The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือผู้ปกครองเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by noodream_66, 2021-10-04 08:40:32

คู่มือผู้ปกครองเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้

คู่มือผู้ปกครองเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้

47

ด้านภาษา (ต่อ)

ด้านการอ่าน

(1) เลือกบทความหรือหนังสอื ให้เหมาะสม เหตผุ ลหนึง่ ทล่ี ูกไม่ชอบการอ่าน
หรอื กลัวการอา่ น เพราะว่าหนงั สือหรือเร่ืองราวท่ีให้อา่ นน้นั ยากเกนิ ไป สำหรับเด็ก ๆ
การเลือกหนังสือสำหรับการอ่านต้องพิจารณาทั้งความยาก - ง่ายและความน่าสนใจ
วิธีหนึ่งทชี่ ว่ ยได้คอื ใหล้ กู เลอื กหนงั สอื ทอ่ี ยากอา่ นดว้ ยตวั เอง

(2) ให้แรงจูงใจตลอดการอ่าน
ก. เริ่มดว้ ยการส้รางความเป็นมติ รระหว่างผปู้ กครองกบั ลกู
ข. ให้มปี ระสบการณ์ของความสำเรจ็ เช่น อ่านคำใหม่ ๆ ได้ ลูกกไ็ ดร้ บั
คำชมจากคุณพอ่ คุณแม่
ค. แสดงใหล้ กู เหน็ ความก้าวหน้าของตนเอง เช่น จำนวนหนา้ ทอ่ี า่ นได้
จำนวนคำทส่ี ะกดถูก
ง. ไม่ให้หนงั สือที่ลูกค้นุ เคยมาแล้ว โดยเฉพาะหนังสือท่ใี หป้ ระสบการณท์ ี่
ไม่ดีแกล่ ูก
ฉ. ไมใ่ ห้หนงั สอื ทเ่ี คยอ่านมาแลว้ มาสอนการอา่ นซำ้ อกี เพราะจะทำใหล้ ูก
ใชก้ ารจำมากกว่าการฝกึ ทกั ษะการอ่าน
ช. บทความหรอื หนงั สือทใี่ ช้สอนการอา่ น ควรเปน็ ความรู้เก่ียวโยงไปถงึ
วิชาอ่ืน ๆ ทีล่ กู จะตอ้ งเรียนด้วย เพื่อช่วยส่งเสรมิ ให้ลกู ได้นำความรู้
จากการอ่านเพือ่ ดคู วามเขา้ ใจของลูกดว้ ย

48

ด้านภาษา (ต่อ)

ด้านการอ่าน (ต่อ)

(3) ใหล้ ูกได้มีเวลาอ่านเงยี บ ๆ เด็ก ๆ แต่ละคนควรมโี อกาสได้อา่ นหนงั สอื
เงยี บ ๆ บ่อย ๆ แต่จะต้องไมใ่ ชเ่ วลานานเกนิ ไป หลังจากการอ่านเงยี บ ๆ
แต่ละครัง้ ควรจดั ใหม้ ีเวลาไดพ้ ดู คุยหรอื ตอบคำถามเกยี่ วกบั เรอ่ื งทอ่ี ่าน
เพอื่ ดูความเขา้ ใจของลูก

(4) อยา่ ปลอ่ ยใหล้ กู พยายามสะกดอยกู่ บั คำหนึ่งคำใดนานเกนิ ไป เมื่อลูกเรมิ่
อา่ นออกเสียงและพบกับคำท่ไี ม่ค้นุ เคย ผู้ปกครองควรออกเสียงคำนน้ั ๆ
นำกอ่ นเป็นตัวอยา่ ง

49

หลักการสอนเสรมิ

ด้านคณติ ศาสตร์
ก่อนจะสอนคณิตศาสตร์ให้ลูก ผู้ปกครองเริ่มจากการสำรวจพื้นฐานที่ลูกมีอยู่ซักนิด

กอ่ น แล้วสอนเสริมตอ่ จากทักษะที่ลกู ทำไดแ้ ลว้ ตามลำดบั ข้ันตอนจากงา่ ยไปยากอย่างชา้ ๆ
การสอนคณติศาสตรเ์ บื้อตน้ เริ่มตามลำดับขนั้ ตอน ดงั นี้
(1) การนบั เลขดว้ ยการทอ่ งจำ คอื การนับเลข 1,2,3,4,5,… แต่ยงั นบั จำนวนใหต้ รง
กับเลขไม่ได้ เชน่ นบั 3 แต่ยังหยิบของไมไ่ ด้ 3 ช้ิน
(2) การนบั เลขไดต้ รงกบั จำนวน เช่น นับ 1 หยิบของ 1 ช้นิ แม่ขอดนิ สอ 5 แท่ง เด็ก
หยบิ ดนิ สอส่งใหไ้ ด้ 5 แท่ง
(3) รคู้ วามแตกต่างของจำนวนและตัวเลขและเขียนตวั เลขได้ มจี ำนวนนับมากข้ึนไป
ถงึ หลกั สบิ และหลักรอ้ ยได้ เช่น นับได้ถงึ 30 เข้าใจจำนวนมากกว่า นอ้ ยกว่า เชน่
เข้าใจว่า 75 มากกวา่ 40
(4) เข้าใจความแตกตา่ งระหวา่ งปริมาณ รปู ร่าง ขนาดของวัตถุของสงิ่ ของตา่ ง ๆ
ใหญเ่ ลก็ ส้ันหรือยาว น้อยหรือมาก มากกว่าน้อยกว่า กลมหรือเหลี่ยม

ใหญห่ รือเล็ก / ส้ันหรือยาว

50

การสอนบวกเลข

(1) ในการสอนการบวกเลขขน้ั เรมิ่ ต้น ควรใชก้ ารสอนท่ีเป็นรูปธรรม เชน่ การใช้สิ่งของ
แทนการนับ ท่ีลูกสามารถสมั ผัสไดด้ ว้ ยตนเอง ดังตวั อยา่ ง การใชร้ ปู ภาพใหล้ กู นับ

+=

1+ 2= 3

(2) ใชว้ สั ดุอ่นื ๆ ทหี่ าไดง้ ่าย ๆ เชน่ ดนิ สอ ทใี่ ชส้ ำหรับนบั และบวกเลข ลูกปดั รอ้ ยเชือก
ใชส้ ำหรบั การสอนนบั บวก และลบ นอกจากรปู ภาพได้อกี ด้วย

(3) หลังจากที่ผู้ปกครองใช้การสอนด้วยอุปกรณ์ที่เป็นรูปธรรมแล้ว ต่อไปก็จะเริ่มการ
คำนวณแบบนามธรรม แต่ลูกยังต้องใช้การมองเห็นชว่ ยในการคิดอยู่ สิ่งที่ช่วยได้คือ การเขียน
ตัวเลขเป็นตัวเลขใต้เส้นตรง ความสั้นยาวของเส้นตรง แสดงจำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้น
ตวั อย่างเชน่

แถวตวั เลขน้อี าจจะทำให้เปน็ แถวติดไวบ้ นโต๊ะทำการบา้ นลูก หรือเขยี นบนพ้ืนห้อง การ
ที่เดก็ ๆ ไดค้ ุ้นเคยกบั แถวตวั เลขดังกลา่ วนี้ จะเป็นประโยชนต์ อ่ ไปในการเรยี นเลข บวกและลบ

(4) การสอนจะตอ้ งสอนไปทลี ะอย่าง เช่น สอนบวก ก็จะสอนบวกอย่างเดียวกอ่ น และ
ต้องสอนซ้ำๆ แต่จะตอ้ งไม่ทำใหล้ ูกรสู้ กึ เบื่อด้วย

(5) เมื่อลกู สามารถจำตวั เลข 1 ถึง 9 ไดแ้ ลว้ จึงคอ่ ยใหล้ ูกได้บวกเลขด้วยตัวเลขสองตวั

51

การสอนบวกเลข (ต่อ)

(6) เมอื่ จะให้ลูกบวกเลข 2 หลัก จะต้องใหล้ ูกเขา้ ใจคา่ ของตัวเลขในหลกั ต่าง ๆ กอ่ น
เชน่

หลงั จากนั้นจึงเร่ิมสอนการทดเลขเมอื่ บวกเลข 2 หลกั

สรุป การสอนการบวกเลขขั้นแรกนี้ให้สอนด้วยวิธีที่เป็นรูปธรรม คือ ใช้สิ่งของหรือ
วัตถุอุปกรณ์ ต่อไปจึงเปลี่ยนเป็นรูปภาพและในที่สุดลูกก็จะสามารถบวกเลขได้ด้วยการใช้
ตวั เลขแทนส่งิ ของหรือรูปภาพได้ และต่อไปลูกก็จะสามารถคิดในใจได้ในท่สี ดุ

52

การสอนลบเลข

การลบนั้นตรงข้ามกับการบวก การบวกเลขก็คือการเอาสิ่งของมารวมเข้าด้วยกัน แต่
การลบเลขก็คอื การหกั ออกไปจำนวนหนง่ึ

การสอนลกู ลบเลข ใชห้ ลกั การเดียวกับการบวกเลข น้นั คอื
(1) เริม่ การลบเลขจะใชวธิ ที ่ีเป็นรปู ธรรมและค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปน็ นามธรรมหรือตัวเลข

และผู้ปกครองควรสอนการลบเลข หลังจากที่ลูกบวกเลขไดแ้ ลว
(2) เรม่ิ สอนจากการมตี วั ตงั้ มากกวาตวั ลบ เม่ือลกู เขาใจการลบแลวง่าย ๆ แลว จงึ สอน

ข้นั ตอไป นัน่ คอื การลบที่ตองขอยืม
(3) การขอยมื ในการลบเลขทตี่ ัวตง้ั นอยกวาเปน็ สว่ นท่ีเขาใจยากสำหรบั ลูกทเ่ี รียนรูชา

