72
หนว ยท่ี 6
ภาพฉาย
(ORTHOGRAPHIC DRAWING)
บทนํา
ภาพฉายเปนภาพเขียนแบบเครอ่ื งกลทผี่ อู อกแบบ และผเู ขยี นแบบใชเ ปน เคร่ืองมือสอ่ื สาร
ใหผ ูผลิตไดผลิตช้ินงานตามลักษณะรูปรางและรายละเอยี ดของชน้ิ งานทก่ี าํ หนด การเขียนและ
อา นแบบภาพฉายไดจ งึ มคี วามสาํ คญั ตอ ผเู ปนชางอตุ สาหกรรม
6.1 หลกั การฉายภาพ
การมองชนิ้ งานในดา นตางๆ ในแนวทตี่ ง้ั ฉากกับพน้ื ผวิ ชน้ิ งานทลี ะดา น กจ็ ะเห็นภาพแต
ละดานรวมหกดาน ดังแสดงในรูปท่ี 6.1
รูปที่ 6.1 แสดงภาพดานทง้ั หกดา นของภาพฉาย
สวรรคในอก นรกในใจ
(หมายถงึ จะมีความสขุ หรอื ความทุกขอยทู ี่จติ ใจคดิ เอง)
73
6.2 ระบบการแสดงภาพฉาย
ระบบการแสดงภาพฉายเปน การจดั วางภาพดานตา ง ๆ ตามรูปแบบทไ่ี ดกําหนดไวเ ปน
มาตรฐาน ซงึ่ มีอยหู ลายมาตรฐาน ในทนี่ จี้ ะกลาวถงึ การแสดงภาพฉายตามมาตรฐาน DIN 6 ซง่ึ มี
ระบบการฉายภาพอยู 3 วิธี คอื การฉายภาพแบบมมุ ท่ี 1, การฉายภาพแบบมมุ ที่ 3 และการฉาย
ภาพแบบลูกศรช้ี
6.2.1 ภาพฉายแบบมุมที่ 1 (First angle Projection) หรือ ระบบ ISO-Method E เปน
วิธกี ารฉายภาพทมี่ ีรูปแบบการวางภาพดา นตา ง ๆ ดงั แสดงในรูปท่ี 6.2 และตารางที่ 6.1
รูปท่ี 6.2 แสดงการวางภาพฉายแบบมุมที่ 1
ตารางท่ี 6.1 ตารางแสดงการวางภาพฉายแบบมุมที่ 1
หมายเหตุ เสน ประ เปน เสน ทีแ่ สดงเสนขอบรปู ทถ่ี ูกบงั
74
เทคนิคการมองภาพฉายแบบมุมท่ี 1
ข้นั ท่ี 2 ตัดฉากรบั ภาพมุมอน่ื ๆ ออก
ใหเหลือเพยี งมมุ ที่ 1
ขนั้ ท่ี 1 วางชิน้ งานลงบนฉากรบั ภาพในชอ งมมุ ท่ี 1
ข้ันท่ี 3 เขยี นภาพดานหนา ตามทีเ่ ห็นจรงิ ขนั้ ที่ 4 เขียนภาพดานขางตามท่ีเห็นจรงิ
ลงบนพน้ื ผวิ ฉากรบั ภาพดา นหนา ลงบนพื้นผวิ ฉากรบั ภาพดานขา ง
ขน้ั ที่ 5 เขียนภาพดานบนตามท่ีเหน็ จรงิ ขน้ั ท่ี 6 คลฉ่ี ากรบั ภาพดานขางใหอยูแนว
ลงบนพืน้ ผิวฉากรับภาพดา นบน ระนาบเดยี วกันกบั ฉากรับภาพดานหนา
75
ขัน้ ที่ 7 คล่ีฉากรบั ภาพดานบนใหอยูแนวระนาบ ขั้นที่ 8 นาํ ชิ้นงานออกไปใหเ หลอื เพยี ง
เดียวกนั กบั ฉากรับภาพดานหนา ฉากรบั ภาพทั้งสามดาน
ข้นั ท่ี 9 หมนุ ฉากรบั ภาพทง้ั หมดใหอยแู นว ขัน้ ที่ 10 เขียนเสน ฉายโยงหา
ตรงตัง้ ฉากกบั สายตากจ็ ะไดภ าพฉายแบบ ความสมั พนั ธกันระหวางดาน โดย
มมุ ท่ี 1 ดา นหนา สามารถโยงขนึ้ จะตรงกบั ดา นบน
และโยงจากดานหนาไปทางขวามอื จะตรง
กบั ดานขา ง สวนความสัมพนั ธร ะหวาง
