แบบฝึฝึฝึ กฝึ กทัทั ทั กทั กษะ เรื่รื่รื่อรื่รื่รื่ง การอ่อ่อ่าอ่นออกเสีสีสียสีงร้ร้ร้อร้ยแก้ก้ก้วก้ และร้ร้ร้อร้ยกรอง ก ลุ่ลุ่ลุ่ลุ่ม ส า ร ะ ก า ร เ รีรีรีรีย น รู้รู้รู้รู้ภ า ษ า ไ ท ย ชั้ชั้ ชั้ชั้น มัมัมัมัธ ย ม ศึศึศึศึก ษ า ปีปีปีปีที่ที่ ที่ที่1
ทักษะ แบบฝึฝึฝึ ก ฝึ ก
คำ นำ ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านร้อยแก้ว-ร้อยกรอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จัดทำ ขึ้นเพื่อใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อพัฒนา ความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความหมายของการอ่าน การเตรียมตัวก่อนการ อ่าน หลักการอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรองแบบฝึกทักษะ และแหล่งการเรียนรู้เพิ่มเติมที่เกี่ยงข้อง กับเนื้อหา สุดท้านนี้ผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดแบบฝึกทักษะการอ่านร้อยแก้ว-ร้อยกรอง เล่มนี้ จะเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาในการพัฒนานักเรียนให้สามารถอ่านออกเสียงทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองได้ เป็นอย่างยิ่ง คณะผู้จัดทำ ก
ส า รบัญ ข เรื่อรื่ง หน้าน้ คำ นำ สารบัญบั คำ ชี้แชี้จงการใช้แช้บบฝึกทักษะ (สำ หรับรัครู)รู คำ ชี้แชี้จงการใช้แช้บบฝึกทักษะ (สำ หรับรันักนัเรียรีน) แบบทดสอบก่อนเรียรีนแบบฝึกทักษะ เนื้อนื้หาบทเรียรีน ความหมายของการอ่านออกเสียสีง การเตรียรีมตัวก่อนการอ่านออกเสียสีง การอ่านออกเสียสีงร้อร้ยแก้ว การอ่านออกเสียสีงร้อร้ยกรอง แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบหลังเรียรีนแบบฝึกทักษะ แหล่งเรียรีนรู้เรู้พิ่มพิ่เติม เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียรีน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียรีน บรรณานุกนุรม ก ข ค ง 1 3 3 3 5 7 13 16 18 20 20 21
คำ ชี้แจ ง ก า ร ใช้แบบฝึ กทักษะ ( สำ หรับค รู ) ก่อนให้นักเรียนใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง กลุ่มสาระการ เรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ครูควรอ่านคำ ชี้แจงในการใช้แบบฝึกทักษะอย่างละเอียด และ ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ 1. แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง นี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 2. ครูเตรียมแบบฝึกให้เพียงพอกับจำ นวนนักเรียน 3. ครูศึกษาเนื้อหาและลำ ดับขั้นตอนของแบบฝึกให้เข้าใจชัดเจน 4. ครูให้นักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรียน จำ นวน 10 ข้อ ก่อนศึกษาเนื้อหา 5. ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าความรู้และทำ ความเข้าใจเนื้อหาภายในเล่ม 6. ให้นักเรียนลงมือทำ แบบฝึกทักษะแต่ละแบบฝึก 7. ครูบันทึกผลคะแนนทุกครั้งที่นักเรียนทำ แบบฝึกทักษะ เพื่อสังเกตพัฒนาการของนักเรียน 8. ครูให้นักเรียนทำ แบบทดสอบหลังเรียน จำ นวน 10 ข้อ 9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาบทเรียน ค
คำ ชี้แจ ง ก า ร ใช้แบบฝึ กทักษะ ( สำ หรับนัก เ รี ยน) แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่นักเรียนจะได้ศึกษาต่อไปนี้ เป็นแบบฝึกทักษะที่นักเรียนสามารถศึกษาได้ ด้วยตนเอง โดยการปฏิบัติตามคำ แนะนำ ดังต่อไปนี้ 1. แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง นี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 2. ศึกษาสาระมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ให้เข้าใจ 3. ทำ แบบทดสอบก่อนเรียน จำ นวน 10 ข้อ ใช้เวลา 20 นาที ลงในกระดาษคำ ตอบ 4. ศึกษาใบความรู้ แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง 5. ทำ แบบฝึกทักษะ 6. ตรวจคำ ตอบด้วยตัวเองหรือแลกเปลี่ยนกันตรวจโดยครูเป็นผู้แนะนำ 7. ทำ แบบทดสอบหลังเรียน จำ นวน 10 ข้อ ใช้เวลา 20 นาที่ ลงในกระดาษคำ ตอบ ง
แบบทดสอบก่อนเรียรีนแบบฝึกฝึทักทัษะ 1. การอ่านร้อร้ยกรอง มีอมีะไรบ้าบ้ง ก. อ่านทำ นองสามัญมัอ่านทำ นองเจรจา อ่านทำ นองเสนาะ ข. อ่านทำ นองสามัญมัอ่านทำ นองเจรจา อ่านทำ นองเสนาะ อ่านทำ นองสรภัญญะ ค. อ่านทำ นองพากย์ อ่านทำ นองเพลงยาว ง. อ่านทำ นองสามัญมั คำ ชี้แชี้จง: ข้อข้สอบมี 1 ตอน คะแนนเต็ม 20 คะแนน เวลา 20นาที ตอนที่1แบบปรนัย4ตัวเลือก เลือกคำ ตอบที่ถูกถูต้องที่สุดสุแล้วกากบาท (x) ทับลงกระดาษ 2. การทำ เครื่อรื่งหมายในบทอ่าน ถ้าใช้เช้ครื่อรื่งหมาย / หมายความว่าว่อย่าย่งไร ก. หยุดอ่าน ข. หยุดหายใจ ค. เว้นว้วรรคเล็กน้อยเพื่อพื่หยุดหายใจ ง. ให้สัห้งสัเกต 3. นักเรียรีนสามารถทำ เครื่อรื่งหมายใดที่ช่วช่ยแบ่งบ่วรรคตอนและจังจัหวะการอ่านได้ถูกถูต้อง ก. เครื่อรื่งหมายทับ ( / ) ข. เครื่อรื่งหมายจุลภาค ( , ) ค. เครื่อรื่งหมายอัญประกาศ ( “ ) ง. เครื่อรื่งหมายมหัพหัภาค ( . ) 4. ทักษะในข้อข้ ใดมีคมีวามจำ เป็นสำ หรับรันักเรียรีนในการแสวงหาความรู้เรู้พิ่มพิ่เติม ก. การฟังฟั ข. การพูด ค. การอ่าน ง. การเขียขีน 5. ข้อข้ ใดไม่ใม่ช่แช่นวทางการอ่านบทร้อร้ยกรอง ก. ต้องรู้จัรู้กจัทำ นองของบทร้อร้ยกรองที่อ่าน ข. ต้องรู้จัรู้กจัฉันทลักษณ์ของบทร้อร้ยกรองที่อ่าน ค. ต้องรู้จัรู้กจัผสมคำ หรือรืพยางค์บทร้อร้ยกรองที่อ่าน ง. ต้องรู้จัรู้กจั ใส่อส่ารมณ์ความรู้สึรู้กสึ ในบทร้อร้ยกรองที่อ่าน 6. บทร้อร้ยกรองแบ่งบ่เป็นประใหญ่ๆ ได้กี่ประเภท ก. 4 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 6 ประเภท ง. 7 ประเภท 7. การใส่อส่ารมณ์ในการอ่านเป็นผลดีอย่าย่งไร ก. เปลี่ยนอารมณ์ของผู้ฟัผู้ งฟั ข. ทำ ให้กห้ารอ่านนั้นนั้ชวนฟังฟัยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ ค. ทำ ให้เห้รื่อรื่งที่อ่านนั้นนั้น่าสนใจ ง. ทำ ให้ผู้ห้อ่ผู้ อ่านมีชีมีวิชีตวิชีวชีามากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ เรื่อรื่ง การอ่านออกเสียสีงบทร้อร้ยแก้วและร้อร้ยกรอง 1
8. กลอนบทละครมีคมีวามแตกต่างจากกลอนสุภสุาพทั่วทั่ ไปอย่าย่งไร ก. คำ ขึ้นขึ้ต้นบท ข. จำ นวนคำ ในแต่ละวรรค ค. การสัมสัผัสผัระหว่าว่งบท ง. จำ นวนบาทในแต่ละบท 9. ข้อข้ ใดแบ่งบ่วรรคตอนในการอ่านโคลงสี่สุสี่ภสุาพได้ถูกถูต้องที่สุดสุ ก. ภพนี้ /มิใมิช่หช่ล้า หงส์ทส์อง /เดียวเลย ข. กาก็เจ้าจ้ / ของครอง ชีพชีด้วย ค. เมาสม / มุติจองหอง หินหิชาติ ง. น้ำ มิตมิร / แล้งโลกม้วม้ย หมดสิ้นสิ้ / สุขสุศานต์ 10. .ข้อข้ ใดกล่าวผิดผิเกี่ยวกับกลอนสี่ ก. 1 วรรค มี 4 มีพยางค์ต่อคำ ข. แบ่งบ่การอ่านวรรคละ 2 จังจัหวะ ค. 1 บท จะมี 2 มีบาท ง. ผิดผิทุกทุข้อข้ 2
การอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง การอ่านออกเสียง การอ่านออกเสียง หมายถึง การอ่านข้อความโดยการเปล่งเสียงออกมา เพื่อให้ผู้อื่นได้รับรู้ ข้อความนั้น ๆ ด้วยการอ่านออกเสียงแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อย กรอง การอ่านออกเสียงเป็นศิลปะในการสื่อสาร โดยการแปลความหมายของตัว อักษร และความคิดของ ข้อความที่อ่าน โดยอาศัยอารมณ์ น้้าเสียง และสีหน้าท่าทางของผู้อ่าน การเตรียมตัวก่อนการอ่านออกเสียง การเตรียมตัวก่อนอ่าน การเตรียมตัวก่อนอ่านออกเสียง (จุไรรัตน์ ลักษณะศิริและบา หยัน อิ่มสำ ราญ, ๒๕๔๗ :๒๖) มีดังนี้ 1. อ่านบทให้เข้าใจ การอ่านให้ผู้ฟังมีวัตถุประสงค์สำ คัญเพื่อให้ผู้ฟังรับรู้และ เข้าใจตรงตามเนื้อหาสาระที่ฉันนั้นผู้อ่านจึงต้องเข้าใจข้อความนั้นเสียก่อนเพื่อความมั่นใจ และเพื่อความเข้าใจกันระหว่างสงสารและผู้รับสารข้อความใดที่อ่านไม่เข้าใจหรือสงสัยว่าจะ ผิดพลาดต้องตรวจสอบเสียก่อน 2. ทำ เครื่องหมายแสดงจังหวะก่อนอ่านในการอ่านเราควรทำ เครื่องหมายลงในบท ว่าตอนใดควรหยุดคำ ใดควรเน้นและคำ ใดควรทอดจังหวะการทำ เครื่องหมายในบทมีกฎ เกณฑ์ตายตัวแต่โดยทางที่นิยมปฏิบัติกันมาทำ เครื่องหมายง่ายง่ายดังนี้ ก. เครื่องหมายขีดเฉียงขีดเดียว (/) ขีดระหว่างคำ แสดงการหยุดเว้นนิดนึง เพราะมีคำ หรือข้อความอื่นต่อไปอีกการอ่านคำ ที่มีเครื่องหมายนี้จึงไม่ควรลดเสียงหนักเพราะ ยังไม่จบประโยค 3
ข. เครื่องหมายขีด (//) -หลังประโยคหรือระหว่างคำ เพื่อแสดงให้รู้ว่าให้หยุดเรียนนานหน่อย ค. เครื่องหมายวงกลมล้อมคำ เพื่อบอกว่าเป็นคำ ที่สงสัยหรือไม่แน่ใจว่าอ่านอย่างไร ง. คำ ที่ต้องการเน้นให้ขีดเส้นใต้ที่คำ นั้น จ.คำ ใดที่ทอดจังหวะให้ทำ เส้นโค้งที่ส่วนบนของคำ นั้น จ. คำ ใดที่ทอดจังหวะ ให้ทำ เส้นโค้งที่ส่วนบนของคำ นั้น(⌒) ฉ. เครื่องหมายมุมคว่ำ หรือหมวกเจ๋งคว่ำ (∧) แสดงว่าข้อความนั้นจะเน้นเสียงขึ้นสูงและมุ่งหมาย หรือหมวดเจ๋งหงาย(∨) แสดงการเน้นเสียง 3. ซ้อมอ่านให้คล่องหลังอ่านบทจนเข้าใจและทำ เครื่องหมายแสดงจังหวะการอ่านแล้วควรซ้อมอ่านให้คล่อง โดยใช้ไมโครโฟนเพื่อให้ผู้อื่นช่วยสังเกตหรือบันทึกเสียงไว้เชื่อฟังและแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองอาจต้องซ้อม หลายครั้งจนกว่าจะแก้ไข้ได้จนเป็นที่น่าพอใจ การอ่านออกเสียงที่เป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความหมายของผู้อ่านในการอ่านออกเสียงได้อย่างต้อง ชัดเจนและถ่ายทอดอารมณ์ได้สอดคล้องกับเนื้อหาในบทอ่านการอ่านออกเสียงอาจแบ่งตามลักษณะคำ ประพันที่ นำ ได้2ประเภทดังนี้ ร้อยแก้วหมายถึงข้อความที่อ่านเรียบเรียงอย่างสละสลวยถูกต้องตามหลักภาษาแต่ไม่กำ หนดข้อบังคับตาม ฉันทลักษณ์ ร้อยกรองหมายถึงถ้อยคำ ที่มีลักษณะบังคับในการแต่งซึ่งทำ ให้เกิดความไพเราะจากเสียงสัมผัสจังหวัดแต่ละ เสียงหนักเบาตามฉันทลักษณ์ที่กำ หนดเช่นโครง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย ในการอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรองมีแนวทางการอ่านที่แตกต่างกันตามฉันทลักษณ์ของคำ ประพันธ์ นักเรียนจึงควรศึกษาและฝึกฝนให้เกิดความชำ นาญ 4
การอ่านออกเสียงร้อยแก้วหมายถึงการอ่านคำ ที่มีผู้เรียบเรียงหรือประพันธ์ไว้โดยเปงเสียงและวางจังหวะ เสียงให้เป็นไปตามความนิยมและความเหมาะสมกับเรื่องที่อาจมีการใช้ลีลาของเสียงไปตามเจตนารมย์ของผู้ ประพันธ์เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ตอนนั้นนั้นไปสู่ผู้ฟังซึ่งจะทำ ให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามไปกับเรื่องราว หรือรถของบทประพันธ์ที่อ่าน หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว มีดังนี้ 1. การอ่านควรศึกษาเรื่องที่อ่านให้เข้าใจโดยศึกษาสาระสำ คัญของเรื่องและข้อความเพื่อจะแบ่งวรรคตอน ในการอ่านได้อย่างเหมาะสม 2. การอ่านออกเสียงดังพอเหมาะกับสถานที่และจำ นวนผู้ฟังให้ผู้ฟังได้ยินทั่วกันไม่ดังหรือไม่ค่อยจน เกินไป 3. อ่านให้คล่องฟังรื่นหูและออกเสียงให้ถูกต้องตามอักขรวิธีชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะ ร ล คำ ควบกล้ำ ต้องออกเสียงให้ชัดเจน 4. อ่านออกเสียงเป็นเสียงพูดอย่างธรรมชาติที่สุด 5. เน้นเสียงและถ้อยคำ ตามน้ำ หนักความสำ คัญของใจความใช้เสียงและจังหวะให้เป็นไปตามเนื้อเรื่อง เช่น ดุ อ้อนวอน จริงจัง โกรธ เป็นต้น 6. อ่านออกเสียงให้เหมาะสมกับประเภทของเรื่องรู้จักใส่อารมณ์ให้เหมาะสมตามเนื้อเรื่อง 7. ขณะที่อ่านควรสบสายตาผู้ฟังในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ 8. การอ่านในที่ประชุมต้องสับหรือถือบทอ่านให้เหมาะสมและยืนทรงตัวในท่าที่สง่า การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว 5
ประเภทการอ่านร้อยแก้ว 1. การอ่านบทความ การอ่านบทความผู้อ่านควรเน้นเสียงหนักเบาและการทอดเสียงที่เหมาะสม เพื่อสร้างความน่าสนใจ 2. การอ่านนิทาน นิทานคือเรื่องแต่งหรือเรื่องที่เล่าต่อกันมาเพื่อความสนุกสนานแผงคอคิดมีวิธี การอ่านดังนี้ 2.1 เลือกนิทานที่มีเนื้อหาและภาษาที่ยากง่ายเหมาะสำ หรับวัยเพศและรสนิยมของผู้ฟัง 2.2 ใช้น้ำ เสียงที่ไพเราะนุ่มนวลมีความเป็นธรรมชาติเน้นเสียงหนักเบาสอดคล้องกับ อารมณ์ของตัวละคร 2.3 แสดงสีหน้าท่าทางสอดคล้องกับอารมณ์และของตัวละครเพื่อให้ผู้ฟังมีอารมณ์คล้อย ตาม 2.4 ผู้อ่านควรสบตากับผู้ฟังเป็นระยะและทั่วถึงทุกคน 3. การอ่านเรื่องตลก เรื่องตลกหรือเรื่องมุ่งให้เกิดความขบขันเพื่อความผ่อนคลายทั้งทางกาย และใจมีวิธีการอ่านดังนี้ 3.1 ผู้อ่านควรสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติไม่หลุดหัวเราะก่อนเพราะอาจทำ ให้ผู้ฟังฟังไม่รู้ เรื่อง 3.2 ใช้น้ำ เสียงมีชีวิตชีวายเน้นตรงคำ สำ คัญให้ชัดเจน 3.3 หากผู้ฟังสนุกสนานและหัวเราะออกผู้อ่านควรหยุดชักระยะเพื่อรอให้ผู้ฟังรวบรวมสมาธิ ในการฟังต่อ 4. การอ่านเรื่องเศร้า เรื่องเศร้าคือเรื่องที่แสดงความผิดหวังความพลัดพรากและความตายมีวิธี การอ่านดังนี้ 4.1 ผู้อ่านจินตนาการเป็นตัวละครนั้นเลือกใช้น้ำ เสียงแผ่วเบาคล้ายคนสะอื้นและเน้นตรง คำ สำ คัญที่เป็นต้นเหตุความเศร้า 4.2 ต้องควบคุมอารมณ์ไม่สะอื้นจนอ่านออกเสียงตอบไม่ได้ 6
การอ่านออกเสียงร้อยกรอง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเพลิดเพลินซาบซึ้ง ในรถของบทประพันธ์ซึ่งจะต้องอ่านอย่างมีจังหวะลีลาและทวนทำ งานตามลักษณะของการอ่านประพันธ์แต่ละชนิด การอ่านบทร้อยกรองอ่านได้ 2 แบบดังนี้ การอ่านออกเสียงธรรมดา เป็นการอ่านออกเสียงร้อยแก้วแต่มีจังหวะวรรคตอนมีการเน้นสัมผัสตามลักษณะ บังคับของคำ ประพันธ์แต่ละชนิด การอ่านทำ นองเสนาะ เป็นการอ่านมีสำ เนียง สูง ต่ำ หนัก เบา ยาว สั้น เป็นทำ นองเหมือนเสียงเป็นดนตรีมี การเอื้อนเสียงเน้นสัมผัสตามจังหวะลีลาและท่วงทำ นองที่แตกต่างไปตามลักษณะบังคับของคำ ประพันธ์ชนิดต่างๆ ให้ชัดเจนไพเราะเหมาะสมทำ ให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์คล้อยตาม หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงร้อยกรอง หลักทั่วไปของการอ่านออกเสียงร้อยกรองที่ควรคำ นึงถึงมีดังต่อไปนี้ 1. ศึกษาลักษณะบังคับของคำ ประพันธ์แต่ละชนิดละบิดที่จะอ่านให้เข้าใจแจ่มแจ้งการแบ่งจำ นวนคำ ภาพเสียง วันในยุคเสียงหนักเบาเป็นต้น 2. อ่านให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคำ ประพันธ์ชนิดนั้นๆ 3. อ่านออกเสียงคำ ให้ชัดเจนถูกต้องเฉพาะคำ ที่ออกเสียง ร ล และคำ ควบกล้ำ 4. อ่านเสียงดังพอสมควรที่ผู้ฟังจะได้ยินทวดและไม่ดังหรือค่อยจนเกินไป 5. อ่านมีจังหวะวรรคตอนรู้จักทอดจังหวะเอื้อนเสียงหรือหลบเสียง 6. ธรรมที่รับสัมผัสกันต้องอ่านเน้นเสียงให้ชัดถ้าเป็นสัมผัสนอกต้องถอดเสียงไม่มีจังหวะยาวกว่าธรรมดา 7
7. อ่านเอื้อสัมผัสให้เพื่อเพิ่มความไพเราะเช่น อันรักษาสัตย์กย์ตเวที อ่านว่า กัด-ตะ-เวที เพื่อให้สัมผัสกับ สัตย์ ข้าขอเคารพอภิวันท์ อ่านว่า อบ-พิ-วัน เพื่อให้สัมผัสกับ เคารพ ไม่มีกษัตริย์ครองปฐพี อ่านว่า ปัด-ถะ-พี เพื่อไห้สัมผัสกับ กษัตริย์ 8. คำ ที่มีพยางค์เกินให้อ่านเร็วและเบาเพื่อให้เสียงไปตกอยู่พยางค์ที่ต้องการ 9. มีศิลปะในการใช้เสียงรู้จักเอื้อนเสียงให้เกิดความไพเราะและใช้เสียงให้เหมาะกับครอบครัวเพื่อรักษา บรรยากาศของเรื่องที่อ่าน 10. เมื่ออ่านถึงตอนจะจบต้องเอื้อนเสียงและทอดจังหวะช้าลงจนกระทั่งจบบท 11. มีสมาธิมั่นคงในการอ่านโดยเฉพาะการบังคับเสียงสูงต่ำ ดังค่อยและไพเราะอ่อนหวานในการอ่านออกเสียง บทร้อยกรองในที่นี้นักเรียนอาจใช้เครื่องหมายกำ กับจังหวะเช่น /แทนจังหวะเสริมหมายถึงการหยุดเสียงอ่านภายในวรรค //แทนจังหวะหลักหมายถึงการหยุดเสียงอ่านเมื่อจบว่าเป็นช่วงยาวกว่าจังหวะเสริม ประเภทการอ่านร้อยกรอง 1. การอ่านกลอน กรอนสุภาพ คือ กรแปดเป็นคำ ประพันธ์ที่นิยมแต่งกันมาไปแต่โบราณกรสุภาพมีหลายชนิดเช่นสักวา ดอกสร้อยศรีภานิราศเพลงยาวซึ่งแต่ละศาสสนิกกรสุภาพคือกรแปดเป็นคำ ประพันธ์ที่นิยมแต่งกันมาไปแต่โบราณ กรสุภาพมีหลายชนิดเช่นสักวาดอกสร้อยเสภา นิราศเพลงยาวซึ่งแต่ละชนิด มีลักษณะบังคับที่แตกต่างกันแต่ก่อน ทุกชนิดมีลีลาหรือกระบวนความบรรยายทำ นองเดียวกันดังเช่น กลอนสุภาพ (กลอนแปด) บทหนึ่งมี2บาทซึ่ง1บาทจะมี2วรรคโดยมีวรรคละ7-8คำ วรรคแรกเรียกว่าวรรค สดับวรรคที่สองเรียกว่าวรรคครับวรรคที่สามเรียกว่าวรรคโครงและวรรคที่สี่เรียกว่าวรรคส่ง 8
การแบ่งจังหวะในการอ่าน แบ่งดังนี้ วรรคละ 7 คำ อ่าน 2/2/3 วรรคละ 8 คำ อ่าน 3/2/3 วรรคละ 9 คำ อ่าน 3/3/3 ตัวอย่างการอ่าน กลอนสุภาพ/แปดคำ /ประตำ บ่อน// อ่านสามตอน/ทุกวรรค/ประจักษ์แถลง ตอนต้นสาม/ตอนสอง/สองแสด// ตอนสามแจ้ง/สามคำ /ครบจำ นวน// กำ หนดบท/ระยะ/กะสัมผัส// ไห้ฟาดฟัด/ชัดความ/ตามกระสวน// วางจังหวะ/กะทำ นอง/ต้องกระบวน// จึงจะชวน/ฟังเสนาะ/เพราะจับใจ// (ประชุมลำ นำ ของ หลวงธรรมมาภิมนฑ์ (ถึก)) 2. การอ่านกาพย์ กาพย์ยานี 11 คือ การที่มีลีลาไพเราะจังหวะกระบวนการตามเหมาะสมอย่างยิ่งสำ หรับการพรรณนา ชมความงามและการบรรยายปลุกเร้าอารมณ์ กาพย์ยานี 11 มีจำ นวนคำ ในแต่ละบาท 11 คำ แบ่งเป็นวรรคหน้าห้าคำ วรรคหลังหกคำ กาพย์ยานี 11 ในบาทเท่านั้นนิยมอาเสียงสูงกลัวปกติจึงจะเกิดความไพเราะจะแบ่งจังหวะวรรคในการอ่านดังนี้ วรรคหน้า5คำ อ่าน 2/3/ วรรคหลัง 5คำ อ่าน /3/3 9
ตัวอย่างการอ่าน เรื่อยเรื่อย/มารอนรอน// พิพากร/จะตกต่ำ // สนธยา/จะใกล้ค่ำ // คำ นึงหน้า/เจ้าตราตรู// เรื่อยเรื่อย/มาเรียงเรียง// นกบินเฉียง/ไปทั้งหมู่ ตัวเดียว/มาพลัดคู่// เหมือนพี่อยู่/ผู้เดียวดาย ( กาพย์เห่เรือ : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร) 3. การอ่านโครง โคลงสี่สุภาพ บทหนึ่งมี 30 คำ โดย 1 บทมี 4 บาท วรรคหน้าในบัตรที่ 1-4 มี 5 คำ ส่วน วรรคหลังมี 2 คำ แต่บาทที่ 4 วรรคหลังจะมี 4 คำ (อาจมีคำ สร้อย 2 คำ ในบาทที่1 และ 3 ) การอ่านโคลงสี่สุภาพนิยม อ่านออกเสียงตามที่ถ่ายวรรคบาทที่การอ่านโคลงสี่สุภาพนิยมอ่าน ออกเสียงตามที่ท้ายวรรคบัตรที่ 2ออกเสียงสูงที่ท้ายวรรคหน้าของบาทที่ 3 และถอดเสียงที่ท้ายวรรค แรกแต่ละบาท นิยมอ่านด้วยระดับเดียวกันทั้งบทแต่บางคำ จะลงสูง ของวรรณยุกต์ยกเว้นวรรคแรก ของบาทที่ 3 จะอ่านเสียงสูง กว่าทุกวรรค 1 บันไดเสียง ตัวอย่างการอ่าน เสียสิน/ สงวงศักดิ์ไว้// วงศ์หงส์ เสียศักดิ์/สู้ประสงค์// สิ่งรู้ เสียรู้/เร่งดำ รง// ความสัตย์/ ไว้นา เสียสัตย์/ อย่าเสียสู้// ชีพม้วย/มรณา (โคลงโลกนิติ) 10
การฝึกอ่านออกเสียงให้มีประสิทธิภาพ จะต้องยึดหลักเกณฑ์ของภาษาเป็นสำ คัญ โดยมีพจนานุกรม ฉบับพระราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ 2554 ประกอบควรเอาใจใส่ในการอ่านออกเสียงคำ อ่านที่มี ร ล คำ ควบรวม ถึงเสียงวรรณยุกต์ต่างๆต้องให้มีเสียงดังฟังชัด รู้จักเลือกน้ำ เสียงให้สอดคล้องเหมาะสมกับข้อความที่อ่าน ตลอดจนรู้จักเน้นเสียงในการอ่านข้อความสำ คัญต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ผู้อ่านควรเตรียมศึกษาบทที่จะอ่านเพื่อ จัดแบ่ง วรรคตอนในการอ่านให้เหมาะสม ท่าทางแล้วขณะที่ถูกต้องอยู่ เสมอเพื่อให้เกิดความมั่นใจและสร้าง ความชื่นชมให้แก่ผู้ฟังทั่วไป 11
ทักษะ แบบฝึฝึฝึ ก ฝึ ก
ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านร้อยแก้ว คำ ชี้แชี้จง ให้นัห้กนัเรียรีนอ่านข้อข้ความต่อไปนี้ โดยออกเสียสีงคำ ที่ขีดขีเส้นส้ ใต้ให้ถูห้กถูต้อง ในชีวิชีตวิของคนเรามีปมีระสบการณ์ที่ณ์ ที่น่าน่จดจำ หลายเรื่อรื่ง บางเรื่อรื่งเป็นป็สิ่งสิ่ที่ น่าน่ชื่นชื่ชนยินยิดี บางเรื่อรื่งเป็นป็สิ่ที่สิ่ ที่ควรยึดยึเป็นป็บทเรียรีน ดังดัเช่นช่เรื่อรื่งบทเรียรีนของ บุณฑริกริบุณฑริกริเป็นป็หญิงญิสาวที่มีรูมีปรูร่าร่หน้าน้ตาแอร่มร่แช่มช่ช้อช้ยเธอชอบแต่งตัว อะร้าร้อร่าร่มจนใคร ๆ คิดว่าว่เธอวิตวิถารเธอเป็นป็คนมีทิมี ทิฐิไฐิม่เม่ชื่อชื่คำ เตือนของผู้ใผู้ดจนจน ถูกถูปรามาส จากคนรอบข้าข้ง ว่าว่จะเรียรีนไม่สำม่สำเร็จร็เธอคิดว่าว่ทุกทุคนเป็นป็คนปรปักปัษ์ ต่อเธอ แต่แล้ววันวัหนึ่งนึ่เธอก็พบกับ วิกวิฤตการณ์ใณ์นชีวิชีตวิเธอถูกถูชายคนหนึ่งนึ่ที่ยังยัไม่ สร่าร่งเมาแสดง ความกักขฬะจนเธอเกือบพลาดท่าเสียสีที ตั้งตั้แต่นั้นนั้มาเธอจึงจึเข้าข้ใจ ความหวังวัดีขดีองทุกทุคนที่คอยเตือนเธอตลอดเวลา บทเรียรีนของบุณทริกริครั้งรั้นี้ เราทุกทุคนสามารถนำ มาเป็นป็คติในการดำ เนินนิ ชีวิชีตวิ ได้โด้ดยเฉพาะในสังสัคมปัจจุบันบัที่มีอัมี อันตรายอยู่รยู่อบด้าด้น หญิงญิสาวทุกทุคนต้อง ระมัดมัระวังวัการแต่งกาย เพราะเธออาจจะไมโชคดีอดีย่าย่ง บุณฑริกริก็เป็นป็ ได้ เรื่อรื่ง บทเรียรีนของบุณฑริกริ 13
แบบฝึกหัดทบทวน เรื่อรื่ง ชุดฝึกฝึทักษะการอ่านออกเสียสีงร้อร้ยแก้ว กิจกรรมที่1 ให้นัห้กนัเรียรีนเขียขีนคำ อ่านที่กำ หนดให้ต่ห้ ต่อไปนี้ลนี้งท้ายคำ 1. บุณฑริกริอ่านว่าว่ ------------------------------------------------ 2. แอร่มร่แช่มช่ซ้อซ้ย อ่านว่าว่ ------------------------------------------------ 3. อะร้าร้อร่าร่ม อ่านว่าว่ ------------------------------------------------ 4. วิตวิถาร อ่านว่าว่ ------------------------------------------------ 5. ทิฐิ อ่านว่าว่ ----------------------------------------------- 6. ปรามาส อ่านว่าว่ ----------------------------------------------- 7. ปรปักษ์ อ่านว่าว่ ------------------------------------------------ 8. สร่าร่ง อ่านว่าว่ ----------------------------------------------- 9. วิกวิฤตการณ์ อ่านว่าว่ ----------------------------------------------- 10. กักขฬะ อ่านว่าว่ ---------------------------------------------- - 14
แบบฝึกหัด เรื่อรื่ง การแต่งโครงสี่สุสี่ภสุาพ โครงสี่สุสี่ภสุาพ บทหนึ่งนึ่มี 30 คำ แบ่งบ่เป็นป็ 4 บาท แต่ละบาทมี 6 วรรค วรรค หน้าน้มี 5 คำ วรรคหลังมี 2 คำ ยกเว้นว้ ในบาทที่ 4 วรรค หลังมี 4 คำ อาจมีคำมี คำ สร้อร้ย 2 ค่ำ ท้ายบาทที่ 1 และ 3 สัมสัผัสผับังบัคับ ได้แด้ก่ คำ สุดสุท้ายของบาทที่ 3 สัมสัผัสผักับคำ สุดสุท้าย ได้แด้ก่ คำ สุดสุท้ายของบาทที่ 3 สัมสัผัสผักับคำ สุดสุท้าย ของวรรคหน้าน้ในบาทที่2 และ 3 คำ สุดสุท้ายของบาทที่ 2 สัมสัผัสผักับคำ สุดสุท้าย ของวรรคหน้าน้ในบาทที่ 4 นอกจากนี้ มีคำมี คำเอก 7 คำ และ คำ โท 4 คำ ลักษณะ บังบัคับตามแผนผังผัดังดันี้ กิจกรรมที่2 ให้นัห้กนัเรียรีนนำ คำ ต่อไปนี่้ไปเติมในช่อช่งว่าว่งโครงสี่สุสี่ภสุาพให้ถูห้กถูต้อง อ้า ใด หล้า ใคร ใหล เสียสีงลือเสียสีงเล่าอ้าง อัน พี่เพี่อย เสียสีงย่อย่มยอยศ ทั่วทั่ สองเขือขืพี่หพี่ลับ ลืมตื่น ฤาพี่ สองพี่คิพี่ คิดเอง อย่าย่ ได้ถด้ามเผื่อผื่ 15
แบบทดสอบหลังลัเรียรีนแบบฝึกฝึทักทัษะ คำ ชี้แชี้จง: ข้อข้สอบมี 1 มีตอน คะแนนเต็ม 20 คะแนน เวลา 20นาที ตอนที่1แบบปรนัย4ตัวเลือก เลือกคำ ตอบที่ถูกถูต้องที่สุดสุแล้วกากบาท (x) ทับลงกระดาษ เรื่อรื่ง การอ่านออกเสียสีงบทร้อร้ยแก้วและร้อร้ยกรอง 1.การอ่านร้อร้ยกรอง มีอมีะไรบ้าบ้ง ก. อ่านทำ นองสามัญมัอ่านทำ นองเจรจา อ่านทำ นองเสนาะ ข. อ่านทำ นองสามัญมัอ่านทำ นองเจรจา อ่านทำ นองเสนาะ อ่านทำ นองสรภัญญะ ค. อ่านทำ นองพากย์ อ่านทำ นองเพลงยาว ง. อ่านทำ นองสามัญมั 2. การทำ เครื่อรื่งหมายในบทอ่าน ถ้าใช้เช้ครื่อรื่งหมาย / หมายความว่าว่อย่าย่งไร ก. หยุดอ่าน ข. หยุดหายใจ ค. เว้นว้วรรคเล็กน้อยเพื่อพื่หยุดหายใจ ง. ให้สัห้งสัเกตข้อข้ความที่จะอ่านต่อไปข้าข้งหน้า 3. นักเรียรีนสามารถทำ เครื่อรื่งหมายใดที่ช่วช่ยแบ่งบ่วรรคตอนและจังจัหวะการอ่านได้ถูกถูต้อง ก. เครื่อรื่งหมายทับ ( / ) ข. เครื่อรื่งหมายจุลภาค ( , ) ค. เครื่อรื่งหมายอัญประกาศ ( “ ) ง. เครื่อรื่งหมายมหัพหัภาค ( . ) 4. ทักษะในข้อข้ ใดมีคมีวามจำ เป็นสำ หรับรันักเรียรีนในการแสวงหาความรู้เรู้พิ่มพิ่เติม ก. การฟังฟั ข. การพูด ค. การอ่าน ง. การเขียขีน 5. ข้อข้ ใดไม่ใม่ช่แช่นวทางการอ่านบทร้อร้ยกรอง ก. ต้องรู้จัรู้กจัทำ นองของบทร้อร้ยกรองที่อ่าน ข. ต้องรู้จัรู้กจัฉันทลักษณ์ขณ์องบทร้อร้ยกรองที่อ่าน ค. ต้องรู้จัรู้กจัผสมคำ หรือรืพยางค์บทร้อร้ยกรองที่อ่าน ง. ต้องรู้จัรู้กจั ใส่อส่ารมณ์คณ์วามรู้สึรู้กสึ ในบทร้อร้ยกรองที่อ่าน 6.