เฉลยปญั หาวชิ าธรรม ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ระดบั การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทิตยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถูกท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ธรรมขอ้ ใด สาํ หรบั ป้องกนั ความผดิ พลาดในการทาํ งาน ? ๒๖. ขอ้ ใด ไม่จดั เป็นสทั ธา ในพละ ๕ ?
ก. สตสิ มั ปชญั ญะ ข.หริ โิ อตตปั ปะ ค.ขนั ตโิ สรจั จะ ง. กตญั �ูกตเวที ก. เช่ือวา่ โลกกลม ข. เช่อื กรรม ค. เช่อื ผลกรรม ง. เช่อื การตรสั รู้
๒. ความระลกึ ได้ ก่อนทาํ พูดคดิ เป็นลกั ษณะของธรรมขอ้ ใด ? ๒๗. ผูป้ ระมาทเลนิ เลอ่ ทาํ อะไรผดิ พลาดอยู่เสมอ ควรเจรญิ พลธรรมใด ?
ก. สติ ข. สมั ปชญั ญะ ค. หริ ิ ง. โอตตปั ปะ ก. สทั ธา ข. วริ ยิ ะ ค. สติ ง. สมาธิ
๓. คนขาดศีลธรรม เพราะไมม่ ธี รรมใดเป็นพ้นื ฐาน ? ๒๘. ธรรมเป็นทต่ี งั้ แห่งความระลกึ ถงึ กนั ช่อื วา่ อะไร ?
ก. สตสิ มั ปชญั ญะ ข. หริ โิ อตตปั ปะ ค. ขนั ตโิ สรจั จะ ง. กตญั �ูกตเวที ก. คารวธรรม ข. สาราณิยธรรม ค. อปรหิ านิยธรรม ง. ฆราวาสธรรม
๔. คนมโี อตตปั ปะ มลี กั ษณะเช่นใด ? ๒๙. เคารพในหลกั ประชาธปิ ไตย สงเคราะหเ์ ขา้ ในสาราณิยธรรมขอ้ ใด ?
ก. กลวั ผลของบาป ข. กลวั เสยี ช่อื เสยี ง ค. กลวั โจร ง. กลวั ถกู จบั ก. เมตตากายกรรม ข. สาธารณโภคี ค. สลี สามญั ญตา ง. ทฏิ ฐสิ ามญั ญตา
๕. ความงามอะไร ไม่ข้นึ อยู่กบั กาลเวลา ? ๓๐. การพดู เช่นใด สงเคราะหเ์ ขา้ ในเมตตาวจกี รรม ?
ก. งามเส้อื ผา้ ข. งามรูปร่าง ค. งามกริ ยิ ามารยาท ง. งามคณุ ธรรม ก. เสยี งดงั ฟงั ชดั ข. อกั ขระถกู ตอ้ ง ค. เสยี งกอ้ งกงั วาล ง. สมานไมตรี
๖. เหตใุ หเ้กดิ ขนั ตโิ สรจั จะ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๑. ชา้ ๆ ไดพ้ รา้ เลม่ งาม ใชไ้ ดก้ บั สปั ปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด ?
ก. มองโลกในแงด่ ี ข. มใี จหนกั แน่นดุจแผ่นดนิ ค. แผ่เมตตา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. รูจ้ กั ตน ข. รูจ้ กั คน ค. รูจ้ กั ประมาณ ง. รูจ้ กั กาล
๗. ขอ้ ใด เป็นความหมายของกตเวที ? ๓๒. รูจ้ กั ปรบั ตวั เขา้ กบั วฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ จดั เขา้ ในสปั ปรุ สิ ธรรมใด ?
ก. ทดแทนบญุ คณุ ข. เก้อื กูลผูอ้ น่ื ค. รูจ้ กั บญุ คณุ ง. ทาํ คณุ ไวก้ ่อน ก. รูจ้ กั เหตุ ข. รูจ้ กั ผล ค. รูจ้ กั ชมุ ชน ง. รูจ้ กั คน
๘. มารดาบดิ าถกู ทอดท้งิ เพราะบตุ รขาดคณุ ธรรมใด ? ๓๓. หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง สงเคราะหเ์ ขา้ ในสปั ปรุ สิ ธรรมใด ?
ก. หริ โิ อตตปั ปะ ข. ขนั ตโิ สรจั จะ ค. เมตตากรณุ า ง. กตญั �ูกตเวทติ า ก. รูจ้ กั ประมาณ ข. รูจ้ กั กาล ค. รูจ้ กั ตน ง. รูจ้ กั ชมุ ชน
๙. การประพฤตชิ วั่ ทางกาย วาจา ใจ เรยี กวา่ อะไร ? ๓๔. อย่าชงิ สุกก่อนห่าม จดั เขา้ ในสปั ปรุ สิ ธรรมใด ?
ก. อกศุ ลมลู ข. ทจุ รติ ค. บาป ง. มลทนิ ก. ธมั มญั �ุตา ข. อตั ถญั �ตุ า ค. อตั ตญั �ตุ า ง. กาลญั �ตุ า
๑๐. คนตม้ ตนุ๋ หลอกลวง ชอ่ื ว่าประพฤตวิ จที จุ รติ ขอ้ ใด ? ๓๕. นกนอ้ ยทาํ รงั แต่พอตวั จดั เขา้ ในสปั ปรุ สิ ธรรมใด ?
ก. พูดเทจ็ ข. พูดส่อเสยี ด ค. พดู คาํ หยาบ ง. พดู เพอ้ เจอ้ ก. อตั ถญั �ุตา ข. มตั ตญั �ตุ า ค. อตั ตญั �ตุ า ง. ปรสิ ญั �ตุ า
๑๑. ขอ้ ใด เป็นผลของการพูดคาํ หยาบ ? ๓๖. โลกธรรม ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. แตกสามคั คี ข. ทาํ ใหเ้ จบ็ ใจ ค. ขาดคนเชอ่ื ถอื ง. ขาดคนรกั ใคร่ ก.ธรรมคมุ้ ครองโลก ข.ธรรมประจาํ โลก ค.ธรรมเหนอื โลก ง.ธรรมรกั ษาโลก
๑๒. ถงึ บางพดู พดู ดเี ป็นศรศี กั ด์ิ มคี นรกั รสถอ้ ยอร่อยจติ ตรงกบั สจุ รติ ขอ้ ใด ? ๓๗. โลกธรรม แบ่งออกเป็นกฝ่ี ่าย ?
ก. ไมพ่ ดู เทจ็ ข. ไม่พูดคาํ หยาบ ค. ไม่พูดส่อเสยี ด ง. ไมพ่ ูดเพอ้ เจอ้ ก. ๒ ข. ๔ ค. ๖ ง. ๘
๑๓. เหน็ ไมผ่ ดิ จากคลองธรรม ไดแ้ ก่เหน็ เช่นไร ? ๓๘. ธรรมทค่ี รอบงาํ สตั วโ์ ลกฝ่ายทน่ี ่ายนิ ดี เรยี กว่าอะไร ?
ก. ทาํ ดไี ดด้ ี ข. ทาํ ชวั่ ไดด้ ี ค. บาปบญุ ไม่มี ง. ตายแลว้ สูญ ก. อฏิ ฐารมณ์ ข. อนฏิ ฐารมณ์ ค. กศุ ล ง. อกศุ ล
๑๔. ขอ้ ใด เป็นความหมายของคาํ วา่ บญุ ? ๓๙. เมอ่ื ถกู โลกธรรมครอบงาํ ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ?
ก. ตดั กรรม ข. ชําระกเิ ลส ค. กาํ จดั ภยั ง. ฝึกตน ก. ไม่เศรา้ โศก ข. ไม่ยนิ ดยี นิ รา้ ย ค. ไมเ่ พลดิ เพลนิ ง. ไมป่ ระมาท
๑๕. การใหท้ าน มจี ดุ ม่งุ หมายเพอ่ื กาํ จดั กเิ ลสใด ? ๔๐. ขอ้ ใด มโี ลกธรรมทงั้ ฝ่ายอฏิ ฐารมณแ์ ละอนฏิ ฐารมณ์ ?
ก. โลภะ ข. โทสะ ค. โมหะ ง. มานะ ก. สขุ ทกุ ข์ ข. ลาภ ยศ ค. นนิ ทา ง. สรรเสรญิ
๑๖. ผูป้ รารถนาจะไมม่ เี วรภยั กบั ใคร ควรบาํ เพญ็ บญุ กริ ยิ าวตั ถขุ อ้ ใด ? ๔๑. อตั ถจรยิ าในสงั คหวตั ถุ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ใหท้ าน ข. รกั ษาศีล ค. เจรญิ ภาวนา ง. ฟงั ธรรม ก. โอบออ้ มอารยี ์ ข. วจไี พเราะ ค. สงเคราะหช์ มุ ชน ง. วางตนพอดี
๑๗. ธรรมเป็นเครอ่ื งนาํ ไปสู่ความเจรญิ เรยี กว่าอะไร ? ๔๒. สมานตั ตตา มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อรยิ สจั ๔ ข. จกั ร ๔ ค. อทิ ธบิ าท ๔ ง. ปธาน ๔ ก. โอบออ้ มอารยี ์ ข. วจไี พเราะ ค. สงเคราะหช์ มุ ชน ง. วางตนพอดี
๑๘. ประพฤตเิ ช่นไร ชอ่ื ว่าตง้ั ตนไวช้ อบ ? ๔๓. สงั คหวตั ถุ เป็นธรรมสง่ เสรมิ ใหเ้กดิ ประโยชนใ์ ด ?
ก. ละชวั่ ทาํ ดี ข. อยู่ในทเ่ี หมาะสม ค. มกี ลั ยาณมติ ร ง. มจี ติ อาสา ก. ความสาํ เร็จ ข. ความเจรญิ ค. ความสามคั คี ง. ความมนั่ คง
๑๙. อคตเิ ป็นธรรมทบ่ี คุ คลใด ไมค่ วรประพฤติ ? ๔๔. ปรุ ตั ถมิ ทศิ คอื ทศิ เบ้อื งหนา้ หมายถงึ ใคร ?
ก. ทหาร ข. ตาํ รวจ ค. ผูพ้ พิ ากษา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. มารดาบดิ า ข. ครูอาจารย์ ค. สมณพราหมณ์ ง. มติ รสหาย
๒๐. ผูต้ ดั สนิ คดดี ว้ ยความเกลยี ดชงั ชอ่ื วา่ ตง้ั อยู่ในอคตขิ อ้ ใด ? ๔๕. ทกั ขณิ ทศิ คอื ทศิ เบ้อื งขวา หมายถงึ ใคร ?
ก. ฉนั ทาคติ ข. โทสาคติ ค. โมหาคติ ง. ภยาคติ ก. มารดาบดิ า ข. ครูอาจารย์ ค. สมณพราหมณ์ ง. มติ รสหาย
๒๑. ในอรยิ สจั ๔ ความไมส่ บายกาย ไม่สบายใจ เรยี กว่าอะไร ? ๔๖. ปจั ฉิมทศิ ทศิ เบ้อื งหลงั หมายถงึ ใคร ?
ก. ทกุ ข์ ข. สมทุ ยั ค. นโิ รธ ง. มรรค ก. มารดาบดิ า ข. ครูอาจารย์ ค. ภรรยา ง. มติ รสหาย
๒๒. ในอรยิ สจั ๔ ทกุ ขท์ ง้ั หลายเกดิ ข้นึ เพราะอะไรเป็นเหตุ ? ๔๗. ขอ้ ใด เป็นหนา้ ทข่ี องศษิ ยท์ พ่ี งึ ปฏบิ ตั ติ ่ออาจารย์ ?
ก. ความโกรธ ข. ตณั หา ค. พยาบาท ง. ความรกั ก. ยนื ตอ้ นรบั ข. รกั ษาทรพั ย์ ค. แนะนาํ ดี ง. จดั การงานดี
๒๓. ความดบั ตณั หาไดส้ ้นิ เชงิ ทกุ ขด์ บั ไปหมด ชอ่ื วา่ อะไร ? ๔๘. ขอ้ ใด เป็นหนา้ ทข่ี องมารดาบดิ า ?
ก. ทกุ ข์ ข. สมทุ ยั ค. นิโรธ ง. มรรค ก. ใหท้ าํ ความดี ข. แนะนาํ ดี ค. บอกทางสวรรค์ ง. ยกย่อง
๒๔. มชั ฌมิ าปฏปิ ทา คอื ทางสายกลาง ตรงกบั อรยิ สจั ๔ ขอ้ ใด ? ๔๙. ขอ้ ใด เป็นหนา้ ทข่ี องมติ รทพ่ี งึ ปฏบิ ตั ติ ่อกนั ?
ก. ทกุ ข์ ข. สมทุ ยั ค. นิโรธ ง. มรรค ก. เชอ่ื ฟงั ข. ช่วยทาํ กจิ ค. ไม่ท้งิ กนั ง. แนะนาํ ดี
๒๕. ธรรมทท่ี าํ ใหเ้กดิ กาํ ลงั ทางใจ เรยี กว่าอะไร ? ๕๐. ขอ้ ใด เป็นหนา้ ทข่ี องทศิ เบ้อื งบน คอื สมณพราหมณ์ ?
ก. อทิ ธบิ าทธรรม ข. จกั รธรรม ค. อธษิ ฐานธรรม ง. พลธรรม ก. ใหม้ รดก ข. ใหเ้รยี นดี ค. บอกทางสวรรค์ ง. ยกย่อง
เฉลยปญั หาวิชาพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ชน้ั การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทติ ยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐-๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน )
๑. ประชาชนในชมพทู วปี แบ่งเป็นกช่ี นชาติ ? ๒๖. การบาํ เพญ็ เพยี รเพอ่ื ทาํ ใหต้ นลาํ บาก เรยี กว่าอะไร ?
ก. ๑ ชนชาติ ข. ๒ ชนชาติ ค. ๓ ชนชาติ ง. ๔ ชนชาติ ก. กาลกริ ยิ า ข. อกาลกริ ยิ า ค. ทกุ รกริ ิยา ง. บญุ กริ ยิ า
๒. ประเทศใด เคยเป็นดนิ แดนชมพูทวปี ? ๒๗. สตรใี ด ถวายขา้ วมธุปายาสแก่พระมหาบรุ ษุ ในวนั ตรสั รู้ ?
ก. อซุ เบกสิ ถาน ข. คาซคั สถาน ค. อฟั กานิสถาน ง. ครี ก์ ซี สถาน ก. ปชาบดี ข. สชุ าดา ค. วสิ าขา ง. รูปนนั ทา
๓. แควน้ ใหญ่ในชมพูทวปี แบ่งเป็นกแ่ี ควน้ ? ๒๘. บคุ คลประเภทใด มปี ญั ญาปานกลางเปรยี บเหมอื นบวั เสมอนาํ้ ?
ก. ๑๕ แควน้ ข. ๑๖ แควน้ ค. ๑๗ แควน้ ง. ๑๘ แควน้ ก. อคุ ฆตติ ญั �ู ข. วปิ จติ ญั �ู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ
๔. ขอ้ ใด ไม่นบั เขา้ ในวรรณะ ๔ ? ๒๙. ระหวา่ งทางเสดจ็ ไปป่าอสิ ปิ ตนมฤคทายวนั พระพทุ ธเจา้ พบใคร ?
ก. พราหมณ์ ข. แพศย์ ค. ศูทร ง. จณั ฑาล ก. ดาบส ข. ปรพิ าชก ค. ฤษี ง. อาชีวก
๕. พราหมณแ์ ต่งงานกบั แพศย์ บตุ รธดิ าทเ่ี กดิ มาเรยี กวา่ อะไร ? ๓๐. พระภกิ ษุรูปแรกในพระพทุ ธศาสนา ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. พราหมณ์ ข. แพศย์ ค. ศูทร ง. จณั ฑาล ก. โกณฑญั ญะ ข. วปั ปะ ค. ภทั ทยิ ะ ง. มหานามะ
๖. ในชมพูทวปี แบง่ คนออกเป็นกว่ี รรณะ ? ๓๑. ในอนตั ตลกั ขณสูตร พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงสง่ิ ใดว่าเป็นอนตั ตา ?
ก. ๒ วรรณะ ข. ๔ วรรณะ ค. ๖ วรรณะ ง. ๘ วรรณะ ก. มรรค ๘ ข. ขนั ธ์ ๕ ค. อรยิ สจั ๔ ง. ธาตุ ๔
๗. วรรณะใด มหี นา้ ทท่ี าํ กสกิ รรม ? ๓๒. หลงั ฟงั อนตั ตลกั ขณสูตร ปญั จวคั คยี ไ์ ดเ้ป็นพระอรยิ บคุ คลชนั้ ใด ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๘. ความเช่อื ในเรอ่ื งความตายของคนในชมพูทวปี โดยสรปุ มกี อ่ี ย่าง ? ๓๓. พระพทุ ธเจา้ ทรงส่งสาวกไปประกาศพระศาสนาครง้ั แรก ก่อี งค์ ?
ก. ๒ อยา่ ง ข. ๔ อย่าง ค. ๖ อย่าง ง. ๘ อย่าง ก. ๔๕ องค์ ข. ๕๐ องค์ ค. ๕๕ องค์ ง. ๖๐ องค์
๙. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด เป็นพระราชบดิ าของพระเจา้ สุทโธทนะ ? ๓๔. ชฎลิ ๓ พน่ี อ้ ง ตงั้ อาศรมอยู่ในเขตเมอื งใด ?
ก. โอกกากราช ข. ชยั เสนะ ค. สหี หนุ ง. อญั ชนะ ก. กบลิ พสั ดุ์ ข. สาวตั ถี ค. ราชคฤห์ ง. พาราณสี
๑๐. พระนางมายา เป็นราชธดิ าของกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๓๕. หลงั ฟงั อาทติ ตปรยิ ายสูตร มภี กิ ษุบรรลเุ ป็นพระอรหนั ตก์ ่อี งค์ ?
ก. โอกกากราช ข. ชยั เสนะ ค. สหี หนุ ง. อญั ชนะ ก. ๕๐๐ องค์ ข. ๑,๐๐๐ องค์ ค. ๑,๐๐๓ องค์ ง. ๑,๒๕๐ องค์
๑๑. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ อบุ ตั ใิ นชมพูทวปี ก่อนพทุ ธศกั ราชกป่ี ี ? ๓๖. พระเจา้ พมิ พสิ ารพรอ้ มดว้ ยบรวิ าร ไดด้ วงตาเหน็ ธรรมกน่ี หตุ ?
ก. ๖๐ ปี ข. ๘๐ ปี ค. ๑๐๐ ปี ง. ๑๒๐ ปี ก. ๑๐ นหตุ ข. ๑๑ นหตุ ค. ๑๒ นหตุ ง. ๑๓ นหตุ
๑๒. พระโพธสิ ตั ว์ ถอื ปฏสิ นธใิ นพระครรภข์ องพระนางใด ? ๓๗. อทุ ยานใด ทพ่ี ระเจา้ พมิ พสิ ารถวายใหเ้ป็นสงั ฆาวาส ?
ก. สริ มิ หามายา ข. ปชาบดี ค. ปมติ า ง. อมติ า ก. ลมุ พนิ วี นั ข. เวฬวุ นั ค. เชตวนั ง. อมั พวนั
๑๓. พระโพธสิ ตั วป์ ระสูติ ณ ทใ่ี ด ? ๓๘. จาตรุ งคสนั นบิ าต เกดิ ข้นึ ในวนั เพญ็ เดอื นใด ?
ก. ลมุ พนิ ีวนั ข. เวฬวุ นั ค. เชตวนั ง. ลฏั ฐวิ นั ก. เดอื น ๓ ข. เดอื น ๖ ค. เดอื น ๘ ง. เดอื น ๑๒
๑๔. ธรรมเนียมสตรใี นชมพูทวปี เมอ่ื จะคลอดบตุ รตอ้ งไป ณ ทใ่ี ด ? ๓๙. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ โปรดพทุ ธบดิ า ทเ่ี มอื งใด ?
ก. สกลุ สามี ข. สกลุ เดิม ค. ในป่า ง. ในสวน ก. เทวทหะ ข. กบลิ พสั ดุ์ ค. พาราณสี ง. สาวตั ถี
๑๕. อสติ ดาบสเขา้ เยย่ี ม เมอ่ื พระโพธสิ ตั วป์ ระสูตไิ ดก้ ว่ี นั ? ๔๐. พระพทุ ธเจา้ ทรงปลงพระชนมายสุ งั ขาร ณ ทใ่ี ด ?
ก. ๑ วนั ข. ๓ วนั ค. ๕ วนั ง. ๗ วนั ก. ปาวาลเจดยี ์ ข. รตั นฆรเจดยี ์ ค. อนมิ สิ เจดยี ์ ง. ปาสาณเจดยี ์
๑๖. พระโพธสิ ตั วไ์ ดร้ บั การขนานพระนาม เมอ่ื ประสูตไิ ดก้ ่วี นั ? ๔๑. ระเบยี บแบบแผนทพ่ี งึ ปฏบิ ตั ใิ นทางพระพทุ ธศาสนา ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ๑ วนั ข. ๓ วนั ค. ๕ วนั ง. ๗ วนั ก. ศาสนบคุ คล ข. ศาสนธรรม ค. ศาสนวตั ถุ ง. ศาสนพธิ ี
๑๗. พระโพธสิ ตั วไ์ ดร้ บั การขนานพระนามว่าอย่างไร ? ๔๒. องคป์ ระกอบของพระพทุ ธศาสนาทเ่ี ป็นหลกั คาํ สอน เรยี กว่าอะไร ?
ก. สทิ ธตั ถะ ข. นนั ทะ ค. อานนท์ ง. อนุรทุ ธะ ก. ศาสดา ข. ศาสนธรรม ค. ศาสนวตั ถุ ง. ศาสนพธิ ี
๑๘. พระนางสริ มิ หามายาทวิ งคต เมอ่ื ประสูตพิ ระราชโอรสไดก้ ว่ี นั ? ๔๓. การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ นยิ มทาํ มาตง้ั แต่สมยั ใด ?
ก. ๓ วนั ข. ๕ วนั ค. ๗ วนั ง. ๙ วนั ก. พทุ ธกาล ข. สโุ ขทยั ค. อยธุ ยา ง. ธนบรุ ี
๑๙. สทิ ธตั ถราชกมุ าร ทรงอภเิ ษกสมรสกบั เจา้ หญงิ พระองคใ์ ด ? ๔๔. พระอรหนั ต์ ๑,๒๕๐ องค์ มาประชมุ พรอ้ มกนั ในวนั ใด ?
ก. อมติ า ข. ปมติ า ค. พมิ พา ง. รูปนนั ทา ก. มาฆบูชา ข. วสิ าขบชู า ค. อฏั ฐมบี ชู า ง. อาสาฬหบูชา
๒๐. พระนางพมิ พา ประสูตพิ ระโอรสพระนามว่าอะไร ? ๔๕. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ ิพพาน ตรงกบั วนั ใด ?
ก. ราหลุ ข. สมุ นะ ค. สขุ ะ ง. สงั กจิ จะ ก. มาฆบูชา ข. วสิ าขบูชา ค. อาสาฬหบชู า ง. อฏั ฐมบี ชู า
๒๑. สทิ ธตั ถราชกมุ ารเสดจ็ ออกบรรพชา เมอ่ื พระชนมายุก่ปี ี ? ๔๖. พระรตั นตรยั เกดิ ข้นึ ครบบรบิ รู ณใ์ นวนั ใด ?
ก. ๑๖ ปี ข. ๒๙ ปี ค. ๓๕ ปี ง. ๘๐ ปี ก. มาฆบูชา ข. วสิ าขบชู า ค. อาสาฬหบูชา ง. อฏั ฐมบี ูชา
๒๒. สทิ ธตั ถราชกมุ ารตดั สนิ พระทยั ออกผนวช เพราะเหน็ อะไร ? ๔๗. ในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา พทุ ธบรษิ ทั ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ?
ก. เทวดา ข. เทวทูต ค. พระพรหม ง. พระอนิ ทร์ ก. ถวายทาน ข. สมาทานศีล ค. เจรญิ ภาวนา ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๓. ผูใ้ ด ถวายบาตรพระมหาบรุ ษุ ในวนั ออกผนวช ? ๔๘. ทาน มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. มหาพรหม ข. ฆฏกิ ารพรหม ค. สหมั บดพี รหม ง. ทา้ วสกั กะ ก. การให้ ข. สมาทานศีล ค. ฟงั ธรรม ง. เจรญิ ภาวนา
๒๔. สทิ ธตั ถราชกมุ ารทรงอธษิ ฐานเพศเป็นบรรพชติ ทฝ่ี งั่ แม่นาํ้ ใด ? ๔๙. อมิ านิ มะยงั ภนั เต ภตั ตานิ ... เป็นคาํ กลา่ วอะไร ?
ก. เนรญั ชรา ข. อโนมา ค. คงคา ง. ยมนุ า ก. ถวายสงั ฆทาน ข. อาราธนาศีล ค. อาราธนาธรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๕. พระมหาบรุ ุษสาํ เร็จสมาบตั ิ ๗ ทส่ี าํ นกั อาจารยใ์ ด ? ๕๐. การอาราธนาธรรม เป็นการนมิ นตพ์ ระภกิ ษุใหท้ าํ อะไร ?
ก. อสติ ดาบส ข. วศิ วามติ ร ค. อาฬารดาบส ง. อทุ ทกดาบส ก. สวดมนต์ ข. บงั สกุ ลุ ค. แสดงธรรม ง. รบั สงั ฆทาน
เฉลยปญั หาวชิ าเบญจศีลเบญจธรรม (วนิ ยั ) ธรรมศึกษาชน้ั ตรี การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทติ ยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว ระบายในกระดาษคาํ ตอบใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. เคร่อื งป้องกนั ไมใ่ หท้ าํ ชวั่ ทางกาย วาจา เรยี กวา่ อะไร ? ๒๖. ขอ้ ใด เป็นความผดิ อนุโลมเขา้ ในมสุ าวาท ?
ก. ทาน ข. ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา ก. โวหาร ข. สาํ คญั ผดิ ค. พลงั้ ง. คนื คาํ
๒. ขอ้ ใด เป็นพ้นื ฐานการทาํ ความดี ? ๒๗. มสุ าวาทา เวระมณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ เป็นศีลขอ้ ใด ?
ก. รกั ษาศีล ข. ใหท้ าน ค. เจรญิ สมาธิ ง. แสวงหาความรู้ ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๓. การรกั ษาศีล เป็นการปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ใด ? ๒๘. มสุ า ในคาํ วา่ มสุ าวาท ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ หา้ ม ข. กฎเกณฑ์ ค. ระเบยี บ ง. ขอ้ บงั คบั ก. ความเหน็ ผดิ ข. ความเทจ็ ค. ความเหน็ ถกู ง. ความจรงิ
๔. ศีล ทแ่ี ปลว่า ปกติ มงุ่ ถงึ ศีลประเภทใด ? ๒๙. ปฏสิ สวะ การไม่ปฏบิ ตั ติ ามคาํ ทพ่ี ดู เป็นความผดิ ศีลขอ้ ใด ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๒๒๗ ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔
๕. ศีลขอ้ ๑ มงุ่ สง่ เสรมิ ใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั มิ คี ุณธรรมใด ? ๓๐. ขอ้ ใด เป็นการโกหกทางกาย ?
ก. เมตตา กรุณา ข. สมั มาอาชวี ะ ค. สจั จะ ง. สติ ก. ปลอมแปลงเอกสาร ข. ใหก้ ารเทจ็ ค. จงใจกลา่ วเทจ็ ง. พดู คาํ เทจ็
๖. ศีลขอ้ ใด ทาํ ใหเ้หน็ ว่าชวี ติ เป็นสง่ิ มคี ณุ ค่า ? ๓๑. พูดมสุ าอาศยั มลู เดมิ แต่เสรมิ ใหม้ ากกวา่ ทเ่ี ป็นจรงิ เรยี กวา่ อะไร ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. กลบั คาํ ข. ยกย่อง ค. เสรมิ ความ ง. อาํ ความ
๗. ขอ้ ใด อนุโลมเขา้ ในการทาํ ปาณาตบิ าต ? ๓๒. ขอ้ ใด เป็นผลดจี ากการไม่ทาํ ผดิ ศีลขอ้ ๔ ?
ก. ทาํ รา้ ยจติ ใจ ข. ทาํ รา้ ยร่างกาย ค. ทาํ ลายทรพั ยส์ นิ ง. ทาํ ลายช่อื เสยี ง ก. น่าเช่ือถอื ข. อายยุ นื ค. สุขภาพดี ง. ไม่หลงลมื
๘. คาํ วา่ ทรกรรม ไดแ้ ก่ การประพฤตเิ ห้ยี มโหดแก่ใคร ? ๓๓. สง่ิ เสพตดิ ใหโ้ ทษ เช่น ยาบา้ ยาไอซ์ เกย่ี วขอ้ งกบั ศีลขอ้ ใด ?
ก. เดก็ ข. สตรี ค. คนชรา ง. สตั ว์ ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๙. ขอ้ ใด จดั เขา้ ในลกั ษณะแห่งปาณาตบิ าต ? ๓๔. ขอ้ ใด ตอ้ งงดเวน้ ในการรกั ษาศีลขอ้ ๕ ?
ก. ฆ่า ข. ทาํ รา้ ยร่างกาย ค. ทรกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ฆ่าสตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. พูดเทจ็ ง. เสพของมึนเมา
๑๐. ยงิ นกตกปลาลา่ สตั วเ์ พอ่ื ความสาํ ราญ เป็นทรกรรมประเภทใด ? ๓๕. เลกิ เหลา้ แลว้ รวย เกดิ จากการรกั ษาศีลขอ้ ใด ?
ก. ใชก้ าร ข. ผจญสตั ว์ ค. นาํ ไป ง. เลน่ สนุก ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๑๑. ศีลขอ้ ๒ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ป้องกนั การทาํ ผดิ เร่อื งใด ? ๓๖. ขอ้ ใด เป็นความประพฤตเิ สยี หายเพราะดม่ื นาํ้ เมา ?
ก. ชวี ติ ข. ทรพั ยส์ นิ ค. ร่างกาย ง. จติ ใจ ก. ทาํ ลายขา้ วของ ข. ทบุ ตผี ูอ้ น่ื ค. ทะเลาะววิ าท ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๒. การสลบั ของดไี วก้ บั ตน ใหข้ องไมด่ แี ก่คนอน่ื เรยี กว่าอะไร ? ๓๗. ขอ้ ใด ไมจ่ ดั เป็นของมนึ เมาในศีลขอ้ ท่ี ๕ ?
ก. กรรโชก ข. สบั เปล่ยี น ค. เบยี ดบงั ง. ตระบดั ก. เบยี ร์ ข. ยาดองเหลา้ ค. กาแฟ ง. ยาบา้
๑๓. สวญิ ญาณกทรพั ยใ์ นศีลขอ้ ท่ี ๒ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๘. อาการเช่นใด เกดิ จากการดม่ื นาํ้ เมา ?
ก. บา้ น ข. รถยนต์ ค. ตน้ ไม้ ง. สตั วเ์ ล้ยี ง ก. มนึ งง ข. อาเจยี น ค. ความดนั โลหติ สูง ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๔. ขอ้ ใด อนุโลมเขา้ ในการทาํ โจรกรรม ? ๓๙. ขอ้ ใด เป็นโทษเกดิ จากการทาํ ความผดิ ศีลขอ้ ๕ ?
ก. ลกั ข. ปลน้ ค. ฉก ง. รบั สนิ บน ก. อายุสนั้ ข. ยากจน ค. เสยี สตั ย์ ง. บนั่ ทอนปญั ญา
๑๕. พดู โกหกใหโ้ อนเงนิ เป็นโจรกรรมประเภทใด ? ๔๐. การช่วยเหลอื ผูป้ ระสบภยั ๑๓ คน ในถาํ้ หลวง จดั เป็นกลั ยาณธรรมขอ้ ใด ?
ก. ข่กู รรโชก ข. ฉอ้ โกง ค. หลอก ง. ลอ่ ลวง ก. ความมเี มตตา ข. ความมีกรุณา ค. ความมสี ตั ย์ ง. ความมสี ติ
๑๖. ขายสนิ คา้ ลอกเลยี นแบบ เป็นโจรกรรมประเภทใด ? ๔๑. สามภี รรยาจะไวว้ างใจต่อกนั ตอ้ งประพฤตกิ ลั ยาณธรรมขอ้ ใด ?
ก. ปลอม ข. ฉอ้ โกง ค. หลอก ง. ลอ่ ลวง ก. ความมเี มตตา ข. ความมสี ติ ค. สมั มาอาชวี ะ ง. กามสงั วร
๑๗. กูเ้งนิ ไปไม่ยอมใชค้ นื เป็นโจรกรรมประเภทใด ? ๔๒. รกั นวลสงวนตวั มคี วามหมายสอดคลอ้ งกบั กลั ยาณธรรมขอ้ ใด ?
ก. ลกั ข. ฉอ้ ค. หลอก ง. ลอ่ ลวง ก. สมั มาอาชวี ะ ข. กามสงั วร ค. ความซอ่ื ตรง ง. ความไม่ประมาท
๑๘. วง่ิ ราวทรพั ยผ์ ูอ้ น่ื เป็นโจรกรรมประเภทใด ? ๔๓. ไม่หลอกลวงเพอ่ื นทง้ั ต่อหนา้ และลบั หลงั เป็นความมสี ตั ยใ์ นเรอ่ื งใด ?
ก. ลกั ข. ฉก ค. กรรโชก ง. ปลน้ ก. ความเทย่ี งธรรม ข. ความซ่ือตรง ค. ความกตญั �ู ง. สวามภิ กั ด์ิ
๑๙. ศีลขอ้ ท่ี ๓ ตอ้ งการใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั เิ ป็นคนเช่นไร ? ๔๔. นายใหย้ ศผูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชาดว้ ยความยตุ ธิ รรม เป็นความมสี ตั ยใ์ นเรอ่ื งใด ?
ก. พูดความจรงิ ข. ไมน่ อกใจคูค่ รอง ค. มเี มตตา ง. ทาํ งานสุจรติ ก. ความเทย่ี งธรรม ข. ความซอ่ื ตรง ค. ความกตญั �ู ง. สวามภิ กั ด์ิ
๒๐. การประพฤตผิ ดิ ประเวณี เป็นการลว่ งละเมดิ ศีลขอ้ ใด ? ๔๕. ความมสี ตริ อบคอบ เป็นอปุ การะแก่การรกั ษาศีลขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๒๑. กาเมสุมจิ ฉาจารา เวระมณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ เป็นศีลขอ้ ใด ? ๔๖. การละชวั่ ทาํ ความดี ทาํ จติ ใหส้ ะอาด เป็นความรอบคอบในเรอ่ื งใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. การบรโิ ภค ข. การศึกษา ค. การทาํ งาน ง. การปฏบิ ตั ธิ รรม
๒๒. ศีลขอ้ ท่ี ๓ ใหง้ ดเวน้ เรอ่ื งใด ? ๔๗. ใชจ้ ่ายแต่พอเพยี ง เป็นความรอบคอบในเรอ่ื งใด ?
ก. ผิดประเวณี ข. ฆ่าสตั ว์ ค. ดม่ื สุราเมรยั ง. พูดเทจ็ ก. การบริโภค ข. การศึกษา ค. การทาํ งาน ง. การปฏบิ ตั ธิ รรม
๒๓. คาํ ว่า ภรรยา ไดแ้ ก่หญงิ ประเภทใด ? ๔๘. ขอ้ ใด ช่อื วา่ ไม่เลนิ เลอ่ ในการทาํ งาน ?
ก. หญงิ ไม่มสี ามี ข. หญงิ มีสามี ค. หญงิ หย่าสามี ง. หญงิ สามตี าย ก. ขยนั ทาํ กนิ ข. ไม่หมน่ิ เงนิ นอ้ ย ค. ไมค่ อยวาสนา ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๔. โรคใด เกดิ จากการทาํ ผดิ ศีลขอ้ ๓ ? ๔๙. ขอ้ ใด ทาํ บคุ คลใหเ้ป็นมนุษยท์ ส่ี มบรู ณ์ ?
ก. กามโรค ข. ไขห้ วดั ใหญ่ ค. มะเร็ง ง. ตบั แขง็ ก. ศีลธรรม ข. ทรพั ยส์ มบตั ิ ค. ยศศกั ด์ิ ง. พวกพอ้ ง
๒๕. อยากรกั เดยี วใจเดยี ว ไม่นอกใจคู่ครอง ควรรกั ษาศีลขอ้ ใด ? ๕๐. ขอ้ ใด เป็นประโยชนข์ องเบญจศีลเบญจธรรม ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. ไม่เดอื ดรอ้ น ข. ไมน่ อนเป็นทกุ ข์ ค. มแี ต่ความสขุ ใจ ง. ถกู ทกุ ขอ้
เฉลยปญั หาวิชาธรรมวภิ าค ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทติ ยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. กเิ ลสเป็นเหตใุ คร่ เรยี กวา่ อะไร ? ๒๖. เมอ่ื เหน็ ผูอ้ น่ื ประสบทกุ ข์ ควรเจรญิ อปั ปมญั ญาใด ?
ก. กามคุณ ข. กเิ ลสกาม ค. วตั ถกุ าม ง. กามฉนั ทะ ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา
๒. คนทต่ี ดิ ขอ้ งในกาม มอี าการเช่นไรปรากฏชดั ? ๒๗. อาวาสมจั ฉรยิ ะ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อจิ ฉาริษยา ข. หวั ด้อื ค. งมงายไรส้ าระ ง. ถอื พรรคถอื พวก ก. หวงทอ่ี ยู่ ข. หวงสกลุ ค. หวงลาภ ง. หวงวรรณะ
๓. อะไร จดั เป็นวตั ถกุ าม ? ๒๘. ธมั มมจั ฉรยิ ะ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ขนั ธ์ ๕ ข. กามคณุ ๕ ค. มจั ฉรยิ ะ ๕ ง. เวทนา ๕ ก. หวงวชิ า ข. หวงสกลุ ค. หวงลาภ ง. หวงวรรณะ
๔. สภาพทท่ี นไดง้ า่ ย หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๒๙. การกดี กนั ทางการคา้ จดั เขา้ ในมจั ฉรยิ ะใด ?
ก. สขุ ข. ทกุ ข์ ค. เวทนา ง. สงั ขาร ก. อาวาสมจั ฉรยิ ะ ข. กลุ มจั ฉรยิ ะ ค. ลาภมจั ฉริยะ ง. ธมั มมจั ฉรยิ ะ
๕. ความไม่มโี รคเป็นลาภอนั ประเสรฐิ จดั เป็นสุขประเภทใด ? ๓๐. อกศุ ลธรรมทค่ี รอบงาํ จติ ไม่ใหก้ า้ วข้นึ สูธ่ รรมชนั้ สูงข้นึ ไป ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. กายกิ สขุ ข. เจตสกิ สุข ค. สามสิ สขุ ง. นริ ามสิ สุข ก. มจั ฉรยิ ะ ข. นิวรณ์ ค. ตณั หา ง. มาร
๖. ความสุขเช่นไร จดั เป็นเจตสกิ สขุ ? ๓๑. คนทถ่ี กู ถนี มทิ ธะครอบงาํ เป็นโรคซมึ เศรา้ ควรแกด้ ว้ ยกมั มฏั ฐานใด ?
ก. ไดล้ าภ ข. ไดย้ ศ ค. ไมถ่ กู กเิ ลสครอบงาํ ง. ไมม่ โี รค ก. อนุสสติ ข. กสณิ ค. อสภุ ะ ง. พรหมวหิ าร
๗. ไฟใด ดบั ไดด้ ว้ ยเมตตา ? ๓๒. คนทม่ี คี วามสงสยั ในเร่อื งบาปบญุ เพราะจติ ถกู นวิ รณใ์ ดครอบงาํ ?
ก. ไฟราคะ ข. ไฟโทสะ ค. ไฟโมหะ ง. ไฟรษิ ยา ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท ค. ถนี มทิ ธะ ง. วจิ กิ จิ ฉา
๘. คนทถ่ี กู ไฟคอื โมหะครอบงาํ มกั มอี าการเช่นไร ? ๓๓. ขอ้ ใด กลา่ วความหมายของเวทนาไดช้ ดั เจนทส่ี ดุ ?
ก. รกั สวยรกั งาม ข. โกรธงา่ ย ค. เช่ืองา่ ย ง. มกั งา่ ย ก. ความรูส้ กึ ข. ความเจบ็ ปวด ค. ความสงสาร ง. ความเหน็ ใจ
๙. คนทไ่ี มร่ ูจ้ กั บญุ คณุ พ่อแม่ เพราะถกู ไฟชนดิ ใดแผดเผา ? ๓๔. ความสบายใจ มคี วามหมายตรงกบั เวทนาใด ?
ก. ไฟราคะ ข. ไฟโทสะ ค. ไฟโมหะ ง. ไฟตณั หา ก. สขุ เวทนา ข. โสมนสั เวทนา ค. อเุ บกขาเวทนา ง. ทกุ ขเวทนา
๑๐. ปจั จบุ นั ประเทศสว่ นใหญ่ ใชห้ ลกั อธปิ ไตยใด ปกครองประเทศ ? ๓๕. ความเสยี ใจของนกั กฬี าทไ่ี ม่ไดร้ บั เหรยี ญรางวลั จดั เป็นเวทนาใด ?
ก. อตั ตาธปิ ไตย ข. โลกาธิปไตย ค. ธมั มาธปิ ไตย ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ทกุ ขเวทนา ข. โสมนสั เวทนา ค. โทมนสั เวทนา ง. อเุ บกขาเวทนา
๑๑. สาํ นวนว่า ขา้ พเจา้ รบั ผดิ ชอบแต่เพยี งผูเ้ดยี ว จดั เขา้ ในอธปิ ไตยใด ? ๓๖. คนโกรธงา่ ย เป็นคนจรติ ใด ?
ก. อตั ตาธิปไตย ข. โลกาธปิ ไตย ค. ธมั มาธปิ ไตย ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. โทสจรติ ข. วติ กั กจรติ ค. สทั ธาจรติ ง. พทุ ธจิ รติ
๑๒. ประชาธปิ ไตยทแ่ี ทจ้ รงิ ม่งุ ประโยชนเ์ พอ่ื ใคร ? ๓๗. คนโกรธงา่ ย ควรแกด้ ว้ ยการเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. คนราํ่ รวย ข. คนยากจน ค. คนมอี าํ นาจ ง. ทกุ ๆ คน ก. อสุภะ ข. พรหมวหิ าร ค. กายคตาสติ ง. อนุสสติ
๑๓. ขอ้ ใด เป็นความหมายของญาณ ? ๓๘. คนโมหจรติ มลี กั ษณะเช่นไร ?
ก. สมาธชิ นั้ สูง ข. การบรรลธุ รรม ค. ปญั ญาหยงั่ รู้ ง. อทิ ธฤิ ทธ์ิ ก. เชอ่ื งา่ ย ข. โกรธงา่ ย ค. เครยี ดงา่ ย ง. งมงาย
๑๔. เมอ่ื ประสบความทกุ ข์ ควรทาํ อย่างไร ? ๓๙. คนโมหจรติ ควรแกด้ ว้ ยการเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. กาํ หนดรู้ ข. กาํ หนดละ ค. ทาํ ใหแ้ จง้ ง. ทาํ ใหเ้จรญิ ก. อสภุ ะ ข. พรหมวหิ าร ค. อานาปานสติ ง. เทวตานุสสติ
๑๕. เมอ่ื คน้ พบสาเหตขุ องความทกุ ขแ์ ลว้ ควรทาํ อย่างไร ? ๔๐. คนมคี วามรูช้ อบใชเ้หตผุ ล เป็นลกั ษณะของคนจรติ ใด ?
ก. กาํ หนดรู้ ข. กาํ หนดละ ค. ทาํ ใหแ้ จง้ ง. ทาํ ใหเ้จรญิ ก. วติ กั กจรติ ข. โทสจรติ ค. สทั ธาจรติ ง. พทุ ธิจรติ
๑๖. อยากไดโ้ ทรศพั ทม์ อื ถอื ทม่ี รี ูปลกั ษณส์ วยงาม จดั เป็นตณั หาประเภทใด ? ๔๑. อปรหิ านยิ ธรรม เป็นหลกั ธรรมสง่ เสรมิ ประเทศชาตใิ นเร่อื งใด ?
ก. กามตณั หา ข. ภวตณั หา ค. วภิ วตณั หา ง. กเิ ลสตณั หา ก. ความสามคั คี ข. ความมนั่ คง ค. ความทนั สมยั ง. ความราํ่ รวย
๑๗. ผดิ หวงั ฆ่าตวั ตาย จดั เป็นตณั หาประเภทใด ? ๔๒. แควน้ ใด ใชห้ ลกั อปรหิ านิยธรรมปกครอง ?
ก. กามตณั หา ข. ภวตณั หา ค. วภิ วตณั หา ง. กเิ ลสตณั หา ก. โกศล ข. มคธ ค. กาสี ง. วชั ชี
๑๘. อยากอยู่ในตาํ แหน่งนานๆ จดั เป็นตณั หาประเภทใด ? ๔๓. พระสงฆใ์ นสงั ฆคณุ ๙ หมายถงึ พระสงฆใ์ นขอ้ ใด ?
ก. กามตณั หา ข. ภวตณั หา ค. วภิ วตณั หา ง. กเิ ลสตณั หา ก. สมมตสิ งฆ์ ข. อริยสงฆ์ ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์
๑๙. การเวยี นวา่ ยตายเกดิ ไม่มที ส่ี ้นิ สุด ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๔. สงั ฆคณุ บทวา่ อชุ ปุ ฏปิ นฺโน มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. วฏั ฏะ ข. จตุ ิ ค. ปฏสิ นธิ ง. อบุ ตั ิ ก. ปฏบิ ตั ดิ ี ข. ปฏบิ ตั ไิ มล่ วงโลก ค. ปฏบิ ตั ถิ กู ทาง ง. ปฏบิ ตั ชิ อบยง่ิ
๒๐. วงจรวฏั ฏะ ๓ วนเวยี นอย่างไร ? ๔๕. สงั ฆคุณบททเ่ี ทา่ ไหร่ มคี วามหมายว่าพระอรยิ สงฆเ์ ป็นนาบญุ ของโลก ?
ก.กเิ ลสวบิ ากกรรม ข.กเิ ลสกรรมวบิ าก ค.วบิ ากกรรมกเิ ลส ง.ถกู ทกุ ขอ้ ก. บทท่ี ๓ ข. บทท่ี ๕ ค. บทท่ี ๗ ง. บทท่ี ๙
๒๑. พระอรยิ บคุ คลใด ตดั การเวยี นวา่ ยตายเกดิ ยงั ไมไ่ ด้ ? ๔๖. สงั ฆคณุ บทวา่ ทกขฺ เิ ณยโฺ ย มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ควรคาํ นบั ข.ควรตอ้ นรบั ค. ควรของทาํ บญุ ง. ควรกราบไหว้
๒๒. ในอปสั เสนธรรม เมอ่ื พจิ ารณาแลว้ ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ? ๔๗. ในพระพทุ ธศาสนา คนมบี ารมี หมายถงึ ใคร ?
ก. อดกลน้ั ข. เวน้ ค. บรรเทา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. มอี าํ นาจ ข. มวี าสนา ค. มบี รวิ าร ง. มีคณุ ธรรม
๒๓. ขอ้ ใด ไม่ใช่วธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นอปสั เสนธรรม ? ๔๘. ในบารมี ๑๐ ใครบาํ เพญ็ เมตตาบารมเี ป็นพเิ ศษ ?
ก. อดกลนั้ ข. รูแ้ จง้ ค. บรรเทา ง. เสพ ก. เวสสนั ดร ข. มหาชนก ค. มโหสถ ง. สวุ รรณสาม
๒๔. วธิ แี ผ่เมตตาทถ่ี กู ตอ้ ง ควรเรม่ิ ทใ่ี คร ? ๔๙. การบรจิ าคดวงตา จดั เป็นทานระดบั ใด ?
ก. ตนเอง ข. มติ ร ค. ศตั รู ง. สรรพสตั ว์ ก. ทานปกติ ข. ทานบารมี ค. ทานอปุ บารมี ง. ทานปรมตั ถปารมี
๒๕. เหน็ คนอน่ื เจรญิ ในหนา้ ทก่ี ารงาน ควรเจรญิ อปั ปมญั ญาใด ? ๕๐. คนทต่ี ง้ั ใจแน่วแน่วา่ จะไมเ่ สพสง่ิ เสพยต์ ดิ ชอ่ื ว่าบาํ เพญ็ บารมใี ด ?
ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา ก. ศีล ข. ขนั ติ ค. อธิษฐาน ง. อเุ บกขา
เฉลยปญั หาวิชาอนุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั โท ชน้ั การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทติ ยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พระมหากสั สปะ เดมิ ชอ่ื วา่ อะไร ? ๒๖. พระอบุ ลวรรณาเถรี เกดิ ทเ่ี มอื งใด ?
ก. ปิปผลิ ข. อปุ ตสิ สะ ค. โกลติ ะ ง. นทกี สั สปะ ก. พาราณสี ข. สาวตั ถี ค. โกสมั พี ง. อชุ เชนี
๒. ตามประวตั ิ พระมหากสั สปะจตุ มิ าจากทใ่ี ด ? ๒๗. พระเถรใี ด เป็นอคั รสาวกิ าเบ้อื งซา้ ย ?
ก. มนุษยโลก ข. เทวโลก ค. พรหมโลก ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อบุ ลวรรณา ข. เขมา ค. ปฏาจารา ง. รูปนนั ทา
๓. สตรใี ด ออกบวชพรอ้ มกบั ปิปผลมิ าณพ ? ๒๘. พระเถรใี ด ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ดว้ ยฤทธ์ิ ?
ก. ปชาบดี ข. กสี าโคตมี ค. ภทั ทกาปิลานี ง. อบุ ลวรรณา ก. มหาปชาบดโี คตมี ข. อบุ ลวรรณา ค. ปฏาจารา ง. รูปนนั ทา
๔. พระมหากสั สปะ เกดิ ในวรรณะใด ? ๒๙. ก่อนบวช พระปฏาจาราเถรเี ป็นอรยิ บคุ คลชนั้ ใด ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๕. พระมหากสั สปะถอื ธุดงคเ์ ป็นปกติ กข่ี อ้ ? ๓๐. พระเถรใี ด เคยเสยี สตเิ พราะสูญเสยี บคุ คลผูเ้ป็นทร่ี กั ?
ก. ๓ ขอ้ ข. ๔ ขอ้ ค. ๕ ขอ้ ง. ๖ ขอ้ ก. เขมา ข. อบุ ลวรรณา ค. ปฏาจารา ง. กสี าโคตมี
๖. พระมหากสั สปะ ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ? ๓๑. พระเถรใี ด ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นทรงพระวนิ ยั ?
ก. มปี ญั ญา ข. มฤี ทธ์ิ ค. ถอื ธุดงค์ ง. มลี าภ ก. มหาปชาบดโี คตมี ข. เขมา ค. อบุ ลวรรณา ง. ปฏาจารา
๗. พระมหากสั สปะเป็นประธานทาํ สงั คายนาพระธรรมวนิ ยั ครง้ั ไหน ? ๓๒. สตรใี ด เขา้ ใจว่ามยี าทส่ี ามารถรกั ษาคนตายใหฟ้ ้ืนได้ ?
ก. ครง้ั ท่ี ๑ ข. ครง้ั ท่ี ๒ ค. ครงั้ ท่ี ๓ ง. ครง้ั ท่ี ๔ ก. มหาปชาบดโี คตมี ข. เขมา ค. ปฏาจารา ง. กสี าโคตมี
๘. พระมหากสั สปะดบั ขนั ธนพิ พาน เมอ่ื อายุกป่ี ี ? ๓๓. ก่อนบวช พระกสี าโคตมเี ถรเี ป็นอรยิ บคุ คลชน้ั ใด ?
ก. ๘๐ ปี ข. ๙๐ ปี ค. ๑๐๐ ปี ง. ๑๒๐ ปี ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๙. พระอบุ าลี เกดิ ทเ่ี มอื งใด ? ๓๔. พระเถรใี ด ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นทรงผา้ เศรา้ หมอง ?
ก. กบลิ พสั ดุ์ ข. พาราณสี ค. สาวตั ถี ง. ราชคฤห์ ก. มหาปชาบดโี คตมี ข. พมิ พา ค. อบุ ลวรรณา ง. กสี าโคตมี
๑๐. พระอบุ าลี ออกบวชพรอ้ มกบั เจา้ ศากยะใด ? ๓๕. บณั ฑติ สามเณรเกดิ ในตระกูลอปุ ฏั ฐาก ของพระเถระใด ?
ก. ฉนั นะ ข. อานนท์ ค. นนั ทะ ง. กาฬทุ ายี ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระอานนท์ ค. พระอบุ าลี ง. พระราหลุ
๑๑. ในคราวทาํ ปฐมสงั คายนา พระอบุ าลที าํ หนา้ ทว่ี สิ ชั นาอะไร ? ๓๖. พระเถระใด เป็นพระอปุ ชั ฌายข์ องบณั ฑติ สามเณร ?
ก. พระไตรปิฎก ข. พระวนิ ยั ค. พระสูตร ง. พระอภธิ รรม ก. พระอสั สชิ ข. พระสารีบตุ ร ค. พระมหากสั สปะ ง. พระอานนท์
๑๒. พระเถระใด เรยี นพระวนิ ยั จากพระโอษฐข์ องพระศาสดาโดยตรง ? ๓๗. ธรรมกิ อบุ าสก มอี ปุ นิสยั ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. พระโมคคลั ลานะ ข. พระอานนท์ ค. พระอบุ าลี ง. พระสวิ ลี ก. ใหท้ าน ข. รกั ษาศีล ค. ฟงั ธรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๓. พระนางสปุ ปวาสา เป็นพระมารดาของพระเถระใด ? ๓๘. หลงั ถงึ แก่กรรม ธรรมกิ อบุ าสกไปเกดิ ในสวรรคช์ น้ั ใด ?
