Members
1 กญั ญาภัค สิเจรญิ ม3\6 เลขท่ี 6
2 กุลรินทรช์ ญา หล่อวตั นศิริกุล ม3\6 เลขท่ี 15
3 มนัสนนั ท์ กาญจนฤกษ์ชัย ม3\6 เลขที่ 25
สารบัญ
แกะทหี่ ายไป 1
เงนิ เหรียญทีห่ ายไป
ผูย้ ่งิ ใหญท่ สี่ ุด 2
เศรษฐีกบั ลาซารัส 3
ข้าวละมาน
เมล็ดมัสตารด์ 4-5
ขุมทรพั ยแ์ ละเรอ่ื งไข่มุก 6-7
อวน
8
q
10
อุปมาเรื่อง แกะที่หายไป
"ท่านใดที่มีแกะหนึ่งร้อยตัว ตัวหนึ่ง
หายไป จะไม่ละแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้ในถิ่น
ทุรกันดาร ออกไปตามหาแกะที่หายไปจน
พบหรือ เมื่อพบแล้ว เขาจะยกมันใส่บ่าด้วย
ความยินดี กลับบ้าน เรียกมิตรสหายและ
เพื่อนบ้านมา พูดว่า 'จงร่วมยินดีกับฉันเถิด
ฉันพบแกะตัวที่หายไปนั้นแล้ว' เราบอก
ท่านทั้งหลายว่าในสวรรค์จะมีความยินดี
เช่นนี้เพราะคนบาปคนหนึ่งกลับใจมาก
กว่าความยินดีเพราะคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่
ต้องการกลับใจ"
อุปมาเรื่อง เงินเหรียญที่หายไป
"หญิงคนใดที่มีเงินสิบเหรียญแล้วทำ
หายไปหนึ่งเหรียญ จะไม่จุดตะเกียง กวาด
บ้าน ค้นหาอย่างถี่ถ้วนจนกว่าจะพบหรือ
เมื่อพบแล้ว นางจะเรียกมิตรสหายและ
เพื่อนบ้านมาพูดว่า 'จงร่วมยินดีกับฉันเถิด
ฉันพบเงินเหรียญที่หายไปแล้ว' เราบอก
ท่านทั้งหลายว่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะมี
ความยินดีเช่นเดียวกัน เมื่อคนบาปคนหนึ่ง
กลับใจ"
ข้อคิด : จงร่วมยินดีกับผู้อื่น
อุปมาเรื่อง ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด
ขณะนั้น บรรดาศิษย์เข้ามาเฝ้าพระเยซูเจ้า
ทูลถามว่า "ผู้ใดยิ่งใหญ่ที่สุดใน
อามาจักรสวรรค์" พระเยซูเจ้าทรงเรียกเด็ก
เล็กๆ คนหนึ่งให้มายืนอยู่กลางกลุ่ม
พวกเขา แล้วตรัสว่า "เราบอกความจริงแก่ท่
นทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับเป็น
เหมือนเด็กเล็ก ๆ ท่านจะเข้าอาณาจักร
สวรรค์ไม่ได้เลย ดังนั้น ผู้ใดที่ถ่อมตน
ลงเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ คนนี้ ผู้นั้นจะยิ่งใหญ่
ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์"
ข้อคิด : 1.ความสุภาพถ่อมตน
2.ความไว้วางใจ
อุปมาเรื่อง เศรษฐีกับลาซารัส
เศรษฐีผู้หนึ่ง แต่งกายหรูหราด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีราคาแพง จัดงาน
เลี้ยงใหญ่ทุกวัน คนยากจนผู้หนึ่งชื่อ ลาซารัส นอนอยู่ที่ประตูบ้าน
ของเศรษฐีผู้นั้น เขามีบาดแผลเต็มตัวอยากจะกินเศษอาหารที่ตก
จากโต๊ะของเศรษฐี มีแต่สุนัขมาเลียแผลของเขา วันหนึ่ง คน
ยากจนผู้นี้ตายทูตสวรรค์นำเขาไปอยู่ในอ้อมอกของอับราฮัม
เศรษฐีคนนั้นก็ตายเช่นเดียวกัน และถูกฝั่งไว้ เศรษฐีซึ่งกำลังถูก
ทรมานอยู่ในแดนผู้ตาย แหงนหน้าขึ้น มองเห็นอับราฮัมแต่ไกล
และเห็นลาซารัสอยู่ในอ้อมอก จึงร้องตะโกนว่า "ท่านพ่ออับราฮัม
จงสงสารลูกด้วย กรุณาส่งลาซารัสให้ใช้ปลายนิ้วจุ่มน้ำมาแตะลิ้น
ให้ลูกสดชื่นขึ้นบ้าง เพราะลูกกำลังทุกข์ทรมานอย่างสาหัสใน
เปลวไฟนี้" แต่อับราฮัมตอบว่า
"ลูกเอ๋ย จงจำไว้ว่า เมื่อยังมีชีวิต ลูกได้รับแต่สิ่งดีๆ
ส่วนลาซารัสได้รับแต่สิ่งเลว ๆ บัดนี้เขาได้รับการ
บรรเทาใจที่นี่ ส่วนลูกต้องรับทรมาน ยิ่งกว่านั้น ยังมี
เหวใหญ่ ขวางอยู่ระหว่างเราทั้งสอง จนใครที่
ต้องการจะข้ามจากที่นี่ไปหาลูกก็ข้ามไปไม่ได้ และผู้ที่
ต้องการจะข้ามจากด้านโน้นมาหาเรา ก็ข้ามมาไม่ได้
ด้วย" เศรษฐีจึงพูดว่า "ท่านพ่อ ลูกอ้อนวอนให้ท่าน
ส่งลาซารัสไปยังบ้านบิดาของลูก เพราะลูกยังมีพี่
น้องอีกห้าคน ขอให้ลาซารัสเตือนเขาอย่าให้มายัง
สถานที่ทรมานแห่งนี้เลย" อับราฮัมตอบว่า "พี่น้อง
ของลูกมีโมเสสและบรรดาประกาศอยู่แล้ว ให้เขา
เชื่อฟังท่านเหล่านั้นเถิด" แต่เศรษฐีพูดว่า "มิใช่เช่น
นั้น ท่านพ่ออับราฮัม ถ้าใครคนหนึ่งจากบรรดาผู้ดาย
ไปหาเขา เขาจึงจะกลับใจ" อับราฮัมตอบว่า "ถ้าเขา
ไม่เชื่อฟังโมเสสและบรรดาประกาศก แม้ใครที่กลับ
คืนชีวิตจากบรรดาผู้ตายเตือนเขา เขาก็จะไม่เชื่อ"
ข้อคิด :หากรู้สึกคิดจะทำอะไร ก็รีบทำเถิด
อุบมาเรื่อง ข้าวละมาน
พระเยซูเจ้าทรงเล่าเป็นอุปมาอีกเรื่องหนั่งให้พวกเบาฟังว่า
"อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับชายคนหนั่งที่หว่านข้าวพันธุ์ดีในนา
ของตน ขณะที่ทุกคนนอนหลับ ศัตรูก็มาหว่านข้าวละมานทับลงบนข้าว
สาลีแล้วจากไป (เมื่อต้นข้าวงอกขึ้นจนออกรวง ข้าวละมานก็ปรากฏ
แซมอยู่ด้วย บรรดาผู้รับใช้จึงไปหานายถามว่า "นายครับ นายหว่าน
ข้าวพันธุ์ดีในนามใช่หรือ แล้วข้าวละมานมาจากที่ไดเล่า" นายตอบว่า
ศัตรูมาหว่านไว้" ผู้รับใช้จังถามว่า 'นายต้องการให้เราไปถอนมัน
ไหม' นายตอบว่า 'อย่าเลย เกรงว่าเมื่อท่านถอนข้าวละมาน ท่านจะ
ถอนข้าวสาลีติดมาด้วย จงปล่อยให้ข้าวสองชนิดงอกงามขึ้นด้วยกัน
จนถึงฤดูเก็บเกี่ยว แล้วฉันจะบอกคนเก็บเกี๋ยวว่า จงเก็บข้าวละมานก่อน
มัดเป็นฟ่อน เพาไฟเสีย ส่วนข้าวสาลีนั้น จงเก็บเข้ายุ้งของฉัน"
ข้อคิดจาก อุปมาเรื่องข้าวละมาน
อย่าด่วนพิพากษา เพราะแม้แต่ชาวนาเองยังต้องรอ
จนถึงฤดูเก็บเก็ยวจังจะแยกข้าวละมานออกจากข้าว
สาลี มนุษย์คนหนึ่งอาจทำผิดพลาดอย่างมหันต์ แต่
เขาอาจกลับใจได้อาศัยพระหรรชทานของพระเจ้า และ
ในทางกลับกัน คนๆหนึ่งอาจดำเนินชีวิตไม่มีทั้ติแต่
กลับพลาดและจมอยู่ในบาปจนวาระสุดท้าย การ
พ์พากษาจึงต้องกระทำเมื่อทุกอย่างจบสั้นแล้วเท่านั้น
ไม่มีผู้โดที่รู้จัก คนวหนั่งเพียงส่วนเดียวหรือเลี้ยว
เดียวของชีวิต แล้วจะมีสิทธ์ตัดสินเบาทั้งชีวิตได้
อุปมาเรื่อง เมล์ดมัสตาร์ด
พระองค์ตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่องหนั่งว่า "อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้
กับเมล์ดมัสตาร์ดซึ่งมีผู้นำไปหว่านในนา และเป็นเมล็ดเล็กกว่าเมล์ด
ทั้งหลาย แต่เมื่อเมล็ดงอกชั้นเป็นต้นแล้ว กลับมีขนาดโตกว่าต้นพักอื่น
ง และกลายเป็นต้นไม้ จนกระทั่งนกในอากาศมาทำร้งอาคัยยนกึ่งได้"
ข้อดำด : เราทุกดนถูกเชื้อชัญไห้เอาเยี่ยงอย่างของพุ้ฉลาดทั้งสอง คือ
เราจะต้องยอมเสัยสละทุกอย่าง เพื่อเราจะได้ดวามบรมสุขตลอด
นิรันดร เป็นกรรมสิทธิ์ในพระอาณาจักร ก้าวแรกที่เราทุกคนจะต้อง
ตัดสันใจทำก็ดีอ เราจะต้องเป็นสมาชักของพระศาสนจักรท์พระองค์
ทรงสถาปนาขึ้น ความรักต่อตัวเราเอง ความรักต่อร่างกาย ความรัก
ต่อความสะดวกสบายและความสนุกสนานในโลกนี้ จะเป็นเครื่อง
กัดขวางและไม่ยอมให้เราทำตามการตัดสำนใจของเราอย่างง่าย
ข้อคิดจาก อุปมาเรื่องข้าวละมาน
อย่าด่วนพากษา เพราะแม้แต่ชาวนาเองยังต้องรอ
จนถึงฤดูเก็บเกี๋ยวจึงจะแยกข้าวละมานออกจากข้าว
สาส มนุษย์คนหนั่งอาจทำผิดพลาดอย่างมหันต์ แต่
เขาอาจกลับใจได้อาศัยพระหรรษทานของพระเจ้า และ
ในทางกลับกัน คนงหนั่งอาจดำเนินชีวิตไม่มีติแต่
กลับพลาดและจมอยู่ในบาปจนวาระสุดท้าย การ
พิพากษาจึงต้องกระทำเมื่อทุกอย่างจบสั้นแล้วเท่านั้น
ไม่มีผู้ไดที่รู้จัก คนวหนั่งเพียงส่วนเดียวหรือเลี้ยว
เดียวของชีวิต แล้วจะมีสิทธ์ตัดสินเบาทั้งชีวิตได้
