The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนงานจักรยานยนต์2-63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mekinnn2523, 2021-03-21 00:05:57

แผนงานจักรยานยนต์2-63

แผนงานจักรยานยนต์2-63

8.4 เคร่ืองมือประเภทตา่ งๆ
8.5 อนิ เตอรเ์ น็ต

9. การวัดผลประเมินผล
9.1 เคร่อื งมือในการวดั
9.1.1 ใบปฏิบตั งิ าน
9.1.2 ใบงาน
9.2 วธิ ีการประเมนิ
9.2.1 ประเมนิ ผลการรว่ มกิจกรรม
9.2.2 ทดสอบความรู้
9.3 เกณฑท์ ่ีใชว้ ดั
9.3.1 เกณฑก์ ารประเมนิ การรว่ มกิจกรรม ตาม
9.3.2 ใบงานการทางาน
9.3.3 ใบประเมนิ ผลการทางานกลมุ่
9.3.4 ใบประเมินผลการนาเสนอผลการทางานกลมุ่
9.3.5 ใบประเมนิ ผลพฤตกิ รรมการทางานและคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

10. บันทกึ หลังการสอน

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลงช่ือ ............................................
( ...................................... )
ครูผสู้ อน

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวชิ า 20101-2102 ช่ือวชิ า งานจักรยานยนต์ สอนคร้ังท่ี 13-14

หน่วยท่ี 6 ชื่อหน่วย ระบบไฟฟ้าจักรยานยนต์ เวลา 14 ช่ัวโมง

1. สาระสาคัญ

ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนตม์ ีความจาเป็นกบั รถจกั รยานยนตเ์ ป็ นอยา่ งยง่ิ คือ ระบบไฟแสงสวา่ ง, ระบบไฟสญั ญาณ,
ระบบไฟชาร์จและระบบสตาร์ทดว้ ยไฟฟ้า ซ่ึงมีไวเ้ พอื่ อานวยความสะดวกแก่ผขู้ บั ขี่และผใู้ ชร้ ถใชถ้ นน

2. จุดประสงค์การ

2.1 บอกรหสั สีสายไฟรถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.2 บอกสญั ลกั ษณ์ทางไฟฟ้ารถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.3 บอกหนา้ ท่ีของระบบไฟแสงสวา่ งรถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.4 อธิบายวงจรการทางานของระบบไฟแสงสวา่ งรถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.5 สามารถตรวจสอบระบบไฟแสงสวา่ งไดภ้ ายในเวลา 20 นาที
2.6 บอกหนา้ ที่ของระบบไฟสัญญาณไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.7 อธิบายวงจรการทางานของระบบไฟสญั ญาณไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.8 สามารถตรวจสอบระบบไฟสญั ญาณไดภ้ ายในเวลา 20 นาที
2.9 บอกหนา้ ที่ของระบบไฟชาร์จไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.10 อธิบายวงจรการทางานของระบบไฟชาร์จไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.11 สามารถตรวจสอบระบบไฟชาร์จไดภ้ ายในเวลา 20 นาที
2.12 บอกหนา้ ท่ีของระบบสตาร์ทดว้ ยไฟฟ้าไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.13 อธิบายวงจรการทางานของระบบสตาร์ทดว้ ยไฟฟ้าไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.14 สามารถตรวจสอบระบบสตาร์ทดว้ ยไฟฟ้าไดภ้ ายในเวลา 20 นาที
2.15 บอกขอ้ ควรระวงั ในงานตรวจสอบระบบไฟฟ้าไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.16 เพ่ือใหม้ ีกิจนสิ ยั ท่ีดใี นการทางานดว้ ยความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย ประณีต ซ่ือสตั ย์

และปลอดภยั
2.17 เพื่อใหม้ ีเจตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์ และการปฏิบตั ิงานอยา่ ง

ถูกตอ้ ง สาเร็จภายในเวลาท่ีกาหนด มีเหตุและผลตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและคุณลกั ษณะ3D
2.18 ปฏิบตั งิ านไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และสาเรจ็ ภายในเวลาท่ีกาหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญา

ของเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ3D

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ระบบไฟแสงสวา่ ง
3.2 ระบบไฟสญั ญาณ
3.3 ระบบไฟชาร์จ
3.4 ระบบสตาร์ทดว้ ยไฟฟ้า

4. สมรรถนะรายหน่วย
4.1 การเตรียมเคร่ืองมือ

4.2 ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน

4.3 อธิบายสาระสาคญั การศกึ ษาวชิ างานจกั รยานยนต์ ใหเ้ กิดความรูค้ วามเขา้ ใจอย่างแทจ้ รงิ
จาเป็นตอ้ งศกึ ษาระบบไฟฟ้าของรถจกั รยานยนต์ เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจ ในงานซอ่ มรถจกั รยานยนต์ หนว่ ยการ
เรยี นนีไ้ ดก้ าหนดเนือ้ หาและจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูต้ ามลาดบั

4.4 ลกั ษณะนสิ ยั ในการทางาน ความเป็นระเบยี บ , สะอาด , รบั ผิดชอบ

5. การวเิ คราะหต์ ามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5.1 หลักความพอประมาณ
5.1.1 เนือ้ หาเหมาะสมกบั ผเู้ รยี น

5.1.2 ผเู้ รียนจดั สรรเวลาในการฝึกปฏิบตั ติ ามใบงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

5.1.3 ผเู้ รียนรูจ้ กั ใชแ้ ละจดั การวสั ดอุ ปุ กรณต์ า่ งๆอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่

5.1.4 ผเู้ รียนปฏิบตั ติ นเป็นผนู้ าและผตู้ ามท่ีดี
5.1.5 ผเู้ รียนเป็นสมาชิกท่ีดีของกลมุ่ เพ่ือนและสงั คม
5.2 หลักความมีเหตุผล
5.2.1 เนือ้ หาเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
5.2.2 ตระหนกั ในความสาคญั ของการปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
5.2.3 นาเสนอวธิ ีการในการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง มีเหตผุ ล และสามารถนาไปปฏิบตั ใิ น
ชีวติ ประจาวนั ได้
5.2.4 กลา้ แสดงความคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล
5.2.5 กลา้ ทกั ทว้ งในส่ิงท่ีไมถ่ กู ตอ้ งอยา่ งถกู กาลเทศะ
5.2.6 กลา้ ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน
5.2.7 ใชว้ สั ดถุ กู ตอ้ งและเหมาะสมกบั งาน
5.2.8 มีความคดิ วิเคราะหอ์ ยา่ งเป็นระบบ

5.3 หลักภูมคิ ุ้มกัน
5.3.1 การทาความสะอาด เก็บเคร่ืองมือหลงั ปฏิบตั งิ าน
5.3.2 ความปลอดภยั ในการใชง้ านของอปุ กรณ์
5.3.3 ทกุ คนมีผา้ เช็ดมือประจาตวั
5.3.4 ปฏิบตั ติ ามกฎของโรงงาน และวทิ ยาลยั
5.3.5 ผนู้ าผตู้ าม
5.3.6 มีทกั ษะทางการนาเสนอการประกอบอปุ กรณไ์ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

5.3.7 ผเู้ รยี นไดร้ บั ความรูท้ ่ีถกู ตอ้ ง พรอ้ มทงั้ กาหนดเนือ้ หาไดค้ รบถว้ นถกู ตอ้ งตามหลกั การ
5.3.8 มีการเตรียมความพรอ้ มในการเรยี นและการปฏิบตั ิงาน
5.3.9 กลา้ ซกั ถามปัญหาหรือขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ อยา่ งถกู กาลเทศะ
5.3.10 แกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งเป็นเหตเุ ป็นผล
5.3.11 ควบคมุ อารมณข์ องตนเองได้
5.3.12 ควบคมุ กิริยาอาการในสถานการณต์ า่ ง ๆไดเ้ ป็นอยา่ งดี
5.4 เงอื่ นไขคุณธรรม
5.4.1 ผเู้ รียนไดใ้ ชก้ ระบวนการคดิ ในการนาเสนอวธิ ีการประกอบอปุ กรณ์
(ความสนใจใฝ่รู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั )
5.4.2 ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผดิ ชอบ)
5.4.3 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ยา่ งคมุ้ คา่ ประหยดั (ความประหยดั )
5.4.4 มีความเพียรพยายามและกระตือรือรน้ ในการเรยี นและการปฏิบตั งิ าน
(ความขยนั ความอดทน)
5.4.5 ใหค้ วามรว่ มมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวมอาสาชว่ ยเหลืองานครูและผอู้ ่ืน
5.4.6 การเขา้ แถว เคารพก่อนและหลงั กิจกรรมการเรยี นรู้
5.4.7 ความซ่ือสตั ย์
5.4.8 การตรงตอ่ เวลา
5.4.9 การตรวจเคร่ืองแตง่ กาย
5.4.10 การมีนา้ ใจภายในกลมุ่
5.4.11 มีการปรกึ ษาหารอื ในการทางาน

5.4.12 มีการปฏิบตั งิ านตามหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย
5.4.13 มีการปฏิบตั งิ านตามขนั้ ตอน
5.4.14 มีความรว่ มมือในการทางานภายในกลมุ่
5.4.15 สมาชิกทกุ คนมีสว่ นรว่ มแสดงความคิดเห็น
5.4.16 ปฏิบตั ิตนตามหลกั กาลามสตู ร 10 ประการ
5.4.17 คณุ ลกั ษณะ3D

การเช่อื มโยงสู่ 4 มิติ
มติ สิ ังคม
เม่ือนกั เรยี นไดเ้ รียนรู้ เร่ืองเก่ียวกบั ระบบไฟฟ้า นนั้ ก็ คือ การศกึ ษาก่อนการลงมือปฏิบตั งิ านซ่อม

รถจกั รยานยนต์ ซง่ึ จะตอ้ งทราบ หลกั การทางานของระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ดงั นนั้ ก็จะทาใหใ้ ชช้ ีวิตใน
สงั คมอยา่ งมีสติ และระมดั ระวงั ท่ีจะตอ้ งมีการปอ้ งกนั ใหเ้ หมาะสม ทาใหท้ กุ คนสามารถอยใู่ นสงั คมอยา่ งมี
ความสขุ สบายอารมดี เกิดอดุ มปัญญา คือการไดป้ ฏิสมั พนั ธก์ นั ระหวา่ งบคุ คลในสถานศกึ ษาเดยี วกนั แผนก
เดยี วกนั เม่ือคนในสงั คมมีความเป็นมิตรตอ่ กนั ก็จะมีการชว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกนั สง่ ผลทางดา้ นเศรษฐกิจของ
ครอบครวั เชน่ การรบั ประทานอาหารกลางวนั ดว้ ยกนั การทางานรว่ มกนั

มติ เิ ศรษฐกจิ
นกั เรียนเหน็ ความสาคญั ในการเรียนรู้ ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ นนั้ ก็คือการศกึ ษา ท่วั ไปก่อนการลง
มือปฏิบตั งิ านซอ่ มรถจกั รยานยนต์ ซง่ึ จะตอ้ งทราบ หลกั การทางานของระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ซ่งึ จะทา
ใหใ้ ชช้ ีวติ ท่ีดขี นึ้ โดยการลงทนุ เพ่ือท่ีจะใชง้ าน วสั ดุ อปุ กรณใ์ หค้ มุ้ กบั การลงทนุ อยา่ งชาญฉลาด
มติ วิ ัฒนธรรม
เม่ือบคุ คลมีปฏิสมั พนั ธท์ ่ีดตี อ่ กนั จะเกิดบรรยากาศความเป็นมิตรตอ่ กนั ในสถานศกึ ษาและตา่ ง
สถานศกึ ษา เกิดวฒั นธรรมท่ีดีในองคก์ าร เชน่ เชา้ มาปฏิบตั งิ านก็ยกมือไหวท้ กั ทายตามแบบอยา่ งวฒั นธรรม

ไทย เม่ือทงั้ สงั คม เศรษฐกิจ และวฒั นธรรมในองคก์ รเป็นไปในทางท่ีดีแลว้ ส่งิ แวดลอ้ มตา่ งๆก็จะมีผลดีตามมา
การสรา้ งวฒั นธรรมการเรยี นรูอ้ ยา่ งฉลาด การฝึกนกั เรยี นใหม้ ีความรกั ในอาชีพ

มติ สิ ่งิ แวดล้อม
รูจ้ กั เลือกใชเ้ คร่อื งมือและปฏิบตั งิ านอยา่ งปลอดภยั ไมเ่ กิดความเสียหายแก่ วสั ดุ เคร่อื งมือและ
อปุ กรณ์ ทาใหไ้ มต่ อ้ งทิง้ เศษวสั ดขุ องเคร่อื งมือ ใหไ้ ปทาลายส่งิ แวดลอ้ ม

6. การบูรณาการกับคุณลักษณะ 3 D แก่ผู้เรียน
6.1 ด้านประชาธิปไตย (Democracy)
6.1.1 สอดแทรกเร่ืองการใชส้ ิทธิหนา้ ท่ีของตนเอง
6.1.2 การรายงานหนา้ ชนั้ เรยี นไดอ้ ยา่ งอิสระ
6.1.3 การใหผ้ ฟู้ ังแสดงความคดิ เห็นภายในชนั้ เรียนไดอ้ ยา่ งอิสระ
6.2 ดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมและความเป็ นไทย (Decency)
6.2.1 สอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมดา้ นความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ความรบั ผิดชอบ
6.2.2 สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรมดา้ นความขยนั และอดทน
6.2.3 ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผิดชอบ)
6.2.4 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ย่างคมุ้ คา่ ประหยดั (ความประหยดั )
6.2.5 มีความเพียรพยายามและกระตือรือรน้ ในการเรียนและการปฏิบตั งิ าน
(ความขยนั ความอดทน)
6.2.6 ใหค้ วามรว่ มมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวม อาสาชว่ ยเหลืองานครูและผอู้ ่ืน รูจ้ กั

การแบง่ ปัน

6.2.7 สอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรม “การไปลา-มาไหว”้ แกน่ กั เรยี น
6.3 ด้านภมู คิ ุ้มกันจากยาเสพตดิ (Drug - Free)

6.2.8 สอดแทรกเร่อื งยาเสพตดิ และโทษของยาเสพตดิ แกน่ กั เรียน
7. กิจกรรมการเรียนรู้

7.1 ขนั้ เตรียม
7.1.1 เตรียมความพรอ้ มสอน
7.1.2 เตรียมเอกสารประกอบการสอน
7.1.3 เตรียมส่ือการสอน
7.1.4 เตรยี มการวดั ผล ประเมินผล

7.2 ขนั้ ดาเนินการ
7.2.1 แนะนาตวั ผสู้ อน ผเู้ รยี น ช่ือวชิ า รหสั วิชา จดุ ประสงค์ ของรายวชิ า
คาอธิบายรายวิชา เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏิบตั ิ
7.2.2 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น โดยชกั จงู โนม้ นา้ วจิตใจใหผ้ เู้ รยี นเหน็ เปา้ หมายในการเรียน
7.2.3 ชีแ้ จงแนวทางในการปฏิบตั ิตนเก่ียวกบั การเรียนการสอนการประเมินผลการเรียนและ ได้

อบรมคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ คือ เร่ืองความมีวินยั โดยเฉพาะการแตง่ กายและการตรงตอ่ เวลา
7.2.4 อธิบายเร่ืองสาระสาคญั ประจาหนว่ ย
7.2.5 ใหผ้ เู้ รียนคนหน่งึ อธิบาย สาระสาคญั ประจาหนว่ ย และใหค้ นอ่ืนช่วยอธิบาย เพ่มิ เตมิ

และชว่ ยกนั สรุป
7.2.6 สรุปสาระสาคญั ประจาหน่วยซ้าโดยใชแ้ ผน่ ใสเร่ืองสาระสาคญั ประจาหน่วย
7.2.7 ครูอธิบายเรื่อง ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์
7.2.8 ครูสาธิตปฏิบตั ิงานเรื่องระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์

7.2.9 นกั เรียนฝึกปฏิบตั ิและทดสอบยอ่ ย
7.2.10 นกั เรียนฝึกปฏิบตั ิและทดสอบยอ่ ยรายบุคคล

7.3. ข้นั สรุป
7.3.1 สรุปเร่ือง ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์
7.3.2ใหน้ กั เรยี นคนหน่งึ ออกมาสรุปหนา้ ชนั้ เรียน
7.3.3 แจกใบประเมินผล แลว้ ใหผ้ เู้ รียนตอบคาถามลงในแบบประเมินผล โดยใชเ้ วลา

ประมาณ 10 นาที แลว้ รว่ มกนั เฉลยคาตอบในชนั้ เรียน

8. ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สืองานจกั รยานยนต์
8.2 รถจกั รยานยนต์
8.3 เคร่ืองยนต์
8.4 เคร่ืองมือประเภทตา่ งๆ
8.5 อนิ เตอรเ์ น็ต

9. การวัดผลประเมนิ ผล
9.1 เคร่อื งมือในการวดั
9.1.1 ใบปฏิบตั งิ าน
9.1.2 ใบงาน
9.2 วธิ ีการประเมนิ
9.2.1 ประเมินผลการรว่ มกิจกรรม