ก. พระนนั ทะ ข. พระอานนท์ ค. พระอบุ าลี ง. พระสวิ ลี ก. ดาวดงึ ส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นมิ มานรดี
๑๔. พระเถระใด อยู่ในครรภพ์ ระมารดาถงึ ๗ ปี ๗ เดอื น ๗ วนั ? ๓๙. พระเทวใี ด ทรงแนะนาํ ใหพ้ ระเจา้ ปเสนทโิ กศลเลกิ พธิ บี ชู ายญั ?
ก. พระกาฬทุ ายี ข. พระอบุ าลี ค. พระสวิ ลี ง. พระราหลุ ก. สมุ นา ข. มลั ลกิ า ค. สุปปวาสา ง. ปมติ า
๑๕. พระสวิ ลี เรยี นกรรมฐานเบ้อื งตน้ จากพระเถระใด ? ๔๐. พระนางมลั ลกิ าเทวี ทรงแนะนาํ พระสวามใี หถ้ วายทานใด ?
ก. พระมหานามะ ข. พระมหากสั สปะ ค. พระสารบี ตุ ร ง. พระราหลุ ก. ธรรมทาน ข. อสทสิ ทาน ค. ปาฏบิ คุ ลกิ ทาน ง. อภยั ทาน
๑๖. พระเถระใด บรรลเุ ป็นพระอรหนั ตข์ ณะโกนผมเสร็จ ? ๔๑. พระภกิ ษุสงฆอ์ ธษิ ฐานเขา้ จาํ พรรษา เป็นเวลากเ่ี ดอื น ?
ก. พระอานนท์ ข. พระกาฬทุ ายี ค. พระอบุ าลี ง. พระสวิ ลี ก. ๒ เดอื น ข. ๓ เดือน ค. ๔ เดอื น ง. ๕ เดอื น
๑๗. พระสวิ ลี ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผเู ้ลศิ ในดา้ นใด ? ๔๒. พระพทุ ธเจา้ ทรงบญั ญตั ใิ หพ้ ระภกิ ษุสงฆเ์ ขา้ จาํ พรรษา ในฤดูใด ?
ก. ทรงธุดงค์ ข. ทรงวนิ ยั ค. มีลาภ ง. มกั นอ้ ย ก. ฤดูฝน ข. ฤดูหนาว ค. ฤดูรอ้ น ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๘. พระเถระใด เป็นชาวเมอื งอชุ เชนี ? ๔๓. พระพทุ ธเจา้ ทรงอนุญาตใหภ้ กิ ษุสงฆท์ าํ ปวารณา ในวนั ใด ?
ก. พระมหากสั สปะ ข. พระมหากจั จายนะ ค. พระอบุ าลี ง. พระรฐั บาล ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. ธรรมสวนะ ง. เทโวโรหณะ
๑๙. พระมหากจั จายนะ เคยรบั ราชการในตาํ แหน่งใด ? ๔๔. พระภกิ ษุอธษิ ฐานเขา้ พรรษาแลว้ ไปคา้ งแรมทอ่ี น่ื ไดค้ ราวละก่วี นั ?
ก. ปโุ รหติ ข. อาํ มาตย์ ค. อปุ ราช ง. ราชทูต ก. ๓ วนั ข. ๕ วนั ค. ๗ วนั ง. ๙ วนั
๒๐. พระเถระใด ไดร้ บั ยกย่องว่าเลศิ ในการอธบิ ายความย่อใหพ้ สิ ดาร ? ๔๕. ในวนั ธรรมสวนะ พทุ ธศาสนกิ ชนควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ?
ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระอานนท์ ค. พระอสั สชิ ง. พระมหากจั จายนะ ก. ถวายทาน ข. รกั ษาศีล ค. บาํ เพญ็ ภาวนา ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๑. พระนางเขมา เป็นพระราชธดิ าของกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๔๖. การสวดพระปรติ รเกดิ ข้นึ ครง้ั แรก ทเ่ี มอื งใด ?
ก. สุทโธทนะ ข. พมิ พสิ าร ค. สาคลราช ง. จณั ฑปชั โชต ก. กบลิ พสั ดุ์ ข. ไพสาลี ค. สาวตั ถี ง. พาราณสี
๒๒. พระนางเขมา เป็นพระมเหสขี องกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๔๗. ปญั ญาสมวาร คอื การบาํ เพญ็ กศุ ลแก่ผูต้ ายครบกาํ หนดก่วี นั ?
ก. พมิ พสิ าร ข. ปเสนทโิ กศล ค. สาคลราช ง. จณั ฑปชั โชต ก. ๗ วนั ข. ๕๐ วนั ค. ๑๐๐ วนั ง. ๑ ปี
๒๓. พระเถรใี ด บรรลพุ ระอรหตั ในขณะทรงเพศเป็นฆราวาส ? ๔๘. วนั เพญ็ เดอื น ๑๒ ของทกุ ปี ตรงกบั เทศกาลใด ?
ก. มหาปชาบดโี คตมี ข. อบุ ลวรรณา ค. ปฏาจารา ง. เขมา ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. ทอดกฐนิ ง. ลอยกระทง
๒๔. พระเขมาเถรี บรรลพุ ระอรหตั ในอริ ยิ าบถใด ? ๔๙. วนั แรม ๑ คาํ่ เดอื น ๑๑ ถงึ วนั ข้นึ ๑๕ คาํ่ เดอื น ๑๒ เป็นเทศกาลใด ?
ก. ยนื ข. เดนิ ค. นงั่ ง. นอน ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. ทอดกฐนิ ง. ลอยกระทง
๒๕. พระเถรใี ด เป็นอคั รสาวกิ าเบ้อื งขวา ? ๕๐. ผูจ้ ะบวชเป็นพระภกิ ษุ ตอ้ งมอี ายคุ รบกป่ี ีบรบิ ูรณ์ ?
ก. มหาปชาบดโี คตมี ข. อบุ ลวรรณา ค. เขมา ง. ปฏาจารา ก. ๑๗ ปี ข. ๑๘ ปี ค. ๑๙ ปี ง. ๒๐ ปี
เฉลยปญั หาวชิ าอโุ บสถศีล (วินยั ) ธรรมศึกษาชน้ั โท ชน้ั การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทิตยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว ระบายในกระดาษคาํ ตอบใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. คาํ วา่ อโุ บสถ แปลวา่ อะไร ? ๒๖. การทาํ ชวี ติ สตั วใ์ หต้ กลว่ งไป เรยี กว่าอะไร ?
ก. การเขา้ จาํ ข. การจาํ พรรษา ค. การปฏบิ ตั ธิ รรม ง. การอดอาหาร ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. อพรหมจรรย์ ง. มสุ าวาท
๒. อโุ บสถศีล เป็นศีลประเภทใด ? ๒๗. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ ใหผ้ ูส้ มาทานรกั ษางดเวน้ การกระทาํ เรอ่ื งใด ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๒๒๗ ก. ฆ่าสตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. ลว่ งประเวณี ง. พูดเทจ็
๓. อโุ บสถศีล เป็นการศึกษาเก่ยี วกบั เรอ่ื งใด ? ๒๘. อโุ บสถศีลขอ้ ใด ขาดเพราะทาํ เองก็ได้ ใชใ้ หค้ นอน่ื ทาํ ก็ได้ ?
ก. การรกั ษาศีล ๕ ข. การรกั ษาศีล ๘ ค. การจาํ พรรษา ง. การสรา้ งอโุ บสถ ก. อพรหมจรรย์ ข. อทนิ นาทาน ค. สรุ าเมรยั ง. วกิ าลโภชนา
๔. การถอื อโุ บสถศีล เพอ่ื ประโยชนอ์ ะไร ? ๒๙. ลกั ทรพั ย์ เป็นการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศีลขอ้ ใด ?
ก. หยุดพกั ผอ่ น ข. ขอโชคลาภ ค. สะเดาะเคราะห์ ง. ขดั เกลากเิ ลส ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๕. อาการเช่นไร เรยี กวา่ รกั ษาอโุ บสถศลี ? ๓๐. ทรพั ยป์ ระเภทใด ไมเ่ ป็นเหตใุ หผ้ ดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ ?
ก. ถอื ศีลกนิ เจ ข. ปิดวาจาไม่สนทนา ค. งดเวน้ ขอ้ หา้ ม ง. งดเหลา้ เขา้ พรรษา ก. ทรพั ยส์ นิ แผน่ ดนิ ข. สงั หารมิ ทรพั ย์ ค. อสงั หารมิ ทรพั ย์ ง. อรยิ ทรพั ย์
๖. การเขา้ จาํ อโุ บสถ เร่มิ ปฏบิ ตั กิ นั มาตงั้ แต่สมยั ไหน ? ๓๑. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ เป็นการงดเวน้ การกระทาํ ผดิ ทางใด ?
ก. กอ่ นพทุ ธกาล ข. สมยั พทุ ธกาล ค. กง่ึ พทุ ธกาล ง. หลงั พทุ ธกาล ก. กาย ข. วาจา ค. ใจ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๗. อโุ บสถนอกพทุ ธกาล เนน้ เรอ่ื งใด ? ๓๒. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ระงบั กเิ ลสใด ?
ก. อดอาหาร ข. ถอื สรณคมน์ ค. ถอื ศีล ๘ ง. รกั ษาตามกาล ก. ความโกรธ ข. ความพยาบาท ค. ความรษิ ยา ง. ความกาํ หนดั
๘. ขอ้ ใด ไม่มใี นอโุ บสถนอกพทุ ธกาล ? ๓๓. การพดู ใหค้ ลาดเคลอ่ื นจากความเป็นจรงิ เรยี กวา่ อะไร ?
ก. อดอาหาร ข. บาํ เพญ็ ตบะ ค. สรณคมน์ ง. รกั ษาตามกาล ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. อพรหมจรรย์ ง. มสุ าวาท
๙. อโุ บสถศีลในพระพทุ ธศาสนา ทรงบญั ญตั ไิ วก้ ่สี กิ ขาบท ? ๓๔. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๔ ใหง้ ดเวน้ การกระทาํ ผดิ ทางใด ?
ก. ๕ สกิ ขาบท ข. ๘ สกิ ขาบท ค. ๑๐ สกิ ขาบท ง. ๑๒ สกิ ขาบท ก. กาย วาจา ข. กาย ใจ ค. วาจา ใจ ง. กาย วาจา ใจ
๑๐. ขอ้ ใด กลา่ วถงึ อโุ บสถศีลต่างจากศีล ๕ ? ๓๕. ขณะรกั ษาอโุ บสถศีล ควรสนทนากนั ถงึ เรอ่ื งอะไร ?
ก. กาํ หนดวนั รกั ษา ข. ไมก่ าํ หนดวนั รกั ษา ค. งดกนิ เน้ือสตั ว์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ครอบครวั ข. การเมอื ง ค. การทาํ มาหากนิ ง. การทาํ บญุ
๑๑. คาํ วา่ สรณคมน์ หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๓๖. เคร่อื งดม่ื ประเภทใด ดม่ื ไดใ้ นขณะรกั ษาอโุ บสถศีล ?
ก. ถอื เป็นทพ่ี ่งึ ข. นบั ถอื เทวดา ค. ถอื ศีลกนิ เจ ง. มอบตนเป็นสาวก ก. นาํ้ ผลไม้ ข. นาํ้ ผ้งึ ค. นาํ้ ออ้ ย ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๒. สงสยั ว่า พระพทุ ธเจา้ มจี รงิ หรอื ไม่ จะทาํ ใหไ้ ตรสรณคมนเ์ ป็นอย่างไร ? ๓๗. ขอ้ ใด คนรกั ษาศีล ๕ และคนรกั ษาอโุ บสถศีล ตอ้ งงดเวน้ เหมอื นกนั ?
ก. เศรา้ หมอง ข. บกพร่อง ค. ดา่ งพรอ้ ย ง. ขาดลงทนั ที ก. กนิ อาหารคาํ่ ข. ด่ืมสรุ า ค. รอ้ งเพลง ง. เตน้ ราํ
๑๓. ในไตรสรณคมน์ พระธรรม หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๓๘. ขอ้ ใด ทา่ นกลา่ ววา่ เป็นเหตแุ ห่งความประมาทในอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๕ ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. คาํ สงั่ สอน ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เครอ่ื งประดบั ข. เคร่อื งดนตรี ค. อาหาร ง. น้ําเมา
๑๔. คาํ วา่ อรหํ สมมฺ าสมพฺ ทุ โฺ ธ ภควา หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๓๙. ขอ้ ใด กลา่ วถงึ ประโยชนข์ องการรกั ษาอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๖ ไดถ้ กู ตอ้ ง ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ทรมานกเิ ลส ข. ทรมานกาย ค. ตดั กงั วล ง. ลดค่าใชจ้ ่าย
๑๕. คาํ ว่า อชุ ปุ ฏปิ นฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ หมายถงึ ขอ้ ใด? ๔๐. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๗ ใหผ้ ูส้ มาทานรกั ษางดเวน้ การกระทาํ ใด ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เสพกาม ข. กนิ ขา้ วเยน็ ค. เสรมิ สวย ง. นินทาชาวบา้ น
๑๖. ขอ้ ใด ไม่มโี ทษเพราะทาํ ใหส้ รณคมนข์ าด ? ๔๑. การกระทาํ ใด ไมเ่ ป็นขา้ ศึกต่อการรกั ษาอโุ บสถศีล ?
ก. เสยี ชีวติ ข. ทาํ รา้ ยพระศาสดา ค. นบั ถอื ศาสดาอน่ื ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เลน่ ดนตรี ข. สวดสรภญั ญะ ค. รอ้ งคาราโอเกะ ง. เตน้ ราํ
๑๗. ขอ้ ใด เป็นวตั ถปุ ระสงคใ์ นการเขา้ ถงึ สรณคมน์ ? ๔๒. กริ ยิ าใด ไม่เป็นขอ้ หา้ มในอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๗ ?
ก. ไดน้ งั่ ใกล้ ข. ไดโ้ ชคลาภ ค. ไดป้ รนนิบตั ิ ง. ไดท้ ่พี ง่ึ ทางใจ ก. ฟังเทศนม์ หาชาติ ข. ฟ้อนราํ ค. ขบั รอ้ ง ง. ประโคม
๑๘. เพราะเหตใุ ด พระพทุ ธเจา้ จงึ ไดช้ อ่ื วา่ เป็นทพ่ี ง่ึ ? ๔๓. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๘ บญั ญตั เิ พอ่ื ตดั ความกงั วลในเรอ่ื งใด ?
ก. มคี วามขลงั ข. กาํ จดั ทกุ ขไ์ ด้ ค. มคี วามศกั ด์สิ ทิ ธ์ิ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. การนงั่ นอน ข. การดม่ื ค. การกนิ ง. การพูดคยุ
๑๙. เพราะเหตใุ ด พระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ จงึ ไดช้ อ่ื วา่ สรณะ ? ๔๔. อโุ บสถประเภทใด กาํ หนดใหร้ กั ษาวนั หน่งึ คนื หน่งึ ?
ก. เป็นทพ่ี ง่ึ ทร่ี ะลกึ ข. เป็นสง่ิ ศกั ด์สิ ทิ ธ์ิ ค. เป็นทข่ี อโชคลาภ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ง. นิพทั ธอโุ บสถ
๒๐. คาํ วา่ รกั ษาผูป้ ฏบิ ตั ไิ มใ่ หต้ กไปสู่ทช่ี วั่ เป็นความหมายของขอ้ ใด ? ๔๕. อโุ บสถประเภทใด เทยี บไดก้ บั การอยู่จาํ พรรษาของพระภกิ ษุ ?
ก. พระพทุ ธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ง. อรยิ อโุ บสถ
๒๑. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่คุณของพระสงฆ์ ? ๔๖. อโุ บสถใด หากผูร้ กั ษาไม่สาํ รวมระวงั ในขอ้ งดเวน้ ย่อมไดร้ บั อานิสงสน์ อ้ ย ?
ก. ปฏบิ ตั ชิ อบ ข. ช่วยกาํ จดั ภยั ค. เป็นเน้อื นาบญุ ง. ปฏบิ ตั ติ รง ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. นคิ คณั ฐอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. ปฏชิ าครอโุ บสถ
๒๒. ใครประกาศคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ ใหร้ ูจ้ กั บาปบญุ คุณโทษ ? ๔๗. อโุ บสถใด เปรยี บไดก้ บั การรกั ษาอโุ บสถของนกั บวชนอกพระพทุ ธศาสนา ?
ก. อาชวี ก ข. นคิ รนถ์ ค. ปรพิ าชก ง. พระสงฆส์ าวก ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. นิคคณั ฐอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. นพิ ทั ธอโุ บสถ
๒๓. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่อโุ บสถศีล ? ๔๘. อโุ บสถใด แสดงอานิสงสก์ ารสมาทานรกั ษา ?
ก. ไม่ใชน้ าํ้ หอม ข. ไมจ่ บั เงนิ ทอง ค. ไมด่ ูการละเลน่ ง. ไม่กนิ อาหารคาํ่ ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ค. นพิ ทั ธอโุ บสถ ง. อรยิ อโุ บสถ
๒๔. เมอ่ื ถงึ วนั อโุ บสถ ใครพงึ สมาทานรกั ษาอโุ บสถศีล ? ๔๙. อโุ บสถใด เป็นการปฏบิ ตั ติ ามพระอรหนั ต์ ?
ก. เจา้ อาวาส ข. พระลูกวดั ค. สามเณร ง. อบุ าสกอบุ าสกิ า ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. โคปาลกอโุ บสถ ค. ปฏชิ าครอโุ บสถ ง. อรยิ อโุ บสถ
๒๕. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ใหผ้ ูร้ กั ษาเป็นคนเช่นไร ? ๕๐. การถอื อโุ บสถศีล จะไดร้ บั อานสิ งสม์ ากหรอื นอ้ ยข้นึ อยู่กบั อะไร ?
ก. ไม่โหดรา้ ย ข. ไมห่ ลอกลวง ค. ไมท่ าํ มจิ ฉาชพี ง. ไมน่ อกใจคู่ครอง ก. สุขภาพ ข. อายุ ค. บญุ บารมี ง. ความตง้ั ใจ
เฉลยปญั หาวิชาธรรม ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทิตยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พทุ ธพจนว์ ่า จติ เฺ ต สงฺกลิ ฏิ เฐ ทคุ ติ ปาฏกิ งขฺ า ยนื ยนั เรอ่ื งใด ? ๒๖. ขอ้ ใด เป็นองคฌ์ าณ ?
ก. ตายแลว้ เกดิ ข. ตายแลว้ สูญ ค. ตายแลว้ ฟ้ืน ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. วติ ก ข. วริ ยิ ะ ค. หริ ิ ง. ขนั ติ
๒. สงั สารวฏั ฏ์ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๒๗. ผูท้ ป่ี ระมาทในวยั วา่ ยงั หนุ่มสาว ควรพจิ ารณาเร่อื งใดบอ่ ย ๆ ?
ก. เกดิ ข. ตาย ค. เวยี นวา่ ยตายเกดิ ง. ตายแลว้ สูญ ก. ความแก่ ข. ความเจบ็ ค. ความตาย ง. ความพลดั พราก
๓. ภูมเิ ป็นทไ่ี ปเบ้อื งหนา้ หลงั จากตาย มคี าํ เรยี กว่าอะไร ? ๒๘. การพจิ ารณาวา่ ทาํ ดไี ดด้ ี ทาํ ชวั่ ไดช้ วั่ ตรงกบั อภณิ หปจั จเวกขณะใด ?
ก. คติ ข. ภพ ค. ปรโลก ง. อบาย ก. ชราธมั มตา ข. พยาธธิ มั มตา ค. มรณธมั มตา ง. กมั มสั สกตา
๔. เปรตทม่ี วี มิ านอยู่ เรยี กว่าอะไร ? ๒๙. กาํ หนดพจิ ารณาเรอ่ื งใด จดั เป็นกายานุปสั สนาสตปิ ฏั ฐาน ?
ก. สุจมิ ขุ เปรต ข. เวมานิกเปรต ค. กณุ ปาสเปรต ง. คูถขาทกเปรต ก. ลมหายใจ ข. ความรูส้ กึ ค. จติ ง. ธรรม
๕. ในเทวทตู สูตร ขอ้ ใดจดั เป็นเทวทตู ? ๓๐. กาํ หนดพจิ ารณาอะไร ไม่เป็นจติ ตานุปสั สนาสตปิ ฏั ฐาน ?
ก. เดก็ แรกคลอด ข. คนเจบ็ ค. คนชรา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. จติ มรี าคะ ข. จติ มโี ทสะ ค. จติ มโี มหะ ง. สขุ ทกุ ข์
๖. ใครทาํ หนา้ ทพ่ี พิ ากษาตดั สนิ โทษสตั วน์ รก ? ๓๑. โอทาตกสณิ หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. นายนริ ยบาล ข. พญายมราช ค. เทวราช ง. จตโุ ลกบาล ก. กสณิ สเี ขยี ว ข. กสณิ สแี ดง ค. กสณิ สขี าว ง. กสณิ สเี หลอื ง
๗. เทวทตู เป็นสญั ญานเตอื นมนุษยใ์ หต้ ระหนกั ในเร่อื งใด ? ๓๒. วธิ เี จรญิ กสณิ ตอ้ งเจรญิ ดว้ ยอาการอย่างไร ?
ก. ความไมโ่ กรธ ข. ความไม่ประมาท ค. ความไมโ่ ลภ ง. ความกลวั ก. เพง่ ข. พจิ ารณา ค. รกั ษา ง. คมุ้ ครอง
๘. ภูมเิ ป็นทไ่ี ปเกดิ ของผูท้ ป่ี ระกอบอกศุ ลกรรม โดยรวมเรยี กว่าอะไร ? ๓๓. ขอ้ ใด จดั เป็นอารมณข์ องอสภุ กมั มฏั ฐาน ?
ก. ทคุ ติ ข. นริ ยะ ค. ตริ จั ฉานโยนิ ง. ปิตตวิ สิ ยั ก. ดนิ ข. ไฟ ค. ลม ง. ซากศพ
๙. ทา้ วสกั กะ ปกครองสวรรคช์ นั้ ใด ? ๓๔. พจิ ารณาหลกั ธรรม คอื หริ โิ อตตปั ปะ จดั เป็นอนุสสตใิ ด ?
ก. ดาวดึงส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นมิ มานรดี ก. สลี านุสสติ ข. จาคานุสสติ ค. เทวตานุสสติ ง. อานาปานสั สติ
๑๐. พระอรยิ บคุ คลใด ละสงั ขารแลว้ ไปเกดิ ในพรหมโลกชน้ั สทุ ธาวาส ? ๓๕. กาํ หนดพจิ ารณาคณุ ธรรมคอื การเผอ่ื แผ่ จดั เป็นอนุสสตใิ ด ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์ ก. ธมั มานุสสติ ข. สลี านุสสติ ค. จาคานุสสติ ง. มรณสั สติ
๑๑. กรรมใหผ้ ลสาํ เร็จแลว้ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๖. สตกิ าํ หนดพจิ ารณาลมหายใจเขา้ ออก จดั เป็นอนุสสตใิ ด ?
ก.ทฏิ ฐธรรมเวทนยี กรรม ข. อโหสกิ รรม ค. พหลุ กรรม ง. อาสนั นกรรม ก. เทวตานุสสติ ข. อปุ สมานุสสติ ค. กายคตาสติ ง. อานาปานสั สติ
๑๒. อปราปรเวทนียกรรม ใหผ้ ลเปรยี บเสมอื นอะไร ? ๓๗. พรหมวหิ ารใด เป็นขา้ ศึกแก่โสมนสั และโทมนสั ?
ก. พรานลา่ สตั ว์ ข. สนุ ขั ลา่ เน้ือ ค. เงาตามตวั ง. คนเล้ยี งโค ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา
๑๓. การกระทาํ ในขอ้ ใด ชะลอการใหผ้ ลของกรรมชวั่ ? ๓๘. พรหมวหิ ารใด ทาํ ใหผ้ ูเ้จรญิ สามารถบรรลฌุ านขนั้ สูงสดุ ได้ ?
ก. รดนาํ้ มนต์ ข. สะเดาะเคราะห์ ค. ต่อชะตา ง. ทาํ ความดีตอ่ เน่ือง ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา
๑๔. อปุ ตั ถมั ภกกรรรม ทาํ หนา้ ทอ่ี ะไร ? ๓๙. การพจิ ารณาอาหารโดยอาการใด จดั เป็นอาหาเรปฏกิ ูลสญั ญา ?
ก. แต่งใหเ้กดิ ข. สนบั สนุน ค. บบี คน้ั ง. ตดั รอน ก. การแสวงหา ข. การบรโิ ภค ค. การขบั ถ่าย ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๕. ผูป้ ระสบอบุ ตั เิ หตตุ ายก่อนวยั อนั ควร เพราะกรรมใดใหผ้ ล ? ๔๐. ร่างกายบคุ คลเคลอ่ื นไหวไดเ้พราะอาศยั ธาตใุ ด ?
ก. ชนกกรรม ข. ครกุ รรม ค. อปุ ฆาตกกรรม ง. กตตั ตากรรม ก. ธาตดุ นิ ข. ธาตนุ าํ้ ค. ธาตไุ ฟ ง. ธาตลุ ม
๑๖. กรรมใด ใหผ้ ลเบากวา่ กรรมอน่ื ? ๔๑. อากาสานญั จายตนะ กาํ หนดพจิ ารณาอะไรเป็นอารมณ์ ?
ก. ครกุ รรม ข. พหลุ กรรม ค. อาสนั นกรรม ง. กตตั ตากรรม ก. อากาศ ข. ดนิ ค. นาํ้ ง. ไฟ
๑๗. เศรษฐกี ลายเป็นยาจก ยาจกกลายเป็นเศรษฐี เป็นผลของกรรมใด ? ๔๒. คนรกั สวยรกั งาม นยิ มสนิ คา้ ราคาแพง จดั เป็นคนจรติ ใด ?
ก. ชนกกรรม ข. อปุ ตั ถมั ภกกรรม ค. อปุ ปีฬกกรรม ง. อปุ ฆาตกกรรม ก. ราคจริต ข. โทสจรติ ค. โมหจรติ ง. สทั ธาจรติ
๑๘. การพจิ ารณาอาการ ๓๒ เป็นกมั มฏั ฐานใด ? ๔๓. คนจรติ ดงั กลา่ วในขอ้ ๔๒ ควรเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. กายคตาสติ ข. อสภุ ะ ค. กสณิ ง. จตธุ าตวุ วตั ถาน ก. อปุ สมานุสสติ ข. กายคตาสติ ค. มรณสั สติ ง. นลี กสณิ
๑๙. การเจรญิ เมตตา แกน้ ิวรณใ์ ด ? ๔๔. คนหงดุ หงดิ งา่ ย จดั เป็นคนจรติ ใด ?
ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท ค. ถนี มทิ ธะ ง. วจิ กิ จิ ฉา ก. ราคจรติ ข. โทสจริต ค. สทั ธาจรติ ง. วติ กั กจรติ
๒๐. หลบั เป็นสขุ ตน่ื เป็นสขุ เป็นอานิสงสข์ องการเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ? ๔๕. คนจรติ ดงั กลา่ วในขอ้ ๔๔ ควรเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. พทุ ธานุสสติ ง. กสณิ ก. พรหมวหิ าร ข. อปุ สมานุสสติ ค. มรณสั สติ ง. อานาปานสั สติ
๒๑. ขอ้ ใด เป็นคาํ บรกิ รรมของผูเ้จรญิ พทุ ธานุสสติ ? ๔๖. คาํ ว่า ไปดมี าดี มคี วามหมายตรงกบั พทุ ธคณุ บทใด ?
ก. พทุ โธ ข. ธมั โม ค. สงั โฆ ง. ยุบหนอ พองหนอ ก. อรหํ ข. สมมฺ าสมพฺ ทุ โธ ค. วชิ ชาจรณสมปฺ นฺโน ง. สคุ โต
๒๒. คนเป็นโรคซมึ เศรา้ ควรเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ? ๔๗. ญาณกาํ หนดรูก้ ารตายการเกดิ ของสตั วโ์ ลก ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. พทุ ธานุสสติ ง. กสณิ ก. อาสวกั ขยญาณ ข. จุตูปปาตญาณ ข. เจโตปรยิ ญาณ ง. ทพิ ยจกั ษุ
๒๓. คนคดิ ฟ้งุ ซ่านวนุ่ วายใจ ควรเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ? ๔๘. พทุ ธคุณบทใด ยนื ยนั วา่ พระพทุ ธเจา้ ทรงเป็นพระบรมครู ?
ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. พทุ ธานุสสติ ง. กสณิ ก. อนุตตฺ โร ปรุ สิ ทมมฺ สารถิ ข. สตถฺ า เทวมนุสสฺ านํ ค. พทุ โฺ ธ ง. ภควา
๒๔. คนถกู วจิ กิ จิ ฉาครอบงาํ มอี าการอย่างไร ? ๔๙. พทุ ธคณุ บทใด แสดงถงึ พระบรสิ ทุ ธคิ ุณ ?
ก. รกั สวยรกั งาม ข. จองเวร ค. เซอ่ื งซมึ ง. ลงั เลสงสยั ก. อรหํ ข. สคุ โต ค. โลกวทิ ู ง. ปรุ สิ ทมมฺ สารถิ
๒๕. การเจรญิ จตธุ าตวุ วตั ถาน แกน้ วิ รณใ์ ด ? ๕๐. พระพทุ ธคณุ นามทงั้ ๙ ของพระพทุ ธเจา้ เกดิ ข้นึ ไดอ้ ย่างไร ?
ก. กามฉนั ทะ ข. วจิ กิ จิ ฉา ค. ถนี มทิ ธะ ง. พยาบาท ก. พระญาตติ งั้ ข. พระอนิ ทรต์ งั้ ค. พระสาวกตง้ั ง. เกดิ ข้ึนเอง
เฉลยปญั หาวชิ าพทุ ธานุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั เอก ชน้ั การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทิตยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พระโพธสิ ตั วบ์ าํ เพญ็ บารมคี รบ ๓๐ ทศั บรบิ ูรณใ์ นพระชาตใิ ด ? ๒๖. อตั ตกลิ มถานุโยค คอื ทาํ ความเพยี รเพอ่ื ใหต้ นเป็นเช่นใด ?
ก. มหาชนก ข. สวุ รรณสาม ค. เนมริ าช ง. เวสสนั ดร ก. ผาสกุ ข. ลาํ บาก ค. พน้ ทกุ ข์ ง. ปลอ่ ยวาง
๒. เหตทุ ท่ี าํ ใหเ้ทวดาจตุ จิ ากเทวโลก มกี อ่ี ย่าง ? ๒๗. ภกิ ษุรูปแรกในพระพทุ ธศาสนา ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ๓ อย่าง ข. ๔ อย่าง ค. ๕ อยา่ ง ง. ๖ อย่าง ก. พระโกณฑญั ญะ ข. พระวปั ปะ ค. พระภทั ทยิ ะ ง. พระมหานามะ
๓. ศีลประเภทใด ผูจ้ ะเป็นพทุ ธมารดาตอ้ งรกั ษาเป็นประจาํ ? ๒๘. มาณพใด เปลง่ อทุ านว่า “ ทน่ี ว่ี นุ่ วายหนอ ทน่ี ่ีขดั ขอ้ งหนอ ” ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. ศีลอโุ บสถ ง. ศีล ๑๐ ก. ยสะ ข. วมิ ละ ค. สุพาหุ ง. ปณุ ณชิ
๔. เหตทุ ท่ี าํ ใหพ้ รหมโลกเกดิ โกลาหล มกี ป่ี ระการ ? ๒๙. พระอรหนั ตท์ ต่ี ามเสดจ็ พระพทุ ธเจา้ ไปสวนตาลหนุ่มมกี ่อี งค์ ?
ก. ๒ ประการ ข. ๓ ประการ ค. ๔ ประการ ง. ๕ ประการ ก. ๑,๐๐๑ องค์ ข. ๑,๐๐๒ องค์ ค. ๑,๐๐๓ องค์ ง. ๑,๒๕๐ องค์
๕. ชมพทู วปี หรอื อนิ เดยี ในปจั จบุ นั ตง้ั อยู่ทางทศิ ใดของประเทศไทย ? ๓๐. พระเจา้ พมิ พสิ ารเสดจ็ ไปพบพระพทุ ธเจา้ ครงั้ แรก ณ สถานทใ่ี ด ?
ก. บรู พา ข. อาคเนย์ ค. พายพั ง. อสี าน ก. สวนไผ่ ข. สวนตาลหนุ่ม ค. สวนเจา้ เชต ง. สวนมะมว่ ง
๖. พระนครใด เป็นเมอื งหลวงของแควน้ สกั กะ ? ๓๑. วดั ใด ทพ่ี ระเจา้ พมิ พสิ ารสรา้ งถวาย ?
ก. กบลิ พสั ดุ์ ข. เทวทหะ ค. พาราณสี ง. สาวตั ถี ก. นิโครธาราม ข. เวฬวุ นั ค. เชตวนั ง. บพุ พาราม
๗. แควน้ สกั กะ ปกครองโดยกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๓๒. พระเถระใด เป็นพระอคั รสาวกเบ้อื งขวา ?
ก. ปเสนทิ ข. จณั ฑปชั โชต ค. สทุ โธทนะ ง. สุปปพทุ ธะ ก. พระยสะ ข. พระสารบี ตุ ร ค. พระโมคคลั ลานะ ง. พระมหากสั สปะ
๘. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ทรงอภเิ ษกสมรสกบั พระนางมายา ? ๓๓. โกลติ ะ เป็นช่อื เดมิ ของพระเถระใด ?
ก. สทุ โธทนะ ข. สกุ โกทนะ ค. อมโิ ตทนะ ง. โธโตทนะ ก. พระอสั สชิ ข. พระสารบี ตุ ร ค. พระโมคคลั ลานะ ง. พระราหลุ
๙. มหาปรุ สิ ลกั ษณะของพระโพธสิ ตั ว์ มกี ่อี ย่าง ? ๓๔. พระเถระใด เป็นพระอคั รสาวกเบ้อื งซา้ ย ?
ก. ๓๐ อย่าง ข. ๓๒ อยา่ ง ค. ๓๔ อย่าง ง. ๘๐ อย่าง ก. พระอสั สชิ ข. พระยสะ ค. พระสารบี ตุ ร ง. พระโมคคลั ลานะ
๑๐. บคุ คลใด เป็นสหชาตกิ บั พระโพธสิ ตั ว์ ? ๓๕. มาณพใด ทูลถามพระพทุ ธเจา้ วา่ “ ใคร ช่อื ว่าเป็นผูส้ นั โดษ ... ” ?
ก. อานนั ทกมุ าร ข. อนุรุทธกมุ าร ค. นนั ทกมุ าร ง. ราหลุ กมุ าร ก. อชติ ะ ข. ตสิ สเมตเตยยะ ค. ปณุ ณกะ ง. เมตตคู
๑๑. สทิ ธตั ถราชกมุ าร มพี ระนามอกี อย่างหน่ึงวา่ อะไร ? ๓๖. สง่ิ ใด ทร่ี าธพราหมณถ์ วายแก่พระสารบี ตุ ร ?
ก. ทปี งั กร ข. ชนิ สหี ์ ค. องั ครี ส ง. เมตไตย ก. ไตรจวี ร ข. ขา้ วหน่ึงทพั พี ค. นาํ้ ดม่ื ง. นาํ้ ปานะ
๑๒. พระมารดาทวิ งคต เมอ่ื เจา้ ชายสทิ ธตั ถะประสูตไิ ดก้ ่วี นั ? ๓๗. พระราธะไดร้ บั การสรรเสรญิ จากพระพทุ ธเจา้ ในเรอ่ื งใด ?
ก. ๓ วนั ข. ๕ วนั ค. ๗ วนั ง. ๗ ปี ก. สนั โดษ ข. ขยนั ค. เล้ยี งงา่ ย ง. วา่ งา่ ย
๑๓. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะทรงอภเิ ษกสมรส กบั พระนางใด ? ๓๘. พระปณุ ณมนั ตานีบตุ ร ไดร้ บั การยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. พมิ พา ข. กสี าโคตมี ค. รูปนนั ทา ง. โรหณิ ี ก. มปี ญั ญามาก ข. มฤี ทธ์มิ าก ค. ถอื ธุดงค์ ง. ธรรมกถกึ
๑๔. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะเหน็ เทวทูตใน ๓ วาระแรก ทรงมพี ระทยั เช่นใด ? ๓๙. พระเถระใด ทลู ใหพ้ ระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ไปกรุงกบลิ พสั ดุเ์ ป็นผลสาํ เรจ็ ?
ก. เบกิ บาน ข. อยากผนวช ค. เศรา้ สลด ง. หมดหวงั ก. พระอานนท์ ข. พระนนั ทะ ค. พระกาฬทุ ายี ง. พระโลลทุ ายี
๑๕. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะนอ้ มพระทยั ในบรรพชา เพราะเหน็ นกั บวชใด ? ๔๐. พระอารามใด ทพ่ี ระประยูรญาตสิ รา้ งถวายพระพทุ ธเจา้ ?
ก. อาชวี ก ข. ปรพิ าชก ค. นิครนถ์ ง. บรรพชิต ก. เวฬวุ นาราม ข. นิโครธาราม ค. เชตวนาราม ง. บพุ พาราม
๑๖. ผูใ้ ด ตดิ ตามเจา้ ชายสทิ ธตั ถะในวนั เสดจ็ ออกผนวช ? ๔๑. สามเณรรูปแรกในพระพทุ ธศาสนา ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อานนท์ ข. ฉนั นะ ค. กาฬทุ ายี ง. พมิ พา ก. ราหลุ ข. สุขะ ค. บณั ฑติ ง. สงั กจิ จะ
๑๗. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะอธษิ ฐานเพศบรรพชา ทร่ี มิ ฝงั่ แมน่ าํ้ ใด ? ๔๒. เศรษฐใี ด ทูลนมิ นตพ์ ระพทุ ธเจา้ ใหเ้สดจ็ ไปเมอื งสาวตั ถี ?
ก. คงคา ข. เนรญั ชรา ค. อโนมา ง. ยมนุ า ก. อนาถบณิ ฑกิ ะ ข. เมณฑกะ ค. โฆสกะ ง. ธนญั ชยั
๑๘. ทา้ วสกั กะนาํ พระเมาลขี องพระมหาบรุ ษุ ไปไว้ ณ สถานทใ่ี ด ? ๔๓. พระเถระใด ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นยอดแห่งภกิ ษุผูท้ รงวนิ ยั ?
ก. มนุษยโลก ข. เทวโลก ค. พรหมโลก ง. ยมโลก ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระอบุ าลี ค. พระสวิ ลี ง. พระอานนท์
๑๙. การบาํ เพญ็ เพยี รโดยการทรมานร่างกายใหล้ าํ บาก เรยี กวา่ อะไร ? ๔๔. พระเถระใด มกั เปลง่ อทุ านว่า “ สุขหนอ สขุ หนอ ” ?
ก. กาลกริ ยิ า ข. อกาลกริ ยิ า ค. บญุ กริ ยิ า ง. ทกุ รกริ ิยา ก. พระภทั ทยิ ะ ข. พระอนุรุทธะ ค. พระอานนท์ ง. พระกมิ พลิ ะ
๒๐. ชนกลมุ่ ใด ออกบวชตามพระมหาบรุ ษุ เป็นกลมุ่ แรก ? ๔๕. อชาตศตั รูราชกมุ ารทรงทาํ ปิตฆุ าต เพราะไดร้ บั การยยุ งจากใคร ?
ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. ภทั ทวคั คยี ์ ค. สหายพระยสะ ง. ชฏลิ ๓ พน่ี อ้ ง ก. สปุ ปพทุ ธะ ข. เทวทตั ค. โกกาลกิ ะ ง. นนั ทมาณพ
๒๑. สตรใี ด ถวายขา้ วมธุปายาสแก่พระมหาบรุ ุษ ? ๔๖. สวรรคช์ น้ั ใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ เสดจ็ จาํ พรรษาเพอ่ื โปรดพทุ ธมารดา ?
ก. พระนางพมิ พา ข. นางสชุ าดา ค. พระนางเขมา ง. นางวสิ าขา ก. ดาวดงึ ส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นมิ มานรดี
๒๒. พระมหาบรุ ุษตรสั รู้ ภายใตต้ น้ ไมใ้ ด ? ๔๗. พทุ ธมารดาฟงั พระธรรมเทศนาจบแลว้ เป็นอรยิ บคุ คลชน้ั ใด ?
ก. ตน้ สาละ ข. ตน้ โพธ์ิ ค. ตน้ ไทร ง. ตน้ หวา้ ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๒๓. สถานทใ่ี ด เป็นทต่ี รสั รูข้ องพระพทุ ธเจา้ ? ๔๘. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ลงจากเทวโลก ในวนั ใด ?
ก. ลมุ พนิ วี นั ข. พทุ ธคยา ค. สารนาถ ง. กสุ นิ ารา ก. มาฆบชู า ข. เขา้ พรรษา ค. ออกพรรษา ง. เทโวโรหณะ
๒๔. พระพทุ ธเจา้ ตรสั รู้ ใกลแ้ ม่นาํ้ ใด ? ๔๙. ภกิ ษุใด ไดร้ บั ทาํ นายว่าจกั เป็นพระพทุ ธเจา้ พระนามวา่ เมตไตย ?
ก. คงคา ข. ยมนุ า ค. อโนมา ง. เนรญั ชรา ก. พระกมิ พลิ ะ ข. พระอชิตะ ค. พระโสณะ ง. พระรฐั บาล
๒๕. บคุ คลผูร้ ูธ้ รรมโดยพลนั อปุ มาดงั่ ดอกบวั พน้ นาํ้ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๕๐. พระเถรใี ด เป็นปฐมสาวกิ า ?
ก. อคุ ฆตติ ญั �ู ข. วปิ จติ ญั �ู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ ก. มหาปชาบดีโคตมี ข. อบุ ลวรรณา ค. ปฏาจารา ง. กสี าโคตมี
เฉลยปญั หาวชิ ากรรมบถ (วนิ ยั ) ธรรมศึกษาชน้ั เอก ชน้ั การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศยั สอบในสนามหลวง
วนั อาทติ ยท์ ่ี ๒ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๒๖. คาํ พูดประเภทใด เรยี กวา่ มสุ าวาท ?
๑. อะไรเป็นเคร่อื งกาํ หนดใหช้ วี ติ สรรพสตั วม์ สี ุขหรอื ทกุ ข์ ? ก. คาํ เทจ็ ข. คาํ หยาบ ค. คาํ สอ่ เสยี ด ง. คาํ เพอ้ เจอ้
ก. กรรม ข. เทวดา ค. มาร ง. พรหม
๒๗. มนุษยท์ ง้ั หลายใชค้ าํ พดู ทาํ ความชวั่ ใด ?
๒. กรรมเป็นทางไปสูส่ ุคตหิ รอื ทคุ ติ เรยี กวา่ อะไร ? ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มสุ าวาท ง. มจิ ฉาทฏิ ฐิ
ก. กรรมเวร ข. กรรมคติ ค. กรรมนมิ ติ ง. กรรมบถ
๒๘. ขอ้ ใด เป็นมสุ าวาททเ่ี กดิ ข้นึ จากการกระทาํ ทางกาย ?
๓. ผลทเ่ี กดิ จากการกระทาํ ความดหี รอื ชวั่ ของสตั วท์ ง้ั หลาย เรยี กวา่ อะไร ? ก. แจง้ ความเทจ็ ข. ทาํ เอกสารเทจ็ ค. เป็นพยานเทจ็ ง. ใหก้ ารเทจ็
ก. บญุ กรรม ข. กรรมวบิ าก ค. เจตนากรรม ง. เวรกรรม
๒๙. คาํ พดู ยุยงทาํ ใหค้ นเขา้ ใจผดิ ต่อกนั เรยี กวา่ อะไร ?
๔. เจตนาเป็นองคป์ ระกอบของขอ้ ใด ? ก. มสุ าวาท ข. ปิสณุ วาจา ค. สมั ผปั ปลาปะ ง. ผรสุ วาจา
ก. กรรมวบิ าก ข. กรรมกเิ ลส ค. กรรมบถ ง. กรรมลขิ ติ
๓๐. คาํ หยาบคาย เรยี กว่าอะไร ?
๕. ความตงั้ ใจหรอื ความจงใจในการทาํ กรรมดหี รอื ชวั่ เรยี กว่าอะไร ? ก. มสุ าวาท ข. ปิสุณวาจา ค. สมั ผปั ปลาปะ ง. ผรสุ วาจา
ก. อารมณ์ ข. เวทนา ค. สงั ขาร ง. เจตนา
๓๑. คาํ พูดหาสาระมไิ ด้ ไม่เป็นประโยชนแ์ ก่ผูฟ้ งั เรยี กวา่ อะไร ?
๖. ความดคี วามชวั่ ของสตั วท์ งั้ หลายเกดิ ข้นึ ไดท้ างใด ? ก. มสุ าวาท ข. ปิสุณวาจา ค. สมั ผปั ปลาปะ ง. ผรสุ วาจา
ก. การกระทาํ ข. คาํ พดู ค. ความคดิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๓๒. การเพง่ เลง็ ทรพั ยข์ องผูอ้ น่ื เพอ่ื เอามาเป็นของตน เรยี กวา่ อะไร ?
๗. ผลแหง่ กรรมชวั่ ทบ่ี คุ คลจะพงึ ไดร้ บั ในชาตหิ นา้ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. อนภชิ ฌา
ก. เกดิ เป็นมนุษย์ ข. เกดิ เป็นเทวดา ค. เกดิ เป็นเปรต ง. เกดิ เป็นพรหม
๓๓. พยาบาทเป็นเหตใุ หบ้ คุ คลกระทาํ อกศุ ลกรรมบถใด ?
๘. ภูมทิ บ่ี รุ ุษเปล้ยี ไปเกดิ เป็นเปรต เรยี กว่าอะไร ? ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ง. ผรุสวาจา
ก. สุคติ ข. ทคุ ติ ค. อคติ ง. ภพชาติ
๓๔. เหน็ ว่า ทาํ ดไี ดช้ วั่ ทาํ ชวั่ ไดด้ ี เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ?
๙. ภูมทิ ค่ี นประพฤตกิ ศุ ลกรรมบถไปเกดิ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มิจฉาทฏิ ฐิ ง. สมั มาทฏิ ฐิ
ก. สตั วน์ รก ข. อสรุ กาย ค. มนุษย์ ง. เปรต
๓๕. มจิ ฉาทฏิ ฐปิ ระเภทใด พระพทุ ธศาสนาสอนวา่ เป็นบาปหนกั ทส่ี ดุ ?
๑๐. กรรมเป็นทางใหไ้ ปเกดิ ในทคุ ติ เช่น สตั วด์ ริ จั ฉาน เรยี กว่าอะไร ? ก. นตั ถกิ ทฏิ ฐิ ข. อกริ ยิ ทฏิ ฐิ ค. อเหตกุ ทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. กรรมบถ ข. กศุ ลกรรม ค. กศุ ลกรรมบถ ง. อกศุ ลกรรมบถ
๓๖. ขอ้ ใด เป็นรากเหงา้ ใหบ้ คุ คลประพฤตกิ ศุ ลกรรมบถ ?
๑๑. อะไรเป็นเหตใุ หบ้ คุ คลประพฤตอิ กศุ ลกรรมบถ ? ก. กศุ ลกรรม ข. กศุ ลจติ ค. กศุ ลมลู ง. กศุ ลเจตนา
ก. กศุ ลมลู ๓ ข. อกศุ ลมลู ๓ ค. สจุ รติ ๓ ง. ทจุ รติ ๓
๓๗. เจตนางดเวน้ จากการทาํ ความชวั่ เรยี กวา่ อะไร ?
๑๒. อกศุ ลกรรมบถใด เกดิ ข้นึ จากโลภะ ? ก. ศีล ข. เวรมณี ค. สกิ ขาบท ง. กศุ ล
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. ผรุสวาจา ง. พยาบาท
๓๘. เวรระงบั ดว้ ยการไมจ่ องเวร สอดคลอ้ งกบั กรรมบถขอ้ ใด ?
๑๓. อกศุ ลกรรมบถใด เกดิ ข้นึ จากโทสะ ? ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสุมจิ ฉาจาร ง. อภชิ ฌา
๓๙. ใครไดช้ ่อื ว่ามเี มตตาต่อสตั ว์ ?
๑๔. อกศุ ลกรรมบถใด เกดิ ข้นึ จากโมหะ ? ก. ผูล้ ะปาณาตบิ าต ข. ผูล้ ะอทนิ นาทาน ค. ผูล้ ะมสุ าวาท ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. มจิ ฉาทฏิ ฐิ
๔๐. กรรมบถใด เพยี งแค่คดิ ก็เป็นความดแี ลว้ ?
๑๕. โลภอยากไดข้ องเขา เป็นกรรมประเภทใด ? ก. ไมฆ่ ่าสตั ว์ ข. ไม่ลกั ทรพั ย์ ค. ไม่พูดปด ง. ไม่ผูกเวร
ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๔๑. กศุ ลกรรมบถขอ้ ๓ เป็นหลกั ธรรมสาํ หรบั ประพฤตใิ ครกบั ใคร ?
๑๖. คาํ ว่า มอื เป้ือนเลอื ด สอดคลอ้ งกบั อกศุ ลกรรมบถขอ้ ใด ? ก. พ-่ี นอ้ ง ข. นาย-บา่ ว ค. มติ ร-สหาย ง. สาม-ี ภรรยา
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ง. สมั ผปั ปลาปะ
๔๒. กศุ ลกรรมบถขอ้ ๔ มงุ่ ใหค้ นพดู คาํ เช่นไร ?
๑๗. ขอ้ ใด เป็นปาณาตบิ าตเกดิ ข้นึ ทางวาจา ? ก. คาํ จรงิ ข. คาํ สุภาพ ค. คาํ อ่อนหวาน ง. คาํ คม
ก. วางยาพษิ ข. ยงิ ดว้ ยปืน ค. แทงดว้ ยมดี ง. สงั่ ฆา่
๔๓. การงดเวน้ คาํ พูดประเภทใด ทาํ ใหเ้กดิ ความปรองดอง ?
๑๘. ขอ้ ใด เป็นผลกรรมของผูก้ ระทาํ ปาณาตบิ าต ? ก. คาํ เทจ็ ข. คาํ สอ่ เสยี ด ค. คาํ หยาบ ง. คาํ เพอ้ เจอ้
ก. อายสุ น้ั ข. อดยาก ค. ยากจน ง. คนนินทา
๔๔. อนภชิ ฌา ตรงกนั ขา้ มกบั อกศุ ลกรรมบถใด ?
๑๙. ขอ้ ใด เป็นอทนิ นาทานเกดิ ข้นึ ทางวาจา ? ก. ปาณาตบิ าต ข. อภชิ ฌา ค. พยาบาท ง. มจิ ฉาทฏิ ฐิ
ก. สงั่ ใหโ้ กหก ข. สงั่ ใหฆ้ ่า ค. สงั่ ใหด้ ่า ง. สงั่ ใหล้ กั ขโมย
๔๕. คนมนี ิสยั ชอบแบ่งปนั เพราะประพฤตกิ ศุ ลกรรมบถใด ?
๒๐. ลกั ทรพั ยป์ ระเภทใด เป็นอทนิ นาทาน ? ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. มเี จา้ ของ ข. เขาหวงแหน ค. เขายงั ไม่ให้ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๔๖. คนไม่คดิ อาฆาตจองเวร ไดช้ อ่ื ว่าประพฤตกิ ศุ ลกรรมบถใด ?
๒๑. ฉอ้ โกงทรพั ยส์ นิ ของชาติ เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ? ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสุมจิ ฉาจาร ง. มสุ าวาท
๔๗. สมั มาทฏิ ฐิ จดั เป็นการประพฤตธิ รรมทางใด ?
๒๒. ขอ้ ใด เป็นผลกรรมของผูก้ ระทาํ อทนิ นาทาน ? ก. ทางกาย ข. ทางวาจา ค. ทางใจ ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. ดอ้ ยทรพั ย์ ข. อบั ปญั ญา ค. หมดบารมี ง. มโี รคมาก
๔๘. เหน็ วา่ พ่อแม่เป็นผูม้ พี ระคุณ เป็นทฏิ ฐปิ ระเภทใด ?
๒๓. กาเมสมุ จิ ฉาจาร เป็นการกระทาํ ความชวั่ ทางใด ? ก. สมั มาทฏิ ฐิ ข. นตั ถกิ ทฏิ ฐิ ค. อเหตกุ ทฏิ ฐิ ง. อกริ ยิ ทฏิ ฐิ
ก. กาย ข. วาจา ค. ใจ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๔๙. อนภชิ ฌา อพยาบาท สมั มาทฏิ ฐิ เป็นกรรมประเภทใด ?
๒๔. การลว่ งละเมดิ ทางเพศ เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ? ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ง. พยาบาท
๕๐. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการ จดั เขา้ ในหลกั ธรรมใด ?
๒๕. อกศุ ลกรรมบถขอ้ ๓ มคี วามเกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ ใด ? ก. ทาน ข. ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา
ก. หญงิ ตอ้ งหา้ ม ข. ชายตอ้ งหา้ ม ค. นกั บวช ง. ถกู ทกุ ขอ้
เฉลยปญั หาวชิ าธรรมวภิ าค ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ระดบั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. คนทท่ี าํ พดู ผดิ พลาดอยู่เสมอเพราะขาดธรรมขอ้ ใด ? ๒๖. ไม่ดใี จเสยี ใจเมอ่ื ผูอ้ น่ื ถงึ ความวบิ ตั ิ ตรงกบั พรหมวหิ ารใด ?
