The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by No.18 อรพรรณ, 2023-03-28 15:35:16

การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง)

การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง)

Keywords: วิจย

41 ความคิดเชิงเหตุผลในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือประเมินค่า เพื่อที่นักเรียนมีความสามารถ ในการตอบค าถามในชุดกิจกรรมและนักเรี ยนมีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการอ่าน จับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ชนกพร สุริโย (2562) ได้ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ ของนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่6 โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ กกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย โดยวตัุประสงคใ์นการวิจยัคร้ังน้ีไดแ้ก่การหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึก ของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทยที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 หาค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เปรียบเทียบความสามารถ ทางด้านการคิดวิเคราะห์ของนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยหลัง เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ กกับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่6 ต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึกกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มตวัอย่างที่ใช้ในการวิจยั ได้แก่ นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6/7 จ านวน 42 คน โรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2561 ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจยั ไดแ้ก่แผนการจดัการ เรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ กจ านวน 12 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนแบบเลือกตอบ จ านวน 20 ข้อ แบบวัดความสามารถการอ่านคิดวิเคราะห์แบบ เลือกตอบจ านวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ 5 ระดับ จ านวน 10 ข้อผลการวิจัย พบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึกของนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.01/82.44 ซึ่งเป็ นไปตามเกณฑ์ที่ได้ ต้งัไว้เนื่องจากกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ช่วยให้นักเรียนได้ฝึ กฝนการอ่านคิด วิเคราะห์อยู่เสมอจากเรื่องง่ายไปเรื่องยากประสิทธิภาพผลการเรียนรู้ของนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีค่าเท่ากับ 0.7151 คิดเป็ นร้อยละ 71.51 เนื่องจากเทคนิคการสอน 5W1H เป็ นการฝึกต้งัค าถามเชิงวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงใหม่ ๆ ความเข้าใจใหม่ ๆ อันเป็ นประโยชน์ต่อการอธิบาย การประเมิน การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ รอบคอบ มากยงิ่ข้ึน นกัเรียนที่เรียนดว้ยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชเ้ทคนิค 5W1H ประกอบแบบ ฝึ กมีความสามารถด้านการอ่านคิดวิเคราะห์หลังเรียนคิดเป็ นร้อยละ 82.02 สูงกว่าร้อยละ 80 เนื่องจากกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ กท าให้นักเรียนเข้าใจถึง


42 หลักการ ความส าคญัความสัมพนัธ์ของเรื่องที่อ่านมากข้ึน จนเกิดการพฒันาความสามารถ ทางด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู้ โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ กอยู่ในระดับมาก เนื่องจากเมื่อนักเรียนได้เรียนจบใน แต่ละแผนแล้ว นักเรียนจะได้ท าแบบฝึ กเพื่อพัฒนาความสามารถทางด้านการคิดวิเคราะห์ ซ่ึงผูว้ิจัยใช้เน้ือหาจากหนังสือเรียนภาษาพาทีและอินเทอร์เน็ต ซ่ึงมีเน้ือหาที่สนุกสนาน แฝงความรู้และเหมาะสมกับพัฒนาการของนักเรียน จึงท าให้นักเรียนเกิดความสนุกสนาน จากการศึกษางานวิจัยข้างต้นพบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H สามารถ พัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ การคิดวิเคราะห์ของนักเรี ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องการกระบวนการในการจัดท าแผนในการจัดการเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการ เรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ที่มีความน่าสนใจ ท าให้นักเรียนมีทักษะในการอ่านจับใจความเพื่อน าไป ต่อยอดในการอ่านและการวิเคราะห์สังเคราะห์และประมวลผลขอ้มูลไดอ้ยา่งถูกตอ้งพร้อมท้งั มีเจตคติที่ดีในการอ่านจับใจความ คณะผู้วิจัยสามารถน าข้อมูลจากงานวิจัยข้างต้นมาเป็ น แนวทางในการการศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่2 เพื่อให้นักเรียนเกิดองค์ความรู้ในเรื่องการอ่านจับใจความ และสามารถน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยงิ่ข้ึน 2.7.2 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ Mohammad (2009) ได้ท าการวิจัยในการอ่านของนักเรียนโรงเรียน MAN Mojokerto ซ่ึงความสามารถในการอ่านของนักเรียนยงัไม่มีเพียงพอการวิจยัน้ีออกแบบเพื่อพฒันาความ เข้าใจในการอ่านของนักเรียนเมื่อใช้กลวิธี PQ4R ในกิจกรรมที่ใช้ PQ4R น้ีนักเรียนได้รับ มอบหมายให้จับใจความเน้ือเรื่องด้วยข้ันตอน preview, question, read, reflect, recite และ review นักเรียนกลุ่มทดลองมีอายุ 10 ปี จ านวน 42 คนเป็ นนักเรียนโรงเรียน MAN Mojokerto ใน East Java ปี การศึกษา 2008/2009 การวิจยัน้ีท า 2 รอบ แต่ละรอบมีการประชุมกัน 2 คร้ัง ข้อมูลจากการวิจัยประกอบด้วยเอกสารการสังเกตการณ์ เป็ นข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของครูและ นักเรียน และข้นัตอนระหว่างการเสริมด้วยกลยุทธ์ PQMR บันทึกเกี่ยวกับการสังเกตการสอน และแบบทดสอบเพื่อระบุความคืบหน้าความเข้าใจในการอ่านของนักเรียน ซึ่งงานวิจัยแสดง ให้เห็นว่าการให้การเสริมด้วยกลยุทธ์ PQMR ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความเข้าใจใน การอ่านสามารถ ส่งเสริมทกัษะความเขา้ใจของนักเรียนให้ดีข้ึนได้มากกว่าหรือเท่ากับ 65


43 คะแนนในรอบแรกที่มีนักเรี ยนเพียง 25 คน จากจ านวนนักเรี ยน 42 คน หรื อคิดเป็ น ร้อยละ 59.52 แต่ในรอบที่ 2 นักเรี ยนมีคะแนนมากกว่าหรื อเท่ากับ 65 คะแนน 34 คน จากจ านวนนักเรียน 42 คน หรือคิดเป็ นร้อยละ 80.45 แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในการอ่าน จบั ใจความของนักเรียนที่สูงมากข้ึนอย่างมีนัยส าคญั จากการที่นักเรียนในช้ันเรียนยงัมีการ แบ่งปันความคิด การดูก่อนอ่าน การตอบ คา ถาม การอ่าน การสะท้อน การท่องและการ ตรวจทาน ด้วยกลยุทธ์ PQ4R Kai (2011) ศึกษาวิจัยเรื่องการเรียนรู้แบบร่วมแรงร่วมใจ สืบสอบหาความรู้ โดยมี โครงงานเป็ นฐานซึ่ งมีผลต่อความสามารถในการอ่านและทัศนคติ (Collaborative inquiry project based learning: Effects on reading ability and interests) การวิจัยพบว่าผลการเรียนของ นักเรี ยนได้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการอ่านและทัศนคติ โดยจาก ผลการวิจัยพบว่านักเรียนในโรงเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 ในประเทศฮ่องกงได้ท าการ ทดสอบความสามารถในการอ่านจับใจความจากแบบทดสอบ แบบสอบถามและการสัมภาษณ์ เพื่อวิเคราะห์ทัศนคติของนักเรียน ผลปรากฏว่า คะแนนความสามารถในการอ่านและข้อมูล ทศันคติของนกัเรียนน้นัมีผลในเชิงบวก ท้งัยงัเห็นไดว้่าทศันคติของนกัเรียนและความสามารถ ในการรับรู้ของตนเอง ส่งผลดีต่อการพัฒนาความสามารถในการอ่าน ท าให้นักเรียนสามารถ เรียนรู้เขา้ใจจากการอ่านไดเ้ร็วยงิ่ข้ึน จากการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เพื่อพัฒนาทักษะ การอ่านจบั ใจความน้นัมีการจดัการเรียนรู้ท้งัในประเทศและต่างประเทศ ซ่ึงในแต่ละประเทศมี เทคนิคและวิธีการในการจดัการเรียนรู้ที่แตกต่างกนัท้งัน้ีข้ึนอยกู่บั นักเรียนและศักยภาพของครู ในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน และยึดนักเรียน เป็นส าคญัดงัน้ัน คณะผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาการจดัการเรียนรู้โดยใชเ้ทคนิคการต้งัค าถาม 5W1H มาใช้ในกิจกรรมการเรี ยนรู้เพื่อเพิ่มทักษะความสามารถในการอ่านจับใจความ สร้างองค์ความรู้ความเข้าใจในการอ่านที่ดียิ่งข้ึน ท าให้บรรลุผลตามที่มุ่งหวัง ได้ค าตอบหรือ ผลผลิตตามที่วางแนวทางไว้ด้วยเทคนิคการต้งัค าถาม 5W1H เป็นตวัส่งเสริมและช้ีแนวทางใน การเรียนรู้และเพิ่มประสิทธิภาพดา้นการอ่านของนักเรียน


