ค่านยิ มและ
สถาบนั ทาง
สงั คม
ร ศ . ด ร . วิวัฒ น์ ห า ม น ต รี
ค่านิ ยมมีความสาํ คั ญต่อการศึกษาพฤติกรรมของคนใน
ชนบทและเมืองเพราะค่านิ ยมมีความสาํ คั ญหรือมีอิทธิพลต่อการ
เลือกกระทาํ ของบุคคลค่านิ ยมเป็ นเคร่ืองช้ีทิศทาง พฤติกรรมของ
คนในสั งคมเพราะบุคคลจะเลือกกระทาํ สิ่งใดข้ึนกั บค่านิ ยมท่ี
บุคคลมีต่อสิ่งใดสิ่งหน่ึ งค่านิ ยมจึงเป็ นทั ง้ ผลดีและผลเสียในการ
ปฏิบั ติให้การสนั บสนุ นหรือต่อต้านการศึกษาค่านิ ยมของคนใน
ชนบทและเมืองจึงมีความสาํ คั ญกั บการรั บรู้และเข้าใจเพ่ือนําไปสู่
ความร่วมมือการป้ องกั นการแก้ปั ญหาและการพั ฒนาทั ง้ ชนบท
และเมือง
Collab Space Central Pitch Deck
Clyde Kluckhohn Stuart A. Queen,
(1958) William N. Chamber และ
Charles M. Winston
ค่านิ ยมคือความปรารถนาจะ (1956)
ได้สิ่งใดสิ่งหน่ึ งของบุคคลใน
สั งคมความคิดดั งกล่าวจะเป็ น ค่านิ ยม คือ ความคิดอย่างหน่ึ ง
มาตรการในการตั ดสินใจว่าบุคคล ข อ ง บุ ค ค ล ใ น ก า ร ต ก ล ง ใ จ ว่า อ ะ ไ ร
ควรจะทาํ อะไรและต้องการอะไร เป็ นสิ่งดี พึงประสงค์ หรื อถูก
ค่านิ ยมจะบ่งบอกถึงเป้ าหมาย หรื อผิด บุคคลแต่ละบุคคลและ
ต่างๆ ท่ีบุคคลในสั งคมแสวงหา สั งคมทุกสั งคมจะมีค่านิ ยมโดยไม่
ตลอดจนสิ่งต่างๆอั นเป็ นท่ีช่ืนชม จาํ เป็ นว่าต้องเป็ นแบบเดียวกั น
ของกลุ่มคนในสั งคมนั ้น.
ความหมายของค่านิยม
พัทยา สายหู ไพฑูรย์ เครือแก้ว ณ ลําปาง พนัส หันนาคินทร์
ค่านิยมคือ สิงทีบุคคลยึดถือ ค่านิยมคือสิงทีคนสนใจ สิงที ค่านิยมหมายถึง การยอมรับนับถือ
เพือช่วยในการตัดสินใจเลือก คนปรารถนาจะได้จะเปน บูชา และพร้อมทีจะปฏิบัติตามคุณค่าที
ตราบใดทีมนุษย์ต้องเลือก ยกย่องและอยากเปนเจ้าของ คนหรือกลุ่มคนทีมีอยู่ต่อสิงต่างๆ
ตัดสินใจในการกระทําอยู่ ค่านิยมของสังคมเปนวิถีของ ซึงอาจเปนวัตถุ มนุษย์ สิงมีชีวิ
มนุษย์จะต้องอาศัยค่านิยม การจัดรูปความประพฤติทีมี ตอืนๆ รวมทังการกระทําในด้าน
ประจาํ ตัวเปนเครืองกําหนด ความหมายต่อบุคคลและเปน เศรษฐกิจ สังคม จริยธรรม และ
เสมอ แบบฉบับความคิดทีฝงแน่น สุนทรียภาพ ทังนี โดยได้ทําการ
สาํ หรับยึดถือในการปฏิบัติของ ประเมินค่าจากทัศนคติต่างๆ
คนในสังคม โดยถีถ้วนและรอบคอบแล้ว
สรุ ปได้ ว่า
อแพลุ่ยมลิจู่ชขะาัค่รวอคณนขง่าคนณสาิวยว่วะานมา่ หมเมนปหคา็่ึนิงดมกจทสากนย่ีิ่งค็มถทกลีคึง่ีวด้าวา่ียคมาบคีวคมุคาลุณคคมึงิดลคคกเัจิ่ดานหคะค็นพแววแรตบานแ่มคกกวัเวบชเ่กาคด่ือมา่าียทรนนวป่ีิแยิ ยกรมตัมนะน่ลพใเี้ะจหปฤคะ็ มนตนค่ิกง
f
ประเภทของค่านิยม
Collab Space Central Pitch Deck
ประนอม บุญนิธิประเสริฐ 1.ค่านิยมส่วนบุ คคล
ได้แบ่งค่านิยมไว้
2 ประเภท การตัดสินใจเลือกในสิงทีตนต้องการ
ดังนี
2. ค่านิยมของสังคม
การทีสมาชิกของสังคมส่วนใหญ่มีความนิยม
ในสิงทีคล้ายคลึงกัน
จาํ นงค์ 1 . ค่ า นิ ย ม ที สั ง ค ม บั ญ ญั ติ
อดิวั ฒนสิทธิ์
ค่านิยมทีสังคมบัญญัติเปนค่านิยมทีสังคมกําหนดขึน
ได้ สรุ ปค่านิ ยมไว้ มาแต่ละสังคมจะแตกต่างกันออกไป และมีการ
3 ประเภท เปลียนแปลงตลอดเวลาไปตามยุคตามสมัยนิยม
คื อ
2. ค่านิยมทีเปนจริยธรรมทางศาสนา
ค่านิยมทีเปนจริยธรรมทางศาสนาเปนค่านิยมทีถูก
กําหนดไว้ในหลักของศีลธรรมหรือในคําสอนทาง
ศาสนาและเปนค่านิยมทีมีความยืนนานค่านิยม
ประเภทนีเปนค่านิยมทางคุณธรรม
3 . ค่ า นิ ย ม ที มี คุ ณ ค่ า อ ย่ า ง แ ม้ จ ร ิง ใ น ตั ว ข อ ง มั น เ อ ง
เปนค่านิยมทีมีความหมายและมีคุณค่าในตัวของมันเอง
แม้ว่าบุคคลในสังคมไม่รู้ก็ตาม
ค่านิ ยมบุคคลมี 3 ส่วน คือ
สว่ นประกอบด้านความรู้ความคิด
เช่น ความเช่ือวา่ ความขยั นหมั่นเพียร
คือ ความสาํ เร็จ ค่านิ ยมไม่เหมาะสมเกิด
จากความรู้ ความคิดท่ี ไม่น่ าพึงปรารถณา
เช่น มีอุดมคติวา่ บุคคลควรใช้ทุกวิถีทาง
ไม่วา่ ถูกหรือผิดเม่ือมีเงินแล้วทุกอย่าง
จะตามมาเอง
ส่วนประกอบด้านอารมณ์ ความรู้สึก
เรคชั บวน่ ผามลชร่ตืนู้สอชกึ บมไแยมทนิ เ่ หนดมีในาะศสลิ มปเวชัฒน่ นไธมรพ่ รอมใไจททย่ีจ ใะนตขอ้ ณงทะาํเดงาียนวเกพันิม่ บขุค้ึนคโลดอยาไจมมไ่ ีด้
ส่วนประกอบของการแสดงออก
เเปสชรน่มะอจทราํ าํ่วงมาแนสคดรงบคถวว้ านมไคดดิ ผ้ เหลดน็ ีตพรัฒงตนาามอตงคารก์ าางรเเวปล็นา
สรุปได้ว่า "ค่านิยม"
หมายถึง ส่ิงท่ีคนในสังคมเห็ นว่ ามีความสาํ คั ญนําไปสู่ความเช่ือ
การยอมรับ การยึดถือปฏิ บั ติค่ านิ ยมอาจจะเป็ นส่ิงท่ีถูกต้ อง อาจจะ
เป็ นส่ิงท่ีดีหรื อไม่ก็ ได้ ค่ านิ ยมคือความปรารถนาจะได้ หรื อจะทําส่ิงใด
ส่ิงหน่ึ งของบุคคลเป็ นมาตรการในการตั ดสินใจของบุคคล
ค่ านิ ยมจะบอกถึงเป้ าหมายท่ีบุคคลแสวงหาตลอดจนส่ิงต่ างๆ
อั นเป็ นท่ีช่ืนชมของกลุ่มคนในสังคม นั กวิชาการได้ แบ่ง ค่ านิ ยมเป็ น
2 กลุ่ม คือ ค่ านิ ยมวิ ถี ปฏิ บั ติ และค่ านิ ยมจุ ดหมายปลายทาง
Collab Space Central Pitch Deck
ลักษณะ
ค่านิยมในชีวิต
ประจาํ วัน
ลักษณะค่านิยมของคนไทย
ค่านิ ยม คื อ
ความเช่ื ออย่างหน่ึ ง ซ่ึ งมี ลั กษณะถาวรเป็ นวิถี ปฏิ บั ติหรื อ
เป้ าหมายของชี วิตเป็ นความคิดอย่างหน่ึ งของบุ คคลท่ี ตั้ ง
จุ ดมุ่งหมายไว้ ยึดถื อปฏิ บั ติ เพ่ื อช่วยในการตั ดสินใจเลื อก
ค่านิ ยมซ่ึ งประกอบด้ วย ค่านิ ยมท่ี ควรยกย่อง ได้ แก่
เคารพรั กพระมหากษั ตริ ย์ นั บถื อศาสนาท่ี ตนเองนั บถื อ
ความรั บผิดชอบ มี ระเบี ยบวินั ย ยกย่องความดี มี เหตุ ผล
นิ ยมความเป็ นไทย เอื้ อเฟ้ื อเผ่ื อแผ่ กตั ญญูรู้ คุณ การตรง
ต่อเวลา เสี ยสละ เป็ นต้ น ซ่ึ งค่านิ ยมเหล่านี้ เป็ นค่านิ ยมท่ี
ควรยกย่องถ้ าบุ คคลและสั งคมนําไปปฏิ บั ติก็จะเกิดความ
สงบเรี ยบร้ อย ความสมั ครสมานสามั คคี และก่อให้ เกิด
ความเจริ ญก้ าวหน้ าต่อสั งคมและประเทศชาติ
ค่ า นิ ย ม ที ค ว ร ยึ ด ถื อ ป ฏิ บั ติ
เมือ พ.ศ.2525 1 การพึงตนเอง
คณะกรรมการ การขยันหมันเพียรและมีความรบั ผิดชอบ
วัฒนธรรมได้
บัญญัติค่านิยม 2 การประหยัดและการอดออม
5 ประการ 3 การมีระเบียบวินัยและการเคารพกฎหมาย
ทีเห็นว่าคนไทยทัง 4 การปฏิบัติตามคุณธรรมของศาสนา
หลายโดยเฉพาะเด็ก
นักเรยี นซึงเปน 5 ความรกั ชาติ ศาสน์กษัตรยิ ์
เยาวชนของชาติ
ควรปฏิบัติ คือ
ค่านิยมทีควรปลูกฝงและควรแก้ไข
ค่านิ ยมเป็ นพ้ืนฐานท่ีบอกให้
เข้าใจถึงพฤติกรรมของบุคคลเพราะ
เป็ นท่ียอมรั บกั นวา่ พฤติกรรมท่ี
แสดงออกของคนเรานั น้ ย่อมข้ึนอยู่กั บ
ความคิดทั ง้ ส้ิน ฉะนั น้ ควรปลูกฝั งค่า
นิ ยมท่ีถูกต้องเหมาะสมเพราะเป็ นสิ่ง
สาํ คั ญและจาํ เป็ นอย่างยิ่งในการพั ฒนา
สั งคมมนุ ษยโ์ ดยเปรียบเทียบจาก
ตารางต่อไปน้ี
ลักษณะปจจัย
และองค์ประกอบ
ของสังคมชนบท
- ชุมชนชนบทเป็ นกลุ่มคนและพ้ืนท่ีสว่ นใหญ่ของ
สั งคมมีลั กษณะท่ีสาํ คั ญด้านเศรษฐกิจ มีอาชีพด้าน
การเกษตร สว่ นใหญ่การผลิตเพ่ือกินเพ่ือใช้เป็ นการ
เกษตรแบบล้าหลั งผลผลิตตา่ํ
- มีฐานะยากจน ลั กษณะทางประชากรชนบทมี
ประชากร ร้อยละ 70 ของประเทศ มีอั ตราการเกิดสูง
ลั กษณะทางสั งคมครอบครั วในชนบทเป็ นครอบครั วใหญ่
การรวมแบบปฐมภูมิ ล้าหลั ง ไม่ยอมรั บนวั ตกรรมใหม่ๆ
- การเล่ือนชั น้ ทางสั งคมมีน้อย
ลั กษณะทางวั ฒนธรรมประเพณี เป็ น
คนหั วโบราณ เคารพผู้อาวุโส
- มีค่านิ ยมในการใช้จ่ายฟ่ ุมเฟื อย
ระดั บการศึกษาและอาชีพตา่ํ
- มีปั ญหาสุขภาพอนามั ยเจ็บป่ วย
โรค ขาดสารอาหาร หั วใจ ความดั น
เบาหวาน
- ไม่สนใจการเมืองการปกครอง
แม้รั ฐบาลมีนโยบายกระจายอาํ นาจสู่
ท้องถิ่น
คุณสมบัติ 1 ความโดดเดียว