เช่น มีโจทย์ว่า 23 – 4 ลูกจะไม่เข้าใจว่าทำไม 3 ลบ 4 เลยไม่ได้ เพราะ ลูกไม่
เขา้ ใจการ “ขอยมื ”

ผู้ปกครองควรเริ่มการสอนด้วยการให้เด็กเข้าใจค่าของตัวเลขในหลักต่าง ๆ ก่อน
ตวั อยา่ ง ลบ 4 จาก 23 โดยสอนว่า 23 มี 10 สองคร้ัง (20) และ 3 แล้วเปลย่ี นเปน็ 10 กับ 13
ลบด้วย 4 และบวกด้วย 10 ได้คำตอบ 19 เมื่อนักเรียนเข้าใจได้ว่า ตัวเลข 2 ใน 20 หมายถึง
10 สองคร้งั จะทำให้เขา้ ใจการ “ขอยืม” ไดง้ ่ายข้ึน

53

การสอนการคณุ และการหาร

ความจรงิ แลว้ การคณู กค็ อื การบวกเลขทเ่ี รว็ ข้นึ และได้ผลดีกวา่ เช่น 7 คูณ 10 ง่ายกว่า
และเรว็ กวา่ บวก 7 สบิ คร้งั การทดเลขจากหลกั หนงึ่ ไปอกี หลกั หนึง่ คลา้ ยกบั การทดในการบวก

นอกจากนี้สิ่งที่เหมือนกันระหว่างการบวกและการคุณก็คือ ถ้าตัวเลขสลับกันก็ได้
คำตอบเทา่ กนั เช่น

1 + 7 = 8 หรือ 7 + 1 = 8 , 7 × 1 = 7 หรือ 1 × 7 = 7
การสอนคูณเลขกเ็ หมอื นกบั การสอนเลขอย่างอื่น ๆ คือเริ่มด้วยการสอนที่เป็นรปู ธรรม
แล้วจากนน้ั ค่อย ๆเปล่ียนไปเปน็ นามธรรม
การหาร ตรงข้ามกับการคูณ ลูกจะต้องมีทักษะจากการคูณเสียก่อน การสอนหาร
จะต้องทำภายหลังการสอนคูณคลอ่ งแล้ว

การสอนแก้โจทย์ปัญหา

ลกู เรียนรชู้ ้าอาจจะเข้าใจความหมายของคำท่ีใช้ในทางคำนวณ เชน่ บวก ลบ คณู ฯลฯ
แต่ถ้าลูกต้องพบกับโจทย์เลขที่ไม่ได้บอกวิธีคำนวณ ผู้ปกครองมักจะพบว่าลูกก็จะทำไม่ได้
ดังนน้ั ผู้ปกครองจงึ ตอ้ งสอนให้ลกู ตวั อย่างโจทย์ เชน่

ข้อ 1 สมศรีมีเงินอยู่ 28 บาท เขาซื้อนมกล่องไป 6 บาท และขนมอีก 5 บาท ถามว่า
สมศรยี งั เหลือเงินอกี เท่าไหร่ ?

จากโจทย์ไม่ได้บอกวิธีการคำนวณไว้ชัดเจน ดังนั้นผู้ปกครองจะต้องช่วยให้ลูกค้นหาวา่
ถ้อยคำไหนที่บ่งชว้ี ิธีการคำนวณเพือ่ แก้ไขโจทย์เลขนไี้ ด้

เช่น โจทย์ข้อ 1 คำว่ามีอยู่,ใช้ไป,ซื้อไป บอกให้ทรายว่า สมศรีมีเงินอยู่ท้ังหมดและการ
ซอ้ื ไป คอื จ่ายเงนิ ไปจะตอ้ งเอามาลบกนั จงึ จะไดค้ ำตอบทถี่ ูกตอ้ ง

54

การสอนเรอื่ งเวลา

(1) การสอนให้เด็กดูปฏิทิน ทำเครื่องหมายบนปฏิทินในวันสำคัญต่าง ๆ สอนดูวันในหน่ึง
สัปดาห์ ใน 1 เดือน และใน 1 ปี
(2) การสอนความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา เริ่มจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาใดเวลหน่ึง
โดยเฉพาะ เชน่ เวลา ดูโทรศัพท์ เวลาเล่นเกม เวลารับประทานอาหาร เวลาตืน่ นอน ควบคู่กับ
การดูเวลาจากหน้าปัดนาฬกิ า หรอื ผ้ปู กกครองเขียนรปู นาฬิกาคกู่ ับกิจกรรมกไ็ ด้

การบอกเวลาที่แน่นอน เช่น บอกเวลาเป็นนาที จะต้องรู้จักความแตกต่างระหว่าง
“กอ่ นหนา้ ” และ “ภายหลงั ” วิธงี า่ ย ๆ ที่จะทำให้นักเรยี นเข้าใจความหมาย “ก่อนหนา้ ” และ
“ภายหลงั ” กค็ ือวาดรปู นาฬกิ า ดงั ตัวอยา่ งต่อไปน้ี

