ทฤษฎีโลกคู่ขนาน

ทฤษฎีโลกคู่ข คู่ นาน ผู้รผู้ วบรวม นางสาววิมวิลทิพย์ ฉิมงาม

หนังนัสือสืเล่มล่นี้จั นี้ ดจัทำ เพื่อ พื่ รวบรวมข้อข้มูลมูเกี่ย กี่ วกับกัทฤษฎี โลกคู่ขคู่ นานในด้าด้นต่าต่งๆ เพื่อ พื่ ศึกศึษาข้อข้มูลมูในด้าด้นต่าต่งๆ โดยได้ศึด้กศึษาผ่าผ่นแหล่งล่ความรู้ อาทิ ตำ รา หนังนัสือสืพิมพิพ์ วารสาร แหล่งล่ข้อข้มูลมูจากเว็บว็ ไซต์ต่ต์าต่งๆ ผู้จัผู้ ดจัทำ ขอขอบคุณคุผู้ที่ผู้ เ ที่ ขียขีนหรือรืพิมพิพ์สำ หรับรัแหล่งล่ ข้อข้มูลมูต่าต่งๆและหวังวัเป็นป็อย่าย่งยิ่งยิ่ว่าว่จะเป็นป็ ประโยชน์ ต่อต่ผู้ที่ผู้ ส ที่ นใจในเรื่อ รื่ งของทฤษฎีโฎีลกคู่ขคู่ นาน นางสาววิมวิลทิพทิย์ ฉิมฉิงาม ผู้จัผู้ ดจัทำ 30 สิงสิหาคม 2566 คำ นำ

สารบัญ ทฤษฎีโลกคู่ขนานคืออะไร......................1 มิติในทางฟิสิฟิ สิกส์...............................…..2 โลกคู่ขนานแบบควอนตัม.....................…3 โลกคู่ขนานในทฤษฎีสตริง...................…4 การศึกษาจักรวาลวิทยา.……….................5

โลกคู่ขนาน คือ โลกอีกด้านที่ดำ เนินควบคู่ไปกับโลก ของเราในทิศทางที่ตรงกันข้าม หรือหมายถึงแนวคิดตามสมมติฐานว่ามีเอกภพ จำ นวน มากมายนับไม่ถ้วน เกิดขึ้นและสลายไปตลอดเวลา (รวมถึงเอกภพของเราเป็นหนึ่งในนั้น) ซึ่งประกอบด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นจริงทางกายภาพ เช่น กาล อวกาศ รูปแบบทุกชนิดของสสาร พลังงาน โมเมนตัม และกฎ ทางฟิสิฟิ สิกส์รวมถึงค่าคงที่ต่างๆโดยยืนอยู่บนทฤษฏีทาง ฟิสิฟิ สิกส์ 3 ทฤษฎีคือ ทฤษฎี String Theory, ทฤษฎี เอกภพขยายตัว และทฤษฎีสสารมืด (Dark matters) ทฤษฎีโลกคู่ขนานคืออะไร? หน้าน้ 1

จุด ก็มีมิติเป็นศูนย์ เส้นตรง ก็มี 1 มิติ พื้นที่ มี 2 มิติ ปริมาตร มี 3 มิติ สิ่งที่เราคุ้นเคยมีความกว้าง ยาว สูง อวกาศหรือที่ว่าง ก็เป็น 3 มิติ การเคลื่อนที่ของวัตถุ นอกจากขึ้นกับพื้นที่แล้วยังขึ้นอยู่กับเวลา ด้วย ซึ่งในทางคณิตศาสตร์นับเป็นอีกมิติหนึ่ง ซึ่งมี 4 มิติ เรียก ว่า “สเปซ-ไทม์” (space time) หรือ กาล-อวกาศ มิติในทางฟิสิกส์หมายถึง “Dimension” ซึ่งมีความหมายทาง คณิตศาสตร์ อย่างเช่น ค.ศ.1921 ธีโอดอร์ คาลูซา (Theodor Kaluza) สันนิษฐานว่ากาล-อวกาศ มี 5 มิติ ซึ่งมิติที่เกินมานั้นเรียกว่ามิติพิเศษ (extra-dimension) เขา อธิบายว่ามิติดังกล่าวว่า ขดตัวอยู่ (Compactify) กลายเป็นป็มิติที่เล็กมาก จนมองไม่เห็น เปรียบเทียบการขดดังกล่าวเหมือนการขดกระดาษเป็นป็ทรง กระบอก หากรัศมีของการขดสั้นกว่าความยาวคลื่นของแสงจะไม่สามารถ สะท้อนเป็นป็ภาพออกมาให้มองเห็นได้ ซึ่งนักฟิสิกส์ก็พยายามจะพิสูจน์ว่ามิติดังกล่าวมีจริงหรือไม่ มีการทดลอง ยิงอนุภาคด้วยเครื่องเร่งอนุภาค “แอลเอชซี” (LHC: Large-Hadron Collinder) ของห้องปฏิบัติการเซิร์น (CERN) อันเป็นป็องค์กรการวิจัยด้าน นิวเคลียร์ ตั้งอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยตามหลักกลศาสตร์ควอนตัมต้องใช้ พลังงานจำ นวนมหาศาลเพื่อทำ ให้อนุภาคที่สามารถเป็นป็ ได้ทั้งคลื่นและ อนุภาคนั้นมีความยาวคลื่นสั้นลง จนเล็กพอที่จะเห็นมิติที่ขดซ่อนอยู่ได้ หน้าน้ 2 มิติในทางฟิสิกส์

โลกคู่ขนานแบบควอนตัม (quantum parallel universe) ซึ่งพัฒนา มาเมื่อประมาณ ค.ศ.1957 โดยนักฟิสิกส์ชื่อ ดร.ฮิวจ์ เอเวอร์เรต (Dr.Hugh Everett) เพื่อแก้ปัญหาทางเทคนิคในทฤษฎีควอนตัมด้วย การสมมติว่ามีโลกคู่ขนานอยู่ การวัดสำ หรับควอนตัมเป็นป็เรื่องของ โอกาสและความเป็นป็ ไปได้ของความจริงต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน โดยทุก ๆ เหตุการณ์ใดที่มีทางเลือกมากกว่าหนึ่ง จะเกิดเหตุการณ์ใน ทิศทางตรงการข้ามขึ้นมาเสมอและแตกตัวออกไปไม่รู้จบ เช่น เมื่อถึง ทางแยกซ้ายและขวา แล้วคุณจะต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง เมื่อในโลก ของคุณถ้าเลือกที่จะไปทางซ้ายในอีกโลกคู่ขนานจะเลือกในทิศทางตรง กันข้ามโดยเป็นป็ความจริงที่เกิดขึ้นทั้งสองโลก แล้วถ้าหากเป็นป็แบบนั้น จะทำ ให้เกิดคำ ถามขึ้นอีกว่า หากเราย้อนกลับไปในอดีตเพื่อแก้ไขบางสิ่งบางอย่างที่เคยทำ ผิดพลาด อนาคตของเราจะเปลี่ยนไปหรือไม่ คำ ตอบคือไม่เปลี่ยน เพราะถึงเรา จะย้อนกลับไปเพื่อบอกให้ตัวเองเลือกอีกอย่างหนึ่ง อนาคตของเราก็จะ ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะทุก ๆ เหตุการณ์ จะเกิดเหตุการณ์ในทิศทาง ตรงกันข้ามเสมอ คือ หากคุณย้อนกลับไปบอกตัวคุณในอดีต ให้เลือก อีกทาง คนที่เลือกในทิศทางตรงกันข้ามในวันนั้นไม่ใช่ตัวคุณในวันนี้ใน มิติปัจจุบันที่คุณอยู่ หากแต่เป็นป็ตัวคุณที่จะเลือกในทิศตรงกันข้ามอยู่ แล้วในเหตุการณ์วันนั้นซึ่งเกิดผ่านมาแล้ว ฉะนั้นอนาคตของคุณก็จะ ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเป็นป็ โลกคู่ขนานกับที่คุณอยู่นั้นเอง หน้าน้ 3 โลกคู่ขนานแบบควอนตัม