9.2.2 ทดสอบความรู้
9.3 เกณฑท์ ่ีใชว้ ดั

9.3.1 เกณฑก์ ารประเมนิ การรว่ มกิจกรรม ตาม
9.3.2 ใบงานการทางาน
9.3.3 ใบประเมนิ ผลการทางานกลมุ่
9.3.4 ใบประเมินผลการนาเสนอผลการทางานกลมุ่
9.3.5 ใบประเมินผลพฤตกิ รรมการทางานและคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

10. บันทกึ หลังการสอน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลงช่ือ ............................................
( ...................................... )
ครูผสู้ อน

แผนการจดั การเรียนรู้

รหัสวชิ า 20101-2102 ช่ือวชิ า งานจักรยานยนต์ สอนคร้ังท่ี 15
หน่วยที่ 7 ช่อื หน่วย ระบบรองรับนา้ หนัก เวลา 7 ช่ัวโมง

1. สาระสาคัญ

ระบบรองรบั นา้ หนกั ของรถจกั รยานยนต์ มีความสาคญั กบั รถจกั รยานยนต์ เพราะจะทาใหก้ ารขบั ข่ี
เป็นไปอยา่ งนมุ่ นวล สะดวกสบาย และมีการทรงตวั ท่ีดี ขณะทาการขบั ข่ีรถจกั รยานยนต์

2. จุดประสงค์การ

2.1 บอกหนา้ ท่ีของระบบรองรับน้าหนกั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.2 บอกหนา้ ที่ของสปริงไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

2.3 บอกหนา้ ที่ของแดมเปอร์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

2.4 บอกแบบของระบบรองรับน้าหนกั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.5 บอกส่วนประกอบของโชก้ หนา้ แบบเทเลสโคปิ คไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

2.6 อธิบายการทางานของโชก้ หนา้ แบบเทเลสโคปิ คไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

2.7 บอกส่วนประกอบโชก้ แบบแขนต่อล่างหรือแบบขาไก่ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

2.8 บอกส่วนประกอบของโชก้ อพั หนา้ ชนิดกลบั กนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

2.9 สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนโชก้ หนา้ แบบเทเลสโคปิ คไดภ้ ายในเวลา 30 นาที
2.10 บอกขอ้ ควรระวงั ในการถอดชิ้นส่วนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.11 บอกหนา้ ท่ีของระบบรองรับน้าหนกั ลอ้ หลงั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.12 บอกส่วนประกอบระบบรองรับน้าหนกั ลอ้ หลงั ชนิดตะเกียบหลงั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.13 บอกส่วนประกอบระบบรองรับน้าหนกั ลอ้ หลงั ชนิดชุดร่วมเคร่ืองยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.14 บอกส่วนประกอบโชก้ อพั ชนิดอดั กา๊ ซไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

2.15 สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนระบบรองรับน้าหนกั ลอ้ หลงั ไดภ้ ายในเวลา 30 นาที
2.16 บอกขอ้ ควรระวงั ในการถอดประกอบชิ้นส่วนระบบรองรับน้าหนกั ลอ้ หลงั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.17 เพ่ือใหม้ ีกิจนิสยั ท่ีดใี นการทางานดว้ ยความเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย ประณีต ซ่ือสตั ย์

และปลอดภยั
2.18 เพือ่ ใหม้ ีเจตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์ และการปฏิบตั ิงานอยา่ ง

ถูกตอ้ ง สาเร็จภายในเวลาท่ีกาหนด มีเหตุและผลตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและคุณลกั ษณะ 3D
2.11 ปฏิบตั งิ านไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และสาเรจ็ ภายในเวลาท่ีกาหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญา

ของเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ3D

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ระบบรองรบั นา้ หนกั ลอ้ หนา้
3.1.1 โชค้ หนา้ แบบเทเลสโคปิค
3.1.1.1 ชนดิ ลกู สบู โลหะ
3.1.1.2 แบบวาลว์ อสิ ระ
3.1.2 แบบแขนตอ่ ลา่ งหรแื บบขาไก่
3.1.3 โชค้ อพั หนา้ ชนิดกลบั กนั
3.2 ระบบรองรบั นา้ หนกั ลอ้ หลงั
3.2.1 ชนิดตะเกียบหลงั
3.2.2 ชนิดชดุ รว่ มเคร่ืองยนต์
3.3 โชค้ อพั
3.3.1 ชนดิ แกนดา้ นบนหลายสบู
3.3.2 ชนิดแกนดา้ นล่างกระบอกสบู เด่ียว
3.3 ชนิดแกนดา้ นบนสบู เด่ียว
3.4 ชนิดอดั ก๊าซ

4. สมรรถนะรายหน่วย
4.1 การเตรียมเคร่ืองมือ
4.2 ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน
4.3 อธิบายสาระสาคญั การศกึ ษาวิชางานจกั รยานยนต์ ใหเ้ กิดความรูค้ วามเขา้ ใจอย่างแทจ้ รงิ

จาเป็นตอ้ งศกึ ษาระบบรองรบั นา้ หนกั รถจกั รยานยนต์ ของรถจกั รยานยนต์ เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจ ในงานซ่อม
รถจกั รยานยนต์ หนว่ ยการเรียนนีไ้ ดก้ าหนดเนือ้ หาและจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูต้ ามลาดบั

4.4 ลกั ษณะนสิ ยั ในการทางาน ความเป็นระเบียบ , สะอาด , รบั ผดิ ชอบ

5. การวเิ คราะหต์ ามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5.1 หลักความพอประมาณ
5.1.1 เนือ้ หาเหมาะสมกบั ผเู้ รยี น
5.1.2 ผเู้ รียนจดั สรรเวลาในการฝึกปฏิบตั ิตามใบงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
5.1.3 ผเู้ รยี นรูจ้ กั ใชแ้ ละจดั การวสั ดอุ ปุ กรณต์ า่ งๆอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่
5.1.4 ผเู้ รยี นปฏิบตั ติ นเป็นผนู้ าและผตู้ ามท่ีดี
5.1.5 ผเู้ รียนเป็นสมาชิกท่ีดีของกลมุ่ เพ่ือนและสงั คม
5.2 หลักความมเี หตผุ ล
5.2.1 เนือ้ หาเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
5.2.2 ตระหนกั ในความสาคญั ของการปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
5.2.3 นาเสนอวิธีการในการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง มีเหตผุ ล และสามารถนาไปปฏิบตั ใิ น

ชีวติ ประจาวนั ได้
5.2.4 กลา้ แสดงความคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล

5.2.5 กลา้ ทกั ทว้ งในส่ิงท่ีไมถ่ กู ตอ้ งอยา่ งถกู กาลเทศะ
5.2.6 กลา้ ยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผอู้ ่ืน
5.2.7 ใชว้ สั ดถุ กู ตอ้ งและเหมาะสมกบั งาน
5.2.8 มีความคดิ วิเคราะหอ์ ยา่ งเป็นระบบ

5.3 หลักภมู คิ ุ้มกัน
5.3.1 การทาความสะอาด เก็บเคร่ืองมือหลงั ปฏิบตั งิ าน
5.3.2 ความปลอดภยั ในการใชง้ านของอปุ กรณ์
5.3.3 ทกุ คนมีผา้ เช็ดมือประจาตวั
5.3.4 ปฏิบตั ติ ามกฎของโรงงาน และวิทยาลยั
5.3.5 ผนู้ าผตู้ าม
5.3.6 มีทกั ษะทางการนาเสนอการประกอบอปุ กรณไ์ ดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ
5.3.7 ผเู้ รียนไดร้ บั ความรูท้ ่ีถกู ตอ้ ง พรอ้ มทงั้ กาหนดเนือ้ หาไดค้ รบถว้ นถกู ตอ้ งตามหลกั การ
5.3.8 มีการเตรียมความพรอ้ มในการเรยี นและการปฏิบตั งิ าน
5.3.9 กลา้ ซกั ถามปัญหาหรอื ขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ อยา่ งถกู กาลเทศะ
5.3.10 แกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งเป็นเหตเุ ป็นผล
5.3.11 ควบคมุ อารมณข์ องตนเองได้
5.3.12 ควบคมุ กิริยาอาการในสถานการณต์ า่ ง ๆไดเ้ ป็นอยา่ งดี

5.4 เงอื่ นไขคุณธรรม
5.4.1 ผเู้ รยี นไดใ้ ชก้ ระบวนการคดิ ในการนาเสนอวิธีการประกอบอปุ กรณ์