การสอนเรื่องเงินตรา

ผู้ปกครองควรสอนให้รู้จักชนิดของค่าเงินตรา ตั้งแต่เหรียญสลึง เหรียญบาท ห้าบาท
สิบบาท ธนบัตรยี่สิบบาท ร้อยบาท โดยให้รู้จักของจริง และให้เด็กได้มีโอกาสใช้เงินซื้อของมี
การแลกเงนิ มกี ารทอน การฝากออมสิน ฯลฯ

55

เด็กที่มคี วามบกพร่อง
ทางการเรยี นรู้
หรอื เด็ก LD

กิจกรรม ทเี่ หมาะสาหรบั เด็กทีม่ ีความบกพรอ่ ง

ทางการเรยี นรู้

(1) ดนตรบี าบัด
เสียงดนตรีและท่วงทำนองเพลงจะทำให้เด็กมีการ

ฟื้นฟูสมรรถภาพและกระตุ้นพัฒนาการทางสมองได้ดีขึ้น
โดยสามารถทำได้ด้วยการเปิดเพลงให้เด็กฟัง ชวนเด็กเต้น
ไปพร้อม ๆ กับเสียงเพลงหรือจะเป็นการออกกำลังกาย
แบบแอโรบิกทา่ มกลางเสียงเพลงก็ได้ ซ่ึงวิธีน้ีนอกจากจะทำ
ให้เด็กมีสมาธิดีขึ้นแล้ว ก็จะทำให้เด็กอารมณ์ดีและลด
พฤติกรรมก้าวรา้ ว รนุ แรงได้อีกด้วย

วิธีงา่ ย ๆ กับดนตรีบาบัด เมอ่ื ใดท่เี ราไมค่ วร
ใชด้ นตรีบาบัด?

• เปดิ เพลงจงั หวะเร้าใจ • เมื่อเด็กไมช่ อบดนตรี
• ขยบั ตวั เข้าจังหวะ หรอื ไมต่ อบสนองต่อดนตรี
• ใช้ดนตรีแบบเคาะจงั หวะ • เมื่อเดก็ ไมพ่ ร้อม อ่อนแอ
• ใชอ้ ปุ กรณเ์ กดิ เสยี งใหเ้ ด็กได้เขย่า หรอื ฟงั เพลง เหนือ่ ย ต้องการพักผ่อน
• บอกความรสู้ กึ ท่ีได้จากเพลง • เม่ือเด็กไม่สามารถอดทน
• ทำคร้ังละ 1-1.30 ชว่ั โมง สัปดาห์ละ 2 คร้ัง ต่อการกระต้นุ ทางเสียงได้

56

ประโยชนข์ องดนตรีบาบัด

(1) ปรับสภาพจิตใจใหอ้ ยู่ในสภาวะสมดุล มคี วามสงบและมีทัศนคตใิ นเชิงบวกเพม่ิ ขน้ึ
(2) ผอ่ นคลายความตงึ เครยี ด ลดความวติ กกงั วล (anxiety)
(3) กระตุ้น เสรมิ สร้าง และพฒั นาทกั ษะการเรยี นรู้ และความจำ
(4) กระตนุ้ การรบั รู้ (perception)
(5) เรมิ สร้างสมาธิ (attention span)
(6) เสรมิ สร้างทักษะทางสงั คม (social skill)
(7) พัฒนาทกั ษะการสื่อสารและการใช้ภาษา
(8) พัฒนาทักษะการเคลือ่ นไหว (motor skill)
(9) ลดความตึงตวั ของกล้ามเนอ้ื (muscle tension)
(10) การจัดการอาการเจ็บปวดจากสาเหตตุ า่ ง ๆ
(11) ปรบั เปลยี่ นพฤติกรรม (behavior modification)
(12) สรา้ งสมั พนั ธภาพทดี่ ีในการบำบดั รกั ษาต่าง ๆ
(13) ช่วยเสริมในกระบวนการบำบัดทางจติ เวช ทง้ั ในดา้ นการประเมนิ ความรูส้ กึ

ควบคุมตนเอง แก้ปมขัดแย้งต่าง ๆ และเสริมสร้างความเข้มแข็ง
ของครอบครัว

หมายเหตุ สามารถใชไ้ ด้กับเด็กที่มีพฤติกรรมถดถอย
และจะยิ่งช่วยให้เด็กได้กลับเขา้ สสู่ ังคมไดร้ วดเร็ว

57

กิจกรรม ท่ีเหมาะสาหรบั เด็กที่มคี วามบกพร่อง

ทางการเรียนรู้

(2) ศลิ ปะบาบดั
การใช้ศิลปะในการบำบดั จะสามารถพัฒนาด้าน

อารมณ์ สติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้ดี
โดยผู้ปกครองอาจสอนให้ลูกได้จดจ่ออยู่กับการวาด
ภาพ ระบายสี หรอื ลองทำกิจกรรมอืน่ ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับ
ศลิ ปะ ซง่ึ ชว่ งแรกเด็กอาจจะทำได้ไม่ดีนกั แต่เมื่อผ่านไปไดร้ ะยะหนึง่ ผูป้ กครองจะพบกบั ความ
เปลี่ยนแปลงว่าเขามีพัฒนาการทีด่ ีมากข้นึ เลยทีเดยี ว

ศิลปะบาบดั คืออะไรนะ ?