ก. สตสิ มั ปชญั ญะ ข. หริ โิ อตตปั ปะ ค. ขนั ตโิ สรจั จะ ง. กตญั �ูกตเวที ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา
๒. สมั ปชญั ญะควรใชเ้วลาไหน ? ๒๗. ขอ้ ใด เป็นอนนั ตรยิ กรรม ?
ก. ก่อนทาํ พดู คดิ ข. ขณะทาํ พดู คดิ ค. หลงั ทาํ พดู คดิ ง. ทาํ พูดคดิ ไปแลว้ ก. หมน่ิ ศาสนา ข. ทาํ ลายทรพั ย์ ค. ทาํ รา้ ยร่างกาย ง. ทาํ สงฆแ์ ตกแยก
๓. ชาวโลกอยู่เยน็ เป็นสขุ ไดด้ ว้ ยธรรมขอ้ ใด ? ๒๘. อนนั ตรยิ กรรม ๕ ใหผ้ ลอย่างไร ?
ก. สตสิ มั ปชญั ญะ ข. หริ ิโอตตปั ปะ ค. ขนั ตโิ สรจั จะ ง. กตญั �ูกตเวที ก. เกดิ เป็นเปรต ข. เกดิ เป็นอสูรกาย ค. ตกนรกอเวจี ง. เกดิ เป็นสตั ว์
เดรจั ฉาน
๔. คนมหี ริ ิ มลี กั ษณะเช่นใด ?
ก. รงั เกยี จคนชวั่ ข. ละอายบาป ค. กลวั บาป ง. กลวั คนชวั่ ๒๙. กรรมทห่ี า้ มสวรรคห์ า้ มนพิ พาน ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อโหสกิ รรม ข. อนนั ตริยกรรม ค. ลหกุ รรม ง. ชนกกรรม
๕. ขอ้ ใด มคี วามหมายตรงกบั โอตตปั ปะ ?
ก. กลวั ผลบาป ข. กลวั เสยี ชอ่ื เสยี ง ค. กลวั โจร ง. กลวั ถกู จบั ๓๐. ไดร้ ูเ้รอ่ื งใหม่ เขา้ ใจเร่อื งเก่า บรรเทาสงสยั เป็นผลของอะไร ?
ก. ฟังธรรม ข. คบสตั บรุ ษุ ค. ทาํ บญุ ง. บาํ เพญ็ ภาวนา
๖. ผูม้ งุ่ ใหก้ าย วาจา ใจงดงาม ควรประพฤตธิ รรมอะไร ?
ก. ขนั ตโิ สรจั จะ ข. สตสิ มั ปชญั ญะ ค. หริ โิ อตตปั ปะ ง. กตญั �ูกตเวที ๓๑. ขอ้ ใด เป็นอานสิ งสข์ องการฟงั ธรรมโดยตรง ?
ก. ไดบ้ ญุ ข. เกดิ สมาธิ ค. ละกเิ ลส ง. เกดิ ปญั ญา
๗. ความงามในขอ้ ใดสาํ คญั ทส่ี ดุ ?
ก. งามจติ ใจ ข. งามมรรยาท ค. งามกาย ง. งามเครอ่ื งประดบั ๓๒. ขอ้ ใด ไม่ใช่อานสิ งสข์ องการฟงั ธรรม ?
ก. หายกงั วล ข. บรรเทาสงสยั ค. เขา้ ใจเน้ือหา ง. จติ ใจผอ่ งใส
๘. ผูร้ ูอ้ ปุ การะทท่ี า่ นทาํ แลว้ ตอบแทน เรยี กว่าอะไร ?
ก. กตญั �ู ข. กตเวที ค. กตญั �ูกตเวที ง. บพุ พการี ๓๓. อฏุ ฐานสมั ปทา หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. ขยนั หมนั่ เพยี ร ข. เกบ็ รกั ษา ค. คบเพอ่ื นดี ง. มคี วามพอเพยี ง
๙. ผูท้ าํ อปุ การะโดยไม่หวงั สง่ิ ตอบแทน คอื ใคร ?
ก. เพอ่ื นสนิท ข. ญาตสิ นทิ ค. บตุ รธดิ า ง. บดิ ามารดา ๓๔. คนทใ่ี ชจ้ ่ายฟ่มุ เฟือยเกนิ ตวั เพราะขาดธรรมขอ้ ใด ?
ก. อฏุ ฐานสมั ปทา ข. อารกั ขสมั ปทา ค. กลั ยาณมติ ตตา ง. สมชีวติ า
๑๐. คาํ ว่า พระในบา้ น หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. พระพทุ ธรูป ข. พระภมู เิ จา้ ท่ี ค. พอ่ แม่ ง. ปู่ ย่า ตา ยาย ๓๕. อนั เพอ่ื นดมี หี น่ึงถงึ จะนอ้ ย ดกี ว่ารอ้ ยเพอ่ื นคดิ รษิ ยา ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อฏุ ฐานสมั ปทา ข. อารกั ขสมั ปทา ค. กลั ยาณมติ ตตา ง. สมชวี ติ า
๑๑. ชาวพทุ ธตอ้ งยดึ ถอื อะไรเป็นทพ่ี ง่ึ ทร่ี ะลกึ ?
ก. พระรตั นตรยั ข. พระไตรปิฎก ค. โอวาทปาฏโิ มกข์ ง. ไตรสกิ ขา ๓๖. จรงิ ใจ ฝึกฝน ทนได้ ใหป้ นั ตรงกบั ธรรมใด ?
ก. ฆราวาสธรรม ๔ ข. อธฐิ านธรรม ๔ ค. จกั ร ๔ ง. สงั คหวตั ถุ ๔
๑๒. ผูร้ ูด้ รี ูช้ อบและสอนใหผ้ ูอ้ น่ื ปฏบิ ตั ติ าม หมายถงึ ใคร ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระปจั เจกพทุ ธเจา้ ค. พระอรหนั ต์ ง. พระสาวก ๓๗. งานหนกั ไมเ่ อา งานเบาไม่สู ้ เพราะขาดธรรมใด ?
ก. สจั จะ ข. ทมะ ค. ขนั ติ ง. จาคะ
๑๓. พระธรรมคอื อะไร ?
ก. คาํ สงั่ สอน ข. ระเบยี บ ค. คาํ ตกั เตอื น ง. กตกิ า ๓๘. ผูท้ ส่ี ละสง่ิ ของช่วยคนตกทกุ ขไ์ ดย้ าก ช่อื วา่ ปฏบิ ตั ติ ามฆราวาสธรรมใด ?
ก. สจั จะ ข. ทมะ ค. ขนั ติ ง. จาคะ
๑๔. ขอ้ ใด เป็นหนา้ ทข่ี องพระสงฆ์ ?
ก. สอนใหม้ โี ชค ข. สอนใหม้ ลี าภ ค. สอนใหท้ าํ ความดี ง. สอนใหร้ วย ๓๙. มติ รปฏริ ูป มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. เพอ่ื นไม่แท้ ข. เพอ่ื นร่วมร่นุ ค. เพอ่ื นนกั เรยี น ง. เพอ่ื นบา้ น
๑๕. ละชวั่ ทาํ ดี ทาํ จติ ใหผ้ อ่ งใส ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. โอวาท ๓ ข. บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ๓ ค. รตั นะ ๓ ง. สจุ รติ ๓ ๔๐. คดิ เอาแต่ไดฝ้ ่ายเดยี ว เป็นลกั ษณะของมติ รประเภทใด ?
ก. คนดแี ต่พูด ข. คนปลอกลอก ค. คนหวั ประจบ ง. คนชวนทาํ ชวั่
๑๖. โอวาทของพระพทุ ธจา้ เนน้ การกระทาํ ดา้ นใด ?
ก. กาย ข. วาจา ค. ใจ ง. กาย วาจา ใจ ๔๑. คนดแี ต่พดู ในมติ รปฏริ ูป มลี กั ษณะเช่นไร ?
ก. พดู มาก ข. พดู ไรส้ าระ ค. ออกปากพ่งึ ไมไ่ ด้ ง. พดู เพอ้ เจอ้
๑๗. ธรรมเป็นเครอ่ื งเจรญิ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. วฑุ ฒิ ข. อทิ ธบิ าท ค. พรหมวหิ าร ง. อคติ ๔๒. คนหวั ประจบ มลี กั ษณะเช่นไร ?
ก. ตอ่ หนา้ สรรเสริญ ข. ชวนเลน่ พนนั ค. พง่ึ ไม่ได้ ง. ชวนเทย่ี วกลางคนื
๑๘. คนเช่นไร ช่อื วา่ สตั บรุ ุษ ?
ก. รูจ้ กั ทาํ มาหากนิ ข. ไมเ่ กยี จครา้ น ค. รูจ้ กั แบ่งปนั ง. ทาํ พูดคดิ ดี ๔๓. เพอ่ื นหนา้ ไหวห้ ลงั หลอก จดั เขา้ ในมติ รประเภทใด ?
ก. ปอกลอก ข. ดแี ต่พดู ค. หวั ประจบ ง. หลอกลวง
๑๙. จะประสบความสาํ เร็จในชวี ติ ได้ เพราะประพฤตธิ รรมใด ?
ก. จกั ร ๔ ข. อทิ ธบิ าท ๔ ค. วฒุ ิ ๔ ง. ปธาน ๔ ๔๔. มติ รมอี ปุ การะ มลี กั ษณะเช่นไร ?
ก. ป้ องกนั ภยั ข. ตายแทนได้ ค. ร่วมสขุ ร่วมทกุ ข์ ง. รกั ษาความลบั
๒๐. ความพอใจในหนา้ ทก่ี ารงานทท่ี าํ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ฉนั ทะ ข. วริ ยิ ะ ค. จติ ตะ ง. วมิ งั สา ๔๕. เพอ่ื นทไ่ี ม่ท้งิ กนั ในยามมภี ยั จดั เขา้ ในมติ รแทป้ ระเภทใด ?
ก. มอี ปุ การะ ข. รว่ มสขุ ร่วมทกุ ข์ ค. แนะประโยชน์ ง. มคี วามรกั ใคร่
๒๑. การเอาใจฝกั ใฝ่ในการศึกษาไมว่ างธุระ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ฉนั ทะ ข. วริ ยิ ะ ค. จติ ตะ ง. วมิ งั สา ๔๖. มติ รแนะประโยชน์ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ร่วมสุขร่วมทกุ ข์ ข. รกั ษาความลบั ค. บอกทางสวรรค์ ง. ไมท่ ้งิ กนั
๒๒. การใชป้ ญั ญาพจิ ารณาเปรยี บเทยี บทง้ั เหตแุ ละผล ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ฉนั ทะ ข. วริ ยิ ะ ค. จติ ตะ ง. วมิ งั สา ๔๗. โตแ้ ยง้ คนทพ่ี ดู ตเิ ตยี นเพอ่ื น เป็นลกั ษณะของมติ รประเภทใด ?
ก. มอี ปุ การะ ข. ร่วมสุขร่วมทกุ ข์ ค. แนะประโยชน์ ง. มคี วามรกั ใคร่
๒๓. จะแกค้ วามอาฆาตพยาบาท ดว้ ยธรรมอะไร ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา ๔๘. ความเช่อื เช่นไร เป็นคุณสมบตั ขิ องอบุ าสกอบุ าสกิ า ?
ก. เช่ือผลกรรม ข. เช่อื มงคล ค. เช่อื ปาฏหิ ารยิ ์ ง. เช่อื โชคลาง
๒๔. นานาชาตมิ าช่วยนกั เรยี นตดิ อยู่ในถาํ้ จดั ไดว้ ่ามพี รหมวหิ ารใด ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา ๔๙. ขอ้ ใด เป็นคุณสมบตั ขิ องอบุ าสกอบุ าสกิ า ?
ก. มขี นั ติ ข. มศี ีล ค. มสี มาธิ ง. มภี าวนา
๒๕. เหน็ คนอน่ื ไดด้ มี คี วามสขุ เรากย็ นิ ดดี ว้ ย ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา ๕๐. อบุ าสกอบุ าสกิ า ควรยดึ ถอื อะไรเป็นสรณะทพ่ี ง่ึ ?
ก. เทพเจา้ ข. หมอดู ค. ร่างทรง ง. พระรตั นตรยั
เฉลยปญั หาวชิ าพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ชน้ั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐-๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ชมพทู วปี เป็นดนิ แดนทก่ี าํ หนดหมายดว้ ยตน้ ไมใ้ ด ? ๒๖. วดั ใด ทพ่ี ระเจา้ พมิ พสิ ารทรงสรา้ งถวาย ?
ก. ตน้ ชมพู่ ข. ตน้ หวา้ ค. ตน้ สาละ ง. ตน้ ไทร ก. เชตวนั ข. เวฬวุ นั ค. บพุ พาราม ง. นโิ ครธาราม
๒. เจา้ ของถน่ิ เดมิ ในชมพทู วปี ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๒๗. อปุ ตสิ สะ เป็นช่อื เดมิ ของพระเถระรูปใด ?
ก. มลิ กั ขะ ข. อรยิ กะ ค. เขมร ง. ไทย ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระมหากสั สปะ ง. พระอานนท์
๓. ประชาชนในชมพทู วปี แบ่งเป็นก่ชี นชาติ ? ๒๘. พระสาวกรูปใด เป็นพระอคั รสาวกเบ้อื งซา้ ย ?
ก. ๑ ชนชาติ ข. ๒ ชนชาติ ค. ๓ ชนชาติ ง. ๔ ชนชาติ ก. พระอสั สชิ ข. พระยสะ ค. พระสารบี ตุ ร ง. พระโมคคลั ลานะ
๔. วรรณะใด เป็นชนชนั้ ปกครองในชมพทู วปี ? ๒๙. พระมหากสั สปะไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. มปี ญั ญามาก ข. มฤี ทธ์มิ าก ค. ถอื ธุดงค์ ง. มคี วามเพยี รมาก
๕. วรรณะแพศย์ ทาํ หนา้ ทใ่ี ด ? ๓๐. พระพทุ ธเจา้ แสดงธรรมโปรดสงิ คาลกมาณพ วา่ ดว้ ยเรอ่ื งใด ?
ก. ปกครอง ข. สงั่ สอน ค. คา้ ขาย ง. รบั จา้ ง ก. ธาตุ ๔ ข. ขนั ธ์ ๕ ค. อายตนะ ๖ ง. ทศิ ๖
๖. วรรณะพราหมณแ์ ต่งงานกบั วรรณะศูทร บตุ รทเ่ี กดิ มาเรยี กว่าอะไร ? ๓๑. พระเถระใด เป็นสหชาตขิ องพระพทุ ธเจา้ ?
ก. พราหมณ์ ข. แพศย์ ค. ศูทร ง. จณั ฑาล ก. พระนนั ทะ ข. พระกาฬทุ ายี ค. พระราหลุ ง. พระโมคคลั ลานะ
๗. เมอื งกบลิ พสั ดุ์ ตง้ั ตามช่อื ของดาบสใด ? ๓๒. สามเณรราหลุ บรรพชาขณะมอี ายกุ ่ปี ี ?
ก. อทุ กดาบส ข. อสติ ดาบส ค. กบลิ ดาบส ง. อาฬารดาบส ก. ๖ ปี ข. ๗ ปี ค. ๘ ปี ง. ๙ ปี
๘. พระมหาบรุ ษุ ประสูตทิ ใ่ี ด ? ๓๓. วดั ใด ทอ่ี นาถบณิ ฑกิ เศรษฐสี รา้ งถวาย ?
ก. ลมุ พนิ ีวนั ข. สาลวนั ค. อมั พวนั ง. เวฬวุ นั ก. เชตวนั ข. เวฬวุ นั ค. บพุ พาราม ง. นิโครธาราม
๙. พระนามของมหาบรุ ุษ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๔. พระพทุ ธเจา้ ทรงรบั บณิ ฑบาตครงั้ สุดทา้ ยจากใคร ?
ก. สุทโธทนะ ข. สทิ ธตั ถะ ค. นนั ทะ ง. อานนั ทะ ก. นางสุชาดา ข. นางวสิ าขา ค. นายจนุ ทะ ง. มลั ลกษตั รยิ ์
๑๐. พระมารดาของพระมหาบรุ ุษ พระนามว่าอะไร ? ๓๕. พระสาวกองคส์ ุดทา้ ยทท่ี นั เหน็ พระพทุ ธเจา้ คอื ใคร ?
ก. สริ ิมหามายา ข. ปชาบดี ค. ปมติ า ง. อมติ า ก. พระอานนท์ ข. พระสภุ ทั ทะ ค. พระนนั ทะ ง. พระอปุ วาณะ
๑๑. พราหมณใ์ ด ทาํ นายว่าเจา้ ชายสทิ ธตั ถะจะออกผนวชแน่นอน ? ๓๖. พระพทุ ธเจา้ ตรสั ปจั ฉิมโอวาท วา่ ดว้ ยเรอ่ื งใด ?
ก. ลกั ขณะ ข. รามะ ค. สยามะ ง. โกณฑญั ญะ ก. ความประมาท ข. ความไมป่ ระมาท ค. ความอดทน ง. ความสตั ย์
๑๒. ครูคนแรกของเจา้ ชายสทิ ธตั ถะ คอื ใคร ? ๓๗. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พานภายใตต้ น้ ไมใ้ ด ?
ก. อสติ ดาบส ข. วศิ วามิตร ค. อาฬารดาบส ง. อทุ กดาบส ก. ตน้ จกิ ข. ตน้ โพธ์ิ ค. ตน้ สาละ ง. ตน้ ไทร
๑๓. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะ ทรงอภเิ ษกสมรสกบั เจา้ หญงิ พระองคใ์ ด ? ๓๘. พระบรมสารรี กิ ธาตขุ องพระพทุ ธเจา้ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อมติ า ข. ปมติ า ค. พมิ พา ง. รูปนนั ทา ก. กระดูก ข. บาตร ค. จวี ร ง. สงั ฆาฏิ
๑๔. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะมพี ระทยั นอ้ มไปในการผนวช เพราะเหน็ อะไร ? ๓๙. พราหมณใ์ ด ทาํ หนา้ ทแ่ี จกพระบรมสารรี กิ ธาตุ ?
ก. คนแก่ ข. คนเจบ็ ค. คนตาย ง. สมณะ ก. รามพราหมณ์ ข. ธชพราหมณ์ ค. สุทตั ตพราหมณ์ ง. โทณพราหมณ์
๑๕. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะอธษิ ฐานเพศเป็นบรรพชติ ทฝ่ี งั่ แม่นาํ้ ใด ? ๔๐. พระบรมสารรี กิ ธาตุ ถกู แบ่งออกเป็นกส่ี ่วน ?
ก. เนรญั ชรา ข. ยมนุ า ค. คงคา ง. อโนมา ก. ๖ สว่ น ข. ๗ สว่ น ค. ๘ สว่ น ง. ๙ สว่ น
๑๖. หลงั ผนวชแลว้ พระมหาบรุ ษุ ไปศึกษาอยู่ในสาํ นกั ของใคร ? ๔๑. สง่ิ ใด ทผ่ี ูป้ ระกาศตนเป็นพทุ ธมามกะพงึ นบั ถอื ตลอดชวี ติ ?
ก. กบลิ ดาบส ข. อสติ ดาบส ค. อาฬารดาบส ง. ปรู ณกสั สปะ ก. ไตรรตั น์ ข. ไตรสกิ ขา ค. ไตรลกั ษณ์ ง. ไตรภมู ิ
๑๗. ก่อนตรสั รู้ พระมหาบรุ ุษทรงรบั ขา้ วมธุปายาสจากสตรใี ด ? ๔๒. การบูชาในวนั เพญ็ เดอื น ๓ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ปชาบดี ข. พมิ พา ค. สชุ าดา ง. วสิ าขา ก. มาฆบูชา ข. วสิ าขบชู า ค. อาสาฬหบชู า ง. อฏั ฐมบี ูชา
๑๘. พระพทุ ธเจา้ ตรสั รู้ ขณะมพี ระชนมายุก่ปี ี ? ๔๓. พระภกิ ษุรูปแรกในพระพทุ ธศาสนา เกดิ ข้นึ ในวนั ใด ?
ก. ๑๖ ปี ข. ๒๙ ปี ค. ๓๕ ปี ง. ๘๐ ปี ก. มาฆบชู า ข. วสิ าขบชู า ค. อาสาฬหบูชา ง. อฏั ฐมบี ูชา
๑๙. สหมั บดพี รหม กราบทูลอาราธนาใหพ้ ระพทุ ธเจา้ ทาํ สง่ิ ใด ? ๔๔. วนั ถวายพระเพลงิ พระพทุ ธสรรี ะ ตรงกบั วนั ใด ?
ก. แสดงธรรม ข. สวดมนต์ ค. รบั บณิ ฑบาต ง. รบั ผา้ ไตร ก. มาฆบชู า ข. วสิ าขบชู า ค. อาสาฬหบชู า ง. อฏั ฐมีบูชา
๒๐. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมครงั้ แรกแก่ชนกลมุ่ ใด ? ๔๕. ในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ควรปฏบิ ตั ติ นเช่นใด ?
ก. ภทั ทวคั คยี ์ ข. ปญั จวคั คยี ์ ค. สหายพระยสะ ง. ชฏลิ ๓ พน่ี อ้ ง ก. ตกั บาตร ข. รกั ษาศีล ค. ปฏบิ ตั ธิ รรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๑. พระภกิ ษุรูปแรกในพระพทุ ธศาสนา ช่อื ว่าอะไร ? ๔๖. ทาน หมายถงึ กริ ยิ าใด ?
ก. อญั ญาโกณฑญั ญะ ข. วปั ปะ ค. ภทั ทยิ ะ ง. มหานามะ ก. การให้ ข. การบรจิ าค ค. การแบ่งปนั ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๒. “ ทน่ี ่ีไมว่ นุ่ วายหนอ ทน่ี ่ไี มข่ ดั ขอ้ งหนอ ” พระพทุ ธเจา้ ตรสั แก่ใคร ? ๔๗ การกราบ ตรงกบั กริ ยิ าใด ?
ก. ยสะ ข. สุพาหุ ค. ปณุ ณชิ ง. ควมั ปติ ก. อญั ชลี ข. วนั ทา ค. อภวิ าท ง. คุกเขา่
๒๓. อบุ าสกผูถ้ งึ พระรตั นตรยั คนแรก เป็นอะไรกบั พระยสะ ? ๔๘. อญั ชลี มคี วามหมายตรงกบั กริ ยิ าใด ?
ก. เป็นปู่ ข. เป็นลงุ ค. เป็นพอ่ ง. เป็นอา ก. ประนมมือ ข. ไหว้ ค. กราบ ง. คกุ เขา่
๒๔. คฤหสั ถผ์ ูบ้ รรลเุ ป็นพระอรหนั ตค์ นแรก ชอ่ื ว่าอะไร ? ๔๙. พทุ ธงั สะระณงั คจั ฉามิ คอื การกลา่ วถงึ สรณะใดเป็นทพ่ี ง่ึ ?
ก. ยสะ ข. สพุ าหุ ค. ปณุ ณชิ ง. ควมั ปติ ก. พระพทุ ธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๕. พระพทุ ธเจา้ สง่ พระสาวกไปประกาศพระศาสนาครง้ั แรก กอ่ี งค์ ? ๕๐. พรหั มา จะ โลกาธปิ ะตี สะหมั ปะติ ... เป็นคาํ อะไร ?
ก. ๕๐ องค์ ข. ๕๔ องค์ ค. ๕๕ องค์ ง. ๖๐ องค์ ก. อาราธนาศีล ๕ ข. อาราธนาศีล ๘ ค. อาราธนาปรติ ร ง. อาราธนาธรรม
เฉลยปญั หาวชิ าเบญจศีลเบญจธรรม (วินยั ) ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ระดบั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว ระบายในกระดาษคาํ ตอบใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ขอ้ หา้ มไม่ใหก้ ระทาํ ในสง่ิ ทค่ี วรงดเวน้ หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๒๖. รกั เดยี วใจเดยี ว ไม่เป็นคนเจา้ ชู้ ตอ้ งรกั ษาเบญจศีลขอ้ ใด ?
ก. ทาน ข. ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔
๒. ขอ้ ใด เป็นพ้นื ฐานในการทาํ ความดขี องมนุษย์ ? ๒๗. มสุ าวาทา เวระมณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ เป็นศีลขอ้ ใด ?
ก. ทาน ข.ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๓. ผูม้ กี ายวาจาเรยี บรอ้ ยเป็นผลมาจากอะไร ? ๒๘. คาํ วา่ มสุ าวาท มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ทาน ข.ศีล ค. สมาธิ ง. ภาวนา ก. ทะเลาะววิ าท ข. พูดปด ค. ลกั ขโมย ง. กา้ วรา้ ว
๔. ศีลทแ่ี ปลวา่ ปกติ หมายถงึ ศีลประเภทใด ? ๒๙. พดู โกหกพ่อแม่ เป็นการทาํ ผดิ เบญจศีลขอ้ ใด ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๒๒๗ ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔
๕. เบญจศีล ท่านบญั ญตั ไิ วก้ ่ขี อ้ ? ๓๐. นทิ านเร่อื งเดก็ เล้ยี งแกะ เป็นตวั อย่างการทาํ ผดิ เบญจศีลขอ้ ใด ?
ก. ๕ ขอ้ ข. ๘ ขอ้ ค. ๑๐ ขอ้ ง. ๒๒๗ ขอ้ ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๖. เบญจศีล จดั เขา้ ในกลมุ่ วชิ าใด ? ๓๑. คนพดู โกหก ย่อมไดร้ บั โทษอย่างไร ?
ก. ธรรมะ ข. พทุ ธประวตั ิ ค. วนิ ยั ง. ศาสนพธิ ี ก. ไมน่ ่าเช่ือถอื ข. ยากจน ค. สอบตก ง. เจบ็ ป่วย
๗. เบญจศีล เป็นศีลของใคร ? ๓๒. เบญจศีลขอ้ ท่ี ๔ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื เนน้ ใหค้ นทาํ ความดดี า้ นใด ?
ก. ภกิ ษุ ข. สามเณร ค. แมช่ ี ง. บคุ คลทวั่ ไป ก. ความขยนั ข. ความจรงิ ใจ ค. ความอดทน ง. ความประหยดั
๘. เบญจศีล มงุ่ ถงึ ศีลประเภทใด ? ๓๓. สุราเมระยะมชั ชะปะมาทฏั ฐานา เวระมณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ เป็นศีลขอ้ ใด ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๒๒๗ ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๙. ศีลขอ้ ใด ทาํ ใหม้ นุษยเ์ หน็ คณุ ค่าของชวี ติ ? ๓๔. เบญจศีลขอ้ ท่ี ๕ สอนใหง้ ดเวน้ เรอ่ื งใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. ฆ่าสตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. พดู เทจ็ ง. ด่ืมน้ําเมา
๑๐. ปาณาตปิ าตา เวระมะณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ เป็นศีลขอ้ ใด ? ๓๕. คาํ วา่ เลกิ เหลา้ แลว้ รวย เพอ่ื ใหเ้หน็ โทษการดม่ื นาํ้ เมาขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. เสยี ทรพั ย์ ข. ก่อววิ าท ค. เกดิ โรค ง. ทอนกาํ ลงั ปญั ญา
๑๑. ขอ้ ใด เป็นการประพฤตผิ ดิ ศีลขอ้ ท่ี ๑ ? ๓๖. ขอ้ ใด เป็นความเสยี หายเพราะดม่ื นาํ้ เมา ?
ก. ทาํ แทง้ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. เสพยาบา้ ง. พดู โกหก ก. ทาํ ลายขา้ วของ ข. ทบุ ตผี ูอ้ น่ื ค. ทะเลาะววิ าท ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๒. การฆ่า หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๓๗. ขอ้ ใด ไมจ่ ดั เป็นของมนึ เมาในเบญจศีลขอ้ ท่ี ๕ ?
ก. ทาํ ใหบ้ าดเจบ็ ข. ทาํ ใหพ้ กิ าร ค. ทาํ ใหล้ าํ บาก ง. ทาํ ใหต้ าย ก. เบยี ร์ ข. ยาดองเหลา้ ค. กาแฟ ง. ยาบา้
๑๓. ขอ้ ใด แสดงถงึ การขาดเมตตาจติ ? ๓๘. อาการใด เกดิ จากการดม่ื นาํ้ เมา ?
ก. เล้ยี งสุนขั ข. เล้ยี งแมว ค. เล้ยี งนก ง. ตกปลา ก. มนึ งง ข. อาเจยี น ค. ความดนั โลหติ สูง ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๔. คาํ ว่า ทรกรรม เป็นการประพฤตเิ ห้ยี มโหดแก่ใคร ? ๓๙. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่โทษของการดม่ื นาํ้ เมา ?
ก. เดก็ ข. สตรี ค. คนชรา ง. สตั ว์ ก. คนยกยอ่ ง ข. เสยี ทรพั ย์ ค. ก่อววิ าท ง. เกดิ โรค
๑๕. เบญจศีลขอ้ ท่ี ๑ เป็นการปลูกฝงั คณุ ธรรมใด ? ๔๐. เบญจศีลขอ้ ใด ช่วยสงั คมลดปญั หาฆาตกรรม ?
ก. เมตตากรณุ า ข. ความซอ่ื สตั ย์ ค. ความกตญั �ู ง. ความไม่ประมาท ก. ขอ้ ท่ี ๑ ข. ขอ้ ท่ี ๒ ค. ขอ้ ท่ี ๓ ง. ขอ้ ท่ี ๔
๑๖. การกระทาํ ใด เกย่ี วขอ้ งกบั เบญจศีลขอ้ ท่ี ๑ ? ๔๑. เบญจศีลขอ้ ใด ช่วยสงั คมลดปญั หาโจรกรรม ?
ก. เกบ็ สว่ ย ข. เลน่ หวย ค. งดเหลา้ ง. ฆา่ ข่มขืน ก. ขอ้ ท่ี ๑ ข. ขอ้ ท่ี ๒ ค. ขอ้ ท่ี ๓ ง. ขอ้ ท่ี ๔
๑๗. อทนิ นาทานา เวระมณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ เป็นศีลขอ้ ใด ? ๔๒. เบญจศีลขอ้ ใด ช่วยสงั คมลดปญั หาการลว่ งละเมดิ ทางเพศ ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. ขอ้ ท่ี ๑ ข. ขอ้ ท่ี ๒ ค. ขอ้ ท่ี ๓ ง. ขอ้ ท่ี ๔
๑๘. เบญจศีลขอ้ ๒ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ป้องกนั การลว่ งละเมดิ ในเร่อื งใด ? ๔๓. เบญจศีลขอ้ ใด ช่วยสงั คมลดปญั หายาเสพตดิ ?
ก. ชวี ติ ข. ทรพั ยส์ นิ ค. ร่างกาย ง. จติ ใจ ก. ขอ้ ท่ี ๓ ข. ขอ้ ท่ี ๔ ค. ขอ้ ท่ี ๕ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๙. ปลน้ เป็นการทาํ ผดิ ศีลขอ้ ใด ? ๔๔. อยากเป็นคนรกั ษาคาํ พดู ตอ้ งรกั ษาเบญจศีลขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. ขอ้ ท่ี ๒ ข. ขอ้ ท่ี ๓ ค. ขอ้ ท่ี ๔ ง. ขอ้ ท่ี ๕
๒๐. ขอ้ ใด เกย่ี วขอ้ งกบั เบญจศีลขอ้ ท่ี ๒ ? ๔๕. โครงการชวนพ่อเลกิ เหลา้ เป็นการรณรงคใ์ หร้ กั ษาศีลขอ้ ใด ?
ก. ลกั ทรพั ย์ ข. รบั ซ้อื ของโจร ค. เลย่ี งภาษี ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ขอ้ ท่ี ๒ ข. ขอ้ ท่ี ๓ ค. ขอ้ ท่ี ๔ ง. ขอ้ ท่ี ๕
๒๑. เบญจศีลขอ้ ท่ี ๒ เป็นการปลูกฝงั คุณธรรมใด ? ๔๖. ขอ้ ใด เป็นประโยชนจ์ ากการรกั ษาเบญจศีลขอ้ ท่ี ๕ ?
ก. เมตตากรุณา ข. ความสจุ ริต ค. ความสามคั คี ง. ความไม่ประมาท ก. ลดอบุ ตั เิ หตุ ข. ลดค่าใชจ้ ่าย ค. ลดเหตวุ วิ าท ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๒. กาเมสมุ จิ ฉาจารา เวระมณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ เป็นศีลขอ้ ใด ? ๔๗. บคุ คลผูง้ ดเวน้ จากขอ้ หา้ มในเบญจศีล เรยี กว่าอะไร ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. ผูม้ ีศีล ข. ผมู ้ ธี รรม ค. ผูม้ บี ญุ ง. ผูม้ คี ณุ
๒๓. เบญจศีลขอ้ ท่ี ๓ ใหง้ ดเวน้ เกย่ี วกบั เรอ่ื งใด ? ๔๘. เราเรยี กคนรกั ษาศีลว่าอะไร ?
ก. ผิดประเวณี ข. ฆ่าสตั ว์ ค. ดม่ื สรุ าเมรยั ง. พดู เทจ็ ก. คนมที รพั ย์ ข. คนมปี ญั ญา ค. คนมศี ีล ง. คนมบี ญุ
๒๔. คาํ ว่า ภรรยา ไดแ้ ก่หญงิ ประเภทใด ? ๔๙. ใครไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการรกั ษาศีล ?
ก. หญงิ ไมม่ สี ามี ข. หญิงมีสามี ค. หญงิ หย่าสามี ง. หญงิ สามตี าย ก. ตนเอง ข. ครอบครวั ค. สงั คม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๕. การทาํ ผดิ เบญจศีลขอ้ ท่ี ๓ เป็นเหตใุ หเ้กดิ โรคใด ? ๕๐. ขอ้ ใด เป็นอานสิ งสข์ องการรกั ษาศีล?
ก. กามโรค ข. ไขห้ วดั ใหญ่ ค. มะเร็ง ง. ปอดบวม ก. มโี ภคทรพั ย์ ข. เกดิ บนสวรรค์ ค. เขา้ ถงึ นพิ พาน ง. ถกู ทกุ ขอ้
เฉลยปญั หาวชิ าธรรมวิภาค ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ในบชู า ๒ การบชู าชนดิ ใด สง่ เสรมิ อาชพี ทาํ สวนดอกไม้ ? ๒๖. เทศนาทแ่ี สดงไปโดยลาํ ดบั เรยี กว่าอะไร
ก. อามสิ บูชา ข. ปฏปิ ตั ตบิ ูชา ค. สกั การบชู า ง. ธรรมบชู า ก. อนุปพุ พกี ถา ข. ทานกถา ค. สลี กถา ง. สคั คกถา
๒. การบูชาทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงสรรเสรญิ คอื ขอ้ ใด ? ๒๗. คนมจี ติ ใจตระหน่ี ควรฟงั อนุปพุ พกี ถาขอ้ ใด ?
ก. สกั การบชู า ข. พทุ ธบชู า ค. อามสิ บชู า ง. ปฏปิ ตั ตบิ ชู า ก. ทานกถา ข. สลี กถา ค. สคั คกถา ง. กามาทนี วกถา
๓. ปฏสิ นั ถาร ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๒๘. คนประเภทไหน ควรฟงั กามาทนี วกถา ?
ก. การตอ้ นรบั ข. การบูชา ค. การทาํ ความเคารพ ง. การทาํ ความดี ก. คนโลภ ข. คนโกรธ ค. คนลมุ่ หลง ง. คนมกั มากในกาม
๔. ขอ้ ใด จดั เป็นธมั มปฏสิ นั ถาร ? ๒๙. ขอ้ ใด ไม่ใช่มาร ๕ ?
ก. ใหห้ นงั สอื ธรรม ข. ตอ้ นรบั ตามฐานะ ค. ใหน้ าํ้ ดม่ื ง. ถามถงึ ธุระ ก. ปญั จขนั ธ์ ข. กเิ ลส ค. มรณะ ง. ศตั รู
๕. ผูถ้ กู กามวติ กครอบงาํ มกั มพี ฤตกิ รรมเช่นไร ? ๓๐. ความเจบ็ ป่วย จดั เป็นมารชนิดใด ?
ก. หมกมนุ่ ในกาม ข. ปองรา้ ย ค. คดโกง ง. ทรมานสตั ว์ ก. ขนั ธมาร ข. กเิ ลสมาร ค. อภสิ งั ขารมาร ง. มจั จมุ าร
๖. คนทค่ี ดิ จะทาํ รา้ ยคนอน่ื เพราะถกู วติ กใดครอบงาํ ? ๓๑. มารทค่ี รอบงาํ บคุ คลใหป้ ระกอบทจุ รติ คดิ มชิ อบ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อกศุ ลวติ ก ข. กามวติ ก ค. พยาบาทวติ ก ง. วหิ งิ สาวติ ก ก. ขนั ธมาร ข. กเิ ลสมาร ค. มจั จมุ าร ง. เทวปตุ ตมาร
๗. ความคดิ ในเรอ่ื งใด ไมจ่ ดั เป็นอกศุ ลวติ ก ? ๓๒. ดนิ นาํ้ ไฟ ลม ประชมุ กนั เป็นกาย เรยี กว่าอะไร ?
ก. กาม ข. ปองรา้ ย ค. เบยี ดเบยี น ง. การศึกษา ก. รูป ข. เวทนา ค. สงั ขาร ง. วญิ ญาณ
๘. ความดาํ รทิ จ่ี ะไม่เบยี ดเบยี นกนั เป็นกศุ ลวติ กขอ้ ใด ? ๓๓. วญิ ญาณในขนั ธ์ ๕ หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. เนกขมั มวติ ก ข. อพยาบาทวติ ก ค. อวหิ งิ สาวติ ก ง. กามวติ ก ก. ภูตผี ข. ปีศาจ ค. ความรูอ้ ารมณ์ ง. ความจาํ
๙. ความดาํ รทิ จ่ี ะไมป่ องรา้ ยกนั เป็นกศุ ลวติ กขอ้ ใด ? ๓๔. ขนั ธ์ ๕ ย่อลงเป็น ๒ อย่าง ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. เนกขมั มวติ ก ข. อพยาบาทวติ ก ค. อวหิ งิ สาวติ ก ง. กามวติ ก ก. นามกบั รูป ข. นามกบั สญั ญา ค. นามกบั สงั ขาร ง. นามกบั วญิ ญาณ
๑๐. ขอ้ ใด เป็นความหมายของสกิ ขา ในพระพทุ ธศาสนา ? ๓๕. พระธรรมคณุ ขอ้ ว่า สนฺทฏิ ฐโิ ก หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. ฝึกนสิ ยั ข. ฝึ กกายวาจาใจ ค. ฝึกงาน ง. ฝึกหดั ก. ผูบ้ รรลพุ งึ เหน็ เอง ข. รูเ้ฉพาะตน ค. เรยี กใหม้ าดู ง. นอ้ มเขา้ มาในตน
๑๑. ฌานสมาบตั ิ จดั เขา้ ในสกิ ขาใด ? ๓๖. ในพระธรรมคุณ ๖ คาํ ว่า ไม่ประกอบดว้ ยกาล ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ไตรสกิ ขา ข. อธสิ ลี สกิ ขา ค. อธจิ ติ ตสกิ ขา ง. อธปิ ญั ญาสกิ ขา ก. สนฺทฏิ ฺฐโิ ก ข. อกาลโิ ก ค. เอหปิ สฺสโิ ก ง. โอปนยโิ ก
๑๒. อานิสงสข์ องการปฏบิ ตั ติ ามหลกั ไตรสกิ ขา คอื ขอ้ ใด ? ๓๗. เอหปิ สฺสโิ ก มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. กาํ จดั ทกุ ข์ ข. กาํ จดั โศก ค. กาํ จดั โรค ง. กาํ จดั กเิ ลส ก. พสิ ูจน์ได้ ข. ยอมรบั ค. ทนั สมยั ง. ตรสั ไวด้ แี ลว้
๑๓. ปิฎก แปลว่าอะไร ? ๓๘. คาํ วา่ นอ้ มนาํ มาปฏบิ ตั ิ มคี วามหมายตรงกบั ธรรมคณุ ขอ้ ใด ?
ก. ตะกรา้ ข. ถาด ค. กระเป๋า ง. ถงุ ก. สนฺทฏิ ฐฺ โิ ก ข. อกาลโิ ก ค. เอหปิ สฺสโิ ก ง. โอปนยโิ ก
๑๔. นทิ านชาดกต่างๆ ในพระไตรปิฎก อยู่ในปิฎกใด ? ๓๙. ปจจฺ ตตฺ ํ เวทติ พโฺ พ ว�ิ ฺ�ูหิ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. วนิ ยั ปิฎก ข. สตุ ตนั ตปิฎก ค. อภธิ รรมปิฎก ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ผูบ้ รรลพุ งึ เหน็ เอง ข. รูเ้ ฉพาะตน ค. เรยี กใหม้ าดู ง. นอ้ มเขา้ มาในตน
๑๕. พระอภธิ รรมปิฎก วา่ ดว้ ยเร่อื งอะไร ? ๔๐. คณุ ของพระธรรม จาํ แนกไวก้ ่ปี ระการ ?
ก. ขอ้ ปฏบิ ตั ิ ข. ชาดก ค. ภมู ศิ าสตร์ ง. ธรรมชน้ั สูง ก. ๔ ประการ ข. ๖ ประการ ค. ๘ ประการ ง. ๙ ประการ
๑๖. พระพทุ ธเจา้ ทรงบาํ เพญ็ โลกตั ถจรยิ าใด ตลอด ๔๕ พรรษา ? ๔๑. พทุ ธคุณบทวา่ อรหํ แปลวา่ อะไร ?
ก. บณิ ฑบาต ข. แสดงธรรม ค. ประทานโอวาท ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ผูร้ ู้ ข. ผูไ้ กลจากกเิ ลส ค. ผูต้ น่ื ง. ผูเ้บกิ บาน
๑๗. พระพทุ ธเจา้ ทรงหา้ มพระญาตทิ ว่ี วิ าทกนั เพราะแย่งนาํ้ จดั เขา้ ในจรยิ าใด ? ๔๒. พทุ ธคณุ บทว่า โลกวทิ ู แปลวา่ อะไร ?
ก. พทุ ธตั ถจรยิ า ข. ญาตตั ถจรยิ า ค. โลกตั ถจรยิ า ง. อตั ถจรยิ า ก. ผูม้ โี ชค ข. ผูเ้สดจ็ ไปดี ค. ผูต้ น่ื ง. ผูร้ ูแ้ จง้ โลก
๑๘. ขอ้ ใด จดั เป็นพทุ ธตั ถจรยิ า ? ๔๓. พทุ ธคุณวา่ เป็นผูต้ รสั รูช้ อบไดด้ ว้ ยพระองคเ์ อง หมายถงึ ตรสั รูอ้ ะไร ?
ก. บญั ญตั สิ กิ ขาบท ข. โปรดพระบดิ า ค. สงเคราะหญ์ าติ ง. บณิ ฑบาต ก. อรยิ สจั ๔ ข. อทิ ธบิ าท ๔ ค. อภญิ ญา ๖ ง. วชิ ชา ๘
๑๙. ลกั ษณะทม่ี เี สมอกนั ในคนทวั่ ไป เรยี กวา่ อะไร ? ๔๔. ความรูค้ ู่คุณธรรม มคี วามหมายตรงกบั พทุ ธคุณขอ้ ใด ?
ก. อนจิ จตา ข. ทกุ ขตา ค. อนตั ตตา ง. สามญั ญลกั ษณะ ก. อรหํ ข. สุคโต ค. โลกวทิ ู ง. วชิ ฺชาจรณสมปฺ นฺโน
๒๐. ความไม่เทย่ี ง มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๕. บญุ กริ ยิ าวตั ถุ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อนิจจตา ข. ทกุ ขตา ค. อนตั ตตา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. วธิ ีทาํ บญุ ข. วธิ ลี ะกเิ ลส ค. วธิ ลี า้ งบาป ง. วธิ แี ผ่เมตตา
๒๑. พระอรยิ บคุ คลระดบั ท่ี ๑ เรยี กว่าอะไร ? ๔๖. การประพฤตอิ ่อนนอ้ มต่อผูใ้ หญ่ ตรงกบั บญุ กริ ยิ าวตั ถขุ อ้ ใด ?
ก. พระอรหนั ต์ ข. พระอนาคามี ค. พระสกทาคามี ง. พระโสดาบนั ก. ทานมยั ข. สลี มยั ค. ภาวนามยั ง. อปจายนมยั
๒๒. พระอรยิ บคุ คลผูก้ ลบั มาเกดิ อกี ชาตเิ ดยี ว หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๔๗. การทาํ งานจติ อาสา จดั เขา้ ในบญุ กริ ยิ าวตั ถใุ ด ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์ ก. อปจายนมยั ข. เวยยาวจั มยั ค. ปตั ตทิ านมยั ง. ธมั มสั สวนมยั
๒๓. พระผูไ้ กลจากกเิ ลสโดยส้นิ เชงิ หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๔๘. ปตั ตทิ านมยั มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์ ก. ใหส้ ว่ นบญุ ข. อนุโมทนาบญุ ค. บรจิ าคสง่ิ ของ ง. ใหอ้ ภยั
๒๔. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่สมั ปรายกิ ตั ถประโยชน์ ? ๔๙. ปตั ตานุโมทนามยั มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. มศี รทั ธา ข. มีทรพั ย์ ค. มศี ีล ง. มปี ญั ญา ก. ใหส้ ่วนบญุ ข. อนุโมทนาบญุ ค. แสดงธรรม ง. ฟงั ธรรม
๒๕. ศรทั ธาตอ้ งใชค้ ู่กบั ธรรมใด จงึ จะไมง่ มงาย ? ๕๐. เหน็ ว่า ทาํ ดไี ดด้ ี ทาํ ชวั่ ไดช้ วั่ เป็นบญุ กริ ยิ าวตั ถขุ อ้ ใด ?
ก. ศีล ข. จาคะ ค. ปญั ญา ง. สติ ก. สลี มยั ข. ภาวนามยั ค. เวยยาวจั จมยั ง. ทฏิ �ุชกุ มั ม์
เฉลยปญั หาวิชาอนุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน )
๑. พระอญั ญาโกณฑญั ญะ เดมิ ชอ่ื ว่าอะไร ? ๒๖. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด เป็นพระเจา้ ป่ขู องราหลุ กมุ าร ?
ก. โกณฑญั ญะ ข. อปุ ตสิ สะ ค. โกลติ ะ ง. ปิบผลิ ก. สทุ โธทนะ ข. สกุ โกทนะ ค. อมโิ ตทนะ ง. ฆนิโตทนะ
๒. พระอญั ญาโกณฑญั ญะ เกดิ ในวรรณะใด ? ๒๗. ราหลุ กมุ ารไดร้ บั การบรรพชาเมอ่ื อายุไดก้ ่ปี ี ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. ๕ ปี ข. ๖ ปี ค. ๗ ปี ง. ๘ ปี
๓. ผูใ้ ด นบั เน่ืองในกลมุ่ พราหมณท์ ง้ั ๘ ผูท้ าํ นายมหาปรุ สิ ลกั ษณะ ? ๒๘. พระเถระใด เป็นผูใ้ หก้ ารบรรพชาแก่ราหลุ กมุ าร ?
ก. โกณฑญั ญะ ข. วปั ปะ ค. ภทั ทยิ ะ ง. มหานามะ ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระอานนท์ ง. พระมหากสั สปะ
๔. ผูใ้ ด ไมน่ บั เน่อื งในพราหมณท์ งั้ ๘ ผูท้ าํ นายมหาปรุ สิ ลกั ษณะ ? ๒๙. พระเถระใด เป็นผูเ้ลศิ กว่าภกิ ษุทงั้ หลายผูใ้ คร่ในการศึกษา ?
ก. โกณฑญั ญะ ข. สยามะ ค. มหานามะ ง. ลกั ษณะ ก. พระอบุ าลี ข. พระอานนท์ ค. พระนนั ทะ ง. พระราหลุ
๕. ดวงตาเหน็ ธรรม ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๐. พระนางมหาปชาบดโี คตมี เป็นพระธดิ าของกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ?
ก. พทุ ธจกั ษุ ข. ธรรมจกั ษุ ค. ทพิ จกั ษุ ง. ทพิ โสต ก. อญั ชนะ ข. ชยั เสนะ ค. สหี หนุ ง. สทุ โธทนะ
๖. พระอญั ญาโกณฑญั ญะ ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ? ๓๑. พระนางมหาปชาบดโี คตมี ไดร้ บั อปุ สมบทดว้ ยวธิ ใี ด ?
ก. รูร้ าตรนี าน ข. มบี รวิ ารมาก ค. มปี ญั ญามาก ง. มฤี ทธ์มิ าก ก. รบั ครุธรรม ข. รบั สรณคมน์ ค. รบั ศีล ๕ ง. รบั ศีล ๘
๗. พระสารบี ตุ ร เกดิ ในวรรณะใด ? ๓๒. พระมหาปชาบดโี คตมเี ถรี ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. กตญั �ู ข. รูร้ าตรนี าน ค. ปญั ญามาก ง. ทรงวนิ ยั
๘. มารดาของพระสารบี ตุ ร ช่อื วา่ อะไร ? ๓๓. อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี เกดิ ทเ่ี มอื งใด ?
ก. ปชาบดี ข. สารี ค. โมคคลั ลี ง. กสี าโคตมี ก. สาวตั ถี ข. เวสาลี ค. พาราณสี ง. ราชคฤห์
๙. อปุ ตสิ สมาณพบวชเป็นปรพิ าชก ในลทั ธขิ องใคร ? ๓๔. อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี เดมิ ชอ่ื ว่าอะไร ?
ก. สญั ชยั ข. มกั ขลิ ค. อชติ ะ ง. นคิ รนถ์ ก. สมุ นะ ข. โฆสกะ ค. เมณฑกะ ง. สทุ ตั ตะ
๑๐. อปุ ตสิ สมาณพไดบ้ รรลโุ สดาบนั เพราะฟงั ธรรมจากพระเถระใด ? ๓๕. เศรษฐใี ด ตง้ั โรงทานแจกอาหารแก่คนยากจนเป็นประจาํ ทกุ วนั ?
ก. โกณฑญั ญะ ข. วปั ปะ ค. ภทั ทยิ ะ ง. อสั สชิ ก. เมณฑกะ ข. โฆสกะ ค. ธนญั ชยั ง. อนาถบณิ ฑกิ ะ
๑๑. คณุ ธรรมใด ของพระสารบี ตุ รทค่ี วรถอื เอาเป็นแบบอย่าง ? ๓๖. อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี เป็นอรยิ บคุ คลชนั้ ใด ?
ก. ขยนั ข. กตญั �ู ค. อดทน ง. ประหยดั ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๑๒. พระสารบี ตุ รเถระไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ? ๓๗. อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี ไดร้ บั ยกยอ่ งวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. มปี ญั ญามาก ข. มฤี ทธ์มิ าก ค. มบี รวิ ารมาก ง. ทรงธุดงค์ ก. มบี รวิ ารมาก ข. มปี ญั ญามาก ค. ใหท้ าน ง. แสดงธรรม
๑๓. พระมหาโมคคลั ลานะ เกดิ ในวรรณะใด ? ๓๘. มารดาของนางวสิ าขา ชอ่ื ว่าอะไร ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. กสี าโคตมี ข. สมุ นาเทวี ค. ชนบทกลั ยาณี ง. ปชาบดี
๑๔. มารดาของพระมหาโมคคลั ลานะ ช่อื วา่ อะไร ? ๓๙. นางวสิ าขา ไดร้ บั โอวาทจากบดิ าก่ขี อ้ ?
ก. ปชาบดี ข. สารี ค. โมคคลั ลี ง. กสี าโคตมี ก. ๗ ขอ้ ข. ๘ ขอ้ ค. ๙ ขอ้ ง. ๑๐ ขอ้
๑๕. พระมหาโมคคลั ลานะ เดมิ ช่อื ว่าอะไร ? ๔๐. วดั ใด ทน่ี างวสิ าขามหาอบุ าสกิ าสรา้ งถวายพระพทุ ธเจา้ ?
ก. อปุ ตสิ สะ ข. โกลติ ะ ค. ปิปผลิ ง. สทุ ตั ตะ ก. บพุ พาราม ข. นิโครธาราม ค. เชตวนาราม ง. อมั พวนาราม
๑๖. พระมหาโมคคลั ลานะควบคมุ ดูแลการก่อสรา้ งวดั ใด ? ๔๑. วนั แรม ๑ คาํ่ เดอื น ๘ ตรงกบั วนั ใด ?
ก. เวฬวุ นั ข. เชตวนั ค. บพุ พาราม ง. นิโครธาราม ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. ตกั บาตรเทโว ง. ธมั มสั สวนะ
๑๗. พระมหาโมคคลั ลานะเคยบวชในลทั ธใิ ด ? ๔๒. ภกิ ษุอยู่จาํ พรรษา มกี าํ หนดเวลาก่เี ดอื น ?
ก. ดาบส ข. ปรพิ าชก ค. นิครนถ์ ง. อาชวี ก ก. ๒ เดอื น ข. ๓ เดอื น ค. ๔ เดอื น ง. ๕ เดอื น
๑๘. พระมหาโมคคลั ลานะ ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ? ๔๓. ในวนั เทโวโรหณะ พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ลงจากสวรรคช์ นั้ ใด ?
ก. มบี รวิ ารมาก ข. มปี ญั ญามาก ค. มฤี ทธ์ิมาก ง. ทรงธุดงค์ ก. ดาวดึงส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นิมมานรดี
๑๙. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด เป็นพระบดิ าของพระอานนท์ ? ๔๔. วนั ธรรมสวนะคอื วนั พระ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. สทุ โธทนะ ข. สกุ โกทนะ ค. อมโิ ตทนะ ง. โธโตทนะ ก. ๖ คาํ่ ข. ๗ คาํ่ ค. ๘ คาํ่ ง. ๙ คาํ่
๒๐. พระอานนทม์ ศี กั ด์เิ ป็นพระญาตขิ องพระพทุ ธเจา้ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๕. ในหน่งึ เดอื น มวี นั ธรรมสวนะกค่ี รงั้ ?
ก. พระเชษฐา ข. พระอนุชา ค. พระปิตลุ า ง. พระนดั ดา ก. ๑ ครง้ั ข. ๒ ครงั้ ค. ๓ ครงั้ ง. ๔ ครง้ั
๒๑. พระอานนท์ ประสูตทิ เ่ี มอื งใด ? ๔๖. การบาํ เพญ็ กศุ ลสวดพระอภธิ รรม นิยมสวดในงานใด ?
ก. เทวทหะ ข. กบลิ พสั ดุ์ ค. พาราณสี ง. ราชคฤห์ ก. งานศพ ข. แต่งงาน ค. งานวนั เกดิ ง. งานปีใหม่
๒๒. พระเถระใด ยนื ขวางชา้ งนาฬาครี เี พอ่ื มใิ หท้ าํ รา้ ยพระพทุ ธเจา้ ? ๔๗. ปญั ญาสมวาร คอื การบาํ เพญ็ กศุ ลแก่ผูต้ ายครบกาํ หนดก่วี นั ?
ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระอานนท์ ง. พระราหลุ ก. ๗ วนั ข. ๕๐ วนั ค. ๑๐๐ วนั ง. ๑ ปี
๒๓. พระอานนทน์ พิ พานทท่ี ่ามกลางแม่นาํ้ ใด ? ๔๘. วนั เพญ็ เดอื น ๑๒ ตรงกบั เทศกาลใด ?
ก. อจริ วดี ข. โรหณิ ี ค. คงคา ง. ยมนุ า ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. ตกั บาตรเทโว ง. ลอยกระทง
๒๔. พระเถระใด ไดร้ บั เอตทคั คะ ๕ ประการ ? ๔๙. ในวดั หน่ึง ทายกทายกิ าทาํ บญุ ทอดกฐนิ ไดป้ ีละก่คี รง้ั ?
ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระมหากสั สปะ ง. พระอานนท์ ก. ๑ ครง้ั ข. ๒ ครงั้ ค. ๓ ครง้ั ง. ๔ ครงั้
๒๕. สตรพี ระนางใด เป็นพระมารดาของพระราหลุ ? ๕๐. ศีล ของสามเณรมกี ่ขี อ้ ?
ก. มายา ข. ปชาบดี ค. พมิ พา ง. รูปนนั ทา ก. ๕ ขอ้ ข. ๘ ขอ้ ค. ๑๐ ขอ้ ง. ๒๒๗ ขอ้
เฉลยปญั หาวิชาอโุ บสถศีล (วนิ ยั ) ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. คาํ ว่า อโุ บสถ แปลว่าอะไร ? ๒๖. อะทนิ นาทานา เวระมะณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ คอื อโุ บสถศีลขอ้ ใด ?
ก. การเขา้ จาํ ข. การจาํ พรรษา ค. การปฏบิ ตั ธิ รรม ง. การอดอาหาร ก. ขอ้ ท่ี ๑ ข. ขอ้ ท่ี ๒ ค. ขอ้ ท่ี ๓ ง. ขอ้ ท่ี ๔
๒. อโุ บสถศีล คอื ศีลประเภทใด ? ๒๗. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ ใหง้ ดเวน้ เรอ่ื งใด?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๒๒๗ ก. ฆ่าสตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. เสพกาม ง. ดม่ื สุรา
๓. เจตนางดเวน้ จากขอ้ หา้ ม หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๒๘. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ ตอ้ งการใหผ้ ูร้ กั ษาเป็นคนเช่นไร ?
ก. ศีล ข. สมาธิ ค. ปญั ญา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. กตญั �ู ข. ไม่โกหก ค. มจี ติ เมตตา ง. มอี าชีพสจุ รติ
๔. การรกั ษาอโุ บสถ เป็นการทาํ ความดขี องใคร ? ๒๙. อะพรหมะจะรยิ า เวระมะณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ คอื อโุ บสถศีลขอ้ ใด ?
ก. คฤหสั ถท์ วั่ ไป ข. ภกิ ษุ ค. สามเณร ง. อบุ าสกอบุ าสกิ า ก. ขอ้ ท่ี ๒ ข. ขอ้ ท่ี ๓ ค. ขอ้ ท่ี ๔ ง. ขอ้ ท่ี ๕
๕. การเขา้ จาํ อโุ บสถ เร่มิ ปฏบิ ตั กิ นั มาตงั้ แต่เมอ่ื ไร ? ๓๐. คาํ ว่า ถอื พรหมจรรย์ ในอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. กอ่ นพทุ ธกาล ข. สมยั พทุ ธกาล ค. กง่ึ พทุ ธกาล ง. หลงั พทุ ธกาล ก. ไม่ลกั ทรพั ย์ ข. ไมเ่ สพกาม ค. ไม่พูดโกหก ง. ไม่ดม่ื สรุ า
๖. อโุ บสถประเภทใด กาํ หนดใหร้ กั ษาตลอดวนั หน่งึ กบั คนื หน่งึ ? ๓๑. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ ใหง้ ดเวน้ เรอ่ื งใด ?
ก. ปฏชิ าครอโุ บสถ ข. ปกตอิ โุ บสถ ค. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อาหาร ข. เสพกาม ค. พูดเทจ็ ง. แต่งตวั
๗. ปฏชิ าครอโุ บสถ กาํ หนดใหส้ มาทานรกั ษาต่อเน่อื งนานเทา่ ไร ? ๓๒. มสุ าวาทา เวระมะณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ คอื อโุ บสถศีลขอ้ ใด ?
ก. ๓ วนั ข. ๔ วนั ค. ๕ วนั ง. ๖ วนั ก. ขอ้ ท่ี ๓ ข. ขอ้ ท่ี ๔ ค. ขอ้ ท่ี ๕ ง. ขอ้ ท่ี ๖
๘. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ กาํ หนดใหส้ มาทานรกั ษาต่อเน่ืองกนั ไปนานสดุ เท่าไร ? ๓๓. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๔ ใหง้ ดเวน้ เร่อื งใด ?
ก. ๑ เดอื น ข. ๒ เดอื น ค. ๓ เดอื น ง. ๔ เดอื น ก. ลกั ทรพั ย์ ข. แต่งตวั ค. พดู เทจ็ ง. บรโิ ภคอาหารในเวลาวกิ าล
๙. วนั รบั วนั รกั ษา และวนั สง่ เป็นวนั กาํ หนดใหร้ กั ษาอโุ บสถใด ? ๓๔. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๔ ใหส้ าํ รวมระวงั เรอ่ื งใด ?
ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ง. อรยิ อโุ บสถ ก. การพดู ข. การกนิ ค. การนอน ง. การแต่งตวั
๑๐. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ มชี อ่ื เรยี กอกี อย่างหน่งึ วา่ อะไร ? ๓๕. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๔ ตอ้ งการใหผ้ ูร้ กั ษาเป็นคนเช่นไร ?
ก. นิพทั ธอโุ บสถ ข. โคปาลกอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. นคิ คณั ฐอโุ บสถ ก. ขยนั ข. ประหยดั ค. อดทน ง. ซ่ือสตั ย์
๑๑. การถอื สรณคมน์ หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๓๖. ขอ้ ใด เป็นเหตใุ หผ้ ดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๕ ?
ก. ถอื เอาเป็นท่พี ง่ึ ข. ยดึ มนั่ ถอื มนั่ ค. ถอื เป็นอารมณ์ ง. ถอื ฤกษย์ าม ก. เคร่อื งสาํ อาง ข. อาหาร ค. สรุ า ง. มหรสพ
๑๒. คาํ ว่า พทุ ธงั สะระณงั คจั ฉามิ กลา่ วถงึ พระรตั นตรยั ใด ? ๓๗. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๕ ตอ้ งการใหผ้ ูร้ กั ษาเป็นคนเช่นไร ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. มีสติ ข. มคี วามอดทน ค. มคี วามขยนั ง. มสี จั จะ
๑๓. ในไตรสรณคมน์ พระธรรมหมายถงึ ขอ้ ใด ? ๓๘. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๕ ใหง้ ดเวน้ เร่อื งใด ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. คาํ สงั่ สอน ค. พระอรยิ สงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. พูดคาํ หยาบ ข. พดู โกหก ค. ลกั ขโมย ง. ด่ืมสรุ า
๑๔. พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ รวมกนั เรยี กวา่ อะไร ? ๓๙. เคร่อื งดม่ื ชนดิ ใด สามารถดม่ื ไดใ้ นขณะรกั ษาอโุ บสถศีล ?
ก. พระไตรปิฎก ข. ไตรภมู ิ ค. ไตรสกิ ขา ง. พระรตั นตรยั ก. เบยี ร์ ข. เหลา้ ค. ไวน์ ง. น้ําออ้ ย
๑๕. ขอ้ ใด ทาํ ใหไ้ ตรสรณคมนข์ าด ? ๔๐. วกิ าละโภชะนา เวระมะณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ คอื อโุ บสถศีลขอ้ ใด ?
ก. เกดิ ข. แก่ ค. เจบ็ ง. ตาย ก. ขอ้ ท่ี ๔ ข. ขอ้ ท่ี ๕ ค. ขอ้ ท่ี ๖ ง. ขอ้ ท่ี ๗
๑๖. ขอ้ ใด ทาํ ใหไ้ ตรสรณคมนเ์ ศรา้ หมอง ? ๔๑. อโุ บสถศีลขอ้ ใด ในขณะรกั ษาตอ้ งงดอาหารเยน็ ?
ก. ทาํ รา้ ยศาสดา ข. ตดั เศียรพระพทุ ธรูป ค. นบั ถอื ศาสดาอน่ื ง. ตาย ก. ขอ้ ท่ี ๒ ข. ขอ้ ท่ี ๔ ค. ขอ้ ท่ี ๖ ง. ขอ้ ท่ี ๘
๑๗. ขอ้ ใด ไดช้ ่อื วา่ เป็นเน้อื นาบญุ อนั ประเสรฐิ ? ๔๒. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๗ ใหง้ ดเวน้ เร่อื งใด ?
ก. พระพทุ ธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ฆ่าสตั ว์ ข. พดู เพอ้ เจอ้ ค. อาหารเยน็ ง. เสรมิ สวย
๑๘. คาํ ว่า อชุ ปุ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ กลา่ วเพอ่ื ระลกึ ถงึ ใคร ? ๔๓. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๗ ตอ้ งการใหผ้ ูร้ กั ษาตดั กงั วลเร่อื งใด ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. มารดาบดิ า ก. การกนิ ข. การแตง่ ตวั ค. การนอน ง. การใชจ้ ่าย
๑๙. สงสยั ว่า พระพทุ ธเจา้ ตรสั รูจ้ รงิ หรอื ไม่ ทาํ ใหไ้ ตรสรณคมนเ์ ป็นอย่างไร ? ๔๔. อจุ จาสะยะนะ มะหาสะยะนา เวระมะณี คอื อโุ บสถศีลขอ้ ใด ?
ก. เศรา้ หมอง ข. บกพร่อง ค. ด่างพรอ้ ย ง. ขาดลงทนั ที ก. ขอ้ ท่ี ๒ ข. ขอ้ ท่ี ๔ ค. ขอ้ ท่ี ๖ ง. ขอ้ ท่ี ๘
๒๐. บคุ คลประเภทใด อาจเลกิ นบั ถอื พระรตั นตรยั เป็นสรณะได้ ? ๔๕. ทน่ี อนสูงใหญ่ เป็นสง่ิ ตอ้ งหา้ มของอโุ บสถศีลขอ้ ใด ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระอนาคามี ค. พระอรหนั ต์ ง. ปถุ ชุ นทวั่ ไป ก. ขอ้ ท่ี ๓ ข. ขอ้ ท่ี ๕ ค. ขอ้ ท่ี ๗ ง. ขอ้ ท่ี ๘
๒๑. การทาํ ชวี ติ สตั วใ์ หต้ กลว่ งไป เรยี กวา่ อะไร ? ๔๖. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๘ ตอ้ งการใหผ้ ูร้ กั ษาตดั กงั วลเรอ่ื งใด ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. อพรหมจรรย์ ง. มสุ าวาท ก. การกนิ ข. การนงั่ นอน ค. การแต่งตวั ง. การทาํ งาน
๒๒. ปาณาตปิ าตา เวระมะณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ คอื อโุ บสถศีลขอ้ ใด ? ๔๗. ขณะรกั ษาอโุ บสถศีล ควรปฏบิ ตั ติ นอย่างไร ?
ก. ขอ้ ท่ี ๑ ข. ขอ้ ท่ี ๒ ค. ขอ้ ท่ี ๓ ง. ขอ้ ท่ี ๔ ก. สวดมนต์ ข. ฟงั เทศน์ ค. นงั่ สมาธิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๓. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ ใหง้ ดเวน้ เรอ่ื งใด ? ๔๘. การรกั ษาอโุ บสถศีลเปรยี บเหมอื นคนรบั จา้ งเล้ยี งโค ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ฆา่ สตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. เสพกาม ง. ดม่ื สรุ า ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. นิคคณั ฐอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ
๒๔. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ ตอ้ งการใหผ้ ูร้ กั ษาเป็นคนเช่นไร ? ๔๙. อโุ บสถประเภทใด ผูร้ กั ษาไดร้ บั อานสิ งสส์ ูงสุด ?
ก. กตญั �ู ข. ไม่โกหก ค. มจี ติ เมตตา ง. ซอ่ื สตั ย์ ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. นิคคณั ฐอโุ บสถ ง. อริยอโุ บสถ
๒๕. คนทาํ ผดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ ย่อมไดร้ บั ผลกรรมอย่างไร ? ๕๐. อโุ บสถใด เปรยี บไดก้ บั การรกั ษาอโุ บสถของนกั บวชนอกพระพทุ ธศาสนา ?
ก. อายสุ น้ั ข. เสยี ทรพั ย์ ค. ก่อศตั รู ง. ขาดความเชอ่ื ถอื ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. นิคคณั ฐอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. นพิ ทั ธอโุ บสถ
เฉลยปญั หาวิชาธรรมวจิ ารณ์ ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. คาํ ว่า นพิ พทิ า มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๒๖. ความหน่ายในสงั ขาร เป็นเหตใุ หอ้ ะไรเกดิ ข้นึ ?
ก. หน่ายทกุ ข์ ข. ส้นิ กาํ หนดั ค. หลดุ พน้ ง. หมดจด ก. ความหลดุ พน้ ข. ความสงบ ค. ความสนั โดษ ง. ความส้นิ กาํ หนดั
๒. โลกโดยตรง หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๒๗. ไวพจนแ์ ห่งวริ าคะมี ๘ อย่าง ไวพจนน์ น้ั หมายถงึ คาํ เช่นไร ?
ก. อากาศ ข. นาํ้ ค. แผน่ ดิน ง. ป่าไม้ ก. คาํ แทน ข. คาํ ถาม ค. คาํ ตอบ ง. คาํ อ่าน
๓. คาํ วา่ จงมาดูโลกน้ี พระองคต์ รสั ไวเ้พอ่ื พระประสงคใ์ ด ? ๒๘. ความเมาในคาํ ว่า มทนมิ มฺ ทโน หมายถงึ เมาอะไร ?
ก. ใหเ้พลดิ เพลนิ ข. ใหเ้ กดิ ปญั ญา ค. ใหร้ ูเ้หตุ ง. ใหร้ ูภ้ ูมศิ าสตร์ ก. ยาบา้ ข. การพนนั ค. สรุ า ง. กเิ ลส
๔. พระพทุ ธเจา้ ทรงเปรยี บอะไรวา่ ตระการดุจราชรถ ? ๒๙. ขอ้ ใด มคี วามหมายตรงกบั คาํ วา่ อาลยั ?
ก. ชวี ติ ข. สงั ขาร ค. อตั ภาพ ง. โลก ก. ความสูญเสยี ข. ความตดิ ใจ ค. ความเศรา้ โศก ง. ความผดิ หวงั
๕. คาํ ว่า คนเขลา หมายถงึ ใคร ? ๓๐. วมิ ตุ ติ ความหลดุ พน้ หมายถงึ หลดุ พน้ จากอะไร ?
ก. คนอนั ธพาล ข. คนโง่ ค. คนไรป้ ญั ญา ง. คนขาดสติ ก. อาสวะ ข. ตณั หา ค. อปุ าทาน ง. มจิ ฉาทฏิ ฐิ
๖. ทาํ อย่างไร จงึ จะไมข่ อ้ งอยู่ในโลก ? ๓๑. ความหลดุ พน้ ดว้ ยอาํ นาจพจิ ารณาไตรลกั ษณ์ จดั เป็นวมิ ตุ ตใิ ด ?
ก. ออกบวช ข. ปรารถนาไม่เกดิ อกี ค. ไม่ย่งุ กบั ใคร ง. ไม่ตดิ ใจกามคณุ ก. เจโตวมิ ตุ ติ ข. ปญั ญาวมิ ตุ ติ ค. ตทงั ควมิ ตุ ติ ง. วกิ ขมั ภนวมิ ตุ ติ
๗. ผูเ้หน็ โลกตามเป็นจรงิ จะไดร้ บั สขุ ประเภทใด ? ๓๒. วมิ ตุ ตใิ ด จดั เป็นโลกยิ ะ ?
ก. สุขๆทกุ ขๆ์ ข. สขุ ทางโลก ค. สามสิ สุข ง. นิรามิสสขุ ก. ตทงั ควมิ ตุ ติ ข. สมจุ เฉทวมิ ตุ ติ ค. ปฏปิ สั สทั ธวิ มิ ตุ ติ ง. นสิ สรณวมิ ตุ ติ
๘. ขอ้ ใด ไม่ใช่อาการสาํ รวมจติ ? ๓๓. ผูป้ ฏบิ ตั ธิ รรมหลดุ พน้ ชวั่ คราวดว้ ยอาํ นาจกาํ ลงั ฌาน จดั เป็นวมิ ตุ ตใิ ด ?
ก. สาํ รวมอนิ ทรยี ์ ข. เจรญิ กมั มฏั ฐาน ค. เจรญิ วปิ สั สนา ง. รกั ษาศีล ก. ตทงั ควมิ ตุ ติ ข. วกิ ขมั ภนวมิ ตุ ติ ค. สมจุ เฉทวมิ ตุ ติ ง. นสิ สรณวมิ ตุ ติ
๙. โทษลา้ งผลาญคุณความดี ทาํ ใหเ้สยี คน เรยี กว่าอะไร ? ๓๔. ความหลดุ พน้ ดว้ ยขม่ ไวน้ นั้ หมายถงึ ขม่ อะไร ?
ก. มาร ข. บ่วงมาร ค. เสนามาร ง. มจั จมุ าร ก. ตณั หา ข. ราคะ ค. นิวรณ์ ง. อปุ าทาน
๑๐. บ่วงแห่งมารทค่ี ลอ้ งบคุ คลใหต้ ดิ อยู่ในโลก หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๓๕. วมิ ตุ ตใิ ด จดั เป็นโลกตุ ตระ ?
ก. กเิ ลสกาม ข. วตั ถกุ าม ค. กามตณั หา ง. กามราคะ ก. สมจุ เฉทวมิ ตุ ติ ข. ปฏปิ สั สทั ธวิ มิ ตุ ติ ค. นิสสรณวมิ ตุ ติ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๑. เหน็ สงั ขารอย่างไร ไมใ่ ช่ทางแหง่ วสิ ุทธิ ? ๓๖. วสิ ทุ ธิ คอื ความหมดจด ใครบนั ดาลใหไ้ ด้ ?
ก. ไมเ่ ทย่ี ง ข. เป็นทกุ ข์ ค. เป็นอตั ตา ง. เป็นอนตั ตา ก. ตนเอง ข. พระพรหม ค. โหราจารย์ ง. เทพเจา้
๑๒. คาํ ว่า สงั ขาร ในอทุ เทสปฏปิ ทาแห่งนิพพทิ า ไดแ้ ก่อะไร ? ๓๗. ความบรสิ ทุ ธ์ภิ ายใน ย่อมมไี ดด้ ว้ ยอะไร ?
ก. จติ ข. เบญจขนั ธ์ ค. อนิ ทรยี ์ ง. อายตนะ ก. ศีล ข. สมาธิ ค. ปญั ญา ง. ภาวนา
๑๓. ขอ้ ใด จดั เป็นวสิ งั ขาร ? ๓๘. ญาณหยงั่ เหน็ สงั ขารวา่ เป็นทกุ ข์ จดั เป็นญาณอะไร ?
ก. วญิ ญาณ ข. เวทนา ค. สญั ญา ง. นิพพาน ก. อทุ ยพั พยญาณ ข. ภงั คญาณ ค. อาทนี วญาณ ง. นิพพทิ าญาณ
๑๔. ขอ้ ใด กลา่ วความหมายของอนจิ จตาไดถ้ กู ตอ้ ง ? ๓๙. ญาณหยงั่ เหน็ ความเกดิ ดบั แหง่ สงั ขาร จดั เป็นญาณอะไร ?
ก. ทนไดย้ าก ข. เกดิ และเสอ่ื มส้นิ ไป ค. ไม่มเี จา้ ของ ง. ไม่อยู่ในอาํ นาจ ก. อทุ ยพั พยญาณ ข. ภงั คญาณ ค. อาทนี วญาณ ง. นิพพทิ าญาณ
๑๕. อะไรปิดบงั ไว้ จงึ มองไม่เหน็ อนจิ จตา ความเป็นของไมเ่ ทย่ี งแห่งสงั ขาร ? ๔๐. อรยิ มรรคใด สงเคราะหเ์ ขา้ ในจติ ตวสิ ุทธิ ?
ก. ศลั ยกรรม ข. อริ ยิ าบถ ค. สนั ตติ ง. ฆนสญั ญา ก. สมั มาสงั กปั ปะ ข. สมั มากมั มนั ตะ ค. สมั มาสมาธิ ง. สมั มาวาจา
๑๖. ขอ้ ใด กลา่ วความหมายของทกุ ขตาไดถ้ กู ตอ้ ง ? ๔๑. อรยิ มรรคใด สงเคราะหเ์ ขา้ ในทฏิ ฐวิ สิ ุทธิ ?
ก. ทนไดย้ าก ข. เกดิ และเสอ่ื มส้นิ ไป ค. ไม่มเี จา้ ของ ง. ไม่อยู่ในอาํ นาจ ก. สมั มาสงั กปั ปะ ข. สมั มาสติ ค. สมั มาสมาธิ ง. สมั มาวายามะ
๑๗. อะไรปิดบงั ไว้ จงึ มองไม่เหน็ ทกุ ขตา ความเป็นทกุ ขแ์ ห่งสงั ขาร ? ๔๒. วสิ ุทธทิ ท่ี าํ ใหข้ า้ มพน้ ความสงสยั เรยี กวา่ อะไร ?
ก. สุขเวทนา ข. อริ ยิ าบถ ค. สนั ตติ ง. ฆนสญั ญา ก. สลี วสิ ทุ ธิ ข. จติ ตวสิ ทุ ธิ ค. ทฏิ ฐวิ สิ ุทธิ ง. กงั ขาวติ รณวสิ ทุ ธิ
๑๘. เกดิ แก่ เจบ็ ตาย จดั เป็นทกุ ขอ์ ะไร ? ๔๓. กามคณุ ๕ ไดช้ อ่ื ว่าโลกามสิ เพราะเหตใุ ด ?
ก. สภาวทกุ ข์ ข. ทกุ ขจ์ ร ค. ทกุ ขป์ ระจาํ ง. พยาธทิ กุ ข์ ก. เป็นสง่ิ สวยงาม ข. เป็นทน่ี ยิ ม ค. เป็นสง่ิ ลอ่ ใจ ง. เป็นสง่ิ จาํ เป็น
๑๙. ความเศรา้ โศก จดั เป็นทกุ ขช์ นดิ ใด ? ๔๔. ธรรมใด สง่ เสรมิ ใหส้ งั คมเกดิ สนั ตสิ ขุ ?
ก. สภาวทกุ ข์ ข. ปกณิ กทกุ ข์ ค. นิพทั ธทกุ ข์ ง. สหคตทกุ ข์ ก. สจุ ริต ข. บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ค. อคติ ง. พรหมวหิ าร
๒๐. ความหวิ หนาว รอ้ น เป็นตน้ จดั เป็นทกุ ขอ์ ะไร ? ๔๕. ขอ้ ใด ทาํ ใหเ้กดิ สนั ตภิ ายนอก ?
ก. สภาวทกุ ข์ ข. วปิ ากทกุ ข์ ค. นิพทั ธทกุ ข์ ง. พยาธทิ กุ ข์ ก. ศีล ข. สมาธิ ค. ปญั ญา ง. เมตตา
๒๑. สนั ตาปทกุ ข์ ทกุ ขเ์ พราะถกู อะไรเผา ? ๔๖. ขอ้ ใด กลา่ วความหมาย สอปุ าทเิ สสนพิ พานไดถ้ กู ตอ้ ง ?
ก. พระอาทติ ย์ ข. ไฟ ค. กเิ ลส ง. ความหวิ ก. กเิ ลสดบั ข. ชวี ติ ดบั ค. กเิ ลสดบั ชีวติ อยู่ ง. กเิ ลสอยู่ชวี ติ ดบั
๒๒. อะไรปิดบงั ไว้ จงึ มองไม่เหน็ อนตั ตตา ความเป็นอนตั ตาแหง่ สงั ขาร ? ๔๗. ขอ้ ใด กลา่ วความหมาย อนุปาทเิ สสนพิ พานไดถ้ กู ตอ้ ง ?
ก. มานะ ข. อริ ยิ าบถ ค. สนั ตติ ง. ฆนสญั ญา ก. ส้นิ ชวี ติ ข. ส้นิ กเิ ลส ค. ส้นิ กเิ ลสชพี ไม่ส้นิ ง. ส้นิ กเิ ลสส้นิ ชีพ
๒๓. สงั ขารเป็นอนตั ตา โดยเป็นสภาวะหาเจา้ ของไม่ได้ คอื ขอ้ ใด ? ๔๘. อปุ มาว่า ไฟส้นิ เช้อื แลว้ ย่อมดบั ไปเอง กลา่ วถงึ เร่อื งใด ?
ก. นนั่ มใิ ช่ของเรา ข. นนั่ มใิ ช่เรา ค. นนั่ มใิ ช่ตนของเรา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ฌาน ข. สมาบตั ิ ค. นิพพาน ง. อภญิ ญา
๒๔. การเหน็ สงั ขารเป็นอนตั ตา ตอ้ งมอี ะไรกาํ กบั จงึ ไม่เป็นมจิ ฉาทฏิ ฐิ ? ๔๙. คาํ วา่ มลี ูกศรอนั ถอนแลว้ เป็นคุณสมบตั ขิ องใคร ?
ก. สทั ธา ข. สติ ค. สมั ปชญั ญะ ง. โยนิโสมนสกิ าร ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์
๒๕. ธรรมทเ่ี ป็นยอดแหง่ ธรรมทงั้ ปวง เรยี กว่าอะไร ? ๕๐. วงจรแห่งทกุ ขใ์ ด ทพ่ี ระนพิ พานดบั ไดเ้ดด็ ขาด ?
ก. วสิ ุทธิ ข. วมิ ตุ ติ ค. วริ าคะ ง. สนั ติ ก. กรรม ข. กเิ ลส ค. วบิ าก ง. ถกู ทกุ ขอ้
เฉลยปญั หาวิชาพทุ ธานุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พระโพธสิ ตั วบ์ าํ เพญ็ บารมคี รบ ๓๐ ทศั ในสมยั เสวยพระชาตใิ ด ? ๒๖. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด สรา้ งวดั ถวายครงั้ แรกในพระพทุ ธศาสนา ?
ก. มหาชนก ข. วฑิ ูรบณั ฑติ ค. มโหสถ ง. เวสสนั ดร ก. พมิ พสิ าร ข. สุทโธทนะ ค. ปเสนทโิ กศล ง. จณั ฑปชั โชต
๒. ชมพูทวปี ตง้ั อยู่ทางทศิ ใดของประเทศไทย ? ๒๗. พระเถระใด แสดงธรรมใหอ้ ปุ ตสิ สปรพิ าชกไดด้ วงตาเหน็ ธรรม ?
ก. บรู พา ข. อาคเนย์ ค. ทกั ษณิ ง. พายพั ก. พระวปั ปะ ข. พระภทั ทยิ ะ ค. พระมหานามะ ง. พระอสั สชิ
๓. พระมารดาของพระโพธสิ ตั ว์ ทรงสบุ นิ นมิ ติ เหน็ อะไร ? ๒๘. พระธรรมเสนาบดี เป็นชอ่ื เรยี กของพระเถระใด ?
ก. ชา้ งเผือก ข. มา้ อาชาไนย ค. โคอสุ ภะ ง. จามรี ก. พระมหากสั สปะ ข. พระสารีบตุ ร ค. พระอบุ าลี ง. พระอานนท์
๔. พระโพธสิ ตั ว์ ประสูตภิ ายใตต้ น้ ไมใ้ ด ? ๒๙. พระสารบี ตุ ร ดบั ขนั ธนิพพานทใ่ี ด ?
ก. ตน้ โพธ์ิ ข. ตน้ ไทร ค. ตน้ สาละ ง. ตน้ จกิ ก. นาลนั ทา ข. คยาสสี ะ ค. อรุ เุ วลา ง. สารนารถ
๕. พระโพธสิ ตั วค์ รน้ั ประสูตจิ ากพระครรภแ์ ลว้ ทรงเปลง่ วาจาใด ? ๓๐. พระเถระใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ เปรยี บเสมอื นนางนมผูเ้ล้ยี งทารก ?
ก. อาสภวิ าจา ข. สณั หวาจา ค. ปิยวาจา ง. มธุรวาจา ก. พระโกณฑญั ญะ ข. พระยสะ ค. พระสารบี ตุ ร ง. พระโมคคลั ลานะ
๖. สตั วท์ เ่ี ป็นสหชาตกิ บั พระโพธสิ ตั ว์ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๑. พระโมคคลั ลานะ ดบั ขนั ธนิพพานทใ่ี ด ?
ก. ชา้ งคริ เี มขล์ ข. ชา้ งนาฬาคริ ี ค. มา้ กณั ฑกะ ง. มา้ อสั วเมศ ก. นาลนั ทา ข. คยาสสี ะ ค. อรุ เุ วลา ง. กาฬสลิ า
๗. พระโพธสิ ตั วไ์ ดร้ บั การขนานพระนามวา่ อะไร ? ๓๒. พราหมณพ์ าวรสี ง่ ลูกศิษยไ์ ปถามปญั หากบั พระพทุ ธเจา้ ณ สถานทใ่ี ด ?
ก. สทิ ธตั ถะ ข. ฉนั นะ ค. กาฬทุ ายี ง. อานนท์ ก. ปาสาณเจดีย์ ข. บรโิ ภคเจดยี ์ ค. ธรรมเจดยี ์ ง. ตมุ พเจดยี ์
๘. พระมารดาทวิ งคต เมอ่ื พระโพธสิ ตั วป์ ระสูตไิ ดก้ ว่ี นั ? ๓๓. พระพทุ ธเจา้ ทรงสรรเสรญิ พระราธะวา่ เป็นบคุ คลตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ๓ วนั ข. ๕ วนั ค. ๗ วนั ง. ๙ วนั ก. วา่ งา่ ย ข. เล้ยี งงา่ ย ค. ขยนั ง. มปี ญั ญา
๙. สทิ ธตั ถราชกมุ าร ทรงอภเิ ษกสมรสกบั พระนางใด ? ๓๔. พระปณุ ณมนั ตานบี ตุ ร ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. กสี าโคตมี ข. พมิ พา ค. รูปนนั ทา ง. โรหณิ ี ก. ทรงวนิ ยั ข. บวชดว้ ยศรทั ธา ค. แสดงธรรม ง. มลี าภ
๑๐. ขอ้ ใด ไมจ่ ดั เขา้ ในเทวทูต ๔ ? ๓๕. พระอารามใด ทพ่ี ระประยูรญาตสิ รา้ งถวายพระพทุ ธเจา้ ?
ก. คนเกดิ ข. คนแก่ ค. คนเจบ็ ง. คนตาย ก. บพุ พาราม ข. นิโครธาราม ค. เชตวนาราม ง. เวฬวุ นาราม
๑๑. พระมหาบรุ ุษทรงนอ้ มพระทยั ในบรรพชา เพราะเหน็ เทวทตู ใด ? ๓๖. พระพทุ ธบดิ าฟงั มหาธรรมปาลชาดกแลว้ เป็นอรยิ บคุ คลชนั้ ใด ?
ก. คนแก่ ข. คนเจบ็ ค. คนตาย ง. สมณะ ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๑๒. ผูใ้ ด ตดิ ตามพระมหาบรุ ษุ ในวนั ออกผนวช ? ๓๗. พระเถระใด เป็นผูใ้ หก้ ารบรรพชาแก่ราหลุ กมุ าร ?
ก. กาฬทุ ายี ข. ฉนั นะ ค. อานนั ทะ ง. อนุรุทธะ ก. พระสารีบตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระกาฬทุ ายี ง. พระเมฆยิ ะ
๑๓. พระมหาบรุ ุษทรงบาํ เพญ็ ทกุ รกริ ยิ า ก่วี าระ ? ๓๘. พระอารามใด ทอ่ี นาถบณิ ฑกิ เศรษฐสี รา้ งถวายพระพทุ ธเจา้ ?
ก. ๒ วาระ ข. ๓ วาระ ค. ๔ วาระ ง. ๕ วาระ ก. บพุ พาราม ข. นโิ ครธาราม ค. เชตวนาราม ง. เวฬวุ นาราม
๑๔. พระมหาบรุ ุษทรงบาํ เพญ็ ทกุ รกริ ยิ า เป็นเวลากป่ี ี ? ๓๙. พระกมุ ารใด ถกู พระเทวทตั ยุยงใหท้ าํ ปิตฆุ าต ?
ก. ๕ ปี ข. ๖ ปี ค. ๗ ปี ง. ๘ ปี ก. อภยั กมุ าร ข. อชาตศตั รู ค. ทฆี าวุกมุ าร ง. วฑิ ฑู ภะ
๑๕. สตรใี ด ถวายขา้ วมธุปายาสแก่พระมหาบรุ ษุ ? ๔๐. ภกิ ษรุ ูปใด ถกู แผ่นดนิ สูบ ?
ก. สชุ าดา ข. วสิ าขา ค. พมิ พา ง. มหาปชาบดโี คตมี ก. เทวทตั ข. โกกาลกิ ะ ค. สภุ ทั ทะ ง. สุทนิ
๑๖. พระมหาบรุ ษุ ทรงลอยถาดทองทแ่ี มน่ าํ้ ใด ? ๔๑. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ จาํ พรรษาทส่ี วรรคช์ น้ั ดาวดงึ ส์ เพอ่ื โปรดใคร ?
ก. คงคา ข. ยมนุ า ค. เนรญั ชรา ง. อโนมา ก. พทุ ธบดิ า ข. พทุ ธมารดา ค. ทา้ วสกั กะ ง. ทา้ วมหาพรหม
๑๗. พระมหาบรุ ษุ ปูลาดหญา้ คาเป็นรตั นบลั ลงั ก์ ณ ทใ่ี ด ? ๔๒. สริ มิ หามายาเทพบตุ รพทุ ธมารดา ประทบั อยู่ทส่ี วรรคช์ น้ั ใด ?
ก. ใตต้ น้ โพธ์ิ ข. ใตต้ น้ ไทร ค. ใตต้ น้ จกิ ง. ใตต้ น้ สาละ ก. ดาวดงึ ส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นมิ มานรดี
๑๘. พระมหาบรุ ุษตรสั รู้ ในวนั เพญ็ เดอื นใด ? ๔๓. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมโปรดพทุ ธมารดา ดว้ ยปิฎกใด ?
ก. เดอื น ๓ ข. เดือน ๖ ค. เดอื น ๘ ง. เดอื น ๑๒ ก. พระวนิ ยั ข. พระสูตร ค. พระอภธิ รรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๙. ใครทูลอาราธนาใหแ้ สดงธรรมโปรดเวไนยสตั ว์ ? ๔๔. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ลงจากเทวโลก ใกลป้ ระตูเมอื งใด ?
ก. ฆฏกิ ารพรหม ข. สหมั บดพี รหม ค. มหาพรหม ง. ปชาบดพี รหม ก. ปาวา ข. สงั กสั สะ ค. กบลิ พสั ดุ์ ง. เทวทหะ
๒๐. เหตกุ ารณใ์ ด เกดิ ทป่ี ่าอสิ ปิ ตนมฤคทายวนั ? ๔๕. พระเถระใด แสดงธรรมเุ ทศ ๔ แก่พระเจา้ โกรพั ยะ ?
ก. ประสูติ ข. ตรสั รู้ ค. แสดงปฐมเทศนา ง. ปรนิ ิพพาน ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระอานนท์ ค. พระรฐั บาล ง. พระภาคเิ นยยะ
๒๑. ผูใ้ ด ไดด้ วงตาเหน็ ธรรมหลงั ฟงั ปฐมเทศนาจบลง ? ๔๖. ผูใ้ ด ถวายปจั ฉิมบณิ ฑบาตแก่พระพทุ ธเจา้ ?
ก. โกณฑญั ญะ ข. วปั ปะ ค. ภทั ทยิ ะ ง. มหานามะ ก. นางสชุ าดา ข. นางวสิ าขา ค. นายจนุ ทะ ง. มลั ลกษตั รยิ ์
๒๒. มาณพใด เปลง่ คาํ อทุ านวา่ “ ทน่ี ่ีวุ่นวายหนอ ทน่ี ่ีขดั ขอ้ งหนอ ” ? ๔๗. พระอรหนั ตอ์ งคส์ ุดทา้ ยทท่ี นั เหน็ พระพทุ ธเจา้ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ยสะ ข. อปุ ตสิ สะ ค. โกลติ ะ ง. ปิปผลิ ก. พระราธะ ข. พระสภุ ทั ทะ ค. พระอชติ ะ ง. พระรฐั บาล
๒๓. พระเถระใด เป็นพระอรหนั ตอ์ งคแ์ รกขณะทย่ี งั เป็นคฤหสั ถ์ ? ๔๘. พราหมณใ์ ด ทาํ หนา้ ทแ่ี จกพระบรมสารรี กิ ธาตุ ?
ก. พระยสะ ข. พระวมิ ละ ค. พระสุพาหุ ง. พระควมั ปติ ก. โสตถยิ ะ ข. วงั คนั ตะ ค. โตเทยยะ ง. โทณะ
๒๔. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงอาทติ ตปรยิ ายสูตร โปรดใคร ? ๔๙. พระอารามใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ประทบั จาํ พรรษานานทส่ี ดุ ?
ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. สหายยสะ ค. ภทั ทวคั คยี ์ ง. ชฎลิ ๓ พน่ี อ้ ง ก. เวฬวุ นาราม ข. นิโครธาราม ค. เชตวนาราม ง. บพุ พาราม
๒๕. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ไปโปรดเป็นพระองคแ์ รก ? ๕๐. พระพมิ พาเถรี ไดบ้ รรลเุ ป็นพระอรยิ บคุ คลชน้ั ใด ?
ก. สุทโธทนะ ข. พมิ พสิ าร ค. ปเสนทโิ กศล ง. จณั ฑปชั โชต ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
เฉลยปญั หาวิชากรรมบถ (วินยั ) ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั ประถมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียวแลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พระพทุ ธศาสนาสอนวา่ สตั วท์ งั้ หลายมสี ุขมที กุ ขต์ ่างกนั เพราะขอ้ ใด ? ๒๖. พดู เอาดใี สต่ วั เอาชวั่ ใสผ่ ูอ้ น่ื ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ยศ ข. ทรพั ย์ ค. อาํ นาจ ง. กรรม ก. มสุ าวาท ข. ปิสณุ วาจา ค. ผรสุ วาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ
๒. พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั วา่ สง่ิ ใดเป็นกรรม ? ๒๗. พูดใหค้ นอน่ื เจบ็ ใจแคน้ ใจ เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. เจตนา ข. อารมณ์ ค. สงั ขาร ง. วญิ ญาณ ก. มสุ าวาท ข. ปิสณุ วาจา ค. ผรสุ วาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ
๓. การกระทาํ ประกอบดว้ ยเจตนาเป็นเหตใุ หไ้ ปเกดิ ในนรกหรอื สวรรค์ คอื ขอ้ ใด ? ๒๘. คนพูดจาหยาบคาย เป็นการกระทาํ ชวั่ ทางใด ?
ก. กรรมบถ ข. กศุ ลกรรม ค. กศุ ลกรรมบถ ง. อกศุ ลกรรมบถ ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๔. ผลแห่งกรรมดที บ่ี คุ คลตายแลว้ พงึ ไดร้ บั ในชาตหิ นา้ เรยี กว่าอะไร ? ๒๙. พูดไรส้ าระหาประโยชนไ์ ม่ได้ เรยี กว่าอะไร ?
ก. สคุ ติ ข. ทคุ ติ ค. อคติ ง. ภพชาติ ก. มสุ าวาท ข. ปิสณุ วาจา ค. ผรสุ วาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ
๕. สุคติ เป็นภมู ทิ เ่ี กดิ ของสตั วจ์ าํ พวกใด ? ๓๐. ไอโ้คโกง โคโง่ เจา้ จงลากเกวยี นไปเดยี๋ วน้ี เป็นคาํ พดู ประเภทใด ?
ก. มนุษย์ ข. สตั วด์ ริ จั ฉาน ค. เปรต ง. อสรุ กาย ก. คาํ เทจ็ ข. คาํ หยาบ ค. คาํ สอ่ เสยี ด ง. คาํ เพอ้ เจอ้
๖. ภูมทิ บ่ี รุ ุษเปล้ยี ไปเกดิ เป็นเปรต เรยี กวา่ อะไร ? ๓๑. พูดโกหก พดู ยยุ ง พดู คาํ หยาบ พดู ไรส้ าระ จดั เขา้ ในขอ้ ใด ?
ก. สุคติ ข. ทคุ ติ ค. ภพภูมิ ง. ภพชาติ ก. กรรมบถ ข. กศุ ลกรรมบถ ค. อกศุ ลกรรมบถ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๗. การกระทาํ ทางกาย เรยี กว่าอะไร ? ๓๒. เหน็ ของคนอน่ื โลภอยากได้ เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. เจตนากรรม ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๘. การกระทาํ ทางกาย มกี อ่ี ย่าง ? ๓๓. คนมใี จพยาบาท เป็นคนมนี ิสยั เช่นไร ?
ก. ๓ อยา่ ง ข. ๔ อย่าง ค. ๕ อย่าง ง. ๖ อย่าง ก. แคน้ เคอื ง ข. ปากรา้ ย ค. มอื ไว ง. ใจงา่ ย
๙. ทางทาํ ความชวั่ ของสตั วท์ งั้ หลายมกี อ่ี ย่าง ? ๓๔. คดิ ปองรา้ ยคนอน่ื ใหไ้ ดร้ บั ความเดอื ดรอ้ น เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. ๕ อย่าง ข. ๘ อย่าง ค. ๑๐ อยา่ ง ง. ๑๒ อย่าง ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๐. กรรรมเป็นทางไปสู่ทคุ ติ เช่น เกดิ เป็นสตั วด์ ริ จั ฉาน คอื ขอ้ ใด ? ๓๕. เหน็ วา่ บาปบญุ ไมม่ จี รงิ เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. กรรมบถ ข. กศุ ลกรรม ค. กศุ ลกรรมบถ ง. อกศุ ลกรรมบถ ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๑. ปาณาตบิ าต มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๖. คนมจิ ฉาทฏิ ฐิ มนี ิสยั อย่างไร ?
ก. โลภอยากได้ ข. ทาํ ใหเ้ สยี ชีวิต ค. ลกั ของคนอน่ื ง. ปองรา้ ยคนอน่ื ก. โลภจดั ข. โกรธจดั ค. เหน็ ผิดเป็นชอบ ง. อาฆาตมาดรา้ ย
๑๒. ขอ้ ใด เป็นผลกรรมของผูก้ ระทาํ ปาณาตบิ าต ? ๓๗. อกศุ ลกรรมบถควรหลกี เลย่ี ง เพราะเหตใุ ด ?
ก. อายสุ น้ั ข. ยากจน ค. คนนนิ ทา ง. ถกู ใสร่ า้ ย ก. ทาํ ใหต้ กนรก ข. เกดิ เป็นเปรต ค. เกดิ เป็นสตั วด์ ริ จั ฉาน ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๓. บางคนเกดิ มามอี ายสุ นั้ เพราะชาตกิ ่อนทาํ กรรมไมด่ อี ะไร ? ๓๘. ทางทาํ กรรมไปสูส่ คุ ติ เช่น เกดิ เป็นมนุษยห์ รอื เทวดา คอื ขอ้ ใด ?
ก. ฆา่ สตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. พดู ปด ง. พูดคาํ หยาบ ก. กรรมบถ ข. กศุ ลกรรม ค. กศุ ลกรรมบถ ง. อกศุ ลกรรมบถ
๑๔. อทนิ นาทาน มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๙. กศุ ลกรรมบถ คอื ทางทาํ ความดขี องสตั วท์ งั้ หลาย มกี ่อี ย่าง ?
ก. โลภอยากได้ ข. ทาํ ใหเ้สยี ชวี ติ ค. ลกั ของคนอน่ื ง. ปองรา้ ยคนอน่ื ก. ๕ อย่าง ข. ๘ อย่าง ค. ๑๐ อยา่ ง ง. ๑๒ อย่าง
๑๕. สงั่ คนอน่ื ใหล้ กั ทรพั ย์ เป็นการทาํ ผดิ อกศุ ลกรรมบถใด ? ๔๐. ขอ้ ใด เป็นกศุ ลกรรมบถ ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ง. มสุ าวาท ก. อนภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๖. ขอ้ ใด เป็นผลกรรมของผูก้ ระทาํ อทนิ นาทาน ? ๔๑. กศุ ลกรรมบถขอ้ ใด มงุ่ สอนใหม้ เี มตตาต่อกนั ?
ก. เสอ่ื มทรพั ย์ ข. มปี ญั ญาเขลา ค. มโี รคมาก ง. เป็นคนพกิ าร ก. ไมฆ่ า่ สตั ว์ ข. ไม่ลกั ทรพั ย์ ค. ไมพ่ ดู เทจ็ ง. ไมพ่ ูดส่อเสยี ด
๑๗. การลว่ งละเมดิ ทางเพศ เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ? ๔๒. ผูง้ ดเวน้ จากการฆ่าสตั วไ์ ดร้ บั ผลเช่นไร ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสมุ ิจฉาจาร ง. พยาบาท ก. มสี ขุ ภาพดี ข. มที รพั ย์ ค. มคี นเช่อื ถอื ง. มปี ญั ญา
๑๘. โรคชนดิ ใด มสี าเหตเุ กดิ จากกาเมสุมจิ ฉาจาร ? ๔๓. กศุ ลกรรมบถขอ้ ท่ี ๒ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. โรคเอดส์ ข. โรคหวั ใจ ค. โรคไต ง. โรคตบั ก. เวน้ ฆ่าสตั ว์ ข. เวน้ ลกั ทรพั ย์ ค. เวน้ พดู เทจ็ ง. เวน้ ปองรา้ ย
๑๙. การกระทาํ ทางวาจา เรยี กว่าอะไร ? ๔๔. ไมฆ่ ่าสตั ว์ ไมล่ กั ทรพั ย์ ไมผ่ ดิ ประเวณี จดั เขา้ ในขอ้ ใด ?
ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. เจตนากรรม ก. กรรมบถ ข. กศุ ลกรรมบถ ค. อกศุ ลกรรมบถ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๐. การกระทาํ ชวั่ ทางวาจา มกี ่อี ย่าง ? ๔๕. พูดเพอ่ื สมานฉนั ท์ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกศุ ลกรรมบถขอ้ ใด ?
ก. ๓ อย่าง ข. ๔ อยา่ ง ค. ๕ อย่าง ง. ๖ อย่าง ก. เวน้ พูดเทจ็ ข. เวน้ พดู สอ่ เสยี ด ค. เวน้ พดู คาํ หยาบ ง. เวน้ พดู เพอ้ เจอ้
๒๑. พดู เทจ็ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๖. กศุ ลกรรมบถใด สรา้ งความไวว้ างใจใหก้ บั คู่ครองเรอื น ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. มสุ าวาท ง. พยาบาท ก. ไมโ่ ลภ ข. ไมผ่ ิดในกาม ค. ไม่ปองรา้ ย ง. ไม่เหน็ ผดิ
๒๒. คนกลา่ วมสุ าวาท มเี จตนามงุ่ ใหเ้กดิ ผลเช่นไร ? ๔๗. มโนกรรม คอื การกระทาํ ทางใด ?
ก. ทาํ ลาย ข. ใหห้ วาดกลวั ค. ใหแ้ ตกแยก ง. ใหเ้ ขา้ ใจผิด ก. กาย ข. วาจา ค. ใจ ง. เจตนา
๔๘. ขอ้ ใด เป็นการทาํ ความดที างใจ ?
๒๓. ขอ้ ใด เป็นผลกรรมของการพดู เทจ็ ? ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. โรคมาก ข. ยากจน ค. คนนินทา ง. ถกู ใสร่ า้ ย
๔๙. การไมค่ ดิ รา้ ยต่อผูอ้ น่ื เรยี กว่าอะไร ?
๒๔. พูดยยุ งทาํ ใหเ้ขาแตกแยกกนั เรยี กวา่ อะไร ? ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. สุจรติ กรรม
ก. มสุ าวาท ข. ปิสณุ วาจา ค. ผรสุ วาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ
๕๐. เหน็ ว่า ทาํ ดไี ดด้ ี ทาํ ชวั่ ไดช้ วั่ เป็นกศุ ลกรรมบถใด ?
๒๕. ขอ้ ใด เป็นผลกรรมของการพดู สอ่ เสยี ด ? ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. โรคมาก ข. ยากจน ค. คนนินทา ง. แตกจากมิตร
ปญั หาวิชาธรรม ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ระดบั มธั ยมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. สตคิ วรใชเ้วลาไหน ? ๒๖. ความจรงิ อนั ประเสรฐิ หมายถงึ ธรรมใด ?
ก. กอ่ นทาํ พดู คดิ ข. ขณะทาํ พดู คดิ ค. หลงั ทาํ พดู คดิ ง. ทาํ พดู คดิ แลว้ ก. ปธาน ๔ ข. อทิ ธบิ าท ๔ ค. อรยิ สจั ๔ ง. พรหมวหิ าร ๔
๒. ธรรมใด มอี ปุ มาดจุ หางเสอื เรอื ? ๒๗. ความไม่สบายกายไมส่ บายใจ เรยี กวา่ อะไร ?
ก. หริ ิ ข. โอตตปั ปะ ค. สติ ง. ขนั ติ ก. ทกุ ข์ ข. สมทุ ยั ค. นิโรธ ง. มรรค
๓. ขอ้ ใด เป็นลกั ษณะของคนมสี มั ปชญั ญะ ? ๒๘. ในอรยิ สจั ๔ ขอ้ ใดควรละ ?
ก. กลา้ หาญอดทน ข. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ค. ไม่ประมาท ง. อายชวั่ กลวั บาป ก. ทกุ ข์ ข. สมทุ ยั ค. นิโรธ ง. มรรค
๔. ธรรมใด เป็นพ้นื ฐานใหค้ นมศี ีลธรรม ? ๒๙. ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ หถ้ งึ ความดบั ทกุ ข์ หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. สตสิ มั ปชญั ญะ ข. ขนั ตโิ สรจั จะ ค. หริ โิ อตตปั ปะ ง. กตญั �ูกตเวที ก. ทกุ ข์ ข. สมทุ ยั ค. นโิ รธ ง. มรรค
๕. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ลกั ษณะของขนั ติ ? ๓๐. ทกุ ขใ์ นอรยิ สจั เกดิ จากอะไร ?
ก. ทนทาํ งาน ข. ทนลาํ บาก ค. ทนหวิ ง. ทนเลน่ เกมส์ ก. กเิ ลส ข. กรรม ค. วบิ าก ง. ตณั หา
๖. เมอ่ื ถกู เหยยี ดหยามแต่สามารถขม่ ใจใหเ้ป็นปกตไิ ด้ เพราะมธี รรมใด ? ๓๑. อยากมกี าํ ลงั ใจ ควรเจรญิ ธรรมใด ?
ก. ขนั ติ ข. โสรจั จะ ค. หริ ิ ง. โอตตปั ปะ ก. อทิ ธบิ าท ข. วุฑฒิ ค. พละ ง. อรยิ สจั
๗. บพุ พการชี น หมายถงึ ใคร ? ๓๒. ความบากบนั่ แกลว้ กลา้ ตรงกบั พละขอ้ ใด ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระมหากษตั รยิ ์ ค. บดิ ามารดา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. สทั ธา ข. วริ ยิ ะ ค. สติ ง. สมาธิ
๘. คนเรามกั ลมื บญุ คุณผูอ้ น่ื พระพทุ ธศาสนาจงึ สอนเร่อื งใดไว้ ? ๓๓. ความรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ในสง่ิ ทงั้ ปวง ตรงกบั พละใด ?
ก. ความกตญั �ู ข. ความมเี มตตา ค. ความซอ่ื สตั ย์ ง. ความเสยี สละ ก. สทั ธา ข. วริ ยิ ะ ค. สติ ง. ปญั ญา
๙. ทจุ รติ ๓ หมายถงึ การประพฤตเิ ช่นไร ? ๓๔. จติ ใจสงบไมฟ่ ้งุ ซ่าน ตรงกบั พละใด ?
ก. ทาํ ชวั่ ข. พดู ชวั่ ค. คดิ ชวั่ ง. ทาํ พูดคดิ ชวั่ ก. สทั ธา ข. วริ ยิ ะ ค. สติ ง. สมาธิ
๑๐. ขอ้ ใด จดั เป็นกายทจุ รติ ? ๓๕. อยู่ใหเ้ขาสบายใจ จากไปใหเ้ขาคดิ ถงึ หมายถงึ มธี รรมใด ?
ก. คอรร์ ปั ชนั ข. อาฆาต ค. ใสร่ า้ ย ง. หลอกลวง ก. พรหมวหิ าร ข. สาราณิยธรรม ค. คารวธรรม ง. สปั ปรุ สิ ธรรม
๑๑. คาํ พดู ใด ทาํ ลายความสามคั คี ? ๓๖. สาธารณโภคี มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. คาํ ปด ข. คาํ หยาบ ค. คาํ สอ่ เสยี ด ง. คาํ เพอ้ เจอ้ ก. มเี มตตา ข. มศี ีลเสมอกนั ค. เหน็ ตรงกนั ง. รูจ้ กั แบง่ ปนั
๑๒. ขอ้ ใด จดั เป็นมโนทจุ รติ ? ๓๗. รูว้ ่าอะไรเป็นเหตแุ ห่งความสุขและทกุ ข์ ตรงกบั สปั ปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด ?
ก. โหดรา้ ย ข. พยาบาท ค. ใสร่ า้ ย ง. ปากรา้ ย ก. ธมั มญั �ตุ า ข. อตั ถญั �ตุ า ค. อตั ตญั �ตุ า ง. มตั ตญั �ตุ า
๑๓. การประพฤตสิ ุจรติ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๘. รูว้ า่ สุขและทกุ ขเ์ ป็นผลมาจากอะไร ตรงกบั สปั ปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด ?
ก. ทาํ ดี ข. พดู ดี ค. คดิ ดี ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ธมั มญั �ตุ า ข. อตั ถญั �ตุ า ค. กาลญั �ุตา ง. ปรสิ ญั �ุตา
๑๔. ขอ้ ใด จดั เป็นวจสี จุ รติ ? ๓๙. ชา้ ๆ ไดพ้ รา้ เลม่ งาม ใชไ้ ดก้ บั สปั ปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด ?
ก. ไม่คอรร์ ปั ชนั ข. ไม่หลอกลวง ค. ไม่พยาบาท ง. ไม่โลภ ก. รูจ้ กั เหตุ ข. รูจ้ กั ผล ค. รูจ้ กั ตน ง. รูจ้ กั กาล
๑๕. เหน็ เช่นไร ถกู ตอ้ งตามคลองธรรม ? ๔๐. สปั ปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด มคี วามหมายตรงกบั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ?
ก. ทาํ ดีไดด้ ี ข. ทาํ ดไี ดช้ วั่ ค. ดชี วั่ อยู่ทผ่ี ูอ้ น่ื ง. ทาํ ชวั่ ไดด้ ี ก. รูจ้ กั ประมาณ ข. รูจ้ กั กาล ค. รูจ้ กั ตน ง. รูจ้ กั ชมุ ชน
๑๖. สง่ิ เป็นทต่ี ง้ั แห่งการบาํ เพญ็ บญุ เรยี กว่าอะไร ? ๔๑. การรูจ้ กั ปรบั ตวั ใหเ้ขา้ กบั สงั คม จดั เขา้ ในสปั ปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด ?
ก. บญุ กริ ยิ า ข. ไทยทาน ค. สงั คหวตั ถุ ง. บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ก. รูจ้ กั เหตุ ข. รูจ้ กั ผล ค. รูจ้ กั ตน ง. รูจ้ กั ชมุ ชน
๑๗. การบรจิ าคสง่ิ ของช่วยเหลอื ผูป้ ระสบภยั จดั เขา้ ในขอ้ ใด ? ๔๒. คบคนใหด้ ูหนา้ ซ้อื ผา้ ใหด้ ูเน้อื จดั เขา้ ในสปั ปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด ?
ก. ทานมยั ข. สลี มยั ค. ภาวนามยั ง. อปจายนมยั ก. รูจ้ กั เหตุ ข. รูจ้ กั ผล ค. รูจ้ กั บคุ คล ง. รูจ้ กั ประมาณ
๑๘. ทาํ บญุ แบบประหยดั ฝึกหดั กาย ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๓. เมอ่ื ถกู นินทา ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ?
ก. ทานมยั ข. สลี มยั ค. ภาวนามยั ง. ปตั ตทิ านมยั ก. ควรโตต้ อบ ข. ไม่ตอ้ งทาํ อะไร ค. แกข้ า่ ว ง. ไม่ยนิ ดียนิ รา้ ย
๑๙. การสวดมนต์ จดั เขา้ ในการทาํ บญุ ประเภทใด ? ๔๔. ขอ้ ใด จดั เป็นอฏิ ฐารมณ์ ?
ก. ทานมยั ข. สลี มยั ค. ภาวนามยั ง. อนุโมทนามยั ก. สขุ ข. ทกุ ข์ ค. นินทา ง. เสอ่ื มลาภ
๒๐. ท่านเปรยี บธรรมใด ดุจลอ้ รถนาํ ไปสูค่ วามเจรญิ ? ๔๕. สงั คมจะไดป้ ระโยชนอ์ ะไร จากการประพฤตสิ งั คหวตั ถธุ รรม ?
ก.วฑุ ฒิ ๔ ข. จกั ร ๔ ค. อทิ ธบิ าท ๔ ง. ปธาน ๔ ก. ความสาํ เรจ็ ข. ความเจรญิ ค. ความสามคั คี ง. ความสขุ
๒๑. ขอ้ ใด สงเคราะหเ์ ขา้ ในปฏริ ูปเทส ? ๔๖. โครงการจติ อาสา เราทาํ ความดดี ว้ ยหวั ใจ จดั เขา้ ในสงั คหวตั ถใุ ด ?
ก. พ้นื ทก่ี วา้ ง ข. ประชากรมาก ค. มคี นดมี าก ง. มโี บราณวตั ถุ ก. ทาน ข. ปิยวาจา ค. อตั ถจรยิ า ง. สมานตั ตตา
๒๒. อตั ตสมั มาปณิธิ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๗. อปุ รมิ ทศิ คอื ทศิ เบ้อื งบน หมายถงึ บคุ คลในขอ้ ใด ?
ก. มีศีลธรรม ข. กนิ บญุ เก่า ค. เฝ้าขอพร ง. ออ้ นวอนเทวดา ก. บดิ ามารดา ข. ครูอาจารย์ ค. สมณพราหมณ์ ง. มติ รสหาย
๒๓. ปพุ เพกตปญุ ญตา มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๘. หา้ มไม่ใหท้ าํ ความชวั่ ใหต้ งั้ อยู่ในความดี เป็นหนา้ ทข่ี องใคร ?
ก. บญุ ประเพณี ข. บญุ เกา่ ค. บญุ ใหม่ ง. แสวงบญุ ก. ครูอาจารย์ ข. บดิ ามารดา ค. สามภี รรยา ง. บตุ รธดิ า
๒๔. จะเป็นคนเทย่ี งธรรมได้ ตอ้ งเวน้ ธรรมใด ? ๔๙. ทกั ขณิ ทศิ คอื ทศิ เบ้อื งขวา หมายถงึ บคุ คลในขอ้ ใด ?
ก. ทจุ รติ ๓ ข. อกศุ ลมลู ๓ ค. กรรมกเิ ลส ๔ ง. อคติ ๔ ก. บดิ ามารดา ข. มติ รสหาย ค. สมณพราหมณ์ ง. ครูอาจารย์
๒๕. พ่อแม่ตามใจลูกจนเสยี คน สงเคราะหเ์ ขา้ ในอคตใิ ด ? ๕๐. ยกย่องเชดิ ชู ไม่เจา้ ชูน้ อกใจ เป็นหนา้ ทใ่ี ครปฏบิ ตั ติ ่อใคร ?
ก. ฉนั ทาคติ ข. โทสาคติ ค. โมหาคติ ง. ภยาคติ ก. สาม-ี ภรรยา ข. บดิ ามารดา-บตุ ร ค. นาย-บา่ ว ง. อาจารย-์ ศิษย์
เฉลยปญั หาวิชาพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั ตรี (มธั ยมศึกษา) สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ชมพทู วปี แบ่งลกั ษณะทางภูมศิ าสตรอ์ อกเป็นก่สี ว่ น ? ๒๖. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงอาทติ ตปรยิ ายสูตร แก่ใคร ?
ก. ๑ สว่ น ข. ๒ สว่ น ค. ๓ ส่วน ง. ๔ ส่วน ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. พระยสะ ค. ภทั ทวคั คยี ์ ง. ชฎลิ ๓ พน่ี อ้ ง
๒. ดนิ แดนชมพทู วปี ในปจั จบุ นั คอื ประเทศใด ? ๒๗. แควน้ ใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงประดษิ ฐานพระศาสนาเป็นแห่งแรก ?
ก. อนิ เดีย ข. มาเลเซยี ค. อนิ โดนีเชยี ง. ออสเตรเลยี ก. องั คะ ข. มคธ ค. กาสี ง. โกศล
๓. วรรณะ ในชมพูทวปี แบง่ ออกเป็นก่ชี นชนั้ ? ๒๘. วดั แห่งแรกในพระพทุ ธศาสนา ช่อื ว่าอะไร ?
ก. ๓ ชนชน้ั ข. ๔ ชนชน้ั ค. ๕ ชนชนั้ ง. ๖ ชนชน้ั ก. เชตวนั ข. เวฬวุ นั ค. บพุ พาราม ง. นโิ ครธาราม
๔. วรรณะใด มหี นา้ ทส่ี งั่ สอนศิลปวทิ ยาการ ? ๒๙. พระโมคคลั ลานะ เดมิ เป็นนกั บวชในลทั ธใิ ด ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. ปรพิ าชก ข. ชฏลิ ค. อาชวี ก ง. นคิ รนถ์
๕. ศากยวงศ์ ตงั้ อยู่ในป่าทห่ี นาแน่นดว้ ยตน้ ไมใ้ ด ? ๓๐. พระเถระใด เป็นพระอคั รสาวกเบ้อื งขวา ?
ก. พยงุ ข. สาละ ค. ตะเคยี น ง. สกั กะ ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระยสะ ง. พระอสั สชิ
๖. พระเจา้ สุทโธทนะ เป็นพระราชโอรสของกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๓๑. ปิปผลมิ าณพ เป็นช่อื เดมิ ของพระเถระใด ?
ก. โอกกากราช ข. ชยเสนะ ค. สหี หนุ ง. อญั ชนะ ก. นทกี สั สปะ ข. คยากสั สปะ ค. มหากสั สปะ ง. กมุ ารกสั สปะ
๗. พระเจา้ สุทโธทนะ เป็นกษตั รยิ ป์ กครองพระนครใด ? ๓๒. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงโอวาทปาตโิ มกข์ ณ สถานทใ่ี ด ?
ก. พาราณสี ข. กบลิ พสั ดุ์ ค. เทวทหะ ง. สาวตั ถี ก. วดั เวฬวุ นั ข. วดั เชตวนั ค. วดั บพุ พาราม ง. วดั นิโครธาราม
๘. วาจาทพ่ี ระมหาบรุ ษุ ทรงเปลง่ ในวนั ประสูติ เรยี กว่าอะไร ? ๓๓. พระเถระใด ทลู พระพทุ ธเจา้ ใหเ้สดจ็ กลบั กรงุ กบลิ พสั ดไุ์ ดส้ าํ เรจ็ ?
ก. อาสภวิ าจา ข. มธุรสวาจา ค. ปิยวาจา ง. สณั หวาจา ก. พระนนั ทะ ข. พระกาฬทุ ายี ค. พระราหลุ ง. พระโมคคลั ลานะ
๙. เมอ่ื พระมหาบรุ ษุ ประสูตไิ ด้ ๓ วนั ดาบสใดเขา้ เยย่ี ม ? ๓๔. มหาเวสสนั ดรชาดก วา่ ดว้ ยการบาํ เพญ็ บารมใี ด ?
ก. อจตุ ดาบส ข. อสติ ดาบส ค. อาฬารดาบส ง. อทุ ทกดาบส ก. ทาน ข. ศีล ค. เนกขมั มะ ง. ปญั ญา
๑๐. พระราชมารดาของพระนางพมิ พา ช่อื ว่าอะไร ? ๓๕. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงมหาธรรมปาลชาดก โปรดใคร ?
ก. มายา ข. ปชาบดี ค. ปมติ า ง. อมติ า ก. พทุ ธบดิ า ข. พทุ ธมารดา ค. พระนางพมิ พา ง. ราหลุ กมุ าร
๑๑. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะ ทรงอยู่ครองเพศฆราวาสกป่ี ี ? ๓๖. สทุ ตั ตะ เป็นชอ่ื เดมิ ของเศรษฐใี ด ?
ก. ๗ ปี ข. ๑๖ ปี ค. ๒๙ ปี ง. ๓๕ ปี ก. เมณฑกะ ข. โฆสกะ ค. โชตกิ ะ ง. อนาถบณิ ฑกิ ะ
๑๒. ผูใ้ ด ถวายบาตรแก่พระมหาบรุ ษุ ในวนั ออกผนวช ? ๓๗. วดั แหง่ สุดทา้ ยทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงรบั ไว้ ชอ่ื ว่าอะไร ?
ก. มหาพรหม ข. ฆฏกิ ารพรหม ค. สหมั บดพี รหม ง. ทา้ วสกั กะ ก. เชตวนั ข. เวฬวุ นั ค. บพุ พาราม ง. อมั พปาลวี นั
๑๓. หลงั ผนวชแลว้ พระมหาบรุ ษุ เสดจ็ ประทบั แรมทแ่ี ควน้ ใดก่อน ? ๓๘. พระพทุ ธเจา้ ทรงปลงอายสุ งั ขาร ณ ทใ่ี ด ?
ก. มคธ ข. โกศล ค. สกั กะ ง. มลั ละ ก. อานนั ทเจดยี ์ ข. อทุ เทสกิ เจดยี ์ ค. ปาวาลเจดยี ์ ง. ธรรมเจดยี ์
๑๔. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ทรงปกครองแควน้ มคธ ? ๓๙. ผูใ้ ด ถวายปจั ฉิมบณิ ฑบาตแก่พระพทุ ธเจา้ ?
ก. สทุ โธทนะ ข. พมิ พสิ าร ค. ปเสนทิ ง. อเุ ทน ก. นางสุชาดา ข. นางวสิ าขา ค. นายจุนทะ ง. หมอชวี ก
๑๕. ขอ้ ใด ไมน่ บั เป็นการบาํ เพญ็ ทกุ รกริ ยิ าของพระมหาบรุ ษุ ? ๔๐. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ ิพพาน ทเ่ี มอื งใด ?
ก. กดพระทนต์ ข. กลน้ั ลมหายใจ ค. อดอาหาร ง. นงั่ สมาธิ ก. ไพสาลี ข. สาวตั ถี ค. พาราณสี ง. กสุ นิ ารา
๑๖. ปญั จวคั คยี ห์ ลกี หนไี ป เพราะพระมหาบรุ ษุ เลกิ บาํ เพญ็ สง่ิ ใด ? ๔๑. ระเบยี บแบบแผนทพ่ี งึ ปฏบิ ตั ใิ นทางพระพทุ ธศาสนา ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. กดพระทนต์ ข. กลนั้ ลมหายใจ ค. อดอาหาร ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ศาสนบคุ คล ข. ศาสนธรรม ค. ศาสนวตั ถุ ง. ศาสนพธิ ี
๑๗. บคุ คลผูม้ ปี ญั ญาเฉียบแหลมอปุ มาดงั่ บวั พน้ นาํ้ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๒. การอบรมจติ ใหผ้ อ่ งใสตามหลกั บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ๓ เรยี กว่าอะไร ?
ก. อคุ ฆตติ ญั �ู ข. วปิ จติ ญั �ู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ ก. ทาน ข. ศีล ค. ภาวนา ง. เนกขมั มะ
๑๘. ระหว่างทางเสดจ็ ไปเมอื งพาราณสี พระพทุ ธเจา้ ทรงพบกบั ผูใ้ ด ? ๔๓. การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ นยิ มทาํ ในระหวา่ งอายุก่ปี ี ?
ก. นางสุชาดา ข. นายโสตถยิ ะ ค. พานชิ ๒ พน่ี อ้ ง ง. อปุ กาชีวก ก. ๑๐-๑๑ ปี ข. ๑๑-๑๒ ปี ค. ๑๒-๑๕ ปี ง. ๑๕-๑๘ ปี
๑๙. ผูใ้ ด ไดด้ วงตาเหน็ ธรรมหลงั ฟงั ปฐมเทศนา ? ๔๔. จาตรุ งคสนั นิบาต คอื การประชมุ ประกอบดว้ ยองค์ ๔ เกดิ ข้นึ วนั ใด ?
ก. โกณฑญั ญะ ข. วปั ปะ ค. ภทั ทยิ ะ ง. มหานามะ ก. มาฆบชู า ข. วสิ าขบชู า ค. อฏั ฐมบี ชู า ง. อาสาฬหบูชา
๒๐. ในอนตั ตลกั ขณสูตร พระพทุ ธเจา้ แสดงสง่ิ ใดวา่ เป็นอนตั ตา ? ๔๕. วนั ประสูติ ตรสั รู้ ปรนิ พิ พาน ตรงกบั วนั ใด ?
ก. มรรค ๘ ข. ขนั ธ์ ๕ ค. อรยิ สจั ๔ ง. ธาตุ ๔ ก. มาฆบชู า ข. วสิ าขบชู า ค. อาสาฬหบชู า ง. อฏั ฐมบี ชู า
๒๑. หลงั ฟงั อนตั ตลกั ขณสูตร ปญั จวคั คยี ไ์ ดเ้ป็นพระอรยิ บคุ คลชนั้ ใด ? ๔๖. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงปฐมเทศนา ในวนั ใด ?
ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์ ก. มาฆบูชา ข. วสิ าขบูชา ค. อาสาฬหบูชา ง. อฏั ฐมบี ชู า
๒๒. “ ทน่ี ่วี นุ่ วายหนอ ทน่ี ่ขี ดั ขอ้ งหนอ ” เป็นคาํ อทุ านของใคร ? ๔๗. สง่ิ ใด ทไ่ี ม่ควรนาํ ไปถวายสงั ฆทานหลงั เทย่ี งวนั ไปแลว้ ?
ก. ยสะ ข. สุพาหุ ค. ปณุ ณชิ ง. ควมั ปติ ก. ขา้ วสกุ ข. นาํ้ ดม่ื ค. ยารกั ษาโรค ง. ผา้ จวี ร
๒๓. มารดาและภรรยาของพระยสะ เป็นพระอรยิ บคุ คลชนั้ ใด ? ๔๘. การไหว้ ตรงกบั กริ ยิ าใด ?
ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์ ก. อญั ชลี ข. วนั ทา ค. อภวิ าท ง. คกุ เข่า
๒๔. “พวกเธอจะแสวงหาสตรหี รอื ตนดกี วา่ ” พระพทุ ธเจา้ ตรสั ถามใคร ? ๔๙. อภวิ าท มคี วามหมายตรงกบั กริ ยิ าใด ?
ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. ภทั ทวคั คยี ์ ค. ฉพั พคั คยี ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ประนมมอื ข. ไหว้ ค. กราบ ง. คุกเขา่
๒๕. ผูใ้ ด ไม่นบั เขา้ ในชฎลิ ๓ พน่ี อ้ ง ? ๕๐. ธมั มงั สะระณงั คจั ฉามิ คอื การกลา่ วถงึ สรณะใดเป็นทพ่ี ง่ึ ?
ก. อรุ ุเวลกสั สปะ ข. นทกี สั สปะ ค. คยากสั สปะ ง. กมุ ารกสั สปะ ก. พระพทุ ธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้
เฉลยปญั หาวิชาเบญจศีลเบญจธรรม (วินยั ) ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ระดบั มธั ยมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่สี ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว ระบายในกระดาษคาํ ตอบใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน )
๑. เครอ่ื งป้องกนั ไมใ่ หท้ าํ ชวั่ ทางกาย วาจา เรยี กว่าอะไร ? ๒๖. เบญจธรรมขอ้ ท่ี ๑ ทาํ ใหม้ นุษยม์ พี ฤตกิ รรมเช่นใด ?
ก. ทาน ข. ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา ก. เมตตาตอ่ กนั ข. รกั ษาศีลไดม้ นั่ คง ค. ซอ่ื ตรงต่อกนั ง. มสี ตริ อบคอบ
๒. หลกั ปฏบิ ตั เิ บ้อื งตน้ แหง่ การทาํ ความดี ไดแ้ ก่ขอ้ ใด ? ๒๗. รูจ้ กั ช่วยเหลอื กนั ยามตกทกุ ขไ์ ดย้ าก เป็นเบญจธรรมขอ้ ใด ?
ก. รกั ษาศีล ข. เจรญิ สมาธิ ค. อบรมปญั ญา ง. เจรญิ ภาวนา ก. เมตตา ข. กรุณา ค. สมั มาอาชวี ะ ง. ความมสี ตั ย์
๓. การรกั ษาศีล เป็นการปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ใด ? ๒๘. คนไม่ฆ่าสตั ว์ แต่ปราศจากความสงสาร ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ หา้ ม ข. กฎเกณฑ์ ค. ระเบยี บ ง. ขอ้ บงั คบั ก. มศี ีลธรรม ข. มีศีลแตข่ าดธรรม ค. ขาดศีลแต่มธี รรม ง. ขาดศีลธรรม
๔. ศีล ทแ่ี ปลวา่ ปกติ มงุ่ ถงึ ศีลประเภทใด ? ๒๙. เบญจธรรมขอ้ ๑ สนบั สนุนการแกป้ ญั หาสงั คมดา้ นใด ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๒๒๗ ก. อาชญากรรม ข. โจรกรรม ค. ทจุ รติ คอรปั ชนั่ ง. ยาเสพตดิ
๕. ศีลขอ้ ๑ ม่งุ ส่งเสรมิ ใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั มิ คี ณุ ธรรมใด ? ๓๐. เบญจธรรมขอ้ ใด ทาํ ใหม้ นุษยไ์ มเ่ บยี ดเบยี นต่อกนั ?
ก. เมตตา กรณุ า ข. สมั มาอาชวี ะ ค. สจั จะ ง. สติ ก. เมตตา กรณุ า ข. สมั มาอาชวี ะ ค. วาจาสตั ย์ ง. สตริ อบคอบ
๖. ความรูส้ กึ หวงแหนชวี ติ จะเกดิ ข้นึ ได้ เพราะรกั ษาศีลขอ้ ใด ? ๓๑. สมั มาอาชวี ะ ในเบญจธรรมขอ้ ท่ี ๒ หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. เล้ยี งชีพชอบ ข. ตงั้ ใจชอบ ค. เจรจาชอบ ง. ดาํ รชิ อบ
๗. ขอ้ ใด อนุโลมเขา้ ในการทาํ ปาณาตบิ าต ? ๓๒. การแสวงหาทรพั ยโ์ ดยสจุ รติ เป็นเบญจธรรมขอ้ ใด ?
ก. ทาํ รา้ ยจติ ใจ ข. ทาํ รา้ ยร่างกาย ค. ทาํ ลายทรพั ยส์ นิ ง. ทาํ ลายช่อื เสยี ง ก. สมั มาอาชีวะ ข. ความมสี ตั ย์ ค. ความมสี ติ ง. ความมเี มตตา
๘. คาํ ว่า ทรกรรม ไดแ้ ก่ การประพฤตเิ ห้ยี มโหดแก่ใคร ? ๓๓. การทจุ รติ คอรปั ชนั่ งบประมาณแผ่นดนิ ขาดเบญจธรรมใด ?
ก. เดก็ ข. สตรี ค. คนชรา ง. สตั ว์ ก. สมั มาอาชีวะ ข. ความมสี ติ ค. ความมกี รุณา ง. ความมสี ตั ย์
๙. ขอ้ ใด จดั เขา้ ในลกั ษณะแห่งปาณาตบิ าต ? ๓๔. คนไม่ดม่ื สุรา แต่จาํ หน่ายสุราหนีภาษี ขาดเบญจธรรมใด ?
ก. ฆ่า ข. ทาํ รา้ ยร่างกาย ค. ทรกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ความเทย่ี งธรรม ข. สมั มาอาชีวะ ค. ความมสี ติ ง. ความมสี ตั ย์
๑๐. ยงิ นกตกปลาลา่ สตั วเ์ พอ่ื ความสาํ ราญ จดั เขา้ ในทรกรรมขอ้ ใด ? ๓๕. โครงการพระราชดาํ รใิ ด สอดคลอ้ งกบั เบญจธรรมขอ้ ท่ี ๒ ?
ก. ใชก้ าร ข. ผจญสตั ว์ ค. นาํ ไป ง. เลน่ สนุก ก. แกม้ ลงิ ข. แกลง้ ดนิ ค. ฝนหลวง ง. เศรษฐกจิ พอเพยี ง
๑๑. ศีลขอ้ ๒ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ป้องกนั การลว่ งละเมดิ ในเรอ่ื งใด ? ๓๖. เบญจธรรมขอ้ ใด ทาํ ใหผ้ ูป้ ระพฤตไิ มน่ อกใจคู่ครอง ?
ก. ชวี ติ ข. ทรพั ยส์ นิ ค. ร่างกาย ง. จติ ใจ ก. สมั มาอาชวี ะ ข. สาํ รวมในกาม ค. ความมสี ตั ย์ ง. ความมสี ติ
๑๒. การสลบั ของดไี วก้ บั ตน ใหข้ องไม่ดแี ก่คนอน่ื เรยี กวา่ อะไร ? ๓๗. เบญจธรรมขอ้ ๓ เป็นหลกั ปฏบิ ตั ริ ะหว่างใครกบั ใคร ?
ก. กรรโชก ข. สบั เปล่ยี น ค. เบยี ดบงั ง. ตระบดั ก. ลูก-พอ่ แม่ ข. ศิษย-์ อาจารย์ ค. สามี-ภรรยา ง. นาย-บา่ ว
๑๓. สวญิ ญาณกทรพั ยใ์ นศีลขอ้ ท่ี ๒ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๘. ผูป้ ระพฤตติ ามเบญจธรรมขอ้ ๓ ย่อมไดร้ บั ผลเช่นไร ?
ก. บา้ น ข. รถยนต์ ค. ตน้ ไม้ ง. สตั วเ์ ล้ยี ง ก. ตง้ั ใจเรยี น ข. เคารพพ่อแม่ ค. เช่อื ฟงั ครู ง. ไม่เป็นคนเจา้ ชู้
๑๔. ขอ้ ใด อนุโลมเขา้ ในการทาํ โจรกรรม ? ๓๙. ขอ้ ใด เป็นโทษของการไม่สาํ รวมในกาม ?
ก. ลกั ข. ปลน้ ค. ฉก ง. รบั สนิ บน ก. เสยี ทรพั ย์ ข. เสยี งาน ค. เสยี คาํ พูด ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๕. พูดปดใหโ้ อนเงนิ จดั เขา้ ในโจรกรรมขอ้ ใด ? ๔๐. ปญั หาหย่ารา้ งของคนในสงั คม เพราะขาดเบญจธรรมใด ?
ก. ขู่กรรโชก ข. ฉอ้ โกง ค. หลอก ง. ลอ่ ลวง ก. เมตตากรุณา ข. สมั มาอาชวี ะ ค. สาํ รวมในกาม ง. ความมสี ติ
๑๖. ขายสนิ คา้ เลยี นแบบ จดั เขา้ ในโจรกรรมขอ้ ใด ? ๔๑. สามไี มน่ อกใจภรรยาครองคู่อยู่จนแก่เฒ่า ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ปลอม ข. ฉอ้ โกง ค. หลอก ง. ลอ่ ลวง ก. สทารสนั โดษ ข. ปตวิ ตั ร ค. สาํ รวมในกาม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๗. กูเ้งนิ ไปไม่ยอมใชค้ นื จดั เขา้ ในโจรกรรมขอ้ ใด ? ๔๒. ภรรยาตงั้ ใจปรนนบิ ตั สิ ามี ไมบ่ กพร่องในหนา้ ท่ี ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ลกั ข. ฉอ้ ค. หลอก ง. ลอ่ ลวง ก. สทารสนั โดษ ข. ปตวิ ตั ร ค. สาํ รวมในกาม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๘. ศีลขอ้ ท่ี ๓ ตอ้ งการใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั เิ ป็นคนเช่นไร ? ๔๓. การประพฤตติ นเป็นคนซอ่ื ตรง ไม่คดโกง เป็นเบญจธรรมขอ้ ใด ?
ก. พดู ความจรงิ ข. ไมน่ อกใจคูค่ รอง ค. มเี มตตา ง. ทาํ งานสจุ รติ ก. เมตตากรุณา ข. สาํ รวมในกาม ค. ความมสี ตั ย์ ง. ความมสี ติ
๑๙. การประพฤตผิ ดิ ประเวณี เป็นการลว่ งละเมดิ ศีลขอ้ ใด ? ๔๔. เคารพเชอ่ื ฟงั พอ่ แม่ เป็นความมสี ตั ยข์ อ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. สวามภิ กั ด์ิ ข. ซอ่ื ตรง ค. เทย่ี งธรรม ง. กตญั �ู
๒๐. ขอ้ ใด เป็นความผดิ ทน่ี บั เขา้ ในมสุ าวาท ? ๔๕. ความเทย่ี งธรรมในเบญจธรรมขอ้ ๔ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. โวหาร ข. สาํ คญั ผดิ ค. พลงั้ ง. คนื คาํ ก. ตรงตอ่ หนา้ ท่ี ข. ซอ่ื ตรงต่อมติ ร ค. ภกั ดตี ่อนาย ง. รูค้ ณุ ท่าน
๒๑. คาํ พูดทไ่ี มน่ บั เขา้ ในขอ้ หา้ ม ไมม่ โี ทษแก่ผูพ้ ูด ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๖. การทาํ งานไมต่ กอยู่ในอาํ นาจอคติ เป็นความมสี ตั ยข์ อ้ ใด ?
ก. โวหาร ข. อาํ ความ ค. มารยา ง. สบั ปลบั ก. ความเทย่ี งธรรม ข. ความซอ่ื ตรง ค. ความสวามภิ กั ด์ิ ง. ความกตญั �ู
๒๒. ปญั หายาเสพตดิ สะทอ้ นวา่ สงั คมไมร่ กั ษาศีลขอ้ ใด ? ๔๗. ความมสี ตั ย์ สนบั สนุนการรกั ษาศีลขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๕ ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๒๓. สรุ า ยาบา้ ยาไอซ์ เป็นวตั ถตุ อ้ งหา้ มของศีลขอ้ ใด ? ๔๘. ความมสี ตริ อบคอบ ควรประพฤตคิ ู่กบั ศีลขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕ ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๕
๒๔. หลกั ธรรมสาํ หรบั ประพฤตคิ วบคู่กบั ศีล ๕ เรยี กว่าอะไร ? ๔๙. ขอ้ ใด ช่อื วา่ ไมป่ ระมาทเลนิ เลอ่ ในการทาํ งาน ?
ก. กลั ยาณธรรม ข. โลกธรรม ค. มนุษยธรรม ง. อรยิ ธรรม ก. ขยนั ขวนขวาย ข. ไม่ทอดธุระ ค. มคี วามรบั ผดิ ชอบ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๕. ขอ้ ใด จดั เขา้ ในเบญจธรรม ๕ ประการ ? ๕๐. บคุ คลจะเป็นมนุษยท์ ส่ี มบรู ณไ์ ด้ ตอ้ งรกั ษาศีล ๕ คู่กบั หลกั ธรรมใด ?
ก. สาํ รวมกาย ข. สาํ รวมวาจา ค. สาํ รวมกาม ง. สาํ รวมจติ ก. ทาน ข. ภาวนา ค. ปญั ญา ง. เบญจธรรม
เฉลยปญั หาปญั หาวิชาธรรม ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั มธั ยมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถูกท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. กเิ ลสอนั เป็นเหตใุ หใ้ คร่ เรยี กวา่ อะไร ? ๒๖. คนทก่ี ลวั คนอน่ื จะไดด้ กี ว่า ช่อื วา่ มคี วามตระหน่ใี นเร่อื งอะไร ?
ก. กามคณุ ข. กเิ ลสกาม ค. วตั ถกุ าม ง. กามฉนั ทะ ก. ตระกูล ข. ทอ่ี ยู่ ค. วรรณะ ง. ลาภ
๒. สง่ิ ทน่ี ่าปรารถนาน่าพอใจ เรยี กวา่ อะไร ? ๒๗. ธมั มมจั ฉรยิ ะ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. กามสงั โยชน์ ข. กเิ ลสกาม ค. วตั ถกุ าม ง. กามฉนั ทะ ก. หวงวชิ า ข. หวงสกลุ ค. หวงลาภ ง. หวงวรรณะ
๓. ความไม่มโี รคเป็นลาภอนั ประเสรฐิ จดั เป็นสขุ ประเภทใด ? ๒๘. อกศุ ลธรรมทค่ี รอบงาํ จติ ไม่ใหก้ า้ วข้นึ สู่ธรรมชน้ั สูงข้นึ ไป ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. กายกิ สขุ ข. เจตสกิ สุข ค. สามสิ สุข ง. นริ ามสิ สุข ก. มจั ฉรยิ ะ ข. นิวรณ์ ค. ตณั หา ง. มาร
๔. ขอ้ ใด เป็นเหตใุ หเ้กดิ เจตสกิ สขุ สุขทางใจ ? ๒๙. รูป เสยี ง กลน่ิ รส ทน่ี ่าชอบใจ ก่อใหเ้กดิ นวิ รณใ์ ด ?
ก. รูจ้ กั พอเพยี ง ข. มกี ารงานดี ค. มที รพั ยม์ าก ง. มตี าํ แหน่งสูง ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท ค. ถนี มทิ ธะ ง. วจิ กิ จิ ฉา
๕. รูปสวยเสยี งไพเราะ ก่อใหเ้กดิ ไฟกเิ ลสประเภทใด ? ๓๐. คนเป็นโรคซมึ เศรา้ เพราะจติ ถกู นิวรณใ์ ดครอบงาํ ?
ก. ไฟราคะ ข. ไฟโทสะ ค. ไฟโมหะ ง. ไฟรษิ ยา ก. พยาบาท ข. ถนี มิทธะ ค. อทุ ธจั จกกุ กจุ จะ ง. วจิ กิ จิ ฉา
๖. คนทถ่ี กู ไฟโทสะแผดเผา มกั มอี าการเช่นไร ? ๓๑. คนทม่ี คี วามสงสยั ในเร่อื งบาปบญุ เพราะจติ ถกู นวิ รณใ์ ดครอบงาํ ?
ก. โกรธงา่ ย ข. หงดุ หงดิ งา่ ย ค. อารมณร์ อ้ น ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท ค. ถนี มทิ ธะ ง. วจิ กิ จิ ฉา
๗. คนทไ่ี มร่ ูจ้ กั บญุ คุณพ่อแม่ เพราะถกู ไฟกเิ ลสชนดิ ใดแผดเผา ? ๓๒. ขอ้ ใด กลา่ วความหมายของเวทนาไดช้ ดั เจนทส่ี ุด ?
ก. ไฟราคะ ข. ไฟโทสะ ค. ไฟโมหะ ง. ไฟตณั หา ก. ความรูส้ กึ ข. ความเจบ็ ปวด ค. ความสงสาร ง. ความเหน็ ใจ
๘. ความเป็นใหญ่ ใครๆ กช็ อบ ถอื อะไรเป็นใหญ่จงึ จะดี ? ๓๓. ความสบายใจ มคี วามหมายตรงกบั เวทนาใด ?
ก. ถอื ตน ข. ถอื เสยี งขา้ งมาก ค. ถอื ประชาชน ง. ถอื ธรรมะ ก. สุขเวทนา ข. ทกุ ขเวทนา ค. โสมนสั เวทนา ง. อเุ บกขาเวทนา
๙. ปจั จบุ นั ประเทศสว่ นใหญ่ใชห้ ลกั อธปิ ไตยใด ปกครองประเทศ ? ๓๔. อาการทไ่ี มด่ ใี จเสยี ใจ มคี วามหมายตรงกบั เวทนาใด ?
ก. อตั ตาธปิ ไตย ข. โลกาธปิ ไตย ค. ธมั มาธปิ ไตย ง. อนาธปิ ไตย ก. สุขเวทนา ข. ทกุ ขเวทนา ค. โสมนสั เวทนา ง. อเุ บกขาเวทนา
๑๐. คาํ วา่ ทาํ ตามใจคอื ไทยแท้ จดั เขา้ ในอธปิ ไตยใด ? ๓๕. ความสบายกาย มคี วามหมายตรงกบั เวทนาใด ?
ก. อตั ตาธิปไตย ข. โลกาธปิ ไตย ค. ธมั มาธปิ ไตย ง. ประชาธปิ ไตย ก. สขุ เวทนา ข. ทกุ ขเวทนา ค. โสมนสั เวทนา ง. อเุ บกขาเวทนา
๑๑. ประชาธปิ ไตยทแ่ี ทจ้ รงิ มงุ่ ประโยชนเ์ พอ่ื ใคร ? ๓๖. คาํ ว่า จรติ เรยี กอกี อย่างหน่งึ ว่าอย่างไร ?
ก. คนราํ่ รวย ข. คนยากจน ค. คนมอี าํ นาจ ง. ทกุ ๆ คน ก. วติ ก ข. จรยิ า ค. วจิ าร ง. วพิ ากย์
๑๒. ญาณ ๓ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๗. จรติ ของมนุษยใ์ นโลกน้ี แบง่ ไดเ้ป็นกป่ี ระเภท ?
ก. สมาธชิ น้ั สูง ข. การบรรลธุ รรม ค. ปญั ญาหยงั่ รู้ ง. อทิ ธฤิ ทธ์ิ ก. ๒ ประเภท ข. ๔ ประเภท ค. ๖ ประเภท ง. ๘ ประเภท
๑๓. ความทะยานอยาก หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๓๘. คนทเ่ี ชอ่ื งา่ ยไรเ้หตผุ ล เป็นคนจรติ ใด ?
ก. ราคะ ข. โทสะ ค. โมหะ ง. ตณั หา ก. โทสจรติ ข. วติ กั กจรติ ค. สทั ธาจริต ง. พทุ ธจิ รติ
๑๔. อยากกนิ อาหารรสอร่อยๆ จดั เป็นตณั หาประเภทใด ? ๓๙. คนทเ่ี ช่อื งา่ ยไรเ้หตผุ ล ควรแกด้ ว้ ยการเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. กามตณั หา ข. ภวตณั หา ค. วภิ วตณั หา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อสภุ กมั มฏั ฐาน ข. เมตตา ค. มรณสั สติ ง. อนุสสติ
๑๕. อยากอยู่ในตาํ แหน่งนานๆ จดั เป็นตณั หาประเภทใด ? ๔๐. คนมคี วามรูช้ อบใชเ้หตผุ ล เป็นลกั ษณะของคนจรติ ใด ?
ก. กามตณั หา ข. ภวตณั หา ค. วภิ วตณั หา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. วติ กั กจรติ ข.โทสจรติ ค. สทั ธาจรติ ง. พทุ ธิจรติ
๑๖. การเวยี นว่ายตายเกดิ หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๔๑. อปรหิ านยิ ธรรม เป็นหลกั ธรรมส่งเสรมิ ประเทศชาตใิ นเร่อื งใด ?
ก. วฏั ฏะ ข. จตุ ิ ค. ปฏสิ นธิ ง. อบุ ตั ิ ก. ความสามคั คี ข. ความมนั่ คง ค. ความทนั สมยั ง. ความราํ่ รวย
๑๗. พระอรยิ บคุ คลใด ตดั การเวยี นว่ายตายเกดิ ได้ ? ๔๒. ขอ้ ใด เป็นหลกั อปรหิ านิยธรรม ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์ ก. หมนั่ ประชมุ ข. เคารพผูใ้ หญ่ ค. ไมบ่ งั คบั สตรี ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๘. อะไร เป็นเหตใุ หท้ าํ กรรม ? ๔๓. พระสงฆใ์ นสงั ฆคุณ ๙ หมายถงึ พระสงฆใ์ นขอ้ ใด ?
ก. กเิ ลส ข. กรรม ค. วบิ าก ง. ตณั หา ก. สมมตสิ งฆ์ ข. อริยสงฆ์ ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์
๑๙. ในอปสั เสนธรรม เมอ่ื พจิ ารณาแลว้ ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ? ๔๔. สงั ฆคณุ บทว่า สปุ ฏปิ นฺโน มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อดกลน้ั ข. เวน้ ค. บรรเทา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ปฏบิ ตั ดิ ี ข. ปฏบิ ตั ติ รง ค. ปฏบิ ตั เิ ป็นธรรม ง. ปฏบิ ตั สิ มควร
๒๐. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่วธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นอปสั เสนธรรม ? ๔๕. พระสงฆป์ ฏบิ ตั อิ ย่างไร ช่อื ว่าเป็นเน้อื นาบญุ ของโลก ?
ก. อดกลน้ั ข. รูแ้ จง้ ค. บรรเทา ง. เสพ ก. ปฏบิ ตั ดิ ี ข. ปฏบิ ตั ติ รง ค. ปฏบิ ตั เิ ป็นธรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๑. วธิ แี ผ่เมตตาทถ่ี กู ตอ้ ง ควรเรม่ิ ทใ่ี คร ? ๔๖. สงั ฆคณุ บทว่า ทกขฺ เิ ณยโฺ ย มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ตนเอง ข. มติ ร ค. ศตั รู ง. สรรพสตั ว์ ก. ควรคาํ นบั ข.ควรตอ้ นรบั ค. ควรของทาํ บญุ ง. ควรกราบไหว้
๒๒. ขอใหส้ รรพสตั วพ์ น้ จากทกุ ขเ์ ถดิ เป็นการเจรญิ อปั ปมญั ญาใด ? ๔๗. ในพระพทุ ธศาสนา คนมบี ารมี หมายถงึ ใคร ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา ก. คนมอี าํ นาจ ข. คนมวี าสนา ค. คนมบี รวิ าร ง. คนมีคณุ ธรรมสูง
๒๓. สตั วท์ งั้ หลายมกี รรมเป็นของของตน เป็นการเจรญิ อปั ปมญั ญาใด ? ๔๘. ในบารมี ๑๐ บารมใี ดเป็นขอ้ แรก ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา ก. ศีล ข. เนกขมั ม์ ค. ปญั ญา ง. ทาน
๒๔. อาวาสมจั ฉรยิ ะ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๙. ในบารมี ๑๐ พระมหาชนก ทรงบาํ เพญ็ บารมใี ด ?
ก. หวงทอ่ี ยู่ ข. หวงสกลุ ค. หวงลาภ ง. หวงวรรณะ ก. ทาน ข. วริ ยิ ะ ค. ขนั ติ ง. สจั จะ
๒๕. คนทไ่ี ม่ถอื ชาตชิ น้ั วรรณะ แสดงวา่ ไม่มมี จั ฉรยิ ะใด ? ๕๐. คนทต่ี งั้ ใจแน่วแน่ จะไม่เสพสง่ิ เสพยต์ ดิ ชอ่ื วา่ บาํ เพญ็ บารมใี ด ?
ก. กลุ มจั ฉริยะ ข. ลาภมจั ฉรยิ ะ ค. วณั ณมจั ฉรยิ ะ ง. ธมั มมจั ฉรยิ ะ ก. ศีล ข. ขนั ติ ค. อธิษฐาน ง. อเุ บกขา
เฉลยปญั หาวชิ าอนุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั มธั ยมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ปิปผลิ เป็นชอ่ื เดมิ ของพระเถระใด ? ๒๖. พระปฏาจาราเถรี ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระมหากสั สปะ ค. พระอบุ าลี ง. พระสวิ ลี ก. ทรงวนิ ยั ข. มฤี ทธ์ิ ค. มปี ญั ญา ง. ทรงผา้ เศรา้ หมอง
๒. พระมหากสั สปะเกดิ ทเ่ี มอื งใด ? ๒๗. สตรใี ด เขา้ ใจวา่ มยี าทส่ี ามารถรกั ษาคนตายใหฟ้ ้ืนได้ ?
ก. กบลิ พสั ดุ์ ข. พาราณสี ค. ราชคฤห์ ง. สาวตั ถี ก. ปฏาจารา ข. กสี าโคตมี ค. เขมา ง. ปชาบดี
๓. พระมหากสั สปะเกดิ ในวรรณะใด ? ๒๘. พระเถรใี ด ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นทรงผา้ เศรา้ หมอง ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. ปชาบดี ข. พมิ พา ค. อบุ ลวรรณา ง. กสี าโคตมี
๔. พระพทุ ธเจา้ ทรงสรรเสรญิ พระมหากสั สปะ ในคณุ ธรรมขอ้ ใด ? ๒๙. บณั ฑติ สามเณรเกดิ ในตระกูลอปุ ฏั ฐาก ของพระเถระใด ?
ก. อดทน ข. มกั นอ้ ย ค. ขยนั ง. มเี มตตา ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระอานนท์ ง. พระราหลุ
๕. พระมหากสั สปะดบั ขนั ธนพิ พาน เมอ่ื อายุกป่ี ี ? ๓๐. มารดาของสามเณรใด ขณะแพท้ อ้ งตอ้ งการนุ่งผา้ กาสาวพสั ตร์ ?
ก. ๘๐ ปี ข. ๙๐ ปี ค. ๑๑๐ ปี ง. ๑๒๐ ปี ก. สงั กจิ จะ ข. บณั ฑติ ค. สุมนะ ง. สุขะ
๖. บรขิ ารใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ประทานแก่พระมหากสั สปะ ? ๓๑. พระเถระใด เป็นพระอปุ ชั ฌายข์ องบณั ฑติ สามเณร ?
ก. สบง ข. จวี ร ค. สงั ฆาฏิ ง. บาตร ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระอานนท์ ง. พระมหากสั สปะ
๗. พระมหากสั สปะเป็นประธานทาํ สงั คายนาครงั้ ทเ่ี ท่าไหร่ ? ๓๒. ธรรมกิ อบุ าสก เป็นชาวเมอื งใด ?
ก. ครง้ั ท่ี ๑ ข. ครง้ั ท่ี ๒ ค. ครงั้ ท่ี ๓ ง. ครง้ั ท่ี ๔ ก. พาราณสี ข. สาวตั ถี ค. โกสมั พี ง. อชุ เชนี
๘. พระอบุ าลี เป็นบตุ รของใคร ? ๓๓. ขอ้ ใด เป็นอปุ นสิ ยั ของธรรมกิ อบุ าสก ?
ก. ช่างยอ้ มผา้ ข. ช่างตดั ผม ค. ช่างเยบ็ ผา้ ง. ช่างทอง ก. ใหท้ าน ข. รกั ษาศีล ค. ฟงั ธรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๙. พระเถระใด เคยดาํ รงตาํ แหน่งนายภษู ามาลาของเจา้ ศากยะ ? ๓๔. หลงั ถงึ แก่กรรม ธรรมกิ อบุ าสกไปเกดิ ในสวรรคช์ น้ั ใด ?
ก. พระฉนั นะ ข. พระอานนท์ ค. พระอบุ าลี ง. พระกาฬทุ ายี ก. ดาวดงึ ส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นิมมานรดี
๑๐. พระมารดาของพระสวิ ลี มพี ระนามวา่ อะไร ? ๓๕. พระสูตรใด ทธ่ี รรมกิ อบุ าสกฟงั จากภกิ ษุทง้ั หลาย ?
ก. ปมติ า ข. อมติ า ค. สปุ ปวาสา ง. รูปนนั ทา ก. สตปิ ฏั ฐานสูตร ข. มงคลสูตร ค. รตนสูตร ง. เมตตสูตร
๑๑. พระเถระใด อยู่ในครรภพ์ ระมารดาถงึ ๗ ปี ๗ เดอื น ๗ วนั ? ๓๖. พระนางมลั ลกิ าเทวี เป็นธดิ าของใคร ?
ก. พระอานนท์ ข. พระกาฬทุ ายี ค. พระอบุ าลี ง. พระสวิ ลี ก. ช่างตดั ผม ข. ช่างทอง ค. ช่างทาํ ดอกไม้ ง. ช่างยอ้ มผา้
๑๒. พระสวิ ลเี รยี นกรรมฐานเบ้อื งตน้ จากพระเถระใด ? ๓๗. แควน้ ใด เป็นทอ่ี าศยั อยู่ของพระนางมลั ลกิ าเทวี ?
ก. พระสารีบตุ ร ข. พระอานนท์ ค. พระอบุ าลี ง. พระนนั ทะ ก. สกั กะ ข. มคธ ค. กาสี ง. โกศล
๑๓. พระสวิ ลี ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ? ๓๘. พระเทวใี ด เป็นอคั รมเหสขี องพระเจา้ ปเสนทโิ กศล ?
ก. ทรงวนิ ยั ข. มีลาภ ค. มกั นอ้ ย ง. ทรงธุดงค์ ก. สุมนา ข. มลั ลกิ า ค. สุปปวาสา ง. ปมติ า
๑๔. พระมหากจั จายนะ เกดิ ทเ่ี มอื งใด ? ๓๙. พระเทวใี ด ทรงแนะนาํ ใหพ้ ระเจา้ ปเสนทโิ กศลเลกิ พธิ บี ูชายญั ?
ก. ไพสาลี ข. สาวตั ถี ค. พาราณสี ง. อชุ เชนี ก. มลั ลกิ า ข. สุมนา ค. สปุ ปวาสา ง. ปมติ า
๑๕. พระมหากจั จายนะ เคยรบั ราชการในตาํ แหน่งใด ? ๔๐. พระนางมลั ลกิ าเทวี ทรงแนะนาํ พระสวามใี หถ้ วายทานใด ?
ก. ปโุ รหติ ข. อาํ มาตย์ ค. อปุ ราช ง. ราชทูต ก. ธรรมทาน ข. อสทสิ ทาน ค. ปาฏบิ คุ ลกิ ทาน ง. อภยั ทาน
๑๖. พระเถระใด ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในการอธบิ ายความย่อใหพ้ สิ ดาร ? ๔๑. ในวนั เขา้ พรรษา พทุ ธศาสนกิ ชนนยิ มบาํ เพญ็ กศุ ลใด ?
ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระอานนท์ ค. พระราหลุ ง. พระมหากจั จายนะ ก. ตกั บาตร ข. รกั ษาศีล ค. ฟงั ธรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๗. พระนางเขมา เป็นราชธดิ าของกษตั รยิ ผ์ ูค้ รองนครใด ? ๔๒. พระพทุ ธเจา้ ทรงบญั ญตั ใิ หพ้ ระภกิ ษุสงฆเ์ ขา้ จาํ พรรษา ในฤดูใด ?
ก. สาคละ ข. วงั สะ ค. สกั กะ ง. เทวทหะ ก. ฤดูรอ้ น ข. ฤดูหนาว ค. ฤดูฝน ง. ฤดูแลง้
๑๘. พระนางเขมา ไดอ้ ภเิ ษกสมรสกบั กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๔๓. วนั ปวารณา ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ปเสนทโิ กศล ข. พมิ พสิ าร ค. อเุ ทน ง. จณั ฑปชั โชต ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. ธรรมสวนะ ง. เทโวโรหณะ
๑๙. สตรใี ด บรรลพุ ระอรหตั ในขณะเป็นคฤหสั ถ์ ? ๔๔. ธรรมสวนะ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อบุ ลวรรณา ข. เขมา ค. ปฏาจารา ง. กสี าโคตมี ก. ฟังธรรม ข. ถวายทาน ค. รกั ษาศีล ง. เจรญิ ภาวนา
๒๐. พระนางเขมาบรรลพุ ระอรหตั ในอริ ยิ าบถใด ? ๔๕. การเจรญิ พระพทุ ธมนต์ มมี าตง้ั แต่สมยั ใด ?
ก. ยนื ข. เดนิ ค. นงั่ ง. นอน ก. ก่อนพทุ ธกาล ข. พทุ ธกาล ค. หลงั พทุ ธกาล ง. ปจั จบุ นั กาล
๒๑. พระเถรใี ด ไดร้ บั ยกย่องว่ามปี ญั ญามาก ? ๔๖. พระสูตรใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ใหพ้ ระอานนทส์ วดในเมอื งไพสาลี ?
ก. กสี าโคตมี ข. อบุ ลวรรณา ค. เขมา ง. ปฏาจารา ก. มงคลสูตร ข. รตนสูตร ค. เมตตสูตร ง. วมั มกิ สูตร
๒๒. พระอบุ ลวรรณาเถรี เกดิ ทเ่ี มอื งใด ? ๔๗. สตั ตมวาร คอื การบาํ เพญ็ กศุ ลแก่ผูต้ ายครบกาํ หนดก่วี นั ?
ก. พาราณสี ข. สาวตั ถี ค. โกสมั พี ง. อชุ เชนี ก. ๗ วนั ข. ๕๐ วนั ค. ๑๐๐ วนั ง. ๑ ปี
๒๓. พระเถรใี ด เป็นอคั รสาวกิ าเบ้อื งซา้ ย ? ๔๘. เทศกาลลอยกระทง ตรงกบั วนั เพญ็ เดอื นใด ?
ก. อบุ ลวรรณา ข. เขมา ค. ปฏาจารา ง. รูปนนั ทา ก. เดอื น ๓ ข. เดอื น ๖ ค. เดอื น ๘ ง. เดือน ๑๒
๒๔. พระอบุ ลวรรณาเถรี ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ? ๔๙. การทอดกฐนิ จดั เป็นทานประเภทใด ?
ก. มลี าภ ข. มฤี ทธ์ิ ค. มปี ญั ญา ง. มคี วามเพยี ร ก. กาลทาน ข. อาคนั ตกุ ทาน ค. ปาฏบิ คุ ลกิ ทาน ง. วหิ ารทาน
๒๕. สตรใี ด เสยี สตเิ พราะสูญเสยี คนในครอบครวั ? ๕๐. ผูจ้ ะบวชเป็นพระภกิ ษุ ตอ้ งมอี ายคุ รบกป่ี ีบรบิ รู ณ์ ?
ก. อบุ ลวรรณา ข. เขมา ค. ปฏาจารา ง. กสี าโคตมี ก. ๑๗ ปี ข. ๑๘ ปี ค. ๑๙ ปี ง. ๒๐ ปี
เฉลยปญั หาวชิ าอโุ บสถศีล (วนิ ยั ) ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั มธั ยมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. อโุ บสถศีล บญั ญตั ขิ ้นึ สาํ หรบั ใคร ? ๒๖. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ใหง้ ดเวน้ เร่อื งใด ?
ก. ภกิ ษุ ข. ภกิ ษุณี ค. คนทวั่ ไป ง. อบุ าสก อบุ าสกิ า ก. ฆ่าสตั ว์ ข. กนิ อาหารคาํ่ ค. รอ้ งเพลง ง. ลกั ทรพั ย์
๒. กริ ยิ าเช่นไร เรยี กวา่ รกั ษาอโุ บสถศีล ? ๒๗. คาํ สงั่ ใด เป็นการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศลี ขอ้ ท่ี ๒ ?
ก. ถอื ศีลกนิ เจ ข. ปิดวาจาไม่สนทนา ค. งดเวน้ ขอ้ หา้ ม ง. งดเหลา้ เขา้ พรรษา ก. สงั่ ใหพ้ ูดปด ข. สงั่ ใหล้ กั ขโมย ค. สงั่ ใหท้ าํ รา้ ย ง. สงั่ ใหฆ้ ่า
๓. การถอื อโุ บสถนอกพทุ ธกาล เนน้ วธิ รี กั ษาในเรอ่ื งใด ? ๒๘. ขอ้ ใด ทาํ ใหก้ ารรกั ษาอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ ขาด ?
ก. อดอาหาร ข. ถอื สรณคมน์ ค. ถอื ศีล ๘ ง. รกั ษาตามกาล ก. สตั วต์ าย ข. แต่งกายสวยงาม ค. กลนื อาหารลงคอ ง. ลกั ของมาได้
๔. ขอ้ ใด ไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั อโุ บสถนอกพทุ ธกาล ? ๒๙. ขอ้ ใด เป็นโทษจากการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ ?
ก. งดอาหาร ข. บาํ เพญ็ ตบะ ค. สรณคมน์ ง. ถอื ตามกาล ก. อายุสน้ั ข. สุขภาพไมแ่ ขง็ แรง ค. เสอ่ื มทรพั ย์ ง. เกดิ โรคภยั
๕. อโุ บสถในพระพทุ ธศาสนา ทรงบญั ญตั ไิ วก้ ่สี กิ ขาบท ? ๓๐. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ สอนใหเ้หน็ ความสาํ คญั เร่อื งใด ?
ก. ๕ สกิ ขาบท ข. ๘ สกิ ขาบท ค. ๑๐ สกิ ขาบท ง. ๑๒ สกิ ขาบท ก. ทรพั ยส์ นิ ข. ชวี ติ ค. ความอดทน ง. ความซอ่ื สตั ย์
๖. ขอ้ ใด กลา่ วถงึ อโุ บสถศีลไดถ้ กู ตอ้ ง ? ๓๑. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ใหง้ ดเวน้ เรอ่ื งใด ?
ก. กนิ มงั สวริ ตั ิ ข. ไม่กนิ เน้ือสตั วใ์ หญ่ ค. งดอาหารเยน็ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เสพกาม ข. เตน้ ราํ ค. รอ้ งเพลง ง. แต่งตวั
๗. อโุ บสถประเภทใด คนนิยมสมาทานรกั ษาในวนั พระ ? ๓๒. ขอ้ ใด ทาํ ใหก้ ารรกั ษาอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ ขาด ?
ก. ปฏชิ าครอโุ บสถ ข. ปกตอิ โุ บสถ ค. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. คนอน่ื เขา้ ใจคาํ พดู ข. สตั วต์ าย ค. ยนิ ดใี นการเสพ ง. ลกั ของมาได้
๘. อโุ บสถประเภทใด กาํ หนดใหร้ กั ษาวนั หน่งึ คนื หน่งึ ? ๓๓. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ มงุ่ ใหค้ นละกเิ ลสใด ?
ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ง. นพิ ทั ธอโุ บสถ ก. มานะ ข. ราคะ ค. โทสะ ง. ทฏิ ฐิ
๙. อโุ บสถประเภทใด กาํ หนดใหร้ กั ษาคราวละ ๓ วนั ? ๓๔. อสทั ธรรมอนั เป็นขา้ ศึกแก่พรหมจรรย์ คอื ขอ้ ใด ?
ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. นิพทั ธอโุ บสถ ก. ร่วมประเวณี ข. ความตาย ค. ความแก่ ง. ความพลดั พราก
๑๐. นิพทั ธอโุ บสถ มชี อ่ื เรยี กอกี อย่างหน่งึ ว่าอะไร ? ๓๕. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๔ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ใหง้ ดเวน้ เรอ่ื งใด ?
ก. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ข. โคปาลกอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. นคิ คณั ฐอโุ บสถ ก. ฆ่าสตั ว์ ข. อาหารเยน็ ค. กลา่ วเทจ็ ง. ลกั ทรพั ย์
๑๑. อโุ บสถประเภทใด กาํ หนดใหร้ กั ษาไดย้ าวนานถงึ ๔ เดอื น ? ๓๖. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๔ สอนใหเ้หน็ ความสาํ คญั เรอ่ื งใด ?
ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. ปาฏหิ าริยอโุ บสถ ค. ปกตอิ โุ บสถ ง. อรยิ อโุ บสถ ก. ความซ่ือสตั ย์ ข. ความอดทน ค. ชวี ติ ง. ทรพั ยส์ นิ
๑๒. คาํ วา่ ธมมฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ กลา่ วถงึ พระรตั นตรยั ใด ? ๓๗. ขอ้ ใด เป็นโทษจากการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๔ ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เสยี โฉม ข. เสยี ทรพั ย์ ค. ขาดความเช่ือถอื ง. ก่อศตั รู
๑๓. คาํ ว่า พทุ ธะ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๘. ผูร้ กั ษาอโุ บสถศีล ไม่ควรกลา่ ววาจาเช่นไร ?
ก. ผูร้ ูแ้ จง้ โลก ข. ผูอ้ ดทน ค. ผูส้ ้นิ กเิ ลส ง. ผูต้ รสั รู้ ก. ตฉิ ิน ข. นินทา ค. วา่ รา้ ย ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๔. ขอ้ ใด ไม่ใช่สาเหตขุ องการขาดสรณคมน์ ? ๓๙. ขอ้ ใด ผูร้ กั ษาศีล ๕ และอโุ บสถศีลงดเวน้ เหมอื นกนั ?
ก. ความตาย ข. ทาํ รา้ ยพระศาสดา ค. ความเมา ง. นบั ถอื ศาสดาอน่ื ก. งดแต่งตวั ข. งดรอ้ งเพลง ค. งดเตน้ ราํ ง. งดด่มื สรุ า
๑๕. คาํ ว่า สรณะ หมายถงึ อะไร ? ๔๐. ขอ้ ใด ทาํ ใหอ้ โุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๕ ขาด ?
ก. ไตรลกั ษณ์ ข. ไตรรตั น์ ค. ไตรสกิ ขา ง. ไตรมาส ก. ด่ืมสรุ า ข. ทาํ ใหส้ ตั วต์ าย ค. เสพกาม ง. ลกั ทรพั ย์
๑๖. ขอ้ ใด ไม่มโี ทษเพราะขาดสรณคมน์ ? ๔๑. ผูส้ มาทานรกั ษาอโุ บสถศีล ตอ้ งงดเคร่อื งดม่ื ประเภทใด ?
ก. ตาย ข. ทาํ รา้ ยพระศาสดา ค. นบั ถอื ศาสดาอน่ื ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. นาํ้ ชา ข. กาแฟ ค. สรุ า ง. นาํ้ ออ้ ย
๑๗. คาํ ว่า รกั ษาผูป้ ฏบิ ตั ไิ มใ่ หต้ กไปสูท่ ช่ี วั่ เป็นคุณพระรตั นตรยั ใด ? ๔๒. คาํ ว่า วกิ าล ในอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๖ หมายถงึ เวลาใด ?
ก. พระพทุ ธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ไมม่ ขี อ้ ถกู ก. เชา้ ข. สาย ค. ก่อนเทย่ี งวนั ง. หลงั เทย่ี งวนั ไปแลว้
๑๘. คาํ ว่า สามจี ปิ ฏปิ นโฺ น ภควโต สาวกสงฺโฆ กลา่ วเพอ่ื ระลกึ ถงึ พระรตั นตรยั ใด ? ๔๓. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๖ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ใหง้ ดเวน้ เร่อื งใด ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เสพกาม ข. อาหารเยน็ ค. รอ้ งเพลง ง. เตน้ ราํ
๑๙. การตเิ ตยี นพระรตั นตรยั ทาํ ใหไ้ ตรสรณคมนเ์ ป็นอย่างไร ? ๔๔. ผูร้ กั ษาอโุ บสถศีล ควรบรโิ ภคอาหารในช่วงเวลาใด ?
ก. บกพร่อง ข. เศรา้ หมอง ค. ด่างพรอ้ ย ง. ขาดลงทนั ที ก. เชา้ ถงึ เท่ยี ง ข. หลงั เทย่ี ง ค. บ่ายถงึ เยน็ ง. กลางคนื
๒๐. การขาดสรณคมน์ ย่อมไมเ่ กดิ ข้นึ ในบคุ คลประเภทใด ? ๔๕. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๗ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ตดั กงั วลในเร่อื งใด ?
ก. พระโสดาบนั ข. อบุ าสก ค. อบุ าสกิ า ง. บคุ คลทวั่ ไป ก. การบรโิ ภค ข. การแตง่ ตวั ค. การนงั่ นอน ง. การสนทนา
๒๑. คาํ ว่า ปาณะ ในปาณาตบิ าตนนั้ หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๔๖. ขอ้ ใด เป็นโทษจากการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๗ ?
ก. สตั วม์ ชี ีวติ ข. สตั วไ์ ม่มชี วี ติ ค. อสรุ กาย ง. เปรต ก. ก่อศตั รู ข. เสยี ทรพั ย์ ค. อายุสนั้ ง. ทาํ ใหย้ นิ ดใี นกามคณุ
๒๒. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ใหง้ ดเวน้ เร่อื งใด ? ๔๗. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๘ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ตดั กงั วลในเร่อื งใด ?
ก. ฆา่ สตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. เสพกาม ง. ดม่ื สุรา ก. การบรโิ ภค ข. การแต่งตวั ค. การนงั่ นอน ง. การสนทนา
๒๓. ขอ้ ใด ทาํ ใหก้ ารรกั ษาอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ ขาด ? ๔๘. อโุ บสถใด เปรยี บไดก้ บั การรกั ษาอโุ บสถของนกั บวชนอกพระพทุ ธศาสนา ?
ก. สตั วต์ าย ข. ลกั ของมาได้ ค. ยนิ ดใี นการเสพ ง. คนอน่ื เขา้ ใจคาํ พูด ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. นิคคณั ฐอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. นพิ ทั ธอโุ บสถ
๒๔. คาํ สงั่ ใด เป็นองคป์ ระกอบการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ ? ๔๙. อโุ บสถประเภทใด ผูส้ มาทานรกั ษาไดร้ บั อานิสงสม์ ากทส่ี ดุ ?
ก. สงั่ ใหพ้ ูดปด ข. สงั่ ใหล้ กั ค. สงั่ ใหป้ ลน้ ง. สงั่ ใหฆ้ า่ ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. นคิ คณั ฐอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. ปฏชิ าครอโุ บสถ
๒๕. ขอ้ ใด เป็นโทษจากการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ ? ๕๐. อโุ บสถศีลประเภทใด มอี าการเหมอื นคนรบั จา้ งเล้ยี งโค ?
ก. อายสุ น้ั ข. เสยี ทรพั ย์ ค. เสยี สติ ง. ขาดความเชอ่ื ถอื ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. ปกตอิ โุ บสถ ง. นิพทั ธอโุ บสถ
เฉลยปญั หาวชิ าธรรมวิจารณ์ ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั มธั ยมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พทุ ธพจนว์ ่า จติ เฺ ต อสงฺกลิ ฏิ เฐ สุคติ ปาฏกิ งขฺ า ยนื ยนั เร่อื งใด ? ๒๖. ขอ้ ใด เป็นอารมณข์ องสมถกมั มฏั ฐานตามนยั พระบาลี ?
ก. ตายแลว้ เกดิ ข. ตายแลว้ สูญ ค. ตายแลว้ ฟ้ืน ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. สตปิ ฏั ฐาน ข. กสณิ ค. อสภุ ะ ง. อนุสสติ
๒. การเวยี นวา่ ยตายเกดิ ของสตั วท์ งั้ หลาย เรยี กวา่ อะไร ? ๒๗. ผูท้ ป่ี ระมาทในวยั วา่ ยงั หนุ่มสาว ควรพจิ ารณาเรอ่ื งใดบอ่ ยๆ ?
ก. ภมู ิ ข. สงั สารวฏั ฏ์ ค. คติ ง. ภพ ก. ความแก่ ข. ความเจบ็ ค. ความตาย ง. ความพลดั พราก
๓. ภูมเิ ป็นทไ่ี ปเบ้อื งหนา้ หลงั ความตาย มคี าํ เรยี กวา่ อะไร ? ๒๘. ผูท้ ป่ี ระมาทในชวี ติ ควรพจิ ารณาเรอ่ื งใดบ่อยๆ ?
ก. คติ ข. ภพ ค. ปรโลก ง. อบาย ก. ความแก่ ข. ความเจบ็ ค. ความตาย ง. ความพลดั พราก
๔. วมิ านของพวกเวมานิกเปรต อยู่ในทคุ ตใิ ด ? ๒๙. กาํ หนดพจิ ารณาเรอ่ื งใด ไม่จดั เป็นกายานุปสั สนาสตปิ ฏั ฐาน ?
ก. อบาย ข. ทคุ ติ ค. วนิ ิบาต ง. นิรยะ ก. ลมหายใจ ข. อริ ยิ าบถ ค. ธาตุ ๔ ง. ความรูส้ กึ
๕. ในเทวทูตสูตร ขอ้ ใดไมจ่ ดั เป็นเทวทูต ? ๓๐. กาํ หนดพจิ ารณาอะไร จดั เป็นจติ ตานุปสั สนาสตปิ ฏั ฐาน ?
ก. เดก็ แรกคลอด ข. คนเจบ็ ค. คนชรา ง. นกั บวช ก. สุข ข. ทกุ ข์ ค. กศุ ล ง. จติ
๖. ใครทาํ หนา้ ทล่ี งโทษสตั วน์ รก ? ๓๑. โลหติ กสณิ หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. นายนิรยบาล ข. พญายมราช ค. เทวราช ง. จตโุ ลกบาล ก. กสณิ สเี ขยี ว ข. กสณิ สแี ดง ค. กสณิ สขี าว ง. กสณิ สเี หลอื ง
๗. เทวทูตเป็นสญั ญานเตอื นมนุษยใ์ หต้ ระหนกั ในเรอ่ื งใด ? ๓๒. วธิ เี จรญิ กสณิ ตอ้ งเจรญิ ดว้ ยอาการอย่างไร ?
ก. ความไม่โกรธ ข. ความไม่ประมาท ค. ความไม่โลภ ง. ความกลวั ก. เพง่ ข. พจิ ารณา ค. รกั ษา ง. คมุ้ ครอง
๘. ภูมเิ ป็นทไ่ี ปเกดิ ของผูป้ ระกอบกศุ ลกรรม โดยรวมเรยี กวา่ อะไร ? ๓๓. พจิ ารณาอะไรเป็นอารมณ์ จดั เป็นอสุภกมั มฏั ฐาน ?
ก. สคุ ติ ข. พรหมโลก ค. มนุษยโลก ง. เทวโลก ก. ผวิ หนงั ข. ร่างกาย ค. ซากศพ ง. อาหารบดู
๙. เทพองคใ์ ด ปกครองสวรรคช์ น้ั ดาวดงึ ส์ ? ๓๔. นมิ ติ ใด ปรากฏแก่ผูป้ ฏบิ ตั กิ ่อนจะบรรลอุ ปั ปนาสมาธิ ?
ก. ทา้ วกเุ วร ข. ทา้ ววริ ูปกั ษ์ ค. ทา้ วธตรฐ ง. ทา้ วสกั กะ ก. กรรมนิมติ ข. บรกิ รรมนมิ ติ ค. อคุ คหนมิ ติ ง. ปฏภิ าคนิมติ
๑๐. พระอรยิ บคุ คลใด ละสงั ขารแลว้ ไปเกดิ ในพรหมโลกชนั้ สุทธาวาส ? ๓๕. กาํ หนดพจิ ารณาคุณธรรมคอื การเผอ่ื แผ่ จดั เป็นอนุสสตใิ ด ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์ ก. ธมั มานุสสติ ข. สลี านุสสติ ค. จาคานุสสติ ง. มรณสั สติ
๑๑. กรรมทนั ตาเหน็ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๖. การกาํ หนดลมหายใจเป็นอนุสสตใิ ด ?
ก. ทฏิ ฐธรรมเวทนียกรรม ข. อโหสกิ รรม ค. พหลุ กรรม ง. อาสนั นกรรม ก. เทวตานุสสติ ข. อปุ สมานุสสติ ค. กายคตาสติ ง. อานาปานสั สติ
๑๒. อปราปรเวทนยี กรรม ใหผ้ ลเปรยี บเสมอื นอะไร ? ๓๗. พรหมวหิ ารขอ้ ใด เป็นขา้ ศึกแก่โทสะและพยาบาทโดยตรง ?
ก. พรานลา่ สตั ว์ ข. สนุ ขั ลา่ เน้ือ ค. เงาตามตวั ง. คนเล้ยี งโค ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา
๑๓. การกระทาํ ในขอ้ ใด ชะลอการใหผ้ ลของกรรมชวั่ ? ๓๘. พรหมวหิ ารขอ้ ใด สามารถทาํ ใหผ้ ูเ้จรญิ บรรลฌุ านขนั้ สูงสดุ ได้ ?
ก. รดนาํ้ มนต์ ข. สะเดาะเคราะห์ ค. ต่อชะตา ง. ทาํ ความดีตอ่ เน่ือง ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา
๑๔. ชนกกรรรม ทาํ หนา้ ทอ่ี ะไร ? ๓๙. การพจิ ารณาอาหารโดยอาการใด ไม่เป็นอาหาเรปฏกิ ูลสญั ญา ?
ก. แตง่ ใหเ้ กดิ ข. สนบั สนุน ค. บบี คน้ั ง. ตดั รอน ก. การแสวงหา ข. การบรโิ ภค ค. การขบั ถ่าย ง. การปรงุ
๑๕. ผูป้ ระสบอบุ ตั เิ หตตุ ายก่อนวยั อนั ควร เพราะกรรมใดใหผ้ ล ? ๔๐. ร่างกายบคุ คลเคลอ่ื นไหวไดเ้พราะอาศยั ธาตใุ ด ?
ก. ชนกกรรม ข. ครกุ รรม ค. อปุ ฆาตกกรรม ง. กตตั ตากรรม ก. ธาตดุ นิ ข. ธาตนุ าํ้ ค. ธาตไุ ฟ ง. ธาตลุ ม
๑๖. กรรมใด ใหผ้ ลก่อนส้นิ ใจ ? ๔๑. เนวสญั ญานาวสญั ญายาตนะ ใชค้ าํ บรกิ รรมวา่ อย่างไร ?
ก. ครุกรรม ข. พหลุ กรรม ค. อาสนั นกรรม ง. กตตั ตากรรม ก. อนนฺโต ข. อนนฺตํ ค. นตถฺ ิ กญิ จิ ง. สนฺตเมตํ ปณีตเมตํ
๑๗. หวั ใจสมถกมั มฏั ฐาน มกี ่ปี ระการ ? ๔๒. คนรกั สวยรกั งาม นยิ มสนิ คา้ ราคาแพง จดั เป็นคนจรติ ใด ?
ก. ๔ ประการ ข. ๕ ประการ ค. ๖ ประการ ง. ๗ ประการ ก. ราคจริต ข. โทสจรติ ค. โมหจรติ ง. สทั ธาจรติ
๑๘. เหน็ อาการ ๓๒ อย่างไร จงึ จะเป็นกมั มฏั ฐาน ? ๔๓. คนจรติ ดงั กลา่ วในขอ้ ๔๒ ควรเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. สวยงาม ข. ปฏกิ ูล ค. น่ากลวั ง. น่ารกั ก. อปุ สมานุสสติ ข. กายคตาสติ ค. มรณสั สติ ง. นลี กสณิ
๑๙. การเจรญิ กายคตาสติ แกน้ ิวรณใ์ ด ? ๔๔. คนเชอ่ื งา่ ย จดั เป็นคนจรติ ใด ?
ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท ค. ถนี มทิ ธะ ง. วจิ กิ จิ ฉา ก. ราคจรติ ข. โทสจรติ ค. สทั ธาจริต ง. วติ กจรติ
๒๐. หลบั เป็นสขุ ตน่ื เป็นสุข เป็นอานิสงสข์ องการเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ? ๔๕. คนจรติ ดงั กลา่ วในขอ้ ๔๔ ควรเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. พทุ ธานุสสติ ง. กสณิ ก. พทุ ธานุสสติ ข. อปุ สมานุสสติ ค. มรณสั สติ ง. อานาปานสั สติ
๒๑. ขอ้ ใด เป็นคาํ บรกิ รรมของผูเ้จรญิ พทุ ธานุสสติ ? ๔๖. ผูไ้ กลจากกเิ ลส เป็นความหมายของพทุ ธคณุ บทใด ?
ก. พทุ โธ ข. ธมั โม ค. สงั โฆ ง. ยุบหนอ พองหนอ ก. อรหํ ข. สมมฺ าสมพฺ ทุ โธ ค. วชิ ชาจรณสมปฺ นฺโน ง. สคุ โต
๒๒. การเจรญิ พทุ ธานุสสติ แกน้ วิ รณใ์ ด ? ๔๗. ญาณใด จดั เขา้ ในพทุ ธคุณบทวา่ วชิ ฺชาจรณสมปฺ นฺโน ?
ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท ค. ถนี มทิ ธะ ง. วจิ กิ จิ ฉา ก. วปิ สั สนาญาณ ข. จุตูปปาตญาณ ค. เจโตปรยิ ญาณ ง. ทพิ พโสต
๒๓. สใี ด ไมจ่ ดั เป็นกสณิ ? ๔๘. พทุ ธคณุ บทใด ยนื ยนั ว่าพระพทุ ธเจา้ ทรงเป็นพระบรมครู ?
ก. สเี หลอื ง ข. สแี ดง ค. สขี าว ง. สดี าํ ก. อนุตตฺ โร ปรุ สิ ทมมฺ สารถิ ข. สตถฺ า เทวมนุสสฺ านํ ค. พทุ โฺ ธ ง. ภควา
๒๔. การเจรญิ กสณิ แกน้ วิ รณใ์ ด ? ๔๙. พทุ ธคณุ บทใด จดั เขา้ ในพระปญั ญาคุณและพระมหากรณุ าคุณ ?
ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท ค. ถนี มทิ ธะ ง. อทุ ธจั จกกุ กจุ จะ ก. อรหํ ข. สุคโต ค. โลกวทิ ู ง. พทุ โฺ ธ ภควา
๒๕. จตธุ าตวุ วตั ถาน เป็นการพจิ ารณาร่างกายโดยอาการอย่างไร ? ๕๐. พทุ ธคณุ บทใด เป็นคณุ ประโยชนแ์ ก่ผูอ้ น่ื ?
ก.เป็นของสวยงาม ข.เป็นสง่ิ ปฏกิ ูล ค. เป็นสง่ิ น่ากลวั ง. เป็นเพยี งธาตุ ๔ ก. อรหํ ข. สุคโต ค. โลกวทิ ู ง. สตถฺ า เทวมนุสฺสานํ
เฉลยปญั หาวชิ าพทุ ธานุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั มธั ยมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พระเวสสนั ดรหลงั ทวิ งคต เสดจ็ อบุ ตั ทิ ส่ี วรรคช์ นั้ ใด ? ๒๖. ใครไดพ้ บพระอสั สชขิ ณะบณิ ฑบาตในเมอื งราชคฤห์ ?
ก. ดาวดงึ ส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นมิ มานรดี ก. อปุ ตสิ สะ ข. โกลติ ะ ค. สญั ชยั ง. มกั ขลิ
๒. เหตทุ ท่ี าํ ใหเ้ทวดาจตุ จิ ากเทวโลก มกี ่อี ย่าง ? ๒๗. พระเถระใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ อปุ มาเหมอื นมารดาผูใ้ หก้ าํ เนดิ บตุ ร ?
ก. ๔ อย่าง ข. ๕ อยา่ ง ค. ๖ อย่าง ง. ๗ อย่าง ก. พระยสะ ข. พระสารีบตุ ร ค. พระโมคคลั ลานะ ง. พระมหากสั สปะ
๓. กบลิ พสั ดุ์ เป็นเมอื งหลวงของแควน้ ใด ? ๒๘. โกลติ ปรพิ าชกเมอ่ื บวชในพระพทุ ธศาสนา ปรากฏชอ่ื วา่ อะไร ?
ก. สกั กะ ข. โกลยิ ะ ค. ภคั คะ ง. วเิ ทหะ ก. พระโกณฑญั ญะ ข. พระอสั สชิ ค. พระสารบี ตุ ร ง. พระโมคคลั ลานะ
๔. พระเจา้ สุทโธทนะ ทรงอภเิ ษกสมรสกบั พระนางใด ? ๒๙. พระโมคคลั ลานะดบั ขนั ธนิพพานหลงั พระสารบี ตุ ร กว่ี นั ?
ก. ปมติ า ข. อมติ า ค. มายา ง. ยโสธรา ก. ๑๓ วนั ข. ๑๔ วนั ค. ๑๕ วนั ง. ๑๖ วนั
๕. พระโพธสิ ตั วป์ ระกอบดว้ ยมหาปรุ สิ ลกั ษณะ กอ่ี ย่าง ? ๓๐. มาณพใด ทูลถามว่า “ โลกคอื หมสู่ ตั ว์ อนั อะไรปิดบงั ไว้ ..... ” ?
ก. ๓๒ อยา่ ง ข. ๓๔ อย่าง ค. ๓๖ อย่าง ง. ๓๘ อย่าง ก. อชิตะ ข. เมตเตยยะ ค. ปณุ ณกะ ง. เมตตคู
๖. บคุ คลใด เป็นสหชาตกิ บั พระโพธสิ ตั ว์ ? ๓๑. พระเถระใด บวชใหร้ าธพราหมณ์ ?
ก. กาฬทุ ายี ข. นนั ทะ ค. อนุรทุ ธะ ง. อบุ าลี ก. พระโกณฑญั ญะ ข. พระอสั สชิ ค. พระสารีบตุ ร ง. พระโมคคลั ลานะ
๗. สทิ ธตั ถราชกมุ าร ไดร้ บั การถวายพระนามอกี อย่างว่าอะไร ? ๓๒. พระพทุ ธเจา้ ทรงสรรเสรญิ พระราธะ วา่ เป็นแบบอย่างของภกิ ษุในเรอ่ื งใด ?
ก. ทปี งั กร ข. ชนิ สหี ์ ค. องั ครี ส ง. เมตไตย ก. วา่ งา่ ย ข. เล้ยี งงา่ ย ค. ขยนั ง. สนั โดษ
๘. ราชกมุ ารใด เป็นพระอนุชาต่างพระมารดาของเจา้ ชายสทิ ธตั ถะ ? ๓๓. นางพราหมณีใด เป็นมารดาของพระปณุ ณมนั ตานีบตุ ร ?
ก. เทวทตั ข. อชาตศตั รู ค. อานนท์ ง. นนั ทะ ก. สารี ข. โมคคลั ลี ค. มนั ตานี ง. โกสยิ า
๙. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะทรงอภเิ ษกสมรส เมอ่ื พระชนมายุก่ปี ี ? ๓๔. พระพทุ ธเจา้ ตรสั พระคาถาว่า อฏุ ฺตฏิ ฺเฐ นปปฺ มชฺเชยยฺ ... โปรดใคร ?
ก. ๗ ปี ข. ๑๖ ปี ค. ๒๙ ปี ง. ๓๕ ปี ก. พทุ ธบดิ า ข. พระนางมหาปชาบดโี คตมี ค. พระนางพมิ พา ง. ราหลุ
๑๐. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะเหน็ เทวทตู ใน ๓ วาระแรก ทรงมพี ระทยั เช่นใด ? ๓๕. พระนางใด บรรลโุ สดาบนั เพราะฟงั คาถาวา่ ธมมฺ �ฺจเร สจุ รติ ํ ... ?
ก. เบกิ บาน ข. อยากผนวช ค. เศรา้ สลด ง. หมดหวงั ก. มหาปชาบดโี คตมี ข. พมิ พา ค. กสี าโคตมี ง. รูปนนั ทา
๑๑. ในวนั เสดจ็ ออกผนวช เจา้ ชายสทิ ธตั ถะทรงพาหนะใด ? ๓๖. พระนางพมิ พาฟงั จนั ทกนิ นรชาดกแลว้ เป็นอรยิ บคุ คลชนั้ ใด ?
ก. ราชรถ ข. มา้ กณั ฐกะ ค. มงคลหตั ถี ง. โคอสุ ภะ ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๑๒. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะอธษิ ฐานเพศบรรพชา ทร่ี มิ ฝงั่ แม่นาํ้ ใด ? ๓๗. “ ทา่ นจกั บวชหรอื ” พระพทุ ธเจา้ ตรสั ถามพระกมุ ารใด ?
ก. คงคา ข. เนรญั ชรา ค. อโนมา ง. ยมนุ า ก. อานนท์ ข. อนุรทุ ธะ ค. นนั ทะ ง. ราหลุ
๑๓. พระอมรนิ ทราธริ าชนาํ พระจฬุ าโมลไี ปไว้ ในสวรรคช์ นั้ ใด ? ๓๘. สามเณรใด บวชดว้ ยวธิ รี บั ไตรสรณคมนเ์ ป็นรูปแรก ?
ก. ดาวดึงส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นมิ มานรดี ก. ราหลุ ข. สงั กจิ จะ ค. สุมนะ ง. สุขะ
๑๔. การบาํ เพญ็ เพยี รดว้ ยการทรมานร่างกาย เรยี กวา่ อะไร ? ๓๙. พระเถระใด เตรยี มสถานทถ่ี วายพระเพลงิ พระบรมศพพระพทุ ธบดิ า ?
ก. กาลกริ ยิ า ข. อกาลกริ ยิ า ค. บญุ กริ ยิ า ง. ทกุ รกริ ิยา ก. พระโกณฑญั ญะ ข. พระสารบี ตุ ร ค. พระอสั สชิ ง. พระมหากสั สปะ
๑๕. นางสุชาดาเหน็ พระมหาบรุ ุษ คดิ วา่ เป็นผูใ้ ด ? ๔๐. เศรษฐใี ด ทูลนมิ นตพ์ ระพทุ ธเจา้ ใหเ้สดจ็ ไปเมอื งสาวตั ถี ?
ก. พระพรหม ข. เทวดา ค. ฤษี ง. ดาบส ก. อนาถบณิ ฑกิ ะ ข. เมณฑกะ ค. โฆสกะ ง. ธนญั ชยั
๑๖. อาหารชนิดใด ทน่ี างสุชาดาถวายแก่พระมหาบรุ ุษ ? ๔๑. พระเถระใด จาํ ทรงพระวนิ ยั ปิฎกแมน่ ยาํ จนไดร้ บั การยกย่อง ?
ก. ขา้ วยาคู ข. ขา้ วมธุปายาส ค. ขา้ วปลายเกวยี น ง. ขา้ วสาลี ก. พระกจั จายนะ ข. พระอบุ าลี ค. พระสวิ ลี ง. พระอานนท์
๑๗. พระมหาบรุ ุษอธษิ ฐานว่าถา้ ยงั ไม่ตรสั รูจ้ ะไมล่ กุ ข้นึ ทใ่ี ตต้ น้ ไมใ้ ด ? ๔๒. พระเถระใด มกั เปลง่ อทุ านว่า “ สขุ หนอ สขุ หนอ ” ?
ก. ตน้ สาละ ข. ตน้ โพธ์ิ ค. ตน้ ไทร ง. ตน้ หวา้ ก. พระภทั ทยิ ะ ข. พระอนุรุทธะ ค. พระอานนท์ ง. พระกมิ พลิ ะ
๑๘. สถานทใ่ี ด เป็นทต่ี รสั รูข้ องพระพทุ ธเจา้ ? ๔๓. ผูใ้ ด สมคบกบั อชาตศตั รูราชกมุ ารทาํ อนนั ตรยิ กรรม ?
ก. ลมุ พนิ วี นั ข. พทุ ธคยา ค. สารนาถ ง. กสุ นิ ารา ก. พระเทวทตั ข. พระโกกาลกิ ะ ค. นนั ทมาณพ ง. พระสภุ ทั ทะ
๑๙. ตน้ พระศรมี หาโพธ์ทิ ต่ี รสั รู้ ตง้ั อยู่ใกลแ้ ม่นาํ้ ใด ? ๔๔. สวรรคช์ น้ั ใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ เสดจ็ จาํ พรรษาเพอ่ื โปรดพทุ ธมารดา ?
ก. คงคา ข. ยมนุ า ค. อโนมา ง. เนรญั ชรา ก. ดาวดึงส์ ข. ยามา ค. ดุสติ ง. นมิ มานรดี
๒๐. ดอกบวั ทอ่ี ยู่ในโคลนตม เปรยี บไดก้ บั บคุ คลประเภทใด ? ๔๕. พระพทุ ธมารดาประทบั อยู่ ทส่ี วรรคช์ นั้ ใด ?
ก. อคุ ฆตติ ญั �ู ข. วปิ จติ ญั �ู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ ก. ดาวดงึ ส์ ข. ยามา ค. ดสุ ติ ง. นมิ มานรดี
๒๑. อตั ตกลิ มถานุโยค คอื ทาํ ความเพยี รเพอ่ื ใหต้ นเป็นเช่นใด ? ๔๖. พทุ ธมารดาฟงั พระธรรมเทศนาจบแลว้ เป็นอรยิ บคุ คลชน้ั ใด ?
ก. ผาสุก ข. ลาํ บาก ค. พน้ ทกุ ข์ ง. ปลอ่ ยวาง ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๒๒. พระเถระใด เป็นรูปแรกทบ่ี วชดว้ ยเอหภิ กิ ขอุ ปุ สมั ปทา ? ๔๗. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ลงจากเทวโลก ในวนั ใด ?
ก. พระโกณฑญั ญะ ข. พระวปั ปะ ค. พระภทั ทยิ ะ ง. พระมหานามะ ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. เทโวโรหณะ ง. มาฆบูชา
๒๓. ในอนตั ตลกั ขณสูตร พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงสง่ิ ใดว่าเป็นอนตั ตา ? ๔๘. ภกิ ษุใด ไดร้ บั ทาํ นายว่าจกั เป็นพระพทุ ธเจา้ พระนามวา่ เมตไตย ?
ก. มาร ๕ ข. นวิ รณ์ ๕ ค. เวทนา ๕ ง. ขนั ธ์ ๕ ก. พระอนุรุทธะ ข. พระอานนท์ ค. พระนนั ทะ ง. พระอชิตะ
๒๔. พระอรหนั ตท์ ต่ี ามเสดจ็ พระพทุ ธเจา้ ไปสวนตาลหนุ่ม มกี อ่ี งค์ ? ๔๙. พกร.ะพเถรระะรใาดหลุ ไดร้ บัขย. กพยร่อะงอวา่านเปน็นทผ์ ูเ้ลคศิ .ในพทราะงนปนั รทาระภคงว. าพมรเพะโยี สรณ?โกฬวิิ สิ ะ
ก. ๑,๐๐๑ ข. ๑,๐๐๒ ค. ๑,๐๐๓ ง. ๑,๐๐๔ ๕๐. พระเถรใี ด เป็นปฐมสาวกิ า ?
๒๕. พระเจา้ พมิ พสิ ารเสดจ็ ไปพบพระพทุ ธเจา้ ครง้ั แรก ณ สถานทใ่ี ด ? ก. มหาปชาบดีโคตมี ข. อบุ ลวรรณา ค. ปฏาจารา ง. กสี าโคตมี
ก. สวนตาลหนุ่ม ข. สวนไผ่ ค. สวนเจา้ เชต ง. สวนมะม่วง
เฉลยปญั หาวชิ ากรรมบถ (วนิ ยั ) ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั มธั ยมศึกษา สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่สี ดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี วแลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ขอ้ ใด เป็นคาํ แปลของกรรมบถ ? ๒๖. ขอ้ ใด จดั เป็นอกศุ ลกรรมบถเกดิ ข้นึ ทางใจ ?
ก. ทางทาํ กรรม ข. ผลของกรรม ค. การทาํ กรรม ง. การชดใชก้ รรม ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. ถูกทกุ ขอ้
๒. ขอ้ ใด เป็นความหมายของกศุ ลกรรมบถ ? ๒๗. การเพ่งเลง็ อยากไดข้ องผูอ้ น่ื จดั เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. ทางแหง่ ความดี ข. ทางแห่งกรรม ค. ทางแหง่ อบาย ง. ทางกา้ วหนา้ ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๓. ขอ้ ใด ส่งผลใหไ้ ปเกดิ ในสุคตภิ ูมิ ? ๒๘. คดิ ปองรา้ ยผูอ้ น่ื เรยี กวา่ อะไร ?
ก. อกศุ ลกรรมบถ ข. กศุ ลกรรมบถ ค. อกศุ ลเจตนา ง. อกศุ ลมลู ก. พยาบาท ข. อภชิ ฌา ค. กายกรรม ง. มโนกรรม
๔. การทาํ ความดคี วามชวั่ ของสตั ว์ เกดิ ข้นึ ไดท้ างใด ? ๒๙. ความพยาบาทเกดิ ข้นึ เพราะกเิ ลสใด ?
ก. การกระทาํ ข. คาํ พดู ค. ความคดิ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. โลภะ ข. โทสะ ค. โมหะ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๕. การทาํ ความดคี วามชวั่ ของสตั ว์ จาํ แนกออกเป็นกป่ี ระเภท ? ๓๐. ขอ้ ใด เพยี งแค่คดิ กเ็ ป็นความชวั่ แลว้ ?
ก. ๒ ประเภท ข. ๓ ประเภท ค. ๔ ประเภท ง. ๕ ประเภท ก. อทนิ นาทาน ข. มสุ าวาท ค. ผรสุ วาจา ง. พยาบาท
๖. การละเมดิ ทางเพศ เป็นอกศุ ลกรรมบถประเภทใด ? ๓๑. การเหน็ ผดิ จากคลองธรรม เรียกว่าอะไร ?
ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อภชิ ฌา ข. อนภชิ ฌา ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. มิจฉาทฏิ ฐิ
๗. การพดู โกหก เป็นอกศุ ลกรรมบถประเภทใด ? ๓๒. คนมจิ ฉาทฏิ ฐิ มลี กั ษณะเช่นไร ?
ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ชอบด่า ข. อยากได้ ค. มกั โกรธ ง. เหน็ ผิดเป็นชอบ
๘. การกระทาํ ของสตั วจ์ ะเป็นกรรมดหี รอื กรรมชวั่ ได้ ตอ้ งประกอบดว้ ยอะไร ? ๓๓. ความเหน็ วา่ มอี ตั ตาและโลกเทย่ี งแทย้ งั่ ยนื เรยี กวา่ อะไร ?
ก. อารมณ์ ข. ความรูส้ กึ ค. เหตจุ งู ใจ ง. เจตนา ก. อจุ เฉททฏิ ฐิ ข. อกริ ยิ ทฏิ ฐิ ค. นตั ถกิ ทฏิ ฐิ ง. สสั สตทฏิ ฐิ
๙. ขอ้ ใด เป็นมลู เหตใุ หบ้ คุ คลประพฤตอิ กศุ ลกรรมบถ ? ๓๔. ความเหน็ ว่าบาปบญุ ไม่มจี รงิ เรยี กว่าอะไร ?
ก. ความโลภ ข. ความโกรธ ค. ความหลง ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อจุ เฉททฏิ ฐิ ข. อกริ ยิ ทฏิ ฐิ ค. นตั ถกิ ทฏิ ฐิ ง. สสั สตทฏิ ฐิ
๑๐. เมอ่ื โทสะเกดิ ข้นึ หากระงบั ไม่ได้ จะทาํ ใหค้ นเราทาํ ความผดิ ใด ? ๓๕. กายกรรม ๓ จะสาํ เร็จความเป็นกรรมบถไดเ้พราะอะไร ?
ก. ทาํ รา้ ยกนั ข. ลกั ขโมยกนั ค. นอกใจกนั ง. เชอ่ื เรอ่ื งงมงาย ก. เจตนา ข. อารมณ์ ค. เวทนา ง. มลู เหตุ
๑๑. สงั่ ใหค้ นอน่ื ฆ่า จดั เป็นปาณาตบิ าตเกดิ ข้นึ ทางใด ? ๓๖. ขอ้ ใด ไม่ใช่ธรรมจรยิ สมจรยิ าทางกาย ?
ก. ทางกาย ข. ทางวาจา ค. ทางกายกบั วาจา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เวน้ ฆ่าสตั ว์ ข. เวน้ ลกั ทรพั ย์ ค. เวน้ ทาํ ผดิ ในกาม ง. เวน้ พดู เทจ็
๑๒. ความคดิ ใด เป็นองคป์ ระกอบในการทาํ ความผดิ ปาณาตบิ าต ? ๓๗. เมอ่ื อนภชิ ฌาเกดิ ข้นึ บอ่ ย ๆ เป็นเหตใุ หก้ ระทาํ กศุ ลกรรมบถใด ?
ก. คดิ จะฆ่า ข. คดิ จะลกั ค. คดิ จะเสพ ง. คดิ จะพดู ใหค้ ลาดเคลอ่ื น ก. เวน้ ฆ่าสตั ว์ ข. เวน้ ลกั ทรพั ย์ ค. เวน้ ทาํ ผดิ ในกาม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๓. โทษเบาทส่ี ดุ ในการทาํ ปาณาตบิ าต คอื ขอ้ ใด ? ๓๘. การไมเ่ พง่ เลง็ อยากไดข้ องผูอ้ น่ื เรยี กวา่ อะไร ?
ก. ครอบครวั แตกแยก ข. ขดั สนเงนิ ทอง ค. วกิ ลจรติ ง. อายสุ น้ั ก. อภชิ ฌา ข. อนภชิ ฌา ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. สมั มาทฏิ ฐิ
๑๔. การทจุ รติ เงนิ อาหารกลางวนั เดก็ นกั เรยี น เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ? ๓๙. ขอ้ ใด เป็นธรรมจรยิ สมจรยิ าทางวาจา ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. มสุ าวาท ง. พยาบาท ก. เวน้ ฆ่าสตั ว์ ข. เวน้ ลกั ทรพั ย์ ค. เวน้ พูดสอ่ เสยี ด ง. ไมค่ ดิ รา้ ยผูอ้ น่ื
๑๕. ความละโมบโลภมาก ส่งผลใหค้ นเราทาํ อกศุ ลกรรมบถใด ? ๔๐. เจตนาเป็นเหตใุ หพ้ ูดคาํ หยาบ เรยี กวา่ อะไร ?
ก. อทนิ นาทาน ข. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ค. ผรุสวาจา ง. มสุ าวาท ก. มสุ าวาท ข. ปิสุณวาจา ค. ผรสุ วาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ
๑๖. ผูป้ รารถนาเป็นเศรษฐมี หาเศรษฐี ควรงดเวน้ อกศุ ลกรรมบถใด ? ๔๑. อนภชิ ฌา อพยาบาท สมั มาทฎิ ฐิ เป็นกศุ ลกรรมบถประเภทใด ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสุมจิ ฉาจาร ง. พยาบาท ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๗. พฤตกิ รรมใด เรยี กวา่ กาเมสุมจิ ฉาจาร ? ๔๒. เวรย่อมระงบั ดว้ ยการไมจ่ องเวร เป็นกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. คบชู้ ข. คบเพอ่ื น ค. คบคา้ ง. คบคดิ ก. อภชิ ฌา ข. อนภชิ ฌา ค. พยาบาท ง. อพยาบาท
๑๘. ขอ้ ใด เป็นหญงิ ตอ้ งหา้ มในการทาํ กาเมสมุ จิ ฉาจาร ? ๔๓. อนภชิ ฌา มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. หญงิ มสี ามี ข. หญงิ มญี าตริ กั ษา ค. หญงิ มธี รรมรกั ษา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ไม่โลภอยากได้ ข. ไมพ่ ดู มาก ค. ไมค่ ดิ มาก ง. ไมโ่ กรธมาก
๑๙. สาํ นวนใด มคี วามหมายสอดคลอ้ งกบั กาเมสุมจิ ฉาจาร ? ๔๔. ขอ้ ใด เป็นกรรมบถเกดิ ข้นึ ทางใจอย่างเดยี ว ?
ก. นาํ้ มาปลากนิ มด ข. นาํ้ น่งิ ไหลลกึ ค. จบั ปลาสองมอื ง. นาํ้ ข้นึ ใหร้ บี ตกั ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ง. อพยาบาท
๒๐. พดู อย่างไร เรยี กวา่ พูดส่อเสยี ด ? ๔๕. อนภชิ ฌา ตรงขา้ มกบั อกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. พดู โกหก ข. พดู ยแุ ยงใหแ้ ตกกนั ค. พูดคาํ หยาบ ง. พูดเลน่ ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๑. คาํ พดู เช่นไร เรยี กว่า ผรสุ วาจา ? ๔๖. ความเหน็ ทเ่ี ป็นสมั มาทฏิ ฐิ เกดิ ข้นึ จากกศุ ลมลู ใด ?
ก. ไพเราะเสนาะหู ข. สอ่ เสยี ด ค. โกหก ง. หยาบคาย ก. อโลภะ ข. อโทสะ ค. อโมหะ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๒. ขอ้ ใด ถอื ว่าผูพ้ ดู มเี จตนามงุ่ ทาํ ลายจติ ใจผูฟ้ งั ? ๔๗. ความเหน็ ใด เป็นสมั มาทฏิ ฐิ ?
ก. พดู เทจ็ ข. พดู คาํ หยาบ ค. พดู ส่อเสยี ด ง. พดู เพอ้ เจอ้ ก. บาปบญุ มจี ริง ข. บาปบญุ ไม่มจี รงิ ค. โลกหนา้ ไม่มี ง. ตายแลว้ สูญ
๒๓. คาํ ดดุ ่าเช่นไร ไมถ่ อื เป็นผรุสวาจา ? ๔๘. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการ จดั เขา้ ในอปุ นสิ ยั ขอ้ ใด ?
ก. ดา่ เพราะสงั่ สอน ข. ด่าเพราะเกลยี ด ค. ด่าเพราะโกรธ ง. ด่าเพราะชงั ก. ทานุปนสิ ยั ข. สลี ปุ นิสยั ค. ภาวนุปนิสยั ง. ถูกทกุ ขอ้
๒๔. การกลา่ วถอ้ ยคาํ อนั ไรป้ ระโยชนส์ าํ หรบั ผูฟ้ งั เรยี กว่าอะไร ? ๔๙. อปุ นิสยั ใด ทาํ ความโลภใหเ้บาบางลง ?
ก. มสุ าวาท ข. ปิสุณวาจา ค. ผรุสวาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ ก. ทานุปนิสยั ข. สลี ปุ นิสยั ค. ภาวนุปนสิ ยั ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๕. พดู เอาดใี ส่ตวั เอาชวั่ ใส่ผูอ้ น่ื เพราะไม่งดเวน้ อกศุ ลกรรมบถใด ? ๕๐. ในกรรมบถ ๒ อย่างนนั้ กศุ ลกรรมบถ เรยี กวา่ อะไร ?
ก. มสุ าวาท ข. ปิสณุ วาจา ค. ผรสุ วาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ ก. ทจุ รติ ข. สจุ ริต ค. กศุ ลมลู ง. อกศุ ลมลู
เฉลยปญั หาวชิ าธรรมวิภาค ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พหปุ การธรรม หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๒๖. อนนั ตรยิ กรรม ๕ ใหผ้ ลอย่างไร ?
ก. สตสิ มั ปชญั ญะ ข. หริ โิ อตตปั ปะ ค. ขนั ตโิ สรจั จะ ง. กตญั �ูกตเวที ก. เกดิ เป็นเปรต ข. เกดิ เป็นอสูรกาย ค. ตกนรกอเวจี ง. เกดิ เป็นสตั วเ์ดรจั ฉาน
๒. บคุ คลในขอ้ ใด ควรใชส้ ตสิ มั ปชญั ญะมากทส่ี ดุ ? ๒๗. ขอ้ ใด ไมจ่ ดั เขา้ ในเวสารชั ชกรณธรรม ?
ก. คนขา้ มถนน ข. คนขบั รถ ค. คนซ้อื สลาก ง. คนขายสลาก ก. ศรทั ธา ข. ศีล ค. พาหสุ จั จะ ง. สติ
๓. คาํ วา่ พลง้ั ปากเสยี ศีล พลงั้ ตนี ตกตน้ ไม้ เป็นอาการของคนขาดธรรมใด ? ๒๘. ขอ้ ใด จดั เป็นเวสารชั ชกรณธรรม ?
ก. สติ ข. ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา ก. ปญั ญา ข. ขนั ติ ค. จาคะ ง. สมาธิ
๔. เทวธรรม หมายถงึ ขอ้ ใด ? ๒๙. คุณธรรมใด ทาํ จติ ใหม้ นั่ คงอยู่ในกศุ ลธรรม ?
ก. สตสิ มั ปชญั ญะ ข. หริ โิ อตตปั ปะ ค. ขนั ตโิ สรจั จะ ง. กตญั �ูกตเวที ก. สทั ธา ข. วริ ยิ ะ ค. สติ ง. สมาธิ
๕. หริ โิ อตตปั ปะ คมุ้ ครองโลกไดโ้ ดยวธิ ใี ด ? ๓๐. กายกบั ใจ แบง่ ออกเป็นกอง เรยี กวา่ อะไร ?
ก. คนไม่กลา้ ทาํ ชวั่ ข. ส่งเสรมิ ใหท้ าํ ดี ค. ยกย่องคนทาํ ดี ง. ลงโทษคนทาํ ชวั่ ก. สงั ขาร ข. ขนั ธ์ ค. สญั ญา ง. วญิ ญาณ
๖. อาภรณแ์ ต่งกาย แต่ใจแต่งดว้ ยธรรม หมายถงึ ธรรมขอ้ ใด ? ๓๑. การรูส้ มั ผสั ว่ารอ้ น หนาว เยน็ จดั เป็นอะไรในขนั ธ์ ๕ ?
ก. สตสิ มั ปชญั ญะ ข. หริ โิ อตตปั ปะ ค. ขนั ตโิ สรจั จะ ง. เมตตากรณุ า ก. รูป ข. เวทนา ค. สญั ญา ง. วญิ ญาณ
๗. งามอะไรไมข่ ้นึ อยู่กบั กาลเวลา ? ๓๒. ทาํ อย่างไร ช่อื วา่ เคารพในความไม่ประมาท ?
ก. เส้อื ผา้ ข. กริ ยิ า ค. หนา้ ตา ง. คณุ ธรรม ก. มศี ีล ข. มสี มาธิ ค. มปี ญั ญา ง. มสี ติ
๘. จะรูไ้ ดอ้ ย่างไรว่า คนทเ่ี ราคบดว้ ยเป็นคนดี ? ๓๓. สาราณิยธรรม ๖ สอนใหเ้ป็นคนเช่นไร ?
ก. อธั ยาศยั ดี ข. ขยนั ทาํ งาน ค. รูจ้ กั แทนคณุ ง. ขยนั เรยี น ก. พอเพยี ง ข. ซอ่ื สตั ย์ ค. ไมท่ าํ บาป ง. รูร้ กั สามคั คี
๙. พระสงฆใ์ นคาํ วา่ “สปุ ฏปิ นฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ” หมายถงึ ใคร ? ๓๔. ขอ้ ใด ไม่จดั เขา้ ในอรยิ ทรพั ย์ ?
ก. ภกิ ษุสงฆ์ ข. ภกิ ษุณีสงฆ์ ค. อริยสงฆ์ ง. สมมตสิ งฆ์ ก. สมาธิ ข. สทั ธา ค. ศีล ง. หริ ิ
๑๐. การประพฤตชิ วั่ ทางกาย วาจา ใจ เรยี กวา่ อะไร ? ๓๕. ในสปั ปรุ สิ ธรรม สตั บรุ ษุ สูงสดุ หมายถงึ ใคร ?
ก. อกศุ ลมลู ข. ทจุ รติ ค. บาป ง. มลทนิ ก. พระอรหนั ต์ ข. พระพทุ ธเจา้ ค. พระขณี าสพ ง. พระสาวก
๑๑. ในทจุ รติ ๓ ทจุ รติ ใด เป็นเหตใุ หท้ าํ ทจุ รติ ไดท้ กุ อย่าง ? ๓๖. การรูจ้ กั วางตนเหมาะสมตามฐานะ จดั เขา้ ในสปั ปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด ?
