เอกสารประกอบแบบเสนอผลงานความเป็นเลิศในการจัดการศึกษาของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การศึกษา (REO ๑๑ MOE AWARDS) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑๑ สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประเภท : ครูผู้สอน การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Leaning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย นางสาวเดือนเพ็ญ ตลาดเงิน ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านนาคู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต ๑
คำนำ แบบรายงานเล่มนี้ จัดทำเพื่อแบบเสนอผลงานเป็นเลิศในการจัดการศึกษา (REO ๑๑ MOE AWARDS) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ประเภทครูผู้สอน ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ระดับปฐมวัย และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้การยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งประกอบด้วยแบบรายงานประวัติชื่อ ผลงาน ความเป็นมาและความสำคัญ กระบวนการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน ผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียน และ ภาคผนวกเกียรติบัตรและผลงาน หวังว่าเอกสารเล่มนี้ จะอำนวยความสะดวกต่อการพิจารณาของคณะกรรมการการประเมิน ในการคัดเลือกรับรางวัล อย่างดียิ่ง ซึ่งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ครูมีพลังที่จะร่วมพัฒนาการศึกษาของ ชาติให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นต่อไป เดือนเพ็ญ ตลาดเงิน ก
สารบัญ หน้า คำนำ............................................................................................................................. ...................................ก สารบัญ............................................................................................................................. ...............................ข ๑. ข้อมูลการเสนอผลงาน..............................................................................................................................๑ ๒.รายงานผลความเป็นเลิศในการจัดการเรียนรู้...........................................................................................๓ ๒.๑ ความเป็นมาและความสำคัญ ๒.๑.๑ ความเป็นมา สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความจำเป็น ๒.๑.๒ วัตถุประสงค์ ๒.๑.๓ เป้าหมายของการดำเนินงาน กลุ่มเป้าหมาย ๒.๑.๔ แนวคิด ทฤษฎี ๒.๒ กระบวนการดำเนินงานตามแผน มีการบันทึกผล และแสดงผลอย่างชัดเจน ๒.๓ การสรุปผลสำเร็จของการดำเนินงาน และประเมินผลงาน ๒.๔ การนำผลการดำเนินงานไปปรับปรุงและพัฒนา........................................................................ ๒๒ ๓. ผลการดำเนินงาน............................................................................................................................. ........๒๒ ๓.๑ ประโยชน์ต่อผู้เรียน ๓.๒ ประโยชน์ต่อสถานศึกษา/ผู้บริหาร ๓.๓ ประโยชน์ต่อการศึกษาโดยภาพรวม ๓.๔ ประโยชน์ต่อผู้ปกครอง ชุมชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการเรียนรู้ ๓.๕ การขยายผลและการเผยแพร่ผลงานผลสำเร็จ............................................................................๒๖ ภาคผนวก............................................................................................................................. ..........................๒๗ ข
แบบเสนอผลงานความเป็นเลิศในการจัดการศึกษาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การศึกษา (REO ๑๑ MOE AWARDS) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑๑ สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประเภท : ครูผู้สอน ********************************************************* ๑. ข้อมูลการเสนอผลงาน ๑) ชื่อผลงาน การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Leaning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ๒) ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๕ ถึง ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๖ ๓) การส่งผลงานความเป็นเลิศในการจัดการศึกษา ด้านกระบวนการจัดกาเรียนรู้(กรุณาระบุ √ ลง ใน ที่ตรงกับระดับการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน) ๑. ระดับปฐมวัย ๒. ระดับประถมศึกษา ๓. ระดับมัธยมศึกษา ๔. ระดับอาชีวศึกษา ๕. การจัดการเรียนรู้นอกระบบฯ (กศน.) ๖. การศึกษาพิเศษ (กศพ.) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ (ให้เลือกนำเสนอเพียง ๑ ด้าน) ๑. การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย ๒. การยกระดับคุณภาพการศึกษา ๓. การสร้างโอกาสความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย ๔. การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ๕. ส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู และบุคลากรทางการศึกษา ๖. การพัฒนาระบบราชการและการบริหารภาครัฐยุคดิจิทัล ๗. การขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษา และแผนการศึกษาแห่งชาติ ๔) ข้อมูลผู้ส่งผลงาน ๔.๑ ชื่อ-สกุล นางสาวเดือนเพ็ญ ตลาดเงิน ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย วัน/เดือน/ปีเกิด ๖ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ อายุ ๓๒ ปี ๔.๒ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ระดับ/วิทยฐานะ ยังไม่มีวิทยฐานะ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนมเขต ๑ จังหวัด นครพนม โทรศัพท์ (มือถือ) ๐๙๕-๖๖๑-๖๙๖-๙ โทรสาร...........-........................... E-mail : duaenpen๓๕๑๕@gmail.com ๑
๔.๓ ที่อยู่ปัจจุบัน ๓๕ หมู่ ๑๓ ตำบล ก้านเหลือง อำเภอ นาแก จังหวัด นครพนม รหัสไปรษณีย์ ๔๘๑๓๐ โทรศัพท์ ๐๙๕-๖๖๑-๖๙๖-๙ E-mail : duaenpen๓๕๑๕@gmail.com ๔.๔ ระดับการศึกษาสูงสุด ปริญญาตรี สถานศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ปีที่สำเร็จการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๘ ๔) ข้อมูลสถานศึกษา/หน่วยงานการศึกษา ของผู้เสนอผลงาน ชื่อสถานศึกษา/หน่วยงาน โรงเรียนบ้านนาคู่ หมู่ที่ ๗ ตำบล นาคู่ อำเภอ นาแก จังหวัด นครพนม รหัสไปรษณีย์ ๔๘๑๓๐ โทรศัพท์๐๙๕-๖๖๑-๖๙๖-๙ โทรสาร.............-........................ สังกัด ๑. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ๒. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ๔. สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ๕. สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ๖. กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ๗. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๘. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ๙. อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................ ๒
๒. รายงานผลความเป็นเลิศในการจัดการเรียนรู้ *องค์ประกอบที่ ๑ ความเป็นมาและความสำคัญ ๑. ความเป็นมาและความสำคัญ สภาพปัจจุบัน และความจำเป็น สภาพทางสังคมและสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน พ่อแม่จะต้อง ออกไปประกอบอาชีพนอกบ้าน ทำให้พ่อแม่ต้องส่งลูกเข้าโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กเร็วขี้นกว่าเดิม ความ ต้องการในการจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยจึงเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้นการจัดโรงเรียนอนุบาลหรือ สถานรับเลี้ยงเด็กที่มีประสิทธิภาพจะช่วยแบ่งเบาภาระในการดูแลเด็กให้กับพ่อแม่ ช่วยในการแก้ปัญหาของ สังคม อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาเด็กอย่างถูกต้องเหมาะสมตามพัฒนาการอีกด้วย ดังนั้นช่วง ๕ ปีแรก ของชีวิตว่าเป็นระยะที่สำคัญมากต่อการวางรากฐานบุคลิกภาพของชีวิตมนุษย์ การจัดการศึกษาในระดับ ปฐมวัยจึงเป็นภาระกิจสำคัญที่จะต้องจัดการศึกษาสำหรับเด็กในวัยนี้อย่างเหมาะสม เล็งเห็นถึงความสำคัญใน เรื่องนี้ จึงได้วางนโยบายสนับสนุนการจัดการศึกษาปฐมวัย โดยรัฐเป็นผู้ดำเนินการจัดเองส่วนหนึ่ง การจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยสิ่งที่เกี่ยวข้องและควรคำนึงถึง ได้แก่ ปรัชญาและ แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย พัฒนการในแต่ละช่วงวัย และส่งเสริมให้เอกชนและ สถาบันต่าง ๆ ในสังคมจัดการอบรมเรื่องการเลี้ยงดูเด็กอีกส่วนหนึ่งการจัดตลอดจนความเป็นมาและแนวโน้ม ของการจัดการศึกษาในระดับนี้ เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการจัดการศึกษาปฐมวัยที่เหมาะสม ๑.๑ พัฒนาการเด็กปฐมวัย พัฒนาการของเด็กปฐมวัยด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาแสดง ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้นตามวุฒิภาวะและสภาพแวดล้อมที่เด็กได้รับ พัฒนาการเด็กในแต่ละช่วงวัย อาจเร็วหรือช้าแตกต่างกันไปในเด็กแต่ ละคน หากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการ เด็ก ก็จะส่งผลดีต่อการพัฒนาเด็กที่ตนดูแล รับผิดชอบทั้งนี้ พัฒนาการเด็กปฐมวัยอายุ ๔-๖ ปี สรุปที่สำคัญ มี ดังนี้ . ๑. ด้านร่างกาย เจริญเติบโตรวดเร็วโดยเฉพาะในเรื่องน้ำหนักและส่วนสูง กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคลื่อนไหวเช่น กล้ามเนื้อมือ กล้ามเนื้อเท้า ยังทำงานไม่ประสานดีพอโดยเฉพาะกล้ามเนื้อ มือ - ตา ทำให้เด็กยังไม่สามารถเขียนหนังสือได้ดี เด็กวัยนี้ชอบเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง มีความคล่องแคล่วว่องไว ในการเดินการวิ่ง และการหยิบจับ สามารถควบคุมและบังคับ ทรงตัวได้ดี เกในวัยนี้พร้อมที่จะออกกำลังและ เคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ การสัมผัสหรือการใช้มือมีความการพัฒนากล้ามเนื้อเล็กควรจะเป็นไปอย่างช้าๆ ไม่ เร่งเด็กจนเกิดความเครียด ทั้งนี้เด็กๆ สามารถทำกิจกรรมที่พัฒนา กล้ามเนื้อเล็กได้ดีและนานขึ้นถ้าเด็กไม่ เครียดหรือกังวล ๒. ด้านอารมณ์ จิตใจ เป็นวัยเจ้าอารมณ์เมื่อมีอารมณ์แสดงออกอย่างเต็มที่ไม่ มีปัดบังซ่อนเร้นเพียงชั่วครู่และหายไป การที่เด็กเปลี่ยนแปลงอารมณ์ง่ายเพราะมีช่วงความสนใจ ในระยะสั้น เมื่อมีสิ่งใดน่าสนใจก็จะเปลี่ยนความสนใจไปตามสิ่งนั้นๆ เด็กอาจกลัวสัตว์หรือความมืดความกลัวของเด็กจะ เกิดจากจินตนาการ เห็นสัตว์ประหลาดหรือภูตผีว่าเป็นเรื่องจริงสำหรับตน ความรู้สึกของเด็กจะกลับไปกลับมา ๓
บางครั้งต้องการอิสระ บางครั้งต้องการพึ่งพิงผู้อื่น เช่น เด็กแสดงความต้องการจะทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองแต่ แล้วกลับให้ผู้ใหญ่ทำให้ ๓. ด้านสังคม เด็กเริ่มสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมครั้งแรกในครอบครัว โดยมี ปฏิสัมพันธ์กับ พ่อแม่และพี่น้องเมื่อโตขึ้นต้องไปสถานศึกษา เด็กเริ่มเรียนรู้การติดต่อและการมีสัมพันธ์กับ บุคคลนอกครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กในวัยเดียวกันเด็กได้เรียนรู้การปรับตัวให้เข้ากับสังคม และเด็กอื่น พร้อม ๆกับรู้จักร่วมมือในการเล่นกับกลุ่มเพื่อน เจตคติและพฤติกรรมทางสังคมของเด็กจะก่อขึ้นในวัยนี้ และ จะฝังแน่นยากที่จะเปลี่ยนแปลงในวัยต่อมา ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพฤติกรรมทางสังคมของเด็กวัยนี้มี ๒ ลักษณะ คือ ลักษณะแรกนั้น เป็นความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ และลักษณะที่สองเป็นความสัมพันธ์กับเด็กในวัย เดียวกัน ๔. ด้านสติปัญญา ความคิดของเด็กวัยนี้มีลักษณะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ยังไม่ สามารถเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นเด็กมีความคิดเพียงแต่ว่าทุกคนมองสิ่งต่างๆ รอบตัว และรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ เหมือนตนเอง ความคิดของตนเองเป็นใหญ่สุด เมื่ออายุ ๔- ปี เด็กสามารถโต้ตอบหรือมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุ สิ่งของที่อยู่รอบตัวได้ สามารถจำสิ่งต่างๆ ที่ได้กระทำซ้ำกันบ่อย ๆ ได้ดี เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น แต่ยังอาศัย การรับรู้เป็นส่วนใหญ่ แก้ปัญหาการลองผิดลองถูกจากการรับรู้มากกว่าการใช้เหตุผลความคิดรวบยอดเกี่ยวกับ สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวพัฒนาอย่างรวดเร็วตามอายุที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของพัฒนาการทางภาษา เด็กวัยนี้เป็น ระยะเวลาของการพัฒนาภาษาอย่างรวดเร็ว โดยมีการฝึกฝนการใช้ภาษาจากการทำกิจกรรมต่าง ๆในรูปของ การพูดคุย การตอบคำถาม การเล่าเรื่อง การเล่านิทานและการทำกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาใน สถานศึกษา เด็กปฐมวัยสามารถใช้ภาษาแทนความคิดของตน และใช้ภาษาในการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นได้ คำพูดของเด็กวัยนี้อาจทำให้ผู้ใหญ่บางคนเข้าใจว่าเด็กรู้มากแล้วแต่ที่จริงเด็กยังไม่เข้าใจความหมายของคำ และเรื่องราวลึกซึ้งน ๑.๒ ความหมายของเด็กปฐมวัย คำว่า "เด็กปฐมวัย" เราจะพบว่ามีการกำหนดชื่อที่แตกต่างกันไป เช่น เด็กก่อนวัย เรียน เด็กเล็กเด็กระดับก่อนประถมศึกษา เด็กอนุบาลศึกษา ซึ่งคำเหล่านี้มีความหมายในตัวเองในมิติต่างกัน สำหรับในเอกสารประกอบการสอนนี้จะใช้คำว่า "เด็กปฐมวัย" ซึ่งจะครอบคลุมคำที่กล่าวถึงข้างต้นนี้ทั้งหมด เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด - ๖ ปี ซึ่งมีการเจริญเติบโตและ พัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้รวดเร็ว จะสะท้อนพฤติกรรมที่ผู้ใหญ่แสดง ออกมาให้เห็นในทุก ๆ ด้าน จึงมีคำกล่าวไว้ว่าเด็ก คือ กระจกเงาที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้ใหญ่ (สุธิภาอาวพิทักษ์,๒๕๔๒ : ๒) เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กที่มีช่วงอายุตั้งแต่ ๐ – ๖ ปี เป็นวัยเริ่มต้นของการพัฒนาการ ในทุกด้านได้แก่ ด้านสติปัญญา ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ และด้านสังคม จึงเป็นวัยที่มีความสำคัญและ เป็นพื้นฐานของการพัฒนาบุคคลให้เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ (ทัศนา แก้วพลอย, ๒๕๔๔ : ๑) ๔
เด็กปฐมวัย หมายถึง วัยเด็กตอนต้น โดยนับตั้งแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี เป็นวัยที่เตรียมตัว เพื่อเข้าสู่สังคมได้รู้จักบุคคลอื่น ๆ มากขึ้น นอกเหนือจากคนในครอบครัวตนเอง เด็กวัยนี้เพิ่งจะออกจากบ้าน ไปสู่โรงเรียน ยังไม่พร้อมที่จะช่วยเหลือตนเองหรือรับรู้ข้อบังคับต่าง ๆ ของโรงเรียน ต่อเมื่ออายุถึง ๖ ปีเด็กเริ่ม ช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น มีความพร้อมมากขึ้น รู้จักเล่นกับเพื่อน จึงเป็นวัยที่กำลังมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คนทั่วไปมักเรียกเด็กวัยนี้ว่าเด็กเล็ก เด็กปฐมวัย หรือเด็กอนุบาล (พัชรี เจตน์เจริญรักษ์,๒๕๔๕:๘-๙)เด็กปฐมวัยว่า หมายถึง เด็กที่มีอายุตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง ๕ ปี ๑๑ เดือน ๒๙ วัน ทั้งในระบบการศึกษาและนอกระบบการศึกษาซึ่ง พัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญากำลังพัฒนาอย่างเต็มที่ (กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๔๖: ๑) เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงอายุ ๕ ปี ๑๑ เดือน ๒๙ วัน หรืออายุต่ำ กว่า ๖ ปี (นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย ๐ - ๕ ปี ระยะยาว พ.ศ. ๒๕๕๐ - ๒๕๕๙) (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, ๒๕๖๑ : ๑) สรุปได้ว่า เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กที่มีอายุตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิจนถึง ๖ ปี ซึ่งเป็นวัยที่ พัฒนาการด้านต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เป็นวัยที่กำลังสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว มีความอยากรู้ อยากเห็นช่างสงสัย ช่างซักถาม ชอบค้นคว้า สำรวจ อยู่ไม่นิ่ง ชอบอิสระเป็นตัวของตัวเอง มีลักษณะของการ ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางจึงมักแสดงอารมณ์ต่าง ๆ อย่างเปิดเผย ชอบทำตามและเลียนแบบผู้อื่นใน ขณะเดียวกันก็มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จึงเป็นวัยที่มีความสำคัญและเป็นพื้นฐานของการพัฒนาบุคคลในด้าน ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาให้เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ ๑.๓ ความสำคัญของเด็กปฐมวัย เด็กวัยเริ่มแรกของชีวิต หรือที่เรียกว่า"เด็กปฐมวัย" เป็นช่วงวัยในการเจริญเติบโตที่ สำคัญที่สุดของชีวิต เพราะพัฒนาการทุก ๆ ด้านของมนุษย์ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม บุคลิกภาพ โดยเฉพาะด้านสติปัญญาจะเจริญมากที่สุดและพัฒนาการใด ๆ และเป็นพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการ ในช่วงอื่น ๆของชีวิตเป็นอย่างมาก ดังที่ เยาวพา เดชะคุปต์ (๒๕๔๒, หน้า ๑๓) ได้กล่าวถึงความสำคัญของเด็ก ปฐมวัยตามแนวคิดของนักจิตวิทยาและนักการศึกษาไว้ดังนี้ ซิกมันต์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ชี้ให้ความเห็นว่าประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับใน ตอนต้นของชีวิตจะมีอิทธิพลต่อชีวิตของคนเราจนถึงวาระสุดท้าย เขาเชื่อว่าการอบรมเลี้ยงดูในระยะปฐมวัย จะมีผลต่อการพัฒนานูคลิกภาพของเด็กในอนาคต ดังนั้นการปลูกฝังทัศนคติ ค่านิยมและบุคลิกภาพ รวมทั้ง การส่งเสริมกกรเรียนรู้ให้กับเด็กจะทำได้ดีที่สุดในช่วงนี้ อลิซาเบธ เฮอร์ลอค (Elizabeth Hurlock) กล่าวว่า วัยเด็กนับเป็นวัยแห่งวิกฤติการณ์ ในการพัฒนาบุคลิกภาพ เป็นระยะสร้างพื้นฐานของจิตใจยผู้ใหญ่ต่อไป บุคลิกภาพในวัยผู้ใหญ่แม้ว่าจะมีความ แตกต่างไปจากวัยเด็กมากเท่าใดก็ตามแต่จะเป็นความแตกต่างที่ถือกำเนิดจากรากฐานในวัยเด็กเบนจามิน เอส บลูม (BenjaminS.Bloom) มีความเชื่อและเข้าใจว่าสติปัญญาของมนุษย์มาก กว่า ๓ ใน ๔ จะได้รับการพัฒนาเมื่อเด็ก ซึ่งถ้าหากว่าไม่ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องความสามารถใน ๕