ดั ง เ ดิ ม ข อ ง (Isolation)
ชุ ม ช น ช น บ ท
2 ความเปนอันเหนึงอันเดียวกัน
(Homogeneity)
3 การใช้แรงงานเพือการเกษตร
(Agricultural Employment)
4 การเศรษฐกิจเพือการบริโภค
(Subsistence Economy)
คุณสมบัติของชุมชนชนบทปจจุบัน
ปั จจุบั นชนบทได้เปล่ียนแปลงไปจากเดิมมากและมีแนวโน้ มท่ี จะเปล่ียนแปลง
มากยิ่งข้ึนในอนาคต ทั้ งนี้ เน่ื องจากสาเหตุหลายประการ เป็ นต้นว่า
ก า ร เ ป ลี ย น แ ป ล ง ก า ร เ ป ลี ย น แ ป ล ง ชุ มชนชนบทหรือชุ มชน
ที เกิดขึนภายใน ภ า ย น อ ก สั ง ค ม เ ก ษ ต ร ก ร ร ม เ ป ลี ย น แ ป ล ง ไ ป
สั ง ค ม ช น บ ท เ อ ง เกษตรกรรมที ส่งผล
กระทบต่ อสภาวะของ 1.ความโดดเดียวลดน้อยลง
สั ง ค ม เ ก ษ ต ร ก ร ร ม (Reduced Isolation)
ต้ องเปลียนไป 2. การเกษตรเพือการค้า
(Commercialization
Rationalization of Agriculture)
เกณฑ์ในการพิจารณาชนบท
1 ขนาดของชุ มชนในชนบทจะเป็ นชุ มชนขนาดเล็ ก มี ความคุ้ นเคยต่ อกั น
2 ความหนาแน่ นของประชากรต่าํ
3 อาชี พชนบทมี อาชี พเกษตรเป็ นหลั ก
4 สั งคมและวั ฒนธรรมท่ี สาํ คั ญท่ี สุ ดคื อค่านิ ยม
5 วิ ถี ชี วิ ตของคนในชุ มชน
6 มี ความโดดเด่ี ยวเกื อบทุ กคนทาํ อาชี พเกษตรกรรม
7 มี ความคล้ ายคลึ งกั นทางสั งคมของกลุ่ มคนในชุ มชน
8 มี เศรษฐกิ จแบบพอเลี้ ยงชี พตนเองได้
9 นิ เวศวิ ทยา (Ecology)
10 เพ่ื อวั ตถุ ประสงค์ทางการใช้ สถิ ติ ชนบท
11 เพ่ื อวั ตถุ ประสงค์ของการวิ เคราะห์ทางจิ ตวิ ทยาสั งคมชนบท
1 2 เ พ่ื อ วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ข อ ง ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ อ า ชี พ Collab Space Central Pitch Deck
วิถีชีวิตของ การศึกษาทําความเข้าใจเกียวกับวิถีชีวิต
ชุมชนชนบท ของประชาชนทีอยู่ในชนบทมีความสาํ คัญและ
จาํ เปนต่อการวางแผนพัฒนา นําไปสู่การแก้
ปญหา เพือการกินดีอยู่ดีของประชาชน การ
ศึกษาทําความเข้าใจวิถีชีวิตของชาวชนบท
จาํ เปนต้องเปรียบเทียบกับชุมชนเมืองหรือ
ชาวเมืองโดยทัวไปมีลักษณะ ดังนี
วิถีชีวิตของชุมชชนบท 7. การจั ดลาํ ดั บช่ วงชั้ นทางสั งคม
การจั ดลาํ ดั บช่ วงชั้ นทางสั งคม
1. ลั กษณะสิ่งแวดล้ อมและธรรมชาติ (Social Stratification)
2. อาชี พ 8.การเคล่ื อนไหวทางสั งคม
3. ขนาดของชุ มชน ลั กษณะการเคล่ื อนไหวทางสั งคม
4. ความหนาแน่ นของประชากร (Social Mobility)
5. ลั กษณะความเป็ นแบบเดี ยวกั น
และความแตกต่ างกั น 9.การกระทาํ ระหว่างกั นทางสั งคม
6. ความแตกต่ างทางด้ านสั งคม 10. การควบคุ มทางสั งคม
11. แบบแผนของความเป็ นผู้ นํา
12. มาตรฐานการดาํ รงชี วิ ต
13. ความเป็ นปึ กแผ่ นทางสั งคม
วิถี ชี วิตของชุมชนชนบท
เก่ียวข้องและพ่ึงพาธรรมชาติ เช่น การทาํ ไร่ทาํ นา ความหนาแน่นของ
ประชากรต่าํ ขนาดของชุมชนมีขนาดเล็กถ้าเทียบกั บชุมชนเมืองมีความเป็ น
อั นหน่ึ ง อั นเดียวกั นหรือคล้ายกั นของความเช่ือประเพณี วั ฒนธรรม ความ
แตกต่างของสั งคมการเคล่ือนไหวทางสั งคมมีน้ อย มีความสั มพั นธใ์ กล้ชิดกั น
ระหวา่ งสมาชิกในสั งคม มีความสั มพั นธแ์ บบไม่เป็ นทางการเป็ นการสว่ นตั ว
การควบคุมทางสั งคมใช้วิถีชาวบ้าน กฎศีลธรรม จารีตประเพณี มีมาตรฐานใน
การดาํ รงชีวิตต่าํ มีความเป็ นปึ กแผ่นเกิดจากประเพณี วั ฒนธรรม ซ่ึงวิถีชีวิต
ของชุมชนชนบทมี ความแตกต่างกั นโดยส้ินเชิงกั บสั งคมเมือง
โครงสรา้ งทางสังคมชนบท
โครงสร้างทางสังคมชนบท
มีความสาํ คั ญการศึกษาเพ่ือทาํ ความเข้าใจ เพ่ือนําไปสูก่ ารพั ฒนา
ชนบทให้เจริ ญก้าวหน้ าข้ึน
1. สั งคมชนบทเป็ นสั งคมเกษตรกรรม
2. สั งคมชนบทมีความสั มพั นธ์แบบปฐมภูมิ
3. สั งคมชนบทมีชีวิตผูกพั นกั บนิ เวศวิทยา
4. สั งคมชนบทเคารพนั บถือผู้ท่ีมีอาวุโส
5. สั งคมชนบทยึดมั่นหลั กพุทธศาสนาในวิถีชีวิตประจาํ วั น
6. นอกเหนื อจากชาวชนบทมีความเช่ือในหลั กธรรมคาํ สอน
ทางพุทธศาสนา
7. สั งคมชนบทเป็ นสั งคมแบบประเพณี
8. สั งคมชนบทมีค่านิ ยมสั งคมชนบท
การตั้งถิ่นฐานในชนบทชุมชนในชนบทเป็ นชุมชนขนาดเล็ก ลักษณะการ
มีการอาศัยอยู่ร่วมกั นประมาณ 50-300 ครอบครั ว ลั กษณะการ ตังถินฐาน
ตั้งบ้านเรือนท่ีอยู่อาศัยของชุมชนหรือหมู่บ้านมีลั กษณะสาํ คั ญ ในชนบท
3 ประการ ดั งนี้
1.หมู่บ้านท่ีกระจายกั นอยู่รอบๆ แกนกลาง
(Scattered Village)
2.หมู่บ้านท่ีรวมกั นอยู่เป็ นกระจุกเดียวหรือกลุ่มเดียว
(Cluster Village)
3.หมู่บ้ านท่ี เรี ยงรายตามริ มถนนหรื อแม่น้ ํ า
(Line Village)
ลักษณะการตังถินฐานของ
ภาคต่างๆในสงั คมชนบท
การตั้งถิ่นฐานของชาวชนบทในภาคต่างๆ
พอจะสรุปลั กษณะการตั้งถิ่นฐานดั งต่อไปนี้
1 รูปแบบการตั ง้ ถิ่นฐานในภาคเหนื อ
ท่ีมากท่ีสุด
2. รูปแบบการตั ง้ ถิ่นฐานในภาคตะวั นออก
เฉี ยงเหนื อท่ีพบมาก
3. รูปแบบการตั ง้ ถิ่นฐานในภาคกลาง
4. รูปแบบการตั ง้ ถิ่นฐานในภาคใต้
5. หมู่บ้านในภาคตะวั นออกเฉี ยงเหนื อ