หน้าน้ 4 โลกคู่ขนานในทฤษฎีสตริง อนุภาคถูกอธิบายว่ามีลักษณะเป็นป็เส้นเชือก หนึ่งมิติ โดยการสั่นของเส้นเชือกนี้ทำ ให้เกิดเป็นป็ตัวโน้ตต่างๆ ตัวโน้ต หนึ่งตัวสามารถแทนอนุภาคได้หนึ่งตัว ตัวโน้ตที่ต่างคีย์กันก็จะให้อนุภาค ที่ต่างชนิดกัน ในการที่จะให้ทฤษฎีสตริงมีคุณสมบัติทางคณิตศาสตร์ที่ เหมาะสม นักฟิสิกส์พบว่าจำ นวนมิติของเอกภพจะต้องมีถึง 10 มิติคือ เวลาหนึ่งมิติและอวกาศอีก 9 มิติ ยิ่งไปกว่านั้นในในทฤษฎีเอ็ม (Mtheory) ซึ่งเป็นป็ทฤษฎีที่พัฒนาต่อมาจากทฤษฎีเส้นเชือก กาล-อวกาศ อาจจะมีได้ถึง 11 มิติ คือเวลา 1 มิติและอวกาศอีก 10 มิติ ในเอกภพของเราจะสังเกตจำ นวนมิติได้เพียงแค่ 4 มิติ ทฤษฎีสตริง จึงอธิบายว่ามิติที่เกินมาหรือมิติพิเศษ (Extra dimension) นั้นขดตัวอยู่ โดยที่ขนาดของมันเล็กมากจนเราไม่สามารถสังเกตได้ โลกคู่ขนานในทฤษฎีสตริง

โลกคู่ขคู่นานที่พัฒพันามาจากการศึกษาจักจัรวาลวิทวิยา (cosmology) หรือรืการศึกษาเกี่ยวกับการกำ เนิดนิและวิวัวิฒวันาการของเอกภพ ได้ อธิบธิายว่าว่จุดกำ เนิดนิของเอกภพเริ่มริ่มาจาก “บิ๊กบิ๊แบง” แต่เนื่อนื่งจาก ความรู้ที่รู้ที่ เรามีอมียู่จำยู่จำกัดในปัจจุบันบัทำ ให้ไห้ม่สม่ามารถเข้าข้ใจได้ดีด้นัดีกนั อังเดร ลินเด (Andre Linde) นักนั ฟิสิฟิกสิส์จึส์งจึได้เด้สนอทฤษฎีโลกคู่ ขนานแบบ “บับบัเบิลบิ ” (bubble universe theory) แนวคิดของ ทฤษฎีดังดักล่าวว่าว่ภายหลังเหตุกตุารณ์บิ๊ณ์กบิ๊แบง เอกภพมีพมีลังงานและ ความหนาแน่นน่สูงสูมาก และกาล-อวกาศมีคมีวามผันผัผวนสูงสูมากคือมี ความไม่ต่ม่ ต่อเนื่อนื่งเป็นป็เนื้อนื้เดียดีวกัน เพราะมีกมีารสั่นสั่อย่าย่งรุนรุแรง คล้ายกับระลอกคลื่นแล้วมีฟมีองผุดผุขึ้นขึ้มา หากการสั่นสั่ดังดักล่าว รุนรุแรงมากอาจทำ ให้กห้าล-อวกาศบางส่วส่นหลุดลุออกมา จากการ ศึกษา กาล-อวกาศมีลัมี ลักษณะเป็นป็แผ่นผ่เรียรีบคล้ายผิวผิน้ำ เมื่อมื่เกิดเหตุ การณ์บิ๊ณ์กบิ๊แบง การระเบิดบิครั้งรั้ใหญ่ ส่งส่ผลให้กห้าล-อวกาศ เกิดการบิดบิ เบี้ย บี้ วหรือรืกระเพื่อพื่มอย่าย่งรุนรุแรง ทำ ให้กห้าลอวกาศบางส่วส่น กระเด็ดด็ หลุดลุออกจากแผ่นผ่กาลอวกาศโดยร่วร่มเรียรีกว่าว่ “ควอนตัมโฟม” (quantum foam) หรือรื “ควอนตัมบับบัเบิลบิ ” (quantum bubble) บับบัเบิลบิพวกนี้มี นี้ โมีอกาสเกิดได้หด้ลายฟอง เหมือมืนฟองอากาศหลาย ๆ ฟองที่เกิดจะคลื่น โดยแต่ละฟองก็เจริญริเติบโตไปเป็นป็จักจัรวาลที่ต่าง กัน เป็นป็อีกจักจัรวาล อีกเอกภพที่ต่างกัน ทุกทุวันวันี้จั นี้ กจัรวาลของเราก็ ขยายตัวใหญ่ขึ้ญ่ ขึ้นขึ้ๆ ถ้าตามทฤษฎีนี้ก็ นี้ ก็อาจจะมีจัมีกจัรวาลอื่นแต่จักจัรวาล อื่นอาจจะมีค่มี ค่าคงที่ทางฟิสิฟิกสิส์ไส์ม่เม่หมือมืนกับเรา เช่นช่ ประจุอิเล็กตรอน อาจจะไม่เม่ท่านี้ ค่าคงที่แรงโน้มน้ถ่วงของนิวนิตันอาจจะเปลี่ยนไป หรือรื ว่าว่จำ นวนมิติมิ ติของเอกภพอาจจะไม่เม่ท่ากับ 3+1 แต่เป็นป็ 1+1 หน้าน้ 5 โลกคู่ขนานในการศึกษาจักรวาลวิทยา