ภาพดานบนและดา นขา ง ใชเสนเอยี ง 45
องศาเปน ตวั เชอ่ื มโยง
76
6.2.2 ภาพฉายแบบมุมท่ี 3 (Third angle Projection) หรอื ระบบ ISO-Method A เปน
วธิ กี ารฉายภาพทมี่ รี ปู แบบการวางภาพดา นตา ง ๆ ดังแสดงในรปู ท่ี 6.3 และตารางท่ี 6.2
รูปที่ 6.3 แสดงการวางภาพฉายแบบมุมที่ 3
ตารางท่ี 6.2 ตารางแสดงการวางภาพฉายแบบมุมท่ี 3
ทาํ งานชกั ชา จะพาเสียการ
หมกไวเ นิ่นนาน จะพาบรรลยั
พอกพูนมากขึ้น ลาํ บากใครใคร
บง บอกนสิ ัย หาใชค นดี
(หมายถึง การงานทค่ี ่งั คา งพอกพนู ข้นึ เร่ือยๆ)
(คําใบ ดนิ พอกหางหม)ู
77
เทคนิคการมองภาพฉายแบบมมุ ท่ี 3
ขน้ั ท่ี 1 วางช้นิ งานลงบนพนื้ ข้นั ท่ี 2 วางกลองสีเ่ หล่ยี มใสครอบคลุมชนิ้ งาน
ข้นั ที่ 3 เขยี นภาพดานหนาตามท่ี ขน้ั ที่ 4 เขียนภาพดา นขา งตามที่เห็นจรงิ ลงบน
เหน็ จริงลงบนผวิ กลอ งดานหนา ผิวกลองดานขาง
ข้ันท่ี 5 เขยี นภาพดา นบนตามท่ี ขัน้ ท่ี 6 ตัดกลองท่ีไมต อ งการออก ใหเหลือ
เห็นจรงิ ลงบนผิวกลอ งดานบน เฉพาะผิวกลอ งทเ่ี ขยี นเพียง 3 ดา น
78
ขน้ั ท่ี 7 คลีก่ ลอ งดา นขา งใหอ ยูแ นว ข้ันท่ี 8 คลี่กลอ งดา นบนใหอยแู นวระนาบ
ระนาบเดียวกนั กับผวิ ระนาบดา นหนา เดียวกนั กบั ผิวระนาบดา นหนา
ข้นั ท่ี 9 นาํ ชิน้ งานออกไปใหเหลือเพียง ขัน้ ที่ 10 หมนุ แผนงานทั้งหมดใหอ ยแู นวตรงตั้ง
แผนกลองทัง้ สามดาน ฉากกับสายตากจ็ ะไดภาพฉายแบบมุมที่ 3
ข้นั ท่ี 11 การเขยี นเสน ฉายโยงหาความสมั พันธก นั ระหวา งดาน โดยดา นหนา สามารถโยงขึ้นจะ
ตรงกับดานบน และโยงจากดานหนาไปทางขวามือจะตรงกับดา นขา ง สวนความสมั พนั ธร ะหวาง
ภาพดานบนและดานขาง ใชเสน เอยี ง 45 องศาเปนตวั เชื่อมโยง
79
6.2.3 ภาพฉายแบบวธิ ลี กู ศรช้ี เปน วธิ กี ารฉายภาพทม่ี ีรปู แบบการวางภาพดานตาง ๆ
ตามตําแหนง ลกู ศรชแี้ ละแสดงตัวอกั ษรกาํ กบั ไว จะใชใ นกรณีท่มี พี น้ื ทแี่ สดงแบบมนี อ ย ดังแสดงใน
รูปที่ 6.4
รูปท่ี 6.4 แสดงการวางภาพฉายแบบวิธลี ูกศรช้ี
การแสดงภาพฉาย เปน การวางภาพฉายดานตาง ๆ ตามรูปแบบดงั ที่ไดกลาวมาขา งตน แลว
โดยจะยึดภาพฉายดา นหนา เปนหลักในการอางองิ เพือ่ ฉายเชอื่ มโยงไปยงั ภาพฉายดา นอืน่ ๆ ซงึ่
การจะกาํ หนดดา นใดเปน ดา นหนา นนั้ โดยทว่ั ไปจะยึดดา นทแ่ี สดงรปู ทรงและขนาดของชิน้ งานทม่ี ี
รายละเอยี ดยงุ ยากซบั ซอ นมากเปน ดานหนา และจะนยิ มแสดงภาพฉายเพยี งสามดา น คือ ภาพ
ดา นหนา (Front View) ภาพดานขาง (Side View) และภาพดา นบน (Top View) ดงั แสดงตัวอยาง
ในรูปที่ 6.6 และรูปที่ 6.8
ในกรณชี ิน้ งานแตละดานมรี ายละเอยี ดสลบั ซับซอ นมาก อาจจะมีภาพดานมากกวา สาม
ดานกไ็ ด หรอื ในกรณีท่ชี น้ิ งานน้นั ๆ มรี ายละเอยี ดไมม าก อาจจะมภี าพดานไมถ งึ สามดา นก็ได
ปใ หมม ี ส.ค.ส. กวา ปเ กา
พืชมเี หงา ทวีหัว
ทั้งขนาด สําหรบั ดี ลว นเกินตัว
แตคนชั่ว ครบป ดลี ดลง
คอื ปห นา และจํานวน ในปนี้
ไมก ป่ี กลับถดถอย เพราะมหี ลง
รูสึกตัว เลวลงกวา เพราะเหน็ ตรง
ดีจะคง จะหมดดี ชน่ื ใจเอยฯ
ละช่ัว,
ดขี น้ึ ไป พทุ ธทาสภิกขุ
80
6.3 เทคนคิ การเขยี นเสนฉาย
เสน ฉาย เปน การเขยี นเสนรา งเบา ๆ เพื่อเช่ือมโยงกันในระหวา งภาพฉายแตละดาน ซึ่งจะมี
ความสมั พันธก นั ทงั้ ตําแหนง ขนาดสดั สวน และทศิ ทางตอกัน โดยใชภ าพดานหนา เปนดานหลกั
เขยี นเสน ฉายเชื่อมโยงไปยงั ภาพดานขาง และภาพดานบน สว นภาพดานบนกับภาพดา นขา งกจ็ ะ
เขยี นเสน ฉายเชอื่ มโยงกนั โดยใชเสน มมุ 45 องศาเปน เสน เชอ่ื มโยงกนั ดงั แสดงตัวอยา งในรูปท่ี 6.6
และรปู ที่ 6.8
รปู ท่ี 6.5 แสดงภาพไอโซเมตริก
รปู ท่ี 6.6 แสดงภาพฉายและการเขียนเสน ฉาย
81
รปู ท่ี 6.7 แสดงภาพไอโซเมตริก
รูปที่ 6.8 แสดงภาพฉาย และการเขยี นเสน ฉาย
82
บทสรปุ
ภาพฉายเปนภาพเขียนแบบท่ใี ชเปน แบบสงั่ งานท่ีใชกนั ในงานอุตสาหกรรมทวั่ ไป ผูท่ีเปน
ชางผลิตชน้ิ สวนเครือ่ งจักรกล หรอื ชน้ิ สว นตาง ๆ จงึ ตองมีความเขา ใจในแบบงานภาพฉายเปน
อยา งดี โรงงานอตุ สาหกรรมในเมอื งไทย โดยทว่ั ไปจะมบี ริษัทจากตางประเทศเขา มาจาํ นวนมาก
ซงึ่ แตละบรษิ ทั กจ็ ะใชระบบการมองภาพฉายตามมาตรฐานของประเทศตนเอง ฉะนน้ั ผูอา นแบบ
จึงตอ งทาํ ความเขาใจในการอานแบบภาพฉายในแบบตา ง ๆ
อยู
สตั ว อยูง าม ตามธรรมชาติ สัตวร สู ึก
มิไดนกึ
หิวกห็ า วา “กู” อยู รูมั่นหมาย ;
สว นสืบพันธ
กินแลว มา นอนสบาย
คน อยรู อ น
โดยมี “กู” นน้ั มิหมาย วาเปน กาม ฯ
การสืบพนั ธ
หลงตะกาม ดว ยตณั หา อยา งบาอยู
มนุษย อยเู ย็น มี “ของก”ู ขตี้ ู* พลา ม
รสู งู สดุ
รเู มตตา ก็หลงมัน ขน้ั กองกาม
รูคดิ อา น
กิน-กาม-เกยี รติ เกลยี ดนพิ พาน
ดวยปญ ญา อยางมนษุ ย
เรื่องดับทุกข ทกุ สถาน
อารีกนั ในสนั ดาน
เหนือเกยี รติ-กาม เพื่อความเยน็
ตเู อาธรรมชาติมาเปนตวั ตน หรอื ของตน
พทุ ธทาสภกิ ขุ