5.1 คุ้มบ้าน ในหมู่บ้านหน่ึ งๆ จะมีคุ้มต่างๆ ก็คือ กลุ่มของบ้านหลายๆ
หลั งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กั น ซ่ึงอาจจะเป็ นญาติพ่ีน้องหรือญาติเก่ียวดอง
กั น
5.2 วั ด เน่ื องจากหมู่บ้านในภาคตะวั นออกเฉี ยงเหนื อมีลั กษณะการ
ตั ง้ ถิ่นฐานเป็ นแบบกลุ่มมั กนิ ยมมีวั ดประจาํ หมู่บ้านอย่างน้อย 1 วั ดอยู่
ภายในหมู่บ้าน
5.3 โรงสี มีอยู่ในหมู่บ้านอาจจะเป็ นโรงสีขนาดเล็กหรือกลาง ข้ึนอยู่
กั บเศรษฐกิจของหมู่บ้าน
5.4 โรงเรี ยนเกือบจะทุกหมู่บ้านจะมีโรงเรียนประจาํ หมู่บ้าน
5.5 ศาลากลางบ้าน มีไว้เพ่ือใช้เป็ นท่ีประชุมของชาวบ้าน พั กผ่อน
หรือเป็ นท่ีพั กของคนเดินทาง
5.6 ป่ าช้ า เป็ นบริเวณท่ีใช้เผาหรือฝั งศพของชาวบ้านเม่ือถึงแก่กรรม
ป่ าช้ามั กจะอยู่ทางทิศตะวั นตกของหมู่บ้าน
ปญหา 1 ปญหาการย้ายถิน
ต่างๆ 2 ปญหาแรงงานชนบท
3 ปญหาชาวชนบทมีรายได้น้อย
ใน 4 ปญหาอุ ตสาหกรรมในชนบท
สังคม 5 ปญหาการพัฒนาทีดินเพือเกษตรกรรม
6 ปญหาการศึ กษาในชนบท
ชนบท 7 ปญหาอนามัยในชนบท
8 ปญหาอาชญากรรมในชนบท
9 ปญหายาเสพติดในชนบท
Collab Space entral Pitch Deck
สังคมวิทยา ประชากรของประเทศไทย
ชนบทกับการ ประมาณร้อยละ 80 ประกอบอาชีพ
พัฒนาชนบท เกษตรกรรม และอาศั ยอยู่ในเขต
ชนบทซ่ึงประสบปั ญหาความเดือด
ร้อนต้องการพั ฒนาให้มีความเป็ น
อยู่และคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึน ซ่ึง
ปั ญหาในสั งคมชนบทของ
ประเทศไทยท่ีมีผลกระทบต่อชีวิต
ความเป็ นอยู่ของชาวชนบท
การตังถินฐานในลักษณะ
หมู่บ้านของชนบทไทย
Collab Space Central Pitch Deck
ลักษณะของชุมชนเมอื ง
ลั กษณะโดยรวมของสั งคมเมืองหรือชุมชนเมือง
- ด้านประชากรในเมืองจะมีอั ตราความหนาแน่นสูง
- อาชีพเก่ียวกั บกั บระบบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การบริการ เป็นอาชีพท่ี
ไม่เก่ียวข้องกั บการเกษตร
- มีการแบง่ งานกั นทาํ ตามความถนั ด มีความเจริญด้านเทคโนโลยีและการ
ขนสง่ ประชากรมีการศึกษาและมีความหลากหลายด้านเช้ือชาติ
- มีความสัมพั นธ์ทางสังคมแบบทุติยภูมิ มีค่านิยมทางวัตถุ ยึดหลั กเหตุผล
ไม่เคร่งครั ดประเพณี วัฒนธรรม
- ลั กษณะทางกายภาพของเมือง มีการตั ง้ ถิ่นฐาน
- การขยายตั วของเมืองแตกต่างกั นตามทฤษฎีของเมือง 3 ทฤษฎี คือ ทฤษฎี
วงกลม ทฤษฎีใบพั ดและทฤษฎีหลายศูนยก์ ลาง
สังคมเมืองมีแบบแผนของโครงสรา้ งทาง
สังคมรูปแบบพฤติกรรมทางสังคมและวถิ ีชวี ติ
ทีแตกต่างไปจากสังคมชนบท