บทร้อร้ยกรองแบ่งบ่เป็นประใหญ่ๆ ได้กี่ประเภท ก. 4 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 6 ประเภท ง. 7 ประเภท 7. การใส่อส่ารมณ์ในการอ่านเป็นผลดีอย่าย่งไร ก. เปลี่ยนอารมณ์ของผู้ฟัผู้ งฟั ข. ทำ ให้กห้ารอ่านนั้นนั้ชวนฟังฟัยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ ค. ทำ ให้เห้รื่อรื่งที่อ่านนั้นนั้น่าสนใจ ง. ทำ ให้ผู้ห้อ่ผู้ อ่านมีชีมีวิชีตวิชีวชีามากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ 16
8. กลอนบทละครมีคมีวามแตกต่างจากกลอนสุภสุาพทั่วทั่ ไปอย่าย่งไร ก. คำ ขึ้นขึ้ต้นบท ข. จำ นวนคำ ในแต่ละวรรค ค. การสัมสัผัสผัระหว่าว่งบท ง. จำ นวนบาทในแต่ละบท 9. ข้อข้ ใดแบ่งบ่วรรคตอนในการอ่านโคลงสี่สุสี่ภสุาพได้ถูกถูต้องที่สุดสุ ก. ภพนี้ /มิใมิช่หช่ล้า หงส์ทส์อง /เดียวเลย ข. กาก็เจ้าจ้ / ของครอง ชีพชีด้วย ค. เมาสม / มุติจองหอง หินหิชาติ ง. น้ำ มิตมิร / แล้งโลกม้วม้ย หมดสิ้นสิ้ / สุขสุศานต์ 10. .ข้อข้ ใดกล่าวผิดผิเกี่ยวกับกลอนสี่ ก. 1 วรรค มี 4 มีพยางค์ต่อคำ ข. แบ่งบ่การอ่านวรรคละ 2 จังจัหวะ ค. 1 บท จะมี 2 มีบาท ง. ผิดผิทุกทุข้อข้ 17
แหล่งการเรียนรู้เพิ่มเติม 18 การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง https://m.youtube.com/watch? v=GdJHzAXcEHM การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง / ภาษาไทยครูบี https://m.youtube.com/watch? v=qf6_Cv10dts ภาษาไทย ม.1 ตอนที่ 11 การอ่านบทร้อย กรอง - yes istyle https://m.youtube.com/watch? v=_6eADRsYmx4
แหล่งการเรียนรู้เพิ่มเติม 19 PowerPoint การสอนเรื่อง การอ่านร้อย แก้วร้อยกรอง ระดับชั้นชั้มัธยมศึกศึษาปีที่1 https://drive.google.com/drive/folders /15c7RW8m63TdU4tgs0BupYqwFnm4 qaB20?usp=sharing DLTV ม.1 ภาษาไทย 2 ก.ค. 2563 / การอ่านออกเสียงร้อยกรอง https://m.youtube.com/watch? v=Yj5-1U08Re0 อ่านฟังสียงอ่านโครงการธนชาติ https://m.youtube.com/watch? v=9mCbhG0vAgg วิชาภาษาไทย ม.1 / การอ่านออกเสียงบท ร้อยอก้วที่เป็นบทบรรยาย https://m.youtube.com/watch? v=q6sv8DKgkb0
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 1. ก 6. ข 2. ค 7. ข 3. ก 8. ก 4. ค 9. ก 5. ค 10. ก 1. ง 6. ง 2. ง 7. ข 3. ค 8. ข 4. ข 9. ค 5. ก 10. ง 20
21 บรรณานุกรม ทรูปรูลูกลูปัญญา. (2564). การอ่านบทร้อร้ยแก้วและร้อร้ยกรอง. สืบสืค้นจาก. https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/34169? fbclid=IwAR3M8WICeIDGHSosp2RDd9JFoiFa_Gxrk004s VhwhEgxYDZqKBHAsi3WdPc ฮาดี บินบิดู่เดู่หลิม. (2558). หลักการอ่านออกเสียสีงร้อร้ยแก้ว และร้อร้ยกรอง. สืบสืค้นจาก. http://ww.satriwit3.ac.th/files/130719099044311_2006 1422223111.pdf
จัดทำ โดย ชื่อผู้จัดทำ 1. นางสาวเมทาวดี ปัตไตร เลขที่ 10 2. นางสาวสิริวิมล สุดเต้ เลขที่ 15 ครูที่ปรึกษา 1.คุณครูธนภัทร ดวงเบ้า