โครงงานวิทยาศาสตร์

รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภททดลอง

เร่ือง การศกึ ษาและเปรยี บเทยี บความสามารถ
ในการลดปริมาณฝนุ่ PM 2.5 ของไมป้ ระดบั

โดย 1. เดก็ หญงิ วรรณวมิ ล นชุ าญรัมย์

2. เด็กหญงิ วิภาดา อนไุ วยา

3. เดก็ หญงิ วิลาวรรณ สรุ ยิ ะ

โรงเรยี นศรรี ามประชาสรรค์

สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 33

รายงานนเี้ ป็นสว่ นประกอบของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
ประเภททดลอง ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น
เนอ่ื งในงานศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรยี น ครงั้ ที่ 69
ระหวา่ งวนั ท่ี 13 – 14 กนั ยายน 2562

บทคดั ยอ่
PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมโครเมตรที่เกิดจาก การเผาไหม้จาก
บริษัทอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ การเผาไม้ของเชื้อเพลงิ จากเคร่ืองยนต์ การจุดไฟเผาไร่นาของเกษตรกร
การผลิตไฟฟ้า สารเคมีและอุตสาหกรรมการผลิต เมื่อเข้าสู่ร่างกาย สามารถทำให้เกิดโรคและความผิดปกติ
ของร่างกายไดห้ ลายระบบ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจได้ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคผิวหนังอกั เสบ โรค
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคเยื่อบุตาอักเสบตามมา โดยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5
ที่มากกว่า 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป ถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพ ทางที่ดีไม่ควรให้มีปริมาณฝุ่น
เกิน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คณะผู้จัดทำโครงงานจึงมีแนวคิดที่จะศึกษา ปริมาณการดูดซับฝุ่น PM
2.5 ในอากาศของพืชชนิดต่าง ๆ เพื่อช่วยลดปริมาณ PM 2.5 ในบ้าน ซึ่งพืชจะช่วยดูดซับฝุ่นละอองใน
อากาศ แทนที่จะถูกสุดเข้าไปทำอันตรายต่อปอดของสิ่งมีชีวิต โดยนำต้นไม้ที่เลือกมาทั้งหมด 6 ชนิด ได้แก่
ต้นลิ้นมังกร ต้นพลูด่าง ต้นกวักเงิน ต้นเปปเปอร์ด่าง ต้นเศรษฐีเรือนใน และ ต้นว่านหางจระเข้ ที่มีขนาดต้น
และอายุไล่เลี่ยกัน มาปลูกในกระถางพลาสติกสีดำขนาด 5 นิ้ว โดยใส่กากมะพร้าว ดิน ปุ๋ย ในปริมาณเท่ากนั
รดน้ำวันละ 50 มิลลิลิตรเท่ากัน วันละ 1 ครั้ง เวลา 6.00 น. และวางไว้บริเวณเดียวกัน จากนั้นนำต้นไม้ วาง
ลงในกล่องใสพร้อมทีละต้น นำกล่องไปวางไว้ใกล้ ๆ ท่อไอเสียรถยนต์ที่กำลังติดเครื่องอยู่ รอจนกระทั่ง ให้มี
ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่ระดับ 130 ± 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปิดฝากล่องใส แล้วใช้เทปใสพัดรอบ
กล่อง เพื่อทำให้กลอ่ งอยู่ในระบบปิด นำกล่องใสไปวางในบรเิ วณทีม่ ีแสงแดดส่องถึงปริมาณหนึ่ง ทำการวัดคา่
ฝุ่น PM 2.5 แลว้ บันทึกผล ทุก ๆ 6 ช่วั โมงเปน็ เวลา 24 ชว่ั โมง ทำการทดลองซ้ำ โดยต้นไมจ้ นครบทุกชนิด
จากนัน้ วเิ คราะห์ขอ้ มลู ปริมาณ ฝุ่น PM 2.5 ของแตล่ ะตน้ ท่ลี ดลงเปน็ รอ้ ยละ พบว่า ตน้ เศรษฐีเรอื นในสามารถ
ลดปริมาณฝ่นุ PM 2.5 ลงได้มากท่ีสดุ คดิ เป็นร้อยละ 54.07 รองลงมาคือตน้ ล้ินมังกรสามารถลดปรมิ าณฝุ่น
PM 2.5 ลงได้ร้อยละ 43.75 ต้นพลดู ่างสามารถลดปริมาณฝนุ่ PM 2.5 ลงได้ร้อยละ 42.86 ต้นวา่ นหางจระเข้
สามารถลดปรมิ าณฝุ่น PM 2.5 ลงได้ร้อยละ 42.19 ต้นกวกั เงนิ กวกั ทองสามารถลดปรมิ าณฝุ่น PM 2.5 ลงได้
ร้อยละ 29.32 และสดุ ทา้ ยต้นเปปเปอร์ดา่ งสามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ลงได้ร้อยละ 28.57

กิตตกิ รรมประกาศ
โครงงานศกึ ษาและเปรียบเทียบความสามารถในการลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ของไม้ประดบั โครงงานนี้
เสร็จสมบรู ณไ์ ดเ้ น่ืองจากไดร้ ับความช่วยเหลือการให้คำแนะนำปรึกษาทงั้ ข้อเสนอแนะ
ผู้จัดทำโครงงานขอขอบคุณท่านผู้อำนวยการโรงเรียนศรีรามประชาสรรค์ ผอ.ตฤณ สขุ นวล ท่ใี ห้
คำปรกึ ษา แนะนำ และการช่วยเหลอื ในทกุ ๆ ด้าน ขอบพระคณุ นายจำเนียร แก้วพนิ ึก นกั การภารโรงเรียนศรี
รามประชาสรรคท์ ่ีได้ ช่วยเหลือและใหค้ วามร้ดู า้ นพชื ไม้ประดบั คุณครูทปี่ รึกษาโครงงาน ท่ีกรณุ าประสิทธ์ิ
ประสาทความรู้และประสบการณอ์ ันมีค่าแกส่ ิทธิ์ ขอบพระคณุ ผ้เู ชีย่ วชาญทกุ ท่าน ท่ีกรุณาใหค้ ำแนะนำและ
ขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ
ขอขอบคุณทางโรงเรียนศรรี ามประชาสรรค์ คุณครูทุกท่าน ทีใ่ หค้ วามสนับสนนุ ทำใหโ้ ครงงานประสบ
ความสำเร็จ ขอขอบคุณเพือ่ นทุกคนที่คอยช่วยเหลอื ท้งั หาข้อมูล รวบรวมข้อมลู พันธ์ุไม้ และขอบคุณกำลงั ใจดี
ๆ จากผู้ท่คี วามเมตตากรุณา เชน่ บดิ า มารดา คุณครูทุกท่าน ท่มี สี ว่ นผลักดันให้มแี รงบนั ดาลใจในการทจ่ี ะทำ
โครงงานศกึ ษาและเปรยี บเทียบความสามารถในการลดปริมาณฝ่นุ PM 2.5 ของไม้ประดับ ต่อไป ซ่ึงผูจ้ ัดทำ
โครงงานนีม้ คี วามซาบซ้งึ อยา่ งยิ่ง และขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ี