(ความสนใจใฝ่รู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั )
5.4.2 ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผดิ ชอบ)
5.4.3 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ยา่ งคมุ้ คา่ ประหยดั (ความประหยดั )
5.4.4 มีความเพียรพยายามและกระตือรอื รน้ ในการเรียนและการปฏิบตั งิ าน

(ความขยนั ความอดทน)
5.4.5 ใหค้ วามรว่ มมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวมอาสาชว่ ยเหลืองานครูและผอู้ ่ืน
5.4.6 การเขา้ แถว เคารพก่อนและหลงั กิจกรรมการเรยี นรู้
5.4.7 ความซ่ือสตั ย์
5.4.8 การตรงตอ่ เวลา
5.4.9 การตรวจเคร่ืองแตง่ กาย
5.4.10 การมีนา้ ใจภายในกลมุ่
5.4.11 มีการปรกึ ษาหารอื ในการทางาน
5.4.12 มีการปฏิบตั งิ านตามหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย
5.4.13 มีการปฏิบตั งิ านตามขนั้ ตอน
5.4.14 มีความรว่ มมือในการทางานภายในกลมุ่
5.4.15 สมาชิกทกุ คนมีสว่ นรว่ มแสดงความคิดเห็น
5.4.16 ปฏิบตั ิตนตามหลกั กาลามสตู ร 10 ประการ
5.4.17 คณุ ลกั ษณะ3D

การเช่ือมโยงสู่ 4 มิติ
มิตสิ ังคม

เม่ือนกั เรยี นไดเ้ รียนรู้ เร่อื งเก่ียวกบั ระบบรองรบั นา้ หนกั รถจกั รยานยนต์ นนั้ ก็ คอื การศกึ ษาก่อนการ
ลงมือปฏิบตั งิ านซอ่ มรถจกั รยานยนต์ ซง่ึ จะตอ้ งทราบ หลกั การทางานระบบรองรบั นา้ หนกั รถจกั รยานยนต์
ดงั นนั้ ก็จะทาใหใ้ ชช้ ีวติ ในสงั คมอย่างมีสติ และระมดั ระวงั ท่ีจะตอ้ งมีการปอ้ งกนั ใหเ้ หมาะสม ทาใหท้ กุ คน
สามารถอยใู่ นสงั คมอยา่ งมีความสขุ สบายอารมดี เกิดอดุ มปัญญา คอื การไดป้ ฏิสมั พนั ธก์ นั ระหวา่ งบคุ คลใน
สถานศกึ ษาเดียวกนั แผนกเดียวกนั เม่ือคนในสงั คมมีความเป็นมติ รตอ่ กนั ก็จะมีการชว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกนั
สง่ ผลทางดา้ นเศรษฐกิจของครอบครวั เชน่ การรบั ประทานอาหารกลางวนั ดว้ ยกนั การทางานรว่ มกนั

มิตเิ ศรษฐกิจ
นกั เรยี นเหน็ ความสาคญั ในการเรียนรู้ ระบบรองรบั นา้ หนกั รถจกั รยานยนต์ นนั้ ก็คอื การศกึ ษา ท่วั ไป
กอ่ นการลงมือปฏิบตั งิ านซ่อมรถจกั รยานยนต์ ซ่งึ จะตอ้ งทราบ หลกั การทางานของระบบรองรบั นา้ หนกั
รถจกั รยานยนต์ ซ่งึ จะทาใหใ้ ชช้ ีวติ ท่ีดีขนึ้ โดยการลงทนุ เพ่ือท่ีจะใชง้ าน วสั ดุ อปุ กรณใ์ หค้ มุ้ กบั การลงทนุ
อยา่ งชาญฉลาด

มติ วิ ัฒนธรรม
เม่ือบคุ คลมีปฏิสมั พนั ธท์ ่ีดีตอ่ กนั จะเกิดบรรยากาศความเป็นมิตรตอ่ กนั ในสถานศกึ ษาและตา่ ง
สถานศกึ ษา เกิดวฒั นธรรมท่ีดใี นองคก์ าร เชน่ เชา้ มาปฏิบตั ิงานก็ยกมือไหวท้ กั ทายตามแบบอยา่ งวฒั นธรรม
ไทย เม่ือทงั้ สงั คม เศรษฐกิจ และวฒั นธรรมในองคก์ รเป็นไปในทางท่ีดีแลว้ ส่งิ แวดลอ้ มตา่ งๆก็จะมีผลดีตามมา
การสรา้ งวฒั นธรรมการเรียนรูอ้ ยา่ งฉลาด การฝึกนกั เรยี นใหม้ ีความรกั ในอาชีพ
มิตสิ ิ่งแวดล้อม
รูจ้ กั เลือกใชเ้ คร่อื งมือและปฏิบตั งิ านอยา่ งปลอดภยั ไมเ่ กิดความเสียหายแก่ วสั ดุ เคร่อื งมือและ
อปุ กรณ์ ทาใหไ้ มต่ อ้ งทิง้ เศษวสั ดขุ องเคร่อื งมือ ใหไ้ ปทาลายส่งิ แวดลอ้ ม

6. การบูรณาการกับคุณลักษณะ 3 D แก่ผู้เรยี น
6.1 ด้านประชาธิปไตย (Democracy)

6.1.1 สอดแทรกเร่ืองการใชส้ ิทธิหนา้ ท่ีของตนเอง
6.1.2 การรายงานหนา้ ชนั้ เรยี นไดอ้ ยา่ งอิสระ
6.1.3 การใหผ้ ฟู้ ังแสดงความคดิ เห็นภายในชนั้ เรียนไดอ้ ย่างอิสระ
6.2 ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมและความเป็ นไทย (Decency)
6.2.1 สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรมดา้ นความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ความรบั ผิดชอบ
6.2.2 สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรมดา้ นความขยนั และอดทน
6.2.3 ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผดิ ชอบ)
6.2.4 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ย่างคมุ้ คา่ ประหยดั (ความประหยดั )
6.2.5 มีความเพียรพยายามและกระตือรือรน้ ในการเรียนและการปฏิบตั งิ าน
(ความขยนั ความอดทน)
6.2.6 ใหค้ วามรว่ มมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวม อาสาชว่ ยเหลืองานครูและผอู้ ่ืน รูจ้ กั
การแบง่ ปัน
6.2.7 สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรม “การไปลา-มาไหว”้ แกน่ กั เรยี น
6.3 ด้านภูมคิ ุ้มกันจากยาเสพตดิ (Drug - Free)
6.2.8 สอดแทรกเร่อื งยาเสพตดิ และโทษของยาเสพตดิ แกน่ กั เรียน
7. กิจกรรมการเรียนรู้
7.1 ขนั้ เตรียม
7.1.1 เตรียมความพรอ้ มสอน
7.1.2 เตรียมเอกสารประกอบการสอน
7.1.3 เตรียมส่ือการสอน

7.1.4 เตรยี มการวดั ผล ประเมนิ ผล
7.2 ขนั้ ดาเนินการ

7.2.1 แนะนาตวั ผสู้ อน ผเู้ รียน ช่ือวชิ า รหสั วชิ า จดุ ประสงค์ ของรายวชิ า
คาอธิบายรายวชิ า เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏิบตั ิ
7.2.2 นาเขา้ สบู่ ทเรียน โดยชกั จงู โนม้ นา้ วจิตใจใหผ้ เู้ รยี นเหน็ เปา้ หมายในการเรียน
7.2.3 ชีแ้ จงแนวทางในการปฏิบตั ิตนเก่ียวกบั การเรียนการสอนการประเมนิ ผลการเรียนและ ได้
อบรมคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ คอื เร่อื งความมีวินยั โดยเฉพาะการแตง่ กายและการตรงตอ่ เวลา
7.2.4 อธิบายเร่ืองสาระสาคญั ประจาหนว่ ย
7.2.5 ใหผ้ เู้ รียนคนหน่งึ อธิบาย สาระสาคญั ประจาหน่วย และใหค้ นอ่ืนช่วยอธิบาย เพ่มิ เตมิ
และชว่ ยกนั สรุป
7.2.6 สรุปสาระสาคญั ประจาหน่วยซ้าโดยใชแ้ ผน่ ใสเร่ืองสาระสาคญั ประจาหน่วย
7.2.7 อธิบายเรื่อง ระบบรองรับน้าหนกั รถจกั รยานยนต์
7.2.8 ครูสาธิตปฏิบตั ิงานเร่ืองระบบรองรับน้าหนกั รถจกั รยานยนต์
7.2.9 นกั เรียนฝึกปฏิบตั ิและทดสอบยอ่ ยรายบุคคล

