiomycota
3. ราแดง 4 . ราน้ำค้าง 3. Ascomycota 4. Basidiomycota
3) ยีสต์จัดอยู่ในอาณาจักรฟังไจ แต่จะมีลักษณะที่แตกต่างจากเห็ดราอื่นๆ ตามข้อใด
1. ไม่มีนิวเคลียส 2. สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเท่านั้น
3. สืบพันธุ์โดยการแตกหน่อไม่สร้างสปอร์ 4. นำไปใช้ประโยชน์มากกว่าเห็ดราอื่นๆ
4) ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิดเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจ
1. สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรรฟังไจประกอบขึ้นจากสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ (multicellular organism)
2. สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจมีการดำรงชีวิตแบบ saprophytism และ parasitism
3. สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจมีการสืบพันธุ์ไดทั้งแบบอาศัยเพศและแบบไม่อาศัยเพศ
4. สิ่งมีชีวติในอาณาจักรฟังไจมีผนังเซลล์เป็นสารพวกไคทิน
5) ยีสต์ราเขียว(Penicillium) และราดำ(Aspergillus) มีลักษณะเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือข้อใด
1. สร้างสปอร์ ในโครงสร้างท่ีเรียกว่า basidia
2. สร้างสปอร์ ในโครงสร้างที่เรียกว่า sporangia
3. สร้างสปอร์ ในโครงสร้างที่เรียกว่า ascus
4. ไม่มีการสืบพันธุ์โดยการสร้างสปอร์
6) ข้อใดถูกเก่ี่ยวกับฟังไจ
1. รา chytrid สร้างเซลล์สืบพันธุ์ท่ี่ว่ายน้ำได้ 2. ยีสต์ขนมปังเป็นราที่มี fruitingbody ห่อหุ้ม ascus
3. เห็ดโคนสร้างbasidiospore 4. ราดำ mucor สร้าง zygospore
อยู่ในถุง basidium ในการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
7) สารพิษท่ีเรียกว่า อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) 8) ข้อใดไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต
เกิดจากราชนิดใด ในอาณาจักรฟังไจ
1. Penicillium notatum 1. สาโท ข้าวหมาก
2. Aspergillus flavus 2. เต้าเจี้ยว เนยแข็ง
3. Rhizopus nigricans 3. น้ำปลา น้ำส้มสายชู
4. Saccharomyces cerevisiae 4. เบียร์ ขนมปัง
9) สมาชิกส่วนใหญ่ของอาณาจักรฟังไจมีการจัดเรียงตัวเป็นเส้นใยแต่ละเส้นเรียกว่าอะไร
1. แซนโทฟีลล์ 2. แคโรทีน 3. ไฟโคบิลัน 4. ไฮฟา
10) หากโลกร้อนขึ้นหรือมีอุณหภูมิสูงขึ้นจะมีผลกระทบต่อราอย่างไร
1. ราเจริญเติบโตได้ดีขึ้น 2. ราจะเกิดการกลายพันธุ์
3. ราจะเจริญเติบโตน้อยลง 4. ราจะถูกทำลายหรือย่อยสลาย
11) สิ่งมีชีวิตในข้อใดที่นิยมนำมาทำขนมปังและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
1. ราดํา (Rhizopus sp.) 2. เห็ดโคน (Termitomyces fuliginosus)
3. ยีสต์ (Saccharomyces spp.) 4. Batrachochytrium sp
12) ข้อใดท่ี่พบเฉพาะฟังไจเท่านั้น 2. มีการสร้างสปอร์ในการสืบพันธุ์
1. เซลล์สืบพันธุ์มีแฟลกเจลลา 4. ผนังเซลล์ม่ีไคทินเป็นองค์ประกอบ
3. สามารถสืบพันธุ์โดยการแตกหน่อ
13) ข้อใดไม่ใช่ลักณะเด่นของสิ่งมีชีวิตในไฟลัมไซโกไมโคตาในอาณาจักรฟังไจ
1. เส้นใยไม่มีผนังกั้นเซลล์ 2. สืบพันธุ์โดยสร้าง แอสโคสปอร์
3. ไม่มีแฟลกเจลลัมในวงจรชีวิต 4. ตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในไฟลัมนี้ คือ ราขนมปัง
14) สิ่งมีชีวิตในข้อใดใช้ในการผลิตเต้าหู้ยี้
1. Batrachochytrium sp. 2. ราดำ(Rhizopussp.)
3. ราแดง (Monascus spp.) 4. เห็ดโมเรล (Morchella sp.)
15) ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. ราดำ: สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการสร้างไซโกสปอร์
2. ไคทริด : สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการสร้างโฮโมสปอร์
3. เห็ดหอม : สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการสร้างเบสิดิโอสปอร์
4. ราแดง : สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการสร้างแอสโคสปอร์
16) เห็ดเป็นสิ่งมีชีวิตที่นักวิทยาศาสตร์จัดให้อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า ฟังไจ ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกับพืช
พืชและฟังไจแตกต่างกัน อย่างไร
1. พืชมีการสังเคราะห์แสง เห็ดไม่มีการสังเคราะห์แสง
2. เซลล์พืชเป็นยูคาริโอต เซล์ฟังไจเป็นโพรคาริโอต
3. พืชไม่มีโครงสร้างที่สร้างสปอร์ เห็ดมีฟรุตติงบอดีทำหน้าที่สร้างสปอร์
4. ฟังไจมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ พืชไม่มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
17) Fungi imperfecti เป็นฟังไจที่เป็นไปตามข้อใด
1. เป็นกลุ่มของฟังไจท่ีมีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเท่านั้น
2. เป็นกลุ่มของฟังไจท่ีมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศเท่านั้น
3. เป็นกลุ่มของฟังไจที่มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและแบบไม่อาศัยเพศ
4. เป็นกลุ่มของยีสต์ที่อยู่ต่อกันเป็นสายยาว
18) ฟรุตติง บอดี (Fruiting body) ทำหน้าที่สำคัญ อย่างไร
1. ยึดเกาะอาหาร
2. ดูดซับสารอาหาร
3. ส่งเอนไซม์ไปสลายสารอาหารภายนอกเซลล์
4. สร้างสปอร์ที่ได้จากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
19) ดอกเห็ดที่เรานำมารับประทานเกิดจากสิ่งใด
1. ฟรุตติ้งบอดี้ของราในไฟลัมแอสโคไมโคไฟตา
2. การรวมตัวของไมซีเลียมระยะแรกของราในไฟลัมเบสิดิโอไมโคตา
3. การรวมตัวของไมซีเลียมระยะที่สองของราในไฟลัมเบสิดิโอไมโคตา
4. การรวมตัวของไมซีเลียมของราในไฟลัมแอสโคไมโคไฟตา
20) ฟังไจไฟลัมใดเป็นกลุ่มแรกที่มีวิวัฒนาการขึ้นมาก่อน
1. ไฟลัมไซโกไมโคตา (Phylum Zygomycota)
2. ไฟลัมแอสโคไมโคตา (Phylum Ascomycota)
3. ไฟลัมเบสิดิโอไมโคตา (Phylum Basidiomycota
4. ไฟลัมไคตริดดิโอไมโคตา (Phylum Chytridiomycota)
1. ตอบ 1 ราเมือก 6. ตอบ 1 รา chytrid สร้างเซลล์สืบพันธุ์ท่ี่ว่ายน้ำได้
2. ตอบ 2 Chytridiomycota 7. ตอบ 2 Aspergillus flavus
3. ตอบ 3 สืบพันธุ์โดยการแตกหน่อไม่สร้างสปอร์ 8 . ตอบ 3 น้ำปลา น้ำส้มสายชู
4. ตอบ 1 สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรรฟังไจประกอบขึ้นจาก 9. ตอบ 4 ไฮฟา
สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ (multicellular organism) 10. ตอบ 1 ราเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
5. ตอบ 4 ไม่มีการสืบพันธุ์โดยการสร้างสปอร์ 11. ตอบ 3 ยีสต์ (Saccharomyces spp.)
12. ตอบ 4 ผนังเซลล์ม่ีไคทินเป็นองค์ประกอบ 17. ตอบ 2 เป็นกลุ่มของฟังไจท่ีมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัย
13. ตอบ 2 สืบพันธุ์โดยสร้าง แอสโคสปอร์ เพศเท่านั้น
14. ตอบ 3 ราแดง (Monascus spp.) 18. ตอบ 4 สร้างสปอร์ที่ได้จากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
15. ตอบ 2 ไคทริด : สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการ 19. ตอบ 3 การรวมตัวของไมซีเลียมระยะที่สองของราใน
สร้างโฮโมสปอร์ ไฟลัมเบสิดิโอไมโคตา
16. ตอบ 1 พืชมีการสังเคราะห์แสง เห็ดไม่มีการ 20. ตอบ 4 ไฟลัมไคตริดดิโอไมโคตา (Phylum
สังเคราะห์แสง Chytridiomycota)
THANK YOU!!!
สมาชิกในกลุ่ม
นายคณิน อักษรพันธุ์ เลขที่ 2
นางสาวอาทิตยา สุขสวัสดิ์ เลขที่ 4
นางสาวกวิสรา แก้วมณี เลขที่ 5
นายศรายุทธ ทรัพย์สิน เลขที่ 6
นายคณาธิป กอกเผือก เลขที่ 8
นางสาวอรบุษรินทร์ บุญตามช่วย เลขที่ 9
นางสาวธนพร แสงศรี เลขที่ 10
นางสาวอภิญญา แซ่เฮง เลขที่ 16
นางสาวพิชญา หน่อเพ็ชร์ เลขที่ 28
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1