การเรียนรู้อาจจะถูกยับยั้ง นอกจากนั้นบลูมยังพบว่าสิ่งแวดล้อมมีส่วนสำคัญที่จะทำให้พัฒนาการของบุคคล ชะงักงันหรือเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งแสดงว่าสิ่งแวดล้อมมีผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กในระยะ ๖ ปีแรกของ ชีวิตมากกว่าในระยะอื่น ๆ อีริค อีริคสัน (Erik Erikson) กล่าวว่า วัยทารกตอนปลายเป็นช่วงวัยที่เรียนรู้เจตคติของ ความมั่นใจหรือไม่มั่นใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับการที่พ่อแม่ให้สิ่งที่เด็กต้องการด้านอาหาร การดูแลเอาใจใส่และความรัก อย่างชื่นชม เจตคติเหล่านี้เด็กจะมีอยู่มากหรือน้อยตลอดชีวิต สามารถสร้างความรู้ ความเข้าใจต่อคนทั่วไป และสถานการณ์ของบุคคลได้ โจ แอล ฟรอสท์ (Joe L. Frost) กล่าวว่าเด็กในช่วง ๔ - ๕ ปีแรกของชีวิตเป็นช่วงเวลา ที่ความเจริญทางด้านร่างกายและจิตใจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกที่ไว้ตออิทธิพลจาก สิ่งแวดล้อมภายนอก นอกจากนี้ กมล รอดคล้าย (๒๕๓๗ , อ้างถึงในวีรพล สารบรรณ, ๒๕๔๗, หน้า ๗) ได้ กล่าวถึงความสำคัญของเด็กปฐมวัยไว้ว่า เด็กเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่ง เป็นความหวังของครอบครัวและสังคม เป็นผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมและความเป็นมนุษยชาติ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ อนาคตของ ประเทศจึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของเด็ก เด็กกที่มีความสมบูรณ์และมีพัฒนการในทุก ๆ ด้านที่เหมาะสมกับวัย ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม จะเป็นผู้ที่สามารถดำรงชีวิตและอยู่ใน สังคมได้อย่างมีความสุข สรุปได้ว่าช่วงปฐมวัยเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของชีวิต เพราะเป็นช่วงที่พัฒนาการทุกด้าน เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา การพัฒนาเด็กในช่วงวัยนี้จะเป็นการ วางพื้นฐานทางด้านจิตใจ อุปนิสัยและความสามารถ ซึ่งหากผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถสร้างแบบแผนทางพฤติกรรม และเจตคติที่ดีให้แก่เด็กปฐมวัยได้แล้ว เด็กปฐมวัยจะสามารถเติบโตและมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ๑.๔ แนวคิดในการดำเนินการ จากภาพปัญหาและความต้องการของนักเรียนข้างต้น ทำให้ข้าพเจ้าได้เกิดแนวคิด ในการที่จะแก้ปัญหาในเรื่องการจัดประสบการณ์ให้กับผู้เรียน ซึ่งครูผู้สอนต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับความ แตกต่างระหว่างบุคคลเพราะนักเรียนแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้นักเรียนมีพัฒน การทั้ง ๔ ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ-จิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา ตามมาตรฐานคุณลักษณะอัน พึงประสงค์และตัวชี้วัดระดับปฐมวัย ข้าพเจ้าจึงได้คิดค้นแนวการดำเนินงานตามทฤษฎีเชิงซึ่งเป็นกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการวางแผนและดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุผลตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ มี องค์ประกอบที่สำคัญ ๔ ประการ และวิธีการเชิงระบบมีองค์ประกอบที่สำคัญ ๔ ประการวงจรการบริหารที่มี คุณภาพ PDCA ประกอบไปด้วย ๔ ขั้นตอน และการสอนแบบ Active Learning ๕ ขั้น โดยผ่านกิจกรรม ด้วย การใช้วิธีการสอนที่มีความหลากหลาย ด้วยการลงมือปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจ สนุกสนาน เห็น ความสำคัญของชุดกิจกรรม และสอดคล้องกับศักยภาพของนักเรียนแต่ละคน ครูต้องเน้นการให้เกิด ประสบการณ์การเรียนรู้และความน่าสนใจและเข้าใจของเด็กวัยนี้ ๖
๑.๕ หลักการในการดำเนินการ จากปัญหาข้างต้นข้าพเจ้าจึงได้ศึกษาข้อมูล ค้นหากระบวนการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม โดยใช้หลักการ กระบวนการ ตามแนวทาง จัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็น ฐานเพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย เป็นการใช้ความรู้ ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องต่อพัฒนาการ เด็ก ซึ่งครูผู้สอนจำเป็นต้องใช้กลวิธีและเทคนิคที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นสมองของนักเรียน โดยใช้เทคนิคการ สอนที่หลากหลาย เช่นให้ความรู้กระตุ้นความสนใจ การลงมือปฏิบัติในการทำกิจกรรม ดังนั้นการสอนที่ดีต้อง สอดคล้องกับการที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมายของการศึกษานั้น ขึ้นอยู่กับการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ดังนั้นขั้นตอนที่นำมาเป็นกระบวนการสอนนั้นจะสอนตามหลักการ Active Learning การให้ผู้เรียน มีบทบาทในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์จนเกิดความรู้ ความเข้าใจนำไปประยุกต์ใช้ สามารถ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าหรือ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ และพัฒนาตนเองเต็มความสามารถ รวมถึง การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เขาได้มีโอกาสร่วมอภิปรายและมีโอกาสฝึกทักษะในกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ ผู้เรียนมีความสนุกสนานเกิดความสุขในการเรียนรู้ตามรูปแบบที่ตนถนัด รวมทั้งยังมีโอกาสพัฒนา ความสามารถด้านอื่น ๆ ที่ตนเองไม่ถนัดด้วยวิธีการหลากหลายอีกด้วย โดยอาจเริ่มจากรู้จักผู้เรียนเป็น รายบุคคลแล้ววางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ตัวชี้วัด รวมทั้งสร้างโอกาส ให้เขาได้ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการบรรยายในห้องเรียนเพียง อย่างเดียวเป็นรูปแบบการเรียนโดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้าง บรรยากาศในห้องเรียนให้มีความสนุกควบคู่กับการเรียน จึงมีการนำกิจกรรมหรือสื่อต่าง ๆ เข้ามาเป็นส่วน หนึ่งในการจัดการเรียนรู้ เช่น การใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐานในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเป็น การเรียนรู้ผ่านสื่อที่มีการสอดแทรกความรู้ผ่านกิจกรรมการเล่นการลงมือปฏิบัติจะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามศักยภาพด้วยการออกแบบการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับเนื้อหาและกิจกรรมรวมทั้ง ความสนใจของผู้เรียน การสอนด้วยชุดกิจกรรมเป็นฐานเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ ครูผู้สอนมีการจัดเตรียมสื่อการสอนในการทำกิจกรรมทุกๆกิจกรรมเพื่อให้เกิดการเรียนรู้จัดว่าเป็นกิจกรรม หลักในห้องเรียนประเภทหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ใน ๔ ด้าน ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านจิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา ช่วยพัฒนาความรู้และทักษะ กระบวนส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย คือ การมุ่งหวังให้ในทุก ๆ กิจกรรมเป็นสื่อกลางที่ช่วยให้ผู้เรียนรู้สึก สนใจเรียนรู้ช่วยกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์แก่ผู้เรียน ตลอดจนให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกสนานและ พึงพอใจในการเรียนรู้ผ่านกิจจกรรมเป็นฐาน นอกจากนี้ การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐานเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถส่งเสริมการ เรียนรู้ส่วนบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ทำงานเป็นทีมได้ เกิดความสนุกสนาน เพราะชุดกิจกรรมที่นำมาใช้เป็น ๗
กิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ระดับปฐมวัย เช่น กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมเสริม ประสบการณ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี/ตามมุม กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษา ซึ่งมี วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมทั้งหมด คือ การสร้างความสนใจในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนให้มีความ สนุกไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้ กิจกรรมที่กล่าวมาจะช่วยเพิ่มทักษะในด้านต่าง ๆ ให้กับผู้เรียนได้และผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ได้ลงมือปฏิบัติผ่านทุก ๆ กิจกรรมดังกล่าว การจัดประสบการณ์โดย ใช้กิจกรรมเป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมกระบวนลงมือปฏิบัติฝึกการ สังเกต มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน สรุปความรู้ที่ได้รับอย่างสนุกสนาน สำหรับการจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาล ๓ ในการจัดประสบการณ์ให้กับ ผู้เรียน เป็นเรื่องที่สำคัญที่ควรส่งเสริมและจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมทุกกิจกรรม ทำให้ผู้เรียนมีความ กระตือรือร้น และความสนใจในการเรียน ดังนั้น การจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน จึงเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนสนใจในสิ่งที่กำลังเรียน สามารถดึงดูดผู้เรียนให้สนใจกิจกรรม และเนื้อหาวิชา เป็นการสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอนให้มีความน่าสนใจ และมีความสุขในการเรียน สามารถทำได้ทั้งการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนและการเรียนแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ โดยมีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นในฐานะครูผู้สอนระดับชั้นปฐมวัย จึงได้พัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐานขึ้น เพื่อใช้จัดการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาล ๓ ให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ควบคู่กับความสนุก มีความคิดรวบยอดกับสิ่งที่เรียน รวมถึงสามารถสรุปความรู้ที่ได้รับอย่าง สนุกสนาน ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม ๒. วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อพัฒนารูปบแบบการจัดการเรียนการ แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรม เป็นฐาน ๒.๒ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยทั้ง ๔ ด้าน ๒.๓ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ควบคู่กับความสนุก มีความกระตือรือร้น และมี ความพึงพอใจในการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรม ๓. เป้าหมายในการดำเนินงาน กลุ่มเป้าหมาย ๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ ๓.๑.๑) นักเรียนชั้นอนุบาล ๓ โรงเรียนบ้านนาคู่ ร้อยละ ๘๐ สามารถเรียนรู้ ผ่านนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน ๓.๑.๒) นักเรียนชั้นอนุบาล ๓ โรงเรียนบ้านนาคู่ ร้อยละ ๘๐ มีผลการประเมิน พัฒนาการทั้ง ๔ ด้านตามแผนการจัดการเรียนรู้หลังจากจัดกิจกรรม ๘
๓.๑.๓) นักเรียนอนุบาล ๓ โรงเรียนบ้านนาคู่ ร้อยละ ๘๐ มีความพึงพอใจในการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน ๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ ๓.๒.๑) นักเรียนชั้นอนุบาล ๓ โรงเรียนบ้านนาคู่ เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ เต็มตามศักยภาพ ผ่านรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรม ๓.๒.๒) นักเรียนชั้นอนุบาล ๓ โรงเรียนบ้านนาคู่ มีผลการประเมินพัฒนาการที่ดีขึ้น ๓.๒.๓) นักเรียนอนุบาล ๓ โรงเรียนบ้านนาคู่ มีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอน ผ่านกระบวนการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน มีความกระตือรือร้นและสนุกกับ กิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดขึ้น ๔. แนวคิดทฤษฎีประกอบการดำเนินงาน ในการออกแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ได้ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และหลักการสำคัญในการออกแบบ ให้มีคุณภาพ และสามารถนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ๓ โดยได้ศึกษา แนวคิด ทฤษฎี และหลักการสำคัญในการออกแบบ ดังนี้ ๔.๑ ทฤษฎีวงจรคุณภาพของเดมมิง PDCA ๔.๒ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๔.๓ รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ๔.๔ การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมจัดประสบการณ์ (รายละเอียดของทฤษฎีปรากฏในหัวข้อที่ 3 วิธีการดำเนินงาน) *องค์ประกอบที่ ๒ กระบวนการดำเนินงาน การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้เกมชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยมีขั้นตอนการดำเนินงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และ เป้าหมายที่กำหนด ดังนี้ ๒.๑ มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการปฏิบัติ ๙
๒.๑.๑ ขั้นนำ/ขั้นเตรียมการ (Plan) ๑) เตรียมความพร้อมครูและนักเรียน การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ครูผู้สอนศึกษาชุดกิจกรรมในการจัดประสบการณ์และได้ สร้างข้อตกลงในการทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้เรียน เพื่อให้เกิดความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้ ๒) ศึกษาเอกสาร หลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการการ จัดการเรียนการสอน ในการจัดการเรียนการาอนได้ศึกษาเอกสาร หลักการ แนวคิด ทฤษฎีและ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้เกมชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อ ส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ดังนี้ ๒.๑) ทฤษฎีวงจรคุณภาพของเดมมิง PDCA PDCA คือ วงจรที่พัฒนามาจากวงจรที่คิดค้นโดยวอล์ทเตอร์ ซิวฮาร์ท (WalterShewhart) ผู้บุกเบิกการใช้สถิติสำหรับวงการอุตสาหกรรมและต่อมาวงจรนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น เมื่อ เอดวาร์ด เดมมิ่ง (W.Edwards Deming) ปรมาจารย์ด้านการบริหารคุณภาพเผยแพร่ให้ เป็นเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงกระบวนการทำงานของพนักงานภายในโรงงานให้ดียิ่งขึ้น และช่วยค้นหา ปัญหาอุปสรรคในแต่ละขั้นตอนการผลิตโดยพนักงานเอง จนวงจรนี้เป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “วงจรเดมมิ่ง” ต่อมาพบว่า แนวคิดในการใช้วงจร PDCA นั้นสามารถนำมาใช้ได้กับทุกกิจกรรมจึงทำให้เป็นที่ รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นทั่วโลก PDCA เป็นอักษรนำของศัพท์ภาษาอังกฤษ ๔ คำ คือ (๑) P : Plan = วางแผน (๒) D : DO = ปฏิบัติตามแผน (๓) C : Check = ตรวจสอบ / ประเมินผลและนำผลประเมินมาวิเคราะห์ (๔) A : Action = ปรับปรุงดำเนินการให้เหมาะสมตามผลการประเมิน ๒.๒) หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หลักสูตร การศึกษาปฐมวัยโรงเรียนบ้านนาคู่และแผนการจัดประสบการณ์ ในการจัดการเรียนการสอนได้นำหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย หลักสูตร การศึกษาปฐมวัยโรงเรียนบ้านนาคู่ และแผนการจัดประสบการณ์เป็นกรอบในการพัฒนาในการเรียนรู้ดังนี้ ๑. พัฒนาการด้านร่างกายป ประกอบด้วย ๒ มาตรฐาน คือ - มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี - มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่าง คล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน ๒. พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คือ - มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข ๑๐
- มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการ เคลื่อนไหว - มาตรฐานที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม ๓. พัฒนาการด้านสังคม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คือ - มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง - มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความ เป็นไทย - มาตรฐานที่ ๘ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตน เป็นสมาชิกที่ดีของสังคมในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๔. พัฒนาการด้านสติปัญญา ประกอบด้วย ๔ มาตรฐาน คือ - มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย - มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการ เรียนรู้ - มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ - มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และมีความสามารถ ในการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัย ดังนั้นในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย จึงจำเป็นต้องศึกษาหลักสูตร และเนื้อเพื่อใช้เป็นกรอบในการ จัดการเรียนการสอนให้ตรงตามเนื้อหาและตัวชี้วัดที่กำหนด ๒.๓) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning Active Learning เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการ สร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียน สามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการ เรียนรู้ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดย กระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือ ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจาก กิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างมี ประสิทธิภาพ (สถาพร พฤฑฒิกุล, ๒๕๕๘) ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นดังนี้ (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, ๒๕๕๓) (๑) เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหาและการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ๑๑
(๒) เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมใน กระบวนการเรียนรู้สูงสุด (๓) ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (๔) ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน (๕) ผู้เรียนเรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทำงานและ การแบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ (๖) เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่ม ลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (๗) เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิดขั้นสูง (๘) เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสารหรือ สารสนเทศ และหลักการความคิดรวบยอด (๙) ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง (๑๐) ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุป ทบทวนของผู้เรียน ๒.๔) การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน มีดังนี้(รายละเอียด ภาคผนวก) การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐานในการจัดประสบการณ์เป็นการ สร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับสื่อทางการศึกษาด้วยการทำกิจกรรมและมีรูปแบบที่ไม่ตายตัวมีการ เรียนรู้ที่แปลกใหม่ตลอดและเกิดความสนุกสนานในการทำกิจกรรม เป็นการนำองค์ประกอบของชุดกิจกรรม มาใช้ในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถเพิ่มแนวคิด แนะนำแนวทาง และเป้าหมายให้กับผู้เรียนได้ เข้าใจดังชุดกิจกรรมดังนี้ *ชุดที่ ๑ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ *ชุดที่ ๒ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ *ชุดที่ ๓ กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ *ชุดที่ ๔ กิจกรรมการเล่นตามมุม *ชุดที่ ๕ กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง *ชุดที่ ๖ เกมการศึกษา ๑๒
๒.๒ กระบวนการดำเนินงานตามแผนงาน มีการบันทึกผล และแสดงผลอย่างชัดเจน ๒.๒.๑ ขั้นดำเนินการ (Do) 1) การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย โดยมีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีดังนี้ ชุดที่ ๑ กิจกรรมเคลื่อนไหและจังหวะ ครูให้เด็กฟังสัญญาณเคาะจังหวะช้า-เร็วในการเคลื่อนไหว เป็นกิจกรรมที่เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างอิสระตามจังหวะ โดยใช้เสียงเพลงบรรเลง เครื่องเคาะจังหวะ และอุปกรณ์อื่น ๆ มาประกอบกิจกรรม การเคลื่อนไหวพื้นฐาน และการเคลื่อนไหวเป็นผู้นำ ผู้ตาม เพื่อส่งเสริมจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ มีความสุข สนุกสนาน ฝึกการฟังคำสั่งและข้อตกลง การเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการประเมิน ด้านอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา ครูเปิดเพลงให้เด็ก ๆ เคลื่อนไหวท่าทาง พร้อมกับริบบิ้นประกอบท่าตามอิสระ ๑๓
ชุดที่ ๒ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ครูอธิบายในกิจกรรมและให้เด็กสังเกต เด็กๆเลือกวิธีนำสีออกจากใบไม้ ครูนำภาพไดโนเสาร์ให้เด็กสังเกต เด็กๆออกมานำเสนอผลงาน เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เด็กได้พัฒนา ทักษะการเรียนรู้ มีทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การสังเกต การคิดแก้ปัญหา และ การใช้เหตุผล โดยการฝึกปฏิบัติร่วมกัน และการทำงานเป็นกลุ่มทั้งกลุ่มย่อยและ กลุ่มใหญ่ เพื่อให้เกิดความคิดรวบยอด เกี่ยวกับเรื่องที่ได้เรียนรู้ สำหรับการจัด กิจกรรมเสริมประสบการณ์ในครั้งนี้ มี วัตถุประสงค์เพื่อประเมินพัฒนาการ ด้านอารมณ์ จิตใจ และด้านสติปัญญา ๑๔
ชุดที่ ๓ กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ครูจัดกลุ่มเด็กกลุ่มละ ๖ คนในการสร้างผลงานและเด็กๆร่วมกันวางแผนออกแบบ เด็กร่วมกันสร้างผลงานศิลปะและนำเสนอผลงาน กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมที่ที่มุ่งพัฒนากระบวความคิดสร้างสรรค์ การรับรู้เกี่ยวกับ ความงาม และส่งเสริมกระตุ้นให้เด็กได้แสดงออกทางอารมณ์ตามความรู้สึก ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และจินตนาการ โดยใช้กิจกรรมศิลปะ เช่น การวาดภาพ ระบายสี การปั่น ฯลฯ ๑๕
ชุดที่ ๔ กิจกรรมการเล่นตามมุม ครูจัดมุมประสบการณ์พร้อมสื่อและของเล่นตามมุมประสบการณ์ ครูสนทนาและจัดให้เด็กเข้าเล่นในมุมหนังสือที่ชอบและครูให้สัญญาณเตือนเมื่อหมดเวลา กิจกรรมการเล่นตามมุม เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เล่นอิสระตามมุมเล่นหรือมุมประสบการณ์ใน ห้องเรียนเด็กมีโอกาสเลือกเล่นตามความสนใจและความต้องการของตนเอง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการ แบบองค์รวม ทั้งที่เป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม การจัดกิจกรรมการเล่นตามมุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา ๑๖
ชุดที่ ๕ กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง ครูพายืดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย ครูสร้างข้อตกลงและพาไปสนามเพื่อทำกิจกรรม การเดินต่อเท้า การรับลูกบอล และวิ่งซิกแซก กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง เป็นกิจกรรมที่มุ่ง ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เพื่อให้เด็กมี ทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐาน เช่น การเดิน การวิ่ง การกระโดด การเคลื่อนไหวพร้อมอุปกรณ์ การ เล่นอิสระ และความสามารถในการควบคุมการ เคลื่อนไหวของร่างกาย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการ เคลื่อนไหวที่ส าคัญ ส าหรับเด็กปฐมวัยในการ น าไปใช้ในชีวิตประจ าวัน ๑๗
ชุดที่ ๖ เกมการศึกษา นักเรียนได้เล่นเกมจัดหมวดหมู่รูปเลขาคณิต,เกมเรียงลำดับโทรทัศน์,เกมเรียงลำดับเหตุการณ์ เกมการศึกษา เป็นกิจกรรมการเล่นที่ช่วยพัฒนาด้านสติปัญญา ส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้เป็น พื้นฐานการศึกษา โดยการสังเกต คิดหาเหตุผล เกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสี รูปร่าง จำนวน ประเภท การเชื่อมโยงความสัมพันธ์กติกาง่าย ๆ การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน พัฒนาการด้านสติปัญญา ๑๘
๒.๓ มีการสรุปผลสำเร็จของการดำเนินงาน และประเมินผลงาน ๒.๓.๑ ขั้นตรวจสอบ (Check) ๑) สังเกตการร่วมกิจกรรมของเด็กในแต่ละกิจกรรม ๒) สังเกตการแสดงความพึงพอใจในผลงานของตนเองและผู้อื่น ๓) ประเมินผลชุดจัดการจัดประสบการณ์ตามตัวชี้วัดการประเมินในแต่ด้าน กิจกรรมดังนี้ แบบบันทึกผลการประเมินชุดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ แบบบันทึกผลการประเมินชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๑๙
แบบบันทึกผลการประเมินชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ ๒๐
แบบบันทึกผลการประเมินชุดกิจกรรมการเล่นตามมุม แบบบันทึกผลการประเมินชุดกิจกรรมเล่นกลางแจ้ง ๒๑
แบบบันทึกผลการประเมินชุดกิจกรรมเกมการศึกษา ๒.๔ การนำผลการดำเนินงานไปปรับปรุงและพัฒนา ๒.๔.๑ ขั้นปรับปรุงแก้ไข (Act) ได้มีการดำเนินปรับปรุงกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงปรับปรุงพัฒนา คุณภาพของชุดกิจกรรมที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับเนื้อหาหลักสูตร และปรับปรุงตาม ความเหมาะสมของผู้เรียน *องค์ประกอบที่ ๓ ผลการดำเนินงาน ๓.๑) ผลที่เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน จากการจัดการเรียนการสอนด้วยชุด กิจกรรมเป็นฐานเด็กมีความสนุกสนาน และพึงพอใจในผลงานของตนเอง ๒๒
จากการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อ ส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย นักเรียนได้สู่การเข้าแข่งขันทางวิชาการระดับเครือข่ายและระดับ เขตพื้นการศึกษา ในกิจกรรมการปั้นและกิจกรรมฉีกตัด ปะ กระดาษ ส่งผลให้นักเรียนได้รับรางวัลต่างๆ กิจกรรมปั้นดินน้ำมัน นักเรียน รางวัล/ผลงาน หน่วยงาน เอกสารอ้างอิง เด็กชายวัชรพล วงศ์ศรีชา เด็กหญิงกชริตา สิมะลี เด็กหญิงกัญยาพัฒน์ วงค์ศรีชา เข้าร่วมการแข่งขันกิจกรรมปั้นดินน้ำมัน ครั้งที่ ๗๐ ระดับปฐมวัย ระดับจังหวัด ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๕ โรงเรียน ธารน้ำใจ เกียรติบัตร (ภาคผนวก ) กิจกรรม ฉีก ตัด ปะ กระดาษ นักเรียน รางวัล/ผลงาน หน่วยงาน เอกสารอ้างอิง เด็กชายธรรมนูญ อัตรวิชา เด็กหญิงอารดา ปรีชาโชติ เด็กหญิงกัญญารัตน์ วงค์วิวงค์ เข้าร่วมการแข่งขันฉีก ตัด ปะ กระดาษ ครั้งที่ ๗๐ ระดับปฐมวัย ระดับจังหวัด ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๕ ธารน้ำใจ เกียรติบัตร (ภาคผนวก ) ๒๓
๓.๒) ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อสถานศึกษา/ผู้บริหาร โรงเรียนบ้านนาคู่ เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนระดับชั้นปฐมวัยมีประเมินพัฒนาการได้ตาม หลักสูตรของสถานศึกษาและนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครพนม เขต ๑ และผู้บริหารได้เล็งเห็นความสำคัญในกการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดย ใช้เกมชุดกิจกรรมเป็นฐานเพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในครั้งนี้ด้วย ๓.๓) เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาในภาพรวม ๑) ช่วยพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นักเรียนเกิด การเรียนรู้และพัฒนาตามศักยภาพตามมาตรฐานตัวชี้วัด ๒) มีชุดสื่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในการเรียนมาก ยิ่งขึ้น ๓) สามารถนำการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้เกมชุดกิจกรรมเป็น ฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และนำไปเผยแพร่ให้ สถานศึกษาอื่นนำไปปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้ ๓.๔) เกิดประโยชน์ต่อผู้ปกครอง ชุมชน และมีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการเรียนรู้ ๒๔
จากการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้เกมชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยครูสามารถนำมาจัดกิจกรรมเผยแพร่ให้ผู้ปกครองชุมชนได้เห็นหลักการสอนนี้ ๓.๕ สรุปประโยชน์ที่ได้จากการดำเนินงาน การขยายผล และการเผยแพร่ผลการดำเนินงาน การเผยแพร่และขยายผลการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้เกมชุดกิจกรรมเป็น ฐาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนบ้านนาคู่ เพื่อใช้เป็นตัวอย่างและแนวทางในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน ๒๕
การเผยแพร่นวัตกรรมผ่านสื่อเทคโนโลยี เช่น เผยแพร่ผลงาน ผ่าน Google sites ห้องเรียนครูแคท ทั้งนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบพิจารณาความเป็นเลิศในการจัดการศึกษา ไว้ครบถ้วนแล้ว และข้าพเจ้าขอรับรองว่ารายงานการนำเสนอผลงานนี้มีความถูกต้องและเป็นจริงทุกประการ ลงชื่อ...........................................ผู้เสนอผลงาน (นางสาวเดือนเพ็ญ ตลาดเงิน) ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านนาคู่ วันที่ ๓๐ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ๓. การรับรองผลงาน (ผู้บังคับบัญชาของผู้เสนอผลงาน) ข้าพเจ้า นายปรีชา ศรีพยอม ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาคู่ ขอรับรองว่า ผลงานนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้เสนอผลงานอย่างแท้จริง ลงชื่อ...........................................ผู้รับรองผลงาน (นายปรีชา ศรีพยอม) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาคู่ วันที่ ๓๐ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ๒๖
ภาคผนวก *แผนการจัดกิจกรรมการจัดประสบการณ์ *เกียรติบัตรและผลงานด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน *รวมภาพกิจกรรม
*แผนการจัดกิจกรรมการจัดประสบการณ์ ๒๘
๒๙
๓๐
๓๑
๓๒
๓๓
๓๔
สื่อและวัสดุอุปกรณ์ในการใช้ทำกิจกรรมตามฐานต่างๆ ๓๕
*เกียรติบัตรและผลงานด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เกียรติบัตร/ผลงานครูผู้สอน ๑) รางวัลครูผู้สอนนักเรียนได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรมการแข่งขันปั้นดินน้ำมันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ ๗๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ๒) รางวัลครูผู้สอนนักเรียนได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรมการแข่งขันสร้างสรรค์ด้วย ฉีก ตัด ปะ กระดาษ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ ๗๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ เกียรติบัตร/ผลงานนักเรียน ๑) เด็กชายรัชนพล วงศ์ศรีชา ได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรม การแข่งขันปั้นดินน้ำมัน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 ๒) เด็กหญิงกชริตา สิมะลีได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรม การแข่งขันปั้นดินน้ำมัน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 ๓๖
๓) เด็กหญิงกัญญาพัฒน์ วงค์ศรีชา ได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรม การแข่งขันปั้นดินน้ำมัน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 ๔) เด็กชายธรรมนูญ อัตรวิชา ได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรม การแข่งขันการสร้างภาพด้วย ฉีก ตัด ปะ กระดาษ ระดับปฐมวัย งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 ๕) เด็กหญิงอารดา ปรีชาโชติได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรม การแข่งขันการสร้างภาพด้วย ฉีก ตั ปะ กระดาษ ระดับปฐมวัย งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 ๖) เด็กหญิงกัญญารัตน์ วงค์วิวงค์ได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรม การแข่งขันการสร้างภาพด้วย ฉีก ตัด ปะ กระดาษ ระดับปฐมวัย งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 ๓๗
*รวมภาพกิจกรรม ภาพตัวอย่างในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นฐาน เพื่อส่งเสริม พัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ๓๘
เอกสารอ้างอิง แนวคิดของนักจิตวิทยาและนักการศึกษาไว้ดังนี้ *ซิกมันต์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud),อลิซาเบธ เฮอร์ลอค (Elizabeth Hurlock),เอส บลูม (BenjaminS.Bloom),อีริค อีริคสัน (Erik Erikson),โจ แอล ฟรอสท์ (Joe L. Frost),กมล รอดคล้าย (๒๕๓๗ , อ้างถึงในวีรพล สารบรรณ, ๒๕๔๗, หน้า ๗) *ทฤษฎีวงจรคุณภาพของเดมมิง PDCA *หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ *รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning *การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมจัดประสบการณ์ ๓๙