The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

61070502215_โครงงานGEN211_2215_2229

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siwat.al, 2022-05-05 02:47:33

61070502215_โครงงานGEN211_2215_2229

61070502215_โครงงานGEN211_2215_2229

How
to be

MILLIONAIRE

Presented by...
MCE215 & MCE229

เศรษฐกิจพอเพียง

กั บ ก า ร เ งิ น แ ล ะ ก า ร ล ง ทุ น

“การใช้จ่ายโดยประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุข
ของผู้ประหยัดเอง และครอบครัวช่วยป้องกัน ความขาดแคลนในวันข้างหน้า

การประหยัดดังหล่าวนี้ จะมีผลดีไม่เฉพาะแก้ผู้ประหยัดเท่านั้น
ยังจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ”



-พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช-

การอดออม

จากพระราชดำรัส พระบามสมเด็จ

พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ที่ว่า “การใช้จ่ายโดยประหยัดนั้น จะ

เป็นหลักประกันความสมบูรณ์
พูนสุข" หมายความว่า การใช้จ่าย

อย่างประหยัดเพื่ อนำเงินที่เก็บได้ไป

อดออมนั้น เป็นการสร้างหลัก

ประกันทั้งแก่ตนเองและครอบครัว

เผื่ อในอนาคตที่อาจพบเหตุการณ์ที่

ไม่คาดฝัน และเป็นหลักประกันใน

การใช้ชีวิตที่ดีในอนาคตอีกด้วย

การอดออมนั้น มีข้อดีอย่างไร มหาเศรษฐีหลายๆคนก็ได้

พิสูจน์ให้เห็นมานักต่อนักแล้ว อย่างบิล เกตส์ หนึ่งใน

มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และถึงแม้เขาจะเป็นมหา

เศรษฐีแล้ว แต่เขาไม่เคยใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย และ

จัดการการใช้จ่ายของตัวเองอย่างละเอียดรอบคอบ โดย

เงินส่วนใหญ่นั้นใช้จ่ายไปกับการกุศล และช่วยเหลือผู้

อื่ น เขาเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีสองด้าน ดังนั้นคน

เราจึงสามารถมองโลกในแง่ดีและในแง่ร้ายไปพร้อมๆ

กันได้เสมอ สำหรับเขา วิธีการที่สามารถทำทั้งสองอย่าง
ไปพร้อมๆกันได้คือ “การออมอย่างคนมองโลกในแง่
ร้ายและการลงทุนอย่างคนมองโลกในแง่ดี” นั่นคือการ

คอยระวังเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด
เวลา เราจึงควรรู้จักบริหารรายจ่าย “ประหยัดเงินเพื่อให้
เราสามารถเอาตัวรอดได้อย่างน้อย 6 เดือน ถ้าสมมติว่า
ถูกเลิกจ้างกะทันหันหรือไม่มีรายได้”

หรือจะเป็นมหาเศรษฐีอีกคนของโลก วอร์เรนต์

บัฟเฟตต์ เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในการบริหาร

จัดการเงิน และการลงทุน โดยมีข้อคิดที่ว่า “อย่าออม

ด้วยเงินที่เหลือจากการใช้จ่าย แต่ให้ใช้จ่ายด้วยเงินที่
เหลือจากการออมแล้ว” นั่นคือ เราควรจะเก็บเงิน

ส่วนหนึ่งของรายได้มาเก็บสะสมก่อน และจึงจะนำ

ส่วนที่เหลือไปใช้จ่าย อีกทั้งยังควรจัดการเงินการใช้

จ่าย อย่าให้มีจุดรั่วไหลได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นรูรั่วเล็กๆ

น้อยๆ ก็อย่าได้มองข้าม ต้องใช้ความสำคัญกับค่าใช้

จ่ายทุกชนิดเสมอ

การอดออม นั้นนอกจากเป็นการสะสมทุนทรัพย์เพื่อใช้จ่ายในอนาคตแล้ว
ยังเป็นการฝึกฝนวินัยในการใช้จ่าย ฝึกการวางแผนและการคิดอย่างเป็น
ระบบ ทำให้เราเห็นคุณค่าของเงินแม้เป็นเพียงจำนวนที่น้อย โดยแต่ละคน
นั้นก้จะมีทริคเล็กๆน้อยๆที่แตกต่างกัน

เก็บเฉพาะแบงก์หรือเหรียญที่กำหนด คือ

การงดใช้แบงก์ หรือเหรียญบางชนิด แบงก์

และเหรียญที่ได้รับความนิยมคือ แบงก์ 50

บาท และเหรียญ 10 บาท

สะสมเงินทุกวันตามวันที่ คือการเก็บเงิน

โดยจะเพิ่มมูลค่าขึ้นเรื่อยๆ เช่น วันที่ 1 เก็บ

1 บาท วันที่ 20 เก็บ 20 บาท

การเปิดบัญชีฝากประจำ เป็นการเปิดบัญชี

แบบถอนไม่ได้ ซึ่งผู้ฝากจะต้องฝากเงินให้

ครบตามที่ธนาคารได้กำหนดไว้

การทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย สิ่งนี้จะช่วย

ให้เห็นว่าการจ่ายในแต่ะวันนั้นหมดไปกัน

อะไรบ้าง อะไรที่จำเป็นและไม่จำเป็น รายจ่าย

ส่วนไหนสามารถลดลงได้

นำเงินใส่กระปุกออมสินที่เปิดไม่ได้ จะช่วย

ให้การนำเงินออกมาใช้นั้นลำบากขึ้น

เนื่ องจากต้องทุบกระปุกให้แตก

3 ห่วง 2 เงื่อนไข

กับการปรับใช้กับการออม

พอ
การประหยัดเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการออม แต่การ
ประมาณ ประหยัดอย่างพอประมาณก็สิ่งที่ควรทำเช่นกัน
ดังพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา
ภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540 ที่ว่า
“พอเพียงนี้ก็หมายความว่า มีกินมีอยู่ ไม่ฟุ่มเฟือย
ไม่หรูหราก็ได้ แต่ว่าพอ แม้บางอย่างอาจจะดู
ฟุ่มเฟือย แต่ถ้าทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ก็สมควรที่
จะทำ สมควรที่จะปฏิบัติ"

การมีเหตุผลในการใช้จ่าย แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ มีเหตุผล
ก็ตาม หากเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆหลายๆครั้งรวมกันก็
อาจจะเป็นสิ่งใหญ่ได้ การอุดรอยรั่วในการใช้จ่าย
จึงเป็นสิ่งสำคัญในการอดออม เพราะหากยังมีรอย
รั่วอยู่ สุดท้าย การอดออมนั่นก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพ
เต็มที่

การออมถือเป็นการสร้างวินัยอย่างหนึ่ง ทำให้เราใช้

มี จ่ายเงินอย่างมีสติและแบบแผน การวางแผนการ
ออมเงินเพื่ออนาคตทั้งใกล้และไกล เผื่อเหตุการณ์ไม่

ภูมิคุ้มกัน คาดฝันที่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน เตรียมรับมือกับ
สถานการณ์ต่างๆในอนาคต เช่น การถูกให้ออกจาก
งาน หรือการเจ็บป่วย

ความรู้การนำ ที่มีไปใช้ในการวางแผนในการใช้เงินอย่างระมัดระวัง

คุณธรรมควบคู่ไปกับการมี ซื่อสัตย์ไม่สร้างความเดือนร้อนให้ทั้ง

ตนเองและผู้อื่น รวมถึงมีความตั้งใจและอดทนเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

“...พอเพียง มีความหมายกว้างขวางยิ่งกว่านี้อีก คือคำว่าพอ ก็พอ
เพียงนี้ก็พอแค่นั้นเอง คนเราถ้าพอในความต้องการก็มีความโลภน้อย
เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าประเทศใดมีความคิด
อันนี้ มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ
ซื่อตรง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข พอเพียงนี้อาจจะมี มีมาก

อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น...”



-พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑-

จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 4 ธันวาคม 2541 ในส่วนหนึ่งที่ว่า “พอเพียง มี
ความหมายกว้างขวางยิ่งกว่านี้อีก” วันนี้เราจึงจะมานำเสนอถึงคำว่าพอ
เพียงในบริบทของคำว่า “การลงทุน” ซึ่งมีความหมายว่าการจัดสรรเงินเพื่อ
คาดหวังผลประโยชน์หรือผลตอบแทนในอนาคต แน่นอนว่าตรงนี้ในหลายๆคน
อาจจะเกิดความสงสัยขึ้นว่าการพอเพียงซึ่งมีความหมายที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า
เป็นการดำเนินการในทางสายกลางจะไปมีความหมายในบริบทของคำว่าการ
ลงทุนซึ่งเต็มไปด้วยการแสวงหาผลตอบแทนและกำไรได้อย่างไร วันนี้ในหนังสือ
เล่มนี้เราจะมาหาคำตอบกัน…




ในมุมมองของผม ก่อนอื่นถ้าเราเริ่มมองที่ความหมายของการลงทุนที่ว่า
เป็นการจัดสรรเงินเพื่อควาดหวังผลตอบแทนในอนาคต ในส่วนนี้ผมจะขอแบ่ง
ความหมายนี้ออกเป็นสองคือ

1. ผลตอบแทนที่จะได้ในอนาคต
2. การจัดสรรเงินลงทุน

ผลตอบแทนที่จะได้ในอนาคต

ผลตอบแทนในอนาคต เป็นสิ่งตอบแทนที่ได้กลับมาจากการลงทุน แน่นอนว่าผล
ตอบแทนที่จะได้ในอนาคตจากการลงทุนก็สามารถนำเสนอในบริบทของปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงได้เช่นกัน

การจัดสรรเงินลงทุน

การจัดสรรเงินลงทุน เป็นกระบวนการจัดการกับเงินลงทุนเพื่อกำหนดสัดส่วน
ของเงินลงทุนที่เหมาะสม ว่าจะนำไปลงทุนในตราสารชนิดใดบ้าง โดยในส่วนนี้ถ้า
เราขาดความรู้เกี่ยวกับการจัดสรรเงินลงทุนล่ะ อะไรจะเกิดขึ้นแน่นอนสิเราอาจ
จะขาดทุนก็ได้ แล้วอะไรล่ะคือความรู้ที่จำเป็นสำหรับการจัดสรรเงินลงทุน....

การเริ่มต้นลงทุน

ทบทวนเป้าหมายตัวเอง

ก่อนจะทำอะไรสักอย่าง เป็นการดีที่เราจะถาม
ตัวเองก่อนว่าเป้าหมายเราคืออะไร เราจะทำไป
ทำไมเพราะแน่นอนถ้าเราสามารถกำหนดเป้า
หมายที่ชัดเจนได้ตั้งแต่ต้นเราก็ย่อมวางแผน
เพื่อที่จะทำตามให้บรรลุเป้าหมายนั้นได้ง่ายขึ้น
นั่นเอง

การเตรียมความพร้อมเบื้องต้น

เรื่องลงทุนเป็นเรื่องที่ต้องใช้เงิน ดังนั้น
เป็นการดีที่เราจะสำรวจสถานะการเงินของ
ตัวเองก่อน หากสภาพคล่องทางการเงินของ

เราไม่เพียงพอ พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราไม่มี
“เงิน” มากพอที่จะไปลงทุน หรือ เราเอาเงิน
ส่วนใหญ่ไปลงทุน จนเบียดเบียนค่าใช้จ่ายใน

ชีวิตประจำวัน แบบนั้นไม่โอเคแน่ๆ



เริ่มศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน

เป้าหมายพร้อม เงินพร้อม ขั้นต่อไปคือการ
หาความรู้เพิ่มเกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งสมัยนี้นั้น
มีอย่างครบพร้อมมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ
สัมมนา สื่อออนไลน์ หรือแม้กระทั่งคนรอบตัว
มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายและแบบฟรี เรียกได้ว่า
ไม่ใช่การยากเลยที่จะหาข้อมูลเรื่องการลงทุน
แต่จุดที่ท้าทายคือ การเลือกแหล่งข้อมูล การ
วิเคราะห์ข้อมูลนี่แหละ เพราะบางทีเราอาจจะ
เจอว่าข้อมูลนั้นไม่เป็นความจริง ปฏิบัติไม่ได้
จริง หรือไม่ได้มาจากผู้เชี่ยวชาญจริงๆ

หลักการกระจาย
ความเสี่ยง

การลงทุนแบบการจัดสรรสินทรัพย์อาจไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงเหมือนการเลือกลงทุน
สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง แต่จะเน้นไปที่ความเสถียรของผลตอบแทนในระยะยาวและ
การปกป้องความเสี่ยงของเงินลงทุนมากกว่า

กฏเหล็กอย่างหนึ่งของการลงทุน คือ อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตระกร้าใบเดียว ซึ่งเป็น
หลักของการกระจายการลงทุนไปหลายประเภทสินทรัพย์ และเป็นการกระจาย
ความเสี่ยง หรือที่รู้กันดีว่า การจัดสรรสินทรัพย์เพื่อการลงทุน (Asset Allocation)
ในโลกของการลงทุน “ความเสี่ยงและผลตอบแทน” มักจะมาคู่กันเสมอและหนทาง
เดียวที่จะสามารถจัดการความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือ
การกระจายการลงทุน จากผลงานวิจัยของ Harry Markowitz พบว่าการจัดสรร
สินทรัพย์ลงทุน เป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อการกระจายความเสี่ยงในการ
ลงทุน โดยมีสัดส่วนสูงถึง 94% ส่วนที่เหลืออีก 6% เป็นการคัดเลือกสินทรัพย์ลงทุน
และการจับจังหวะตลาด ซึ่งอาจจะทำให้ได้ผลตอบแทนสูงเป็นครั้งคราวในระยะสั้น
แต่ในระยะยาวแล้วไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยิ่งสถานการณ์ในตลาดทุนโลกที่ยังมีความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ มากมาย การ
จัดสรรสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้าง
โอกาสของผลตอบแทนที่สม่ำเสมอขึ้นได้ และการปรับพอร์ตลงทุนตามความเหมาะสม
ย่อมตอบโจทย์ภายใต้ความไม่แน่นอนต่าง ๆ เพื่อให้พอร์ตลงทุนสอดคล้องกับ
สถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ประเภทของสินทรัพย์

สินทรัพย์ที่คนส่วนใหญ่นำมาลงทุน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
สินทรัพย์ที่จับต้องได้ (Physical Asset) เช่น ที่ดิน คอนโดมิเนียม นาฬิกา เครื่อง
ประดับ เป็นต้น

สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ คือ สินทรัพย์การเงิน (Financial Asset)

โดยในส่วนของสินทรัพย์การเงินก็ยังแบ่งได้อีกหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะให้
ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยความเสี่ยงจะมาจากความผันผวน
ของผลตอบแทนในสินทรัพย์นั้น ๆ ยิ่งผันผวนมากก็จะแสดงว่ามีความเสี่ยงมาก แต่
ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีความผันผวนน้อยแสดงว่ามี
ความเสี่ยงน้อย

3 ห่วง 2 เงื่อนไข
กับการปรับใช้สำหรับการลงทุน

พอ ในการลงทุนเราต้องมีการกำหนดจุดที่จะทำกำไรที่
ประมาณ ชัดเจนว่าเมื่อถึงจุดนี้เราจะทำการเก็บกำไรจากการ
ลงทุนเสมอ สะท้อนให้เห็นถึงของ ความพอประมาณ
นั่นคือความพอดีไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปพอใจกับ
ผลตอบแทนที่เหมาะสม ซึ่งถ้าเราไม่ยึดถึงหลักของ
ความพอเพียงบางทีแทนที่จะได้กำไรจากการลงทุน
เราอาจจะขาดทุนแทนได้

แนวคิดเรื่องการกระจายความเสี่ยงสำหรับการ มีเหตุผล
ลงทุน สะท้อนให้เห็นถึงการตัดสินใจภายใต้ห่วงของ

การมีเหตุผล ควบคู่ไปกับการต้องอาศัย เงื่อนไข
ความรู้ ความเข้าใจและประสบการณ์เพื่อที่จะ

ทำการตัดสินใจว่าควรจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภท
ไหนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่ต้องการภายใต้
ความเสี่ยงที่ยอมรับได้

การปรับแผนการลงทุนอยู่เสมอให้สอดคล้องกับ
สถานการณ์ในปัจจุบันและพร้อมรองรับความ
ผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สะท้อนให้เห็นถึงห่วง

มี การมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อเตรียมพร้อมรับความ
ผันผวนในอนาคตเสมอ เพราะในโลกของการลงทุน
สถานการณ์ต่างๆนั้นล้วนส่งผลต่อการลงทุนเสมอ

ภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง และ
สังคม

ความรู้ + คุณธรรม

การลงทุนนั้นต้องอาศัยทั้งความรู้ในการลงทุนควบคู่ไปกับการใช้หลักคุณธรรมที่
ไม่ไปคดโกงสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น

มุมมอง


ต่อความ

พอเพียง




“ เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ใช้เฉพาะในภาคการเกษตรเท่านั้น แต่สามารถใช้ได้ในทุกด้าน ทั้ง

ในด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และในภาคธุรกิจ ซึ่งเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่
สามารถนำไปใช้ได้ และเป็นแนวทางนำพาไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนด้วย

โดยเศรษฐกิจพอเพียงในภาคธุรกิจนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะนำไปใช้ในรูปแบบใดและเข้าใจอย่าง
แท้จริงหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีหลายบริษัทนำไปใช้แล้วประสบความสำเร็จยกตัวอย่างเช่น
บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จากเดิมที่เป็นหนี้หลายหมื่นล้านบาท แต่ปัจจุบันธุรกิจขยายตัวอย่างต่อ
เนื่อง ทั้งนี้ ปัจจุบันโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย โดยเฉพาะระบบทุนนิยม ไม่
เว้นแม้กระทั่งประเทศไทยที่ถูกทุนนิยม และบริโภคนิยมเข้าครอบงำ กระตุ้นให้เกิดการบริโภค
อย่างไม่รู้จักพอ จนประเทศไทยแบกรับไม่ไหวและใกล้จะประสบปัญหาดังเช่นอดีตที่ผ่านมา

สิ่งที่ตามมาของทุนนิยมคือ ความไม่เสมอภาคในสังคม ซึ่งปัจจุบันจะสังเกตได้จากมี
กลุ่มหรือบุคคลที่รวยเฉพาะกลุ่มเท่านั้น โดยจะแสวงหาหนทางไปสู่ความร่ำรวยอย่างไม่รู้จัก
จบสิ้น หรือเรียกว่าไม่รู้จักพอ

ทุกวันนี้มีคนรวยมีมากมายแต่ส่วนใหญ่รวยอย่างเร่งร้อน ทำให้ในที่สุดต้องล่มสลาย
ซึ่งตรงกันข้ามกับเศรษฐกิจพอเพียงที่รวยแล้วต้องยั่งยืนอยู่อย่างมีความสุข ในขณะที่
คนรวยบางคนไม่มีความสุขแม้ว่าจะกินอาหารที่แพงๆ แล้วคิดว่ามีความสุข ก็ไม่ใช่ความสุข
อย่างแท้จริง อยู่ไปอีก 1-2 ก็จะล่มสลายไปเองดังนั้นต้องรู้จักพอ ตามทฤษฎีด้วย ไม่ใช่แค่ขึ้น
ป้ายใหญ่โตสนับสนุนความพอเพียง แต่บริษัทตนเองกลับไปนำไปทำตามเป็นแบบอย่าง

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ปาฐกถาพิเศษเรื่อง ร่วมใจเรียนรู้
เศรษฐกิจพอเพียง:การปรับใช้เศรษฐกิจพอเพียงในภาคธุรกิจ ที่โรงแรมอิมพิเรียลแม่ปิง
จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2549


“ แน่นอนว่าถ้าเรานำหลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
มาประยุกต์ใช้กับการลงทุนแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นเศรษฐีที่รวย
ไปด้วยทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่อย่างน้อยเราก็เป็น
เศรษฐีพอเพียงที่รู้จักถึงความพอดีเพียงพอในทรัพย์สินและ
ความสุขที่มีอยู่นั่นเอง

Reference

วลีเด็ดจาก วอร์เรนต์ บัฟเฟตต์ – EasyTrade by you

(easytradebyu.com)

https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/231

-the-importance-of-investment-asset-allocation

แต่ละสินทรัพย์การเงิน ให้ผลตอบแทนเท่าไร? -

FINNOMENA

https://mgronline.com/mutualfund/detail/95000001546

64

ใช้เงินอย่างไรให้รวยแบบบิล เกตส์ - 7dbook

พ่อหลวงผู้เป็นต้นแบบแห่ง“ การออม ” - เฮงลิสซิ่ง

ความจริง ความคิด : กฏทอง 10 ข้อของวอร์เรน บัฟเฟตต์ -

hoonsmart

จัดทำโดย
นายศิวัช แดงโกเมน 61070502215 MCE
นางสาวศศิกาญจน์ โชคตระกูล 61070502229 MCE


Click to View FlipBook Version