คณะผจู้ ดั ทำโครงงาน

บทท่ี 1
บทนำ

โครงงานศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ของไม้ประดับ เป็น
โครงงานวิทยาศาสตร์ ผู้พัฒนาโครงงานขอนำเสนอแนวคิดที่มาและความสำคัญของโครงงาน สมมติฐานการ
ทดลอง วัตถุประสงค์การทดลอง ขอบเขตการทดลอง นิยามศัพท์หรือนิยามเชิงปฏิบัติการ และประโยชน์ที่
จะได้รับตามหวั ข้อตอ่ ไปนี้

1.1 แนวคดิ ทม่ี า และความสำคญั
PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมโครเมตรที่เกิดจาก การเผาไหม้จาก

บริษัทอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ การเผาไม้ของเชื้อเพลงิ จากเคร่ืองยนต์ การจุดไฟเผาไร่นาของเกษตรกร
การผลิตไฟฟ้า สารเคมีและอุตสาหกรรมการผลิต นอกจากฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ถูกปล่อยมา ยังรวมไปถึงการ
รวมตวั ของก๊าซตา่ ง ๆ ทเ่ี กาะมากบั ฝนุ่ PM 2.5 กส็ ามารถทำลายระบบร่างกายของมนุษย์ได้เชน่ กัน เช่น ก๊าซ
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ไนโตรเจน (NOx) สารปรอท (Hg), แคดเมียม (Cd), อาร์เซนิก (As) เนื่องจากฝุ่น
ละออง PM 2.5 มีขนาดเล็ก จึงฟุ้งกระจายเป็นบริเวณกว้าง ล่องลอยอยู่ในอากาศได้นาน สามารถก่อโรคได้
หลากหลายกว่ามลพิษชนิดอืน่ แต่มักไม่ทำให้เกิดการระคายเคอื งอย่างรวดเร็วหรือมกี ล่ินชัดเจน ดังนั้นจึงเปน็
มลพิษที่ได้รับการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ สามารถตกค้างในปอดและถุงลมผ่านการหายใจ รวมถึงผ่านเข้าสู่ระบบ
ไหลเวียนโลหิต ทำให้เกิดโรคและความผิดปกติของร่างกายได้หลายระบบ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจได้
โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคผิวหนังอักเสบ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคเยื่อบุตาอักเสบตามมา โดยองค์การ
อนามัยโลกได้กำหนดให้ ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ที่มากกว่า 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป ถือว่ามี
ผลกระทบต่อสุขภาพ ทางที่ดีไม่ควรให้มีปริมาณฝุ่นเกิน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งนอกจาก PM 2.5
จะเข้าสู่เนื้อเยื่อถุงลมปอดแล้ว ยังสามารถเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตและแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ
ของร่างกาย เมื่อ PM 2.5 เขา้ สู่เซลลเ์ ปา้ หมายแล้วจะมีการปลดปลอ่ ยสารพษิ ทจี่ ับอยู่บนผวิ นอกของฝนุ่ ทำให้
เกิดผลกระทบตอ่ สขุ ภาพหลายประการ ไม่จำกัดเฉพาะระบบหายใจเพยี งเท่านนั้

นอกจากนั้นฝุ่น PM 2.5 ยังก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากค่าเสียโอกาสจากประเด็นสุขภาพ
ทั้งการรักษาและการป้องกัน จากสถานการณ์ฝุ่นละอองที่กระตุ้นให้เกิดอาการเจ็บป่วยสำหรับผู้ป่วยโรค
ภูมิแพ้/ระบบทางเดินหายใจ จนต้องไปพบแพทย์หรือเข้ารับการรักษาพยาบาล อีกทั้งยังมีค่าเดินทาง ค่าเสีย
โอกาสในการประกอบอาชีพ รวมถึงคา่ ใชจ้ ่ายที่ผู้บรโิ ภคตอ้ งซ้ือหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เพ่ือดูแลป้องกัน หาก
เป็นแบบนีต้ ่อไปฝนุ่ ละออง PM 2.5 ยงั คงจะเกิดขึ้นซำ้ แลว้ ซ้ำอีกในทุก ๆ ปี แนวทางในการแก้ปญั หาท่ีย่ังยืนจึง
ถือวา่ เปน็ ส่งิ สำคัญ ซงึ่ หนงึ่ ในนน้ั คือการเพม่ิ พน้ื ที่สเี ขียวให้มากข้ึน

จากปัญหาดังกล่าวคณะผู้จัดทำโครงงานจึงมีแนวคิดที่จะศึกษา ปริมาณการดูดซับฝุ่น PM 2.5 ใน

อากาศของพืชชนิดต่าง ๆ เพ่อื ช่วยลดปริมาณ PM 2.5 ในบา้ น ซึง่ พชื จะชว่ ยดูดซับฝุ่นละอองในอากาศ แทนท่ี

จะถูกสุดเข้าไปทำอันตรายต่อปอดของสิ่งมีชีวิต นอกจากนั้นพืชมีกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยพืชจะ

ดูดซับเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเข้ามา คลอโรฟิลล์จะใช้พลังงานแสงจากดวงอาทิตย์เปลี่ยนเป็น

ก๊าซออกซิเจนออกมาให้สิ่งมีชีวิตใช้หายใจ นอกเหนือจากความสวยงามร่มรื่นแล้ว ยังสร้างสามารถปลูกเพ่ือ

ประโยชนก์ ารฟอกอากาศได้ดยี ิ่งขึ้น เป็นการปอ้ งกนั การเจบ็ ปว่ ยจากโรคภูมิแพ้/ระบบทางเดินหายใจ และเพื่อ

สุขภาพที่ดีของคนในบา้ น

1.2 วตั ถปุ ระสงค์การทดลอง

1.2.1 เพอ่ื ศกึ ษาความสามารถในการลดปรมิ านฝุ่น PM 2.5 ของพืชท้งั 6 ชนิด
1.2.2 เพื่อเปรยี บเทียบความสามารถในการลดปรมิ าณฝุ่น PM 2.5 ของพืชทงั้ 6 ชนิด
1.3 สมมุตฐิ านการทดลอง
พืชทั้ง 6 ชนิดสามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ท่ีมใี นอากาศได้
1.4 ตวั แปรการทดลอง
ตัวแปรตน้ : พชื ไมป้ ระดับ 6 ชนดิ
ตวั แปรตาม : ปริมานฝนุ่ PM 2.5ท่ลี ดลง
ตัวแปรควบคุม : - ตำแหนง่ ทีว่ างกล่องต้นไม้