ก. กายทจุ รติ ข. วจที จุ รติ ค. มโนทจุ ริต ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ธมั มญั �ุตา ข. อตั ถญั �ุตา ค. อตั ตญั �ตุ า ง. มตั ตญั �ตุ า
๑๒. สุจรติ ๓ เป็นธรรมประเภทใด ? ๓๗. สมั มาสงั กปั ปะ สนบั สนุนเรอ่ื งใด ?
ก. ควรประพฤติ ข. ควรละ ค. ควรลด ง. ควรเลกิ ก. ไมผ่ ดิ ศีล ข. ไมพ่ ยาบาท ค. ไมฆ่ ่าสตั ว์ ง. ไมพ่ ดู เทจ็
๑๓. อกศุ ลมลู ใด เป็นเหตแุ ห่งการทาํ รา้ ยกนั ? ๓๘. ขอ้ ใด ไมจ่ ดั เป็นกรรมกเิ ลส ?
ก. โลภะ ข. โทสะ ค. โมหะ ง. ราคะ ก. ฆ่าสตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. พูดเทจ็ ง. ด่ืมสรุ า
๑๔. อโมหะ แกป้ ญั หาเร่อื งใด ? ๓๙. อฏุ ฐานสมั ปทา มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ใส่รา้ ย ข. คอรปั ชนั่ ค. งมงาย ง. ววิ าท ก. ขยนั หา ข. รกั ษาดี ค. มกี ลั ยาณมติ ร ง. เล้ยี งชพี พอเหมาะ
๑๕. การฟงั เทศน์ จดั เขา้ ในบญุ กริ ยิ าวตั ถขุ อ้ ใด ? ๔๐. เพอ่ื นทค่ี ดิ เอาแต่ไดฝ้ ่ายเดยี ว จดั เขา้ ในมติ รประเภทใด ?
ก. ทานมยั ข. สลี มยั ค. ภาวนามยั ง. ปตั ตทิ านมยั ก. ปอกลอก ข. ดแี ต่พดู ค. หวั ประจบ ง. ชกั ชวนทาํ ชวั่
๑๖. คบคนดี ฟงั วจที า่ น คดิ อ่านปญั หา คน้ ควา้ ปฏบิ ตั ิ ตรงกบั หลกั ธรรมใด ? ๔๑. มติ รมคี วามรกั ใคร่ มลี กั ษณะเช่นไร ?
ก. อทิ ธบิ าท ข. วฑุ ฒิ ค. พรหมวหิ าร ง. ปธาน ก. ป้องกนั ภยั ข. ตายแทนได้ ค. ร่วมสขุ รว่ มทกุ ข์ ง. รกั ษาความลบั
๑๗. ประพฤตเิ ช่นไร จงึ ช่อื วา่ ตง้ั ตนไวช้ อบ ? ๔๒. ผูป้ ระพฤตติ นเสมอตน้ เสมอปลาย ตรงกบั สงั คหวตั ถขุ อ้ ใด ?
ก. ละชวั่ ทาํ ดี ข. อยู่ในทเ่ี หมาะสม ค. มกี ลั ยาณมติ ร ง. ช่วยเหลอื สงั คม ก. ทาน ข. ปิยวาจา ค. อตั ถจรยิ า ง. สมานตั ตตา
๑๘. ค่าของคนอยู่ทค่ี นของใคร เป็นลกั ษณะของคนมอี คตขิ อ้ ใด ? ๔๓. งานหนกั ไมเ่ อา งานเบาไมส่ ู ้ เพราะขาดฆราวาสธรรมใด ?
ก. ฉนั ทาคติ ข. โทสาคติ ค. โมหาคติ ง. ภยาคติ ก. สจั จะ ข. ทมะ ค. ขนั ติ ง. จาคะ
๑๙. สงั วรปธาน มปี ระโยชนอ์ ย่างไร ? ๔๔. คา้ ขายอะไร จดั เป็นมจิ ฉาวณิชชา ?
ก. ป้ องกนั อกศุ ล ข. เจรญิ กศุ ล ค. ละอกศุ ล ง. รกั ษากศุ ล ก. วตั ถโุ บราณ ข. อาหารเสรมิ ค. เครอ่ื งสงั ฆทาน ง. อาวธุ
๒๐. การรกั ษาความดไี วไ้ ด้ ดุจเกลอื รกั ษาความเค็ม จดั เขา้ ในปธานใด ? ๔๕. ในทศิ ๖ หนา้ ทข่ี องมารดาบดิ า ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. สงั วรปธาน ข. อนุรกั ขนาปธาน ค. ปหานปธาน ง. ภาวนาปธาน ก. แนะนาํ ดี ข. ใหก้ ารศึกษา ค. ไมด่ ูหมน่ิ ง. ยกย่อง
๒๑. จาคะ ในอธษิ ฐานธรรม มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๖. ทศิ เบ้อื งซา้ ย หมายถงึ ใคร ?
ก. บรจิ าคทรพั ย์ ข. บรจิ าคโลหติ ค. สละกเิ ลส ง. สละสง่ิ ของ ก. ครูอาจารย์ ข. มารดาบดิ า ค. ภรรยา ง. มิตร
๒๒. เป็นคนควรพยายามจนกว่าจะประสบความสาํ เรจ็ สอนใหใ้ ชอ้ ทิ ธบิ าทใด ? ๔๗. หา้ มไมท่ าํ ความชวั่ ใหท้ าํ ความดี เป็นหนา้ ทข่ี องใคร ?
ก. ฉนั ทะ ข. วริ ิยะ ค. จติ ตะ ง. วมิ งั สา ก. ครูอาจารย์ ข. สามี ค. มติ ร ง. สมณพราหมณ์
๒๓. การเจรญิ พรหมวหิ าร ท่านสอนใหเ้รม่ิ ตน้ ทใ่ี คร ? ๔๘. ดม่ื นาํ้ เมา มโี ทษอย่างไร ?
ก. ตนเอง ข. เพอ่ื นมนุษย์ ค. ศตั รู ง. สรรพสตั ว์ ก. เป็นทร่ี ะแวง ข. ทอนกาํ ลงั ปญั ญา ค. ถกู ใส่ความ ง. ก่อเวร
๒๔.สตั วม์ กี รรมเป็นของตน ตอ้ งรบั ผลกรรมทท่ี าํ ไว้ ช่อื ว่าเจรญิ พรหมวหิ ารใด ? ๔๙. เทย่ี วกลางคนื มโี ทษอย่างไร ?
ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา ก. เสยี ทรพั ย์ ข. ถกู ตเิ ตยี น ค. ก่อววิ าท ง. เป็นท่รี ะแวง
๒๕. เมอ่ื เกดิ ความทกุ ข์ ตอ้ งทาํ อย่างไร ? ๕๐. เมอ่ื ชนะย่อมก่อเวร เป็นโทษของอบายมขุ ใด ?
ก. ควรกาํ หนดรู้ ข. ควรละ ค. ควรทาํ ใหแ้ จง้ ง. ควรเจรญิ ก. ดม่ื นาํ้ เมา ข. เทย่ี วกลางคนื ค. เลน่ การพนนั ง. เทย่ี วดูการเลน่
เฉลยปญั หาวิชาพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ประเทศใด เป็นดนิ แดนทเ่ี คยตง้ั อยู่ในชมพทู วปี ? ๒๖. “ เราไดต้ รสั รูส้ มั มาสมั โพธญิ าณแลว้ ” พระพทุ ธเจา้ ตรสั แก่ใคร ?
ก. คาซคั สถาน ข. อฟั กานิสถาน ค. อซุ เบกสิ ถาน ง. เตอรก์ สิ ถาน ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. พระยสะ ค. ภทั ทวคั คยี ์ ง. ชฎลิ ๓ พน่ี อ้ ง
๒. ชมพทู วปี ตง้ั อยู่ทางตอนใต้ ของเทอื กเขาใด ? ๒๗. ในอนตั ตลกั ขณสูตร พระพทุ ธเจา้ ตรสั ขนั ธ์ ๕ วา่ เป็นอย่างไร ?
ก. อสุ รี ธชะ ข. คชิ ฌกูฏ ค. หมิ าลยั ง. เวภารบรรพต ก. เป็นอตั ตา ข. เป็นอนตั ตา ค. เป็นของรอ้ น ง. เป็นของยงั่ ยนื
๓. ชาวอรยิ กะอพยพเขา้ มาสูช่ มพทู วปี จากทศิ ใด ? ๒๘. บคุ คลใด สาํ เร็จเป็นพระอรหนั ตค์ นแรกในขณะทย่ี งั เป็นคฤหสั ถ์ ?
ก. เหนือ ข. ตะวนั ออก ค. ตะวนั ตก ง. ใต้ ก. ยสมาณพ ข. อปุ ตสิ สมาณพ ค. โกลติ มาณพ ง. ปิปผลมิ าณพ
๔. กลมุ่ ชนใด เป็นชนดง้ั เดมิ ทอ่ี าศยั อยู่ในชมพทู วปี ? ๒๙. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงอาทติ ตปรยิ ายสูตร โปรดนกั บวชกลมุ่ ใด ?
ก. อรยิ กะ ข. มลิ กั ขะ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. สหายยสะ ค. ภทั ทวคั คยี ์ ง. ชฎลิ ๓ พน่ี อ้ ง
๕. กลมุ่ ชนใด ทแ่ี ผ่ขยายอาํ นาจเขา้ ปกครองชมพูทวปี ? ๓๐. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ทูลขอวา่ เมอ่ื ตรสั รูแ้ ลว้ ใหเ้สดจ็ กลบั มาโปรด ?
ก. อริยกะ ข. มลิ กั ขะ ค. ศูทร ง. จณั ฑาล ก. สุทโธทนะ ข. สปุ ปพทุ ธะ ค. พมิ พสิ าร ง. ปเสนทโิ กศล
๖. ชมพูทวปี แบ่งการปกครองออกเป็นแควน้ ใหญ่ กแ่ี ควน้ ? ๓๑. ราชอทุ ยานใด ทพ่ี ระเจา้ พมิ พสิ ารถวายใหส้ รา้ งเป็นวดั แหง่ แรก ?
ก. ๑๒ แควน้ ข. ๑๔ แควน้ ค. ๑๖ แควน้ ง. ๒๑ แควน้ ก. ลมุ พนิ วี นั ข. เวฬวุ นั ค. เชตวนั ง. ลฏั ฐวิ นั
๗. แควน้ เลก็ ทต่ี ง้ั อยู่ในชมพูทวปี ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๒. ขอ้ ว่า “ เย ธมมฺ า เหตปุ ปฺ ภวา ...” พระอสั สชแิ สดงแก่ใคร ?
ก. สกั กะ ข. เจตี ค. กรุ ุ ง. อวนั ตี ก. ยสมาณพ ข. อปุ ตสิ สมาณพ ค. โกลติ มาณพ ง. ปิปผลมิ าณพ
๘. กลมุ่ ชนทอ่ี าศยั อยู่ในชมพทู วปี แบ่งเป็นกว่ี รรณะ ? ๓๓. พระเถระใด ไดอ้ ปุ สมบทดว้ ยวธิ กี ารรบั โอวาท ๓ ขอ้ ?
ก. ๒ วรรณะ ข. ๓ วรรณะ ค. ๔ วรรณะ ง. ๕ วรรณะ ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระโมคคลั ลานะ ค. พระมหากสั สปะ ง. พระราหลุ
๙. วรรณะใด มหี นา้ ทป่ี ระกอบพธิ กี รรมตามลทั ธขิ องตน ? ๓๔. การประชมุ สงฆท์ เ่ี รยี กว่า จาตรุ งคสนั นิบาต เกดิ ข้นึ ทเ่ี มอื งใด ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศูทร ก. พาราณสี ข. สาวตั ถี ค. ราชคฤห์ ง. กบลิ พสั ด์
๑๐. ชนชน้ั ตาํ่ สุดในชมพทู วปี เรยี กวา่ อะไร ? ๓๕. “ การบณิ ฑบาตน้ีเป็นพทุ ธประเพณี ” พระพทุ ธเจา้ ตรสั แก่ใคร ?
ก. พราหมณ์ ข. แพศย์ ค. ศูทร ง. จณั ฑาล ก. พทุ ธบดิ า ข. พทุ ธมารดา ค. พทุ ธอนุชา ง. พทุ ธอปุ ฏั ฐาก
๑๑. กลมุ่ ชนในชมพูทวปี ทเ่ี ช่อื ว่าตายแลว้ สูญ แบ่งออกเป็นกฝ่ี ่าย ? ๓๖. กษตั รยิ ใ์ ด ทูลขอว่าผูจ้ ะบวชตอ้ งใหบ้ ดิ ามารดาอนุญาตก่อน ?
ก. ๒ ฝ่ าย ข. ๓ ฝ่าย ค. ๔ ฝ่าย ง. ๕ ฝ่าย ก. สทุ โธทนะ ข. สปุ ปพทุ ธะ ค. พมิ พสิ าร ง. ปเสนทโิ กศล
๑๒. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด เป็นพระบดิ าของพระเจา้ สทุ โธทนะ ? ๓๗. เศรษฐใี ด ไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในการถวายทาน ?
ก. โอกกากราช ข. ชยั เสนะ ค. สหี หนุ ง. อญั ชนะ ก. เมณฑกะ ข. โฆสกะ ค. โชตกิ ะ ง. อนาถบณิ ฑกิ ะ
๑๓. สตรพี ระนางใด ทรงเป็นกนษิ ฐภคนิ ีของพระเจา้ สุทโธทนะ ? ๓๘. พระพทุ ธเจา้ ทรงปลงอายสุ งั ขาร ณ สถานทใ่ี ด ?
ก. กญั จนา ข. อมิตา ค. มายา ง. พมิ พา ก. อานนั ทเจดยี ์ ข. อทุ เทสกิ เจดยี ์ ค. ปาวาลเจดีย์ ง. ธรรมเจดยี ์
๑๔. พระเจา้ สทุ โธทนะ อภเิ ษกสมรสกบั ราชธดิ าของกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๓๙. พระเถระใด เป็นสหชาตกิ บั พระพทุ ธเจา้ ?
ก. โอกกากราช ข. ชยั เสนะ ค. สหี หนุ ง. อญั ชนะ ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระยสะ ค. พระนนั ทะ ง. พระอานนท์
๑๕. อทุ ยานลมุ พนิ วี นั ตง้ั อยู่ระหวา่ งเมอื งกบลิ พสั ดุก์ บั เมอื งใด ? ๔๐. พระธรรมทท่ี รงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา ประมวลลงในขอ้ ใด ?
ก. พาราณสี ข. ไพสาลี ค. เทวทหะ ง. มคธ ก. ปมาทะ ข. อปั ปมาทะ ค. สงั คหะ ง. เตวชิ ชะ
๑๖. พระมหาบรุ ษุ ประสูติ ภายใตต้ น้ ไมใ้ ด ? ๔๑. ศาสนพธิ ี มมี ลู เหตมุ าจากการบาํ เพญ็ บญุ กริ ยิ าวตั ถขุ อ้ ใด ?
ก. ตน้ โพธ์ิ ข. ตน้ สาละ ค. ตน้ ไทร ง. ตน้ จกิ ก. ทาน ข. ศีล ค. ภาวนา ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๗. ดาบสใด พยากรณล์ กั ษณะพระมหาบรุ ุษเป็นคนแรก ? ๔๒. การอบรมกายวาจาใหส้ งบตามหลกั บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ๓ เรยี กว่าอะไร ?
ก. กบลิ ดาบส ข. กาฬเทวนิ ดาบส ค. อาฬารดาบส ง. อทุ ทกดาบส ก. ทาน ข. ศีล ค. ภาวนา ง. เนกขมั มะ
๑๘. สตรพี ระนางใด ทรงเป็นพระนา้ นางเล้ยี งดูเจา้ ชายสทิ ธตั ถะ ? ๔๓. ขอ้ ใด ไม่จดั เป็นระเบยี บแบบแผนตามหลกั ศาสนพธิ ี ?
ก. ปมติ า ข. อมติ า ค. มายา ง. ปชาบดี ก. ใหท้ าน ข. รกั ษาศีล ค. เจรญิ ภาวนา ง. บรรลธุ รรม
๑๙. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะนอ้ มพระทยั ออกผนวช เพราะทรงเหน็ เทวทตู ใด ? ๔๔. ผูแ้ สดงตนเป็นพทุ ธมามกะ ตอ้ งสมาทานศีลประเภทใด ?
ก. คนแก่ ข. คนเจบ็ ค. คนตาย ง. สมณะ ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. ศีลอโุ บสถ ง. ศีล ๑๐
๒๐. ขอ้ ใด ไม่ใช่การบาํ เพญ็ ทกุ รกริ ยิ าของพระมหาบรุ ุษ ? ๔๕. การประชมุ สงฆท์ เ่ี รยี กว่า จาตรุ งคสนั นบิ าต เกดิ ข้นึ ในวนั ใด ?
ก. กดพระทนต์ ข. กลนั้ ลมหายใจ ค. อดอาหาร ง. เดินจงกรม ก. มาฆบูชา ข. วสิ าขบชู า ค. อาสาฬหบูชา ง. อฏั ฐมบี ชู า
๒๑. พระมหาบรุ ษุ ทรงอธษิ ฐานลอยถาด ทแ่ี ม่นาํ้ ใด ? ๔๖. การประกอบพธิ วี สิ าขบูชานนั้ สนั นิษฐานว่าเรม่ิ มมี าตง้ั แต่สมยั ใด ?
ก. คงคา ข. ยมนุ า ค. เนรญั ชรา ง. อจริ วดี ก. สโุ ขทยั ข. อยธุ ยา ค. ธนบรุ ี ง. รตั นโกสนิ ทร์
๒๒. มชั ฌมิ าปฏปิ ทา หมายถงึ ขอ้ ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมใด ? ๔๗. พระรตั นตรยั เกดิ ข้นึ ครบบรบิ ูรณ์ ในวนั ใด ?
ก. อรยิ มรรค ๘ ข. สมาบตั ิ ๘ ค. โลกธรรม ๘ ง. วชิ ชา ๘ ก. มาฆบชู า ข. วสิ าขบชู า ค. อาสาฬหบูชา ง. อฏั ฐมบี ูชา
๒๓. พระมหาบรุ ษุ ตรสั รูเ้ป็นพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรงกบั วนั ใด ? ๔๘. สง่ิ ใด ไมค่ วรนาํ ไปถวายพระสงฆห์ ลงั เทย่ี งวนั ไปแลว้ ?
ก. มาฆปณุ ณมี ข. วสิ าขปณุ ณมี ค. อาสาฬหปณุ ณมี ง. อฏั ฐมบี ชู า ก. อาหาร ข. นาํ้ ปานะ ค. เภสชั ง. ผา้ ไตร
๒๔. พระมหาบรุ ษุ ทรงบรรลปุ พุ เพนวิ าสานุสสตญิ าณ ในยามใด ? ๔๙. การกราบ ตรงกบั กริ ยิ าใด ?
ก. ปฐมยาม ข. มชั ฌมิ ยาม ค. ปจั ฉิมยาม ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อญั ชลี ข. วนั ทา ค. อภวิ าท ง. คุกเข่า
๒๕. บคุ คลผูม้ ปี ญั ญาพอจะแนะนาํ ได้ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๕๐. วปิ ตั ตปิ ะฏพิ าหายะ สพั พะสมั ปตั ตสิ ทิ ธยิ า ... เป็นคาํ อาราธนาอะไร ?
ก. อคุ ฆฏติ ญั �ู ข. วปิ จติ ญั �ู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘ ค. พระปริตร ง. ธรรม
เฉลยปญั หาวชิ าเบญจศีลเบญจธรรม (วนิ ยั ) ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่สี ดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี ว ระบายในกระดาษคาํ ตอบใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. ขอ้ ใด เป็นหลกั ปฏบิ ตั เิ บ้อื งตน้ ในการทาํ ความดี ? ๒๖. การรกั ษาศีลขอ้ ๕ เป็นการงดเวน้ ขอ้ ใด ?
ก. รกั ษาศีล ข. เจรญิ สมาธิ ค. อบรมปญั ญา ง. แผเ่ มตตา ก. สตั วม์ ชี วี ติ ข. ทรพั ยค์ นอน่ื ค. คู่ครองคนอน่ื ง. ของมนึ เมา
๒. การปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ หา้ มทงั้ ๕ เรยี กว่าอะไร ? ๒๗. การทาํ ผดิ ศีลขอ้ ท่ี ๕ เป็นปฏปิ กั ษโ์ ดยตรงต่อคุณธรรมใด ?
ก. ใหท้ าน ข. รกั ษาศีล ค. เจรญิ ภาวนา ง. แผเ่ มตตา ก. เมตตา ข. กรณุ า ค. สจั จะ ง. สตสิ มั ปชญั ญะ
๓. วตั ถปุ ระสงคข์ องการรกั ษาศีล คอื อะไร ? ๒๘. เจตนางดเวน้ จากขอ้ หา้ ม อนั เรยี กวา่ วริ ตั ิ มกี อ่ี ย่าง ?
ก. ทาํ ใจใหส้ งบ ข. ละกเิ ลส ค. ฝึ กกายวาจา ง. ดบั ทกุ ข์ ก. ๑ อย่าง ข. ๒ อย่าง ค. ๓ อยา่ ง ง. ๔ อย่าง
๔. ขอ้ หา้ ม ๕ อย่าง มงี ดเวน้ ปาณาตบิ าตเป็นตน้ เรยี กว่าอะไร ? ๒๙. สมั ปตั ตวริ ตั ิ เป็นการงดเวน้ จากการประพฤตผิ ดิ ศีลของใคร ?
ก. เบญจศีล ข. เบญจธรรม ค. เบญจพล ง. เบญจขนั ธ์ ก. คนทวั่ ไป ข. คนสมาทานศีล ค. อรยิ บคุ คล ง. ถกู ทกุ ขอ้
๕. ขอ้ ใด เป็นการประพฤตผิ ดิ ศีลขอ้ ท่ี ๑ ? ๓๐. หวั ขโมยยงั ไม่สบโอกาสจงึ ไม่ขโมย ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ฆา่ สตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. เสพยาบา้ ง. พดู โกหก ก. สมั ปตั ตวริ ตั ิ ข. สมาทานวริ ตั ิ ค. สมจุ เฉทวริ ตั ิ ง. ไมเ่ ป็นวริ ตั ิ
๖. การฆ่า หมายถงึ การกระทาํ ในขอ้ ใด ? ๓๑. การรบั ศีลจากพระสงฆ์ จดั เขา้ ในวริ ตั ใิ ด ?
ก. ใหบ้ าดเจบ็ ข. ใหพ้ กิ าร ค. ใหล้ าํ บาก ง. ใหต้ าย ก. สมาทานวริ ตั ิ ข. สมั ปตั ตวริ ตั ิ ค. สมจุ เฉทวริ ตั ิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๗. การกระทาํ ในขอ้ ใด เป็นอาการของคนขาดเมตตาจติ ? ๓๒. ศีลธรรมไม่กลบั มา โลกาจะวนิ าศ คาํ ว่า ศีลธรรม ในวชิ าน้ี หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. เล้ยี งปลา ข. ใหอ้ าหารปลา ค. ปลอ่ ยปลา ง. ตกปลา ก. ความสามคั คี ข. ความสนั โดษ ค. ความกตญั �ู ง. เบญจศีลเบญจธรรม
๘. ศีลขอ้ ใด ทาํ ใหเ้หน็ ว่าชวี ติ มคี ณุ ค่า ควรหวงแหนและรกั ษาไว้ ? ๓๓. ขอ้ ปฏบิ ตั คิ วบคู่กบั การรกั ษาศีล ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง.ขอ้ ๔ ก. กลั ยาณมติ ร ข. กลั ยาณธรรม ค. กลั ยาณชน ง. กลั ยาณจติ
๙. ขอ้ ใด อนุโลมเขา้ ในการทาํ ปาณาตบิ าต ? ๓๔. การบรจิ าคโลหติ ช่วยผูป้ ระสบอบุ ตั เิ หตุ ช่อื ว่ามกี ลั ยาณธรรมใด ?
ก. ทาํ ใหบ้ าดเจบ็ ข. ทาํ ใหพ้ กิ าร ค. ทาํ ใหเ้สยี โฉม ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ความมเี มตตา ข. ความมกี รุณา ค. ความมสี ตั ย์ ง. ความมสี ติ
๑๐. ขอ้ ใด เป็นการทรกรรมสตั วใ์ หไ้ ดร้ บั ความลาํ บาก ? ๓๕. กลั ยาณธรรมขอ้ ใด ทาํ ใหม้ นุษยล์ ะการฆ่าการทาํ รา้ ยต่อกนั ?
ก. ใชก้ าร ข. กกั ขงั ค. เลน่ สนุก ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เมตตา กรณุ า ข. สมั มาอาชวี ะ ค. ความภกั ดี ง. มสี ตริ อบคอบ
๑๑. คนทจุ รติ คอรปั ชนั่ แสดงว่าประพฤตผิ ดิ ศีลขอ้ ใด ? ๓๖. กลั ยาณธรรมขอ้ ใด สนบั สนุนใหม้ นุษยร์ กั ษาศีลขอ้ ๒ ไดม้ นั่ คงยง่ิ ข้นึ ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔ ก. เมตตา กรุณา ข. สมั มาอาชีวะ ค. ความกตญั �ู ง. กามสงั วร
๑๒. ขายสง่ิ ของไม่แทว้ ่าเป็นของแท้ เป็นโจรกรรมประเภทใด ? ๓๗. ลูกจา้ งตงั้ ใจทาํ งานใหน้ ายจา้ งตามสญั ญา ชอ่ื ว่าประพฤตเิ ป็นธรรมในขอ้ ใด ?
ก. ปลอม ข. ลวง ค. หลอก ง. ตู่ ก. กจิ การ ข. บคุ คล ค. วตั ถุ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๓. วง่ิ ราวทรพั ยผ์ ูอ้ น่ื เป็นโจรกรรมประเภทใด ? ๓๘. ลูกจา้ งเขา้ ทาํ งานตรงต่อเวลา ช่อื วา่ ประพฤตเิ ป็นธรรมในขอ้ ใด ?
ก. ลกั ข. ฉก ค. กรรโชก ง. ปลน้ ก. กจิ การ ข. บคุ คล ค. วตั ถุ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๔. รบั ฝากของแต่ไม่ยอมคนื ให้ เป็นโจรกรรมประเภทใด ? ๓๙. ผูล้ กั ลอบปลอมแปลงสนิ คา้ ชอ่ื วา่ ประพฤตไิ มเ่ ป็นธรรมในขอ้ ใด ?
ก. เบยี ดบงั ข. สบั เปลย่ี น ค. ลกั ลอบ ง. ยกั ยอก ก. กจิ การ ข. บคุ คล ค. วตั ถุ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๕. คนทไ่ี ดท้ รพั ยพ์ สั ดมุ าดว้ ยมจิ ฉาชพี ย่อมไดร้ บั ผลเช่นไร ? ๔๐. ความสาํ รวมในกาม เป็นอปุ การะแก่การรกั ษาศีลขอ้ ใด ?
ก. เสยี ทรพั ย์ ข. เสยี ช่อื เสยี ง ค. เสยี ยศ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๔
๑๖. การรกั ษาศีลขอ้ ท่ี ๓ มปี ระโยชนอ์ ย่างไร ? ๔๑. คู่ครองประพฤตกิ ลั ยาณธรรมขอ้ ๓ ย่อมเกดิ ผลตามขอ้ ใด ?
ก. มเี มตตา ข. มอี าชพี สุจรติ ค. รกั ครอบครวั ง. พูดความจรงิ ก. เมตตาต่อกนั ข. ไวว้ างใจกนั ค. กตญั �ูต่อกนั ง. ภกั ดตี ่อกนั
๑๗. หญงิ ผูเ้ป็นเทอื กเถาเหลา่ กอของตน ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๒. รกั นวลสงวนตวั มคี วามหมายสอดคลอ้ งกบั กลั ยาณธรรมขอ้ ใด ?
ก. ลูกเล้ยี ง ข. ลูกบญุ ธรรม ค. หลานสาว ง. ลูกสะใภ้ ก. สมั มาอาชวี ะ ข. กามสงั วร ค. ความซอ่ื ตรง ง. ความไมป่ ระมาท
๑๘. การประพฤตผิ ดิ ศีลขอ้ ๓ เป็นการประพฤตทิ จุ รติ ทางใด ? ๔๓. ไมห่ ลอกลวงเพอ่ื นทง้ั ต่อหนา้ และลบั หลงั เป็นความมสี ตั ยใ์ นเรอ่ื งใด ?
ก. ทางกาย ข. ทางวาจา ค. ทางใจ ง. ทางกายวาจา ก. ความเทย่ี งธรรม ข. ความซ่ือตรง ค. ความกตญั �ู ง. สวามภิ กั ด์ิ
๑๙. การเผยแพร่ขอ้ มลู อนั เป็นเทจ็ ทางเอกสาร เป็นมสุ าวาททางใด ? ๔๔. นายใหย้ ศผูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชาดว้ ยความยตุ ธิ รรม เป็นความมสี ตั ยใ์ นเร่อื งใด ?
ก. ทางกาย ข. ทางวาจา ค. ทางใจ ง. ทางกายวาจา ก. ความเทย่ี งธรรม ข. ความซอ่ื ตรง ค. ความกตญั �ู ง. สวามภิ กั ด์ิ
๒๐. ขอ้ ใด เป็นคาํ พดู ทไ่ี มน่ บั เขา้ ในขอ้ หา้ ม ไมม่ โี ทษแก่ผูพ้ ดู ? ๔๕. ความมสี ตริ อบคอบ เป็นอปุ การะแก่การรกั ษาศีลขอ้ ใด ?
ก. สาํ คญั ผิด ข. อาํ ความ ค. เสรมิ ความ ง. สบั ปลบั ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๒๑. คาํ พูดประเภทใด ตรงกบั คาํ ว่า กลบั คาํ ? ๔๖. การละชวั่ ทาํ ความดี ทาํ จติ ใหผ้ ่องใส มคี วามรอบคอบในเร่อื งใด ?
ก. พูดเหน็ แก่ได้ ข. พูดยกย่อง ค. พูดหลกี เล่ยี ง ง. พดู ใหแ้ ตกแยก ก. การบรโิ ภค ข. การศึกษา ค. การทาํ งาน ง. การปฏบิ ตั ธิ รรม
๒๒. การทาํ ผดิ ศีลขอ้ ท่ี ๔ เกดิ ข้นึ ไดท้ างใด ? ๔๗. การใชจ้ ่ายแต่พอเพยี ง มคี วามรอบคอบในเรอ่ื งใด ?
ก. กาย ข. วาจา ค. กายวาจา ง. กายใจ ก. การบริโภค ข. การศึกษา ค. การทาํ งาน ง. การปฏบิ ตั ธิ รรม
๒๓. ศีลขอ้ ใด ช้ใี หเ้หน็ โทษของสง่ิ เสพตดิ ? ๔๘. ขอ้ ใด ช่อื วา่ ไม่เลนิ เลอ่ ในการงาน ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ค. ขอ้ ๓ ง. ขอ้ ๕ ก. ขยนั ทาํ กนิ ข. หมน่ิ เงนิ นอ้ ย ค. คอยวาสนา ง. ลางานบ่อย
๒๔. ขอ้ ใด เป็นความประพฤตเิ สยี หายจากการดม่ื นาํ้ เมา ? ๔๙. ขอ้ ใด ทาํ บคุ คลใหเ้ป็นมนุษยท์ ส่ี มบูรณ์ ?
ก. ทาํ ลายขา้ วของ ข. ทบุ ตผี ูอ้ น่ื ค. ทะเลาะววิ าท ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ศีลธรรม ข. ทรพั ยส์ มบตั ิ ค. ยศศกั ด์ิ ง. พวกพอ้ ง
๒๕. ปญั หาสงั คมดา้ นใด สะทอ้ นการมองขา้ มความสาํ คญั ศีลขอ้ ท่ี ๕ ? ๕๐. ขอ้ ใด เป็นประโยชนข์ องเบญจศีลเบญจธรรม ?
ก. พนนั บอล ข. อาชญากรรม ค. ยาเสพตดิ ง. ทจุ รติ คอรปั ชนั่ ก. ไมเ่ ดอื ดรอ้ น ข. ไม่นอนเป็นทกุ ข์ ค. มแี ตค่ วามสขุ ใจ ง. ถกู ทกุ ขอ้
เฉลยปญั หาวชิ าธรรม ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. คาํ วา่ สมถะ หมายถงึ อะไร ? ๒๖. จรยิ าใด ทาํ ใหค้ วามเป็นพระพทุ ธเจา้ สมบรู ณ์ ?
ก. มกั นอ้ ย ข. สนั โดษ ค. สงบใจ ง. เหน็ แจง้ ก. โลกตั ถจรยิ า ข. ญาตตั ถจรยิ า ค. พทุ ธตั ถจริยา ง. อตั ถจรยิ า
๒. การเจรญิ วปิ สั สนา เป็นเหตใุ หร้ ูแ้ จง้ อะไร ? ๒๗. ใหท้ กุ ขแ์ ก่ทา่ น ทกุ ขน์ น้ั ถงึ ตวั จดั เป็นวฏั ฏะใด ?
ก. สภาวธรรม ข. โลก ค. อภญิ ญา ง. ไตรภพ ก. กเิ ลสวฏั ฏะ ข. กมั มวฏั ฏะ ค. วปิ ากวฏั ฏะ ง. สงั สารวฏั ฏะ
๓. สง่ิ ทท่ี าํ ใหส้ ตั วห์ ลงตดิ ขอ้ งอยู่ในโลก เรยี กว่าอะไร ? ๒๘. อะไรเป็นเหตใุ หม้ นุษยเ์ วยี นว่ายตายเกดิ ไมม่ ที ส่ี ้นิ สดุ ?
ก. กาม ข. กเิ ลส ค. กรรม ง. วบิ าก ก. กเิ ลส ข. กรรม ค. วบิ าก ง. กเิ ลส กรรม วบิ าก
๔. ขอ้ ใด จดั เป็นวตั ถกุ าม ? ๒๙. การบาํ เพญ็ สมถภาวนา จดั เขา้ ในสกิ ขาใด ?
ก. รูป ข. โลภะ ค. อรติ ง. โทสะ ก. อธสิ ลี สกิ ขา ข. อธจิ ติ ตสกิ ขา ค. อธปิ ญั ญาสกิ ขา ง. ไตรสกิ ขา
๕. พระพทุ ธเจา้ ทรงยกย่องการบชู าแบบใด ว่าเป็นเลศิ ? ๓๐. อานิสงสข์ องการปฏบิ ตั ติ ามไตรสกิ ขาโดยตรง คอื ขอ้ ใด ?
ก. อามสิ บชู า ข. ปฏบิ ตั บิ ูชา ค. สกั การบชู า ง. พทุ ธบชู า ก. กาํ จดั ทกุ ข์ ข. กาํ จดั โศก ค. กาํ จดั ภยั ง. กาํ จดั กเิ ลส
๖. การกลา่ วตอ้ นรบั ดว้ ยคาํ ไพเราะ ชอ่ื ว่าปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมใด ? ๓๑. สกิ ขาขอ้ ใด ทาํ ลายอวชิ ชาได้ ?
ก. อามสิ บูชา ข. ปฏบิ ตั บิ ชู า ค. อามสิ ปฏสิ นั ถาร ง. ธมั มปฏสิ นั ถาร ก. อธสิ ลี สกิ ขา ข. อธจิ ติ ตสกิ ขา ค. อธปิ ญั ญาสกิ ขา ง. ไตรสกิ ขา
๗. ความสบายใจของคนทไ่ี ม่ถกู กเิ ลสครอบงาํ จดั เป็นสขุ ประเภทใด ? ๓๒. ขอ้ ใด แสดงความหมายของคาํ ว่า ยากดมี จี นไมพ่ น้ ตาย ไดถ้ กู ตอ้ ง ?
ก. อามสิ สขุ ข. นริ ามสิ สุข ค. กายกิ สุข ง. เจตสกิ สขุ ก. ไตรเพท ข. ไตรลกั ษณ์ ค. ไตรสกิ ขา ง. ไตรภมู ิ
๘. ความคดิ ทจ่ี ะเบยี ดเบยี นกนั จดั เขา้ ในอกศุ ลวติ กใด ? ๓๓. อกศุ ลธรรมใด เป็นขา้ ศึกโดยตรงต่อเมตตา ?
ก. กามวติ ก ข. พยาบาทวติ ก ค. วหิ งิ สาวติ ก ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. โลภะ ข. โทสะ ค. โมหะ ง. ราคะ
๙. คนถกู กามวติ กครอบงาํ มกั มพี ฤตกิ รรมเช่นไร ? ๓๔. อปั ปมญั ญาใด ส่งเสรมิ ความยตุ ธิ รรม ?
ก. ชอบเบยี ดเบยี น ข. โลภ ค. ปองรา้ ย ง. หมกมนุ่ ในกาม ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มทุ ติ า ง. อเุ บกขา
๑๐. กศุ ลวติ กใด เป็นปฏปิ กั ษต์ ่อกามวติ ก ? ๓๕. พระอรยิ บคุ คลใด ละสงั โยชนไ์ ด้ ๓ และทาํ ราคะ โทสะ โมหะใหเ้บาบาง ?
ก. เนกขมั มวติ ก ข. อพยาบาทวติ ก ค. อวหิ งิ สาวติ ก ง.ถกู ทกุ ขอ้ ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์
๑๑. อวหิ งิ สาวติ ก มอี ะไรเป็นสมฏุ ฐาน ? ๓๖. ปาณาตปิ าตา เวรมณี มคี วามเชอ่ื มโยงกบั สมั ปรายกิ ตั ถประโยชนข์ อ้ ใด ?
ก. อโลภะ ข. อโทสะ ค. อโมหะ ง. อรติ ก. สทั ธาสมั ปทา ข. สลี สมั ปทา ค. จาคสมั ปทา ง. ปญั ญาสมั ปทา
๑๒. ไฟชนิดใด เป็นเหตใุ หค้ นลว่ งละเมดิ ศีลขอ้ ท่ี ๓ ? ๓๗. อวชิ ชา คอื ความไมร่ ู้ ละไดด้ ว้ ยมรรคใด ?
ก. ไฟราคะ ข. ไฟโทสะ ค. ไฟโมหะ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. โสดาปตั ตมิ รรค ข. สกทาคามมิ รรค ค. อนาคามมิ รรค ง. อรหตั ตมรรค
๑๓. ไฟชนดิ ใด เป็นเหตใุ หค้ นลว่ งละเมดิ ศีลขอ้ ท่ี ๑ ? ๓๘. อรยิ ผลใด เป็นกระแสเบ้อื งตน้ ทจ่ี ะนาํ ไปสูพ่ ระนพิ พาน ?
ก. ไฟราคะ ข. ไฟโทสะ ค. ไฟโมหะ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. โสดาปตั ตผิ ล ข. สกทาคามผิ ล ค. อนาคามผิ ล ง. อรหตั ตผล
๑๔. ไฟในขอ้ ใด ทาํ ใหห้ ลงผดิ เหน็ กงจกั รเป็นดอกบวั ? ๓๙. อนุปพุ พกี ถาขอ้ ใด ขดั เกลาจติ ไม่ใหเ้ป็นคนโหดรา้ ย ?
ก. ไฟราคะ ข. ไฟโทสะ ค. ไฟโมหะ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ทานกถา ข. สลี กถา ค. สคั คกถา ง. กามาทนี วกถา
๑๕. เหน็ คนสว่ นใหญ่ทาํ บญุ จงึ ทาํ ตาม จดั เขา้ ในอธปิ ไตยใด ? ๔๐. ผูป้ ระกอบดว้ ยธมั มมจั ฉรยิ ะ มลี กั ษณะเช่นใด ?
ก. อตั ตาธปิ ไตย ข. โลกาธปิ ไตย ค. ธมั มาธปิ ไตย ง. ประชาธปิ ไตย ก. หวงถน่ิ ข. หวงสกลุ ค. หวงลาภ ง. หวงวชิ า
๑๖. ประชาธปิ ไตยลม้ เหลว เพราะขาดอธปิ ไตยใด ? ๔๑. รูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ จดั เป็นมารอะไร ?
ก. อตั ตาธปิ ไตย ข. โลกาธปิ ไตย ค. ธมั มาธปิ ไตย ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ขนั ธมาร ข. กเิ ลสมาร ค. อภสิ งั ขารมาร ง. มจั จมุ าร
๑๗. ปญั ญาหยงั่ รูว้ า่ การเกดิ เป็นทกุ ข์ จดั เป็นญาณอะไร ? ๔๒. คนทต่ี ดิ ใจรกั ใคร่หมกม่นุ ในกามคุณ ๕ ควรเจรญิ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. สจั จญาณ ข. กจิ จญาณ ค. กตญาณ ง. มรรคญาณ ก. เมตตา ข. กสณิ ค. กายคตาสติ ง. เทวตานุสสติ
๑๘. ปญั ญาหยงั่ รูว้ า่ ทกุ ขล์ ะไมไ่ ด้ กาํ หนดรูไ้ ดอ้ ย่างเดยี ว จดั เป็นญาณอะไร ? ๔๓. ธาตุ ๔ คอื ดนิ นาํ้ ไฟ ลม จดั เป็นอะไร ?
ก. สจั จญาณ ข. กจิ จญาณ ค. กตญาณ ง. มรรคญาณ ก. รูป ข. เวทนา ค. สญั ญา ง. สงั ขาร
๑๙. ปญั ญาหยงั่ รูว้ า่ เหตเุ กดิ ทกุ ข์ ละไดแ้ ลว้ จดั เป็นญาณอะไร ? ๔๔. อาการยาํ้ คดิ ยาํ้ ทาํ ขาดความมนั่ ใจในตวั เอง เป็นลกั ษณะของคนจรติ ใด ?
ก. สจั จญาณ ข. กจิ จญาณ ค. กตญาณ ง. มรรคญาณ ก. โทสจรติ ข. วติ กั กจรติ ค. สทั ธาจรติ ง. พทุ ธจิ รติ
๒๐. อยากไดอ้ าํ นาจมาครอง จดั เป็นตณั หาประเภทใด ? ๔๕. ธรรมคุณใด มลี กั ษณะเป็นวทิ ยาศาสตรอ์ ย่างเด่นชดั ?
ก. กามตณั หา ข. ภวตณั หา ค. วภิ วตณั หา ง. กเิ ลสตณั หา ก. สนฺทฏิ ฐฺ โิ ก ข. อกาลโิ ก ค. เอหปิ สสฺ โิ ก ง. โอปนยโิ ก
๒๑. ฆ่าตวั ตายเพราะอกหกั จดั เป็นตณั หาประเภทใด ? ๔๖. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่หลกั อปรหิ านิยธรรม ?
ก. กามตณั หา ข. ภวตณั หา ค. วภิ วตณั หา ง. ราคตณั หา ก. หมนั่ ประชมุ ข. เคารพผูใ้ หญ่ ค. ไม่บงั คบั สตรี ง. คบสตั บรุ ษุ
๒๒. ปิฎกใด กลา่ วเร่อื งศีลเป็นส่วนมาก ? ๔๗. รบั ราชการดว้ ยความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ จดั เขา้ ในมรรคใด ?
ก. วนิ ยั ปิฎก ข. สุตตนั ตปิฎก ค. อภธิ รรมปิฎก ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. สมั มาสงั กปั ปะ ข. สมั มาอาชีวะ ค. สมั มาวายามะ ข. สมั มาสติ
๒๓. ปิฎกใด กลา่ วเร่อื ง จติ เจตสกิ รูป นิพพาน เป็นส่วนมาก ? ๔๘. พทุ ธคณุ ขอ้ ใด มคี วามหมายวา่ พระพทุ ธเจา้ ทรงเป็นบรมครู ?
ก. วนิ ยั ปิฎก ข. สุตตนั ตปิฎก ค. อภธิ รรมปิฎก ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อรหํ ข. สคุ โต ค. โลกวทิ ู ง. สตถฺ า เทวมนุสสฺ านํ
๒๔. การสงเคราะหช์ ่วยเหลอื มนุษย์ จดั เขา้ ในจรยิ าใด ? ๔๙. ปฏบิ ตั ไิ ม่ลวงโลกไมม่ มี ายาสาไถย ตรงกบั สงั ฆคุณบทใด ?
ก. โลกตั ถจริยา ข. ญาตตั ถจรยิ า ค. พทุ ธตั ถจรยิ า ง. อตั ถจรยิ า ก. สุปฏปิ นฺโน ข. อชุ ปุ ฏปิ นฺโน ค. ญายปฏปิ นฺโน ง. สามจี ปิ ฏปิ นฺโน
๒๕. พระพทุ ธเจา้ ทรงบาํ เพญ็ พทุ ธจรยิ า ๓ ประการเป็นเวลาก่ปี ี ? ๕๐. การบาํ เพญ็ บารมี ๓ ระดบั ระดบั สูงสุดตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ๒๕ ปี ข. ๓๕ ปี ค. ๔๕ ปี ง. ๘๐ ปี ก. บารมี ข. อปุ บารมี ค. ปรมตั ถปารมี ง. ถกู ทกุ ขอ้
เฉลยปญั หาวิชาอนุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. พระอญั ญาโกณฑญั ญะ เกดิ ทห่ี มบู่ า้ นใด ? ๒๖. พระมหาปชาบดโี คตมเี ถรี ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. ปจั จนั ตคาม ข. โทณวตั ถุ ค. นาลกะ ง. โกลติ คาม ก. มปี ญั ญา ข. มฤี ทธ์ิ ค. ทรงวนิ ยั ง. รูร้ าตรีนาน
๒. โกณฑญั ญะฟงั ปฐมเทศนาแลว้ เป็นอรยิ บคุ คลชน้ั ใด ? ๒๗. พระเขมาเถรี เป็นพระราชธดิ าของกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ?
ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์ ก. พมิ พสิ าร ข. ปเสนทโิ กศล ค. จนั ฑปชั โชต ง. สาคลราช
๓. พระอรุ เุ วลกสั สปะ เดมิ ถอื ลทั ธบิ ูชาสง่ิ ใด ? ๒๘. พระเถรใี ด เป็นพระอคั รสาวกิ าเบ้อื งขวา ?
ก. ดนิ ข. นาํ้ ค. ลม ง. ไฟ ก. ปฏาจารา ข. กสี าโคตมี ค. อบุ ลวรรณา ง. เขมา
๔. พระอรุ ุเวลกสั สปะ ตง้ั อาศรมอยู่ ณ ทใ่ี ด ? ๒๙. พระอบุ ลวรรณาเถรี เป็นผูเ้ลศิ กว่าภกิ ษุณีทงั้ หลายในดา้ นใด ?
ก. อรุ ุเวลา ข. คยาสสี ะ ค. ลฏั ฐวิ นั ง. เวฬวุ นั ก. มปี ญั ญา ข. มีฤทธ์ิ ค. ทรงวนิ ยั ง. รูร้ าตรนี าน
๕. อปุ ตสิ สปรพิ าชกเป็นพระโสดาบนั เพราะฟงั ธรรมจากใคร ? ๓๐. พระเถรใี ด เป็นพระอคั รสาวกิ าเบ้อื งซา้ ย ?
ก. พระวปั ปะ ข. พระภทั ทยิ ะ ค. พระมหานามะ ง. พระอสั สชิ ก. ปฏาจารา ข. กสี าโคตมี ค. อบุ ลวรรณา ง. เขมา
๖. พระสารบี ตุ รบรรลเุ ป็นพระอรหนั ต์ ณ ทใ่ี ด ? ๓๑. พระปฏาจาราเถรี ไดร้ บั เอตทคั คะในดา้ นใด ?
ก. เขาคชิ ฌกูฏ ข. ถ้าํ สกุ รขาตา ค. ถาํ้ สตั ตบรรณ ง. เขาเวภาระ ก. มปี ญั ญา ข. มฤี ทธ์ิ ค. ทรงวนิ ยั ง. ทรงผา้ เศรา้ หมอง
๗. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงวธิ แี กง้ ว่ งแก่พระโมคคลั ลานะ กข่ี อ้ ? ๓๒. พระเถรใี ด ยนิ ดเี ฉพาะบรขิ ารทเ่ี ศรา้ หมอง ?
ก. ๕ ขอ้ ข. ๖ ขอ้ ค. ๗ ขอ้ ง. ๘ ขอ้ ก. ปฏาจารา ข. กสี าโคตมี ค. อบุ ลวรรณา ง. เขมา
๘. พระโมคคลั ลานะดบั ขนั ธนพิ พาน ทต่ี าํ บลใด ? ๓๓. สามเณรใด แสดงธรรมแก่โจร ๕๐๐ จนเลอ่ื มใสขอบวชตาม ?
ก. คยาสสี ะ ข. กาฬสลิ า ค. อรุ ุเวลา ง. นาลนั ทา ก. สุขะ ข. สมุ นะ ค. บณั ฑติ ง. สงั กจิ จะ
๙. ปิปผลิ เป็นชอ่ื เดมิ ของพระเถระใด ? ๓๔. สามเณรใด ตงั้ แต่ปฏสิ นธใิ นครรภ์ คนในบา้ นมแี ต่ความสุข ?
ก. อรุ ุเวลกสั สปะ ข. นทกี สั สปะ ค. คยากสั สปะ ง. มหากสั สปะ ก. สขุ ะ ข. สุมนะ ค. บณั ฑติ ง. สงั กจิ จะ
๑๐. ธุดงคก์ ่ขี อ้ ทพ่ี ระมหากสั สปะถอื เป็นนติ ย์ ? ๓๕. วนวาสตี สิ สสามเณร เกดิ ทเ่ี มอื งใด ?
ก. ๒ ขอ้ ข. ๓ ขอ้ ค. ๔ ขอ้ ง. ๕ ขอ้ ก. พาราณสี ข. สาวตั ถี ค. ไพสาลี ง. ราชคฤห์
๑๑. พระเถระใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงสง่ ไปประกาศศาสนาทก่ี รุงอชุ เชนี ? ๓๖. สามเณรใด ไดร้ บั อปุ สมบทจากพระพทุ ธเจา้ ขณะมอี ายุ ๗ ปี ?
ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระอสั สชิ ค. พระอบุ าลี ง. พระมหากจั จายนะ ก. สุขะ ข. สงั กจิ จะ ค. บณั ฑติ ง. สมุ นะ
๑๒. พระมหากจั จายนะแสดงธรรมแก่พระเจา้ มธุรราช ทป่ี ่าไมใ้ ด ? ๓๗. อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี เป็นอรยิ บคุ คลชน้ั ใด ?
ก. มจุ ลนิ ท์ ข. คนุ ธา ค. สเี สยี ด ง. สาละ ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๑๓. พระเถระใด เป็นผูเ้ลศิ ในการอธบิ ายความย่อใหพ้ สิ ดาร ? ๓๘. จติ ตคฤหบดี ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. พระอสั สชิ ข. พระอานนท์ ค. พระมหากจั จายนะ ง. พระสวิ ลี ก. ถวายทาน ข. แสดงธรรม ค. มปี ญั ญา ง. มฤี ทธ์ิ
๑๔. พระอานนท์ เกย่ี วขอ้ งเป็นพระญาตกิ บั พระพทุ ธเจา้ ในฐานะใด ? ๓๙. นางวสิ าขามหาอบุ าสกิ าไดร้ บั ยกย่องว่าเป็นผูเ้ลศิ ในดา้ นใด ?
ก. พระเชษฐา ข. พระอนุชา ค. พระนดั ดา ง. พระปิตจุ ฉา ก. ถวายทาน ข. แสดงธรรม ค. มปี ญั ญา ง. มฤี ทธ์ิ
๑๕. ก่อนทาํ ปฐมสงั คายนา พระอานนทเ์ ป็นพระอรยิ บคุ คลชน้ั ใด ? ๔๐. พระเทวใี ด ทรงแนะนาํ ใหพ้ ระเจา้ ปเสนทโิ กศลถวายอสทสิ ทาน ?
ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์ ก. สมุ นา ข. มลั ลกิ า ค. สุปปวาสา ง. ปมติ า
๑๖. พระเถระใด ไดร้ บั เลอื กใหท้ าํ หนา้ ทเ่ี ป็นพทุ ธอปุ ฏั ฐากประจาํ ? ๔๑. แรม ๑ คาํ่ เดอื น ๘ ของทกุ ปี ตรงกบั วนั ใด ?
ก. พระสาคตะ ข. พระนาคติ ะ ค. พระอานนั ทะ ง. พระอปุ วาณะ ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. ตกั บาตรเทโว ง. ทอดกฐนิ
๑๗. เจา้ ศากยะทง้ั ๖ ใหน้ ายอบุ าลภี ษู ามาลาบวชก่อนเพอ่ื ตอ้ งการลดกเิ ลสใด ? ๔๒. ขอ้ ใด ทพ่ี ทุ ธศาสนิกชนพงึ ปฏบิ ตั ติ ลอดเทศกาลเขา้ พรรษา ?
ก. มจั ฉรยิ ะ ข. มานะ ค. โลภะ ง. อสิ สา ก. ใหท้ าน ข. รกั ษาศีล ค. ฟงั ธรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๘. พระอบุ าลเี รยี นพระวนิ ยั ปิฎกจากผูใ้ ด ? ๔๓. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ไปดาวดงึ ส์ ทรงแสดงธรรมโปรดใคร ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระอสั สชิ ค. พระสารบี ตุ ร ง. พระอานนท์ ก. พทุ ธบดิ า ข. พทุ ธมารดา ค. ทา้ วสกั กะ ง. ทา้ วมหาพรหม
๑๙. ในคราวปฐมสงั คายนา พระอบุ าลที าํ หนา้ ทว่ี สิ ชั นาเร่อื งใด ? ๔๔. การประพรหมนาํ้ พระพทุ ธมนต์ ตามประวตั เิ กดิ ทเ่ี มอื งใด ?
ก. พระวนิ ยั ข. พระสูตร ค. พระอภธิ รรม ง. พระปรติ ร ก. พาราณสี ข. สาวตั ถี ค. ไพสาลี ง. อชุ เชนี
๒๐. พระสวิ ลเี ป็นพระราชนดั ดาของกษตั รยิ แ์ ควน้ ใด ? ๔๕. ววิ าหมงคล ตรงกบั งานพธิ ใี ด ?
ก. โกลยิ ะ ข. ภคั คะ ค. วเิ ทหะ ง. องั คุตราปะ ก. วนั เกดิ ข. ต่ออายุ ค. แตง่ งาน ง. ข้นึ บา้ นใหม่
๒๑. พระเถระใด ไดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นผูเ้ลศิ ดว้ ยลาภ ? ๔๖. การทาํ บญุ อายุ นิยมมาแต่รชั สมยั ใด ?
ก. พระมหากจั จายนะ ข. พระมหาโมคลั ลานะ ค. พระอบุ าลี ง. พระสวิ ลี ก. รชั กาลท่ี ๓ ข. รชั กาลท่ี ๔ ค. รชั กาลท่ี ๕ ง. รชั กาลท่ี ๖
๒๒. พระราหลุ เป็นพระราชนดั ดาของกษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๔๗. การสวดพระพทุ ธมนต์ เป็นพธิ บี าํ เพญ็ กศุ ลปรารภผูใ้ ด ?
ก. พมิ พสิ าร ข. ปเสนทโิ กศล ค. สทุ โธทนะ ง. อเุ ทน ก. ผูอ้ ยู่ ข. ผูต้ าย ค. ผูป้ ่วย ง. ผูม้ เี คราะห์
๒๓. สามเณรรูปแรกทบ่ี วชดว้ ยตสิ รณคมนูปสมั ปทา ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๘. พธิ สี วดแจง นยิ มจดั ใหม้ ใี นการบาํ เพญ็ กศุ ลใด ?
ก. ราหลุ ข. บณั ฑติ ค. สงั กจิ จะ ง. สุมนะ ก. ฌาปนกจิ ข. สตั ตมวาร ข. ปญั ญาสมวาร ง. สตมวาร
๒๔. พระราหลุ เป็นผูส้ นใจใคร่ในเรอ่ื งใด ? ๔๙. ในวดั หน่งึ ทายกทายกิ าทาํ บญุ ทอดกฐนิ ไดป้ ีละก่คี รง้ั ?
ก. การศึกษา ข. นงั่ สมาธิ ค. เดนิ จงกรม ง. แสดงธรรม ก. ๑ ครง้ั ข. ๒ ครงั้ ค. ๓ ครงั้ ง. ๔ ครง้ั
๒๕. พระเถระใด ทลู ขอใหพ้ ระนางมหาปชาบดโี คตมไี ดบ้ วชเป็นภกิ ษุณี ? ๕๐. แรม ๑ คาํ่ เดอื น ๑๑ ถงึ กลางเดอื น ๑๒ ตรงกบั เทศกาลใด ?
ก. พระสารบี ตุ ร ข. พระมหากสั สปะ ค. พระอานนท์ ง. พระนนั ทะ ก. เขา้ พรรษา ข. ออกพรรษา ค. ทอดกฐนิ ง. ลอยกระทง
เฉลยปญั หาวิชาอโุ บสถศีล (วนิ ยั ) ธรรมศึกษาชน้ั โท ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. อโุ บสถศีล เป็นการศึกษาเร่อื งใด ? ๒๖. ขอ้ ใด ทาํ ใหอ้ โุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ ขาด ?
ก. การรกั ษาศีล ๘ ข. การจาํ พรรษา ค. การสรา้ งอโุ บสถ ง. ลทั ธปิ ระเพณี ก. สตั วต์ าย ข. ลกั ของมาได้ ค. ยนิ ดใี นการเสพ ง. คนอน่ื เช่อื คาํ พูด
๒. ขอ้ ใด เป็นวตั ถปุ ระสงคข์ องการถอื อโุ บสถศีล ? ๒๗. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ ใหผ้ ูส้ มาทานรกั ษางดเวน้ การกระทาํ ใด ?
ก. หยุดพกั ผอ่ น ข. สวดปาตโิ มกข์ ค. ทาํ อโุ บสถกรรม ง. ขดั เกลากเิ ลส ก. ฆ่าสตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. ลว่ งประเวณี ง. พดู เทจ็
๓. ขอ้ ใด เป็นเครอ่ื งควบคุมความประพฤตทิ างกายวาจา ? ๒๘. อโุ บสถศีลขอ้ ใด ขาดเพราะทาํ เองก็ได้ ใชใ้ หค้ นอน่ื ทาํ กไ็ ด้ ?
ก. ทาน ข. ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๓ ค. ขอ้ ๕ ง. ขอ้ ๖
๔. อาการเช่นไร เรยี กวา่ รกั ษาศีล ? ๒๙. ยากจนเขญ็ ใจไรท้ พ่ี ง่ึ เป็นโทษจากการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศีลขอ้ ใด ?
ก. ละเมดิ ขอ้ หา้ ม ข. ไมพ่ ูดคุยกนั ค. งดเวน้ ขอ้ หา้ ม ง. ปฏบิ ตั ธิ รรม ก. ขอ้ ๒ ข. ขอ้ ๔ ค. ขอ้ ๕ ง. ขอ้ ๘
๕. อโุ บสถศีลต่างจากศีล ๕ อย่างไร ? ๓๐. ทรพั ยป์ ระเภทใด ไม่เป็นเหตใุ หผ้ ดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๒ ?
ก. มีเวลารกั ษา ข. ไมม่ เี วลารกั ษา ค. งดกนิ เน้ือสตั ว์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ทรพั ยส์ นิ แผน่ ดนิ ข. สงั หารมิ ทรพั ย์ ค. อสงั หารมิ ทรพั ย์ ง. อรยิ ทรพั ย์
๖. ขอ้ ใด เกย่ี วขอ้ งกบั การรกั ษาอโุ บสถศีล ? ๓๑. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ ใหง้ ดเวน้ การกระทาํ ผดิ ทางใด ?
ก. กนิ มงั สวริ ตั ิ ข. งดเน้ือสตั ว์ ค. งดอาหารเยน็ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. กาย ข. วาจา ค. ใจ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๗. ใครกราบทูลขอใหพ้ ระพทุ ธเจา้ ทรงบญั ญตั อิ โุ บสถศีล ? ๓๒. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๓ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ระงบั กเิ ลสใด ?
ก. นางยโสธรา ข. พระเจา้ พมิ พสิ าร ค. นางวสิ าขา ง. พระอานนท์ ก. ความโกรธ ข. ความพยาบาท ค. ความรษิ ยา ง. ความกาํ หนดั
๘. เจตนางดเวน้ จากการลว่ งละเมดิ อโุ บสถศีล เรยี กวา่ อะไร ? ๓๓. การพูดใหค้ ลาดเคลอ่ื นจากความเป็นจรงิ เรยี กวา่ อะไร ?
ก. วริ ตั ิ ข. สงั คหวตั ถุ ค. บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ง. อทิ ธบิ าท ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. อพรหมจรรย์ ง. มสุ าวาท
๙. อโุ บสถประเภทใด เทยี บไดก้ บั การอยู่จาํ พรรษาของพระภกิ ษุ ? ๓๔. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๔ ใหง้ ดเวน้ การกระทาํ ผดิ ทางใด ?
ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ง. อรยิ อโุ บสถ ก. กาย วาจา ข. กาย ใจ ค. วาจา ใจ ง. กาย วาจา ใจ
๑๐. หากรกั ษาปฏชิ าครอโุ บสถในวนั ๘ คาํ่ วนั รบั จะเป็นวนั ก่คี าํ่ ? ๓๕. ขณะรกั ษาอโุ บสถศีล ควรสนทนากนั ถงึ เรอ่ื งอะไร ?
ก. ๗ คาํ่ ข. ๘ คาํ่ ค. ๙ คาํ่ ง. ๑๐ คาํ่ ก. ครอบครวั ข. การเมอื ง ค. การทาํ มาหากนิ ง. การทาํ บญุ
๑๑. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่วนั รกั ษาปกตอิ โุ บสถ ? ๓๖. เครอ่ื งดม่ื ประเภทใด ดม่ื ไดใ้ นขณะรกั ษาอโุ บสถศีล ?
ก. ๗ คาํ่ ข. ๘ คาํ่ ค. ๑๔ คาํ่ ง. ๑๕ คาํ่ ก. นาํ้ ผลไม้ ข. นาํ้ ผ้งึ ค. นาํ้ ออ้ ย ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๒. อโุ บสถประเภทใด กาํ หนดเวลารกั ษาเป็นเกณฑ์ ? ๓๗. ขอ้ ใด คนรกั ษาศีล ๕ และคนรกั ษาอโุ บสถศีลตอ้ งงดเวน้ เหมอื นกนั ?
ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. นิพทั ธอโุ บสถ ค. นคิ คณั ฐอโุ บสถ ง. อรยิ อโุ บสถ ก. กนิ อาหารคาํ่ ข. ด่ืมสรุ า ค. รอ้ งเพลง ง. เตน้ ราํ
๑๓. อโุ บสถประเภทใด กาํ หนดใหร้ กั ษาคราวละ ๓ วนั ? ๓๘. ขอ้ ใด ทา่ นกลา่ ววา่ เป็นเหตแุ หง่ ความประมาทในอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๕ ?
ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปฏชิ าครอโุ บสถ ค. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ง. อรยิ อโุ บสถ ก. เคร่อื งประดบั ข. เคร่อื งดนตรี ค. อาหาร ง. น้ําเมา
๑๔. ผูน้ บั ถอื พระรตั นตรยั เป็นสรณะ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ใด ? ๓๙. ขอ้ ใด กลา่ วถงึ ประโยชนข์ องการรกั ษาอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๖ ไดถ้ กู ตอ้ ง ?
ก. คาํ สอน ข. ความเช่อื ค. ค่านิยม ง. ความพงึ พอใจ ก. เพอ่ื ทรมานกเิ ลส ข. เพอ่ื ทรมานกาย ค. เพ่อื ตดั กงั วล ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๕. ขอ้ ใด เป็นวตั ถปุ ระสงคข์ องการนบั ถอื พระรตั นตรยั เป็นสรณะ ? ๔๐. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๖ กาํ หนดใหผ้ ูร้ กั ษาบรโิ ภคอาหารในเวลาใด ?
ก. ไดน้ งั่ ใกล้ ข. ขอโชคลาภ ค. ปรนนิบตั ิ ง. เป็นทพ่ี ่งึ ทางใจ ก. เชา้ ถงึ เทย่ี ง ข. ตอนบา่ ย ค. ตอนเยน็ ง. ตอนคาํ่
๑๖. เพราะเหตใุ ด พระรตั นตรยั จงึ ไดช้ ่อื วา่ เป็นสรณะทป่ี ลอดภยั ? ๔๑. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๗ ใหผ้ ูส้ มาทานรกั ษางดเวน้ การกระทาํ ใด ?
ก. กาํ จดั ทกุ ข์ ข. กาํ จดั ภยั ค. กาํ จดั เวร ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เสพกาม ข. กนิ ขา้ วเยน็ ค. เสริมสวย ง. นินทาชาวบา้ น
๑๗. คาํ ว่า รกั ษาผูป้ ฏบิ ตั ไิ ม่ใหต้ กไปสู่ทช่ี วั่ เป็นความหมายของขอ้ ใด ? ๔๒. การกระทาํ ใด ไม่เป็นขา้ ศึกต่อการรกั ษาอโุ บสถศีล ?
ก. พระพทุ ธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เลน่ ดนตรี ข. สวดสรภญั ญะ ค. รอ้ งคาราโอเกะ ง. เตน้ ราํ
๑๘. คาํ วา่ สรณะ แปลวา่ อะไร ? ๔๓. กริ ยิ าใด ไมเ่ ป็นขอ้ หา้ มในอโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๗ ?
ก. ท่พี ง่ึ ท่รี ะลกึ ข. ทบ่ี ชู า ค. ทศ่ี กั ด์สิ ทิ ธ์ิ ง. ทก่ี ราบไหว้ ก. ฟงั เทศน์ ข. ฟ้อนราํ ค. ขบั รอ้ ง ง. ประโคม
๑๙. เพราะเหตใุ ด พระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ จงึ ไดช้ ่อื วา่ สรณะ ? ๔๔. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๘ บญั ญตั เิ พอ่ื ตดั ความกงั วลในเรอ่ื งใด ?
ก. เป็นทพ่ี ง่ึ แกผ่ ูน้ บั ถอื ข. เป็นสง่ิ ศกั ด์สิ ทิ ธ์ิ ค. เป็นทบ่ี ชู า ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. การนงั่ นอน ข. การดม่ื ค. การกนิ ง. การพดู คุย
๒๐. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่คณุ ของพระสงฆ์ ? ๔๕. ผูร้ กั ษาอโุ บสถ ควรเวน้ ทน่ี อนประเภทใด ?
ก. เป็นผูป้ ฏบิ ตั ชิ อบ ข. ช่วยกาํ จดั ภยั ค. เป็นเน้อื นาบญุ ง. เป็นผูป้ ฏบิ ตั ติ รง ก. ทน่ี อนสูงใหญ่ ข. ทน่ี อนยดั นุ่น ค. ทน่ี อนยดั สาํ ลี ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๑. ใครประกาศคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ ใหร้ ูจ้ กั บาปบญุ คุณโทษ ? ๔๖. อโุ บสถใด เปรยี บไดก้ บั คนรบั จา้ งเล้ยี งโค ?
ก. อาชวี ก ข. นคิ รนถ์ ค. ปรพิ าชก ง. พระสงฆส์ าวก ก. โคปาลกอโุ บสถ ข. นคิ คณั ฐอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. ปฏชิ าครอโุ บสถ
๒๒. คาํ วา่ อชชฺ โภนฺโต ปกขฺ สฺส ปณฺณรสที วิ โส ... เป็นคาํ อะไร ? ๔๗. อโุ บสถใด เปรยี บไดก้ บั การรกั ษาอโุ บสถของนกั บวชนอกพระพทุ ธศาสนา ?
ก. อาราธนาศีล ข. ประกาศอโุ บสถ ค. รบั สรณคมน์ ง. บชู าพระรตั นตรยั ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. นิคคณั ฐอโุ บสถ ค. อรยิ อโุ บสถ ง. นพิ ทั ธอโุ บสถ
๒๓. ขน้ั ตอนใด กาํ หนดใหท้ าํ ต่อจากประกาศอโุ บสถ ? ๔๘. อโุ บสถใด แสดงอานสิ งสใ์ นการรกั ษาเป็นเกณฑ์ ?
ก. อาราธนาศีล ข. สมาทานศีล ค. รบั สรณคมน์ ง. บชู าพระรตั นตรยั ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. ปาฏหิ ารยิ อโุ บสถ ค. อริยอโุ บสถ ง. นิพทั ธอโุ บสถ
๒๔. ขอ้ ใด ไม่ใช่องคป์ ระกอบในการทาํ ผดิ อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ ? ๔๙. อโุ บสถใด เป็นการปฏบิ ตั ติ นตามพระอรหนั ต์ ?
ก. สตั วม์ ชี วี ติ ข. รูว้ ่าสตั วม์ ชี วี ติ ค. จติ คดิ จะฆ่า ง. จติ คดิ จะลกั ก. ปกตอิ โุ บสถ ข. โคปาลกอโุ บสถ ค. อริยอโุ บสถ ง. ปฏชิ าครอโุ บสถ
๒๕. อโุ บสถศีลขอ้ ท่ี ๑ บญั ญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ใหผ้ ูร้ กั ษาเป็นคนเช่นไร ? ๕๐. การถอื อโุ บสถศีล จะไดร้ บั อานิสงสม์ ากหรอื นอ้ ยข้นึ อยู่กบั อะไร ?
ก. ไม่โหดรา้ ย ข. ไมห่ ลอกลวง ค. ไมท่ าํ มจิ ฉาชพี ง. ไมด่ ูหมน่ิ คู่ครอง ก. สุขภาพ ข. อายุ ค. บญุ บารมี ง. ความตง้ั ใจ
เฉลยปญั หาวิชาธรรมวจิ ารณ์ ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน )
๑. ขอ้ ใด เป็นความหมายของนิพพทิ า ? ๒๖. คาํ วา่ จงพอกพนู ทางแห่งสนั ติ อะไรเรยี กวา่ ทาง ?
ก. หน่ายทกุ ข์ ข. ส้นิ กาํ หนดั ค. หลดุ พน้ ง. หมดจด ก. มรรค ๘ ข. วชิ ชา ๘ ค. สจุ รติ ๓ ง. กศุ ลมลู ๓
๒. พระพทุ ธเจา้ ตรสั เรยี กพทุ ธบรษิ ทั ใหม้ าดูโลกเพอ่ื ประโยชนอ์ ะไร ? ๒๗. ผูม้ ่งุ ความสงบอย่างแทจ้ รงิ ตอ้ งละเวน้ อะไร ?
ก. คลายเครยี ด ข. คลายทกุ ข์ ค. คลายกงั วล ง. รูค้ วามจรงิ ก. สงั คม ข. เพอ่ื น ค. โลกามสิ ง. ญาติ
๓. ในอทุ เทสแหง่ นพิ พทิ า พระพทุ ธเจา้ ทรงเปรยี บเทยี บโลกกบั อะไร ? ๒๘. อปุ มาวา่ ดจุ ไฟส้นิ เช้อื แลว้ ดบั ไปเอง เป็นการกลา่ วถงึ สภาวธรรมใด ?
ก. ราชรถ ข. สารถี ค. เคหสถาน ง. ภมู ปิ ระเทศ ก. นิพพาน ข. วมิ ตุ ติ ค. วสิ ทุ ธิ ง. นโิ รธสมาบตั ิ
๔. ทาํ อย่างไร จงึ จะไม่ขอ้ งอยู่ในโลก ? ๒๙. ผูเ้ร่มิ ถงึ กระแสพระนิพพาน หมายถงึ พระอรยิ บคุ คลใด ?
ก. ออกบวช ข. ปรารถนาไมเ่ กดิ อกี ค. ไม่ยุ่งกบั ใคร ง. ไม่ตดิ สง่ิ ลอ่ ใจ ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์
๕. อาการเช่นไร เรยี กวา่ สาํ รวมจติ ? ๓๐. ผูเ้หน็ ภยั ในความประมาท ช่อื วา่ ปฏบิ ตั ใิ กลต้ ่ออะไร ?
ก. สาํ รวมอนิ ทรยี ์ ข. เจรญิ กมั มฏั ฐาน ค. เจรญิ วปิ สั สนา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. สวรรค์ ข. พรหมโลก ค. นิพพาน ง. เทวโลก
๖. อะไรคอื มาร ทท่ี าํ ใหข้ อ้ งอยู่ในโลก ? ๓๑. พทุ ธพจนว์ ่า จติ เฺ ต อสงกฺ ลิ ฏิ เฐ สคุ ติ ปาฏกิ งฺขา ยนื ยนั เรอ่ื งใด ?
ก. รูป ข. เสยี ง ค. โผฏฐพั พะ ง. ตณั หา ก. ตายแลว้ เกดิ ข. ตายแลว้ สูญ ค. ตายแลว้ ฟ้ืน ง. ถกู ทกุ ขอ้
๗. รูป เสยี ง กลน่ิ รส โผฏฐพั พะ จดั เป็นอะไร ? ๓๒. ปรารถนาจะไปสคุ ติ ควรบาํ เพญ็ ธรรมใด ?
ก. มาร ข. บว่ งแหง่ มาร ค. อายตนะภายใน ง. กเิ ลสกาม ก. ขนั ติ ข. โสรจั จะ ค. สติ ง. ศีล
๘. เหน็ สงั ขารดว้ ยธรรมใด จงึ จะหน่ายในทกุ ข์ ? ๓๓. ในส่วนสงั สารวฏั ฏ์ เดก็ แรกคลอด คนเจบ็ คนชรา เรยี กว่าอะไร ?
ก. สติ ข. สมั ปชญั ญะ ค. ปญั ญา ง. วมิ งั สา ก. ธรรมทูต ข. เทวทูต ค. ยมทตู ง. สมณทูต
๙. มนุษย์ จดั เป็นสงั ขารชนดิ ใด ? ๓๔. เทวทูตเป็นสญั ญานเตอื นมนุษยใ์ หต้ ระหนกั ในเร่อื งใด ?
ก.อปุ าทนิ นกสงั ขาร ข.อนุปาทนิ นกสงั ขาร ค.ปญุ ญาภสิ งั ขาร ง.ถกู ทกุ ขอ้ ก. ความไม่โกรธ ข. ความไมโ่ ลภ ค. ความไมป่ ระมาท ง. ความกลวั
๑๐. ในคมั ภรี ว์ สิ ทุ ธมิ รรค มชั ฌมิ วยั วยั กลางคน กาํ หนดอายุไวอ้ ย่างไร ? ๓๕. ความหมายทวั่ ไปของคาํ วา่ เปรต ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. ๑-๓๓ ปี ข. ๓๔-๕๕ ปี ค. ๓๔-๖๗ ปี ง. ๖๘-๑๐๐ ปี ก. สตั วน์ รก ข. สตั วด์ ริ จั ฉาน ค. อสรุ กาย ง. คนทต่ี ายไปแลว้
๑๑. ความขาดตอนแห่งสนั ตติ ทาํ ใหเ้หน็ อะไร ? ๓๖. ทฏิ ฐธรรมเวทนียกรรม มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อนิจจงั ข. ทกุ ขงั ค. อนตั ตา ง. สงั ขาร ก. กรรมทนั ตาเหน็ ข. กรรมแต่งใหเ้กดิ ค. กรรมหนกั ง. กรรมตดั รอน
๑๒. คนฆ่าตวั ตาย มสี าเหตสุ ว่ นใหญ่มาจากทกุ ขใ์ ด ? ๓๗. การกระทาํ ในขอ้ ใด ชะลอการใหผ้ ลของกรรมชวั่ ?
ก. สภาวทกุ ข์ ข. ปกณิ ณกทกุ ข์ ค. นพิ ทั ธทกุ ข์ ง. สหคตทกุ ข์ ก. รดนาํ้ มนต์ ข. สะเดาะเคราะห์ ค. ต่อชะตา ง. ทาํ ความดีตอ่ เน่ือง
๑๓. ทกุ ขเ์ พราะอะไร จดั เป็นสนั ตาปทกุ ข์ ? ๓๘. ผูป้ ระสบอบุ ตั เิ หตตุ ายก่อนวยั อนั ควร เพราะกรรมใดใหผ้ ล ?
ก. ความโกรธ ข. ความแก่ ค. ความเจบ็ ง. ความตาย ก. ชนกกรรม ข. ครุกรรม ค. อปุ ฆาตกกรรม ง. กตตั ตากรรม
๑๔. ทกุ ขม์ สี ภาวะอย่างไร ? ๓๙. ขอ้ ใด เป็นหวั ใจสมถกมั มฏั ฐาน ?
ก. เกดิ ข้นึ ข. ตง้ั อยู่ ค. เสอ่ื มไป ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อสภุ ะ ข. อาหาเรปฏกิ ูลสญั ญา ค. อรูป ง. เมตตา
๑๕. คาํ สอนในเร่อื งใด แสดงว่าศาสนาพทุ ธต่างจากศาสนาพราหมณ์ ? ๔๐. เหน็ อาการ ๓๒ อย่างไร จงึ จะเป็นกมั มฏั ฐาน ?
ก. สงั สารวฏั ฏ์ ข. อนตั ตา ค. บาป-บญุ ง. นรก-สวรรค์ ก. ปฏกิ ลู ข. สวยงาม ค. น่ากลวั ง. น่ารกั
๑๖. ในบาลปี ฏปิ ทาแหง่ นิพพทิ า ท่านกลา่ วอะไรเป็นอนตั ตา ? ๔๑. การเจรญิ เมตตา แกน้ วิ รณใ์ ด ?
ก. ธรรมทง้ั ปวง ข. สงั ขารทง้ั ปวง ค. ทกุ ขท์ งั้ ปวง ง. เวทนาทงั้ ปวง ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท ค. ถนี มทิ ธะ ง. วจิ กิ จิ ฉา
๑๗. วริ าคะ เกดิ ต่อจากอะไร ? ๔๒. ขอ้ ใด เป็นอารมณข์ องสมถกมั มฏั ฐานตามนยั พระบาลี ?
ก. นิพพทิ า ข. วสิ ทุ ธิ ค. วมิ ตุ ติ ง. สนั ติ ก. สตปิ ฏั ฐาน ข. กสณิ ค. อสุภะ ง. อนุสสติ
๑๘. การเวยี นวา่ ยตายเกดิ ดว้ ยอาํ นาจกเิ ลส กรรม วบิ าก เรยี กว่าอะไร ? ๔๓. ผูท้ ป่ี ระมาทในวยั วา่ ยงั หนุ่มสาว ควรพจิ ารณาเรอ่ื งใดบอ่ ยๆ ?
ก. วบิ าก ข. อาลยั ค. ตณั หา ง. วฏั ฏะ ก. ความแก่ ข. ความเจบ็ ค. ความตาย ง. ความพลดั พราก
๑๙. วกิ ขมั ภนวมิ ตุ ติ เป็นความหลดุ พน้ ดว้ ยอาํ นาจอะไร ? ๔๔. ร่างกายบคุ คลเคลอ่ื นไหวไดเ้พราะอาศยั ธาตใุ ด ?
ก. ปญั ญา ข. ญาณ ค. ฌาน ง. วมิ ตุ ติ ก. ธาตดุ นิ ข. ธาตนุ าํ้ ค. ธาตไุ ฟ ง. ธาตลุ ม
๒๐. ตทงั ควมิ ตุ ติ เป็นความหลดุ พน้ ของใคร ? ๔๕. คนรกั สวยรกั งาม นิยมสนิ คา้ ราคาแพง จดั เป็นคนจรติ ใด ?
ก. ปถุ ชุ น ข. พระโสดาบนั ค. พระสกทาคามี ง. พระอนาคามี ก. ราคจรติ ข. โทสจรติ ค. โมหจรติ ง. สทั ธาจรติ
๒๑. ในวสิ ุทธิ บคุ คลจะบรสิ ุทธ์ไิ ด้ ตอ้ งอาศยั อะไร ? ๔๖. พทุ ธคณุ บทใด ยนื ยนั ว่า พระพทุ ธเจา้ ทรงเป็นพระบรมครู ?
ก. ทาน ข. ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา ก. อนุตตฺ โร ปรุ สิ ทมมฺ สารถิ ข. สตถฺ า เทวมนุสฺสานํ ค. พทุ โฺ ธ ง. ภควา
๒๒. เพอ่ื ความหมดจดแหง่ ทสั สนะ ตอ้ งเดนิ ทางสายใด ? ๔๗. พทุ ธคุณบทวา่ พทุ โฺ ธ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อรยิ มรรค ข. มคั คสจั ค. มชั ฌมิ าปฏปิ ทา ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เสดจ็ ไปดแี ลว้ ข. รูแ้ จง้ โลก ค. ผูร้ ู้ ผูต้ น่ื ผูเ้ บกิ บาน ง. ผูจ้ าํ แนกธรรม
๒๓. การทาํ งานทเ่ี ป็นไปตามหลกั กายสจุ รติ จดั เขา้ ในมรรคใด ? ๔๘. วปิ สั สนากมั มฏั ฐาน เป็นการปฏบิ ตั เิ พอ่ื ใหเ้กดิ ธรรมใด ?
ก. สมั มากมั มนั ตะ ข. สมั มาอาชวี ะ ค. สมั มาวายามะ ง. สมั มาสติ ก. ขนั ติ ข. สติ ค. สมาธิ ง. ปญั ญา
๒๔. อาชพี เกษตรกร ทาํ นาทาํ ไร่ จดั เขา้ ในมรรคใด ? ๔๙. วปิ สั สนูปกเิ ลสทท่ี าํ ใหผ้ ูเ้จรญิ วปิ สั สนาสาํ คญั วา่ ตนบรรลธุ รรม คอื ขอ้ ใด ?
ก. สมั มากมั มนั ตะ ข. สมั มาอาชีวะ ค. สมั มาวายามะ ง. สมั มาสติ ก. ญาณ ข. สขุ ค. อเุ บกขา ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๕. อรยิ มรรคใด สงเคราะหเ์ ขา้ ในสลี วสิ ุทธิ ? ๕๐. อานสิ งสข์ องการเจรญิ วปิ สั สนา คอื ขอ้ ใด ?
ก. สมั มาสงั กปั ปะ ข. สมั มาวาจา ค. สมั มาวายามะ ง. สมั มาสติ ก. มสี ตกิ ่อนตาย ข. เกดิ ในสุคติ ค. เป็นอปุ นสิ ยั มรรคผล ง. ถกู ทกุ ขอ้
เฉลยปญั หาวชิ าพทุ ธานุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว แลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบ ใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. การจตุ จิ ากสวรรคข์ องเทวดา มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ๒๖. บคุ คลใด ในปญั จวคั คยี ไ์ ดด้ วงตาเหน็ ธรรมเป็นคนแรก ?
ก. เกดิ ข. แก่ ค. เจบ็ ง. ตาย ก. โกณฑญั ญะ ข. วปั ปะ ค. ภทั ทยิ ะ ง. มหานามะ
๒. เหตใุ หเ้ทวดาเคลอ่ื นจากสวรรค์ มกี อ่ี ย่าง ? ๒๗. ปญั จวคั คยี พ์ อฟงั อนตั ตลกั ขณสูตรจบลง เป็นอรยิ บคุ คลชน้ั ใด ?
ก. ๓ อย่าง ข. ๔ อย่าง ค. ๕ อยา่ ง ง. ๖ อย่าง ก. โสดาบนั ข. สกทาคามี ค. อนาคามี ง. อรหนั ต์
๓. มหาวโิ ลกนะ มกี ่ปี ระการ ? ๒๘. “ทน่ี ่ไี ม่วุ่นวายหนอ ทน่ี ่ไี มข่ ดั ขอ้ งหนอ” พระพทุ ธเจา้ ตรสั กบั ใคร ?
ก. ๕ ประการ ข. ๖ ประการ ค. ๗ ประการ ง. ๘ ประการ ก. ยสะ ข. สุพาหุ ค. ปณุ ณชิ ง. ควมั ปติ
๔. พระบรมโพธสิ ตั วถ์ อื ปฏสิ นธใิ นพระครรภ์ ของพระเทวใี ด ? ๒๙. พระพทุ ธสาวกชดุ แรก ทส่ี ่งไปประกาศพระศาสนามกี ่อี งค์ ?
ก. กญั จนา ข. ยโสธรา ค. สริ มิ หามายา ง. มหาปชาบดโี คตมี ก. ๕ องค์ ข. ๔๕ องค์ ค. ๖๐ องค์ ง. ๖๑ องค์
๕. ชมพูทวปี แบง่ การปกครองออกเป็นก่สี ว่ น ? ๓๐. พระพทุ ธเจา้ แสดงอาทติ ตปรยิ ายสูตรโปรดใคร ?
ก. ๑ สว่ น ข. ๒ สว่ น ค. ๓ สว่ น ง. ๔ ส่วน ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. ยสกลุ บตุ ร ค. ชฎลิ ๓ พน่ี อ้ ง ง. อปุ ตสิ สะ
๖. สง่ิ ใด ทค่ี นในชมพทู วปี ส่วนใหญ่ยดึ ถอื อย่างแรงกลา้ ? ๓๑. กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด สรา้ งวดั แหง่ แรกถวายในพระพทุ ธศาสนา ?
ก. โชคลาง ข. ถอื ตน ค. เชอ่ื มงคล ง. เช่อื กรรม ก. พมิ พสิ าร ข. ปเสนทิ ค. จนั ทปชั โชต ง. อเุ ทน
๗. เมอื งหลวงของแควน้ สกั กะ ชอ่ื วา่ อะไร ? ๓๒. ภตั ตกาล คอื เวลาทาํ สง่ิ ใด ?
ก. กบลิ พสั ดุ์ ข. เทวทหะ ค. ราชคฤห์ ง. กสุ นิ ารา ก. ฉนั นาํ้ ปานะ ข. ฉนั อาหาร ค. ทาํ วตั รเชา้ ง. ทาํ วตั รเยน็
๘. พระนางสริ มิ หามายาประสูติ ทแ่ี ควน้ ใด ? ๓๓. อปุ ตสิ สปรพิ าชกเมอ่ื บวชในพระพทุ ธศาสนา ปรากฏชอ่ื ว่าอะไร ?
ก. สกั กะ ข. โกลยิ ะ ค. มคธ ง. โกศล ก. โกณฑญั ญะ ข. อสั สชิ ค. สารบี ตุ ร ง. โมคคลั ลานะ
๙. พระนางสริ มิ หามายาทรงอภเิ ษกสมรส กบั กษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด ? ๓๔. พระสารบี ตุ รดบั ขนั ธนิพพานก่อนพระโมคคลั ลานะ กว่ี นั ?
ก. สทุ โธทนะ ข. สุกโกทนะ ค. โธโตทนะ ง. อมโิ ตทนะ ก. ๑๓ วนั ข. ๑๔ วนั ค. ๑๕ วนั ง. ๑๖ วนั
๑๐. สง่ิ ใด ทพ่ี ระนางสริ มิ หามายาทรงพระสบุ นิ นมิ ติ เหน็ ? ๓๕. “ใครช่อื วา่ เป็นผูส้ นั โดษ .....” เป็นคาํ ถามของมาณพใด ?
ก. ชา้ งเผือก ข. มา้ อาชาไนย ค. โคอสุ ภะ ง. พระกมุ าร ก. อชติ ะ ข. ตสิ สเมตเตยยะ ค. ปณุ ณกะ ง. เมตตคู
๑๑. พระโพธสิ ตั วท์ รงประกอบดว้ ยอนุพยญั ชนะ กอ่ี ย่าง ? ๓๖. ภกิ ษุใด ทูลลาพระพทุ ธเจา้ กลบั ไปแจง้ ขา่ วแก่พราหมณพ์ าวรี ?
ก. ๕๐ อย่าง ข. ๖๐ อย่าง ค. ๗๐ อย่าง ง. ๘๐ อยา่ ง ก. พระเมฆยิ ะ ข. พระโตเทยยะ ค. พระโมฆราช ง. พระปิงคยิ ะ
๑๒. พระโพธสิ ตั วค์ รน้ั ประสูตแิ ลว้ เปลง่ อาสภวิ าจาได้ มกี ่พี ระชาติ ? ๓๗. ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ ด ของพระราธะทค่ี วรถอื เป็นแบบอย่าง ?
ก. ๒ พระชาติ ข. ๓ พระชาติ ค. ๔ พระชาติ ง. ๕ พระชาติ ก. ขยนั ข. สนั โดษ ค. เล้ยี งงา่ ย ง. วา่ งา่ ย
๑๓. สง่ิ ทอ่ี บุ ตั ใิ นวนั เดยี วกบั พระโพธสิ ตั ว์ เรยี กวา่ อะไร ? ๓๘. พระเถระใด เป็นหลานของพระอญั ญาโกณฑญั ญะ ?
ก. สหชาติ ข. ทศชาติ ค. มหาชาติ ง. ทวชิ าติ ก. พระรฐั บาล ข. พระโสณะ ค. พระปณุ ณะ ง. พระอชติ ะ
๑๔. สตั วท์ เ่ี กดิ ในวนั เดยี วกบั พระโพธสิ ตั ว์ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๓๙. พระเจา้ สุทโธทนะฟงั มหาธรรมปาลชาดกจบ ไดบ้ รรลผุ ลใด ?
ก. ชา้ งเผอื ก ข. มา้ กณั ฐกะ ค. โคอสุ ภะ ง. จามรี ก. โสดาปตั ตผิ ล ข. สกทาคามผิ ล ค. อนาคามิผล ง. อรหตั ตผล
๑๕. สทิ ธตั ถราชกมุ าร ไดร้ บั การถวายพระนามอกี อย่างวา่ อะไร ? ๔๐. อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐไี ดบ้ รรลโุ สดาบนั ทเ่ี มอื งใด ?
ก. ทปี งั กร ข. ชนิ สหี ์ ค. องั ครี ส ง. เมตไตย ก. ราชคฤห์ ข. สาวตั ถี ค. พาราณสี ง. กบลิ พสั ดุ์
๑๖. สทิ ธตั ถราชกมุ ารไดบ้ รรลปุ ฐมฌาน ภายใตต้ น้ ไมใ้ ด ? ๔๑. วดั ใด ทอ่ี นาถบณิ ฑกิ เศรษฐสี รา้ งถวาย ?
ก. ตน้ โพธ์ิ ข. ตน้ ไทร ค. ตน้ ไผ่ ง. ตน้ หวา้ ก. เวฬวุ นั ข. อมั พวนั ค. เชตวนั ง. ลฏั ฐวิ นั
๑๗. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะพอพระทยั ในการบรรพชา เพราะเหน็ เทวทตู ใด ? ๔๒. ผูใ้ ด ลอบปลงพระชนมพ์ ระพทุ ธเจา้ ดว้ ยความอาฆาต ?
ก. คนแก่ ข. คนเจบ็ ค. คนตาย ง. สมณะ ก. พระเทวทตั ข. อชาตศตั รู ค. นายขมงั ธนู ง. นนั ทมาณพ
๑๘. พระมหาบรุ ษุ ศึกษาจนสาํ เรจ็ สมาบตั ิ ๘ ในสาํ นกั อาจารยใ์ ด ? ๔๓. ผูใ้ ด ยยุ งใหอ้ ชาตศตั รูราชกมุ ารทาํ ปิตฆุ าต ?
ก. อสติ ดาบส ข. ครูวศิ วามติ ร ค. อาฬารดาบส ง. อทุ ทกดาบส ก. สปุ ปพทุ ธะ ข. เทวทตั ค. นนั ทมาณพ ง. โกกาลกิ ะ
๑๙. ขอ้ ใด ตรงกบั กศุ ลวตั รอนั วเิ ศษทน่ี ยิ มปฏบิ ตั ใิ นชมพูทวปี ? ๔๔. ธรรมขอ้ ใด ทพ่ี ระอนุรทุ ธะสรรเสรญิ และเจรญิ อยู่เป็นนติ ย์ ?
ก. กาลกริ ยิ า ข. อกาลกริ ยิ า ค. ทกุ รกริ ิยา ง. บญุ กริ ยิ า ก. ปธาน ๔ ข. รูปฌาน ๔ ค. อรูปฌาน ๔ ง. สตปิ ฏั ฐาน ๔
๒๐. ชนกลมุ่ ใด ออกบวชตามพระมหาบรุ ษุ ? ๔๕. พระอานนทฟ์ งั โอวาทของพระปณุ ณมนั ตานีบตุ ร บรรลผุ ลใด ?
ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. ภทั ทวคั คยี ์ ค. สหายพระยสะ ง. ฉพั พคั คยี ์ ก. โสดาปตั ตผิ ล ข. สกทาคามผิ ล ค. อนาคามผิ ล ง. อรหตั ตผล
๒๑. พระมหาบรุ ุษทรงบรรลอุ าสวกั ขยญาณ ในยามใด ? ๔๖. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงยมกปาฏหิ ารยิ ์ ทต่ี น้ ไมใ้ ด ?
ก. ปฐมยาม ข. มชั ฌมิ ยาม ค. ปจั ฉิมยาม ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ตน้ โพธ์ิ ข. ตน้ ไทร ค. ตน้ ไผ่ ง. ตน้ มะมว่ ง
๒๒. พทุ ธคยาสถานทต่ี รสั รูใ้ นอนิ เดยี ปจั จบุ นั ตง้ั อยู่ในรฐั ใด ? ๔๗. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงพระอภธิ รรมโปรดใคร ?
ก. อสั สมั ข. พหิ าร ค. สกิ ขมิ ง. ปญั จาบ ก. พทุ ธบดิ า ข. พทุ ธมารดา ค. พทุ ธอนุชา ง. พทุ ธสาวก
๒๓. บคุ คลใด มอี ปุ นิสยั รูธ้ รรมไดโ้ ดยพลนั เหมอื นดอกบวั พน้ นาํ้ ? ๔๘. โลกววิ รณปาฏหิ ารยิ ์ เกดิ ข้นึ ตรงกบั วนั ใด ?
ก. อคุ ฆตติ ญั �ู ข. วปิ จติ ญั �ู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ ก. มาฆบูชา ข. เขา้ พรรษา ค. ออกพรรษา ง. เทโวโรหณะ
๒๔. สง่ิ ใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ประทานแก่ตปสุ สะและภลั ลกิ ะ ? ๔๙. พระเถระใด ทาํ ความเพยี รเดนิ จงกรมจนเทา้ แตก ?
ก. พระโลมา ข. พระเกสา ค. พระทนต์ ง. พระนขา ก. อชติ ะ ข. พระโสณโกฬวิ สิ ะ ค. รฐั ปาละ ง. ราธะ
๒๕. กามสขุ ลั ลกิ านุโยค คอื การปฏบิ ตั ติ นหมกมนุ่ ในสง่ิ ใด ? ๕๐. พระพทุ ธเจา้ ทรงบาํ เพญ็ พทุ ธกจิ อยู่ก่ปี ี ?
ก. ลาภ ข. ยศ ค. กาย ง. กาม ก. ๒๙ ปี ข. ๓๕ ปี ค. ๔๕ ปี ง. ๘๐ ปี
เฉลยปญั หาวชิ ากรรมบถ (วนิ ยั ) ธรรมศึกษาชน้ั เอก ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป สอบในสนามหลวง
วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ สอบเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.
คาํ สงั่ : จงเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดยี วแลว้ ระบายในกระดาษคาํ ตอบใหเ้ วลา ๕๐ นาที ๕๐ ขอ้ (๑๐๐ คะแนน)
๑. มนุษยจ์ ะรูจ้ กั วธิ ดี าํ เนนิ ชวี ติ ทางถกู หรอื ผดิ ควรศึกษาเร่อื งใด ? ๒๖. คนพูดยแุ หย่ใหค้ นอน่ื ทะเลาะกนั ทาํ ผดิ อกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. เบญจศีล ข. อโุ บสถศีล ค. กรรมบถ ง. พทุ ธประวตั ิ ก. มสุ าวาท ข. ปิสณุ วาจา ค. ผรุสวาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ
๒. ขอ้ ใด จาํ แนกสตั วใ์ หม้ ชี วี ติ แตกต่างกนั ? ๒๗. คาํ พูดไมน่ ่าเช่อื ถอื เป็นโทษจากอกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. กเิ ลส ข. ตณั หา ค. กรรม ง. สุขทกุ ข์ ก. อทนิ นาทาน ข. กาเมสุมจิ ฉาจาร ค. มสุ าวาท ค. พยาบาท
๓. ความสุขความทกุ ขข์ องสตั วท์ ง้ั หลายเกดิ จากอะไร ? ๒๘. อกศุ ลกรรมมบถขอ้ ๔ ทาํ ใหส้ งั คมมนุษยข์ าดหลกั ธรรมใด ?
ก. ความรู้ ข. ยศศกั ด์ิ ค. ทรพั ยส์ มบตั ิ ง. ผลกรรม ก. สจั จะ ข. เมตตา กรุณา ค. ขนั ติ ง. สตสิ มั ปชญั ญะ
๔. ขอ้ ใด จาํ กดั ความของคาํ วา่ กรรมบถ ไดถ้ กู ตอ้ ง ? ๒๙. อกศุ ลกรรมมบถขอ้ ๔ ใหผ้ ลในภายหนา้ แก่ผูก้ ระทาํ อย่างไร ?
ก. ทางสายกลาง ข. ทางสคุ ตทิ คุ ติ ค. ทางอบาย ง. ทางพน้ ทกุ ข์ ก. มอี ายุสน้ั ข. มชี วี ติ ขดั สน ค. เป็นคนบา้ ง. ไมน่ ่าเช่ือถอื
๕. กรรมบถมผี ลต่อชวี ติ มนุษยใ์ นปจั จบุ นั อย่างไร ? ๓๐. คาํ ดดุ ่า ผูพ้ ดู มเี จตนาใด ?
ก. รูจ้ กั ทาํ ดี ข. รูจ้ กั พูดดี ค. รูจ้ กั คดิ ดี ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. หลอกลวง ข. ใหเ้ จบ็ ใจ ค. ใหแ้ ตกแยก ง. ใหเ้ขา้ ใจผดิ
๖. ขอ้ ใด เป็นองคป์ ระกอบของกรรมบถ ? ๓๑. อภชิ ฌา พยาบาท มจิ ฉาทฏิ ฐิ เป็นกรรมบถประเภทใด ?
ก. เจตนา ข. กรรม ค. สุคติ ง. ทคุ ติ ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
๗. ขอ้ ใด ไม่นบั เขา้ ในกรรมบถ ๑๐ ประการ ? ๓๒. ขอ้ ใด มคี วามหมายตรงกบั อภชิ ฌา ?
ก. ฆ่าสตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์ ค. ด่มื สรุ า ง. พูดปด ก. อยากได้ ข. อยากดี ค. อยากเด่น ง. อยากดงั
๘. กรรมทเ่ี กดิ ข้นึ จากการกระทาํ ทางกาย เรยี กวา่ อะไร ? ๓๓. อกศุ ลกรรมบถใด ทาํ ใหค้ นผูกโกรธฉุนเฉียวงา่ ย ?
ก. กายกรรม ข. วจกี รรม ค. มโนกรรม ง. กรรมวบิ าก ก. ปาณาตบิ าต ข. พยาบาท ค. ผรสุ วาจา ง. มจิ ฉาทฏิ ฐิ
๙. ขอ้ ใด เป็นกรรมบถเกดิ ข้นึ จากการกระทาํ ทางกาย ? ๓๔. อกศุ ลกรรมบถใด ทาํ ใหค้ นไมเ่ ช่อื เรอ่ื งบาปบญุ ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. มสุ าวาท ค. พยาบาท ง. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ง. มสุ าวาท
๑๐. ฆ่าชา้ งเอางามโี ทษมาก เพราะเหตใุ ด ? ๓๕. เหน็ กงจกั รเป็นดอกบวั สอดคลอ้ งกบั กรรมบถใด ?
ก. สตั วแ์ สนรู้ ข. สตั วน์ ่ารกั ค. มกี าํ ลงั มาก ง. เป็นสตั วใ์ หญ่ ก. อภชิ ฌา ข. อนภชิ ฌา ค. มิจฉาทฏิ ฐิ ง. สมั มาทฏิ ฐิ
๑๑. การฆ่าสตั วต์ ดั ชวี ติ จะสาํ เรจ็ เป็นกรรมบถในขนั้ ตอนใด ? ๓๖. เหน็ วา่ สตั วท์ ง้ั หลายตายแลว้ สูญ ไมม่ กี ารเกดิ อกี จดั เป็นทฏิ ฐใิ ด?
ก. รูว้ า่ มชี วี ติ ข. คดิ จะฆ่า ค. พยายามฆ่า ง. สตั วต์ าย ก. อกริ ยิ ทฏิ ฐิ ข. อเหตกุ ทฏิ ฐิ ค. นตั ถกิ ทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๒. อกศุ ลกรรมบถใด ทาํ ใหค้ นมนี สิ ยั ฉอ้ โกง ลกั เลก็ ขโมยนอ้ ย ? ๓๗. กศุ ลกรรมบถขอ้ ๑ ทาํ ใหค้ นมนี ิสยั เช่นไร ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน ค. มสุ าวาท ง. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ก. ไม่ทาํ รา้ ยใคร ข. ไม่หลอกใคร ค. ไมด่ ่าใคร ง. ไมแ่ คน้ ใคร
๑๓. ขอ้ ใด ไม่ใช่ความผดิ ตามอกศุ ลกรรมบถขอ้ ๒ ? ๓๘. กศุ ลกรรมบถขอ้ ๑ ใหผ้ ลแก่ผูป้ ฎบิ ตั อิ ย่างไร ?
ก. รบั สนิ บน ข. ใชก้ าร ค. ตระบดั ง. สมโจร ก. มโี รคนอ้ ย ข. มงั่ มศี รสี ขุ ค. ผูค้ นนบั ถอื ง. ปลอ่ ยวาง
๑๔. ขอ้ ใด เป็นองคป์ ระกอบการทาํ ความผดิ อกศุ ลกรรมบถขอ้ ๒ ? ๓๙. ขอ้ ใด ขดั กบั หลกั ปฏบิ ตั กิ ศุ ลกรรมบถขอ้ ๒ ?
ก. สตั วม์ ชี วี ติ ข. ทรพั ยม์ เี จา้ ของ ค. ภรรยาเขา ง. สามเี ขา ก. เบอ่ื ยาสุนขั ข. โกงหวย ค. ใหก้ ารเทจ็ ง. ฆ่าเพราะหงึ หวง
๑๕. ลกั ทรพั ยป์ ระเภทใด มโี ทษมาก ? ๔๐. กศุ ลกรรมบถขอ้ ๓ ช่วยแกพ้ ฤตกิ รรมใด ?
ก. ของประณีต ข. ของสาํ คญั ค. ของผูม้ พี ระคุณ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. โหดรา้ ย ข. มอื ไว ค. ใจงา่ ย ง. ขายยาบา้
๑๖. อกศุ ลกรรมบถขอ้ ๒ เป็นบาปเพราะใชค้ นอน่ื ทาํ ตรงกบั ขอ้ ใด ? ๔๑. กศุ ลกรรมบถขอ้ ๓ สง่ ผลดแี ก่คู่ครองอย่างไร ?
ก. สงั่ ใหฆ้ ่า ข. สงั่ ใหข้ โมย ค. สงั่ ใหพ้ ูด ง. สงั่ ใหด้ ่า ก. เขา้ ใจกนั ข. ไวใ้ จกนั ค. เชอ่ื ใจกนั ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๗. รกั งา่ ยหน่ายเรว็ สอดคลอ้ งกบั กรรมบถใด ? ๔๒. กศุ ลกรรมบถขอ้ ๔ สง่ ผลใหผ้ ูป้ ฎบิ ตั เิ ป็นคนเช่นไร ?
ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. กาเมสมุ ิจฉาจาร ง. มสุ าวาท ก. มเี มตตา ข. มศี รทั ธา ค. มีสจั จะ ง. มคี วามกตญั �ู
๑๘. อกศุ ลกรรมบถใด ทาํ ใหส้ ามภี รรยานอกใจกนั ? ๔๓. ขอ้ ใด เป็นการประพฤตงิ ดเวน้ สมั ผปั ปลาปะ ?
ก. อทนิ นาทาน ข. กาเมสมุ ิจฉาจาร ค. พยาบาท ง. มสุ าวาท ก. พูดจรงิ ข. พดู คาํ สภุ าพ ค. พดู มีสาระ ง. พูดสมานสามคั คี
๑๙. อกศุ ลกรรมบถขอ้ ๓ มคี วามเกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ ใด ? ๔๔. คนเกบ็ ของไดน้ าํ คนื เจา้ ของ ประพฤตสิ อดคลอ้ งกบั กรรมบถใด ?
ก. หญงิ ตอ้ งหา้ ม ข. ชายตอ้ งหา้ ม ค. นกั บวช ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. อภชิ ฌา ข. อนภชิ ฌา ค. พยาบาท ง. อพยาบาท
๒๐. อกศุ ลกรรมบถใด เป็นเหตใุ หเ้กดิ โรคเอดสม์ ากทส่ี ดุ ? ๔๕. เวรระงบั ดว้ ยการไม่จองเวร สอดคลอ้ งกบั กรรมบถใด ?
ก. อภชิ ฌา ข. อทนิ นาทาน ค. ผรุสวาจา ง. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๑. ขอ้ ใด เป็นความเสอ่ื มทางสงั คมเกดิ จากอกศุ ลกรรมบถขอ้ ๓ ? ๔๖. กรรมบถใด เพยี งแค่คดิ ก็เป็นความดแี ลว้ ?
ก. ขายยาบา้ ข. ละเมดิ ทางเพศ ค. โกงหวย ง. โกงงบอาหาร ก. ไม่ฆ่าสตั ว์ ข. ไมล่ กั ทรพั ย์ ค. ไมพ่ ดู ปด ง. ไมผ่ ูกเวร
๒๒. มนุษยท์ ง้ั หลายใชค้ าํ พดู ทาํ ความชวั่ ใด ? ๔๗. เช่อื เร่อื งมงคลตน่ื ขา่ ว ขดั แยง้ กบั กรรมบถใด ?
ก. อภชิ ฌา ข. อทนิ นาทาน ค. ผรสุ วาจา ง. มจิ ฉาทฏิ ฐิ ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๒๓. เจตนาบดิ เบอื นความจรงิ เป็นอกศุ ลกรรมบถใด ? ๔๘. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการ เป็นหลกั ธรรมประเภทใด ?
ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท ค. มสุ าวาท ง. ปาณาตบิ าต ก. ควรงดเวน้ ข. ควรละ ค. ควรหลกี เลย่ี ง ง. ควรประพฤติ
๒๔. คนพูดหาสาระไมไ่ ด้ ทาํ ผดิ อกศุ ลกรรมบถใด ? ๔๙. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการ สงเคราะหเ์ ขา้ ในหลกั ธรรมใด ?
ก. มสุ าวาท ข. ปิสุณวาจา ค. ผรุสวาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ ก. ทาน ข. ศีล ค. สมาธิ ง. ปญั ญา
๒๕. คนพูดไม่สภุ าพกบั พอ่ แม่ ทาํ ผดิ อกศุ ลกรรมบถใด ? ๕๐. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการ สง่ ผลใหไ้ ปเกดิ ในภพภูมใิ ด ?
ก. มสุ าวาท ข. ปิสุณวาจา ค. ผรสุ วาจา ง. สมั ผปั ปลาปะ ก. มนุษยโลก ข. เทวโลก ค. พรหมโลก ง. ถกู ทกุ ขอ้