44 2.5กรอบแนวคิดการวิจัย จากการศึกษาแนวคิดและหลักการเกี่ยวกับการจัดการเรี ยนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน จับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H คณะผูว้ิจยัได้สังเคราะห์ข้นัตอนการจดัการเรียนรู้ดังกล่าวและได้ ก าหนดกรอบแนวคิดในการวิจัย โดยก าหนดตัวแปรต้นคือ แนวคิดการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความของ Kipling (อ้างถึงใน กมลพร ทองนุช และจุไรรัตน์ ลักษณะศิริ, 2561) ไดแ้ก่Who (ใคร) What (อะไร) Where (ที่ไหน) When (เมื่อไหร่) Why (ท าไม) และ How (อย่างไร) ตัวแปรตาม คือ ทักษะการอ่านจับใจความส าหรับนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2โรงเรียน สาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ตามมาตรฐานการเรียนรู้ท 1.1 ใช้กระบวนการ อ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อน าไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการด าเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตวัช้ีวดัการอ่าน ท 1.1 ป.2/4 ระบุใจความส าคัญและรายละเอียดจากเรื่องที่อ่าน ดงัภาพที่1 ดงัน้ี ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดการวิจัย การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความ Who = ใคร What = อะไร Where = ที่ไหน When = เมื่อไหร่ Why = ท าไม How = อย่างไร Kipling (อ้างถึงใน กมลพร ทองนุช และจุไรรัตน์ลักษณะศิริ, 2561) ทักษะการอ่านจับใจความ ส าหรับนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ ายประถมศึกษา (มอดินแดง)


บทที่ 3 วิธีด าเนินการวิจัย การวิจัยเรื่ องการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง)คณะผู้วิจัย ไดด้า เนินการตามข้นัตอนดงัน้ี 3.1 ระเบียบวิธีวิจัย 3.2 ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง 3.3 ตัวแปรที่ท าการวิจัย 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3.5 การสร้างและหาประสิทธิภาพของเครื่องมือ 3.6การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection) 3.7 การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) 3.1 ระเบียบวิธีวิจัย การวิจัยเรื่ องการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ในคร้ังน้ีเป็น การวิจยัรูปแบบการวิจยัเชิงทดลองแบบเบ้ืองตน้ 3.2 ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง 3.2.1 ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในคร้ังน้ีเป็นนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรี ยนสาธิต มหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2565 จ านวน 180 คน


46 3.2.2 กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในคร้ังน้ีเป็นนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2565 ห้อง 2/1 จา นวน 38 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง 3.3 ตัวแปรที่ท าการวิจัย ตัวแปรต้น คือ การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ตัวแปรตาม คือ ทกัษะการอ่านจับใจความของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ ายประถมศึกษา (มอดินแดง) 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3.4.1 เครื่องมือที่ใช้ในการด าเนินการวิจัย แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การอ่านจับใจความ 3.4.2 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ใบภารกิจการเรียนรู้ เรื่อง จับใจความแสนสนุก 3.5 การสร้างและหาประสิทธิภาพของเครื่องมือ (Tool Development and Quality of Tool) 3.5.1แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค 5W1H จ านวน 1 แผน แผนละ 1ชวั่โมง โดยไดท้า การสร้างและหาประสิทธิภาพของเครื่องมือตามลา ดบัข้นัตอนดงัน้ี 1)ศึกษาหลักการและวิธีการสอน โดยใช้เทคนิค 5W1H จากเอกสารและงานวิจัยที่ เกี่ยวข้อง 2)ศึกษาหลกัสูตรการศึกษาข้นัพ้ืนฐาน พุทธศกัราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ในรายวิชาภาษาไทย เรื่อง


47 การอ่านจบั ใจความสา คญักลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 2 โดยศึกษา สาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้ 3) สร้างแผนการจดัการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ช้ันประถมศึกษา ปี ที่2 เรื่องการอ่านจับใจความส าคัญ โดยใช้เทคนิค 5W1H ให้สอดคล้องกับค าอธิบายรายวิชา เพื่อสร้างแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการอ่านจับใจความ จ านวน 1 แผน แผนละ 1 ชวั่โมง 4) น าแผนการจัดการเรี ยนรู้เรื่ อง การอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค 5W1H ที่คณะผูว้ิจยัสร้างข้ึนให้อาจารยท์ ี่ปรึกษาพิจารณาความเหมาะสมของแผนการจดัการเรียนรู้ ตรวจสอบความถูกตอ้งของเน้ือหาสาระกิจกรรมการเรียนรู้การวัดและประเมินผล การให้ ข้อเสนอแนะและปรับปรุงแก้ไขตามข้อแนะน าของอาจารย์ที่ปรึกษา 5) น าแผนการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค 5W1H เสนอผู้เชี่ยวชาญ จ านวน 3 คน เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องขององค์ประกอบต่าง ๆ ในแผนการจัดการเรียนรู้ ด้านภาษาและความเที่ยงตรงเชิงเน้ือหารายข้อ (Item Content Validity) จุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล ความชัดเจน ความถูกต้องเหมาะสมของภาษาที่ใช้ และน าข้อมูลที่รวบรวมจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมาค านวณหาค่าความเที่ยงตรงเชิง เน้ือหารายขอ้ (Item Content Validity) โดยใช้ดัชนีความเที่ยงตรงรายข้อ(Item Content Validity ; I-CVI) (Lynn, 1986)โดยใหผ้เู้ชี่ยวชาญใหค้ะแนนความคิดเห็นในการพิจารณา ดงัน้ี 1 หมายถึงไม่สอดคล้อง 2 หมายถึง สอดคล้องบางส่วน 3 หมายถึง ค่อนข้างสอดคล้อง 4 หมายถึง มีความสอดคล้องมาก ข้อที่ได้รับการประเมิน 3 หรือ4 เท่าน้นัจึงจะนบัวา่มีความเที่ยงตรงเชิงเน้ือหา ดงัน้นั ในลักษณะการค านวณจริง จึงมีลักษณะเป็ นข้อมูลทวิ (dichotomous) คือ ไม่สอดคล้อง (1 หรือ2) และสอดคล้อง (3 หรือ4)


48 การหาดัชนีความเที่ยงตรงรายข้อ (Item content validity ; I-CVI) หาได้จากจ านวน ผูเ้ชี่ยวชาญที่ประเมินขอ้ความถามน้นั ในระดบัความสอดคลอ้ง(ประเมินระดบั 3 หรือ4 ) หาร ดว้ยจา นวนผเู้ชี่ยวชาญท้งัหมด ใหพ้ ิจารณาจากตวัอยา่ง I-CVI =Nc/N เมื่อ Ncแทน จ านวนผู้เชี่ยวชาญที่ประเมินข้อค าถามในระดับสอดคล้อง N แทน จา นวนผเู้ชี่ยวชาญท้งหมดั เกณฑ์ค่า CVI มีค่าเท่ากับ 0.67ข้ึนไป แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค 5W1H มีค่า CVI เท่ากับ 0.67-1.00 ตารางที่ 1 ตารางวิเคราะห์ความเที่ยงตรงเชิงเน้ือหาแผนการจดัการเรียนรู้รายขอ้ ข้อ ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 1 ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 2 ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 3 ค่า CVI 1 ✓ ✓ ✓ 1.00 2 ✓ ✓ 0.67 3 ✓ ✓ ✓ 1.00 4 ✓ ✓ 0.67 5 ✓ ✓ ✓ 1.00 6 ✓ ✓ ✓ 1.00 7 ✓ ✓ ✓ 1.00 8 ✓ ✓ ✓ 1.00 9 ✓ ✓ ✓ 1.00 สัดส่วนคะแนน 1.00 0.89 0.89


49 6) น าแผนการจัดการเรี ยนรู้เรื่ อง การอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค 5W1H ไป ปรับปรุง แก้ไขตามค าแนะน าของผู้เชี่ยวชาญและน าแผนการจัดการเรี ยนรู้ไปใช้ในการ ด าเนินการวิจัยต่อไป 3.6 การเกบ็รวบรวมข้อมูล(Data Collection) คณะผู้วิจัยได้ทดลองจัดกิจกรรมการเรียนรู้ส าหรับนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ ายประถมศึกษา (มอดินแดง) โดยได้ด าเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล ตามข้นัตอนดงัน้ี 1) อธิบายและช้ีแจงกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านจบั ใจความโดยใชเ้ทคนิค5W1H ให้นักเรียน เข้าใจ 2) ด าเนินการจัดกิจกรรมโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความ จ านวน 1 แผน แผนละ 1 ชวั่โมง 3) เมื่อเสร็จสิ้นการจดัการเรียนรู้ตามแผน นกัเรียนทา ใบภารกิจการเรียนรู้เรื่อง จับใจความแสน สนุก 4) เก็บรวบรวมขอ้มูลท้งัหมดนา ไปประมวลผลและวิเคราะห์ 3.7 การวิเคราะห์ข้อมูล(Data Analysis) ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการด าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ท าการวิเคราะห์ ขอ้มูล ดงัน้ี 1) วิเคราะห์ทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H โดยใช้ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 2) สรุปผลและอภิปรายผลโดยใช้ตารางและการพรรณนาวิเคราะห์


บทที่ 4 ผลการวิจัยและอภิปรายผล งานวิจัย เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) คร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิ ค 5W1H ส าหรับนักเรี ยน ช้นั ประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) และกลุ่ม ตวัอย่างที่ใช้ในการวิจยัในคร้ังน้ีเป็นนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2565 ห้อง 2/1 จ านวน 40 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง ผู้วิจัยได้มีการจัดท าแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดิน แดง) จ านวน 1 แผน ประกอบด้วย มาตรฐานการเรียนรู้ตวัช้ีวดัสาระส าคญัจุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ เครื่องมือการวัดผลและประเมินผล รวมถึงเอกสารส าหรับ นกัเรียน ไดแ้ก่สื่อประกอบการจดัการเรียนรู้เรื่อง การอ่านจบั ใจความ และใบภารกิจการเรียนรู้เรื่อง จับใจความแสนสนุก โดยคณะผูว้ิจัยได้ดา เนินตามข้ันตอนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H และน าเสนอ ผลการวิจยัซ่ึงมีรายละเอียดตามวตัถุประสงคด์งัต่อไปน้ี


51 4.1 ผลการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ผลการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนกัเรียนช้นั ประถมศึกษา ปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) มีดงัน้ี 4.1.1 ผลที่ได้จากการด าเนินการวิจัย จากการศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง)คณะผูว้ิจยัจึงมี การน าเสนอผลที่ได้จากการวิจัย ตามรูปแบบกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง โดยพบผลการด าเนินการตาม กระบวนข้นัดงัน้ี กระบวนการวิจัยเชิงทดลองที่ผู้วิจยัใชใ้นการจดัการเรียนรู้มีท้งัหมด 4 ข้นัตอน ไดแ้ก่ ข้นัที่1 ข้นัวางแผน (Plan) ข้นัที่2 ข้นั ปฏิบตัิ(Act) ข้นัที่3 ข้นัสังเกตการณ์(Observe) ข้นัที่4 ข้นัสะทอ้นผลการปฏิบตัิ(Reflect) ผลการดา เนินการวิจยัจึงสรุปไดด้งัต่อไปน้ี ข้นัที่1 ข้นัวางแผน (Plan) ข้นัแรกของการดา เนินการวิจัยเชิงทดลอง เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ผวู้ิจยัไดส้า รวจขอ้มูลพ้ืนฐานของนกัเรียนกลุ่มตวัอยา่ง โดยมีการติดต่อพูดคุยกบันกัศึกษา ปฏิบัติการสอนและครูที่รับผิดชอบในรายวิชาภาษาไทยเพื่อสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียน และทกัษะที่ควรพฒันา พบว่า นกัเรียนควรพฒันาทกัษะในดา้นการอ่านจบั ใจความเพิ่มเติม เนื่องจากมี


52 นักเรียนบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการอ่านจับใจความ เมื่อครูถามค าถามหรือให้เขียนตอบในใบ ภารกิจการเรียนรู้ นักเรียนมักตอบค าถามไม่ตรงประเด็นหรือไม่ครอบคลุมตามโจทย์ที่ก าหนดให้ ดังน้ัน ผูว้ิจัยจึงได้ปรึกษากับครูประจ าช้ันเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนาทักษะการอ่านจับ ใจความของนกัเรียนให้ดียิ่งข้ึน จากน้นัจึงไดม้ีการการออกแบบเครื่องมือในการเก็บรวบรวมขอ้มูลใน การวิจยั ไดแ้ก่แผนการจดัการเรียนรู้และใบภารกิจการเรียนรู้เรื่อง จับใจความแสนสนุก ข้นัที่2 ข้นั ปฏิบตัิ(Act) คณะผู้วิจัยได้ด าเนินการวิจัยเชิงปฏิบัติการควบคู่กับกระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยการน า แผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย คณะผู้วิจัยได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลเป็ น 3 ข้นัตอน ดงัน้ี 2.1)การวิเคราะห์สภาพปัญหา เป็ นการรวบรวมข้อมูลที่เป็ นปัญหาเกี่ยวกับทักษะ ด้านการอ่านจับใจความ ให้แก่นักเรียนที่มีทักษะการอ่านไม่คล่อง หรือมีพ้ืนฐานด้านการ อ่านไม่คล่องจึงไม่สามารถจับใจความ เรี ยบเรี ยง เเละล าดับเหตุการณ์จากเรื่ องที่อ่านได้ โดยคณะผู้วิจัยได้ปรึกษากับอาจารย์ประจา รายวิชาภาษาไทย เกี่ยวกบั ปัญหาดงักล่าวที่เกิดข้ึน จากน้นัจึงนา ขอ้มูลที่ไดม้าสร้างเครื่องมือในการเก็บรวบรวมขอ้มูล 2.2)การทดลองวิธีการแกป้ ัญหา เป็นการนา เเอาเครื่องมือที่ไดส้ร้างข้ึนมาใช้ในการ จดัการเรียนการสอน ไดแ้ก่ 2.2.1)การทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้เป็นข้นัตอนการนา แผนการสอนที่ได้ วางแผนและปรับปรุง แก้ไขตามค าแนะน าของผู้เชี่ยวชาญแล้ว จ านวน 1 แผนการจัดการ เรียนรู้ เวลา 1 ชวั่โมงคือแผนการจดัการเรียนรู้เรื่อง การอ่านจบั ใจความ โดยใชเ้ทคนิคการ จัดการเรียนรู้ 5W1H ส าหรับนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย ขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ส าหรับข้ันทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้ คณะผู้วิจัยได้ปรับแผนการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับศักยภาพของนักเรียนดังที่ได้ กล่าวมาแล้วในข้ันวางแผน (Act) ซึ่ งลักษณะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย ข้นน า ัข้นัแสวงหาความรู้และข้นัสรุป มีรายละเอียดของผลการดา เนินการสอนดงัต่อไปน้ี


53 (1) ข้ันน า ครูมีการน าเข้าสู่บทเรียนโดยใช้กิจกรรม “พรายกระซิบ” โดยแบ่ง นักเรียนออกเป็ น 4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มส่งต่อประโยคที่ได้ไปเรื่อย ๆ ผ่านการกระซิบจนถึงคน สุดทา้ยในกลุ่มจากน้นั ให้คนสุดทา้ยเขียนคา ตอบลงในกระดาษและส่งครูกิจกรรมน้ีจะทา ให้นักเรียนได้เตรียมความพร้อมด้านความจา ก่อนน าเข้าสู่บทเรียน เรื่อง การอ่านจับ ใจความ โดยครูไดม้ีการอธิบายเน้ือหาและวิธีการจบั ใจความโดยใชเ้ทคนิค5W1H โดยใช้ คา ถาม ไดแ้ก่Who (ใคร) What (อะไร) Where (ที่ไหน) When (เมื่อไร) Why (ท าไม) How (อย่างไร) และเมื่อนักเรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ครูได้มีการกล่าวชมเชยนักเรียนเพื่อให้ เกิดเจตคติที่ดีในการเรียน (2) ข้ันแสวงหาความรู้นักเรียนได้มีการแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มย่อยจา นวน 5 กลุ่ม กลุ่มละ 6 -8 คนตามอัธยาศัย เพื่อร่ วมกันตอบค าถามในใบภารกิจการเรี ยนรู้เรื่ อง จับใจความแสนสนุก โดยครูได้ให้นักเรียนอ่านนิทานอีสป เรื่อง กระต่ายกับเต่า เพื่อให้ นักเรียนได้ฝึ กฝน พัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ และเพื่อทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมา ก่อนหนา้จากการลงมือทา เนื่องจากเรื่องน้ีเป็นเรื่องที่สนุกเหมาะสมกบัช่วงวยัของนักเรียน ท าให้นักเรียนเกิดความเพลิดเพลิน ใบภารกิจการเรียนรู้มีเน้ือหาและสีสันที่ดึงดูดความ สนใจของนักเรียน นอกจากน้ีการจดักลุ่มให้นักเรียนท างานด้วยกันท าให้นักเรียนมีการ แลกเปลี่ยนความรู้หรือความคิดเห็น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน น าไปสู่การสร้างองค์ความรู้ ใหม่ให้กับนักเรียนในกลุ่ม (3) ข้นัสรุป นักเรียนแต่ละกลุ่มตรวจสอบผลงานของตนเองและน าเสนอหน้า ช้นัเรียน จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกนัสรุปความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในช้ัน เรียน รวมถึงเชื่อมโยงเน้ือหาเรื่อง การอ่านจับใจความ ไปใช้ในชีวิตประจ าวัน ท าให้ นักเรียนเขา้ใจเน้ือหา เห็นความส าคัญของการอ่านจับใจความ สามารถน าไปต่อยอดและ ใช้ประโยชน์เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะการอ่านอย่างประสิทธิภาพ ข้นัที่3 ข้นัสังเกตการณ์(Observe) ขณะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผู้วิจัยได้ท าการสังเกตทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนกลุ่ม ตัวอย่าง พบว่า แต่ละกลุ่มมีลักษณะการด าเนินงานที่แตกต่างกัน เนื่องจากระหว่างการด าเนินกิจกรรม “มาสิ มาสิ มาจับใจความ” นักเรียนได้มีการแบ่งกลุ่มเป็ นกลุ่มย่อยจ านวน 5 กลุ่ม กลุ่มละ 6 -8 คนตาม อัธยาศัย เพื่อร่วมกันตอบค าถามในใบภารกิจการเรียนรู้เรื่อง จับใจความแสนสนุก แต่ละกลุ่มจะมี


54 นักเรียนบางคนที่ตอบช้ากว่าสมาชิกคนอื่น ในระหว่างที่สมาชิกในกลุ่มร่วมกันระดมความคิดเพื่อตอบ ค าถามในใบภารกิจการเรียนรู้หรือตอบไม่ตรงตามประเด็นที่ก าหนดให้ในใบภารกิจการเรียนรู้ดงัน้นั เมื่อด าเนินการตอบค าถามในใบภารกิจการเรียนรู้ครูจึงได้แนะน าและอธิบายเน้ือหาหรือค าถามที่ นักเรียนยงัไม่เขา้ใจ ตามข้นัตอนของเทคนิค 5W1H ได้แก่ ใคร ท าอะไร ที่ไหน เมื่อไร ท าไม และ อย่างไร จนน าไปสู่การด าเนินภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างสมบูรณ์ ท้งัน้ีจากการสังเกตทกัษะการ อ่านจับใจความและพฤติกรรมโดยรวม แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H เพื่อ พัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยที่นักเรียนได้รับค าแนะน าจากครู ท าให้นักเรียนเข้าใจและสามารถ ตอบคา ถามในใบภารกิจการเรียนรู้ตามข้นัตอนของเทคนิด 5W1H ไดด้ียงิ่ข้ึน มีความมุ่งมนั่ต้งัใจในการ ท างาน มีความร่วมมือร่วมใจกัน ท าให้นักเรียนทุกกลุ่มด าเนินงานในใบภารกิจการเรียนรู้ได้ส าเร็จ ถูกต้อง ครบถ้วนทุกประเด็น และสามารถส่งงานตามเวลาที่ก าหนดไว้ได้เป็ นอย่างดี ข้นัที่4 ข้นัสะทอ้นผลการปฏิบตัิ(Reflect) หลังจากผู้วิจัยได้ด าเนินการวิจัยเชิงปฏิบัติการควบคู่กบการจัดการเรียนการสอนแล้วผู้วิจัยพบ ปัญหาและอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอน ตามประเด็นต่าง ๆ ดงัต่อไปน้ี 4.1) ด้านความแตกต่างของนักเรียน ประกอบดว้ยนักเรียนที่มีพ้ืนฐานทกัษะการอ่าน อยู่ในเกณฑ์ที่ดี สามารถจับใจความจากเรื่องที่อ่านได้อย่างถูกต้อง ตอบค าถามเชิงวิเคราะห์ตาม กระบวนข้นัของ 5W1H จ านวน 6 ข้นั ไดแ้ก่ใคร ทา อะไร ที่ไหน เมื่อไร ทา ไม อย่างไรและมี นักเรียนบางส่วนที่มีพ้ืนฐานของทกัษะการอ่านที่ควรพัฒนา สามารถอ่านจับใจความได้บ้าง แต่ใช้เวลาค่อนข้างมากในการอ่านเนื่องจากยังอ่านไม่คล่อง ส่งผลให้ความสามารถในการ เรียนรู้ของนักเรียนไม่เท่ากัน เมื่อนักเรียนที่มีทักษะการอ่านจับใจความที่ดีสามารถเรียนรู้และ เข้าใจหลักอ่านจับใจความตามกระบวนข้ันของ 5W1H รวมท้ังสามารถตอบคา ถามจากใบ ภารกิจได้ด้วยตนเองแล้วมีการจับกลุ่มตามความสมัครใจ ส่งผลให้นักเรียนแต่ละกลุ่มมีสมาชิก ในกลุ่มที่มีพ้ืนฐานใกลเ้คียงกนัสามารถทา ใบภารกิจการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ถูกตอ้ง อีกท้งั คณะผู้วิจัยได้ให้ความช่วยเหลือและมีการแนะนา อย่างทวั่ถึง พบว่านกัเรียนที่มีทกัษะการอ่าน อ่อนกว่าเพื่อนร่วมช้ันสามารถเรียนรู้และเข้าใจในหลักการการอ่านจับใจความตาม กระบวนการต้งัคา ถาม ใคร ทา อะไร ที่ไหน เมื่อไร ทา ไม อย่างไร สามารถเรียบเรียงลา ดบั เหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านได้อย่างถูกต้อง


55 4.2) กิจกรรมการจดัการเรียนรู้ในช้นัเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ในเวลาเรียนประกอบไป ด้วย 3 ข้นัตอนหลกัคือข้นันา ข้นัแสวงหาความรู้และข้นัสรุป พบประเด็นในการดา เนินการ แต่ละข้นัตอน ดงัน้ี 4.2.1) ข้นันา ครูได้ออกแบบกิจกรรมการเตรียมพร้อมเข้าสู่บทเรียนที่มีความ น่าสนใจ แปลกใหม่ ท าให้นักเรียนเกิดความสนุกสนาน เป็ นการฝึ กสมองด้านการ จดจ าข้อความ มีการแข่งขันเพื่อให้นักเรียนเกิดความท้าทายและความสนุกในกิจกรรม ครูได้มีการกล่าวชื่นชมให้ก าลังใจ ส่งผลให้เกิดแรงจูงใจในการเรียนและกระตุ้นความ สนใจของนักเรียนได้เป็ นอย่างดี 4.2.2) ข้นัแสวงหาความรู้คณะผวู้ิจยัสรุปประเด็นไดด้งัน้ี (1) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณะผู้วิจัยได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นให้ นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการจับใจความที่ประกอบด้วย 6 ข้นัตอน ไดแ้ก่Who (ใคร) หัวขอ้น้ีนกัเรียนมีการวิเคราะห์ตวัละครที่อยู่ในเรื่อง ทา ให้ทราบถึง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว What (อะไร) นักเรียนจะได้วิเคราะห์ ปัญหาหรื อสาเหตุที่ท าให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในเรื่ อง Where (ที่ไหน) จากการอ่าน เน้ือเรื่องนกัเรียนไดม้ีการวิเคราะห์สถานที่ที่เกิดเหตุการณ์หรือว่าเหตุการณ์น้ีน่าจะเกิดข้ึนที่ใด มากที่สุด When (เมื่อไร) เป็ นเวลาที่เกิดเหตุการณ์ในเรื่องซึ่งนักเรียนจะได้วิเคราะห์ว่าเวลา ใดบา้งที่สถานการณ์เช่นน้ีสามารถเกิดข้ึนได้Why (ท าไม) นักเรียนได้มีการวิเคราะห์สาเหตุ หรือเหตุผลที่ท าให้เกิดเหตุการณ์ภายในเรื่อง และ How (อย่างไร) ส าหรับหัวขอ้น้ีนกัเรียนได้ วิเคราะห์ลักษณะความเป็นไปไดใ้นรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในเรื่อง ท้งัการกระทา ของตวัละคร การลา ดบัเหตุการณ์ว่าเกิดข้ึนได้อย่างไร รวมถึงมีหลกัในการพิจารณาลกัษณะ นิสัยของตวัละครอย่างไรบา้ง โดยมีการเรียงจากคา ถามที่ง่ายไปยากเริ่มตน้จากดา้นความจา ความเข้าใจ และค าถามเชิงวิเคราะห์ ครูใช้เทคนิคค าถามที่ชัดเจนท าให้นักเรียนสามารถตอบ ค าถามได้อย่างตรงประเด็น เข้าใจหลักการ ความสัมพันธ์ และเรียงล าดับเหตุการณ์ของเรื่องราว ได้อย่างครบถ้วน เกิดทักษะการอ่านจับใจความและสามารถน าไปประยุกต์ใช้ในการอ่านให้มี ประสิทธิภาพมากยงิ่ข้ึน


56 (2) การใช้สื่อและอุปกรณ์การเรียนรู้สื่อประกอบการเรียนรู้ไดแ้ก่สื่อนา เสนอ Power Point เรื่องการอ่านจบั ใจความ มีการนา เสนอเน้ือหาที่ส้ัน กระชบัทา ให้นักเรียนเข้าใจ หลักการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ได้ง่าย ใบภารกิจการเรียนรู้ เรื่อง จับใจความ แสนสนุก มีความน่าสนใจใช้ค าถามที่ตรงประเด็น ไม่ซับซ้อน ท าให้นักเรียนสามารถท าความ เข้าใจโจทย์และตอบค าถามโดยใช้เทคนิค 5W1H ได้ถูกต้อง ครบถ้วนทุกประเด็น รวมท้งัการ ตกแต่งใบงานมีสีสันที่สดใสและเหมาะสมกับพัฒนาการของนักเรียน ท าให้นักเรียนเกิดความ สนใจในการท าใบภารกิจการเรียนรู้มากข้ึน 4.2.3) ข้นัสรุปบทเรียน นักเรียนมีการสรุปความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยครูได้เปิ ดโอกาสให้นักเรียน ได้ซักถามในประเด็นที่สงสัย ท าให้นักเรียนกล้าที่จะสอบถามปัญหาหรือประเด็นที่สงสัยกับครู ส่งผลใหน้กัเรียนเกิดความเขา้ใจในบทเรียนมากยงิ่ข้ึน 4.2.4) สิ่งที่เป็นอุปสรรคปัญหาในการจดัการเรียนรู้ ในการจัดกิจกรรม “มาสิ มาสิ มาจับใจความ” มีการมอบหมายงานให้นักเรี ยน แบ่งกลุ่มเพื่อร่วมกันท าใบภารกิจการเรียนรู้จากการสังเกตนักเรียน พบว่าแต่ละกลุ่มมีนักเรียน บางคนที่ควรไดร้ับการพฒันาเกี่ยวกบัทกัษะการอ่านจบั ใจความเพิ่มมากข้ึน เนื่องจากนกัเรียน อ่านไม่คล่อง ส่งผลให้ต้องใช้เวลาในท าความเข้าใจค าถามในใบภารกิจการเรียนรู้เนื่องจาก สามารถวิเคราะห์บางค าถามจากเรื่องที่อ่านจับใจความได้ไม่ครอบคลุมจึง มีความเข้าใจที่ คลาดเคลื่อนส่งผลให้จับใจความส าคัญจากเรื่องได้ไม่ครบถ้วนและตอบค าถามไม่ตรงประเด็น 4.2.5) แนวทางการแก้ไขปัญหาในการจัดการเรียนรู้ จากปัญหาดงักล่าวคณะผูว้ิจยัไดเ้ขา้ใจถึงพ้ืนฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลจึงได้ เสนอแนวทางแก้ปัญหา โดยในการจดักิจกรรมการเรียนรู้ในคร้ังถดัไป ครูควรมีการแยกฝึกการ อ่านใหก้บันกัเรียนกลุ่มที่อ่านยงัไม่คล่อง ใหค้า แนะนา และช้ีแนะตามความเหมาะสม จะท าให้ นักเรียนเรียนรู้และเข้าใจในหลักการอ่านจับใจโดยใช้เทคนิค 5W1H สามารถอ่านจับใจความ เข้าใจเหตุการณ์ และตีความจากเรื่องที่อ่านผ่านการต้งัคา ถามเชิงคิดวิเคราะห์ไดแ้ก่Who (ใคร)


57 What (อะไร) Where (ที่ไหน) When (เมื่อไร) Why (ท าไม) How (อย่างไร) ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 4.1.2ผลที่ได้จากแบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ จากการศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H สา หรับนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) โดยผลการวิจัย จากแบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ สามารถสรุปได้ดงัน้ี ตารางที่ 2แบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ (รายบุคคล)คะแนนเต็ม 9 คะแนน เลขที่ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน 1 6 66.66 ไม่ผ่าน 2 9 100.00 ผ่าน 3 8 88.88 ผ่าน 4 9 100.00 ผ่าน 5 8 88.88 ผ่าน 6 8 88.88 ผ่าน 7 6 66.66 ไม่ผ่าน 8 8 88.88 ผ่าน


58 ตารางที่ 2แบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ (รายบุคคล) คะแนนเต็ม 9 คะแนน (ต่อ) เลขที่ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน 9 6 66.66 ไม่ผ่าน 10 8 88.88 ผ่าน 11 9 100.00 ผ่าน 12 6 66.66 ไม่ผ่าน 13 9 100.00 ผ่าน 14 9 100.00 ผ่าน 15 6 66.66 ไม่ผ่าน 16 8 88.88 ผ่าน 17 8 88.88 ผ่าน 18 9 100.00 ผ่าน 19 7 77.77 ผ่าน 20 7 77.77 ผ่าน


59 ตารางที่ 2แบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ (รายบุคคล)คะแนนเต็ม 9 คะแนน (ต่อ) เลขที่ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน 21 8 88.88 ผ่าน 22 6 66.66 ไม่ผ่าน 23 9 100.00 ผ่าน 24 7 77.77 ผ่าน 25 8 88.88 ผ่าน 26 9 100.00 ผ่าน 27 7 77.77 ผ่าน 28 8 88.88 ผ่าน 29 8 88.88 ผ่าน 30 9 100.00 ผ่าน 31 8 88.88 ผ่าน 32 9 100.00 ผ่าน


60 ตารางที่ 2แบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ (รายบุคคล)คะแนนเต็ม 9 คะแนน (ต่อ) เลขที่ คะแนนรวม ร้อยละ ผลการประเมิน 33 8 88.88 ผ่าน 34 9 100.00 ผ่าน 35 8 88.88 ผ่าน 36 8 88.88 ผ่าน 37 7 77.77 ผ่าน 38 9 100.00 ผ่าน ค่าเฉลี่ย 7.87 87.44 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน 1.04 จากตารางที่ 2 พบว่า ผลการประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ เรื่อง จับใจความแสนสนุก ของนักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิค 5W1H มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 7.87 จากคะแนนเต็ม 9คิดเป็ น ร้อยละ 87.44 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.04 จา นวนนกัเรียนที่ผ่านเกณฑท์ ้งัหมด 32 คน คิดเป็ น ร้อยละ 84.21 และจา นวนนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ท้งัหมด 6 คน คิดเป็ นร้อยละ 15.79 แสดงให้เห็นว่า นักเรียนร้อยละ 84.21 สามารถพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ได้ เนื่องจากครู ไดม้ีการช้ีแจงและอธิบายหลกัการจบั ใจความโดยใชเ้ทคนิค 5W1H ท าให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ


61 เกี่ยวกับการอ่านจับใจความเพิ่มมากข้ึน สามารถวิเคราะห์และอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านได้ว่า ใคร ท าอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ท าไม อย่างไร ภาพที่ 2การท าใบภารกิจการเรียนรู้ เรื่อง จับใจความแสนสนุก ผลการพัฒนาทักษะในการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ของนกัเรียนช้นั ประถมศึกษา ปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) พบวา่คะแนนของใบภารกิจ การเรียนรู้ เรื่อง จับใจความแสนสนุก ของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2/1 สอดคล้องกับสมมุติฐาน ที่ต้งัไว้คือ นกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2 ที่ได้รับการฝึ กทักษะการอ่านจับใจความได้อย่างถูกต้องโดย ใช้เทคนิค 5W1H มีคะแนนค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 เนื่องจากนกัเรียนมีพ้ืนฐานในดา้นการอ่าน จับใจความจากการอ่านเรื่องที่ครูได้ก าหนดไว้และในห้องเรียนมีนักเรียนที่มีทักษะการอ่านอยู่ในระดับ ที่ควรพัฒนา ครูจึงแก้ปัญหาโดยมีครูคอยให้คา แนะนา อย่างทวั่ถึงและเหมาะสมโดยใช้เทคนิค 5W1H ไดแ้ก่ใครทา อะไร ที่ไหน เมื่อไร ทา ไม และอย่างไรจนน าไปสู่การด าเนินภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ อย่างสมบูรณ์


62 นอกจากน้ีพบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความ ของนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ต้ังไว้คือ พฒันาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ของ นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) โดยจากตารางที่ 2แสดงให้เห็นว่า นักเรียนมีพัฒนาการด้านทักษะการอ่านจับใจความผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 70 ซึ่งสังเกตได้จากคะแนนของนักเรียนคิดเป็ นร้อยละ 87.44 4.2 อภิปรายผลการวิจัย จากการศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนักเรี ยน ช้นั ประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ในคร้ังน้ี พบว่า นักเรียนมีทักษะการอ่านจับใจความ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 โดยสังเกตได้จากการที่นักเรียนได้ เรียนรู้เน้ือหาเรื่อง การอ่านจบั ใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ทา ให้เกิดความรู้ความเขา้ใจเพิ่มมากข้ึน และคะแนนแบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ (รายบุคคล) พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 7.87 จากคะแนนเต็ม 9 คะแนน คิดเป็ นร้อยละ 87.44 นอกจากน้ีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ (รายบุคคล) อยู่ที่ 1.04 แสดงให้เห็นว่าคะแนนของนักเรี ยนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจาก คณะผู้วิจัยได้มีการศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ อาทิ การศึกษา หลกัสูตรการศึกษาข้นัพ้ืนฐาน พุทธศกัราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย ขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ในรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านจับใจความ กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่2 โดยศึกษาสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ เพื่อให้มี ความเหมาะสมตามทกัษะในการอ่านและพ้ืนฐานการเรียนรู้ของนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียน สาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) โดยเลือกบทอ่านที่อยู่ในความสนใจและ ความคุ้นเคยของนักเรียน พิจารณาเลือกบทอ่านและล าดับเหตุการณ์ในเรื่องโดยพิจารณาเลือกจาก บทอ่านเรื่องง่ายไปยาก ในข้ันตอนการสร้างและหาประสิทธิภาพของเครื่ องมือ การด าเนินสร้าง แผนการจดัการเรียนรู้คณะผูว้ิจยัได้ศึกษาวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ตวัช้ีวดัจุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อน ามาสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความอย่างมีประสิทธิภาพซึ่ งได้รับการ


63 ตรวจสอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนน าข้อเสนอแนะในการไปปรับปรุงแก้ไขการ พัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการด าเนินการวิจัย และน าไปใช้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย คณะผู้วิจัยได้จัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยเทคนิค 5W1H ซ่ึงเป็นเทคนิคการสอนดว้ยการต้งั คา ถามเพื่อให้นกัเรียนสามารถวิเคราะห์เน้ือหานิทานที่เป็นเรื่องส้ันผ่านการต้งัคา ถามเชิงวิเคราะห์ โดยเริ่มจากข้นัที่1 ข้นันา ที่มีการดา เนินกิจกรรมโดยให้นกัเรียนทา กิจกรรม พรายกระซิบ เพื่อให้ นักเรียนได้ฝึ กการจดจ าประโยคหรือข้อความได้อย่างถูกต้อง เป็ นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ บทเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความ เพื่อให้นักเรียนสามารถล าดับเหตุการณ์และเรื่องราวส าคัญตาม เน้ือเรื่อง โดยในข้นัที่2 ครูได้มีการแบ่งกลุ่มให้นักเรียนได้ท ากิจกรรมตอบค าถามในใบภารกิจการ เรียนรู้เรื่อง จับใจความแสนสนุก ที่มีเน้ือหาที่แปลกใหม่สร้างสรรค์กระตุน้การเรียนรู้ครูให้ นักเรียนอ่านนิทานอีสป เรื่อง กระต่ายกับเต่า แล้วตอบค าถามในใบภารกิจเรื่อง “จับใจความแสน สนุก”โดยนิทานที่ครูน ามาเป็ นบทอ่านในใบภารกิจเป็ นเรื่องที่สนุกสนาน และเป็ นเรื่องที่นักเรียน คุ้นเคย ท าให้นักเรียนได้ฝึ กฝน ทบทวนความรู้เกี่ยวกับการอ่านจับใจความในเรื่องที่เคยอ่านได้ดี ยิ่งข้ึน นา ไปสู่การพฒันาทกัษะด้านการจบั ใจความได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เทคนิค 5W1H จ านวน 6 ประเด็นได้แก่ Who (ใคร) What (อะไร) Where (ที่ไหน) When (เมื่อไร) Why (ท าไม) How (อย่างไร) เพื่อให้นักเรียนเขา้ใจหลกัการ เห็นความสัมพนัธ์ของเรื่องที่อ่านมากข้ึน สามารถ เรียงลา ดบัเหตุการณ์ของเน้ือเรื่องที่ปรากฏในใบภารกิจการเรียนรู้เรื่อง จับใจความแสนสนุกและ การจดักิจกรรมในข้นัตอนสุดทา้ยคือ ข้นัที่3 ข้นัสรุป โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอ หนา้ช้นัเรียน ทา ให้ครูและนักเรียนไดร้่วมกนัแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นอกจากน้ีครูได้ถามค าถาม เพื่อทบทวนความรู้ เช่น นักเรียนไดร้ับความรู้อะไรจากการเรียนการสอนในวนัน้ีนักเรียนจะน า ความรู้เรื่องการอ่านจับใจความไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันอย่างไร เพื่อให้นักเรียนได้ฝึ กตอบ ค าถาม เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความและสามารถน าความรู้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับ รายวิชาภาษาไทย และรายวิชาอื่น ๆ ได้อย่างถูกตอ้งและเหมาะสม พร้อมท้งัมีการสรุปความรู้ เพิ่มเติมเกี่ยวกบัการอ่านจบั ใจความ เพื่อเป็นการทบทวนให้นักเรียนเกิดความเข้าใจและสามารถ จดจา เน้ือหาได้ดีมากยิ่งข้ึน ในด้านสื่อการเรียนรู้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความมีเน้ือหาที่ กระชับและน่าสนใจ ประกอบกับครูมีการถามค าถามเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ร่วมกับ การทา ใบภารกิจการเรียนรู้โดยพบวา่ ในข้นัตอนการจดการเรียนรู้ ครูได้มุ่งเน้นกระบวนการการคิด ั อย่างเป็นระบบ โดยเน้นให้นักเรียนสามารถคิดและลา ดบัเหตุการณ์จากบทอ่านตามกระบวนข้นั


64 การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบด้วย Who (ใคร) What (อะไร) Where (ที่ไหน) When (เมื่อไร) Why (ท าไม) How (อย่างไร) ท้งัน้ีในข้นการท าใบภารกิจการเรียนรู้ ยังมุ่งเน้นให้ ั นักเรียนคิดวิเคราะห์โดยสามารถลา ดับเหตุการณ์ของบทอ่านที่มีความยากและซับซ้อนยิ่งข้ึน เพื่อให้นักเรียนสามารถมีทักษะการคิดวิเคราะห์ร่วมกับการคิดอย่างมีระบบ จากการกระตุ้นถาม ค าถามเชิงคิดวิเคราะห์ การตีความจากเรื่องที่อ่าน ประกอบความเขา้ใจในเน้ือเรื่องที่มีความสัมพนัธ์ สอดคล้องตามล าดับเหตุการณ์และการเรียบเรียงล าดับเหตุการณ์จากบทอ่านที่มีความยากและ ซับซ้อนข้ึน โดยนักเรียนจะสามารถเขา้ใจหลกัการและเขียนสรุปใจความส าคญัจากเรื่องที่อ่าน ลงในใบภารกิจการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้องตามกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H สามารถอ่านจับใจความส าคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์การประเมิน และมีทักษะการอ่าน จบั ใจความที่ดีข้ึน สอดคลอ้งกับงานวิจยัของชนกพร สุริโย (2562) ได้ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนา ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่6 โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ กกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ผลการวิจัยพบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึกของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพที่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ได้ต้งัไว้เนื่องจากกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ช่วยให้นักเรียนได้ฝึ กฝนการอ่านคิดวิเคราะห์อยู่เสมอจากเรื่องง่ายไปเรื่องยากประสิทธิภาพผลการ เรียนรู้ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยคิดเป็ นร้อยละ 71.51 เนื่องจากเทคนิคการสอน 5W1H เป็ นการฝึกต้งัคา ถามเชิงวิเคราะห์เพื่อให้ไดข้อ้เท็จจริงหรือความ เข้าใจใหม่ อันเป็ นประโยชน์ต่อการอธิบาย การประเมิน การแก้ปัญหาและการตัดสินใจรอบคอบ มากยิ่งข้ึน นักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ ก มีความสามารถด้านการอ่านคิดวิเคราะห์หลังเรียนคิดเป็ นร้อยละ 82.02 สูงกว่าร้อยละ 80 เนื่องจาก กิจกรรมการเรี ยนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ กท าให้นักเรี ยนเข้าใจถึงหลักการ ความส าคญัความสัมพนัธ์ของเรื่องที่อ่านมากข้ึน ก่อให้เกิดการพฒันาความสามารถทางดา้นการ อ่านคิดวิเคราะห์ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึ กอยู่ในระดับมาก เมื่อนักเรียนได้เรียนจบในแต่ละแผนแล้ว นักเรียนจะได้ท า แบบฝึกเพื่อพฒันาความสามารถทางดา้นการคิดวิเคราะห์โดยผวู้ิจยัเลือกใชเ้น้ือหาจากหนงัสือเรียน ภาษาพาทีและอินเทอร์เน็ต ซ่ึงมีเน้ือหาที่สนุกสนาน แฝงความรู้และเหมาะสมกับพัฒนาการของ นักเรียน ท าให้นักเรียนเกิดความสนุกสนาน


บทที่ 5 สรุปผลการวจิัยและข ้ อเสนอแนะ 5.1 สรุปสาระส าคัญของการด าเนินการวิจัย การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนักเรียนช้นั ประถมศึกษา ปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง)คร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียน สาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) โดยคณะผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูล จากกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2565 ห้อง 2/1 จ านวน 38คน โดยการเลือก แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค 5W1H จ านวน 1 แผน รวมจ านวน 1 ชวั่โมงโดยมีรายละเอียดดงัน้ี 5.2 สรุปผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ จากการศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H ส าหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยัขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (มอดินแดง) ในคร้ังน้ีพบวา่ นกัเรียนมีทกัษะการอ่านจบั ใจความของนกัเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่2 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 โดยสังเกต ไดจ้ากการที่นักเรียนไดเ้รียนรู้เน้ือหาเรื่องการอ่านจบั ใจความโดยใช้เทคนิค5W1H ท าให้เกิดความรู้ ความเขา้ใจเพิ่มมากข้ึน โดยสังเกตจากคะแนนแบบประเมินใบภารกิจการเรียนรู้(รายบุคคล) มีค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 7.87 จากคะแนนเต็ม 9 คะแนน คิดเป็ นร้อยละ 87.44 นอกจากน้ีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแบบ ประเมินใบภารกิจการเรียนรู้ (รายบุคคล) อยู่ที่ 1.04 แสดงให้เห็นว่าคะแนนของนักเรียนอยู่ในระดับที่ ใกล้เคียงกัน เนื่องจากคณะผู้วิจัยได้จัดกระบวนการเรียนการรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ตามลา ดบัข้นัตอน โดยเริ่มจากข้ันที่ 1 ข้นัน า ที่มีการดา เนินกิจกรรมโดยให้นักเรียนทา กิจกรรม พรายกระซิบ เพื่อให้ นักเรียนได้ฝึ กการจดจ าประโยคหรือข้อความได้อย่างถูกต้องและเป็ นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ บทเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความ เพื่อให้นักเรียนสามารถล าดับเหตุการณ์และเรื่องราวส าคญัตามเน้ือ เรื่องได้โดยในข้นัที่2 ครูได้มีการแบ่งกลุ่มให้นักเรียนได้ท ากิจกรรมตอบค าถามในใบภารกิจการเรียนรู้ เรื่อง จับใจความแสนสนุก ที่มีเน้ือหาที่แปลกใหม่สร้างสรรค์กระตุน้การเรียนรู้ทา ใหน้กัเรียนไดฝ้ึกฝน


66 และทบทวนความรู้เกี่ยวกับการอ่านจบั ใจความไดด้ียิ่งข้ึน นา ไปสู่การพฒันาทกัษะดา้นการจบั ใจความ ไดอ้ย่างมีประสิทธิภาพ เน้นกระบวนการฝึกต้งัคา ถามเชิงคิดวิเคราะห์ประกอบการจดัการเรียนรู้ดว้ย รูปแบบ 5W1H จ านวน 6 ประเด็น ได้แก่ Who (ใคร) หัวข้อน้ีนักเรียนมีการวิเคราะห์ตัวละครที่อยู่ ในเรื่อง ท าให้ทราบถึงผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว What (อะไร) นักเรียน จะได้วิเคราะห์ปัญหาหรือสาเหตุที่ท าให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในเรื่อง Where (ที่ไหน) จากการอ่าน เน้ือเรื่องนกัเรียนไดม้ีการวิเคราะห์สถานที่ที่เกิดเหตุการณ์หรือว่าเหตุการณ์น้ีน่าจะเกิดข้ึนที่ใดมากที่สุด When (เมื่อไร) เป็ นเวลาที่เกิดเหตุการณ์ในเรื่องซึ่งนักเรียนจะได้วิเคราะห์ว่าเวลาใดบ้างที่สถานการณ์ เช่นน้ีสามารถเกิดข้ึนได้Why (ท าไม) นักเรียนได้มีการวิเคราะห์สาเหตุหรือเหตุผลที่ท าให้เกิดเหตุการณ์ ภายในเรื่อง และ How (อย่างไร) ส าหรับหัวข้อน้ีนักเรียนได้วิเคราะห์ลักษณะความเป็นไปได้ใน รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในเรื่องท้งัการกระทา ของตวัละคร การลา ดบัเหตุการณ์ว่าเกิดข้ึนได้ อย่างไร รวมถึงมีหลักในการพิจารณาลักษณะนิสัยของตัวละครอย่างไรบ้าง โดยมีการเรียงจากค าถามที่ ง่ายไปยากเริ่มตนจากด้านความจ า ความเข้าใจ และค าถามเชิงวิเคราะห์ ครูใช้เทคนิคค าถามที่ชัดเจน ้ ท าให้นักเรียนสามารถตอบค าถามได้อย่างตรงประเด็น เข้าใจหลักการ ความสัมพันธ์ และเรียงล าดับ เหตุการณ์ของเรื่องราวได้อย่างครบถว้น และการจดักิจกรรมในข้นัตอนสุดทา้ยคือ ข้นัที่3 ข้นัสรุป โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานา เสนอหน้าช้ันเรียน ทา ให้ครูและนักเรียนได้ร่วมกันแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกนันอกจากน้ีครูมีการสรุปความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกบัการอ่านจบั ใจความ เพื่อเป็นการทบทวน ให้นักเรียนเกิดความเขา้ใจและสามารถจดจา เน้ือหาไดด้ีมากยงิ่ข้ึน 5.3 ข้อเสนอแนะในการวิจัย จากการวิจยัในคร้ังน้ีคณะผูว้ิจยัมีขอ้เสนอแนะที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการจดัการเรียนรู้ และการศึกษาคร้ังต่อไปซ่ึงประกอบดว้ยขอ้เสนอแนะในการทา ผลการวิจยัไปใช้และขอ้เสนอแนะในการ ทา วิจยัคร้ังต่อไปดงัน้ี 5.4 ข้อเสนอแนะในการน าผลการวิจัยไปใช้ 5.4.1 ควรมีเครื่องมือเก็บข้อมูลในการด าเนินงานวิจัยที่หลากหลาย เพื่อให้ได้ผลของการวิเคราะห์ และเก็บรวบรวมขอ้มูลที่มีประสิทธิภาพยงิ่ข้ึน


67 5.4.2 การคดัเลือกเน้ือเรื่องที่นา มาในใชแ้ผนการจดัการเรียนรู้การอ่านจบั ใจความและเน้ือเรื่อง ประกอบใบภารกิจน้นัควรเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของนกัเรียน ซ่ึงเน้ือเรื่องมีความยาวที่เหมาะสม รวมถึงเน้ือหาของเรื่องควรมีความสอดคลอ้งกบัช่วงวยัของนกัเรียน 5.5 ข้อเสนอแนะในการท าวิจัยครั้งต่อไป 5.5.1 จากผลการวิจยัพบว่านกัเรียนมีพฒันาการดา้นการอ่านจบั ใจความเพิ่มมากข้ึนหลงัจากการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค 5W1H ดงัน้ันการวิจยัคร้ังต่อไปควรมีการเปรียบเทียบพฒันาการ ด้านการอ่านจับใจความของนักเรียนโดยใช้เทคนิคอื่น ๆ 5.5.2 จากผลการวิจัยพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ผ่านเกณฑ์การทดสอบและการประเมินทักษะ การอ่านจับใจความซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีทักษะการอ่านจับใจความอยู่ในระดับดีดงัน้นัการวิจยั คร้ังต่อไปควรมีการใชบ้ทอ่านที่มีความซับซ้อนมากยิ่งข้ึนเพื่อเป็นการศึกษาทกัษะการอ่านจบั ใจความ ของนกัเรียนสา หรับบทอ่านซ่ึงมีเน้ือเรื่องที่แตกต่างกนั 5.5.3 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อน าผลไปวิเคราะห์ ควรมีการเก็บข้อมูลโดยการสร้าง และใช้เครื่ องมือที่เป็นแบบทดสอบวัดทักษะการอ่านจับใจความก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม เพื่อเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนใหม้ีความชดัเจนมากยงิ่ข้ึน


68 บรรณานุกรม กรมวิชาการ. (2546). การจัดสาระการเรียนรู้ภาษาไทย.กรุงเทพฯ : ครุสภา. กรองทิพย์ สุราตะโก. (2560). ผลการใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ร่วมกับเทคนิค 5W1H และผังกราฟิ ก ที่มีต่อความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ, 16(1), 51-59. กระทรวงศึกษาธิการ. (2532). การสอนภาษาไทย. สืบค้นเมื่อ 4 มกราคม 2566,จาก https://www.moe.go.th ________________ . (2553). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. สืบค้นเมื่อ 4 มกราคม 2566, จาก สาระการเรียนรู้แกนกลาง-กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย-ฉบับสมบูรณ์-1.pdf ไกรษร ประดับเพชร. (2561). การพัฒนาแบบฝึ กทักษะโดยใช้เทคนิคการอ่านแบบ SQ4R เพื่อส่งเสริม ทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 3 โรงเรียนไตรคามประชาสรรค์. ส านักงานกรรมการการศึกษาข้นัพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จุไรรัตน์ลกัษณะศิริและบาหยนัอิ่มสา ราญ. (2547). การใช้ภาษาไทย.กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร. ชนกพร สุริโย. (2562). การพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 โดยใช้เทคนิค 5W1H ประกอบแบบฝึกกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุ ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการเรียนการสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราช ภัฏมหาสารคาม. ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2553). การจัดการเรียนรู้แนวใหม่. นนทบุรี: สหมิตรพริ้นติ้งแอนดพ์บัลิสซิ่ง. ณัฐิยา ภูขามคม. (2552). การใช้นิทานประกอบภาพเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านจับใจความ ของนักเรียนที่มีภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยศิลปากร


69 ดวงพร เฟื่ องฟู. (2560). การพัฒนาชุดกิจกรรมการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค 5W1H เพื่อส่งเสริม การอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ธนชัพร มนั่เจ๊ก. (2554). การพฒันาชุดกจิกรรมฝึกทักษะการอ่านจับใจความส าคัญจากนิทานคุณธรรม โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ส าหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่2 โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยราภัฏอุตรดิตถ์. ปริญญานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการ สอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. นพดล จันทร์เพ็ญ. (2557). หลักการใช้ภาษาไทย.กรุงเทพฯ : เจเนซิส มีเดียคอม. ภคพร เครือจันทร์. (2559).การศึกษาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 โรงเรียนนายกวัฒนากร วัดอุดมธานีจังหวัดนครนายก. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ. ภัทรสุดา นาคสุข. (2564). การพัฒนาความสามารถทางการอ่านจับใจความ ของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปี ที่6 โดยใช้เทคนิคการสอน 5W1H ร่วมกับวรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง. วิทยานิพนธ์ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน แผน ก แบบ ก 2 ระดับ ปริญญามหาบัณฑิต ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. ลมโชย ด่านขุนทด. (2544). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาไทยโดยใช้ แบบฝึ กทักษะการอ่าน ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนสมเด็จพทิยาคม อา เภอสมเด็จจังหวัดกาฬสินธ์ุ. ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบณัฑิต มหาวิทยาลยัขอนแก่น. วรรณี โสมประยูร. (2542). การสอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา.กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. ส านักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560- 2579.กรุงเทพฯ : ส านักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.


70 อารีย์ เข็มบุบฝา. (2559). แผนพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์โดยใช้ เทคนิคW1H เรื่องการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่6. สืบค้นเมื่อ 4 มกราคม 2566, จาก https://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/2508 Kai. (2011). การเรียนรู้แบบร่วมแรงร่วมใจ สืบสอบหาความรู้โดยมีโครงงานเป็นฐานซึ่งมีผลต่อความ สามารถในการอ่านและทัศนคติ (Collaborative inquiry project based learning : Effects on reading ability and interests). สื บค้นเมื่อ 5 มกราคม 2566, จาก https://www.sciencedirect.com /science/article/pii/S0740818811000296 Mohammad, Rodil. (2009). Improving the Reading Comprehension of the Tenth Year Students of MAN Mojokerto Using PQ4R Strategy. (Thesis).


ภาคผนวก


ภาคผนวกก (หนังสือราชการแต่งต้ังผู้เชี่ยวชาญและหนังสือขอเกบ็รวบรวมข้อมูล)


หนังสือราชการแต่งต้ังผู้เชี่ยวชาญ


หนังสือขอเกบ็รวบรวมข้อมูล


ภาคผนวก ข (ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้)


ภาคผนวก ค (เครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้)


Click to View FlipBook Version