อุปมาเรื่อง อวน
"อาณาจักรสวรรด์ยังเปรียบได้อักกับอวนท์หย่อนลงในทะเล ต็ดปลาทุก ชนิด
เมื่ออวนเต็มแล้ว ชาวประมงจะลากขั้นฝั่งนั่งลงเลือกปลาดีไส่ตะกร้า ส่วน ปลา
เลวก็โยนทั้งไป เมื่อถึงเวลาสั้นโลกก็จะเป็นเช่นนี้ เมื่อถังคราวสั้นโลก ทูต
สวรรค์จะมาแยกคนชั่วออกจากดนชอบธรรม ทั้งคนชั่วลงในขุมไฟ ที่นั่น จะมี
แต่การร่ำไห้คร่ำ"ครวญและบบฟันด้วยความขุ่นเต้อง"
ข้อดีด : อาณาจักรสวรรด์ต้อนรับทุกดน เหมือนอวนซั่ง ธรรมชาตํของมันดีอลากและกวาด
ทุกสิ่งเข้ามาโดย ไม่มีการแยกแยะ ไม่ว่าจะเป็นปลาดมีราดา ปลาไร้ด่า หรือแม้แต่บยะ
ทะลก็ไม่ว่ายถูกรวมเข้ามาภายในอวน เมื่อพระศาสนจักรเปรียบเหม็อนอวน พระ
ศาสนจักร จังต้องเปิดประตูต้อนรับผู้ดนทุกประเภท ไม่ว่าดีหรัอ
เลว มีคุณด่าหรือไร้ด่าเพียงโดก็ตามเหตุผลอีก ประการหนั่งที่เราต้องต้อนรับทุกดนคือ
เราไม่มีหน้าที่ แยกแยะว่าโครดี ไดรเลว ดังที่พระเยซูเจ้าตรัสไว้ว่า
"อย่าตัดสินเขา และท่านจะไม่ถูกพระเจ้าตัดสิน"
อุปมาเรื่อง ขุมทรัพย์และเร้องไข่มุก
"อาณาจักรสวรรค์เปยบได้กับขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ในทุ่ง
นา คนที่พบก็ฟังซ่อนสมบัตินั้น และยินดีกลับไปขายทุก
สิ่งที่มี นำเงินมาซื้อนาแปลงนั้น"
"อาณาจักรสวรรค์ยังเปร์ยบได้อักกับพ่อค้าที่แสวงหา
ไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกที่มีค่าสูง เขาจะไปบาย
ทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น"
ข้อดำด : เราสามารถพบอาณาจักรสวรรด์ได้ระหว่างการทำงานประจำวัน 8
หากเราทำงานนั้น 9 ด้วยความอุตสาหะ ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์ และ
อย่างมีสำนักถึงพระเจ้า เหมือนชายโชดด์ดนนั้นที่ด้นพบขุมทรัพย์
ในทุ่งนาระหว่างการทำงานหนัก เขาไม่ได้ขุดดันเพัยงผิวเผืน แต่
ต้องขุดลักมากจังจะพบขุมทรัพย์เช่นนั้นได้ ความดำดชั่ว่าพระเจ้า
สถิตอยู่ในวัด ไนด์ลมหาสนัท หร้อระหว่างมัฬธีกรรมสำคัญทาง
ศาสนาเท่านั้น จังเป็นเรื่องน่าเศร้าใจและน่าเสัยดายอย่างยั่ง
นักบุญลอเรนซ์ไช้ชีวิตส่วนไหญ่อยู่ในดรัวของอาราม
ฤาษีท่ามกลางจานชามสกปรกมากมาย ท่านกล่าวว่า
"ข้าพเจ้ารู้สึกใกล้ชัดกับพระเยซดรัสตเจ้าเวลาอยู่
โนครัวเท่าว กับเวลาอยู่ต่อหน้าดัลมหาสนัท