The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาษาไทย-ป.5-สัปดาห์ที่-2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by or05.oraphan, 2021-11-08 01:17:23

ภาษาไทย-ป.5-สัปดาห์ที่-2

ภาษาไทย-ป.5-สัปดาห์ที่-2

ใบความรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การแยกขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เหน็
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรื่อง วชิ าเหมือนสินคา้

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 เรือ่ ง การแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ จากเร่อื งทอี่ า่ น
รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ 2 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๕

การแยกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็

การวิเคราะห์เน้ือหาสาระของการอ่านน้ัน จะต้องรู้ว่าอะไรเป็นใจความสำคัญของ
เร่ืองอะไรเป็นเนื้อหาหลัก เน้ือหารอง ตอนใดเป็นใจความที่แสดงเหตุและผล ข้อเท็จจริง
ความคิดเห็นในขณะเดียวกันก็ต้องใช้ความคิด ความรู้ และประสบการณ์ เพื่อพิจารณาว่า
เรื่องนั้น และเร่ืองมีความสมเหตุสมผลและมีความถูกต้องหรือไม่ มากน้อยเพียงใดโดยมี
หลกั ในการพจิ ารณา ดังน้ี

ลักษณะขอ้ เท็จจริง ลักษณะขอ้ คดิ เห็น

๑. มีความเปน็ ไปได้ ๑. เปน็ ข้อความท่แี สดงความรู้สึก
๒. มคี วามสมจริง ๒. เป็นข้อความทแ่ี สดงความคาดคะเน
๓. มีหลักฐานเชอื่ ถอื ได้ ๓. เปน็ ข้อความท่แี สดงการเปรียบเทยี บ
๔. มคี วามสมเหตุสมผล ๔. เปน็ ข้อความท่เี ป็นขอ้ เสนอแนะหรอื เปน็ ความ
คดิ เห็นของผพู้ ดู เอง

ตัวอย่างประโยคทเี่ ปน็ ข้อเท็จจริงและข้อคดิ เห็น

ประโยคท่เี ป็นขอ้ เทจ็ จรงิ ประโยคท่ีเปน็ ข้อคดิ เหน็

๑. จงั หวัดน่านอยู่ทางภาคเหนอื ของไทย ๑. จงั หวดั นา่ นมภี มู ิประเทศทส่ี วยงามนา่ อยู่
๒. โลมาเป็นสตั วเ์ ล้ยี งลกู ด้วยนม ๒. โลมาเป็นสัตวน์ า่ รักท่ชี อบหอมแก้มคน
๓. ผกั บงุ้ จีนมลี ำต้นอวบกว่าผกั บุ้งไทย ๓. ถา้ เรากินผกั บงุ้ จะทำใหต้ าหวาน
๔. แมวมฝี ีเทา้ เบามาก ๔. คนท่เี ชื่อถอื โชคลาง เชือ่ ว่าแมวเปน็ สตั ว์
5. น้ำทะเลมรี สเค็ม ลกึ ลับ
6. ประเทศไทยมีภาษาไทยเปน็ ภาษา 5. ทะเลมีความสวยงาม
ประจำชาติ 6. ประเทศไทยมีรูปรา่ งเหมอื นกระบวยตักน้ำ

ใบงานท่ี 5 เรอื่ ง การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากเร่อื งที่อ่าน
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เรื่อง วชิ าเหมอื นสนิ คา้

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอ่ื ง การแยกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากเรือ่ งทอี่ ่าน
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕

คำชี้แจง ให้นักเรยี นอา่ นและวเิ คราะหข์ อ้ เท็จจรงิ และความคิดเหน็ จากเร่ืองทกี่ ำหนดให้

