วรรณคดี
เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์
ตัวละคร
พระเจ้าอชาตศัตรู วัสสการพราหมณ์
กษัตริย์ลิจฉวี 6 พระองค์
พระเจ้าอชาตศัตรูต้องการขยายพระราชอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่ และต้องการแคว้น
วัชชีไว้ในครอบครอง จึงปรึกษากับวัสสการพราหมณ์ปุโรหิตที่มีปฏิภาณไหวพริบ
ปราบเปรื่ยง วัสสการพราหมณ์จึงกราบทูลว่า ต้องใช้กลอุบายที่แยบยลเนื่อง
จากเเคว้นวัชชีถึงพร้อมด้วยสามัคคีธรรม ด้วยเหล่ากษัตริย์ลิจฉวีทั้ง 6 พระองค์
ยึดมั่นในอปริหานิยธรรม จึงต้องการแคว้นนี้ ทำลายความสามัคคีให้ได้ด้วยกล
อุบาย
เมื่อเสด็จออกประชุมที่ท้องพระโรง พระเจ้าอชาตศัตรูจึงแสร้งทำตามกล
อุบาย ประกาศจะทำศึกกับแคว้นวัชชี เหล่าเสนาอำมาตย์ตั้งคัดค้าน อีกทั้งวัส
สการพราหมณ์ก็ทูลว่าแคว้นนี้มิมีผู้ใดสามารถเอาชนะได้โดยง่าย จึงแสร้งทำ
เป็นทรงกริ้วมากและทรงบริภาษดังบทประพันธ์ที่ว่า
"เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร
ทุทาษสถุลฉนี้ไฉน ก็มาเป็นฯ
ศึกบถึงเเละมึงก็ยังมิเห็น
จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น ประการใดฯ"
จากนั้นจึงสั่งลงโทษด้วยการโกนหัว อันเป็นความอัปยศสูงสุดของ
พราหมณ์ อีกทั้งสั่งโบยหลังจนเลือดชุ่ม แล้วขับไล่ออกจากเมือง
ดังความรุนแรงและเจ็บปวดของวัสสการพราหมณ์
จากบทประพันธ์ว่า
“บงเนื้อก็เนื้อเต้น พิศเส้นสรีร์รัว
ทั่วร่างและทั้งตัว กระริกระริวไหว
แลหลังละลามโล หิตโอ้เลอะหลั่งไป
เพ่งผาดอนาถใจ ระกะร่อยเพราะรอยหวาย"
วัสสการพราหมณ์หอบร่างตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือด
เดินเท้าผ่านป่าเขาสู่กรุงเวสาลี แคว้นวัชชี
แล้วทำการดำเนินกลอุบาย ทำลายความสามัคคี
ของเหล่ากษัตริย์ลิจฉวี ผู้ทรงยึดมั่นในอปริหาน
ยึดมั่นในอปริหานิยธรรม ๗ ประการ ดังนี้
อปริหานิยธรรม ๗ ประการ ดังนี้
๑. หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์
๒. พร้อมเพรียงกันประชุม เลิกประชุม และทำกิจกรรม
ร่วมกัน
๓. ไม่บัญญัติและไม่ล้มล้างสิ่งที่ไม่บัญญัติเอาไว้คือการ
ยึดถือปฏิบัติมั่นอยู่ในบทบัญญัติใหญ่ที่วางไว้เป็น
ธรรมนูญ
๔. ให้ความเคารพและรับฟังความคิดเห็นของผู้ใหญ่
๕. ไม่ข่มเหงสตรี
๖. เคารพบูชาสักการะเจดีย์คือการให้ความเคารพศาสน
สถาน
๗.ให้การอารักขาพระภิกษุสงฆ์หรือผู้ทรงศีล
กษัตริย์ลิจฉวีได้พิจารณาข้อมูล และสภาพของวัสสการพราหมณ์แล้ว เชื่อว่าโดน
ไล่ออกจากเมืองจริง จึงรับไว้เพื่อทำหน้าที่เป็นครูสอนศิลปวิทยาเเก่ราชกุมารทั้ง
หลาย และอบรมสั่งสอนในเรื่องต่างๆ
ครั้นได้โอกาส ก็ทำอุบายให้ศิษย์แตกร้าวกัน โดยการเรียกลูกศิษย์ให้เข้ามาคุยกันที
ละคน ทำให้เกิดการระแวงกัน ว่าอาจารย์สอนผู้อื่นมากกว่าตน ทั้งที่ความเป็นจริง
ได้ถามพระกุมารในเรื่องธรรมดา
เช่นว่า "วันนี้เสวยพระกระยาหารกับอะไร "
จึงทำให้พระกุมารแตกความสามัคคี ทะเลาะเบาะแว้งกัน จนต่างไปฟ้องพระบิดา
จนเกิดความระแวงกัน จนในที่สุดกษัตริย์ลิจฉวีจึงแตกความสามัคคี
สักการพราหมณ์ ดำเนินกลอุบายถึง 3 ปี
และเพื่อความมั่นใจจึงร้องตีกลองเรียกประชุม
แต่ก็ไม่มีกษัตริย์ลิจฉวีพระองค์ใด เข้าร่วมประชุม
จึงส่งข่าวให้พระเจ้าอชาตศัตรู ยกทัพมาตีแคว้นวัชชี โดยไม่มี
กษัตริย์ลิจฉวีพระองค์ใด ยกทัพออกมาสู้ศึก ด้วยถือว่าไม่ใช่ธุระ
ของตน
จึงทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูยึดแคว้นวัชชีได้สำเร็จ
ข้อคิดจากเรี่องสามัคคีเภทคำฉันท์
มุ่งเน้นให้คนตระหนัก เห็นถึงความแตกแยก
และความสามัคคี
มีไหวพริบปฏิภาณในการแก้ไขปัญหา
การใช้สติแก้ปัญหา
การมีวิจารญาณในการตัดสินใจ
ความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน