คำนำ อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน รายวิชา ประวตั ิศาสตร์สากล (ส 32102) ของ 1
นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 5 จัดทาข้ึนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนและยกระดับผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนของผเู้ รียนและเป็นนวตั กรรมท่ีช่วยลดบทบาทของครู โดยครูเป็ นผอู้ อกแบบการเรียนรู้
ผูเ้ รียนเป็ นผูล้ งมือปฏิบตั ิตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้ที่ยึดผูเ้ รียนเป็ นสาคญั ซ่ึงเป็ นกิจกรรมท่ี
ส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21ใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง คดิ เป็น ทาเป็น แกป้ ัญหาเป็น
เป็ นคนดีและมีความสุข สามารถพฒั นาตนเองได้เต็มตามศกั ยภาพ ตอบสนองตามพระราชบญั ญัติ
การศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2546 และสอดคล้องกับหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
พุทธศกั ราช 2551 ท่ีมุ่งเน้นให้ผูเ้ รียนได้พฒั นาท้งั ดา้ นความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะ
หาความรู้ การแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่ อสาร การตัดสิ นใจ การนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวติ ประจาวนั ตลอดจนมีคณุ ธรรมและค่านิยมที่ถูกตอ้ งเหมาะสม
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็ นฐาน รายวิชา ประวตั ิศาสตร์สากล (ส 32102) ของ
นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 ชุดน้ีเป็ นชุดที่ 7 เร่ือง อารยธรรมลุ่มแม่น้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห ใช้
เวลา 2 ชว่ั โมง หวงั เป็ นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดน้ี จะเป็ นประโยชน์ต่อการพฒั นาผูเ้ รียน
ส่งเสริมใหค้ รูจดั กิจกรรมการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ เป็นส่วนสาคญั ในการพฒั นาคณุ ภาพและ
มาตรฐานการศึกษาของกลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ขอขอบพระคุณ นายวินัย สุริ ยปราการ ผู้อานวยการโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา
ในพระอุปถมั ภฯ์ สังกดั สานกั การศึกษา เทศบาลนครภเู กต็ คณะผเู้ ชี่ยวชาญ ตลอดจนผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ ง
ทุกท่านที่ตรวจสอบให้ขอ้ เสนอแนะในการปรับปรุงเพื่อการแกไ้ ขชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีความ
สมบรู ณ์ อนั ส่งผลใหช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้น้ีมีประสิทธิภาพและสาเร็จลุล่วงไดด้ ว้ ยดี ไว้ ณ โอกาสน้ี
นางสาวยพุ าพกั ตร์ วงศเ์ ลิศประดิษฐ์
สำรบัญ อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
เร่ือง หน้า 2
คานา 1
สารบญั 2
คาช้ีแจง 3
แผนผงั แสดงข้นั ตอนการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน 5
แผนผงั แสดงข้นั ตอนการจดั การเรียนรู้แบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน 6
คาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้สาหรับครู 7
คาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้สาหรับนกั เรียน 8
มาตรฐานการเรียนรู้สาระการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 10
แบบทดสอบก่อนเรียน ……………………………………………………….…………… 11
ใบกิจกรรมท่ี 1 ……………………………………………………….………………… 15
ใบกิจกรรมที่ 2 ……………………………………………………….………………… 16
ใบกิจกรรมที่ 3 ……………………………………………………….………………… 16
- ใบความรู้ที่ 3.1 ………………………………………………….…………………. 17
- ใบกิจกรรมที่ 3.1 …………………………………………………….……………… 28
ใบกิจกรรมที่ 4 ……………………………………………………….………………… 31
ใบกิจกรรมที่ 5 ……………………………………………………….………………… 32
แบบทดสอบหลงั เรียน ……………………………………………………….…………… 33
บรรณานุกรม ……………………………………………………….………………… 36
ภาคผนวก ……………………………………………………….………………… 37
แนวคาตอบใบกิจกรรมที่ 1 …………………………………………….………………. 38
แนวคาตอบใบกิจกรรมที่ 2 …………………………………………….………………. 39
แนวคาตอบใบกิจกรรมท่ี 3 …………………………………………….………………. 39
- แนวคาตอบใบกิจกรรมท่ี 3.1 ……………………………………………………….. 40
แนวคาตอบใบกิจกรรมท่ี 4 …………………………………………….……………… 44
แนวคาตอบใบกิจกรรมท่ี 5 …………………………………………….……………… 45
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน …………………………………………….…….. 46
คาชี้แจง อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน รายวิชา ประวตั ิศาสตร์สากล (ส 32102) ของนกั เรียน 3
ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 ประกอบดว้ ย 8 ชุด ดงั น้ี
ชุดท่ี 1 เรื่อง เวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์สากล
ชุดท่ี 2 เรื่อง การสร้างองคค์ วามรู้ใหม่ทางประวตั ิศาสตร์
ชุดท่ี 3 เร่ือง อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
ชุดท่ี 4 เรื่อง อารยธรรมอียปิ ต์
ชุดท่ี 5 เรื่อง อารยธรรมกรีก
ชุดท่ี 6 เร่ือง อารยธรรมโรมนั
ชุดท่ี 7 เรื่อง อารยธรรมลมุ่ แมน่ ้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห
ชุดที่ 8 เรื่อง อารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ
2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน ชุดน้ีเป็นชุดที่ 7 เรื่อง อารยธรรมลุม่ แม่น้าเหลืองหรือ
แมน่ ้าฮวงโห ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 ซ่ึงใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน
จานวน 1 แผนการเรียนรู้ เวลา 2 ชว่ั โมง
3. ส่วนประกอบของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน ชุดน้ี ประกอบดว้ ย
3.1 คาช้ีแจง
3.2 แผนผงั แสดงข้นั ตอนการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน
3.3 แผนผงั แสดงข้นั ตอนการจดั การเรียนรู้แบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน
3.4 คาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้สาหรับครู
3.5 คาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้สาหรับนกั เรียน
3.6 มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.7 แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
3.8 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
3.9 ใบกิจกรรมการเรียนรู้
3.10 ใบความรู้
3.11 แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
3.12 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test)
3.13 บรรณานุกรม
3.14 ภาคผนวก
3.15 เฉลยใบกิจกรรม
3.16 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และหลงั เรียน (Post-test)
4. ผใู้ ชช้ ุดกิจกรรมน้ีควรศึกษาคาแนะนาในการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้
4
แผนผังแสดงข้ันตอนการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็ นฐาน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ชุดท่ี 7 เร่ือง อารยธรรมล่มุ แม่น้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห
1. อา่ นคาช้ีแจงและคาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้
2. ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยปฏิบตั ิกิจกรรม ดงั น้ี ไม่ผา่ นเกณฑ์
2.1 ทาแบบทดสอบก่อนเรียน (รายบุคคล)
2.2 ทาใบกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน 5
- ใบกิจกรรมท่ี 1 กาหนดปัญหา (งานกลุ่ม)
- ใบกิจกรรมท่ี 2 ทาความเขา้ ใจปัญหา (งานกลมุ่ )
- ใบกิจกรรมท่ี 3 ดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ พร้อมท้งั ศึกษาใบความรู้ท่ี 3.1
และทาใบกิจกรรมท่ี 3.1 (รายบคุ คล)
2.3 ตรวจสอบคาตอบของใบกิจกรรมจากเฉลยในภาคผนวก
2.4 ทาใบกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน
- ใบกิจกรรมท่ี 4 การสงั เคราะห์ความรู้ (งานกล่มุ )
- ใบกิจกรรมท่ี 5 สรุปและประเมินคา่ ของคาตอบ (งานกลมุ่ )
2.5 ทาแบบทดสอบหลงั เรียน (รายบคุ คล)
3. ตรวจสอบคาตอบจากแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียนในภาคผนวก การประเมินผล
4. ทาแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตอ่ ไป ผา่ นเกณฑ์
แผนผงั แสดงข้นั ตอนการจดั การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็ นฐาน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
บทบาทครูผสู้ อนใน • พิจารณาเลือกมาตรฐานสาระ/เน้ือหาท่ี บทบาทผเู้ รียน
การจดั การเรียนรู้
เหมาะสมกบั รูปแบบ
• จดั ทาผงั มโนทศั น/์ แผนการจดั การเรียนรู้
• จดั ทาเครื่องมอื วดั และประเมินผล
• แนะนารูปแบบ/วธิ ีการเรียนรู้ 1.กาหนดปัญหา • เสนอปัญหาหลากหลาย
• ยกตวั อยา่ งปัญหา/สถานการณ์ • เลอื กปัญหาท่ีสนใจ
• ต้งั คาถามให้คดิ ต่อ • แบง่ กลุ่มตามความสนใจ
• ถามคาถามให้ผูเ้ รียนคดิ ละเอยี ด 2.ทาความเข้าใจปัญหา • ต้งั คาถามในประเด็นที่อยากรู้ 6
• กระตุน้ ยวั่ ยใุ หผ้ ูเ้ รียนคิดต่อ • ระดมสมองหาความหมาย /คานิยาม
• ช่วยดูแลตรวจสอบ แนะนาความถูกตอ้ ง 3.ดาเนนิ การศึกษา • อธิบายสถานการณข์ องปัญหา
ค้นคว้า • บอกแนวทางและอธิบายวธิ ีคน้ หาคาตอบ
ครอบคลุม • จดั ทาแผนผงั ความคดิ /จดั ทาบนั ทึกการ
4.สังเคราะห์ความรู้
• ศึกษาคน้ ควา้ หาขอ้ มูลเพ่ิมเติม ทางาน
• อานวยความสะดวก จดั หา ประสานงาน
• แบง่ งาน แบง่ หนา้ ท่ี
วสั ดุ เอกสาร ส่ือเทคโนโลยี • จดั เรียงลาดบั การทางาน
• แนะนา ใหก้ าลงั ใจ • กาหนดเป้าหมายงาน/ระยะเวลา
• คน้ ควา้ ศึกษาและบนั ทึก
• แลกเปล่ียนขอ้ มลู ความคดิ เห็น
• ต้งั คาถามเพอื่ สร้างความคดิ รวบยอด • ผเู้ รียนแต่ละคนนาความรู้มานาเสนอภายใน
กลุ่ม
• ครูช่วยตรวจสอบการประมวลการสร้างองค์ 5.สรุปและประเมิน
ความรู้ใหม่ ค่าของคาตอบ • ตรวจสอบขอ้ มูลว่าสามารถตอบคาถามทีอ่ ยากรู้
ไดท้ ้งั หมดหรือไม่
• ให้ผูเ้ รียนสรุปองคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการศกึ ษา 6.นาเสนอและ
คน้ ควา้ ประเมินผลงาน • ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เหมาะสม พอเพยี ง
• ทบทวนและหาความรู้เพ่มิ เตมิ
• พจิ ารณาความเหมาะสม เพียงพอ • กล่มุ นาขอ้ มลู ท่ีไดท้ ้งั หมดมาประมวลสร้างเป็น
• ครูประเมนิ ตนเอง ประเมินผลการเรียนรู้ องคค์ วามรู้ใหม่
• ความรู้ความจา • ประเมินประสิทธิภาพคณุ ภาพการปฏบิ ตั ิงานกลุม่
• ความเขา้ ใจ • ประเมนิ ตนเองท้งั ดา้ นความรู้ กระบวนการกลมุ่
• การนาไปใช้ การคิดวิเคราะหเ์ ผยแพร่ผลงาน
ความพึงพอใจ
ของผเู้ รียน • เลือกวธิ ีการ/รูปแบบการนาเสนอผลงานท่ี
น่าสนใจ
• เสนอผลงานการปฏบิ ตั ิงานตอ่ เพอ่ื นผูเ้ รียน/ครู
วทิ ยากรทอ้ งถ่นิ ,ผูส้ นใจ
• ประเมนิ ผลร่วมกบั กลุ่มเพื่อน/ครู/วิทยากร
ทอ้ งถิน่
คาแนะนาการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้สาหรับครู อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็ นฐาน รายวิชา ประวตั ิศาสตร์สากล (ส 32102) ของ 7
นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 ชุดท่ี 7 เร่ือง อารยธรรมลุ่มแม่น้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห มีจุดมุ่งหมาย
เพื่อให้การจดั กิจกรรมการเรียนรู้บรรลุวตั ถุประสงคอ์ ย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ครูผูส้ อน
ควรเตรียมความพร้อมและปฏิบตั ิตามคาแนะนา ดงั ต่อไปน้ี
1. ศึกษารายละเอียดเก่ียวกบั ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน แผนการจดั การ
เรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน เน้ือหาที่สอน คาช้ีแจงตา่ ง ๆ และข้นั ตอนการจดั การเรียนรู้โดยใชป้ ัญหา
เป็นฐานใหเ้ ขา้ ใจก่อนดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้
2. เตรียมส่ืออุปกรณ์ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ให้พร้อมและครบจานวนนกั เรียนใน
ช้นั เรียนแต่ละกลุม่
3. ก่อนจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ครูควรช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบถึงรูปแบบการจดั กิจกรรม
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็ นฐาน เขา้ ใจบทบาทของตนเอง รวมท้งั แนะนาข้นั ตอนการใช้ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน เพื่อให้นกั เรียนเขา้ ใจและปฏิบตั ิไดถ้ ูกตอ้ งแลว้ จึงให้ทาแบบทดสอบ
ก่อนเรียน
4. เมื่อมีกิจกรรมกลุ่ม ให้แบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่มๆละ 4-5 คน โดยคละความสามารถ
นักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน ให้มีการเลือกประธาน รองประธานและเลขานุการกลุ่ม และแบ่ง
หนา้ ท่ีความรับผิดชอบของสมาชิกในกลมุ่
5. ขณะท่ีนักเรียนทากิจกรรม ครูคอยให้ความช่วยเหลือแนะนา กระตุน้ ให้นักเรียนทา
กิจกรรมอย่างกระตือรือร้นและตอบข้อสงสัยต่างๆระหว่างเรียน พร้อมท้ังสังเกตและประเมิน
พฤติกรรมการทางานของนกั เรียน
6. เม่ือนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมครบถว้ นให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนแลว้ นา
ผลทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนแจง้ ใหน้ กั เรียนทราบความกา้ วหนา้ ทางการเรียน
7. การวดั และประเมินผล ประเมินจากแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน สังเกต
พฤติกรรมการปฏิบตั ิงานกลมุ่ ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน ตรวจใบกิจกรรม
8. เมื่อสิ้นสุดการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ครูใหน้ กั เรียนร่วมตรวจสอบ เก็บชุดกิจกรรม
การเรียนรู้ วสั ดุ ส่ิงของ และอุปกรณ์ ใหเ้ รียบร้อยเพือ่ สะดวกในการใชค้ ร้ังต่อไป
คาแนะนาการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้สาหรับนักเรียน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็ นฐาน รายวิชา ประวตั ิศาสตร์สากล (ส 32102) ของ 8
นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 ชุดท่ี 7 เรื่อง อารยธรรมลุ่มแม่น้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห ให้นักเรียน
ปฏิบตั ิตามข้นั ตอนดว้ ยความซื่อสตั ยแ์ ละต้งั ใจ ดงั น้ี
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็ นฐาน ชุดท่ี 7 เรื่อง อารยธรรมลุ่มแม่น้าเหลือง
หรือแม่น้าฮวงโห ใชเ้ วลา 2 ชวั่ โมง
2. นกั เรียนแบ่งกลุ่มๆละ 5-6 คนโดยคละความสามารถในกลุ่มเป็ นเก่ง ปานกลาง และ
อ่อนและมีการเลือกประธาน รองประธานและเลขานุการ มีการแบง่ งานกนั ทาตามหลกั ประชาธิปไตย
3. อ่านคาช้ีแจง คาแนะนาการใชแ้ ละข้นั ตอนการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหา
เป็นฐานใหเ้ ขา้ ใจก่อนลงมือปฎิบตั ิตามกิจกรรม
4. ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
5. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนจานวน 10 ขอ้ เพือ่ ตรวจสอบความรู้พ้ืนฐาน
6. ใหน้ กั เรียนเตรียมอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการเรียนรู้ แสวงหาความรู้ ไดแ้ ก่
6.1 โทรศพั ทม์ ือถือและอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ท่ีใชค้ น้ ควา้ ขอ้ มูลทางอินเตอร์เน็ตได้
6.2 หนังสือแบบเรียน หนังสือสารานุกรม คู่มือการเรียนต่างๆ ท่ีนักเรียนสามารถ
เตรียมมาเพือ่ การศึกษาคน้ ควา้ ในช้นั เรียนได้
6.3 อุปกรณ์การตกแต่งและจดั ทาผลงานเพือ่ นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
7. ปฏิบัติกิจกรรมตามข้ันตอนในชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็ นฐาน แล้ว
ตรวจสอบคาตอบไดจ้ ากเฉลยในภาคผนวก
8. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน จานวน 10 ขอ้ เพือ่ ประเมินความกา้ วหนา้ ของผเู้ รียน
9. ตรวจสอบคาตอบจากเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนในภาคผนวก พร้อม
บนั ทึกผลคะแนนท่ีได้ เพื่อตรวจสอบความกา้ วหนา้ ทางการเรียน ซ่ึงนกั เรียนตอ้ งทาแบบทดสอบหลงั
เรียน ไดร้ ้อยละ 60 ข้ึนไป จึงจะผ่านเกณฑ์ ถา้ นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ตามที่กาหนดใหท้ บทวนเน้ือหา
แลว้ ให้ทาแบบทดสอบหลงั เรียนอีกคร้ัง หากผ่านเกณฑ์ ให้ทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการ
เรียนต่อไป
ข้อควรปฏบิ ตั ิ หากมีขอ้ สงสยั ใหข้ อคาอธิบายหรือสอบถามครูผสู้ อนเพ่ือร่วมกนั สรุปขอ้ สงสยั น้นั ๆ
อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 9
เปลยี่ นจากการสอนให้เช่ือ เป็ นการสอนให้คดิ
มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั และจุดประสงค์การเรียนรู้ อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบนั ในดา้ นความสมั พนั ธแ์ ละ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อยา่ งต่อเนื่อง ตระหนกั ถึงความสาคญั และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบ
ที่เกิดข้ึน
ตวั ชีว้ ัด
ม.4-6/1 วเิ คราะห์อิทธิพลของอารยธรรมโบราณ และการติดต่อระหวา่ งโลกตะวนั ออก
กบั โลกตะวนั ตกที่มีผลตอ่ พฒั นาการและการเปล่ียนแปลงของโลก
สาระการเรียนรู้ 10
อารยธรรมสาคญั ของโลกตะวนั ออก ไดแ้ ก่ อารยธรรมลมุ่ แม่น้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายลกั ษณะทางภมู ิศาสตร์ท่ีมีอิทธิพลต่อการสร้างสรรคอ์ ารยธรรมลุ่มแม่น้าเหลือง
หรือแมน่ ้าฮวงโหได้
2. วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของอารยธรรมลุ่มอารยธรรมล่มุ แม่น้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห
ที่มีตอ่ โลกปัจจุบนั ได้
3. กระตือรือร้นและใฝ่รู้ต่อการทากิจกรรมอยา่ งต้งั ใจ
แบบทดสอบก่อนเรียน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ชุดกจิ กรรมท่ี 7 เรื่อง อารยธรรมลุ่มแม่นา้ เหลืองหรือแม่น้าฮวงโห 11
คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบขอ้ ที่ถกู ที่สุดแลว้ ทาเคร่ืองหมาย X ในกระดาษคาตอบ
1. ตวั อกั ษรจีนระยะแรก ปรากฏในงานสร้างสรรคใ์ นขอ้ ใด
ก. กาแพงเมืองจีน
ข. กระดูกเสี่ยงทาย
ค. รูปป้ันเจา้ แมก่ วนอิม
ง. เคร่ืองป้ันดินเผาสีเขยี วเทา
2. ยคุ ทองของกวีนิพนธจ์ ีน คือ ยคุ ใด
ก. ราชวงศจ์ ิ๋น
ข. ราชวงศซ์ อ้ ง
ค. ราชวงศถ์ งั
ง. ราชวงศช์ ิง
3. อิทธิพลคาสอนของขงจ๊ือทาใหส้ ังคมจีนไม่ใหค้ วามสาคญั กบั เร่ืองใด
ก. การศึกษา
ข. สถาบนั ครอบครัว
ค. ความเชื่อในโลกหนา้
ง. ความเชื่อในความสามารถของมนุษย์
4. วรรณกรรมจีนสมยั ราชวงศช์ ิงหรือแมนจู ท่ีสะทอ้ นใหเ้ ห็นอิทธิพลความรุ่งเรืองและความตกต่า
ของชีวิตในสงั คมและความรักที่ยง่ิ ใหญ่ คือ เรื่องใด
ก. บา้ น (เจีย)
ข. ซอ้ งกงั๋ (สุ่ยหูจว้ น)
ค. ดอกบวั ทอง ( จินผงิ เหมย)
ง. ความฝันในหอแดง (หงโหลวเมิ่ง)
5. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ วิทยาการของอารยธรรมจีน
ก. เขม็ ทิศ
ข. กระดาษ
ค. ดินปื น
ง. ระบบทศนิยมและเลขศนู ย์
6. การศึกษาอารยธรรมสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ของอารยธรรมลุ่มแมน่ ้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ศึกษาไดจ้ ากอารยธรรมใด
ก. ราชวงศช์ าง 12
ข. ราชวงศจ์ ๋ิน
ค. วฒั นธรรมหยางเชา
ง. เมืองฮารัปปา
7. ขอ้ ความใดถกู ตอ้ งในการแสดงใหเ้ ห็นลกั ษณะสาคญั ที่ปรากฏในงานสร้างสรรคท์ าง
ศิลปวฒั นธรรมจีน
ก. ความคดิ รูปแบบ ระเบียบและกฎเกณฑ์
ข. ความคดิ และอารมณ์สาคญั กวา่ รูปแบบ
ค. ความรู้สึก และความมีเหตุมีผล
ง. ความผสมผสานกลมกลืนระหวา่ งธรรมชาติ มนุษย์ และสังคม
8. ระบบกษตั ริยข์ องจีนท่ีสืบทอดมาโดยตลอดในประวตั ิศาสตร์น้นั พระมหากษตั ริยจ์ ีนทรงอา้ งส่ิงใด
เพ่ือการปกครองโดยชอบธรรม
ก. ธรรมราชา
ข. สมมุติเทพ
ค. อาณตั ิแห่งสวรรค์
ง. เทวราชา
9. ระบบราชการจีนโบราณต้งั แต่สมยั ราชวงศฮ์ นั่ เป็นตน้ มา มีลกั ษณะพเิ ศษอยา่ งไร
ก. เป็นระบบที่ยดึ ถือคุณธรรมเป็นหลกั
ข. เป็นระบบที่ยดึ ถือหลกั อาณตั ิแห่งสวรรค์
ค. เป็นระบบที่ใชว้ ดั การสอบวดั ความรู้หลายระดบั
ง. เป็นระบบที่อาศยั ชาติวฒุ ิและวยั วุฒิ
10. เส้นทางแพรไหม มีความสาคญั ตอ่ อารยธรรมโลกอยา่ งไร
ก. เป็นเส้นทางท่ีจีนสงทตู และสินคา้ ไปยงั อาณาจกั รโรมนั
ข. เป็นเส้นทางคา้ ขายระหวา่ งจีนกบั อาหรับในตะวนั ออกกลาง
ค. เป็นเสน้ ทางท่ีเป็นส่ือกลางนาอารยธรรมจีนและตะวนั ตกมาพบกนั
ง. เป็นเส้นทางท่ีทาใหโ้ ลกตะวนั ตกรู้จกั ผา้ ไหมจากจีนและชนชาติตา่ งๆในเอเชีย
กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ช่ือ................................................ช้ัน................เลขท.่ี ............
ข้อ ตวั เลือก ง
ก ขค
1 13
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ทาให้เสร็จก่อนนะครับ
อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
อารยธรรมล่มุ แม่นา้ เหลืองหรือแม่นา้ ฮวงโห 14
ดนิ แดนแห่งนักปรัชญาตะวนั ออก
ใบกิจกรรมท่ี 1 กำหนดปญั หา อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
คาชี้แจง : จากตานานเร่ืองเล่าของพระถงั ซาจงั๋ ในประเทศจีน นกั เรียนเกิดประเด็นคาถามอะไรบา้ งท่ีมี
ความสนใจศึกษา (ทาเป็นกล่มุ )
………………………………… …………………………………
………………………………… …………………………………
………………………………… …………………………………
15
ท่ีมา : https://mesaynak.wordpress.com/2012/11/26/พระถงั ซมั จงั๋ ผบู้ นั ทึก
………………………………… …………………………………
………………………………… …………………………………
………………………………… …………………………………
ใบกิจกรรมที่ 2 ทำความเขา้ ใจปญั หา อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเลือกประเด็นคาถามมาต้งั เป็นปัญหา เพื่อศึกษาคน้ ควา้ โดยทาความเขา้ ใจปัญหา
เชื่อมโยงกบั ความรู้เดิม วิเคราะห์ประเด็นปัญหา อะไร คือ สิ่งท่ีนักเรียนรู้แลว้ และอะไร คือ สิ่งท่ี
นกั เรียนควรรู้หรือศึกษาเพม่ิ เติม นกั เรียนมีวิธีการคน้ หาคาตอบไดจ้ ากแหล่งใด (งานกลุ่ม)
ประเดน็ ปัญหา ส่ิงทคี่ วรรู้ (ศึกษาเพม่ิ เติม) แหล่งศึกษาค้นคว้า
16
ใบกจิ กรรมท่ี 3 แบบบนั ทกึ การศกึ ษาคน้ ควา้
คาชี้แจง : นักเรียนมีการวางแผนการทางาน แบ่งหนา้ ท่ีความรับผิดชอบการศึกษาคน้ ควา้ ของสมาชิก
ในกลุ่มอยา่ งไร รวมท้งั ศึกษาจากใบความรู้ท่ี 3.1 และทาใบกิจกรรมที่ 3.1 ตลอดจนศึกษาความรู้จาก
แหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ (ทารายบคุ คล)
ชื่อ – สกุล ตาแหน่ง หน้าท่ที ไ่ี ด้รับมอบหมาย
ใบความรู้ที่ 3.1 อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
เร่ือง อารยธรรมลุ่มแม่นา้ เหลืองหรือแม่น้าฮวงโห
อารยธรรมจีนเกิดข้ึนคร้ังแรกที่ลุ่มแม่น้าฮวงโห มีอีกช่ือเรียกว่า“แม่น้าเหลือง”พดั พาดิน
ทรายสีเหลืองทาให้เกิดท้งั ความอุดมสมบูรณ์และทาให้เกิดภยั ธรรมชาติ (น้าท่วม) จึงมีอีกชื่อ แม่น้า
วปิ โยค เป็นแมน่ ้าที่มีความยาวเป็นอนั ดบั ที่ 2 มีความยาว 4,640 กิโลเมตร รองจากแม่น้าแยงซีเกียงใน
ประเทศจีน ทวปี เอเชีย
การต้งั ถิน่ ฐาน
อารยธรรมจีนเจริญโดยไดร้ ับอิทธิพลจากภายนอกน้อย เพราะทิศตะวนั ออกติดมหาสมุทร 17
แปซิฟิ ก ทางตะวนั ตกและทิศเหนือเป็นทงุ่ หญา้ ทะเลทราย และเทือกเขา จีนจึงคิดว่าตนเป็นศนู ยก์ ลาง
ของโลก เป็นแหลง่ กาเนิดความเจริญของอารยธรรม
ภาพประกอบ 1 แผนท่ีอารยธรรมล่มุ แม่นา้ เหลืองหรือแม่นา้ ฮวงโห
ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/learning/detail/31372-043974
ภาพประกอบ 2 แม่นา้ เหลืองหรือแม่นา้ ฮวงโห อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ที่มา : https://sunisach13.wordpress.com/กิจกรรมโครงงาน/ความเป็นมาของอารยธรรม/
อารยธรรมล่มุ แมน่ ้าเหลืองหรือแมน่ ้าฮวงโห แบง่ เป็น 2 ยคุ สมยั ไดแ้ ก่ 18
1. สมัยก่อนประวตั ิศาสตร์
แหล่งกาเนิดความเจริ ญของอารยธรรมยุคหินใหม่ท่ีพบมีอายุประมาณ 2,000 ปี ก่อน
คริสตศ์ กั ราช ลุ่มแม่น้าฮวงโห พบความเจริญท่ีเรียกว่า วฒั นธรรมหยางเชา (Yang Shao Culture) และ
อารยธรรมล่มุ แมน่ ้าแยงซี มณฑลชานตงุ พบความเจริญท่ีเรียกวา่ วฒั นธรรมหลงชาน
1.1 วัฒนธรรมหยางเชา (ประมาณ 7,000–5,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) มีการเพาะปลูก
เกษตรกรรม พบเครื่องมือจบั ปลา เคร่ืองป้ันดินเผาลายเขยี นสี เช่น เมืองซีอาน (อยใู่ นวฒั นธรรมยคุ หิน
ใหม่) ค้นพบจากโครงกระดูกมนุษย์โบราณ และมนุษยป์ ักก่ิง ที่ถ้าโจวโข่วเถียน ใกล้กรุงปักกิ่ง
(ประมาณ 1,700,000-500,000 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช)
1.2 วัฒนธรรมหลงชาน (ประมาณ 5,000-4,000 ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช) พบเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้
ทาดว้ ยหิน กระดูกสัตว์ เคร่ืองป้ันดินเผา กระดูกววั กระดองเต่าเสี่ยงทาย พบว่ามีชุมชนขนาดใหญ่
กาแพงลอ้ มรอบ เคร่ืองมือเครื่องใช้ทาดว้ ยสาริด นาหยกมาทาเป็ นเคร่ืองมือ เช่น ขวานหยก กระดูก
เส่ียงทาย เครื่องป้ันดินเผามีเน้ือละเอียดสีดาขดั มนั เงา คุณภาพดีเน้ือบางและแกร่ง เป็ นภาชนะ 3 ขา
(อยใู่ นวฒั นธรรมยคุ โลหะ)
ภาพประกอบ 3 เครื่องป้ันดินเผาหยางเชา ภาพประกอบ 4 เคร่ืองป้ันดินเผาหลงชาน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ที่มา : http://wl.mc.ac.th/?p=56 ที่มา : http://wl.mc.ac.th/?p=56
2. สมัยประวัตศิ าสตร์ 19
สมยั ประวตั ิศาสตร์ของจีนแบ่งได้ 4 ยคุ ไดแ้ ก่ สมยั โบราณ สมยั กลาง สมยั ใหม่และสมยั ปัจจุบนั
2.1 สมัยโบราณ
2.1.1 สมยั ราชวงศ์ชาง (ประมาณ 1,766 – 1,122 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช)
ราชวงศช์ าง เป็นราชวงศแ์ รกที่ปกครองจีน มีเมืองหลวงที่เมืองอนั ยาง บริเวณ
มณฑลเหอหนาน เริ่มมีการต้งั ชุมชน และมีการปกครองแบบนครรัฐ กษตั ริยเ์ ป็นผนู้ าดา้ นการปกครอง
และเศรษฐกิจ ประชาชนมีความเป็นอยู่เรียบง่าย ดารงอาชีพโดยการทาเกษตรกรรม มีการชลประทาน
มีการใชเ้ คร่ืองมือท่ีทาจากสาริด เช่น กระถาง ซ่ึงภายในมีตวั อกั ษร การประดิษฐ์อักษรภาพบนกระดูก
สัตว์และบนกระดองเต่าเพ่ือทานาย ซ่ึงถือเป็ นจุดเร่ิมต้นของตัวอักษรจีนในปัจจุบัน มีการนับถือเทพ
เจ้าแห่งการเพาะปลูก เทพเจา้ ที่สาคัญ คือ เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีการประกอบพิธีบูชา
บรรพบุรุษ เซ่นไหวเ้ ทพเจา้ มีการทาปฏิทินบอกฤดูกาลต่าง ๆ มีการแกะสลกั งาชา้ ง หินอ่อนและหยก
ตามความเช่ือของชาวจีน หยก ทาใหเ้ กิดความเป็นสิริมงคล ความสุขสงบ ความรอบรู้ ความกลา้ หาญ
และทาภาชนะสาริดเป็นหมอ้ สามขา
ภาพประกอบ 5 กระดกู ทานาย สมยั ราชวงศ์ชาง อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ท่ีมา : https://writer.dek-d.com/lady_feries/story/viewlongc.php?id=685580&chapter=4
2.1.2 ราชวงศ์โจว (ประมาณ 1,122 – 221 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช) 20
ถือว่าเป็นจุดกาเนิดของสมยั ศกั ดินาหรือระบบเฟิ งเจ้ียน มีการปกครองแบบศกั ดินา
มอบกรรมสิทธ์ิท่ีดินให้แก่ผูท้ ่ีสนับสนุนราชวงศ์ กาหนดสิทธิหนา้ ท่ีตามลาดบั ช้นั ฐานันดรศกั ด์ิเกิด
แนวคิด “อาณัติแห่งสวรรค์”หรือ “เทียนหมิง” คือ กษตั ริยเ์ ป็นโอรสของสวรรค์ ถา้ พระองคป์ กครอง
แบบไร้คุณธรรมจะถูกเพิกถอนจากอาณตั ิสวรรค์ ตอนปลายราชวงศเ์ กิดสงครามระหวา่ งนครรัฐต่าง ๆ
จึงเกิดนักปรัชญาตะวนั ออก เสนอความคดิ เพื่อแกป้ ัญหาดงั กล่าว เช่น ขงจ้ือ เล่าจ้ือ เมง่ จ้ือ มอ่ จ้ือ
แนวคดิ ของลทั ธิขงจื้อ
1) เนน้ ความสมั พนั ธ์ 5 ประการ คือ กษตั ริย–์ ราษฎร บิดา–บตุ ร พ่ี–นอ้ ง
สามี–ภรรยา เพือ่ น–เพอ่ื น เนน้ การบชู าบรรพบุรุษ การเคารพผอู้ าวุโส ความกตญั ญู
2) เน้นคุณสมบตั ิ 5 ประการ คือ ความสุภาพ โอบออ้ มอารี เมตตากรุณา จริงใจ
และต้งั ใจ นอกจากน้ีขงจ้ือยงั เนน้ ปฏิบตั ิตาม“ทางสายกลาง” โดยไม่ทาอะไรมากไปหรือนอ้ ยไป ท้งั น้ี
เพ่อื ใหเ้ กิดความสมดุล
3) เนน้ จารีตประเพณีการอบรมในครอบครัว ยกยอ่ งคนมีความรู้
4) ลทั ธิขงจ้ือมีอิทธิพลตอ่ การปกครองของจีน มีการนาตาราขงจ้ือไปใชส้ อบเขา้ รับ
ราชการ
แนวคิดของลทั ธิเต๋า อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ผใู้ หก้ าเนิดลทั ธิเต๋า คือ เล่าจ้ือ
1) เนน้ สันโดษและการปรับตวั เขา้ หาธรรมชาติ 21
2) เนน้ การดารงชีวติ ท่ีเรียบง่าย การหาความสงบ ความถอ่ มตน ความรัก
3) มีอิทธิพลอยา่ งยง่ิ โดยเฉพาะต่อจิตรกรรมของจีน
แนวคิดของลัทธิเม่งจือ้
เนน้ คุณธรรมของผปู้ กครองถา้ ผปู้ กครองไมด่ ีประชาชนมีสิทธิเปล่ียนผปู้ กครองได้
แนวคิดของลัทธิฟาเจียหรือฝาเจีย (นิตธิ รรมนิยม)
1) การใชก้ ฎหมายอยา่ งเคร่งครัด
2) ทุกคนควรอยภู่ ายใตก้ ารปกครองของผปู้ กครอง
2.1.3 ราชวงศ์จ๋ิน (ประมาณ 221-206 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช)
จีนเร่ิมปกครองเป็ นจักรวรรดิในสมัยพระเจ้าชิวง่ั ต่ีหรือจิ๋นซีฮ่องเต้ ยึดหลัก
ปกครองที่เขม้ งวดตามหลกั นิติธรรม (ฟาเจีย) ของซุนจื๊อ ท่ีเห็นว่ามนุษยช์ ว่ั ร้ายมีกิเลส ตณั หาตอ้ งใช้
อานาจและกฏหมายเป็ นเครื่องควบคุม ยกเลิกระบบศักดินา แบ่งเขตการปกครองเป็ น 36 มณฑล
แต่งต้งั ขา้ ราชการไปปกครอง จดั ระเบียบการเขียนหนงั สือ ทาลายขนบธรรมเนียมประเพณีเดิมและคา
สอนของขงจ๊ือเผาตาราต่าง ๆ มีมาตรา ช่ัง ตวง วดั มีอารยธรรมสาคญั คือ การสร้างกาแพงเมืองจีน
เพ่ือป้องกนั การรุกรานของมองโกล และค้นพบดินปื นเป็ นชาติแรก ส่วนประกอบสาคญั ของดินปื น
ไดแ้ ก่ ดินประสิวหรือโพแทสเซียมไนเตรต กามะถนั และผงถ่านรวมเขา้ ดว้ ยกนั เบ้ืองตน้ การคิดคน้
ดินปื น มีความเกี่ยวขอ้ งกบั การกลน่ั ยาอายวุ ฒั นะในสมยั โบราณ กล่าวคือ นกั ปรุงยาไดน้ าแร่ธาตุและ
พนั ธุ์พืชมากมายมาผสมและใส่ลงไปในเตาตม้ รวมกนั ทวา่ การปรุงยาอายุวฒั นะน้นั เป็นเรื่องท่ีเป็นไป
ไม่ได้ ในขณะกลนั่ ยาเตาเกิดระเบิดข้ึน นกั ปรุงยาจึงพบธาตุท่ีเป็ นชนวนระเบิดไดจ้ ากการเผาไหมน้ ้ัน
โดยบงั เอิญ เป็นเหตุใหด้ ินปื นถกู ประดิษฐข์ ้นึ และนาไปใชใ้ นงานดา้ นการทหาร โดยดินปื นน้ีคดิ คน้ ได้
สาเร็จในสมยั ราชวงศถ์ งั ตอนปลาย
ภาพประกอบ 6 กาแพงเมืองจนี อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ที่มา : http://kunpob.blogspot.com
ภาพประกอบ 7 ดินปื น 22
ที่มา : http://www.thongkasem.com/knowledge.php?kid=68
2.2 สมัยกลาง
2.2.1 ราชวงศ์ฮ่ัน (ประมาณ 206 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช-ค.ศ. 220)
มีการฟ้ื นฟูปรัชญาและวรรณกรรมท่ีมีการเผาในสมัยราชวงศ์ฉินหรือจิ๋น นา
หลักการของขงจื๊อมาใช้ในการปกครองประเทศ เห็นไดจ้ ากการสอบเขา้ รับราชการหรือจอหงวน
เพราะลทั ธิขงจ๊ือ ม่งุ เนน้ การศึกษา ยกย่องคนมีความรู้และการอยใู่ นจารีตประเพณี นอกจากน้ี มกี ารทา
กระดาษ (ซ่ึงทาจากเปลือกไม้ คิดค้นการทาหมึกจากเขม่าต้นรัก ใช้พู่กันเขียนลงบนกระดาษ) มี
การประดิษฐ์ลูกคิด และเคร่ืองตรวจแผ่นดินไหวเป็ นชาติแรก ซ่ึงได้รับการยอมรับจากชาวจีนใน
ปี ค.ศ. 138 ว่ามีความถูกตอ้ งและแม่นยา เมื่อมังกรคายลูกแกว้ ตรงตามวนั และเวลาท่ีมีการรายงาน
การเกิดแผน่ ดินไหวข้นึ จริง และรู้จกั การคานวณหาอตั ราส่วนเส้นผา่ ศูนยก์ ลางกบั เส้นรอบวง มีการใช้
เส้ นทางแพรไหม (Silk Route) ในการติดต่อคา้ ขายกับทางตะวนั ตก ซึ่งเป็ นเส้นทางท่ีสาคัญของ
การแลกเปลยี่ นอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก และซือ หม่า เฉียน ไดบ้ นั ทึกประวตั ิศาสตร์ของจีน
ไว้ จึงไดร้ ับการยกย่องเป็ นบิดาประวัติศาสตร์โลกตะวันออก และประดิษฐ์เข็มทิศในการทหารและ
การเดินเรือเผยแพร่สู่ชาวอาหรับ
ภาพประกอบ 8 การประดิษฐ์กระดาษ อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ที่มา : http://www.thongkasem.com/knowledge.php?kid=68
ภาพประกอบ 9 เครื่องวดั แผ่นดนิ ไหว
ท่ีมา : http://www.trueplookpanya.com/learning/detail/31372/043974
23
ภาพประกอบ 10 เส้นทางสายแพรไหม
ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/เส้นทางสายแพรไหม
ภาพประกอบ 11 เข็มทิศ อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ท่ีมา http://www.thongkasem.com/knowledge.php?kid=68
**ก่อนหน้าราชวงศ์สุย จีนแตกแยกเป็ นยคุ 3 ก๊ก หลงั จากที่รวบรวมประเทศใหเ้ ป็นปึ กแผน่ ไดอ้ ีกคร้ัง 24
กษตั ริยร์ าชวงศ์สุยได้พยายามปรับปรุงประเทศและนาความเจริญมาสู่จีน รวมท้ังขยายอาณาจักร
ออกไปอยา่ งกวา้ งขวาง
2.2.2 ราชวงศ์สุยขึน้ ปกครองช่ัวระยะเวลาส้ันๆ (ประมาณ ค.ศ. 581 -618)
มีการปรับปรุงระบอบเศรษฐกิจใหม่ใหร้ ัดกุมข้นึ กวา่ เดิม มีการสารวจช่ือผเู้ สียภาษี
ลดอตั ราภาษีและยงั แบ่งท่ีดินใหร้ าษฎรทากิน ทรงฟ้ื นฟูและสนบั สนุนกิจการคา้ และงานช่างฝีมือตา่ งๆ
ผลงานสาคญั ของสมยั น้ี คือ การขุดคลองเพ่ือเช่ือมแม่น้าฮวงโหทางตอนเหนือและแม่น้าแยงซีเกียง
ทางตอนลา่ งเพอื่ ขยายพ้นื ที่เกษตรกรรมและการคา้ ขาย
2.2.3 ราชวงค์ถงั (ประมาณ ค.ศ. 618 -906)
ถือว่าเป็ นยุคทองของวฒั นธรรมจีนทางกวี จิตรกรรมและพระพุทธศาสนา
โดยเฉพาะทางด้านกวีนิพนธ์และจิตรกรรม ในสมัยน้ีจีนมีอาณาเขตกวา้ งขวางกว่าสมัยใด ๆ มี
การติดต่อกับต่างประเทศและเจริญก้าวหน้าแทบทุกด้าน ในด้านการปกครองน้ันมีการเปล่ียน
การปกครองขนุ นางมาเป็นแบบขา้ ราชการ ซ่ึงมีประสิทธิภาพมากกวา่ เพราะมีการสอบคดั เลือกเขา้ มา
มีการเดินทางของพระถงั ซาจง๋ั ไปศึกษาพุทธศาสนาที่อินเดีย เร่ิมมีการสารวจประชากรเป็ นคร้ังแรก
มีการพฒั นาเครื่องเคลือบดินเผาเป็นเคลือบ 3 สี คือ เหลือง น้าเงิน เขียว รวมท้งั การสร้างพระพุทธรูป
งานหล่อสาริดและแกะสลกั จากหิน ซ่ึงมีสัดส่วนงดงาม เป็นการผสมผสานระหวา่ งศิลปะอินเดียและ
จีนท่ีมีลกั ษณะเป็นมนุษยม์ ากกวา่ เทพเจา้
**ยคุ 5 ราชวงศ์ (ประมาณ ค.ศ. 906-960) อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ไม่มีราชวงศใ์ ดมีอานาจปกครองทว่ั ท้งั จกั รวรรดิจีนอยา่ งแทจ้ ริง แต่ก็มีนกั ประวตั ิศาสตร์
25
บางพวกไดพ้ ยายามลาดบั การต่อเนื่องของ 5 ราชวงศส์ ้ันๆ ที่เขา้ มาปกครองประเทศจีน แตถ่ ึงแมว้ ่าใน
สมยั น้ีจะมีความแตกแยก แต่วฒั นธรรมจีนก็ไม่ไดห้ ายไป ความเจริญต่าง ๆ ก็พฒั นากนั อย่างต่อเนื่อง
เป็นรากฐานของราชวงศต์ ่อมา
2.2.4 ราชวงค์ซ่ง (ซ้อง) (ประมาณ ค.ศ. 960-1279)
สมยั น้ีไดช้ ื่อว่าเป็ นสมยั ติดต่อกับโลกภายนอก ราชวงศซ์ ่งยงั คงสืบทอดระบอบ
การปกครองของราชวงศ์ถงั โดยมีศูนยก์ ลางการปกครองอยู่ท่ีเมืองหลวง ตาแหน่งที่สาคญั ๆ ทาง
การปกครองมกั ตกอย่ใู นมือของเช้ือพระวงศท์ ี่ใกลช้ ิดกบั พระจกั รพรรดิ ประสบความรุ่งเรืองทางดา้ น
การคา้ ทางทะเลเป็นอยา่ งมากมีการประดิษฐ์แท่นพมิ พ์ มีการใชเ้ ขม็ ทิศคร้ังแรกสมยั ราชวงศฮ์ นั่ และมี
การใชเ้ ข็มทิศแม่เหลก็ เพื่อใชใ้ นการเดินเรือเป็นคร้ังแรกในสมยั ราชวงศซ์ ้อง ส่วนเคร่ืองเคลือบสีเขียว
ไข่กา มีชื่อเสียงมากในสมยั ราชวงศซ์ อ้ ง
ภาพประกอบ 12 ประดษิ ฐ์แท่นพมิ พ์
ที่มา : http://www.thongkasem.com/knowledge.php?kid=68
2.2.5 ราชวงศ์หยวน (ค.ศ.1279 – 1368)
สมยั น้ีจีนอยใู่ ตก้ ารปกครองของมองโกล ซ่ึงถือวา่ เป็นชาวตา่ งชาติในความคดิ ของ
ชาวจีน มีนโยบายของการขยายจกั รวรรดิ ชาวตะวนั ตกไดเ้ ขา้ มายงั จีนในรัชสมยั น้ี กลมุ่ แรก คือ
มาร์โค โปโล ซ่ึงนบั วา่ เป็นคร้ังแรกท่ีชาวยโุ รปไดม้ าถึงจีนและรับราชการในราชวงศข์ องจีน เป็นช่วงที่
ศาสนาคริสตเ์ ผยแผเ่ ขา้ มาในจีน มาร์โค โปโลเขยี นหนงั สือบนั ทึกการเดินทางและชีวิตในประเทศจีน
ช่ือว่า “The Travels of Marco Polo” ซ่ึงได้อธิบายถึงส่ิงท่ีเขาพบเจอ ท้งั ภูมิศาสตร์ วิถีชีวิต ประเพณี อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ศิลปวฒั นธรรม ความเชื่อ และเรื่องราวพิศวงต่าง ๆ เขาได้พรรณนาถึงอารยธรรมจีน ซ่ึงเจริญกว่า
วฒั นธรรมและเทคโนโลยขี องชาวยโุ รป แตบ่ างส่วนกเ็ ป็นการยกยอปอป้ัน คนจึงอ่านเอาสนุกมากกวา่
จะเอาสาระสาคญั เพราะถือวา่ เป็นเรื่องแต่งมากกวา่ เร่ืองจริง จนกระทงั่ คริสตศ์ ตวรรษที่ 19 นกั วิชาการ
และบรรดานกั สารวจท้งั หลายจึงยืนยนั ถึงความถูกตอ้ งเที่ยงตรงของหนงั สือเล่มน้ีบนั ทึกการเดินทาง
ของมาร์โค โปโล มีอิทธิพลต่อนกั สารวจรุ่นหลงั ๆใหเ้ ดินทางไปสารวจดินแดนตะวนั ออก
ภาพประกอบ 13 ประดิษฐ์แท่นพมิ พ์
ท่ีมา : https://www.sarakadee.com/2011/09/17/marco-polo/
26
2.3 สมยั ใหม่
2.3.1 ราชวงศ์หมิง (ประมาณ ค.ศ.1368-1644)
ราชวงศน์ ้ียงั ถือไดว้ า่ เป็นยคุ ฟ้ื นฟวู ฒั นธรรมจีน และไดม้ ีการติดต่อกบั ต่างประเทศ
แถบเอเชียอาคเนย์เป็ นคร้ังแรก เกิดระบบบรรณาการหรือระบบ “จิ้มก้อง” เพราะเช่ือว่าจีนเป็ น
ศูนย์กลางของโลก มีการสร้างพระราชวังปักก่ิงหรือพระราชวังต้องห้าม (ท่ีเรียกชื่อน้ี เพราะว่า
พระราชวงั แห่งน้ี เป็ นเขตหวงห้ามไม่ไห้ประชาชนเขา้ แมข้ า้ ราชการช้นั สูง ยงั ตอ้ งขออนุญาต เป็ น
กรณีพิเศษ จกั รพรรดิจะทรงประทบั อย่ใู นพระราชวงั แห่งน้ี ก้นั พระองคจ์ ากโลกภายนอก โดยมีสนม
กานลั ขนั ที และขา้ หลวงรับใชซ้ ่ึงคนเหล่าน้ีตอ้ งอาศยั อยใู่ นนครตอ้ งหา้ มตลอดชีวิต เพอ่ื ความสาราญ
ของจกั รพรรดิ ยเู นสโกไดป้ ระกาศใหพ้ ระราชวงั ตอ้ งหา้ ม เป็นหน่ึงในมรดกโลกแห่งราชวงศห์ มิง)
นอกจากน้ี เคร่ืองเคลือบไดพ้ ฒั นาจนกลายเป็นสินคา้ ออก คือ เครื่องลายครามและลายสีแดง รวมท้งั
มีประเพณีรัดเท้าสตรี เป็นจารีตที่ใหร้ ัดเทา้ ของหญิงสาวใหค้ บั แน่น เพื่อมิใหน้ ิ้วเทา้ งอกข้ึนไดอ้ ีก เทา้
ท่ีถูกบีบรัดน้นั จะไดม้ ีสณั ฐานเรียวเลก็ คลา้ ยดอกบวั เรียกวา่ "บวั ทองสามนิ้ว"การประพฤติเช่นน้ีเชื่อวา่
เร่ิมในหมู่ชนช้นั สูงที่เป็ นนางระบาราฟ้อนในราชสานกั จีน ก่อนจะแพร่หลายทวั่ ไปในชาวจีนทุกชน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ช้ันในฐานะท่ีเป็ นเครื่องแสดงช้ันวรรณะ (เพราะสตรีท่ีครอบครัวมีอันจะกินและไม่จาตอ้ งใช้เท้า
ทางานเท่าน้นั จึงจะรัดเทา้ ได)้ และเป็นเคร่ืองหมายแห่งความงามในวฒั นธรรมจีน
ภาพประกอบ 14 พระราชวังปักกงิ่ 27
ที่มา : https://sites.google.com/a/samakkhi.ac.th/4rivercivilization/xarythrrm-lum-maena-hwngho
2.3.2 ราชวงศ์ชิง (ประมาณ ค.ศ.1644-1911)
เป็นราชวงศส์ ุดทา้ ยของการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชยเ์ ปลี่ยนสู่ระบอบ
สาธารณรัฐ ชาวราชวงศช์ ิง เป็นชนเผา่ แมนจูปกครองราชวงศ์ (ซ่ึงชาวจีนมองว่าเป็นชาวต่างชาติ) มี
การแสดงความแตกต่างของชนชาติ โดยบงั คบั ใหผ้ ชู้ ายจีน (จีนแท)้ ไวห้ างเปี ยและห้ามนาสตรีจีนเขา้
มาเป็ นนางใน มีวรรณกรรมท่ีเด่นเกิดข้ึนชื่อ ความฝันในหอแดง สะทอ้ นสังคมศกั ดินาของจีนที่กาลงั
เสื่อมก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ยุคใหม่ เรื่องราวเต็มไปด้วยการแก่งแย่งอิจฉาริษยากัน
สะทอ้ นให้เห็นสังคมศกั ดินาของจีนที่กาลงั เส่ือมโทรม อิทธิพลในตะวนั ตกไดข้ ยายเขา้ มาในจีนมาก
ข้ึน ทาใหเ้ กิดการปฏิวตั ิเปล่ียนแปลงการปกครอง
2.4 สมัยปัจจบุ ัน
มีการปฏิวตั ิเปล่ียนแปลงการปกครอง โดยมีดร.ซุนยดั เซ็น เป็นหวั หนา้ ยดึ อานาจและ
เปล่ียนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ ราชวงศช์ ิงภายใตร้ ะบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชยไ์ ดส้ ิ้นสุดลง
ใบกจิ กรรมท่ี 3.1 อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
เรื่อง อารยธรรมลุ่มแม่น้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถาม ดงั ต่อไปน้ี
1. ถา้ ตอ้ งการศึกษาอารยธรรมสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ของอารยธรรมลุ่มแมน่ ้าเหลืองหรือ
แมน่ ้าฮวงโห สามารถศึกษาจากอารยธรรมใด
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
2. จุดเริ่มตน้ ของสมยั ประวตั ิศาสตร์คือ ราชวงศใ์ ด มีส่ิงใดแสดงถึงการเขา้ สู่สมยั ประวตั ิศาสตร์ 28
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3. เหตุการณ์หรือผลงาน ดงั ต่อไปน้ี เกิดข้นึ ในสมยั ราชวงศใ์ ดและมีความสาคญั อยา่ งไร
3.1 แนวคดิ ลทั ธิขงจ้ือ
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3.2 เสน้ ทางสายไหม
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3.3 การสอบจอหงวน
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3.4 ยคุ ทองของจีน
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3.5 มาร์คโค โปโล เดินทางเขา้ มารับราชการในจีน
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3.6 การประดิษฐ์อกั ษรภาพบนกระดูกสัตวแ์ ละบนกระดองเต่า อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………... 29
3.7 กาแพงเมืองจีน
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3.8 กษตั ริย์ เป็นโอรสสวรรค์ หรือ “อาณัติสวรรค”์
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3.9 ระบบจ้ิมกอ้ ง
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
3.10 ราชวงศส์ ุดทา้ ยของการปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชยข์ องจีน
………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………...
4. จากภาพ คือ ภาพอะไร มีความสาคญั อยา่ งไร
…………………………………………………………........
…………………………………………………………........
…………………………………………………………........
5. จากภาพ คือ ภาพอะไร และเร่ิมใชค้ ร้ังแรกในสมยั ใด
…………………………………………………………........
…………………………………………………………........
…………………………………………………………........
6. ลทั ธิเต๋าและลทั ธิขงจ้ือ มีความแตกตา่ งกนั อยา่ งไร และลทั ธิใดมีอิทธิพลต่อการปกครองในจีน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
มากท่ีสุด เพราะเหตุใด
……………………………………………………………………………………………… 30
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
7. วรรณกรรมจีนสมยั ราชวงศช์ ิงหรือแมนจู ที่สะทอ้ นใหเ้ ห็นอิทธิพลความรุ่งเรืองและความ
ตกต่าของชีวิตในสงั คมและความรักท่ียงิ่ ใหญ่ คือ เร่ืองใด
………………………………………………………………………………………………
8. ศิลปะวิทยาการท่ีจีนประดิษฐค์ ดิ คน้ เป็นชาติแรกและมีอิทธิพลต่อโลกยคุ ปัจจุบนั คอื อะไร
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
9. บนั ทึกประวตั ิศาสตร์ของ ซือ หมา่ เฉียน มีความสาคญั อยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………….
10. ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั การแบ่งยคุ สมยั เป็นราชวงศต์ า่ งๆของจีน และบอกลกั ษณะเด่นของ
อารยธรรมต่างๆโดยสงั เขป
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
ใบกจิ กรรมที่ 4 การสงั เคราะหค์ วามรู้ อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนนาผลการศึกษาคน้ ควา้ และประสบการณ์จากการทาใบกิจกรรมของแต่ละคน
มานาเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่ม และสังเคราะห์เป็ นองค์ความรู้ของกลุ่ม เพ่ือตอบประเด็น
ปัญหาในใบกิจกรรมที่ 2 พร้อมท้งั ออกแบบวธิ ีการนาเสนออยา่ งสร้างสรรค์ (งานกลุม่ )
31
ใบกิจกรรมท่ี 5 สรปุ และประเมนิ คา่ ของคำตอบ อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
คาชี้แจง : ให้นักเรียนเชื่อมโยงองค์ความรู้ท้ังหมดและตรวจสอบ ประเมินค่าของคาตอบอีกคร้ัง
รวมท้งั สรุปองคค์ วามรู้ใหมท่ ่ีไดร้ ับและออกแบบรูปแบบการนาเสนออยา่ งสร้างสรรค์ ดงั น้ี (งานกลุ่ม)
1. จากการตรวจสอบ ประเมินค่าของคาตอบ มีประเด็นปรับปรุง เพ่มิ เติมอยา่ งไรบา้ ง 32
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
2. องคค์ วามรู้ใหมท่ ี่ไดร้ ับ คอื อะไร
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
3. นกั เรียนมีการวางแผนรูปแบบการนาเสนออยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….
แบบทดสอบหลงั เรียน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ชุดกจิ กรรมท่ี 7 เรื่อง อารยธรรมลุ่มแม่น้าเหลืองหรือแม่นา้ ฮวงโห 33
คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบขอ้ ท่ีถูกที่สุดแลว้ ทาเครื่องหมาย X ในกระดาษคาตอบ
1. ระบบกษตั ริยข์ องจีนท่ีสืบทอดมาโดยตลอดในประวตั ิศาสตร์น้นั พระมหากษตั ริยจ์ ีนทรงอา้ งส่ิงใด
เพ่อื การปกครองโดยชอบธรรม
ก. ธรรมราชา
ข. สมมตุ ิเทพ
ค. อาณตั ิแห่งสวรรค์
ง. เทวราชา
2. ตวั อกั ษรจีนระยะแรก ปรากฏในงานสร้างสรรคใ์ นขอ้ ใด
ก. กาแพงเมืองจีน
ข. กระดูกเส่ียงทาย
ค. รูปป้ันเจา้ แมก่ วนอิม
ง. เคร่ืองป้ันดินเผาสีเขียวเทา
3. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ วิทยาการของอารยธรรมจีน
ก. เขม็ ทิศ
ข. กระดาษ
ค. ดินปื น
ง. ระบบทศนิยมและเลขศนู ย์
4. อิทธิพลคาสอนของขงจ๊ือทาใหส้ งั คมจีน ไม่ให้ ความสาคญั กบั เร่ืองใด
ก. การศึกษา
ข. สถาบนั ครอบครัว
ค. ความเชื่อในโลกหนา้
ง. ความเชื่อในความสามารถของมนุษย์
5. ยคุ ทองของกวนี ิพนธ์จีน คือ ยคุ ใด
ก. ราชวงศจ์ ๋ิน
ข. ราชวงศซ์ อ้ ง
ค. ราชวงศถ์ งั
ง. ราชวงศช์ ิง
6. การศึกษาอารยธรรมสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ของอารยธรรมลมุ่ แมน่ ้าเหลืองหรือแม่น้าฮวงโห อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ศึกษาไดจ้ ากอารยธรรมใด
ก. ราชวงศช์ าง 34
ข. ราชวงศจ์ ิ๋น
ค. วฒั นธรรมหยางเชา
ง. เมืองฮารัปปา
7. วรรณกรรมจีนสมยั ราชวงศช์ ิงหรือแมนจู ท่ีสะทอ้ นใหเ้ ห็นอิทธิพลความรุ่งเรืองและความตกต่า
ของชีวติ ในสังคมและความรักที่ยงิ่ ใหญ่ คือ เรื่องใด
ก. บา้ น (เจีย)
ข. ซอ้ งกงั๋ (สุ่ยหูจว้ น)
ค. ดอกบวั ทอง ( จินผงิ เหมย)
ง. ความฝันในหอแดง (หงโหลวเมิ่ง)
8. เส้นทางแพรไหม มีความสาคญั ต่ออารยธรรมโลกอยา่ งไร
ก. เป็นเสน้ ทางท่ีจีนสงทูตและสินคา้ ไปยงั อาณาจกั รโรมนั
ข. เป็นเสน้ ทางคา้ ขายระหวา่ งจีนกบั อาหรับในตะวนั ออกกลาง
ค. เป็นเส้นทางท่ีเป็นสื่อกลางนาอารยธรรมจีนและตะวนั ตกมาพบกนั
ง. เป็นเส้นทางที่ทาให้โลกตะวนั ตกรู้จกั ผา้ ไหมจากจีน และชนชาติต่างๆในเอเชีย
9. ขอ้ ความใดถูกตอ้ งในการแสดงใหเ้ ห็นลกั ษณะสาคญั ที่ปรากฏในงานสร้างสรรคท์ าง
ศิลปวฒั นธรรมจีน
ก. ความคดิ รูปแบบ ระเบียบและกฎเกณฑ์
ข. ความคดิ และอารมณ์ สาคญั กวา่ รูปแบบ
ค. ความรู้สึก และความมีเหตุ มีผล
ง. ความผสมผสานกลมกลืนระหวา่ งธรรมชาติ มนุษย์ และสงั คม
10. ระบบราชการจีนโบราณต้งั แตส่ มยั ราชวงศฮ์ นั่ เป็นตน้ มา มีลกั ษณะพเิ ศษอยา่ งไร
ก. เป็นระบบที่ยดึ ถือคณุ ธรรมเป็นหลกั
ข. เป็นระบบท่ียดึ ถือหลกั อาณตั ิแห่งสวรรค์
ค. เป็นระบบที่ใชว้ ดั การสอบวดั ความรู้หลายระดบั
ง. เป็นระบบท่ีอาศยั ชาติวฒุ ิและวยั วฒุ ิ
กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
ช่ือ................................................ช้ัน................เลขท่.ี ............
ข้อ ตวั เลือก ง
ก ขค
1 35
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ทาให้เสร็จก่อนนะครับ
บรรณานุกรม อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ เหลอื งหรอื แมน่ ำ้ ฮวงโห
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551. 36
กรุงเทพฯ: โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ฆนทั ธาตทุ อง. (2554). สอนคดิ : การจดั การเรียนรู้เพื่อพฒั นาการคดิ . นครปฐม: เพชรเกษม
การพิมพ.์
เฉลิม มลิลา นิติเขตตปรีชา. (2559). เทคนคิ วิธีการสอนประวตั ิศาสตร์. พิมพค์ ร้ังที่ 5.
กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
ชยั ลาภเมทว.ี (2555). ลูกเล่นข้อสอบสังคม. กรุงเทพฯ: ธนเชษฐ์.
ไพฑูรย์ มีกศุ ล และคณะ. (2558). หนังสือเรียนประวัตศิ าสตร์สากล ม.4-ม.6. กรุงเทพฯ:
วฒั นาพานิช.
วาเลอรี แฮนเซน. (2557). เส้นทางสายไหม. แปลจาก THE SILK ROAD. แปลโดย
นงนุช สิงหเดชะ. กรุงเทพฯ: มติชน.
วาสนา วงศส์ ุรวฒั น์ และคณะ. (2558). อารยธรรมตะวนั ออก. พมิ พค์ ร้ังที่ 4. กรุงเทพฯ: ภาควิชา
ประวตั ิศาสตร์ คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั
วริ ิยะ ฤาชยั พาณิชย์ และกมลรัตน์ ฉิมพลี. (2559). ห้องเรียนแห่งอนาคต เปลย่ี นครูให้เป็ นโค้ช.
กรุงเทพฯ: ซีเอด็ ยูเคชน่ั .
วีณา ศรีธญั รัตน.์ (2545). อารยธรรมตะวันออกและตะวนั ตก. กรุงเทพฯ: ศิลปาบรรณาคาร.
สญั ชยั สุวรรณบุตรและคณะ. (ม.ป.ป). หนังสือประวัตศิ าสตร์สากล ม.4-ม.6. กรุงเทพฯ:
อกั ษรเจริญทศั น.์
สุคนธ์ สินธพานนท.์ (2558). การจดั การเรียนรู้ของครูยุคใหม่ เพื่อพฒั นาทกั ษะผ้เู รียน
ในศตวรรษท่ี 21. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
อดิสร ศกั ด์ิสูง และคณะ. (2550). เอกสารประกอบการสอนวิชาพลวัตสังคมโลก มหาวิทยาลยั ทกั ษณิ .
สงขลา: นาศิลป์ โฆษณา.
อนนั ตชยั จินดาวฒั น์. (2555). ประวัติศาสตร์โลก(ฉบบั สมบูรณ์) จากยคุ หนิ ถงึ ยคุ โลกาภิวัตน์.
พมิ พค์ ร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ: ยปิ ซี กรุ๊ป.
------------------------. (2555). ตามรอยอารยธรรม ตอนกาเนิดอารยธรรมโบราณ. พมิ พค์ ร้ังท่ี 2.
กรุงเทพฯ: ภาพพมิ พ.์