เร่ือง แก้ปัญหาการนอนไมห่ ลับ แค่ปรบั พฤตกิ รรม
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต ซึ่งความต้องการ
ของคนในแต่ละช่วงวัยก็ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าวัยไหนหากนอนไม่เพียงพอก็มีผลกระทบ
ต่อร่างกายและจิตใจ ได้แก่ ร่างกายจะมีความอ่อนเพลีย สมาธิสั้นลง ความจำแย่ลง
มีความบกพร่องในการทำงานต่าง ๆ หากใครกำลังประสบปัญหาการนอนไม่หลับ
รามาแชนแนลมีแนวทางให้คุณนำไปปฏิบัติตามกันได้เลย ต้องหาสาเหตุโรคต่าง ๆ
ที่ทำให้มีอาการนอนไม่หลับได้ เราต้องสำรวจตัวเองก่อนว่ามีโรคอะไรที่ส่งผลให้เรา
นอนไม่หลบั หรอื ไม่ ไมว่ า่ จะเป็นด้านร่างกาย เชน่ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบ
ทางเดินหายใจและโรคหัวใจ เป็นต้น ด้านจิตใจท่ีพบได้บ่อยก็คือโรคซึมเศร้า อารมณ์
แปรปรวน โรควติ กกังวล โรคการปรับตัวผิดปกติ เปน็ ต้น

ตอบคำถาม
1. เขียนประโยคท่เี ป็นขอ้ เทจ็ จรงิ จากขา่ วมา 2 ประโยค

ประโยคที่ 1 คือ
...............................................................................................................................................

ประโยคที่ ๒ คอื
...............................................................................................................................................

๒. เขยี นประโยคทเ่ี ปน็ ความคดิ เหน็ จากข่าวมา 2 ประโยค
ประโยคท่ี 1 คือ

...............................................................................................................................................
ประโยคที่ ๒ คือ

...............................................................................................................................................
แต่งประโยค
๑. แตง่ ประโยคทเ่ี ปน็ ขอ้ เท็จจริงมา 2 ประโยค

ประโยคท่ี 1 คือ
...............................................................................................................................................

ประโยคท่ี ๒ คอื
...............................................................................................................................................
๒.. แตง่ ประโยคทเ่ี ปน็ ความคิดเหน็ มา 2 ประโยค

ประโยคที่ 1 คือ
...............................................................................................................................................

ประโยคท่ี ๒ คอื
...............................................................................................................................................

ชื่อ............................................นามสกลุ ...........................................ชั้น........เลขท.่ี .......

ใบความรทู้ ่ี 6 เรื่อง การอา่ นงานเขยี นประเภทโน้มน้าวใจ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 8 เร่ือง เรียงรอ้ ยความคิดพินิจภาษา
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ เร่ือง การอา่ นงานเขียนประเภทโนม้ น้าวใจ
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี 2 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๕

เร่ืองที่อ่านในชีวิตประจำวัน เช่น ข่าว เหตุการณ์ การอภิปราย บทความ โฆษณา
หากผู้อ่านรู้จักใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ประกอบกับมีวิจารณญาณในการอ่าน จะทำให้
สามารถตัดสินใจได้ว่าเร่ืองท่ีอ่านมีความน่าเช่ือถือมากน้อยเพียงใด นำไปใช้ประโยชน์
ได้หรอื ไม่ อยา่ งไร

สารโน้มน้าวใจ เป็นสารที่เราสามารถพบเห็นประจำจากส่ือมวลชน จากการบอกเล่า
จากปากหนึง่ ไปสู่ปากหนง่ึ ซง่ึ ผู้สง่ สารนนั้ อาจจะมีจุดม่งุ หมายทัง้ ดแี ละไมด่ ี มปี ระโยชน์หรือ
ให้โทษกไ็ ด้

จุดมุ่งหมายของสารโน้มน้าวใจที่ให้ประโยชน์ คือ จุดมุ่งหมายที่มีคติ ข้อคิด และ
ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสว่ นร่วม ดงั น้ี

- โน้มน้าวใจใหร้ กั ชาติบา้ นเมอื ง
- ใหใ้ ช้จ่ายอยา่ งประหยดั
- ใหร้ ักษาสง่ิ แวดลอ้ ม
- ใหร้ กั ษาสาธารณสมบัติและประพฤตแิ ต่สิง่ ท่ีดงี าม