บรรณานุกรม โลกคู่ขคู่นานคืออะไร? https://www.blockdit.com. 2564 .ทฤษฎีโลกคู่ขคู่นาน. สืบสืค้น 25 สิงสิหาคม 2566 . https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%AB%E0%B8%B8 %E0%B8%A0%E0%B8%9E . https://xfile.teenee.com/believeitornot/2921.html . https://www.brighttv.co.th/news/global/pararell-universe .

ล่าสุด นิตยสารวิทยาศาสตร์ New scientist เปิดปิเผยว่ากลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ของนาซ่า เคยพบปรากฏการณ์ที่ชี้ว่าอาจมีโลกคู่ขนานที่เวลาสามารถเดินย้อน หลังได้ การค้นพบดังกล่าวมีขึ้นเมื่อทีมนักวิจัยของนาซ่าในแอนตาร์กติกหรือขั้วโลกใต้ ได้วิจัยในปฏิบัติการ Antarctic Impulsive Transient Antenna โดยทีมนัก วิจัยได้ใช้บอลลูนติดเสาอากาศเพื่อสแกนหาอนุภาคพลังงานสูง ที่เป็นป็ คุณลักษณะของเทหวัตถุนอกโลก ที่อาจปรากฏในผิวน้ำ แข็งในขั้วโลกใต้ ทีม นักวิจัยเคยทำ การทดสอบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่เคยพบอะไรในช่วง 2 ปีที่ปี ที่ ผ่านมา ทั้งยังเจอสัญญาณที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่หลังได้ตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ เพิ่มเติมและสัญญาณที่ถูกมองข้ามไป ทีมนักวิจัยก็พบว่าสัญญาณที่รบกวน เหล่านั้น เป็นป็สัญญาณของอนุภาคพลังงานที่สูงกว่าปกติ ที่จะเกิดจากการตก หรือแผ่มายังอวกาศสู่พื้นโลก แต่สิ่งที่ประหลาดคือลักษณะของสัญญาณ กลับไม่เหมือนอนุภาคพลังงานสูงทั่วไป แต่คล้ายกับการพุ่งจากโลกไปสู่ อวกาศ การค้นพบของอนุภาคแบบนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2016 หลังจากที่ทีมนัก วิจัยได้เผยแพร่งานวิจัยดังกล่าว พร้อมกับนำ หลักฟิสิกส์ และทฤษฎีต่างๆมา อธิบายปรากฏการณ์นี้ แต่ก็ไม่มีทฤษฎีใดที่สมเหตุสมผลเลย เพราะเหตุผล เดียวที่อธิบายได้คือต้องมีการยอมรับว่ามีจักรวาลคู่ขนานที่เกิดร่วมกับการ ระเบิดครั้งใหญ่หรือบิ๊กแบง ซึ่งทำ ให้เกิดจักรวาลที่เรารู้จัก โดยจักรวาลคู่ ขนานนี้มีลักษณะตรงข้ามกับจักรวาลที่เราอยู่ทุกอย่าง คือบวกเป็นป็ลบ ลบเป็นป็ บวก ซ้ายเป็นป็ขวา ขวาเป็นป็ซ้าย และเวลาก็เดินย้อนกลับหลังด้วย อย่างไร ก็ตามทุกอย่างเป็นป็เพียงแนวคิดและทฤษฏี ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ อย่างแน่นอนแท้จริง ภาคผนวก

ข้อมูลผู้จัดทำ น.ส.วิมลทิพย์ ฉิมงาม เลขที่10 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ปี ที่ 4/4