The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นางสาวสุนทรี เอี่ยมทิม 020

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

นางสาวสุนทรี เอี่ยมทิม 020

นางสาวสุนทรี เอี่ยมทิม 020

การสังเกต และการปฏิบัติหน้าที่ครู สาระสำคัญ ครูผู้สอนมีความรักและศรัทธาในวิชาชีพครูปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู ปฏิบัติตาม บทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้นได้อย่างเหมาะสม วัตถุประสงค์ 1. แสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการมีจิตวิญญาณความเป็นครู 2. ระบุบทบาทหน้าที่ของครูผู้สอนและครูประจำชั้นในการช่วยเหลือและพัฒนาผู้เรียน เนื้อหาสาระ 1. ความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู 2. จรรยาบรรณและวินัยครู 3. บทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้น กิจกรรมการเรียนการสอน 1. ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้น จรรยาบรรณวิชาชีพครู 2. สนทนา อภิปราย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณลักษณะที่ดีของครูตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู 3. กำหนดหัวข้อสำหรับการศึกษาสังเกตและสรุปลงในแบบบันทึก 4. นำผลการศึกษาสังเกตมานำเสนอเพื่ออภิปรายในชั้นเรียน สื่อการเรียนรู้ 1. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ครู 2. เอกสารประกอบการศึกษาด้วยตนเอง การวัดประเมินผล 1. ตรวจแบบบันทึกการสังเกต 2. สังเกตพฤติกรรมการให้ความร่วมมือในชั้นเรียน


1.ครูผู้สอนและครูประจำชันแสดงออกซึ่งความรักและศรัทธาในวิชาชีพครูอย่างไร สอนอย่างตั้งใจ ใส่ใจเด็กๆ พูดจาไพเราะ มีความเมตตาห่วงใยเด็กๆเป็นอย่างมาก ถามไถ่สุขภาพและคอย สังเกตเด็กๆอยู่เสมอ เข้าใจเด็กเป็นอย่างดี 2. ครูผู้สอนและครูประชั้นปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร 2.1 จรรยาบรรณต่อตนเอง เหมาสม ครูมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง รัดและดูแลเด็กด้วยใจจริง 2.2 จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ เหมาะสม ตรงต่อเวลลาทั้งการมาโรงเรียน และการเข้าสอน สอนอย่างเต็มความสามารถ แต่งกาย สุภาพ เรียบร้อยมีความ รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบมาย 2.3 จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ เหมาะสม ครูมีความใส่ใจเด็กสมอ คอยช่วยเหลือ มีความเมตตา ส่งเสริมสิ่งที่ดีให้กับเด็กทุกคน 2.4 จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ เหมาะสม มีน้ำใจกับผู้อื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความสามัคคีกันในเพื่อนร่วมงาน 2.5 จรรยาบรรณต่อสังคม เหมาะสม ครูประพฤติปฏิบัติตนดี รักษาผลประโยชน์ส่วนรวม ปฏิบัติตามกฎของดรงเรียนและสังคม 3. บทบาทหน้าที่ของครูผู้สอนและครูประจำชั้น 3.1 การแต่งกายเหมาะสมถูกระเบียบ ครูผู้สอนแต่งกายสุภาพ เหมาะสมในความเป็นครู 3.2 การเอาใจใส่ ส่งเสริมผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ครูผู้สอนใส่ใจเด็ก สังเกตพฤติกรรมของเด็กและหาแนวทางแก้ไขและช่วยส่งเสริมพัฒนาการของ ผู้เรียน 3.3 การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ครูปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ทั้งเรื่องมารยาททางสังคมและการใช้ชีวิตประจำวัน 3.4 การสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เรียน ครูผู้สอนจัดสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กเสริมสร้างพัฒนาการแสดงให้เห็นว่ามีความ ใส่ใจเด็กอยู่เสมอ


การสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครู วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตการควบคุมชั้นเรียนของครูผู้สอน 2. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน เพื่อให้นักศึกษานำสิ่งที่ได้จากการสังเกต การควบคุมชั้นเรียน และการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนมาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ของ ตนเอง 3. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตและฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขอบเขต ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทักษะจากผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทึกตามประเด็น ดังนี้ 1. สังเกตเทคนิคการควบคุมชั้นเรียนของครูผู้สอน 2. สังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน 3. นำสิ่งที่ได้จากการสังเกตการควบคุมชั้นเรียน และการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนมาประยุกต์ใช้ใน การจัดการเรียนรู้ 4. สังเกตปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน และเทคนิคแนวทางในการแก้ไขปัญหา ผู้เกี่ยวข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ผู้อำนวยการ / รองผู้อำนวยการโรงเรียน 2. ครูผู้สอน / ครูพี่เลี้ยง / นักเรียน หมายเหตุสังเกต 9 ครั้ง


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 1 วันที่ 25 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา วิทยาศาสตร์น่ารู้ เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 12 คน ชาย 5 คน หญิง 7 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 1 คน ชาย - คน หญิง 1 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ผู้ปกครองติดธุระต่างจังหวัดจึงพาไปด้วย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนมีความสนใจเนื้อหา 2.2 ผู้เรียนกระตือรือร้นตอบสนองในชั้นเรียนได้เป็นอย่างดี 2.3 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการถามเมื่อสงสัย และตอบคำถามในชั้นเรียนตลอด 2.4 ผู้เรียนพูดตามครุผู้สอนเมื่อครูออกคำสั่งให้พูดตาม 2.5 ผู้เรียนมีความพร้อมในการลงมือปฏิบัติในชั้นเรียน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้รู้ถึงวิธีการสอนเด็ก 3.2 ได้รู้ถึงการควบคุมเมื่อเด็กไม่ฟัง 3.3 ได้รู้ถึงเทคนิคการใช้สื่อประกอบการสอน 3.4 ได้รู้ถึงการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับสิ่งที่เรียน 3.5 ได้รู้ถึงการดึงดูดความสนใจเด็ก 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กสนใจเนื้อหาและมีความเข้าใจในสิ่งที่สอน 4.2 ครูจัดกิจกรรมการสอนได้เหมาสมกับเนื้อหาและน่าสนใจ 4.3 ก่อนเริ่มเรียนครูจะควบคุมเด็กด้วยการให้นั่งสมาธิ 4.4 เด็กๆมีความสนใจ มีคำถาม และตอบคำถามครูผู้สอนอยู่เสมอ 4.5 ครูสอนไม่ไวเกินไปเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 2 วันที่ 27 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา วิทยาศาสตร์น่ารู้ เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 13 คน ชาย 5คน หญิง 8 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนมีความตั้งใจเรียน 2.2 ผู้เรียนมีความร่าเริงพร้อมเรียนรู้ 2.3 ผู้เรียนมีการตอบโต้กับครูผู้สอนอยู่เสมอ 2.4 ผู้เรียนสนใจกิจกรรมภายในห้องเรียนอยู่ตลอดเวลา 2.5 ผู้เรียนมีความร่วมมือในการทำกิจกรรมภายในชั้นเรียน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้รู้ถึงวิธีการเลือกใช้สื่อการสอน 3.2 ได้รู้ถึงการควบคุมเด็กด้วยเพลงการสอน 3.3 ได้รู้ถึงเทคนิคการใช้สื่อประกอบการสอน 3.4 ได้รู้ถึงการออกแบบกิจกรรมให้ปลอดภัยกับเด็ก 3.5 ได้รู้ถึงเทคนิคการสอนให้เหมาะสมกับวัย 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กสนใจเนื้อหา และสื่อที่สอน 4.2 ครูผ็สอนมีการทบทวนเนื้อหาก่อนเริ่มเรียนใหม่ 4.3 ก่อนเริ่มเรียนครูจะควบคุมเด็กด้วยการเปิดเพลงจากสือการสอน 4.4 เด็กๆมีความสนใจ ตอบคำถามท้ายคาบได้ถูกต้อง 4.5 เนื้อหาที่ครูผู้สอนได้สอนไม่ยากเกินไปเหมาะสมกับวัย หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 3 วันที่ 30 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา หน่วยข้าว เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนมีความสนใจกับใบงาน 2.2 ผู้เรียนมีความพร้อมในการเรียน 2.3 ผู้เรียนมีการตอบโต้กับครูผู้สอนอยู่เสมอ 2.4 ผู้เรียนมีความตั้งใจฟังครู้สอน 2.5 ผู้เรียนมีความตั้งใจในการทำใบงาน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้รู้ถึงวิธีการออกแบบใบงาน 3.2 ได้รู้ถึงการสอนแบบไหนให้เด็กสนใจ 3.3 ได้รู้ถึงเทคนิคการพูดเมื่อเด็กเริ่มไม่สนใจ 3.4 ได้รู้ถึงการออกแบบกิจกรรมสอดคล้องกับหน่วยที่เรียน 3.5 ได้รู้ถึงการเลือกกิจกรรมที่เด้กชื่นชอบมาให้ทำ 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กสนใจเนื้อหา และสื่อที่สอน 4.2 ครูผ็สอนมีการทบทวนเนื้อหาก่อนเริ่มเรียนใหม่ 4.3 ก่อนเริ่มเรียนครูจะควบคุมเด็กด้วยการเปิดเพลงจากสือการสอน 4.4 เด็กๆมีความสนใจ ตอบคำถามท้ายคาบได้ถูกต้อง 4.5 เนื้อหาที่ครูผู้สอนได้สอนไม่ยากเกินไปเหมาะสมกับวัย หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 4 วันที่ 31 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา หน่วยข้าว เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 10 คน ชาย 2 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 3 คน ชาย 3 คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ป่วย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนตั้งใจ 2.2 ผู้เรียนมีความสนใจสื่อการสอน 2.3 ผู้เรียนมีการตอบโต้กับครูผู้สอนอยู่เสมอ 2.4 ผู้เรียนสามารถตอบคำถามที่เป็นความรู้รอบตัวได้ 2.5 ผู้เรียนสามารถทำใบงานหลังจากเรียนเสร็จได้ 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้รู้ถึงวิธีการเลือกใช้สื่อ 3.2 ได้รู้ถึงการควบคุมเด็กเมื่อเด็กไม่ฟัง 3.3 ได้รู้ถึงเทคนิคการเลือกใช้ใบงาน 3.4 ได้รู้ถึงการทำพาวเวอร์พอยท์ให้น่าสนใจ 3.5 ได้รู้ถึงเทคนิคการสอนให้เหมาะสมกับวัย 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เนื้อหาที่สอนเป็นความรู้รอบตัวเด็ก 4.2 ครูผู้สอนเลือกเนื้อหาได้เหมาสมกับวัย 4.3 ครูผู้สอมีการตั้งคำถามก่อนเรียนและหลังเรียนเพื่อวัดความรู้ของเด็ก 4.4 เด็กๆมีความสนใจ ตอบคำถามท้ายคาบได้ถูกต้อง 4.5 ครูผู้สอนเลือกกิจกรรมที่ดีเหมาะสมดึงดูดเด็กได้ดี หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 5 วันที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา หน่วยข้าว เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 9 คน ชาย 4 คน หญิง 5 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 4 คน ชาย 1 คน หญิง 3 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ติธุระกับผู้ปกครองไม่สะดวกเข้าเรียน 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมในห้องเรียน 2.2 ผู้เรียนร่าเริงสนุกมีความพร้อมในการเรียน 2.3 ผู้เรียนมีการซักถามเมื่อไม่เข้าใจ 2.4 ผู้เรียนสามารถตอบคำถามในสิ่งที่สอนแล้วได้ 2.5 ผู้เรียนไม่พูดคุยเวลาครูสอน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้รู้ถึงวิธีการควบคุมเด็กในสนใจการสอนอยู่เสมอ 3.2 ได้รู้ถึงการออกแบบสื่อการสอน 3.3 ได้รู้ถึงเทคนิคการเลือกสื่อที่เด็กชอบมาสอน 3.4 ได้รู้ถึงการทำใบงานให้น่าสนใจ 3.5 ได้รู้ถึงเทคนิคการสอนให้เหมาะสมกับวัย 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เนื้อหาไม่ยากเกินวัย 4.2 เด็กๆทุกคนสดใสร่าเริงพร้อมเรียนรู้ 4.3 เด็กๆทุกคนตั้งใจเรียนตอบคำถามได้ทุกคน 4.4 เด็กๆมีความสนใจสื่อการสอน 4.5 ครูผู้สอนเลือกกิจกรรมที่ดีเหมาะสมดึงดูดเด็กได้ดี หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 6 วันที่ 2 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา หน่วยตัวเรา เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 12 คน ชาย 5 คน หญิง 7 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 1 คน ชาย - คน หญิง 1 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ติธุระกับผู้ปกครองไม่สะดวกเข้าเรียน 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนสนใจเนื้อหาที่ครูสอนละมีตั้งใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ 2.2 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการตอบค าถามในชั้นเรียน 2.3 ผู้เรียนเต้นตามเพลงประกอบกิจกรรมที่ครูเปิดให้เต้น 2.4 ผู้เรียนเชื่อฟังค าสั่งของครูผู้สอน 2.5 ผู้เรียนมีความพร้อมในการเรียนอยู่เสมอ 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่เหมาะสม 3.2 เนื้อหาที่ใช้สอนและวิธีการสอนที่ดึงดูดความสนใจของเด็ก 3.3 การใช้เพลงประกอบกิจกรรมท าให้เด็กสนใจกิจกรรมมากขึ้น 3.4 การตั้งคำถามที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของเด็ก 3.5 คุณครูให้เด็กทำกิจกรรมในคาบเรียนหลังท้ายคาบจะให้เด็กน าเสนอผลงานตัวเองเสมอ 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็ก ๆ ทุกคนมีประติสัมพันธ์ที่ดีต่อครูและเพื่อน ๆ 4.2 ครูผู้สอนใจเย็นและรอเด็กทุกคนไปพร้อม ๆ กัน 4.3 ก่อนเริ่มเรียนคูณครูจะให้เด็ก ๆ นั่งสมาธิก่อนเริ่มเรียน 4.4 ครูผู้สอนไม่ทิ้งเด็กที่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่สอนและได้อธิบายให้เด็กเข้าใจ 4.5 เด็ก ๆ มีส่วนร่วมในการตอบค าถามอยู่เสมอ หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 7 วันที่ 3 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา หน่วยตัวเรา เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 9 คน ชาย 3 คน หญิง 6 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ติธุระกับผู้ปกครองไม่สะดวกเข้าเรียน 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนมีความสนใจในหน่วยนี้ 2.2 ผู้เรียนมีความตั้งใจเรียน 2.3 ผู้เรียนมีความพร้อมในด้านอุปกรณ์ที่ให้เตรียมมา 2.4 ผู้เรียนนทั้งใจทำางานที่ครูมอบหมายให้ทำภายในคาบและมีบางคนทำไม่ทัน 2.5 ผู้เรียนมีการตอบโต้ตอบคำถามกับคุณครู 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้รู้วิธีการสอนและแนวการสอน 3.2 ได้แนวทางในการจัดการการออกแบบสื่อการสอน 3.3 ได้รู้วิธีการควบคุมเด็กเมื่อเด็กเริ่มไม่ฟังในสิ่งที่เราสอนเช่น การร้องเพลง 3.4 ได้รู้วิธีการเลือกเพลงหรือนิทานที่เหมาะสมกับวัยและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เรียน 3.5 ได้รู้วิธีการพูดโน้มน้าวให้เด็กสนใจ 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กๆทุกคนตั้งใจทำงานทำให้ผลงานของเด็ก ๆ ของมีสวยงามและได้รับคำชื่นชมจากครู 4.2 ครูผู้สอนเปิดเพลงให้เด็กฟังขณะที่ทำใบงานทำให้เด็กมีความกระตือรือร้นในการทำงาน 4.3 หลังเรียนจบครูจะตั้งค าถาม ถามเด็กทุกคนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของเด็ก 4.4 เด็ก ๆ ทุกคนน่ารักและเต็มที่กับทุก ๆ กิจกรรม 4.5 ครูผู้สอนเปิดนิทานที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนเพื่อให้เด็กสนใจในเนื้อหามากขึ้น หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 8 วันที่ 6 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา หน่วยครอบครัวแสนสุข เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนมีความตั้งใจเรียน 2.2 ผู้เรียนมีความร่าเริงพร้อมเรียนรู้ 2.3 ผู้เรียนมีการตอบโต้กับครูผู้สอนอยู่เสมอ 2.4 ผู้เรียนสนใจกิจกรรมภายในห้องเรียนอยู่ตลอดเวลา 2.5 ผู้เรียนมีความร่วมมือในการทำกิจกรรมภายในชั้นเรียน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้รู้ถึงวิธีการเลือกใช้สื่อการสอน 3.2 ได้รู้ถึงการควบคุมเด็กด้วยเพลงการสอน 3.3 ได้รู้ถึงเทคนิคการใช้สื่อประกอบการสอน 3.4 ได้รู้ถึงการออกแบบกิจกรรมให้ปลอดภัยกับเด็ก 3.5 ได้รู้ถึงเทคนิคการสอนให้เหมาะสมกับวัย 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กสนใจเนื้อหา และสื่อที่สอน 4.2 ครูผ็สอนมีการทบทวนเนื้อหาก่อนเริ่มเรียนใหม่ 4.3 ก่อนเริ่มเรียนครูจะควบคุมเด็กด้วยการเปิดเพลงจากสือการสอน 4.4 เด็กๆมีความสนใจ ตอบคำถามท้ายคาบได้ถูกต้อง 4.5 เนื้อหาที่ครูผู้สอนได้สอนไม่ยากเกินไปเหมาะสมกับวัย หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 9 วันที่ 7 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวภนิดา นาวิกา ชั้น อนุบาล3 วิชา หน่วยครอบครัวแสนสุข เวลา 09:00-10:30 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 13 คน ชาย 5 คน หญิง 8 คน นักเรียนที่มาเรียน 10 คน ชาย 4 คน หญิง 6 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 3 คน ชาย 1 คน หญิง 2 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ป่วย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนมีส่วนรวมในการทำกิจรรมภายในห้องเรียน 2.2 ผู้เรียนตั้งใจทำกิจกรรมภายในห้องเชื่อฟังคำสั่งครูผู้สอน 2.3 ผู้เรียนทำใบงานในชั้นเรียนอย่างสนุกสนาน 2.4 ผู้เรียนปฏิบัติตามคำสั่งครูผู้สอนเมื่อครูบอกว่าให้นักเรียนเงียบเป็นการอมมะนาว 2.5 ผู้เรียนสนุกกับกิจกรรมที่ครูเปิดเพลงให้เต้นหลังจบคาบเรียน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 การเลือกกิจกรรมที่เด็กชื่นชอบมาดึงดูดให้เด็กสนใจและตั้งใจเรียนมากขึ้น 3.2 การตั้งคำถามในเนื้อหาที่เรียนเพื่อดูว่าเด็กเข้าในเนื้อหาที่เรียนหรือไหม 3.3 เนื้อหาที่ใช้ในการสอนไม่ไกลตัวเด็กจนเกินไป 3.4 คุณครูสอนอย่างใจเย็นไม่รีบสอนในเนื้อหาที่ยากสำหรับเด็กสอนอย่างช้า ๆ 3.5 การจัดกิจกรรมที่ทำให้เด็ก ๆ ได้เกิดการเรียนรู้และทำให้เด็กๆเกิดความสนุกสนาน 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็ก ๆ มีความพร้อมในการเรียนแต่ในละวันเข้ามารอครูผู้สอนก่อนเวลาเรียน 4.2 ครูผู้สอนทำสื่อการสอนออกมาได้อย่างเหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก 4.3 ครูผู้สอนเปิดนิทานที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนเพื่อให้เด็กสนใจในเนื้อหามากขึ้น 4.4 มีเด็กที่ตอบคำถามได้และไม่ได้ 4.5 ครูผู้สอนมีการตั้งค าถามท้ายคาบเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก


แบบสังเกตการจัดบรรยากาศชั้นเรียน ห้องเรียนที่สังเกต อนุบาล 2 ครูประจำชั้น นางสาวภนิดา นาวิกา สังเกตเมื่อวันที่ 5 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 10:30 ผู้สังเกต นางสาวสุนทรี เอี่ยมทิม วิชาเอก การศึกษาปฐมวัย ที่ รายการที่สังเกต รายละเอียดการปฏิบัติงานที่สังเกต องค์ความรู้ที่ได้รับ 1 การจัดโต๊ะเรียน เป็นโต๊ะไม้ จัดอย่างเหมาะสมเป็นระเบียบ สะอาด มีช่องว่างระหว่างทางเดิน การจัดโต๊ะเรียนให้เหมาะสมกับผู้เรียน 2 การจัดโต๊ะครู จัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม สามารถนั่ง ทำงานแล้วมองเห็นได้ทั่วห้อง จัดวาง เอกสาร สมุดหนังสืออย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อย การจัดวางโต๊ะให้เหมาะสมกับห้อง และการจัดวางเอกสารอย่างเป็น ระเบียบ 3 แสงสว่าง มีแสงสว่างพียงพอ มีหน้าต่างรับแสงและ ระบายอากาศ มีดวงไฟให้ความสว่างหลาย จุดภายในห้องเรียน การเปิดไฟและให้มีแสงสว่าง เพียงพอ พร้อมให้เด็กเรียนรู้ได้ทุก สถานการ 4 ป้ายนิเทศ มีป้ายนิเทศให้ความรู้ต่างๆเช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ตัวเลข วันทั้ง7 สีต่างๆ การจัดป้ายนิเทศให้น่าดึงดูด น่าสนใจ เนื้อหาสาระเหมาะกับวัย 5 การจัดตกแต่งห้อง การจัดตกแต่งห้องมีสื่อการเรียนรู้ ป้ายนิเทศ ความรู้ มีมุมหนังสือ มุมแต่งตัว การจัดแต่ง เหมาะสมสะอาด เรียบร้อย การจัดตกแต่งห้องเรียนให้สะอาด สวยงาม น่าอยู่ สบายตา 6 มุมผลงานนักเรียน มีการจัดเก็บผลงานนักเรียนอย่างมีระเบียบ เรียบร้อย โชว์ผลงานอย่างสวยงาม จัดตาม ลำดัลผลการเรียนรู้ เรียนรู้วิธีการจัดระเบียบผลงาน 7 มุมวิชาการ มีมุมนิทาน มุมสื่อการเรียนการสอน มุมสื่อ เสริมทักษะ การจัดหาหนังสือ นิทาน ให้ เหมาะสมกับวัยของเด็ก 8 สนามเด็กเล่น มีสนามเด็กเล่นให้เด็กได้ผ่อนคลาย ออก กำลังกลาย ให้เด็กได้ทำกิจกรรมกลางแจ้ง มี โต๊ะให้นั่งพักผ่อนในสนามเด็กเล่น การจัดมุมพักผ่อนให้กับเด็ก ลงชื่อ สุนทรี เอี่ยมทิม


(นางสาวสุนทรี เอี่ยมทิม) นักศึกษา แบบศึกษารายกรณี ชื่อผู้รับการศึกษา เด็กชายกิตติพัทธ นิ่มเปีย สาเหตุที่ศึกษา น้องเป็นเด็กที่พูดคล้ายภาษาการ์ตูน พูดไม่ชัด แต่พัฒนาการทางด้านการเรียนดี เขียนหนังสือได้ดี วันและเวลาที่ศึกษา 24 มกราคม – 10 กุมภาพันธ์ 2566 ลักษณะของปัญหาหรืออาการที่สำคัญ พูดไม่ชัด สื่อสารคล้ายภาษาการ์ตูน ข้อมูลจากผู้รับการศึกษา ได้แก่ ประวัติส่วนตัว เด็กชายกิตติพัทธ นิ่มเปีย ชื่อเล่น น้องบ็อบบี้ อายุ 5 ปี 3 เดือน เกิดวันที่ 23 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 สัญชาติ ไทย เชื้อชาติ ไทย สถานที่เกิด โรงพยาบาลบางมูลนาก ที่อยู่ 92 หมู่ 13 ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ลักษะทั่วไป น่ารัก แต่งกายสะอาดเรียบร้อย ชื่อผู้ปกครอง บิดา นายธนรัตน์ สีดีอาชีพ รับจ้าง รายได้10000 ชื่อผู้ปกครอง มาดาร นางสาวกุลสตรี นิ่มเปีย อาชีพ รับจ้าง รายได้ 9000 ความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว บิดาและมารดาแยกกันอยู่อาศัยอยู่กับตาได้รับความรักและความอบอุ่น เป็นอย่างดี จำนวนพี่น้อง ไม่มี ประวัติด้านการศึกษา ระดับอนุบาล1-3 โรงเรียนบ้านท่าบัว “รัฐประชานุเคราะห์” - วิชาที่ชอบ ทุกวิชา – วิชาที่ไม่ชอบ ไม่มี ประวัติด้านสุขภาพ ส่วนสูง 110 เซนติเมตร น้ าหนัก 18 กิโลกรัม ไม่มีโรคประจำตัว


ประวัติด้านสังคม ร่าเริง เข้ากับเพื่อน ๆ ได้ดีเชื่อฟังพ่อแม่และครูผู้สอน การใช้เวลาว่างหรืองานอดิเรก ชอบวาดรูประบายสีฟังนิทาน ความใฝ่ฝันในอนาคต คุณหมอ ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนหรือสังคม เติบโตไปเป็นคนดีของสังคม เทคนิคที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล/เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา สอบถามครูพี่เลี้ยง สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล (ได้จากการรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้งตีความหมายจากข้อมูล) ผู้รับการศึกษาเป็นนักเรียนที่น่ารัก ร่าเริงสมวัย ตั้งใจเรียน กระตือรือร้นในการเรียนและการทำงานอยู่เสมอ มี ส่วนร่วมในชั้นเรียนอยู่ตลอด มีความตั้งใจในการทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่ผู้ได้รับการศึกษามีความบกพร่องในด้าน พัฒนาการด้านการพูดสื่อสาร การวินิจฉัยปัญหา สาเหตุที่ผู้ได้รับการศึกษามีความบกพร่องทางการพูด พูดภาษาการ์ตูนออกเสียงไม่ชัดเป็นเพราะดูการ์ตูน ดูสื่อ โซเชียลมากเกินไป จึงทำให้มีการจดจำแต่ภาษาและการออกเสียงที่ไม่ถูกต้อง การช่วยเหลือหรือแก้ไข (กรณีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา) ปรึกษาพูดคุยกับผู้ปกครองเรื่องเกี่ยวกับการใช้สื่อ เช่นโทรศัพท์ โทรทัศน์ ในการดูการ์ตูนหรือสื่อโซเชียลต่างๆ ให้ลดการดูในส่วนของตรงนั้นลง และร่วมมือการส่งเสริมพัฒนาการด้วยการพูดคุยกับเขาบ่อยๆ หัดออกเสียง ให้ถูกต้อง ให้เขาฟังเสียงที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดการจดจำและมีพัฒนาการพูดที่ดีขึ้น การติดตามผล ผู้รับการศึกษามีพัฒนาการด้ารการพูดออกเสียงได้ดีขึ้น พูดจาชัดมากขึ้น สื่อสารได้ดีกว่าที่ผ่านมา ข้อเสนอแนะ ในช่วงเวลาที่อยู่บ้านให้ผู้ปกครองใส่ใจเด็กเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยครูผู้สอนอีกทางในการพัฒนาเด็ก ชื่อผู้ศึกษาและตำแหน่ง นางสาวสุนทรี เอี่ยมทิม ตำแหน่ง นักศึกษาสังเกตุการณ์สอน


การศึกษาผู้เรียน 1. การศึกษาสังเกตพฤติกรรมนักเรียน (ภาพรวมทั้งโรงเรียน ตามแบบตัวอย่าง ต่อไปนี้) (1) ด้านสุขภาพอนามัย 1.1 ความสะอาดของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สภาพจริง นักเรียนแต่งกายสะอาดดีเยี่ยม ความคิดเห็น ควรรักษาความสะอาดให้ดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆ 1.2 การรักษาสุขภาพอนามัย สภาพจริง นักเรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมวัย ร่าเริง ความคิดเห็น ถึงแม้นักเรียนจะมีสุขภาพกายดีแต่ก็ไม่ควรละเลย ควรรักษาสุขภาพให้ดีอย่างต่อเนื่อง 1.3 การรักษาความสะอาดร่างกาย สภาพจริง มีนักเรียนส่วนใหญ่มีความสะอาดเรียบร้อย และบางส่วนยังไม่ถือว่าสะอาดเพราะยังมีนักเรียนที่เล็บ ดำไม่ตัดเล็บ ความคิดเห็น ควรเข้มงวดเรื่องการดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย (2) ด้านสังคม 2.1 การปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน สภาพจริง นักเรียนปฏิบัติตามกฎของโรงเรียน ตัดผม แต่งกาย มาโรงเรียนตามเวลาที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด ความคิดเห็น เนื่องจากปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนดีอยู่แล้ว จึงไม่มีความคิดเห็นใดๆ 2.2 การเล่น การเรียน และการรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อน สภาพจริง การเล่นของเด็กๆนั้นมีปกติสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การเรียนของเด็กนักเรียนนั้นส่วนใหญ่ตั้งใจเรียนเป็น อย่างดี เชื่อฟังคำสั่งสอนของคุณครู การรับประทานอาหารนั้น เด็กๆรับประทานอาหารที่ทาง โรงเรียนจัดเตรียมให้อย่างถูกสุขอนามัย


ความคิดเห็น เนื่องจากการเล่น การเรียน และการรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนถือว่าดีเยี่ยมจึงไม่มีความคิดเห็น ใดๆ 2.3 ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนและครู สภาพจริง นักเรียนมีประติสัมพันธ์กับครูผู้สอนในการเรียน นักเรียนเชื่อฟังคำสั่งของครู สนใจในสิ่งที่ครูให้ ความรู้ มีส่วนร่วมในการตอบคำถามต่าง ๆ ทำกิจกรรมกับคุณครูอย่างสนุกสนาน ความคิดเห็น เนื่องจากความสัมธ์ระหว่างนักเรียนและครูดีเยี่ยม จึงไม่มีความคิดเห็นใดๆ (3) ด้านเศรษฐกิจ 3.1 สภาพการแต่งกาย คุณภาพของเครื่องแต่งกายที่ใช้ สภาพจริง นักเรียนแต่งกายสุภาพเรียบร้อย อุปกรณ์ เครื่องแต่งกายเหมาะสมตามวัย ความคิดเห็น มีนักเรียนบางคนที่อุปกรณืเครื่องแต่งกายไม่ครบในบางครั้งควรเข้มงวดเรื่องการแต่งกายมากกว่านี้ 3.2 การใช้จ่ายในโรงเรียน สภาพจริง มีการใช้จ่ายภายในโรงเรียนคือการซื้อขนมในตอนพักกลางวัน ความคิดเห็น ควรตรวจสอบเรื่องของขนมที่ขายว่าเป็นอาหารขยะหรือไม่ 3.3 การเงินที่ได้รับประจำ สภาพจริง นักเรียนได้เงินมาเพียงพอสำหรับการซื้อของตลอดทั้งวัน ความคิดเห็น เนื่องจากการเงินที่ได้รับมีความเหมาะสมจึงไม่มีความคิดเห็นใดๆ (4) ด้านการศึกษา 4.1 ลักษณะนิสัยในการมาโรงเรียน เช่น มาทัน มาสาย ฯลฯ สภาพจริง นักเรียนมาทันเวลาที่โรงเรียนกำหนดไว้ ความคิดเห็น เนื่องจากนักเรียนมาทันเวลา ทำตามกฎระเบียบของโรงเรียนจึงไม่มีความคิดเห็นใดๆ


4.2 ความสนใจในการเล่าเรียน สภาพจริง นักเรียนมีความสนใจในการเรียน สนใจเนื้อหาที่ครูผู้สอนนำเสนอ มีการโต้ตอบกับครูในการถามตอบ คำถามที่เกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ เชื่อฟังคำสั่งของครูผู้สอน ความคิดเห็น เนื่องจากเด็กทุกคนสนใจ ใส่ใจการเรียนรู้แต่ก็ยังมีเด็กกบางคนที่พัฒนาการช้า ควรใส่ใจสอบถามว่า ติดขัดตรงไหนไหม เพราะบางที่เขาไม่กล้าที่จะถาม 4.3 การใช้เวลาว่างในโรงเรียน สภาพจริง เด็กๆส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างได้เหมาะสม บางกลุ่มไปพักผ่อนที่จุดพักผ่อนที่ทางโรงเรียนได้จัด ไว้ให้ เด็กๆบางกลุ่มก็เข้าค้นคว้าในห้องคอมพิวเตอร์ ความคิดเห็น เนื่องจากเด็กๆใช้เวลาว่างอย่างเหมาะสมจึงไม่มีความคิดเห็นใดๆ 4.4 การใช้ห้องสมุด สภาพจริง เด็กๆเข้าใช้ห้องสมุดกันอย่างต่อเนื่องทั้งสืบหาค้นหว้าความรู้ ทั้งเข้าไปเพื่ออ่านความบันเทิง จึงถือว่า ใช้ห้องสมุดอย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์ ความคิดเห็น ควรพัฒนาระบบ และการนำหนังสือใหม่ๆเข้ามาเพื่อให้เด็กๆทันโกภายนอก (5) ด้านอื่น ๆ 5.1 สนามฟุตบอล สภาพจริง มีสนามฟุตบอลแต่มีหญ้าขึ้นน้อย ทำให้มีดินและฝุ่นเยอะ ความคิดเห็น ควรพัฒนา ปลูกหญ้าที่สนามฟุตบอลเพิ่มเพื่อให้เด็กๆใช้งานได้อย่างเต็มที่


2. การสัมภาษณ์นักเรียน (ให้สุ่มสัมภาษณ์ นักเรียน 3 คน โดยใช้ตัวอย่างแบบสัมภาษณ์เป็นแนวทาง และส่งบันทึกการ สัมภาษณ์ ทั้ง 3 ฉบับ ในรายงานนี้ด้วย) แบบสัมภาษณ์นักเรียน โรงเรียนบ้านท่าบัว “รัฐประชานุเคราะห์” ชื่ออะไร เด็กหญิงชุติกาญจน์ พุทธมาตย์ น้องทานตะวัน อายุเท่าไร 6 ขวบ เรียนชั้นอะไร อนุบาล3 บิดาประกอบอาชีพอะไร พนักงานร้านขายส่ง มารดาประกอบอาชีพอะไร ค้าขาย บ้านอยู่ที่ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร มาโรงเรียนโดยวิธีใด แม่มารับมาส่ง ได้เงินค่าขนมวันละเท่าใด 15 บาท เพียงพอหรือไม่ เพียงพอ เรียนโปรแกรมอะไร (ถ้ามี) ไม่มี ได้คะแนนสูงสุด วิชาอะไร ภาษาอังกฤษ ได้คะแนนต่ำสุดวิชาอะไร คณิตศาสตร์ ผลการเรียนภาคเรียนที่แล้วเป็นอย่างไร 3.50 โรงเรียนของตนมีชื่อเสียงในด้านใด กีฬา ภูมิใจในโรงเรียนของตนหรือไม่ ภูมิใจ อยากให้โรงเรียนทำอะไรอีกบ้าง ไม่ต้องการ เมื่อเรียนจบแล้วอยากเรียนต่อที่ไหน อยากเรียนต่อที่โรงเรียนท่าบัว “รัฐประชานุเคราะห์” เมื่อเรียนจบแล้วอยากเป็นอะไร อยากเป็นครู นักเรียนมีปัญหาอะไร อยากให้โรงเรียนช่วยอย่างไร ไม่มี


การสัมภาษณ์นักเรียน (ให้สุ่มสัมภาษณ์ นักเรียน 3 คน โดยใช้ตัวอย่างแบบสัมภาษณ์เป็นแนวทาง และส่งบันทึกการ สัมภาษณ์ ทั้ง 3 ฉบับ ในรายงานนี้ด้วย) แบบสัมภาษณ์นักเรียน โรงเรียนบ้านท่าบัว “รัฐประชานุเคราะห์” ชื่ออะไร เด็กชายธนดล ศรุตปราณภัค ชื่อเล่นพาสเตอร์ อายุเท่าไร 6 ขวบ เรียนชั้นอะไร อนุบาล3 บิดาประกอบอาชีพอะไร พนักงานปั๊มน้ำมัน มารดาประกอบอาชีพอะไร รับจ้าง บ้านอยู่ที่ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร มาโรงเรียนโดยวิธีใด แม่มารับมาส่ง ได้เงินค่าขนมวันละเท่าใด 25 บาท เพียงพอหรือไม่ เพียงพอ เรียนโปรแกรมอะไร (ถ้ามี) ไม่มี ได้คะแนนสูงสุด วิชาอะไร ภาษาไทย ได้คะแนนต่ำสุดวิชาอะไร ภาษาอังกฤษ ผลการเรียนภาคเรียนที่แล้วเป็นอย่างไร 3.10 โรงเรียนของตนมีชื่อเสียงในด้านใด กีฬา ภูมิใจในโรงเรียนของตนหรือไม่ ภูมิใจ อยากให้โรงเรียนทำอะไรอีกบ้าง อยากให้มีสนามบอลสวยๆ เมื่อเรียนจบแล้วอยากเรียนต่อที่ไหน อยากเรียนต่อที่โรงเรียนอนุบาลบางมูลนากราษอุทิศ เมื่อเรียนจบแล้วอยากเป็นอะไร อยากเป็นช่างซ่อมรถ นักเรียนมีปัญหาอะไร อยากให้โรงเรียนช่วยอย่างไร ไม่มี


การสัมภาษณ์นักเรียน (ให้สุ่มสัมภาษณ์ นักเรียน 3 คน โดยใช้ตัวอย่างแบบสัมภาษณ์เป็นแนวทาง และส่งบันทึกการ สัมภาษณ์ ทั้ง 3 ฉบับ ในรายงานนี้ด้วย) แบบสัมภาษณ์นักเรียน โรงเรียนบ้านท่าบัว “รัฐประชานุเคราะห์” ชื่ออะไร เด็กหญิงจุฬามณี จันทปิก ชื่อเล่นนิดหน่อย อายุเท่าไร 6 ขวบ เรียนชั้นอะไร อนุบาล3 บิดาประกอบอาชีพอะไร รับจ้างไถนา มารดาประกอบอาชีพอะไร รับจ้าง บ้านอยู่ที่ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร มาโรงเรียนโดยวิธีใด แม่มาส่ง ได้เงินค่าขนมวันละเท่าใด 20 บาท เพียงพอหรือไม่ เพียงพอ เรียนโปรแกรมอะไร (ถ้ามี) ไม่มี ได้คะแนนสูงสุด วิชาอะไร ภาษาไทย ได้คะแนนต่ำสุดวิชาอะไร วิทยาศาสตร์ ผลการเรียนภาคเรียนที่แล้วเป็นอย่างไร 3.70 โรงเรียนของตนมีชื่อเสียงในด้านใด กีฬา ภูมิใจในโรงเรียนของตนหรือไม่ ภูมิใจ อยากให้โรงเรียนทำอะไรอีกบ้าง อยากให้มีสระว่ายน้ำ เมื่อเรียนจบแล้วอยากเรียนต่อที่ไหน อยากเรียนต่อที่โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม เมื่อเรียนจบแล้วอยากเป็นอะไร อยากเป็นพยาบาล นักเรียนมีปัญหาอะไร อยากให้โรงเรียนช่วยอย่างไร ไม่มี


3. สรุปผลการสัมภาษณ์นักเรียน (โดยวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์นักเรียน 3 คน) จากการได้สัมภาษณ์นักเรียนทั ้ง 3 คน เป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีความประพฤติตน ถูกต้อง ตามระเบียบ เด็กนักเรียนได้เงินค่าขนมมาพอสมควรไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ในการเดินทางมา โรงเรียนในแต่ ละวันผู้ปกครองจะเป็นคนไปส่งที่โรงเรียนในตอนเช้าและตอนเย็นจะปรับนักเรียนกลับบ้าน เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน ในรายวิชาที่นักเรียนได้คะแนนน้อยจะอยู่ในรายวิชาที่ตัวเองไม่ถนัด ใน รายวิชาที่ได้คะแนนสูงสุด จะอยู่ในรายวิชาที่ตนเองชอบ นักเรียนทุกคนมีความภูมิในในโรงเรียนของตน อย่างมาก เด็กนักเรียนพอใจกับโรงเรียนของตนเองจึงไม่ขอให้โรงเรียนช่วยเหลือในด้านใด เด็กนักเรียนมี เป้าหมายในการศึกษาต่อในชั ้นมัธยมศึกษาและมีความฝันที่ตนเองอยากเป็นและชื่นชอบในการท างานที่ เกี่ยวข้องกับความสามารถของตน


ภาคผนวก


ป้ายโรงเรียน อาคารเรียนชั้นประถมศึกษา หอประชุม อารคารเรียนชั้นประถมศึกษาและอนุบาล ห้องน้ำนักเรียน สนามฟุตบอล


บริเวณหน้าเสาธง พระประจำโรงเรียน บริเวณสำหรับพักผ่อนใต้ร่มไม้ สนามเด็กเล่น ป้ายอัตลักษณ์โรงเรียน ป้ายภาษาไทยภาษาและภาษาอังกฤษ


Click to View FlipBook Version