ในทางตรงกันข้ามผู้ส่งสารอาจจะมีจุดมุ่งหมายให้เกิด ความเสียหาย มุ่งหมายท่ีจะ
โฆษณาชวนเชื่อหรือปลุกป่ัน ยุยงให้เกิดความแตกแยก ดังนั้น ต้องมีวิจารณญาณและ
คดิ พิจารณาใหด้ วี า่ สารนนั้ เปน็ ไปในทางใด

การใชว้ ิจารณญาณสารโนม้ นา้ วใจควรปฏิบัติ ดงั น้ี
1. สารนน้ั เรยี กร้องความสนใจมากน้อยเพียงใด หรอื สรา้ งความนา่ เชื่อถอื อย่างไร
2. สารท่ีนำเสนอนั้น สนองความตอ้ งการพื้นฐานของผ้อู ่านอย่างไร
3. สารได้เสนอแนวทางท่ีสนองความต้องการของผู้อ่านหรอื มีส่ิงใดแสดงความเห็นว่า

หากผู้อ่านยอมรบั ขอ้ เสนอนน้ั แล้วจะได้รับประโยชน์อะไร
4. สารท่ีนำมาเสนอน้ัน เรา้ ใจให้เชือ่ ถือเกี่ยวกบั สิง่ ใด และตอ้ งการปฏบิ ตั ิแบบใด
5. ภาษาที่ใช้ในการโนม้ นา้ วใจนัน้ มลี ักษณะทำให้ผู้อา่ นเกิดอารมณอ์ ยา่ งไร

แนวทางการพิจารณาเน้ือหางานเขียนประเภทโนม้ นา้ วใจ ดังนี้
1. อา่ นเรอ่ื งหรอื เนอื้ หาให้เข้าใจกอ่ นวา่ เปน็ เร่ืองเกย่ี วกบั อะไร
2. สำรวจคำ ประโยค วา่ มกี ารใช้ภาษาท่ีกล่าวเกนิ จริงหรอื ไม่ อยา่ งไร
3. ตอบคำถามจากเร่ืองทอี่ า่ น โดยตอบใหต้ รงประเดน็ และใจความสมบรู ณ์
4. วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับเนอื้ หาว่ามคี วามนา่ เชื่อถือหรือไม่ อยา่ งไร
5. ประเมินและตดั สนิ เกย่ี วกับโฆษณาหรอื เนือ้ หาของสอื่ ประเภทโนม้ น้าวใจ

ตวั อย่าง งานเขียนประเภทโน้มน้าวใจ

ดลู ักซ์ อซี ่ีแคร์ พลสั สนี ำ้ ทาภายในระดบั ซูเปอรพ์ รเี มยี ม
พรอ้ ม KidProof + Technology™ ป้องกันคราบฝังลึกและตอ่ ตา้ นแบคทเี รีย

ผนังเลอะแคไ่ หนกเ็ อาอยู่ ในชวี ติ ประจำวนั อาจเกดิ คราบสกปรกเปรอะเปื้อน
ผนังได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นคราบเคร่ืองด่ืมหกเลอะเทอะ หรือคราบโคลนสกปรกจาก
ลูกฟุตบอลที่ลูก ๆ เล่นในบ้าน แต่ไม่ว่าจะคราบสกปรกเลอะแค่ไหนคุณก็เอาอยู่
ดว้ ยสีดูลกั ซ์ อซี แี่ คร์ พลสั ที่จะช่วยให้คุณเชด็ ล้างคราบสกปรกไดอ้ ยา่ งง่ายดาย