- ปริมาณนำ้ , ดนิ , ปุย๋
- อายุของตน้ ไม้
1.5 ขอบเขตการทดลอง
1.5.1 ศกึ ษาและเปรยี บเทยี บความสามารถในการลดปรมิ าณฝุ่น PM 2.5 ในส่ิงแวดล้อมปดิ ของพชื ที่
เป็นไมป้ ระดบั จำนวน 6 ชนดิ เปน็ เวลา 24 ชั่วโมง ได้แก่
(1) ตน้ พลูด่าง
(2) ต้นวา่ นหางจระเข้
(3) ตน้ กวกั เงินกวกั ทอง
(4) ต้นเปบเปอรด์ ่าง
(5) ต้นเศรษฐเี รอื นใน
(6) ตน้ ล้นิ มงั กร
1.6 นยิ ามศพั ทห์ รอื นยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร
1.6.1 PM 2.5 หมายถงึ ฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก เส้นผา่ นศูนย์กลางไมเ่ กิน 2.5 ไมโครเมตร
1.6.2 ระบบปิด หมายถงึ ระบบทีไ่ ม่มกี ารแลกเปล่ียนสารระหว่างภายในและภายนอกระบบ

1.6.3 ไมป้ ระดับ หมายถึง พืชทปี่ ลกู ไว้เพ่อื ความสวยงามทม่ี ากขึน้ ใช้ประดับตกแตง่ อาคาร
บา้ นเรือน
1.7 ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะไดร้ บั

1.7.1 ไดท้ ราบความสามารถในการลดปริมานฝุ่น PM 2.5 ของไม้ประดบั ทงั้ 6 ชนิด
1.7.2 สามารถนำคุณสมบัตใิ นการลดปรมิ าณฝุ่น PM 2.5 ของพชื แต่ละชนดิ ไปเลือกปลูกพืชในบ้าน
เพือ่ ลดมลพิษทางอากาศได้
1.7.3 เป็นการลดมลพิษในการอากาศท่กี ่อให้เกดิ ผลกระทบตอ่ สุขภาพและเพอื่ สุขภาพท่ีดีของคน
ในบ้าน

บทที่ 2
เอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
โครงงานศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ของไม้ประดับ ผู้จัดทำ
โครงงานได้ค้นคว้าทฤษฎี งานวิจัย และหลักการที่เกี่ยวข้องจากเอกสารบทความวิทยาศาสตร์ทั้งในและ
ต่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ช่วยสนับสนุนและเป็นแนวทางในการจัดทำโครงงาน ผู้พัฒนาโครงงานขอเสนอ
รายงานการศึกษาคน้ คว้า โดยจดั เปน็ หัวขอ้ ตามลำดบั ดงั น้ี

2.1 ความหมายและผลกระทบต่อสุขภาพของ PM 2.5
PM2.5 ตามคำจำกัดความของ US.EPA หมายถึง ฝุ่นละเอียด (Fine Particle) เป็นอนุภาคที่มี เส้น

ผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ฝุ่นละเอียดมีแหล่งกำเนิดจากควันเสียของรถยนต์ โรงไฟฟ้า โรงงาน
อุตสาหกรรม ควันที่เกิดจากหุงต้มอาหารโดยใช้ฟืน นอกจากนี้ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2 ) ออกไซต์ของ
ไนโตรเจน (NOX )และสารอินทรีย์ระเหยง่าย(VOCs)จะทำปฏิกิริยากับสารอื่นในอากาศทำให้เกิดเป็นฝุ่น
ละเอยี ดได้

ฝุ่นละอองขนาดเล็กจะมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เมื่อหายใจเข้าไปในปอดจะเข้าไปอยู่ใน
ระบบทางเดินหายใจ โดยฝุ่น PM2.5 ในบรรยากาศจะมีความสัมพันธ์กับอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยที่เป็น
โรคหัวใจและโรคปอดเพิ่มขึ้น เกิดอาการของโรคทางเดินหายใจ ลดประสิทธิภาพการทำงานของปอด และ
เกี่ยวโยงกับการเสียชวี ติ ก่อนวันอันควร โดยเฉพาะผูป้ ว่ ยสูงอายผุ ู้ปว่ ยโรคหวั ใจ โรคหอบหืด และเด็กจะมีอัตรา
เสีย่ งสงู กว่า คนปกติ (กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, 2558)
2.2 ค่ามาตรฐานฝ่นุ ละอองขนาดเลก็

องค์การอนามยั โลก (WHO air quality guideline)จดั ทำเกณฑ์แนะนำคุณภาพอากาศ เรอ่ื งของฝุ่น
ขนาดเลก็ 10 ไมครอน(PM10) และเลก็ มาก 2.5 ไมครอน(PM2.5) ซงึ่ เป็นอนภุ าคขนาดเล็ก สามารถลอยไกล
ข้ามประเทศได้ เชน่ กรณีไฟป่าจากอินโดนเี ซยี ท่สี ง่ ผลต่อคุณภาพอากาศของมาเลเซยี สิงคโปร์และไทย
นอกจากนี้ การศึกษาผลกระทบต่อสขุ ภาพขององค์การอนามยั โลก ยังพบวา่ มีความเสย่ี งและอาจเป็นสาเหตุ
ของโรคตา่ งๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับทางเดินหายใจ หลอดเลือดและรวมท้งั มะเร็ง

องค์การอนามัยโลก จึงได้ศึกษาระดับความเข้มข้นของฝุ่นละอองทป่ี ลอดภัย จนไดข้ ้อสรุปออกมาเปน็
แนวทางการกำหนดมาตรฐานเพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ในปี 2005 เพ่ือเปน็ แนวทางในการกำหนดมาตรฐาน
คุณภาพอากาศ ซึ่งนอกจากเกณฑ์มาตรฐานทีก่ ำหนดใหน้ แ้ี ลว้ องค์การอนามยั โลกยงั เสนอ Interim target
(เป้าหมายเฉพาะกาล) เปน็ ลำดบั ขั้น เพื่อให้แตล่ ะประเทศ ที่ยงั ไม่สามารถบรรลุเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้ ได้ใชต้ ิดตาม
พฒั นาการควบคุมคุณภาพอากาศใหด้ ยี ่ิงขึ้นอยา่ งต่อเนือ่ ง เพอื่ ประโยชนต์ อ่ ความปลอดภัยดา้ นสขุ ภาพของ
ประชาชน