7.3. ข้นั สรุป
7.3.1 สรุปเร่ือง ระบบรองรับน้าหนกั รถจกั รยานยนต์
7.3.2ใหน้ กั เรยี นคนหน่งึ ออกมาสรุปหนา้ ชนั้ เรียน
7.3.3 แจกใบประเมนิ ผล แลว้ ใหผ้ เู้ รียนตอบคาถามลงในแบบประเมินผล โดยใชเ้ วลา

ประมาณ 10 นาที แลว้ รว่ มกนั เฉลยคาตอบในชนั้ เรียน

8. สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สืองานจกั รยานยนต์

8.2 รถจกั รยานยนต์
8.3 เคร่ืองยนต์
8.4 เคร่ืองมือประเภทตา่ งๆ
8.5 อนิ เตอรเ์ น็ต

9. การวัดผลประเมนิ ผล
9.1 เคร่อื งมือในการวดั
9.1.1 ใบปฏิบตั งิ าน
9.1.2 ใบงาน
9.2 วธิ ีการประเมิน
9.2.1 ประเมินผลการรว่ มกิจกรรม
9.2.2 ทดสอบความรู้
9.3 เกณฑท์ ่ีใชว้ ดั
9.3.1 เกณฑก์ ารประเมินการรว่ มกิจกรรม ตาม
9.3.2 ใบงานการทางาน
9.3.3 ใบประเมนิ ผลการทางานกลมุ่
9.3.4 ใบประเมินผลการนาเสนอผลการทางานกลมุ่
9.3.5 ใบประเมนิ ผลพฤตกิ รรมการทางานและคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

10. บันทกึ หลังการสอน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลงช่ือ ............................................
( ...................................... )
ครูผสู้ อน

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวชิ า 20101-2102 ชื่อวชิ า งานจักรยานยนต์ สอนคร้ังที่ 16
หน่วยท่ี 8 ช่ือหน่วย ระบบเบรก เวลา 7 ช่ัวโมง

1. สาระสาคัญ

ระบบเบรกรถจกั รยานยนต์ มีความสาคญั กบั การขบั ข่ีรถจกั รยานยนต์ คือ ชว่ ยในการชะลอความเรว็
หรอื ทาการหยดุ รถ ดว้ ยความฝืดระหวา่ งผา้ เบรกและจานเบรก มีไวเ้ พ่ือความปลอดภยั ในการขบั ข่ี
รถจกั รยานยนต์

2. จุดประสงค์การ
2.1 บอกหนา้ ท่ีของระบบเบรกรถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.2 บอกองคป์ ระกอบท่ีสาคญั ในการเบรกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.3 บอกแบบของระบบเบรกรถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.4 อธิบายการทางานของระบบเบรกแบบกลไกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.5 บอกส่วนประกอบของระบบเบรกแบบกลไกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.6 สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนระบบเบรกแบบกลไกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งภายในเวลา 30 นาที
2.7 บอกขอ้ ควรระวงั ในการถอดชิ้นส่วนระบบเบรกแบบกลไกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.8 อธิบายการทางานของระบบเบรกแบบ ไฮดรอลิกส์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.9 บอกส่วนประกอบของระบบเบรกแบบไฮดรอลิกส์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.10 สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนระบบเบรกแบบ ไฮดรอลิกส์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งภายในเวลา 30 นาที
2.11 บอกขอ้ ควรระวงั การถอดชิ้นส่วนระบบเบรกแบบไฮดรอลิกส์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.12 เพ่ือใหม้ ีกิจนสิ ยั ท่ีดีในการทางานดว้ ยความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย ประณีต ซ่ือสตั ย์

และปลอดภยั
2.13 เพ่อื ใหม้ ีเจตคติที่ดีต่อการเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์ และการปฏิบตั ิงานอยา่ ง

ถูกตอ้ ง สาเร็จภายในเวลาที่กาหนด มีเหตุและผลตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและคุณลกั ษณะ 3D

2.14 ปฏิบตั งิ านไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และสาเรจ็ ภายในเวลาท่ีกาหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ3D

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ระบบเบรกแบบกลไกหรือดรมั เบรก
3.2 ระบบเบรกแบบไฮดรอลิก หรือ ดสิ กเ์ บรก

4. สมรรถนะรายหน่วย
4.1 การเตรียมเคร่ืองมือ
4.2 ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน
4.3 อธิบายสาระสาคญั การศกึ ษาวิชางานจกั รยานยนต์ ใหเ้ กิดความรูค้ วามเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ รงิ

จาเป็นตอ้ งศกึ ษาระบบเบรกรถจกั รยานยนต์ ของรถจกั รยานยนต์ เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจ ในงานซอ่ ม
รถจกั รยานยนต์ หนว่ ยการเรียนนีไ้ ดก้ าหนดเนือ้ หาและจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูต้ ามลาดบั

4.4 ลกั ษณะนสิ ยั ในการทางาน ความเป็นระเบียบ , สะอาด , รบั ผิดชอบ

5. การวเิ คราะหต์ ามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5.1 หลักความพอประมาณ
5.1.1 เนือ้ หาเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
5.1.2 ผเู้ รียนจดั สรรเวลาในการฝึกปฏิบตั ิตามใบงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
5.1.3 ผเู้ รียนรูจ้ กั ใชแ้ ละจดั การวสั ดอุ ปุ กรณต์ า่ งๆอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่

5.1.4 ผเู้ รียนปฏิบตั ติ นเป็นผนู้ าและผตู้ ามท่ีดี
5.1.5 ผเู้ รียนเป็นสมาชิกท่ีดีของกลมุ่ เพ่ือนและสงั คม
5.2 หลักความมเี หตุผล
5.2.1 เนือ้ หาเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
5.2.2 ตระหนกั ในความสาคญั ของการปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
5.2.3 นาเสนอวิธีการในการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง มีเหตผุ ล และสามารถนาไปปฏิบตั ใิ น
ชีวิตประจาวนั ได้
5.2.4 กลา้ แสดงความคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล
5.2.5 กลา้ ทกั ทว้ งในส่ิงท่ีไมถ่ กู ตอ้ งอยา่ งถกู กาลเทศะ
5.2.6 กลา้ ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน
5.2.7 ใชว้ สั ดถุ กู ตอ้ งและเหมาะสมกบั งาน
5.2.8 มีความคดิ วิเคราะหอ์ ย่างเป็นระบบ

5.3 หลักภูมคิ ุ้มกัน
5.3.1 การทาความสะอาด เก็บเคร่ืองมือหลงั ปฏิบตั งิ าน
5.3.2 ความปลอดภยั ในการใชง้ านของอปุ กรณ์
5.3.3 ทกุ คนมีผา้ เช็ดมือประจาตวั
5.3.4 ปฏิบตั ติ ามกฎของโรงงาน และวทิ ยาลยั

5.3.5 ผนู้ าผตู้ าม
5.3.6 มีทกั ษะทางการนาเสนอการประกอบอปุ กรณไ์ ดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
5.3.7 ผเู้ รยี นไดร้ บั ความรูท้ ่ีถกู ตอ้ ง พรอ้ มทงั้ กาหนดเนือ้ หาไดค้ รบถว้ นถกู ตอ้ งตามหลกั การ
5.3.8 มีการเตรียมความพรอ้ มในการเรยี นและการปฏิบตั ิงาน
5.3.9 กลา้ ซกั ถามปัญหาหรือขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ อยา่ งถกู กาลเทศะ
5.3.10 แกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งเป็นเหตเุ ป็นผล
5.3.11 ควบคมุ อารมณข์ องตนเองได้
5.3.12 ควบคมุ กิรยิ าอาการในสถานการณต์ า่ ง ๆไดเ้ ป็นอยา่ งดี
5.4 เงอ่ื นไขคุณธรรม
5.4.1 ผเู้ รียนไดใ้ ชก้ ระบวนการคดิ ในการนาเสนอวธิ ีการประกอบอปุ กรณ์
(ความสนใจใฝ่รู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั )
5.4.2 ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผิดชอบ)
5.4.3 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ยา่ งคมุ้ คา่ ประหยดั (ความประหยดั )
5.4.4 มีความเพียรพยายามและกระตอื รือรน้ ในการเรยี นและการปฏิบตั งิ าน
(ความขยนั ความอดทน)
5.4.5 ใหค้ วามรว่ มมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวมอาสาชว่ ยเหลืองานครูและผอู้ ่ืน
5.4.6 การเขา้ แถว เคารพก่อนและหลงั กิจกรรมการเรยี นรู้
5.4.7 ความซ่ือสตั ย์
5.4.8 การตรงตอ่ เวลา
5.4.9 การตรวจเคร่ืองแตง่ กาย

5.4.10 การมีนา้ ใจภายในกล่มุ

5.4.11 มีการปรกึ ษาหารือในการทางาน

5.4.12 มีการปฏิบตั งิ านตามหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย

5.4.13 มีการปฏิบตั งิ านตามขนั้ ตอน

5.4.14 มีความรว่ มมือในการทางานภายในกลมุ่

5.4.15 สมาชิกทกุ คนมีสว่ นรว่ มแสดงความคดิ เหน็

5.4.16 ปฏิบตั ิตนตามหลกั กาลามสตู ร 10 ประการ

5.4.17 คณุ ลกั ษณะ3D

การเช่อื มโยงสู่ 4 มติ ิ
มติ สิ ังคม
เม่ือนกั เรยี นไดเ้ รียนรู้ เร่อื งเก่ียวกบั ระบบเบรกรถจกั รยานยนต์ นนั้ ก็ คือ การศกึ ษาก่อนการลงมือ

ปฏิบตั งิ านซ่อมรถจกั รยานยนต์ ซ่งึ จะตอ้ งทราบ หลกั การทางานระบบเบรกรถจกั รยานยนต์ ดงั นนั้ ก็จะทาใหใ้ ช้
ชีวติ ในสงั คมอยา่ งมีสติ และระมดั ระวงั ท่ีจะตอ้ งมีการปอ้ งกนั ใหเ้ หมาะสม ทาใหท้ กุ คนสามารถอยใู่ นสงั คม
อยา่ งมีความสขุ สบายอารมดี เกิดอดุ มปัญญา คือการไดป้ ฏิสมั พนั ธก์ นั ระหว่างบคุ คลในสถานศกึ ษาเดยี วกนั
แผนกเดียวกนั เม่ือคนในสงั คมมีความเป็นมิตรตอ่ กนั ก็จะมีการชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกนั สง่ ผลทางดา้ นเศรษฐกิจ
ของครอบครวั เชน่ การรบั ประทานอาหารกลางวนั ดว้ ยกนั การทางานรว่ มกนั

มิตเิ ศรษฐกิจ
นกั เรียนเหน็ ความสาคญั ในการเรียนรู้ ระบบเบรกรถจกั รยานยนต์ นนั้ ก็คือการศกึ ษา ท่วั ไปก่อนการลง
มือปฏิบตั งิ านซอ่ มรถจกั รยานยนต์ ซง่ึ จะตอ้ งทราบ หลกั การทางานของระบบเบรกรถจกั รยานยนต์ ซ่งึ จะทา
ใหใ้ ชช้ ีวติ ท่ีดีขนึ้ โดยการลงทนุ เพ่ือท่ีจะใชง้ าน วสั ดุ อปุ กรณใ์ หค้ มุ้ กบั การลงทนุ อยา่ งชาญฉลาด

มติ วิ ัฒนธรรม

เม่ือบคุ คลมีปฏิสมั พนั ธท์ ่ีดีตอ่ กนั จะเกิดบรรยากาศความเป็นมติ รตอ่ กนั ในสถานศกึ ษาและตา่ ง
สถานศกึ ษา เกิดวฒั นธรรมท่ีดใี นองคก์ าร เชน่ เชา้ มาปฏิบตั งิ านก็ยกมือไหวท้ กั ทายตามแบบอยา่ งวฒั นธรรม
ไทย เม่ือทงั้ สงั คม เศรษฐกิจ และวฒั นธรรมในองคก์ รเป็นไปในทางท่ีดีแลว้ ส่งิ แวดลอ้ มตา่ งๆก็จะมีผลดีตามมา
การสรา้ งวฒั นธรรมการเรียนรูอ้ ยา่ งฉลาด การฝึกนกั เรยี นใหม้ ีความรกั ในอาชีพ

มิตสิ ิง่ แวดล้อม
รูจ้ กั เลือกใชเ้ คร่อื งมือและปฏิบตั งิ านอยา่ งปลอดภยั ไมเ่ กิดความเสียหายแก่ วสั ดุ เคร่อื งมือและ
อปุ กรณ์ ทาใหไ้ มต่ อ้ งทิง้ เศษวสั ดขุ องเคร่ืองมือ ใหไ้ ปทาลายส่งิ แวดลอ้ ม

6. การบูรณาการกับคุณลักษณะ 3 D แก่ผู้เรยี น
6.1 ด้านประชาธิปไตย (Democracy)
6.1.1 สอดแทรกเร่ืองการใชส้ ิทธิหนา้ ท่ีของตนเอง
6.1.2 การรายงานหนา้ ชนั้ เรียนไดอ้ ย่างอิสระ
6.1.3 การใหผ้ ฟู้ ังแสดงความคดิ เห็นภายในชนั้ เรียนไดอ้ ย่างอสิ ระ

6.2 ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมและความเป็ นไทย (Decency)
6.2.1 สอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมดา้ นความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ความรบั ผิดชอบ
6.2.2 สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรมดา้ นความขยนั และอดทน
6.2.3 ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผิดชอบ)
6.2.4 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ย่างคมุ้ คา่ ประหยดั (ความประหยดั )
6.2.5 มีความเพียรพยายามและกระตอื รือรน้ ในการเรียนและการปฏิบตั งิ าน
(ความขยนั ความอดทน)

6.2.6 ใหค้ วามรว่ มมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวม อาสาชว่ ยเหลืองานครูและผอู้ ่ืน รูจ้ กั
การแบง่ ปัน

6.2.7 สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรม “การไปลา-มาไหว”้ แก่นกั เรยี น
6.3 ดา้ นภมู คิ ุ้มกันจากยาเสพตดิ (Drug - Free)

6.2.8 สอดแทรกเร่อื งยาเสพตดิ และโทษของยาเสพตดิ แกน่ กั เรยี น
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

7.1 ขนั้ เตรยี ม
7.1.1 เตรยี มความพรอ้ มสอน
7.1.2 เตรยี มเอกสารประกอบการสอน
7.1.3 เตรียมส่ือการสอน
7.1.4 เตรยี มการวดั ผล ประเมนิ ผล

7.2 ขนั้ ดาเนินการ
7.2.1 แนะนาตวั ผสู้ อน ผเู้ รียน ช่ือวิชา รหสั วชิ า จดุ ประสงค์ ของรายวชิ า
คาอธิบายรายวิชา เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏิบตั ิ
7.2.2 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น โดยชกั จงู โนม้ นา้ วจิตใจใหผ้ เู้ รยี นเห็นเปา้ หมายในการเรียน
7.2.3 ชีแ้ จงแนวทางในการปฏิบตั ิตนเก่ียวกบั การเรียนการสอนการประเมนิ ผลการเรียนและ ได้

อบรมคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ คือ เร่ืองความมีวนิ ยั โดยเฉพาะการแตง่ กายและการตรงตอ่ เวลา
7.2.4 อธิบายเร่ืองสาระสาคญั ประจาหน่วย
7.2.5 ใหผ้ เู้ รียนคนหน่งึ อธิบาย สาระสาคญั ประจาหน่วย และใหค้ นอ่ืนช่วยอธิบาย เพ่มิ เตมิ

และชว่ ยกนั สรุป
7.2.6 สรุปสาระสาคญั ประจาหน่วยซ้าโดยใชแ้ ผน่ ใสเร่ืองสาระสาคญั ประจาหน่วย

7.2.7 อธิบายเรื่อง ระบบเบรกรถจกั รยานยนต์
7.2.8 ครูสาธิตปฏิบตั ิงานเร่ืองระบบเบรกรถจกั รยานยนต์
7.2.9 นกั เรียนฝึกปฏิบตั ิและทดสอบยอ่ ยรายบุคคล

7.3. ข้นั สรุป
7.3.1 สรุปเร่ือง ระบบเบรกหนกั รถจกั รยานยนต์
7.3.2ใหน้ กั เรียนคนหนง่ึ ออกมาสรุปหนา้ ชนั้ เรยี น
7.3.3 แจกใบประเมินผล แลว้ ใหผ้ เู้ รียนตอบคาถามลงในแบบประเมินผล โดยใชเ้ วลา

ประมาณ 10 นาที แลว้ รว่ มกนั เฉลยคาตอบในชนั้ เรียน

8. ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สืองานจกั รยานยนต์
8.2 รถจกั รยานยนต์
8.3 เคร่ืองยนต์
8.4 เคร่ืองมือประเภทตา่ งๆ
8.5 อินเตอรเ์ น็ต

9. การวัดผลประเมินผล
9.1 เคร่อื งมือในการวดั
9.1.1 ใบปฏิบตั งิ าน
9.1.2 ใบงาน
9.2 วธิ ีการประเมิน

9.2.1 ประเมินผลการรว่ มกิจกรรม
9.2.2 ทดสอบความรู้
9.3 เกณฑท์ ่ีใชว้ ดั
9.3.1 เกณฑก์ ารประเมนิ การรว่ มกิจกรรม ตาม
9.3.2 ใบงานการทางาน
9.3.3 ใบประเมนิ ผลการทางานกลมุ่
9.3.4 ใบประเมินผลการนาเสนอผลการทางานกลมุ่
9.3.5 ใบประเมนิ ผลพฤตกิ รรมการทางานและคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
10. บันทกึ หลังการสอน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลงช่ือ ............................................
( ...................................... )
ครูผสู้ อน

แผนการจดั การเรียนรู้

รหสั วชิ า 20101-2102 ช่ือวชิ า งานจักรยานยนต์ สอนคร้ังที่ 17

หน่วยที่ 9 ช่อื หน่วย การบารุงรักษาและการประมาณราคาค่าบริการ เวลา 7 ช่ัวโมง

1. สาระสาคัญ

รถจกั รยานยนตม์ ีความจาเป็นตอ้ งทาการบารุงรกั ษาท่ีดี จงึ จะทาใหม้ ีอายกุ ารใชง้ านท่ียาวนาน และ
ใหป้ ระสทิ ธิภาพท่ีดใี นการขบั ข่ี หากขาดการบารุงรกั ษาตามกาหนดเวลาและอยา่ งถกู วิธี จะทาใหเ้ กิดความ
เสียหายขนึ้ ได้ และการประมาณราคาเป็นขบวนการท่ีสาคญั ในการประกอบธุรกิจ งานซอ่ มรถจกั รยานยนต์
เพ่ือจะไดป้ ระมาณราคาซอ่ มท่ีถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั งานท่ีใหบ้ ริการ

2. จุดประสงค์การ
2.1 บอกความจาเป็ นในการบารุงรักษารถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.2 บอกตารางบารุงรักษารถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.3 สามารถบารุงรกั ษารถจกั รยานยนตร์ ะบบตา่ งๆไดภ้ ายในเวลา 30 นาที

2.4 บอกขอ้ ควรระวงั ในการบารุงรักษารถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.5 บอกข้นั ตอนการทาความสะอาดเครื่องมืองานบารุงรักษารถจกั รยานยนตไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.6 บอกองคป์ ระกอบของการประมาณราคาค่าบริการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.7 บอกการคิดราคาคา่ บริการโดยประมาณไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.8 อธิบายตวั อยา่ งการประมาณราคาคา่ บริการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.9 เพ่ือใหม้ ีกิจนิสยั ท่ีดใี นการทางานดว้ ยความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย ประณีต ซ่ือสตั ย์

และปลอดภยั
2.10 เพ่ือใหม้ ีเจตคติที่ดีต่อการเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์ และการปฏิบตั ิงานอยา่ ง

ถูกตอ้ ง สาเร็จภายในเวลาท่ีกาหนด มีเหตุและผลตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและคุณลกั ษณะ 3D
2.11 ปฏิบตั งิ านไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และสาเรจ็ ภายในเวลาท่ีกาหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญา

ของเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ3D

3. สาระการเรียนรู้
3.1 การบารุงรกั ษารถจกั รยานยนต์
3.2 การประมาณราคาคา่ บริการ

4. สมรรถนะรายหน่วย
4.1 การเตรียมเคร่ืองมือ
4.2 ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน
4.3 อธิบายสาระสาคญั การศกึ ษาวิชางานจกั รยานยนต์ ใหเ้ กิดความรูค้ วามเขา้ ใจอย่างแทจ้ รงิ

จาเป็นตอ้ งศกึ ษาการบารุงรกั ษาและการประมาณคาราคา่ บรกิ ารรถจกั รยานยนต์ เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจ ในงาน
ซอ่ มรถจกั รยานยนต์ หนว่ ยการเรยี นนีไ้ ดก้ าหนดเนือ้ หาและจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูต้ ามลาดบั

4.4 ลกั ษณะนสิ ยั ในการทางาน ความเป็นระเบยี บ , สะอาด , รบั ผดิ ชอบ

5. การวเิ คราะหต์ ามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
5.1 หลักความพอประมาณ
5.1.1 เนือ้ หาเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
5.1.2 ผเู้ รียนจดั สรรเวลาในการฝึกปฏิบตั ิตามใบงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
5.1.3 ผเู้ รียนรูจ้ กั ใชแ้ ละจดั การวสั ดอุ ปุ กรณต์ า่ งๆอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่
5.1.4 ผเู้ รยี นปฏิบตั ติ นเป็นผนู้ าและผตู้ ามท่ีดี
5.1.5 ผเู้ รยี นเป็นสมาชิกท่ีดีของกลมุ่ เพ่ือนและสงั คม

5.2 หลักความมเี หตผุ ล
5.2.1 เนือ้ หาเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
5.2.2 ตระหนกั ในความสาคญั ของการปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
5.2.3 นาเสนอวธิ ีการในการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง มีเหตผุ ล และสามารถนาไปปฏิบตั ใิ น

ชีวิตประจาวนั ได้
5.2.4 กลา้ แสดงความคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล
5.2.5 กลา้ ทกั ทว้ งในส่ิงท่ีไมถ่ กู ตอ้ งอย่างถกู กาลเทศะ
5.2.6 กลา้ ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน
5.2.7 ใชว้ สั ดถุ กู ตอ้ งและเหมาะสมกบั งาน
5.2.8 มีความคดิ วเิ คราะหอ์ ย่างเป็นระบบ

5.3 หลักภมู ิคุ้มกัน
5.3.1 การทาความสะอาด เก็บเคร่ืองมือหลงั ปฏิบตั งิ าน
5.3.2 ความปลอดภยั ในการใชง้ านของอปุ กรณ์
5.3.3 ทกุ คนมีผา้ เช็ดมือประจาตวั
5.3.4 ปฏิบตั ติ ามกฎของโรงงาน และวทิ ยาลยั
5.3.5 ผนู้ าผตู้ าม
5.3.6 มีทกั ษะทางการนาเสนอการประกอบอปุ กรณไ์ ดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
5.3.7 ผเู้ รยี นไดร้ บั ความรูท้ ่ีถกู ตอ้ ง พรอ้ มทงั้ กาหนดเนือ้ หาไดค้ รบถว้ นถกู ตอ้ งตามหลกั การ
5.3.8 มีการเตรียมความพรอ้ มในการเรียนและการปฏิบตั ิงาน

5.3.9 กลา้ ซกั ถามปัญหาหรอื ขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ อย่างถกู กาลเทศะ
5.3.10 แกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งเป็นเหตเุ ป็นผล
5.3.11 ควบคมุ อารมณข์ องตนเองได้
5.3.12 ควบคมุ กิริยาอาการในสถานการณต์ า่ ง ๆไดเ้ ป็นอยา่ งดี
5.4 เงอ่ื นไขคุณธรรม
5.4.1 ผเู้ รยี นไดใ้ ชก้ ระบวนการคดิ ในการนาเสนอวิธีการประกอบอปุ กรณ์
(ความสนใจใฝ่รู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั )
5.4.2 ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผิดชอบ)
5.4.3 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ยา่ งคมุ้ คา่ ประหยดั (ความประหยดั )
5.4.4 มีความเพียรพยายามและกระตือรือรน้ ในการเรยี นและการปฏิบตั งิ าน
(ความขยนั ความอดทน)
5.4.5 ใหค้ วามรว่ มมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวมอาสาชว่ ยเหลืองานครูและผอู้ ่ืน
5.4.6 การเขา้ แถว เคารพก่อนและหลงั กิจกรรมการเรียนรู้
5.4.7 ความซ่ือสตั ย์
5.4.8 การตรงตอ่ เวลา
5.4.9 การตรวจเคร่ืองแตง่ กาย
5.4.10 การมีนา้ ใจภายในกล่มุ
5.4.11 มีการปรกึ ษาหารือในการทางาน
5.4.12 มีการปฏิบตั งิ านตามหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย
5.4.13 มีการปฏิบตั งิ านตามขนั้ ตอน

5.4.14 มีความรว่ มมือในการทางานภายในกลมุ่

5.4.15 สมาชกิ ทกุ คนมีสว่ นรว่ มแสดงความคดิ เห็น

5.4.16 ปฏิบตั ิตนตามหลกั กาลามสตู ร 10 ประการ

5.4.17 คณุ ลกั ษณะ3D

การเชอ่ื มโยงสู่ 4 มิติ
มติ สิ ังคม
เม่ือนกั เรยี นไดเ้ รียนรู้ เร่ืองเก่ียวกบั การบารุงรกั ษาและประมาณราคาคา่ บรกิ ารรถจกั รยานยนต์ นนั้ ก็

คอื การศกึ ษากอ่ นการลงมือปฏิบตั งิ านซอ่ มรถจกั รยานยนต์ ซง่ึ จะตอ้ งทราบ หลกั การการบารุงรกั ษาและ
ประมาณราคาคา่ บริการรถจกั รยานยนต์ ดงั นนั้ ก็จะทาใหใ้ ชช้ ีวติ ในสงั คมอยา่ งมีสติ และระมดั ระวงั ท่ีจะตอ้ งมี
การปอ้ งกนั ใหเ้ หมาะสม ทาใหท้ กุ คนสามารถอยใู่ นสงั คมอยา่ งมีความสขุ สบายอารมดี เกิดอดุ มปัญญา คือ
การไดป้ ฏิสมั พนั ธก์ นั ระหวา่ งบคุ คลในสถานศึกษาเดียวกนั แผนกเดียวกนั เม่ือคนในสงั คมมีความเป็นมติ รตอ่
กนั ก็จะมีการชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกนั สง่ ผลทางดา้ นเศรษฐกิจของครอบครวั เชน่ การรบั ประทานอาหารกลางวนั
ดว้ ยกนั การทางานรว่ มกนั

มติ เิ ศรษฐกิจ
นกั เรียนเหน็ ความสาคญั ในการเรียนรู้ การบารุงรกั ษาและประมาณราคาคา่ บรกิ ารรถจกั รยานยนต์ นนั้
ก็คือการศกึ ษา ท่วั ไปกอ่ นการลงมือปฏิบตั งิ านซอ่ มรถจกั รยานยนต์ ซ่งึ จะตอ้ งทราบ หลกั การบารุงรกั ษาและ
ประมาณราคาคา่ บริการรถจกั รยานยนตซ์ ง่ึ จะทาใหใ้ ชช้ ีวิต ท่ีดีขนึ้ โดยการลงทนุ เพ่ือท่ีจะใชง้ าน วสั ดุ อปุ กรณ์
ใหค้ มุ้ กบั การลงทนุ อยา่ งชาญฉลาด

มิตวิ ัฒนธรรม
เม่ือบคุ คลมีปฏิสมั พนั ธท์ ่ีดตี อ่ กนั จะเกิดบรรยากาศความเป็นมิตรตอ่ กนั ในสถานศกึ ษาและตา่ ง
สถานศกึ ษา เกิดวฒั นธรรมท่ีดใี นองคก์ าร เชน่ เชา้ มาปฏิบตั งิ านก็ยกมือไหวท้ กั ทายตามแบบอยา่ งวฒั นธรรม

ไทย เม่ือทงั้ สงั คม เศรษฐกิจ และวฒั นธรรมในองคก์ รเป็นไปในทางท่ีดีแลว้ ส่งิ แวดลอ้ มตา่ งๆก็จะมีผลดีตามมา
การสรา้ งวฒั นธรรมการเรยี นรูอ้ ยา่ งฉลาด การฝึกนกั เรยี นใหม้ ีความรกั ในอาชีพ

มติ สิ ่งิ แวดล้อม
รูจ้ กั เลือกใชเ้ คร่อื งมือและปฏิบตั งิ านอยา่ งปลอดภยั ไมเ่ กิดความเสียหายแก่ วสั ดุ เคร่อื งมือและ
อปุ กรณ์ ทาใหไ้ มต่ อ้ งทิง้ เศษวสั ดขุ องเคร่อื งมือ ใหไ้ ปทาลายส่งิ แวดลอ้ ม

6. การบูรณาการกับคุณลักษณะ 3 D แก่ผู้เรียน
6.1 ดา้ นประชาธิปไตย (Democracy)
6.1.1 สอดแทรกเร่ืองการใชส้ ิทธิหนา้ ท่ีของตนเอง
6.1.2 การรายงานหนา้ ชนั้ เรยี นไดอ้ ยา่ งอิสระ
6.1.3 การใหผ้ ฟู้ ังแสดงความคดิ เห็นภายในชนั้ เรียนไดอ้ ยา่ งอิสระ

6.2 ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมและความเป็ นไทย (Decency)
6.2.1 สอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมดา้ นความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ความรบั ผิดชอบ
6.2.2 สอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมดา้ นความขยนั และอดทน
6.2.3 ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผิดชอบ)
6.2.4 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ยา่ งคมุ้ คา่ ประหยดั (ความประหยดั )
6.2.5 มีความเพียรพยายามและกระตอื รือรน้ ในการเรียนและการปฏิบตั งิ าน
(ความขยนั ความอดทน)

6.2.6 ใหค้ วามรว่ มมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวม อาสาชว่ ยเหลืองานครูและผอู้ ่ืน รูจ้ กั
การแบง่ ปัน

6.2.7 สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรม “การไปลา-มาไหว”้ แก่นกั เรยี น
6.3 ดา้ นภมู คิ ุ้มกันจากยาเสพตดิ (Drug - Free)

6.2.8 สอดแทรกเร่อื งยาเสพตดิ และโทษของยาเสพตดิ แกน่ กั เรยี น
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

7.1 ขนั้ เตรยี ม
7.1.1 เตรยี มความพรอ้ มสอน
7.1.2 เตรยี มเอกสารประกอบการสอน
7.1.3 เตรียมส่ือการสอน
7.1.4 เตรยี มการวดั ผล ประเมนิ ผล

7.2 ขนั้ ดาเนินการ
7.2.1 แนะนาตวั ผสู้ อน ผเู้ รียน ช่ือวิชา รหสั วชิ า จดุ ประสงค์ ของรายวชิ า
คาอธิบายรายวิชา เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏิบตั ิ
7.2.2 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น โดยชกั จงู โนม้ นา้ วจิตใจใหผ้ เู้ รยี นเห็นเปา้ หมายในการเรียน
7.2.3 ชีแ้ จงแนวทางในการปฏิบตั ิตนเก่ียวกบั การเรียนการสอนการประเมนิ ผลการเรียนและ ได้

อบรมคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ คือ เร่ืองความมีวนิ ยั โดยเฉพาะการแตง่ กายและการตรงตอ่ เวลา
7.2.4 อธิบายเร่ืองสาระสาคญั ประจาหน่วย
7.2.5 ใหผ้ เู้ รียนคนหน่งึ อธิบาย สาระสาคญั ประจาหน่วย และใหค้ นอ่ืนช่วยอธิบาย เพ่มิ เตมิ

และชว่ ยกนั สรุป
7.2.6 สรุปสาระสาคญั ประจาหน่วยซ้าโดยใชแ้ ผน่ ใสเร่ืองสาระสาคญั ประจาหน่วย

7.2.7 อธิบายเรื่อง การบารุงรักษาและประมาณราคาคา่ บริการรถจกั รยานยนต์

7.2.8 ใหผ้ เู้ รียนช่วยอธิบายเร่ือง การบารุงรักษาและประมาณราคาคา่ บริการรถจกั รยานยนต์
7.2.9 สรุปเรื่อง การบารุงรักษาและประมาณราคาคา่ บริการรถจกั รยานยนต์
7.3. ข้นั สรุป
7.3.1 สรุปเรื่อง การบารุงรักษาและประมาณราคาค่าบริการรถจกั รยานยนต์
7.3.2ใหน้ กั เรยี นคนหนง่ึ ออกมาสรุปหนา้ ชนั้ เรยี น
7.3.3 แจกใบประเมินผล แลว้ ใหผ้ เู้ รียนตอบคาถามลงในแบบประเมินผล โดยใชเ้ วลา
ประมาณ 10 นาที แลว้ รว่ มกนั เฉลยคาตอบในชนั้ เรียน

8. สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สืองานจกั รยานยนต์
8.2 รถจกั รยานยนต์
8.3 เคร่ืองยนต์
8.4 เคร่ืองมือประเภทตา่ งๆ
8.5 อินเตอรเ์ น็ต

9. การวัดผลประเมนิ ผล
9.1 เคร่อื งมือในการวดั
9.1.1 ใบปฏิบตั งิ าน
9.1.2 ใบงาน
9.2 วิธีการประเมิน

9.2.1 ประเมนิ ผลการรว่ มกิจกรรม
9.2.2 ทดสอบความรู้
9.3 เกณฑท์ ่ีใชว้ ดั
9.3.1 เกณฑก์ ารประเมินการรว่ มกิจกรรม ตาม
9.3.2 ใบงานการทางาน
9.3.3 ใบประเมนิ ผลการทางานกลมุ่
9.3.4 ใบประเมนิ ผลการนาเสนอผลการทางานกลมุ่
9.3.5 ใบประเมนิ ผลพฤตกิ รรมการทางานและคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
10. บันทกึ หลังการสอน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลงช่ือ ............................................
( ...................................... )
ครูผสู้ อน






Click to View FlipBook Version