การใชก้ ิจกรรมทางศิลปะเพ่ือคน้ หาข้อบกพร่องความผิดปกตบิ างประการของ
กระบวนการทางจติ ใจ และใชก้ ิจกรรมทางศลิ ปะที่เหมาะสม ชว่ ยในการบำบัดรักษาและ
ฟ้ืนฟสู มรรถภาพให้ดขี ้นึ เพ่ือลดปญั หาทางอารมณ์พฤติกรรมและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพใน
ดา้ นตา่ งๆ มกี ารใช้สอื่ วัสดุ อุปกรณ์และรปู แบบทหี่ ลากหลาย เช่น ขดี เขยี น วาด ระบาย
ตัดปะ ป้ัน ถักทอ เพอ่ื เปน็ ทางเลอื กทจ่ี ะระบายความรสู้ กึ นึกคิดจนสามารถเข้าใจและ
จัดการกับความ รสู้ ึกไดส้ ามารถสอื่ สารกับผ้คู นรอบข้างได้

58

กระบวนการ

• สรา้ งสมั พนั ธภาพระหวา่ งเด็กและผูป้ กครอง
• ค้นหาปญั หา สำรวจ วิเคราะห์
• ทบทวนประสบการณ์ โดยนำประสบการณป์ ญั หามาจดั เรยี งใหม่
• เสริมสร้างกำลังใจ ใหแ้ รงเสรมิ และให้โอกาสเปลี่ยนแปลง

(1) ชว่ ยผอ่ นคลาย ความตึงเครยี ด มีระดบั อารมณ์ที่ดขี นึ้ ประโยชน์

(2) สร้างทกั ษะการเคลอ่ื นไหว ชว่ ยพฒั นากล้ามเน้อื มดั เล็ก

(3) เสรมิ สรา้ งทกั ษะการส่ือสาร เน่ืองจากศิลปะเปน็ ภาษาสากล

(4) ชว่ ยสร้างทกั ษะทางสังคม มมี นษุ ยสมั พันธ์ เข้าใจตนเอง ผอู้ ่นื

(5) สามารถเขา้ ใจบทเรยี นที่ยาก ให้เข้าใจได้ง่ายมากข้นึ ผา่ นศิลปะ

ตัวอยา่ งกิจกรรมศลิ ปะบาบดั

ฝกึ ความคิดสร้างสรรค์ไปกับงานปัน้

เติมความสดใสดว้ ยสีเหลอื ง

59

กิจกรรม ทเ่ี หมาะสาหรบั เด็กทมี่ ีความบกพร่อง

ทางการเรียนรู้
(3) เกมการศกึ ษา

เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เด็กต้องเปลี่ยนจากการเรียน
ในสถานศกึ ษามาเปน็ ในรปู แบบออนไลน์ ทำใหใ้ นปจั จบุ นั เกดิ เกมการศกึ ษาตา่ ง ๆ ขึ้นมารองรบั
การเรยี นรูข้ องนักเรียน ซง่ึ เกมการศกึ ษาสามารถทำให้เด็กทีม่ ีความบกพร่องทางการเรียนรู้หรือ
เด็กแอลดกี ลับเข้ามาสนใจในเน้ือหา อีกทง้ั ยังทำใหเ้ กิดสมาธมิ ากข้ึนไดอ้ ีกด้วย

เกมการศึกษา คืออะไรนะ ?
สื่อการเรียนที่จัดขึ้นเพื่อให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ จากการ
เล่นโดยมีกฎเกณฑ์หรือกติกาจะเป็นพื้นฐานการเตรียมความพร้อม โดยเป็นเกมหลาย
รูปแบบที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ได้แก่ ด้านภาษา คณิตศาสตร์
เหตุผล มิติสัมพันธ์ ประสาทสัมผัสการรับรู้และการจํา ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์และ
จินตนาการตามแนวและแผนการจัดประสบการณ์อันจะช่วยให้เด็กให้ทํางานอย่างเป็น
ระบบและการอยรู่ ่วมกบั เพ่อื นในสังคมอกี ด้วย

60

วัตถุประสงค์
ของเกมการศึกษา

สานกั งานคณะกรรมการศึกษาเอกชน

(1) เพอ่ื ฝกึ ให้เดก็ ร้จู กั การสังเกตและจำแนกด้วยสายตา
(2) เพื่อฝกึ การคิดหาเหตผุ ล
(3) เพอ่ื ฝกึ การตัดสินใจในการแก้ปญั หา
(4) เพื่อฝกึ ประสาทสมั ผัสระหว่างมอื กบั ตา
(5) เพือ่ ฝึกให้มคี ณุ ธรรมต่าง ๆ ได้แก่ ความรับผดิ ชอบ ความเออื้ เฟ้อ
(6) เพ่ือทบทวนเนอ้ื หาท่เี รียนไปแลว้ จากวัตถปุ ระสงคข์ องการจัดเกมการศกึ ษา

สานักงานคณะกรรมการ
การประถมศึกษาแห่งชาติ

(1) สามารถจำแนกดว้ ยสายตา (2) สามารถจำแนกเสียง

(3) สามารถจัดหมวดหมู่ (4) สามารถคิด

(5) สามารถหาความสัมพันธร์ ะหว่างภาพและสญั ลกั ษณ์

เด็กที่มคี วามบกพร่อง
ทางการเรยี นรหู้ รอื เด็กแอลดี

61

ตัวอย่างเกมการศึกษา

Pinkfong : My Body

เรยี นรสู้ ิ่งต่างๆ ของร่างกายด้วยวีดีโอและ
กจิ กรรมสนกุ ๆ
1) มภี าพเคล่ือนไหวและเสียงประกอบทเ่ี พลดิ เพลิน
2) หลากหลายเกมเพื่อเรียนรู้
3) มีเนอ้ื หาทั้งหมด 5 ภาษา
4) ชุดสต๊ิกเกอร์นา่ รัก

เก่งไทย

เกมฝึกคัดลายมือและเรียนรภู้ าษาไทย
โดยใช้นวิ้ มือลากดินสอให้เป็นตัวอกั ษรภาษาไทย
เปน็ การฝกึ การใช้กลา้ มเนอ้ื มัดเล็ก และการ
เรียนรู้อกั ษรภาษาไทย และการอ่านออกเสียง

BIMIBOO

เกมที่จะทำให้เด็กได้ฝึกการคิดวิเคราะห์คิด
คำนวณ เข้าใจเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ง่ายขึ้น
ผา่ นเกมทีม่ ีภาพเคลื่อนไหวและสีสนั สวยงาม

ข้อดี 62

(1) ชว่ ยใหเ้ กดิ พัฒนาการทางดา้ นอารมณ์ ความคดิ ใหก้ ับเดก็
(2) ชว่ ยส่งเสริมทักษะการใช้ภาษาการฟัง การพูด
(3) ช่วยในการฝกึ ทกั ษะทางภาษาและทบทวนเนอื้ หาวชิ าต่าง ๆ
(4) เปดิ โอกาสใหเ้ ด็กได้แสดงออก
(5) ชว่ ยประเมนิ ผลการเรยี นการสอน
(6) ชว่ ยใหเ้ ด็กเกดิ ความเพลดิ เพลนิ และผอ่ นคลายความตึงเครียด
(7) ช่วยเร้าความสนใจของนักเรียนใชเ้ ป็นกิจกรรมนาํ เข้าส่บู ทเรียน

เสรมิ บทเรยี น และสรุปบทเรยี น
(8) สง่ เสรมิ ใหเดก็ มีความสามคั คี รจู้ กั การเออื้ เฟอ้ื ช่วยเหลอื กัน
(9) ฝกึ ความรับผดิ ชอบ รจู้ กั ปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์
(10) ชว่ ยให้ครูได้เหน็ พฤติกรรมของนักเรียนได้ชัดเจนย่งิ ขึ้น

(1) ต้องคน้ คว้าโปรแกรม/แอปพลิเคชนั ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ น่าสนใจ สอดคล้องกับบทเรยี น

(2) บางโปรแกรม/แอปพลิเคชนั ท่ีไมเ่ ปน็ ทีน่ ิยมอาจตอ้ งใช้

เวลามากในการศึกษา ข้อเสยี

(3) บางโปรแกรม/แอปพลเิ คชนั ต้องเสยี คา่ ใช้จา่ ยในการใชง้ าน

(4) เปน็ การใช้งานที่ลำบากหากผ้ปู กครองไมม่ ีความพรอ้ มดา้ นอปุ กรณ์

และทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี

63

ถาม-ตอบ
คำถามท่พี บบ่อย ?

……

คำถาม : เด็กอนุบาลจะรูไ้ หมว่าเปน็ เดก็ แอลดี (LD) / แอลดีรไู้ ด้ต้งั แตอ่ นุบาลหรือไม่ ?

คำตอบ : โดยทั่วไปคำท่ใี ช้เรียกวา่ “เด็กท่ีมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ หรอื LD” จะใช้เรยี ก

เด็กในระดับประถมศึกษาขึ้นไป ส่วนเด็กที่อยู่ในระดับอนุบาลหรือเด็กเล็ก ซึ่งเป็นเด็กปฐมวยั นีม้ กั จะ
เรียกว่า “เด็กที่อยู่ในภาวะเสี่ยงตอ่ การมคี วามบกพรอ่ งทางการเรียนรู้” ที่เรียกเชน่ นี้เน่ืองจากเดก็
ปฐมวยั บางคนอาจไม่ได้รับการเตรียมความพร้อมหรือได้รับแตไ่ ม่เพียงพอจึงทำให้เด็กมีความล่าช้าใน
การเรียนรู้ นอกจากนี้การจัดการศึกษาในระดับอนุบาลมักจะเป็นการเตรียมความพร้อมในด้าน
ร่างกาย อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา มากกว่าการเนน้ อ่าน เขยี น และคดิ คำนวณ แต่ในปัจจุบันนีพ้ ่อ
แม่ส่วนใหญใ่ ห้ลูกเรยี นรู้การอ่าน การเขียน ตั้งแต่ช่วงปฐมวยั ดังนั้นเดก็ ในระดับอนบุ าลหรือเดก็ เลก็
แสดงพฤติกรรมว่ามีความบกพร่องทางการเรียนรู้จึงยังไม่สามารถระบุว่าเป็น LD อย่างไรก็ตามเด็ก
ปฐมวัยเมื่อได้รับการเตรยี มความพรอ้ มท่ีดแี ละเหมาะสมก็จะมีความสามารถในการเรียนร้ทู ่ดี ไี ด้

64

ถาม-ตอบ
คำถามที่พบบอ่ ย ?

……

คำถาม : สือ่ การเรียนทสี่ ่งเสรมิ พัฒนาการเดก็ LD เป็นอย่างไร ?

คำตอบ : สอ่ื ท่ดี ีสำหรับเด็ก LD คอื สือ่ ท่ีเหมาะกับความตอ้ งการและลักษณะนสิ ยั เฉพาะของเขา

เชน่ ถา้ เรารวู้ ่าเดก็ LD มีวธิ กี ารเรยี นร้ดู ้วยการมอง ไม่ใช่การอา่ นกส็ อนเขาด้วยวธิ ีการให้ฟงั แทน แล้ว
เด็กจะสามารถประมวลผลจากการฟังและได้ความรู้ไม่ต่างจากเด็กปกติที่อ่านหนังสือ หรือในวิชา
คณิตศาสตร์ที่เด็กจำตัวเลขไมไ่ ด้ ก็ใช้การมองภาพและสอนโดยใช้การนับจำนวนภาพทีเ่ พิ่มขึ้นลดลง
แทนการบอกหรือลบ ซึ่งจะทำให้เด็กเข้าใจความคิดรวบยอดของการเรียนคณิตศาสตร์ในเรื่องนั้น ๆ
ได้มากข้นึ เป็นต้น

65

ถาม-ตอบ
คำถามทพ่ี บบอ่ ย ?

……

คำถาม : เด็กสมาธิสั้นและเด็กแอลดีนั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ? / ในเด็กหนึ่งคนจะ

เปน็ ได้ทั้งสองอยา่ งหรือไม่ ?

คำตอบ : เด็กสมาธิสั้น (ADD/ADHD) จะมีอาการซน ยุกยิก หรือเหม่อ ในช่วงอายุก่อน 6 ปี

แรก เด็กสมาธิสัน้ จะทำสิ่งตา่ ง ๆ ได้ไม่นาน เพราะต้องรับกับสิ่งเร้าทีเ่ ขา้ มา เด็กสมาธิสั้นส่วนใหญจ่ ะ
อา่ นได้ดีโดยท่วั ไปเขียนได้ถูกต้องพอสมควรประมาณ รอ้ ยละ 60 พบว่ามพี ฤติกรรมการเขียนท่ีพบเปน็
ปัญหา เช่น เขียนข้ามตกหล่น สะกดคำไม่ได้ เขียนลายมือเป็นตัวหวัด ไม่เป็นระเบียบโย้หนา้ โย้หลงั
ลักษณะคลา้ ยควบคมุ กล้ามเน้ือมือได้ไม่ดี มักบน่ ว่าเหน่ือย เมื่อยมอื มากแม้เขียนไดไ้ ม่ก่ีประโยค ส่วน
เด็กบกพร่องทางการการเรียนรู้ (LD) อาจจะพูดเก่ง ฉลาด ไม่จำเป็นต้องมีอาการยุกยิก หรือเหมอ่
แต่จะสงั เกตได้วา่ เดก็ อาจมีปญั หาเรื่องภาษา มกี ารเคล่อื นไหวงุ่มง่าม เรียนอะไรกไ็ ม่จำได้หน้าลืมหลัง
และเมื่อเข้าสู่ระดับอนุบาลตอนปลายหรือชั้นประถมจะหลีกเลี่ยงการเขียน เช่น จดงานช้า สะกดไม่
ค่อยได้ เรยี นรู้ช้า เปน็ ตน้ จากนั้นเรม่ิ ยุกยกิ ในช้นั เรียน เหม่อ ทัง้ นเ้ี น่อื งจากขาดแรงจูงใจเพราะตัวเอง
เรยี นไม่ร้เู ร่ือง อาการคลา้ ยสมาธิสัน้ จงึ เกดิ ขึ้นและมีแนวโน้มสมาธิสนั้ มากข้ึน ซึ่งตรงขา้ มกบั สมาธิส้ันที่
เห็นได้ก่อนอายุ 6 ปี ซึ่งบางรายอาจเกิดขนึ้ ได้ 2 อาการในคนเดียว

66

ถาม-ตอบ
คำถามท่ีพบบ่อย ?

……

คำถาม : ครอบครัวสามารถชว่ ยบุตรหลานท่ีเปน็ เด็กแอลดีได้อยา่ งไร ?

คำตอบ : ครอบครัวหรือคนรอบข้างสามารถช่วยเด็กได้โดยการอธิบายให้เด็กเข้าใจ สมาชิกใน

ครอบครัวให้การยอมรับ เรียนรู้ และเข้าใจถึงปัญหาความบกพร่องเฉพาะด้านของเด็ก รวมทั้ง
ความรู้สกึ ของเดก็ ที่มตี ่อผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนตำ่ ควรเปล่ยี นพฤติกรรมจากการตำหนิ ลงโทษ เป็น
ความเข้าใจ ส่งเสรมิ ทักษะการเรียนรูข้ องเด็ก และช่ืนชมเมอื่ เด็กทำสำเรจ็ แม้เป็นเร่อื งเลก็ นอ้ ย เพ่ือให้
เดก็ เกดิ ความภาคภมู ิใจในตนเอง

1111
67

เอกสารอ้างองิ

ทวศี ักด์ิ สิรริ ตั น์เรขา.//(2005).//แอลด.ี ..ความบกพร่องทางการเรียนรู้.//สบื ค้นเม่ือ 2
ตุลาคม 2564,/จาก/https://www.happyhomeclinic.com

ทีมจิตแพทยเ์ ด็กและวยั รนุ่ โรงพยาบาลมนารมย.์ //(ม.ป.ป).//รบั มือเด็ก “แอลดี”.//สืบคน้ เมอ่ื
2 ตุลาคม 2564,/จาก/https://www.manarom.com

STARFISHLABZ.//(ม.ป.ป.).//5 กจิ กรรมศลิ ปะบำบดั งา่ ย ๆ ทำไดท้ ่บี ้าน.//สืบคน้ เมื่อ 2
ตลุ าคม 2564,/จาก/https://www.starfishlabz.com

Sanook.//(2560).//4 กิจกรรมควรทำ เม่ือลูกเป็นเดก็ พเิ ศษ.//สบื คน้ เมอื่ 2 ตุลาคม 2564,/
จาก/https://www.sanook.com

ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์.//(2542)//ศลิ ปะเด็กพเิ ศษ art for all.//กรงุ เทพฯ: โอเอส พรินตง้ิ
เฮ้าส.์ //สืบค้นเมอื่ 2 ตุลาคม 2564

โรงพยาบาลเปาโล./(2564).// “ดนตรีบำบัด” กับการกำจัดความเครยี ด.//สืบคน้ เมอ่ื 2
ตลุ าคม 2564,//จาก/https://www.paolohospital.com

ดนตรีบำบัดสำหรบั เดก็ .//(ม.ป.ป).//ดนตรีบำบัดสำหรับเดก็ .//สบื ค้นเมอื่ 2 ตุลาคม 2564,//
จาก/https://www.ekachaihospital.com

NECTEC.//(2559)/ประวัตเิ นคเทค.//สืบคน้ เม่อื 3 ตลุ าคม 2564,//
https://www.nectec.or.th

112
68

เอกสารอ้างองิ

สถาบนั ราชานุกูล.//(2557)//เดก็ แอลดี คู่มือสำหรับพ่อแม่/ผูป้ กครอง(พิมพ์ครง้ั ท่ี3).//
โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .//สืบค้นเมอ่ื 3 ตุลาคม
2564,//จาก/https://www.th.rajanukul.go.th

บา้ นกิติเวช เพ่ือเดก็ ADHDและเดก็ LD.//รวมเร่ืองเล่า เดก็ สมาธิส้นั (ADHD) และเดก็ แอลดี
(เดก็ บกพรอ่ งทางการเรียนรู้).//สบื คน้ เมือ่ 4 ตุลาคม 2564,//จาก/
https://www.oknation.mationtv.tv

Chomnapas Wangein.//(2561)//รู้ได้อยา่ งไรวา่ ลูกเปน็ LD?.//สบื ค้นเม่อื 4 ตลุ าคม
2564,//จาก/https://www.thaihealth.or.th

แพรวพรรณ สุริวงศ์.//(ม.ป.ป.)/เดก็ LDอา่ นยงั ไงให้เปน็ สุข.//สืบค้นเมื่อ 4 ตุลาคม 2564,//
จาก/https://www.th.rajanukul.go.th

POBPAD.//(ม.ป.ป.)/ความหมายเด็กLD.//สบื คน้ เมื่อ 4 ตุลาคม 2564,//จาก/
https://www.pobpad.com

โรงพยาบาลสินแพทย์.//(2563)/ภาวะการเรียนรบู้ กพร่อง(Learning Disability: LD).//
สบื ค้นเม่อื 4 ตลุ าคม 2564,//https://www.synphaet.co.th

เววริ ี อิทธิอนันตก์ ุล.//(ม.ป.ป.)/เด็กทม่ี ปี ัญหาการเรยี นรู้ (Children with Learning
Disabilities).//สบื ค้นเม่อื 3 ตลุ าคม 2564,//https://www.fcdthailand.org


Click to View FlipBook Version