แหลง่ ทม่ี า https://www.dulux.co.th

แนวการตอบคำถาม ดงั น้ี
1. งานเขียนโนม้ น้าวใจนี้จดั เปน็ ประเภทใด
ตอบ ประเภทโฆษณา
2. งานเขียนนเ้ี ปน็ เรื่องเกยี่ วกับอะไร
ตอบ เป็นเร่อื งเก่ยี วกบั สที าบ้าน
3. ภาษาทใ่ี ชม้ ลี กั ษณะเป็นอยา่ งไร
ตอบ ใชภ้ าษาทีก่ ล่าวเกนิ จรงิ เช่น “ผนังเลอะแค่ไหนก็เอาอย”ู่
ซงึ่ ในความเปน็ จริงแล้วหากมคี ราบสกปรกฝังแน่น อาจทำความสะอาดได้ไม่หมด
จึงถือว่าเปน็ การกลา่ วเกนิ จริง
4. นกั เรยี นอ่านงานเขียนนีแ้ ลว้ ได้ขอ้ คิดเกี่ยวกบั การซือ้ สินค้าอยา่ งไร
ตอบ ไมค่ วรซอ้ื สนิ ค้าที่กลา่ วเกินจรงิ หรอื ซอื้ สนิ คา้ ที่มรี ปู ลักษณภ์ ายนอกสวยงาม
แต่ควรเลือกซื้อสนิ คา้ ท่มี คี ณุ ภาพและมปี ระโยชน

ใบงานท่ี 6 เรื่อง การอา่ นงานเขยี นประเภทโนม้ นา้ วใจ
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เร่ือง เรยี งรอ้ ยความคิดพินิจภาษา
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๖ เร่อื ง การอา่ นงานเขียนประเภทโนม้ น้าวใจ
รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕

คำชีแ้ จง อา่ นงานเขียนประเภทโนม้ นา้ วใจท่ีกำหนดให้ จากน้นั ตอบคำถาม วเิ คราะหแ์ ละ
แสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งทีอ่ า่ น

ปากกาตราหมูนอ้ ยตดิ ปีก

“ใช้ง่าย ใช้ดี เขียนสวยทุกตัวอักษร” ต้องปากกกาตราหมูติดปีก ทำมาจาก
วัสดุช้ันเย่ียม น้ำหมึกสีสวย เส้นคมชัดลึก ออกแบบโดยนักวิชาการด้านเคร่ืองเขียน
ผลิตโดยโรงงานท่ีผ่านการรับรองมาตรฐานและคุณภาพ จากสำนักงานมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ปากการาคาด้ามละ 20 บาท หากซื้อภายในสิ้นปีนี้
จะมีของแถมเป็นกระเป๋าลายหมูน้อยติดปีก จำนวน 1 ใบ และซื้อ 2 แถม 1 ทันที
หากซ้ือตง้ั แต่ 10 โหลข้ึนไป จะได้รับส่วนลด 30 %

1. โฆษณานเ้ี ปน็ ขายสนิ ค้าเกยี่ วกับอะไร
ตอบ...............................................................................................................................

2. ภาษาท่ใี ชก้ ล่าวเกนิ จรงิ หรอื ไม่ อยา่ งไร
ตอบ...............................................................................................................................

3. นักเรยี นอา่ นงานเขยี นนแี้ ลว้ ได้ขอ้ คิดเกยี่ วกบั การซ้อื สินคา้ อย่างไร
ตอบ...............................................................................................................................
......................................................................................................................................

4. เนือ้ หาของโฆษณามคี วามนา่ เชอ่ื ถอื หรอื ไม่ อยา่ งไร
ตอบ...............................................................................................................................

5. นักเรียนจะซอ้ื ปากกาตราหมนู ้อยตดิ ปกี หรือไม่ เพราะอะไร
ตอบ...............................................................................................................................

ชอ่ื ...........................................นามสกุล...........................................ชัน้ .........เลขท.่ี .......

ใบความร้ทู ี่ 7 เรื่อง การจบั ประเดน็ สำคัญจากเรอ่ื งที่ฟงั และดู
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เรือ่ ง เรยี งรอ้ ยความคิดพินิจภาษา

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 เร่อื ง การจับประเด็นสำคัญจากเร่อื งที่ฟังและดู
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

การจับประเด็นสำคัญจากเรอ่ื งทฟี่ งั และดู
การจับประเด็นสำคัญจากเรื่องที่ฟังและดู เป็นการจับใจความสำคัญหรือข้อคิด หรือ

ความคิดหลักของเร่ืองที่ฟังและดู โดยใจความสำคัญนั้น จะเป็นสิ่งท่ีครอบคลุมเรื่องราว
ทัง้ หมดทฟ่ี งั และดู

ใจความสำคัญ หมายถึง ใจความที่สำคัญท่ีสุด หรือเรียกว่า เป็นหัวใจหลักของเรื่อง
นัน้ ทั้งหมด เช่น

1. การฟังและดูครูเล่านิทาน : ในนทิ าน 1 เรื่องจะมใี จความสำคญั หรอื ความคดิ
หลักของเรื่อง อาจเป็นข้อความหรือประโยคท่ีครอบคลุมเน้ือหาทั้งหมดของเร่ืองหรืออาจ
เปน็ ขอ้ คดิ ของเรอื่ ง

2. การฟังและดูขา่ ว/เหตุการณ์ในชวี ิตประจำวัน : ในแต่ละวนั เราจะได้ฟังและด
ข่าวหรอื เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำวนั ซ่ึงทำใหเ้ ราได้รู้และเป็นประสบการณ์น้นั ในเร่ือง
ที่ได้ฟังและดู มักจะมีความคิดหลัก หรือที่เรียกว่า “ประเด็นหลัก” ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจ
ภาพรวมได้โดยง่าย

หลกั การจบั ประเดน็ สำคัญจากเร่ืองทฟี่ ังและดู
๑. ต้ังจุดมุ่งหมายในการฟังและดใู หช้ ัดเจน
๒. ฟังและดเู ร่ืองราวอย่างคร่าว ๆ พอเขา้ ใจ และเกบ็ ประเด็นท่ีสำคัญ ๆ ของเร่ือง
๓. เม่ือฟังและดูจบให้ต้ังคำถามตนเองว่าเร่ืองที่อ่านมี “ใคร ทำอะไร ท่ีไหน เม่ือไร

อย่างไร”
๔. นำส่ิงท่ีสรุปได้มาเรียบเรียงใจความสำคัญใหม่ด้วยสำนวนของตนเอง เพ่ือให้เกิด

ความสละสลวย

หลกั การฟังท่ดี ี
๑. ฟังให้ตรงจุดประสงค์ คือ กำหนดจุดประสงค์ในการฟัง เช่น ฟังเพื่อเอาความรู้

ฟงั เพอ่ื สรุปความรู้
๒. ฟงั ด้วยความพร้อม คือ ตอ้ งมคี วามพร้อมทง้ั ทางรา่ งกาย จิตใจ และสติปญั ญา
๓. ฟังอย่างมีสมาธิ คอื มคี วามตงั้ ใจ จดจ่ออยู่กับเรอ่ื งที่ฟังหรอื ดู ไม่ฟงุ้ ซ่าน
๔. ฟังดว้ ยความกระตอื รอื ร้น คอื มคี วามสนใจ เหน็ ประโยชน์หรือคณุ ค่าของเรื่อง
๕. ฟังโดยไม่มีอคติ คอื ไมม่ คี วามลำเอยี ง ซงึ่ เกิดจากความรัก ความโกรธ
๖. ฟังโดยใช้วิจารณญาณ คือ นำสิ่งที่ฟังมาประเมินว่ามีประโยชน์หรือน่าเช่ือถือมาก

น้อยเพยี งใด

มารยาทในการฟังและดู
๑. ฟังและดูดว้ ยความสงบ เพราะจะชว่ ยใหม้ สี มาธิมากขน้ึ
๒. ฟังและดูดว้ ยความตงั้ ใจ และจดบันทกึ ประเด็นสำคญั
๓. ปรบมอื แสดงอาการ เมื่อประทับใจ
๔. มองหนา้ และสบตาของผ้พู ดู
๕. เม่อื มีขอ้ สงสยั ควรยกมอื ถามหลังผูพ้ ดู เปดิ โอกาสใหถ้ าม
6. ไม่ควรถามแทรกขณะท่ีผพู้ ูดกำลังพูดอยู่
7. ไม่สง่ เสยี งดังรบกานผ้อู ่ืนขณะฟงั
8. ไม่ควรแสดงท่าทาง สีหน้า เมอื่ ไมพ่ อใจผพู้ ดู
9. ตงั้ ใจฟงั และดูเรอ่ื งราว ตงั้ แต่ต้นจนจบ ไมค่ วรลุกเดินหนอี อกจากทปี่ ระชุม
10. ไม่ควรแสดงกิริยาทีไ่ มเ่ หมาะสม เช่น โห่รอ้ ง หัวเราะเสยี งดงั พดู ตะโกน

ใบงานที่ 7 เรือ่ ง การจับประเด็นสำคัญจากเรอ่ื งที่ฟงั และดู
หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 เรอ่ื ง เรียงรอ้ ยความคิดพนิ จิ ภาษา
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 8 เร่อื ง การจบั ประเด็นสำคญั จากเร่ืองที่ฟงั และดู
รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕

คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นฟงั และดนู ิทานทคี่ รกู ำหนด จากนน้ั ตอบคำถามจากเรื่องให้ถูกตอ้ ง

นิทานเร่อื ง...................................................................................

คำถาม คำตอบ
1. นทิ านเรอ่ื งน้ีมีตวั ละครก่ีตวั ใครบา้ ง
..............................................................................
..............................................................................

2. เหตกุ ารณใ์ นเรื่องเกดิ ข้ึนสถานที่ใดบ้าง ..............................................................................
..............................................................................

3. ผลของเรอื่ งเปน็ อยา่ งไร ..............................................................................
..............................................................................

4. ประเด็นสำคญั ของนทิ านเรอื่ งนีค้ อื อะไร ..............................................................................
..............................................................................

5. นกั เรียนจะปฏบิ ตั ติ นตามตัวละครตัวใด ..............................................................................

เพราะเหตุใด ..............................................................................

6. นิทานเรอื่ งนีใ้ ห้ขอ้ คดิ อะไรบ้างที่เป็น ..............................................................................

ประโยชนแ์ ก่นกั เรยี น ..............................................................................

7. นกั เรยี นจะนำขอ้ คดิ ทไ่ี ดไ้ ปปรับใช้ใน ..............................................................................

ชวี ติ จริงไดอ้ ยา่ งไร ..............................................................................

ช่ือ.........................................นามสกลุ .........................................ชน้ั ...........เลขท่.ี ........

ใบความร้ทู ่ี 8 เรอ่ื ง การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากเร่ืองทอี่ ่าน
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๘ เรือ่ ง เรียงรอ้ ยความคดิ พนิ จิ ภาษา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เรอื่ ง การเขยี นแสดงความคิดเห็นประเด็นน่ารู้
รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕

การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากเรื่องท่ีอา่ น

การเขียนแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน เป็นการเขียนขยายความคิดเห็นของ
ผู้อ่านที่มีต่อเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงท่ีอ่าน โดยอธิบายหรือแสดงความคิดเห็นประกอบเร่ืองนั้น
ผู้เขียนต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าถูกต้องหรือไม่ แล้วเขียนให้กระจ่างชัด โดยมีหลักฐาน
ประกอบอา้ งองิ

การเขียนแสดงความคิดเห็น จะต้องเขียนอธิบายขยายความอย่างมีเหตุผลสอดคล้อง
กับข้อความเดิมเสมอ ผู้เขียนต้องใช้ความคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลด้วย ต้องรู้จักวิเคราะห์
ขอ้ ความ และใช้เหตุผลประกอบการวิเคราะห์

ดังนัน้ การเขียนแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งท่อี ่าน ผ้เู ขยี นควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

หลกั การเขียนความคดิ เห็นจากเรอ่ื งทีอ่ ่าน
1. อ่านทำความเข้าใจเร่ืองทีจ่ ะเขียนให้เขา้ ใจแจ่มแจง้
2. เขียนข้อมูลหรือข้อเท็จจริงก่อน แล้วจึงกล่าวความรู้สึกหรือความคิดเห็น โดยใช้

เหตุผลหรือหลกั ฐานประกอบ
3. ควรเขยี นในเชงิ สรา้ งสรรค์ และมขี ้อเสนอแนะ
4. มีมารยาทในการเขียน เขยี นด้วยภาษาท่ีสภุ าพ ไม่ใชถ้ ้อยคำรนุ แรง
5. ควรเขียนแบบร่างก่อนทุกครั้ง และตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขสำนวนภาษา รวมท้ัง

ตรวจทานการเขียนสะกดคำให้ถูกตอ้ ง

วิธกี ารวเิ คราะห์
1. หาคำหลกั ของขอ้ ความใหไ้ ด้
2. นำคำหลักมาอธิบายขยายความ โดยนำความรู้และประสบการณ์มาอธิบายให้

ชดั เจนข้นึ อย่างมีเหตผุ ล
ขอ้ ความ “คนทท่ี ำมาหากนิ อยา่ งสุจริต จะทำให้สังคมเปน็ สุข”
ตวั อยา่ ง คำหลกั : ทำมาหากิน สุจรติ สขุ

การเขียนแสดงความคดิ เห็น

คนท่ีทำมาหากินสุจริตย่อมทำให้สังคมเป็นสุข คำว่า “สุจริต” คือ การทำในส่ิงท่ี
ถูกต้อง ไมผ่ ิดศีลธรรม เม่ือคนเราทำมาหากินสุจริต ไม่คดโกงผอู้ ่ืนก็ย่อมทำให้คนในสงั คม
ไม่เดือดร้อน เพราะคนไม่คดโกงกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน แต่ถ้าคนทำมาหากินในทาง
ทจุ ริต เชน่ ลักขโมย คดโกงผู้อื่น ผู้คนในสังคมก็เดือดร้อน สังคมก็ไมส่ งบสุข ดังนั้น คนที่
ทำมาหากินสุจรติ จงึ ทำใหส้ ังคมสงบสุข

ใบงานที่ 8 เรอ่ื ง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งท่อี ่าน
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๘ เร่ือง เรยี งรอ้ ยความคดิ พนิ ิจภาษา

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 8 เรื่อง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ ประเดน็ นา่ รู้
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนเขียนแสดงความคิดเหน็ จากเรอื่ งทก่ี ำหนดให้อยา่ งมเี หตผุ ล

เรือ่ งของกล้วยแตไ่ ม่กล้วย

กล้วย เป็นผลไม้ที่ช่วยลดและบรรเทาอาการปวดหัว อันเกิดจากโรคไมเกรนได้
อย่างแนจ่ ริงเลยทีเดยี ว โดยเมอ่ื มีอาการปวดหัวไมเกรน แล้วกินกล้วยเขา้ ไป สารอาหาร
ประเภทแมกนีเซียมที่สะสมอยู่ในกล้วย จะช่วยบรรเทาและระงับอาการปวดหัวลงได้
นอกจากนี้ ถ้าเป็นกล้วยที่ผ่านการแปรรูปเป็นอาหารบางชนิด เช่น ไอศกรีมกล้วยหอม
กล้วยตาก ขนมกล้วย ก็จะมีส่วนช่วยลดความเครียด อันเป็นปัจจัยหน่ึงในสาเหตุของ
โรคไมเกรนได้อีกด้วย ดังน้ันเราควรรับประทานกล้วยอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ลูก หรือ
รับประทานควบคูก่ ับอาหารชนิดอ่ืน ๆ ก็ได้

ตอบคำถามและเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากเรอ่ื ง
1. บทความน้กี ลา่ วถงึ สรรพคุณของกลว้ ยอยา่ งไร

......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................

2. เม่อื ทราบสรรพคุณของกล้วยแลว้ นกั เรยี นจะรับประทานกล้วยหรอื ไม่ เพราะอะไร
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................

3. นกั เรียนจะแนะนำใหค้ นในครอบครับของตนเองรับประทานกลว้ ยหรอื ไม่ เพราะอะไร
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................

4. นกั เรียนมคี วามคดิ เห็นเก่ียวกับบทความเรอื่ งของกล้วยแต่ไม่กล้วยอย่างไร
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................

5. นกั เรียนคิดวา่ “กลว้ ย” สามารถนำไปแปรรปู หรือประกอบอาหาร/ขนมอะไรไดบ้ า้ ง
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................

ชอ่ื .........................................นามสกลุ .........................................ชนั้ ...........เลขท.่ี ........


Click to View FlipBook Version