ลักษณะของสังคมเมือง
การพฒั นาสงั คมเมอื งและ
พฒั นาสงั คมชนบท
การพัฒนาเป็นสงิ่ จาํ เป็นในทุกเร่ือง
เพราะการพั ฒนาเป็ นการเปล่ียนแปลงท่ี
มีเป้ าหมายหรือทศิ ทางในทางบวก
เป็ นการเปล่ียนแปลงท่ีดีข้ึนหรื อเจริ ญ
กา้ วหน้าการพัฒนาสังคมเมืองและสังคม
ชนบทกม็ ีความสาํ คัญและความจาํ เป็น
เพราะการพั ฒนาชนบทและการพั ฒนา
เมืองกค็ ือ การพัฒนาประเทศในภาพ
รวมนั ่ นเอง
แนวทางในการพฒั นาเมอื ง
แนวทางการพั ฒนาเมืองเป็ นการกาํ หนดลั กษณะรูปแบบ หรือแนวทาง
แก้ไขปั ญหาต่างๆ ของเมือง โดยนําเทคนิ ควิทยาการสมั ยใหม่เข้ามาช่วยสรุป
แนวทางการพั ฒนาเมืองท่ีสาํ คั ญ 10 ประการ คือ
1.การออกกฎหมายการผังเมืองใหม่ (CITY PLANNING LOW)
2. การออกกฎหมายการพัฒนาพ้ืนท่ีเฉพาะ (URBANIZATION
PROMOTION/CONTROL AREA)
3.การมีแผนพัฒนาพ้ืนท่ีเฉพาะ (INTENSIVEDEVELOPMENT AREA)
4. การมีแผนการจัดการท่ีดิน (LAND READJUSTMENTPROGRAM)
5. การออกกฎหมายริบหรือเวนคืนท่ีดินเพ่ือการสาธารณะ (LAND
EXPROPRIATION)
แนวทางในการพฒั นาเมอื ง
6. การออกกฎหมายการจัดระบบอาคารหรือการกอ่ สร้างตา่ งๆ ให้เหมาะสม
(LAND REDEVELOPMENT PLAN)
7. การถมทะเลเพ่ือขยายพ้ืนท่ีเมือง (LANDFILL AND LANDRECLAMATION)
8 . การนําหลักการบริหารกิจการบา้ นเมืองท่ีดี (GOOD GOVERNMENT) มาปรั บใช้
9. การเปิดโอกาสให้ประชาชนเขา้ มามีสว่ นร่วมและรั บฟั งความคดิ เหน็ ของประชาชน
รวมถึงการทาํ ประชาพิจารณ์
10. การดาํ เนินงานดว้ ยความโปร่งใสและตรวจสอบได้
การพฒั นาเมอื ง
การพฒั นาเมอื งเพอื ใหท้ ําหนา้ ที
ตามวตั ถปุ ระสงค์ในการใหบ้ รกิ าร
ตามบทบาทหนา้ ทีทีดขี องเมอื งมี
หลายวธิ ี ดงั นี
1 รูปแบบการใชป้ ระโยชน์จากท่ีดินในเมือง
2 ประเภทของการใชท้ ่ีดิน
3 พ้ืนท่ีสเี ขียวของเมือง
4 ลักษณะความงามของเมือง
4.1 ความเป็นระเบียบ เมืองดูสวยงามน่าอยู่
4.2 ความสบาย เมืองท่ีน่าอยูค่ ือเมืองท่ีอยูไ่ ดอ้ ยา่ งเป็นสุข
4.3 ภาพลั กษณ์ของเมือง
4.4 เอกลั กษณ์ของเมือง
4.5 ความงาม
5 แนวคดิ การพัฒนาเมืองท่ีเอ้ือตอ่ สุขภาพของประชาชน
6 ขบวนการสร้างสรรคเ์ มือง
7 การสร้างนโยบายเมืองศูนยก์ ลางความเจริญ
8แนวคดิ นโยบายเมืองศูนยก์ ลางความเจริญในการวางแผนภูมิภาค
9 ปั ญหาสงิ่ แวดลอ้ มของเมือง
แนวทางในการพั ฒนาสั งคมชนบท
สังคมชนบทเป็นพ้ืนท่ีและประชากรสว่ นใหญข่ องประเทศเปรียบเสมือนเป็น
รากฐานของประเทศ ถา้ สังคมระดับฐานลา่ งหรือรากหญา้ มีปั ญหากจ็ ะสง่ ผลกระทบ
ถึงสังคมเมือง จึงจาํ เป็นตอ้ งให้ความสาํ คัญในการป้ องกันและแกป้ ั ญหาเพ่ือให้
สังคมชนบทและสังคมเมืองมีความเจริญกา้ วหน้า นําไปสูภ่ าพรวมของสังคมและ
ประเทศชาติ ซ่ึงสาระสาํ คัญในการพัฒนาสังคมชนบทในดา้ นสังคม และเศรษฐกิจ
ดั งน้ี
แนวทางใน 1.การพฒั นาทางสงั คม
การพฒั นา การพฒั นาทางสงั คมทีสาํ คัญมหี ลายประการทีสาํ คัญประกอบดว้ ย
สงั คชนบท การศึกษา สขุ ภาพอนามยั การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน ภมู ปิ ญญา
ไทย ภมู ปิ ญญาท้องถิน ฯลฯ เปนต้น
2.การเรยี นรู้ (Learning)
การเรยี นรูเ้ ปนหลักการพนื ฐานของการพฒั นาเพราะเมอื มนษุ ยเ์ กิด
การเรยี นรู้ การเปลียนแปลงการปรบั ปรุงและการพฒั นาจงึ เกิดขนึ
3. การพฒั นาศักยภาพของชุมชนและบุคคล
การพฒั นาศักยภาพของชุมชนและบุคคลรวมทังการมสี ว่ นรว่ มการ
ใชป้ ระโยชน์จากภมู ปิ ญญาท้องถินและการสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหแ้ ก่
ชุมชน มคี วามสาํ คัญ ดังนี
ศักยภาพของชุมชน
(Community Potentiality)
การดาํ เนิ นงานพั ฒนาชนบทจะต้องคาํ นึ งถึงองคป์ ระกอบทาง
ธรรมชาติ (NATURALCOMPONENT) ท่ีจะไปทาํ การพั ฒนาและ
มองคนท่ีเป็ นองคป์ ระกอบ (HUMAN COMPONENT) อีกประการ
หน่ึ งในชุมชนนั้ นซ่ึงก็เป็ นเร่ืองท่ีมีสว่ นเก่ียวพั นไปถึงความสามารถ
รอบรู้ ความเจริญเติบโตทางจิตใจทั ศนคติ คุณค่านิ ยมต่างๆ อย่างไร
จกะ็ตบาั นมคดวาลรยใหึด้ปเกริัดชคญวาาพมื้นสาฐํ เารน็จขนอั้ นงมกาาจรพากั ฒคนนาใชนนชบุมทชนวา่ ซพ่ึงลมั งีทสราํั พคัยญาทก่ี ร
มหาศาลซ่อนเร้นอยู่ในตั ว
การพฒั นาเศรษฐกิจ การพั ฒนาเศรษฐกิจชุมชนในชนบทมีความ
ชุมชนในชนบท จาํ เป็นทัง้ น้ีเป็นผลจากความยากจนและการ
ขาดโอกาสทางเศรษฐกิจของประชาชนซ่ึงการ
พัฒนาประเทศของรั ฐบาล โดยการนําของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรั ฐมนตรีชว่ งปี
พ.ศ.2544-2548 ไดก้ าํ หนดนโยบายในการ
พัฒนาประเทศ และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
เพ่ือแกไ้ ขปั ญหาความยากจนของประชาชน
โดยไดก้ าํ หนดดาํ เนินงานตามนโยบายของ
รั ฐบาลซ่ึงจัดทาํ เป็นโครงการตา่ งๆ ประกอบ
ดว้ ย โครงการกองทุนหมูบ่ า้ นและชุมชนเมือง
โครงการหน่ึงตาํ บลหน่ึงผลิตภั ณฑ์ และ
โครงการพัฒนาศักยภาพหมูบ่ า้ น และชุมชน
(SML)
โครงสร้างคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและกองทุนชุมชนเมือง