รำวงมาตรฐาน
- ประวัติความเป็นมา
- รูปแบบการแสดง
- เครื่องแต่งกาย
- เครื่องดนตรี
- เพลงรำวงมาตรฐาน 10 เพลง
ประวัติความเป็นมา
รำวงมาตรฐาน เป็นการแสดงที่วิวัฒนาการมาจาก "รำโทน"
เป็นการร้องรำของชาวบ้าน ซึ่งจะมีการรำเป็นคู่ๆ ทั้งชาย และหญิง
รอบครกตำข้าวที่วางคว่ำไว้ หรือไม่ก็รำกันเป็นวงกลม โดยมีโทน
เป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ เป็นการร้องรำแบบง่าย ๆ ไม่มี
แบบแผน
ต่อมา พ.ศ. ๒๔๘๗ ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายก
รัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการละเล่นรื่นเริงประจำชาติ
และเห็นว่าคนไทยนิยมเล่นรำโทนกันอย่างแพร่หลาย ถ้าปรับปรุงการ
เล่นรำโทนให้เป็นระเบียบทั้งเพลงร้องลีลาท่ารำ และการแต่งกาย
จะทำให้การเล่นรำโทนเป็นที่น่านิยมมากยิ่งขึ้น จึงได้มอบหมายให้
กรมศิลปากรปรับปรุงรำโทนเสียใหม่ให้เป็นมาตรฐาน มีการแต่งเนื้อ
ร้อง ทำนองเพลงและนำท่ารำจากแม่บทมากำหนดเป็นท่ารำเฉพาะ
แต่ละเพลงอย่างเป็นแบบแผน
รำวงมาตรฐานเกิดขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2487 ซึ่งอยู่ในช่วงของ
สงครามมหาเอเชียบูรพา (2484-2488) ภายใต้การนำของ
จอมพล ป. พิบููลสงคราม ประเทศไทยได้เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ
และให้ญี่ปุ่นใช้พื้นที่ของไทยเป็นฐานทัพเพื่อบุกโจมตีพม่า ทำให้
ประเทศไทยในยุคนั้นเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง และเผชิญหน้า
อยู่กับการคุกคามทั้งแสนยานุภาพและวัฒนธรรม จึงทำให้รัฐบาล
ป ร ะ ก า ศ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง วั ฒ น ธ ร ร ม ข น า น ใ ห ญ่ เ พื่ อ ใ ห้ ค น ใ น ช า ติ
ดูมีอารยธรรม ได้แก่ การสวมหมวก สวมรองเท้า การใช้ภาษา
การห้ามเคี้ยวหมาก รวมไปจนถึง "การรำวง"
ในช่วงที่บ้านเกิดวิตก ประชาชนอดอยาก เกิดความเครียด
ต้ อ ง ค อ ย วิ่ ง ห นี ห ล บ ร ะ เ บิ ด ค น ญี่ ปุ่ น ก็ อ ยู่ เ ต็ ม บ้ า น เ มื อ ง ไ ป ห ม ด เ ช่ น นี้
เองจึงทำให้ประชาชนหันมาคลายเครียดด้วยการเล่น "รำโทน"
ซึ่ ง แ น ว คิ ด ข อ ง ท่ า น ผู้ นำ ใ น ข ณ ะ นั้ น จึ ง เ กิ ด ไ อ เ ดี ย ก า ร สู้ ด้ ว ย วั ฒ น -
ธรรมเพื่อเป็นการบำรุ งขวัญประชาชนและเป็นการแสดงให้ญี่ปุ่น
เ ห็ น ว่ า ไ ท ย ก็ มิ ไ ด้ วิต ก กั ง ว ล กั บ ก า ร ผู้ ยึ ด บ้ า น เ มื อ ง ใ น ค รั้ ง นี้ ก็ เ ป็ น ผ ล
ดี กั บ ทั้ ง ส อ ง ฝ่ า ย จึ ง ไ ด้ ม อ บ ห ม า ย ใ ห้ ก ร ม ศิ ล ป า ก ร นำ รำ โ ท น ม า ป รั บ
ปรุ งเสียใหม่ให้มีแบบแผนตามฉบับของนาฏศิลป์ไทยโดยการนำท่า
รำต่างๆ จากแม่บทเล็ก แม่บทใหญ่มาประกอบการแสดงแล้วร้อง
รำ กั น เ ป็ น ว ง ก ล ม จึ ง ไ ด้ เ ป ลี่ ย น ชื่ อ จ า ก รำ โ ท น เ ป็ น รำ ว ง ม า ต ร ฐ า น
รูปแบบการแสดง
รำวงมาตรฐาน เป็นการรำหมู่ประกอบด้วยผู้แสดง 8 คน
การรำแบ่งเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 นักแสดงชายและหญิงเดินออกมาเป็นแถวตรงสองแถวหันหน้า
เข้าหากัน ต่างฝ่ายทำความเคารพด้วยการไหว้
ขั้นตอนที่ 2 แปรแถวเป็นวงกลม
(ทวนเข็มนาฬิกา) รำจนจบ 10 เพลง
แล้วเดินเข้าด้านข้างเวที
เครื่องแต่งกาย
เครื่องแต่งกายในการแสดงรำวงมาตรฐาน
มี 4 แบบ ดังนี้
เครื่องดนตรี
ระนาดเอก ฆ้องวง
ขลุ่ยเพียงออ ฉิ่ง
ตะโพน
กลองทัด
เพลงร1ำ0วงเพมลางตรฐาน
ท่านผู้หญิงละเอียด กรมศิลปากร
พิบูลสงคราม เพลงงามแสงเดือน
เพลงชาวไทย
เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ เพลงรำมาซิมารำ
เพลงดอกไม้ของชาติ เพลงคืนเดือนหงาย
เพลงหญิงไทยใจงาม
เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า ผู้ประดิษฐ์ท่ารำ
เพลงยอดชายใจหาญ
เพลงบูชานักรบ
ผู้ประพันธ์ทำนองเพลง หม่อมต่วน
ครูมัลลี คงประภัศร์
ครูมนตรี ตราโมท ครูลมุล ยมะคุปต์
ครูเอื้อ สุนทรสนาน ครูผัน โมรา
เเพพลลงงงงาามมแแสสงงเเดดืืออนน
บทร้อง คำร้อง : จมื่นมานิตย์นเรศ (ประพันธ์ในนามกรมศิลปากร)
ทำนอง : ครูมนตรี ตราโมท
งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า งามใบหน้ามามาอยู่วงรำ
เราเล่นกันเพื่อสนุก เปลื้องทุกไม่วายระกำ
ขอให้เล่นฟ้อนรำ เพื่อสามัคคีเอย
ท่ารำ
ท่าสอดสร้อยมาลา
เเพพลลงงชชาาววไไททยย
คำร้อง : จมื่นมานิตย์นเรศ (ประพันธ์ในนามกรมศิลปากร)
ทำนอง : ครูมนตรี ตราโมท
บทร้อง
ชาวไทยเจ้าเอ๋ย ขออย่าละเลยในการทำหน้าที่
การที่เราได้เล่นสนุก เปลื้องทุกข์สบายอย่างนี้
เพราะชาติเราได้เสรี มีเอกราชสมบูรณ์
เราจึงควรช่วยชูชาติ ให้เก่งกาจเจิดจำรู ญ
เพื่อความสุขเพิ่มพูน ของชาวไทยเราเอย
ท่ารำ
ท่าชักแป้งผัดหน้า
เพลงรำซิิมมาารรำำ
บทร้อง คำร้อง : จมื่นมานิตย์นเรศ (ประพันธ์ในนามกรมศิลปากร)
ทำนอง : ครูมนตรี ตราโมท
รำมาซิมารำ เริงระบำกันให้สนุก
ยามงานเราทำงานจริงจริง ไม่ละไม่ทิ้งจะเกิดเข็ญขุก
ถึงยามว่างเราจึงรำเล่น ตามเชิงเช่นเพื่อให้สร่างทุกข์
ตามเยี่ยงอย่างตามยุค เล่นสนุกอย่างวัฒนธรรม
เล่นอะไรให้มีระเบียบ ให้งามให้เรียบจึงจะคมขำ
มาซิมาเจ้าเอ๋ยมาฟ้อนรำ มาเล่นระบำของไทยเราเอย
ท่ารำ
ท่ารำส่าย
เพลงคืนเดือนหงาย
คำร้อง : จมื่นมานิตย์นเรศ (ประพันธ์ในนามกรมศิลปากร)
ทำนอง : ครูมนตรี ตราโมท
บทร้อง
ยามกลางคืนเดือนหงาย เย็นพระพายโบกพลิ้วปลิวมา
เย็นอะไรก็ไม่เย็นจิต เท่าเย็นผูกมิตรไม่เบื่อระอา
เย็นร่มธงไทยปกไทยทั่วหล้า เย็นยิ่งน้ำฟ้ามาประพรมเอย
ท่ารำ
ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง
เเพพลลงงดดววงงจจัันนททรร์์ววัันนเเพพ็็ญญ
บทร้อง คำร้อง : ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
ทำนอง : ครูมนตรี ตราโมท
ดวงจันทร์วันเพ็ญ ลอยเด่นอยู่ในนภา
ทรงกลดสดสี รัศมีทอแสงงามตา
แสงจันทร์อร่าม ฉายงามส่องฟ้า
ไม่งามเท่าหน้า นวลน้องยองใย
งามเอยแสนงาม งามจริงยอดหญิงชาติไทย
งามวงพักตร์ยิ่งดวงจันทรา จริตกิริยานิ่มนวลละไม
วาจากังวาน อ่อนหวานจับใจ
รูปทรงสมส่วน ยั่วยวนหทัย
สมเป็นดอกไม้ ขวัญใจชาติเอย
ท่ารำ
ท่าแขกเต้าเข้ารัง
และท่าผาลาเพียงไหล่
เพลงดอกไม้ของชาติ
คำร้อง : ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
ทำนอง : ครูมนตรี ตราโมท
บทร้อง
ขวัญใจดอกไม้ของชาติ งามวิลาสนวยนาดร่ายรำ (ซ้ำ)
เอวองค์อ่อนงาม ตามแบบนาฏศิลป์
ชี้ชาติไทยเนาว์ถิ่น เจริญวัฒนธรรม
งานทุกสิ่งสามารถ สร้างชาติช่วยชาย
ดำเนินตามนโยบาย สู้ทนเหนื่อยยากตรากตรำ
ท่ารำ
ท่ารำยั่ว
เพลงหญิงไทยใจงาม
คำร้อง : ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
บทร้อง ทำนอง : ครูเอื้อ สุนทรสนาน
เดือนพราวดาวแวววาวระยับ
แสงดาวประดับส่องให้เดือนงามเด่น
ดวงหน้าโสภาเพียงเดือนเพ็ญ
คุณความดีที่เห็นเสริมให้เด่นเลิศงาม
ขวัญใจหญิงไทยส่งศรีชาติ
รูปงามวิลาสใจกล้ากาจเรืองนาม
เกียรติยศก้องปรากฏทั่วคาม
หญิงไทยใจงามยิ่งเดือนดาวพราวแพรว
ท่ารำ
ท่าพรหมสี่หน้า
และท่ายูงฟ้อนหาง
เเพพลลงงดดววงงจจัันนททรร์์ขขววััญญฟฟ้้าา
คำร้อง : ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
ทำนอง : ครูเอื้อ สุนทรสนาน
บทร้อง
ดวงจันทร์ขวัญฟ้า ชื่นชีวาขวัญพี่
จันทร์ประจำราตรี แต่ขวัญพี่ประจำใจ
ที่เทิดทูนคือชาติ เอกราชอธิปไตย
ถนอมแนบสนิทใน คือขวัญใจพี่เอย
ท่ารำ
ท่าช้างประสานงา
และท่าจันทร์ทรงกลด
เพลงยอดชายใจหาญ
คำร้อง : ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
บทร้อง ทำนอง : ครูเอื้อ สุนทรสนาน
โอ้ยอดชายใจหาญ ขอสมานไมตรี
น้องขอร่วมชีวี กอบกรณีย์กิจชาติ
แม้สุดยากลำเค็ญ ไม่ขอเว้นเดินตาม
น้องจักสู้พยายาม ทำเต็มความสามารถ
ท่ารำ
หญิง : ท่าชะนีร่ายไม้
ชาย : ท่าจ่อเพลิงกาล
เเพพลลงงบบููชชาานนัักกรรบบ
คำร้อง : ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
ทำนอง : ครูเอื้อ สุนทรสนาน
บทร้อง
น้องรักรักบูชาพี่ ที่มั่นคงที่มั่นคงกล้าหาญ
เป็นนักสู้เชี่ยวชาญ สมศักดิ์ชาตินักรบ
น้องรักรักบูชาพี่ ที่มานะที่มานะอดทน
หนักแสนหนักพี่ผจญ เกียรติพี่ขจรจบ
น้องรักรักบูชาพี่ ที่ขยันที่ขยันกิจการ
บากบั่นสร้างหลักฐาน ทำทุกด้านทำทุกด้านครันครบ
น้องรักรักบูชาพี่ ที่รักชาติที่รักชาติยิ่งชีวิต
เลือดเนื้อพี่พลีอุทิศ ชาติยงอยู่ยงอยู่คู่พิภพ
ท่ารำ
หญิง : ท่าขัดจางนางและท่าล่อแก้ว
ชาย : ท่าจันทร์ทรงกลดและท่าขอแก้ว
จัดทำโดย
นางสาวสิริยากร ธนากุลดุษฎี
นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูชั้นปีที่ 5
สาขานาฏศิลป์ไทยศึกษา คณะศิลปศึกษา
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
อ้างอิงขอขอบพระคุณ
เพจ Facebook เรียนนาฏศิลป์กับครูน้ำตาล
เว็บไซต์สำนักการสังคีต กรมศิลปากร
อ้างอิงรำวงมาตรฐาน กรมศิลปากร
นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม 2543
“รำวง” อาวุธของจอมพล ป. ที่ใช้รับมือญี่ปุ่น
สู่ภาคปฏิบัติ หยุดราชการครึ่งวันมารำวง?
อ้างอิงเขียนโดย ปรามินทร์ เครือทอง
อ้างอิง