มาตรฐานเกณฑ์แนะนำ PM 2.5 ในบรรยากาศจริง เฉลยี่ 24 ชว่ั โมง ไม่เกิน 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์
เมตร(1 ไมโครกรัม = 1 สว่ นในลา้ นส่วน) และเฉลีย่ 1 ปี ไม่เกนิ 10 ไมโครกรมั /ลูกบาศก์เมตร เปน็ มาตรฐานท่ี
เทคโนโลยกี ารผลิตไฟฟา้ ปจั จุบนั สามารถควบคุมมลภาวะจากโรงไฟฟ้า ไดท้ ้ังในยโุ รป อเมริกา และญ่ปี ุ่น
เชน่ เดยี วกบั โรงไฟฟา้ ของ กฟผ. ซงึ่ ใชเ้ ทคโนโลยีทันสมยั ในระดบั สากล และใช้เกณฑ์แนะนำองค์อนามยั โลก
เป็นแนวทางในการออกแบบโรงไฟฟ้า ซึ่งมรี ายงาน EHIA ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
กระบแ่ี ละเทพา (Balance Energy, 2562)
2.3 ปริมาณ PM 2.5 ทม่ี ากเกนิ ค่ามาตรฐานในจงั หวดั สุรินทร์

วันท่ี 7 ก.พ.62 ข้อมูลฝุ่นควนั PM2.5 จาก Airvisual และกรมควบคุมมลพิษ (ขอนแก่น) พบวา่ คา่

ฝนุ่ ควนั PM2.5 พงุ่ สงู ข้นึ ทุกจังหวดั ในพ้นื ท่ี เชน่ ขอนแกน่ นครราชสมี า สรุ นิ ทร์ อุบลราชธานี สกลนคร เปน็

ต้น โดยเฉพาะสถานี ควบคุมมลพษิ จงั หวัดขอนแก่น ทม่ี ีค่าเฉลีย่ PM2.5 สูงเกนิ กวา่ เกณฑ์มาตราฐาน (91
ug/m3)

สาเหตุ จากการตรวจสอบแผนท่ีอากาศที่ระดับความสูง 600 เมตร พบวา่ พนื้ ท่ภี าคอสี านจะได้รับ
อิทธิพลลมจากทศิ ใตพ้ ัดเข้าสู่พ้ืนทีซ่ ง่ึ จะพัดผา่ นแหล่งกำเนิดฝุ่นควันจำนวนมากในประเทศกัมพชู า และยัง
ได้รบั อิทธพิ ลลมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดผา่ นแหลง่ กำเนิดจากการเผาทโี่ ล่งจากภาคเหนือและภาค
ตะวนั ออกเฉยี งเหนือบางส่วน (ฝ่งั ตะวันตก)ของไทย ตลอดจนเปน็ ช่วงเผาเศษเหลือทางการเกษตร เช่น อ้อย
ตอซังข้าว ของภาคอีสานเอง เม่อื พิจารณาจากจำนวนจุดเผาไหม้ และ ทศิ ทางลม สอดคล้องวา่ เป็นผลทำใหค้ ่า
ฝ่นุ ในภาคอีสานพุ่งนส้ี ูงขน้ึ ท้ังน้ีสถานการณ์ขึ้นอยู่กับ จำนวนจุดเผาไหม้ท้งั ภายในและภายนอกประเทศ สภาพ
อุตุนยิ ม สภาพทิศทางลม โดยเฉพาะทศิ ทางลมท่ีมีการเปลยี่ นแปลงอย่ตู ลอดเวลา โดยพบว่าจังหวัดสุรนิ ทร์มี
ปริมาณฝุ่น PM 2.5 111 ไมโครกรัมต่อลกู บาศก์เมตร ซึ่งอย่ใู นระดบั “มผี ลกระทบตอ่ สุขภาพ”

ภาพท่ี 1 ปริมาณฝ่นุ PM 2.5 ในจังหวัดสรุ นิ ทร์ ภาพที่ 2 ปริมาณฝนุ่ PM 2.5 ในภาคอีสาน
ทม่ี า : https://surin108.com ที่มา : https://surin108.com

ภาพท่ี 3 ภาพถ่ายฝุ่นควนั ถ่ายจากตกึ 100 ปีโรงพยาบาลสุรินทร์ โดย จา่ เอ็ม ธรรมวเิ ศษ เมอื่ เชา้

วันท่ี 6 ก.พ. 2562 ทม่ี า : https://surin108.com

2.4 ต้นไมด้ ดู สารพิษ
การทดลองใช้ต้นไม้พันธุ์ต่าง ๆ มาทำการทดลองเพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์โดยได้พัฒนาเทคโนโลยีนี้

มากกว่า 20 ปีเพื่อที่จะหาวิธีปรับปรุงสภาวะแวดล้อมในระบบปิดของยานอวกาศ และ skylab III
mission แห่งนาซ่าได้ทำการศึกษาพบว่ามีการปล่อยจำพวกสารประกอบอินทรีย์ระเหยได้(Volatile organic
chemicals : VOCs) ปลดปล่อยออกมาซ่ึงเป็นก๊าซพิษจงึ สร้างแบบจำลองท่ีมชี ่ือว่า ไบโอโฮม (Biohom) โดย
จัดทำเป็นอาคารรูปโดม ปลูกต้นไม้หลากหลายพันธุ์แล้วสำรวจว่าต้นไม้ชนิดใดมีคุณสมบัติในการดูดสารพิษ
อย่างไร การวิจัยบุกเบิกนี้ทำให้พบว่าการปลูกต้นไม้จำพวกที่ปลูกในอาคาร ซึ่งมีคุณสมบัติต้องการแสงน้อย
เป็นวิธีที่นับได้ว่ารวดเร็วที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดในการลดมวลสารอันตรายอย่าง เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ ,
เบนซิน , ไซลีน และแอมโมเนียที่อยู่ในอากาศซึ่งน่าจะมีส่วนทำให้เกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย เช่น โรคหอบ และ
กลุ่มอาการของโรคภูมิแพ้ต่างๆจากนั้นได้ทำการทดลองปลูกต้นไม้จำพวกที่ปลูกในอาคารนีไ้ ว้ในห้องซึ่งถูกปดิ
ตาย แล้วก็ปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายตา่ งๆ เข้าไปในห้องปิด จึงพบว่าต้นไม้เหล่านั้นสามารถดูดเอาสารเคมี
ออกจากอากาศได้ (Dr.B.C.Wolverton, 1989)
2.5 การดูดสารพิษของไม้ประดบั

กระบวนการคายน้ำทางปากใบของไมป้ ระดับจะสงู กว่าต้นไม้อื่น ซึ่งการคายน้ำจะทำให้อณุ หภูมิ ของ
ผิวใบไม้แตกต่างจากอากาศภายนอก ทำให้เกิดการไหลเวียนของอากาศรอบใบและต้น อากาศ ปนเปื้อน
สารพิษจะเกิดการเคลื่อนตัวลงสู่บริเวณรากพืช ซึ่งไม้ประดับดูดสารพิษจะมีความสามารถ ดึงดูดจุลินทรีย์ไว้
บริเวณรอบราก จุลินทรยี เ์ หลา่ น้จี ะย่อยสลายสารพิษไปเปน็ อาหาร

ในขณะที่ต้นไม้ดูดน้ำจากรากขึ้นไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืชอย่างรวดเร็ว อากาศซึ่งมีก๊าซออกซิเจน
ไนโตรเจน และสารพิษรวมอยู่ด้วยถูกดึงไปสู่ดินรอบ ๆ ราก จุลินทรีย์จะเปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนเป็น ไนเตรท
และเปลี่ยนสารพิษกลายเปน็ อาหารของพืช

ต้นไม้จะดูดซึมอากาศที่ปนเปื้อนสารพิษเข้าทางปากใบ ส่งไปที่ราก ส่งออกจากรากสู่ดิน สุดท้าย
จุลนิ ทรีย์รอบ ๆ รากจะยอ่ ยสลายสารพิษน้ัน

ไมป้ ระดบั คายนำ้ ทางปากใบสูงกวา่ ต้นไม้อน่ื ดงึ ดูดจลุ ินทรยี ม์ าอยรู่ อบรากได้มากและดูดซึม อากาศที่
ปนเปื้อนสารพิษเข้าทางปากใบได้จึงสรุปได้ว่า ข้อความดังกล่าวข้างต้น คือ เหตุผลที่ไม้ประดับ สามารถดูด
สารพิษได้ (กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข, 2552)

ไมป้ ระดับสว่ นใหญ่มตี ้นกำเนิดและเตบิ โตภายใต้ตน้ ไมใ้ หญ่ในป่าเขตร้อนชืน้ และมวี ิวฒั นาการมาเป็น
หลายลา้ นปี ไม้ประดบั เหล่าน้ี มันเจรญิ เตบิ โตภายใตแ้ สงน้อย อากาศอบอ่นุ และสภาพแวดลอ้ มทีม่ ีความชมุ่
ชื้น และยังมคี วามสามารถในการดึงดูดจลุ นิ ทรีย์มาอยู่รอบ ๆ รากทส่ี ามารถยอ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ์ท่ซี บั ซ้อนได้
ใบของไมป้ ระดบั สามารถดดู ซับสารอนิ ทรยี ท์ ีเ่ ป็นแก๊สและถ่ายโอนไปยังรากเพื่อใช้เปน็ สารอาหารสำหรับ
จุลินทรยี ์ ซ่ึงอตั ราการคายนำ้ ที่ปากใบของไมป้ ระดับสูงกว่าตน้ ไม้ชนดิ อน่ื จะสรา้ งกระแสความร้อนทำใหเ้ กดิ
การไหลเวยี นของอากาศ ในขณะทน่ี ้ำไหลจากรากขึ้นไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของพืชอยา่ งรวดเรว็ อากาศจะถูกดงึ ลง
ไปสูด่ นิ รอบ ๆ ราก ซง่ึ เปน็ วธิ ีการที่พืชส่งออกซเิ จนและไนโตรเจนในอากาศท่ีมีสารพิษรวมอย่ดู ว้ ยไปยัง
จุลนิ ทรยี ท์ ่ีราก กา๊ ซไนโตรเจนถูกเปลี่ยนโดยจุลนิ ทรียเ์ ปน็ ไนเตรทและเปลี่ยนสารพิษกลายเป็นอาหารของพืช
ตน้ ไมจ้ ะดูดซมึ อากาศที่ปนเป้ือนสารพิษเขา้ ทางปากใบ ซ่ึงเป็นอาหารของพชื สุดทา้ ยจลุ ินทรียร์ อบ ๆ รากจะ
ยอ่ ยสลายสารพิษนัน้ ไม้ประดับคายน้ำทางปากใบสงู กว่าต้นไม้อืน่ ดึงดูดจลุ ินทรยี ์มาอยู่รอบรากไดม้ ากและดดู
ซมึ อากาศท่ปี นเปอื้ นสารพิษเข้าทางปากใบได้

รปู ที่ 4 แผนภาพดดู ซึมสารพิษของไม้ประดบั
ท่ีมา : อยู่อย่างไรใตภ้ าวะมลพษิ ตอน ไม้ประดบั ดูดสารพิษ โดย กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข

บทท่ี 3
วสั ดอุ ปุ กรณ์และวธิ ดี ำเนนิ การทดลอง

โครงงานศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ของไม้ประดับ ผู้จัดทำ
โครงงานได้วางแผนการทดลอง วิธีการดำเนินการทดลอง วิธีจัดเกบ็ ข้อมูลและนำผลการทดลองมาวิเคราะห์
ขอ้ มลู ตามหัวขอ้ ต่อไปน้ี
3.1 การสำรวจปญั หา ระบปุ ัญหา และต้งั สมมติฐาน

สภาพปัญหา จากรายงานสถานการณ์มลพิษสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย พบว่าปัญหามลพิษทาง
อากาศเป็นปัญหาหลักที่สำคัญ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละอองในบริเวณที่มีการจราจรคับคั่ง หรือในเขต
อุตสาหกรรมต่าง ๆ แม้แต่จังหวัดสุรินทร์ก็เป็นพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ท่ี
มากเกินมาตรฐาน ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ท้ังนี้ฝุ่นละอองขนาด
เล็กในบรรยากาศ เป็นประเดน็ ที่หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทั้งองค์การอนามยั โลก องค์การนานาชาติ และประเทศไทย
ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญเนื่องจาก มี
หลักฐานทางวิชาการสนับสนุนชัดเจนว่าฝุ่นละอองขนาดเลก็ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ท้ัง
โรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอดติดเชื้อ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง และ
สุขภาพ อนามยั แมแ่ ละเด็ก เราจึงใชพ้ ืชมาศึกษาการลดปรมิ าณฝ่นุ ละอองขนาดเลก็ PM 2.5

ระบุปัญหา ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีปริมาณมากสูงเกินค่ามาตรฐาน จากการจราจรที่คับคั่ง
และจากโรงงานอตุ สาหกรรมต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อสขุ ภาพ

ตงั้ สมมตุ ฐิ าน พชื ไมป้ ระดับท้ัง 6 ชนดิ สามารถลดปริมาณฝ่นุ PM 2.5 ท่ีมีในอากาศได้
3.2 ระยะเวลาการดำเนนิ งาน

เดอื นกรกฎาคม 2562
3.3 สถานทีด่ ำเนินงาน

3.3.1 ห้องปฏิบัตกิ ารทางวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นศรรี ามประชาสรรค์
3.3.2 อาคารเพาะชำ โรงเรียนศรีรามประชาสรรค์
3.3.3 อาคารเรยี น โรงเรยี นศรรี ามประชาสรรค์
3.3.4 โรงชา่ ง โรงเรยี นศรรี ามประชาสรรค์
3.4 วสั ดุและอุปกรณ์
3.4.1 พืชทใ่ี ช้ในการทดลอง

1) ตน้ ลิน้ มงั กร
2) ต้นพลูดา่ ง
3) ตน้ กวกั เงินกวักทอง
4) ต้นเปปเปอร์ดา่ ง

5) ต้นเศรษฐเี รือนใน

6) ตน้ ว่านหางจระเข้

3.4.2 อปุ กรณ์และสารเคมที ใ่ี ชใ้ นการทดลอง
1) เคร่ืองวดั PM 2.5
2) กระถางพลาสตกิ สีดำขนาด 5 น้ิว
3) ดินปลกู
4) กากมะพรา้ ว
5) กล่องใสขนาด กวา้ ง 26 cm ยาว 50 cm สงู 32 cm
6) นำ้ ประปา

3.5 แผนภาพการทดลอง

การปลูกตน้ ไมเ้ พอ่ื ใชใ้ นการทดลอง

ต้นล้ินมงั กร ตน้ พลดู ่าง ตน้ กวกั เงนิ กวกั ตน้ เปปเปอรด์ ่าง ตน้ เศรษฐีเรอื น ต้นว่านหางจระเข้
ทอง ใน

ปลูกในกระถางพลาสติกสดี ำขนาด 5 นว้ิ

ใสก่ ากมะพร้าว ดิน ป๋ยุ ในปรมิ าณเท่ากัน

รดนำ้ วันละ 50 มลิ ลลิ ิตร วนั ละ 1 คร้งั เวลา 6.00 น.
วางไวบ้ รเิ วณท่ีแสงแดดสอ่ งถงึ
ตรวจสอบภาชนะบรรจุ

นำกล่องใสขนาดกวา้ ง 26 cm ยาว 50 cm สูง 32 cm ไปวางไวใ้ กล้ ๆ ทอ่ ไอเสยี รถยนต์
ทก่ี ำลงั ติดเครอื่ งอยู่ ใหม้ ปี รมิ าณฝนุ่ PM 2.5 130 ± 10 ไมโครกรมั ต่อลกู บาศก์เมตร

ทำการวดั ค่าฝนุ่ PM 2.5 แลว้ บนั ทกึ ผล ทุก ๆ 6 ช่วั โมงเปน็ เวลา 24 ชั่วโมง
การทดลอง

ต้นลิน้ มังกร ตน้ พลูด่าง ตน้ กวกั เงินกวกั ตน้ เปปเปอรด์ ่าง ตน้ เศรษฐเี รอื น ต้นวา่ นหางจระเข้
ทอง ใน

นำต้นไม้วางลงในกลอ่ งใสปดิ ฝาใหส้ นทิ เพ่อื ใหเ้ ป็นสิ่งแวดลอ้ มปิด

นำกล่องไปวางไวใ้ กล้ ๆ ท่อไอเสียรถยนต์ที่กำลงั ตดิ เคร่อื งอยู่ ใหม้ ปี รมิ าณฝุน่ PM 2.5
ที่ระดับ 130 ±10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปิดฝาให้สนิท เพื่อให้เป็นสิ่งแวดล้อม
ปดิ

ทำการวดั คา่ ฝ่นุ PM 2.5 แลว้ บนั ทึกผล ทกุ ๆ 6 ช่ัวโมงเป็น เวลา 24 ช่ัวโมง

3.6 ขนั้ ตอนการทดลอง
3.6.1 ขน้ั การปลูกต้นไมเ้ พือ่ ใชใ้ นการทดลอง
นำต้นไม้ที่เลือกมาทั้งหมด 6 ชนิด ได้แก่ ต้นลิ้นมังกร ต้นพลูด่าง ต้นกวักเงิน ต้นเปปเปอร์ด่าง ต้น

เศรษฐเี รอื นใน และ ตน้ ว่านหางจระเข้ ที่มีขนาดตน้ และอายุไลเ่ ลี่ยกนั มาปลกู ในกระถางพลาสติกสีดำขนาด 5
น้ิว โดยใส่กากมะพร้าว ดิน ปุย๋ ในปรมิ าณเท่ากนั รดน้ำวันละ 50 มลิ ลิลิตรเท่ากนั วันละ 1 คร้งั เวลา 6.00 น.
และวางไว้บรเิ วณเดยี วกัน

3.6.2 วธิ ีการทดลอง
3.6.2.1 ตรวจสอบภาชนะบรรจุ
1) เตรียมกล่องใสขนาดกว้าง 26 cm ยาว 50 cm สูง 32 cm นำกล่องไปวางไว้ใกล้ ๆ ท่อไอเสีย
รถยนต์ที่กำลังติดเครื่องอยู่ รอจนกระทั่ง ให้มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่ระดับ 130 ± 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์
เมตร
(2) ปดิ ฝากลอ่ งใส แลว้ ใช้เทปใสพดั รอบกลอ่ ง เพ่อื ทำให้กลอ่ งอยู่ในระบบปิด
(3) นำกล่องใสไปวางในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงปริมาณหนึ่ง ทำการวัดค่าฝุ่น PM 2.5 แล้วบันทึก
ผล ทุก ๆ 6 ชว่ั โมงเป็น เวลา 24 ชว่ั โมง
3.6.2.2 การทดลอง
1) เตรียมกลอ่ งใสขนาดกว้าง 26 cm ยาว 50 cm สูง 32 cm (กล่องเดิม) นำตน้ ไม้ตน้ ท่ี 1 วางลงใน
กล่องใสพรอ้ มเตรยี มฝาปดิ มิดชดิ เพื่อใหเ้ ป็นส่งิ แวดล้อมปดิ
2) นำกล่องไปวางไว้ใกล้ ๆ ท่อไอเสียรถยนต์ที่กำลังติดเครื่องอยู่ รอจนกระทั่ง ให้มีปริมาณฝุ่น PM
2.5 ทรี่ ะดับ 130 ± 10 ไมโครกรัมต่อลกู บาศก์เมตร
3) ปดิ ฝากลอ่ งใส แลว้ ใชเ้ ทปใสพัดรอบกล่อง เพือ่ ทำให้กลอ่ งอยใู่ นระบบปิด
4) นำกล่องใสไปวางในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงปริมาณหนึ่ง ทำการวัดค่าฝุ่น PM 2.5 แล้วบันทึก
ผล ทกุ ๆ 6 ช่วั โมงเป็น เวลา 24 ช่วั โมง
5) ทำการทดลองซ้ำข้อ 1-4 โดยเปลี่ยนเป็นต้นลิ้นมังกร ต้นพลูด่าง ต้นกวักเงิน ต้นเปเปอร์หยก ต้น
เศรษฐเี รือนใน และ ตน้ ว่านหางจระเข้ ลงในกล่องใสตามลำดบั
3.7 การบนั ทกึ ข้อมลู และวเิ คราะห์ขอ้ มลู
3.7.1 การบนั ทกึ ข้อมลู
1) บนั ทึกปรมิ าณฝ่นุ PM 2.5 ของไม้ประดับแตล่ ะตน้ ทกุ ๆ 6 ชั่วโมงเปน็ เวลา 24 ช่วั โมง
3.7.2 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู
(1) วเิ คราะหป์ รมิ าณ ฝุน่ PM 2.5 ของแต่ละต้นที่ลดลง นำข้อมลู มาจดั กระทำเป็นสารสนเทศ

บทท่ี 4
ผลการทดลอง

โครงงานศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ของไม้ประดับ ผู้จัดทำ
โครงงานได้สำรวจสภาพปัญหา วางแผนทำการทดลอง ทำการทดลอง นำผลการทดลองมาวิเคราะห์ข้อมูล
ทางสถิตแิ ละขอเสนอผลการทดลองตามหวั ข้อต่อไปนี้

ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง

คา่ PM 2.5 ณ เวลาตา่ ง ๆ (µg./m3) ผลตา่ ง
ของคา่
วนั ท่ีทดลอง พืชทที่ ดลอง เริ่ม 18.00 น. 24.00 น. 06.00 น. หยดุ PM 2.5
12.00 น. 12.00 น.
6
8 ก.ค. 2562 กลอ่ งเปลา่ 137 133 136 132 131 56
72 60
10 ก.ค. 2562 ตน้ ลิน้ มังกร 128 108 97 86 80 39
94 36
11 ก.ค. 2562 ต้นพลดู ่าง 140 124 111 98 90 73
62 54
13 ก.ค. 2562 ตน้ กวักเงินกวักทอง 133 129 125 114 74

16 ก.ค. 2562 ต้นเปปเปอร์ดา่ ง 126 118 113 102

17 ก.ค. 2562 ตน้ เศรษฐีเรือนใน 135 113 102 81

19 ก.ค. 2562 ตน้ วา่ นหางจระเข้ 128 110 102 91

ตารางท่ี 1 ตารางแสดงการบันทึกผลการทดลอง

จากตารางบนั ทึกผลการทดลองพบว่า

กล่องเปลา่ เริม่ ตน้ มีปรมิ าณ PM 2.5 หนาแนน่ 173 ไมโครกรมั ต่อลูกบาศก์เมตร เม่ือครบ 24 ชั่วโมง
มีปรมิ าณ PM 2.5 หนาแนน่ 131 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลง 6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ต้นลิน้ มงั กรเรม่ิ ตน้ มปี รมิ าณ PM 2.5 หนาแนน่ 128 ไมโครกรมั ตอ่ ลูกบาศกเ์ มตร เม่ือครบ 24 ชั่วโมง
มีปรมิ าณ PM 2.5 หนาแน่น 72 ไมโครกรัมตอ่ ลูกบาศก์เมตร ลดลง 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ตน้ พลูด่างเรม่ิ ต้นมปี รมิ าณ PM 2.5 หนาแน่น 140 ไมโครกรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร เมื่อครบ 24 ชัว่ โมง
มปี รมิ าณ PM 2.5 หนาแนน่ 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศกเ์ มตร ลดลง 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ตน้ กวักเงนิ กวักทองเรมิ่ ตน้ มปี รมิ าณ PM 2.5 หนาแนน่ 133 ไมโครกรัมตอ่ ลูกบาศกเ์ มตร เม่อื ครบ 24
ชว่ั โมง มปี รมิ าณ PM 2.5 หนาแนน่ 94 ไมโครกรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร ลดลง 39 ไมโครกรัมต่อลกู บาศกเ์ มตร

ต้นเปปเปอรด์ า่ งเร่มิ ต้นมปี ริมาณ PM 2.5 หนาแนน่ 126 ไมโครกรมั ต่อลูกบาศก์เมตร เม่ือครบ 24
ชั่วโมง มปี รมิ าณ PM 2.5 หนาแนน่ 90 ไมโครกรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร ลดลง 36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศกเ์ มตร

ต้นเศรษฐเี รอื นในเรมิ่ ต้นมีปริมาณ PM 2.5 หนาแนน่ 135 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมือ่ ครบ 24่คา PM 2.5 (µg./m3)
ช่วั โมง มีปรมิ าณ PM 2.5 หนาแน่น 62 ไมโครกรมั ต่อลูกบาศก์เมตร ลดลง 73 ไมโครกรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร

ตน้ ว่านหางจระเข้เร่ิมต้นมปี ริมาณ PM 2.5 หนาแน่น 128 ไมโครกรัมตอ่ ลูกบาศกเ์ มตร เม่อื ครบ 24
ช่ัวโมง มปี รมิ าณ PM 2.5 หนาแน่น 74 ไมโครกรัมต่อลกู บาศกเ์ มตร ลดลง 5 ไมโครกรัมตอ่ ลกู บาศก์เมตร

แผนภมู แิ สดงปรมิ าณการลดลงของ PM 2.5 จากไมป้ ระดบั ชนดิ ตา่ ง ๆ

150
กลอ่ งเปลา่

130 ตน้ ลนิ้ มังกร
110 ตน้ พลูดา่ ง

ตน้ กวักเงิน
90 ต้นเปเปอร์หยก

ตน้ เศรษฐเี รือนใน
70 ต้นวา่ นหางจระเข้

50
12.00 น. 18.00 น. 24.00 น. 06.00 น. 12.00 น.
เวลา

แผนภูมแิ สดงการเปล่ียนแปลงของปริมาณฝนุ่ PM 2.5 เม่อื ทำการทดลองเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ตารางร้อยละการลดลงของฝนุ่ PM 2.5

พชื ทท่ี ดลอง ปริมาณฝนุ่ PM 2.5 (µg./m3) รอ้ ยละ PM 2.5
เริม่ ตน้ หยดุ ผลตา่ ง ทลี่ ดลง
43.75
ต้นลน้ิ มงั กร 128 72 56 42.86
29.32
ต้นพลูด่าง 140 80 60 28.57
54.07
ตน้ กวกั เงินกวักทอง 133 94 39 42.19

ต้นเปปเปอร์ด่าง 126 90 36

ต้นเศรษฐเี รือนใน 135 62 73

ตน้ ว่านหางจระเข้ 128 74 54

ตารางที่ 2 ตารางแสดง รอ้ ยละการลดลงของฝุน่ PM 2.5

จากตารางแสดงร้อยละการลดลงของฝนุ่ PM 2.5 พบว่า

ตน้ ลน้ิ มงั กรสามารถลดปริมาณฝ่นุ PM 2.5 ลงได้รอ้ ยละ 43.75 ต้นพลดู า่ งสามารถลดปรมิ าณฝนุ่ PM
2.5 ลงไดร้ อ้ ยละ 42.86 ต้นกวักเงินกวักทองสามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ลงไดร้ ้อยละ 29.32 ต้นเปปเปอร์
ดา่ งสามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ลงไดร้ อ้ ยละ 28.57 ต้นเศรษฐเี รอื นในสามารถลดปรมิ าณฝุ่น PM 2.5 ลง
ได้รอ้ ยละ 54.07 ตน้ ว่านหางจระเข้สามารถลดปริมาณฝุน่ PM 2.5 ลงไดร้ ้อยละ 42.19

ร้อยละ PM 2.5 ที่ลดลง

60.00 54.07

43.75 42.86 42.19

40.00 29.32 28.57

20.00

0.00

แผนภมู ิ แสดงร้อยละการลดลงของฝุ่น PM 2.5 ของไม้ประดบั ชนิดตา่ ง ๆ

บทที่ 5
อภปิ รายผลการทดลอง

โครงงานศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ของไม้ประดับ ผู้จัดทำ
โครงงานขอนำเสนอสรปุ ผลการทดลองและอภปิ รายผลการทดลองตามหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้

5.1 สรปุ ผลการทดลอง
การศกึ ษาความสามารถในการลดปริมาณ PM 2.5 ของพชื ไม้ประดบั ทง้ั 6 ชนดิ โดยการนำกล่องใสไป

วางไว้บริเวณที่มี PM 2.5 หนาแน่น นำพืชไม้ประดับใส่ลงไป แล้วปิดฝาให้มิดชิด เพื่อให้เป็นสิ่งแวดล้อมปิด
เป็นเวลา 24 ชว่ั โมง แลว้ ทำการวัดคา่ PM 2.5 ทุก ๆ 6 ชัว่ โมงนน้ั พบวา่ พชื ไมป้ ระดบั ทนี่ ำมาทดลองทำให้ค่า
PM 2.5 ลดลง ซึ่งความสามารถในการลดปริมาณ PM 2.5 ของพืชไม้ประดับท่ีสามารถลดปริมาณ PM 2.5 ได้
ดีที่สุด ได้แก่ ต้นเศรษฐีเรือนใน รองลงมาคือ ต้นพลูด่าง ต้นว่านหางจระเข้ ต้นลิ้นมังกร ต้นเปปเปอร์หยก
และต้นกวักเงินกวักทอง ตามลำดับ ซึ่งพืชไม้ประดับที่มคี วามสามารถในการลดปริมาณ PM 2.5 ได้มากที่สุด
คือตน้ ต้นเศรษฐีเรอื นใน สามารถลดปรมิ าณ PM 2.5 ในอากาศไดถ้ ึงรอ้ ยละ 54.07

5.2 อภปิ รายผลการทดลอง
การศกึ ษาความสามารถในการลดปริมาณ PM 2.5 ของพืชไมป้ ระดับท้งั 6 ชนดิ พบวา่ พืชไม้ประดบั

ท่ีนำมาทดลองทำให้คา่ PM 2.5 ลดลง ซ่ึงความสามารถในการลดปริมาณ PM 2.5 ของพืชไมป้ ระดบั ท่ี ไดด้ ี
ทส่ี ดุ ได้แก่ ตน้ เศรษฐเี รือนใน ซงึ่ เปน็ ไมป้ ระดบั ที่มปี ระสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษท่ีพบไดง้ า่ ย ซึ่งหากนำ
เศรษฐเี รือนในมาปลกู ไว้ในห้อง ก็จะชว่ ยกำจดั สารพิษไปจากอากาศเท่ากับเปน็ เครอ่ื งฟอกอากาศได้อย่างดี
นอกจากน้ีตน้ ไม้ยังช่วยปรบั ปรุงคุณภาพอากาศใหด้ ีขึ้นละรักษาระดับบรรยากาศในห้องให้สมำ่ เสมอ โดยจะ
ช่วยรักษาประจุไฟฟ้าลบในอากาศ ชว่ ยกำจัดกลิ่น นอกจากนี้กระบวนการคายน้ำของพชื ยงั ชว่ ยรกั ษาความชุ่ม
ชน้ื ในอากาศ ช่วยเพม่ิ ออกซิเจนใหแ้ ก่อากาศและชว่ ยลดคาร์บอนไดออกไซดใ์ นอากาศ และยังช่วยตกแต่งบา้ น
ใหร้ ่มร่ืนสวยงาม ซึง่ สอดคลอ้ งกบั งานวิจยั ของ ดร.บี ซี วฟู เวอร์ตัน. (1989) ซ่ึงเปน็ นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานกบั
สถาบนั วจิ ยั อวกาศองค์การนาซา่ ซึง่ ได้ค้นพบความสามารถและประสทิ ธิภาพของไมป้ ระดับในการกำจัดสารพษิ
หรือมลภาวะในอากาศได้อย่างดีเยย่ี ม และไดแ้ นะนำไมป้ ระดบั ไว้ 50 ชนิด ทม่ี ีความสามารถในการดดู ไอพิษ
จากอากาศไวใ้ นหนงั สือ Eco-Friendly House Plant ซงึ่ สว่ นใหญ่เปน็ ตน้ ไม้ที่ข้ึนในเขตร้อนเป็นสว่ นใหญน่ ้ัน
ต้นเศรษฐเี รือนในดดู สารพิษไดด้ มี าก ตน้ พลดู า่ งดูดสารพิษไดด้ ี ต้นกวกั เงนิ กวกั ทองดดู สารพิษไดป้ านกลาง ต้น
วา่ งหางจระเขแ้ ละตน้ ล้นิ มงั กรดดู สารพิษได้น้อย (ดร.บี ซี วูฟเวอรต์ นั , 1989)