The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้บรรจุรายวิชาการจัดการแสดงวิพิธทัศนา (Management of Variety Shows) ไว้ในการเรียนการสอน เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษาหลักการจัดวิพิธทัศนา องค์ประกอบในการจัดการแสดง และฝึกให้นักศึกษาได้ปฏิบัติการจัดการแสดงวิพิธทัศนานำการแสดงออกเผยแพร่สู่สาธารณชน เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นให้ผู้เรียน เรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง เป็นกระบวนการสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษามีสมรรถนะที่ดีก่อนจบออกไปเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-10-26 13:27:52

วิพิธทัศนา

หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้บรรจุรายวิชาการจัดการแสดงวิพิธทัศนา (Management of Variety Shows) ไว้ในการเรียนการสอน เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษาหลักการจัดวิพิธทัศนา องค์ประกอบในการจัดการแสดง และฝึกให้นักศึกษาได้ปฏิบัติการจัดการแสดงวิพิธทัศนานำการแสดงออกเผยแพร่สู่สาธารณชน เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นให้ผู้เรียน เรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง เป็นกระบวนการสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษามีสมรรถนะที่ดีก่อนจบออกไปเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ

โดย นักศึกษาชั้นปีที่ 3
หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ณ เรือนโคราช มหาวิทยาลัยราชภัฏ
นครราชสีมา
วันศุกร์ที่ 4 พฤจิกายน 2565
ตั้งเเต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีวิสัยทัศน์ว่า “เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ
ของประเทศด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น” การจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาต่าง ๆ
จึงมุ่งเน้นให้นักศึกษาได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง ทั้งด้านวิชาการ สร้างองค์ความรู้ให้เท่า
ทันต่อสังคมที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา การฝึกฝนด้านทักษะวิชาชีพให้เป็นผู้มีความชำนาญ
ตามศาสตร์วิชาเอกของตน อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยเพื่อเป็น
ประโยชน์แก่นักศึกษาในการฝึกการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ผ่านการดูแล และควบคุม
ของคณาจารย์

หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏ
นครราชสีมา เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้บรรจุรายวิชาการจัดการแสดงวิพิธทัศนา
(Management of Variety Shows) ไว้ในการเรียนการสอน เพื่อให้นักศึกษาได้
ศึกษาหลักการจัดวิพิธทัศนา องค์ประกอบในการจัดการแสดง และฝึกให้นักศึกษาได้ปฏิบัติ
การจัดการแสดงวิพิธทัศนานำการแสดงออกเผยแพร่สู่สาธารณชน เสริมสร้างทักษะการ
เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นให้ผู้เรียน เรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง เป็นกระบวนการ
สำคัญในการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษามีสมรรถนะที่ดีก่อนจบออกไปเป็นบัณฑิตที่มี
คุณภาพ

17.00 – 17.30 น. 19.00 – 19.40 น.
- ลงทะเบียน - การประกวดนางนพมาศจำเเลง
17.30 – 18.00 น. - การแสดงรำวงย้อนยุค
- พิธีเปิด 19.40 – 20.00 น.
- ผู้ดำเนินโครงการมอบของที่ระลึกแก่อาจารย์ที่ปรึกษา
- กล่าวรายงานโดยประธานโครงการฯ - อาจารย์ที่ปรึกษา คณาจารย์ ผู้ปกครอง ผู้ดำเนิน
- ประธานในพิธีกล่าวเปิดโครงการฯ โครงการ และผู้ชม
- ประธานโครงการฯ มอบของที่ระลึกให้ประธานในพิธี ร่วมถ่ายภาพกับคณะนักแสดง
- ประธานในพิธี คณะครู และนักศึกษาถ่ายภาพร่วมกัน - ปิดโครงการ
18.00 – 18.40 น.
- การแสดงปทุมชลาลัย หมายเหตุ : อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาในการดำเนินการ
- การแสดงตำนานลอยกระทง ตามความเหมาะสม
- การแสดงระบำสุโขทัย
- การแสดงฟ้อนรัก

- การแสดงฟ้อนธาราไหลรินสานศิลป์กระทงสาย
18.40 – 19.00 น.
- พักการแสดง (เล่มเกมส์ และทายปัญหา แจกรางวัลให้แก่
ผู้ชมการแสดง)

ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม โสันนิษฐานว่า พิธีลอยกระทงเป็นพิธีของ
พราหมณ์ จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า 3 องค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้นำ
พระพุทธศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงให้มีการชักโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และลอยโคมเพื่อบูชารอย
พระบาทของพระพุทธเจ้า ก่อนที่นางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วงจะคิดค้น
ประดิษฐ์กระทงดอกบัวขึ้น

การแสดงสื่อถึงการลอยกระทงเพื่อขอขมาพระแม่คงคาและความสวยงามของกระทงที่เป็น
ดอกบัว และความสนุกสนานที่หนุ่มสาวได้ออกมาลอยกระทงกันในวันลอยกระทง

ระบำสุโขทัย เป็นระบำชุดที่ 5 จากระบำโบราณคดีของกรมศิลปากร
สร้างขึ้นจากหลักฐานอ้างอิงที่กล่าวไว้ในเอกสาร และหลักศิลา
จารึก การแต่งทำนอง กระบวนท่ารำ และเครื่องแต่งกาย
ประดิษฐ์ขึ้นให้มี ลักษณะที่อ่อนช้อยงดงาม ตามแบบอย่างของ
ศิลปะสมัยสุโขทัย
นายมนตรี ตราโมท ผู้เชี่ยวชาญดุริยางค์ไทย กรมศิลปากร

ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) ปีพุทธศักราช 2528
เป็นผู้แต่งทำนองเพลง โดยนำทำนองเพลงเก่าของสุโขทัยมาดัดแปลง

ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย
กรมศิลปากร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(นาฏศิลป์ไทย)

ปีพุทธศักราช 2528 เป็นผู้ประดิษฐ์ท่ารำ



นายสนิท ดิษฐพันธ์ ออกแบบเครื่องแต่งกาย
นางชนานันท์ ช่างเรียน สร้างเครื่องแต่งกาย
นายชิต แก้วดวงใหญ่ สร้างศิราภรณ์ และเครื่องประดับ

นางนพมาศ หรือ เรวดีนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นสตรีที่ปรากฏอยู่ใน เรื่องนางนพมาศ
หรือ เรื่องตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ที่อ้างอิงว่าถูกรจนาขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีเนื้อความว่า นางนพมาศ
บอกเล่าถึงความเป็นไปภายในรัฐสุโขทัยว่ามีความเจริญรุ่งเรืองสมบูรณ์พูนสุขนานัปการ ในรัฐมีคนต่างชาติ
ต่างภาษาและศาสนาอาศัยอยู่ร่วมกัน และเรื่องที่เด่นที่สุดคือการที่นางประดิษฐ์กระทงขึ้นมา จนนางนพมาศ
ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเพณีลอยกระทง กล่าวกันว่านางนพมาศมีรูปโฉมงดงาม ในยุคหลังเมื่อครา
เทศกาลลอยกระทงก็มีการประกวดประขันนางนพมาศสืบมา

เป็นการแสดงชุดหนึ่งในละครพันทาง เรื่องพระลอ ตอนพระลอลงสวน
พระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ที่ทรงปรับปรุงขึ้นจาก
วรรณคดีลิลิตพระลอ บทร้อง และลีลาท่ารำแสดงถึงความรักของนายแก้ว นายขวัญ
สองพระพี่เลี้ยงของพระลอ กษัตริย์แห่งแมนสรวง กับนางรื่น นางโรย พระพี่เลี้ยงของพระ
เพื่อนพระแพง พระราชธิดาของท้าวพิชัยพิษณุกรแห่งเมืองสรอง

เป็นการสร้างสรรค์ผลงานนาฏยนิพนธ์ ของนักศึกษาชั้นปีที่4
ปีการศึกษา 2556 สาขานาฏศิลป์ไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ราชภัฏเชียงใหม่

การแสดงชุด ฟ้อนธาราไหลรินสารศิลป์กระทงสาย เป็นการ
แสดงที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่ออนุรักษ์และสืบสานประเพณีการลอยกระทงไหล
ประทีบ 1,000 ดวง ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาของชาวจังหวัด
ตาก นำมาปรับปรุงเป็นการแสดงที่ผสมผสาน ระหว่างการแต่งกาย
ของชาวพม่า และชาวล้านนา มีลีลาท่ารำตามแบบนาฏศิลป์พื้นเมือง
ล้านนา แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของการลอยกระทงสาย ที่ไหลไป
ตามสายน้ำในยามค่ำคืนของวันลอยกระทง

ได้แก่ ช่วงที่ 1 เป็นการสื่อให้เห็นถึงการบูชาการลอยกระทง
ช่วงที่ 2 เป็นการสื่อให้เห็นถึงการลอยกระทงกะลาตามสายน้ำ
ช่วงที่ 3 เป็นการลอยกระทงตาม หรือ กระทงปิดท้าย

"รำวง” พัฒนามาจากรำโทนพื้นบ้าน ในช่วงแรกมักนิยมเล่นเพลงที่มีเนื้อหาปลุกใจให้รักชาติ และเนื้อหาที่
กล่าวถึงการเกี้ยวพาราสีของชยาหนุ่มหญิงสาว ประกอบจังหวะโทน /กลอง และเครื่องประกอบจังหวะ โดยใช้ลูกซัด
ฉิ่งฉับ ฯลฯ

ต่อมาได้เกิดกระแสนิยมใช้เครื่องดนตรีต่างประเทศ จึงมีการนำเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่ามาบรรเลง
เช่น แซกโซโฟน ทรัมเปต หีบเพลงชัก ฯลฯ จังหวะรำวงจึงมีความเป็นสากลมากขึ้น เช่น จังหวะสามช่า ม้าย่อง
กัวลาซ่า บีกิน เป็นต้น เพลงที่ใช้ร้องก็เป็นเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง และเพลงสากล ทำให้การรำวงในอดีตได้รับความนิยม
เป็นอย่างมากกในสังคมไทย



วิลาวัลย์ วัชรเกียรติศักดิ์ ผศ.ดร. อรนุช อินตา
ดร.ชุมพล ชะนะมา ผศ.สกุลรัตน์ อ่อนสันเทียะ

ผศ.รัตติดร ศรีชัยชนะ
ผศ.เรขา อินทรกำแหง ผศ.ดร.นวลรวี กระต่ายทอง

ผศ.ดร.ภัทรฤทัย กันตะกนิษฐ์

นายชุตินันท์ ทองคำ ผศ.นัยน์ปพร ชุติภาดา

นายสุรชัย เดชพิทักษ์ คุณฉัตรปวี นวลจันทร์
คุณอัมรินทร์ ทองหลาง
คุณชัยสง่า ฤาชา


คคุุณณสพุิรชชัญย ะใจศหึกมัษ่นา คุณพิชยะวัสส์ ดิษฐ์ยรัชฐากรณ์

คุณมนัสสวี นิลบัวลา
คุณวริทธิ์ธร สนทนา (ร้านคุณฑัต เมคอัพ สตูดิโอ นางรอง)

คุณปรีพดา ฉิมระเริง (มิสเเกรด์ยโสธร)


Click to View FlipBook Version